"หมอกฤษฏ์" กลับคำรับทำนายผิด เอ่ยขอโทษ "ลีเดีย" ด้าน " วู้ดดี้" เผยหมอดูชื่อดังร้องไห้กลางรายการ

"หมอกฤษฏ์" โฟนอินเข้ารายการสยามทูเดย์ ยันอยากขอโทษ "ลีเดีย" และครอบครัวที่ทำให้เดือดร้อนจากการทำนาย ยอมรับที่ผ่านมาทำนายผิด บอกถ้ามีโอกาสคุยกับลีเดียให้เข้าใจโดยไม่ผ่านใคร ลั่นไม่ฟ้องกลับ "แมทธิว" ด่าหมาดูดวง ด้าน "วู้ดดี้" ยัน "หมอกฤษฏ์" เสียใจร่ำไห้กลางรายการ

โดยกลางรายการนั้นพิธีกรในรายการ อย่าง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ,บ๊อบ บดินทร์,ว่าน ภูวฤทธิ์ และโบว์ ชญาดา ได้ร่วมสัมภาษณ์หมอกฤษฏ์ ทางโทรศัพท์แทน เพราะหมอกฤษฏ์ให้เหตุผลว่ายังไม่อยากพบนักข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมากที่สตูดิโอ พิธีกรทั้งสี่ จึงได้สัมภาษณ์หมอดูชื่อดังผ่านทางโทรศัพท์

โดยเนื้อหาหลักนั้นหมอกฤษฏ์ บอกไม่อยากเห็นผู้หญิงร้องไห้เพราะตนเองอีกแล้ว และกราบขอโทษลีเดียและครอบครัวที่ทำให้เดือดร้อนต่อการทำนาย ยืนยันตั้งใจกราบเท้าจริงไม่ใช่แค่แกล้งพูด
"ที่ผ่านมาผมก็ต้องบอกว่าผมขอโทษจริงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ ตรงนี้ต้องบอกว่าผมเองก็เข้าใจในตัวน้องแม่ลีเดียที่เข้ามาในวันนั้น ไม่ได้โกรธหรือว่าอะไร ในสายตาผู้ชายคนหนึ่งก็ไม่อยากให้ใครต้องมาร้องไห้เพราะผมแล้วล่ะครับ ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็อยากจะกราบขอโทษทั้งครอบครัวครับที่ทำให้ต้องเสียใจและเดือดร้อนในการทำนายของผม"

"ในส่วนของการกราบเท้าในวันนั้น ผมอยากจะกราบขอโทษจริงๆ ไม่ใช่ตั้งท่าไปอย่างนั้นครับ อยากจะยืนกราบแต่จะกราบให้ได้ต่ำที่สุด แหละครับ อยากจะกราบขอโทษจริงๆ ส่วนเรื่องฟ้องร้องผมก็อยากจะบอกว่า ผมก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร"

ยืนยันจะไม่มีการฟ้องกลับหนุ่มแมทธิว ที่พาดพิงว่าไม่ใช่หมอดูแต่เป็นหมาดูมากกว่า"มาตอนนี้คงไม่มีการฟ้องกลับอะไรแล้วล่ะครับ คงไม่มี"

ส่วนกรณีขู่ฆ่าเจ้าตัวเชื่อเป็นมือที่สามสร้างสถานการณ์มากกว่า..."ก็มีโทรมาครับ แต่ว่าคาดว่านย่าจะเป็นมือที่สามที่ต้องการการปั่นป่วนมากกว่า"

