นางโชว์ ตอนที่ 1
ในยามเช้า ท่ามกลางบรรยากาศและภาพชีวิตผู้คนในเมืองหลวงอันแสนวุ่นวาย มะลิวัลย์เดินอยู่ริมฟุตบาธ เธอรีบไปทำงาน เสียงหวอรถดับเพลิงดังลั่นมาแต่ไกล จนรถดับเพลิงวิ่งมาใกล้ แต่มะลิวัลย์ยักไหล่ไม่สนใจ แล้วเดินต่อ
บริเวณหน้าร้านขายทีวี ชาวบ้านยืนรุมดูทีวี วิพากษ์วิจารณ์ กันสนุกปาก มะลิวัลย์เดินมาถึงพอดี เริ่มสนใจเลยหยุดดูทีวี และร่วมวิพากษ์วิจารณ์
ชาวบ้าน1 บอก "เฮ้ย ไฟไหม้!"
ภาพรถดับเพลิงวิ่งมา ชาวบ้านชี้ชวนกันดู
"นั่นๆๆๆ รถดับเพลิงแห่กันไปที่นั่นแน่ๆเสียหายหลายแสนหล่ะทีนี้ ฉิบหาย วอดวายกันไปหมด" ชาวบ้าน 2 ว่า
"เฮ้ยแล้วมันจะลามมาแถวนี้ป่าววะ"
"คงไม่มั้งป้า ไม่งั้นป่านนี้เราคงไม่มายืนพูดกันอยู่ตรงนี้หรอก ร้องไห้ขี้มูกโป่งกันไปหมดแล้ว"
"ไฟไหม้ที่ไหนหรอป้า" มะลิวัลย์ถาม
ชาวบ้าน 2 ค้อนนิดนึงเพราะเธอดันเรียกป้า
" ก็ตึกสูงๆ ตรงสี่แยกโน้นน่ะ เห็นว่าไหม้ตั้งแต่เช้าตรู่ นี่รถดับเพลิงก็เพิ่งจะมา ป่านนี้ไม่เหลืออะไรแล้วมั้ง"
ภาพในทีวีจับภาพออฟฟิศของมะลิวัลย์พอดี เธอตาโต อ้าปากค้าง เสียงมือถือดังขึ้นมาพอดี
มะลิวัลย์รับสายแบบช๊อกๆ ตายังมองอยู่ที่ทีวี
ภาพส้มเช้ง หัวฟู หน้าดำเพราะควันไฟ ปรากฏที่จอทีวี ขณะที่ด้านหลังเห็นคนวิ่งวุ่นขนของกันจ้าละหวั่น
"นังมะลิ! แค่กๆ แกเห็นข่าวยัง?? แค่กๆ"
"ข่าวไฟไหม้ออฟฟิศเราใช่มั้ย"
"ใช่ๆ เนี่ยมีกล้องมาทำข่าวออกทีวีด้วย แกเห็นชั้นมะ"
ในจอ ส้มเช้ง ที่กำลังโบกมือให้มะลิ
"นี่ตกลงมันเรื่องจริงหรอ แล้วออฟฟิศเราหล่ะ ออฟฟิศของเราเป็นไงมั่ง...ส้มเช้ง"
"ไม่เหลืออะไรเลย เหี้ยนหมดเลยแก แค่กๆ หมดกันแล้วนังมะลิ พวกเราไม่มีที่ทำงานกันแล้วโฮ โฮ...."
มะลิวัลย์ช็อกค้างทรุดตัวนั่งข้างถนนอย่างหมดแรง ในมือถือ ส้มเช้งยังพูดต่อ รับกับภาพทีวี ที่เห็นส้มเช้งพูดใส่มือถือ
"ฮือๆ กะ ... แก แก แกฟังชั้นอยู่รึเปล่า นังมะลิ ฮาโหลๆ"
ทองแท่งขับรถมากับช่อลัดดา สาวไฮโซคู่ควงของทองแท่ง ทั้งคู่กำลังฟังเพลงเพลินๆ
"เดี๋ยวเราแวะ Lunch กันที่โรงแรมตรงนี้เลยนะคะ เชฟมิชลิน มานูเอล มาร์ติเนซ บินมาจัด Chef’s Table ลัดดาอยากทานจังค่ะ"
"อ่อ ครับ ว่าแต่ตาเชพคนนี้ดังมากเหรอฮะ"
"อูย... เชฟมานูเอล มาร์ติเนซ เป็นทั้งเชฟแล้วก็เป็นเจ้าของห้องอาหาร เรอเลส์ หลุยส์ เทรซ ที่ปารีส การันตีด้วยสองดาวมิชลิน ติดต่อกัน 10 ปีซ้อนนะคะ"
ทองแท่งหัวเราะเบาๆ
"จริงๆ ผมทานอะไรก็ได้ฮะ อาหารข้างถนนก็ทานได้ อร่อยดีด้วยแล้วไอ้คำว่ามิชลิน นี่ผมฟังทีไรนึกถึงยางรถยนต์มิชิลินทุกทีเลยฮะ"
"แหม...แต่ลัดดาอยากทานฟัวกราส์ลิ้นวัวนี่คะเพื่อนของลัดดาบอกว่า เชฟคนนี้เค้ามีการจัดวางอาหารสลับเป็นชั้นๆ แบบเดียวกับขนมมิลเฟยส์ แล้วฟัวกราส์เค้าก็ผสมเหล้าพอร์ตทำเป็นมูสลีน น่าทานมากค่ะ แล้วก็ยังมีซีฟู้ด Spider Crab Salad, Jelly of Water Grass ที่ใช้ซอสพอนสุของญี่ปุ่น รสเลิศเชียว"
"เฮ้ย!" ทองแท่งอุทานตัดบทช่อลัดดาขึ้นมา เมื่อเห็นมะลิวัลย์เดินข้ามถนนในระยะกระชั้นชิด
รถทองแท่งหักหลบ มะลิวัลย์โดนรถเฉี่ยวจนล้ม รถที่หักหลบนั้นไปชนรถเฮีย
ภายในรถ ช่อลัดดาหน้าคะมำไปกระแทกคอนโซลรถ เนื่องจากทองแท่งเบรกกระทันหัน
"อุ๊ยว๊าย!"
ทันทีที่ช่อลัดดาเงยหน้าขึ้นมา เลือดกำเดาไหล ช่อลัดดาเอามือลูบเห็นเลือด ร้องกรี๊ด
"ว๊าย .. เลือดๆ คุณทองแท่ง"
พูดไม่จบเพราะทองแท่งเปิดประตูรถออกไปแล้ว
ทองแท่งเปิดประตูลงมาจากรถอย่างหัวเสีย เดินเข้าไปหา กะต่อว่ามะลิวัลย์ ด้วยความโมโหมาก เลยไม่ทันได้ดูหน้ามะลิวัลย์
"นี่คุณ!! อยากตายรึไง ข้ามถนนภาษาอะไรฮ้า ... ไม่เห็นรถรึไงคุณ!"
มะลิวัลย์ที่นั่งอยู่กับพื้นค่อยๆ ลุกขึ้นเซๆ แล้วค่อยๆ เงยหน้า ลมพัดจนผมปลิวสยาย สวย เสียงเพลง She เพลงประกอบหนัง Notting Hill ดังเข้ามา She may be the face I can't forget ...
ทองแท่งชะงักมองมะลิวัลย์ที่สวยจนสะดุดใจ ฝ่ายมะลิวัลย์มองตอบสวยๆ นิ่งๆ พอช่อลัดดาแทรกเข้ามานั่นแหละ กลายเป็นว่าเพลงสะดุดเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ลมที่พัดจนผมปลิวสยาย หายแว้บไปทันที
"โอ้ย ทองแท่งขา!"
ช่อลัดดาลงมาจากรถได้ก็บ่นกระปอดกระแปด แล้วควงแขนทองแท่งหมับ
"ลัดดาเลือดไหลใหญ่ด้วยอ่ะ ดูสิคะ" พอนางเหลือบไปเห็นรถทองแท่ง "ว้ายยรถชน ตายหล่ะนี่คุณทองแท่งเป็นบ้างรึเปล่าคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า"
เฮีย เจ้าของรถอีกคันโผล่มาขัดจังหวะ
"นี่ๆ อิหนู...ไอ่ตี๋หน้าขาวนั่นน่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก แต่รถอั๊วนี่เส่ะ จะว่าไง จะยอมชดใช้ดีๆ หรือจะต้องใช้กำลัง!"
"ว้ายป่าเถื่อน ลัดดากลัวค่ะคุณทองแท่ง" ว่าพลางซบทองแท่ง
ทองแท่งยังตะลึงกับความสวยของมะลิวัลย์ ไม่ได้ให้คำตอบใคร ส่วนมะลิวัลย์ก็ งงๆ มองคนโน้นที คนนี้ที
ช่อลัดดาอุตส่าห์ซบ แต่ทองแท่งนิ่ง ฉุกใจคิด หันไปมองมะลิวัลย์
"เอ๊ะ แล้วนังคนนี้เป็นใคร มายืนหน้าบานเป็นจานดาวเทียมอยู่ตรงนี้ รึว่าแก แกมาตัดหน้ารถคุณทองแท่งใช่มั้ย คุณทองแท่งคะ ลุยมันเลยคะ อย่าปล่อยให้นังดาวเทียมนี่ลอยนวล"
เป็นอีกครั้ง ที่เสมือนกับลมพัดแรง จนเส้นผมของมะลิวัลย์ปลิวสยาย ทองอท่งถึงกับสะดุดสายตา พูดติดอ่าง พร้อมๆกับเพลงเดิม ... เขาเคลิ้ม ทั้งๆที่อ้าปากจะต่อว่า
"เออ .. ใช่ คุณ เอ่อ คุณ ..."
เฮียคู่กรณีกระชากตัวทองแท่งไปคุยด้วย เพลงสะดุดเหมือนแผ่นเสียงตกร่องอีกครั้ง
"นี่คุณ...อย่าลีลา รึคิดว่าเป็นเจ้าของถนน คิดจะหยุดก็หยุด ... มานี่เลย มาดูเลย ผลงานคุณ ดูๆๆ รถผม พินาศหมดเห็นมั้ย"
ทองแท่งได้สติ
"คือว่า..ไม่ใช่อย่างงั้นครับ คือผมเองก็หักหลบคนเหมือนกัน"
"ใช่ๆ แฟนชั้นไม่ผิดนะยะ โน่น คนผิดอยู่โน่น แหกตาดูสิยะ"
ช่อลัดดาหลับหูหลับตาชี้ไปทางมะลิวัลย์
"เฮ่ย...พูดแบบนี้ทุกที ไหนคนไหน" เฮียหันไปมองทางมะลิวัลย์ที่ยืนอยู่ "ไม่เห็นจะมีใครเลย"
"จริงๆ ครับ คือผมหักหลบผู้หญิง .. !! คนนั้น...เอ๊ะ.."
ทองแท่งหันมาจะชี้มะลิวัลย์ แต่แล้วก็ต้องตกใจเพราะมะลิวัลย์หายไปแล้ว
"ไหนล่ะ คนไหน นางไม้รึไง ไม่มีใครซักคน"
ทองแท่งเจ็บใจมะลิวัลย์มาก
"อ่ะ อ้าว หายไปไหนแล้ว อึ๊ย...นังตัวแสบ!"
"เห็นมะ ไม่เห็นมีใครซักคน อย่ามาซี้ซั้ว"
"จะบ้าเหรอ แป๊ะตาถั่ว ก็เมื่อกี๊เค้ายืนอยู่ตรงนั้นไง"
"ก็อั๊วไม่เห็นนี่ ไหนล่ะ"
ช่อลัดดากับเฮียเถียงกันวุ่นวาย ทองแท่งมองหามะลิวัลย์ไปรอบๆ ไม่เจอ ผิดหวังมาก
มะลิวัลย์เดินมาตลอดทาง คอตก สภาพโทรมมาก จนมาถึงหน้าตึกห้องเช่า เธอเดินผ่านเจ๊สาที่ก้มจดหวยอยู่ เจ๊สาเงยหน้า
"อ๊าๆๆๆ ... ว่าไงจ๊ะ" เจ๊สาเดินมาหา "หนูมะลิคนสวย แหม่ วันนี้กลับมาเร็วนะจ๊ะ ... เออ..ๆๆ วันนี้สิ้นเดือนนี่นา แบบนี้ หนูมะลิคนสวยต้องมีเงินมาจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ"
ในขณะที่เจ๊สาพูดพล่ามอยู่คนเดียว แต่มะลิวัลย์เหมือนไม่รับรู้ อยู่ในภวังค์ความเศร้าส่วนตัว เดินลอยผ่านไป
"ใช่มั้ยจ๊ะ อ้าว...เฮ้ย...เดินไปโน้นแระ ชั้นยังพูดไม่จบเลย แหม ..นังคนนี้นี่ทำไม...อ้าว เฮ้ย" ยังพูดไม่ทันจบ กระดาษจดหวยโดนลมพัดปลิว "จะปลิวไปไหนเล่าไอ้ลมบ้าพวกนี้ โว้ย" เจ๊สาวิ่งไล่ตามเก็บกระดาษจดหวย
เจ๊สาไล่เก็บไปบ่นไป มะลิวัลย์ตาลอย ไม่รับรู้ ค่อยๆ เดินขึ้นตึกไป
"จะไปไหนเล่า มีปีกรึไงมึง เฮ้ย แหมม"
เจ๊สาไล่เก็บจนครบหันกลับมา พบแต่ความว่างเปล่า ใบไม้ปลิวผ่านหน้า อารมณ์ประมาณ วิ้ง .... ว่างเปล่า
"อ้าวหายไปไหนแล้ว หนอย... ปล่อยให้เราพูดเพ้ออยู่คนเดียว ... แบบนี้คิดจะลองกับเจ๊สาหรอ เดี๋ยวก่อนๆ เชอะ"
บ่ายต่อเนื่อง มะลิวัลย์เปิดประตูเข้ามาในห้อง ทรุดลงหมดแรงกับพื้น ร้องไห้
"ฮือ ชีวิตของมะลิ .... จะเอาไงต่อดีเนี่ย .. ออฟฟิศก็ไม่มีแล้ว เงินดงเงินเดือนก็อดได้ เวรกรรมอะไรกันวะเนี่ย ไหม้วันไหนไม่ไหม้ ดันมาไหม้ตอนวันเงินเดือนออก ... ฮือ แล้วเราจะทำไงต่อไปดี แม่ก็กำลังแย่ น้องก็กำลังเรียน มะลิเอ้ยมะลิ"
เสียงกริ่งห้องดังขึ้น รัว มะลิวัลย์ที่ร้องไห้อยู่ชะงัก ตาโต
ครู่ต่อมา ประตูห้องเปิดออก มะลิวัลย์เห็นเจ๊สายืนเท้าเอวมอง
"ไงหล่อน เมื่อกี้ชั้นทักทำหยิ่งนะยะ พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย"
มะลิวัลย์พูดเนือยๆ
"มีไรอ่ะเจ๊ มะลิปวดหัวไม่สบาย"
"แหมทำมาเป็นปวดหัว สำออยนะยะ"
"นี่เจ๊จะมาหาเรื่องกันหรอ มีอะไรก็พูดมา คนยิ่งเครียดๆ"
"ค่าเช่าห้องหล่ะย่ะ 2 เดือนแล้วนะหล่อน จะเอาไง ไม่มีจ่ายก็ออกไป"
มะลิวัลย์ตาโตนึกขึ้นได้ ยิ้มประเหลาะ
"อุ๊ย! เจ๊จ๋าเจ๊ ... ไม่นะ อย่าเพิ่งไล่กัน โธ่เจ๊ขา เจ๊คนสวย ยังไงขอเวลาซัก 2-3 วันนะคะเจ๊"
เจ๊สาพอใจที่โดนชมแต่เชิด
"หนอยทีงี้ทำมาเป็นพูดดี"
"น่าน๊า เจ๊คนสวย แถวนี้ไม่มีใครสวยเกินหน้าเจ๊สาของมะลิไปได้ นี่หนูพูดจริงๆ นะ ไม่ได้โกหกเล้ย ...ดูสิคะ ผมก็ดกดำเป็นเงางาม หน้าก็เต่งตึงเหมือนสาวรุ่นอายุ 20 มองซ้ายเหมือนญาญ่า มองขวาเหมือนพัชราภา มองตรงๆ เหมือนเจ้าหญิงสโนไวท์ ปากแดงเป็นกระจับเชียว เนี่ยหนุ่มๆ เห็นเป็นต้องหลงทุกคน ฟันธง!"
