คิดได้ "โย" ย้ำหยุดความสัมพันธ์ "เอ๋" บอกเบื่อคนเห็นแก่ตัว เอือมที่ออกมาปกป้องอีกฝ่ายอยู่ข้างเดียว ลั่นไม่อยากแบกรับความทุกข์อีกแล้ว แจงนักการเมืองกับนางแบบไปกันไม่ได้ คบแล้วไม่สบายใจไม่คบดีกว่า เผยนัดเจอเมื่อไรงานเข้าตลอด เหน็บชีวิตเหมือนละครน้ำเน่าสุดเละเทะ ฟุ้งได้บทเรียนสาหัส พร้อมชี้รอยแผลที่หน้า ไม่ใช่โดนตบแต่เป็นผลจากเรียนต่อยมวย
แม้นางแบบสาวก้านยาว "โย ยศวดี หัสดีวิจิตร" จะเคยออกมาประกาศหยุดความสัมพันธ์กับ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" เพราะทนความอึดอัดกับข่าวกินน้ำใต้ศอกนักร้องเสียงคุณภาพ "ตู่ นันทิดา" ไม่ไหว ถึงขั้นเปรยว่าตนต้องแบกรับความทุกข์ไว้คนเดียวซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายชายไม่เคยปริปากช่วยแก้ข่าวตอบโต้ใดๆ
แต่ล่าสุดไม่วายมีข่าวว่าทั้งคู่ควงกันไปเที่ยวพัทยากันอีกรอบ เพื่อคลายความสงสัยผู้สื่อข่าวถามว่าหรือที่ผ่านมานางแบบสาวปล่อยข่าวเลิกคบกันหวังสร้างภาพลักษณ์ให้ฝ่ายชายที่กำลังจะเล่นการเมืองอีกครั้งด้วยหรือไม่ เรื่องนี้สาว "โย" เผยด้วยสีหน้าสุดเอือมแม้ปากจะบอกว่าตอนนี้มีความสุขที่สุดก็ตาม บอกเบื่อกับข่าวสุดๆ ลั่นใครจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับตนแล้ว
"จริงๆ ข่าวนี้ไม่อยากพูดถึงเบื่อ โยว่าโยพูดไปเยอะแล้วตอนนี้ก็ค่อยๆ ดูกันไปมากกว่า ตอนนี้โยทำแต่งานมากกว่า โยไม่ได้ไปพัทยาถ้าไปจริงๆ ไม่จำเป็นต้องไปกับเขานะไปกับใครก็ได้เพราะอยู่ใกล้มากถ้าเกิดเห็นโยกับเขาคงไม่ใช่แล้วมั้ง บางทีเราไม่อยากให้เป็นเรื่องแต่คนก็อยากให้มันเป็นเรื่องเพราะฉะนั้นก็แค่ข่าวยังยืนยันคำเดิมไม่มีอะไร ใช้ชีวิตปกติมีความสุขดีไม่มีอะไร ไม่อยากเอาความทุกข์มาใส่ตัวเองอีกแล้ว"
"ได้ติดต่อไหมก็แล้วแต่นะ ถ้าเขาโทรมาก็คุยแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้อะไรมาก ไม่ได้เจอกันเลยสักพักนึงล่าสุดได้รู้คือว่าเขาจะไปแข่งรถที่พัทยาหรือบางแสนเดือนพฤศจิกายนแต่ก็ไม่ได้คุยกัน จะไปเชียร์ไหมถ้าอยู่ก็ไปค่ะแต่เดือนพฤศจิกาโยจะไปต่างประเทศ ก็วางไว้ฐานะเพื่อนมาตลอด และตอนนี้ก็ยอมรับว่ามันไม่มีอะไร ข่าวทำให้สนิทน้อยลงไหม ไม่หรอกค่ะโยว่าถ้าอะไรที่ไม่เป็นอะไรจริงๆ มันก็เลยไม่มีอะไรที่จะสานต่อถึงบอกว่าต้องดูกันเองโยไม่อยากพูดอะไรแล้ว ตอนนี้ก็เปิดใจมาเรื่อยๆ มาตลอดแต่อยู่ที่จังหวะมากกว่า"
