สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 22
ที่ห้องประชุม ในกองปราบปราม ทุกคนมานั่งรวมกันฟังแผนการของพันกร มีภาพแบบแปลนบ้านพักฉายขึ้นหน้าจอโปรเจ็กเตอร์
“เราจะแบ่งทีมออกไป 3 ทีม แต่ละทีมละค่อยๆ ตีวงล้อมเข้าใกล้บ้านพักที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้น้ำช่วยถ่วงเวลาให้ทีมของเราเข้าใกล้บ้านพักได้มากที่สุด”
น้ำพยักหน้ารับทราบ “ได้ค่ะพี่”
“ทั้งสามทีมจะมีหัวหน้า คือ ท่านรอง คุณเอก แล้วก็ผม ตีวงล้อมจากทุกทิศของบ้าน”
ประภาพรรณแปลกใจ “แล้วหลังบ้านล่ะคะ”
“ผมดูภาพจากกล้องสอดแนมที่น้ำถ่ายมาแล้ว เห็นเป็นป่าทึบๆ ไม่น่าจะมีอะไรในนั้นนะ”
“แต่มิวว่าเราไม่ควรประมาท น่าจะเพิ่มกองกำลังอีกทีมหนึ่งนะคะ”
พันกรและประภาพรรณยังคุยแผนการต่อเนื่องกันไปอย่างราบรื่น ทำเอาทีมงานทุกคนมองอิจฉา
“โฮ้ย แบบนี้สินะ ที่เรียกว่าเมียดีเป็นศรีแก่ตัว”
“ทำไมเมียผมไม่พูดรู้เรื่องแบบนี้บ้างนะ”
ลูกทีมทุกคนโห่แซวพันกรและประภาพรรณ ทั้งสองคนก้มหน้างุดๆ ยิ้มเขิน รองวิเชียรให้สัญญาณ ทุกคนอยู่ในความสงบอีกครั้ง
“ตกลงว่าด้านหลังนั้นเป็นแค่ป่าทึบจริงๆ หรือเปล่าน้ำ”
“ค่ะท่าน เป็นป่ารกทึบไม่น่าจะมีอะไรซ่อนอยู่นะคะ”
“งั้นก็ตกลงตามนี้ พรุ่งนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ ก่อนเริ่มปฏิบัติการ”
ทุกคนรับคำสั่ง ตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง รองวิเชียรเหมือนคิดอะไรได้ ประกาศเสียงดัง
“อ้อ มีอีกเรื่องที่ต้องประกาศให้ทุกคนทราบ นับตั้งแต่วันนี้ ผู้กองพันกรจะกลับเข้ามาร่วมทีมเพื่อทำการจับกุมเสี่ยเป้ ส่วนมิว ผมขอย้ายหน้าที่ให้มาอยู่ฝ่ายสนับสนุนก็แล้วกันนะ”
ทีมงานทุกคนโห่ร้องดีใจที่พันกรได้กลับมาร่วมทีม มีแต่ประภาพรรณที่ยังหน้านิ่ว รู้สึกไม่พอใจมาก เพราะเหมือนตัวเองถูกปลดกลางอากาศ
พันกรกำลังขับรถกลับบ้าน โดยที่มีประภาพรรณนั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ น้ำนั่งอยู่เบาะหลัง คอยมองปฏิกิริยาของคนทั้งคู่
“นี่ใจคอมิวจะไม่คุยกับผมจนถึงบ้านเลยหรือครับ”
“มิวไม่อยากคุยกับคนขี้โกง อยู่ๆ ก็มาแย่งหน้าที่มิวไปซะอย่างนั้นอะ”
“ผมไม่รู้เรื่องมาก่อนเลยนะครับ ทุกอย่างท่านรองท่านตัดสินใจเองครับ”
“มิวเพิ่งเข้าใจคำว่าถูกปลดกลางอากาศก็วันนี้แหละค่ะ”
“โธ่ มิวครับ”
พันกรหันมายิ้มงอนง้อประภาพรรณ น้ำนั่งมองด้วยแววตาริษยา เมื่อมาถึงบ้าน พันกรทำหน้าที่สุภาพบุรุษอยากเอาใจภรรยา ด้วยการวิ่งอ้อมไปเปิดประตูรถให้ ประภาพรรณค้อน พันกรยิ้ม กระซิบบอกหน้าเกือบจะชนแก้มภรรยา
“ผมก็แค่อยากจะปกป้องคุณก็เท่านั้นเอง ที่รัก”
ประภาพรรณยิ่งฮึดฮัด งอนพันกรไม่หาย
“แน่ใจนะคะว่าคุณกรไม่มีส่วนเลย”
ประภาพรรณลงจากรถ พันกรก็เดินตามง้องอนต่อ น้ำชักทนไม่ไหวรีบเรียกคะแนนจากพันกรทันที
“พี่กรนี่ดีจังเลยนะคะ เป็นห่วงพี่มิวมากขนาดนี้ ถ้าเป็นน้ำนะรักตายเลย”
ประภาพรรณเห็นน้ำเริ่มหว่านเสน่ห์ ก็รีบเดินเข้าไปโอบไหล่พันกร แสดงความเป็นเจ้าของ แล้วหันไปยิ้มหวานให้น้ำ น้ำหน้าเสีย
“เรื่องนั้นพี่รู้จ้ะ พี่ก็แกล้งงอนคุณกรไปอย่างนั้นเอง”
ประภาพรรณเห็นน้ำอึ้ง เลยอาศัยจังหวะนี้แสดงความเป็นเจ้าของหนักขึ้นไปอีก
“งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า ถ้าคุณกรทำภารกิจสำเร็จ มิวจะยอมยกโทษให้หนึ่งคืน”
พันกรไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“จริงเหรอครับ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ มิว”
“แค่คืนเดียวเท่านั้นนะ แล้วก็ต้องทำสำเร็จด้วย”
“ฝีมือชั้นนี้แล้วไม่มีพลาด มิวรอรับศึกหนักได้เลย”
พันกรดีใจ เดินควงภรรยาเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี น้ำมองทั้งสองคนกระหนุงกระหนิงกันอย่างแค้นๆ
