“ตั้ว ศรัณยู” เปิดใจรับตำแหน่งแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 บอกหัวจิตหัวใจอยู่ตรงนี้ให้ทำอะไรเพื่อภารกิจสำเร็จก็ยอม ไม่หวั่นผลกระทบเรื่องงาน เผยถึงไม่ได้เป็นแกนนำก็ไม่ได้ต่างอะไร ลั่นมาถึงขนาดนี้แล้วไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่น 2 ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ “ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง” โดยมีการขึ้นเวทีในฐานะแกนนำรุ่นสองเมื่อคืนที่ผ่านมา (23 พ.ย.51) ซึ่งดารานักแสดงชื่อดังที่ร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ มาโดยตลอดได้เปิดใจถึงการรับภาระหน้าที่ครั้งสำคัญว่า เป็นภารกิจที่ต้องปฏิบัติร่วมกัน บอกหัวจิตหัวใจอยู่ตรงนี้ให้ทำอะไรเพื่อภารกิจสำเร็จก็ยอม ไม่หวั่นผลกระทบเรื่องงาน เผยถึงไม่ได้เป็นแกนนำก็ไม่ได้ต่างอะไร ลั่นมาถึงขนาดนี้แล้วไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
“เป็นเรื่องที่ผมไม่รู้เรื่องมาก่อน พี่สนธิ (สนธิ ลิ้มทองกุล) โทร.มาบอก และอาจารย์สมเกียรติ (สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์) ก็บอกว่ามาช่วยงานหน่อย ผมไม่คาดคิด ไม่คาดคิดมาก่อน ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ก็ยังบอกเลยว่าขอขึ้นเวทีก่อน เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมต้องเป็นยังไง มันยังไม่ชัดเจน แต่ก็พอจะประเมินได้ว่าการนัดหมายครั้งนี้มวลชนมันเยอะก็อาจจะต้องมีการแบ่งความรับผิดชอบในแง่ที่อยู่กับมวลชนต่างๆ กันไป ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้”
“สรุปแล้วก็คือตั้งขึ้นมาเพื่อ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวเขาใช้มาเราก็ช่วยทำเท่านั้นเอง ผมว่ามันก็คงไม่ได้ผิดไปจากที่ทำอยู่ในตอนนี้ ผมเองก็มาที่นี่อยู่แล้ว มาคลุกคลีกับพี่น้องอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว หัวจิตหัวใจของผมก็อยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอดูว่าเขาจะให้เราทำอะไรบ้างเท่านั้นเอง”
“กับการขึ้นเป็นแกนนำในครั้งนี้ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเราไม่ได้ขึ้นเป็นแกนนำเดี่ยวๆ ก็เข้าใจได้เพราะเดิมก็มีแกนนำรุ่น 2 อยู่แล้ว คือถ้าในแง่ภาพถ้าจู่ๆ ไม่เคยแต่งตั้งใครแล้วแต่งตั้งเราขึ้นไปเทียบเคียงก็คงเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ครั้งนี้ก็เข้าใจได้โดยรูปลักษณ์คือ เขาแต่งตั้งเราเพื่อไปช่วยงานในส่วนของเรา”
“ผมก็ทำตัวเหมือนเดิมครับ ก็ยังขึ้นเวทีพร้อมกับน้าซูเหมือนเดิม ทางเวทีให้ช่วยปลุกเร้ามวลชนก็ยังเหมือนเดิมก็เป็นปกติอยู่แล้ว วันนี้สเกลของผมมันอาจจะใหญ่ขึ้น แต่มันใหญ่ขึ้นในแง่ที่ถูกเลือกมาให้เป็นแกนนำมันใหญ่ขึ้น แต่ในวิธีการผมคงจะไปไม่ถึงในการกำหนดบทบาทการเคลื่อนไหว”
