“สาปดอกสร้อย”
บทประพันธ์ : เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์
บทโทรทัศน์ : ลายน้ำ
กำกับการแสดง : ธนาพล ผังดี
แนวละคร : ดราม่า ลึกลับ สยองขวัญ
ผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ เอ็นเทอเทนเมนท์ จำกัด
ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี และ ช่อง 7HD เริ่ม 29 ธันวาคม 2559 นี้
เรื่องย่อ
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย “คณะดอกสร้อย” เป็นที่ร่ำลือไปทั้งนครเขลางค์ ว่าเป็นคณะการแสดงเร่ที่สร้างความบันเทิงได้อย่างน่าประทับใจ การรำฟ้อนอันแสนงดงามอ่อนช้อยของ ดอกสร้อย เมื่อบวกรวมกับความสวยงามของเธอ ไม่ว่าหญิงหรือชาย หนุ่มหรือแก่ต่างตั้งตารอคอยชมการแสดงของเธอสักครั้งในชีวิต โดยหารู้ไม่...ภายใต้ความงามของดอกสร้อย มีบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่
ดอกสร้อย ฟ้อนแอ่นร่ายรำไปตามจังหวะเสียงสะล้อซอซึง ด้วยใบหน้ายิ้มพริ้มเพราให้ผู้ชม แต่ทุกครั้งที่ดอกสร้อยหันไปเจอ ฟองจันทร์ ผู้เป็นแม่เลี้ยง ภาพแห่งความเศร้าและขมขื่นก็ปรากฎชัดขึ้นในใจของเธอ
ภายหลังจากแม่ตายด้วยไข้ป่า คำป้อน พ่อของดอกสร้อย แต่งงานใหม่กับฟองจันทร์ ผู้ตั้งป้อมจงเกลียดจงชังลูกเลี้ยงคอยหาทางกลั่นแกล้งดอกสร้อยสารพัด ดอกสร้อยจำต้องยอมให้แม่เลี้ยงใจยักษ์ เพราะรู้ว่าคำป้อนรักและหลงฟองจันทร์มาก
ฟองจันทร์มีลูกสาวให้กับคำป้อนชื่อ ซอมพอ และคอยยุยงให้ลูกเกลียดชังดอกสร้อยไปด้วย ซอมพอจึงกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจและจิกใช้ดอกสร้อย ซอมพอหนีไปเล่นน้ำตกแล้วพลาดตกน้ำ ดอกสร้อยกระโดดลงไปช่วยไว้ได้ ฟองจันทร์เข้าใจผิดคิดว่าดอกสร้อยแกล้งลูกตน จึงผลักดอกสร้อยตกน้ำไป โชคดีที่ ไผ่ เด็กกำพร้าที่มาอาศัยอยู่กับคำป้อน ว่ายน้ำมาช่วยดอกสร้อยไว้ทัน เด็กทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือกันนับแต่นั้น
ขุนฤทธิไกร (ชื่อเดิมนายไกร) นายตำรวจหนุ่มหล่อมีฝีมือเชิงมวยและเชิงดาบ รับข่าวจากม้าเร็วว่านายทอง ผู้เป็นพ่อ ถูกฆ่าตายระหว่างเดินทางไปไหว้พระธาตุลำปางหลวง ขุนฤทธิไกรออกเดินทางพร้อม นายเปรื่อง เพื่อนชาวอยุธยาที่มีวิชาอาคม ขุนฤทธิไกรเห็นศพพ่อก็แปลกใจที่ร่างกายโดนแหวกท้องตับไตไส้พุงหายไป นายผิน คนรับใช้บอกว่าโดนผีกะฆ่าตาย แต่ นายปัน บอกว่าโดนโจรป่าฆ่าแล้วปล่อยให้สัตว์กิน ขุน ฤทธิไกรสัญญาต่อหน้าศพจะฆ่าคนผิด ไม่ว่าเป็นคนหรือผี!
ดอกสร้อย ออกเดินทางพร้อมชาวคณะนักดนตรีไปยังบ้านผาหมอก หมู่บ้านห่างไกลในหุบเขาอันซับซ้อน ตามคำเชิญของผู้ใหญ่สัก ที่ต้องการให้ดอกสร้อยมาแสดงให้นางบัวศรี เมียที่ตรอมใจด้วยโรคประหลาด ขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ ผู้ใหญ่สักหวังว่าการแสดงของคณะดอกสร้อยจะทำให้นางมีชีวิตชีวาขึ้น ระหว่างการเดินทางของคณะดอกสร้อย กลุ่มโจรป่าได้บุกปล้นและจับตัวดอกสร้อยและซอมพอไปขืนใจ ขุนฤทธิไกรและนายเปรื่องช่วยทั้งสองไว้ได้ ดอกสร้อยซาบซึ้งและประทับใจที่ ขุนฤทธิไกรช่วยชีวิต ขุนฤทธิไกรก็ถูกชะตาดอกสร้อย ยิ่งเห็นความอ่อนแอก็เป็นห่วงกลัวเกิดเหตุร้าย อาสาจะไปส่งให้ถึงหมู่บ้าน...แต่ดอกสร้อยไม่ยอม เลือกที่จะไปกันเอง
สิ้นแสงสูรย์ ทันทีที่ตะวันลับขอบฟ้า เสียงดนตรีบรรเลงเสนาะทั่วเชิงดอย ขุนฤทธิไกรตามเข้ามาในหมู่บ้านเห็นดอกสร้อยร่ายรำก็เหมือนต้องมนต์ในความงามของลีลาการร่ายรำ มีพลังบางอย่างที่ทำให้ดอกสร้อยดูแข็งแรงและมีพลังชีวิต แตกต่างจากช่วงกลางวันที่อ่อนแอเปราะบาง ทันใดนั้น กลุ่มโจรป่าบุกเข้ามาปล้นชาวบ้านแล้วลากตัวดอกสร้อยออกไป! ดอกสร้อยร้องขอชีวิต ไล่ให้โจรป่ารีบหนีไปก่อนที่จะต้องตาย โจรป่าไม่ฟังเสียงห้ามใดๆ ผีกะ วิญญาณร้ายในร่างดอกสร้อยออกอาละวาดไล่ฆ่าตาย ดอกสร้อยรู้สึกตัวอีกทีพบว่ามือ ปาก และเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดของโจร ดอกสร้อยกรีดร้องด้วยความเสียใจสุดจะประมาณ คำป้อนปลอบใจดอกสร้อยพร้อมขอโทษ ที่ทำให้ลูกสาวต้องเผชิญชะตากรรมแบบนี้
ย้อนไปเมื่อสองสามปีก่อน ไม่มีใครสนใจชมการแสดงคณะดอกสร้อยและซ้ำร้าย ดอกสร้อยล้มป่วยง่าย ไม่สามารถแสดงได้ ฟองจันทร์สั่งให้คำป้อนตัดดอกสร้อยออกจากคณะ ทิ้งดอกสร้อยไว้ที่บ้านป่าเพียงลำพัง ดอกสร้อยออกตามหาพ่อเห็นผีกะกำลังจะฆ่าคำป้อน ดอกสร้อยร้องขอชีวิต ผีกะโดนพรานเวทย์ไล่ล่า ขอสิงร่างดอกสร้อยแลกกับชีวิตคำป้อน ดอกสร้อยจึงยอมให้ผีกะสิงร่างนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา!! ดังนั้นทุกครั้งหลังจากแสดง คำป้อนจึงต้องเอาเป็ดไก่มาให้ผีกะกินบนเรือนพักของดอกสร้อย ผีกะจึงช่วยให้ดอกสร้อยมีพลังชีวิต สามารถร่ายรำได้อย่างทรงพลัง!!