“ร้ายนักนะนังมิว”
เสียงไลน์ที่โทรศัพท์บุหงาดังขึ้น เธอรีบเดินมาดูเห็นว่ามีข้อความจากแม่ บุหงาหงุดหงิดขณะอ่าน
“ฉันจะอยู่ปอยเปตอาทิตย์หนึ่งนะ”
“แล้วทำไมแม่ไม่บอกฉันก่อนไปล่ะ”
“ฉันก็บอกอยู่นี่ไง แกจะบ่นอะไรนักหนา ฉันจะเข้าไปเล่นต่อแล้วไม่ว่างคุย แค่นี้นะ”
“เดี๋ยวก่อนสิแม่ แม่”
บุหงามองโทรศัพท์ในมืออย่างเซ็งๆ
“เออ ดี แม่ไปปอยเปต อีพี่กล้าติดงาน ทิ้งฉันไปกันหมดเลย”
บุหงาเดินมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาอย่างหงุดหงิด
“แล้วใครจะช่วยฉันกำจัดนังน้ำได้ละเนี่ย”
บุหงานึกถึงกล้องตัวเล็กที่เห็นหลุดออกมาจากกระเป๋าน้ำ
“นั่นมันกล้องอะไรกันแน่นะ”
บุหงาสงสัยหนัก จนต้องหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาข้อมูล หน้าจอมือถือของค้นไปเจอกล้องสอดแนม รูปแบบเดียวกับน้ำเข้า บุหงาอึ้ง ตกใจมาก
“กล้องสอดแนม ที่แท้นังน้ำก็เป็นนางนกต่อ แต่ว่าใครส่งมันมาล่ะ”
บุหงาเครียดมาก พยายามคิดเรื่องน้ำอย่างหนัก
รถของเสี่ยเป้เข้ามาจอดหน้าบ้านพักนางแบบ น้ำ เสี่ยเป้และทอมเดินลงมาจากรถ มีลูกสมุนของทอมยืนรายล้อมรอบบ้านอยู่
“ถึงแล้วครับ สถานที่เซ็นสัญญาที่คุณน้ำขอ”
“ว่าแต่ทำไมเราต้องมาเซ็นที่นี่ด้วยล่ะหนูน้ำ”
“เอ่อ เพราะว่าน้ำอยากจะเข้ามาดูที่นี่อีกสักครั้งให้มั่นใจว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดน่ะค่ะ”
น้ำก้มหน้างุดๆ ยิ้มอายๆ ให้ทอมและเสี่ยเป้ สองเสือเฒ่ามองท่าทางของหญิงสาวอย่างเอ็นดู หลงใหลมาก
“งั้นเสี่ยว่าเราเข้าไปคุยด้านในกันดีกว่า จะได้ร่างสัญญาตามความต้องการของแต่ละคน”
เสี่ยเป้เดินนำทอมกับน้ำเข้าไป ทอมหันมาพยักหน้าส่งสัญญาณให้ลูกน้อง ลูกน้องรับคำสั่งแล้วกระจายกำลังเฝ้าระวังไปรอบๆ บ้าน
ด้านนอกบ้านพักนางแบบ พันกรใช้กล้องส่องทางไกลแอบดูพวกเสี่ยเป้ หันมาทำมือให้สัญญาณรองวิเชียรและเอกราชที่จุดซุ่มของทั้งสองคน ทั้งสองคนต่างพยักหน้าแล้วพาทีมของตัวเองเข้าไปตีวงล้อมบ้านพักตามแผน
น้ำชะเง้อมองผ่านกระจกด้วยอาการลุ้นมากว่าตอนนี้ทีมของพันกรน่าจะเริ่มล้อมวงเข้ามาตามแผนแล้ว
“เอาล่ะเราร่างสัญญากันเสร็จแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่”
เสี่ยเป้หยิบปากกาขึ้นมาทำท่าจะเซ็นสัญญา น้ำรีบฉวยสัญญาขึ้นมา เสี่ยเป้และทอมงง
“วอทอาร์ยูดูอิ้ง นั่นคุณจะทำอะไรครับ คุณน้ำ”
น้ำยิ้มแห้งให้ทอมกับเสี่ยเป้ อ้อมแอ้มแถไป
“คือว่า น้ำอยากจะอ่านสัญญาอีกสักรอบก่อนน่ะค่ะ”
“แต่ว่าสัญญาเพิ่งร่าง เพิ่งคุยกันเดี่ยวนี้เองนะครับ”
น้ำถูกทอมต้อนแล้วอึกอัก ไม่รู้จะหาอะไรมาแถได้อีก เป็นจังหวะเดียวกับที่บุหงาเดินเฉิดฉายเข้ามาในห้อง ยิ้มร้าย มั่นใจมาก
“ให้เขาอ่านทวนสัญญาก็ดีแล้วนี่คะ จะได้รู้กันไปว่าใครเล่นตุกติก”
น้ำ เสี่ยเป้และทอมมองบุหงาที่เข้ามาจุ้นจ้านจนได้ ทอมหงุดหงิดหันไปใส่เสี่ยเป้
“วอท นี่ผมบอกคุณแล้วไง ว่าไม่ให้คุณแพนมาที่นี่”
“อย่าโทษเสี่ยเลยค่ะ คุณทอม แพนแอบตามมาที่นี่เอง”
“หนูแพนกลับไปก่อน เสี่ยว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
บุหงาไม่สนใจคำสั่งของเสี่ยเป้ เดินไปนั่งข้างๆ น้ำ
“จะรีบไล่แพนไปไหนล่ะคะ ให้แพนอยู่ช่วยดูเรื่องเอกสารสัญญาของน้ำดีกว่า เพราะถ้าเกิดความลับรั่วไหลออกไป เราจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ผิดสัญญา”
บุหงาหันมายิ้มร้ายใส่น้ำ น้ำหน้าเจื่อน เสียวสันหลังวาบ รู้สึกสังหรณ์ใจในท่าทางของบุหงา
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 22 (ต่อ)
พันกรและทีมค่อยๆ เคลื่อนพลตีวงล้อมบ้านพักได้สำเร็จ
ลูกทีมคนหนึ่งถูกผึ้งตอมหน้า รู้สึกรำคาญมากรีบเอามือปัด เอาแต่ไล่ผึ้งจนเสียหลัก เซไปเหยียบกิ่งไม้หักดังเป๊าะ พวกลูกสมุนของทอมตื่นตัวหยิบปืนขึ้นมาเล็งไปทุกทิศทุกทาง
