ดิแองเจิ้ล นางฟ้าล่าผี ปี 2
Ep.11
ในอดีต บรรยากาศรอบๆของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กๆส่วนใหญ่อยู่ในอาคารบ้าง โรงอาหารบ้าง
แต่ที่สนามเด็กเล่น มีเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวมอมแมมนั่งแกว่งไกวชิงช้าแบบเหงาๆอยู่คนเดียว
ณ สนามเด็กเล่น ด.ญ.แบม กระโดดลงจากชิงช้าแล้วเดินมาหาตุ๊กตาผ้าเน่าๆตัวหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนชุดโต๊ะอาหารของเล่น
"เอาล่ะ..น้องชมพู่.... พี่แบมกลับมาแล้ว...โอโห...มีเค้กด้วย...งั้นวันนี้เป็นวันอะไรน้า"
จู่ๆก็มีมือเด็กสกปรกมาหยิบก้อนเค้กนั้นผ่านหน้าแบมน้อยไป แบมมองตามเค็กขึ้นไป เป็นเด็กเกเร3-4คนยืนอยู่
ไอ้เปี๊ยกตัวเล็กๆผอมๆ ดำๆ บอก
"ยายแบม..ทำไมเธอมีเค้กกินคนเดียวละ ไม่คิดจะแบ่งพวกเราเหรอ"
ไอ้เปี๊ยกหันไปมองพรรคพวกแล้วพยักหน้าให้กันอย่างกวนตีน แบมน้อยเริ่มโกรธ เธอนิ่งและมองไปที่พวกเด็กเกเร
แบมหน้านิ่ง พูดนิ่งๆ
"เค็กนั้นเป็นของฉันคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว"
"แล้วไง?...นังเด็กใหม่ แกแน่มาจากไหนว๊ะ"
"เอาเค็กคืนมาไม่งั้นเจ็บตัว"
ไอ้บิ๊ก เด็กตัวอ้วนบอก
"กล้าขู่พวกเราเหรอ"
แบมนับ "หนึ่ง !"
เด็กเกเรทำหน้าล้อเลียนใส่
"สอง" แบมหน้านิ่งมาก โกรธมากขึ้น
ไอ้น้อยบอก "อีบ้า..มึงแน่จริงเข้ามาสิ"
"สาม !"
แบมน้อยพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดเข้าใบหน้าไอ้เปี๊ยกจนเค้กหล่นลงพื้น แบมกำลังจะก้มลงไปเก็บเค็ก จังหวะกำลังก้มลงไปนั้น ไอ้บิ๊กถีบแบมน้อย แบมน้อยล้มลงและรีบลุกขึ้นเข้าต่อยพวกเด็กเกเร
ทั้งสามรุมแกล้ง รุมผลักจนแบมน้อยล้ม เสื้อผ้าเลอะเทอะมอมแมมไปด้วยฝุ่น เธอหันไปมองเค้กก้อนนั้นที่เละแล้ว
ไอ้เปี๊ยกต้องตบสั่งสอน
ไอ้เปี๊ยกโดนก้อนหินปาใส่หัวอย่างจัง เขาหันไป
ไอ้เปี๊ยกถาม "ใครวะ"
แบมน้อยหันมองตามไป
เด็กชายคนหนึ่ง ยืนอยู่บนต้นไม้ มองเห็นไม่ค่อยชัดเพราะเขายืนย้อนแสงเห็นเป็นเพียงเงาดำ
เด็กชายคนนั้นกระโดดลงมาจากต้นไม้
เด็กชายคนนั้นบอก
"พวกแกมันหมาหมู่นี่หว่า"
ไอ้เปี๊ยกบอก "ทำตัวเป็นฮีโร่....ล่อมันเลยพวกเรา"
สิ้นเสียงเปี๊ยก พวกเขาก็เข้าไปรุมต่อยกับเด็กคนนั้น
ณ สนามเด็กเล่น มีการต่อสู้กัน ฝุ่นเริ่มกระจาย…
ณ ปัจจุบัน แบมมองดูสนามเด็กเล่น ที่สภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจนแทบร้าง แบมหันมามองชิงช้า เธอเดินเข้าไปที่ชิงช้า และไกวมันเบาๆ ตั้มวิ่งเข้ามา
"อะโห...แอบมายืนเล่นมิวสิกวิดีโออยู่คนเดียวก็ไม่บอก ผมเล่นเป็นพระเอกให้เอาไหม"
"มิวสิคอะไร อย่ามากวน"
"แหะๆ ดุจัง แฟนใครเนี่ย"
"ไม่ใช่แฟนนายก็แล้วกัน"
"โห...ใจร้ายอ่ะ"
แบมยิ้ม ตั้มเลยยิ้มออก
"ไปกันเหอะ น้องๆรออยู่"
"อือม์"
ภายใน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่โรงอาหารมีเด็กๆกว่า 10 คนนั่งรออยู่ที่โต๊ะยาว ด้านหลังเด็กๆมี ครูแป๋ม วัย 60 ปี กับแม่บ้าน กำลังเตรียมอาหาร
ตั้มเข้ามาที่โรงอาหาร ขณะที่เด็กๆกำลังมองอาหารกันอยู่
"เด็กๆๆจ๋า...."
เด็กหันขวับมามอง
ตั้มทวนซ้ำ
"เด็กๆ จ๋า"
ตั้มเอามือมาบ้องหู
เด็กๆ "จ๋า..." พร้อมกัน
"เด็กๆ จี๋"
"จี๋"
"พี่ชื่อ ตั้มนะครับ..พร้อมยังเอ่ย"
"พร้อมแล้ว !"
แบมส่ายหน้าด้วยความเซ็ง
"เล่นอยู่ได้ น้องๆหิวข้าวแล้วไม่เห็นไง?"