เจ๊สาฟังจนเคลิ้ม
"เออ .. ใครๆ เค้าก็ว่าเงี้ย ไม่รู้จะทำไง คนมันสวย ช่วยไม่ได้ ... เอาน่ะ นี่เห็นว่าคนกันเองนะ จะยอมให้อีก 2 วัน แต่บอกก่อนนะยะ ว่าไม่ได้ยอมเพราะคำว่าสวยหรอกนะ แต่เห็นเป็นน้องเป็นนุ่ง น่าสงสารก็เท่านั้น"
"แหม...เจ๊ถ่อมตัวไปได้ เจ๊ก็สวยจริงๆ นี่นา นอกจากสวยแล้วยังใจดีอีกต่างหาก"
เจ๊สายิ้มพอใจ "เออๆ ก็ได้ ก็ได้ .. แต่ ... "เจ๊สาจ้องหน้าจิก "อีกแค่ 2-3 วันเท่านั้นนะ!"
"จ๊ะเจ๊คนสวย"
เจ๊สาเดินไป ฮัมเพลงมีความสุขที่ตัวเองสวย
หลังจากแก้สถานการณ์แล้ว มะลิวัลย์ปิดประตูห้อง ถอนหายใจเฮือกใหญ่! พูดกับตัวเอง เสียงเข้ม
"ยัยปลาร้า ยัยปลาเค็ม ยัยปอบหน้าเลือด " แต่พอนึกได้ก็จ๋อย "แล้วเราจะทำไงต่อไปดี ออฟฟิศไหม้เป็นจุณ ค่าเช่าห้องก็ยังจะมาทวง มนุษย์มาม่าแบบเราจะทำยังไง โอ้ย ปวดหัว"
มะลิวัลย์เดินมานั่งกุมหัวบนเตียง เสียงกริ่งห้องดังขึ้น รัวๆ ผุดลุกขึ้น หน้าโกรธมาก
"โอ้ย! พูดไม่รู้เรื่องรึไง ยัยเจ๊มหาโหดแบบนี้ต้องโดน"
มะลิวัลย์เดินไปหยิบไม้ตียุง เปิดไฟกระพริบ แปล๊บๆ มีเสียงช๊อตด้วย เธอหน้าโหดเดินไปเปิดประตู
"เอาวะ ฆ่าคนรับความซวยซะหน่อย"
มะลิวัลย์เปิดประตูได้ หลับหูหลับตาตีทันที
"บอกว่าอีก 2-3 วันไง พูดไม่รู้เรื่องหรอเจ๊ นี่แน่ะๆๆๆ พวกไม่มีน้ำใจ ยัยปอบหยิบ ยัยผีขี้งก"
ป๊อนคอนยืนหันหลัง กำลังแต่งหน้าแต่งตาไปตามเรื่อง โดนมะลิวัลย์ตีด้วยไม้ตียุงหันมา
"โอ้ยๆๆ อะไรกัน โอ้ย...นังมะลิ โอ้ย"
มะลิวัลย์ตีต่อไปซักพัก ก็ชะงัก
"เอ๊ะ เสียงนี้มันคุ้นๆ นะ" แล้วก้มลงมอง "…เฮ้ย !"
ป๊อปคอนนอนลงไปกับพื้นกำลังชักแหง่กๆ ตาเหลือก
ต่อมา ภายในห้อง มะลิวัลย์ดูแลพยาบาลป๊อปคอนที่หัวฟู เพราะโดนไฟช็อต มีผมไหม้เป็นกระจุก แหว่งๆ เธอกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าจับตัวเพื่อน ใช้นิ้ว จิ้มๆ เอาแทน
"ขอโทษแก เจ็บมากมั้ยอ่ะ"
"ไม่เจ็บเลยมั้งแก ถามได้ ดูหน้าชั้นซิ แหกไปถึงไหนถึงไหนแล้วแล้วดูผมสิ นี่ๆๆ ... โฮๆ ไม่น่าเลย ยิ่งมีน้อยๆ อยู่ โธ่ๆๆๆ"
"ขอโทษนะแก ชั้นก็นึกว่าเป็นยัยเจ๊หน้าเลือดนั่นน่ะ"
"ทีหลังก็หัดดูให้ดีๆก่อนเสะย่ะ ดูซิจะเสียโฉมรึเปล่าก็ไม่รู้"
"ฮือๆๆ ... ชั้นไม่ดีเอง ชั้นมันไม่ดี ฮือ ฮือ ..... ชั้นขอโทษ ขอโทษน๊า ... ฮือๆ อย่าโกรธกันนะ"
ป๊อปคอนตกใจมากที่อยู่ดีๆ มะลิวัลย์ก็ร้องไห้
"เฮ้ย จะบ้าเหรอยะ ผีเข้าป่าวเนี่ย ... นังมะลิ!! แกเป็นอะไร ชั้นไม่ได้โกรธแกซักหน่อย ชั้นก็บ่นไปตามเรื่องแหละแก โอ๋ๆ"
มะลิวัลย์ชะงักโผเข้ากอด
"ป๊อปคอน"
มะลิวัลย์โผเข้ากอด ป๊อปคอนตกใจ
เวลาผ่านไป ป๊อปคอนรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
"เลิกร้องไห้ซะนะแก" ป๊อปคอนปาดน้ำตาให้มะลิวัลย์ "ชั้นจะช่วยแกเอง ชั้นจะลองไปถามเพื่อนๆ ให้ มันต้องมีซักที่แหละนา ที่เค้าต้องการคนทำงาน"
"จริงนะแก"
"จริงซิ คนอย่างป๊อปคอนไม่เคยโกหก"
มะลิวัลย์โผเข้ากอดป๊อปคอนอีก ป๊อปคอนทำท่าขนลุกผลักมะลิวัลย์หน้าหงาย
"อ๊าว ไหงทำเงี้ยล่ะ"
"พอแล้ว พอแล้ว ขนลุกขนพอง ชั้นยังไม่ชินกับการโดนผู้หญิงกอดนะ เอางี้พรุ่งนี้เที่ยงๆ แกไปหาชั้นที่ห้องแล้วกัน แต่ตอนนี้ชั้นจะออกไปทำงานก่อน อ้อ..ข้าวน่ะ วางอยู่ตรงนั้นนะ กินอะไรบ้างหล่ะ ดูซิผอมยังกะไม้เสียบผี ไม่รู้จักบำรุงให้ผิวพรรณมันเต่งมันตึง ดูแบบชั้นเนี่ยสิ เห็นมะ ผิวพรรณผุดผาดเต่งตึงเป๊ะเว่อร์ ขนาดไหน..."
มะลิวัลย์หลุดหัวเราะ
"ขอบใจนะแก ขอบใจจริงๆ"
"เออ หัวเราะได้ก็ดีแล้ว น้ำตาไม่ช่วยอะไรจำเอาไว้ย่ะ"
มะลิวัลย์ยิ้มให้ป๊อปคอนดีใจสุดๆ ป๊อปคอนยิ้มรับเขินๆ
ป๊อปคอนเดินผ่านเจ๊สา บ่นกับตัวเอง
"โว๊ะ...แล้วนี่ชั้นจะไปหางานให้นังมะลิมันยังไงหล่ะเนี่ย พรรคพวกก็มีแต่กะเทยทั้งนั้น โอ้ย กลุ้มจริ๊ง"
เจ๊สาเห็นป๊อปคอนเดินมาก็ปรี่เข้าไปพูดด้วย
"นี่แก อย่าลืมเตือนเพื่อนของแกด้วยนะ .. ว่า ..."
ป๊อปคอนไม่ได้สนใจเจ๊สาเลย ดูนาฬิกาแล้วตบอกผาง
"ว๊าย! ตายๆ นี่มันจะ 5 โมงแล้วนี่หว่าตายๆๆๆ เดี๋ยวไปไม่ทันงาน โดนเจ้ตัดเงินเดือนอีก ว๊ายๆๆ"แล้วนางก็รีบแจ้นไปทันที
ป๊อปคอนเดินผ่านเจ๊สาอย่างไม่สนใจ
"อ้าวเฮ้ย! จะไปไหนวะ เฮ่ย...วันนี้มันเป็นวันอะไรวะ พูดกับใครก็ไม่มีใครพูดด้วย ตัวชั้นก็ไม่ใช่เล็กๆ"
"วันหวยแดกไงเจ๊" ยิ้ม แม่บ้านส่งเสียงทัก
"เออจริงสิ วันหวยแดก ... เฮ้ย!"
ยิ้ม แม่บ้านยืนแอบหัวเราะอยู่ข้างหลัง แต่พอเจ๊สาจะหันหน้ามาก็รีบหลบแว๊บไป
เจ๊สาหันไปมองรอบๆ
"ใครวะมาตอกย้ำ อารมณ์เสียจริงๆ " เจ๊สาแล้วชะงักอีกหน "ไม่มีใคร ไม่มีคน แล้วใครพูดวะ" ก่อนจะขนลุกกลัวผี "อย่ามาหลอกมาหลอนกันนะ คนอยู่ส่วนคน ผีอยู่ส่วนผีเสะ ฮือๆ"
ภายในบ้านเช่า จีน่ายืนหันหลังแต่งตัว มือเรียว, เล็บทาสีแดงสวยงาม, คิ้วที่โก่งงาม, ปากทาลิปสีแดงสด, เสื้อผ้ากระโปรงสวยงาม หมุนรอบมาหยุดด้านหน้า ยิ้มให้กระจก พอใจตัวเอง
"อืม"
จีน่าหยิบกระเป๋า เดินร่าเริงไปเปิดประตู แล้วตกใจ เจอสันต์ในอาการเมาขวางอยู่
"พี่สันต์!"
"ไงจ๊ะ เมียจ๋า แหม่....แต่งตัวซะสวยเชียวนะจ๊ะ จะออกไปทำงานแล้วหรอ"
จีน่ากล้าๆ กลัวๆ
"จ๊ะพี่สันต์ นี่ก็สายแล้วด้วย คือถ้าพี่ไม่มีอะไร ชั้นขอตัวไปทำงานก่อนนะ"
สันต์กางแขนกั้นไว้
"เดี๋ยวซี้ แหมรู้มั้ยช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทั้งงานทั้งเงินก็หาย๊าก ยาก ... เงินทองไม่ค่อยคล่องมือเล้ย.... ว่าแต่ว่า...เมียจ๋า เมียมีเงินให้ผัวซักพันสองพันมั้ยจ๊ะ"
"อะไรกันพี่สันต์ ชั้นไม่มีหรอก เมื่อวานชั้นเพิ่งให้พี่ไป วันนี้จะมาขออีกแล้ว" จีน่าว่า
"เมื่อวานก็เมื่อวานสิ นี่มันวันนี้แล้ว มันคนละวันนี่จ๊ะ"
"ชั้นไม่ใช่ธนาคารนะ จะได้มีเงินให้พี่ตลอด เดี๋ยวขอๆ ใครจะหาเงินทัน"
สันต์เริ่มโมโห เงื้อมือจะตบ
"แหมนังนี่ พูดดีๆ ไม่ฟัง หรือต้องให้ออกแรง"
"โอ้ยอย่า อย่านะ หน้าตาชั้นน่ะเครื่องมือทำมาหากินนะ เดี๋ยวเสียโฉมหมด"
"หน้ามึงอ่ะ กูไม่อยากยุ่งอยู่แล้ว ที่กูอยากได้น่ะคือ เงิน ไหนหล่ะ"
สันต์แบมือ จีน่าจำใจควักเงินให้ สันต์ได้เงิน แล้วจูบเงินอย่างเทิดทูน
"ก็เท่านี้แหล่ะ... หึหึ ...ขอบใจนะจ๊ะเมียจ๋า"
สันต์หมุนตัวเดินไป
"แล้วนั่นพี่จะไปไหนหล่ะ เพิ่งมาไม่ใช่หรอ"
"กูไม่ใช่ลูกมึงนะ ถามอยู่ได้ น่ารำคาญ"
สันต์เดินยิ้มๆ สบายอารมณ์จากไป จีน่ามองตามถอนหายใจ
เย็นต่อเนื่องมา บนเตียงของมะลิ เห็นเศษเหรียญบาท สลึงกลิ้งลงมาจากกระเป๋าเงิน มะลิวัลย์ทั้งเท เขย่า แคะ แงะ กระเป๋าเงินตัวเอง บนเตียงมีเศษแบงค์ยี่สิบ แบงค์ห้าสิบ และเหรียญ 5 เหรียญ 10 กระจายกันอยู่
มะลิวัลย์ถอนหายใจ
"เงินเดือนก็ใช้เดือนชนเดือน ไม่มีเหลืออะไรเลย เฮ้อ ... ชีวิตมนุษย์เงินเดือน ตกงานทีก็หมด จบกัน"
มะลิวัลย์นอนหงายหลังไปบนเตียง ท้องร้องจ๊อก!! ดังลั่น
"ไอ้ท้องบ้า ร้องอยู่ได้"
มะลิวัลย์มองไปที่ถุงอาหารที่ป๊อปคอนซื้อมา แล้วเด้งตัวลุกขึ้นกระโจนไปหาถุงอาหาร เปิดดูแล้วร้องไห้น้ำตาซึม
"ป๊อปคอน ชั้นฝากความหวังไว้ที่แกนะ หางานให้ชั้นด้วยเถอะ เพี้ยงๆๆ"
ภายใน ห้องแต่งตัว ที่ฟรีดอมบาร์ ป๊อปคอนกำลังแต่งหน้าให้อัยโกะ แล้วจู่ๆ ก็สะอึก
"อุ๊บ อึ๊ก .... อึ๊ก ..... อึ๊ก"
อัยโกะถาม
"อ้าว พี่เป็นไรอ่ะ"
เดือนเพ็ญหัวเราะบอก
"สงสัยมีหนุ่มๆ บ่นถึง"
"อึ๊ก .... อึ๊ก ..... อึ๊ก" ป๊อปคอนสะอึกถี่มาก จนเหนื่อย
"เอ้า ดูสิ สะอึกไม่หยุดเลย"
"อึ๊ก .... อึ๊ก ..... อึ๊ก"
"แล้ววันนี้ชั้นจะแต่งหน้าเสร็จมั้ยเนี่ย เอ้า น้ำพี่ กินซะ" อัยโกะส่งน้ำให้
"อึ๊ก .... อึ๊ก ..... อึ๊ก" ป๊อปคอนรับน้ำมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
"หยุดยัง"
ป๊อปคอนนิ่งคิด แต่แล้วก็ "อึ๊ก .... อึ๊ก" อีกจนได้
เดือนเพ็ญส่งให้อีกแก้
"เอ้าพี่ กินเข้าไป"
"อึ๊ก อึ๊ก" ป๊อปคอนรับน้ำมาดื่มอีกแก้ว อิ่มมาก "โฮย เหนื่อย"
"ต๊ายย ดูพุงสิ" เดือนเพ็ญบอก
ป๊อปคอนตกใจ
"ไหนพุง"
"พุงพี่ไง โอ้...ยื่นมาก"
"นังลิง 2 ตัวนี่ บังอาจมาว่าชั้น ชั้นมีพุงที่ไหนยะ พวกนี้เค้าเรียกว่าโหงวเฮ้ง เสริมบารมี มีไว้
แล้วรวยๆๆๆ จำไว้"
"โห เป็นชุด ว่าแต่หายสะอึกแล้วเหรอ"
ป๊อปคอนนึกได้
"เออ ว่ะ หายแล้ว เย้ๆๆๆ"
อัยโกะกับเดือนเพ็ญกระโดดดีใจไปด้วย "เย้ๆๆ"
จีน่าโผล่หน้าเข้ามา
"ทำไรกันยะ หนวกหู เสียงดังออกไปถึงข้างนอกโน่น"
"ขอโทษคะพี่จีน่า" อัยโกะบอก
จีน่ามองจิกมาที่ป๊อปคอน
"มาสุมหัวอยู่กับกะเทยก้นครัวนี่เอง ระวังให้ดี อีกหน่อยก็ตกอับแบบนังข้าวโพดคั่วค้างปีนี่หรอก" จีน่าหัวเราะเยาะ
"แกว่าใครนังจีน่า พูดให้มันดีๆ นะยะ"
จีน่าลอยหน้าตอบ
"ไม่ได้ว่าใคร แต่ถ้าใครแถวนี้มันอยากจะรับก็เอาไปเลย ชั้นยกให้"
"ห้องนี้มันห้องของชั้น ห้องเธออยู่ทางไหน ช่วยไปทางนั้น ไปให้ไกลๆ หน่อยนะยะ"
จีน่าหัวเราะเสียงแหลม)
"ชั้นเองก็ไม่ได้อยากเข้ามาใกล้ห้องนี้หรอก ไม่อยากให้เสนียดมันติดตัว ติดแล้วมันจะทำให้ตกต่ำเหมือนเจ้าของห้อง เชอะ" จีน่าเดินเชิดจากไป
ป๊อปคอนโมโหมาก แต่ทำอะไรไมได้
"หนอย นังจีน่า" แล้วนางก็ขว้างแปรงปัดแก้ม
"เจ๊ ใจเย็นๆ อย่าไปฟังเค้าสิคะ" เดือนเพ็ญบอก
"ใครจะว่าไง เราไม่ฟังหรอกค่ะพี่ป๊อปคอน สำหรับเรา พี่เป็นช่างแต่งหน้าที่เก่งที่สุดนะคะ"
