“ไก่ ภาษิต” หวั่น ไม่มั่นใจคิดถูกหรือผิด หลังตัดสินใจซบอก “ครอบครัวข่าว 3” ย้ำ ตัดสินใจยาก และรู้สึกกดดันเหตุอยู่ช่อง 7 บ้านเก่ามีความสุขดี แต่อยากเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ลั่น แม้ถูกคาดหวังก็จะทำให้ดีที่สุด และไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง
ตกเป็นที่จับตามองจนได้ หลังผู้ประกาศข่าวหนุ่มหน้าตี๋ไฟแรง ลูกหม้อช่อง7 “ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท” หันมาซบอก ตอกบัตรเป็นสมาชิกวัยละอ่อนของ “ครอบครัวข่าว 3” จนเกิดกระแสวิจารณ์เรื่องการทุ่มทุนซื้อตัวอย่างหนาหู
เพราะหนุ่มตี๋ถือเป็นโลโก้ของคนข่าวประจำช่อง 7 ที่มีแฟนคลับแน่นหนึบ และฉุดเรทติ้งได้พอดู งานนี้เจ้าตัวออกมาชี้แจงด้วยความหวั่นใจ และยอมรับยังไม่มั่นใจว่าตัดสินใจถูกหรือผิดกันแน่ กลางงานแถลงข่าว เปิดบ้านรับสมาชิกใหม่ครอบครัวข่าว 3 ชั้น 8 อาคารมาลีนนท์ วันนี้ (30 เมษายน 2552)
“ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับครอบครัวข่าว 3 ตอนนี้ก็ยังตึ๊กตั๊กๆ อยู่เลย เกิดมาไม่เคยเจอไมค์เยอะขนาดนี้ครับ ตัดสินใจนานมากนะครับ คือต้องยอมรับว่า จริงๆ มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แล้วก็ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมากทีเดียว"
"ต้องย้ำว่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่า การตัดสินใจในครั้งนี้จะถูกหรือผิด แต่ในเมื่อ ตัดสินใจไปแล้วก็พร้อมมุ่งหน้าไปในทางที่ตัดสินใจ แล้วก็พยายามทำอย่างเต็มที่ แล้วก็ฝากเนื้อฝากตัวกับครอบครัวข่าว 3 กับทางรายการช่อง 3 ด้วยครับ”
“อ๋อ คือไม่มั่นใจในเชิงว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะถูกหรือผิดครับ ส่วนนั้นยอมรับจริงๆ ว่าไม่มั่นใจว่าอาจจะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่า หรือไม่ทราบว่าข่าวจะออกมาแรงขนาดไหน แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ผมก็พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ครับ (เน้นเสียง)”
ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ประกาศหนุ่มตัดสินใจย้ายช่อง เจ้าตัวปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการทุ่มทุนซื้อตัวแต่อย่างใด และได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายแล้ว พร้อมปัดเหตุเรื่องสถานการณ์อันสั่นคลอนของช่อง 7 ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ตัดสินใจจะขายหุ้น
“คุณวิบูลย์ (ลีรัตนขจร) ชักชวนมาครับ คือบังเอิญเจอกัน แล้วได้มีการพูดคุยกันมาซักพักหนึ่ง ปรึกษาผู้ใหญ่ครับ แล้วก็ได้ปรึกษาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านด้วยครับ (คุยกับคุณแดงหรือเปล่า?) โอ้โห...ก็ได้คุยครับ สุดท้ายได้คุยกัน แล้วท่านก็...ท่านก็ให้คำแนะนำดีๆ หลายอย่าง"
มีรั้งไว้มั้ย?