“นั่นใคร ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
พันกรเครียดมากที่ถูกจับได้ แต่แล้วก็หยิบกิ่งไม้ใกล้ตัวขว้างออกไป ลูกน้องทอมเห็นกิ่งไม้แล้วหลงกลรีบยิงใส่ พันกรอาศัยจังหวะนี้ให้สัญญาณลูกทีมระดมยิงลูกน้องของทอม ลูกสมุนของทอมถูกยิงร่วงไปจำนวนหนึ่ง
ลูกสมุนที่กระจายกันอยู่รอบๆ รีบมาสมทบ เริ่มยิงกราดออกไปทุกทิศจนพวกพันกรทนไม่ไหวต้องหาทางถอยร่น แต่ไม่หยุดยิงต่อสู้ บรรดานางแบบที่อาศัยอยู่ในบ้านต่างหวีดร้องเพราะกลัวเสียงปืน พยายามจะวิ่งหนีออกมา แต่ห้องปิดล็อกไว้ ต่างได้แต่หลบกระสุนปืนยิงสวนกันไปมาด้านนอก
น้ำและพวกเสี่ยเป้ได้ยินเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของเหล่านางแบบที่วิ่งหนีตายกันอยู่ในบ้าน ทั้งสี่คนมองหน้ากันอึ้ง ตื่นตกใจมาก
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะเสี่ย” บุหงาร้องถาม
ทอมทำตัวแนบกำแพง แอบมองสถานการณ์ทางช่องหน้าต่าง เห็นการต่อสู้ด้านนอก เขากัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้น
“ตำรวจ ไอ้พวกนี้มันกัดไม่ปล่อยจริงๆ”
“รีบหนีก่อนเถอะ เราไม่มีเวลาแล้ว”
น้ำลืมต้ว “จะหนีไปได้ล่ะคะเสี่ย เราถูกล้อมไว้ทุกทางแบบนี้”
“ไปหลังบ้าน มีท่าเรือซ่อนอยู่ เสี่ยเตรียมการไว้แล้ว”
เสี่ยเป้หยิบปืนออกมา
“น้ำ แพน ตามเสี่ยมา เดี๋ยวนี้”
“ค่ะ เสี่ย”
บุหงาดูใจเย็นมาก ยอมตามไป น้ำอึ้ง ตกใจมากเพราะผิดแผน
“อะไรนะคะ”
น้ำยังไม่ยอมขยับ เสี่ยเป้เลยตัดสินใจลากน้ำตามไป
พวกพันกรยังยิงปะทะกับลูกน้องของทอม ต่างไม่มีใครยอมแพ้ พันกรเห็นเสี่ยเป้ถือปืนแล้วกึ่งลากกึ่งจูง ดูก็รู้ว่าบังคับพาน้ำไป ยังเห็นว่าบุหงากับทอมต่างวิ่งหนีไปด้านหลังบ้านด้วย เริ่มร้อนน
“มันหนีไปทางหลังบ้านแล้วครับ”
“แสดงว่าในป่านั่นต้องมีอะไรซ่อนอยู่จริงๆ”
พันกรหน้าซีดตกใจ กลัวว่าเสี่ยเป้จะหนีไปได้อีกครั้ง รองวิเชียรเห็นท่าไม่ดี รีบหันมาสั่ง พันกรและเอกราช
“คุณสองคนรีบตามไปเร็ว เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”
พันกรและเอกราชรับคำสั่ง รีบวิ่งหลบกระสุนไปถึงป่าหลังบ้านได้สำเร็จ รองวิเชียรนำทีมยิงสกัดเปิดทางให้
เสี่ยเป้ลากพาผ่านพงหญ้าออกมาที่ทางลับที่มีรถจอดพรางอยู่ บุหงาก็ตามมาติดๆ
“น้ำ แพน ขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
น้ำเอาแต่ยืนอึ้งตกใจ บุหงารีบลากน้ำขึ้นรถไปตามคำสั่งของเสี่ยเป้ ทอมโผล่ออกมาจากพงหญ้าเป็นคนสุดท้าย เสี่ยเป้ดักรออยู่แล้วยิงปืนใส่ทอม บุหงาและน้ำกรีดร้องด้วยความตกใจ ทอมทรุดลงไปนั่งที่พื้น กุมท้องด้วยความเจ็บปวด
“เสี่ยเป้ แกทรยศฉันเหรอ ไอ้เลว”
“ริจะเป็นโจร ก็ต้องทำใจว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแอบโกงกินหัวคิวอย่างเงียบๆ ไปลงนรกซะ ไอ้ทอม”
เสี่ยเป้ตีเข่าใส่หน้าทอม ทอมล้มหงายหลังลงไปอย่างหมดแรง เสี่ยเป้ยิงซ้ำอีกหนึ่งนัด แล้วกระโดดขึ้นรถ ขับออกไปทันที ทอมขยับตัวไม่ได้ นอนพะงาบๆ มองรถของเสี่ยเป้ที่กำลังจะขับออกไปด้วยความเจ็บใจ จังหวะเดียวกับที่เสี่ยเป้ขับรถออกไปไม่นาน พันกรและเอกราชก็วิ่งมาถึง น้ำเห็นพันกรรีบตะโกนขอให้ช่วย
“พี่กร ช่วยน้ำด้วย”
พันกรอยากตามไป แต่ทำอะไรไม่ได้ พันกรและเอกราชได้แต่เดินหงุดหงิดงุ่นง่าน
“ฮึ่ย ให้มันได้ยังนี้สิน่า”
ทอมอาศัยแรงเฮือกสุดท้าย เอื้อมมือไปจับเท้าของเอกราช เอกราชก้มลงมาเห็น ตกใจมาก
“ผู้กองพันกร”
พันกรหันมาเห็นทอมนอนอยู่ที่พื้น รีบเดินเข้ามาช่วย แต่ไม่ทันการ ทอมชักกระตุกอยู่สักพักแล้วขาดใจตายในที่สุด
“เรามาช้าไป”
“แล้วเราจะเอายังไงกันดี”
สองหนุ่มมองหน้ากันเครียด
