xs
xsm
sm
md
lg

ซิว 4 สาขา “No Country for Old Men” คว้าหนังยอดเยี่ยมออสการ์ 2008

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


No Country for Old Men หนังการไล่ล่าอันน่าหวาดกลัว ด้วยเนื้อหาที่แยบยล ผลงานของสองพี่น้องโคเอน กลายเป็นพระเอกของเวทีออสการ์ครั้งที่ 80 เมื่อคว้า 4 รางวัลจากการเข้าชิง 8 สาขา ทั้งรางวัลบทดัดแปลง,ดาราประกอบชาย, กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะที่รางวัลดาราทั้ง 4 ต่างมาจากนักแสดงถึง 4 สัญชาติด้วยกัน

หลังจากการประท้วงของสมาคมนักเขียนอเมริกาสิ้นสุดลง รางวัลใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกเฝ้ารอคอยมากที่สุดอย่าง Academy Award ครั้งที่ 80 ก็ได้ฤกษ์จัดขึ้นที่ โกดัก เธียเตอร์, แคลิฟอร์เนีย โดยปีนี้ได้พิธีกรคนดัง จอห์น สจ็วร์ต กลับมาเป็นพิธีกรในงานอีกครั้งเป็นคำรบสอง

ผลงานพระเอกของงานนี้ได้แก่ No Country for Old Men เต็งหนึ่งแต่ไก่โห่ของสองพี่น้อง โจลและอีธาน โคเอน ที่คว้ามา 4 รางวัลในสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ฮาเวียร์ บาร์เดม) และ บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลงานของสองพี่น้องเช่นกัน

พระรองที่มาแรงอย่างไม่มีใครคาดคิดได้แก่ The Bourne Ultimatum ของนาย เจสัน บอร์น ที่ทำสถิติยอดเยี่ยมในการกวาด 3 รางวัลจากการเข้าชิง 3 สาขา ในด้าน ลำดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และ มิกซ์เสียงยอดเยี่ยม

การจัดงานครบรอบปีที่ 80 นี้นอกจากตัวเต็งทั้ง 2 แล้ว รางวัลอื่นๆ ดูจะกระจายกันออกไปทีเดียว โดยผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของสองพี่น้องอย่าง There Will Be Blood ที่เข้าชิง 8 สาขาเหมือนกัน แต่คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ 2 สาขาจากนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและการถ่ายภาพยอดเยี่ยม ซึ่งเท่ากับ La Vie En Rose ที่ได้ไป 2 จากสาขา นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และ แต่งหน้ายอดเยี่ยม จากการเข้าชิงเพียง 3 สาขาเท่านั้น

ทางด้านสาขานักแสดงในปีนี้ ผู้ที่คว้ารางวัลมาจาก 4 สัญชาติกันเลยทีเดียว เริ่มจากนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมชาวไอริช แดเนียล เดย์ ลูอิส จากเรื่อง There Will Be Blood ที่เป็นตัวเต็งตั้งแต่ไก่โห่, มาริยง โกทิลยาร์ ดาราสาวฝรั่งเศสทรงเสน่ห์ จากเรื่อง La Vie En Rose ที่คว้านักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ด้วยการเฉือน จูลี คริสตี จากเรื่อง Away From Her แบบหักปากกาเซียนบางรายไปเล็กน้อย

อีกสาขาที่ไม่ต้องลุ้นได้แก่การมาถึงของหนุ่มสเปน ฮาเวียร์ บาร์เดม ในบทฆาตกรโรคจิตจากเรื่อง No Country for Old Men ที่คว้าสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครอง ต่างกับสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมที่มีการพลิกโผกันเล็กน้อย เมื่อตัวเต็งทั้ง 2 อย่าง เคท แบลนเช็ตต์ จากเรื่อง I'm Not There และ เอมี ไรอัน จากเรื่อง Gone Baby Gone มาเสียที่ให้กับสาวอังกฤษผู้คร่ำหวอดในวงการอย่าง ทิลดา สวินตัน จากเรื่อง Michael Clayton ที่คว้าชัยไปครองในท้ายที่สุด

ครั้งเดียวที่ 4 นักแสดงที่ได้รางวัลบนเวทีออสการ์ไร้เงานักแสดงเจ้าถิ่นอย่างสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อปี 1964 เมื่อ เร็กซ์ แฮริสัน, จูลี แอนดรูว์, ปีเตอร์ อัสตินอฟ และ ไลลา เคโดรวา กวาดรางวัลทางการแสดงในออสการ์คืนนั้นไปครอง

