"โบว์" หน้าเจื่อนตอบคำถามไม่ถูกกรณีตกเป็นข่าวมือที่สามแย่ง "โดม" จาก "พลอย" เผยเสียใจกับข่าวถึงขั้นร้องไห้ อึงกิมกี่หลังรู้ข่าวว่าพลอยอยากฟังว่าตัวเองจะตอบคำถามกับสื่ออย่างไร เผยตอนนี้เลิกคุยกับโดมแล้วเพราะไม่อยากตกเป็นข่าวฉาว
หายหน้าไปนานเลยทีเดียวหลังจากตกเป็นข่าวมือที่สามแย่ง “โดม ปกรณ์ ลัม” จากอก “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” แต่ล่าสุด “โบว์ อัจฉราภรณ์ อินทรสกล” ก็โผ่ลมาเดินแบบที่ฟิวเจอร์พาร์ค งานนี้ก็เลยโดนผู้สื่อข่าวยิงคำถามเป็นชุดเล่นเอาเจ้าตัวตอบคำถามไม่ถูกเลยทีเดียว
"รู้สึกแย่กับข่าวนี้มากเลยค่ะ เพราะว่าโบว์ไม่ได้คิดจะไปเป็นมือที่สามจะไปแย่งใคร โบว์ไม่ใช่ดาราไม่ใช่คนดังอะไร ถึงต้องมาเจอข่าวแบบนี้โบว์รู้สึกแย่มาก แต่ถึงจะปฏิเสธไปแล้วแต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นมือที่สามอยู่ดี อันนี้ก็ห้ามความคิดคนเราไม่ได้ แต่โบว์ก็บอกไปแล้ว แล้วพี่เขาก็ออกมายืนยันแล้ว"
ยืนยันความสัมพันธ์กับ “โดม” เป็นแค่พี่น้องกัน
"กับพี่โดมเป็นพี่น้องกันค่ะ คุยกันตามปกติ เป็นเหมือนเพื่อนเหมือนพี่ทั่วๆ ไป แต่ตอนนี้นานๆ ทีจะติดต่อกัน คือไม่ได้ติดต่อกันแบบสนิท ก็เหมือนพี่น้องทั่วๆ ไป รู้จักตั้งแต่อยู่เชียงใหม่ พอดีพี่ของเพื่อนโบว์อีกทีเขาแนะนำให้รู้จักค่ะ ก็ไปเที่ยวกันบ้างนิดหน่อย ก็ไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่(เจอกันทีไหน) ที่ไหนจำไม่ได้ (ตามงานหรือเปล่า) ใช่ค่ะเจอกันตามงาน"
ช่วงแรกที่ตกเป็นข่าวเครียดถึงขั้นร้องไห้
"เสียใจค่ะ....เสียใจถึงขั้นร้องไห้ เพราะว่าการเป็นมือที่สามในสายตาของคนเรามันไม่ใช่เรื่องดีเลยค่ะ แต่โบว์ไม่ได้คิดที่จะทำแบบนั้น คนรอบข้างเวลาเราออกไปที่ไหนในช่วงนั้น เขาก็มองว่าคนนี้ไปแย่งของเขามาหรือเปล่า รู้สึกแย่ จนโบว์ไม่ค่อยจะอยากออกไปข้างนอก ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็เสียใจเหมือนกัน ที่มีข่าวแบบนี้ออกมากับลูกสาวตัวเอง แต่ท่านให้กำลังใจว่าความจริงก็คือความจริงเรารู้กันอยู่ไม่ต้องเครียดกับข่าวเพราะเราก็ยังมีคนที่รักเราอยู่”
พอผู้สื่อข่าวถามว่า “โดม” ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง เจ้าตัวถึงกับทำอึ้ง ผู้สื่อข่าวต้องทวนคำถามอยู่หลายครั้ง
“พี่โดมเขาก็บอกอย่าเครียด เพราะเราไม่ได้ทำ เรารู้กันอยู่ ไม่ใช่มือที่สาม แต่ตอนนี้ก็ยังเครียดอยู่ดี เพราะข่าวที่ออกมาก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่"
ยันไม่ได้หวังสร้างข่าวฉาวเกาะกระแส “โดม-พลอย” แจ้งเกิด
"โบว์ไม่คิดที่จะเกาะใครดังเลย เพราะโบว์อยู่ตรงนี้เป็นตัวของตัวเองสบายใจสุดแล้ว ทำไมต้องถีบตัวเองขึ้นไปให้ดังถึงขนาดนั้น คือในตอนนี้เรามีงานเรามีความสุขก็พอแล้ว แล้วโบว์ก็ทำใจและเตรียมรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นไว้แล้ว เพราะโบว์อยากทำงาน แล้ววันนี้ก็เป็นโอกาสที่มาพบปะพี่ๆ สื่อมวลชนด้วยเลยตัดสินใจมา แต่ก่อนหน้านี้ที่เก็บตัว เพราะช่วงนั้นโบว์เรียน เพิ่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ก็อยากจะปรับตัวอะไรหลายอย่างเลยไม่อยากรับงาน"
