xs
xsm
sm
md
lg

ห้องหุ่น ตอนที่ 5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ห้องหุ่น ตอนที่ 5

พิไลวิ่งเก็บข้าวของที่ปลิวในห้อง พรรณีไต่เพดานตามมาดูด้วยสายตาไม่พอใจ
 
พิไลเก็บของชะงัก รู้สึกเหมือนมีใครมอง ก่อนมองไปรอบๆท่ามกลางบรรยากาศอย่างหลอนๆน่ากลัว
แต่ไม่มีอะไร ลมยังพัดเข้ามาอย่างรุนแรง พิไลรีบเก็บของต่อ หุ่นนางพยาบาลไต่เพดานตามจ้อง
พิไลชะงักอีก ยืนนิ่งอย่างตัดสินใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานทันที บนเพดานว่างเปล่ามีแต่
จิ้งจกเกาะอยู่ พิไลถอนหายใจเฮือก
"นังพิไลแกนี่ถ้าจะบ้าไปแล้ว จิ้งจกมองก็ประสาทไปได้"
พิไลเก็บของที่ปลิวเร็วๆแบบลวกๆ วิ่งไปที่ประตูกระชากออกอย่างแรงประตูเปิด พรรณีหล่นลงมาอย่างเร็ว
พิไลตกใจสุดขีดกรี๊ดลั่น
"ว้าย"
พิไลหมดสติไปทันที พรรณีเข้ามายืนมองพิไลอย่างน่ากลัว

อาทรเดินนำสันติมาที่รถของอาทร สันติมองถามแปลกใจ
"ตกลงนายจะพาฉันไปไหน บ่ายมีเรียนนะ"
"น่า รีบไปรีบกลับยังไงก็ทัน"
"ก็"เอ้าบอกก็ได้ ฉันจะชวนนายไปซื้อของให้น้องอัม"
สันติมองอาทรอย่างไม่เข้าใจ อาทรบอกยิ้มๆ
"พรุ่งนี้เป็นวันเกิดน้องอัม"
สันติตื่นเต้น
"จริงเหรอ"
"เออ ขึ้นรถได้แล้วใช่มั้ย"
สันติถอนใจ
"ไม่ล่ะ ไปเถอะ"
อาทรงง
"อ้าว...ทำไม ไม่คิดจะซื้ออะไรให้น้องอัมเลยเหรอ"
สันตินิ่ง สีหน้าหมองๆ
"ฉันไม่มีเงินเหมือนนาย ทุกบาททุกสตางค์ต้องเก็บไว้ใช้เรื่องที่จำเป็นจริงๆ"
สันติมองอาทรอย่างขอบใจ
"ขอบใจนะที่อุตส่าห์บอก นายไปเถอะ แล้วก็รีบกลับมาให้ทันชั่วโมงเรียนล่ะ"
สันติโบกมือให้แล้วเดินกลับไปที่คณะ อาทรมองอึ้งๆ สันติเดินไปคิดไป นึกว่าจะทำอะไรให้อัมราได้บ้าง

