"จา พนม" โผล่แล้ว เปิดใจไม่ได้โกง "เสี่ยเจียง" เอาเงินใช้ส่วนตัว แต่ยอมรับโดนตัดงบจนต้องเอาเงินส่วนตัวทำหนังเอง ขัดสนจนธนาคารยึดบ้าน ไม่มีเงินจ่ายแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟ ด้าน "สหมงคลฟิล์ม" เตรียมแถลงข่าวชี้แจงเย็นนี้ ส่วน "พันนา" ผู้กำกับร่วมบ่น "จา" ควรมีความรับผิดชอบ เชื่อปัญหาทุกอย่างเกิดจากความกดดันของการเป็นผู้กำกับมือใหม่ ก่อนทิ้งท้ายเป็นไปไม่ได้ "จา พนม" ใช้ทุนส่วนตัวสร้างหนังจนไร้ที่อยู่
ภายหลังจากที่ "จา พนม ยีรัมย์" พระเอกนักบู๊ ที่กำลังจะเป็นทั้งผู้สร้างและร่วมแสดงเองในหนังเรื่ององค์บาก 2 แต่แล้วก็มีกระแสข่าวออกมาว่าพระเอกนักบู๊ละทิ้งกองถ่าย "องค์บาก 2" และหายตัวลึกลับเข้าป่านานเกือบ 3 เดือนนั้น ล่าสุด เจ้าตัวก็ได้ยอมออกมาชี้แจงกับหนังสือพิมพ์หัวสียักษ์ใหญ่ถึงกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น ในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ใกล้กับเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าตนไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่หลังถ่ายทำหนังองค์บาก 2 ฉากพระเอกตอนเป็นเด็ก ไปเมื่อวันที่ 12-13 ก.ค.ที่ผ่านมาเสร็จ ก็ได้รับแจ้งจากบริษัทสหมงคลฟิล์มว่า งบประมาณในการถ่ายทำหนังหมดแล้ว ไม่สามารถถ่ายทำต่อได้ ตนจึงหยุดงานและไปหาที่สงบๆ คิดหาทางออก เพราะตอนนี้ตนได้สำรองจ่ายเงินส่วนตัวให้กับกองถ่ายจนหมดตัว ค้างค่าผ่อนบ้านกับธนาคารอยู่ 2 เดือน น้ำไฟก็ถูกตัด ตอนนี้ไม่มีแม้ที่จะซุกหัวนอน
"จา พนม" ยังเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีกว่า ตนขอยืนยันว่าไม่ได้คิดจะทิ้งหนังเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ตนรักและอยากสร้างให้เสร็จ แต่เมื่อถูกตัดงบประมาณ มันก็ทำงานลำบาก จริงๆ งบประมาณหนังเรื่องนี้ไม่ถึง 300 ล้านอย่างที่เป็นข่าว และแม้ "เสี่ยเจียง" จะเคยรับปากว่า จะให้งบประมาณการสร้างหนังอย่างเต็มที่ เพื่อให้หนังออกมาดีที่สุด แต่งบประมาณจริงที่ตั้งไว้คือ 232 ล้านบาท และตนเพิ่งได้รับมาเพียงแค่ 117 ล้านบาท เท่านั้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตนสามารถถ่ายทำหนังได้เสร็จถึง 80% ถือว่าทำงานได้ตามเป้าหมาย ก่อนจะยอมรับว่า ขณะนี้ไม่มีจิตใจที่จะทำงานต่อ บอกอยากจะเคลียร์ปัญหากับทางสหมงคลฟิล์มให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเดินหน้าทำงานต่อไป
ก่อนขอยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมบอกยอมให้ทุกฝ่ายมาพิสูจน์บัญชี ที่มีผู้กล่าวหาว่าโกงบริษัท โดยตอนนี้ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัวเป็นผู้รับผิดชอบในการเจรจาทั้งหมดแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่ของบริษัท "ไอยราฟิล์ม" ที่ สหมงคลฟิล์มเปิดให้แก่ "จา พนม" เป็นผู้บริหารและสร้างภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 2 เผยว่า ตอนแรกสหมงคลฟิล์มได้โอนเงินการถ่ายทำทั้งหมดเข้าบัญชีของ จา พนม และให้ จา พนม เป็นผู้รับผิดชอบการเบิกจ่ายบริหารงานกองถ่ายทั้งหมด แต่ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหมงคลฟิล์มได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมการเงิน และการบริหารงานของกองถ่ายทั้งหมด แต่ก็ไม่มีการจ่ายเงินให้แก่กองถ่ายอีก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ "จา พนม" จะหอบหลักฐานออกมายืนยันว่าตนไม่ได้โกงเงินบริษัทตามที่ถูกกล่าวหา และโต้ไม่ได้หนีหายไปไหน แต่สื่อมวลชนก็ยังคงรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจาก พระเอกนักบู๊ตลอดทั้งวันหลังเกิดกระแสว่า "จา พนม" อาจแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว
และเนื่องจากกรณีของ "จา" กำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนให้ความสนใจผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยัง "สหมงคลฟิล์ม" บริษัทต้นสังกัดในการผลิตภาพยนตร์ "องค์บาก 2" เพื่อสอบถามว่าจะมีการแถลงข่าวชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ตามที่มีข่าวลือออกมาหรือไม่ ทางประชาสัมพันธ์ของทางสหมงคลฟิล์ม ยืนยันจะมีการแถลงข่าวชี้แจงในช่วง 19.00 น. ของวันนี้(25ก.ค.)