ยันเปล่ายอมห่างกันเพราะเหตุผลทางด้านการเมืองหวั่นคะแนนเสียงของฝ่ายชายตก แต่เป็นเพราะอาชีพที่ต่างสาขากันที่ทำให้คบกันไม่รอด เหน็บต่อไปจะรักตัวเองและคนในครอบครัวเนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีใครออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตนพยายามปกป้องอีกฝ่าย ย้ำไม่เคยกินน้ำใต้ศอก
"ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ เพราะส่วนใหญ่รู้จักคุณเอ๋ไม่ได้สนิทอะไร เข้าใจเรื่องการทำงานของเขาอยู่แล้วนักการเมืองกับนางแบบเป็นอะไรที่ไปไม่ได้กันอยู่ดีเพราะฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องงานมาเป็นหลัก มันอยู่ที่อะไรหลายๆ อย่างไม่ค่อยลงตัวมากกว่าเราค่อนข้างมีชีวิตที่เรียบง่าย ชอบความที่ไม่ค่อยยุ่งยากให้ใครมาอะไรมาก ไม่ชอบเป็นข่าวแต่ถ้าคบกันมันไม่มีความแน่นอนมันไม่มความชัดเจนคบแล้วไม่สบายใจก็ไม่คบ รักษาภาพเขาไหมแล้วแต่เขานะ อันนั้นเราก็ไม่รู้"
"โยเบื่อที่จะตอบคำถามเดิมๆ มีแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบเพราะตัวเราเองตอบไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ที่ผ่านมาถูกมองแง่ลบก็แนวนั้นอยู่แล้วเพราะเนื่องจากกว่าเราคนเดียวถูกโดนสัมภาษณ์เยอะที่สุดไง เราก็คือคนเดียวโดนข่าวเรื่องงานมากที่สุดจะด้วยสาเหตุใดก็ไม่ทราบแต่ถ้าไม่มีใครสามารถออกมารับผิดชอบตรงนี้ได้เราก็ต้องดูแลตัวเราเอง"
"ถามว่าเคยพูดถึงความอึดอัดใจให้เขาฟังไหม จริงๆ ไม่เคยพูดค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้อะไรมากมาย คุยได้ก็คุย ไม่คุยเราก็ไม่รู้สึกแย่ เราคบกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วโยเป็นคนที่อะไรสบายใจทำ อะไรไม่สบายใจจะไม่ทำอีกเพราะฉะนั้นทั้งชีวิตมาไม่เคยมีใครบังคับให้เราทำอะไรได้ เราก็จะเลือกเดินทางที่เราสบายใจตอนนี้อยู่อย่างนี้มีความสุขดีแล้วค่ะ"
"สถานภาพเปลี่ยนไปคือคุยกันน้อยลงน่ะค่ะ และรู้สึกไม่ค่อยอยากใส่ใจอะไรมาก ไม่อยากที่จะพูดปกป้องใครหรืออะไรอีกแต่ละคนมีชีวิตของตัวเองแน่นอนสถานภาพเปลี่ยนไปเรากลับมามีชีวิตอยางที่เราเคยเป็น สมัยก่อนเพื่อนฝูงก็ห่างกันไปเดี๋ยวนี้ก็ต้องกลับมาหาเพื่อนฝูงเหมือนเดิม ไม่เศร้าหรอกค่ะ ค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าโยโดนข่าวร้ายๆ มาเยอะ"
