xs
xsm
sm
md
lg

"สวรรค์เบี่ยง" ฉบับ "ตุ๊ก เดือนเต็ม" : โดน..ครั้งเดียวก็เกินพอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สมัยก่อนได้กันครั้งเดียวก็ติดแล้วนะ.."

คำบอกเล่าจาก "ตุ๊ก เดือนเต็ม สาลิตุล" ถึงจำนวนครั้งที่ตนเองในบทของ "นาริน" นางเอก "สวรรค์เบี่ยง" เวอร์ชั่นช่อง 9 บางลำภูถูก "คาวี" พระเอกของเรื่องปล้ำ

วันนี้คนนี้กลับมาอีกครั้งในละครเรื่องเดิม ซึ่งนอกจากบทบาทที่ได้รับจะเปลี่ยนไปแล้ว กาลเวลาที่นานกว่า 30 ปีที่ผ่านมายังทำให้ "สวรรค์เบี่ยง" เวอร์ชั่นช่อง 3 ระหว่าง "แอน ทองประสม" กับ "เคน ธีรเดช" ในยุคปัจจุบันมีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะในเรื่องของฉากเลิฟซีนประเภทตบจูบ

"มันต่างกันมาก ทั้งการนำเสนอ การเล่าเรื่อง ความฉับไว เหตุและผล แล้วฉากเลิฟซีนมันก็ซอฟท์กว่านี้มากนะ คนสมัยนั้นยังรับแบบนี้ไม่ได้หรอก เขาก็ลากเราเข้าไปในห้อง แล้วก็ได้กับเราเที่ยวเดียวเลย ทีเดียวติดลูกเลย คือเมื่อก่อนมันทำอะไรไม่ได้มากมันก็แค่บัง ออกมาก็จบ ไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัว ไม่มีภาพ อย่างมากก็แค่บังกล้อง วัฒนธรรมตรงนั้นมันยังไม่ได้ขนาดนี้ ได้ครั้งเดียวจบ"

นักแสดงรุ่นใหญ่อธิบายถึงเหตุผลที่สวรรค์เบี่ยงในยุคปัจจุบันมีฉากเลิฟซีนที่ค่อนข้างจะบ่อย ถี่ และรุนแรงนั้นนอกจากจะเป็นสีสันแล้วก็ยังเป็นการเพิ่มรายละเอียดของอารมณ์ตัวละครให้มากขึ้นไปด้วย..."ของเคนเนี่ยเขามีบ่อยมาก เพราะว่าเขาเพิ่มสีสันเข้าไปไง เพิ่มการนำเสนอให้มันเจ็บช้ำ เพราะว่าในตอนหลังเนี่ยนางเอกมันไม่แลเลยนะ พูดง่ายๆ ถ้าเราเป็นคนร่วมสมัย เราก็จะรู้สึกว่าเขานำเสนอในรายละเอียด ในความขัดแย้งให้มันมากขึ้น"

"ว่าไปแล้วเนี่ยเรื่องนี้ดีด้วยซ้ำที่ทำให้เห็นสาเหตุว่าทำไมมันถึงต้องเป็นแบบนี้ เพราะละครสมัยนี้ไม่ค่อยมีแบบนี้นะ ไม่มีที่มาที่ไปในการร้าย ทำไมต้องร้าย ถ้าเป็นคนอื่นเขาก็จะคิดว่าทำไมมาเปลี่ยนแปลงบทประพันธ์เขา แต่เพราะสมัยนั้นคนดูง่ายๆ คนดูเรียบๆ ง่ายๆ สนุกสนาน สมัยก่อนคนดูง่ายๆ วัฒนธรรมมันยังไม่เปลี่ยนแปลง ไม่โลดโผนมาก นางเอกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างเดียว"

ไม่แปลกหากสวรรค์เบี่ยงเวอร์ชั่นปัจจุบันจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความรุนแรงและฉากเลิฟซีน เพราะในอดีตตนก็เคยโดนมาแล้วแม้จะมีฉากเหล่านี้เพียงส่วนน้อยก็ตาม
"สมัยเราเล่นยังโดนด่าเลย สารพัดเลย คนโทรมาด่า ตอนหลังพระเอกมาง้อก็โดนด่า พอเขาง้อเราก็หยิ่ง คนก็ด่าว่าหยิ่งนักเดี๋ยวก็หาผัวไม่ได้หรอก ตอนแรกก็โกรธพระเอกว่ามันเลวอย่าไปยุ่งกับมัน ในแง่ของตรงนี้ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป คุณจะมาทำกระโจมอกอะไรก็ไม่ได้ เพราะสมัยนี้บ้านมันใหญ่ขนาดนั้นน่ะ"

