"แหม่ม" น้ำตกตก ควง "นก" เคลียร์ข่าวเลิก ลั่นยังรักกันอยู่เต็มอก แต่ไปกันไม่ได้ ด้านแหม่มยืนกราน "ปราย" มีส่วนเอี่ยว ขณะที่นกค้าน ไม่มีมือที่สาม แต่เพราะทำหน้าที่แฟนไม่ดีเอง วอนอย่าดึงใครมาเกี่ยว
หลังจากปล่อยให้ "แหม่ม วิชุดา พิมดั้ม" ออกมาเปิดใจถึงความรักที่ต้องเลิกรากันไปอยู่ฝ่ายเดียว ล่าสุดฝ่ายชาย "นก จิรศักดิ์ โย้วจิ้ว" ผู้กำกับละครซิทคอมชื่อดัง "เป็นต่อ" ก็ยอมออกมาเคลียร์บ้าง โดยยืนยัน ว่าสาเหตุเกิดจากตนไม่ดีเอง ทั้งที่พยายามประคับประคองอย่างดีที่สุดแล้ว ย้ำ ไม่อยากให้ดึง "ปราย ธนาอัมพุช" พิธีกรจากรายการ30 ยังแจ๋ว เข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านแหม่มยังยืนกราน เหตุการณ์พิธีกรสาวส่งกางเกงในผู้ชายไปให้หนุ่มนก เมื่อหลายเดือนก่อน เป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจเป็นที่สุด ยอมรับมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงแบบนี้
แหม่ม : “แหม่มขอพูดตรงนี้ก่อนเลยแล้วกันที่ผ่านมา แหม่มพูดมาเยอะ(เสียงสูง)เยอะมากแล้ว พูดไปหลายอย่างวันนี้เป็นโอกาสที่หลายคนอาจจะคิดว่า ไม่เจอพี่นกสักที หรืออยากรู้อะไรวันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ใครอยากรู้อะไรก็ให้ถามพี่นก มีข้อข้องใจอะไรจะได้คุยกับพี่นก อย่างตัวแหม่มเองวันนี้มานั่งให้กำลังใจมากกว่า เพราะว่าที่ผ่ามาแหม่มก็พูดอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากมายก่ายกอง จนบางทีมันเหมือนคนบ้าไปแล้วด้วยซ้ำไป(หัวเราะ) วันนี้ใครอยากรู้อะไรถามพี่นกได้เลยนะคะ”
นก : “จริงๆ แล้วคือ เราได้เห็นข่าวต่างๆ ของแหม่มที่พยายามจะตอบคำถามต่างๆ และพี่ก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไร ก็เลยใครอยากรู้อะไรก็ให้คุยให้ถาม ส่วนหนึ่งน้องเขาจะได้สบายใจด้วย”
แหม่ม : “เท่าที่แหม่มดูไม่เห็นมีคู่รักคู่ไหนเลิกกันแล้วแฮปปี้หรอก นอกจากว่าอีกคนจะไปมีคนอื่น คนนั้นก็สบาย ส่วนอีกคนหนึ่งที่ไม่มีใครก็คงเศร้า แต่ของเรานี้คือไม่ได้มีใคร คือตัวพี่นกก็ไม่ได้มีคนอื่น เหมือนกับแหม่มก็ไม่ได้ทิ้งพี่นกไปมีคนอื่น มันเลยเหมือนเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ซึ่งมันก็ทำใจยาก แต่ความรักที่มันมีนะ มันมาก มันก็เหมือนเราต้องอยู่กับมันให้ได้ คือเราต้องอยู่กับมันให้ได้เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายในความรู้สึกของแหม่ม มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย แต่ว่าบางคนอาจจะมองว่าต้องเจอกัน ต้องทำงานด้วยกัน เราต้องทำให้มันเป็นปกติที่สุด”