ภายในบ้านพักนางแบบ ลูกทีมของรองวิเชียร ช่วยกันต้อนพวกนางแบบไปนั่งกองอยู่มุมหนึ่ง ส่วนอีกคนก็คอยจับลูกสมุนของทอมใส่กุญแจมือต่อกันเป็นแถว หมวดบัญญัติและจ่าพนมบาดเจ็บเล็กน้อย นั่งปฐมพยาบาลตัวเองอยู่ พันกรและเอกราชเดินเข้ามาหารองวิเชียร ทั้งสองคนเครียดมาก
“เสี่ยเป้ มันหนีไปได้อีกแล้วครับ”
“มันพรางท่าน้ำด้วยป่าหลังบ้าน แล้วก็ขับเรือหนีไปครับ”
รองวิเชียรเครียด เจ็บใจมาก
“ไอ้เสี่ยนี่ ฉลาดเป็นกรดจริงๆ แล้วมันไปคนเดียวเหรอ”
“มันจับน้ำแล้วก็คุณแพนไปด้วยครับ คงคิดจะหาตัวประกัน มาต่อรองกับเรา”
“น่าเป็นห่วงแต่น้ำ แต่คุณแพนอะไรเนี่ย เป็นพวก 18 มงกุฎ แอบทำงานกับเสี่ยเป้มานานแล้วครับ ท่านรอง”
รองวิเชียรพยักหน้ารับรู้ข้อมูลที่เอกราชบอก แต่คนที่ตาโตแล้วก็อึ้งกับข้อมูลนี้กลายเป็นพันกร
“คุณว่าอะไรนะ เอกราช คุณแพน ผมตกข่าวใหญ่เลยเหรอเนี่ย”
เอกราชพยักหน้า แล้วกระซิบบอก
“ไว้ผมจะเล่าให้ฟัง หรือคุณจะถามมิวก็ได้นะ”
พันกรเหมือนโดนทุบศีรษะที่ตัวเองยอมให้คนอย่างบุหงาข้ามาวุ่นวายในครอบครัวเป็นนานสองนาน แต่กลับไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย รองวิเชียรเหมือนคิดอะไรได้ หันมาสั่งพันกรกับเอกราช
“พวกเรารีบกลับไปออกหมายจับเสี่ยเป้ ออกประกาศไปทางสื่อทุกสื่อว่ามันเป็นผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดดีกว่า ในเมื่อเราจับกุมมันดีๆ ไม่ได้ ก็คงต้องใช้อำนาจสื่อ บีบให้มันอยู่ไม่ได้เหมือนกัน”
ภาพในจอทีวี นักข่าวกำลังพูดประกาศจับเสี่ยเป้ มีรูปเสี่ยเป้ตัวจริงขึ้นโชว์ข้างๆ ปทุมวดีกำลังให้ป้าม้วนและแต้วทำเล็บอยู่ ส่วนป้าบัวเผื่อนกับน้อยก็เข้ามาดูด้วย ต่างถึงกับชะงัก ตกใจมาก
“มิวเปิดเสียงหน่อยสิ”
ประภาพรรณหยิบรีโมทขึ้นมาเร่งเสียงอย่างว่าง่าย เพราะร้อนใจห่วงพันกรไม่แพ้กัน
“จัดให้ค่ะ คุณแม่สามี”
นักข่าวรายงานต่อไป
“ต่อไปนี้เป็นข่าวด่วนพิเศษจากกองปราบปรามนะคะ ประกาศจับเสี่ยเป้ นายปุริม มหาศาลสมบัติ ฉากหน้าเป็นนักธุรกิจผลไม้กระป๋องรายใหญ่ในเมืองไทย แต่มีเบื้องหลังแอบเปิดบ่อนการพนันผิดกฎหมาย ซึ่งเพิ่งโดนทางการกวาดล้างไปเร็วๆ นี้ แล้วยังแอบลักลอบค้าประเวณีหญิงกับแก๊งข้ามชาติอีกด้วยค่ะ”
ปทุมวดีหน้าซีด ตกใจมาก เผลอพูดออกมา
“คราวนี้ เสี่ยเป้ตัวจริงซะด้วย”
“ใช่ เสี่ยเป้คนเดียวกับเจ้าของบ่อนที่คุณหญิงไปเล่นมั้ยคะ” แต้วถาม
“เออ ก็มันแหละ”
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าเสี่ยเป้จะเลวได้ขนาดนี้นะเจ้าคะ” ป้าม้วนตกใจ
“คนเรา บางครั้งรู้หน้าไม่รู้ใจหรอกค่ะ” ป้าบัวเผื่อพูดปลงๆ
“จริงด้วย แอ๊บซื่อๆ บางทีก็ร้ายตาใสสุดๆ” น้อยพูดพาลไปถึงน้ำ
ปทุมวดีมัวแต่ดูภาพข่าว ไม่ค่อยได้สนใจที่คนใช้เม้าท์กัน ประภาพรรณได้โอกาสรีบพูดสำทับเข้ามา
“แบบนี้แหละค่ะ ที่เรียกว่าคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
ปทุมวดีได้ยินถนัด ตวัดสายตาค้อนใส่ลูกสะใภ้อย่างไม่สบอารมณ์ รู้สึกเสียหน้ามากที่ถูกประภาพรรณสอนอีกแล้ว
“ย่ะ งานนี้หล่อนพูดถูก”
ปทุมวดีต่อว่าประภาพรรณ แต่สายตาไม่ได้จริงจังเหมือนก่อนๆ จู่ๆ ประภาพรรณก็ลุกขึ้นยืน ทำท่าจะเดินออกไปนอกบ้าน เพราะในใจนั้นเป็นห่วงพันกร ปทุมวดีเห็นท่าทางของลูกสะใภ้ก็ถามขึ้น
“นี่มันก็ค่ำมืดแล้ว หล่อนจะไปไหน”
“มิวเป็นห่วงคุณกรค่ะ คุณแม่สามี ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านเลย”
“งั้น เราไปรอตากรที่หน้าบ้านดีมั้ย”
“ตกลงค่ะ”
ประภาพรรณให้ปทุมวดีนำไปก่อน ป้าม้วน แต้วมองหน้ากัน แปลกใจที่เจ้านายเปลี่ยนไป ป้าบัวเผื่อนกับน้อยมองเจ้านายที่เริ่มเปิดใจให้ประภาพรรณด้วยแววตามีความสุข แต่ยังไม่ทันออกจากห้อง เสียงปรีชาชาญดังเข้ามา
“จะไปไหนกันเหรอครับ คุณหญิง”
ทุกคนชะงักหันมอง