"เลิฟซีนมันเยอะขึ้น ดุเดือดขึ้น เพราะว่าคนรุ่นเก่ารับไม่ได้ไง เมื่อก่อนนะ แค่ข่มขืนเนี่ยถือว่าร้ายแรงและเยอะที่สุดแล้ว มาแอบจับมือ หอมแก้มก็ถือว่าร้ายแรงแล้ว ใส่กระโจมอกก็โดนด่าแล้ว นางเอกเปลือยไหล่เนี่ยไมได้นะ ถ้าไมใช่ละครพีเรียด คือสมัยก่อนมันแค่ดึงเข้าไปไง ไม่ต้องคิดจะทำอะไรมากกว่านั้น เพราะมันทำไม่ได้ มันไม่มีใครยอมเล่นไง ฟีดแบกละครตอนนั้นดีมาก เป็นละครที่ดังที่สุดในประเทศ คนมารอหน้าห้องส่งเยอะมาก แฟนคลับเยอะ เขาจะได้เห็นสดไง พอเราเล่นสด เขาก็เจอเราเลย ดีมาก"

"คนรับได้มากขึ้นในยุคนิ้ แต่จริงๆ มันก็ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่บังเอิญว่าสวรรค์เบี่ยงมันจุดเริ่มต้นด้วยด้วยการข่มขืนไง มันถึงจะไปจบตอนท้ายได้ มันถึงเป็นสวรรค์เบี่ยงไง เพราะจุดเกิดของผู้ชายคนนี้ก็คือ การข่มขืนจนเป็นเรื่องราวที่ต้องดูในตอนท้าย"

สำหรับพล็อตเรื่องการข่มขืนที่พระเอกยัดเยียดความเป็นสามี แล้วลงเอยด้วยการรักกันนั้น "ตุ๊ก เดือนเต็ม" เผยว่าสวรรค์เบี่ยงฉบับนี้พยายามจะทำให้ไม่เชื่อ เนื่องจากนางเอกของเรื่องสู้คน เพียงแค่คนดูอาจติดภาพ แอน ทองประสม ในมาดอุ้มรัก จึงไม่ทำให้นางเอกน่าสงสารเหมือนสวรรค์เบี่ยงภาคอื่น

"การที่พระเอกข่มขืนนางเอก รักกันง้องอนกันแล้วก็ได้กัน มันไม่เชยไปใช่มั้ย นี่ไงเรื่องนี้เขาทำให้มันไม่เชย เขาเลยสร้างให้นางเอกในเรื่องแตกต่างจากคนอื่น ไม่คิดจับพระเอก แต่บังเอิญว่าภาพของแอนเนี่ยเป็นภาพที่ว่า เขาเป็นผู้กระทำมาตลอด อุ้มรักเขาเป็นผู้กระทำไง พอเขามาเล่นเรื่องนี้ เขาโดนกระทำ คนก็เลยไม่ค่อยเชื่อ"

"คนดูแล้วก็จะไม่ค่อยน่าสงสาร เพราะจะมีฉากดิ้นรนอะไรตรงนั้น สมัยเราเนี่ยมันต้องซุกอยู่ที่เตียง ไปไหนไม่ได้ ไม่กล้าสู้หน้า อะไรแบบนี้ แต่อันนี้มันเป็นเงื่อนไขน่ะ เงื่อนไขของสปอนเซอร์ เงื่อนไขของช่อง เงื่อนของอะไรเยอะแยะไปหมด แล้วมานำเสนออะไรในละครให้มันเยอะแยะ ที่มาที่ไป พอพลิกกลับมาได้ไม่เลวเกินไป เพราะเรื่องนี้พระเอกเลว แต่เขาก็นำเสนอว่ามันเลวอย่างไร เพราะว่าพ่อรักลูกด้วยเงินไง”

"จริงๆ สวรรค์เบี่ยงบทมันดี เรื่องมันดี ใครเล่นคนก็ดู แล้วเผอิญมันมาคู่กันแบบแอน-เคน ไง ยิ่งดังไปใหญ่ แต่เรื่องนี้ พี่ให้น้ำผึ้ง ณัฐริกา นะ เขาเล่นดีมาก แอนไม่ต้องพูดถึงเขาลอยตัว เคนกับน้ำผึ้งพลิกได้ ทุกคนทำการบ้าน โอเคในแง่ของการตีความน่ะนะ มันก็รุนแรงไป ในการฉุดกระชากมันก็รุนแรงจริงๆ เพราะว่าอะไร เพราะว่านางเอกต่อสู้ ซีนบนเตียงที่เขาลากแอนมา แล้วสู้กัน ความจริงมันต้องโดนลาก"

