“ชมพู่ อารยา” อ่วม ฝ่ายประสานงานโชว์ตัวออกโรงโต้แหลก กรณีเบี้ยวเงินค่าตัว ลากไส้ชมพู่ตกลงค่าตัว 80,000 จะเอา 150,000 แฉซ้ำ เจ้าตัวชอบองค์ลงไม่เฟรนด์ลี่จนเจ้าภาพไม่พอใจ บอกไม่น่ารักเท่า “แพนเค้ก”
ตกเป็นข่าวรับปีวัวเลยทีเดียวสำหรับ “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” หลังจากที่ออกมาโวยว่าถูกเบี้ยวเงินค่าโชว์ตัวเคาท์ดาวน์ บอกจะให้หลักแสนแต่จ่ายหลักหมื่น ซัดฝ่ายประสานงานจังๆ งานนี้ “วัชรีวรรณ สุภาพ” ที่ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานให้ชมพู่ไปร่วมงานถึงกับเหลืออดออกมาโต้แหลกว่า ไม่เคยโกงเงินชมพู่ ซัดกลับตกลงราคาที่ 80,000 แต่จะเอา 150,000 แฉซ้ำ เจ้าตัวชอบองค์ลงไม่เฟรนด์ลี่จนเจ้าภาพไม่พอใจ บอกไม่น่ารักเท่า “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์”
“ทีแรกก่อนจะมาเป็นชมพู่ก็ติดต่อมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น แอน ทองประสม ,ยุ้ย(จีรนันท์ มะโนแจ่ม) , แอน สิเรียม(สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์) คือถ้ารับคิววันที่ 31 ธันวาคมที่ภูเก็ต เราจะให้งานวันที่ 15 ธันวาคมที่ตรังด้วย ซึ่งเป็นงานกาชาดด้วยกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายมาลงตัวที่ชมพู่เพราะว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วชมพู่เคยไปทัวร์หมอลำซัมเมอร์กับเขาน่ารักดีก็เลยเอา”
“พอตกลงเป็นชมพู่ก็เลยคุยกับหวาน(ผู้จัดการส่วนตัว) ก็ตกลงกันว่า ถ้าให้คิว 31 ธันวาคมเรามีอีกงานให้นะคือวันที่ 15 ธันวาคม ทางนั้นเขาก็โอเคและตกลงกันคิวละ 80,000 บาท แต่หวานบอกว่าวันที่ 31 ขอเป็น 85,000 ได้ไหม แต่เราบอกว่าสองงาน 80,000 เท่ากันนั่นแหละก็โอเคจบ ซึ่งเจ้าภาพให้เรามางานละ 100,000”
“พอเสร็จงานวันที่ 15 ที่ตรังเจ้าภาพเขาไม่ค่อยแฮบปี้ เพราะชมพู่ไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยเฟรนด์ลี่ ทางแม่แป้นคนจัดงานจะขอเปลี่ยนเป็นคนอื่น คือจะไม่เอาชมพู่ไปโชว์ตัววันที่ 31 แล้ว แต่เราก็บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอกเพราะบอกเขาไว้แล้ว”
“พอถึงวันที่ 31 ชมพู่ก็มาโชว์ตัวที่ภูเก็ตตามปกติ พอวันที่ 1 เราก็ไปส่งที่สนามบินเราก็เลยเคลียร์เรื่องเงินกับหวานว่า มัดจำไปแล้วนะ 20,000 และก็ไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วก็โอนให้อีก 60,000 ครบแล้วนะ 80,000 ซึ่งก่อนหน้านี้วันที่ 15 ธันวาคมเราก็เคลียร์จบไปแล้ว 80,000 คือเคลียร์เป็นงานๆ ไป”