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 22 (ต่อ)
ปทุมวดีดีใจมากรีบปรี่เข้าไปหาสองพ่อลูก ประภาพรรณก็ดีใจ แต่สงวนท่าทีไว้ เดินตามอยู่ข้างหลัง
“พอดีดูข่าวเรื่องจับเสี่ยเป้ แล้วรู้ว่าเป็นฝีมือของทีมตากรก็เลยเป็นห่วงว่าทำไมยังไม่กลับ แต่เห็นกลับบ้านแล้วก็สบายใจ ทั้งหล่อทั้งเก่งจริงๆ เลยลูกแม่”
ปทุมวดีตื่นเต้นตรงเข้าไปกอดหอมแก้มลูกชายอย่างภาคภูมิใจ
“ไหน เล่าให้แม่ฟังสิ ลูกรู้อะไรเรื่องนี้บ้าง”
พันกรยิ้มให้ปทุมวดี แต่สายตากลับมองเลยไปหาประภาพรรณที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“เรื่องงานเอาไว้ก่อนแล้วกันนะครับคุณหญิงแม่”
พันกรก้าวฉับๆ ผ่านหน้าปทุมวดี เข้าไปรวบตัวประภาพรรณขึ้นมาอุ้มอย่างสบายๆ
“ว้าย คุณกร”
ปทุมวดีอึ้ง ตกใจมาก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ รีบเข้าไปขวางลูกชายไว้
“แต่เรื่องกินเรื่องใหญ่นะ กรทำงานมาเหนื่อยๆ กินข้าวก่อนดีกว่าลูก เดี๋ยวแม่ให้คนตั้งโต๊ะอุ่นอาหารร้อนๆ ให้ใหม่”
“ข้าวรอได้ครับ แต่ภารกิจนี้รอไม่ไหว”
พันกรบอกปทุมวดีที่ทำท่าไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ปรีชาชาญมองหน้าลูกชายเข้าใจดีเลยรีบพูดช่วย
“ลูกบอกว่ามีธุระ ก็ให้ลูกไปเคลียร์กับหนูมิวเหอะ คุณหญิง”
“ใช่ครับ คืนนี้ผมกับมิวมีเรื่องต้องคุยกันยาว”
พันกรยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ประภาพรรณ หญิงสาวเขินก้มหน้างุดๆ ไม่กล้าสบตา พันกรไม่รอช้า รีบอุ้มพาภรรยาเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป ทิ้งให้ปทุมวดี ป้าม้วน แต้ว น้อย ป้าบัวเผื่อนพากันอึ้งตกใจไปตามๆ กัน
“ตากร”
ปรีชาชาญกลับอมยิ้มมีความสุข
พันกรอุ้มพาประภาพรรณเดินมาถึงหน้าบันไดขึ้นชั้นสอง หญิงสาวพยายามดิ้นจะลงเดินเองเพราะเขินที่ทั้งทุกคนพากันมองตามด้วยความสนใจ
“พอเถอะค่ะคุณกร ให้มิวเดินเองเหอะ”
“ไม่ครับ เดี๋ยวมิวดิ้นหนีผมไป จะทำยังไงล่ะ”
พันกรมองหน้าประภาพรรณนิ่ง หญิงสาวจ๋อยที่เขารู้ทัน พันกรอุ้มประภาพรรณมาที่หน้าห้องนอน เธอรีบถามออกมาเบาๆ
“แล้วน้ำล่ะคะ ทำไมไม่กลับมาด้วยกัน”
พันกรหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เปิดประตูห้องนอนแล้วอุ้มประภาพรรณไปวางลงก่อนจะตอบ
“เสี่ยเป้จับน้ำไปด้วยน่ะครับ”
ประภาพรรณตกใจ รู้สึกเครียดเรื่องน้ำขึ้นมาทันที
“แล้วแบบนี้ เราจะทำยังไงกันดีคะ”
พันกรเห็นประภาพรรณหน้าเครียด รีบพูดปลอบใจ
“ก็ไม่ต้องทำอะไร”
“ได้ไงคะ”
“เสี่ยเป้จับตัวน้ำไป แสดงว่าต้องการเรียกร้องหรือต่อรองกับทางการ เราก็แค่รอเวลาให้เสี่ยเป้ติดต่อมา”
“แล้วถ้า”
พันกรรีบเข้าไปกอดประภาพรรณตัดบท
“น้ำเคยอยู่กับลุงเสริมบุญมาก่อน ผมว่าน่าจะเอาตัวรอดได้ไม่ยากนะครับ”
ประภาพรรณฟังพันกรพูดแล้วใจชื้นขึ้น ชายหนุ่มเห็นท่าทางภรรยาผ่อนคลายแล้วหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่
“แต่ผมว่าคนที่น่าห่วงกว่าคือมิวนะครับ คืนนี้จะเอาตัวรอดได้หรือเปล่าน้า”
ประภาพรรณฟังคำพูดของพันกรแล้วเขินจนหน้าแดง ชายหนุ่มเห็นท่าทางของหญิงสาวแล้วยิ้มร่า รีบอุ้มภรรยาเดินไปที่เตียงนอนทันที
“อย่าใจร้อน อาบน้ำก่อนนะคะ คุณสามี”
พันกรทำท่าจะแย้ง ประภาพรรณรีบทำตาดุใส่
“แต่ว่า”
“ไม่งั้นยกเลิกนะ”
พันกรเลยวางประภาพรรณลงแล้วตะเบ๊ะใส่
“โอเค. ใครจะกล้าขัดใจเมียที่เคารพ คบไม่ได้”
ประภาพรรณยิ้มกับพันกรด้วยความสุข ไม่ทันระวังตัว พันกรเลยถือโอกาสหอมแก้มมัดจำเสียหนึ่งฟอด
“อุ๊ย”
ปทุมวดีเจ็บใจ หงุดหงิดมาก
“หนอย ตากรนะตากร เห็นเมียดีกว่าแม่ได้ไง”
ปทุมวดีเหลือบไปเห็นพวกน้อย แต้ว ป้าม้วนและป้าบัวเผื่อนนั่งจับเจ่ารอปทุมวดีสั่งการ เลยพาลหันไปแหวใส่เสียงดัง