ป๊อปคอนค้อนไปทางจีน่า
"เจ็บใจนัก โดนมันว่าทุกวัน ชั้นไม่เข้าใจเลย ว่าชั้นไปทำอะไรให้มัน"
อัยโกะเดินไปหยิบแปรงที่พื้นส่งให้
"แต่งหน้าต่อนะคะพี่"
บรรยากาศ ฟรีดอม บาร์คาบาเร่โชว์ ยามดึกต่อเนื่อง แขกทยอยเดินเข้ามาเต็มร้าน เจ๊ริชชี่เดินนวยนวดต้อนรับ ทักทายแขก
"สวัสดีค่ะเสี่ย วันนี้มาแต่หัววันเลยนะคะ"
เสี่ยยิ้มตอบ
"ไม่ได้สิ อาริกชี่ ... ไม่มาได้ไง เด็กของลื้อดีๆ ทุกคน แหม่ เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นหนุ่มๆ เอ๊าะๆ ใหม่"
"ฮู๊ย ใครว่าตอนนี้เสี่ยแก่ล่ะคะ ไม่มี้ ... ออกจะหนุ่มฟ้อ"
เสี่ยหัวเราะชอบใจ
"อาริกชี่ ลื้อปากหวานหยั่งงี้มิน่า เด็กๆ ของลื้องี้หวานหยดย้อยทุกคน"
"หวานกับเสี่ยคนเดียวเองค่ะ เอ้า น้องน้ำหวาน ... พาเสี่ยไปนั่งสิจ๊ะ"
น้ำหวานเดินมาคล้องแขนเสี่ยทันที
"ทางนี้ค่ะเสี่ย"
"ฮ่อๆๆ" เสี่ยเดินจากไป
เจ๊ริชชี่ยิ้มพอใจ หันไปเจอเอ็ดดี้
"อุ้ยๆๆๆ คุณน้อง หายไปตั้งนาน ไม่มาให้เจ๊เห็นหน้าเลย แบบนี้เจ๊น้อยใจนะ"
"ก็คืนนี้ผมมาแล้วไงครับเจ๊ ไม่งอนนะครับ"
"ก็ได้ อ่ะเชิญๆ ค่ะ วันนี้มีโชว์พิเศษด้วย สำหรับคุณน้องเลยนะคะน้องแนน มาเร็วๆ พาคุณเอ็ดดี้ไปนั่งเร็ว"
"สวัสดีค่ะพี่ ทางนี้เลยค่ะ"
เอ็ดดี้เดินไป เจ๊ริชชี่ต้อนรับแขกคนอื่นๆ กองทัพกับลีลา หลบอยู่หลังม่าน นินทาเจ้ริชชี่ ขำๆ
"นี่แก ดูเจ๊เราสิ เจอหนุ่มๆ ไม่ได้ หน้าระรื่นมาก" กองทัพบอก
"ตอนกลางวันน่ะทำไม่มีแรง พอตกกลางคืนน่ะคึกคักไม่รู้เอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน" ลีลาว่า
"ได้เวลาออกหากินก็เงี้ย"
รันรัน กับดอลลี่แอบฟังทั้งคู่นินทาเจ๊ริชชี่
รันรันบอก
"คนเราน๊า ไม่รู้บุญคุณคน วันๆ เอาแต่เม้าท์เจ้านาย"
"นั่นนะซี้ ทำงานอยู่กับเค้าทุกวัน ยังจะนินทาเค้าอีก" ดอลลี่ว่า
"แกว่าใคร" กองทัพถาม
"ก็ใครหล่ะ นินทาเจ๊น่ะ ได้ยินอยู่กับหูเมื่อกี้" ดอลลี่บอก
"รักหลอกจึงหยอกเล่นย่ะ ไม่เหมือนพวกแกหรอก ชอบด่าเจ๊เสียๆ หายๆ" ลีลาว่า
"ใคร .. ไม่มี๊ พวกเราไม่เคยด่าเจ๊ มีแต่ชื่นชม อย่ามาว่ากันนะยะ" รันรันว่า
"ทีงี้ร้อนตัว ชั้นไม่ได้ว่าพวกแกซักคำ เชอะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเพชร ใครกรวด ใครโกหก ใครตอแหล" กองทัพบอก
"พูดงี้ จะหาเรื่องกันใช่มั้ย"
"เอาเลยมั้ยนังดอล"
"นี่! ชั้นชื่อดอลลี่ เรียกให้มันเต็มๆ"
"เออๆ ดอลลี่ เรียกสั้นๆ ก็ไม่ได้ ลุยแม่งเลยมั้ยแก"
"เอาซี้ ถ้าคิดว่าจะล้มกะเทยยักษ์แบบชั้นได้ดาหน้าเข้ามาเลย กูพร้อมเสมอ" กองทัพบอก
"ไม่ต้องกลัวกองทัพ เดี๋ยวชั้นช่วยอีกแรง ไม่ได้ออกแรงมานาน วันนี้ฤกษ์ดี ยืดเส้นยืดสายซะ
หน่อย"
ดอลลี่กับรันรันเห็นกองทัพกับลีลาเอาจริง ก็กลัว
"พวกหมาหมู่ ชอบรังแกกะเทยบอบบาง" รันรันบอก
"นี่ติดที่ชั้นมีงานต้องทำนะ ฝากไว้ก่อนเหอะนังกะเทยยักษ์วัดแจ้ง"
ดอลลี่กับรันรัน ทำทีสู้ แต่เดินถอยหลัง หลบหายไป
"ก็ได้แค่เนี่ยหล่ะว่ะ ไอ้พวกป๊อด ไอ้พวกขี้ขลาด ได้แต่เห่าไปวันๆ"
"ปล่อยมันไป ลับมีดรอพวกมันเลยดีกว่า งานหน้าจะได้ไม่พลาดมีตบกะเทยปากเปราะแน่ๆ" ลีลาบอก
"อุ๊ยตาย มัวแต่เม้าท์มอย ไปแต่งตัวกันต่อเถอะแก เดี๋ยวหน้าชั้นไม่เริ่ด ... ใกล้ถึงเวลาแล้ว"
(อ่านต่อหน้า 2)
นางโชว์ ตอนที่ 1 (ต่อ)
ฝ่ายมะลิวัลย์นั่งชันเข่า อยู่ในห้องมืดๆ โทรทัศน์เปิดทิ้งไว้ เสียงมือถือดังขึ้น
"ป๊อปคอน .. เป็นไงป๊อปคอน มีข่าวดีใช่มั้ย นี่แกหางานให้ชั้นได้แล้วใช่มั้ย"
ป๊อปคอนนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่ห้องแต่งตัวในบาร์ คุยโทรศัพท์บอก
"งานอะไรหล่ะ งานเข้าชั้นน่ะสิ ไม่ใช่งานเธอหรอก"
ทั้งคู่ต่างคุยกันไปมา
"อ้าว เรื่องอะไรอีกล่ะ เรื่องผู้ชายใช่มะ" มะลิวัลย์ถาม
"ไม่ใช่ย่ะ ถ้าเป็นเรื่องผู้ชาย ชั้นไม่มู้ดดี้แบบนี้หรอก ขอบอก"
"แล้วเรื่องอะไรล่ะ มีเรื่องอะไรที่มันร้ายแรงกว่าการตกงานของชั้นมั่ง"
"มี!! เรื่องคนที่ทำงานชั้นนี่แหล่ะ หนอยๆๆๆ มันหาว่าชั้นเป็นนางก้นครัว มันว่าไม่พอมันยังดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของช่างแต่งหน้าทำผมมือวางอันดับ 1 อีก"
"นี่เพื่อนรัก อย่าได้ไปใส่ใจ ชั้นรู้ว่าป๊อปคอนน่ะเก่งที่สุด ไอ้คนที่เค้ามาว่า มันปากมาก เพราะเค้าอิจฉาเธอนั่นล่ะ"
"แต่มันสวยกว่าจริงๆ นังคนนี้เป็นดาวประจำฟรีดอมบาร์เลย"
"สวยแล้วนิสัยไม่ดี แบบนี้จะมีคนเอาเหรอ"
"มีนะ มันมีผัวแล้วด้วย ได้ข่าวว่าหล่อลากไส้เลย"
"เค้าอาจจะมีปม ไม่มีความสุข อย่างที่เค้า Present ออกมาก็ได้ คนแต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันนะป๊อปคอน แกอย่าไปใส่ใจคนปากไม่มีหูรูด พวกที่วันๆ เอาแต่จิกด่าคนอื่น เพื่อลบปมตัวเองเลยนะ"
"เออ คิดแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย จริงๆ นะ ชั้นจะต้องหาความลับดำมืดของนังจีน่ามันให้ได้ คนเรามันต้องมีจุดอ่อนสิใช่มะ"
"แกจะทำงั้นเหรอ ชั้นเตือนไว้ก่อนนะ ถ้ามันเป็นขี้ แกอย่าเอาไม้สั้นไปแหย่มัน เดี๋ยวมันจะเหม็นมาที่ตัวแกด้วย จำเอาไว้"
"เออๆๆๆ สาธุ เมื่อไหร่แกไปบวช ชั้นจะไปเป็นโยมอุปัฏฐากนะยะ จะคอยปรนนิบัติพัดวีให้ย่ะ สาธุ!"
ป๊อปคอนวางมือถือ แล้วคิดวางแผน
"จริงสิ นังจีน่ามันต้องมีจุดอ่อนมั่งล่ะ คอยดูนะ นังปากตะไกร ชั้นจะหาปมด้อย ปมเด่น ปมประหลาดของแกให้เจอให้ได้ซักวัน ... ใครมันจะเลิศเลอเพอร์เฟกไปซะทุกอย่าง ไม่มีทาง แกต้องเสร็จชั้นแน่ นังจีน่า!!"
จีน่านั่งแต่งหน้าตัวเองอยู่ในห้องแต่งตัว มองมือถือไปด้วย
"ได้เงินแล้วไปมุดหัวอยู่ไหนนะ "
เธอหยิบมือถือมาโทร.
ภายในร้านคาราโอเกะ สันต์ที่นั่งคลอเคลียสาวคาราโอเกะมีความสุข ป๋องกำลังเลือกเพลงไปแซวสันต์ไป
"เฮ่ย เนียนเลยนะมึง สาวประกบสองข้างเลย แบ่งๆ มาทางกูมั่ง" ป๋องบอก
"ช่วยไม่ได้ เรื่องแบบนี้ต้องถามความสมัครใจสาวๆ เค้าเอง ว่าอยากอยู่กับใคร" สันต์บอก
"อยู่กับพี่สันต์ค่ะ" ชมพู่บอก
ญาญ่าบอก
"แน่นอน หนูต้องเลือกคนหล่ออยู่แล้ว"
"หล่อแต่ตังค์ไม่มี กับหน้าตาน่าค้นหาแบบพี่แถมมีตังค์ เอาใครจ๊ะ" ป๋องว่า
ชมพู่ - ญาญ่าขานรับพร้อมกัน
"เอาคนหล่อค่ะ"
"เออๆ กูไม่หล่อๆ กูผิดเอง" ป๋องว่า
ชมพู่ กับ ญาญ่า หัวเราะคิกคัก
มือถือสันต์ดัง สองสาวมองหน้ากันแล้วมองหน้าสันต์
"พี่จ๋า ไม่รับโทรศัพท์เหรอพี่"
สันต์มองเหยียดๆ
"น่ารำคาญ โทร.มาทำไมวะ" สันต์หยิบมือถือมาดู แล้วโยนทิ้ง
สองสาวหัวเราะชอบใจ
"แมนมากเลยอ่ะ" ญาญ่าบอก
"สุดยอดเลยพี่จ๋า"
ป๋องมองส่ายหน้า พูดคนเดียว
"เกิดเป็นเมียไอ้สันต์ต้องอดทน หึหึ ทนมือทนตีน"
จากนั้นป๋องก็ก้มหน้าหาเพลงคาราโอเกะต่อไป
รถหรูของเจ๊กิมลั้งแล่นผ่านบริเวณหน้าบาร์ฟรีดอม โดยมีทองหยิบ และ ทองหยอด นั่งมาด้วย
"โอ้โหคนเยอะจังเลยทองหยอดดูดิ" ทองหยิบบอก
"ใช่ๆ เยอะแบบนี้ทุกคืนล่ะ ทองหยอดเห็น น่าสนุกเนอะ"
"นั่นสิ คงมีอะไรแปลกๆ เนอะ"
"แปลกแบบไหนอ่ะ"
ทองหยิบเพ้อๆ
"ก็ แบบที่ ... สาวสวยแบบเราไม่เคยเจอน่ะสิ ... อยากรู้จังว่าในนั้น ซุกซ่อนอะไรอยู่"
"อ่ะแฮ่มๆ จะไปพูดถึงมันทำไม ม๊าบอกว่างาย"
"อุ๊ยม๊า ทองหยิบขอโทษ ลืมตัวอ่ะ"
"ไอ้ลูกไม่รักดี สอนไม่รู้จักจำ"
"ก็ทองหยิบน่ะซิ ชวนทองหยอดดู ไม่งั้นหางตาทองหยอดก็ไม่มองหรอกม๊า"
"อ้าวโยนกันเห็นๆ เมื่อกี้ใครยะ ยังตื่นเต้น อยากรู้อยากเห็นอยู่เลย"
"เอ๊าถ้าทองหยิบไม่สะกิด ทองหยอดก็ไม่เห็นหรอก"
"หรา นังตอแหล โกหกหน้าด้านๆ"
"เอ๊ามาว่ากันแบบงี้ได้ไง ทองหยิบนั่นแระตัวดี ตางี้สอดส่ายตลอด"
"ทองหยอดนั่นแระ"
"ทองหยิบนั่นแระ"
เจ๊กิมลั้งบอก
"โอ้ย...ยู๊ด...ทั้งคู่นั่นแระ เสียงงี้แสบเข้าไปในรูหู เดี๋ยวกลับถึงบ้านมีเคลียร์"
ทองหยิบ ทองหยอด ผลักกันไปมา แต่ตัวกิมลั้งเองก็อดมองฟรีดอมบาร์ไม่ได้ ก่อนจะเชิด ขับรถผ่านไป
"เวรกรรมอะไรไม่รู้ต้องมีบ้านอยู่ใกล้ร้านมัน"
บริเวณระเบียงบ้านเจ๊กิมลั้ง ตอนกลางคืนต่อเนื่อง ตี๋เล็ก กำลังส่องกล้องดูร้านฟรีดอมบาร์ แสงดาวเขย่งอยากดูบ้าง
"พี่ตี๋เล็ก ขอธารดูบ้างสิ"
ตี๋เล็กลดกล้องลง สงสัย
"คนเยอะจัง เค้ามาทำอะไรกันนะ"
แสงดาวแย่งกล้องมาได้
"โอ้โห คนเยอะแบบนี้ ต้องมีอะไรเด็ดๆ แน่ๆ เลย"
"แก่แดดจริงนะเรา สอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น"
"พี่ตี๋เล็กก็เหมือนกันแหละ ถึงขนาดลงทุนซื้อกล้องมาตั้งแพง ว่าแต่เค้า"
"พี่เป็นผู้ชายก็อยากรู้เรื่องรอบๆ ตัวบ้าง ไม่เห็นแปลก"
"ขออ้างน่ะซิ ที่แท้ก็อยากดูสาวๆ บาร์โน้น ไม่รู้ไปติดใจใครอะไรรึเปล่า"
"จะบ้าหรอ ใครเค้าจะไปติดใจอะไรพวกนั้น อย่าเอ็ดไปนะเรา นี่ถ้าม๊ารู้เข้า ไม่ซวยกันไปหมดหรอ เอามานี่!" ตี๋เล็กแย่งกล้องคืน
"ชิร ถ้าไม่อยากให้อี๊รู้ ต้องให้ธารมาดูด้วยบ่อยๆ"
ตี๋เล็กลดกล้องลง
"มีข้อแม้ตลอดนะเรา โตขึ้นจะเจ้าเล่ห์ขนาดไหนเนี่ยหา"
"ก็ติดมาจากคนแถวเนี่ยแหละ แต่ธารสงสัยจริงๆ ในบาร์มีอะไร ทำไมคนมาเที่ยวกันเยอะทุกคืนเลย"
"สักวันพี่จะต้องไปดูให้ได้"
"แหน่ะๆๆๆ ผู้ชายอะไรกัน อยากเข้าบาร์แบบนั้น"
"พูดอะไรน่ะเรา ก็ผู้ชายแบบนี้แหละ จะทำไม"
"จะบอกอี๊"
"ไม่ได้นะ อย่าบอกเชียว"
"ถ้าไม่ให้บอก พี่ตี๋เล็กต้องพาธารไปด้วย" แสงดาวแล้วแย่งกล้องมาส่องดูแล้วว่า "แย่แล้ว!"