"ก็ได้พูดคุยกันนานพอสมควรครับ ท่านก็ให้คำแนะนำดีๆ โอ้โห...กดดันนะครับ ต้องบอกตรงๆ ว่ากดดัน บอกได้แค่ว่ามาที่นี่จะตั้งใจทำงานให้เต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แล้วก็จะพยายามเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เต็มที่แล้วก็หวังใจว่าจะถูกตาต้องใจพี่ๆ ทุกๆ ท่าน รวมถึงคุณผู้ชมด้วย”
“อืม...ผมอยากจะบอกว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้การตัดสินใจครั้งนี้มันยากมาก เพราะว่าผมอยู่ช่อง 7 ด้วยความสุขดีนะครับ พี่ๆ อาจจะได้เห็นจาก ไม่ว่าจะเป็น...ทุกเรื่อง งานก็มีเยอะอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับช่อง 7 เลย"
"ก็เลยทำให้เป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ เหตุผลหลัก คือ ผมคิดว่า การเข้ามาร่วมงานครั้งนี้ เหมือนเป็นการมาเรียนรู้กับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ผมคิดว่าไม่ว่าผมจะไปที่ไหนหรือไปช่องไหน ผมคิดว่าผู้ชม หรือเพื่อนๆ พี่น้องสื่อมวลชน จะทราบอยู่แล้วว่าผมเกิดมาจากช่อง 7 ผมก็เอาความเป็นช่อง 7 มาแน่นอน แล้วผมเชื่อว่าไม่มีใครลืมจุดนี้"
"ผมคิดว่ามาที่นี่ เหมือนมาเรียนรู้ มาพัฒนาศักยภาพกับประสบการณ์ใหม่ๆ ตรงนี้แหละที่ทำให้ตัดสินใจว่า มาก็มา”
แม้ครอบครัวข่าว 3 จะมีนายพลข่าว กุมบังเหียนอยู่มากมาย และมีแน้วโน้มว่าตนเองต้องปรับแนวการทำงานยกใหญ่ “ไก่ ภาษิต” ออกตัวว่า ภาพลักษณ์ที่ผ่านมาคงไม่กระทบการทำงาน และตนก็พร้อมเริ่มต้นทำงานใหม่ ก่อนโว ว่ามีไฟในตัวอย่างเต็มเปี่ยม แถมย้ำถึง ย้ายบ้านก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง
“การปรับเปลี่ยนรูปแบบ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มาร่วมงานที่นี่ เพราะว่าอย่างที่เรียนไปว่า มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ทีมงานใหม่ ผู้ร่วมงานใหม่ เจ้านายใหม่ เพราะฉะนั้นผมก็คิดว่าต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับตัวอีกเยอะ"
"ช่วงนี้ก็ให้เวลากับการเข้ามาในสถานีเยอะพาสมควร แล้วก็ไม่กลัวการแข่งขันกันครับ อย่างที่เรียนไปว่า ทุกคนมาจากหลากหลายสถาบัน แต่อยู่กันด้วยความอบอุ่นและกลมกลืน ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเองที่ชัดเจน"
"เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และก็หวังใจว่าไม่น่าจะเป็นเยี่ยงนั้น คิดว่าไม่มีปัญหานะครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะว่าช่อง 3 ก็เป็นช่องที่มีบุคลากรจากหลายๆ ที่ ซึ่งพอมาถึง ทุกคนมารวมกันก็ดูอบอุ่นนะครับ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยค่อนข้างมั่นใจว่า น่าจะราบรื่น น่าจะมีงานที่ดีให้คุณผู้ชมได้ติดตาม”
“ผมมองว่า เวลาเริ่มต้นงานใหม่ หรือว่าเริ่มต้นกับที่ทำงานใหม่ ไฟในการเริ่มต้นมันมาอยู่แล้ว เมื่อไฟมีอยู่แล้วเนี่ย ไม่ว่าจะมีแรงกดดันอะไรก็ตาม ผมเชื่อว่ามันมีไฟของการเริ่มต้น"
"ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ผมต้องพยายามพัฒนาตัวเอง ไปอยู่แล้วไม่ว่าจะมีแรงกดดันหรือไม่ก็ตาม เพราะฉะนั้นอยากย้ำเหมือนเดิมครับว่าจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่จนกว่าจะได้การยอมรับครับ”
คุณวิบูลย์บอกว่า ไก่เป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่?
