ฝันที่เป็นจริง "แพม-เจ" ผุดโปรเจคยักษ์ เรียลลิตี้ "ซุปเปอร์สตาร์" ตามติดเบื้องหลังดาราเวลาอยู่รวมกัน พร้อมทั้งโชว์ความสามารถ ก่อนเปิดโหวตจากทางบ้านเพื่อหาผู้ชนะ รับรางวัลคอนโดหรูมูลค่ากว่า 10 ล้าน บอกไร้ปัญหาคิวดาราวุ่น ยันทุกคนให้ความร่วมมือดี ฟุ้งเรียลลิตี้ภูมิปัญญาไทย ไม่ลอกใคร สปอนเซอร์เพียบ เผยเลือกทำงานกับโมเดิร์นไนน์มั่นใจที่สุด ลั่นไม่กลัวคนดูเบื่อเรียลลิตี้เกร่อ
หลังซุ่มคิดเรียลลิตี้รูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใครนานกว่าปีครึ่ง ผู้บริหารสาว "แพม ลลิตา ตะเวทิกุล" และ "เจ ภาณุพงษ์ วรเศรษฐการกิจ" นักธุรกิจหนุ่ม สองสามีภรรยาเลยผุดรายการ"Superstar" (ซุปเปอร์สตาร์)...ที่สุดแห่งดาว เรียลลิตี้ที่เจ้าตัวบอกเป็นภูมิปัญญาไทย ที่สร้างสรรค์ด้วยตนเอง โดยเน้นรูปแบบไม่เหมือนใครด้วยการนำดาราที่เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนมาอยู่ในคอนโดเดียวกัน เพื่อทำการแข่งขันโชว์ความสามารถหาสุดยอดแห่งดาว
โดย "แพม-เจ" ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรายการเรียลลิตี้ "Superstar" ขึ้นที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ลั่นนี่คือปรากฎการณ์ใหม่ของวงการเรียลลิตี้ในเมืองไทย ที่จะพาไปรู้จักกับเบื้องหลังของดาราที่คุณชื่นชม โดยเริ่มออนแอร์ต่อ "อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย" ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี
" ซุปเปอร์สตาร์เป็นรายการเรียลิตี้ฟอร์มใหญ่ครั้งแรกในเมืองไทย ที่เราคิดค้นขึ้นมาเอง ภูมิปัญญาของเราคนไทยล้วนๆ เลย คือเริ่มจากเราสองคนคิดเองทำเอง เพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบดูรายการทีวีด้วย ชอบดูรายการเรียลลิตี้ มันสนุกน่าติดตามก็เลยอยากจะทำรายการประเภทที่มีดารามาแข่งขันกัน ร้อง เล่น เต้น แสดง แล้วก็อยากจะรู้ว่าถ้าเขามาใช้ชีวิตร่วมกันเขาจะใช้ชีวิต มีความเป็นอยู่อย่างไร อยากทำเพราะอยากจะดูเองด้วยค่ะ ในตอนแรกเราก็จะใช้ภาพจากรายการเมืองนอกมาฉายสลับกันเพื่อให้คนเห็นว่ารูปแบบมันจะออกมายังไงก่อนจะได้เห็นภาพค่ะ"
"แต่จริงๆ เราก็มีการทำการตลาดเซอร์เวย์ด้วยว่าประชาชนอยากจะเห็นเบื้องหลังของดาราอันนี้เป็นอันดับ 1 เลยเพราะว่าเรารักใครชอบใครเราก็อยากจะรู้ว่าในชีวิตจริงเขาเป็นยังไง เราจะได้รู้จักเขามากขึ้นลึกขึ้น โดยจะแข่งเป็นซีซั่น ทุกปี ก็จะมีดาราชื่อดัง 14 คนมาอยู่ร่วมกันในคอนโด เดอะลอฟท์ เย็นอากาศ เพื่อทำการแข่งขันร้อง เล่น เต้น แสดงน่ะค่ะ ทุกสัปดาห์ก็จะมีการแข่งขันโดยโจทย์จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นการร้องเพลงลูกทุ่งในสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้าก็อาจจะเป็นการเต้นคาบาเร่ก็ได้"
