Ep.1 Angels & Demons
บทโทรทัศน์โดย เปลว ศิริสุวรรณ
บริเวณหน้าบ้านไม้โบราณหลังใหญ่ตั้งตระหง่านท้าทายอยู่ในความมืด ลมพัดกระหน่ำราวกับเป็นลางร้าย
ผู้หญิงคนหนึ่งกำดาบนางเสือไว้แน่น...
เสียงอาพิมบอก
"ว่ากันว่า...ดาบนางเสือต้องมีเจ้าของตลอดเวลา มันเหมือนเป็นคำสาป ว่าใครครอบครองดาบจะต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้คน"
อาพิม ผู้กำดาบนางเสือเล่มนั้นจ้องมองบ้านไม้เบื้องหน้าอย่างหวาดหวั่น พลางถาม
"พร้อมไหม เอโกะ"
เอโกะพยักหน้ารับ "คะ"
"ฉันจะต้องไม่ทำให้มิ้นผิดหวัง"
จู่ๆลมพัดแรงขึ้น เสียงสวดคาถาโบราณแว่วลอยมาตามสายลมพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องของใครบางคน
อาพิมพยักหน้าให้เอโกะ
"ลุย"
ทั้งสองตรงเข้าไปที่ตัวบ้านโดยมีเชือกผูกเอวทั้งคู่ต่อกันเอาไว้
แบมสะดุ้งตื่น...เธอมองไปรอบๆทั่วสถานที่ซึ่งไม่คุ้นเคย แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านหน้าต่างเห็นบ้านไม้เก่าที่จัดวางข้าวของเป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน แบมค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินสำรวจไปรอบๆ บ้านทั้งหลังเงียบสงัดแต่เพียงชั่วครู่เสียงหญิงสาวสะอื้นไห้เบาๆก็แว่วเข้ามา แบมเดินตามเสียงนั้นไปจนเจอประตูหลังใหญ่ที่งับไว้ แบมตัดสินใจผลักประตูเข้าไปแล้วจู่ๆเสียงร้องไห้นั้นก็เงียบสนิททันที
ภายในห้องพระตอนกลางวัน มีโต๊ะหมู่บูชากลุ่มหนึ่ง ทั้งข้าวของเครื่องไหว้และพระอันดับที่วางชั้นลดหลั่นกันไป รอบๆห้องหีบเหล็กเก่าๆห้าใบวางเรียงรายกัน แบมมองด้วยความสงสัยและตัดสินใจจะก้าวเดินเข้าไป
"กำลังจะทำอะไรน่ะ"
แบมสะดุ้งหันกลับมาก็เห็น กิ่งแก้ว หญิงสาวแต่งหน้าจัดจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจ
"แกจะมาเดินเข้านอก ออกในอย่างนี้ไม่ได้" กิ่งแก้วบอก
"ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ...แต่ตะโกนเรียกก็ไม่เห็นมีใครนี่"
"ก็เลยเดินพล่านไปทั่ว"
"นี่ฟังไม่ออกเหรอไง ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจ"
"ชิ....มาใหม่ยังกล้าปากดีนะแก"
กิ่งแก้วขยับปราดตัวเข้าหา แต่กลับโดนบุญเพ็งคว้าตัวเอาไว้
"อย่ากิ่งแก้ว !"
กิ่งแก้วหันขวับมาเห็นบุญเพ็ง เธอจึงพยายามระงับอารมณ์โกรธ
กิ่งแก้วพูดเสียง เบาๆ
"แต่มัน...ไม่ใช่ครอบครัวของเรา"
บุญเพ็งยิ้มแล้วส่ายหน้าห้ามกิ่งแก้ว
"วันนี้ เธอเป็นแขกของพวกเรา....อย่าเสียมารยาท"
บุญเพ็งหันไปทางแบม
"ส่วนเธอ?"
"ฉันชื่อ แบม..แล้วที่นี่ ที่ไหน?"
"บ้านฉันเอง เธอเพิ่งมาถึงแล้วก็บาดเจ็บด้วย ต้องพักผ่อนเยอะๆ" บุญเพ็งบอก
"แต่ว่า..."
"อย่าดื้อสิ กิ่งแก้ว แกไปเอายามาให้ฉันหน่อย"
บุญเพ็งฉุดแขนให้แบมเดินออกมาจากห้องพระ แวบหนึ่งเธอมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง แอบอยู่ในห้องจ้องมองเธอและบุญเพ็งด้วยความหวาดกลัว กิ่งแก้วกระแทกปิดประตูห้องไล่หลังคนทั้งคู่
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ภายในห้องพักผู้ป่วย เอโกะและจอร์ชเฝ้ามองแบมที่นอนหลับไม่ได้สติด้วยความเป็นห่วง
"อาการของแบมเป็นแบบนี้ แล้วเมื่อไรเธอจะฟื้นคะ" เอโกะถาม
หมอท็อป ลดชาร์จที่ประเมินคนไข้ลง
"อือม์..ตอบยากเหมือนกันครับโดยเฉพาะเรื่องระยะเวลา"
"แต่เนี่ยก็สามเดือนแล้วนะครับ" จอร์ชบอก
"เคสที่คนไข้พ้นขีดอันตรายมาแล้ว แต่ภาวะที่สมองได้มีความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้ผู้ป่วยตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้เพียงเล็กน้อย อาจจะไม่ตื่นหรือไม่ฟื้นขึ้นมาก็มีเหมือนกัน"
"หมายความแบมอาจจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป" เอโกะว่า
หมอท็อปถอนหายใจ
"ก็อาจจะ...แต่อย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ"
หมอท็อปขอตัวออกจากห้องไป
เอโกะบอก "ฟื้นสิแบม....พวกเรารอเธออยู่นะ"
ภายใน บ้านไม้โบราณ เวลากลางคืน เสียงร้องสะอื้นนั่นดังขึ้นอีกแล้ว !
แบมงัวเงียตื่นขึ้นอีกครั้งแล้วมองไปรอบๆ เสียงกุกกักทำให้เธอหันไปมองก็เห็น กลอย หญิงสาวคนนั้นหน้าตื่นกลัวอยู่ไกลๆ
"หนีไปซะ!" กลอยบอก
"หนี?...หนีอะไร? ฉันไม่เข้าใจ"
"ไปจากที่นี่"
แบมลุกขึ้นเดินมาหากลอยและเห็นรอยฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว
"ทำไม มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเธ"
"อยากรู้จริงๆเหรอ"
"ใช่ ฉันอยากรู้"
จู่ๆร่างกลอยค่อยๆหายไปในเงามืด พร้อมกับเสียงคำถามที่ย้ำไปมา
"เดี๋ยวสิ..."