นก : “ผมไม่ดีครับ ไม่ใช่เป็นเพราะความเจ้าชู้ครับ ไม่ถึงขนาดนั้น ตัดสินนานครับกว่าที่จะเลิกกัน จริงๆแล้วยังมีความรู้สึกที่เหมือนเดิมครับ แต่ว่าตอนนี้ฐานะเปลี่ยน สาเหตุที่เลิกกันไม่เกี่ยวกับปรายครับ ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครมาทำลายความรู้สึก ถ้าผมดีแหม่มเขาคงไม่เลิกกับผมสิ และไม่เกี่ยวกับมือที่สามครับ ยืนยัน”
ยอมรับว่าเหตุการณ์ “ปราย” ส่งกางเกงในผู้ชายไปให้หนุ่มนก เป็นเรื่องบั่นทอนจิตใจ รวมไปถึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ร่อแร่ด้วย
แหม่ม : “เขาเรียกว่าอะไรนะ(หัวเราะ) ว่าจะไม่พูดและ คือมันเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจมากกว่า บั่นทอนใช้คำว่าบั่นทอนนะ แต่ว่าคนอื่นอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจแหม่มแค่คนเดียว มันเป็นความรู้สึกของแหม่มแค่คนเดียว คนอื่นก็เลยอาจจะเฉยๆ กับมัน ไม่ใช่ว่าพี่นกเขาไม่เคยปลอบใจ ตอนที่ได้รับของหรืออะไร ไม่ใช่เลยคะ เพราะว่าแหม่มว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นถ้าเราเข้มแข็งพอ เราคงจะไม่รู้สึกอะไรกับมัน คือตรงนี้แหม่มอาจจะไม่พร้อมที่จะเข้มแข็งกับมันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับพี่นกเลยเพราะว่าพี่นกให้กำลังใจจริงๆ ให้กำลังใจตลอด แต่คือพอออกมาประกาศแล้วไม่มีอะไรเลย เงียบไปเลย ไม่มีอะไรเลยจนถึงบัดนี้ ไม่มีเลยคะ คือสิ่งนี้ทำให้ยุติสิ่งที่บั่นทอนจิตใจได้ผล ถ้ามีอีกก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว”
นก : “คือจริงๆ แล้วชีวิตคู่ไม่อยากให้เอาอะไรมาเกี่ยวเลย ก็จริงๆ มันเป็นเรื่องของเราสองคนเท่านั้น ต่อให้มีพายุหรือฝนเข้ามาหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าจริงๆ แล้วมันอยู่ที่เราสองคนว่าจะยืนตรงนั้นต่อหรือจะแยกกัน”
แหม่ม : “จริงๆ แล้วเป็นอย่างที่พี่นกพูด คือวันนี้เราอยากเคลียร์แค่เรื่องของเราสองคน ไม่อยากพาดพิงถึงใคร เอาอย่างนี้ดีกว่า ง่ายๆ คือถ้าวันนี้แหม่มไม่ได้ยืนอยู่ในจุดของคำว่าแฟน ไม่ว่าจะมีอะไรก็แล้วแต่มากระทบกระเทือนจิตใจ แหม่มจะมองว่ามันเป็นเรื่องขำในเมื่อที่ผ่านมา มันมีอะไรก็แล้วแต่ มากระเทือนจิตใจแหม่มและแหม่มหรือคนอื่นๆ ยังช่วยหาวิธีจัดการกับมันไม่ได้ แหม่มก็เลยต้องตัดสินใจในความรู้สึกของตัวเอง ด้วยการตัดสินใจเปลี่ยนสถานภาพซึ่งมันก็ง่ายดี”
ลั่น ไม่รู้จุดประสงค์ของคู่กรณีว่าต้องการอะไร
แหม่ม : “เราไม่รู้นะ ไม่รู้”