ว่าแล้วแบมก็แทรกเข้ามาคว้าจานแล้วเรียกเด็กมารับข้าวและแกง
ตั้มรีบวิ่งเข้ามาช่วยตัก เด็กยืนต่อแถวรอให้แบมกับตั้มตักข้าว
"ก็แหม...ผมติดมาจากงานเข้าค่ายอาสาอ่ะ...ต้องบิวท์กันก่อน จริงไหมครับครู"
ครูแป๋มมองทั้งคู่แล้วอดยิ้มไม่ได้
แอนนาเดินเข้ามาในห้องประชุม สำนักงานแองเจิ้ล ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยอยู่
"อาพิมค่ะ...หนูสืบมาได้เรื่องแล้วคะ...ว่าไม้เท้าของบุญเพ็งอยู่ที่ไหน"
ทุกคนหันมาสนใจ
ไสถานที่เก็บต้องไม่ปกติแน่ๆ" พิมบอก
"ทำไมเหรอค่ะครู " ปาล์มสงสัย
"ก็ถ้าที่เก็บไม่มีความพิเศษ ป่านนี้บุญเพ็งคงไปเอามาครอบครองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าถึงเวลานั้นพวกเราคงแย่แน่ๆ"
"นั่นสิ ขนาดบุญเพ็งเหลือแต่เพียงวิญญาณ เรายังสู้ไม่ได้เลย"
แอนนาเข้า could data ของตัวเอง ภาพแผนที่ถูกดึงขึ้นหน้าจอ พร้อมๆกับจอย่อยเป็นวัดแห่งหนึ่ง
"พวกนักสะสมของเก่าระดับเซียนเท่านั้นที่รู้จักวัดเล็กๆแห่งนี้"
เอโกะบอก "ไม่มีเห็นมีอะไรโดดเด่น"
"ใช่...ภายนอกไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ข้างในนี่ซิ"
แอนนาดึงภาพรายละเอียดภายในของวิหารหลังหนึ่ง
"ตำรวจผู้ใหญ่นายหนึ่งที่หนูรู้จักเคยได้เข้าไปในวิหารหลังนี้ ซึ่งเก็บวัตถุโบราณที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการประหารนักโทษ"
"เป็นวัดที่เก็บของใช้จากนักประโทษประหาร" พิมว่า
"ใช่ค่ะ...การประหารฆาตกรที่เล่นคาถาอาคมมักจะมีของสำคัญที่มีอาถรรพ์รวมอยู่ด้วยของเหล่านี้จึงต้องมีที่จัดเก็บเฉพาะโดยพระสงฆ์ที่บุญญาธิการเป็นผู้รักษา ซึ่งก็เป็นที่วัดแห่งหนึ่งที่เก็บของเหล่านั้นเอาไว้ และความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้"
แอนนาดึงภาพขยาย ข้าวของที่ถูกวางไว้บนผ้าเรียงราย
"ตรงนั้นมัน...." ปาล์มยังพ฿ดไม่จบ
จากภาพขยาย สุดปลายผ้าเป็นรูปไม้เท้าอันหนึ่ง
แอนนายิ้มแล้วดึงรูปไม้เท้าบุญเพ็งขึ้นเปรียบเทียบ
"ไม้เท้าของบุญเพ็ง" พิมบอก
"ใช่แล้วค่ะ" แอนนาว่า
"เพราะอยู่ในวัดนี่เองบุญเพ็งถึงเข้าไปเอาไม่ได้ ...แล้ววัดนี้อยู่ที่..."
"จังหวัดประจวบค่ะ"
พิมครุ่นคิด
"เราต้องเข้าถึงไม้เท้าแล้วเอามาให้ได้ก่อนที่บุญเพ็งจะหาวิธีแย่งมาได้สำเร็จ"
"ใช่คะ...สายของหนูบอกว่า ช่วงหลังมานี้เหมือนภายในวัดมีร่องรอยงัดแงะบ่อยๆ
หนูว่ามันต้องเกี่ยวกับเรื่องไม้เท้านี้แน่ๆ"
"งั้นแอนนากับเอโกะรีบเดินทางไปวัดนี้โดยเร็วที่สุด" พิมบอก
"แล้วหนูล่ะคะ" ปาล์มถาม
"เธออยู่กับครูที่นี่ พยายามหาทางติดต่อทางวัดให้ได้"
"แล้วยัยบ้าพลังนั่นไปไหนล่ะเนี่ย" แอนนาถาม
"ไปออกเดท" เอโกะบอก
"ยัยแบมเนี่ยนะ"
เอโกะยิ้ม
"แหม คนเราก็ต้องมีบ้าง"
บรรยากาศกว้างๆ ในสนามเด็กเล่นใต้ร่มเงาไม้ แบมกำลังนั่งอ่านนิทานให้เด็กๆฟังอย่างสนุกสนาน
ตั้มกำลังช่วยคุณครูแป๋มล้างจาน
"เออ...บ้านเด็กกำพร้าที่นี่มันเงียบเหงาจังเลยนะครับ"
"เรากำลังจะย้ายไปที่ใหม่เพราะโดนรัฐเวรคืนพื้นที่น่ะคะ ในไม่ช้าถนนที่ลงภาคใต้จะตัดผ่านที่ตรงนี่"
"น่าเสียดายนะครับ ท่าทางแบมจะชอบที่นี่มากซะด้วย"
ครูแป๋มจ้องมองมาที่ตั้มแล้วอมยิ้ม
"คุณตั้ม ชอบหนูแบมเหรอคะ"
ตั้มชะงัก หยุดล้างจานเลย..หน้าเริ่มแดง
"เอิ่ม...เพื่อนครับ..เรา เป็นเพื่อนนะครับ"
คุณครูอมยิ้มมองมาที่ตั้ม
"หนูแบมเป็นคนอารมณ์ร้อน ใจเร็ว แต่แกเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ชอบบู๊กับเด็กผู้ชาย หนูแบมเป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น"
"เออ...คุณครูครับ..แล้วทำไม แบมต้องมาเลี้ยงเด็กๆวันนี้ด้วยนะครับ"
"อ้าว..นี่เธอไม่รู้เหรอ"
"ไม่รู้ครับ"
"วันนี้เป็นวันเกิดของหนูแบมนะสิ"
"เด็กกำพร้ามีวันเกิดด้วยเหรอครับ"
"มีสิ"
ณ สนามเด็กเล่นในอดีต แบมน้อยนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในบ่อทรายกับน้องชมพู่
"วันนั้นครูเห็นแบมนั่งร้องไห้อยู่ที่สนามเด็กเล่น นั่งมองขนมเค็กที่เละแล้ว"
เด็กชายคนนั้น ปากเจ่อ ตาบวมเดินเข้าไปนั่งข้างๆแบมน้อย
"เราปลอบคนไม่เป็นนะ"
แบมน้อยดวงตาแดงกล่ำเพราะร้องไห้ หันมามองเด็กชายคนนั้น
"แต่ถ้านั่งเป็นเพื่อนล่ะพอได้"
"แล้วเธอไม่มีเพื่อนเหรอ"
"เราชอบอยู่คนเดียวมากกว่า"
"ทำไมละ"
"คนชอบล้อเราว่าเป็นลูกไอ้ขี้ขโมย"
"ทำไมละ"
"ช่างมันเถอะ...อย่ารู้เลย"
แบมน้อยนิ่ง เหมือนน้อยใจ
"งั้นเราถามเธอบ้าง"
แบมน้อยยิ้มขึ้นมาพยักหน้า
"ทำไมอยากกินเค้ก"
"เราไม่ได้อยากกินเค้กหรอก...เราแค่อยากมีวันเกิด"
เด็กชายคนนั้นหันมามองแบมน้อย
"อือม์..วันเกิดเหรอ งั้นเธอนั่งหลับตานับหนึ่งถึงยี่สิบอยู่ตรงนี้นะ"
เด็กชายคนนั้นวิ่งออกไปทันที แบมงง เอามือปิดตาแล้วเริ่มนับ...