สันติเดินนำอัมรามายังมเงียบๆ บรรยากาศร่มรื่น สันติปัดเก้าอี้ให้หันมาบอกอ่อนโยน
"น้องอัมนั่งตรงนี้นะครับ พี่ขอเวลาเดียวเดี๋ยว"
อัมรามองแปลกใจ
"จะให้อัมนั่งทำอะไรคะ"
อัมราถามแต่ก็เดินไปนั่งโดยดี
"นั่งสบายๆครับ ไม่ต้องเกร็ง"
สันติถอยออกไปนิดหนึ่ง หยิบสมุดวาดรูปเล่มใหญ่กับดินสอออกมา สันติลงมือร่างรูปหน้าอัมราคร่าวๆอย่างว่องไว อัมราหัวเราะ
"อ๋อจะให้อัมเป็นนางแบบให้ก็ไม่บอก งั้นขอเก๊กหน้าหน่อยได้มั้ยคะ"
"เอาเลยครับตามสบาย เอาแบบธรรมชาติๆนะครับ"
อัมรายิ้มซนๆ
"ธรรมชาติเหรอคะ ได้เลยคะ"
อัมราแกล้งยิ้มขำๆตลกๆแต่น่ารัก ออกท่าทางคิกขุๆประกอบ สันติอดขำไม่ได้ หยุดวาดหัวเราะอ่อนใจ พูดไปหัวเราะไป
"แบบนี้พี่จะวาดได้ยังไงละครับ"
อัมราทำไม่รู้ไม่ชี้
"อ้าวก็ไหนว่าจะเอาแบบธรรมชาติๆไงคะ"
"เอาอย่างนี้นะครับ เอาเป็นนั่งนิ่งๆก็พอ"
"ได้ค่ะ"
อัมราแกล้งอีก นั่งนิ่งตัวตรง หน้าตาทื่อเหมือนหุ่น สันติลงมือวาดแล้วชะงักอีก ส่ายหน้า ทำเสียงดุๆ
"น้องอัมครับ พี่วาดรูปคนนะ ไม่ใช่หุ่น"
อัมราหัวเราะ
"ก็ได้ ไม่แกล้งแล้วคะ"
"แน่นะครับ"
"ค่ะ แต่พี่อาร์ตต้องแนะนำอัมหน่อยสิคะว่า จะนั่งเป็นแบบยังไงให้รูปออกมาสวยๆ"
"น้องอัมสวยอยู่แล้ว แต่พี่อยากได้แววตาที่แสดงความรู้สึกจากภายในใจจริงๆ"
"นั่นละคะที่อัมทำไม่ได้"
"เอาอย่างนี้ น้องอัมคิดถึงเรื่องที่ตัวเองมีความสุข หรือประทับใจอะไรก็ได้ เดี๋ยวความรู้สึกมันก็จะออกมาทางแววตาเอง"
อัมราพยักหน้าเข้าใจ
"อ๋อได้ค่ะ"

สันติเริ่มลงมือร่างภาพ อัมราสีหน้าอ่อนโยน ยิ้มน้อยๆ

ภาพแห่งความสุข ... นึกถึงตอนที่สันติพุ่งเข้ามากระชากตัวอัมราให้พ้นจากรัศมีรถอย่างหวุดหวิด
 
เธออยู่ในอ้อมกอด สันติมองอย่างตะลึง ... อัมรายิ้มมีความสุข แววตาเปล่งประกายวิบวับ
ตอนที่อัมรายืนมองทะเลอย่างสดชื่น สันติเผลอจ้องด้วยสายตาลึกซึ้ง เธอชะงัก หน้าแดง"เอ้อ เราเดินกันต่อเถอะค่ะ"
อัมราเดินออกไป แล้วสะดุดหิน เซจะล้ม สันติเข้ามารับไว้ได้ในอ้อมกอด ... สีหน้า แววตาของอมราฉายความสุขออกมาอย่างชัดเจน สันติที่กำลังวาดภาพ ชะงัก เผลอจ้องมองอย่างตะลึง

ภายในบ้านเช่า พิไลค่อยๆได้สติ ลุกพรวดพราดมองรอบๆอย่างหวาดๆ แล้ววิ่งไปมองหน้าประตูที่เห็นอะไรตกลงมา แต่ไม่มีอะไร ทุกอย่างในห้องปกติ พิไลลังเลพึมพำ
"ก็ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย หรือว่าเราจะประสาทหลอนไปเอง"
พิไลสะบัดหัวไล่ความกลัวออกไป
"มัวกลัวบ้าอะไรอยู่ได้นังพิไล ไม่ได้การล่ะ"
พิไลวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าคว้าชุดที่ดีที่สุดมาเปลี่ยน วิ่งไปหน้ากระจกหวีผม เติมแป้งอย่างรีบด่วน
มองตัวเองที่ดูดีขึ้นอย่างพอใจ จ้องเงาในกระจกแววตาหมายมาด