ขุนฤทธิไกรตกใจกับสภาพศพโจรป่าที่ถูกฆ่าตาย พยายามสืบหาความจริงเหตุการณ์นี้และจับผู้ร้ายที่ฆ่าพ่อ! แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ ขุนพิศณุแสน (ชื่อเดิมนายปลิว) คู่อริเก่าของขุนฤทธิไกร ได้รับคำสั่งให้มาดูแลความสงบที่หมู่บ้าน ขุนพิศณุแสนหวังจะได้เลื่อนขั้นเหนือกว่าขุนฤทธิไกร จึงขัดขาและหักหน้าขุนฤทธิไกรโดยมี นายดำเป็นผู้ช่วย!
เอื้องคำ นางรำประจำหมู่บ้าน อิจฉาที่ใครๆ สนใจและชื่นชมดอกสร้อย เอื้องคำสั่งให้ ศรีออน สาวรับใช้ไปกลั่นแกล้งแต่ล้มเหลว เอื้องคำจึงยุยงว่าดอกสร้อยเป็นตัวกาลกิณี ใส่ไฟชาวบ้านให้ไล่คณะดอกสร้อยออกไป ผู้ใหญ่สักยืนยันที่จะให้คณะดอกสร้อยแสดงให้นางบัวศรีดูต่อไป ยิ่งทำให้เอื้องคำ เกลียดชังและหาทางกำจัดดอกสร้อยโดยไว!
เรื่องราวผีกะฆ่าโจรป่า ถูกพูดปากต่อปากจนเข้าหูพรานเวทย์ ผู้มีความแค้นกับผีกะ ผีกะเคยฆ่าเมียและลูก! พรานเวทย์จึงพา ไอ้ใบ้ ชายหนุ่มกำพร้าเดินทางไปบ้านผาหมอก!!
ดอกสร้อยเปิดทำการแสดงอีกครั้ง ขุนพิศณุแสนเมามายเข้าไปลวนลามดอกสร้อย ขุนฤทธิไกรและไผ่เข้าไปปกป้องดอกสร้อย เกิดการต่อยตีโกลาหล เอื้องคำสบโอกาสสั่งศรีออนลากดอกสร้อยไปตบตีหลังหมู่บ้าน ดอกสร้อยขอร้องให้เอื้องคำและศรีออนหยุด แต่ทั้งสองไม่ยอม ผีกะในร่างดอกสร้อยจะเล่นงานพวกเอื้องคำ เป็นจังหวะเดียวที่ขุนฤทธิไกรตามเข้ามาช่วยดอกสร้อย ทั้งขุนฤทธิไกรและพวกเอื้องคำจะเห็นร่างผีกะ แต่คำป้อนฆ่าเป็ดไก่เรียกผีกะไปเสียก่อนคำลับของดอกสร้อยจึงยังเป็นความลับอยู่ ขุนฤทธิไกรเข้าไปช่วยเหลือดอกสร้อยไว้ เอื้องคำยิ่งหมั่นไส้ดอกสร้อย อยากได้ขุนฤทธิไกรเป็นคู่ชีวิต!!
ขุนฤทธิไกรพาดอกสร้อยไปพักฟื้นดูแลที่เพิงริมลำธาร ดอกสร้อยไม่อยากอยู่กับขุนฤทธิไกรตามลำพังแต่ฝนตกหนัก กลับบ้านไม่ได้ ขุนฤทธิไกรถามถึงเหตุการณ์โจรป่าถูกฆ่าตายและชวนคุยเรื่องผีกะดอกสร้อยพยายามกลบเกลื่อน ทันใดนั้น ผีกะปรากฎตัว! ดอกสร้อยกลัวผีกะจะเล่นงานขุนฤทธิไกรรีบวิ่งฝ่าสายฝนหนีไป!! ทำให้ขุนฤทธิไกรแปลกใจในท่าทีของดอกสร้อยมากขึ้น!
ดอกสร้อยนึกย้อนในวันแสดง เธอมองเห็นผีตายโหงชายตนหนึ่งสิงอยู่ในร่างนางบัวศรี มันคอยกัดกินร่างนางจนกว่านางจะตาย ดอกสร้อยขอร้องให้ตองนวล สาวใช้นางบัวศรีพาไปที่ห้อง ดอกสร้อยปรุงยาสมุนไพรให้นางบัวศรีกินจนหลับ และดอกสร้อยได้ขอร้องให้ผีตายโหงออกจากร่าง ผีตายโหงไม่ยอมจะทำร้ายดอกสร้อย นายเปรื่องเข้าไปช่วยไว้ ผีตายโหงจึงหนีไปหลบในป่า นายเปรื่องพยายามซักดอกสร้อย แต่ขุนฤทธิไกรเห็นดอกสร้อยไม่สบายรีบพากลับเรือน สั่งห้ามนายเปรื่องกวนใจดอกสร้อยอีก
คำป้อนสั่งให้ดอกสร้อยปิดปากเรื่องผีตายโหง เพราะถ้าชาวบ้านรู้ว่ามีผีในหมู่บ้านก็จะพากันแตกตื่น และภัยจะถึงตัวดอกสร้อย!!
