xs
xsm
sm
md
lg

ต้านคนโกงกลับมาทำชั่ว “อี้ แทนคุณ” ร่วมถวายฎีกาไม่เอา “สมัคร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อี้ แทนคุณ” นำทีม 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ถวายฎีกา “ไม่เอาสมัครเป็นนายกฯ” วอนเจ้าตัวสำนึก ลดละเลิกอยากได้ตำแหน่ง ลั่นไม่อยากได้คนคดโกงเข้ามาทำชั่วในสภา

หลังจากที่ พรรคพลังประชาชน มีมติสนับสนุนให้ “สมัคร สุนทรเวช” กลับเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดนจะมีการเสนอชื่อเข้าสภาในวันพรุ่งนี้นั้น ส่งผลให้ 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ได้ตัดสินใจรวมตัวกันถวายฎีกาไม่เอาสมัครเป็นนายกฯ โดยมี “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” ดาราและพิธีกรชื่อดังเป็นหนึ่งในตัวแทนขององค์กรต่างๆ เข้าถวายฎีกาด้วย

ดาราพิธีกรชื่อดังได้เปิดเผยถึงเหตุที่จะต้องถวายฎีกา ว่า เป็นเพราะ นายสมัคร ขาดจริยธรรม ทำความผิดไม่สมควรกลับมาเป็นนายกฯ วอนให้สำนึก ลดละเลิกอยากได้ตำแหน่ง ย้ำชัดอย่าเอาคนโกงกลับมาทำชั่วในสภาอีก

“ผมเป็นตัวแทนในนาม 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอร์รัปชันเพื่อช่วยทำให้ปัญหาคลี่คลายและยุติ โดยองค์กรของเรานั้นจะเน้นย้ำป้องกันไม่ให้เกิดการคอร์รัปชัน สร้างมาตรฐานคุณธรรมต่อสังคม คนคดโกงไม่ควรได้รับสิทธิพิเศษในการอยู่รอด ไม่งั้นก็จะเป็นต้นแบบไม่ดีกับเยาวชน คนที่ทุจริตประพฤติไม่ดีไม่เหมาะสม กลับมาเป็นผู้นำประเทศอีก บางคนอาจจะไม่กลัวเพราะมีสิทธิมีอำนาจ และพร้อมจะกลับมาทำชั่วในสภาได้อีก”

“โดยส่วนตัวเราไม่ได้มีเรื่องกับใคร ไม่ได้มีอะไรกับคุณสมัคร วันนี้ไม่ว่าคนๆ นั้น จะเป็นใครเราก็จะทำแบบนี้ ต้องทำให้เป็นต้นแบบต่อไป ผมเองทำงานเพื่อภาคประชาสังคมประมาณ 7- 8 ปีแล้ว และเป็นประธานกลุ่มธรรมะเยาวชน เน้นความพอเพียง เสียสละ ซื่อสัตย์ เราทำงานเยาวชนมาเยอะ ถ้าพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งคนเขาจะไม่เชื่อถือ มันไม่ได้สำคัญที่ตัวเรา สำคัญที่ต้นแบบคนที่เป็นตัวอย่าง ถ้าต้นแบบสร้างมาไม่ดีประเทศชาติก็จะพังพินาศ เราสอนให้เขาซื่อสัตย์อย่าโกง แต่ถ้าสิ่งที่สอนกับสิ่งที่ทำขัดแย้งกันสิ้นเชิง แล้วองค์กรเราจะไปสอนเยาวชนได้อย่างไร”

“นักการเมืองยุคนี้เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไปสร้างเด็กรุ่นใหม่ดีกว่า ไม่งั้นเกิดเด็กไปเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี และยึดเอาไปปฏิบัติตามจะทำให้ประเทศชาติพินาศกว่าเดิม”

“นายกฯไม่ใช่บุคคลธรรมดา เป็นคนสาธารณะ เรามีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องถ้าเห็นว่ามันไม่ถูกไม่ควร ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกลียดใครมาก ชอบใครมาก หรือแค้นใครมาก แต่เป็นการทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมบนความถูกต้อง เพื่อที่เขาจะได้ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเราต้องทำให้เป็นมาตรฐานของนักการเมือง ไม่ใช่มีอำนาจก็สามารถซื้อได้ทุกอย่าง”

“เด็กในวันนี้วันหนึ่งก็ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ซักวันหนึ่งก็ต้องแก่เฒ่า จะได้อยู่อย่างสงบสุข ท่านเองก็สูงอายุขึ้นทุกวัน น่าจะได้อยู่อย่างภาคภูมิใจมีศักดิ์ศรีที่ไม่ทำผิดไม่ละอายว่าเคยทำอะไรลงไป ขอให้มีความละอายในการทำชั่วกลัวบาป คนเราไม่ทำชั่วก็เพราะกลัวบาปกรรม เมื่อกลัวแล้วจะได้ทำบาปน้อยลง ทุกวันนี้มีอำนาจเยอะ แต่อย่าลืมว่าอำนาจนั้นมาจากประชาชน ถ้าสำนึกจริยธรรมไม่มีก็ต้องให้โอกาสเขาปรับตัว ทำดีคนก็ชื่นชมศรัทธา แต่ถ้าทำชั่วก็ต้องเชิญออก”

“ขอยืนยันว่า เราไม่ได้รักใครชอบใคร แต่ที่ต้องออกมาทำตรงนี้ เพราะปัญหามันจะไม่มีที่สิ้นสุดไล่ไปก็มาใหม่ ฉะนั้น เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ และที่เลือกวันพรุ่งนี้ เพราะอาจมีการปะทะกัน ถ้าไม่ทำอะไรมัวแต่หลบอยู่เฉยๆ ดีกว่า เดี๋ยวก็แก้ปัญหาเองได้มันไม่ได้ ต้องช่วยกันอย่าผลักภาระแล้วอยู่เฉยๆ ไม่เจ็บตัวไม่ถูกใครว่า แล้วถ้าเราไม่ทำใครจะทำผลักไปเรื่อยๆ”