แล้วเมื่อทันทีที่เธอนับยิ่สิบแล้วเปิดตาออก.... เค้กวันเกิดพร้อมเทียนก็ถูกประคองด้วยมือเข้ามา
เด็กชายคนนั้นเหงื่อท่วมตัวแต่ก็ยังฝืนยิ้มให้ แบมน้อยดีใจมาก
"อธิษฐานก่อนค่อยเป่าเทียนนะ"
แบมน้อยอุ้มน้องชมพู่ขึ้นมาแนบกาย และเธอหลับตา อธิษฐาน แล้วเป่า...!
เสียงเอะอะโวยวายดังจากด้านหลัง
แม่ค้าตะโกน
"ไอ้เด็กบ้า..ไอ้ขี้ขโมย ไอ้เลว...จับมันไว้...เร็ว"
เด็กชายยักคิ้วแล้วเผ่นแนบหนีไปทันที
ตั้มกำลังเช็ดจานส่งให้ครูแป๋ม
"และวันนี้ของทุกปี หนูแบมเลยถือว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ"
"แล้วเด็กผู้ชายคนนั้นละครับ"
"หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนมาขอรับไปเลี้ยงต่อ"
ตั้มพยักหน้า
แบมขณะที่กำลังเล่านิทาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรับสาย
"ว่าไงเอโกะ? อะไรนะรู้ที่เก็บไม้เท้าบุญเพ็งแล้วเหรอ"
"ใช่...อยู่ในวัดเก่าแห่งหนึ่งในจังหวัดประจวบ" เอโกะบอก
"อือม์...ใกล้ที่ฉันอยู่ตอนนี้ ส่งแผนที่มาเลย เดี๋ยวฉันเดินทางไปก่อน แล้วพวกเธอตามสมทบแล้วกัน"
"ได้เลยตามนั้น"
เอโกะวางสาย
"เธอสองคนก็ระวังตัวด้วย" พิมบอก
เอโกะและแอนนาพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป
"หนูยังติดต่อทางวัดไม่ได้เลยคะครู" ปาล์มบอก
"พยายามต่อไปนะปาล์ม..งานนี้ครูว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ"
ถนนเส้นต่างจังหวัด รถของตั้มวิ่งฝ่าความร้อนมาตามทาง แบมนั่งตรงมองไปตามทาง
"อะไรอ่ะ...ทำเป็นงอน....โอ...เอ้....โอ....เอ้"
"ไม่ต้องเลย ฉันบอกแล้วใช่ไหม? จะไปคนเดียว"
"โห...อะไรกัน งานเลี้ยงข้าวเด็กล่ะมาชวน ทีไอ้งานยากๆอันตรายๆดันจะไปคนเดียว"
"ก็ฉันดูแลตัวเองได้"
"แต่ผมอยากดูแลแบมมากกว่า"
"เหรอ....จะขายประกันเหรอไง แหมพูดอะไรก็ดูตัวเองด้วย ทั้งซุ่มซ่าม ทั้งเซ่อซ่าอย่างนี้...มีหวังไม่ได้เรื่องแหงๆ"
ตั้มนิ่งสลดไป แบมมองแล้วก็ต้องถอนหายใจ
"เฮ้อ....ว่าแต่นายไปที่นี่ถูกใช่ไหม"
ตั้มเงียบ
"แผนที่ที่เอโกะส่งมา มันวกวนยังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวเราแวะถามทางชาวบ้านข้างหน้าดีกว่า" แบมบอก
ตั้มเงียบ
"เดี๋ยวฉันเลี้ยงไอติม"
ตั้มเริ่มยิ้มได้ " จิงดิ"
ภายในร้านขายของข้างทางในตลาดแห่งหนึ่ง ตั้มถือโอกาสในขณะที่แบมกำลังถามทางชาวบ้าน เข้ามาเลือกหาของชิ้นสำคัญ เป็นสร้อยเงินเส้นหนึ่ง ตรงกลางเป็นอักษรตัวภาษาอังกฤษ B
ตั้มยิ้ม
"เอาเส้นนี้ครับ แล้วก็เอาการ์ดแผ่นนี้ด้วย"
ตั้มรีบจ่ายตังค์ แล้วหยิบปากกาตรงเคาท์เตอร์เขียนยุกยิกบนการ์ด
"ซื้ออะไรน่ะ" แบมเข้ามาถาม
ตั้มรีบเก็บ
"อะ...อ๋อ ....ปล่าว ไม่ได้ซื้อ"
"แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วย"
"ไม่ได้ทำ....เสียงผมมันเป็นยังงี้เอง"
แบมจ้องหน้าสงสัย
"ประหลาดคน...รีบไปเถอะ กว่าจะถึงวัดเดี๋ยวมืดกันพอดี"
"ครับผม..ท่านผู้บัญชาการ บ๋อมแบ๋ม"
แบมหันมามองหน้าตั้ม
"อะไรน"
"ก็เรียกชื่อที่เรารู้กันแค่สองคนไง"
ตั้มชี้ไปที่แบม
"บ๋อมแบ๋ม"
ตั้มชี้มาที่ตัวเอง
"ตุ้มตั้ม"
"ไอ้บ้า" แบมอมยิ้ม "เอ้านี่...แผนที่"
"ครับผม !"