แบมวิ่งตามกลอยหายเข้าไปในความมืด
แบมเดินตามเสียงพูดแผ่วเบาของกลอย จนกระทั่งมาถึง
บริเวณหน้าห้องพระ เสียงของกลอยเงียบหายไป แต่กลับกลายเป็นเสียงสวดพึมพำปนหัวเราะต่ำๆค่อยๆแว่วซ้อนเข้ามา แบมชะเง้อมองผ่านช่องประตูที่แง้มไว้ เห็นบุญเพ็งนั่งยองๆหันหลังให้ประตู เบื้องหน้าของเขาเป็นหีบเหล็กใบใหม่ ในมือกำลังสาวด้ายสีแดงปากพึมพำบทสวด
แบมเริ่มไม่แน่ใจ..เธอเหลือบไปที่หีบเหล็กใบอื่นก็เห็น....หัวของ อีพร อยู่ใต้ฝาหีบ ดวงตาของมันเหลือกขาวโพลนจ้องมองแบม
ผีอีพรบอก "ยังไม่ถึงเวลา !"
แบมถอยหลังตกใจหันหลังวิ่งหนีทันที
แบมวิ่งผ่านห้องแล้วห้องเล่าเหมือนไม่สิ้นสุดราวกับเป็นเขาวงกต ตลอดทางมีวิญญาณหญิงสาวดักรอและพยายามเรียกชื่อเธอ
แบมวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดที่ห้องโถง เงาร่างวิญญาณหญิงสาวทั้งหกตนขวางหน้าเธอไว้
"มึงนี่มันดื้อด้านจริงๆ" ผีกิ่งแก้วว่า
แบมถอยหลังจนไปชนร่างบุญเพ็งที่รออยู่
"รู้จักทุกคนไว้สิจ๊ะ ในไม่ช้าเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว"
"ไม่...พวกแกมันไม่ใช่คน"
"จุ๊...จุ๊ ทำไมปากคอเลาะร้ายอย่างนี้ล่ะจ๊ะ"
แบมหันขวับจะหนี แต่กิ่งแก้วและพวกเข้ามากันให้บุญเพ็งเข้าไปล็อคตัวเอาไว้ แบมทั้งดิ้นทั้งสู้ คว้าผ้าที่พันคอของบุญเพ็งไว้ได้แล้วกระชากสุดแรง
บุญเพ็งร้องโหยหวน ลำคอของมันเผยให้เห็นเป็นรอยแผลเหวอะหวะน่ากลัว มันหันกลับมาจ้องแบมดวงตาแดงกล่ำ วิญญาณหญิงสาวทั้งหลายแตกฮือด้วยความกลัว
"ความลับแตกซะแล้ว...เหอ...เหอ"
แบมมองเห็นทางโล่งจึงรีบวิ่งหนีทันที
แบมวิ่งต่อเนื่องจนเหนื่อยอ่อนและหนีเข้ามาหลบในห้องเก็บของ เธอมองเห็นกระจกที่ขุ่นมัวบานหนึ่งและรู้สึกแปลกๆกับภาพที่มองเห็นจึงเดินเข้าไปหา เงาสะท้อนอยู่อีกฝั่งผ่านฝุ่นมองเห็นเป็นภาพเลือนลาง แบมรีบเอามือเช็ดฝุ่นออกแล้วก็เห็น....
อีกฟากหนึ่งของกระจก เป็นภาพเอโกะที่ฟุบหลับข้างร่างของเธอในโรงพยาบาล
"เอโกะ !"
ภายในห้องผู้ป่วย กราฟคลื่นจากเครื่องวัดชีพจรของแบมกระตุกแรงพร้อมส่งเสียง เอโกะและจอร์ชที่กำลังงีบหลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกันตรงมาที่เตียงของแบม
แบมนอนดิ้นกระสับกระส่าย...
" คุณแบมฝันร้ายอีกแล้วครับ"
"พี่จอร์ช...รีบไปตามพยาบาลเร็ว"
จอร์ชพยักหน้าแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
แบมเห็นจอร์ชวิ่งออกไปและไม่เห็นเอโกะจะสนใจมองมาที่กระจก เธอออกแรงทุบกระจก
"เอโกะ...เอโกะ ฉันอยู่นี่"
เอโกะหันขวับมองกระจกที่อยู่ปลายเตียง เหมือนเธอรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
แบมเห็นเอโกะค่อยๆเดินมาที่กระจก จึงเอามือนาบกระจกแล้วตะโกนสุดเสียง
"เอโกะ ฉันอยู่ตรงนี่"
"จะหนีไปไหนคนสวย"
แบมตกใจหันมา ผีบุญเพ็งเงื้อไม้ตะพดหวดลงบนหน้าแบม จนเธอล้มคว่ำไป
"เหอ...เหอ...เหอ"
เอโกะหยุดอยู่หน้ากระจกแล้วก็สังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง นางพยาบาลและจอร์ชวิ่งเข้ามาในห้องแล้วรีบเช็คอาการแบม ที่ตอนนี้ชีพจรกลับมาปกติอีกครั้ง
"อะ...อ้าว...นิ่งไปซะแล้ว"
นางพยาบาลเช็คข้อมูลจากอุปกรณ์แล้วรีบส่งกระดาษอ่านค่าให้หมอท๊อปที่เดินตามเข้ามา
"ชีพจรปกตินะครับ ดูจากผลวัดค่าไม่น่าจะใช่เอฟเฟคยาหรือการช็อคกระทันหัน" หมอท๊อปบอก
"แต่เมื่อกี้คุณแบมถึงขั้นชักเลยนะครับ"
หมอท๊อปเปิดเปลือกตาใช้ไฟส่องเช็คอาการตอบสนอง
"อือม์...อาจจะมาจากการฝันครับ"
เอโกะโพล่ง "ฝัน"
"ครับ...ฝันร้าย จากเหตุการณ์ที่เคยผ่านมาหรือฝันร้ายในระดับจิตใต้สำนึก"
"แบมอาจจะเจอเรื่องเลวร้ายในฝัน" เอโกะว่า
"ก็เป็นไปได้"
"หรือเธออาจจะพยายามบอกอะไรบางอย่าง"
"อะไรนะครับ" หมอท๊อปถาม
"อะ...เปล่าคะ ไม่มีอะไรแค่สงสัยเฉย"
หมอท๊อปมองหน้าเอโกะย่างคาดคั้น
"ผมรู้นะว่า พวกคุณทำอาชีพอะไรกัน ผมจะไม่ก้าวก่าย...แต่ว่าที่นี่มันไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอกครับ"
เอโกะหน้าเสีย หมอท๊อปสั่งพยาบาลให้ดูแลเครื่องให้เรียบร้อยแล้วพากันเดินจากไป
"มันยังไงกันครับเนี่ย จอร์ชงง"
เอโกะขยับตัวให้พ้นจากกระจกบังเอาไว้ เห็นเป็นรอยนิ้วมือเลอะฝุ่นที่ทาบลงกระจก