นก : “เราไม่อยากให้ดึงเอามาเกี่ยว เพราะอย่างที่บอกสุดท้ายแล้ว มันก็คือเรื่องของคนสองคน บางทีครอบครัวบางครอบครัวมีพ่อตามีแม่ยาย มีพี่มีน้องมีอามีใครไม่รู้เยอะแยะมากมาย มีเพื่อนแต่สุดท้ายก็อยู่ที่คนสองคน ต้องบอกก่อนเลยว่าเพื่อนก็คือเพื่อนไม่เคยติดต่อ ไม่เคยโทร.หาเขาครับ”
ต่างฝ่ายต่างปรับตัวแล้ว ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกกัน และเสียดายเวลาที่ผ่านมา
นก : “ก็จริงๆ เราก็พยายามปรับเข้าหากัน แต่ว่าทุกอย่างมันก็มีจุดของแต่ละคนอยู่”
แหม่ม : “ก็ตัดสินใจนานนะคะ กว่าจะเป็นแบบนี้ ก็ประมาณอาทิตย์หนึ่ง”
นก : “ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนหนึ่ง จริงๆ แล้วมันเป็นการคุยกันมากกว่าคืออะไร ที่เราทำให้เขารู้สึกไม่ดี ก็เลยคุยกันว่า มันคือสิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือเลิก อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่ตอนเปิดตัวคบกัน ว่าเป็นแฟนก็ได้บอกว่าชีวิตคู่มันมีอะไรหลายอย่างที่ต้องศึกษากันอยู่ ผมทำหน้าที่แฟนไม่ดีจริงๆ”
แหม่ม : “พี่นกเป็นคนดีค่ะ เป็นคนดีจริงๆ”
นก : “เป็นคนดีแต่เป็นคนที่ทำหน้าที่แฟนไม่ดี”
บอก ถึงจะต้องถ่ายละครและเจอหน้ากันก็ยัง สามารถร่วมงานกันได้อยู่
นก : “ได้ครับได้ ผมยังเหมือนเดิมและยังรู้สึกเหมือนเดิม ยังรักน้องเหมือนเดิม ไม่มีอะไรมาเปลี่ยน ก่อนที่จะมาสัมภาษณ์วันนี้ก็ยังทำงานร่วมกันครับ”
แหม่ม : “ตอนนี้แหม่มแคร์ความรู้สึกเพื่อนร่วมงานมากกว่า ทุกคนเลยอึดอัดมาก แหม่มรู้และก็ไม่กล้าถาม ตอนนี้ทำงานคือทุกคนไม่กล้าถาม แล้วเราก็สงสารเขา เราไม่อยากให้เรื่องของเราสองคนมาทำให้คนอื่นต้องอึดอัดใจลำบากใจ”
นก : “เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว เรื่องงานก็เรื่องงานเราก็จะแยกแยะให้ชัดเจน ไม่กลัวมีผลกระทบครับ เวลาคิดบทเราก็ยังคิดอยู่ในความที่เขาเป็นตัวละคร เราไม่ใช่เด็กแล้วที่จะแยกแยะไม่ได้ว่าตรงนี้งานตรงนี้คือเรื่องส่วนตัว โอเคการเลิกกันอาจจะทำให้รู้สึกวูบวาบในจิตใจ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้งานเสีย”
ฝ่ายชายเผย ยังบอกไม่ได้ว่าอนาคตจะสามารถมารักกันได้ไหม ด้านแหม่มบอก ตัดสินใจดีแล้วที่ยุติความสัมพันธ์ลง
นก : “อันนี้ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต แต่โอเคมันอาจจะมีทุนความรักที่เป็นทุนเดิมและไม่แน่ มันก็ไม่แน่อีกเพราะผมก็ไม่รู้ อนาคตถ้าเกิดผมไม่มีใครก็ไม่มีใคร ผมยังยืนอยู่จุดตรงนี้”
แหม่ม : “แหม่มศึกษาพี่นกมาเยอะ และแหม่มก็ศึกษาจริงๆ ไม่ได้ศึกษาแบบ...คือถ้าเทียบเป็นโรงเรียนก็เหมือนกับโรงเรียนประจำ ไม่ได้อยู่ไปกลับ แหม่มศึกษาเยอะมาก และการตัดสินใจแบบนี้แหม่มไม่ได้ตัดสินใจเล่นๆหรือกลับไปกลับมาคะ”