“แต่พอโอนไปให้เขาแล้ว เขากลับบอกว่า เฮ้ย...พี่ของหนูไม่ใช่ 80,000 นะ 150,000 เราก็เลยแบบได้ไงก็ยังคุยกันอยู่เลยว่า ถ้ามาวันที่ 31 เราจะให้วันที่ 15 อีกหนึ่งงาน แล้วจะ 150,000 ได้ไง ทางหวานก็บอกว่า งานเคาท์ดาวน์ถ้าอยู่ในกรุงเทพก็รับ 120,000 แล้ว ไม่งั้นจะมาทำไมก็ไปเที่ยวแล้ว”
“เราก็เลยบอกว่า ก็คุยกับเจ้าภาพจบที่ราคานี้แล้วจะไปขอเขาอีกได้ไง แล้วเขาก็ขอเบอร์แม่แป้นกับเรา ซึ่งเราก็ขอไปถามแม่แป้นก่อน แต่แม่แป้นเขาไม่ให้เขาไม่อยากคุยแล้ว เขาบอกว่า ฉันไม่รู้ว่าเธอคุยอะไรกัน ฉันไม่คุยหรอกไม่ต้องให้มาคุยกับฉันนั้น ให้เธอเคลียร์ทุกอย่างจบไปเลยเขาไม่คุย เราก็เลยไม่ได้ให้เบอร์ไป”
“ตอนหลังพอถึงกรุงเทพหวานก็โทรกลับมาหาอีก ซึ่งขณะนั้นเราก็กำลังคุยกับแม่แป้นอยู่ก็เลยบอกว่า แม่แป้นเดี๋ยวแม่แป้นฟังนะ จากนั้นเราก็ต่อสามสายให้แม่แป้นฟังด้วย เราก็เลยเคลียร์ให้หวานเข้าใจเลยว่า ทางผู้จัดงานเขาให้มางานละ 100,000 ของชมพู่ได้งานละ 80,000 ค่าตั๋วเครื่องบินอีกหมื่นกว่าบาท สรุปว่าเราจะได้แค่งานละ 3,000 บาทเท่านั้น”
“ซึ่งตรงนี้เราก็เคลียร์กับแม่แป้นแล้วว่าไม่ซีเรียส เพราะเราได้ราคาซัพจากศิลปินอาร์สยามหรือคนอื่นๆ แล้วหัวละ 5,000 บาท แม่แป้นก็เลยบอกว่า ถ้างั้นเธอต้องมาด้วยฉันให้ค่าตั๋วเครื่องบินเธออีก 10,000 เธอต้องบินไปด้วย สรุปสองงานก็ได้งบมา 220,000 บาท”
“แต่ถึงเราจะพูดยังไงเขาก็ยังยืนยันว่า มันไม่ใช่นะงานเคาท์ดาวน์ค่าตัวชมพู่จะต้องเพิ่มเป็น 2 เท่าอยู่แล้ว เราก็เลยบอกว่า ถ้า 2 เท่าแล้วตอนคุยกันทำไมไม่บอกล่ะ เพราะเรื่องตัวเลขเนี่ยเราคุยกันชัดเจนมากเลยนะ ซึ่งตอนนั้นที่คุยกันบอก 80,000 เราก็ไม่ได้ต่อเลยซักคำ แต่พอมาส่งที่สนามบินกลับบอก 150,000 เราก็งงไม่เข้าใจว่าทำไมกลายเป็นแบบนี้”
“ซึ่งรายละเอียดเรื่องเงินตรงนี้เราก็พูดให้หวานฟังหมด และแม่แป้นเขาก็ฟังด้วย เราบริสุทธิใจ ถึงกล้าพูดให้ทุกคนฟังพร้อมๆ กัน แต่เราพลาดตรงที่ว่า ไม่ได้ทำสัญญากับชมพู่ เพราะตอนที่เราจ้างแพนเค้ก(เขมนิจ จามิกรณ์) เมื่อปีที่แล้ว แพนเค้กก็ไปให้ทั้งวันที่ 15 และ 31 ธันวาคมเหมือนกัน แพนเค้กเขาก็คิดแค่งานละ 70,000 และก็ไม่ได้ทำสัญญา ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ติดต่อดารามาแล้วหลายคน ยุ้ย จีรนันท์ ก็เคยไปมาแล้ว ปอ(ปุณยวีร์ สุขกุลวรเศรษฐ์) ,แอน สิเรียม ก็เคยไปมาแล้ว ทุกคนก็ไม่เคยทำสัญญาแต่ก็ไม่มีปัญหา”