"รอยมือคน" จอร์ชบอก
"ใช่...เป็นรอยฝ่ามือที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกระจกซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ ที่สำคัญคือรอยแผลเป็นนี่"
จอร์ชยังคงงงอยู่ เอโกะเดินไปยังร่างแบมที่นอนหลับแล้วพลิกฝ่ามือขึ้น ที่มือขวาของแบมมีรอยแผลเป็นตำแหน่งเดียวกัน
"บาดแผลจากคมดาบของหลวงสิงหนาท"
"งั้นรอยฝ่ามือบนกระจก"
เอโกะยักหน้า
"แบมกำลังพยายามขอความช่วยเหลือจากเรา พี่จอร์ชกลับไปที่ออฟฟิศแล้วเอากล่องเครื่องมือสีดำที่วางบนโต๊ะ
ตัวกล่องเขียนว่าเอโกะ...เอามาที่นี่ด่วนเลย"
"ครับๆ"
จอร์ชขยับตัวจะออกจากห้องแล้วก็เอะใจ
"แค่กล่องใบเดียวพอเหรอครับ"
"อยากหยิบอะไรมาเพิ่ม..ก็เอาเลยพี่จอร์ช..ให้ไวเลย"
จอร์ชรีบวิ่งปรู๊ดออกไปทันที
โรงพยาบาลเริ่มเข้าสู่เวลาพลบค่ำ... หมอท็อปกำลังตรวจเช็คเอกสารต่างๆก่อนออกเวร พยาบาลสาวส่งยิ้มหวานให้
จอร์ชหอบหิ้วของวุ่นวายเต็มไม้เต็มมือ ข้างหลังก็สะพายห่อผ้าคุลมดาบนางเสือไว้ดูทุลักทุเล จนเผลอทำกล่องเครื่องมือหล่น
หมอท็อปรีบเข้าไปช่วยก็เห็นอุปกรณ์สายระโยงระยางเต็มไปหมด
จอร์ชยิ้ม
"อะ...ขอบคุณมากครับ"
"เอ๊ะ...คุณ"
จอร์ชหุบยิ้มทันที
"อะ...เออ...ขอตัวก่อนนะครับ"
จอร์ชรีบหอบข้าวของเผ่นแน่บทันที หมอท็อปมองตามด้วยความสงสัย
เอโกะกำลังติดตั้งอุปกรณ์และติดเครื่องแสกนสมองเข้าที่ขมับของแบม จอร์ชเฝ้ามองอย่างไม่เข้าใจ
"แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับเนี่ย"
จอร์ชค่อยสังเกตุที่หน้าจอเนี่ย ถ้าคลื่นมันกระตุกแล้วมีเสียงสัญญาณเตือนปี๊บ..ปี๊บ ให้รีบกดปุ่มเอนเตอร์ตรงนี้ เครื่องจะส่งกระแสไฟฟ้าอ่อนๆเพื่อปลุกพวกเราทันที"
"ปี๊บๆๆๆ"
"แล้วพี่เอาดาบนางเสือมาทำไมเนี่ย"
"แหะๆ..เผื่อไว้นะครับ"
"ถ้าไม่ใช่เจ๊มิ้น..ใครจะใช้ได้"
"นั่นสิครับ...ผมก็ลืมนึกไป..พูดไปก็คิดถึงคุณมิ้นเหมือนกันนะครับเนี่ย"
เอโกะซึมไปชั่วครู่แล้วหยิบดาบนางเสือจากมือจอร์ช
"ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องอื่นนะ ตอนนี้เราต้องช่วยแบมก่อน"
เอโกะหยิบ METRONOME ขึ้นมาวาง
"พร้อมมั้ยพี่จอร์ช"
จอร์ชพยักหน้ารับ เอโกะกลืนยานอนหลับแล้วเดินเข็ม METRONOME ทันที
ท่ามกลางบรรยากาศวังเวงน่ากลัว เอโกะเดินมาหยุดหน้าประตูไม้โบราณมีภาพสลักทวารบาลดูน่าเกรงขาม
เธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
สายตาที่พร่ามัวเห็นคนคู่หนึ่งอยู่เบื้องหน้า...แบมพยายามยันตัวลุกขึ้น ไหม และ หม่อน ผีสาวสองตนหวีผมให้กันและหัวเราะต่อซิกกันหน้ากระจก
"สวยจังเลย" ไหมบอก
"แต่ฉันสวยสู้พี่ไหมไม่ได้หรอก" หม่อนบอก
"น้องหม่อนปากหวานอย่างนี้ ต้องให้รางวัล"
ไหมก้มลงหอมซอกคอหม่อน หม่อนหัวเราะคิกคัก
"บ้า..เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้าหรอก"
"ไม่มีใครหรอกน่า"
แบมพยายามยันตัวขึ้น แต่ทั้งมือทั้งเท้าก็ถูกมัดด้วยผ้าแน่นหนา
"ช่วยด้วย...ช่วยฉันด้วย"
สองผีสาวหยุดนิ่งแล้วค่อยๆหันหน้ามา ใบหน้าอีกฝั่งของทั้งคู่ต่างมีบาดแผลเหวะหวะ ดูสยดสยอง
"ฮิ..ฮิ...ฮิ จริงๆอีนี่มันก็งามไม่น้อย" หม่อนบอก
"นั่นสิ ถ้าได้มันมาเป็นชิ้นกับพวกเราคงไม่เลว"
"เสียดายต้องมาเป็นของพี่บุญเพ็ง...เฮ้อ"
"ช่วยด้วย...ปล่อยฉันไปเถอะ"
ไหมกระโจนมาคร่อมร่างแบมเอาไว้
"ไม่ได้! ขืนพี่บุญเพ็งรู้ กูสองคนโดนเล่นงานตาย"
"แต่เราตายไปแล้วนะจ๊ะ พี่ไหม"
"เออ จริงด้วยว่ะ"
แล้วสองผีสาวก็หัวเราะให้กัน
"....แบม.... !"
เสียงตะโกนเรียกของเอโกะดังเข้ามา
"เอโกะ....เอโกะ"
ไหมรีบเอามือปิดปากแบมไว้ไม่ให้ตะโกน
เอโกะตะโกนเรียกหาแบมต่อเนื่อง.....
เอโกะเดินเข้ามาในห้องเก็บของ แต่ไม่เห็นใคร
"แบม...."
เอโกะมองไปรอบๆก็เห็นแต่เพียงห้องที่ว่างเปล่า เอโกะตัดสินใจเดินกลับออกไป
แบมที่โดนปิดปากพยายามจะเรียกแต่ไม่สำเร็จ ไหมและหม่อนยิ้มให้กันอย่างสะใจ
เอโกะเปิดประตูห้องพระเข้ามา เห็นหีบเหล็กวางเรียงรายแต่กลับไม่เห็นใครสักคน
"ทำไมไม่มีใครหว่า"
เอโกะหันกลับไปมองที่หีบเหล็กอีกครั้ง
ผีบุญเพ็งและหญิงสาวของมันยืนประจันหน้า แต่เอโกะกลับมองไม่เห็น...ผีบุญเพ็งยิ้มเหยียด
"หีบเหล็กพวกนี้"
"ออกไป...!"