“แล้วพวกแกสี่คนมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออะไรอยู่แถวนี้ มีอะไรก็ไปทำสิยะ”
“พวกเราไม่ได้นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อนะคะ พวกเรารอคุณหญิงอยู่ค่ะ ว่าจะไปต่อไงดี”
ปทุมวดีถูกแต้วต่อปากต่อคำโกรธมาก ยิ่งโมโหหนักขึ้นอีก
“นี่นังแต้ว แกกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ หะ”
แต้วจ๋อย ไม่กล้าอ้าปากพูดอีก ป้าม้วน ป้าบัวเผื่อนเห็นท่าไม่ดี รีบพูดกับปทุมวดีอย่างนอบน้อม
“คุณหญิงเจ้าคะ อย่าไปถือสามันเลยเจ้าค่ะ อีนี่มันโง่”
“งั้นบัวเผื่อนไปทำของว่างอร่อยๆ ให้คุณหญิงดีกว่านะคะ”
“ไม่ต้อง ดึกป่านนี้แล้ว แกจะให้ฉันกินเอามาแปะไว้ที่พุงรึไง”
ป้าบัวเผื่อนเลยถอยทัพคนแรก น้อยรีบตาม ป้าม้วนกับแต้วก็ทำท่าจะตามอีกที แต่ปทุมวดียังคงวีนใส่
“แล้วนังน้ำล่ะ ดึกดื่นป่านนี้ ทำไมยังไม่กลับบ้าน”
“เดี๋ยวน้อยโทร.ตามให้ค่ะคุณหญิง”
น้อยพูดจบรีบเดินตามป้าม้วน ป้าบัวเผื่อนกับแต้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ปทุมวดีมองตามสี่สาวใช้ไปแล้วสะบัดพัดพรึ่บๆ หงุดหงิด ปรีชาชาญเห็นท่าทางของภรรยาแล้วยิ้ม นึกขำขึ้นมา
“อะไรกันเนี่ยคุณ กับอีแค่ลูกอยากจู๋จี๋กับเมีย ถึงกับพาลพะโลใหญ่โตเลยเหรอ”
ปทุมวดีหันขวับมามองปรีชาชาญอย่างค้อนๆ ไม่พอใจ ปรีชาชาญยิ้มเจ้าเล่ห์ ยียวนกลับไป
“อ้าว แล้วมาเขวี้ยงค้อนใส่ผมทำไม อยากถูกอุ้มบ้างหรือไง ผมแก่แล้ว อุ้มไม่ไหว ขอโทษทีนะ”
ปทุมวดีตกใจจนอ้าปากค้าง ไม่คิดเลยว่าปรีชาชาญจะแหย่แรงขนาดนี้ ปรีชาชาญมองท่าทางของภรรยาแล้วขำ เดินขึ้นห้องไป ปทุมวดียืนกระทืบเท้าเร่าๆ เจ็บใจ ที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
ในห้องทำงานรองวิเชียรที่กองปราบปราม หมวดบัญญัติ เอกราชและจ่าพนมนั่งอยู่พร้อมหน้า
“ตอนนี้สื่อออกข่าวเรื่องเสี่ยเป้จนรู้กันทั่วไปหมดแล้ว ท่านรองจะสั่งการต่อยังไงดีครับ” เอกราชถาม
รองวิเชียรยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะบอกลูกน้อง
“คนที่เคยคิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้า มีเงินทองและบารมีมากมาย ถ้าไม่มีขึ้นมา คุณว่าจะเป็นยังไง”
“ก็จ๋อยสิครับ”
“หมวดบัญญัติ”
“ครับ ท่าน”
“ช่วยผมเด็ดปีกเด็ดหางเสี่ยเป้หน่อย อายัดบัญชีธนาคาร บัตรเครดิตและทรัพย์สินทั้งหมด ดูสิจะกบดานได้สักแค่ไหน”
“จัดให้ครับ ท่าน”
“แบบนี้ไม่นาน ไอ้เสี่ยเจ้าเล่ห์มันก็วิ่งหางจุกตูดมามอบตัวแน่ๆ”
ทุกคนยิ้มสะใจ พอใจที่จัดการกับคนชั่วได้
สะใภ้รสแซ่บ ตอนที่ 22 (ต่อ)
ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง รถที่เสี่ยเป้ขับหนีตำรวจจอดอยู่ตรงที่เติมน้ำมัน
ในรถ บุหงานั่งคุมน้ำอยู่ที่เบาะหลัง เด็กปั๊มเดินถือบัตรเครดิตเสี่ยเป้มายื่นให้
“เฮียบอกว่าไม่รับบัตรเครดิต ขอเงินสดเท่านั้น”
“อะไรกัน ดึกป่านนี้แล้ว อั๊วไม่ได้กดเงินสดมา”
“จะเอาไง คิดจะโกงเหรอวะ”
บุหงาเห็นท่าไม่ดีเลยยื่นแบงก์พันให้เด็กปั๊มไป
“เอาเงินสดไป อย่าพูดมาก”
เด็กปั๊มรีบรับเงินสดไป แล้วส่งบัตรเครดิตคืนให้เสี่ยเป้ ก่อนจะเดินจากไป เสี่ยเป้หันไปบอกบุหงา
“ขอบใจนะ”
“แล้วเสี่ยจะเอาไงต่อ”
“หนูสองคนหิวมั้ยล่ะ”
น้ำนั่งเงียบอยู่นานเลยพูดขึ้น
“หิวจนไส้จะขาดแล้วค่ะ”
“หนูแพน ขอยืมก่อนห้าร้อย เดี๋ยวเราหาซื้ออะไรไปกินกัน แล้วจะบอกว่าจะเอาไงต่อ คนอย่างเสี่ยเป้ไม่มีทางอับจนหรอก”
บุหงาอิดออดทำท่าไม่อยากให้
“แต่ว่า เมื่อกี้แพนจ่ายค่าน้ำมันรถไปแล้วนะคะ”
น้ำชักรำคาญเลยควักเงินห้าร้อยให้แทน
“จะเถียงกันอีกนานมั้ย เอ้านี่ น้ำให้ ไม่ต้องคืน”
เสี่ยเป้รับเงินจากน้ำไป น้ำรอจังหวะอยู่ รีบเปิดประตูรถทำท่าจะหนี แต่ไม่ไวไปกว่าบุหงาที่กระชากผมน้ำกลับมาพร้อมยิ้มเยาะ
“ไหนว่าหิวไง”
