"แบม" บอกรู้สึกแย่รู้มือดีปล่อยภาพหลุดคู่แฟนหนุ่มคนกันเอง ยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อยู่ที่นิสัยของคนมากกว่า ฟุ้ง "โบ๊ท" หน้าตาไม่เหมือน "ฟลุค" ย้ำไม่ใช่สเปคเดียวกับน้องสาว แจงชอบฝ่ายชายจิตใจดี ที่บ้านไฟเขียวแต่ยังไม่มีแพลนแต่งงาน ยันเปล่าขยาดเห็นตัวอย่างคู่ "โบ" ด้านงานละครเผย "อภิสิทธิ์" ขอถอนตัว ส่วนอีกฝ่ายเสียหน้าเพราะแก่กว่ากลับสวมบทลูกหรือไม่โบ้ยให้ไปถามเอง
ถูกปล่อยภาพหลุดในงานปาร์ตี้ส่วนตัวคู่แฟนหนุ่ม "โบ๊ท" นักธุรกิจหนุ่มที่มีหน้าตาละหม้ายคล้ายน้องเขย "ฟลุค เกริกพล มัสยวาณิช" อดีตนักการเมืองคนสวย "แบม จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์" ก็ออกมายอมรับเต็มปากเต็มคำถึงหนุ่มในภาพคือแฟนหนุ่มตัวจริงนั่นเอง ซึ่งทั้งคู่ศึกษาดูใจสักระยะหนึ่งแล้ว โดย "แบม" เผยเสียความรู้สึกที่มีภาพส่วนตัวหลุดออกมาและรู้มือดีปล่อยภาพแล้ว ลั่นไม่เกี่ยวกับเกมการเมือง
"(หัวเราะ) ความจริงงานนั้นเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวเป็นงานวันเกิดของพี่คนนึงและคนในนั้นก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น 30-40 คนค่อนข้างจะสนิทกันจริงๆ รูปที่ออกไปพี่คนนึงในนั้นมีคนเดียวที่มีกล้องเขาก็ถ่ายไว้สนุกๆ ก็งงเหมือนกันไม่น่าจะออกไปสู่ข้างนอกได้เพราะเป็นงานส่วนตัว"
"ถือว่าเป็นภาพหลุดได้นะแต่เราไม่ได้รู้สึกการที่หลุดออกมาเป็นเรื่องที่เรารู้สึกแย่อะไรแต่รู้สึกแย่กับคนที่ออกมาเผยแพร่มากกว่า ที่เราถ่ายส่วนตัวคิดว่าคนในนั้นคือคนที่ไว้วางใจได้ คิดว่าคนในงานที่เห็นภาพคงจะรู้สึกไม่ต่างกับเรา รู้ตัวคนเอามาออกคะไม่ได้พูดคุยไม่ได้สนใจอยู่แล้วแต่ว่าก็รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้นะเท่านั้นเอง"
"มีเพื่อนบอกกันทั้งคู่ว่ามีข่าวลง ก็ตกใจเพราะไม่ได้อยู่วงการบันเทิงนานแล้วนอกจากถูกโยงไปเกี่ยวคนโน้นคนนี้เท่านั้นเอง ทีแรกนึกว่าข่าวเล่นละครแต่ปรากฎเป็นข่าวนี้อย่างที่บอกแว๊บแรกที่เห็นไม่ได้ตกใจที่ภาพออกไปแต่ตกใจที่ไม่น่าเกิดขึ้นในงานส่วนตัวนะ ถ้าไปเดินตามห้างแล้วแอบถ่ายก็คงเป็นปกติเห็นเป็นประจำอยู่แล้วภาพแบบนี้ ก็เดาใจไม่ออกว่าเขาปล่อยทำไมแต่คิดว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นอุปนิสัยของคนมากกว่าเราไม่ได้สนิทแต่รู้จักกันในสังคมคนนึงเท่านั้นเอง คิดว่าไม่มีผลต่อการเมืองนะคะ"
ยันแฟนหนุ่มดูอย่างไรหน้าก็ไม่คล้ายอดีตน้องเขย