เอโกะได้ยินเสียงอย่างชัดเจนถึงกลับผงะไป เสียงบุญเพ็ง ตะโกนไล่ทับซ้อนด้วยเสียงวิญญาณผู้หญิงสะท้อนไปมา
เอโกะมองไปรอบๆอย่างระวังตัว
"มึงหาเพื่อนของมึงไม่เจอหรอก" กิ่งแก้วบอก
"ดูๆไปแล้ว อีนี่ก็งามไม่ใช่น้อย" อีพรว่า
"หึ...หึ งั้นกูก็จะเอาอีนี่กับเพื่อนของมันมาอยู่ด้วยกันซะเลย ดีมั้ย"
"ดีๆๆๆๆ..ได้อยู่ร่วมหอ...กันเยอะๆ...อบอุ่นดี" กิ่งแก้วบอก
เงาดำของมันเคลื่อนวูบวาบ เอโกะเสียหลักถอยไปจนชิดผนัง
เอโกะชักกลัว
"พวกแกเป็นใคร?...พวกแกเป็นใคร"
เอโกะวิ่งไปคว้ามีดสั้นที่วางไว้บนโต๊ะพระขึ้นมา
บรรดาผีจากโลกวิญญาณ
"หึ....นังโง่นี่คิดว่ามีดนั่นจะทำอะไรพวกเราได้" อีพรบอก
"เอาเลยสิจ๊ะ..พี่บุญเพ็งรออยู่"
เสียงตะโกนเซ็งแซ่ของเหล่าผีร้าย
เอโกะยกมือขึ้นแล้วใช้มีดจ้วงแทงขาตัวเองสุดแรง !
เสียงเตือนดังสนั่นในห้องคนไข้.....เอโกะสะดุ้งเฮือกตื่นจากแรงช็อต
"คุณเอโกะ....ตายแล้วๆๆๆ"
เอโกะเขยกขาหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บ
"อะ..เออ มันยังไงกันครับเนี่ย?...คุณเอโกะเลือดออกได้ไง?....แล้วทำไม"
"พี่จอร์ช !"
จอร์ชสะดุ้งรีบเอามือปิดปากทันที
เอโกะหยิบดาบนางเสือขึ้นมอง
"แบมกำลังอยู่ในโลกวิญญาณ แล้วก็อันตรายมากซะด้วย ถ้าไม่มีคนแบบเจ๊มิ้นซะแล้ว ฉันจะทำไงดีวะเนี่ย"
"คนแบบคุณมิ้นหรือครับ"
"ใช่ !"
"ถ้าจะหาคนแบบคุณมิ้น ในตระกูลยังเหลืออีกหนึ่งคน"
"หา...?"
จอร์ชยิ้ม
"คราวนี้ตัวแม่เลยล่ะครับ !"
เวลาต่อมา รถเอโกะวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเก่า ใหญ่โตและขรึมขลัง...
เอโกะและจอร์ชลงมากดออด แล้วก็รอเพียงชั่วครู่ ปาล์ม เด็กสาวในชุดดำ ท่าทางลึกลับเดินมาเปิดประตูให้
ปาล์มยิ้ม
"เชิญเลยคะ ครูพิมกำลังรอยู่"
ปาล์มเดินนำหน้าสองสาวมาตามทางเดิน
"จอร์ช...!"
พิม สาวใหญ่ที่ยังดูสวยไม่สร่าง ปรากฏกายขึ้น
จอร์ชยกมือไหว้
"มารบกวนคุณพิมหรือเปล่าครับเนี่ย"
"แหม...ไม่มีเรื่องก็คงไม่มาล่ะสินะ."
"แหะๆ....นี่คุณเอโกะ..เป็นเพื่อนคุณหนูมิ้นครับ"
พิมรับไหว้เอโกะ
"เข้าไปคุยข้างในกัน"
พิมเดินนำหน้าไป เอโกะขยับตัวจะเดินตาม
"หนูชื่อ ปาล์ม เป็นลูกศิษย์ของครูพิมคะ"
"ลูกศิษย์" เอโกะท่าทางงงๆ
"คือปาล์มลงเรียนวิชาโบราณคดี ที่ครูพิมเป็นอาจารย์พิเศษคะ"
"อ๋อ...เป็นนักศึกษามหาลัย"
ปาล์มยิ้มพยักหน้า
"หนูอยากเจอพวกพี่ตัวเป็นๆมานานแล้วค่ะ เออ พี่คะ" ปาล์มชั่งใจ "พี่เคยเห็นผีจริงๆเหรอคะ"
"อือม์"
"แล้วพวกพี่ก็เคยปราบผีด้วย"
"ก็ประมาณนั่นแหละ"
"โห...เฟี้ยวอ่ะ"
เอโกะหัวเราะแหะๆ
ต่อมา ประตู ห้องสมุด....ถูกเปิดออก บนผนังภายในประดับด้วยรูปภาพ,ของเก่าและของพื้นเมืองหลากวัฒนธรรมดูขรึมขลัง หนังสือโบราณและหายากมากมายถูกจัดเรียงไว้บนชั้น คอมพิวเตอร์ตัวใหญ่วางบนโต๊ะดูเรียบง่าย กลางห้องมีบอร์ดใสขนาดใหญ่คั่นกลางและลายเส้นปากกาเขียนโน๊ตทิ้งไว้ ฝาผนังอีกฝั่งติดตั้งมอนิเตอร์ใสขนาดใหญ่ ข้างๆเป็นกระดานที่มีภาพข่าวและโพสอิทแปะลากเส้นโยงใยเอาไว้ เอโกะมองด้วยความทึ่ง
"สุดยอด เป็นของอาพิมทั้งหมดเลยหรือคะ"
"อือม์ ความลับของประวัติศาสตร์ อารยธรรม ความเชื่อ วิญญาณและภูติผีปิศาจ ผลจากการเดินทางเรียนรู้ เก็บข้อมูลมาทั้งชีวิตของฉันเลยล่ะ"
"คุณพิมน้องคนเล็กของคุณท่าน เป็นอาแท้ๆของคุณมิ้นเลยนะครับ รับรองช่วยคุณเอโกะกับคุณแบมได้แน่ๆ"
"แล้วมิ้นล่ะจอร์ช"
"อะ...เออ" จอร์ชกุกกัก
"คือว่า...หลังจากเจ๊มิ้นช่วยพวกหนูปราบผีร้ายที่ชื่อหลวงสิงหนาท เจ๊มิ้นก็หายตัวไป ทิ้งกระดาษโน๊ตที่บอกไว้แค่ว่า ไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะเธออีก"
พิมรับกระดาษโน๊ตขึ้นอ่าน
"แล้วตั้งแต่นั้นหนูก็ไม่มีใครติดต่อเจ๊มิ้นได้อีกเลย"
พี่จอร์ชพยักหน้า ในขณะที่เอโกะยื่นห่อผ้าคลุมดาบนางเสือให้พิม เธอเปิดดูด้วยมือสั่นเทา
"ดาบนางเสือ !"