“แต่หลังจากนั้นชมพู่ก็ไปให้ข่าว ทางเจ้าภาพก็เลยโทรมาหาเราว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมชมพู่ถึงทำแบบนี้ เขาก็บ่นว่าเขาเสียนะเพราะคนอ่านเขาไม่รู้ตัวเลข ชมพู่พูดว่าจ้างกันหลักแสนแต่ได้เงินแค่หลักหมื่น แม่แป้นก็เลยขอเบอร์ชมพู่หน่อยเดี๋ยวจะโทรไปเคลียร์ เขาก็ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ แม่แป้นให้เงินไปเท่านี้จริงๆ เพราะเขาจัดงานนี้ทุกปีดาราทุกคนก็ไม่เคยมีใครคิดค่าตัวสองเท่า”
“ซึ่งตรงนั้นก็เราก็ไม่ได้ยุ่งเพราะในส่วนของประสานงานเราถือว่าเราทำหน้าที่จบแล้ว แต่เขาก็ยังไปให้ข่าวอีก เพราะเห็นไทยรัฐลงว่า เคลียร์กับเจ้าภาพจบแล้วสรุปเรื่องมันเป็นยังไง ทางเจ้าภาพให้เงินประสานมาตรงกับที่ให้ชมพู่ไหม ชมพู่ก็ยังบอกว่า อันนี้ก็ให้ไปคิดเอาเองนะ แล้วทำไมพูดอย่างนี้ และการที่เขาออกให้สัมภาษณ์ว่า พอได้คุยกับทางเจ้าภาพแล้วได้ความรู้ ก็อยากจะถามว่า รู้อะไร รู้อยู่คนเดียว ทำไมไม่พูดออกมาเลยว่า รู้อะไร”
“เขาพูดแบบนี้เราเสียหายแต่ไม่กลัวหรอก เพราะเราอยู่ในวงการนี้มา 20 ปีแล้ว ดาราคนไหนที่ว่าดังทั่วประเทศเราติดต่อไปร่วมงานมาหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินกับใคร เขาเป็นดาราเขาอยากจะพูดอะไรก็พูดไป ถึงเขาจะเสียงดังกว่าเราก็เสียงดังไป แต่ถามว่าออร์แกไนซ์ได้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าใครค่าตัวเท่าไหร่ การที่เขาเรียก 150,000 สามารถเรียกได้แต่คงไม่มีใครจ้างหรอก”
“ทำงานตรงนี้มา 20 ปีหัวหงอกเต็มหัวแล้ว จะไม่รู้ราคานักร้องหรือดาราเหรอ ถ้าเราไปจ้างราคา 150,000 คนคงคิดว่า เรานี่สุดยอดเลย ไม่วัวก็ควาย อยากเรียกก็เรียกไปเหอะแต่เจ้าภาพเขาไม่เอาอยู่แล้ว ไปโชว์ตัวงานกาชาด10 นาทีร้อง 3 เพลงราคา 150,000 เขาต้องขายบัตรเป็นพันใบกว่าจะได้ค่าตัวชมพู่ ใครเขาจะไปจ้าง”
“ยืนยันเลยว่าทำงานมาตั้งนานจ้างดาราเรทนี้ไม่เคยมี นี่ยังมานั่งคิดอยู่เลยว่า ดาราคนไหนจะค่าตัว 150,000 บาท แพนเค้กก็ไม่ถึงขนาดอั้ม(พัชราภา ไชยเชื้อ) ไปโชว์ตัวต่างจังหวัดก็ไม่ได้ถึง 150,000 นะ แล้วถ้าเขาเรียกราคานี้จริง คิดดูสิว่าใครจะจ้าง”