ตั้มรีบวิ่งนำออกไป แบมมองตามแบบขำๆ
รถของตั้มวิ่งมาตามแนวป่าซึ่งมีป้ายชี้เป็นทางเข้าวัดโบราณ
"เฮ้ย...เดี๋ยวก่อน"
"อะไร บ๋อมแบ๋ม"
"จอดรถก่อน...เร็วสิ"
รถตั้มจอดเอี๊ยด แบมรีบเปิดประตูลงไป
"อ้าว...รอตุ้มตั้มด้วยสิ"
ตั้มวิ่งตามแบมลงไปยังข้างทาง แบมรื้อกิ่งไม้ที่สุมกันออกแล้วก็นิ่งอึ้งไป
"ทำไม มีอะไรเหรอ"
"ของโบราณ.....หัวขโมย.....ฮึ่ยส"
แบมรีบวิ่งกลับไปที่รถ ตั้มยิ่งงงหนักรีบวิ่งตามแบมกลับไป
ภาพค่อยๆชัดที่มอเตอร์ไซด์เก่าๆคันหนึ่งที่ซุกไว้หลังพุ่มไม้
วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวห่างไกลจากถนนใหญ่ วิหารหลังหนึ่งที่เก็บของโบราณ....ชายลึกลับคนหนึ่ง พยายามสะเดาะกุญแจโบราณเขรอะสนิม
"อือม์...หือ...สนิมเขรอะเชียว"
วายุเลือกกุญแจผีดอกสำคัญขึ้นมาลองเสียบแล้วยิ้ม
"เป๊ะเลย"
"วายุ ! นึกแล้ว...ใช่นายจริงๆด้วย"
วายุจำเสียงได้ เขาหยุดสะเดาะกุญแจแล้วมองแบมอย่างตกตะลึง
"แบม...นี่คุณฟื้นตั้งแต่เมื่อไร"
"ก็ไม่นานนักหรอก"
"ว่าแล้วเชียว ลองถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วยังไงก็ต้องได้กลับมาเจอกัน"
วายุหันมาแล้วก็ต้องชะงักที่เห็นแบมยืนอยู่คู่กับตั้ม
"ไม่ต้องตลก ฉันรู้ว่านายกำลังจะทำอะไร ? นายจะมาขโมยไม้เท้าของบุญเพ็ง….ใช่ไหม"
"ใครอ่ะ ? บ๋อมแบ๋ม" ตั้มถาม
"บ๋อมแบ๋ม" วายุทวนชื่องงๆ
"อย่ามาเฉไฉ นายยังไม่ได้ตอบฉันว่านายจะมาขโมยไม้เท้าใช่ไหม"
"ก็มันอาชีพผมนี่"
"งั้นใครจ้างนายมา"
"แหม เรื่องนี้ผมบอกไม่ได้ซะด้วยสิ คือมันเป็นจรรยาบรรณทางวิชาชีพน่ะ"
"จรรยาบรรณบ้าบออะไรกัน รู้ไหมว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของแฟนฉัน"
"แฟนนาย"
ตั้มเหมือนจะขยับตัวเข้าไปพูด แต่แบมรีบตัดบทยื้อวายุเอาไว้
แบมบอกกับตั้ม
"รอฉันอยู่ที่นี่"
"อะเออ..."
"มานี่ ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับนาย"
"อ่ะ..อ่ะ...ใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย" วายุบอก
แบมฉุดวายุเดินจากมา วายุยิ้มเยาะเย้ยตั้ม
"วายุ...วายุ ชื่อนี้มันคุ้นๆวะ"
ตั้มหยิบมือถือมากดโทร.ออก
เฉินกำลังตัดต่อรายการอยู่ โทรศัพท์ดังเข้า
"ว่าไง อยู่ไหนวะเนี่ย รอเข้ามาตัดงานอยู่นะเว้ย"
" ใจเย็นดิ...ผมยังอยู่กับหวานใจอยู่เลย"
"หวานใจ....หวานใจเตี่ยมึงสิ! ถ้าไม่ใช่เรื่องงานงั้นโทร. หาพระแสงอะไรไม่ทราบ"
"โห...ใจเย็นสิ ผมจะโทร.มาถามว่าลุงจำเรื่องที่ลุงโดนโกงค่าถ่ายรายการ "ของเก่าเล่าเรื่อง" ได้ไหม"
"ทำไมจะจำไม่ได้...เจ๊งไปเป็นล้าน ล้าน"
" ไอ้สิบแปดมงกุฏนั่นมันชื่ออะไรนะ"
"วายุ"
" วายุ...ใช่ ผอมๆ ขาวๆ กวนๆ หรือเปล่าลุง"
"มีวายุเดียวละ..คนเลวแบบนั้นนะ"
ตั้มกดปิดสายทิ้ง..แล้ววิ่งตามแบมไป
แบมลากวายุเข้ามาในมุมหนึ่ง
"นายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องไม้เท้าบุญเพ็งได้ยังไง"
"คุณต่างหากที่มายุ่งกับเรื่องนี้ได้ยังไง? หรือว่าแอบตามฟลอโรผมอยู่"
"ยังมาทำพูดเล่นอีก ไม้เท้าบุญเพ็งมันเกี่ยวพันของชีวิตฉันกับเพื่อนทุกคน"
"มันขนาดไหนกันล่ะ คุณก็รู้เวลาผมรับงาน ผมก็ต้องค่าจ้างก่อน แต่ถ้างานนี้ไม่สำเร็จ"
"เงิน...เงิน ทำไมนายมันน่าเงินจังเลยว่ะ อย่าลืมนะฉันเคยช่วยนายให้รอดตาย"
"แหม ทวงบุญคุณ...จะลืมได้ไง ก็คุณเป็นคนที่ผมคิดถึงตลอดเวลานี่นา"
"งั้นนายต้องยกเลิกงานขโมยไม้เท้าบุญเพ็ง"
"แต่คราวนี้ผมโดนเล่นงานตายแน่ๆ"
"จะช่วยหรือไม่ช่วย"
วายุฝืนยิ้มกระล่อนแต่สบสายตาที่จ้องเขม็งของแบม
"ฉันซีเรียสนะ"
แบมจ้องหน้าวายุเขม็ง
"เฮ้อ.....ถ้ามันสำคัญกับคุณขนาดนั้น"
วายุยื่นมาจับมือแบม
ตั้มโผล่เข้ามาเห็นพอดีตรงปรี่เข้ามาผลักวายุกระเด็นไป
"เฮ้ย...เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย" วายุว่า
ตั้มหันมามองแบมด้วยความโมโห
"แบม...ไอ้ชั่วนี่มันเคยโกงเงินบริษัทผม" ตั้มพูดกับวายุ "แกจำได้ไหมรายการ "ของเก่าเล่าเรื่อง" ที่แกโกงบริษัทลุงฉันไปได้หลายล้าน"
"จริงเรอะ"
"ถ้าจริงแล้วไง ถ้าไม่จริงแล้วไง"
"แกมันหน้าเงิน ทำทุกอย่างก็เพื่อเงิน ไอ้เลว...ไอ้เรื่องไม้เท้านี่ก็ด้วยใช่ไหม"
แบมเสียงดัง "ใจเย็นสิ"
"นี่...เธอเข้าข้างมันเหรอ"
"โธ่...ใจเย็นดิ....ก็แค่เงินนิดหน่อยเอง"
ตั้มมองหน้าแบมที่ไม่ปฏิเสธอะไรแล้วพุ่งเข้าใส่วายุด้วยความโกรธ
"มึง"
ตั้มชกวายุจนผงะไป ตั้มรีบตามเข้าไปซ้ำแต่วายุรีบฉากตัวออก
"อย่าตั้ม เราต้องให้เขาช่วย!"
