บรรยากาศภายในห้องสืบพยาน
แม้จะผ่านมาปีกว่า แต่คดีภาพฉาวของนาย "เฉินกว้านซี" ก็ยังหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้ ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ไปให้การต่อศาลสูงที่บริติช โคลัมเบียของประเทศแคนนาดาบ้านเกิดของเขา โดยปฎิเสธที่จะพาดพิงถึงสาวๆ ที่อยู่ในภาพอีก พร้อมอ้างไม่มีความรู้ว่าภาพที่ลบจากรีไซเคิลบินของคอมพิวเตอร์ไปแล้วจะสามารถกู้ข้อมูลได้อีก
เมื่อ เฉินกว้านซี ดาราหนุ่มวัย 28 ลูกครึ่งจีน-โปรตุเกสปฎิเสธที่จะกลับไปยังประเทศฮ่องกงเพื่อให้การต่อศาลในคดีภาพฉาวที่เขาและดาราสาวอีก 8 คนต้องกลายเป็นข่าวใหญ่แห่งปี 2008 จึงได้มีการสืบพยานกันที่บ้านเกิดของเขาที่เมืองแวนคูเวอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยทีมอัยการจากกระทรวงยุติธรรมของฮ่องกงและทนายฝ่ายจำเลยได้บินมายังแคนาดาเพื่อร่วมการไต่สวนครั้งนี้ด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้รับการวิจารณ์ในฮ่องกงว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้มีชื่อเสียงอย่างนายเฉิน
ในการเปิดใจต่อศาลเป็นครั้งแรกนี้ นายเฉินเผยว่าเขาจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาวๆ ที่เป็นเหยื่อภาพฉาวเหล่านี้
"พวกเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว ผมคิดว่ามันคงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะตีแผ่ข้อมูลที่ไม่มีผลต่อรูปคดี" นายเฉินแสดงเจตจำนง ก่อนจะถามต่อผู้พิพากษาว่า "ผมมีสิทธิ์ใช่ไหม"
ผู้พิพากษา เอเลน อาแดร์ ชี้แจงว่านายเฉินต้องตอบทุกคำถามที่เกี่ยวข้องกับรูปคดี และเมื่อนายเฉินย้อนถามไปว่า "และถ้าผมไม่ยินยอมละ" ผู้พิพากษาหญิงก็ตอบว่าบางทีมันคงจะไม่ไปถึงจุดนั้น
การสืบพยานโดยทางการของสองประเทศครั้งนี้มีขึ้นเพื่อการสืบพยานคดีการจับกุมของนาย โฮชุนซือ ช่างซ่อมคอมพ์ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการปล่อยภาพดังกล่าว ที่ถูกฟ้องในความผิดฐานลักลอบขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์อย่างผิดกฏหมาย ซึ่งถ้าผิดจริงโทษสูงสุดที่เขาจะได้รับคือการจำคุก 5 ปี
ในการไต่สวนของทีมอัยการจากฮ่องกง นายเฉินเผยต่อศาลว่าเขารู้สึกช็อคอย่างมากกับครั้งแรกที่ได้รู้ว่าภาพที่สุดสยิวฝีมือการถ่ายของเขาเองนั้นได้หลุดไปบนอินเตอร์เน็ท ซึ่งภาพเหล่านั้นเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ต้องการถ่ายออกมาเพื่อนำไปเผยแพร่ให้ใครได้เห็นทั้งสิ้น
"แน่นอน ผมเคยเห็นรูปพวกนี้ ผมเป็นถ่ายมันเอง พวกมันอยู่ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผม"