"แย่อะไร"
"อี๊มา!"
ตี๋เล็กกับแสงดาวเก็บหลักฐาน วงแตกกระเจิง
เสียงแตรรถกิมลั้งดังลั่น แสงดาวตาลีตาเหลือกวิ่งลงบันไดมาเกือบกลิ้งตก รีบมาเปิดประตู ท่ามกลางเสียงแตรกดกระหน่ำ
ในรถ เจ๊กิมลั้งกดแตรรถรัวถี่ อารมณ์เสีย เคืองเจ้ริชชี่ เพราะคิดเรื่องอดีต
"ม๊าสอนแล้วกี่ครั้งฮ้า อาทองหยิบ อาทองหยอด ว่าไอ้พวกบาร์นั้นมันไม่ดีซักคน ป๊าของพวกลื้อตายยังไง พวกลื้อลืมกันหมดแล้วใช่มั้ยห๊า"
เจ๊กิมลั้งกดแตร รัว ทองหยิบทองหยอดอุดหูกันใหญ่
แสงดาววิ่งมาเปิดประตู
"มาแล้วจ้า มาแล้ว"
รถเจ๊กิมลั้งแล่นเข้ามาอย่างเร็ว แสงดาวหลบเกือบไม่ทัน
"โห มาหยั่งกะพายุบุแคม มีเรื่องแน่ๆ เลย แบบนี้ " แสงดาวรีบปิดประตู
เจ๊กิมลั้งลงจากรถสะบัดก้นเดินฉับๆจากโรงรถก้าวเข้ามาในบ้าน แสงดาวที่ถลาวิ่งเข้ามาถึงกับ งง มองตาม หันไปมองทองหยิบทองหยอด
"อี๊เค้าอารมณ์เสียเรื่องไรอ่ะ"
"ถามชั้น ชั้นจะไปถามใครหล่ะยะ"
"เอ๊าก็เห็นนั่งรถมาด้วยกัน" แสงดาวว่า
"นั่งรถคันเดียวกัน แต่คนละคนกันนะ" ทองหยิบบอก
"อยากรู้ก็ไปถามเองสิ เข้าบ้านกันเถอะทองหยิบ"
"อ่อมีของในรถน่ะ ธารช่วยหยิบให้ด้วยนะ" ทองหยิบบอก
"อ้าวทำไมไม่หยิบเองหล่ะคะ เอาแต่สั่งคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวก็เป็นง่อยหรอก"
"อุ้ยธารเค้าว่าทองหยิบอ่ะ"
"เค้าก็ว่าตัวเองด้วยแหละ"
ทองหยิบสะบัดหน้าเดินไปหยิบของในรถ
"ใจดำ ช่วยนิดช่วยหน่อยก็ไม่ได้"
"ก็หัดทำอะไรเองซะบ้างซิคะ ถือเป็นการออกกำลังเล็กๆ น้อยๆ"
"เออๆๆๆ พอกันที เข้าบ้านเถอะทองหยิบ ทองหยอดเมื่อยจะตายแล้ว"
ทองหยอดลากแขนทองหยิบ หยอดหยิบเชิดหน้าใส่แสงดาวเพราะไม่ชอบที่สวยกว่า แสงดาวเกาหัวงง พูดขำๆ
"ก็หวังดีอ่ะ ไม่หัดทำอะไรเดี๋ยวก็ง่อยเปลี้ยเสียขา"
ร้านรถเข็นข้าวหมูแดง เฮียฮงกำลังทำข้าวหมูแดง นกน้อยยืนจัดทรงผมข้างๆ
"อ่ะอาหมวย เอาไปเสิร์ฟซิ"
"โต๊ะไหนอ่ะเตี่ย" นกน้อยถาม
"โต๊ะริมโน้นอ่ะ"
"โต๊ะริมหรอ"
ช1 กับ ช2 นั่งยิ้มอยู่ นกน้อยทำหน้าเบื่อ เดินมาเสิร์ฟ
กันบอก
"ขอบใจนะจ๊ะน้องนกน้อยคนสวย ข้าวหมูแดงจานนี้ต้องอร่อยเป็นพิเศษแน่ๆ เลย"
ช1บอก
"งั้นลูกพี่ต้องเบิ้ลอีกจานเลยนะ น้องนกน้อยจะได้มาเสริฟลูกพี่อีกไง"
"จริงหรอวะ งั้นน้องนกน้อยจ๊ะ พี่ขอห่อกลับอีก 5 ถุงเลยนะจ๊ะ"
"ได้ซิจ๊ะพี่ เอาทั้งหมดเลยมั้ยหล่ะ ชั้นจะได้เทน้ำหมูแดงใส่หน้าซะเดี๋ยวนี้เลย!"
"อร้าย ให้พี่หมดทั้งหม้อเลยเหรอจ๊ะ ชอบนะไม่ใช่ว่าไม่ชอบ"
"เอามะล่ะ เดี๋ยวจะได้ยกมาเทให้เดี๋ยวนี้ล่ะ"
"อุ๊ย... แหม ตอนโกรธก็ยังสวย แบบนี้พี่กันปลื้ม"
"วอนซะแล้ว"
นกน้อยเดินไปหยิบหม้อน้ำหมูแดง
"อาหมวย!! ลื้อจะเอาไปไหน" เฮียฮงถาม
นกน้อยโกรธมาก
"ก็ไอ้โต๊ะนั้นมันอยากกินทั้งหม้อ หนูก็จะไปเทใส่หน้ามันไง"
"เฮ่ย ลื้อก็นะ ใจเย็นๆ ไอ้พวกนั้นมันก็ปากเปราะไปงั้นล่ะ"
"สรุปว่าหนูต้องทน ไอ้พวกชีกอ ใช่มะ"
นกน้อยถอนหายใจ หันไปเจอรถหรูของทองแท่งมาจอด
"อ๊า ..... นั่นพี่ทองแท่งนี่นา .... พี่ทองแท่ง"
นกน้อยวิ่งไปหา
"อ้าว... วิ่งไปโน้นแล้วลูกพี่"
"ไอ้หน้าตี๋นี่เอง ก็แค่มีรถแพงๆ หน้าตาดูไม่ได้ กูหล่อกว่าตั้งเยอะ ทำไมน้องนกน้อยต้องไปกรี๊ดมันด้วย"
ช1บอก
"จริงด้วย ดั้งแม่งก็หัก สิวแม่งก็ขรุขระไปทั้งหน้า หาทางเรียบไม่ได้ ริจะจีบน้องนกน้อย ไม่เจียมกะลาหัวเล้ย"
กันลูบหน้าตัวเอง เพราะตัวเองดั้งหัก สิวเขระ แบบที่ ช1 พูดทุกอย่าง
นกน้อยวิ่งไปยืนบิด ทองแท่งลงจากรถ ยิ้มหวานให้ เฮียฮงเดินมา
เฮียฮงเขกกะโหลกลูกสาว
"อาหมวย เป็นบ้าอะไร ยืนบิดอยู่ได้"
นกน้อยได้สติ
"เชิญค่ะเชิญ"
ทองแท่งเดินมานั่ง
"รับอะไรดีคะพี่ทองแท่ง"
"ขอข้าวหมูแดงหมูกรอบพิเศษครับ" ทองแท่งบอก
นกน้อยเดินลั้นลาไปหาเฮียฮง
"เตี่ย ... ข้าวหมูแดงหมูกรอบพิเศษ คนนี้หนูเลี้ยงเอง เตี่ยใส่พิเศษๆ มาเลย ขอแบบเต็มเหนี่ยว"
"เอางั้นหรอ ได้ๆ"
"เตี่ย จะว่าไรมั้ย ถ้าหนูจะบอกว่า คนนี้ล่ะลูกเขยเตี่ย เป็นไงผ่านมั้ย"
"ผ่านน่ะผ่าน แต่แกถามเค้ายังเหอะ ว่าแกน่ะผ่านเค้าป่าว"
"ของมันแน่อยู่แล้ว ดูสิ มากินข้าวหมูแดงร้านเราทุกวันเลย แบบเนี่ยชอบหนูแน่ๆ"
"มั่นใจนักนะแก"
"หนูมั่นใจจ๊ะเตี่ย ของแบบนี้มองตาก็รู้ อร้าย"
เฮียฮงส่ายหน้า
"มีลูกสาวกะเค้าอยู่คนก็บ้าๆ บอๆ ไม่รู้เหมือนใคร อ่ะเอาไปเสิร์ฟ จานนี้พิเศษ 100 นึง"
นกน้อยหยุดบิดทันที
"เฮ้ยเตี่ย ข้าวบ้าอะไร ตั้ง 100 นึง"
เฮียฮงหัวเราะเยาะใส่
"จะจีบผู้ชายต้องลงทุน ไม่งั้นไม่ได้แอ้มนะเว้ย ไปเลยไป"
นกน้อยงอน
"เตี่ยอ่า ไม่เชียร์ลูกเลย"
นกน้อยเดินมาเสิร์ฟ ถือโอกาสนั่งตรงข้างจ้องทองแท่งกินข้าวทองแท่งกินไปยิ้มไป นกน้อยมองตาไม่กระพริบ
ผ่านเวลามาเล็กน้อย แสงดาวเดินจ้ำๆ จะไปหานกน้อย แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นรถหรูของพี่ชายกำลังแล่นมา เธอเลยต้องแอบหลบทำเนียนไปกับต้นไม้ข้างทาง
"พี่ทองแท่ง"
แสงดาวรอจนไฟรถของพี่ทองแท่งเลยไป ก็ถอนใจแอบหันมาดู
"อูย เกือบไป"
แสงดาวรีบเดินจ้ำไปหานกน้อยต่อ
ภายในร้านหมูแดงของเฮียฮง กลางคืนต่อเนื่อง นกน้อยนั่งหน้าเคลิ้มฝัน แสงดาวนั่งหัวเราะอุดปาก ขำพี่นกน้อย
"นี่พี่นกน้อย หนูไม่นึกเลยนะ ว่าพี่ชายหนูจะเสน่ห์แรง"
"โอ้ยแรงมากเลยหล่ะ กระแทกเข้าตรงหัวใจพี่อย่างจังเลย คนบ้าไรไม่รู้ หล่อ รวย นิสัยดี สุภาพ โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งฟินเว่อร์"
"พี่ทองแท่งรู้จะเป็นไงนะ สามารถทำให้ผู้หญิงคนนึงฝันได้ขนาดนี้"
"เค้าก็ต้องดีใจสิ ยิ่งเป็นสาวในฝันแบบพี่ด้วย"
"ดูมั่นใจนะคะพี่"
"อ่ะแน่น๊อน"
"นี่หนูพึ่งรู้นะ ว่าพี่ทองแท่งเค้าต้องแวะร้านนี้ก่อนเข้าบ้านทุกคืน"
นกน้อยอาย
"คนเค้ารักกันชอบกันน่ะ ก็อยากเห็นหน้ากันทุกวัน มันเป็นเรื่องปกติมากๆ"
แสงดาวหัวเราะ
"โอเค เอาเป็นว่าหนูรับแซ่บไว้ก่อนนะ เออนี่!! พี่นกน้อย พี่รู้จักฟรีดอมบาร์ป่ะ"
นกน้อยขมวดคิ้ว เสียงเปลี่ยน
"รู้สิ ทำไมหรอ"
"เนี่ยคนเพียบเลย หนูอยากรู้จังว่าข้างในมีอะไร"
ทองแท่งขับรถมาตามถนนจะกลับบ้าน ซึ่งต้องผ่านร้านฟรีดอม บาร์ เขาเห็นป๊อปคอนที่กำลังเดินผ่านหน้าบาร์ และเบเบ๊ตะโกนเรียก
"พี่ป๊อปคอน จะไปไหนอ่ะ อู้งานเรอะ"
"จะบ้าเหรอยะ แต่งหน้าทำผมเสร็จไปหลายชุดแล้ว นี่ชั้นออกไปหาไรกินรองท้องมาย่ะ"
"อ้าวว นี่หนูอุตส่าห์ซื้อส้มตำมาเยอะแยะเลย ดูดิ" เบเบ๊ชูถุงส้มตำขนาดเขื่อง
ป๊อปคอนส่ายหัว
"เชิญเถอะย่ะ ชั้นไปเตรียมงานก่อน แกก็เหมือนกันรีบไปแต่งตัวได้แล้ว แขกมากันฮึ่มๆ แล้วเนี่ย"
แขกทยอยกันมาจนแน่นหน้าร้าน
ทองแท่งขับรถช้าๆ คอยแอบมองฟรีดอม บาร์ด้วยความสนใจ เห็นป๊อปคอนคุยกับเบเบ๊ ซักพักอัยโกะกับเดือนเพ็ญเดินมาสบทบ และพากันเดินเลี้ยวเข้าด้านข้างซอย ซึ่งเป็นทางเข้าประตูหลังร้าน
ทองแท่งส่ายหน้า
"มีแต่พวกกะเทย"
แขกมาฟรีดอม บาร์คึกคัก เยอะแยะไปหมด
"คนเรานี่ก็แปลกชอบดูอะไรแปลกๆ ชักอยากรู้แล้วซิ ว่าข้างในมันมีอะไรดี"
รถของทองแท่งแล่นตามไปทางเดียวกับพวกป๊อปคอนเดินไป
ทั้ง 3 คน เบเบ๊ , อัยโกะ และเดือนเพ็ญ ต่างก็เป็นกะเทยที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป อย่าง เบเบ๊ จะเป็นกะเทยในแนวฝรั่ง พูดไม่ชัด , อัยโกะ เป็นกะเทยแนวญี่ปุ่น โนเนะ พูดไม่ชัดเหมือนกัน คพว่า "คะ" ก็จะเป็น "ก๊ะ" มาก ก็จะเป็น "มั่ก" ส่วนเดือนเพ็ญนั้น เป็นกะเทยลาว ชอบทำเสียงแมน ! จนคนรอบข้างมักจะมีปฏิกิริยากับเสียงของเธอ
ในร้านหมูแดงของเฮียฮง โต๊ะอื่นยังคงกินข้าว แต่นกน้อยบอกแสงดาวว่า
"จะมีอาไร้ ก็มีแต่กะเทยกับพวกผู้ชายบ้ากะเทยน่ะสิ สถานที่แบบนี้มีแต่สิ่งไม่ดี สิ่งไม่จรรโลงโลกน๊า ไม่น่าเข้าไปหรอกธาร"
ภายในรถ ทองแท่งมองกระจกหลังเห็นพวกป๊อปคอนท่าทางสนุกสนานเข้าประตูหลังร้านไป
"มีแต่กะเทย นั่นคือกะเทย นี่ก็กะเทย กะเทย!! เฮ้อ ..."
