ยามฯ ภูเก็ตปิดจอถ่ายทอดช่วงกินผัก ยืนยันไม่ปิดสนามบินเด็ดขาด

กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตแถลงปิดจอถ่ายทอดสดที่สะพานหินชั่วคราวช่วงประเพณีถือศีลกินผัก พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจการเมืองใหม่ให้ประชาชนรับทราบ ยืนยันชัดเจนไม่ปิดสนามบินแต่จะหาวิธีกดดันรัฐบาลด้วยวิธีอื่นที่ได้ผลกว่าปิดสนามบิน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (27ก.ย.) กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต โดยนายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต พร้อมคณะกรรมการกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชน พร้อมอ่านแถลงการณ์กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ณ ที่ทำการกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เลขที่ 28 หมู่บ้านนิมิตซอย 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า

สืบเนื่องจากการมีกระแสข่าวการแตกแยกของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตนั้น ทางกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตขอแจ้งให้ทราบว่า ทางกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตมิได้มีความแตกแยกแต่อย่างใดตามที่เป็นข่าว เหตุผลที่กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตปิดจอถ่ายถอดสดผ่านดาวเทียมเอเอสทีวีนิวส์วันเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2551 นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2551 นี้ ซึ่งทางกลุ่มจะต้องคืนพื้นที่ให้แก่ศาลเจ้าและให้เกิดความสะดวกในการจัดพิธีของศาลเจ้าต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต

ดังนั้น ทางกลุ่มยามฯ จึงขอยุติการถ่ายทอดสด ณ บริเวณปลายแหลมสะพานหินเป็นการชั่วคราวจนกว่าพิธีกินผักจะเสร็จสิ้น ทางกลุ่มยามฯ ก็จะทำการถ่ายทอดต่อไป อนึ่ง ในช่วงระยะเวลานี้ ทางกลุ่มยามฯ ขอแจ้งให้พี่น้องพันธมิตรจังหวัดภูเก็ตทราบว่าจะยังไม่มีการจัดรถขึ้นไปกรุงเทพมหานคร และถ้าทางกลุ่มยามฯ จะจัดรถขึ้นไปกรุงเทพฯ ก็จะมีการแจ้งผ่านทางเวทีกลางให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้า นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ขอแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่าข้าพเจ้าได้ตัดสินใจยุติบทบาทของข้าพเจ้าภายในกลุ่มยามฯ จากตำแหน่งดังกล่าวนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากครบวาระการเป็นประธานกลุ่ม

นายณัชจรงค์ กล่าวภายหลังอ่านแถลงการณ์แล้วเสร็จ ว่า ภายหลังจากที่ตนพ้นจากตำแหน่ง ทางคณะกรรมการยามฯภูเก็ตได้ตัดสินใจเลือกนายเลิศพงศ์ ตันโสวัฒน์ รักษาการประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตแทน

ด้านเลิศพงศ์ ตันโสวัฒน์ รักษาการประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ที่ตนต้องเข้ามารักษาการประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตในขณะนี้นั้น เนื่องจากยังไม่สามารถที่ประชุมคณะกรรมการฯทั้งหมดได้ เนื่องจากบางส่วนยังอยู่ที่กรุงเทพฯ และขอยืนยันว่ากลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตไม่ได้แตกแยกตามที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด ทุกคนยังร่วมกันทำงานเหมือนเดิม ส่วนการถ่ายทอดที่ปลายแหลมสะพานหินนั้น ทางกลุ่มยามฯ มีมติร่วมกันที่จะหยุดถ่ายทอดในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก เพื่อที่จะคืนพื้นที่ให้ศาลเจ้าต่างๆ ได้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เช่น การทำพิธีลุยไฟของศาล การส่งพระ เป็นต้น และหลังจากสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินผักแล้ว จะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะจัดกิจกรรมอะไรบ้าง แต่ยืนยันว่าการถ่ายทอดมีอย่างแน่นอน พร้อมทั้งจะเน้นทำกิจกรรมการเมืองใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงระบบการเมืองใหม่ว่าประชาชนจะได้อะไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่ปลายแหลมสะพานหินก็มีการถ่ายถอดสดอยู่ทุกวัน จากกลุ่มเยาวชนที่ใช้ชื่อว่า “Young PAD Phuket” แต่หลังจากกินผักสิ้นสุดแล้วจะเชิญแกนนำมาหารือเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน

“ยืนยันกลุ่มยามฯภูเก็ตไม่ได้เกิดความแตกแยก แต่ยอมรับว่าอ่อนการประชาสัมพันธ์ในการหยุดการถ่ายทอดสด ซึ่งเกิดจากการทำงานที่ค่อนข้างจะฉุกเฉินในการยุติการถ่ายทอดชั่วคราว”

นายณัชจรงค์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปิดสนามบินทั้ง 5 แห่งในภาคใต้ เพื่อกดดันไม่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นภาพรวมของภาคใต้ทั้งหมด ซึ่งเรามีผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือ คุณสุนทร รักษ์รงค์ อยู่ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตมีนโยบายชัดเจนว่าไม่มีการกดดันรัฐบาลด้วยการปิดสนามบินอย่างแน่นอน เพราะการปิดสนามบินเป็นการทำร้ายจังหวัดภูเก็ตของเราเองและปิดทางในการขึ้นไปสนับสนุนพันธมิตรที่กรุงเทพฯอีกทางหนึ่ง แต่ทางกลุ่มยามฯจะกดดันด้วยวิธีอื่นๆ ที่ได้ผลกว่าการปิดสนามบิน และจากการที่ได้พูดคุยกับแกนนำของภาคใต้และเวทีส่วนกลางภูเก็ตขอเป็นเอกเทศในการตัดสินใจว่าจะปิดสนามบินหรือไม่ และหากใครออกมาพูดเชิญชวนให้ปิดสนามบินก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วย

ต่อข้อถามที่ว่า หากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาภูเก็ตทางกลุ่มยามฯ และพันธมิตรภูเก็ตจะกีดกันหรือไม่นั้น นายณัชจรงค์ กล่าวว่า จะต้องดูจากเหตุการณ์และกระแสในขณะนั้นว่าจะต่อต้านหรือไม่