“ต้องขอบคุณพี่อาร์มที่เล็งเห็นตรงนั้นนะครับ แล้วก็ขอบคุณผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่ให้โอกาสตรงนี้ แล้วก็ถ้าผู้ใหญ่เล็งเห็นศักยภาพในแนวทางนั้น ก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ แล้วก็บอกจากใจว่า จุดแรกรู้สึกดีใจที่ดีรับรู้ความเห็นเหล่านั้น"
"แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องพัฒนาอีกเยอะ จริงๆ ผมก็ต้องยอมรับว่าผมยังใหม่ในวงการข่าวอยู่ ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้จากพี่ๆ และจากบุคลากรหลายๆ ท่านที่อาจจะช่วยกันทำให้เป็นนิวเจเนอเรชั่นอย่างที่ว่ากันนะครับ ต้องขอบคุณพี่ๆ ครับ”
“ผมมองว่าการนำเสนอข่าวให้ถูกตาต้องใจคนดู ต้องนำเสนอข่าวที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คาแร็คเตอร์ของผมก็ยังเป็นคาแร็คเตอร์เดิมชัดเจน ซึ่งคาแร็คเตอร์เหล่านั้น อาจจะถูกตาต้องใจผู้ใหญ่ ถึงได้มีการพูดคุยมาถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นคงจะไม่หลุดจากความเป็นตัวเองครับ”
ตกเป็นที่จับตามองจนได้ หลังผู้ประกาศข่าวหนุ่มหน้าตี๋ไฟแรง ลูกหม้อช่อง7 “ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท” หันมาซบอก ตอกบัตรเป็นสมาชิกวัยละอ่อนของ “ครอบครัวข่าว 3” จนเกิดกระแสวิจารณ์เรื่องการทุ่มทุนซื้อตัวอย่างหนาหู
เพราะหนุ่มตี๋ถือเป็นโลโก้ของคนข่าวประจำช่อง 7 ที่มีแฟนคลับแน่นหนึบ และฉุดเรทติ้งได้พอดู งานนี้เจ้าตัวออกมาชี้แจงด้วยความหวั่นใจ และยอมรับยังไม่มั่นใจว่าตัดสินใจถูกหรือผิดกันแน่ กลางงานแถลงข่าว เปิดบ้านรับสมาชิกใหม่ครอบครัวข่าว 3 ชั้น 8 อาคารมาลีนนท์ วันนี้ (30 เมษายน 2552)
“ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับครอบครัวข่าว 3 ตอนนี้ก็ยังตึ๊กตั๊กๆ อยู่เลย เกิดมาไม่เคยเจอไมค์เยอะขนาดนี้ครับ ตัดสินใจนานมากนะครับ คือต้องยอมรับว่า จริงๆ มีการพูดคุยกันหลายครั้ง แล้วก็ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมากทีเดียว"
"ต้องย้ำว่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่า การตัดสินใจในครั้งนี้จะถูกหรือผิด แต่ในเมื่อ ตัดสินใจไปแล้วก็พร้อมมุ่งหน้าไปในทางที่ตัดสินใจ แล้วก็พยายามทำอย่างเต็มที่ แล้วก็ฝากเนื้อฝากตัวกับครอบครัวข่าว 3 กับทางรายการช่อง 3 ด้วยครับ”
“อ๋อ คือไม่มั่นใจในเชิงว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะถูกหรือผิดครับ ส่วนนั้นยอมรับจริงๆ ว่าไม่มั่นใจว่าอาจจะมีผลกระทบอะไรหรือเปล่า หรือไม่ทราบว่าข่าวจะออกมาแรงขนาดไหน แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ผมก็พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ครับ (เน้นเสียง)”
ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ประกาศหนุ่มตัดสินใจย้ายช่อง เจ้าตัวปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการทุ่มทุนซื้อตัวแต่อย่างใด และได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายแล้ว พร้อมปัดเหตุเรื่องสถานการณ์อันสั่นคลอนของช่อง 7 ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ตัดสินใจจะขายหุ้น
“คุณวิบูลย์ (ลีรัตนขจร) ชักชวนมาครับ คือบังเอิญเจอกัน แล้วได้มีการพูดคุยกันมาซักพักหนึ่ง ปรึกษาผู้ใหญ่ครับ แล้วก็ได้ปรึกษาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านด้วยครับ (คุยกับคุณแดงหรือเปล่า?) โอ้โห...ก็ได้คุยครับ สุดท้ายได้คุยกัน แล้วท่านก็...ท่านก็ให้คำแนะนำดีๆ หลายอย่าง"
มีรั้งไว้มั้ย?