ก่อนหน้านี้ “ชมพู่” ให้เหตุผลในการออกมาแฉว่า เป็นเพราะมีคนให้ข่าวไม่หยุด และที่สำคัญไม่พอใจที่ไปบอกเจ้าภาพว่า ชมพู่วีนเจ้าภาพ
“ไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย แต่ยอมรับว่าเคยมีการพูดคุยกัน เพราะวันนั้นโทรไปสวัสดีปีใหม่พี่นักข่าวฉบับหนึ่ง ก็คุยให้เขาฟังว่าซวยตั้งแต่ต้นปีก็เล่าให้เขาฟัง ซึ่งพี่นักข่าวคนนั้นเขาก็ไม่ได้เอาไปลงข่าวเพราะเป็นการพูดคุยกันส่วนตัวตามประสาพี่น้อง แต่ชมพู่กลับไปให้ข่าวกับคมชัดลึกว่าโดนโกงเงินค่าตัวก่อน”
“ส่วนเรื่องที่บอกว่า เราไปบอกเจ้าภาพว่าชมพู่วีนนั้นไม่ใช่เลย เราเคยแต่พูดว่า เจ้าภาพเขาไม่ค่อยแฮบปี้ที่ชมพู่ไม่เฟรนด์ลี่ อย่างเดินเข้าไปหาคุณนายผู้ว่าในกาชาด ก่อนจะไปถึงคุณนายผู้ว่าก็ต้องผ่านแม่ๆ ที่เขามาช่วยงานกาชาด เขาก็อยากให้ยิ้มให้ทักทาย เหมือนเป็นการให้หน้าคนที่ไปประมูลงานจัดงาน เขาต้องการให้ศิลปินที่เขาเอามายิ้มแย้มทักทาย แต่นี่แม่แป้นสะกิดแล้วเจ้าภาพสะกิดแล้วว่า นี่คุณนายผู้ว่านะ เขาก็พยักหน้าและยิ้มมุมปากตามบุคลิกเขาไม่ได้ยกมือไหว้ เจ้าภาพเขาก็หน้าเจื่อนๆ"
“คือเขาอยากให้ทักทายป้าๆ แม่ๆ ที่นั่งอยู่ข้างทางบ้าง อย่างแอน สิเรียมไป พี่ปอไป แพนเค้กไปเขาก็จะสวัสดีค่ะ เหนื่อยไหมคะ เขาก็ทักทายเฟรนด์ลี่ เราไม่เคยไปบอกเจ้าภาพเลยว่าชมพู่วีน แต่ว่าทางเจ้าภาพเองเขาไม่พอใจชมพู่ตั้งแต่งานที่ตรังเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมแล้ว เขาจะไม่เอามาร่วมงานวันที่ 31 ธันวาคมตั้งแต่วันนั้นแล้ว ยิ่งถ้าบอกว่า 150,000 เขาก็ยิ่งจะไม่เอา”
“เราเองก็ไม่ได้ไปบอกกับหวานหรือชมพู่ว่าเขาไม่แฮบปี้ เราไม่กล้าที่จะไปพูดอย่างนั้นก็ได้แต่บอกหวานว่า ในงานเคาท์ดาวน์ให้น้องแต่งตัวมาแบบสวยๆ นะ มีถ่ายทอดสดนะ มีผู้ใหญ่มานะ เราก็ได้แต่ย้ำไปแค่นั้น เพราะเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ตรังคุณนายผู้ว่าทักชมพู่มาว่า ใส่ชุดนี้ขึ้นเวทีเหรอคะ แต่เราชิงตอบแก้ตัวให้เขาว่า อ๋อ...เวทีมันสูงค่ะกลัวว่าน้องจะโป๊ คือวันนั้นเขาใส่เป็นแซกคลุมสะโพกและก็ใส่เลคกิ้ง ซึ่งมันอาจจะดูธรรมดาไป เขาก็คงอยากให้สวยกว่านี้เพราะมันเป็นงานจังหวัด เขาอยากให้มันแบบ คำว่า ชมพู่มามันต้องดูเลิศกว่านี้”