ดอกสร้อยทำการแสดงให้นางบัวศรีและชาวบ้านดู....ผีตายโหงโกรธแค้นดอกสร้อย เข้ามาหลอกหลอนชาวคณะ...แล้วสิงร่างดอกสร้อย ทำให้การร่ายรำผิดเพี้ยน...แต่แล้ว..ผีกะมากระชากร่างผีตายโหงออกไป วิญญาณทั้งสองไปต่อสู้กันในป่าไผ่ ผีกะเล่นงานผีตายโหงอย่างหนัก อย่ามายุ่งกับดอกสร้อย ไม่งั้นจะฆ่าให้วิญญาณดับ! ผีตายโหงเก็บความแค้นไว้ รอวันที่จะสะสางกับผีกะ!!
ขุนฤทธิไกรมั่นใจว่าดอกสร้อยมีความลับปกปิดไว้ เขาจึงเข้าหาเพื่อหาทางช่วยดอกสร้อย ยิ่งทำให้ฟองจันทร์ไม่พอใจ ฟองจันทร์รู้ว่าขุนพิศณุแสนชอบพอดอกสร้อย อาสาลวงดอกสร้อยไปหาของป่าแล้วล่ามโซ่ดอกสร้อย ขุนพิศณุแสนจะขืนใจดอกสร้อย ไผ่เข้าไปช่วยแล้วประกาศเป็นคู่รักดอกสร้อย ขุนพิศณุแสนเจ็บใจจะจับดอกสร้อยมาทำเมียให้ได้!!
อยู่มาวันหนึ่ง ไผ่สารภาพรักดอกสร้อย แต่ดอกสร้อยมอบใจให้ได้แค่เพื่อน ไผ่เสียใจอย่างหนักยืนยันจะพิสูจน์ให้ดอกสร้อยเห็นว่าเขารักดอกสร้อยหมดใจ ให้ได้แม้กระทั่งชีวิต!!
ดอกสร้อยหลบหลีกผู้คนไปอยู่ในป่าเพียงลำพัง ขุนฤทธิไกรเฝ้าติดตามชีวิตดอกสร้อย สงสารอยากทำให้ดอกสร้อยมีชีวิตชีวาเหมือนตอนรำแสดง ขุนฤทธิไกรพาดอกสร้อยขี่ม้าชมดอกกล้วยไม้ป่าและทุ่งดอกไม้บนเชิงดอยที่ดอกสร้อยไม่เคยเห็น ดอกสร้อยตื่นตาตื่นใจ และอุ่นใจที่มีคนคอยปกป้อง ทำให้ดอกสร้อยมีพลังชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
ขุนฤทธิไกรจะพาดอกสร้อยกลับไปส่งบ้าน ขุนพิศณุแสนและดำปลอมตัวเป็นโจร เข้ามาทำร้าย ขุนฤทธิไกรได้รับบาดเจ็บต้องควบม้าหนีไปที่บ้านเกิดนครสวรรค์ ขุนพิศณุแสนจึงสร้างเรื่องว่าขุนฤทธิไกรลักพาตัวดอกสร้อย ฟองจันทร์โกรธจัดใส่ไฟว่าดอกสร้อยจงใจแย่งขุนฤทธิไกร ซอมพอพลอยเกลียดชังดอกสร้อยหนักกว่าเดิม นายเปรื่องคอยเตือนสติไม่ให้ซอมพอหูเบา อย่าเชื่อในสิ่งที่ไม่เห็น..ยิ่งทำให้ซอมพอพาลโกรธนายเปรื่อง คิดว่านายเปรื่องก็รักดอกสร้อย นายเปรื่องปฎิเสธว่าเขามีคนรักแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่าเป็น ซอมพอ
นางแสง แม่ของขุนฤทธิไกรให้หมอมารักษาแต่อาการไม่ดีขึ้น ดอกสร้อยสั่งให้นายผินและนายปันไปหาสมุนไพรป่า ดอกสร้อยต้มยาหม้อและรักษาจนกระทั่งขุนฤทธิไกรฟื้นได้สติ..นวล สาวใช้นางแสงเห็นความรักและความห่วงใยที่ดอกสร้อยมีต่อขุนฤทธิไกร นำความไปบอกเจ้านาย..ประกอบกับนายผิน,นายปันฟ้องว่าตั้งแต่ดอกสร้อยมาอยู่ เป็ดไก่ในเล้าตายทุกคืน นางแสงจึงสั่งให้นายผินและนายปันจัดเวรยามเฝ้าดูดอกสร้อย!
ผีกะในร่างดอกสร้อยออกหากิน นายผินและนายปัน,นวลเห็นผีกะก็วิ่งหนีตกใจ นายเปรื่องเห็นผีกะหายไปในห้องพักของดอกสร้อย สะกดรอยตามไป แล้วภาพตรงหน้าทำให้นายเปรื่องแทบหมดสติ เขาเห็นดอกสร้อยกินไก่สดอยู่ในห้อง ดอกสร้อยหันมาเจอนายเปรื่อง ทันใดนั้น นายปันพานางแสงบุกมาที่ห้อง ยืนยันว่าเห็นผีกะเข้าห้องดอกสร้อย นางแสงสั่งให้จับตัวดอกสร้อยไป ขุนฤทธิไกรรู้เรื่องก็ฝืนตัวจากไข้เข้าไปห้าม ไม่ยอมให้ใครทำร้ายดอกสร้อย นายเปรื่องเห็นความรักที่เพื่อนมีต่อดอกสร้อยก็สงสารไม่กล้าบอกความจริง นายเปรื่องตัดสินใจเป็นพยานว่าดอกสร้อยไม่ได้เลี้ยงผีกะ นางแสงจึงต้องยอมปล่อยตัวดอกสร้อย ดอกสร้อยซึ้งน้ำใจที่เปรื่องช่วยปิดบังเรื่องผีกะ นายเปรื่องได้แต่รอเวลาที่จะบอกความลับกับขุนฤทธิไกร
นางแสงต้องการให้ดอกสร้อยออกไปจากชีวิตขุนฤทธิไกร สร้างเรื่องว่าขุนฤทธิไกรมีคู่รักแล้ว ขอให้ดอกสร้อยออกไปจากชีวิตขุนฤทธิไกร ดอกสร้อยก้มกราบรับคำ เธอรู้ดีว่าความรักระหว่างเธอกับขุนฤทธิไกรไม่มีวันเป็นไปได้....ดอกสร้อยจึงหนีไปจากคุ้ม!
พรานเวทย์มายืนอยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่สัก...เครื่องรางของขลังในตัวพรานเวทย์ทำให้ผีตายโหงที่สิงนางบัวศรีอาละวาดทันที พรานเวทย์ทำพิธีจับผี.. ผีตายโหงต่อสู้สุดกำลัง...หลุดรอดจากการจับลงหม้อไปได้อย่างหวุดหวิด นางบัวศรีจึงลุกเดินได้เป็นปกติ ผู้ใหญ่สักดีใจมากมอบเงินทองให้พรานเวทย์มากมาย พรานเวทย์จึงเข้าป่าตามล่าวิญญาณผีตายโหง!!