"แล้วก็จะมีเทรนเนอร์เข้ามา 2 ทีม ก็คือทีม เอ และทีม บี คอมเม้นเทเตอร์ 3 คน โดย 2 คนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ อีก1 คนจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมนะคะ ช่วยกันร่วมโหวตว่าทีมไหนจะชนะ ทีมไหนที่ได้ผ่านเข้ารอบไป ส่วนทีมที่แพ้เราก็จะมาดูผลโหวต sms หมายเลข 4221421 จากผู้ชมทางบ้านว่าใครได้คะแนนน้อยที่สุดก็จะเป็นผู้ลงจากเวทีไป ทุกสัปดาห์ก็จะคัดออก 1 คน จนสัปดาห์สุดท้ายเราจะเหลือ 4 คนปะทะกันตัวต่อตัวไม่เป็นทีมแล้ว ทุกคนก็จะมีครีเอทโชว์ของตัวเองมาแข่งกันบนเวทีที่ธันเดอร์โดมค่ะ"
ส่วนรางวัลสำหรับผู้ชนะที่ได้ตำแหน่ง Superstar จะได้เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียม เดอะล็อฟท์ เย็นอากาศ มูลค่ากว่า 10 ล้าน ส่วนผู้ชนะอันดับ 2 จะได้เงินรางวัลอีกขึ้นต้น 2 แสนบาท โดยผู้บริหารสาว เผย อยากเพิ่มเงินรางวัลให้สูงกว่านี้ แต่ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
"เรื่องรางวัล ที่1 จะได้คอนมิเนียม เดอะลอฟท์ เย็นอากาศ ของบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลักรายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เราเคยได้ยินมาในเมืองไทย ก็สมเกียรติที่เขาได้ต่อสู้เพื่อจะเป็นที่สุดของดาว เราก็จะให้รางวัลที่เป็นที่สุดกับเขาด้วย ส่วน 3 คนที่เหลือจะได้รับเงิน 2 แสนบาท ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังเพราะทางเราอยากให้เพิ่มจาก 2 แสนแต่ต้องรอดูไปก่อนค่ะ ส่วนผู้ชนะในแต่ละสัปดาห์ก็จะได้ผลิตภัณฑ์จากซัมซุงด้วยอาจจะเป็น ทีวีจอแอลซีดี กล้องวีดีโอ มีทุกอย่างเลยค่ะ"
สำหรับปัญหาในเรื่องคิวดารา ตามที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าจะสามารถนำดารามาอยู่ร่วมกันได้อย่างไร เกี่ยวกับเรื่องนี้ "แพม" แจงถูกสบประมาทไว้เยอะเรื่องนี้ แต่ตนและทีมงานได้เตรียมการป้องกันเบื้องต้นไว้แล้ว
"คนชอบบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก จะทำได้ยังไง ดาราที่ไหนจะอยากมาเล่น เขาก็กลัวตกรอบไม่มีใครมาหรอก อันนี้คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เราเจอตอนแรก เราก็เลยคุยกับดาราว่าถ้าแพมทำรายการแบบนี้สนใจมาเล่นมั้ย ปรากฏว่าฟีดแบ็กจากดาราดีมากไม่น่าเชื่อ เพราะไม่ใช่ทุกคนอยากจะชนะ บางคนอยากเข้ามาเพื่อเรียนรู้ บางคนแค่อยากสนุก มีหลายรูปแบบมาก"
"ส่วนเรื่องของคิวดาราที่ไม่ว่างเราป้องกันไว้ในระดับหนึ่งก็คือเราจะมีการคุยกับดาราไว้เบื้องต้นก่อนว่าใครสนใจ ว่างตอนไหน ถ้าใครสนใจเขาก็จะล็อคคิวให้ รอเราติดต่อไปหลังจากที่เราได้คะแนนโหวตจากประชาชนว่าอยากเห็นใครดูใคร คือเราสำรวจทำข้อมูลดารายอดนิยมไว้เป็นโพล แล้วก็จะมาเลือกให้เหลือ 14 อันดับ แล้วลองติดต่อไปก่อนปิดโหวตค่ะ ซึ่งในซีซั่นแรกนี้เราจะปิดโหวตประกาศ 14 ท่านที่จะได้เข้าแข่งขันในวันที่ 29 ก.ค. นี้ค่ะ"