แสงดาวบอกนกน้อยว่า
"งั้น หนูว่า...กะเทยที่นั่น ต้องมีอะไรดีๆ แน่ๆ ใช่มะพี่นกน้อย"
"โอย ที่นั่นแต่ละคน เค้าคัดๆ มาทั้งนั้น"
"พี่เคยเข้าไปหรอ"
"เคย"
"ฮ้า"
"เคยเอาข้าวไปส่ง"
"แป่ว แล้วได้เข้าข้างในมะพี่"
"ไม่เคยอ่ะ เค้าไม่ให้เข้าว่ะ ก็เห็นๆ อยู่กะเทยทั้งนั้น ไอ้แขกที่เข้าไปก็เป็นพวกลัทธิคลั่งกะเทยไง ถามทำไมหรอ"
"หนูอยากเข้าไปดู .. พี่นกน้อย ไว้วันหลังพาธารไปบ้างนะ"
"แกนี่ก็บ้า หญิงสวยเพอเฟกแบบเราๆ จะไปสุงสิงกับพวกกะเทยทำไม"
"หนูว่ามันต้องสนุกแน่เลย ซักวันนะหนูจะเข้าไปดูให้ได้ หนูอยากจะไปขอจับนมเค้าหน่อย"
"ฮ้า .... ไอ้เพี้ยน"
"แหม่ แค่อยากรู้ว่ามันจะเหมือนของพวกเรามั้ยอ่ะ"
"โอย อยากจะเป็นลม แกนี่ท่าจะบ้าใหญ่แล้ว"
ลูกค้าในร้านบอก "เฮียคิดตังค์ด้วย"
"นังนกน้อย ทำงานก่องเร็วๆ เข้า"
นกน้อยชี้หน้าแสงดาว
"นี่ ...เดี๋ยวมาต่อ อย่าพึ่งไปไหนนะ"
แสงดาวทำท่ามั่นใจ อยากเข้าไปในฟรีดอม บาร์มาก ด้านหลังทแสงดาวนกน้อยหันกลับมามองด้วยความเป็นห่วง
"อานกน้อย"
"จ้าๆ มาแล้วๆ"
บนเวที ม่านเปิด จีน่ากำลังโชว์อยู่ คนดูปรบมือ ทุกคนชื่นชมจีน่า
ห้องนอนของทองแท่ง ชั้น 2 บ้านเจ๊กิมลั้ง กลางคืนต่อเนื่องมา โคมไฟในห้องเปิดสว่าง เขานุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ หลังอาบน้ำเสร็จ หยดน้ำยังเกาะตัวท่อนบนอยู่เลย
แสงไฟกะพริบจาก ฟรีดอม บาร์ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ทองแท่งมองตาม แสงไฟสาดเข้าหน้ากระพริบเป็นจังหวะ
ทองแท่งเปิดหน้าต่างออกไป ได้ยินเสียงเพลงกระหึ่มเป็นจังหวะลอดเข้ามา เขาส่ายหน้า
"ดันมาตั้งอยู่ใกล้บ้านซะอีก ... โบราณว่าไงนะ เกลียดอะไรได้อย่างนั้น ใช่มะ หึหึ"
เสียงมือถือดังขึ้น ขณะที่เขากำลังใส่เสื้อผ้า
" ช่อลัดดา เฮ้อ.." ช่อลัดดาถอนหายใจ เบื่อ แล้วกดรับ "ครับผม"
ช่อลัดดา แต่งชุดสวยเว่อร์เต็มที่ตามสมัยนิยมกำลังคุยโทรศัพท์กับทองแท่ง
"คุณทองแท่ง โอว ดีใจจังเลยค่ะ ลัดดานึกว่าคุณจะนอนซะแล้ว"
"ผมกำลังจะเข้านอนพอดีครับ"
"แหมพูดแบบนี้แสดงว่าคุณทองแท่งอยากจะวางหรอคะ"
ทองแท่งยิ้มๆ
"ถ้าคุณช่อลัดดาไม่ว่านะครับ"
"คุณทองแท่งจะนอนก็เรื่องของคุณทองแท่งค่ะ แต่ลัดดายังไม่นอน"
ทองแท่งงงมาก"เออ ครับ!"
"พรุ่งนี้เราไปดูหนังกันนะคะ ลัดดาอยากดูเรื่องนี้มาก เพื่อนๆ ของลัดดาบอกว่า มีฉากพระเอกปฏิเสธนางเอก แต่นางเอกไม่แคร์ นางเอกตื้อจนเอาตัวพระเอกมาจนได้ ลัดดาอยากไปดูจะได้เป็น case study อ่ะค่ะ"
ทองแท่งตกใจ
"ห๊า .... เอ่อ ...เอ่อ....คือ พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง มีประชุมครับ คง..."
"ตกลงตามนี้นะคะ พรุ่งนี้เจอกัน กู๊ดไนท์ค่ะ"
ช่อลัดดายิ้มพอใจ แล้ววางสายไป
ทองแท่งมองมือถืองงๆ
" เฮ้ย!! เราไปตกลงตอนไหนวะ เฮ้อ ..."
ทองแท่งลุกไปมองทางระเบียงอีก เห็นป้ายไฟฟรีดอม บาร์กระพริบ ก็ยักไหล่
"ผู้หญิง กับ กะเทย ตกลงใครร้ายกว่ากันนะ!!"
ทุกคนดูจีน่าอยู่ เจ๊ริชี่ก็หันมาพูดกับทุกคน
"ฮ้า ..... เจ๊หล่ะภูมิใจจริงๆ จีน่าทั้งสวย ทั้งสง่า จีน่าคือผลผลิตที่งดงามที่สุด"
"แล้วหนูล่ะคะเจ๊ หนูน่ะผู้ชนะเลิศการประกวดครั้งที่ 1 นะคะ" กองทัพบอก
"โธ่ถัง มันนมนานกาเลมาแล้วนะจ๊ะ" ดอลลี่ว่า
"นังดอลลี่"
"อร้าย" ดอลลี่หลบแว๊บไปยืนหลังเจ๊ริชชี่
"อย่าๆ ทะเลาะกัน นังกองทัพ หล่อนน่ะมันหน้า 1 ในหน้าประวัติศาสตร์ของเจ๊อยู่แล้ว แต่จีน่านี่มันนางงามล่าสุดของเจ๊นี่จ๊ะ"
"หนูเห็นด้วยค่ะเจ๊ จีน่าแสดงทีไร ก็สวยงามน่าประทับใจจริงๆ" รันรันบอก
"จะว่าไปยัยจีน่ามันก็สวยจริงๆ นะเจ๊ สวยเหมือนผู้หญิงจริงๆ มันก็เลยกลายดาวประดับท้องฟ้า และเป็นความภูมิใจของพวกเราชาวหมู่มวลกะเทย"
"พวกเราต้องขอบคุณจีน่า ที่ทำให้ฟรีดอมบาร์ของเรายืนหยัดเคียงคู่กะเทยมาทุกยุคทุกสมัย" รันรันบอก
"ขนาดกะเทยหน้าใหม่แบบหนู ยังปลาบปลื้มจีน่า มอบตำแหน่งมายไอดอล พร้อมมงกุฎและสายสะพายให้เลยค่ะ" ดอลลี่บอก
"เจ๊ว่า ...... มันถึงเวลาแล้ว"
"ถึงเวลาอะไรหรอคะเจ๊ แหมน้ำเสียงเจ๊แบบนี้ ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ" กองทัพถาม
"มันถึงเวลาที่เราจะค้นหาดาวดวงใหม่น่ะสิ"
"หมายความว่า" รันรันว่า
"ถึงเวลาที่เราจะหาดาวดวงใหม่ มาประดับวงการนางโชว์กะเทยของประเทศไทย ... เราจะจัด การประกวดลิปซิ้งค์ Freedom Contest ประจำปี 2014 by เจ๊ริชชี่ ณ ฟรีดอมบาร์"
กลางคืนต่อเนื่องมา ภายในห้องแต่งตัว ป๊อปคอนแต่งหน้าให้เบเบ๊ ฝ่ายอัยโกะ เดือนเพ็ญ แต่งหน้าเสร็จแล้วกินส้มตำอยู่
"เรียบร้อย"
"สวยจริงๆ ฝีมือพี่ป๊อปคอนไม่มีตกเลยนะคะ" เบเบ๊บอก
"ก็แหงสิยะ อย่ามัวแต่ชม ไปเตรียมตัวโชว์ได้แล้ว"
"แต่เบเบ๊ยังอยากจัดการส้มตำต่ออีกนิด"
"จะบ้าหรอ ชั้นเพิ่งทาปากเสร็จ ลิปสติกชั้น ไม่ใช่น้ำยาอุทัยนะยะ"
"แหมพี่ก็ … นิดเดียวเอง"
"อย่ามาอ้อนชั้น ไม่สำเร็จหรอก ไปเตรียมตัว ไป๊ทุกคนเลย ไปเตรียมตัวหลังเวทีได้แล้ว"
เบเบ๊แกล้งงอนป๊อปคอนเดินไป อัยโกะกับเดือนเพ็ญรีบวิ่งตามออกไป พอทุกคนออกไปหมด ป๊อปคอนส่องกระจก ยิ้มให้ตัวเองและซักพักเปิดเพลง และเต้น คิดตัวเองเป็นนางโชว์
พวกจีน่าแก๊งแมวป่าค่อยๆ เปิดประตูแอบดู ทั้ง 3 คนขำป๊อปคอน
จีน่ากดเทปปิด ป๊อปคอนตกใจหยุดเต้น จีน่าแก๊งแมวป่าหัวเราะเยาะป๊อปคอน
"เป็นอะไรยะป้าป๊อปคอน พยาธิไชก้นรึไง อยู่ดีๆ ก็มาแหกแข้งแหกขาบ้าบอแบบนี้" รันรันว่า
"นี่พวกแกมากันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ก็มาทันตั้งแต่ป้าออกสเตปแรกหล่ะค่า" ดอลลี่บอก
"พวกแก!"
"อยากเป็นนางโชว์หรอป๊อปคอน อยากขึ้นเวที อยากแสดงต่อหน้าคนเยอะๆ หรอ คิดผิดคิดใหม่ได้นะยะ หน้ายังกับกะเทยผ่านสงคราม"
"ทำไม ชั้นอยากจะเป็นนางโชว์บ้าง แล้วจะทำไม นังพวกแก๊งแมวบ้า"
"ชั้นว่านะ แกไปฉีดโบทอก ร้อยไหมก่อนดีกว่า หรือถ้าจะให้ชัวร์ แกควรไปเกิดใหม่เลยยิ่งดี" จีน่าว่า
ป๊อปคอนตาแดงแต่ทำไรไม่ได้
รันรันเสริม
"เกิดใหม่มันง่ายไปนะจ๊ะจีน่า ชั้นว่าถ้าจะให้ดี ... ก่อนตาย แกควรไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เยอะๆ ชาติหน้าเกิดมาหน้าตาจะได้ไม่เหมือนหมาปวดอึ"
"มันจะมากไปแล้วนะ"
"อุ้ยตอนโกรธยิ่งเหมือนหมาท้องเสียมากๆ เลยคะ ใจเย็นๆ จะป้าเดี๋ยวหัวใจจะวาย ไม่ทันได้ทำบุญก่อนตาย"
"ออกไปเลยพวกแก ไม่มีอะไรทำก็ไปสวดมนต์ นั่งสมาธิซะ จิตใจจะได้สูงขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่มาเที่ยวเห่าหอนอยู่แถวนี้ ไป ยังอีก บอกให้ไปไงหล่ะ"
"ไปก็ได้ ก็ไม่ได้อยากอยู่นักหรอก ไม่เห็นมีอะไรเจริญหูเจริญตา เฮ้ยไปพวกเรา"
ดอลลี่หยิบจานส้มตำ
"อันนี้ขอนะคะป้า ป้าอย่ากินเลย น้ำลายเป็นพิษ!"
"ออกไป๊"
พวกจีน่าแก๊งแมวป่ายิ้มเยาะแล้วออกไป ป๊อปคอนลงนั่งหอบเพราะโกรธมาก
"ชั้นจะคอยดู วันที่พวกแกล่มจมฉิบหาย ซ้าธุ ....... ขอให้นางโชว์ปีนี้สวยเริ่ด กว่าจีน่าร้อยเท่าพันเท่า"
(อ่านต่อหน้า 3)
นางโชว์ ตอนที่ 1 (ต่อ)
มะลิวัลย์ฮัดเช้ยอยู่ในห้อง
"ใครนินทาเนี่ย โอ้ย" เธอจามอีก "อะไรกันเนี่ย อย่าบอกนะว่าป่วย ไม่มีเงินเสียค่าหมอนะ เฮ้อ... กลุ้มใจจัง ชีวิตของอีมะลิจะเป็นยังไงต่อเนี่ย ไม่รู้ป๊อปคอนจะหางานให้เราได้ป่าว"
แสงดาวแอบเปิดประตูกลับเข้าบ้านหลังจากไปคุยกับนกน้อย แสงดาวระวังตัวมากไม่อยากให้เกิดเสียงดัง แต่ปรากฏว่าประตูรั้วบ้านล็อก
"ตายโหง ใครล็อกวะ อ๊า .. จะเข้าไปบ้านไงอ่ะ"
แสงดาวถอยหลังออกนิดนึง มองไปรอบๆ เห็นกำแพงรั้วบ้านของกิมลั้งค่อนข้างสูง
"จะไหวมั้ยวะเรา"
แสงดาวมองที่ประตูรั้ว เข้าไปเขย่าเบาๆ
"รึจะปีนที่ประตู มันมีซี่ๆ ปีนได้มั้ยวะ"
แสงดาวทำท่าจะปีน แต่ประตูอัลลอยทำท่าโยก
"อ๊า. ... โยกอ่ะ ทำไงดีวะ" แสงดาวคิดหนัก
เล็กในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น กำลังกระโดดเชือก เหงื่อแตกซิก กระโดดไปซักพัก ก็เปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะเหมือนเต้นฟุตเวิร์ค
แสงดาวปีนรั้วโผล่ขึ้นมาแต่หัว ตี๋เล็กวิ่งๆ ไป เงยหน้าสูดอากาศเห็นหัวของแสงดาวพอดี
"เฮ่ย ขโมยรึเปล่าวะ"
แต่พอตี๋เล็กตั้งใจมองก็เห็นว่าเป็นหัวของแสงดาวก็หัวเราะ
"อ่อ แอบไปเที่ยวแล้วเข้าไปบ้านไม่ได้สินะ ไอ้ตัวแสบ เด๋วเหอะ เด๋วเจอดีแน่ หึหึ"
แสงดาวกระโดดลงมาจากรั้ว ตุบ!! ก้นจ้ำเบ้า
"โอ๊ย..." เธอรีบเอามืออุดปาก "อู๊ย อุย ... ก้นพังแล้ว" เธอค่อยๆ ลุกขึ้นยืน จับก้นบิดไปมา
"แบร่....." ตี๋เล็กใส่หน้ากากทำผีหลอก
แสงดาวตกใจมาก "เฮ้ย" !
