"ตั้ว" งดเล่นละครเวที ลั่นยอมไม่ได้ สู้มือเปล่าแต่ประชาชนโดนรังแก

"ตั้ว ศรัณยู" งดเล่นละครเวที ขอกู้ชาติร่วมแสดงพลังชุมนุมใหญ่ 23 พ.ย. นี้ เพราะไม่มีจิตใจจะเล่น บอกเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่ต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรม ต่อสู้มือเปล่าแต่โดนรัฐบาลทรราชใช้ความรุนแรงใส่ แนะประชาชนนิ่งไม่ได้เมื่ออำนาจอยู่ในมือคนกระทำผิด

เพิ่งเปิดรอบฉายการแสดงวันนี้ (19 พ.ย.) วันแรกสำหรับ "ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง" พระเอกกู้ชาติตัวจริง ที่ร่วมแสดงพลังเคียงข้างประชาชนกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด แม้ว่าจะต้องติดการเล่นละครเวทีเรื่อง "ทึนทึก2 ...40 ปีผ่านคานเพิ่งขยับ" ที่กำลังเปิดการแสดงที่เอ็มเธียร์เตอร์ อยู่ในขณะนี้ และมีรอบการแสดงถึงวันอาทิตย์นี้

อย่างไรก็ตาม "ตั้ว ศรัณยู" ยืนยันแล้วว่าในวันชุมนุมใหญ่ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย. นี้ ตนไม่สามารถแสดงละครเวทีต่อไปได้อีก เพราะต้องการออกมาชุมนุมกู้ชาติ ทำสงครามครั้งสุดท้ายกับรัฐบาลทรราชหลังใช้ความรุนแรง และเพิกเฉยต่อการเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมหลังโดนปาระเบิดใส่จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

"วันอาทิตย์งดเล่นครับ อยู่ไม่ได้ บอกแล้วตั้งแต่เริ่มต้นเลยสำหรับทีมงานเพราะเราเล่นมาหลายรอบแล้ว ก็เลยบอกเขาตรงๆว่าเรามีภารกิจการชุมนุม ไม่มีใจจะเล่น แต่เขาก็อยากให้เล่น มันก็เลื่อนมาเเรื่อยๆ แต่เราเองก็ขอไม่เล่นเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ทีนี้ทางเจ้าของละครเขาก็บอกโอเคว่าถ้ามันเกิอดอะไรขึ้นเขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ยอม ซ้อมก็ไม่เยอะครับ เราก็เกรงใจเขาตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานแล้วบอกเขาแล้วว่า วันอาทิตย์ผมคงเล่นไม่ได้นะ"

"วันอาทิตย์นี้มีสองรอบ แต่เราบอกเขาแล้วว่าเราขอ ใจมันไม่ไหวจริงๆ ทางเขาก็คงจะโอเคโดยทั่วไปถ้าเกิดปํญหาในละครเวที เขาจะมีอันเดอร์สตั๊ดดี้ มีดับเบิ้ลแคส ที่นักแสดงมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุ ป่วยหนัก กะทันหัน มันมีอยู่แล้ว แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าผมไม่ใช่ เกิดอะไรขึ้นก็ตามก็แก้ปัญหาตรงนั้นได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะงดรอบไปเลยหรือไม่"

"ก็คงเป็นปัญหาประมาณหนึ่ง แต่ผมคิดว่าปัญหาชาติบ้านเมืองมันสำคัญกว่า แล้วเราก็บอกล่วงหน้าแล้ว บางคนก็คิดว่าทำไมไม่มาโชว์ให้มันจบๆ เดอะโชว์มัสโกออน ผมว่ามันไม่ใช่หรอก ปัญหาข้างนอกมันไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว ไม่ใช่ขโมยขึ้นบ้านไฟไหม้ หรือเกิดอะไรแบบนี้นี่มันปัญหาชาติ"

