xs
xsm
sm
md
lg

“วรรณษา” เผย ลูก 3 ขวบยังไม่พูด กลัวเป็นใบ้ โร่ปรึกษาหมอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขอบคุณภาพจากเฟิร์สแมกกาซีน
“วรรณษา” ตกใจลูก 3 ขวบแล้วยังไม่พูด จนต้องโร่หาหมอ สุดโล่ง หมอบอกเกิดจากพัฒนาการช้า อีกทั้งปล่อยให้ดูทีวีมากเกินไป เด็กเลยสื่อสารทางเดียว ไม่ได้ผิดปกติ เผย พยายามพูดคุยกับลูกมากขึ้น เจ้าตัวหวัง หลังเข้าโรงเรียนมีเพื่อนเล่นน่าจะได้ฝึกพูดไปในตัว ก่อนปัดบอกเรื่องนี้กับอดีตสามี “เป้ ไฮร็อค”

เห็นทีว่างานนี้แม่หม้ายสาวมหาเสน่ห์อย่าง “ษา วรรณษา ทองวิเศษ” คงต้องแบ่งเวลามาประคบประหงม "น้องเซเดย์ ด.ช.วาคิม วงศ์ทอง" ลูกชายสุดหวงมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้น้องเซเดย์เคยต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะป่วยเป็นโรคหอบ จนสาวษาเองก็ถึงกับวิตกกังวลมาแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวก็ต้องมาเจอศึกหนักอีกครั้ง เมื่อ น้องเซเดย์ เกิดมีพัฒนาการทางการพูดช้า อายุ 3 ขวบแล้วแต่ยังไม่ยอมพูด จนสาวษาเป็นกังวลว่าลูกจะพูดไม่ได้ โร่ปรึกษาหมอ

“ษามีปรึกษาคุณหมอค่ะ ตอนพาไปฉีดวัคซีนก็ถามคุณหมอ คุณหมอบอกว่าอาจเป็นด้วยพัฒนาการของเขา แล้วก็ดูทีวีเยอะไปหน่อย จะต้องให้เพลาทีวี เขาจะได้มีการโต้ตอบกับเรา ประมาณนี้ค่ะ เราอาจผิดพลาดให้ลูกดูทีวีเยอะไปหน่อย เขาก็เลยสื่อสารกับทีวี เพราะทีวีภาพมันเร็ว แล้วมันเป็นการสื่อสารแบบทางเดียวค่ะ ก็เลยไม่ได้โต้ตอบกับใคร ”

“กังวลว่าลูกจะพูดช้า บังเอิญว่าช่วงนั้นไปเจอลูกของเพื่อนที่เขาพูดได้เร็วด้วยแหละ พูดเร็วนี่ 11 เดือนพูดแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายก็เจอข้างนอกวิ่งๆ อยู่เรียกคุณแม่ ก็ถามเขาว่ากี่ขวบ เขาบอก 2 ขวบครึ่ง ลูกเขาพูดจ๋อยๆๆ เลย เราก็กังวลว่าทำไมลูกเรายังพูดไม่ได้สักที แต่คงไม่ต้องหาหมอเป็นพิเศษ ปรับในชีวิตประจำน่าจะดีกว่า เพราะหมอเองก็ไม่ได้บอกว่าเลวร้ายขนาดนั้น”

“ไม่ถึงขนาดเปล่งเสียงไม่ได้ น้องก็เปล่งเสียงได้ตามปกติ เพียงแค่พูดช้าเท่านั้นเองค่ะ เขาเรียกว่าพัฒนาการของเด็กไม่เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าเขาพูดมั๊ย เขาพูด พูดมาก(เน้นเสียง) พูดมากแต่ไม่ได้เป็นภาษาเราไง เป็นภาษาเด็กค่ะ น้องไม่ได้ป่วย ไม่ได้เป็นออทิสติก เซเดย์ก็เป็นเด็กปกติ ไม่ได้เป็นเด็กไฮเปอร์ ปกติค่ะ เพียงแต่เขาดูทีวีมากไปหน่อยเท่านั้นเอง หมอบอกว่าควรสื่อสารตัวต่อตัวดีกว่า ให้เขาเห็นปากเราว่าพูดอะไร มองตาเราว่าเราจะสื่อว่าอะไร แต่ก็พยายามให้เขาพูดกับเราไม่ใช่พูดกับทีวี หรือให้ทีวีพูดกับเขา แต่ก็ไม่ได้ห้ามดูทีวีเสียทีเดียว”

“ลูกเพื่อนษาบางคน 6 ปีเขายังไม่พูดเลยนะ เงียบเลย เขาไม่แอ๊ะไม่แอ๊ อย่างนี้น่ากลัว แต่นี่เราแอ๊ทั้งวันเลยค่ะ ตะโกนโหวกเหวกส่งเสียง เสียงเขาก้องปวดหัวมาก บอกไม่ต้องร้องโอเปร่าก็ได้ ษาว่าเซเดย์เขาเลือกที่จะไม่พูด จริงๆ เขาก็พูดได้ แต่เขาเลือกไม่พูดมากกว่า เขาก็จะใช้ภาษากายแทน อยากให้ช่วยอะไรก็ดึง ฉุดมือรั้งแทน”