"คะ...เป็นอาวุธคู่กายเจ๊มิ้น...เธอไม่เอาไปด้วย"
"แสดงว่ามิ้นคงอยากปล่อยวางเรื่องทั้งหมด"
เอโกะพยักหน้า
"แต่ที่หนูมาวันนี้ เพราะอยากให้อาพิมช่วยค่ะ เพื่อนคนหนึ่งของพวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย"
พิมมองด้วยความสงสัย
"มันเกี่ยวกับคนที่ชื่อบุญเพ็งแล้วก็หีบเหล็กหกใบ"
ภาพฐานข้อมูลถูกโชว์ขึ้น
"คนทั่วไปจะเข้าใจผิดว่า ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของไทยคือซีอุย ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ ในช่วงปลายรัชกาลที่ 6 มี ฆาตกรต่อเนื่องคนหนึ่งที่ใช้ความเป็นผู้ถือศีลบังหน้าหลอกลวงชาวบ้าน มันชื่อว่า บุญเพ็ง"
ข่าวอาศรมและบุญเพ็งตอนที่โดนจับ...
"บุญเพ็งเปิดอาศรมล่อลวงผู้หญิงหลายรายให้มาทำเสน่ห์ ถึงบุญเพ็งจะมีคาถาอาคมจริง แต่ด้วยความที่เป็นคนมักมากในกามและหลงใหลบูชาภูติผี จึงลงมือฆ่าหญิงสาวบางคนที่พึงพอใจเพื่อเก็บวิญญาณไว้เป็นทาส"
"เหยื่อของบุญเพ็งมีด้วยกันหกคน คนแรกชื่อ กิ่งแก้ว เป็นเมียของอาจารย์ที่ตัวเองไปร่ำเรียนวิชา สุดท้ายก็แตกหักกันและไปแย่งเมียเขามา คนที่สองเป็นเศรษฐีนี ลูกผู้ดีเก่าที่มาเสน่ห์ชื่อ พร คนที่สามและสี่เป็นหญิงรักหญิงซึ่งสังคมในเวลานั้นไม่ยอมรับจึงมาขอให้บุญเพ็งช่วยสมในความรักชื่อ หม่อน กับ ไหม คนที่ห้าชื่อ นังช้อย เป็นขี้ข้าในเรือนของบุญเพ็งสภาพศพอนาถมากเพราะบุญเพ็งฆ่าเธอขณะตั้งท้องได้เจ็ดเดือนเพราะคิดว่าเธอมีชู้ คนสุดท้ายเป็นเด็กสาวที่พ่อ แม่ส่งมาขัดดอกที่กู้เงินจากบุญเพ็งชื่อ กลอย"
ภาพเก่าหลักฐานของตำรวจ เห็นว่า มีหีบเหล็กห้าใบที่ถูกขุดเจอและสภาพในหีบที่ดูอเนจอนาถ
"ทุกคนจะถูกบุญเพ็งฆ่าแล้วมัดตราสังด้วยด้ายสายสิญจ์สีแดง จากนั้นเอาศพยัดใส่ไว้ในหีบเหล็กแล้วนำไปฝังดิน"
เอโกะตกตะลึง
"มันเหมือนกับหีบเหล็กที่หนูเจอเลย"
"จากบันทึกของตำรวจในสมัยนั้นบอกว่า บุญเพ็งกำลังเตรียมหีบเหล็กใบที่หกไว้แต่ยังหาเหยื่อไม่ได้"
"หรือว่าคุณแบม !" จอร์ชว่า
ในบรรยากาศบ้านไม้โบราณบดูน่ากลัว ตอนกลางวัน ในห้องเก็บของ ผีกิ่งแก้วและผีช้อย หญิงท้องโย้เดินเข้ามาในห้อง ในมือ ถือถังไม้พร้อมน้ำเต็มถัง
"เช็ดให้สะอาดนะอีช้อย....ถ้าเหลือคราบสกปรกกูจะโบยมึง"
กิ่งแก้วจิกหัวอีช้อยแล้วเดินจากไป
"สะอ้าด" ไหมว่า
หม่อนต่อ "สะอาด"
"เลยนะอีไพร่"
ว่าแล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะเดินออกไป
"ปล่อยฉันไปเถอะ" แบมบอก
"เงียบๆ"
ช้อยเช็คร่างแบมอย่างแรงด้วยความโมโห
"พวกแม่งจิกหัวใช้แต่กู....ใช่สิ กูมันทาส...กูมันทาส"
แบมขัดขืน ดิ้นสู้
"นิ่งๆสิ อีเวรนี่...เดี๋ยวมึงก็ต้องตายห่าเหมือนพวกกูแล้ว อย่าให้ต้องเสียเวลา"
"ปล่อย !"
ช้อยโมโหฟาดผ้าใส่หน้าแบม
"ถ้ามึงไม่หุบปาก กูจะบีบคอมึงให้ตายเดี๋ยวเนี่ย"
"ฉันไปทำอะไรให้พวกแกโกรธแค้น"
"ไม่รู้โว้ย..กูก็เหมือนมึงนั่นแหละ เสือกอยู่ผิดที่!"
แบมมองหน้าไม่ยอมแพ้
"อารมณ์เสีย !"
ช้อยสะบัดหน้าเดินจากไป แบมทิ้งตัวลงอย่างสิ้นหวัง แต่แล้วก็เหลือบเห็น กลอยที่แอบซ่อนเฝ้ามองเธออยู่
"เธอ...เธอ...ช่วยฉันด้วย"
กลอยส่ายหน้า
"เธอถูกพวกมันทรมานใช่ไหม"
กลอยจ้องมองแบมเขม็ง
"ฉันรู้ว่าเธอก็อยากไปจากที่นี่....ฉันอาจช่วยเธอได้นะ"
"แกโกหก"
"จริงๆ...เดี๋ยวพวกเพื่อนฉันกลับมาแล้วเราจะหนีไปด้วยกัน"
กลอยค่อยๆคลานเข้ามาหาแบม
"จะพาฉันหนีจริงๆ"
"จริง"
"สัญญานะ"
"อือม์...ฉันสัญญา"
แบมพยักหน้า
พิมดึงภาพไทยโบราณจากหนังสือใบลานขึ้นจอคอม
"วิญญาณของคนที่ตายไปแล้วโดยส่วนใหญ่ถ้าไม่ไปสู่ภพภูมิใหม่ก็จะเร่ร่อนรอเวลา การที่วิญญาณบุญเพ็งและเหยื่อไม่ไปไม่ได้ แสดงว่าจิตใจคงอาวรณ์ ยึดติดอยู่กับสถานที่นั้นๆ"
ภาพแสดงขุมนรกของวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่บนโลกมนุษย์ และประตูทางเข้าออก
"ส่วนแบมเพื่อนของมิ้นก่อนหน้านี้เป็นตายเท่ากัน จึงเป็นไปได้ว่าวิญญาณแบมหลงทางจากร่างและตกไปอยู่ในโลกวิญญาณของบุญเพ็งโดยบังเอิญ ต่างจากเอโกะที่ตั้งใจถอดจิตไปสู่โลกหลังความตาย"
"แบบนี้แปลว่าเราไม่สามารถพาแบมมออกมาได้"
"ยังได้อยู่....ต้องพาแบมออกมาให้พ้นประตูทางเข้าโลกวิญญาณของบุญเพ็งเสียก่อน แต่ต้องระวังให้ดีเพราะประตูนี้มันเชื่อมกับโลกที่เราอยู่ด้วย บุญเพ็งและพวกอาจจะตามออกมาได้"
"อ้าว งั้นประตูที่ว่าเชื่อมโลกของเรามันคือที่ไหนล่ะคะ" ปาล์มถาม
"ตอนนี้ครูก็ไม่รู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน?...รู้แต่ว่า ถ้าพวกบุญเพ็งหลุดลอดมาได้มันจะอันตรายมาก ปาล์มไปหยิบถุงเชือกให้ครูที พวกเราต้องรีบไปช่วยแบมแล้วล่ะ"
ปาล์มรีบวิ่งไปหยิบถุงผ้าจากลิ้นชัก
"เออ...ตอนที่พวกหนูเข้าไป ได้แต่เสียงพวกมันตลอดเวลาแต่ไม่เห็นตัว"
"ทำให้มันโกรธสิ...รับรองมันต้องปรากฏตัวแน่" พิมบอก
กลอยพาแบมมาจนถึงหน้าประตูทางออกในเวลากลางคืน แบมตรงเข้าไปพยายามเปิด ทั้งทุบทั้งดึงยังไงก็ไม่สำเร็จ
"มันเปิดจากด้านในไม่ได้หรอก" กลอยบอก
"อ้าว โธ่เว้ย"
"ถ้าเพื่อนพี่กลับมาจริ งเราก็ต้องรอเขาจากด้านในนี่แหละ"
"ไม่ต้องห่วง ยังไงยังไงเพื่อนฉันต้องกลับ"
แบมหันหลังกลับไปแล้วก็ต้องตกใจ ผีบุญเพ็งและวิญญาณทั้งหมดยืนจ้องมองคนทั้งคู่อยู่ด้านหลังกลอยด้วยความโกรธ
"อีกลอย...มึงมันเลี้ยงไม่เชื่อง"
บุญเพ็งดึงดาบที่ซ่อนไว้ในไม้ตะพดขึ้นมาแล้วสับลงศรีษะกลอยสุดแรง
"แอร๊ย !"