“ไม่รู้สิ...อาจจะเป็นเพราะว่าปีที่แล้วแพนเค้กเขาทำไว้ดีมาก วันนั้นแพนเค้กมามีคนเข้ามาดูเป็น 1,000 คน แต่ชมพู่ไปมีคนเข้าดูแค่ 200 คน หลังเวทีมันก็จะแฉะๆ แพนเค้กเขาก็จะแบบพี่วรรณหนูใส่รองเท้าคู่นี้ไปเลยนะคะ แพนก็ใส่รองเท้าและก็เดินลุยๆ ไปเลย แดนเซอร์เขาเห็นก็จำได้ พอมาปีนี้หลังเวทีมันก็แฉะเหมือนเดิมแต่ชมพู่มาแบบ พี่พื้นแฉะไม่มีสะพานข้ามเหรอ แดนเซอร์ชุดเก่าที่มาปีที่แล้วก็ได้ยินเขาก็ถามว่า พี่วรรณสงสัยรองเท้าเขาแพงเนอะ ไม่น่ารักเหมือนน้องแพนเลย”
“ถ้าวัดจากความนิยมจากคนที่จัดงานทั้งหน้าเวทีหลังเวทีก็รู้เลยว่าเขาแฮบปี้น้องแพนเค้กมากกว่า คือน้องแพนเค้กเขาจะทำทุกอย่างอะไรก็ได้ ปีที่แล้วน้องแพนเค้กทำไว้ดีมาก แพนเค้กไม่เคยลงจากเวทีเลย ช่วงพิธีการผู้ใหญ่เขาจัดพิธีการอะไรแพนก็จะอยู่ข้างๆ เวที ถ่ายรูปกับแดนเซอร์บ้าง ถ่ายกับคณะกรรมการกาชาดบ้าง มันคนละอย่างกันเลย ถึงได้บอกว่าที่นักข่าวให้สมญานามว่า นางฟ้าเดินดิน เห็นด้วยอย่างแรง”
“แต่ชมพู่เขาจะไม่ใช่ อย่างวันนั้นตอน 4 ทุ่มก็มีปัญหากันบนรถตู้นิดหน่อย เพราะช่วง 5 ทุ่มจะเป็นพิธีการหวานเขาก็บอกว่า ขอไปซัก 5ทุ่มครึ่งได้ไหมเพราะเคาท์ดาวน์เที่ยงคืน เดี๋ยวน้องจะยืนบนเวทีนานไป เราก็เลยบอกว่า มันเป็นวันเคาท์ดาวน์เดี๋ยวไงไปช่วยกาชาดก่อน ไปช่วยกาชาดซัก 10 นาที ก็เสร็จประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง พอเสร็จ 4 ทุ่มครึ่งเขาก็บอกว่า ขอกลับไปที่โรงแรมก่อนได้ไหม เจ้าภาพเขาก็ไม่อยากให้กลับไปเพราะภูเก็ตรถมันติดเขากลัวว่าจะไม่ทัน และอีกอย่างมันเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงเขาจะกลับไปทำไม เราก็โอเคเดี๋ยวเคลียร์เอง ก็คุยกับเขาว่ากลับไม่ได้นะเดี๋ยวรถมันติด พอไปช่วยกาชาดเสร็จก็ให้เขามารอในรถเพื่อที่จะรอขึ้นเวทีใหญ่เคาท์ดาวน์”
“พอ 5 ทุ่ม 15 นาทีเขาก็ขึ้นโชว์ตัวร้อง 3 เพลงก็ตามสไตล์เขา บนเวทีเขาก็ทำหน้าที่เขาดีนะแต่เจ้าภาพเขาก็ไม่ค่อยแฮบปี้เท่าไหร่ เพราะเขาไม่ค่อยเฟรนด์ลี่กับคนในงาน พอร้องเพลงจบลงมารอที่รถตู้ ทางกาชาดเขาก็อยากขายของอีกก็ประกาศผ่านไมค์ว่า ใครที่ซื้อบัตรจะให้ถ่ายรูปคู่กับชมพู่ ทางหวานเขาก็ไม่แฮบปี้แล้วจะมาถ่ายรูปอะไรอีก งั้นเดี๋ยวถ้าใครซื้อบัตรจะถ่ายรูปค่อยมาถ่ายหลังเลิกงานแล้วกันเขาก็ไม่ได้ขึ้นมา ตรงนี้ก็ทำให้เจ้าภาพมีฟีดแบคกลับมาเหมือนกัน”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ติดต่อชมพู่มาร่วมงานก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง แต่ก่อนหน้านี้ก็มีออร์แกไนซ์เตือนมาบ้างแล้ว เจ้าภาพที่แม่ฮ่องสอนที่เคยจ้างชมพู่เขาก็เตือนมาเหมือนกัน เพราะเมื่อปีที่แล้วเราติดต่อนุ่น(วรนุช วงษ์สวรรค์) ไปให้เขาก็ประทับใจนุ่นมาก”