"เหมือนเหรอคะ ตอนแรกไม่รู้สึกว่าเหมือนเพราะรู้จักเขามานานแล้วเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน เวลาไปไหนก็มีทักบ้างหลังๆ คนจะทักแบมหน้าเหมือนโบ และพอมองไปเจอปรากฎหน้าคล้ายฟลุค เฮ้ย ฟลุคมาได้ยังไงแล้วบางวันมีอชิไปด้วยไปกันใหญ่เลย จริงๆ ไม่รู้สึกว่าเหมือนนะเพราะรู้จักทั้งคู่มานานแล้วเพราะห่างกันเกือบสิบปีเลยนะ ก็สนิทพอสมควร อายุจะ 40 แล้วต้องนิดนึงก็เรียกว่าดูใจศึกษากันอยู่"
บอกช่วงที่ตกเป็นข่าวกับ "ฟลุค" ซึ่งหน้าคล้ายแฟนหนุ่มเข้าใจถูกแล้วว่าไปไหนมาไหนกับน้องเขย ร้องเสียงหลงเมื่อถูกแซวว่าสเปคคล้ายน้องสาว "โบ ชญาดา"
"ก็ไม่เกี่ยวกันนะเวลาไปกับฟลุคก็ยอมรับจริงๆ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เป็นอย่างนั้นมาตลอดอยู่แล้ว แล้วแต่คนตีความมากกว่าไม่ตอบตรงนั้นดีกว่า เรื่องไปกับฟลุคก็ไปปกติธรรมดา หลังๆ ไม่ค่อยได้เจอต่างคนต่างไม่ค่อยมีเวลา คุยกันล่าสุดคุยเรื่อยๆ แต่ไม่ได้โทรมาเจาะจงประเด็นนี้ ฟลุคก็เล่าให้ฟังมีนักข่าวมาถามเท่านั้นเองก็งงๆ ส่วนไปกับพี่เขาไม่ได้เกี่ยวกับมีข่าวกับฟลุค ตอนมีข่าวเขาไม่ได้ว่าอะไรเป็นเรื่องของข่าวมากกว่าไม่ได้คุยกันเรื่องตรงนี้ไร้สาระ ไม่เกี่ยวกันนะสเปกอะไรนั่นน้องเขยนะ"
"เรื่องภาพลักษณ์ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรน่าเป็นห่วงอย่างที่บอกงานเลี้ยงเป็นงานส่วนตัว ด้วยมุมภาพออกมาบางคนคิดอาจเป็นเพลงสโลแต่จริงๆ เป็นเพลงเร็วนะคือการเต้นรำในเพลงเร็วเนี่ยผู้หญิงผู้ชายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วอย่าไปตีความ ไม่ได้มีเสียงมาต่อมีแต่ภาพใช่ไหม คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเราไม่ได้ทำอะไรในที่ไม่เหมาะสมเปิดเผยในที่สาธารณะ เราอายุมากแล้วด้วยการทำอะไรต้องคำนึงถึงกาลเทศะแล้วมีเมื่อไรจะบอกพร้อมกันเลย"
ฟุ้ง "โบ๊ท" คุ้นเคยคนในครอบครัวดีเพราะรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม..."น้องรู้จัก ในครอบครัวก็รู้จัก เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนรู้จักกันนานแล้วไม่ได้มีอะไรแนะนำเป็นเรื่องเป็นราว เรื่องภาพหลุดถามว่าบั่นทอนไหม ไม่มีผลอยู่แล้ว เขาเห็นภาพแล้วก็ไม่ว่ายังไงก็ขำดี เขาบอกไม่เหมือนกันที่ติ่งหู (หัวเราะ)"
แจงยังไม่ถึงเวลาแต่งงานและไม่ขยาดชีวิตคู่จะล้มเหลวเหมือนน้องสาว