ส่วนผู้กำกับองค์บาก 2 ร่วมกับ "จา พนม" อย่าง "พันนา ฤทธิไกร" เปิดเผยเบื้องต้นว่า อยากให้พระเอกนักบู๊มีความรับผิดชอบ และไม่เชื่อว่า "จา พนม" จะให้เงินส่วนตัวสร้างหนังจนถึงขั้นโดนยึดบ้าน บอกเคยเคลียร์กับพระเอกนักบู๊หลายครั้งแล้ว คาดปัญหาเกิดจากแรงดกดดันของการเป็นผู้กำกับมือใหม่ที่ยังไร้ประสบการณ์
"หนังเรืองนี้ถ่ายมาเกือบ 2 ปี คุยกันมาตลอด มันอยู่ที่ว่าคุยกันแล้วใครเข้าใจขนาดไหน จะเป็นอย่างไร มันไม่ใช่แค่ 3 เดือนครับ แต่มันมีช่วงที่เราคุยและติดต่อจานะ บางวันก็กลับมาทำ ทำได้วันหนึ่งก็ไม่ทำอีก เป็นแบบนี้มาตลอด มันคงเกิดจากความกดดันของเขาผมว่านะ เจอหนักน่ะ คิดว่าคงเกิดจากความใหม่มากกว่า ทำทีเดียวพร้อมกันรวดเลย ทั้งกำกับ ทั้งเล่นเอง ทั้งเจ้าของบริษัท มันไม่ได้ไต่ระดับ"
"แต่ตอนนี้จาเขาคงรู้แล้วว่าปรัชคงเข้ามาทำ มันอยู่ที่เขา ที่จริงแล้วเนี่ยจาน่าจะรับผิดชอบ คือเมื่อก่อนเวลาจะทำหนังจะทำองค์บากภาคแรก เขาสนใจ เป็นชีวิตจิตใจเขาเลย แต่คราวนี้ทั้งโอกาส ทั้งบริษัทเขา โอกาสยิ่งใหญ่มาก ถ้าเป็นผมเรื่องอื่นเป็นเรื่องรองมาก ทุกอย่างอยู่ที่จิตวิญญาณเรา ผมรู้สึกว่าจาน่าจะรับผิดชอบ ผมไม่รู้ว่าข้างในเขาอย่างไรบ้าง รู้แต่ว่าเขามีแรงกดดัน เรื่องอื่นไม่รู้เลย"
ยืนยันบริษัทไม่ได้ตัดงบประมาณ เพียงแต่ในการทำงานย่อมมีการคอมเม้นท์กันเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ บ่นอยากให้พระเอกนักบู๊กลับมาเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะเคยคุยหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
"ปัญหาส่วนตัวกับผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว กับปรัชเขาก็ชัดเจน ดูห่างๆไกลๆ ไม่ได้แตะต้องให้จาทำเลย ไม่มีใครนะ เขาก็ทำหนังออกมาได้ดีนะ แม้ว่าจะช้า ผมได้ดูแล้ว แต่ทีนี้ช้าจนเสียหายเขารอเลื่อนขยับจนไม่ไหวแล้ว ก็เลยคืนสัญญาเลย คือเขาปัญหามันคืออะไรมันก็ต้องมาคุยข่าวมาเป็นแบบนี้ เรื่องนี้มันอย่างไร มันต้องมาคุยกันครับ"
"ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับจา แต่เห็นในหนังสือพิมพ์แล้ว ตอนนี้อยู่ที่เสี่ยว่าจะเอาอย่างไร ก็คงลุยกันต่อไป ส่วนงบที่เกินมัน 200 กว่าล้านนะครับทุนแรกๆที่คุยกันไว้ คร่าวๆเนี่ยมันอยู่ที่เกือบ 200 ล้าน ตอนนี้ มัน 200กว่าไปแล้วแหละในตอนนี้ งบใช้หน้ากองการใช้เงินสด ค่าฟิล์มถ่ายเกือบ 2000 ม้วนและเกือบ 6 พันกว่าบาท อีก ค่ากล้อง ค่าไฟ อีกเยอะ มันมีอีกเยอะเลย ตอนนี้รอทางเสี่ยว่าจะเอาอย่างไร ถ้ารวมจริงๆก็แตะ 300 ล้าน อยู่แล้ว เยอะจริงๆยอมรับอย่างต้มยำกุ้ง อย่างองค์บากภาคแรกมันก็ได้เยอะ ก็เทียบมาจากตรงนั้น แต่ละฉากมันก็เพิ่ม เงินก็ขึ้นเรื่อยๆ"
"ทางเสี่ยเขาก็ไม่เชิงตัดงบหรอก แต่ในทางธุรกิจมันก็ต้องมีการคอมเม้นท์กัน คุยกันในเรื่องธรรมดา เขาไม่ได้ตัด เขาต้องทำให้เสร็จเหมือนกัน เขาก็อยากให้ปิดกล้องอยู่แล้ว งบเพิ่มฉากเพิ่มมีบ่นเป็นธรรมดา คือจาเขาพึ่งเป็นนักบริหารเรื่องแรก เขาก็เป็นคนกำกับเรื่องแรก เวลาเจอกับสบายๆ อย่างเขาคงเครียดน่ะ ยอมรับว่าเขาเจอเรื่องเยอะ ทั้งทีมงาน บุคลาการบริษัท ไหนจะบริษัทแม่อีก การทำงานบางอย่างมันต้องคอมเม้นท์ ขอกันว่าเยอะไปน้อยไปก็ว่ามา เขาใหม่ต่อเรื่องนี้ เขารอจา และรอมานานแล้วครับ 3 เดือนแล้ว"
ก่อนทิ้งท้ายไม่เชื่อ "จา พนม" ใช้ทุนส่วนตัวสร้างหนังจนบ้านต้องโดนยึด ติดค่าน้ำค่าไฟ ไร้ที่อยู่ ส่วนจะเอาเงินทำหนังไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ตนเชื่อว่าหากใช้จริงก็มีสิทธิ์เบิกถอนใช้ได้อยู่แล้ว
"เขาคงไม่ได้เอาเงินไปใช้ส่วนตัวหรอกครับ ไม่ใช่หรอกครับก็ใช้ในงาน เพราะถ้าพูดจริงๆเงินเนี่ยถ้าเขาจะใช้เขาก็มีสิทธิ์ใช้เบิกใช้ต่างหากได้อยู่แล้ว ส่วนเอาทุนส่วนตัวมาทำก็ไม่ใช่หรอก นอกจากกินข้าวนิดๆหน่อยๆ แหม มันขอธรรมดาผมก็เคยให้ แต่เอาเงินส่วนตัวไปทำหนังผมว่าไม่ใช่ ยืนยันว่าไม่ใช่ครับ
ด้าน "เสี่ยเจียง" แถลงข่าวเรียบร้อยแล้วที่ โรงหนังเฮ้าส์ อาร์ซีเอ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าเลี้ยงจาเหมือนลูก โต้ข่าวดูแลนักแสดงไม่ดี บอกอยากให้กลับมาทำหนังเหมือนเดิม ส่วนลูกชายเสี่ยเจียง หอบหลักฐานชี้แจงเรื่องงบประมาณ บอกพระเอกนักบู๊เข้าใจผิด และยังไม่เข้าใจระบบธุรกิจ ส่วนรายละเอียดต่างๆ "บันเทิงออนไลน์" จะนำมารายงานในลำดับต่อไป
***
“ปรัชญา” แฉ “จา” ผลาญเงินทำหนังเกินไปกว่า 100 ล้าน แต่ไม่ตอบ อีกฝ่ายเอาเข้ากระเป๋าหรือเปล่า?
"จา พนม" หายตัว "ตั๊ก" เผยสบายดีแค่เข้าป่าบำเพ็ญจิต