ใบหน้างามๆ ไม่น่ามาทำเป็นหน้าส้นตีน ถูกเกณฑ์มาเชียร์ทักษิณ ก็มีส้นตีนโผล่ขี้นตรงหน้า ถ้ารักทักษิณ เขาให้ยกตีนชูขี้นมา แล้วสั่บผับ ผับ กับใบหน้าให้รู้กันว่า นี่หน้าส้นตีน...(เพลงคนหน้าส้นตีน ศิลปินโฟล์คเหน่อ)
...
แม้จะมีศิลปินมากหน้าหลายตา ทว่าต้องถือว่าหาได้ยากเหลือเกินสำหรับบทเพลงที่จับเอาเหตุการณ์ทางการบ้าน-การเมืองที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรามา “ล้อ” ได้ “โดน” ชนิดที่ฟังแล้วต้องแอบอมยิ้ม หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงขั้นหัวเราะก๊ากออกมาด้วยความชอบใจ
เหตุผลใหญ่ก็คงจะเป็นเพราะความกลัว ความหวาดวิตกต่อผลกระทบที่อาจจะตามมาของตัวศิลปินและต้นสังกัด บวกรวมเข้ากับเหตุผลทางธุรกิจที่ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเพลงรักเท่านั้นที่ขายได้
ด้วยเหตุผลที่ว่าบทเพลงเหล่านี้จึงถูกผลิตออกมาในลักษณะที่ถูกเรียกกันว่าเพลงใต้ดิน นักร้อง นักดนตรีทำกันเอง หาช่องทางขายกันเอง โดยมีแฟนๆ ส่วนหนึ่งให้การต้อนรับ
ย้อนกลับไปราวๆ ปี 2544 หลายคนคงพอจะรู้จักกับเพลงที่ชื่อว่าไข่หงษ์ ที่วง “ซีเปีย” เล่นในคอนเสิร์ต เล็ก ชิ้น สด จัดโดย Fat Radio FM 104.5 MHz ซึ่งมีเนื้อหาเสียดสี ประชดประชัน หลอกด่านักการเมืองหลายต่อหลายคน อาทิ นักการเมืองแถวบางบอนที่มีลูกเป็นนักเลงโต, โกโบสากที่ไปตามหาทองที่ถ้ำลิเจีย, (อดต)นายกฯ คนที่หน้าตาเหมือนกับเคโระ รวมถึง(อดีต)นายกฯ ผู้รวยล้นฟ้าที่ซุกหุ้นไว้กับคนรับใช้ คนขับรถ
ถัดมาในยุคที่ไอทีเริ่มฟูเฟื่องและการเมืองกำลังร้อนแรง ชาวโลกออนไลน์ทั้งหลายก็ได้ฮากับเพลงแปลง “พรรคไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า โอบเอื้อ 001-มาเฟียเรคคอร์ด จากเว็บไซต์ซังกะบ๊วย (http://www.sangabuay.com)
และในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนฯ ออกมาเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดก็ทำให้ใครหลายคนได้รู้จักวงดนตรีจากสุพรรณบุรีที่มีชื่อว่า “โฟล์คเหน่อ” กับบทเพลงชวนฮาที่เขาแต่งขึ้นเองหลายบทเพลง (บางเพลงก็มีการหยิบยืมทำนองของเพลงอื่นๆ มาใช้) อาทิ เพลงคนขี้ไม่ออก ที่ว่าด้วยเรื่องของ(อดีต) นายกฯ ไทยคนหนึ่งที่หนีนักข่าวเข้าไปอยู่ในส้วมนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ถ้าขี้ไม่ออกก็บอกเขาไป เป็นคนโตคนใหญ่ ใครใครเขาก็อยากถาม
ชิมไปบ่นไปหรือว่าจะสวาปาม สังคมเขามีคำถาม ผู้นำต้องมีคำตอบ...