ร่างแบมสะดุ้งเฮือกเหมือนฝันร้าย...เสียงเครื่องชีพจรร้องเตือนดังสนั่น พยาบาลต่างวิ่งเข้ามาวุ่นวายเช็คอุปกรณ์และให้ยา เอโกะนำหน้าทุกคนออกจากลิฟท์เห็นพยาบาลวิ่งกันหน้าตาตื่นไปที่ห้องแบม
"แบม !"
เอโกะรีบวิ่งโดยที่ทุกคนรีบวิ่งตาม
แบมมีอาการสงบลงแล้วด้วยฤทธิ์ยา แต่ยังกระสับกระส่ายไม่หยุด เอโกะ อาพิม ปาล์มและจอร์ชเข้ามาในห้องอย่างรีบเร่ง
"แบมเป็นไงมั่งคะ"
พยาบาลบอก "หลังจากให้ยาเบื้องต้น ก็ดีขึ้นแล้วคะ"
พยาบาลสองคนกำลังตรวจวัดชีพจรที่เต้นของแบม
"ตอนนี้อาการคนไข้ทรงตัวแล้ว เดี๋ยวดิฉันรีบตามหมอท็อปก่อนให้นะคะ"
เอโกะพยักหน้ารับ พยาบาลทั้งสองคนรีบออกไปทันที
"จอร์ชเฝ้าหน้าห้องไว้อย่าให้ใครเข้ามาเป็นอันขาด"
"ครับๆ"
จอร์ชรีบวิ่งไป ในขณะที่เอโกะรีบเซทเครื่องมือแสกนสมองทันที พิมเข้ามาดูอาการจับชีพจรแล้วหันไปสั่งปาล์ม
"ปาล์ม....เชือก"
ปาล์มรีบหยิบเชือกจากถุงผ้า
พิมก็หยิบดาบนางเสือออกจากห่อผ้า... เอโกะเหน็บปืนเข้าซองหลังจากเซทเครื่องแสกนสมองเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พิมยื่นเชือกให้
"เอาเชือกเส้นนี้ผูกตัวกันไว้จะได้ไม่พลัดหลง" แล้วหันไปสั่งปาล์ม "เมื่อครูพาแบมกลับมาที่ประตูได้แล้วจะกระตุกเชือกทันที"
"พอเชือกถูกกระตุก เธอต้องรีบกดปุ่มเอนเตอร์เพื่อปลุกฉันกับอาพิม" เอโกะบอก
ปาล์มพยักหน้า
สองสาวพยักหน้าแล้วรีบกลืนยานอนหลับ
พิมผลักเข็ม METRONOME แล้วพูดกับเอโกะช้าๆราวสะกดจิต
"จำไว้นะว่า พวกเรามีอาวุธเข้าไปด้วย...ใช้มัน"
สายตาเอโกะเห็นใบหน้าของพิมเลือนราง
"พวกเราต้องต้องพาแบมมาที่ประตูนั่นให้ได้"
บริเวณหน้าบ้านไม้หลังใหญ่ตั้งตระหง่านท้าทายความมืด ลมพัดกระหน่ำราวกับเป็นลางร้าย พิมกำดาบนางเสือไว้แน่น...สายตาจ้องมองบ้านไม้เบื้องหน้าอย่างหวาดหวั่น
"พร้อมไหม เอโกะ"
เอโกะพยักหน้ารับ "คะ"
ลมพัดแรงขึ้น เสียงสวดคาถาโบราณแว่วลอยมาตามสายลมพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องของกลอย พิมพยักหน้าส่งสัญญาณให้เอโกะ ทั้งคู่เดินมาหยุดหน้าประตูไม้โบราณ รีบเอาเชือกมัดตัวกันไว้แล้วเปิดประตูเข้าไป โดยมีเชือกกันร่องประตูไว้ไม่ให้ปิดสนิท
"ประตูทางเข้าเปิดได้จากด้านนอกเท่านั้น เมื่อออกมาแล้วเราต้องช่วยกันปิดมันให้ได้ ไม่งั้นวิญญาณร้ายอาจจะหลุดรอดตามออกมา"
เอโกะพยักหน้ารับ ทั้งคู่เดินเข้าไปภายในตัวบ้าน
ร่างท่วมเลือดของกลอยถูกทุกคนช่วยกันยัดใส่หีบเหล็ก แบมดิ้นฮึดฮัดด้วยความโกรธ
"พวกแกทำอย่างนี้ทำไมวะ?.....ปล่อย...แน่จริงปล่อยฉันสิวะ"
"อีคนชั้นต่ำนี่มันฤทธิ์มากจริงๆ" พรว่า
"หึ..ปากคอจองหองจริงๆนะอีพร มึงมันก็เมียพี่บุญเพ็งเหมือนพวกกูละหว่า" กิ่งแก้วบอก
"หึ...ไม่มีอะไรที่มึงเหมือนกูหรอก...อีกิ่งแก้ว"
"หยุดกัดกันได้แล้ว ลากอีแบมมานี่"
กิ่งแก้วและช้อยช่วยกันจับมือแบมเอาไว้ ในขณะที่ผีบุญเพ็งหยิบด้ายแดงขึ้นพันข้อมือ
ควันร้อนลอยขึ้นมาจากผิวหนังข้อมือของแบม เธอร้องอย่างเจ็บปวด
"อ๊ากกกส ! ไม่....ไม่...ปล่อยฉัน"
"ใกล้เสร็จพิธีแล้ว...อีกนิดเดียว....เราก็จะได้เป็นผัวเมียกันแล้ว"
ไหม - หม่อนว่า "เล่นผัว / เล่นเมีย"
แล้วไหมและหม่อนก็หัวเราะคิกคัก
"ปล่อย...ปล่อย"
"ถ้ามึงยังไม่หยุดดิ้นกูจะฉีกหน้ามึงออกเดี๋ยวนี้"
กิ่งแก้วโมโหจะเงื้อมือตบ
"อย่าเสือกนะมึง...เดี๋ยวหน้าสวยๆช้ำหมด....มามะ" บถญเพ็งบอก
"แอร๊ย"
ทุกคนชะงักหันไปมองที่ประตู...