หมอกฤษฏ์ยอมรับในตอนท้ายว่าทำนายผิดและจะไม่ออกทีวีพูดเรื่องลีเดียอีก ให้รายการ "วู้ดดี้เกิดมาคุย" เป็นรายการสุดท้าย แต่หากเจอกันกับคู่กรณีก็อยากทำความเข้าใจ
"อยากจะบอกน้องลีเดียว่า ครอบครัวว่าผมขอโทษต่อไปในการทำนายหากพาดพิงคนอื่นก็จะระวังส่วนการทำนายออกรายการทีวีนอกจากนี้ ก็จะมีรายการวันอาทิตย์อีกแค่วันเดียวเท่านั้นครับที่จะไปออก ที่เหลือพี่น้องสื่อมวลชนตรงนี้ผมต้องกราบขอโทษด้วยที่จะไม่ขอพูดเรื่องราวดังกล่าวอีกต่อไป เพราะไม่อยากพาดพิงใครแล้วครับ ที่ผ่านมาก็คงต้องยอมรับครับว่าเป็นการทำนายอย่างผิดพลาด"

ขณะเดียวกันค่ำวันนี้ ในงานเปิดตัวร้านไอศกรีมงานหนึ่ง ที่เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน เจอหน้าพิธีกรชื่อดัง "วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา" เผยว่าหมอกฤษฏ์สำนึกผิด ร้องไห้กลางรายการและขอโทษครอบครัวลีเดีย และส่วนตัวแล้วอยากขอโอกาสให้กับหมอกฤษฏ์ พร้อมโต้ข่าวสั่งหมอกฤษฏ์ไม่ต้องออกมาพบสื่อ ให้พูดในรายการตัวเองอย่างเดียว

ขณะเดียวกันค่ำวันนี้ ในงานเปิดตัวร้านไอศกรีมงานหนึ่ง ที่เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน เจอหน้าพิธีกรชื่อดัง "วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา" เผยว่าหมอกฤษฏ์สำนึกผิด ร้องไห้กลางรายการและขอโทษครอบครัวลีเดีย และส่วนตัวแล้วอยากขอโอกาสให้กับหมอกฤษฏ์ พร้อมโต้ข่าวสั่งหมอกฤษฏ์ไม่ต้องออกมาพบสื่ออื่น ให้พูดในรายการตัวเองอย่างเดียว

"คงเป็นแค่ข่าวลือครับ ผมไม่ได้ให้เขายกเลิกงาน เพราะคิวของกฤษฏ์เขาล็อคไว้แล้วเป็นเดือนแล้วครับ เป็นวันที่จะรวมเป็นเทปพิเศษบุคคลในรอบปีอยู่แล้ว ไม่ทราบเรื่องล็อคเรื่องอะไรทั้งสิ้น ผมว่ามันเป็นแค่เรื่องลือๆกันมากกว่าและขอยืนยันว่ามันเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นครับวู๊ดดี้ไม่มีอำนาจในการล็อคใครทั้งสิ้นบอกเอาไว้เลย เพราะผมก็เป็นแค่ปลาเล็กในวงการนี้ผมไม่มีอำนาจและผมไม่คิดว่าถ้าผมมีผมจะทำตรงนั้น ดังนั้นผมมองว่าทีมงานเชิญกฤษฏ์มาแล้ว กฤษฏ์ก็ให้เกียรติมาในรายการแล้วเขาจะมาหรือไม่มาออกรายการก็เป็นการตัดสินใจของเขา"

ไม่มีเจตนาให้ชิงตัวไม่ให้ไปออกรายการ "สยามทูเดย์" ทางช่อง 5
"ผมคงไม่ต้องเคลียร์ครับ ผมคิดว่าพี่ณวัฒน์เขาคงไม่คิดร้ายหรือต้องเคลียร์อะไรกัน เพราะผมทำงานตรงนี้มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนหนึ่งจะไปออกรายการนู้นรายการนี้และผมก็เป็นเพียงแค่รายการหนึ่ง ฉะนั้นเนี่ยผมยินดีที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว ผมก็ไม่อยากให้มองว่าเป็นการทะเลาะกันระหว่างรายการหรือระหว่างช่องอะไรอย่างนี้ เราทำงานเพื่อช่วยเหลือกันไม่ได้ มาแก่งแย่งชิงดีกัน และที่สำคัญขอย้ำเลยว่าให้มองภาพความเป็นจริงว่าวู้ดดี้เป็นรายการเล็กๆและไม่มีสิทธิ์ไม่มีอำนาจจะไปดึงใครที่ไหนมาออกรายการ"