หรือจะเป็นเพลงที่ชื่อ “แอ๊ด ’บาว” ซึ่งพูดถึงศิลปินนักชนไก่ชื่อดัง
จนถึงวันนี้ ผมมีร่ำรวยเงินทอง ทรัพย์สินมากมายก่ายกอง เพื่อนฝูงพี่น้องมากมาย
ซ้ำบริษัทเครื่องดื่มช่วยผ่อนกระหาย ยามร้อนดื่มให้ผ่อนคลาย เครื่องดื่มหัวควายบำรุงกำลัง...
นอกจากนี้ก็มีเพลงแหล่หล่อไล่นอมินี แหล่ฉบับเมืองสุพรรณซึ่งไล่เรียงความเลวของระบบประชานิยม เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงเพลงที่แซวกลุ่มผู้ชมนุมพันธมิตรฯ ด้วยกันเองอย่าง “นักรบหน้าจอ”
ล่าสุด โฟล์คเหน่อได้มีเพลงใหม่ออกมาแล้วในชื่อ...ไอ้หน้าส้นตีน และกำลังเป็นที่สนใจกันมากหลัง “สนธิ ลิ้มทองกุล” หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำมาเปิดออกอากาศผ่านรายการ “Good Morning Thailand” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่องนิวส์วัน เมื่อเวลา 6 นาฬิกาของวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน
“จริงๆ เพลงนี้ผมเขียนไว้ตั้งแต่ที่พันธมิตรฯ ยังมีการชุมนุมกันอยู่ แล้วทางเสื้อแดงเขาออกมารวมตัวกันที่สนามรัชมังคลาฯ แต่ว่าอันล่าสุดนี้มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย คือโยงเอาสถานการณ์การเผาบ้านเผาเมืองเข้ามาด้วย”...ลำพา มัดศรีพงษ์-โฟล์คเหน่อ เจ้าของเพลงเผยถึงที่มาของบทเพลง
หลังนำเอาเพลงดังกล่าวไปโพสต์ไว้ในบล็อกส่วนตัว (http://www.oknation.net/blog/folkner) โฟล์คเหน่อบอกว่ากระแสตอบรับของเพลงนี้ค่อนข้างจะดีมากๆ มียอดคนเข้ามาฟังเพลงเป็นหมื่นๆ คลิก, มีจำนวนดาวน์โหลดที่สูงกว่าเพลงอื่นๆ รวมทั้งมีผู้นำเอาไปทำเป็นมิวสิกวิดีโอโพสต์ไว้ที่ยูทูบ โดยที่หลายๆ คนต่างก็แสดงความคิดเห็นเข้ามาว่าฟังแล้วรู้สึกสะใจดี
“มันเหมือนกับการได้ระบายน่ะ...” เจ้าตัวบอกถึงความรู้สึกหลังแต่งเพลงไอ้หน้าส้นตีน ซึ่งจะว่าไปแล้วการใช้ภาษาของเพลงนี้ต้องถือว่าค่อนข้างจะแรงผิดสไตล์โฟล์คเหน่อซึ่งที่ผ่านมามักจะเลี่ยงการใช้คำหยาบ หากแต่จะเน้นไปที่การใช้คำประชดประชันเสียดสี
โดยเจ้าตัวเองก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน
“ก็ค่อนข้างจะแรงพอสมควรนะ (หัวเราะ) ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเปรียบเทียบกับเรื่องของสัญลักษณ์ตีนตบ แล้วก็มีการใช้ตัว ล.ลิงเข้าไปควบกล้ำ คือเป็นส้นตลีน ซึ่งมันก็จะเป็นการเลี่ยงคำ หลบคำ แต่พอมาเจอสถานการณ์ที่มันค่อนข้างรุนแรง มันเครียด อึดอัด ไม่รู้จะบอกยังไง อยากระบาย”
“ส่วนตัวผมชอบนะ ชอบในความสะใจ ได้ระบายความรู้สึก อันนี้ส่วนตัวนะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนฟังจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า แต่ผมว่าคนโดยส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกถึงความตรึงเครียดจากสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานะ แล้วผมว่ามันก็น่าจะเป็นที่ระบายความอึดอัดได้ทางหนึ่ง”