สันติกับอัมราเดินมาตามทางคุยกันมา
"ขออัมดูหน่อยไม่ได้เหรอคะ"
"ยังไม่ได้ครับ ยังไม่เสร็จพี่แค่ร่างเค้าโครงหน้า ยังต้องไปลงรายละเอียดอีกครับ"
"แล้วจะบอกอัมได้หรือยังคะว่าจะวาดไปทำไม"
"เป็นความลับครับ"
อัมราแกล้งงอน
"แน้... พี่อาร์ตขี้โกงนี่นา บอกหน่อยไม่ได้เหรอคะ"
สันติส่ายหน้า แล้วนึกอะไรได้
"ตอนเป็นแบบสีหน้าแววตาน้องอัมดูมีความสุขมากๆ บอกหน่อยได้มั้ยครับว่าตอนนั้นน้องอัมคิดเรื่องอะไรอยู่"
อัมราหน้าแดง เขินแต่รีบย้อนคำพูดสันติ
"เป็นความลับค่ะ"
สองคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข สันติชะงักมองข้ามไหล่อัมราไปด้านหลัง
"มีอะไรคะ"
สันติชี้ไปด้านหลัง อัมรามองเห็นพิไลเดินมาตามทางมองหาทั่วๆ
"นั่นมันป้าพิไลเพื่อนคุณอาเดช ที่พี่เล่าให้ฟังไงครับ"
ขาดคำสันติ พิไลรีบเดินเข้ามาหา ถามห้วนๆ ไม่สนใจอัมรา
"นี่เธอพี่เดชสอนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย"
"ครับ"
อัมรามองไปเห็นรถพ่อขับผ่านมา แต่รีบเบรกรถ มองตกใจ ก่อนจะรีบขับเลี้ยว
ออกไปอีกทางอย่างรวดเร็ว ขณะที่สันติ พิไลไม่เห็นเดช อัมรามองอึ้ง
"งั้นไปตามพี่เดชมาให้ฉันหน่อย ฉันจะรออยู่แถวนี้"
อัมรารีบขัดขึ้น
"วันนี้คุณพ่อไม่มีสอนค่ะ คุณป้ามีธุระอะไรกับคุณพ่อเหรอคะ"
พิไลหันมาจ้องอัมรา ตวาด
"เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว ไม่อยู่ก็แล้วไป"
พิไลสะบัดกลับไป สันติกับอัมราได้แต่มองตามอย่างแปลกใจ อัมราแปลกใจมากเป็นพิเศษ

บนโต๊ะกินข้าวบ้านเดช อัมรา พรรณราย อารีย์นั่งรอชิ้นตักข้าวอยู่ อารีย์ชะเง้อมองไปทางหน้าบ้าน
"ทำไมคุณพ่อยังไม่กลับอีก ไม่เห็นบอกแม่เลยว่าจะกลับมืด"
ทุกคนเริ่มลงมือทานข้าวไปเรื่อยๆ
"จริงด้วย วันนี้มีเพื่อนคุณพ่อมาหาที่มหา’ลัยด้วยค่ะ"
อารีย์ชะงัก
"เพื่อนที่ไหนจ้ะ"
อัมรานึกได้
"อัมลืมบอกคุณแม่ไป วันนี้พี่อาร์ตเจอคุณพ่อที่วัดค่ะ ตอนจะกลับเห็นว่าเจอเพื่อนเก่า คุณพ่อเลยไปกับเพื่อนคนนั้น"
อารีย์ฟังอย่างตั้งใจ
"รู้มั้ยลูกว่า เพื่อนผู้ชายหรือผู้หญิง"
"ผู้หญิงค่ะแล้วตอนบ่ายๆเค้าก็มาที่มหา’ลัยอีกแต่ไม่เจอคุณพ่อค่ะ"
พรรณรายพูดลอยๆไม่ได้ใส่ใจ
"ใครกัน ปกติไม่เห็นคุณพ่อจะมีเพื่อนผู้หญิงเลย"
"เหมือนจะชื่อ..พิไลค่ะ"
ขาดคำ อารีย์ทำช้อนตกเสียงดัง สีหน้าตกใจมาก คนอื่นหันมามองเป็นตาเดียว อารีย์รีบหัวเราะกลบเกลื่อน
"ไม่มีไรหรอกลูก มือไม่ค่อยมีแรง"
"คุณแม่ไม่สบายอีกหรือเปล่าคะ"
"ไม่จ้ะแม่สบายดี เอ้าทานข้าวกันต่อเถอะ"
อารีย์ชวนคุยโน่นนี่กลบเกลื่อน อัมรากับพรรณรายไม่ทันสงสัย แต่อารีย์เครียด