"ขอขอบคุณพี่น้องโคเอนที่พวกคุณบ้าพอที่คิดว่าผมจะทำมันได้ และสำหรับการสร้างทรงผมที่ทุเรศที่สุดในประวัติมาไว้บนหัวผม" ฮาเวียร์ บาร์เดม กล่าวติดตลกหลังจากคว้ารางวัลไปครอง

ผลงานที่ถือว่ามาไกลที่สุดบนเวทีออสการ์ปีนี้ต้องยกให้กับ เกลน แฮนซาร์ด สมาชิกของวงดนตรีจากไอแลนด์ Frames และ มาร์เกตตา เออร์โกลวา นักดนตรีสาว ที่สนใจสร้างหนังอย่าง Once ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นนักแสดงมืออาชีพด้วยกันทั้งคู่ จนสามารถคว้าออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมจากผลงาน Falling Slowly ไปได้ในที่สุด ปล่อยให้มือเก๋าอย่าง อลัน เมนเคน ที่เข้าชิงสาขานี้ถึง 3 เพลงต้องกลับบ้านมือเปล่าไปอีกครั้ง

"เรามาทำบ้าอะไรที่นี่เนี่ย หนังเรื่องนี้เราใช้เวลาในการสร้างกันแค่ 3 สัปดาห์ กับเงินทุนแค่ไม่กี่แสนเหรียญ เราไม่นึกเลยว่าจะได้มายืนอยู่ต่อหน้าพวกคุณแบบนี้" แฮนซาร์ดกล่าวอย่างตื่นเต้น

และสุดท้าย สิ่งที่ต้องจดจำของคนทำหนังอย่างสองพี่น้องโคเอนในออสการ์ครั้งนี้ก็คือ ทั้งสองได้พา No Country for Old Men เข้าทำเนียบหนังยอดเยี่ยมที่ส่งให้ผู้สร้างคว้าออสการ์มา 3 ตัวภายในคืนเดียว ตามหลังเจ้าตำนานอย่าง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา จาก The Godfather Part II, เจมส์ คาเมรอน จาก Titanic และ บิลลี ไวลเดอร์ จาก The Apartment

No Country for Old Men 4 รางวัล
The Bourne Ultimatum 3 รางวัล
There Will Be Blood 2 รางวัล
La Vie En Rose 2 รางวัล

สรุปทุกรางวัลจาก 80th Academy Award ปี 2008

1.ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - No Country for Old Men
2.ผู้กำกับยอดเยี่ยม - โจลและอีธาน โคเอน จากเรื่อง No Country for Old Men
3.นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม - แดเนียล เดย์ ลูอิส จากเรื่อง There Will Be Blood
4.นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม - มาริยง โกทิลยาร์ จากเรื่อง La Vie En Rose
5.นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม - ฮาเวียร์ บาร์เดม จากเรื่อง No Country for Old Men
6.นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม - ทิลดา สวินตัน จากเรื่อง Michael Clayton
7.บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม - เดียโบล โคดี จากเรื่อง Juno
8.บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม - โจลและอีธาน โคเอน จากเรื่อง No Country for Old Men
9.ลำดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - The Bourne Ultimatum
10.การถ่ายภาพยอดเยี่ยม - There Will Be Blood
11.เพลงประกอบยอดเยี่ยม - Falling Slowly จาก Once โดย เกลน แฮนซาร์ด และ มาร์เกตตา เออร์โกลวา
12.ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม - Atonement โดย ดาริโอ มาเรียเนลลี
13.ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม - The Bourne Ultimatum
14.มิกซ์เสียงยอดเยี่ยม - The Bourne Ultimatum
15.เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม - The Golden Compass
16.กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม - Sweeney Todd the Demon Barber of Fleet Street
17.ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม - Elizabeth: The Golden Age
18.แต่งหน้ายอดเยี่ยม - La Vie en Rose
19.ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม - The Counterfeiters จาก ออสเตรีย
20.ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นยอดเยี่ยม - Ratatouille
21.ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม - Taxi to the Dark Side
22.ภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นยอดเยี่ยม - Freeheld
23.ภาพยนตร์ขนาดสั้นยอดเยี่ยม - The Mozart of Pickpockets
24.ภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดสั้น - Peter & the Wolf

No Country for Old Men: ถึงเวลาของ 2 พี่น้องจอมขบถแห่งฮอลลีวูด
12 ที่สุดของ “แดเนียล เดย์-ลูอิส” นักแสดงชายที่ยิ่งใหญ่แห่งทศวรรษ
“สกอร์เซซี” ส่ง Departed คว้าออสการ์ยิ่งใหญ่ 4 สาขา




















กำลังโหลดความคิดเห็น