“พอชมพู่ไปเขาโทรมาบอกว่า ไม่น่ารักเหมือนนุ่นเลย จะถ่ายรูปทีก็นั่งอ่านแต่หนังสือโลกส่วนตัวสูง เวลาคนเข้ามาจะขอถ่ายรูปเขาก็จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน คนก็ไม่กล้าเข้าไปถ่ายหรือเข้ามาพูดคุย ชุดที่ใส่ไปก็ไม่สวยคือเขาแต่งหน้าแต่เขาไม่ทำผมรัดๆ ไว้ เจ้าภาพเขาก็ไม่ค่อยพอใจเขาถือว่าไม่ให้เกียรติเขา วันที่ชมพู่กลับเขายังไม่ไปส่งเลย เขาให้รถโรงแรมไปส่ง ทั้งที่ตอนนุ่นมาเขาก็ไปส่ง”
ทางชมพู่ก็ยืนยันว่าได้เงินไม่ครบ แถมยังบอกอีกว่าคุยกับเจ้าภาพแล้วทำให้ได้ความรู้ เหมือนจะบอกว่า ได้รู้อะไรดีๆ แต่ทางด้านผู้ประสานงาน “วัชรีวรรณ” ก็เล่าความจริงอีกอย่างหนึ่ง งั้นก็แปลว่า งานนี้ต้องมีใครซักคน “โกหก”
“ก็อยากจะถามว่า รู้อะไร ชีวิตคนจัดงานมันก็มีอยู่แค่นี้ รู้อะไรก็บอกมาสิ ก็พูดมาเลยทำไมไม่พูดออกมา ก็งงเหมือนกันว่าเขาจะโกหกเพื่ออะไร แต่เราเองค่อนข้างสบายใจ เพราะเจ้าภาพให้มาเท่านี้เราก็ให้เขาเท่านี้ กับข่าวที่ออกมามีแต่คนรู้จักชมพู่ไม่มีใครรู้จักเราหรอก ไม่มีใครรู้หรอกว่าชมพู่ไปมีเรื่องกับใคร ก็อยากจะให้ชมพู่เอ่ยชื่อออกมา พูดชื่อไปสิว่า คุยกับพี่วรรณ วัชรีวรรณ สุภาพ จะมาพูดทำไมคนๆ นี้ ประเทศไทยมีตั้ง 63 ล้านคน ออร์แกไนซ์มีเป็นหมื่นๆ บริษัท เอ่ยชื่อมาเลยยินดีเพราะเราไมได้โกง เบอร์โทรก็บอกไปเลย”
งงไม่รู้ว่า “ชมพู่” ไม่พอใจอะไร เพราะตอนร่วมงานก็คุยกันดี
“ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันนะ วันที่เขาไปงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ก็ยังนั่งคุยกับเขาในรถตู้เรื่องส่วนตัวเรื่องอะไรอยู่เลย เขาก็ยังบอกเลยบอกว่า เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ฟิตเน่แต่เขาไม่เคยกินฟิตเน่เลย ก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เขาก็น่ารักเฟรนด์ลี่นะ แต่พอออกจากรถเจอคนเมื่อไหร่เหมือนองค์เขาจะลงทันที เหมือนกับว่าเป็นซูเปอร์สตาร์”
“บอกตรงๆ ว่าค่อนข้างเข็ด ต้นปีมาก็ซวยเลย แต่คิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไร เพราะตอนนี้เราก็ยังมีงานกับเจ้าภาพอีกแม่แป้นก็ยังจ้างเราอีก ถามหน่อยถ้าเราโกงจริงใครเขาจะมาจ้างเรา”