นอกจาก คนหน้าส้นตีน นี้แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้แต่งเพลงที่ว่าด้วยเรื่องของตัวบุคคลทางการเมืองไว้ค่อนข้างจะเยอะทีเดียว เช่น ยุทธตู้เย็น, คนขี้ไม่ออก, เหลิมเป็นคนถัด(ที่จะเป็นนายกฯ) รวมถึง เจ้ามูลเมือง ฯ ซึ่งแต่ละเพลงนั้นโฟล์คเหน่อบอกว่าใช้เวลาไม่นานมาก
“เพราะผมเองมีทำนองของเพลงดังๆ รวมทั้งเนื้อร้องอยู่ในหัวอยู่แล้ว เพลงคนหน้าส้นตีนอย่างที่บอกว่าผมมีเนื้อร้องอยู่ชุดนึงแล้ว ก็มาเปลี่ยนเอาท่อน 2 กับท่อน 4 ที่เอาสถานการณ์ล่าสุดมาเชื่อมโยง ส่วนท่อนแรกกับท่อนแยกเป็นของเก่า ก็ใช้เวลาแต่งท่อนละ 1 นาที 2 นาทีเท่านั้นเอง พออัดสดเสร็จก็ไปโพสต์เลย”
ยอมรับว่ามีผลกระทบเช่นกันจากการเปิดตัวว่าเป็นศิลปินที่ยืนอยู่ฝ่ายไหน แต่ถือว่าไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเขียนจดหมาย หรืออีเมล์เข้ามาต่อว่าเสียมากกว่า ส่วนเรื่องงานแสดงดนตรีนั้นไม่ได้มีผลอะไรมากมาย
พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า ณ วันนี้ตนได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
“ยังคงรับเล่นตามงานบวช งานแต่งเหมือนเดิม ไม่มีอะไร คือกลุ่มคนฟังเขาไม่ได้แสดงตัวอะไรกันมากมาย ก็มีที่เขียนจดหมายมาให้หน้าเวทีแล้วบอกว่าเขาคือพันธมิตรฯ แต่ไม่เคยมีใครต่อว่าอะไรต่อหน้า จะมีบ้างก็เป็นจดหมายที่ไม่ได้แจ้งชื่อที่อยู่ เขียนมาในเชิง คืออาจจะรู้จักผม แล้วก็รู้สึกผิดหวัง แล้วก็ทางอีเมล์ก็จะมาพร้อมๆ กับลิงค์ข้อมูลอะไรแบบนั้น”
“ก็มีตอบโต้ชี้แจงอธิบายไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ ผมเอง ผมเชื่อว่าตอนนี้ผมทำในสิ่งที่ถูกนะ คือผมเองก็เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องบางข้อของอีกฝ่ายนะ แต่อีกหลายๆ อย่างมันรับไม่ได้เลย”
เพลงคนหน้าส้นตีน
ใบหน้างามๆ ไม่น่ามาทำเป็นหน้าส้นตีน
ถูกเกณฑ์มาเชียร์ทักษิณ ก็มีส้นตีนโผล่ขี้นตรงหน้า
ถ้ารักทักษิณ เขาให้ยกตีนชูขี้นมา
แล้วสั่บผับ ผับ กับใบหน้าให้รู้กันว่า นี่หน้าส้นตีน
ปลุกเสื้อแดงสู้ แต่โคตรเหง้ากูให้รีบเผ่น
วีระ จตุพร เจ๊เพ็ญ ณัฐวุฒิเอ็งเป็นแค่พวกขี้ข้า
จะขอหดหัวหางจุกตูดพูดโฟนอินมา
ก็ขามันสั่นแต่ปากกล้าคนเขาบอกว่าเป็นหน้าตัวเมีย
ความจริงวันนี้ บอกว่าคนดีคือทักษิณ
จึงรีบยกส้นตีน เห็นด้วยทักษิณส้นตีนจริงหนา
พอเราได้ยินนักโทษทักษิณโฟนอินมา
รีบยกส้นตีน ขึ้นเสมอหน้า เปล่งเสียงออกมา ไอ้หน้าส้นตีน
มาปิดถนนขนมวลชนมาช่วยเชียร์
พวกหน้าส้นตีนรวมหน้าตัวเมีย
ทำไมทำเหี้ยขนาดนี้
คนรักทักษิณ เขาใช้ส้นตีนชูสดุดี
พวกเรารวมกันในวันนี้ ทักษิณคนดี เอ้า นี่ส้นตีน
...