ดอกสร้อยกลับมาถึงหมู่บ้านตอนกลางวัน...พรานเวทย์สัมผัสได้ถึงเงาดำที่อยู่รอบตัวเธอ .....เพราะจิตของเธออ่อนแอง่ายต่อการถูกผีสิง พรานเวทย์มอบตะกรุดไม้ไผ่ให้เธอห้อยคอ คำป้อนรู้เรื่องนี้ก็สั่งให้ดอกสร้อยเอาไปทิ้ง เพราะถ้าเก็บไว้ผีกะเข้าสิงดอกสร้อยไม่ได้! ดอกสร้อยรับคำแต่แอบเอามาแขวนคอ ถึงเวลากลางคืน....ผีกะเข้าสิงดอกสร้อยไม่ได้ ขู่จะฆ่าชาวคณะ...ดอกสร้อยจึงบอกความจริงว่าได้ตะกรุดจากพรายเวทย์. ผีกะได้ยินชื่อพรานเวทย์ก็รู้แล้วว่าภัยกำลังมาถึงตัว ผีกะขอร้องให้ดอกสร้อยนำตะกรุดไปทิ้ง ดอกสร้อยเพิ่งเห็นผีกะกลัวเป็นครั้งแรก ถ้าเธอสวมตะกรุดเส้นนี้ ชีวิตของเธอก็คงหลุดพ้นจากผีกะ หรือเธอต้องอยู่กับผีกะเพื่อช่วยชาวคณะ ในที่สุดดอกสร้อยเลือกที่จะซ่อนตะกรุดคณะดอกสร้อยจึงทำการแสดงให้ชาวบ้านชมต่อไปได้....
ฟองจันทร์สั่งห้ามดอกสร้อยเข้าหาขุนฤทธิไกรเด็ดขาด เพราะเป็นคนรักของซอมพอ...ซอมพอสับสนในใจ เพราะซอมพอเริ่มมีใจให้นายเปรื่อง.. เขาคอยบอกให้เธอสงสารดอกสร้อย โดยไม่ยอมบอกว่าเพราะอะไร? ซอมพอจะเข้าไปซักความจริงจากดอกสร้อย เห็นดอกสร้อยกำลังกินสัตว์ ผีกะไล่ล่าจะฆ่าซอมพอ นายเปรื่องช่วยซอมพอไว้ได้ ....ดอกสร้อยเสียใจที่เกือบฆ่าน้องสาว..เล่าความลับที่มาของผีกะตัวนั้นให้ซอมพอฟัง ซอมพอรู้ความจริงว่าดอกสร้อยต้องเสียสละเพื่อชาวคณะ ก็รู้สึกผิดที่ใจร้ายใจดำกับดอกสร้อย สัญญาจะปกปิดความลับนี้ไว้และช่วยเหลือดอกสร้อย สองพี่น้องกอดร้องไห้ด้วยความรักความเข้าใจอันดีที่มีต่อกัน
ดอกสร้อยรู้ดีว่าเธอไม่มีทางหนีรอดผีกะตัวนี้ได้ เพราะมันใช้อาคมเวทย์สิงสถิตย์อยู่ในตัวเธอ เธอเป็นเพียงร่างเดียวที่ทำให้มันมีพลังฤทธิ์เดชมากขึ้น ดอกสร้อยจำต้องเอาตะกรุดไปทิ้งน้ำตก แล้วยอมให้มันสิงร่างต่อไป แลกกับชีวิตของชาวคณะ!
ขุนพิศณุแสนและดำรู้ว่าพรานเวทย์ได้เงินและทองมากมายจากผู้ใหญ่สัก ปลอมตัวเป็นโจรออกปล้น เล่นงานพรานเวทย์หมดสติ ขุนฤทธิไกรและนายเปรื่องเข้าไปขวาง ขุนพิศณุแสนพลิกสถานการณ์และหลักฐานว่าขุนฤทธิไกรคือโจรป่าทำร้ายพรานเวทย์ นายเปรื่องช่วยขุนฤทธิไกรไว้ โดยระหว่างนั้นขุนฤทธิไกรตัดสินใจซ่อนตัวอยู่ในป่า เพื่อหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ผีตายโหงรู้ว่าพรานเวทย์บาดเจ็บรักษาตัว มันเข้าสิงขุนฤทธิไกรไปเล่นงานพรานเวทย์และทุกคนในหมู่บ้าน นางแสงและนวลเข้ามาตามขุนฤทธิไกรกลับบ้าน โดนผีตายโหงในร่างขุนฤทธิไกรเล่นงาน ดอกสร้อยรีบไปเอาตะกรุดที่เคยทิ้งไว้ที่น้ำตก มาคล้องคอขุนฤทธิไกร ผีตายโหงโกรธแค้นคิดว่าผีกะในตัวดอกสร้อยเล่นงานมัน จะฆ่าดอกสร้อยและพวกเอื้องคำ พรานเวทย์ฝืนตัวจากอาการบาดเจ็บใช้มีดหมอเล่นงานผีตายโหง ก่อนวิญญาณผีตายโหงจะดับ ได้บอกความลับกับพรานเวทย์ ว่าผีกะซ่อนอยู่ในหมู่บ้าน...ไม่ทันพูดจบ ไอ้ไบ้ใช้อาคมฆ่าผีตายโหงดับ หวังเอาหน้าว่ามันเป็นหมอผีที่เก่ง พรานเวทย์ลงโทษไอ้ไบ้อย่างหนัก โกรธแค้นที่ไม่รู้ว่าผีกะอยู่ร่างใคร?
