เธอคือสาวที่มีชื่อเสียงเรื่องรูปร่างสุดผอม, หน้าบึ้งตลอดเวลา และมีบิลค่าช้อปปิ้งยาวเป็นหางว่าว หลายๆคนคงจะพอนึกออกแล้วว่าเธอคือ "วิคตอเรีย เบ็คแฮม" สาวคนดังหวานใจหนุ่มเบ็ค ตอนนี้มีรายงานว่าเธอได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าวหมดแล้วโดยหันมาปลงกับชีวิตอย่างสิ้นเชิงหลังประสบความสำเร็จอย่างมากกับการใช้ชีวิตในอเมริกา
วิคตอเรีย เบ็คแฮม นักร้องสาวสไปซ์เกิร์ลภรรยาของนักเตะรูปหล่อเดวิด เบ็คแฮม ยืนยันว่าเธอได้ละทิ้งพฤติกรรมแบบเดิมๆลงแล้ว พร้อมกับทำชีวิตให้แข็งแรงและมีความสุขยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ที่เธอได้ย้ายมาอยู่ลอสแองเจลิส
ทุกวันนี้คุณแม่ลูกสามวัย 34 ปี เลิกพฤติกรรมช้อปปิ้งแบบกระหน่ำและเริ่มยิ้มแย้มให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นที่สังเกตมานานแรมปีสำหรับนักข่าวสำนักต่างๆที่พร้อมใจกันระบุว่านับตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่ลอสแองเจลิสพร้อมสามีหนุ่มนักเตะ เดวิด เบ็คแฮม และลูกๆทั้งสาม เธอดูดีและมีความสุขขึ้นกว่าแต่ก่อน
ช่วงเวลาไม่กี่ปีระหว่างที่เดวิด ค้าแข้งอยู่ในสเปน เห็นชัดว่าวิคตอเรียในขณะนั้นดูเหงา, เบื่อ, ซึมเศร้าคิดถึงบ้าน และ ตกอยู่ภายใต้ข่าวลือที่โจมตีออกมากระหน่ำว่าชีวิตแต่งงานของเธอไปไม่รอด
วิคตอเรีย รู้ดีว่าการเดินทางย้ายมาอยู่ที่แอลเอเป็นความเสี่ยงอย่างสูง แต่ว่าเมื่อเธอได้มาอยู่ในโลกที่แวดล้อมไปด้วยการให้สัมภาษณ์แบบพิเศษส่วนบุคคลที่ต้องพิเศษจริงๆเท่านั้นจึงจะได้สัมภาษณ์ เจ้าตัวจึงเผยกับสื่อของอังกฤษว่าเหตุใดเธอจะต้องมานั่งเสี่ยงเสียเงินไปกับเรื่องพวกนี้และทำไมเธอถึงรู้สึกพอใจกับตัวเธอเองทั้งยังมั่นใจ และภูมิใจกับอาณาจักรโลกแฟชั่นของเธอที่กำลังโด่งดังได้รับความนิยมในตลาดแอลเอขณะนี้ด้วย
"เคยมีช่วงหนึ่งที่ฉันถูกโจมตีด้วยเรื่องราวแย่ๆ มันรู้สึกเหมือนกับว่า ฉันไม่เคยทำอะไรถูกเลยดังนั้นฉันจึงไม่ออกไปไหน ฉันมุ่งมั่นก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างหนัก ดูแลลูกๆ ดูแลเดวิด และดำเนินงานแฟชั่นของฉันไปอย่างเงียบๆ และตอนนี้ที่ที่ฉันนั่งอยู่ที่นี่วันนี้ ฉันรู้สึกภาคภูมิกับความสำเร็จที่ฉันได้รับ ฉันเพิ่งกลับจากงานนิวยอร์ค แฟชั่น วีค ที่ซึ่งชุดสวยๆที่ฉันออกแบบได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ การตอบรับดีขนาดนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว"