"ไอ้คนเลวแบบนี้มันไม่ช่วยเราหรอก แบมจะไปขอร้องมันทำไม"
ตั้มกำลังจะไปต่อยวายุอีก วายุหลบได้อัดหมัดเข้าที่ท้องของตั้ม ตั้มตัวงอลงไป
วายุจับตั้มขึ้นมา อัดเข้าที่ท้องอีกสอง สามหมัด ตั้มกระโดดตามหมัดและตัวงอลงไป
แบมกำลังจะวิ่งเข้ามาห้าม วายุยกมือให้แบมหยุด
"ถ้าคิดว่าน้ำหน้าอย่างมึงจะช่วยแบมได้ก็เข้ามา"
จังหวะนี้ตั้มลุกขึ้นมาเอาไหล่เข้ากระแทกลำตัวของวายุแล้ววิ่งไปชนกำแพง ตั้มพยายามกระแทกวายุอีกครั้ง วายุเองก็เอาศอกกระแทกเข้าด้านหลังของตั้ม วายุเข่าใส่ตั้ม ตั้มถอนตัวออกจากวายุ วายุชกตั้มเข้าที่หน้าตั้ม
ตั้มไม่ยอมล้มลง หันหน้ามาหาวายุอีก วายุชกเข้าอีกที ตั้มหันกลับมาเลือดเต็มจมูก วายุออกแรงชกตั้มสุดแรง ตั้มล้มลง หน้าตาเต็มไปด้วยเลือด ตั้มฮึดขึ้นมาอีกครั้ง
"ย๊าก"
ตั้มวิ่งเข้าใส่วายุแบบมวยวัด สู้ได้ ไม่ได้ ไม่รู้ แต่ใส่ไปก่อน
วายุป้องกันหมัดของตั้มอย่างพัลวัน ทั้งคู่ล้มลง วายุอยู่ด้านบนต่อยใส่ตั้มไม่ยั้ง ตั้มเองก็ป้องกันสุดๆ
แบมวิ่งเข้ามากระชากวายุออกแล้วต่อยใส่เต็มแรง วายุลุกขึ้นมามอง แบมดึงตั้มให้ลุกขึ้นมายืน ทั้งสามมองหน้ากันหอบๆ วายุเห็นอะไรบางอย่างคนทั้งคู่แล้วก็ลดการ์ดลง
"ไหนๆมึงก็มาแล้ว ออกมาช่วยจับมันทั้งคู่ไว้สิวะ"
แบมและตั้มงง หันหลังไปก็เห็นชายสองคน อี๊ดกับแอ๊ด เดินออกมาแนวป่าด้านหลังชี้ปืนมาที่ทั้งคู่
"แล้วของล่ะ" แอ็ดถาม
"ยังไม่ได้ของ"
"แต่พี่คมใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว"
"รู้แล้วน่า เมื่อกี้เกือบสำเร็จแล้วแต่โดนสองคนนี้มาขวางซะก่อน"
อี๊ดบอก
"ฮึ...งั้นให้ยิงทิ้งทั้งคู่เลยไหม"
ชายทั้งสองเดินสืบตัวเข้ามาพร้อมเหนี่ยวนกปืนขึ้นดังกรี๊ก
"เฮ้ย...อย่า...เรื่องนี้กูจัดการเอง ถ้าจะช่วยละก็ มัดพวกมันแล้วเอาไปไว้ที่รถที"
ชายทั้งสองพยักหน้ารีบเข้ามาล็อคแบมกับตั้มทันที ตั้มโวยวายขัดขืน เลยโดนอี๊ดต่อยล้มลงเอาปืนจ่อหัว ส่วนวายุรีบเข้ามาช่วยมัดมือแบม
"นี่นาย.."
วายุยิ้ม
"เรื่องมันคงไม่วุ่นวายอย่างงี้ ถ้าเธอกับไอ้หมอนี่ไม่มายุ่งด้วย"
แบมถูกดึงเชือก "โอ้ยส"
"เอาละ...พวกแกเอาสองคนนี้ไปได้แล้ว"
แอ็ดบอก "มึงก็อย่าเล่นตุกติกแล้วกัน ไม่งั้นกูฆ่าไอ้สองคนนี้แน่"
"ไว้กูฆ่าพวกมันด้วยมือกูเองดีกว่า"
วายุยิ้มกวนตีนให้แบม ในขณะที่ทั้งคู่โดนลากออกไป
เวลาเปลี่ยนผ่านเป็นกลางคืน....