นางแสงตกใจเรื่องผีนอนหมดสติ ขุนฤทธิไกรอยากอยู่ช่วยดูแลแม่ แต่โดนขุนพิศณุแสนและผู้ใหญ่สักไล่ล่าต้องหนีเข้าป่า ดอกสร้อยอาสาช่วยดูแลนางแสง ฝ่ายฟองจันทร์บังคับให้ซอมพอไปเอาใจนางแสง ซอมพอรับปากแต่กลับไปเป็นลูกมือช่วยเหลือดอกสร้อย แล้วก็กันท่าไม่ให้เอื้องคำเข้าหานางแสง ดอกสร้อยดูแลจนนางแสงหาย นางแสงรู้สึกดีและยอมรับในตัวดอกสร้อย หากขุนฤทธิไกรหลุดคดีความจะไปสู่ขอดอกสร้อย ดอกสร้อยกลับปฎิเสธเพราะรู้ดีว่าความรักของเธอกับขุนฤทธิไกรไม่มีวันสมหวัง
ผีกะในร่างดอกสร้อยอาละวาดฆ่าคน และมีพลังอำนาจแก่กล้ามากขึ้น ดอกสร้อยไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของผีกะอีกแล้ว หอบผ้าหนีเข้าป่าไปให้ไกลแสนไกล ขุนฤทธิไกรจะพาดอกสร้อยกลับหมู่บ้าน ดอกสร้อยสารภาพความจริงว่าเธอคือร่างของผีกะ เธอฆ่าโจรป่าและคนมากมาย ขุนฤทธิไกรไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่เขารักจะเป็นร่างของผีกะและฆ่าคน! ขุนฤทธิไกรเอาเถาวัลย์มามัดมือดอกสร้อยกับเขาไว้...แบกพาดอกสร้อยกลับบ้าน
เวลายามค่ำคืน ผีกะเข้าร่างดอกสร้อยจะฆ่าขุนฤทธิไกร ขุนฤทธิไกรตกใจไม่คิดว่าสิ่งที่ดอกสร้อยพูดจะเป็นความจริง ขุนฤทธิไกรหนีไม่ได้เพราะเขามัดล่ามตัวไว้กับดอกสร้อย ขุนฤทธิไกรเรียกชื่อดอกสร้อยเพื่อให้สติ ดอกสร้อยพยายามฝืนใจตัวเองสู้กับผีกะในร่างที่จะฆ่าขุนฤทธิไกรให้ได้ สุดท้ายคำป้อนฆ่าสัตว์ให้ผีกะออกไปกิน ผีกะจึงยอมปล่อยขุนฤทธิไกร
ดอกสร้อยได้สติอีกครั้ง มือของเธอเปื้อนเลือดขุนฤทธิไกร ดอกสร้อยนึกทบทวนเรื่องราว ร้องไห้เสียใจที่เธอเกือบฆ่าผู้ชายที่รักเธอมากและเธอก็รักเขา ดอกสร้อยไม่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อฆ่าใครอีกแล้ว ดอกสร้อยตัดสินใจจะฆ่าตัวตายที่หน้าผา แต่แล้ว ขุนฤทธิไกรมาดึงร่างโอบกอดไม่ยอมให้ดอกสร้อยตาย เพราะเขารักดอกสร้อย ดอกสร้อยซาบซึ้งใจไม่เคยคิดว่าจะมีชายคนใดจะยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นได้ ทั้งสองโอบกอดร้องไห้ในวิบากกรรมที่เกิดขึ้น
ขุนฤทธิไกรไปส่งดอกสร้อยที่หมู่บ้าน ขอร้องให้ดอกสร้อยรักษาชีวิตไว้ เขาจะเร่งเรียนวิชาอาคมจากเปรื่อง หาทางช่วยเหลือดอกสร้อย ดอกสร้อยรับคำแต่ภายในใจเธอรู้ดีว่าไม่มีใครช่วยเธอได้ มีหนทางเดียวที่จะกำจัดมันคือเธอต้องตายไปพร้อมกับมัน! ดอกสร้อยขอร้องให้ซอมพอไปบอกให้พรานเวทย์ฆ่าดอกสร้อย ซอมพอไม่ยอมแต่ทนรบเร้าไม่ได้ จำต้องไปนัดหมายพิธีกับพรานเวทย์!
ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านแห่มาชมการแสดงของดอกสร้อย เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ชาวคณะจะเดินทางไปที่อื่น โดยไม่มีใครรู้ว่า เป็นการรำครั้งสุดท้ายในชีวิตของดอกสร้อย พรานเวทย์ปรากฎตัวเข้ามาทำพิธีมัดร่างดอกสร้อยกับผีกะไว้ เสียงร้องโหยหวลของผีกะดังไปทั้งดอย ขุนฤทธิไกรขัดขวางไม่ยอมให้พรานเวทย์ฆ่าดอกสร้อย ผีกะออกจากร่างหนีเข้าป่า ขุนฤทธิไกรรีบพาดอกสร้อยหนีไป ชาวบ้านจึงรู้ว่าผีกะอาศัยอยู่ในร่างดอกสร้อย ขุนพิศณุแสนและผู้ใหญ่สักนำพวกออกไล่ล่าขุนฤทธิไกรและดอกสร้อย!!
ขุนฤทธิไกรจะพาดอกสร้อยหนีไปให้ไกลสุดหล้า แต่ดอกสร้อยไม่ยอม เพราะรู้ดีว่าเมื่อถึงกลางคืน ผีกะต้องมาสิงร่างตนและมันต้องฆ่าขุนฤทธิไกร ผีกะไล่ล่าตามมาพบ ขุนฤทธิไกรใช้วิชาอาคมที่เรียนรู้จากนายเปรื่องป้องกันตัว ผีกะจึงเข้าสิงร่างดอกสร้อยทำร้ายขุนฤทธิไกร ขุนฤทธิไกรไม่กล้าทำร้ายดอกสร้อย จึงโดนผีกะในร่างดอกสร้อยเล่นงานปางตาย นายเปรื่อง ไผ่ นายปัน และนายผินมาช่วยไว้ แต่ขุนพิศณุแสนและผู้ใหญ่สักตามมาจับขุนฤทธิไกรและดอกสร้อย!!
ชาวบ้านจับดอกสร้อยมัดไว้กลางลาน เอื้องคำยุให้ชาวบ้านเผาดอกสร้อยทั้งเป็น ชาวบ้านจึงช่วยกันสุมไฟเผาร่างดอกสร้อย ในขณะที่ขุนพิศณุแสนและนายดำบุกไปที่คุมขังจะฆ่าขุนฤทธิไกร นายเปรื่องบอกให้ผู้ใหญ่สักจับขุนพิศณุแสน แต่ผู้ใหญ่สักกลับทำร้ายนายเปรื่องและขุนฤทธิไกร ทั้งสองจึงรู้ความจริงว่าผู้ใหญ่สักเป็นคนฆ่าพ่อของขุนฤทธิไกร และออกปล้นชาวบ้าน ผู้ใหญ่สักจะฆ่าขุนฤทธิไกรปิดปาก ดอกสร้อยซึ่งมีพลังของผีกะในตัวดิ้นออกจากกองไฟมาช่วยขุนฤทธิไกร..ฆ่าผู้ใหญ่สักและขุนพิศณุแสน,นายดำตาย! ชาวบ้านต่างหวาดกลัวที่ดอกสร้อยเป็นกึ่งผีกึ่งคน...พรานเวทย์เอาตะกรุดทองเหลืองคล้องคอดอกสร้อย...ผีกะหลุดออกจากร่าง...ขุนฤทธิไกรจะพาดอกสร้อยไปรักษาในเมือง แต่ดอกสร้อยไม่กล้าสู้หน้าใครและกลัวผีกะจะทำร้ายขุนฤทธิไกรอีก...จึงหนีเข้าไปอยู่ในป่า!!