ทุกวันนี้ธุรกิจเสื้อผ้าของเธอในอเมริกาสามารถทำรายได้ค้าปลีกกว่า 9 ล้านปอนด์ ซึ่งนับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะเธอไม่เคยเปิดไลน์เสื้อผ้าของเธอในสหรัฐฯมาก่อนหากไม่นับรวมแฟชั่นแว่นกันแดดและยีนส์ของวิคตอเรีย "มีหลายสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับฉัน ฉันรู้สึกพอใจในตัวเอง ภูมิใจกับตัวเอง เพราะฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมา และฉันยังพอใจที่หลายวันนี้ฉันยิ้มมากขึ้นกว่าเดิมนิดนึงด้วย"
ในงานเลี้ยงโปโล เลานจ์ที่โรงแรม เบเวอร์ลี ฮิลลส์ อันเป็นสถานที่ของเหล่าไฮโซคนดังเดินกระทบไหล่กันขวักไขว่ วิคตอเรียกล่าวขณะให้สัมภาษณ์ขึ้นมาว่า "คุณรู้ไหม ฉันออกไปช้อปปิ้งทุกวันและกลับมานั่งแหมะบนก้นตัวเอง ฉันเคยทำอะไรที่ครึ่งหนึ่งของคนในนี้เคยทำที่นี่มาแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องนั่งลงทานมื้อกลางวันแล้วก็ออกไปช้อปปิ้งวนเวียนซ้ำซากอยู่แบบนี้ ฉันเบื่อกับมันมากๆ ฉันไม่อยากช้อปิ้งอีกต่อไปแล้ว"
ชีวิตของสาวคนนี้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากในช่วงปีที่ผ่านมา เราแทบจะไม่เคยได้ยินชื่อเธอว่าเดินเข้ายิมเพื่ออกกำลังกายหรือทานอาหารอย่างอิ่มเอมและยังคงรักษารูปร่างไว้ได้มาก่อน แต่ตอนนี้อดีตสาวสไปซ์เกิร์ล เริ่มออกกำลังกายบ้างแล้ว เธอออกวิ่งบนลู่วิ่งเป็นระยะทาง 4 ไมล์ทุกวัน และยังทานอาหารดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังยอมให้ตัวเองบริโภคอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลในช่วงมื้อเช้าของวันด้วย
"ฉันวิ่งเป็นระยะทาง 4 ไมล์ทุกวันเลย ฉันรู้สึกมีพลังและแข็งแรงขึ้นมาก ที่นั่นมียิมดีๆมากมาย และฉันก็เพลิดเพลินกับมันมากๆ ฉันต้องการฝึกตนเองให้ตื่นเช้าๆ ส่งลูกๆไปโรงเรียนจากนั้นก็ไปเข้ายิม ฉันคิดได้ว่าต้องทำอย่างพอดี จากนั้นก็กลับบ้านและทำงาน และฉันรู้สึกว่ามันดีกว่าเดิมมากๆ"
"ฉันทานได้มากขึ้น ฉันคิดว่าคุณคงต้องทานมากขึ้นอยู่แล้วหากคุณได้ไปออกกำลังกาย และคุณก็อยากจะทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทุกอย่างมันดีไปหมด" โดยมื้อกลางวันที่เธอทานในวันนั้นยังเป็นอาหารสุขภาพล้วนๆทั้งสเต็กปลาย่าง สลัดผักบัลซามิก และน้ำเปล่า ก่อนจะตามด้วยชาเปเปอร์มินต์
รูปร่างผอมๆของเธอเป็นชนวนนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์มากมายหนึ่งในนั้นรวมถึงนิตยสารระดับล่างที่ได้เขียนเรื่องราวเคล็ดลับรักษาหุ่นให้ผอมเพรียวของเธอว่าเป็นเพราะเธอใช้ยาลดความอ้วน เหตุนี้วิคตอเรียถึงขั้นฉุนขาดสั่งดำเนินการทางกฏหมายกับทางนิตยสารนั้นอย่างถึงที่สุดและแทบจะรอไม่ไหวที่เธอจะได้ขึ้นให้การต่อศาล
"มันเป็นพฤติกรรมที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบของใครคนหนึ่งในการพูดอะไรออกมา มีสาวๆอีกหลายคนที่เฝ้ามองฉัน ฉันแค่คิดว่ามันน่าขำมากเลยที่พวกเขาคิดอะไรพวกนั้นออกมาได้ คุณต้องดำเนินการเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง
ยังมีสาวๆอีกมากที่อาจจะคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เยี่ยมเลย พวกเธอหันไปพึ่งยาลดความอ้วนกันหมด เรื่องแบบนั้นมันอันตรายมากและเราก็ไม่พอใจกับเรื่องนี้มากด้วย"
ในส่วนของทรงผมสั้นเก๋ทรงใหม่ที่เธอปรากฏตัวให้ทุกสายตาช็อคไปตามๆกันในงาน นิวยอร์ค แฟชั่น วีค เธอระบุว่าทรงนี้ไม่ใช่ไอเดียเธอแต่เป็นของช่างทำผมล้วนๆ
"ฉันชอบนะ มันจัดทรงง่ายดี เดวิดก็ชอบมันเหมือนกัน ฉันไม่ได้อยากเลียนแบบใครทั้งออเดรย์ เฮปเบิร์น และ มีอา ฟาร์โรว์ ฉันแค่บอกช่างทำผมว่าให้ใช้จินตนาการของเขาสร้างสรรค์มันออกมา"
ในส่วนของสามีหนุ่มนักเตะ เธอเองก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา เกี่ยวกับธุรกิจในแบรนด์ของเบ็คแฮม แม้ว่าทั้งคู่จะขึ้นชื่อว่าเป็นขาช้อปแต่ทั้งคู่ก็หาเงินเก่งมากเช่นกันดังนั้นรายจ่ายที่หมดไปกับการช้อปปิ้งไม่ทำให้เธอกังวลแต่อย่างใดแม้ว่าเงินจะหายออกไปจากบัญชีเป็นล้านก็ตาม
"ฉันเคยบริจาคเงินให้การกุศล และฉันก็ดูเสมอว่าเราใช้จ่ายเงินของเรายังไง ฉันรู้บัญชีเงินเข้าเงินออกตลอด ฉันชอบที่จะคิดว่าฉันเป็นนักธุรกิจสาวชั้นเยี่ยม ฉันเรียนรู้เรื่องเหล่านี้มามาก เดวิดใช้เงินเก่งกว่าฉันอีกด้วยซ้ำ
ฉันไม่อยากช้อปปิ้งอีกแล้วล่ะ ฉันชอบไปเดินตลาดนัดทุกๆวันอาทิตย์ ฉันมักจะได้ของวินเทจสวยๆแปลกๆติดมือกลับบ้านมาเป็นประจำ ที่นั่นก็เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งในงานแฟชั่นของฉัน"
นอกจากแบรนด์เสื้อผ้าแล้วทั้งเดวิด และ วิคตอเรีย ต่างก็ร่วมกันผลิตน้ำหอมแบรนด์ของตนเองออกมาในสหรัฐฯ ซึ่งช่วงแรกทั้งคู่ต่างออกโปรโมตสินค้าร่วมกัน และเชื่อแน่ว่าน้ำหอมของพวกเขาจะดังไกลและได้รับความนิยมไปทั่วโลก
แม้ว่าจะมีผู้คนชื่นชมในตัวเธอไม่น้อย แต่ก็มีคนที่ไม่ชอบหน้าเธอบ้างเหมือนกัน และเมื่อเธอโดนด่ากลางถนน เธอยังคงไม่สะทกสะท้านและพอใจกับสิ่งที่เธอเป็น "ฉันพูดจริงๆว่าฉันพอใจและมีความสุขกับช่วงเวลานั้น ฉันไม่สนว่าผู้คนจะพูดอะไรอย่างไรเกี่ยวกับตัวฉัน ตอนนี้ฉันโตขึ้นมากแล้ว และฉันก็ได้เรียนรู้มามากและไม่สนใจต่อคำพูดใดๆของใครแล้วว่าจะพูดถึงฉันว่าอะไร"
" ฉันรู้สึกพอใจในทุกๆสิ่ง ในช่วง 5 ปีหลังมานี้ ฉันทำงานหนักมาก ฉันเคยได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue ฉันเคารพและชื่นชมในอุตสาหกรรมแฟชั่นมากๆ และที่สำคัญ แอนนา วินทัวร์ ( บรรณาธิการระดับตำนานของนิตยสาร Vogue ) เธอรับโทรศัพท์ฉันแล้ว"
หรือนี่จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สาววิคตอเรียยิ้มได้มากขึ้นในทุกวันนี้