"ผมเป็นคนที่รักความเป็นส่วนตัว ผมเพลิดเพลินกับความเป็นส่วนตัวของผม ผมต้องการความเป็นส่วนตัวของผม มันไม่มีความมุ่งหมายที่จะหลุดออกไปให้ใครได้เห็นทั้งสิ้น"
นายเฉินให้การว่าเมื่อเขาเช็คดูว่าไฟล์เนมของภาพที่หลุดทางเน็ทมีชื่อตรงกับที่เคยอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเขา เขาจึงสรุปว่าภาพทั้งหมดถูกขโมยมาจากแล็ปท็อปที่หายไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ต่อมาคิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะเป็นการลักลอบกู้ข้อมูลจากร้านซ่อมคอมพ์ในฮ่องกงที่เขาไปใช้บริการเมื่อ 3 ปีก่อนมากกว่า
"มันทำให้ผมเชื่อว่าคนที่อยู่ในร้านซ่อมคอมพ์ได้ละเมิดความเป็นส่วนตัวและขโมยภาพของผมไป"
นายเฉินเผยว่าเขาไม่เคยบอกพาสเวิร์ดในคอมพิวเตอร์ให้กับใครมาก่อน และเผยว่าเขาได้ลบภาพฉาวทั้งหมดจากคอมพิวเตอร์ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะนำมันไปร้านซ่อมเมื่อฤดูร้อนของปี 2006 ที่ผ่านมา
"ในตอนนั้นผมไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของวิธีการป้องกันข้อมูลหรือการป้องกันรีไซเคิลบิน ดังนั้นในความคิดของผม เมื่อผมลบไฟล์และลบจากรีไซเคิลบิน หมายความว่ามันถูกลบไปจากเครื่องหมดแล้ว" นายเฉินกล่าวต่อหน้าศาล ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าภายหลังที่ภาพทั้งหมดกลายเป็นข่าวฉาวแล้วเขาก็รู้ว่ามีวิธีอีกมากมายที่สามารถกู้ไฟล์ที่ถูกลบไปแล้วได้
ในการไต่สวนโดยทนายฝ่ายจำเลย นายเฉินที่นิ่งๆ มานานก็ต้องมีอารมณ์ขึ้นมา เมื่อสุดท้ายเขาต้องบอกชื่อของเหยื่อสาวทั้ง 4 คนอย่างเสียไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในภาพเป็นความสมยอมของเขาและสาวๆ เอง
"มันไม่มีการบังคับขืนใจใดๆ ทั้งสิ้น" เจ้าตัวชี้ชัด
นายเฉินปฎิเสธอย่างเสียงแข็งเมื่อทนายฝ่ายจำเลยพูดถึงความเป็นไปได้ว่าบางทีภาพพวกนี้อาจจะหลุดมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ของนายเฉิน ที่เขาอาจทำสำเนาเอาไว้เพื่อความสะดวกในการพกพาก็เป็นได้
"ไม่มีวันที่ผมจะพกพาภาพเหล่านั้นไปไหนต่อไหนแน่ๆ" นายเฉินยืนยัน
นายเฉินให้การต่อศาลว่าเขาต้องรีบเข้าอินเตอร์เน็ททันทีที่เพื่อนโทรมาบอกว่าว่าภาพเหล่านั้นได้หลุดออกมาอย่างไม่คาดฝัน
"ทั้งหมดมันดูเหมือนเป็นการมุ่งโจมตีผม เป็นแผนการที่วางเอาไว้อย่างดี เมื่อพิจารณาถึงวิธีการในการปล่อยภาพออกมา เป็นไปได้ว่ามันมีการสมรู้ร่วมคิด อาจจะซัก 2 คนหรือ 20 คน และวันถัดมาก็เป็น 80 วันต่อมาก็เป็น 100 คน"
โดยการสืบพยานของทั้งอัยการและทนายฝ่ายจำเลยที่คาดว่าจะต้องดำเนินการเป็นเวลา 5 วันได้สิ้นสุดลงภายในวันจันทร์ที่ผ่านมา และนายเฉินจะต้องกลับมาอ่านและลงชื่อในหมายศาลอีกครั้งในวันอังคารนี้