นางฟองจันทร์กลัวผีกะฆ่า.. สั่งให้ชาวคณะหนีไปจากหมู่บ้าน คำป้อนไม่ยอมทำตามคำสั่งเมีย....เพราะเป็นห่วงดอกสร้อย.....บรรดาชาวคณะก็ช่วยคำป้อนออกตามหาดอกสร้อย ฟองจันทร์ไม่พอใจประกาศแยกทางกับคำป้อน ขโมยเงินทั้งหมดของคำป้อนหนีไป!!
ขุนฤทธิไกรพบดอกสร้อยซ่อนตัวอยู่ในถ้ำหลังม่านน้ำตก... ดอกสร้อยเอาโซ่มาล่ามขาตัวเองไว้ .. ไม่อยากออกไปฆ่าคน..ขุนฤทธิไกรใช้ดาบฟันโซ่จนขาด...จะพาดอกสร้อยไปให้พรานเวทย์รักษา...เอื้องคำสั่งให้ขุนฤทธิไกรฆ่าดอกสร้อย ขุนฤทธิไกรไม่ยอมทำ เอื้องคำกระชากสร้อยตะกรุดของพรานเวทย์ทำลายทิ้ง..ผีกะจึงเข้าสิงดอกสร้อยออกอาละวาดใหญ่ เอื้องคำขวัญเสียหวีดร้องลั่นป่ากลายเป็นคนบ้าร้องเพ้อเรียกผีกะฟองจันทร์เจอผีกะฆ่า..กลัวรนรานวิ่งหนีตกหน้าผาตาย!! ...ส่วนคำป้อนโดนผีกะกินตับไตเหมือนที่คำป้อนเคยฆ่าสัตว์ให้ผีกะกิน!!
ผีกะเล่นงานชาวบ้านอย่างหนัก คาถาอาคมของพรานเวทย์สู้ไม่ได้ มีทางออกทางเดียวที่จะปราบผีกะได้คือใช้วิญญาณที่แกร่งกล้า....ไผ่อยากช่วยดอกสร้อยเพราะหากปล่อยให้ผีกะสิงร่างดอกสร้อยข้ามคืน ดอกสร้อยจะกลายเป็นผีกะตลอดกาล.... ไผ่ขอร้องให้พรานเวทย์ฆ่าเขา เอาวิญญาณเขาสู้กับผีกะ ดอกสร้อยขัดขวางไม่ให้ไผ่ฆ่าตัวตาย..แต่ไผ่ปลิดชีวิตตัวเองเพื่อช่วยดอกสร้อย...
พรานเวทย์ทำพิธี วิญญาณของไผ่กลายเป็นผีตายโหงที่มีพลังเข้าต่อสู้กับผีกะ จนพลังของผีกะอ่อนแรง แต่ด้วยพลังแก่กล้าของมันก็ทำลายวิญญาณไผ่ดับ ผีกะจะฆ่าพรานเวทย์ มีดหมอตกอยู่ข้าง
ขุนฤทธิไกร ดอกสร้อยร้องขอให้ขุนฤทธิไกรฆ่าเธอ ขุนฤทธิไกรจำต้องคว้ามีดหมอแล้วแทงร่างดอกสร้อย วิญญาณผีกะจึงดับสลายไป พรานเวทย์และชาวบ้านจึงรอดพ้นจากความตาย!
ขุนฤทธิไกรเสียใจที่เป็นคนฆ่าดอกสร้อย นำร่างดอกสร้อยไปวางไว้ทุ่งดอกไม้ที่ดอกสร้อยชื่นชอบ เมื่อละอองหมอกลอยผ่านมา ร่างดอกสร้อยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะขุนฤทธิไกรไม่ได้แทงส่วนสำคัญของร่างกาย ขุนฤทธิไกรรีบนำดอกสร้อยไปรักษาตัวจนหายดี นางแสงผูกข้อมือสู่ขอดอกสร้อยให้ขุนฤทธิไกร และขอซอมพอให้นายเปรื่อง ดอกสร้อยจึงใช้ชีวิตร่วมกับขุนฤทธิไกรอย่างมีความสุข
โดยไม่มีใครรู้ว่า ได้มีผีกะตัวใหม่ ถือกำเนิด ณ ที่แห่งนั้น
คาแรคเตอร์ตัวละครเรื่อง “สาปดอกสร้อย”
1.ดอกสร้อย รับบทโดย ทิสานาฎ ศรศึก
ดาวเด่นในคณะดอกสร้อย วัย 24 ปี เธอมีเสียงไพเราะ กังวาน และการร่ายรำที่งดงามมาก เช่นเดียวกับรูปร่างหน้าตา เป็นสาวอาภัพเพราะมีผีกะสิงทำให้เธอต้องหลบหน้าผู้คนในเวลากลางวัน ที่ใบหน้าจะดูซูบซีดเศร้าหมอง และหวาดกลัวว่าจะมีใครรู้ความจริง ในตอนกลางคืนจะอิ่มเอิบงดงามดอกสร้อยเป็นคนที่กตัญญูและรักครอบครัวมาก ยอมเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อคนอื่น ดอกสร้อยตรอมใจที่แม่ตายและยังขาดความรักจากพ่อ ทำให้กลายเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอ ร่างกายไม่แข็งแรง จนทำให้ผีกะเข้ามาสิงและฝังแน่นในตัวดอกสร้อย
2.ขุนฤทธิไกร (ไกร) รับบทโดย วงศกร ปรมัตถากร
ตำรวจหนุ่มผู้เก่งกาจสามารถทั้งฟันดาบ การต่อสู้ และขี่ม้า วัย 28 ปีในยุคสมัยพระเจ้าเสือ อยุธยาตอนปลาย เป็นชาวนครสวรรค์ที่ไปร่ำเรียนอยุธยาตั้งแต่เล็ก มีประสบการณ์ในการปราบโจรผู้ร้าย แกะรอย มีปฏิภาณไหวพริบ เจ้าเสน่ห์ เมื่อพ่อเสียชีวิต จึงไปสืบคดีพ่อและช่วยเหลือชาวบ้านที่หมู่บ้านผาหมอก ขุนฤทธิไกรเป็นคนกล้าหาญ รักเดียวใจเดียว ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องคนที่รัก
3.ผีกะ รับบทโดย วรรษธนศม เมฆสุวรรณ
ผีกะตนนี้ เป็นผีกะที่หลังค่อม ต้องคลานต่ำกับพื้น แต่เมื่อมันได้กินของสดของสัตว์หรือคนมากขึ้น มันก็มีพลังมากขึ้น ร่างกายจะกลายคล้ายๆ คน มีความเร็วดุจสายลม วิ่งและลอยไปได้ไกล ผีกะตนนี้เคยถูกเลี้ยงไว้ในบ้านคหบดีและผ่านพิธีเวทย์มนต์ ทำให้มันเป็นผีกะที่มีพลังมากกว่าผีกะอื่นๆ ผีกะจะออกสิงร่างดอกสร้อยในเวลากลางคืน ทำให้ดอกสร้อยมีพลังชีวิต