อย่างไรก็ตามสาวษา แจงว่า ตอนนี้ตนคลายความกังวลลงแล้ว เพราะเกรงจะไม่เป็นผลดีกับลูก และหันมาใช้ความอดทนมากขึ้น รวมทั้งขอคำปรึกษา และขอความร่วมมือจากคุณครูให้ช่วยดูแลเป็นพิเศษ และไม่ปฏิเสธข้อบกพร่องว่า น้องเซเดย์เป็นเด็กความจำสั้น
“เรื่องพูดก็คาดหวังค่ะ คาดหวังอยู่ เพราะปัจจุบันเขาก็โอเคขึ้นนะ เขาก็เริ่มเปล่งเสียงมากขึ้น ถึงแม้จะไม่เป็นคำ แต่ลูกไม่ได้เงียบก็โอเคแล้ว คิดมากไปเราก็ป่วย ลูกก็เครียด อย่าดีกว่า เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า”

“คุณหมอบอกให้พูดคุยกับเขามากขึ้น แต่ตอนนี้เขาเข้าโรงเรียนแล้วนะคะ ษาก็เลยไม่ค่อยกังวลอะไรเท่าไร ก็คุยกับครูที่โรงเรียนตลอดว่า เราต้องคุยไปในทางเดียวกัน ก็ค่อนข้างที่จะซีเรียสตรงนี้นิดหนึ่ง เพราะถ้าสอนไปคนละทางเด็กจะงงไง ก็เลยต้องสอนไปทางเดียวกัน แต่ก็บอกปัญหากับครูไปค่ะ ว่าเซเดย์เขาสมาธิสั้น ก็ต้องมาปรับเปลี่ยนอะไรกันเยอะพอสมควร แล้วก็ถ้าจะสอนเซเดย์ก็ต้องสอนเยอะกว่าคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจนะ เพียงแต่ต้องย้ำเขาบ่อยๆ เพราะเขาเป็นเด็กสมาธิไม่ค่อยยาวเท่าไร”

“ตอนนี้ดีขึ้น ไม่กังวลมาก เราลองเพิ่มความอดทนของเราขึ้นไปอีก ย้ำคิดย้ำทำเขาหน่อย แล้วก็พูดกับเขาบ่อยๆ ไม่ว่าเขาจะตั้งใจฟังหรือไม่ตั้งใจฟังก็ต้องย้ำ ป้ายนะ รถนะ แมวนะ หมานะ จากเด็กคนอื่นที่เขาพูด ครั้งเดียว เซเดย์อาจต้อง 3-4 ครั้ง เพื่อให้เขามีสมาธิเพิ่มขึ้น แรกเริ่มไม่ได้ผิดสังเกตค่ะ เพียงแค่เรารู้สึกว่าทำไมลูกไม่พูดกับเราสักที ไม่เรียกอะไรสักที แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็มีนะคะ เรียกแม่ ยาย ตา อะไรอย่างนี้ แต่คือไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดไง คือขี้เกียจพูด เป็นเด็กขี้เกียจพูดไง เวลาไหนเขาอยากจะพูดเขาคงพูดของเขาเอง แต่คงต้องใช้เวลานิดหนึ่ง”

สอบถามถึง “เป้ ไฮร็อค” ผู้เป็นพ่อ ว่าทราบเรื่องของเซเดย์หรือไม่ สาวษาบอกว่า....
“ถ้าข่าวออกเขาคงทราบ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้ซีเรียสอะไร เดี๋ยวเด็กเขาก็ปรับตัวของเขาได้เอง เด็กบางคนพูด 6 ขวบยังมีเลย”

ส่วนเรื่องการแบ่งเวลา และการวางแผนอนาคตให้ลูกชายนั้น หม้ายสาว ย้ำว่า ตนพยายามหาเวลาอยู่กับลูก และตั้งใจส่งเสียลูกให้เรียนสูงที่สุด
“ษาเองก็แบ่งเวลางานด้วยค่ะ ตอนนี้เปิดละครเรื่องดอกบัวขาวของกันตนา ถ่าย จันทร์-อังคาร-พุธ ที่เหลือษาก็พยายามอยู่กับลูกให้มากที่สุด ถ้าอยู่ก็อยู่กับเขาเลย เราอยากให้ลูกเรียนสูงนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไหวมั๊ยยังไง ไม่บังคับเขาหรอกค่ะ แต่ว่าเรื่องยาเสพติด เรื่องอย่างนี้ก็คงต้องเบรคๆ เขาหน่อย เพราะเรากลัว เราไม่รู้ว่าสังคมข้างนอกเป็นยังไง ลองได้แต่อย่าติด ษาจะสอนลูกอย่างนี้นะ แต่ถ้าห้ามๆๆ อย่างเดียวไม่ได้ เราก็เคยผ่านมาก่อน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเลย ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งติด ให้บอกแม่สักคำ เรื่องเรียน เรื่องผู้หญิง เรื่องงาน ษาอยากให้เขาบอกหมด เพราะฉะนั้นเราต้องเปิดตรงนี้ให้เขา บอกแม่ได้ทุกอย่างนะลูก “
กำลังโหลดความคิดเห็น