เปรยอยากให้ “พลอย” เข้าใจว่าตนไม่ใช่มือที่สาม
"ก็อยากให้พี่เขาเข้าใจนะคะ ว่าโบว์ไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็อย่ามองโบว์เป็นอย่างนั้นเลยเพราะมันรู้สึกไม่ดีต่อตัวเองและคนรอบข้างด้วย โบว์ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าให้รับงานคู่กันก็ได้ แต่อยากให้พี่เขาเข้าใจก็พอ"
ส่วนที่ “พลอย” ให้สัมภาษณ์ว่ารอฟัง “โบว์” จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องมือที่สาม เจ้าตัวก็เงียบอีกครั้ง ได้แต่ย้ำว่าไม่มีอะไรต้องเคลียร์
"ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เพราะเคลียร์ไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาพูดอะไรอีก แล้วโบว์ก็ไม่เคยเจอเขา เพราะพี่เขาก็ออกมาพูดแล้วว่าเป็นเรื่องของเขาสองคนไม่เกี่ยวกับคนอื่น โบว์ไม่ได้ทำอะไร ถ้าเจอก็คุยกับพี่เขาตามธรรมดา"
เผยตอนนี้ไม่ได้คุยกับ “โดม” แล้วเพราะไม่อยากตกเป็นข่าวอื้อฉาวอีก
"กับพี่โดม ไม่ได้คุยกันเลย เขาก็ทำงานของเขา โบว์ก็เรียนหนังสือค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย ที่บอกมีคนที่เชียงใหม่เห็นพี่เขากับโบว์เจอกันบ่อยๆ ไม่มีนะคะ เพราะว่าโบว์ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ต้นปี นานแล้ว แล้วข่าวก็มีส่วนนิดนึง"
"จริงๆ คนเราสามารถคุยกันได้ตามปกตินะคะ ไม่ว่าจะเป็นอะไรกันก็ตามแต่ว่าโบว์ก็เจอข่าวตรงนี้ ถือว่าหนักพอสมควรก็เลยมีความคิดนิดนึงที่ไม่ค่อยอยากจะไปยุ่งกับเขาเท่าไหร่ ไปไหนด้วยกันได้มั้ย..ยังดีกว่าค่ะ เพราะในตอนนี้คนก็ยังมองไม่ดีอยู่เลย อย่าดีกว่า"
"แต่ความสนิทก็ไม่ลด ไม่เกี่ยวกับข่าว ไม่ถึงขั้นต้องลดสถานะคือเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม ส่วนต่อไปมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์มั้ย ไม่รู้เหมือนกันค่ะ (ยิ้มเขินๆ) พี่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าเข้ามาจีบเลย มาอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เจอกัน ไม่มีรับส่ง ตอนนี้ก็คือโสดค่ะ มีคนเข้ามาคุยด้วยบ้าง ส่วนคนในหรือนอกวงการ ขอไม่บอกดีกว่า"
ยอมรับไปดู “โดม” เล่นคอนเสิร์ตจริง แต่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น
"ไม่ได้ไปเป็นการส่วนตัว คือไปเฉยๆ ก็คือไปดูคอนเสิร์ตพี่เขา แต่ไม่ได้ชวนกันไปสองคนนะคะ โบว์ไปกับเพื่อนโบว์อีกที่นึง แล้วพอดีติดกันพอดี แล้วเพื่อนโบว์ส่วนมากจะเป็นสาวประเภทสอง เขาก็จะชอบพี่โดมก็พากันไปดู โบว์ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าเขามีคอนเสิร์ตที่นั่น ไปเจอพอดี วันนั้นวันเดียวที่มีโอกาสเจอ"