เล่นละครมาหลายสิบปี เจ้าตัวยอมรับว่าภาพลักษณ์ของพระเอกนางเอกเปลี่ยนไปแล้ว เพราะผู้สร้างก็ต้องการให้เห็นความจริงว่าไม่มีชีวิตใครเพอร์เฟ็กต์ ต้องมีดีเลวปะปนกัน
"ภาพลักษณ์พระเอกเปลี่ยน ก็ใช่นะ แต่เขาก็นำเสนอในแง่ของความเป็นมนุษย์นะ พระเอกนางเอก มันก็ต้องมีแบบนี้ ใครที่จะเพอร์เฟ็กต์ล่ะ มันก็ต้องมีเหตุผลในการร้าย แล้วก็ตอนสุดท้ายมันก็ต้องมีเหตุให้เรากลับมาคิดได้ มันต้องมีเหตุผล อะไรที่เขาคิดผิด เช่นเขาคิดว่าไม่มีใครหรอกที่รักกันจริง เพราะว่าพระเอกมันไม่เคยได้ความรักจากพ่อ มันเลยคิดว่ามีหรือพี่น้องจะรักกัน ถึงขนาดปกป้องกัน ในมุมพี่น้อง พระเอกมันถึงไม่เชื่อนางเอกไง"

"ถามว่าพระเอกจะได้รับโทษอะไรมั้ย ไปข่มขืนเขา เอ้ย รับซิ เพราะว่านางเอกมันไม่แลเลยนะ ไม่เอาเลย นี่ก็ไปง้อไม่ให้เข้าบ้านนอนตากยุง พยายามทำดี เพราะมันเริ่มรู้สึกว่านี่มันคือความรักนี่หว่า ที่มันไม่เคยสัมผัส"

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจาณ์ ของหัวหน้ากลุ่มสร้างครอบครัวอบอุ่นอย่าง "เจ๊เบียบ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช" นักแสดงรุ่นเก่าชื่อดังเผยว่าอยากให้ไตร่ตรองให้ดีก่อนออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีพ่อด่าลูกหน้าตัวเมีย
"คุณระเบียบรัตน์เนี่ยต้องพูดเลยนะว่าเขาเนี่ย ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด เขาไม่ได้ดูทั้งซีนไง เหตุผลคือน้ำผึ้งตบตัวเองแล้วก็กรี๊ดพระเอกก็ตกใจ แต่พอพ่อเข้ามาปุ๊บ มันก็บอกว่ามันไม่ได้ทำ แต่อาการที่เขาเลือดกบปากเนี่ย พ่อมันก็เลยบอกว่าหน้าตัวเมีย แล้วคำว่าหน้าตัวเมียในพจนานุกรมมันแปลว่าอะไร"
"สมัยก่อนมันไม่ใช่คำด่าผู้หญิง มันคือคำพูดที่ใช้ว่าผู้ชาย แต่ขอยกอันนี้อันหนึ่ง แม้กระทั่งละครอะไรก็แล้วแต่ รวมไปถึงหนังสุริโยไท ก็มีนะที่บอกว่า ทำไมเจ้าถึงทำตัวเยี่ยงสตรีเช่นนี้ หมายความว่าเขาด่าผู้ชายที่ทำผิดแล้วไม่รับ อันนี้เขาคือด่าผู้ชาย ว่าทำผิดแล้วไม่รับผิด เพราะว่าเขาคิดว่าผู้ชายเป็นคนทำ"

"แล้วคุณระเบียบรัตน์มาบอกว่าพี่ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้น ไม่ได้ดูแล้วมาวิจารณ์ได้อย่างไร มาบอกอีกว่าให้เอาออกจากพจนานุกรม ใช่มั้ย ต้องเปลี่ยนพจนานุกรม บอกว่ามันเหยียดสตรี แล้วมันเหยียดสตรีตรงไหนล่ะ"

บอกน่าจะติงเรื่องอื่นมากกว่าคำศัพท์เรื่องหน้าตัวเมีย เนื่องจากคำดังกล่าวไม่ได้เหยียดสตรี
"คุณระเบียบรัตน์เนี่ยเป็นคนที่แบบว่าอยากดังนะพี่ว่า วันนั้นนั่งดูอยู่ตกใจ เขาฉายให้ดูว่าทำไมถึงว่าคำนี้ แล้วคำว่าหน้าตัวเมียมีมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ดึกดำบรรพ์ก็มีบอกว่าทำไมทำตัวเยี่ยงสตรี ก็คือหน้าตัวเมียไง แล้วมันก็มาบัญญัติไว้ แล้วคำที่พ่อด่าลูกเนี่ยมันไม่ได้แรงเลย เพราะการกระทำที่ไม่รับมันคือหน้าตัวเมีย มันหยุมหยิมไป เพราะว่ามันคือคำที่ถูกต้อง"