เสี่ยเป้เห็นท่าไม่ดี รีบสั่งบุหงา
“หาอะไรมามัดนังน้ำไว้”
เสี่ยเป้ขับรถมาถึงบังกะโลริมทะเลแห่งหนึ่ง เป็นบ้านพักเก่าๆ โทรมๆ ห่างไกลผู้คน เสี่ยเป้ บุหงาและน้ำที่ถูกมัดไว้หลวมๆ นั่งดูข่าวประกาศจับในทีวีแล้วเครียด หงุดหงิดมาก เสี่ยเป้ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาถีบทีวีล้ม สองสาวสะดุ้งตกใจ กลัว
“โธ่เว้ย ทำมันเป็นแบบนี้ไปได้วะ”
“ตำรวจออกหมายจับ ก็เท่ากับว่าโดนยึดทรัพย์สิน บัตรเครดิตก็ใช้ไม่ได้ ที่เสี่ยรูดเติมน้ำมันไม่ผ่าน ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง”
เสี่ยเป้คิดตามคำพูดบุหงาแล้วยิ่งเครียดมากขึ้น พยายามคิดหาทางออก
“เออ ไม่ต้องขยายความ อั๊วรู้หรอกน่า”
เสี่ยเป้ทำหน้าเหมือนคิดอะไรออก หันมาพูดกับบุหงา
“เงินสดที่เสี่ยโอนเข้าบัญชีหนูทุกเดือนไง ไปเบิกมาให้หน่อยสิ เสี่ยขอยืมก่อน”
บุหงาตกใจ หน้าซีด อ้อมแอ้มตอบเสี่ยเป้ไป
“ไม่มีหรอกค่ะเสี่ย ตอนนี้แม่เบิกไปเล่นไพ่ที่ปอยเปตหมดแล้ว”
เสี่ยเป้หน้าเสีย รู้สึกว่าความหวังสุดท้ายพังทลายไป
“โฮ้ย ไม่มีเงินแล้วจะหนีกันได้ยังไง”
เสี่ยเป้เดินไปมาเหมือนเสือติดจั่น
“ไอ้พวกตำรวจนี่ก็เหลือเกิน มันรู้ที่ซ่อนได้ไงวะ”
น้ำนั่งหน้าซีดส่อพิรุธ บุหงาหรี่ตามองน้ำแล้วเริ่มมั่นใจว่าเป็นน้ำแน่นอน
“แพนรู้ค่ะว่าพวกตำรวจมันรู้ที่ซ่อนได้ยังไง”
เสี่ยเป้หันมามองบุหงา สนใจมาก
รองวิเชียร เอกราช หมวดบัญญัติ จ่าพนมยังรอคอยการติดต่อของเสี่ยเป้
“เสี่ยเป้ไม่ติดต่อมาเลยใช่มั้ย ผมชักเป็นห่วงคุณน้ำ”
“ไม่เลยครับท่าน” จ่าพนมบอก
“งั้นคืนนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ่งนี้ 10 โมงเช้าประชุม ว่าเราจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง”
“ได้ครับท่าน”
“อ้อ แจ้งผู้กองพันกรกับมิวด้วยนะ”
“เดี๋ยวผมบอกให้เองครับ” เอกราชอาสา
“อีกเรื่อง ถึงตอนนี้เสี่ยเป้จะติดต่อมา ผมก็ไม่ต่อรองกับคนร้ายเด็ดขาด”
รองวิเชียรบอกหน้าเข้ม ทุกคนรับรู้สิ่งที่เจ้านายบอกและเห็นด้วย
เสี่ยเป้มองหน้าบุหงาว่าใครที่เป็นไส้ศึก
“ใครที่มันทรยศ บอกมาหนูแพน”
บุหงายิ้มแล้วเล่าเรื่องราวให้เสี่ยเป้ฟัง ยิ้มร้ายให้น้ำ
“แค่สงสัย ยังไงก็สู้มีหลักฐานไม่ได้”
บุหงาเดินมากระชากกระเป๋าถือของน้ำไป น้ำตกใจมาก พยายามกระชากกระเป๋าคืน
“แกจะทำอะไร เอากระเป๋าฉันคืนมานะ”
บุหงาหยิบกล้องสอดแนม ออกมาจากกระเป๋าของน้ำ น้ำหน้าซีด จนด้วยหลักฐาน เสี่ยเป้ตกใจ โกรธมาก จ้องน้ำสายตากร้าว เดินปรี่เข้ามาบีบคอน้ำอัดกระแทกกำแพง จนน้ำกลัว ยกมือขึ้นไหว้ขอความเห็นใจ
“เสี่ยคะ น้ำขอโทษ น้ำไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเสี่ยเลยนะคะ”
“ไม่เจตนา แต่แกพาพวกตำรวจมาจับอั๊วเนี่ยนะ”
เสี่ยเป้ออกแรงบีบคอน้ำหนักขึ้น จนน้ำสำลักหายใจไม่ออก น้ำพูดขอโอกาสเสี่ยเป้ตะกุกตะกัก
“น้ำขอโทษจริงๆ นะคะ น้ำขอโอกาสแก้ตัว”
ประภาพรรณไปยกถาดใส่อาหารมาให้พันกรเพราะห่วงว่าทำงานหนักมาแต่ไม่ได้กินข้าวเย็น
“คุณกรคะ อาบน้ำสบายตัวแล้ว กินข้าวก่อนนะคะ”
“ไม่เอา จะกินมิว”
พันกรทนไม่ไหว ไม่รอแล้ว รีบตรงเข้าไปกอดประภาพรรณไว้พร้อมอุ้มไปที่เตียง คราวนี้หญิงสาวไม่ขัดใจสามี เพราะรออ้อมกอดแสนรักอยู่เหมือนกัน
เสี่ยเป้หยุดบีบคอน้ำ น้ำร่วงลงไปหอบหายใจที่พื้น รู้สึกโล่งใจมากที่รอดตายมาได้ชั่วคราว เสี่ยหันไปสั่งบุหงาเสียงเครียด
“หนูแพน หาอะไรมามัดนังน้ำไว้ให้แน่นๆ ถ้ามันหนีเมื่อไหร่”
เสี่ยเป้ดึงเอาปืนที่พกไว้ออกมาขู่
“โป้ง”
บุหงายิ้มเยาะ แล้วรีบต่อรอง
“เสี่ยขา แพนพร้อมจะทำทุกอย่างที่เสี่ยสั่ง แต่เสี่ยต้องรับปากแพนก่อนว่าจะทำเรื่องเรื่องหนึ่งให้แพน”