"แบร่ๆๆ...ร่อแร่ ร่อแร่"
แสงดาวร้อง "ว้ายๆๆ ผีๆๆ"
ตี๋เล็กตกใจที่แสงดาวเสียงดัง ลากแสงดาวหลบไปหลังต้นไม้
ทองแท่งที่กำลังทำงานอยู่ชั้นล่าง ในห้องคอมพิวเตอร์ ได้ยินเสียง
"เฮ้ย ... เสียงใครวะ"
ทองแท่งนึกว่าขโมย รีบออกไปดู แล้วชะงัก หันไปคว้าไม้กอล์ฟออกไปด้วย
แสงดาวโดนอุดปาก ดิ้นรนขลุกขลัก จนกัดนิ้วมือของตี๋เล็กร้อง "โอ๊ย"
พอปากหลุดจากมือ แสงดาวก็หันกลับไปชกเต็มแรง "นี่แน่ะ"
ตี๋เล็กโดนชกเข้าที่ตาพอดี "เฮ้ย"
แสงดาวกระชากหน้ากากผี
"ไอ้ผีลามก แกตายซะ .. เฮ่ย อ้าว ... พี่ตี๋เล็ก"
"โหดเป็นบ้าเลย" ตี๋เล็กบอก
"ก็พี่เล่นอะไรแบบนี้อ่ะ"
"ก็ใครหนีไปเที่ยวมาล่ะ"
"อ๊า อย่าบอกใครนะ เค้าขอร้อง เค้าแค่ไปหาพี่นกน้อย"
"กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้พี่ว่าไม่ไหวแล้วนะ"
"พี่ตี๋เล็กก็เหมือนกัน ชอบมาออกกำลังตอนมืดๆ"
"หึหึ ว่าพี่เหรอ เรามีความผิดอยู่นะ"
"แหมๆ...ก็แค่คุย พี่ตี๋เล็กรู้มะพี่นกน้อยชอบพี่ทองแท่งล่ะ เค้าบอกว่าพี่ทองแท่งเพอร์เฟก"
ตี๋เล็กขำนกน้อย
"ทำไมผู้ชายอย่างพี่ทองแท่งเสน่ห์แรงจังนะ"
"ใครจะไปเหมือนพี่ตี๋เล็กล่ะ"
"ทำไม พี่เป็นไง ออกจะแมน รูปร่างดี มีกล้าม หล่อล่ำ"
"นั่นล่ะที่น่าสงสัย พวกดูแลสุขภาพรักสวยรักงาม สะอาดสะอ้านเกินไปแบบนี้"
"ทำไมอ่ะ ทำไมผู้หญิงชอบคิดอะไรแปลกๆ ไม่เข้าใจ ว่าแต่ว่าที่ชกพี่เนี่ย ใครจะรับผิดชอบ"
"ก็เค้านึกว่าผี"
"แล้วมาชกผีเนี่ยนะ"
"นั่นใครน่ะ!" ทองแท่งถาม
"เฮ่ย พี่ทองแท่งมา" ตี๋เล็กว่า
"อา เค้าตายแน่เลย"
"จ้างพี่ดิ ให้เท่าไหร่ล่ะ"
"เค้ากวาดห้อง ถูห้องให้นะ"
"ไม่เอา พี่ทำเองเรียบร้อยกว่า"
"ชั้นถามว่าใคร อยู่ตรงนั้น" เสียงทองแท่งยังคงดังถาม
แสงดาวยกมือไหว้
"เค้าขอร้อง"
ตี๋เล็กหัวเราะ
"พี่เรียกใช้เมื่อไหร่ ห้ามบิดพลิ้วนะ"
"ได้เลย สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง"
"คุณทองแท่งคะ"
ตี๋เล็กกับแสงดาว ตาโตมองหน้ากัน เสียงใคร !?
ช่อลัดดาออกอาการดีใจขนาดหนัก โบกมือเรียกทองแท่ง
"คุณทองแท่งคะ ทางนี้ค่ะ"
ทองแท่งตกใจ ช่อลัดดาโบกมือหยอยๆ อยู่นอกประตูรั้ว เขาอุทานเบาๆ
"มาได้ไงวะเมื่อกี๊พึ่งคุยโทรศัพท์เองไม่ใช่เหรอ"
ด้านหลังเยื้องไกลออกไป ตี๋เล็กและแสงดาวคลานกระดุ๊บกระดิ๊บมาแอบมอง
"พี่ทองแท่งตายแน่ๆ" แสงดาวว่า
"หึหึ เสน่ห์แรงเกินห้ามใจ"
"แต่แบบนี้ไม่ไหวนะพี่ตี๋เล็ก ผู้หญิงอะไร ตามผู้ชายมาถึงบ้าน ... ดูดิ๊ ท่าทางอายุมากกว่าพี่ทองแท่งด้วยอ่ะ"
"ต้องถามพี่ชายเรามากกว่า ว่าไปทำอีท่าไหนเข้า"
"แต่แบบนี้ธารรับไม่ได้ค่ะ ไม่ผ่านอย่างแรง"
ตี๋เล็กหัวเราะขำ
"เฮ่ย ใครเค้าถามความเห็นเรา"
"ไม่ต้องถามหนูหรอก ดูหน้าพี่ทองแท่งดิ"
ทองแท่งหน้าเซ็งมากๆ ค่อยเดินไปที่ประตู
ช่อลัดดายิ้มปลื้ม
"คุณทองแท่ง"
"คุณช่อลัดดา มีอะไรรึเปล่าฮะ"
"แหม ก็ลัดดาคิดถึง นี่ค่ะ ลัดดาซื้อขนมมาก"
"ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ"
"เปิดประตูให้ลัดดาสิคะ ของหนักจังเลย"
ทองแท่งลังเลว่าจะเปิดประตูให้ช่อลัดดาดีมั้ย
"เนี่ยดูสิคะ ว่าลัดดาซื้อขนมนมเนย ของฝากเยอะแยะ ให้ลัดดาเอาของเข้าบ้านไปกราบคุณแม่ของคุณทองแท่งนะคะ"
"เอาไว้พรุ่งนี้เถอะครับ ดึกป่านนี้แล้ว คุณแม่ผมท่านคงนอนไปแล้วล่ะฮะ"
"อ้าว แล้วขนมพวกนี้ล่ะคะ"
"ดึกแล้ว ผมไม่ทานแล้วฮะ เดี๋ยวอ้วน คุณช่อลัดดาหลับบ้านไปก่อนดีกว่า ดึกมากแล้ว คนอื่นเห็นคุณเข้าบ้านผมดึกๆ คุณจะเสียหายนะฮะ"
ด้านหลังทองแท่ง ตี๋เล็กกับแสงดาวโผล่มาแอบฟัง
"สงสัยต้องเข้าไปช่วยแล้ว"
"เฮ่ย เรื่องของผู้ใหญ่เค้า เด็กอย่าไปยุ่ง"
"ไม่ยุ่งไม่ได้ ไม่อยากได้พี่สะใภ้แบบนี้อ่ะ"
แสงดาวทำท่าจะเดินเข้าไปหาทองแท่ง
ภายในห้องนอน กิมลั้งนั่งตรวจบัญชีอยู่
"อืม .. รายได้ร้านทองเดือนนี้ไม่เลว ตั้งแต่ทองราคาขึ้นเนี่ย คนหันมาเก็งกำไรทองกันเยอะ ดีๆ หึหึ"
กิมลั้งลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เดินไปห้องน้ำ ชะงัก หันไปมองนอกหน้าต่าง จากชั้น 2 เห็นทองแท่ง แสงดาว ตี๋เล็ก กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน
"เอ้า ไอ้เด็กพวกนี้ทำไมไม่หลับไม่นอน ไปยืนมุงอะไรตรงนั้น"
กิมลั้งหยิบแว่นมาใส่แล้ว เพ่งดู... ช่อลัดดา ยังคงยืนอ้อล้อทองแท่ง กิมลั้งตาวาว
"หนอยแน่...นังผู้ดีไฮโซหน้าขาวคนนี้เอง"
กิมลั้งหมุนตัวกลับเดินฉับๆ ออกจากห้องทันที
กิมลั้งเปิดประตูห้องนอนออกมา อารมณ์ราวนางพญา ตะโกนเรียก
"ทองหยิบ ทองหยอด!"
ในห้องนอน ทองหยิบที่นอนหลับสนิท ตาตั้งขึ้น เด้งตัวขึ้นอัตโนมัติ ยังมาสก์หน้าอยู่
"ขา...ม๊า"
ในห้องนอน ทองหยอดที่นอนหลับสนิท เด้งตัวขึ้นนั่ง โรลม้วนผมเต็มหัว
"ม๊า!!"
บริเวณโถงบันได เจ๊กิมลั้ง ทองหยิบ ทองหยอด ท่าทางหาเรื่องกะออกศึกเต็มที่ ยืนตระหง่านที่หัวบันได
"นังไฮโซหน้าขาว มันมาตอแยพี่ชายของพวกลื้อรู้มั้ย"
ทองหยิบบอก
"หนูเห็นแล้วค่ะม๊าขา มันกล้าดียังไงมาเหยียบถึงถิ่นเรา"
"แบบนี้เอาไว้ไม่ได้นะม๊า" ทองหยอดว่า
"ถ้าปล่อยไว้ พี่ทองแท่ง ผู้เป็นอนาคตของตระกูลเราคงถึงคราวย่อยยับ"
"ราหูอม พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก"
"เราจะยอมไม่ได้นะคะ เราจะให้ตระกูลของเราพังป่นปี้ไม่ได้นะคะ..ม๊าขา..."
"จริงๆ ด้วย เอาไงดีคะม๊า"
กิมลั้งหน้าเคร่ง
"เราต้องจัดการขั้นเด็ดขาด"
ทองหยิบถาม "จัดการ!! ยังไงอ่ะ ม๊า"
กิมลั้งเอาพัดฟาดหัว
"ในหัวเรานี่มีอะไรมั่ง"
ทองหยอดหัวเราะ
"มีค่ะ มีขี้เลื่อยฮะ ฮะ"
"นังทองหยอด!"
กิมลั้งเอาพัดฟาดทองหยอดด้วย
"เราก็เหมือนกัน พอกันทั้งคู่"
ทองหยิบบอก "สมๆ"
"ไป ไป๊ ทั้งสองคนน่ะล่ะ"
ทองหยิบ / ทองหยอดถาม
"ไปไหนคะม๊า"
"ไปเชิญนังไฮโซมา"
ทองหยิบ/ทองหยอดหันหน้าสะบัดผมปลิวไปหากิมลั้ง
" อะไรนะคะม๊า!"
"ม๊าจะให้เราสองคนไปเชิญมันเข้ามาทำไมอ่ะ" ทองหยอดว่า
"รึม๊าเปลี่ยนใจ จะรับมันเป็นสะใภ้" ทองหยิบบอก
"ไม่ๆๆ เป็นไปไม่ได้"
"นั่นสิม๊า หูเราสองคนฝาดไปป่าว"
"ไม่ฝาดหรอก ไปเชิญมันเข้ามา"
ทองหยิบทรุดตัวลงนั่งกอดราวบันได
"อา ... ตระกูลเรา จะถึงคราวแตกดับซะแล้วรึนี่"
กิมลั้งเอาพัดฟาดหัว
"พอๆ อย่ามาดราม่า ม๊าบอกให้ไปตามมันมา เชื่อมือม๊าเถอะ ..... ม๊าจะแสดงวิธีจำกัดส่วนเกินของจากชีวิตให้พวกลื้อดู"
ทองหยิบกระโดดตบมือดีใจมาก
"อู๊ยๆๆ เยี่ยมเลย....ช็อตนี้พลาดไม่ได้"
"ไปเร็วๆ ดิ ทองหยิบ เร็ว เร๊ว"
ทองหยิบ ทองหยอด กระดี้กระด้า จูงมือวิ่งลงกระไดไป กิมลั้ง หน้าโหดกระตุก
ช่อลัดดานั่งหน้าเชิดมั่นใจตัวเองมากอยู่ท่ามกลางทุกคนในห้องรับแขก ทุกคนมองช่อลัดดาด้วยความรู้สึกต่างๆ กัน
"ลื้อคิดยังไง มาหาผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ พ่อแม่ลื้อไม่ว่าหรอ"
ทองหยอดลอยหน้าใส่
"หน้าไม่อาย หน้าด้าน"
"อ๋อไม่หรอกค่า พ่อแม่ลดาไม่อยู่ค่ะ ไปฝรั่งเศสยังไม่กลับ"
"ไปฝรั่งเศส!"ทองหยิบโพล่ง
ช่อลัดดาหันไปยิ้มเชิดๆ
"ใช่จ้ะ พ่อแม่ของพี่ลดาไปยุโรปทุก 3 เดือน ต้องไปดูงานที่นั่นน่ะค่ะ"
"ยุโรปหรอ น่าไปอ่ะม๊า" ทองหยิบว่า
"ฝรั่งเศสนี่เค้าบอกเป็นเมืองแฟชั่น" ทองหยอดน้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไป ประจบ "มิน่าหล่ะพี่ลดาถึงแต่งตัวสวยแบบนี้"
ช่อลัดดาหัวเราะดัดจริต
"พี่ลดาไปบ่อยจนเบื่อแล้วหล่ะค่ะ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นสำหรับพี่แล้ว"
"อ้อ เรื่องตื่นเต้นใหม่ของหล่อน คือ การแล่นมาหาผู้ชายถึงบ้านกลางดึกแบบนี้ล่ะสิ!" กิมลั้งว่า
ช่อลัดดายังมั่นใจ
แหม... แต่ลดาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียดายนะคะ แค่ลดาอยากเอาขนมมาฝากม๊า!"
"ใครม๊าหล่อนยะ"
ช่อลัดดาจ๋อย ทำตัวไม่ถูก
"เอ่อคือ ...."
"เอ่อม๊าครับ คืนนี้ก็ดึกแล้ว พอแค่นี้เถอะครับ ปล่อยคุณลดากลับบ้านดีกว่าครับ" ตี๋เล็กเบนประเด็น
"ไม่ค่ะ!! คือลดามีเรื่องคุยกับคุณทองแท่งนิดหน่อยอ่ะค่ะ"
"คืนนี้คงไม่สะดวกแล้ว กลับไปก่อนเถอะค่ะ ผู้หญิงเรามาหาผู้ชายถึงบ้านกลางดึก มันไม่งามนะคะ" แสงดาวว่า
"นี่แกว่าชั้นหรอ อุ้ย ... นี่น้องแสงดาวอย่าพูดแบบนี้สิคะ พี่ลดาก็แค่แวะมาเยี่ยม"
"สรุปเลยแล้วกันนะครับ คืนนี้คุณลดากลับไปก่อนแล้วกัน" ทองแท่งว่า
"เอ่อ" ช่อลัดดาจะพูดแต่โดนแทรก
"ผู้ชายเค้าไล่แล้วยังไม่ไปอีก รึต้องใช้น้ำร้อนสาด ทองหยิบ ทองหยอด เตรียมน้ำร้อน!"
ช่อลัดดาอ้อนก่อนผวาไปหาทองแท่ง
อุ้ย...คุณทองแท่งคะ ช่วยลดาด้วย"
ทองแท่งพยายามแกะแขนออกจากช่อลัดดา
"ตามนี้แล้วกันนะครับคุณลดา ตี๋เล็กพี่ฝากส่งคุณลดาหน่อย พี่จะพาม๊าไปนอน"
"ได้ครับพี่ใหญ่"
"แต่ลดา..."