"มันไม่ใช่คำที่ผู้หญิงไปด่าผู้ชาย เรายังเคยมีละครบางเรื่องที่บอกว่าไปนุ่งกระโปรงมาดีกว่าแล้วมาตีกัน ถ้าจะทำนิสัยแบบนี้ แล้วคุณระเบียบรัตน์น่ะเข้าใจผิด ว่าคำว่าหน้าตัวเมียคือเป็นการด่าผู้หญิง ซึ่งแกไม่เข้าใจแล้วแกวิจารณ์ น่าอายมาก วิจารณ์อะไรก็วิจารณ์ไปในฉากอื่นเออเลิฟซีนมันมากไป อะไรก็ว่ากันไป แต่ประโยคนี้มันไม่ใช่"

"คุณมีศักดิ์ศรีอะไรนักหนา คนทั่วประเทศเขาไม่ได้อะไร เขามีศักดิ์ศรีกันทั้งนั้นผู้หญิงน่ะ แต่ไม่เห็นเขาต้องเดือดร้อนเลย เพราะว่าถ้ามันทำแบบนี้จริงๆ มันก็หน้าตัวเมีย สมมติทำจริงนะ แล้วอีกอย่างหนึ่งคือคุณระเบียบรัตน์เขายอมรับว่าเขาเป็นสัตว์หรือ เพราะผู้หญิงเขาเรียกว่าผู้หญิงนะ เขาไม่เรียกว่าตัวนะ เขาเรียกว่าคน"

"ถ้าตัวนี่คือสัตว์นะคะ คือเขาเรียกว่าหน้าตัวเมียคือทำตัวเหมือนสัตว์ตัวเมีย เขาจะยอมรับว่าเขาโกรธแค้นแทนผู้หญิงทั่วโลก คุณระเบียบรัตน์เป็นตัวหรือ เป็นตัวเมียหรือ ไม่ใช่นะ"

ยืนยันละครไม่เคยสร้างให้คนชั่วได้ดี แถมวอนให้นักแสดงได้มีโอกาสพูดบ้าง บอกละครคือจินตนาการที่มีทั้งบวกและลบ และต้องดูให้จบถึงตอนท้าย..."พอเขาวิจารณ์เพื่อจะมีผลงาน อยู่นิ่งๆ ก็ไม่มีผลงานไง ก็มีความรู้สึกว่าได้ทำอะไรบ้าง เดี๋ยวนี้ องค์กรต่างก็ใช้สื่อเป็นเครื่องมือ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะลงกับอะไรก็ลงกับละครเพราะว่าละครมันสร้างมาเป็นจินตนาการมีทั้งบวกและลบ"

"ใครทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว ไม่มีใครทำชั่วแล้วได้ดีในละคร ท้ายที่สุดก็ต้องรับกรรม คนที่ทำดีเกือบตายก็ต้องได้ดี มันขึ้นอยู่กับการนำเสนอและกระบวนการ ขั้นตอนของการดำเนินเรื่องมันอาจรุนแรงหรืออะไรไป มันก็ต้องชัดเจน คุณยังชัดเจนเลย วันนี้คุณก็ออกมาพูดชัดเจนว่าคุณอยากชัดเจน ให้เห็นว่า ดูไปให้จบหน่อยคนก็อยากจะดู คนเลวมันเลวอย่างไร มันร้าย มันเลวมันจะได้มั้ย"

"คือพี่ว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในวงการเนี่ย นักแสดงไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ให้เราได้วิจารณ์บ้างซิ การเมืองบ้าง กบว.หรืออะไรบ้าง กบว.ทำงานอย่างไร บีบคั้นนักแสดงมั้ย อะไรต่ออะไรมันคือคนน่ะ คนมันต้องมีมันต้องเสนอสารคดีซิ ถ้าแบบนั้น นี่คือมุมของนักแสดง"

ก่อนฝากถึงอดีตสว.ว่า อยากให้อยู่เฉยบ้าง อย่ายุ่งเรื่องคนอื่นมากเกินไป
"อยากฝากถึงคุณระเบียบรัตน์ว่าถ้าอยากจะดู หรืออยากจะอะไรก็ดูให้จบเรื่อง แล้วก็ไปตีความคำว่าหน้าตัวเมียให้มันถูกต้อง สิ่งที่เขาว่าเป็นแบบไหน สมัยโบราณกษัตริย์เขายังว่าว่านักรบว่าอย่าทำตัวเยี่ยงสตรี ละครดังก็ออกมา เหมือนเรื่องจิ๊ก เนาวรัตน์ก็ออกมา เขาสอนลูกเขาไม่เกี่ยวกับตนเสียหน่อยหนึ่ง"

"อยากให้แกอยู่เฉยๆ บอกคุณระเบียบรัตน์ว่าอยู่แบบธรรมดาบ้างก็ได้ ให้คนนับหน้าถือตา ตอนนี้มองได้อย่างเดียวว่าอยากดังและไร้สาระ อย่าลืมให้เขาดูนะว่าในสมัยไหนเขาก็พูดอะไรแบบนี้"
กำลังโหลดความคิดเห็น