“แต่ที่ผมเป็นหนึ่งในตรงนั้นหมายความว่า ความเข้าใจตรงนี้คือ ถ้าแกนนำเขากำหนดบทบาทการเคลื่อนไหวตรงไหนก็จะต้องมีคนเอาไปปฏิบัติต่อ เราก็ประสานงานตรงนั้น ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นนะครับ เพราะถ้าไปมากกว่าผมก็คงไปได้แค่วุฒิภาวะที่เรามี จริงๆ แล้วภูมิรู้บนเวทีความรู้สึกร่วมตอนนี้หลายๆ คนเท่ากันหมด มันจะ 200 วันแล้วทุกคนมีความรู้เท่ากันหมด มันเลยจุดๆ หนึ่งไปแล้วการขับเคลื่อนแค่มองหน้าก็รู้กันหมดแล้ว
กับภารกิจตรงนี้ผมไม่หวั่น ยังไงทุกคนจะต้องไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้เพื่อให้จบให้ได้ เพราะฉะนั้น อยากให้มันรู้เรื่องเร็วๆ ชนะให้มันเบ็ดเสร็จเพราะมันยาวนานเหลือเกิน เพราะถ้าหากให้อยู่นิ่งๆ แล้วก็ตายไปสองวันคนๆ บาดเจ็บสองวันคนๆ มันไม่ไหวหรอกครับ แล้วบ้านเมืองมันจะพิพากษา สังคมจะปล่อยให้บ้านเมืองมันเป็นแบบนี้ก็แล้วแต่ เราก็ทำเต็มที่เท่าที่เราทำได้ และการที่เราทำเต็มที่อยู่ได้มาเกือบ 200 วัน ภาระอะไรที่เขาจะมอบให้เราทำเราก็พร้อมยินดีที่จะทำ และก็เชื่อว่าทุกคนก็พร้อมที่จะทำ ฉะนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นแกนนำรุ่นสองตอนนี้ทุกคนก็เท่าๆ กันหมด”
แกนนำที่ขึ้นปราศรัยแต่ละคนล้วนผ่านประสบการณ์ในการต่อสู้มาหลายเวทีเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ในขณะที่ “ตั้ว ศรัณยู” คร่ำหวอดในวงการบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ การรับตำแหน่งแกนนำพันธมิตรฯ ครั้งนี้จึงเป็นภารกิจที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว
“ผมคิดว่าถ้าเขาเลือกผมมาเป็นแกนนำ เขาคงไม่ได้อยากเลือกใครซักคนที่ปราศรัยได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นโอ้โห...เยอะแยะเลย ถ้าเขาเลือกผมแล้วหวังจะให้ผมไปปราศรัยอย่างดุเด็ดเผ็ด มันก็คงไม่ใช่บุคลิกผม ดังนั้น ผมคิดว่าเขาคงมองเห็นว่าผมจะสามารถช่วยอะไรเขาได้ในช่วงที่แกนนำต้องการมากกว่า ก็แล้วแต่ผู้ใหญ่จะมอง ผมถึงได้บอกว่าเราอยู่ตรงนี้มานานแล้วฉะนั้นอะไรก็ได้แล้ว ให้เป็นอะไรก็ได้เพื่อภารกิจมันจะเสร็จสิ้นเท่านั้นเอง”
“สำหรับเรื่องบทบาทตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่คาดว่าเดี๋ยวคงได้คุยกัน ผมพึ่งจะทราบข่าวเมื่อตอนเช้านี้เอง (23 พ.ย.) แต่ที่มาขึ้นเวทีเมื่อตอนกลางวันเพราะพี่สำราญได้ขอเอาไว้ให้มาที่สภาท่าพระอาทิตย์หน่อยเพราะมวลชนจะมาเยอะ ก็ให้มาเชียร์กันหน่อย ผมก็มาถึงแต่พอจะขึ้นเวทีก็เพิ่งจะรู้ว่าจะได้เป็น”