คืนเดียวกัน สันติทำงานในวัดหลายอย่าง เช่นกวาดลานวัด ตักน้ำใส่โอ่ง ถูศาลาวัด ฯลฯ
เสร็จแล้วสันติ ถือสมุดวาดรูปกับดินสอ มานั่งที่ศาลา เปิดสมุดมองรูปวาดของอัมรา ยิ้มกับรูปก่อนลงลงรายละเอียดของรูปอย่างตั้งใจ ผ่านเวลา... รูปวาดอัมราสวยมาก สันติเก็บรายละเอียดไปเรื่อยๆอย่างชำนาญ สีหน้ามีรอยยิ้มนิดๆอย่างมีความสุขมาก

ในห้องหุ่น หุ่นทุกตัวสงบนิ่งอยู่ท่าของตน เดชนำอัมราลงมาอย่างรีบร้อน ทั้งคู่อยู่ตรงปลายบันไดทางลง
"คุณพ่อมีอะไรกับอัมเหรอคะ"
"วันนี้อัมเห็นพ่อที่มหา’ลัยใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"ผู้หญิงคนนั้นเค้ามาทำไม" เดชถาม
อัมราแปลกใจ

"เค้าเป็นเพื่อนคุณพ่อไม่ใช่เหรอคะ"

เดชอึกอัก
 
"ก็ใช่..เค้ามาพูดอะไรกับลูก"
"เค้ามาถามหาคุณพ่อนะคะ"
"แค่นั้นเหรอ"
"ค่ะ คุณพ่อก็เห็นเค้า แล้วทำไมคุณพ่อต้องรีบขับรถหนีละคะมีอะไรหรือเปล่าคะ"
เดชนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนตอบ
"คือเค้าเดือดร้อนเรื่องเงิน แต่พ่อก็ช่วยไปหลายครั้งแล้ว"
"อ๋อ..."
เดชจับตัวอัมรา กระซิบ
"อัมอย่าบอกเรื่องนี้กับแม่ได้มั้ย คือพ่อไม่อยากให้แม่เค้าไม่สบายใจน่ะ"
อัมราหน้าเสีย
"คุณแม่รู้แล้วค่ะ"
เดชอึ้ง หน้าซีดเผือด อัมรารีบบอก
"แต่คุณแม่ไม่เห็นพูดอะไรเลยนี่คะ อัมว่าการที่คุณพ่อช่วยเหลือเพื่อนเก่าที่เดือดร้อน คุณแม่คงเข้าใจคะ"
เดชพยักหน้า
"ก็คงงั้น เราขึ้นข้างบนกันเถอะลูก"
เดชนำอัมรากลับขึ้นไป อารีย์ได้ยินทั้งหมด นั่งร้องไห้ เสียใจมาก ปิดหน้าร้องไห้สะอื้น ขณะที่สีหน้าหุ่นทุกตัวหันมามองอารีย์ อย่างโกรธแทน

คืนนั้น พิไลนอนก่ายหน้าผาก คิดหาทางจับเดช ลุกนั่งหงุดหงิด
"คิดแผนดีๆให้มันออกมาเร็วๆสินังพิไล คิดๆๆๆ"
ลมพายุพัดวูบมาอย่างแรงจนกลอนหน้าต่างหลุด ตีเข้ามาเสียงดัง พิไลสะดุ้งหันไปมอง
รู้สึกหลอนขึ้นมาอีก แต่แล้วแกล้งทำเสียงดัง ปลอบใจตัวเอง
"โว้ยผีเผอมันไม่มีในโลกหรอกวะ กลัวไปได้"
พิไลขยับลุกขึ้น ไฟดับพรึ่บ พิไลกรี๊ด
"ว้ายจะมาดับอะไรตอนนี้เนี่ย แล้วนี่เทียนมันอยู่ที่ไหนกันละมืดแบบนี้จะหาเจอมั้ยวะ"
พิไลคลำหาเทียนในความมืด ลมพัดแรง หน้าต่างตีกันเสียงดัง พิไลหันมาเห็นเงาคนวูบ
ผ่านไปด้านหลังอย่างเร็ว พิไลชะงักเพ่งมอง
"ใคร"
เงาคนวูบผ่านไปอีกทาง พิไลชักใจไม่ดี
"ฉันถามว่าใคร"
"ไอ้เทิด..แกเหรอ แกใช่มั้ย" เงียบไม่มีเสียงตอบ "อย่ามาเล่นบ้าๆนะ"
เสียงฝีเท้าคนหลายคนเดินกันทั่วบ้าน เสียงข้าวของถูกโยนดังจากมุมโน้นบ้าง มุมนี้บ้าง
พิไลอึ้ง ไฟเปิดๆปิดๆให้เห็นว่าของหล่นมาที่พื้นทั้งๆที่ไม่มีใคร
พิไลถอยกรูด ติดฝาผนัง เสียงฝีเท้าทุกคนเหมือนตรงเข้าหาพิไล พิไลกรี๊ด
"ว้าย..ผีหลอก"
พิไลตัดสินวิ่งออกจากห้อง ล้มลุกคลุกคลานออกจากบ้าน เสียงหัวเราะของหุ่นทุกตัว
ประสานกันไล่ตามหลังพิไลไปอย่างน่ากลัว

