“อั้ม” ยันไม่เคยนอนค้างบ้าน “ต๊อด” แต่รับเข้านอกออกในบ้านอีกฝ่ายได้แล้ว ออกปากไม่ซีเรียสถูกมองอยู่ก่อนแต่ง โพล่งหากคิดจะอยู่จริงตนอยู่ไปนานแล้ว ส่วนเรื่องแต่งเจ้าตัวบอกไม่เคยอยู่ในหัวสมองพร้อมโต้ข่าวแฟนหนุ่มช่วยผ่อนเบนซ์-เกาเหลา “อ้อม”
กระดิกตัวทำอะไรทีก็เป็นข่าวอยู่ตลอดสำหรับเจ้าแม่สุดเซ็กซี่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ล่าสุด มีคนตาดีเห็นนางเอกสาวแอบดอดไปค้างบ้านแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธ์” อยู่บ่อยๆ จนเกิดกระแสอั้มอยู่ก่อนแต่ง
งานนี้เจ้าตัวปฏิเสธหัวชนฝากลางงาน “SunSilk...Tribute To The Icon” ว่า ไม่เคยไปนอนค้างที่ไหนเลยนอกจากกองถ่ายต่างจังหวัดกับที่บ้านตัวเอง
“ที่เห็นอั้มไปแถวฟิวเจอร์ ปาร์ค ก็ไปอยู่แล้วค่ะ เพราะเปิดร้านที่นั่นและก็สนิทกับที่บ้านต๊อดพอสมควร ผู้ใหญ่ไม่ว่าไงนะคะ เหมือนเราเป็นเพื่อนลูกคนหนึ่งดีกว่า ถามว่าเข้านอกออกในบ้านต๊อดได้แล้วรึเปล่า จริงๆต๊อดมีน้องสาวเราก็สนิทกัน ไม่มีอะไรค่ะ”
“มีข่าวแบบนี้ภาพจะติดลบกับผู้ใหญ่มั้ยเหรอ...ไม่นะคะ เราก็ไม่ได้เข้าบ่อยน่ะค่ะ นานๆทีค่ะ เข้าทีก็มีเพื่อนๆไปกันเยอะ พี่เมย์ก็ไป อั้มไม่ได้ไปตลอด และน้องสาวก็มีทั้ง 2 คนก็สนิทกันน่ะค่ะ บ้านต๊อดอั้มไม่เคยค้างค่ะ ไม่เคยค้างที่ไหนด้วย นอกจากถ่ายละครต่างจังหวัดแต่ไปถ่ายละครที่สระบุรียังต้องขับรถกลับเลย ถ้าไม่ใช่จังหวัดที่ไกลนะแต่ถ้าเชียงใหม่เราค้างค่ะ”
เจ้าตัวไม่สนถูกมองว่าอยู่ก่อนแต่ง ยันกลับไปนอนที่บ้านตัวเองทุกวัน
“กับกระแสอยู่ก่อนแต่งก็อู๊ย! ถ้าอยู่ก่อนแต่งไปอยู่กันนานแล้วค่ะ ไม่เพิ่งมาอยู่ตอนนี้ อายุมากแล้ว ไม่นิยมด้วยค่ะ จริงๆไม่ชอบค้างที่ไหนน่ะค่ะ ถามว่าซีเรียสมั้ยก็เห็นเจอกันหลายคู่น่ะค่ะ ถ้าเกิดเราอายุ 18 อยู่แล้วค่อยมาตื่นเต้น ตระหนกกับข่าวแบบนี้แต่ตอนนี้เราไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ ก็ยืนยันว่าเรากลับบ้านนอนทุกวันค่ะ บ้านเราก็สบายอยู่แล้ว เราอยู่บ้านเราดีกว่า”
“อย่างบ้านพี่เมย์อั้มก็ไม่เคยค้างเลย พี่เมย์ก็ไม่มาค้างบ้านอั้มด้วย พี่เมย์ก็ไม่ค่อยค้างที่ไหนนอกจากไปถ่ายละครเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อนะอายุมากกันแล้ว ถามว่าติดบ้านมากมั้ยก็ไม่ถึงกับติดค่ะแต่อยู่บ้านแล้วอบอุ่น สบายใจน่ะ เราจะนอนท่าไหนก็ได้หรือออกกำลังกายในห้องนอนหรือทำอะไรมันสะดวกน่ะค่ะ”
เมื่อถามต่อว่าด้วยวัยจะเข้าเลข 3 แล้วความรักก็ลงตัวดี นางเอกสาวมีโครงการจะสละโสดบ้างหรือยัง เกี่ยวกับเรื่องนี้สาวอั้มตอบยังไม่คิดแต่ง “ต๊อด” ภายใน 3 ปีนี้แน่นอน
“ยังไม่เคยคิดเลยจริงๆ เพราะว่าเราไม่เคยคิดว่าโตเลยสักนิดหนึ่งแม้แต่ครั้งนี้ที่เราคิดว่าเราอายุมาก เรายังมีชีวิตที่ทำงานและสนุกสนานแฮปปี้ อยากใช้ชีวิตซิ่งๆ อยู่เลย ไม่รู้สึกเลยค่ะที่อายุจะ 30 แล้วเพราะ 40 ยังสวยกันอยู่เลย สมัยนี้อายุมากๆไม่แต่งงานกันเยอะแยะแต่ถามน่ารักจังเลยว่ากลัวขึ้นคานมั้ย อั้มไม่กลัวขึ้นคานค่ะ”
