จวกดีเจคลื่นกรมกร๊วกขอนแก่นให้ร้ายพันธมิตรฯ - เจ้าตัวโต้ไม่เอียงข้างใคร

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คนขอนแก่นร้องศูนย์ข่าวผู้จัดการ-เอเอสทีวีนิวส์วัน ภาคอีสาน ระบุนักจัดรายการวิทยุชื่อดังขอนแก่น สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ เสนอรายการโจมตีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ้างการชุมนุมสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เจ้าตัวแจงไม่เคยลำเอียงเข้าข้างใคร ชุมนุมได้หากไม่สร้างความเดือดร้อน แต่ ส.ส.-ส.ว.ก็มีสิทธิ์ลงชื่อยื่นแก้รัฐธรรมนูญเช่นกัน

วันนี้ (27 พ.ค.) ประชาชนชาวขอนแก่นได้แจ้งทีมข่าวศูนย์ข่าวผู้จัดการ-เอเอสทีวี นิวส์วัน ภาคอีสาน จ.ขอนแก่นว่า นายชาติชาย ชาธรรมา นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง คลื่น FM 99.50 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือ สวท.ขอนแก่น ซึ่งสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ได้จัดรายการวิทยุ อ้างถึงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างไม่เป็นกลาง

โดยนายชาติชายได้แสดงความเห็นส่วนตัวว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย พร้อมระบุว่าควรหมดยุคการเดินขบวนได้แล้ว แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังไม่หยุด ยังคงออกมาพูดให้ร้ายคนอื่น โดยไม่เคยสนใจว่าบ้านเมืองจะเดือดร้อนอย่างไร

“เขาจัดรายการแบบคนบ่น บ่นไปเรื่อย ไม่ได้ให้สาระอะไรกับผู้ฟังนะ แต่ที่รับไม่ได้เพราะที่เขาบ่น มันยิ่งทำให้คนที่ไม่รู้ความจริงอีกด้าน กลายเป็นเข้าใจผิดหมดว่าคนมาชุมนุมเพื่อรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นพวกสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง”

ประชาชนผู้ร้องเรียนกล่าวและบอกว่านายชาติชายยังกล่าวในรายการอีกว่า ทั้งที่คนส่วนใหญ่ก็เป็นคนมีวิชาความรู้ดี มีการศึกษาสูง บางคนก็อายุมาก แต่ไม่ได้เกิดปัญญา ในการนำบ้านเมืองไปสู่ความเจริญ ขอเพียงให้ได้ขึ้นเวทีด่าคนอื่น ลงมามีข้าวปลาอาหารกิน มีเงินใช้สมบูรณ์เพียบพร้อมก็พอ คนกลุ่มนี้กลัวอย่างเดียว คือกลัวไม่มีเสียงด่าคนอื่น ซึ่งทำให้สังคมไทยเรามีแต่ความวุ่นวาย

จากการจัดรายการลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้ฟังจำนวนหนึ่งทนไม่ได้ และมีผู้โทรศัพท์แสดงความคิดเห็นในรายการ ขอให้นายชาติชายจัดรายการอย่างเป็นกลาง เสนอข้อมูลทุกด้านต่อผู้ฟัง เนื่องจากการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการทำหน้าที่ของพลเมืองไทยที่ออกมาปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะการเร่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดของทักษิณ ยิ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองอย่างไม่อาจแก้ไขได้อีก

นอกจากนี้ ผู้ฟังอีกส่วนหนึ่งได้แจ้งมายังศูนย์ข่าวผู้จัดการ-เอเอสทีวีนิวส์วัน เรียกร้องขอให้นายชาติชาย ในฐานะสื่อมวลชนของราชการ ทำหน้าที่ข้าราชการ ซึ่งเป็นข้าพระบาทของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่ทาสของนักการเมืองที่จะเฝ้าโจมตีคนที่ความคิดเห็นตรงข้ามรัฐบาล ควรจัดรายการด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นกลาง ครบทุกด้านต่อผู้ฟัง

หากต้องการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ก็ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องของพันธมิตรในการออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่จำนวนกว่าหลายหมื่นคนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งนี้ ด้วยว่าเป็นประชาชนที่เดินทางมาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ที่ทนไม่ได้ในการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อลบความผิดจากการขายชาติ ขายแผ่นดินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมด และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศไทย ที่คนไทยผู้รักชาติ เทิดทูนสถาบันไม่อาจยอมรับได้ จึงออกมารวมตัวกัน

“พี่น้องประชาชน มีทั้งข้าราชการ นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน แพทย์ ทุกสาขาอาชีพ มาจากทั่วสารทิศ เราต้องออกมาชุมนุมข้ามวันข้ามคืน อย่างลำบาก แต่ทุกคนเต็มใจ หลายคนบริจาคเงินทอง และอาหาร เพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ร่วมกัน

โดยมีรูปแบบการชุมนุมที่ต่างจากม็อบฝ่ายต่อต้านที่มีแต่ความกักขฬะและรับจ้างมาทั้งสิ้น และยังมีพฤติกรรมก่อกวนการชุมนุมของประชาชนในฝ่ายพันธมิตรฯ โดยตลอด แม้จะบาดเจ็บหลายคน แต่ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ยังคงยึดหลักสงบ สันติ อหิงสา ในการชุมนุม สิ่งเหล่านี้ นายชาติชายไม่เคยพูดถึง ซึ่งหากจะบอกว่าเป็นสื่อราชการที่เป็นกลาง ต้องพูดความจริงด้านนี้ด้วย"

ด้าน นายชาติชาย ชาธรรมา ชี้แจงผ่านผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี นิวส์วัน และนสพ.ผู้จัดการ ว่าตนไม่ได้จัดรายการลำเอียง อย่างที่ผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในจังหวัดขอนแก่นเข้าใจ การจัดรายการของตนยึดมั่นในรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ์ในการพูดแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ทั้งนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ตนก็เห็นว่าหากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญก็ทำได้ แต่จะต้องดูให้ดี ว่าจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

ส่วนการออกมายื่นแก้รธน.ของ ส.ส.พลังประชาชน และ ส.ว.ก็เป็นสิทธิที่เขาทำได้เช่นกัน เพราะนักการเมืองต้องทำงาน หากเห็นว่ามาตราใดไม่เหมาะ ก็ต้องขอให้แก้ ซึ่งหากมีการทำประชาพิจารณ์แล้ว ก็เป็นหน้าที่ประชาชนที่จะตัดสินใจว่าให้แก้ หรือไม่ให้แก้ ตนก็เห็นว่าในรัฐธรรมนูญมีกฎกติกาดีทุกอย่าง จึงอยากให้ทุกคนว่าไปตามกฎหมาย อ้างอิงรัฐธรรมนูญทุกอย่าง เพราะอยากให้สังคมสงบ ไม่ได้เชียร์ใคร

“ทั้งนี้ ความคิดเห็นส่วนตัวว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมไม่เดือดร้อน แต่หากไม่แก้อาจกระทบกับการทำงานของนักการเมือง เพราะมี ส.ส.ที่เคยโอดครวญกับผมว่าการแก้เขตเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้ ส.ส.ทำงานลำบากมากขึ้นจะเดินหาเสียงก็ยุ่งยาก เพราะเขตกว้างมาก ผมก็ต้องออกมาให้ความรู้ เพราะผู้ฟังต้องการความรู้จากสื่อวิทยุ” นายชาติชาย กล่าว