"เราจะมีการคุยเรื่องคิวให้เสร็จสิ้นก่อน เราเปิดให้ประชาชนเสนอชื่อเข้ามาผ่าน sms เท่านั้นโดยต้องผ่านเกณฑ์ 4 ข้อ ดังนี้ 1.จะต้องเป็นดาราที่มีคิวให้ แต่ถ้าไม่มีคิวให้ก็ไม่ผ่านเกณฑ์ 2.ต้องมีความสามารถร้อง เล่น เต้น แสดง เพื่อที่จะเข้าแข่งขันได้จริงๆ ถ้าไม่มีความสามารถเราก็ไม่พิจารณาเพราะถ้าเข้ามาแล้วทำอะไรไม่ได้รายการก็ไม่สนุก 3.ก็คือต้องกล้าที่จะมาอยู่ในรายการเรียลตี้ที่ไม่มีสคริปเลย ต้องกล้าเปิดเผยตัวเองให้ประชาชนได้รู้จัก 4.ก็คือเราต้องการความหลากหลาย สามารถเป็นใครก็ได้ พระเอก นางเอก ตัวร้าย หญิง ชาย ตลก นางแบบได้หมด ทุกคนมีสิทธิเท่ากันขอให้มีความสามารถ เราเปิดโอกาสให้ทุกคนที่น่าสนใจแต่ต้องเป็นดารา เพราะแพมอยากให้รายการนี้เป็นรายการที่แข่งความสามารถ เท่าๆ กับเป็นรายการที่แข่งขันความนิยมของประชาชนเท่าๆ กัน"
ย้ำการเข้าแข่งขันในครั้งนี้ไม่กระทบต่องานส่วนตัวของดารา ซ้ำทางรายการยังมีการจ่ายค่าตัวนอกเหนือจากรางวัลที่จะได้รับเหมือนการออกเกมโชว์ทั่วไปอีกด้วย
"ดาราที่มาแข่งขันมาแค่ 1 สัปดาห์มา 3 วัน 2 คืน อยู่ทั้งวัน ในคอนโด นอนด้วยกันอยู่กันเป็นทีม ทานข้าวทำทุกอย่างด้วยกันในนั้นนะคะ ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ เหมือนมาเข้าค่ายไม่ได้มาทุกวัน ดารายังสามารถรับงานเดินแบบ แฟชั่น ละคร ได้เหมือนเดิมเลย แล้วก็ปล่อยตัวกลับบ้านได้ ทุกวันเสาร์มาเจอกันใหม่ ถ่ายทอดสดค่ะ แค่เจียดเวลา 3 วัน 2 คืนมาอยู่กับเรานะคะ ซึ่งก็เหมือนคิวละครทั่วไป โดยวันเสาร์ถ่ายทอดสด 22.30- 23.30 น. ก็มาอยู่กับเราถึงวันอาทิตย์ ส่วนจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.10 น. - 17.35 น. จะเป็นในส่วนเทปบันทึกภาพของเสาร์ อาทิตย์ โดยจะเริ่มออนแอร์ 9 สิงหาคม ไปจนถึง 25 ตุลาคม 2551 ค่ะ แล้วการที่ดารามาแข่งขันรายการก็จะมีค่าตัวให้อยู่แล้วด้วยค่ะ รับรองมารายการนี้มีแต่ได้กับได้ค่ะ"
ต่อข้อซักถามที่ว่าถ้าได้คิวดาราที่ไม่ดังมาแข่งในรายการ กลัวจะไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนบ้างมั้ย แพมเผยไม่กลัว เพราะรายการมีจุดขาย เน้นคนมีความสามารถไม่ใช่หน้าตา ยันเรียลลิตี้ซูปเปอร์สตาร์ไม่เฟกแน่นอน
"ไม่กลัวเลยค่ะ เพราะดาราที่จะเข้ามาอยู่ในรายการเราได้ทุกคนต้องมีความน่าสนใจ ต้องมีจุดขายของตัวเอง ถ้าสวย ดัง แต่ไม่เคยพูดอะไรเลย ไม่เคยพูดอะไรกับใครไม่รู้จะพูดกับใคร แพมคิดว่าจะสวยหรือดังขนาดไหนก็คงไม่น่าสนใจแน่นอนเพราะฉะนั้นเราอยากได้คนที่มีความสามารถ ดัง และน่าสนใจในตัวเองด้วย แล้วต้องสนใจด้วยก็ต้องสกรีนอีกทีค่ะ คอนเฟิร์มได้เลยค่ะ ว่าโนสคริป สดจริงๆ เรื่องเฟกไม่มีแน่นอนรายการเรา เพราะเรารู้ว่าคนดูฉลาด คนดูรู้นะคะว่าเฟกหรือไม่ ก็เลยอยากให้ติดตามชมรายการนี้ดูค่ะ"