ถือดาบนางเสือกวัดแกว่งไป ที่พื้นร่างผีอีพรล้มทรุดนั่งด้วยความเจ็บปวด
"พวกแกที่เหลืออยู่ไหน? ออกมา"
"แบมอยู่ที่ไหน" เอโกะถาม
ผีอีพรส่ายหน้า อาพิมโมโหเงื้อดาบ
"ปากแข็ง...งั้นแก"
ลมวูบเข้ามาผลักพิมจนเซไป
พิมเหวี่ยงดาบออกไป เสียงไหมกรี๊ดร้องโหยหวนแล้วปรากฏตัว
หม่อนปรากฏตัวโผจะเข้ามาช่วย เอโกะยิงปืนเข้าใส่จนมันผงะล้มลง
"ดาบนางเสือ"
ผีบุญเพ็ง วิญญาณที่เหลือและแบมปรากฎตัวขึ้น
"แบม !"
"มันมีดาบอาคม พวกมึงระวังตัวให้ดี"
พิมเหวี่ยงดาบเข้าใส่ เหล่าวิญญาณรีบสลายหายตัวกระจัดกระจาย
เอโกะรีบตรงเข้าไปฉุดตัวแบมให้ลุกขึ้นมา แต่ผีกิ่งแก้วโผล่กระโจนเข้าใส่จนเอโกะจนล้มลง พิมจะเข้าช่วยแต่ก็โดนอีช้อยตะครุบไว้ แบมกระชากผีกิ่งแก้วออกมาจนล้มไปด้วยกัน
พิมจับดาบนางเสือฟาดเข้าใส่อีช้อย แต่มันกลับหายไปอย่างรวดเร็ว เอโกะคว้าปืนแล้วยิงใส่ผีกิ่งแก้ว จนมันผงะไป
พิมคว้ามือข้อมือแบมไว้
"หนีเร็ว!"
ในห้องพักคนไข้ เสียงเครื่องเตือนชีพจรดังสนั่น เอโกะและแบมกระสับกระส่ายเหงื่อแตกด้วยความกลัว ปาล์มยกนิ้ว ค้างรอที่ปุ่มเอนเตอร์ "เร็วเข้าซิคะครู"
พยาบาลพาหมอท๊อปมา แต่ถูกจอร์ชกันเอาไว้
"ยังเข้าไม่ได้ครับคุณหมอ"
"ทำไมผมจะเข้าไม่ได้...นี่มันห้องคนไข้ของผม"
จอร์ชยกมือไหว้
"โธ่..ไม่ได้จริงๆคร๊าบ"
"ข้างในทำเรื่องทรงเจ้าเข้าผีใช่ไหม"
"ไม่มี๊.....ไม่มี๊"
"ไม่หลบไปใช่ไหม?...ยาม...ยาม"
ยามโรงพยาบาลปรี่เข้ามาดึงตัวจอร์ชทันที
"อย่านะๆ...เป็นมวยนะโว้ย"
จอร์ชทำท่าฮึดฮัดเหมือนจะสู้ แต่กลับโดนยามล็อคแขน
"อ๊าสสสส...ยอมแล้วๆ"
เสียงเอะอะโวยวายดังลอดเข้ามาในห้อง ปาล์มหันขวับไปมองและตัดสินใจรีบวิ่งล็อคประตู หมอท็อปมองผ่านกระจกเข้ามาด้วยความโมโห
"ไปเอากุญแจห้องมาเร็ว" หมท๊อปสั่งพยาบาล
"ค่ะ"
ฝ่ายปาล์มหันมามองพิมอย่างเลิ่กลั่ก
"เร็วเข้าสิครู"
สามสาววิ่งหยุดหอบแฮ่กที่ประตูทางออก พิมรีบดันประตูไม้ให้เปิดออก
"อีกนิดเดียวแบม"เอโกะบอก
เสียงหัวเราะคิกคักจากด้านหลัง กลายเป็นผู้หญิงที่ทั้งสองพาวิ่งหนีมาเป็นผีอีกิ่งแก้ว
"แบมไหนเรอะ"
ผีอีกิ่งแก้วพุ่งเข้าใส่ อาพิมใช้ดาบกันเอาไว้ ผีอีกิ่งแก้วจับโดนคมดาบกรีดร้องลั่นแล้วทรุดลงด้วยความกลัว
"แบมอยู่ไหน?"
เสียงแบมดังเข้ามา "เอโกะ"
ผีบุญเพ็งลากตัวแบมออกมา ในขณะที่ผีร้ายตัวอื่นจ้องมองสองสาวด้วยความโกรธแค้น
"เพื่อนพวกมึงอยู่นี่ไง" บุญเพ็งบอก
"ปล่อยคนของฉัน....แลกกันกับพวกของแก"
ผีบุญเพ็งจ้องมองสองสาวแล้วยิ้มกระซิบที่ข้างหูแบม
"จำไว้ว่าแกเป็นของฉัน...ตลอดไป" บุญเพ็งผลักแบม "เอาละ เดินไปหาเพื่อนของแกได้แล้ว"
แบมค่อยๆเดินออกมาโดยที่เหล่าผีร้ายต่างคำรามฮึ่มเข้าใส่ เธอเดินมาจนถึงหน้าเอโกะ
"ฉันรู้...ว่ายังไงพวกเธอต้องกลับมารับฉัน"
"มันแหงอยู่แล้ว"
"เอาเชือกมัดตัวไว้"
แบมมองหน้าอาพิมงงๆ
"เร็วซิ"
แบมรีบเอาเชือกมัดตัว
"ส่วนแก...ไปได้แล้ว"
ผีอีกิ่แก้วรีบคลานลุกลี้ลุกลนหนีไป พิมสบตากับเอโกะแล้วพยักหน้า ผีบุญเพ็งจ้องมองที่ประตูแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
เอโกะผลักประตูออกสุดแรง
"หนีเร็ว !"