แม้จะมีศิลปินมากหน้าหลายตา ทว่าต้องถือว่าหาได้ยากเหลือเกินสำหรับบทเพลงที่จับเอาเหตุการณ์ทางการบ้าน-การเมืองที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรามา “ล้อ” ได้ “โดน” ชนิดที่ฟังแล้วต้องแอบอมยิ้ม หรืออาจจะเลยเถิดไปถึงขั้นหัวเราะก๊ากออกมาด้วยความชอบใจ
เหตุผลใหญ่ก็คงจะเป็นเพราะความกลัว ความหวาดวิตกต่อผลกระทบที่อาจจะตามมาของตัวศิลปินและต้นสังกัด บวกรวมเข้ากับเหตุผลทางธุรกิจที่ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเพลงรักเท่านั้นที่ขายได้
ด้วยเหตุผลที่ว่าบทเพลงเหล่านี้จึงถูกผลิตออกมาในลักษณะที่ถูกเรียกกันว่าเพลงใต้ดิน นักร้อง นักดนตรีทำกันเอง หาช่องทางขายกันเอง โดยมีแฟนๆ ส่วนหนึ่งให้การต้อนรับ
ย้อนกลับไปราวๆ ปี 2544 หลายคนคงพอจะรู้จักกับเพลงที่ชื่อว่าไข่หงษ์ ที่วง “ซีเปีย” เล่นในคอนเสิร์ต เล็ก ชิ้น สด จัดโดย Fat Radio FM 104.5 MHz ซึ่งมีเนื้อหาเสียดสี ประชดประชัน หลอกด่านักการเมืองหลายต่อหลายคน อาทิ นักการเมืองแถวบางบอนที่มีลูกเป็นนักเลงโต, โกโบสากที่ไปตามหาทองที่ถ้ำลิเจีย, (อดต)นายกฯ คนที่หน้าตาเหมือนกับเคโระ รวมถึง(อดีต)นายกฯ ผู้รวยล้นฟ้าที่ซุกหุ้นไว้กับคนรับใช้ คนขับรถ
ถัดมาในยุคที่ไอทีเริ่มฟูเฟื่องและการเมืองกำลังร้อนแรง ชาวโลกออนไลน์ทั้งหลายก็ได้ฮากับเพลงแปลง “พรรคไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” ของกลุ่มที่เรียกตนเองว่า โอบเอื้อ 001-มาเฟียเรคคอร์ด จากเว็บไซต์ซังกะบ๊วย (http://www.sangabuay.com)
และในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนฯ ออกมาเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดก็ทำให้ใครหลายคนได้รู้จักวงดนตรีจากสุพรรณบุรีที่มีชื่อว่า “โฟล์คเหน่อ” กับบทเพลงชวนฮาที่เขาแต่งขึ้นเองหลายบทเพลง (บางเพลงก็มีการหยิบยืมทำนองของเพลงอื่นๆ มาใช้) อาทิ เพลงคนขี้ไม่ออก ที่ว่าด้วยเรื่องของ(อดีต) นายกฯ ไทยคนหนึ่งที่หนีนักข่าวเข้าไปอยู่ในส้วมนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ถ้าขี้ไม่ออกก็บอกเขาไป เป็นคนโตคนใหญ่ ใครใครเขาก็อยากถาม
ชิมไปบ่นไปหรือว่าจะสวาปาม สังคมเขามีคำถาม ผู้นำต้องมีคำตอบ...
หรือจะเป็นเพลงที่ชื่อ “แอ๊ด ’บาว” ซึ่งพูดถึงศิลปินนักชนไก่ชื่อดัง
จนถึงวันนี้ ผมมีร่ำรวยเงินทอง ทรัพย์สินมากมายก่ายกอง เพื่อนฝูงพี่น้องมากมาย
ซ้ำบริษัทเครื่องดื่มช่วยผ่อนกระหาย ยามร้อนดื่มให้ผ่อนคลาย เครื่องดื่มหัวควายบำรุงกำลัง...