"ยังไม่ได้คุยเลยค่ะ ต้องใช้เวลาก็รู้จักกันนานพอสมควรระยะหนึ่งค่ะ ยังเป็นคนพิเศษศึกษากันอยู่ ก็ไม่ได้ปิดบังสื่อมวลชนก็ยอมรับแต่ยังไม่ถึงตรงนั้นคิดว่าเร็วเกินไปที่จะมายอมรับตรงนั้น ตอนนี้อายุจะ 40 แล้วนะก็ตองมีนิดนึง แต่ที่ไม่ตกลงปลงใจก็เพราะยังไม่ถึงเวลา ถ้าเราจะเลือกให้ใครเป็นคนพิเศษต้องมีคุณสมบัติที่เราไว้วางใจเขาได้ เราคงจะแยกเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของชีวิตคู่ที่เรียนรู้กัน ก็เรียนรู้จากพ่อแม่ของตัวเอง คนรอบข้าง ได้เห็นชีวิตคู่ที่แตกแยกอยู่แล้วแค่ศึกษาเท่านั้นเองแต่ไม่ได้กลัว""
"ก็มีความสุขอยู่แล้วกับทั้งตัวเองและครอบครัว การงาน การมีใครสักคนพูดคุยกันได้เหมือนมีสิ่งเข้ามาเพิ่มเติมในชีวิตเหมือนกัน ที่ผ่านมาเขาเข้าใจสถานการณ์และโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีผลอยู่แล้วเขาโตแล้ว เขาเป็นคนที่มีจุดยืน มีความคิด จิตใจดีสำคัญที่สุด เข้ามาก็อยากศึกษาเป็นเพื่อนพิเศษแต่จุดไปไกลกว่านั้นถ้าลงเอยไม่ได้อาจไม่ใช่ว่าคนใดคนหนึ่งไม่ดี จริงๆ เรารู้จักกันมานานแล้วอย่างที่บอกเป็นรุ่นพี่ในโรงเรียนเดียวกันแต่เหมือนไม่ได้มีโอกาสเจอ พอมาเจอกันอีกครั้งก็คลิกกันพอดี" อดีตนักการเมืองหญิงยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงแฟนหนุ่ม
ลั่นตนเปล่าจงใจสร้างกระแสหวังเข้าวงการบันเทิงอีกครั้งหลังเว้นวรรคการเมือง..."ไม่ได้มีการพล็อตหรอกมันเป็นจังหวะพอดี ตอนนี้การเมืองแบมคงเว้นวรรคก่อนอยู่มา 7 ปีแล้ว ไปเจออะไรร้ายๆ มาก็เยอะ เราก็พักไว้ก่อนแต่อาจหลบไปทำหน้าที่อื่นที่เกี่ยวกับการเมืองแต่ไม่ได้ย้ายพรรค"
ด้านงานละครเทิดพระเกียรติเรื่อง "พระปกเกล้าราชา ก่อนาวาประชาธิปไตย" ที่เจ้าตัวเพิ่งรับเล่นและทำพิธีบวงสรวงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา โดยหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" สวมบทบาทเป็นลูกชายคนรองของสาว "แบม" ล่าสุดได้ทำการถอนตัวเรียบร้อยแล้ว
"คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้เล่นแล้ว เอ็ม (อภินันท์) เล่นแทน ไม่ได้ถามเหมือนกันว่าเพราะอะไร คงเกร็งต่อข้อกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับคนละพรรคเป็นเรื่องปกติเราไม่ได้คิดอะไรเลย เรื่องการเมืองไม่เกี่ยวกับการเล่นละครเรื่องนี้ด้วย ต้องไปถามท่านเอง แบมไม่ได้เจอท่านไม่ได้คุย ตอนเล่นเป็นแม่รู้สึกนิดนึงเขาเป็นผู้ใหญ่อยู่แต่แบบไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์คุ้นเคยกันอยู่ แต่ละคนมองว่าเป็นละครเทิดพระเกียรติสั้นๆ ไม่ได้ดราม่า เป็นการถ่ายทอดประชาธิปไตยผ่านตัวละครมากกว่า"