“พอทางเวทีประกาศออกไปปุ๊บ ลูกเมียก็โทร.มาเลยเป็นแกนนำแล้วเหรอๆ คือมีคนโทร.เข้าไปบอกทางครอบครัว ลูกผมมีภารกิจไปเล่นดนตรีที่เคพีเอ็นก็โทร.มาบอกว่า มีคนโทร.บอกว่าพ่อจะขึ้นเป็นแกนนำ เขาก็บอกว่าเขาเป็นห่วง ผมก็บอกไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เขาก็ถามว่าเป็นแกนนำแล้วจะติดคุกไหม ผมก็บอกว่ามันไม่เกี่ยว ก็อธิบายให้เขาฟังว่า มันก็ทำเหมือนที่เราทำตอนนี้แหละ เพียงแต่อาจจะช่วยงานมากขึ้นเท่านั้นเอง”
“มันมาถึงขนาดนี้แล้ว มันกั๊กไม่ได้แล้ว ถึงแม้ผมจะอยู่เฉยๆ มันก็ไม่ได้ล้างภาพเพราะหัวใจผมอยู่ตรงนี้ มันเลยขั้นนั้นมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือไม่เป็น ผมก็ยังอยู่ตรงนี้มันไม่ได้ต่างอะไร เพียงแต่มันเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้นว่าเราจะได้รับมอบหมายให้ทำอะไร”
“เปิ้ล (หัทยา วงศ์กระจ่าง) ก็เข้าใจ ผมก็อธิบายให้ฟังเหมือนกัน จะ 200 วันแล้วเขาไม่เข้าใจไม่ได้หรอก เป็นห่วงเขาก็เป็นห่วงแหละครับ แต่ความเข้าใจมันได้ถูกอธิบายความไม่เข้าใจมานานแล้วครับ”
ก่อนนี้ “ตั้ว ศรัณยู” เข้ามาร่วมกับพันธมิตรฯ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องกันเมือง แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานภาพในการเป็นแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 การที่ขึ้นมายืนแถวหน้าแบบนี้อาจส่งผลกระทบกับเรื่องงานไม่น้อย
“ผลกระทบเรื่องงานมันไม่ต่างกันหรอกครับ มันจะต่างกันยังไง สมมติผมไม่ได้เป็นแกนนำ ไอ้ภาพที่ผมอยู่ตรงนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ก็แล้วแต่คนจะมองครับ ขนาดผมยังไม่ได้เป็นแกนนำน้าเสกยังบอกเลยว่า มีคนพูดว่าใครเจอไอ้หงา (สุรชัย จันทิมาธร) ไอ้ตั้ว ไอ้ซูที่ไหนให้อัดมันเลย ในเว็บมันก็มีด่า จะไปห่วงอะไรตรงนี้ ผมเองไม่ใช่เพิ่งจะมาสองวันแล้วโดนเรียกขึ้นไป”
“การที่ผมมาขนาดนี้ไม่ต้องขึ้นเป็นแกนนำ หน้าผมมันมาทางนี้อยู่แล้ว ผมไม่ได้กังวลอะไรทั้งนั้นเลย ถ้างานมันจะโดนอะไรก็ให้มันโดนไปสิ จะให้กลัวห่าอะไรเล่า ถ้ากลัวมาไม่ถึง 200 กว่าวันแบบนี้หรอก ผมไม่หวั่นถ้ากลัวจะมาทำไมต้อง 180 กว่าวันแล้ว คำถามนี้ลืมไปเลย ผมมาไกลขนาดนี้แล้ว”
“ตอนนี้เราอยู่มาตรงนี้ขนาดนี้แล้ว ก็ไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนก็น่าจะเข้าใจได้แล้ว ก็น่าจะเลือกได้แล้วว่าจะอยู่ข้างไหนอย่างไร ถ้าใครที่เห็นด้วยกับทางนี้แล้วยังนิ่งเฉยๆ อย่าอยู่เฉยๆ นะครับ ชีวิตนี้จะรออะไรก็รอได้ รอแดดออก รอฝนตก รอน้ำท่วม รอเก็บเงินให้ได้มากกว่านี้ รอผู้หญิงตอบรับ รอออฟฟิศตอบรับงาน อยากจะรออะไรก็รอไปเถอะครับ แต่นี่คือสิ่งที่รอไม่ได้ จะรอให้ไอ้รัฐบาลชุดนี้มันมีจิตสำนึกในบาปและออกไปเองมันรอไม่ได้แล้ว”