นอกจากนี้ก็มีเพลงแหล่หล่อไล่นอมินี แหล่ฉบับเมืองสุพรรณซึ่งไล่เรียงความเลวของระบบประชานิยม เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงเพลงที่แซวกลุ่มผู้ชมนุมพันธมิตรฯ ด้วยกันเองอย่าง “นักรบหน้าจอ”
ล่าสุด โฟล์คเหน่อได้มีเพลงใหม่ออกมาแล้วในชื่อ...ไอ้หน้าส้นตีน และกำลังเป็นที่สนใจกันมากหลัง “สนธิ ลิ้มทองกุล” หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำมาเปิดออกอากาศผ่านรายการ “Good Morning Thailand” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่องนิวส์วัน เมื่อเวลา 6 นาฬิกาของวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน
“จริงๆ เพลงนี้ผมเขียนไว้ตั้งแต่ที่พันธมิตรฯ ยังมีการชุมนุมกันอยู่ แล้วทางเสื้อแดงเขาออกมารวมตัวกันที่สนามรัชมังคลาฯ แต่ว่าอันล่าสุดนี้มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย คือโยงเอาสถานการณ์การเผาบ้านเผาเมืองเข้ามาด้วย”...ลำพา มัดศรีพงษ์-โฟล์คเหน่อ เจ้าของเพลงเผยถึงที่มาของบทเพลง
หลังนำเอาเพลงดังกล่าวไปโพสต์ไว้ในบล็อกส่วนตัว (http://www.oknation.net/blog/folkner) โฟล์คเหน่อบอกว่ากระแสตอบรับของเพลงนี้ค่อนข้างจะดีมากๆ มียอดคนเข้ามาฟังเพลงเป็นหมื่นๆ คลิก, มีจำนวนดาวน์โหลดที่สูงกว่าเพลงอื่นๆ รวมทั้งมีผู้นำเอาไปทำเป็นมิวสิกวิดีโอโพสต์ไว้ที่ยูทูบ โดยที่หลายๆ คนต่างก็แสดงความคิดเห็นเข้ามาว่าฟังแล้วรู้สึกสะใจดี
“มันเหมือนกับการได้ระบายน่ะ...” เจ้าตัวบอกถึงความรู้สึกหลังแต่งเพลงไอ้หน้าส้นตีน ซึ่งจะว่าไปแล้วการใช้ภาษาของเพลงนี้ต้องถือว่าค่อนข้างจะแรงผิดสไตล์โฟล์คเหน่อซึ่งที่ผ่านมามักจะเลี่ยงการใช้คำหยาบ หากแต่จะเน้นไปที่การใช้คำประชดประชันเสียดสี
โดยเจ้าตัวเองก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน
“ก็ค่อนข้างจะแรงพอสมควรนะ (หัวเราะ) ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเปรียบเทียบกับเรื่องของสัญลักษณ์ตีนตบ แล้วก็มีการใช้ตัว ล.ลิงเข้าไปควบกล้ำ คือเป็นส้นตลีน ซึ่งมันก็จะเป็นการเลี่ยงคำ หลบคำ แต่พอมาเจอสถานการณ์ที่มันค่อนข้างรุนแรง มันเครียด อึดอัด ไม่รู้จะบอกยังไง อยากระบาย”
“ส่วนตัวผมชอบนะ ชอบในความสะใจ ได้ระบายความรู้สึก อันนี้ส่วนตัวนะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนฟังจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า แต่ผมว่าคนโดยส่วนใหญ่ต่างก็รู้สึกถึงความตรึงเครียดจากสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานะ แล้วผมว่ามันก็น่าจะเป็นที่ระบายความอึดอัดได้ทางหนึ่ง”