แสงดาวและตี๋เล็กเดินมาขวางทางไว้ ช่อลัดดามองไม่พอใจ แสงดาวทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ตี๋เล็กหน้านิ่งๆ จนช่อลัดดาเกรงๆ
"ไปอาตี๋ใหญ่ พาม๊าไปนอน ง่วงตาจะปิดแล้ว"
ทองแท่งพากิมลั้งไป ช่อลัดดาไหว้แทบไม่ทัน ทองหยิบ ทองหยอด ได้ทีแทรกตัวเข้าไปจนตี๋เล็ก และแสงดาวกระเด็น แล้วทั้งสองก็ขนาบข้างช่อลัดดาแน่น ตี๋เล็กมองนิ่งๆ ส่ายหน้า แต่แสงดาวขำ
"พี่ลดาคะ เล่าเรื่องเมืองนอกให้ฟังหน่อย เรา 2 คนอยากไปบ้างอ่ะค่ะ" ทองหยอดบอก
ช่อลัดดาชักเบื่อ ยักไหล่
"บ้านเมืองก็สวยงาม แปลกตาดีนะ แต่พี่ลดาไม่ชอบเท่าไหร่ ถ้าไม่มีของใช้ให้ช้อป ก็ไม่น่าสนใจเท่าไหร่"
"แต่สำหรับเรา 2 คนคงจะตื่นตาตื่นใจมาก ยังไงถ้าพี่ลดาจะไปอีกบอกทองหยิบบ้างนะคะ"
"บอกทองหยอดด้วยนะ"
ตี๋เล็กขัด
"ไม่เอานา ทองหยิบ ทองหยอด ปล่อยคุณลดากลับบ้านเถอะ เชิญครับ"
ทองหยิบ ทองหยอด มองตามอย่างเสียดาย
"นี่ถ้าเราได้ไปนะ เราจะช้อปให้หมดตัวเลย" ทองหยิบบอก
"ไม่ก็ซื้อมาขายต่อ เก็งกำไรอีก รวยเห็นๆ"
"เปิดรับพรีออเดอร์เลยมั้ยหล่ะแก"
"ก็ดีนะ"
ทองหยิบ ทองหยอด เดินพูดไป ขึ้นห้องไป แสงดาวถอนหายใจโล่ง ที่ไม่มีใครสนใจว่าตัวเองกลับดึก
"โชคดีที่ไม่มีใครสังเกตว่าเราเพิ่งกลับ รอดไปอีก 1 คืนนะเรา"
แสงดาวเป่าปาก
ทองแท่งพากิมลั้งนั่งบนเตียงในห้องนอน
"อาตี๋ใหญ่เอ้ย หมู่นี้ เราแม่ลูกไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ"
"ขอโทษทีครับม๊า งานผมเยอะ แต่ต่อไปนี้ ผมสัญญา ผมจะดูแลม๊ามากกว่านี้ครับ"
"ม๊าเข้าใจ คนหนุ่มวัยแบบลื้อ ต้องทำมาหากิน ไม่ทำมาหากิน จะมีอนาคตดีๆ ได้อย่างไร ถึงแม้ว่าม๊าจะร่ำรวยขนาดไหน ถ้าลื้อไม่ทำงาน ซักวันเงินทองต้องหมดลง"
"ไม่ได้หรอกครับ ถึงแม้ว่าผมจะงานยุ่งขนาดไหน ผมก็ควรมีเวลาให้ม๊า"
"แล้วงานยุ่งแบบนี้ ทำไมยังมีผู้หญิงมาติดพันอีก ม๊าว่าลื้อไม่ได้ยุ่งจริงหล่ะม้าง"
ทองแท่งขำ
"ช่อลดาเค้าเป็นเพื่อนของพิภพน่ะครับ เคยเจอกันที่งานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า"
"แล้วหลังจากนั้น นังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นเลยตามติดลื้อน่ะซิ"
"ช่อลัดดาเค้าก็เป็นคนดีครับ เพียงแต่อาจจะอยู่เมืองนอกมากไปหน่อย"
"เลยติดนิสัยแบบฝรั่งมางั้นซิ ......... อาตี๋ใหญ่เอ้ย ลื้อน่ะเป็นลูกชายคนโต เป็นความหวัง เป็นที่พึ่งของม๊าและน้องๆ จะมีเมียต้องคิดดีๆ ไม่ใช่ไปคว้าผู้หญิงเปิ๊ดสะก๊าดที่ไหนไม่รู้ทำเมีย"
"ครับม๊า ผมจะจำไว้ครับ"
"ม๊าเองก็ไม่รู้จะสอนลื้อยังไง ถ้าป๊ายังอยู่ ลื้อคงจะมีที่ปรึกษาดีๆ"
"ถึงป๊าจะไม่อยู่แล้ว แต่ผมก็ยังมีม๊าเป็นเสาหลักเป็นสุดที่รักของผมนะครับ"
กิมลั้งหัวเราะ
"แหมๆ ไอ้ลูกคนนี้ ปากหวานกับม๊าตั้งแต่เล็กจนโต มิน่าหล่ะ สาวๆ ถึงมารุมชอบเยอะแยะ"
ทองแท่งขำๆ
"ดึกแล้ว ม๊านอนเถอะครับ"
"ว่าแต่ไม่ใช่แฟนลื้อแน่นะ"
"ไม่ใช่ครับม๊า"
"ไม่ใช่ก็ดี อย่าให้รู้นะ ไปคว้านังฝรั่งหัวนอก แต่งตัวจัดคนนั้นมาเป็นเมีย ม๊าคงอกแตกตายก่อน"
"ครับม๊า ฝันดีนะครับ"
ทองแท่งห่มผ้าให้กิมลั้ง และมองจนแม่หลับไป จึงค่อยๆ เดินออกจากห้องไป
ทองแท่งเดินออกมาจากห้องกิมลั้ง ค่อยๆ ปิดประตู หันมาเจอตี๋เล็ก
"ม๊านอนแล้วเหรอพี่"
"อือ เอ่อ แล้วเป็นไงมั่ง" ทองแท่งทำท่าบุ้ยปากไปข้างล่าง "เรียบร้อยดี"
ตี๋เล็กหัวเราะขำๆ
"อย่าเสน่ห์แรงแบบนี้บ่อยๆ นะพี่ชาย ผมเหนื่อย" พูดจบตี๋เล็กก็เดินหนีไป
ทองแท่งส่ายหน้าเบื่อๆ
"ก็คนมันหล่อนี่ เฮ้อ ..."
กลางคืนต่อเนื่องมา กิมลั้งนอนกระสับกระส่ายบนเตียงนอน สุวรรณเดินมานั่งที่ขอบเตียง
"นอนไม่หลับรึ"
กิมลั้งลุกขึ้นนั่ง
"เฮีย .... เฮ้อ อั๊วะจะหลับได้ยังไง เป็นห่วงลูกๆ แต่ละคน"
"ลูกก็โตๆ กันหมดแล้วนะ โดยเฉพาะตี๋ใหญ่น่ะ ไม่น่าห่วงหรอก"
"ที่ไหนได้ ไม่เห็นรึเฮีย วันนี้มีสาวแล่นตามมาถึงบ้าน"
"ตี๋ใหญ่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้หรอก"
"หูตามันแพรวพราว อั๊วกลัวมันเสียที"
"กลัวผู้หญิงไล่ปล้ำตี๋ใหญ่เหรอ"
"ฮื่อ"
"ไม่ต้องกลัว ตี๋ใหญ่ฉลาดพอนะ นี่ยังไม่ใช่ผู้หญิงที่เค้ารัก ถ้าเจอคนที่เค้ารักมากๆ เมื่อไหร่ กิมลั้งค่อยมาเครียดนะ เพราะนิสัยตี๋ใหญ่รักใครรักจริงแน่"
กิมลั้งยังนอนหลับบนเตียง แล้วละเมอ
" เฮียน่ะ พูดงี้ทุกที"
จากนั้นก็หลับต่อกรนคร่อก
(อ่านต่อหน้า 4)
นางโชว์ ตอนที่ 1 (ต่อ)
คืนเดียวกัน มะลิวัลย์ที่นอนอยู่บนเตียง กดมือถือดูรูปแม่และน้องชาย
"แม่จ๋า หนูจะต้องสู้จ้ะแม่ แม่ไม่ต้องกลัวว่าหนูจะยอมแพ้นะแม่ ไม้ ... แกก็เหมือนกัน พี่จะไม่ยอมให้อะไรมาขวางกั้น หรือเป็นอุปสรรคสำหรับอนาคตของน้อง คอยดูนะ พี่จะทำทุกอย่างที่จะทำได้ เพื่อครอบครัวเราจ้ะ พี่สัญญา"
มะลิวัลย์นอนน้ำตาไหล คิดถึงอนาคตที่รางเลือนของตัวเอง
บรรยากาศยามเช้าของเมืองหลวง ผู้คนต่างเร่งรีบไปทำงาน
ภายในร้านรถเข็นข้าวหมูแดง เฮียฮงกับนกน้อย สาละวนอยู่กับการเตรียมร้าน
"เฮ้อ" นกน้อนถอนหายใจ
"เฮ้ยเป็นสาวเป็นแส้ มานั่งถอนหายใจเสียงดังลั่น อายคนเค้าบ้างมั้ย"
"ก็คนมันเซ็งนี่เตี่ย"
"เซ็ง เซ็งอาไร ไหนลองบอกเตี่ยซิ เพื่อเตี่ยช่วยได้"
"เตี่ยช่วยไม่ได้หรอก เพราะไอ้ที่เซ็งเนี่ยก็เพราะมาจากเตี่ยแหละ"
"มาจากเตี่ย บ่ะไอ้นี่ อยู่ดีๆ ก็ว่าเตี่ย ไหนบอกมาซิ เตี่ยทำอะไรให้"
"หนูนะ อุตส่าห์เรียนจบปริญญาตรีมา กลับต้องมาเป็นนางก้นครัวขายข้าวหมูแดง"
"โธ่เอ้ย ! นี่คือกิจการส่วนตัว มาตั้งแต่อากง เตี่ยก็บอกอาหมวยหลายทีแล้วนี่น๊า นี่น่าจะภูมิใจนะ มันเป็นธุรกิจเป็นของตระกูลฮ้อของเราน๊า"
"หนูก็อยากแต่งตัวสวยๆ เริ่ดๆ แบบสาวออฟฟิศบ้าง"
"แกอยากแต่งไรก็แต่งเลย แล้วเดินเสิร์ฟอาหารในร้านเตี่ยนี่ล่ะ ไอ้พวกที่แต่งตัวเป็นสาวออฟฟิศ รับรองได้เงินเดือนไม่เท่าที่แกได้จากเตี่ยนี่หรอกวะ บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง จะเอาไงอีกว้าอาหมวย"
"แหมเตี่ย มันไม่เหมือนกัน"
เฮียฮงลูบหัว
"อาหมวยเอ้ย คนเราเกิดมา ทำงานอะไร ที่ไหนก็ช่างเหอะ แค่ทำแล้วได้เงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และที่สำคัญที่สุด เราสองพ่อลูกได้ทำงานด้วยกันทุกวันแบบนี้ ไม่ดีหรอ"
นกน้อยยิ้มหวาน
"ดีจ๊ะเตี่ย"
"เอ่อๆๆ งั้นก็ทำงานซะ เดี๋ยวลูกค้าก็มาแล้ว"
นกน้อยรวมพลังลุกขึ้น ช่วยเฮียฮงจัดร้านต่อ
เจ๊สา ผมม้วนโรล หน้าทาครีมขาวว่อก ออกมาเดินท่อมๆ ตรวจบริเวณตึกเช่า ดาวกับจิ๊บเดินจะออกไปข้างนอกเห็นเจ๊สาก็ตกใจ หยุดเดิน
"เฮ้ย"
"อะไรแก" จิ๊บมองตามดาว ร้อง " เฮ้ย ... โถ่เจ๊ นี่หนูบอกหลายทีแล้วนะ อย่าทำแบบนี้"
"ทำไม เจ๊ทำอะไร"
"ก็ไอ้โรลม้วนผม กับหน้าคาบูกิเนี่ยขอร้องเหอะอย่าทำอีก"
"พวกเด็กสมัยนี้ ไม่รู้จักรักสวยรักงาม"
ดาวหายตกใจ
"รักสวยรักงามของเจ๊คนเดียวสิ พวกหนูจะหัวใจวายตาย"
"ยังไม่ชินกับความสวยเจ๊อีกหรอหา อยู่มากี่ปีแล้วเนี่ย"
"ไม่ชิน ไม่อยากจะชินด้วย ไปกันเหอะจิ๊บ เดี๋ยวแวะวัดปากซอยหน่อยนะ ทำบุญล้างตาซะหน่อย"
"เออดีแก ชั้นจะทำบุญโลงศพซะด้วยเลย เห็นผีทุกวัน ไม่รู้จะหลอกอะไรกันหนักกันหนา"
จิ๊บกับดาวเดินไป บ่นไป
"ผี! ผีอะไร เฮ้ย ตกลงตึกกูนี่มีผีจริงๆ หรอวะ เฮ้ย" เจ๊สายกมือไหว้ "อย่ามาหลอกลูกช้างเลย ไปที่ชอบที่ชอบเหอะ ไว้ลูกช้างถูกหวยจะรีบทำบุญไปให้"
เสียงยิ้มเข้ามา
"ยังไม่รู้ตัวอีก หนูว่าถ้าเจ๊ถูกหวย เจ๊ควรจะซื้อกระจกมาส่องดูหนังหน้าตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย"
"ว้าย... ผี" เจ๊สาวิ่งหนีไป
"โอ้ยอะไรวะ .. นี่เจ๊ยังไม่รู้ตัวหรอว่าเค้าด่าตัวเองอ่ะ มีเจ้านายประสาท ขี้ข้าอย่างกูพลอยประสาทไปด้วย" ยิ้มส่ายหน้าเดินกวาดพื้นต่อ
มะลิวัลย์ตื่นแล้ว นั่งกลุ้ม หน้าเศร้า เสียงโทรศัพท์ดัง มองเบอร์ แล้วตกใจ ตั้งสติ กดรับ
"แม่!! แม่จ๋า แหม...มะลิกำลังคิดถึงเลย"
มาลัยอย่ในบ้านหลังเล็กๆ นั่งคุยมือถือ ด้านหลังไม้กำลังล้างผักให้แม่
"เป็นไงบ้างลูก ไม่ได้คุยกันเลย นี่แม่โทรมากวนเวลาทำงานลูกรึเปล่า"
มะลิวัลย์สะอึก
"อ่อไม่เป็นไรจ๊ะแม่ วันนี้งานไม่เยอะ สบายๆ จ๊ะ แม่จ๋าแล้วแม่เป็นไงบ้างจ๊ะ แล้วไอ้ไม้หล่ะ เกเรรึเปล่า"
"แม่ก็เรื่อยๆ อ่ะ วันนี้แม่ตื่นสาย ยังไม่ได้ออกไปขายของเลย นี่ไอ้ไม้กำลังเตรียมของอยู่ อีกซักพักจะออกไปขายของแล้ว"
น้องชายตะโกนแทรกเข้ามา
"บอกพี่มะลิด้วยว่าไม้คิดถึงนะแม่"
"ได้ยินมั้ยล่ะ น้องมันอ้อนนะ"
"จ้ะแม่ชั้นก็คิดถึงทุกคนเลย....แม่จ๋า..." มะลิวัลย์น้ำเสียงเศร้า สงสารแม่มาก "แม่ก็อดทนหน่อยนะจ๊ะ ตอนนี้ชั้นยุ่งๆ ขอเวลาซัก 2-3 วันเดี๋ยวชั้นจะโอนเงินไปให้ บอกไอ้ไม้ด้วย อย่าเที่ยวบ่อย มันจะได้ช่วยแม่ขายของบ้าง"
"เฮ้ยไม้มันก็ไม่ได้เกเรอะไรนี่ ก็ตามประสาวัยรุ่นแหละ ว่าแต่มะลิเหอะ ข้าวเช้าอ่ะกินบ้างป่าว แกน่ะไม่ค่อยชอบกินข้าว เดี๋ยวก็เป็นลมกันพอดี"
บนโต๊ะมีมาม่า ปลากระป๋อง
"กินแล้วหล่ะจ๊ะ อิ่มตื้อเลย เอ่อแม่ เดี๋ยวหนูต้องเข้าประชุมก่อน ไว้คุยกันใหม่นะจ๊ะ"
"ได้ๆ ลูก แม่ไม่กวน ไว้คุยกันนะ"
มะลิวัลย์น้ำตาไหล
"จ๊ะแม่" หลังวางโทรศัพท์ "แม่จ๋า หนูจะบอกแม่ยังไงดี ตอนนี้หนูตกงาน ไม่มีเงินเหลือซักบาท ถ้าไม่ได้ป๊อปคอน หนูยังไม่รู้เลยว่าจะกินอะไร ฮือๆ"
แม่มาลัยวางหูโทรศัพท์
"พี่มะลิเป็นไงบ้างแม่" ไม้ถาม
"ก็สบายดีนะ นี่ก็ขอวาง เห็นบอกจะประชุมอะไรนี่แหละ"
"ทำงานแบบพี่มะลินี่สบายเนอะ นั่งอยู่ในห้องแอร์ ได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ น่าอิจฉาจริงๆ"
"เอ๊าไปอิจฉาพี่เค้า แกน่ะก็เรียนจบให้มันเร็วๆ ซิ จะได้ไปนั่งทำงานที่ห้องแอร์กะเค้าบ้าง"
"ไม้ก็ตั้งใจเรียนอยู่นี่ไง โธ่ ! แม่ชอบพูดแบบนี้อ่ะ พี่มะลิเลยคิดว่าไม้เกเร"
"แหมเดี๋ยวนี้มีงอนนะ เอ๊าของน่ะจัดเสร็จรึยัง สายแล้วจะได้รีบไป"
"เรียบร้อยแล้วครับ ไปกันเลยมั้ยแม่"
"อ่ะไปกัน"
ไม้ช่วยยกของกับมาลัย
มะลิวัลย์อาบน้ำเสร็จแล้ว พูดกับตัวเองหน้ากระจก
"อีมะลิแกจะนั่งงอมืองอเท้าไม่ได้นะ ถ้าแกมัวแต่เศร้าแบบนี้ งานที่ไหนจะวิ่งเข้ามาหา ถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกไปสู้กับโลกภายนอกที่โหดร้ายเสียที ...... แม่จ๋า เดี๋ยวมะลิจะลองออกไปหางานดู มะลิจะไม่มีวัน ทำให้แม่กับน้องต้องลำบาก มะลิสัญญา ว่าจะรีบหางานส่งเงินไปให้แม่ให้ได้"
มะลิวัลย์เดินมาหยุดเลือกซื้อหนังสือพิมพ์สมัครงาน ทองแท่งเดินมาหยุดดูหนังสือเหมือนกัน ทั้งคู่ยืนเลือกหนังสือข้างๆ กันแต่ไม่เห็นกัน คนซื้ออีกคนเดินมาพูดกับมะลิวัลย์
"ยืนขวางอยู่ได้ หลบหน่อยซิคุณ"
มะลิวัลย์ตกใจเอียงตัวหลบให้ ซักพักทองแท่งเลือกหนังสือได้ จ่ายเงิน แต่ยังไม่เดินไป พอคนซื้อซื้อเสร็จเดินออกไป มะลิวัลย์ก็เลือกหนังสือสมัครงานได้ ทองแท่งขยับเดินออกจากร้าน ในขณะที่มะลิวัลย์จ่ายเงินเสร็จพอดี ทั้งคู่เดินสวนกันไปคนละทิศไม่เห็นกัน
เช้าต่อเนื่องมา บริเวณที่บ้านพักนางโชว์ ด้านหลังฟรีดอมบาร์ กองทัพ ลีลา กำลังนั่งกินปาท่องโก๋บ้าง อ่านหนังสือพิมพ์บ้าง ซักพักรันรันกับดอลลี่เดินกุมท้องหมดเรี่ยวหมดแรง
"โอ้ย ชั้นจะตายมั้ยเนี่ยนังดอล" รันรันว่า
ดอลลี่ค้อนวงใหญ่
"แกจะตายเพราะเรียกชื่อชั้นผิดนี่ละยะ"
"หนวกหูจริง คนจะอ่านหนังสือพิมพ์" กองทัพบอก
"ก็คนมันท้องเสียนี่ ไม่ได้นอนเลย ตั้งแต่เมื่อคืน"
"กินของสกปรกก็เงี้ย" ลีลาว่า
"นี่เจ๊ว่าหนูหรอ"
"เออซิ สอนไม่จำ เวลากินให้เลือกแล้วมาลำบากตูดตอนหลังอ่ะเห็นมั้ย"
เบเบ๊ อันโกะ เดือนเพ็ญ ก็กุมท้องเดินเข้ามาเหมือนกัน
"เอ๊าๆ พวกนั้นก็อีก นี่พวกแกไปกินอะไรกันมา ถึงพร้อมใจกันวิ่งเข้าห้องน้ำกันทั้งคืนแบบนี้" กองทัพว่า
"สงสัยเป็นเพราะส้มตำนังป๊อปคอนแน่ๆ เนี่ยมันคงเกลียดขี้หน้าชั้น มันเลยเอายาถ่ายใส่ให้พวกเรากินแน่ๆ เลย"
"จริงด้วย ต้องใช่แน่ๆ เลย น่าเจ็บใจนัก" ดอลลี่ว่า
"ไม่จริงหรอก" เบเบ๊บอก
"ทำไมจะไม่จริงอย่ามาออกรับแทนกันนะ"
"ก็พวกเรานี่แหละ เป็นคนไปซื้อส้มตำ แล้วยังแกะใส่จานกับมือเองด้วยนะ" เดือนเพ็ญบอก
"นั่นไง แกสองนะก็ชอบหาเรื่องนังป๊อปคอนมัน ไร้สาระจริงๆ" กองทัพบอก
"จริงด้วย พี่ป๊อปคอนน่ารักออก หนูชอบ โอ้ย" อัยโกะท้องเสียกำเริบ แต่ยังไม่วิ่ง
รันรันบอก
"ออกโรงปกป้องกันดีนัก อย่าให้จับได้แล้วกันว่านังป๊อปคอนวางยา ..... อุ้ย .. อุ่ย" อาการท้องเสียกำเริบ "ไม่ไหวแล้ว ไปห้องน้ำก่อน อุ่ย ... " รันรันวิ่งจู๊ดไป
"อุ่ย ชั้นก็เหมือนกัน มันมาอีกแล้ว ตายแล้ว" ดอลลี่วิ่งเข้าห้องน้ำไป
กองทัพหัวเราะขำๆ
"สมน้ำหน้าพวกแกจริงๆ ทีหลังจะกินอะไร ก็กินแต่พอดี อย่ามูมมามแบบนี้ นั่นดูซิ แต่ละคน เฮ้อ ..."