4.ไผ่ รับบทโดย นนทพันธ์ ใจกันทา
เด็กหนุ่มอายุ 24 ปี เด็กกำพร้าที่คำป้อนเอามาเลี้ยงไว้ในคณะ มีฝีมือฟันดาบและต่อสู้ เป็นหนุ่มซื่อๆ จริงใจ ไผ่มีร่างกายกำยำ เป็นที่ต้องตาต้องใจของสาวๆ มีความสามารถในการตีกลอง เล่นดนตรีพื้นเมือง และร่ายรำเพลงดาบ ไผ่หลงรักดอกสร้อยตั้งแต่เล็ก พร้อมที่จะเสียสละชีวิตเพื่อดอกสร้อย ไผ่เป็นคนที่ขาดความรักจึงเข้าอกเข้าใจดอกสร้อย คอยช่วยเหลือ และที่สำคัญ ดอกสร้อยไม่ค่อยแข็งแรง ไผ่จึงตามเป็นเงาเพื่อช่วยเหลือดอกสร้อย แอบสงสารและหลงรักดอกสร้อย
5.ซอมพอ รับบทโดย พรชดา เครือคช
ซอมพอ แปลว่า หางนกยูง สาวสวยวัย 20 ปี ลูกสาวของฟองจันทร์แม่เลี้ยงดอกสร้อย มีความสามารถเรื่องรำและร้อง ซอมพอถูกแม่บงการทุกเรื่อง จนไม่เป็นตัวของตัวเอง และถูกยุยงให้เกลียดชังดอกสร้อย จนกระทั่งซอมพอได้รู้ความจริงว่าดอกสร้อยโดนผีกะเข้าสิง และยอมเสียสละเพื่อคนอื่น ทำให้ซอมพอละอายใจที่เธอเห็นแก่ตัว ซอมพอจึงเปลี่ยนตัวเองใหม่ คอยช่วยเหลือดอกสร้อย และเรียนรู้ที่จะเสียสละเพื่อคนอื่น
6.นายเปรื่อง รับบทโดย วีรคณิศร์ กานต์วัฒนากุล
นายเปรื่องเป็นหนุ่มอยุธยาที่ไปทำงานเป็นตำรวจที่อยุธยา วัย 28 ปี เป็นเพื่อนสนิทของขุนฤทธิไกร นายเปรื่องเป็นคนสนุกสนานและมีวิชาอาคม เก่งเรื่องการปลอมตัวและเจ้าเล่ห์ เป็นคนมองโลกแง่ดี อารมณ์ขัน เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน
7.ขุนพิศณุแสน รับบทโดย ทองภูมิ ศิริพิพัฒน์
นายปลิว...หนุ่มหล่อกำยำ วัย 28 ปี เป็นลูกชาวบ้าน ที่หวังเอาดีทางราชการ นิสัยนักเลง ชอบเอาชนะ ฉลาดแกมโกง.. เป็นคู่ปรับกับขุนฤทธิไกร แต่ด้อยกว่าทุกเรื่องทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ ทำให้ขุนพิศณุแสนจงเกลียดจงชังขุนฤทธิไกร ต้องการเอาชนะขุนฤทธิไกรทุกเรื่อง
8.เอื้องคำ รับบทโดย นิชานันท์ ฝั้นแก้ว
สาวงามประจำหมู่บ้านผาหมอก วัย 24 ปี เป็นนางรำ และต้องตาต้องใจของคนในหมู่บ้าน แต่เมื่อคณะดอกสร้อยมาทำการแสดง ก็ไม่มีใครสนใจเธอ เอื้องคำเป็นคนขี้อิจฉาริษยา โลภมากอยากสุขสบาย คอยเข้าหาให้ท่าขุนฤทธิไกรตลอด
9.ศรีออน รับบทโดย วรรษพร วัฒนากุล
หญิงชาวเขลางค์ วัย 24 ปี เป็นเพื่อนสนิทของเอื้องคำ แต่ยากจนจึงต้องคอยรับใช้ดูแลเอื้องคำ ศรีออนเป็นคนฉลาด เจ้าวางแผน อารมณ์ขัน ชอบรำชอบร้องเพลง แต่ไม่ได้เรื่อง ฝันอยากมีผัว อยากสุขสบาย ศรีออนเป็นคนกลัวผีมาก เพราะตอนเด็กๆ ปู่ย่าตายายเล่าเรื่องผีจนกลัวขึ้นสมอง
10.นายดำ รับบทโดย เนรัญญ์ ศรีสันต์
นายดำเป็นหนุ่มวัยกำยำ วัยราว 27 ปี คอยทำงานให้ขุนพิศณุแสน เป็นพวกชอบใช้กำลัง มีฝีมือการต่อสู้ ฉลาด เป็นคู่คิดให้ขุนพิศณุแสนรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย
11.พรานเวทย์ รับบทโดย นพพล พิทักษ์โล่พานิช
พรานป่า วัยราว40ปี ร่างกายกำยำ มีรอยสักทั้งตัว มีวิชาอาคมทั้งป้องกันตัวและปราบผีร้าย ลูกเมียถูกผีกะฆ่าตาย จึงตามไล่ฆ่าผีกะตัวนั้นและผีกะทุกตัว พรานเวทย์เป็นคนดุดัน จริงจัง รักสันโดษ ชอบกินและนอนในป่า
12.นายคำป้อน รับบทโดย ศตวรรษ ดุลยวิจิตร
เจ้าของคณะดอกสร้อยครวญ วัยราว 45 ปี มีฝีมือด้านเล่นดนตรีและร้องเพลงคำป้อนเป็นพ่อของดอกสร้อย เมื่อเมียตายด้วยไข้ป่าก็แต่งงานกับนางฟองจันทร์ คำป้อนเป็นคนหูเบา รักฟองจันทร์มากไม่มีเวลาให้ดอกสร้อย คำป้อนเคยโดนผีกะจะฆ่า แต่ดอกสร้อยขอชีวิตคำป้อนและยอมให้ผีกะเข้าสิงเธอ เพื่อช่วยชีวิตคำป้อน คำป้อนอยากให้คณะมีชื่อเสียง และมีเงินเยอะๆ ให้ฟองจันทร์ หวังให้ครอบครัวได้หยุดเร่ สร้างครอบครัวเป็นหลักแหล่ง