“ที่ผ่านมา ทางองค์กรได้ติดตามมาสถานการณ์มาตลอด และคิดว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะจบ น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็จะเสนอชื่อเข้ามาอีก มันชัดเจนแล้วว่าพึ่งนักการเมืองไม่ได้ พึ่งระบบเดิมๆ ไม่ได้ การเมืองใหม่ที่เราอยากเห็นคือ คนไทยมีส่วนร่วมมากที่สุด ใครก็ได้ที่จะทำอะไรเพื่อเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องไม่ทุจริตคอร์รัปชันก็ทำเถอะครับ”

“การที่เขาไม่อยากจะสำนึก ก็อยากให้เห็นแก่ส่วนรวม ว่า ตำแหน่งบางตำแหน่งไม่เหมาะสม ก็ขอให้ละเลิกความอยากนั้นเสีย ถ้าเลิกไม่ได้มันไม่สง่างาม ในเมื่อศาลก็ตัดสินออกมาแล้วว่าคนนี้มีความผิดจริง ถึงแม้จะเป็นความผิดเล็กๆ แต่มีผลต่อภาพลักษณ์”

“ท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ผมไม่ได้ก้าวร้าวอะไร แต่มันเป็นการทำงานที่ใหญ่หลายองค์กร ผมเป็นประชาสัมพันธ์อบรมเด็กเยาวชน ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่อบรมบ่มสอน พวกเราสำนึกมาตลอดว่า ถ้าเราไม่ร่วมเด็กเยาวชนทำเฉย พอชาติพังก็รับแต่ซากปรักหักพัง ถูกโกงกินจนหมดแล้วจะไปเรียกร้องอะไร ตอนนี้ประชาธิปไตยก้าวหน้าไปมาก เราต้องลุกออกมาแสดงออกสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เอาคนโกงไม่เอาคนทุจริต”

แม้ว่าการเลือก “สมัคร” กลับมาอีกครั้งจะเป็นไปได้ตามหลักกฎหมาย แต่มันผิดหลักจริยธรรม
“จริยธรรมสำคัญกว่านะ กฎหมายมีช่องโหว่โดนแบบนี้กลับมาได้อีก การที่ศาลตัดสินแบบนี้คือการลงโทษที่สุดแล้วสำหรับผู้นำประเทศ ไม่ควรจะกลับมาอีก ควรจะคิดได้เองเลยไม่ได้มีการเขียนบทลงโทษ แบบนี้ถือว่ารุนแรงแล้วควรที่จะรู้ตัวเองแล้ว บางตำแหน่งให้คนอื่นทำดีกว่าเหอะ ถ้ามีมลทินแล้วให้คนอื่นทำ ถ้าเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียวก็ออกไปเถอะ”

เผยการเมืองมาถึงทางตัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังเลือกสมัครเป็นนายกฯ ประชาชนจะหมดศรัทธา
“ถ้าพรรคร่วมยังจะเลือกเขาเป็นนายกฯ ก็คงจะแล้วแต่จิตสำนึกนะครับ มันถึงทางตันแล้ว วันที่ 25 ที่จะถึงนี้ ก็จะมีการตัดสินคดีเกิดขึ้นอีก คำตอบก็มีอยู่แล้ว ความศรัทธาของพรรคต่างๆ ก็จะก็ลดลงไปด้วย ประชาชนกับพรรคการเมืองต้องพึ่งพาอาศัยกัน นักการเมืองไม่มีอุดมการณ์ประชาชนก็ไม่ศรัทธา เมื่อไม่ศรัทธาก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือ คิดว่า อนาคตอันใกล้คนไทยคงได้เห็นนิสัยจริงๆ ของนักการเมืองแต่ละคนแต่ละพวก ว่าควรค่าที่เชื่อใจหรือไม่”

“การที่นักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาลก็เหมือนกัน ถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควร เราควรจะเคารพศาล คนที่ไม่เคารพศาลไม่เคารพกฎหมายก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ ก็ไม่รู้วาเบื้องหลังมีใคร มีกฎหมายเตือนไว้อย่าละเมิดอำนาจศาล ถ้าละเมิดก็จะแย่ด้วยตัวเราเอง”

“วันนี้ประเทศชาติมันแย่แล้ว เราออกมาทำตรงนี้ไม่ได้คิดว่าโหนกระแส ไม่ได้รอจังหวะ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง พรุ่งนี้คาดการณ์ว่า จะเกิดการแตกหักปะทะกัน ถ้าการกระทำบางอย่างช่วยลดความเปลี่ยนแปลงตึงเครียดก็ต้องทำ ถ้าการกระทำด้วยวิธีใดๆ สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์รุนแรงได้ถือเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มาก”

“ฉะนั้น เราต้องหาวิธีทางที่ทำให้เขาเชื่อ ซึ่งการถวายฎีกาน่าจะเป็นทางรอดทางเดียวในสังคมปัจจุบันที่กำลังหาที่พึ่ง”

โดยในวันนี้เวลา 13.00 น.จะมีการนัดรวมตัว 84 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันที่บริเวณวัดพระแก้ว เพื่อทำพิธีสวดมนต์ และจะเดินทางไปถวายฎีกาที่สำนักราชเลขาธิการ เวลา 13.30 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น