“คงใช่มั้งคะที่หวงชีวิตโสด ส่วนที่บ้านทุกคนคิดว่าลูกเป็นเบบี๋อยู่แล้ว การแต่งงานพ่อแม่ไม่เคยพูดถึงเลย หรืออย่างถามว่าพ่อแม่กลัวมั้ยที่ลูกคบคนที่เด็กกว่าแล้วจะไปไม่รอดคือเราไม่ได้คาดหวังอะไรและพ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยค่ะ เรามีความสุข คบแล้วสบายใจเราก็คบกันเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเราไปด้วยกันไม่ได้เราก็คงไม่คบรวมถึงการคบเพื่อนๆ ทุกคนด้วยนะคะ”
“ส่วนต๊อดคิดหรือเปล่าเราไม่รู้แต่เราไม่คิดเลย อั้มก็บอกว่าอั้มอายุมากแต่ยังคิดว่าเรายังเป็นเด็กอยู่เลย เขาก็คงเป็นเด็กอยู่เราก็มีความสุขกันอย่างนี้น่ะค่ะ ออกไปจากชีวิตเลยเรื่องแต่งงาน คือไม่ใช่ 2-3 ปีนี้แน่ค่ะ”
จากข่าวที่สาวอั้มให้สัมภาษณ์ว่าเพิ่งซื้อรถเบนซ์รุ่น SLK มาในราคาแค่ 4 ล้านบาทหลายคนเชื่อว่าไม่เป็นความจริงเนื่องจากรถรุ่นนี้ราคาน่าจะเหยียบ 10 ล้าน จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเงินในส่วนที่เหลือแฟนหนุ่มออกให้หรือเปล่า นางเอกสาวรีบโต้กลับทันที
“ไม่ค่ะ SLK คันนี้ 4 ล้านกว่าค่ะ 10 ล้านกว่าไม่ใช่ SLKแล้วค่ะ อั้มออกเองทั้งหมดค่ะ ไม่เคยใช้เงินกระเป๋าเดียวกันค่ะ กระเป๋าใครกระเป๋ามันค่ะ ถามว่าเขาช่วยผ่อนมั้ย เราไม่ได้ผ่อนค่ะเราซื้อสดค่ะ”
“ต๊อดก็ซื้อคนละคันกันค่ะ ออกมาพร้อมๆกันซื้อที่เดียวกันห่างกัน 2 วันเองค่ะ ซื้อคนละสี คนละยี่ห้อค่ะของต๊อด BMWซึ่งเราคงไม่เปลี่ยนกันใช้น่ะค่ะบีเอ็มเรามีคันหนึ่งแล้ว เราก็ใช้ของเราดีกว่าสบายใจดีกว่าด้วยเผื่อไปเฉี่ยวไปชนของของเราเรารับผิดชอบเองดีกว่า”
ล่าสุด ได้มาร่วมงานกับ “อ้อม พิยดา อัครเศรณี” ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของซันซิล แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวเกาเหลากันมาก่อน เลยถูกสื่อถามว่าทำงานเข้าขากันดีหรือไม่ สาวอั้มชมเปาะนักแสดงรุ่นพี่ใจนักเลงเหมือนตน
“เกาเหลาก็ดี ไม่กินเส้นเนาะ ไม่อ้วน จริงๆไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย เจอกันหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะเราก็นั่งคุยกันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็สนิทกับพี่อ้อมเขาก็คุย พี่อ้อมน่ารักดี”
“ร่วมงานด้วยกันแล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงที่มั่นใจเหมือนกันทั้งคู่นะ คิดว่าพี่เขาก็ดูเป็นคนใจนักเลงอยู่เหมือนกันแต่เราก็เป็นด้วย คิดว่าน่าจะใช่ค่ะที่เรานิสัยเหมือนกันจากการที่คุยพี่เขาก็เฟรนด์ลี่ดี พอเจอกันไม่คุยเรื่องข่าวกันเลยคือก็เคลียร์กันตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าวแล้วค่ะ”