"ก็ได้พูดคุยกันนานพอสมควรครับ ท่านก็ให้คำแนะนำดีๆ โอ้โห...กดดันนะครับ ต้องบอกตรงๆ ว่ากดดัน บอกได้แค่ว่ามาที่นี่จะตั้งใจทำงานให้เต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย แล้วก็จะพยายามเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เต็มที่แล้วก็หวังใจว่าจะถูกตาต้องใจพี่ๆ ทุกๆ ท่าน รวมถึงคุณผู้ชมด้วย”
“อืม...ผมอยากจะบอกว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้การตัดสินใจครั้งนี้มันยากมาก เพราะว่าผมอยู่ช่อง 7 ด้วยความสุขดีนะครับ พี่ๆ อาจจะได้เห็นจาก ไม่ว่าจะเป็น...ทุกเรื่อง งานก็มีเยอะอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับช่อง 7 เลย"
"ก็เลยทำให้เป็นการตัดสินใจที่ยากมากครับ เหตุผลหลัก คือ ผมคิดว่า การเข้ามาร่วมงานครั้งนี้ เหมือนเป็นการมาเรียนรู้กับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ผมคิดว่าไม่ว่าผมจะไปที่ไหนหรือไปช่องไหน ผมคิดว่าผู้ชม หรือเพื่อนๆ พี่น้องสื่อมวลชน จะทราบอยู่แล้วว่าผมเกิดมาจากช่อง 7 ผมก็เอาความเป็นช่อง 7 มาแน่นอน แล้วผมเชื่อว่าไม่มีใครลืมจุดนี้"
"ผมคิดว่ามาที่นี่ เหมือนมาเรียนรู้ มาพัฒนาศักยภาพกับประสบการณ์ใหม่ๆ ตรงนี้แหละที่ทำให้ตัดสินใจว่า มาก็มา”
แม้ครอบครัวข่าว 3 จะมีนายพลข่าว กุมบังเหียนอยู่มากมาย และมีแน้วโน้มว่าตนเองต้องปรับแนวการทำงานยกใหญ่ “ไก่ ภาษิต” ออกตัวว่า ภาพลักษณ์ที่ผ่านมาคงไม่กระทบการทำงาน และตนก็พร้อมเริ่มต้นทำงานใหม่ ก่อนโว ว่ามีไฟในตัวอย่างเต็มเปี่ยม แถมย้ำถึง ย้ายบ้านก็ไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง
“การปรับเปลี่ยนรูปแบบ นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มาร่วมงานที่นี่ เพราะว่าอย่างที่เรียนไปว่า มันเป็นประสบการณ์ใหม่ ทีมงานใหม่ ผู้ร่วมงานใหม่ เจ้านายใหม่ เพราะฉะนั้นผมก็คิดว่าต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับตัวอีกเยอะ"
"ช่วงนี้ก็ให้เวลากับการเข้ามาในสถานีเยอะพาสมควร แล้วก็ไม่กลัวการแข่งขันกันครับ อย่างที่เรียนไปว่า ทุกคนมาจากหลากหลายสถาบัน แต่อยู่กันด้วยความอบอุ่นและกลมกลืน ทุกคนมีพื้นที่ของตัวเองที่ชัดเจน"
"เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และก็หวังใจว่าไม่น่าจะเป็นเยี่ยงนั้น คิดว่าไม่มีปัญหานะครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่าไม่มีปัญหา เพราะว่าช่อง 3 ก็เป็นช่องที่มีบุคลากรจากหลายๆ ที่ ซึ่งพอมาถึง ทุกคนมารวมกันก็ดูอบอุ่นนะครับ แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยค่อนข้างมั่นใจว่า น่าจะราบรื่น น่าจะมีงานที่ดีให้คุณผู้ชมได้ติดตาม”
“ผมมองว่า เวลาเริ่มต้นงานใหม่ หรือว่าเริ่มต้นกับที่ทำงานใหม่ ไฟในการเริ่มต้นมันมาอยู่แล้ว เมื่อไฟมีอยู่แล้วเนี่ย ไม่ว่าจะมีแรงกดดันอะไรก็ตาม ผมเชื่อว่ามันมีไฟของการเริ่มต้น"
"ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ผมต้องพยายามพัฒนาตัวเอง ไปอยู่แล้วไม่ว่าจะมีแรงกดดันหรือไม่ก็ตาม เพราะฉะนั้นอยากย้ำเหมือนเดิมครับว่าจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่จนกว่าจะได้การยอมรับครับ”
คุณวิบูลย์บอกว่า ไก่เป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่?
“ต้องขอบคุณพี่อาร์มที่เล็งเห็นตรงนั้นนะครับ แล้วก็ขอบคุณผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่ให้โอกาสตรงนี้ แล้วก็ถ้าผู้ใหญ่เล็งเห็นศักยภาพในแนวทางนั้น ก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ แล้วก็บอกจากใจว่า จุดแรกรู้สึกดีใจที่ดีรับรู้ความเห็นเหล่านั้น"
"แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องพัฒนาอีกเยอะ จริงๆ ผมก็ต้องยอมรับว่าผมยังใหม่ในวงการข่าวอยู่ ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้จากพี่ๆ และจากบุคลากรหลายๆ ท่านที่อาจจะช่วยกันทำให้เป็นนิวเจเนอเรชั่นอย่างที่ว่ากันนะครับ ต้องขอบคุณพี่ๆ ครับ”
“ผมมองว่าการนำเสนอข่าวให้ถูกตาต้องใจคนดู ต้องนำเสนอข่าวที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คาแร็คเตอร์ของผมก็ยังเป็นคาแร็คเตอร์เดิมชัดเจน ซึ่งคาแร็คเตอร์เหล่านั้น อาจจะถูกตาต้องใจผู้ใหญ่ ถึงได้มีการพูดคุยมาถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นคงจะไม่หลุดจากความเป็นตัวเองครับ”