"จับประตูนั่นไว้เร็ว"
ผีร้ายทุกตัวต่างรีบโผเข้ายึดประตูไว้ แต่แรกสัมผัสพวกมันร้องเสียงโหยหวนด้วยความปวดแสบปวดร้อน
สามสาวพุ่งตัวพ้นประตูแต่ก็เสียหลักล้มลง
"มันจะตามออกมาแล้ว" เอโกะบอก
ผีบุญเพ็งพุ่งตัวผ่านเหล่าผีร้ายของมันออกมานอกประตูอย่างรวดเร็ว
"พวกมึงหนีกูไม่พ้นหรอกมึง"
สามสาวตกใจกลัวสุดขีด เอโกะรีบกระตุกเชือกสุดแรง
พิมร้องลั่น "ไม่ !"
บุญเพ็งเงื้อดาบขึ้นสุดแขน แต่เกิดแสงวาบขึ้นบนตัวสามสาว.....!
ในห้องผู่ป่วย พิมสะดุ้งเฮือกพร้อมกันกับเอโกะ
"แบม!"
ปาล์มรีบเข้าประคองพิม
"เป็นไงบ้างคะครู"
"ไม่เป็นไร รีบช่วยกันเก็บเครื่องมือก่อนเร็ว"
ปาล์มพยักหน้าแล้วรีบช่วยเอโกะเก็บเครื่องมือทั้งหมดโดยเร็ว
หมอท็อปและพยาบาลเปิดประตูผลัวะเข้ามาได้ แล้วผลักให้ปาล์มหลีกไป
"พวกคุณพยายามทำอะไร? แล้วไอ้ของแปลกๆพวกนั่นมันคืออะไร"
หมอท๊อปชี้ไปยังเครื่องไม้เครื่องมือรวมทั้งดาบในมืออาพิม
"ไม่มีอะไรหรอกคะ ดิฉันรับรองว่าไม่มีผลอะไรต่อคนไข้ของคุณหมอหรอก"
"จะไม่มีได้ไงครับ พวกคุณกำลังขัดขวางการรักษาของผม ถ้าคนไข้ของผมเป็นอะไรไป ใครจะรับผิดชอบ."
เสียงแบมดังเข้ามาอย่างแผ่วเบา "เอโกะ"
ทุกคนหยุดแล้วจ้องมองไปที่แบม แบมท่าทางเหนื่อยอ่อนแต่ยังฝืนยิ้มได้
"แบม...เธอกลับมาแล้ว"
แบมพยักหน้า
"แหงล่ะ..ฉันมันตายยากอยู่แล้ว"
ทุกคนยิ้มดีใจ ในขณะที่หมอท๊อปยังยืนอึ้งอยู่ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"เอโกะ...แล้วมิ้นล่ะ"
เอโกะและพิมมองหน้ากันไม่รู้จะตอบยังไงดี
รถแองเจิ้ลของพิม วิ่งเข้ามาจอด แบม เอโกะและพี่จอร์ชทยอยกันขนของลงมาจากรถ
"จากนี้ไป ที่นี่จะเป็นบริษัทแองเจิ้ล" เอโกะบอก
"อ้าว แล้วออฟฟิศเก่าของเราล่ะ" แบมถาม
"แบม..เธอนอนโรงพยาบาลไม่ได้สตินานถึงสามเดือน เจ๊มิ้นเอาแต่โทษตัวเองและคิดว่าเธอคงไม่ฟื้นแน่ๆเลยทิ้งเงินไว้ให้ฉันดูแล ตอนนี้เจ๊มิ้นก็หายตัวไปและฉันก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย อาพิมซึ่งเป็นญาติฝั่งพ่อเจ๊มิ้นเลยเสนอตัวว่าจะดูแลเธอและบริษัทแองเจิ้ลต่อ ซึ่งฉันก็เห็นด้วยนะ"
"แต่ว่า"
"ถ้าอาพิมช่วยเธอจากผีร้ายได้ ก็แสดงว่าเก่งกาจไม่แพ้เจ๊มิ้นนะ"
"โอ้ย..ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าเรื่องปราบผี...รับรองตระกูลนี้ตัวจี๊ดทุกคน" จอร์ชบอก
ปาล์มรีบวิ่งมาเปิดประตู
เอาดาบนางเสือวางไว้บนแท่นวางดาบ แบมเดินเข้ามาจ้องมองพิมและดาบนางเสือ
"อ้าว...เป็นไง ดีขึ้นไหม"
"ดีขึ้นมากแล้วคะ" แบมยกมือไหว้ ".ขอบคุณนะคะ ถ้าอาพิมไม่ช่วยไว้หนูก็คงไม่รอด"
"พวกเธอเป็นเพื่อนรักของมิ้น..แล้วอาจะไม่ช่วยได้ไง"
อาพิมเดินไปที่ระเบียงจ้องมองเอโกะและปาล์มที่กำลังช่วยกันขนของ พี่จอร์จโดนด่าเพราะทำของหล่นตลอด
"ตลอดเวลาที่ผ่าน คนรอบตัวมิ้นของต้องตายด้วยเรื่องอาถรรพ์ ทั้งจากวิญญาณแล้วก็ผีร้าย ที่มิ้นหนีไปคงเพราะรักพวกเธอมากจนไม่อยากสูญเสียไปอีก"
"แต่ก็อดใจไม่หายไม่ได้นะคะ"
"ให้เวลามิ้นสักหน่อยนะ อาเชื่อว่าสักวันมิ้นต้องกลับมา"
"หนูก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น"
"รู้ไหม การรับจ้างปราบผีช่วยเหลือผู้คนก็เคยเป็นความฝันของอาเหมือนกัน...พวกเรามาเริ่มทำแองเจิ้ลกันใหม่นะ"
แบมยิ้ม
บรรยากาศในโรงพยาบาลตอนกลางคืนดูวังเวงน่ากลัว หมอท๊อปที่กำลังออกเวร สวนกับพยาบาลเวรดึกที่ทักทายเขา
เขายืนรอลิฟท์แต่มันกลับค้างที่ชั้นเดิม เขารออยู่นานจึงตัดสินใจลงบันไดหนีไฟ ขณะที่หมอท็อปกำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถ จู่ๆก็ได้ยินเหมือนใครกระซิบเรียก เขามองไปที่สุดทางเดินเห็น ประตูห้องดับจิต เปิดไว้ !
หมอท๊อปเดินไปดูด้วยความสงสัย ไฟทางเดินเริ่มกระพริบติดๆดับๆ
หมอท็อปชะโงกหน้าเข้าไปเปิดไฟ แวบนึงของไฟที่เปิดขึ้นเหมือนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ หมอท๊อปตกใจถอยกรูดออกมา จู่ๆประตูห้องดับจิตก็เลื่อนปิดตัวเองและไฟทางเดินกลับติดสว่างอีกครั้ง
หมอท็อบลองขยับประตูไปมาซึ่งมันก็ใช้งานได้ตามปกติ หมอท็อปงงแล้วเดินจากไปจนลับทางเดิน
ไฟทางเดินเริ่มกระพริบอีกครั้งแล้วก็ดับวูบลงพร้อมกับเสียงผู้หญิงหัวเราะแผ่วเบาในความมืด...
(อ่านต่อ ตอน 2)