"สิ่งที่เราพูดในที่ชุมนุม คือเราต้องการให้คนมา นี่มันครั้งสุดท้ายแล้ว ในภาวะบ้านเมืองแบบนี้ ชัดเจนว่าเราสู้มือเปล่า เราเดียวดาย เราก็ขอให้ประชาชนมาให้มากที่สุด มันครั้งสุดท้ายที่ว่า มากที่สุดเราไม่รู้ว่ามากที่สุด มันเมื่อไหร่ แสนนึง สองแสน หรือล้านคน แค่ไหนมันถึงชนะ มันไม่รู้คือรู้ว่ามาแค่ไหนก็ตามมันก็จบ ถ้าแพ้ก็ยกประเทศให้เขาไป หรืออะไรซักอย่าง มันต้องการแค่นั้น เป้าหมายมันมีการรวมตัวแล้ว ผมจะมาภาคบันเทิงของคนอีกส่วนหนึ่งก็คงไม่ได้ มาอยู่ตรงนี้ผมพูดได้อย่างเดียวว่าเราต้องพร้อมไปทำเนียบกัน อย่างเดียวมันไม่ได้ ผมอธิบายด้วยเหตุผล มันคนละส่วนกัน คนไทยเหมือนกัน ผมคงจะชวนไปทำเนียบมากกว่าที่จะมาดูละคร มันไม่ใช่มาสนุกแล้วเดี๋ยวค่อยไป"

"ตั้ว ศรัณยู" บอกยอมไม่ได้หลังจากประชาชนโดนทำร้ายตายไปทีละคนๆ ทั้งที่ต่อสู้ด้วยอหิงสามือเปล่า แต่กลับโดนใช้ความรุนแรง

"ผมไม่รู้ว่าอะไรมันจะจบอย่างไรวันนี้ก็มีคนในวงการบันเทิง อยู่เบื้องหลัง วันนี้เขาก็บอกว่าเขาจะมา อยากให้ทุกคนรู้ว่าเหมือนที่ลุงจำลองบอกว่าครั้งนี้ มันครั้งสุดท้ายจริงๆ มันต้องจบเพราะว่าเรามือเปล่า เราะอยู่นิ่งๆ แล้วรอให้เขาเอาระเบิดมาลงใส่เรา แล้วตายไปทีละคนๆ มันไม่ได้ครับ มารวมกันอีกครั้งหนึ่งจะจบอย่างไรก็ต้องจบ อย่างน้อยมันก็ประกาศให้รู้ว่าสังคมเราตัดสินแบบนี้ แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะไปอย่างไรนะ แต่ผมก็จะทำในสิ่งที่ผมเชื่อ แล้วถ้ามันจบแบบไหน ก็แสดงว่าสังคมนี้ได้เลือกแล้วว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้"

"มันก็เรื่องที่ต้องสู้ เราผ่านมาหลายครั้ง หัวจิตหัวใจ คนที่ไม่ควรปล่อยให้เราสู้อย่างเดียวดาย ก่อนมานี่ก็แวะไปเคารพศพวีรชนที่โดนระเบิดเสียชีวิต เขาต้องมาตาย มันควรจะเอาความรู้สึกนี้มาจับในหัวใจคนให้รู้ว่ามันมีแบบนี้ ให้รู้ว่าเราควรจะปล่อยทุกอย่างเป็นแบบนี้หรือ คือมันคือสิ่งเดียวที่ผมต้องมา อย่างไรเสียผมก็เล่นละครไม่ได้"

วอนร่วมกันแสดงพลังต่อสู้รัฐบาลบ้าอำนาจ อย่านิ่งเฉย บอกหากมาร่วมชุมนุมมาก อีกฝ่ายคงไม่กล้าใช้ความรุนแรง

"คนซึ่งไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ หรือเห็นแย้งกันเนี่ยก็มีความเข้มในความรู้สึกต่อต้านเยอะขึ้น ทีนี้พอมันมีความรุนแรงเข้ามา หลายคนก็กลัว ถึงบอกว่าเข้าใจว่ากลัว แต่ว่ามันก็คือครั้งสุดท้ายแล้ว มันลำบากแล้ว มีทั้งคนกลัว ทั้งไม่อยากมา ขอเชียร์ข้างนอก แต่คนอีกฝ่ายเขาก็เดินทางของเขา เขาก็ไม่ใช่ขี้ ๆ เขาก็ทุ่มหมดหน้าตัก แต่ไอ้ที่เขาทำ มันไม่ถูกต้อง มันต้องหลีกเลี่ยงทุกอย่าง ที่จะเอาอำนาจเข้าตัวยอมไม่ได้"