นอกจาก คนหน้าส้นตีน นี้แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้แต่งเพลงที่ว่าด้วยเรื่องของตัวบุคคลทางการเมืองไว้ค่อนข้างจะเยอะทีเดียว เช่น ยุทธตู้เย็น, คนขี้ไม่ออก, เหลิมเป็นคนถัด(ที่จะเป็นนายกฯ) รวมถึง เจ้ามูลเมือง ฯ ซึ่งแต่ละเพลงนั้นโฟล์คเหน่อบอกว่าใช้เวลาไม่นานมาก
“เพราะผมเองมีทำนองของเพลงดังๆ รวมทั้งเนื้อร้องอยู่ในหัวอยู่แล้ว เพลงคนหน้าส้นตีนอย่างที่บอกว่าผมมีเนื้อร้องอยู่ชุดนึงแล้ว ก็มาเปลี่ยนเอาท่อน 2 กับท่อน 4 ที่เอาสถานการณ์ล่าสุดมาเชื่อมโยง ส่วนท่อนแรกกับท่อนแยกเป็นของเก่า ก็ใช้เวลาแต่งท่อนละ 1 นาที 2 นาทีเท่านั้นเอง พออัดสดเสร็จก็ไปโพสต์เลย”
ยอมรับว่ามีผลกระทบเช่นกันจากการเปิดตัวว่าเป็นศิลปินที่ยืนอยู่ฝ่ายไหน แต่ถือว่าไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเขียนจดหมาย หรืออีเมล์เข้ามาต่อว่าเสียมากกว่า ส่วนเรื่องงานแสดงดนตรีนั้นไม่ได้มีผลอะไรมากมาย
พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า ณ วันนี้ตนได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
“ยังคงรับเล่นตามงานบวช งานแต่งเหมือนเดิม ไม่มีอะไร คือกลุ่มคนฟังเขาไม่ได้แสดงตัวอะไรกันมากมาย ก็มีที่เขียนจดหมายมาให้หน้าเวทีแล้วบอกว่าเขาคือพันธมิตรฯ แต่ไม่เคยมีใครต่อว่าอะไรต่อหน้า จะมีบ้างก็เป็นจดหมายที่ไม่ได้แจ้งชื่อที่อยู่ เขียนมาในเชิง คืออาจจะรู้จักผม แล้วก็รู้สึกผิดหวัง แล้วก็ทางอีเมล์ก็จะมาพร้อมๆ กับลิงค์ข้อมูลอะไรแบบนั้น”
“ก็มีตอบโต้ชี้แจงอธิบายไปบ้างนิดๆ หน่อยๆ ผมเอง ผมเชื่อว่าตอนนี้ผมทำในสิ่งที่ถูกนะ คือผมเองก็เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องบางข้อของอีกฝ่ายนะ แต่อีกหลายๆ อย่างมันรับไม่ได้เลย”
เพลงคนหน้าส้นตีน
ใบหน้างามๆ ไม่น่ามาทำเป็นหน้าส้นตีน
ถูกเกณฑ์มาเชียร์ทักษิณ ก็มีส้นตีนโผล่ขี้นตรงหน้า
ถ้ารักทักษิณ เขาให้ยกตีนชูขี้นมา
แล้วสั่บผับ ผับ กับใบหน้าให้รู้กันว่า นี่หน้าส้นตีน
ปลุกเสื้อแดงสู้ แต่โคตรเหง้ากูให้รีบเผ่น
วีระ จตุพร เจ๊เพ็ญ ณัฐวุฒิเอ็งเป็นแค่พวกขี้ข้า
จะขอหดหัวหางจุกตูดพูดโฟนอินมา
ก็ขามันสั่นแต่ปากกล้าคนเขาบอกว่าเป็นหน้าตัวเมีย
ความจริงวันนี้ บอกว่าคนดีคือทักษิณ
จึงรีบยกส้นตีน เห็นด้วยทักษิณส้นตีนจริงหนา
พอเราได้ยินนักโทษทักษิณโฟนอินมา
รีบยกส้นตีน ขึ้นเสมอหน้า เปล่งเสียงออกมา ไอ้หน้าส้นตีน
มาปิดถนนขนมวลชนมาช่วยเชียร์
พวกหน้าส้นตีนรวมหน้าตัวเมีย
ทำไมทำเหี้ยขนาดนี้
คนรักทักษิณ เขาใช้ส้นตีนชูสดุดี
พวกเรารวมกันในวันนี้ ทักษิณคนดี เอ้า นี่ส้นตีน