"คือไม่ทราบครับ ว่าเป็นรายการสดหรืออะไรเพราะว่ารายการผมล็อคไว้อยู่แล้ว หลังจากถ่ายทำกันเสร็จแล้วเขาก็แยกกันไป ผมไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว ผมก็เตรียมตัวมางานนี้แล้วครับ"

บอกส่วนตัวไม่ได้สนิทกับหมอกฤษกฏ์แต่ล็อคเวลาไว้นานแล้ว แค่เปลี่ยนเรื่องคุย
"ไม่สนิทกันครับ กฤษฏ์กับผมนี่คือหน้าจออย่างเดียวหลังจากหน้าจอ ก็มีคุยกันบ้างทางโทรศัพท์และก็ไม่ได้เจอเขามาหลายเดือนแล้วด้วย จนกระทั่งล่าสุดมาเจอกันวันนี้แล้วก็เคลียร์กันทุกอย่างว่าอะไรอย่างไร"

"ผมไม่ได้ชิงครับ พูดตรงๆเลยนะวันนี้ผมยังช็อคมีหลายคนมาถามผม แต่มันเป็นอะไรที่ปกติมาก ก็โทรนัดผมกฤษฏ์จะมา 11 โมง ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีเหตุการณ์ชิงตัวอะไรทั้งนั้นแหละครับเพราะตอนนี้มันก็เป็นเรื่องปกติที่ตอนนี้เขากำลังเป็นข่าวมั้งครับที่ดูว่าเป็นการชิงตัวแต่คือวู้ดดี้ล็อคคิวไว้นานมาก ใช่ครับถ่ายทำวันนี้ล็อคมานานมากแล้ว แต่เรื่องการคุยอาจจะเปลี่ยนนิดหน่อย"

เผยหมอดูชื่อดังร้องไห้ขณะอัดรายการที่จะออกอากาศ บอกสังคมจะให้อภัยหรือไม่ต้องตัดสินใจเอาเอง

"เขาร้องไห้ครับ บรรยากาศเขาก็รู้สึกผิดแหละครับ ง่ายๆก็คือเขาก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแหละครับ เขาเป็นเด็กคนหนึ่งที่รู้สึกแย่ และเขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง และซึ่งผมก็คิดว่าเขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ปากเขาอาจจะไปไกลไปหน่อยแค่นั้นเอ'แต่อยู่ที่สังคมจะให้อภัยเขาได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง อันนี้ก็ต้องคอยดูกันวันเวลาจะพิสูจน์ ใช่ตอนสัมภาษณ์ก็มีคัทบ้างเพราะเขาก็คอยแต่จะร้องไห้ตลอดเวลาไม่งั้นมันจะคุยไม่รู้เรื่องไงครับ เขาก็รู้สึกผิดครับ เขารู้สึกแย่เท่าที่ผมเห็นแต่คำพูดเขาพูดอะไรบ้างผมจำไม่ได้ แต่สรุปง่ายๆก็คือเขาก็ได้ขอโทษไปทางฝั้งนั้นครับ"
"สังคมจะให้อภัยหรือไม่ให้ผู้ชมตัดสินกันเองดีกว่า ผมก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้ อันนี้คือเขาพลาด เขาพลาดจริงๆเขาก็รู้ว่าเขาพลาดนะครับ เขาไม่พลาดที่เขาทำนายหรอก แค่เขาทำนายผิดที่ผิดเวลา ผิดโอกาสกับผิดคน อันนี้ก็เลยให้คำแนะนำไปว่าก็อาจจะต้องดูหน่อย คุณจะพูดถึงใครอะไรอย่างไรต้องมีการเช็คอย่างถี่ถ้วน หรือขออนุญาตให้เขาอนุญาตก่อนทุกคนจะดีครับ"