ปทุมวดีใส่ชุดนอนพร้อมกับพอกหน้าลงครีมเรียบร้อยแล้ว แต่กลับเดินไปมา ไม่ยอมนอน ปรีชาชาญอยู่บนเตียงอีกฝั่ง เลิกอ่านหนังสือ เตรียมจะนอน อดถามไม่ได้
“ผมจะนอนแล้วนะ คุณหญิง พรุ่งนี้มีประชุมเช้ามาก”
“นี่ฉันจะต้องเสียลูกชายให้แม่มิวจริงๆ เหรอคะ คุณพี่”
ปรีชาชาญส่ายหน้าก่อนจะพูดอย่างอ่อนใจ
“ไม่มีใครเสียใครไปหรอก ถ้าเรารู้ว่าเราอยู่ในฐานะอะไร ตากรก็เป็นลูกชายคุณหญิงกับผม แล้วก็เป็นสามีของหนูมิว แค่ทุกคนปรองดองกัน บ้านก็เป็นสุข”
ปทุมวดีถอนหายใจ ยังทำใจไม่ได้ ทำท่าหยิบมือถือมาจะต่อหาราตรี
“ฉันต้องหาตัวช่วย คุณหญิงราตรีนอนรึยังนะ”
ปรีชาชาญเดินมาหยิบมือถือไปจากปทุมวดีอย่างอ่อนโยน
“ผมขอร้อง ภาษิตโบราณบอกว่า ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า เรื่องในครอบครัวเรา เราเคลียร์กันเองไม่ดีกว่าเหรอ คุณหญิง”
ปทุมวดีเริ่มคิด แล้ววางมือถือ ยอมล้มตัวลงนอน เป็นครั้งแรกที่เริ่มคิดเรื่องของประภาพรรณอย่างจริงจัง ปรีชาชาญแอบมองภรรยา ภาวนาให้คิดได้ ทำใจได้ เลิกอคติกับลูกสะใภ้
เสี่ยเป้ไม่มีทางเลือกมากนักเลยจำต้องรับปากบุหงาในสิ่งที่เธอขอ
“เรื่องอะไรล่ะ ถ้าเงิน ตอนนี้เสี่ยไม่มี แต่ถ้าหนูช่วยให้เสี่ยหนีได้ หนูจะเอาเท่าไหร่ เสี่ยก็พร้อมจะจ่ายนะ”
“เรื่องนั้นของแน่อยู่แล้วค่ะ”
“แล้วหนูจะให้เสี่ยทำอะไร”
“ช่วยแพนแก้แค้นค่ะ”
เสี่ยเป้มองหน้าบุหงา งงว่าเธอไปแค้นใคร
“แก้แค้นเหรอ คนสวยๆ อย่างหนูแพน ไปแค้นอะไรใครนักหนา”
“เสี่ยจะรับปากมั้ยล่ะ”
“ตกลง ถ้าหนูช่วยให้เสี่ยหนีได้ จะให้ไปฆ่าใครหรือทำอะไรก็บอกมา”
บุหงากับเสี่ยตีมือสัญญากัน น้ำมองทั้งสองคน พยายามคิดหาทางหนีแต่เหมือนบุหงาจะรู้ทัน รีบหยิบเอาเชือกเส้นใหญ่มาถือไว้ เสี่ยเป้รับเชือกไปจากบุหงา
“เอาเชือกมา เสี่ยจะมัดมันเอง นังนกต่อ”
บนเตียงนอน พันกรนั่งกอดประภาพรรณด้วยความรัก เพิ่งผ่านเวลาหวานชื่นมา
“ดึกแล้ว มิวว่าคุณกรนอนพักดีกว่านะคะ พรุ่งนี้เราต้องประชุมกับท่านรองวิเชียรแต่เช้า”
“ผมยังไม่ง่วงเลยอ้ะ แล้วมิวรู้ได้ไงว่าเราต้องประชุม”
ประภาพรรณยกมือถือของตัวเองกับพันกรให้ดูแล้วอธิบาย
“พี่เอกไลน์มาบอกค่ะ”
พันกรได้ยินชื่อเอกราชก็คิดถึงเรื่องบุหงาขึ้นมาได้
“จริงสิครับ มิว พอพูดถึงคุณเอกราช ผมนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้”
“อย่าบอกนะคะว่าจะหึง ไปต่อยพี่เอกแกอีก”
พันกรส่ายหน้าเขินๆ
“ผมขาดสติเพราะรักเมียนะครับ แต่งานนี้ไม่ใช่เรื่องนั้น”
“แล้วเรื่องอะไรคะ”
“เรื่องเกี่ยวกับคุณแพน”
พันกรหน้าเครียดที่ไม่รู้เรื่องบุหงาเป็น 18 มงกุฎมาก่อน
“ผมเนี่ยไม่ได้เรื่องจริงๆ มีพวก 18 มงกุฎเข้ามาวุ่นวายอยู่ในบ้าน แต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วมิวทำไมไม่บอกผมบ้าง”
“คุณเป็นตำรวจ ถ้ามิวบอกแต่ไม่มีหลักฐาน ก็จะกลายเป็นการปรักปรำจริงมั้ยคะ ยิ่งคุณแม่สามีไม่ชอบมิวอยู่แล้วด้วย ท่านหมายมั่นจะให้คุณแพนมาเป็นสะใภ้ตัวจริง ขืนมิวพูดไปก็หาว่าใส่ร้าย ท่านก็ยิ่งชังน้ำหน้ามิวเพิ่มขึ้นสิคะ”
พันกรดึงประภาพรรณมากอด เข้าใจภรรยามาก
“ก็จริงของมิว ผมรักมิวนะ”
“มิวก็รักคุณกรค่ะ”
“ตอนนี้เป็นหน้าที่ที่ผมจะพิสูจน์บ้างว่า ผมรักมิวมาก ผมจะหาหลักฐานเรื่องคุณแพนมาเปิดหูเปิดตาคุณหญิงแม่ให้สว่างด้วยตัวเองครับ ผมสัญญา”
ประภาพรรณโผเข้าซบกอดสามี ดีใจมาก
“ขอบคุณค่ะ”
จบตอนที่ 22
***หมายเหตุ มีการปรับเวลาออกอากาศใหม่ตั้งแต่ วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 08.30/13.25/19.40 น.
ติดตามชมละคร “สะใภ้รสแซ่บ” ได้ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 08.30/13.25/19.40 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี (รับชมผ่านกล่องดิจิตอล และซันบ็อกซ์ กดเลข 27 ส่วนกล่องรับสัญญาณดาวเทียม กดเลข 37)