แบมและตั้มถูกยัดเข้าไปในรถ อี๊ดยึดกุญแจรถตั้ม สร้อยและการ์ดจากกระเป๋ากางเกง
"เฮ้ย...เอาคืนมา"
แอ็ดต่อยตั้มเซไป
"แฮปปี้เบริด์นะครับสุดสวย"แอ็ดยังพูดไม่จบ
"เอาของกูคืนมา"
อี๊ดบอก
"ห่า...หนวกหู"
แอ็ดอัดเข่าใส่ตั้มจนจุกล้มลง
"อัดคนไม่มีทางสู้นี่หว่า แน่จริงมึงแกะเชือกสิวะ" แบมบอก
"ปากดีนะมึง"
แอ็ด ดึงถุงมือแบมออกจากกระเป๋าด้านหลัง
"มันอะไรกันวะเนี่ย"
ชายทั้งคู่หัวเราะให้กันแล้วลองเปิดไฟถุงมือ
อี๊ดบอก
"ไฟฉายนี่หว่า...5555"
"ใกล้เวลาแล้ว เดี๋ยวกูอยู่ที่นี่เอง ส่วนมึงไปรอพี่คม ถ้าไอ้วายุตุกติกมึงก็เก็บแม่ง ส่วนไอ้สองตัวนี่กูเชือดเอง"
อี๊ดพยักหน้าวางสร้อยคอแล้วการ์ดลงพื้นแล้วเดินจากไป
ตั้มกระแซะตัวเข้าหาแบม
"เป็นไงล่ะ? คิดจะคุยกับไอ้วายุ โดนมันหักหลังเฉยเลย"
"นายต่างหาก ที่เข้ามายุ่งมันก็เลยเป็นแบบนี้เลยไง"
"อะไรกัน มันทำกับเราสองขนาดนี้ บ๋อมแบมยังจะเข้าข้างมันอีกเหรอ"
แบมเงียบ
"มันเป็นอะไรกับบ๋อมแบ๋มเหรอ"
แบมเงียบ
"โอเคๆ....ผมเข้าใจแล้ว"
"เงียบๆเป็นมั้งไหมเนี่ย"
ตั้มเงียบไปด้วยความโมโห
ที่ถนนไกลๆ รถเก๋งคันหนึ่งวิ่งก็ฝ่าความมืดผ่านคนทั้งสามแล้วหายลับไป
"หึๆ....พี่คมมาแล้ว พวกมึงเสร็จแน่....อ๊อกส....อ๊อกส" แอ็ดว่า
จู่ๆแบมก็สามารถหลุดเชือกที่ล็อคจากข้างหลังได้แล้วใช้เชือกรัดคอแอ็ดอย่างรวดเร็ว มันดิ้นสู้จนแบมแทบสู้ไม่ไหว
"ตั้มช่วยกันหน่อยเร็ว"
ตั้มพุ่งเข้ามาเข่าจนแอ็ดล้มลง
"ขอเอาคืนซักทีเถอะวะ"
ตั้มเตะสวนเข้าปลายคางแอ็ดอย่างจังจนสลบไป ส่วนตั้มทรุดตัวลงนั่งหอบแฮ่ก
"มันยังไงกันเนี่ย"
แบมยิ้ม
"ก็วายุไง"
ย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ วายุตรงเข้ามาทำท่าจะมัดแบม แต่กลับเอามีดพับยัดใส่มือแบม แบมงง
"นี่นาย"
วายุยิ้ม
"เรื่องมันคงไม่วุ่นวายอย่างงี้ ถ้าเธอกับไอ้หมอนี่มายุ่งด้วย" วายุแกล้งดึงเชือก
แบมขานรับทำเนียน "โอ้ย"
"เอาละ...พวกแกเอาสองคนนี้ไปได้แล้ว"
"มึงก็อย่าเล่นตุกติกแล้วกัน ไม่งั้นกูฆ่าไอ้สองคนนี้แน่" แอ็ดบอก
"ไว้กูฆ่าพวกมันด้วยมือกูเองดีกว่า" วายุบอก
วายุยิ้มกวนตีนให้แบม ในขณะที่ทั้งคู่โดนลากออกไป
แบมพยายามตัดเชือกให้ตั้ม
"มันเคยโกงเงินลุงเฉิน ยังไงผมก็ไม่มีทางไว้ใจมันหรอก"
"ไม่หรอก...ยังไงฉันเคยช่วยเขาไว้"
วายุพยายามสะเดาะกลอนจนสำเร็จแล้วเปิดเข้าไป
ในความมืด....พระประธานดูสงบและเมตตา
วายุอดที่จะยกมือขึ้นไหว้ด้วยความยำเกรงไม่ได้ เขาเปิดไฟฉายแล้วลงมือค้นหากล่องเก็บต่างๆภายในวิหาร
"อยู่ในวะ"
จู่ๆไฟในวิหารก็สว่างพรึ่บขึ้นมา วายุสะดุ้งกระชับกริชคู่ใจขึ้นมา
หลวงพ่อยืนสงบหน้าประตู ในขณะที่ลูกศิษย์ตัวน้อยถือไม้กวาดกะรุ่งกะริ่งพร้อมสู้
"อยู่ในห่อผ้าที่อาตมาซุกไว้ในกล่องไม้ขวามือน่ะโยม"
วายุงงไม่เข้าใจ หลวงพ่อสบตากับวายุแล้วเดินตรงไปที่กล่องไม้ตามตำแหน่งที่บอก หยิบห่อผ้าแล้วเปิดออก
"โยมหาของสิ่งนี้อยู่ใช่ไหม? ของดี...ของอาคมเมื่ออยู่ในมือคนชั่วร้ายก็มีแต่เรื่องวิบัติ ไอ้ไม้เท้าของฆาตกรบุญเพ็งนี่ก็เหมือนกัน"
"หลวงพ่อรู้ได้ไง?ว่าผมกำลังหาไม้เท้าอันนี้"
" เมื่อสักสิบนาทีที่แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ พิม โทรฯหาอาตมาว่า บุญเพ็ง มันกำลังจะหาทางแย่งไม้เท้าอันนี้กลับไป ทีแรกอาตมาก็ไม่เชื่อเลยต้องลงมาดูให้เห็นกับตานี่แหละ"
"คนชื่อคมจ้างผมมา"
"งั้นตอนนี้คนชื่อคมคงอยู่ใต้อาณัติมันซะแล้ว"
"งั้นงานนี่ถึงจะไม่ใช่ผม มันต้องหาทางเอาไม้เท้าไปจากที่นี่ให้ได้อยู่ดี"
"ก็จริง...อาตมารู้ดีว่าสักวันก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงกลุ่มนี้ ชะตากรรมโหดร้ายที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิญญาณร้ายบุญเพ็ง ทำให้อาตมายอมให้มันเลวร้ายไปกว่านี้ไม่ได้อีก"
"เลยคิดจะเอาไปซ่อนที่ใหม่"
"แล้วโยมจะยอมให้อาตมาทำอย่างนั้นเรอะ"
วายุกำกริชแน่น