บอกขณะสัมภาษณ์ยอมรับสงสารหมอกฤษฏ์ เผยภาวนาขอให้สังคมไทยให้โอกาสเด็กคนนี้
"ตอนสัมภาษณ์เขาก็เบาลงก็แบบพี่วู้ดดี้ครับ เราก็สงสารนะครับ เราก็พูดตรงๆ เราสงสารทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ หน้าที่เราก็คือเราทำอย่างไงก็ได้ให้เรื่องทุกอย่างมันยุติ เป็นสื่อกลางที่จะทำให้สังคมมันดีขึ้นครับ พ่อแม่ลีเดียจะเคลียร์หรือเปล่าผมพูดไม่ได้ ไม่ทราบว่าเขาจะรู้สึกยังไง ก็ได้แต่ภาวนาว่าทุกอย่างมันน่าจะดีขึ้นกับสังคมไทยเมื่อเด็กสำนึกผิดแล้วผมก็คิดว่าทุกคนคงจะให้โอกาสเขาอีกครั้งนึงนะครับ

"ไม่กลัวครับ ไม่กลัวมีปัญหาตามมาเพราะว่า มันไม่มีอะไรต้องกลัว ทุกเรื่องที่ทราบก็ทราบจากนักข่าวเนี่ยก็เลยยังอึ้งๆอยู่ ว่าจะยังไง แต่จะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตาม แต่ถ้ามีปัญหาก็คงต้องโทรคุยกัน เพราะว่าเรื่องแบบนี้แค่คุยกันมันก็จบมันไม่มีอะไร"

โต้ข่าวรายการหลุดผังแค่ข่าวลือเท่านั้น

"มันคงเป็นแค่ข้างลือนะครับ เพราะว่ารายการเราอยู่ต่ออยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางอันที่อยากได้เวลาไป ซึ่งเราก็พยายามที่จะไม่คิดเพราะเราอยากมองโลกในแง่ดีบ้าง เราไม่อยากคิดว่าเราเป็นโจทก์กับใคร เพราะเราทำงานแล้วเราก็มีความสุข แล้วเราก็พูดตรงๆคือว่าถ้าเขาใช้ทุกวิถีทางที่จะเอารายการไป เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ เพราะว่าโลกนี้มัน ไม่มีอะไรจีรัง่งยืน เราแค่มีความสุขกับทุกวันที่อยู่ไปก็ดีแล้วครับ"

"ผู้ใหญ่มีจดหมายอะไรเราคุยกันไปเรียบร้อยแล้ว มันจบไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้วผมก็เลยงงว่ามันมาจากไหน แต่ถ้าเกิดมันถึงวันปีใหม่แล้วหลุดผังเนี่ยก็ให้มันรู้ไปครับ เพราะว่าผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไงแล้ว ก็คงร้องไห้เสียใจเพราะว่าเราตั้งใจทำรายการนี้มามาก แล้วเราก็ไม่ขออะไรแค่ขออะไรเล็กไปเราขออะไรมาก และถ้าไอ้เล็กๆแค่นี้มันยังไม่ได้เนี่ย ก็แสดงว่าผมก็ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในวงการ ผมไม่ควรเป็นพิธีกรแล้วก็เวทีตรงนี้มันไม่เหมาะแค่นี้ผมยืนไม่ได้ก็รู้สึกแย่ครับ "

บอกรายการไม่เน้นแรงอย่างเดียว บอกอยากให้ดูเนื้อหารายการไม่ใช่ความแรง
"บางเทปถ้ามันเสียดสีสังคมก็จะมีการคุยกันแต่ตั้งแต่กลางปีก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลยเรื่องทุกอย่างมันก็ปกตินะครับ เราก็นั่งคุยกันปกติไม่ได้ต้องมานั่งเคลียร์อะไรมากมาย ถ้าสังเกตุดีๆมันแรง แค่ประมาณ 3 เทปในรอบ 1 ปีที่ผ่านมามีแค่ 3 เทปที่คนพูดถึงและเทปอื่นมันก็ไม่มีอะไรแรงเลย และผมมองว่าอย่าดูแค่ข่าวนะครับ ต้องดูเนื้อผ้าเนื้องาน เนื้อเทป"