"อุ่ย หนูก็ไม่ไหวแล้ว" อัยโกะวิ่งเข้าห้องน้ำไป
"โอยไม่ไหวแล้ว มันมาประชิดประตูเมืองอีกแล้ว" เดือนเพ็ญวิ่งเข้าห้องน้ำไป
ทุกคนต่างแย่งกันเข้าห้องน้ำ
ลีลาบอก
"ดูๆ แต่ละคน เฮ้ยนี่ เข้าเสร็จอ่ะล้างห้องน้ำกันด้วยนะ ชั้นไม่อยากเข้าไปเจอขุมทองคำเหม็นๆ"
ลีลากับกองทัพขำ
ในบ้านเช่า จีน่ายังนอนหลับอยู่ ต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงสันต์เมาร้องเพลงมาแต่ไกล
จีน่านอนปิดหู รำคาญ ซักพักสันต์เคาะประตูเสียงดัง
"เมียจ๋า เอิ่ก มาเปิดประตูให้ผัวหน่อย ผัวกลับมาแล้วจ๊ะ เอิ่ก"
จีน่าไม่อยากลุกไปเปิด ทำหน้ารำคาญเต็มที่
"เฮ้ยไม่ได้ยินหรอ เอิ่ก บอกว่าผัวกลับมาแล้ว เปิดประตูให้ผัวหน่อยเสะ เอ๊ะนังนี่พูดไม่รู้เรื่อง"
สันต์ยืนแอ่นไปมาที่หน้าบ้าน เริ่มโมโห
"นังจีน่า ได้ยินป่าว ชั้นรู้นะว่าแกได้ยินมาเปิดประตูดีๆ หรือต้องเจ็บตัวห๊า"
สันต์เห็นข้างในเงียบ คิดจะพังประตูเข้าไป
"นี่แกลองดีกับชั้นเองนะเว้ย เอิ่ก ชั้นไม่อยากจะทำแบบนี้"
สันต์ถอยหลังจะเอาตัวผลักประตู จีน่าเปิดประตูออกมาพอดี สันต์พุ่งผ่านประตูที่จีน่าเปิด ลงไปกองกับพื้นในบ้าน
จีน่าตกใจทรุดตัวนั่งดูสันต์
"พี่สันต์"
สันต์ทั้งเจ็บ ทั้งเมา ได้แต่คาดโทษจีน่าไว้
"นี่แกแกล้งชั้นเรอะ เดี๋ยวก่อนเถอะเมิง เดี๋ยวกูจะต้องสั่งสอนมึงซะหน่อยแล้ว"
"โธ่พี่ ชั้นไม่ได้ตั้งใจ พี่เรียกชั้น ชั้นก็มาเปิดประตูให้ไง"
"นี่แกว่าชั้นซุ่มซ่ามหรอ นังเมียเลว เถียงคำไม่ตกฟาก"
"ไม่ใช่พี่ ใครจะกล้าเถียงพี่เล่า... มาๆ พี่ ชั้นประคองไปนอนนะ"
"ไม่ต้องจับตัวชั้น ไปไกลๆ เลย ชั้นเดินเองได้"
"ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเดินไปก็ล้มอีก มาพี่ ชั้นพยุงนะ"
"เอ๊ะนังนี่ บอกว่าไม่ต้องมาแตะไง ชั้นเดินเองได้"
สันต์พยายามจะลุกแต่ก็ล้ม จีน่าเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างๆ ไม่กล้าช่วย
ชาวบ้านตั้งวงนินทาสันต์ตีกับจีน่า ที่บริเวณหน้าบ้าน ต่างพากันส่ายหน้า
"ข้าน่ะสงสารนังตัวเมียเหลือเกิน ทำงานงกๆๆ ไอ้ตัวผู้ก็เมาได้เมาดี เมาแม่งมันทุกวัน" ลุงเกิดว่า
ป้าแม้นบอก
"จะไปสงสารมันทำไม๊ตาเกิด ยัยกะเทยหน้าหวานนั่นอ่ะ มันอยากมีผัวแมงดาเองทำไมหล่ะ วันๆ ข้าไม่เห็นผัวมันทำอะไรเลย ไถแต่เงิน เอาไปกินเหล้า ไม่ก็เข้าบ่อน"
"ก็นี่ไงที่ข้าสงสาร หน้าตาก็ดี นิสัยก็เรียบร้อย ไม่เคยวุ่นวายกับเพื่อนบ้าน แต่ดวงจู๋ดันมีผัวเป็นแมงดาซวยไปทั้งชาติหล่ะทีนี้"
"กะเทยน่ะน๊า กินไม่เลือก คิดแต่ว่าหาผัวได้เป็นบุญแล้ว ไม่รู้จักเลือกเอง"
"กะเทยก็คนนะยัยแม้น แกนี่ชอบไปว่าเค้า ข้าก็เห็นนังตัวเมียมันก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวดีออก ไม่เห็นแร่ดหาผัวเหมือนอย่างที่แกบอกเลย"
"ผู้ชายเป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่านะ เข้าข้างกะเทยทุกที ไม่รู้เลยเสร็จกะเทยบ้างรึเปล่า"
"ข้าแก่ปูนนี้แล้ว ข้าก็พูดตามที่เห็น"
"เชอะ ชั้นไปหล่ะ เดี๋ยวสายตลาดวายหมด"
ป้าแม้นงอนลุงเกิด
"อ้าวอะไรวะ อยู่ดีๆ ก็มางอนใส่ เมียรึก็ไม่ใช่ สงสัยอากาศจะร้อน"
มะลิวัลย์เดินมาตามทาง ถือหนังสือพิมพ์ที่พึ่งซื้อมาด้วย เห็นแม่และลูกสาวคุยกันจุ๋งจิ๋ง แม่จัดเสื้อผ้าให้ลูกที่บริเวณป้ายรถเมล์
"แต่งตัวดีๆ กระโปรงเปิดหมดแล้วลูก"
ลูกสาวยิ้มหวานให้แม่
"รักแม่ที่สุด"
"แม่ก็รักลูกหมูที่สุด" แม่ก้มลงไปกอดแล้วหอมแก้มอย่างแสนรัก
มะลิวัลย์มองอมยิ้มแล้วก็น้ำตาคลอ รีบเดินจ้ำ ปาดน้ำตาผ่านไป
"แม่จ๋า หนูก็คิดถึงแม่เหมือนกัน"
เช้าต่อเนื่อมา เจ๊ริชชี่เข้ามาพยาบาล เด็กๆ นางโชว์รวมทั้งแก๊งแมวป่า โดยมีกองทัพและลีลานั่งขำ
"สมน้ำหน้า อยากตะกละเอง เลยต้องมานั่งท้องเสียแบบนี้" กองทัพว่า
ลีลาบอก
"ปกติแกไม่เคยพลาดนะ ไม่งั้นแกได้ท้องเสียอีกคนแน่ๆ"
"นี่แกว่าชั้นตะกละหรอนังลีลา"
"ป่าว จะบ้าหรอ ชั้นเห็นแกร่วมวงกินกับเด็กๆ ทุกครั้ง"
เจ๊ริชชี่นอกจากจะต้องพยาบาลเด็กๆ ยังต้องหันมาห้ามกองทัพกับลีลาทะเลาะกันอีก
"โอ้ยหุบปาก!! จะเถียงกานทามมาย แค่นี้ชีวิตยังวุ่นไม่พอหรอ นี่ถ้าว่างมากก็มาช่วยเจ๊ดูนังเด็กๆ พวกนี้สิ"
ดอลลี่เสียงเพลียมาก
"อย่าเลยจ๊ ถ้า 2 คน นั้นมา หนูยอมตายดีกว่า"
"ปากดีนะนังดอล เดี๋ยวจะไม่แก่ตายนะ" กองทัพบอก
รันรันเสียงเพลียเหมือนกัน
"ดอลลี่ย่ะ ดอลลี่"
" ขอบใจรันรัน ในที่สุดแกก็เรียกชื่อชั้นถูกซักที"
"จะตายอยู่แล้ว ยังจะหวงชื่ออีก มาเจ๊ ชั้นช่วย มานังเดือนเพ็ญ ชั้นเช็ดตัวให้" ลีลาว่า
"อร้าย ไม่นะ ชั้นอายอ่ะ" เดือนเพ็ญว่า
"แกจะอายทามมายย่ะ กะเทยเหมือนกัน"
"ชั้นเพิ่งไปทำนมมาอีกรอบ มันยังไม่เข้าที่อ่ะ เดี๋ยวไม่กลมพอ"
"โอ้ยกูจะบ้า กลัวนมไม่กลมพอ สู้ชั้นไม่ได้ไม่ต้องทำนม สวยธรรมชาติ" กองทัพบอก
"ต่อปากต่อคำกันเสร็จรึยัง รีบๆ ทำ แล้วจะได้นอนกันอีกซักรอบ คืนนี้ต้องทำงานอีกนะยะ" ริชชี่ว่า
กองทัพพยายามจะเช็ดตัวเดือนเพ็ญให้ได้ รันรันกับดอลลี่นอนแผ่ใกล้ตาย เจ๊ริชชี่มองเด็กๆ ตรงหน้าแล้วก็ขำๆ
ตอนเที่ยง ที่ห้องเช่าป๊อปคอน มะลิวัลย์เดินออกจากลิฟต์ เดินมาตามทางมาหยุดที่หน้าห้องป๊อปคอน เห็นโพสอิทติดไว้หน้าห้อง หยิบมาอ่าน
"มีงานด่วนที่บาร์ ขอเลื่อนนัดไปก่อน ... โอ้ยยัยป๊อปคอน ยัยกะเทยปลิ้นปล้อนเห็นงานดีกว่าเพื่อนหรอ แล้วที่นี้ เราจะทำไงดีอ่ะ หึ! อิมะลิไม่ยอมหรอก เอาวะ เป็นไงเป็นกัน"
ประตูห้องป๊อปคอนเปิดออก มะลิวัลย์ชะงักถอยหลัง
"อ้าว มีคนอยู่"
บันลือ คู่ขาป๊อปคอนเพิ่งตื่นนอน ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว เสื้อไม่ใส่ โชว์กล้ามล่ำ ผิวคล้ำดำ แบบคนงานก่อสร้าง บึ้กๆ ชะโงกหน้ามามองเห็นมะลิวัลย์ก็ยิ้มหวาน เจ้าชู้
"มาหาใครจ๊ะน้องสาว"
"เอ่อ ชั้นมาหาป๊อปคอน"
"เข้ามาข้างในก่อนสิจ๊ะ"
"ไม่ ไม่เป็นไร"
บันลือก้าวมาหามะลิวัลย์ คว้ามือหมับ
"จะรีบไปไหนล่ะ คุยกันก่อนสิจ๊ะ"
มะลิวัลย์สะบัดมือ
"ไม่... ชั้นมีนัดกับป๊อปคอนที่บาร์"
บันลือชะงัก มองพิจารณา
" อ้อ กะเทยรึ?? แต่ .. ทำไมเหมือนผู้หญิงจังวะ"
มะลิวัลย์ทำเนียนเชิดหน้า
"กะเทย ใช่ ชั้นเป็นกะเทย ชั้นไปก่อนล่ะ" มะลิวัลย์หมุนตัวหนีไปเลย
บันลือมองตามเสียดาย
"อะไรวะ นึกว่าผู้หญิงซะอีก เจอแต่กะเทย ดวงกูเป็นไรวะเนี่ย"
มะลิวัลย์วิ่งหนีบันลือมาจนถึงริมถนน หอบแฮ่ก
"โอย เกือบตาย .. เอาไงต่อดีวะเนี่ย" มะลิวัลย์ก้มมองโพสอิทในมือที่ป๊อปคอนเขียนแปะไว้ ดึงติดมือมาด้วย
"ฟรีดอมบาร์งั้นเหรอ เอาวะ"
มะลิวัลย์โบกเรียกมอเตอร์ไซค์
"ไปฟรีดอมบาร์!"
อ่านต่อตอนที่ 2