"ต่างคนต่างมีอะไรต้องทำนะ เขาก็มีหน้าที่ของเขาเรื่องการเมืองด้วย เราก็มีหน้าที่ตรงนี้ที่ต้องทำมันคนละสายงานคนละสายชีวิตจะเรียกว่าห่างคือจริงๆ ไม่เคยอยู่ด้วยกันอยู่แล้วต้องพูดแบบนี้มากกว่าว่าเราก็ไม่เคยคบกันแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรกับสถานภาพตรงนี้ สมัยก่อนเจอกันบ่อยเดี๋ยวนี้ต่างคนต่างยุ่งเพราะเรานัดเจอกันเมื่อไรก็เป็นเรื่องกันทุกที การไม่เจอกันน่าจะสบายใจกว่า"
"คะแนนเสียงเขาจะตกโยว่านะ (หัวเราะ) คงไปช่วยเหลือเขาไม่ได้มากไม่เกี่ยวหรอกคะ อย่างที่บอกว่าโยไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือใครอีกแล้ว ไม่ใช่เรื่องนี้แน่นอนไม่จำเป็นตัวใครตัวมัน เบื่อมากกว่า เบื่อกับความเห็นแก่ตัว เบื่อเรื่องราวต่างๆ เราเหนื่อยของเราอยู่คนเดียวไม่เคยมีใครออกมาช่วยอันนี้ก็คือบทสรุปง่ายๆ เลยเราก็เลือกตัวเองและครอบครัวท้ายที่สุด"
ถามต่อว่าพูดเหมือนเพิ่งผ่านเหตุการณ์ไม่ดีกับ "เอ๋" เจ้าตัวบอกไม่มีอะไรในกอไผ่....."ไม่ใช่ไม่ดีแต่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย มันคงชินชาแล้วจริงๆ เลยรู้สึกอยู่แบบนี้ดีกว่าเหนื่อยมากกว่า เจ็บไม่เจ็บหรอกเขาไม่ใช่คู่รักเรานะแต่เหนื่อยกับสิ่งที่ไม่เป็นเรื่อง กับสิ่งที่เหมือนกับละครเรื่องนึงน้ำเน่าเละเทะ เบื่อ"
"โยไม่ได้ทำเพื่อเซฟตัวองหรอกอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์โยก็อยากพิสูจน์อย่างเดียวว่าเวลาข่าวแย่ๆ ที่ออกไปจะมีใครชดใช้ให้โยได้หรือเปล่าถ้าโยไม่ได้ทำ แต่ถ้าเกิดมันชดใช้ไม่ได้เราก็ต้องรักตัวเองก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น เราเองก็ไม่รักตัวเองเท่าที่ตัวเองจะรักนี่ก็คืออีกบทเรียนนึงไม่มีใครรักเราเท่ากับตัวเราและครอบครัวเรา เพราะฉะนั้นคนอื่นก็คือคนอื่น"
คุยไปคุยมาเหลือบไปเห็นรอยแผลบนใบหน้านางแบบสาวก้านยาวเหมือนเกิดจากรอยเล็บจิก อดถามถึงที่มาของรอยนี้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้สาว "โย" เผยอย่างอารมณ์ดีบอกแค่แผลที่เกิดจากการเรียนชกมวยไม่ใช่เพราะไปตบตีกับใครแน่นอน
"รอยแผลนี่เรียนต่อยมวยค่ะ เต็มตัวเลยตอนนี้เรียนต่อยมวยอยู่เพิ่งเริ่มได้ 3 อาทิตย์ ตัวช้ำทั้งตัวเลยก็ดีคะเป็นกีฬาที่หนักแต่เผาผลาญไขมันได้ดีมาก มีผลต่อการถ่ายแบบบ้างล้มบ่อยมากเนื่องจากยืนไม่มั่นคง ระบายความเครียดหรือเปล่า อ๋อ ไม่หรอกค่ะเป็นการดูแลตัวเองโดยเตรียมตัวสำหรับแฟชั่นวีคมากกว่า การเปลี่ยนแปลงแข็งแรงขึ้นนะรู้สึกตื่นมาแล้วไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนเราได้ออกกำลังกายเต็มที่ กลัวคนเข้าใจผิดไหมมีรอยเขียวช้ำ จะว่าไปตีกับใครหน้าตาเป็นรอย (หัวเราะ)"