"ผมจำเป็นจริงๆครับหลวงพ่อ"
"นั่นสินะ...เรื่องบางอย่างก็มีแต่ต้องเผชิญหน้าเท่านั้นจึงจะจบ" หลวงพ่อมองไปที่ประตู "จริงไหมโยม"
วายุหันไปมองตาม เห็นใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเขา
รถเก๋งถูกเปิดออกคมเดินก้าวลงมาในขณะที่ อี๊ด รีบเข้าไปประจบ
"ของล่ะ" คมถาม
"วายุกำลังเข้าไปเอาครับ" อี๊ดบอก
"อะไรของมันวะ...ชักช้า"
"คือมันบอกว่ามีผู้ชายกับผู้หญิงสองคนเข้ามาขวางนะครับ วายุมันก็เลยรู้ตัวว่าพวกผมแอบซุ่มตามมา"
"คนเข้ามาขวางเหรอ? พวกมันเป็นใคร"
"ผมก็ไม่รู้จักเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ไอ้แอ็ดเฝ้าพวกมันอยู่....เออแล้วนี่"
อี๊ดหยิบถุงมือจับวิญญาณยื่นให้คม
"ผมยึดมาจากตัวผู้หญิงคนนั้นครับ"
คมรับมามองแล้วตะลึง
"พวกมึงรนมาหากูถึงทีเลยเหรอ? ดี...กูจะได้สะสางซะคราวเดียวเลย ฆ่าผู้ชายซะ...แล้วเอาตัวผู้หญิงมาให้กู"
"ครับพี่"
"ไม่ใช่มึง"
อี๊ดงง ในขณะที่เงาร่างผู้หญิงคนหนึ่งวูบลอยผ่านไปงจนมันล้มลง
คมยิ้มสะใจเก็บถุงมือแบมไว้ในกระเป๋าหลัง
มีดตัดเชือกที่มัดตัวตั้มสำเร็จ
"รีบไปกันเถอะก่อนที่วายุจะได้ไม้เท้าไป"
แบมพยักหน้าแต่ก็โดนพลังงานบางอย่างพุ่งเข้ามาจนกระแทกล้มลงไป ตั้มจะเข้าไปช่วยก็เหมือนโดนพลังนั่นกระแทกล้มลงไปเช่นกัน
"โอ้ยส"
ช้อยวูบเข้ามาข้างหน้าแล้วกัดเข้าที่ลำคอของตั้มอย่างรวดเร็ว
"อย่า...อย่าซอกคอ....อ๊ากส"
แบมพุ่งเข้าไปคว้าแขนกับต้นคอช้อยแล้วออกแรงบีบ ช้อยหันกลับมาแล้วบีบกลับ
"อ๊ากส"
ช้อยหัวเราะลั่นแล้วผลักแบมกระเด็นไป
"ไม่มีถุงมือนั้น มึงก็แค่อีนังกระจอกคนหนึ่ง"
ช้อยตบแบมซ้ำจนกระเด็นไป
"เสียดายที่บุญเพ็งไม่ให้กูฆ่ามึง"
ช้อยทำท่าจะเข้าซ้ำแต่ตั้มวิ่งเข้ามาล็อคแขนช้อยออกมา
"บ๋อมแบ๋มหนีไป"
ช้อยหายตัวแวบจากการถูกตั้มล็อคเอาไว้ แล้วมาโผล่ข้างหลังตั้มอย่างรวดเร็ว
"พระเอกเหรอมึง"
"เหวอ"
ช้อยกัดเข้าที่ซอกคออีกข้าง
"อ๊ากส...ซอกคออีกแล้ว"
ช้อยฝังคมเขี้ยวให้ลึกลงไปอีก ตั้มร้องโอดโอยเจ๊บปวด
วายุเดินกลับออกมาในมือถือห่อผ้าไม้เท้าเอาไว้ คมยิ้มดีใจแล้วพยักหน้าให้ อี๊ด ไปหยิบมา
"เปิดออกดู" คมบอก
อี๊ด รีบไปคว้าห่อผ้าแล้วเปิดออกดูก็ต้องงงสุดขีด
"ไอ้นี่มัน"
"มันอะไรวะ" คมถาม
อี๊ดพลิกด้ามออกกลายเป็นไม้กวาดเก่ากะรุ่งกะริ่ง คมโมโหสุดขีด
"ฆ่ามัน !"
อี๊ดพลิกตัวกวาดปืนเข้าใส่ แต่วายุที่ระวังตัวอยู่แล้วพลิกตัวหลบพร้อมล็อคข้อมือเอาไว้ ปืนลั่นดังสนั่น วายุเฉือนข้อมือมันพร้อมล็อคตัวเอาไว้มีดจ่อคอ
"อย่าเข้ามานะเว้ย"
คมแวบร่างหายไปมา จนไม่เห็นตัวมีเพียงเสียงตะโกนด่าวายุดังไปรอบๆ
จู่ๆคมก็โผล่พรวดมาจากอีกทาง แต่วายุไหวตัวทันหันตัวอี๊ดมาบัง คมง้างหมัดแล้วต่อยกระซวกเข้าไปในร่างอี๊ดสุดแรงแล้วคว้าดึงหัวใจออกไป อี๊ดสำลักเลือดแล้วทรุดตัวลง
วายุมองตะลึง
คมดวงตากลายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน ลำคอเกิดเป็นเส้นเลือด
คมกลายเป็นบุญเพ็งถาม
"ไม้เท้ากูอยู่ไหน"
คมทำท่าจะต่อย แต่วายุพลิกตัวแล้วรวบจนทั้งคู่ล้มลง
คมหมุนตัวกดวายุลงกับพื้นได้วางมืออีกข้างบนหน้าอกวายุ
"ไม่บอก....งั้นมึงก็ตายซะเถอะ"
คมทำท่าจะกดมือลง แต่วายุที่ใส่ถุงมือแบมและเปิดไฟเรียบร้อยออกแรงง้างมือคมออก
"อ๊ากส"
วายุถีบคมจนกระเด็นไป คมจับที่กระเป๋าหลังแล้วก็รู้ว่าพลาดท่า
"นี่...มึง"
"อ่ะ...อ่ะ..อย่าลืมสิ กูเป็นหัวขโมย"
คมเจ็บใจโผเข้าหาวายุ
ปัง !...เสียงปืนเอโกะดังขึ้น ร่างคมกระเด็นไปตามแรงกระสุนอย่างเจ็บปวด พอมันลุกขึ้นตั้งท่ากลับมาใหม่ก็เห็น
เอโกะและแอนนาวิ่งเข้าสมทบเตรียมตัวสู้ คมเจ็บใจแล้วหนีหายไปในความมืด เอโกะจะตามไป แอนนาซึ่งสะพายห่อผ้าไม้เท้าบุญเพ็งเอาไว้รีบห้าม
"อย่าเอโกะ...ไม่ใช่คราวนี้ งานของเราคือเอาไม้เท้ากลับไปหาอาพิมให้เร็วที่สุด"
"แล้วแบมล่ะ"
วายุยกถุงมือขึ้นมองแล้วยิ้มให้สองสาว
"จัดไป !"