ด้านความคาดหวังต่อผลกำไรและเรตติ้งของรายการ "แพม-เจ" บอกได้เกินคาดตั้งแต่รายการยังไม่ออนแอร์จากสปอนเซอร์โฆษณาที่มีเข้ามา ส่วนชื่อเสียงเรตติ้งถ้าดีก็ถือเป็นผลพลอยได้มากกว่า เผยในช่วงซีซั่นแรก ขอมุ่งเน้นที่โปรดักชั่นจริงๆ ส่วนเรื่องเรตติ้ง กำไรทั้งหลายเป็นเรื่องรอง แม้ว่าจะยังไม่เริ่มออกอากาศ แต่เจ้าของโปรเจค มั่นใจรายการสามารถดึงดูดคนดูและเรตติ้งให้กับโมเดิร์นไนน์ได้แน่นอน
"ตอนนี้เราได้เรื่องของสปอนเซอร์ครบแล้วนะคะ ถ้าเหลือก็มีอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง เรื่องการเงินเราประสบความสำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นเรามั่นใจไม่ห่วง สปอนเซอร์เราเป็นรายใหญ่ๆ ที่เข้ามาช่วยก็จะคอยช่วยสนับสนุนเราทั้งนั้น เรียกว่าคับคั่งเลยค่ะ สำหรับสปอนเซอร์หลักของรายการเยอะมากค่ะ รับรองว่าสิ่งที่ทางสปอนเซอร์จะได้รับจากการลงโฆษณาในรายการคุ้มเกินคาดแน่นอน ทั้งในด้านโอกาสที่ได้โปรโมทในช่วงไพร์มไทม์ รวมไปถึงมีชื่อเสียงของดาราผู้เข้าแข่งขันดึงดูดผู้ชมได้ในฐานคนดูอีกด้วย"
"อย่างที่บอกในส่วนของรายได้ต่างๆ เราไม่ได้เน้นตรงนั้น แต่เราขอเน้นในปีแรกของการเริ่มต้นที่โปรดักชั่น การทำงาน ซึ่งเราขอทำให้ดีที่สุดก่อนเป็นอับดับแรก ก็คาดว่ารายการของเราน่าจะดีมากๆ แล้วก็อยากจะทำให้เรตติ้งของสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ"
ก่อนอวย โมเดิร์นไนน์ ทีวี เป็นราชาเรียลลิตี้ และเป็นผู้ให้โอกาสตนดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะเลือกทำงานด้วย
"จริงๆ การที่เราเลือกลงกับช่องใดช่องหนึ่ง เราทำรายการเรียลิตี้เราก็อยากเลือกลงช่องที่เป็นราชาเรียลิตี้ ซึ่งก็คือช่องโมเดิร์ไนน์ แล้วอีกอย่างทางท่านผอ.วสันต์ ภัยหลีกลี้ แล้วก็ผู้บริหารทางอสมท. จำกัด มหาชนทุกท่านได้ให้ความเชื่อถือไว้วางใจและให้โอกาสเราได้ทำรายการที่สุดยอดจริงๆ ท่านเมตตาเรา ดังนั้นเนี่ยเราเห็นคุณค่าตรงนี้มากๆ ก็เลยอยากทำให้รายการผลักดันเรตติ้งของช่องให้ขึ้นไปด้วยค่ะ เป็นพันธมิตรกันค่ะ"
ต่อข้อสงสัยเลือกทำรายการป้อนโมเดิร์นไนน์ ทีวี ที่มีรายการเรียลลิตี้อยู่หลายรายการ กลัวเรื่องกระแสคนดูจะเบื่อเรียลลิตี้บ้างหรือไม่ สองผู้บริหารลั่น "ซูปเปอร์สตาร์" เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชอบดูเรียลลิตี้และดารา ละคร ยันคนดูไม่เบื่อแน่นอน
"จริงๆ ก็ไม่นะคะ ถึงแม้ในปีนี้รายการเรียลิตี้จะมีออกมาเยอะ แต่ว่าออกมาในช่วงเวลาคนละเดือนกัน รูปแบบก็ต่างกัน อย่างเอเอฟจบก็จะเป็นรายการของเราต่อไปเลย ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่ะ จริงๆ แล้วผลประโยชน์น่าจะตกอยู่ที่คนดูมากกว่าจะได้ชมรายการเรียลิตี้รายการใหม่ที่หลากหลายแล้วก็ไม่ซ้ำใคร แล้วโดยเฉพาะรายการที่เป็นของเรานอกจากกลุ่มผู้ชมที่เป็นกลุ่มชมเรียลิตี้กลุ่มเดิมเรายังจะได้กลุ่มผู้ชมใหม่คือ ผู้ที่ชมดาราละคร ก็จะหันมาดูเรียลิตี้ เรียกว่าเป็นการขยายตลาดของเรียลิตี้มากกว่า ถือเป็นจุดแข็งของรายการเราเลย"