"โนล กัลลาเกอร์" หัวหน้าวง Oasis ที่เป็นแฟนบอลเดนตายของทีม "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เผยว่ารู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตแฟนบอลที่ทีมรักได้เศรษฐีน้ำมันรายใหม่มาเทกโอเวอร์สโมสรต่อจาก "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เจ้าของเดิมที่สร้างความไม่พอใจต่อเขาเมื่อครั้งที่ปลด "สเวน โกรัน อิริคสัน" ผู้จัดการทีมคนก่อนที่มาทำงานได้เพียงปีเดียว
โนล กัลลาเกอร์ นักร้อง/มือกีตาร์ของยอดวงร็อกอังกฤษ Oasis วัย 41 ปี ที่เป็นแฟนบอลทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มา 40 ปี ออกมาแสดงความยินดีอย่างมากที่ทีมโปรดของเขาได้เจ้าของคนใหม่อย่าง ซุไลมาน อัล-ฟาห์อิม เจ้าของกิจการ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป กลุ่มนักลงทุนจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ได้เข้ามาซื้อสโมสรชื่อดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ไปด้วยมูลค่า 150 ล้านปอนด์เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าเป็นเหมือนรางวัลตอบแทนการเป็นแฟนบอลที่เหนี่ยวแน่นต่อสโมสรมาถึง 40 ปีที่มหาเศรษฐีอาหรับมากระชากสโมสรรักออกจากมือของอดีตนายกฯเมืองไทยอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ได้สำเร็จ
ในการให้สัมภาษณ์ต่อทางสถานีวิทยุ Radio Five ของ BBC โนลเผยว่าเขารู้ข่าวนี้ตอนที่วงกำลังทัวร์กันอยู่ที่ประเทศแคนาดา และได้รู้ข่าวเมื่อเพื่อนที่อังกฤษส่งข้อความอิเล็กทรอนิกส์มาให้
"เขาบอกผมว่าให้เปิดดูข่าว ตอนนี้เราถูกเจ้าชายอาหรับซื้อไปแล้ว วินาทีแรกที่รู้ผมได้แต่หัวเราะ คิดในใจว่า 'ไม่อยากเชื่อเลยว่ะ' และก่อนที่เราจะขึ้นเวทีไม่นาน ผมก็รู้ว่าเราได้ตัวโรบินโญเรียบร้อยแล้ว"
"สิ่งเดียวที่ผมคิดได้ตอนนั้นคือพวกเขาต้องใช้เงินมหาศาลกับโรบินโญแน่ๆ เพราะไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่เขาจะจากมาดริดมาอยู่ซิตี้ เราไม่ได้ไปเล่นที่ Champions League ด้วยซ้ำ" โนลกล่าวถึง โรบินโญ ดาวยิงชาวบราซิล ที่แต่เดิมจะถูกขายตัวไปให้กับเชลซีแต่ถูกทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้คว้าตัวไปด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสูงสุดของลีกอังกฤษที่ 32.5 ล้านปอนด์
โนลที่เกิดและโตในเมืองแมนเชสเตอร์ยังแอบกัดทีมคู่รักคู่แค้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฉกกองหน้ารายใหม่อย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ไปได้ทั้งๆ ที่ซิตี้เสนอค่าตัวให้สูงกว่า
"ผมเป็นสุขอย่างมากที่เราสามารถหักหน้าแมนฯยูฯด้วยการทุมเงินได้มากกว่าที่พวกเขาจ่ายไปเพื่อเบอร์บาตอฟ มันดีมากๆ ที่ได้รู้ว่าเงินจากน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่พวกแมนฯยูฯเติมจะเข้ามาสู่สโมสรที่รักของเรา"
แถมเจ้าตัวยังกล่าวอย่างมั่นใจว่าด้วยอำนาจเงินที่เหลือล้นจะทำให้การตามล่าตัว คริสเตียนโน โรนัลโด จากฝั่งผีแดงให้ยอมมาใส่เสื้อสีฟ้าเป็นจริงได้ แม้จะต้องใช้เงินพอๆ กับซื้อสโมสรถึง 135 ล้านปอนด์ก็ตาม
แต่กระนั้นเจ้าตัวก็กังวลว่าการเซ็นสัญญาด้วยเงินก้อนโตที่กำลังเฟื่องอยู่ในลีกเมืองผู้ดีขณะนี้ จะทำให้โอกาสในการแจ้งเกิดของบรรดาดาวรุ่งปิดแคบลง แต่ก็ยังยอมรับในขณะที่อารมณ์กำลังลิงโลดอยู่นี้ว่า "ว่ากันตามจริงผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหนน่ะ"
แถมยังออกตัวอีกว่าทางวงพร้อมจะทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างเต็มที่ในฐานะนักดนตรี ถ้าเสี่ยน้ำมันใจถึง
"ผมจะพร้อมถูกเรียกตัวไปเป็นวงเล่นในงานปาร์ตี้หลังแข่งแน่นอนถ้าพวกเขาจ่ายงามๆ"
"ผมคิดอยู่เสมอว่าความจงรักภักดีตลอด 40 ปีจะต้องได้ผลตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และผมก็คิดว่าวันที่เราจะทำให้ทีมในอังกฤษจะต้องยำเกรงเราจะต้องมาถึง แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะออกมาในรูปนี้"
ก่อนหน้านี้โนลเคยแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารทีมของอดีตนานกฯเมืองไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในประเด็นที่ปลด สเวน โกรัน อิริคสัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่เข้ามาทุมทีมเรือใบสีฟ้าได้เพียงปีเดียว ทั้งๆ ที่ผลงานโดยรวมเข้าตาแฟนบอลทั่วไป โดยเฉพาะการเอาชนะคู่แค้นร่วมเมืองอย่างทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งเย้าทั้งเยือนเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
"การไล่อิริคสันออกทั้งๆ ที่เรามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมที่ไม่เคยเกิดขึ้นเช่นนี้เป็นเรื่องโง่เง่าสุดๆ มันขาดเหตุผลในเรื่องของเกมลูกหนังอย่างสิ้นเชิง" โนลจวกผ่าน สถานีวิทยุ Radio Five ของ BBC เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
"สำหรับสโมสรที่ไปไม่ถึงไหนในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา การได้โค้ชที่เยี่ยมที่สุดถ้าไม่นับมูรินโญ เขาทำให้ทีมเราเล่นอย่างมีสไตล์, ศักดิ์ศรี และความสง่างาม เขานำผู้เล่นดีๆ เข้ามาร่วมทีม แฟนๆ ได้รับความภาคภูมิใจจากสโมสรคืนมา ไปไล่เขาออกนี่มันยิ่งกว่าเรื่องตลกซะด้วยซ้ำ"
"อิริคสันเป็นสุภาพบุรุษที่น่ายกย่อง นายคนที่ชื่อชินวัตรมาที่สโมสรเราแล้วทำเรื่องบ้าๆ บอๆ วิธีเดียวที่จะทำให้เรื่องนี้เมคเซนต์หน่อยก็คือการได้มูรินโญมาแทนที่ เพราะถ้าไปนับเฮียมูแล้วสเวนนี่แหล่ะดีที่สุดในลีกแล้ว"