ช้อยกัดเข้าที่ซอกคอตั้มอีกข้าง
"อ๊ากส...ซอกคออีกแล้ว"
ช้อยฝังคมเขี้ยวให้ลึกลงไปอีก ตั้มร้องโอดโอยเจ๊บปวด
แบมรีบวิ่งเข้าดึงช้อยสุดแรง ช้อยแค่ผงะออกไปแต่ไม่เจ็บปวด ช้อยตบซ้ำจนแบมแทบหมดสติ
"ถึงกูฆ่ามึงไม่ได้...แต่ขอกัดกินเลือดบ้ามึงซักคำเถอะ...อีเวร"
ช้อยโผเข้ามาง้างคมเขี้ยวจะกัด แต่แบมรีบยกมือขึ้นกันทำให้คมเขี้ยวฝังลงท่อนแขนแทน
ช้อยกัดกินเลือดอย่างเอร็ดอร่อย
แบมกรีดร้องด้วยความเจ็บ เมื่อมีก้อนหินก้อนหนึ่งถูกขว้างมาโดนหัวช้อย ช้อยหันขวับทิ้งร่างแบมลง
"ใครวะ"
วายุปรากฏตัวออกมายิ้มกวนตีน
"คนท้อง คนไส้ อย่าแอ็คชั่นเยอะสิ เดี๋ยวลูกก็พรวดพราดออกมาหรอก"
ช้อยจ้องมองด้วยโกรธแล้วหายตัวพุ่งเข้ามาจับ วายุพลิกตัวได้ ใช้ถุงมือจับวิญญาณต่อยสวนออกไป
ผีช้อยหลบได้อย่างรวดเร็ว ตบวายุกระเด็นไปแล้วกระโจนขึ้นคร่อม
มันกัดลำคอวายุเลือดสาดกระจาย แต่วายุกลับเอาถุงมือจับวิญญาณล็อคแขนและคอมันเอาไว้ ช้อยกรีดร้องด้วยความเจ็บแล้วกัดให้หนักขึ้นอีกเพื่อให้วายุปล่อย
"กูจะฆ่าพวกมึง...จะฆ่าพวกมึงให้หมดทุกตัว"
"ก็อาจจะ...ถ้ามึงไม่ตายคามือกูซะก่อน"
วายุรีบตะโกนบอกตั้ม
"พาแบมหนีไป"
ตั้มเงอะงะ ช้อยฝืนตัวสุดแรง
"ไปสิเว้ย"
ตั้มรีบพยุงตัวแบมไปที่รถทันที แบมมองที่วายุเห็นแต่เพียงภาพเบลอๆ
"ไม่"
ตั้มพาแบมขึ้นรถ...
วายุมองตามรถตั้งที่วิ่งออกไป
วายุเบาๆ
"สุขสันต์วันเกิดนะแบม"
แล้ววายุออกแรงบีบช้อยสุดแรง ช้อยกรีดร้องโหยหวนแล้วก็เกิดแสงสว่างวาบอย่างรุนแรง ทั้งคู่ต่างร้อง "อ๊ากส"
รถตั้มวิ่งฝ่าความมืด แบมค่อยๆลืมตาได้สติจ้องมองไปที่คอนโซลรถก็เห็นสร้อยคอรูปตัวบีกับการ์ดที่ป้อนเลือด
"สร้อยนั่น"
"ไม่เป็นไรแล้วนะบ๋อมแบ๋ม เรารอดแล้ว"
"สร้อยนั่นนายซื้อให้ฉันเรอะ"
ตั้มยิ้ม
"อือม์ ผมกะมาเซอร์ไพรส์น่ะ แต่แผนดันแตกซะก่อน.... แฮปปี้เบริด์เดย์นะ บ๋อมแบ๋ม"
แบมยิ้มรับแต่เพียงชั่วครู่ เธอก็นึกถึงใครบางคน
"แล้ว....แล้ววายุล่ะ"
สีหน้าของตั้มเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าจะตอบแบมว่ายังไง
"ตั้ม...วายุล่ะ"
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"
แบมนิ่งไป ตั้มหันมาฝืนยิ้มให้
"เรื่องวายุไว้ทีหลัง แต่ตอนนี้เราต้องออกไป"
"ตั้มระวัง"
ทั้งคู่เห็นบุญเพ็งในร่างของคม ในมือหนึ่งหิ้วหีบเหล็กหนึ่งใบ ยืนขวางกลางถนน
ตั้มตกใจ เท้าตั้มเหยียบเบรคกระทันหัน
รถปัดถลาเข้าข้างทาง พุ่งเข้าชนต้นไม้ใหญ่
หัวตั้มกระแทกเข้ากับพวงมาลัย เลือดอาบหน้าใกล้จะหมดสติ
"ตั้ม"
ก่อนที่แบมจะทำอะไร ประตูรถฝั่งแบมก็ถูกเปิดออก คมยิ้มให้แบม มีใบหน้าของบุญเพ็งยิ้มซ้อนอยู่เช่นกัน
"กูบอกมึงแล้วว่ามึงต้องเป็นของกู"
"บุญเพ็ง !"
แบมสลบไป
"แบม...แบม"
สายตาของตั้มที่เลือนรางเห็นคมกำลังลากแบมออกไปจากรถ.....และทุกอย่างก็ดับวูบลงไปในที่สุด!
อ่านต่อตอนที่ 12