13.นางฟองจันทร์ รับบทโดย ณหทัย พิจิตรา
แม่เลี้ยงดอกสร้อย วัยราว 35 ปี เป็นคนช่างพูดจำนรรจา ชอบดื่มเหล้า เล่นการพนัน เห็นแก่ตัว คิดถึงตัวเอง กลัวคำป้อนไม่รัก จึงพยายามทำทุกอย่างแย่งความสนใจจากดอกสร้อย และหาทางเขี่ยดอกสร้อยให้พ้นชีวิต ฟองจันทร์จึงคอยเป่าหูให้คำป้อนเกลียดชังดอกสร้อย และให้ซอมพอลูกสาว เอาชนะดอกสร้อยทุกเรื่อง
14.ผู้ใหญ่สัก รับบทโดย สุรวุฑ ไหมกัน
ผู้ใหญ่บ้าน วัย 50 ปี หน้าฉากอัธยาศัยดี ดูแลและเป็นที่รักของลูกบ้าน ผู้ใหญ่สักเป็นคนประนีประนอม คอยไกล่เกลี่ยคดี มีน้ำใจ ใครมีปัญหาก็คอยช่วยเหลือ แต่ความจริงแล้ว คือโจรใหญ่ ที่คอยปล้นชาวบ้านหรือคนต่างถิ่น
15.นางบัวศรี รับบทโดย สายธาร นิยมกาญจน์
ภรรยาผู้ใหญ่สัก วัย 45 ปี เป็นเมียที่คอยดูแลผู้ใหญ่สักอย่างดี คอยสอนให้ชาวบ้านเชื่อในกฎแห่งกรรม เพราะนางบัวศรีเจ็บหนัก เหมือนคนเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ นางจึงคิดว่าเป็นกรรมที่นางเคยทำไว้ และรู้ดีว่าผู้ใหญ่สักทำบาปหนัก นางบัวศรีกลัวผัวมาก ไม่กล้ามีปากมีเสียง
16.ไอ้ใบ้ รับบทโดย พงษธัช รัตนเศรณี
ชายหนุ่มหุ่นกำยำ วัย 24 ปี ที่พรานเวทย์เก็บมาเลี้ยงด้วยความสงสาร หลังจากลูกเมียพรานเวทย์ถูกผีกะฆ่าตายไปหมดแล้ว อยากเก่งเหมือนพรานเวทย์ มีปมด้อยว่าเป็นใบ้ ไม่มีหญิงสนใจ อยากเก่งและมีคนรัก
17.นางแสง รับบทโดย รัชนี ศิระเลิศ
นางแสง เป็นชาวนครสวรรค์ วัย 45 ปี แม่ของขุนฤทธิไกร นางแสงเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง รักลูก อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี เมื่อสามีตาย ก็เป็นห่วงลูก อยากให้ลูกออกจากราชการตำรวจ เพื่อมาอยู่กับครอบครัว นางแสงไม่ชอบดอกสร้อย เพราะอยากได้ลูกสะใภ้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์
18.นวล รับบทโดย วนิดา แสงสุข
นวล เป็นสาวใช้ประจำตัวนางแสง วัย 35 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน ดูแลบ่าวไพร่ในเรือน คอยเป็นหูเป็นตาให้นางแสง เป็นหญิงม้าย จึงเป็นคู่ปรับคู่กัดกับนายปันและนายผิน สองหนุ่มรุ่นใหญ่ คอยแจกขนมจีบเป็นระยะ แต่นวลทำตัวเป็นสวยเลือกได้
19.นายปัน รับบทโดย สร้อย สารคาม
นายปันเป็นคนรับใช้สนิทของพ่อขุนฤทธิไกร วัย 45 ปี เป็นคนมีหลักการ ชอบสืบเสาะหาความจริง และโอ้อวด จึงขัดขากับนายผินเสมอ ทั้งเรื่องวิธีคิดและแย่งกันจีบนวล
20.นายผิน รับบทโดย ถนอม สามโทน
นายผิน ชายวัย 45 ปี เป็นคนรับใช้คนสนิทของพ่อขุนฤทธิไกร เชื่อในไสยศาสตร์ เป็นผู้รู้เรื่องผีสาง และดวงชะตา คิดจินตนาการได้ไว เห็นใบตองก็คิดว่าเป็นผี เป็นคู่กัดกับนายปัน
21.ตองนวล รับบทโดย ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี
ตองนวลเป็นสาวแรกรุ่น วัยราว 28 ปี เป็นสาวใช้ประจำตัวนางบัวศรี เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ชอบสังเกตและดูพฤติกรรมคน เก็บความลับได้ดี และทำหน้าที่รับฟังนางบัวศรี ตองนวลเป็นคู่กัดกับเอื้องคำและศรีออน
22.ผีตายโหง รับบทโดย อิทธิกร สาธุธรรม
ผีตายโหงเป็นผีเพศชาย วัยราว 30 ปี ตัวดำทั้งตัว สามารถหายตัวเป็นดวงวิญญาณสีดำ มีพลังพอสมควร ผีตายโหงมาเกาะกินสิงร่างนางบัวศรี เพราะในอดีตโดนผู้ใหญ่สักฆ่าตาย
23.ม่อน รับบทโดย ศศิศวัท สุทธิเกษม
ม่อนเป็นนักดนตรีประจำคณะดอกสร้อย วัยราว 25 ปี เพื่อนสนิทกับไผ่ เป็นคนอารมณ์ดี กินเหล้าย้อมใจถึงเล่นดนตรีได้เพราะ ชอบจินตนาการ เห็นโน่นเห็นนี่เป็นตุเป็นตะ
24.ผา รับบทโดย วิชัย จงประสิทธิ์พร
ผาเป็นนักดนตรีประจำคณะดอกสร้อย วัยราว 35 ปี เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เชื่อว่ามีผี ผีไม่มีในโลก จึงเป็นคู่กัดกับม่อน
พร้อมด้วยนักแสดงรับเชิญอีกมากมาย