"คงไม่อยากให้มีความรุนแรง แต่ว่าผมไม่รู้ว่ามันจะจบอย่างไร มันไม่มีใครอยากให้มี เรามือเปล่าแท้ๆ แต่พวกคุณยังใช้ความรุนแรงมันก็อยู่ในสภาพส่วนอื่น แล้วคุณพอใจหรือ ที่อีกฝ่ายใช้ความรุนแรง แล้วเรายอมแพ้ ต่อไปสังคมนี้มันจะช่วงชิงประโยชน์และชัยชนะ ใครจะเข้าครอบครอง ตัวเองจะให้ขึ้นสู่อำนาจ ตรงนี้ไม่ถูก ถ้าเขาใช้ความรุนแรงแล้วไม่มีใครช่วยได้ แล้วสังคมบอกเลิกเถอะ อย่าพาคนไปเดือดร้อน ก็ให้มันรู้ไปว่ามันต้องเป็นแบบนั้น"

"อย่างที่ผมบอกว่า ผมไม่ขออะไรมาก ขอให้มาให้เยอะ แต่ถ้าจะถามว่ามาแล้วมาได้อะไร จะชนะอย่างไร มันตอบไม่ได้ มันอยู่ที่ปรากฎการณ์ในวันนึ้น มันอยู่ที่ว่าเราได้มาหรือไม่ มาชั่งใจหรือไม่ เกือบ 200 วันที่ผ่านมา มันชัดเจนใครอยู่ฝ่ายไหน เป็นกลางเนี่ยมันจบได้แล้ว มันต้องเลือกข้าง ถ้าอยู่ข้างเทิดทูนสถาบัน ก็ต้องมา เชียร์ผ่านจอทีวีมันก็ไม่เกิดประโยชน์ "

" ผู้อยู่ในความชั่วร้าย มันจะชนะได้ ถ้าเรานิ่ง มันนิ่งอยู่ไม่ได้ มันเปิดให้ความชั่วร้ายเข้ามา อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด จะบอกว่าปลอดภัย มันก็พูดได้ไม่เต็มปาก แต่เชื่อว่าเรามาเยอะ เขาไม่น่าจะทำอะไรเราได้ สังคมไม่ปล่อยเราครับ มันไม่สามารถทำให้คนเป็นแสน เป็นล้านคนตาย คนในสังคมยอมหรือ ประเทศนี้ยอมหรือ โดยเฉพาะผู้อยู่ในศักยภาพ หรือมีกำลังที่จะจัดการ ก็ต้องอะไรซักอย่าง แต่ถ้ากลัวแล้วไม่มา มาแค่หมื่นคน ก็แสดงว่าประเทศนี้ยอมให้เขาไปเถอะ ถ้าเห็นข้อมูลชัดเจนว่าบ้านเมืองอยู่อย่างไร ข้างไหน ต้องเลือกอย่างไร ก็ต้องมา ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ผมไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ใครทำอะไรได้ต้องทำน่ะ มันนิ่งไม่ได้แล้ว"

บอกแม้ว่าสงครามครั้งนี้จะยากเย็นในการกำจัดนักการเมืองที่เอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง "ตั้ว" ย้ำยิ่งกำจัดยากยิ่งต้องเริ่มรู้ทัน ถอยไม่ได้ ลั่นไม่เห็นด้วยจะออกกฎหมายอุ้มคนผิด

"มันคงไม่หมดสิ้นหรอกครับ คือถ้าเราคิดว่ามันยาก มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่เราต้องถอย หรือท้อ หรือยอมแพ้ ยิ่งยากเราต้องเริ่มกำจัดขึ้นที่ 1 ให้ได้ ไม่งั้นประเทศมันก็ไม่เดินไปทางไหน วนเวียนอยู่กับพวกใช้อำนาจเงิน ซื้ออำนาจให้ตัวเอง มีอย่างที่ไหนคนถูกตัดสินให้ติดคุก แล้วมารณรงค์ให้ออกพรบ.ปรองดองแห่งชาติ ชาติอะไร มันไม่ได้น่ะ เราจะยอมให้ประเทศชาติเป็นแบบนั้นหรือ"