คืนนั้น สันติวาดรูปอัมราเสร็จ สันติมองอย่างพอใจ แล้วม้วนภาพไว้ หลวงตาเดินเข้ามาทัก"อ้าวเจ้าเองรึ หลวงตาก็นึกว่าใครมานั่งอยู่"
สันติรีบหันมา
"ผมทำงานอยู่ครับ"
"ดึกมากแล้วนะพรุ่งนี้ต้องไปเรียนไม่ใช่รึ"
"ครับ ผมทำเสร็จพอดี จะไปนอนแล้วครับ"
หลวงตาพยักหน้า ได้ยินเสียงพิไลร้องแล้ววิ่งเข้ามา
"ช่วยด้วย..ช่วยด้วย"
หลวงตากับสันติเพ่งมอง พิไลเห็นพระรีบวิ่งเข้ามากราบลนลาน
"หลวงพ่อช่วยด้วยค่ะช่วยฉันด้วย"
สันติจำได้แปลกใจ
"มีอะไรรึโยมวิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว"
"ผี..ผีหลอกฉันค่ะมันตามมาตลอดเลย"
หลวงตามองไปข้างหน้าทางเข้าวัดไม่มีอะไร หลวงตาหลับตาเห็นหุ่นเดินมาช้าๆ แต่ละตัวหน้าตาท่าทางน่ากลัว แต่พอถึงเขตวัด หุ่นก็หยุดชะงัก หลวงตาเข้าใจ พึมพำบทสวดมนต์ เกิดรัศมีสีทองระยิบระยับเหนือหัวหุ่น โปรยปรายลงมาต้องร่างหุ่น หุ่นท่าทางเปลี่ยนไปอ่อนโยนลง มองมาทางหลวงตา
"การทำร้ายคนเป็นบาป อย่าก่อเวรสร้างกรรมกันเลยกลับไปเสียเถอะ หุ่นยกมือไหว้ แล้วหายวับไป หลวงตามองพิไล"
"ไม่มีอะไรหรอก โยมกลับไปได้แล้วล่ะ"
"แต่..เดี๋ยวพวกมันก็จะมาหลอกฉันอีกนะสิคะ หลวงพ่อพอจะมีสายสิญจน์หรือพระดีๆบ้างมั้ยคะ"
หลวงตามองพิไลพิจารณา
"ของพวกนั้นน่ะไม่จำเป็นหรอก ถ้าโยมไม่คิดร้ายกับใครก่อนก็ไม่มีใครทำร้ายโยมได้เชื่ออาตมาสิ"
พิไลไม่ค่อยพอใจ หลวงตามองปรานี สอนให้คิด
"คนเราเวลามาก็มาตัวเปล่า เวลาละโลกไปก็ไปตัวเปล่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่หมั่นทำความดีไว้ดีกว่านะโยม ความดีเท่านั้นที่จะคุ้มครองโยม"
หลวงตาหันกลับเดินไป พิไลอึ้ง สันติถามมีน้ำใจ
"มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ"
พิไลหันมาจ้อง ไม่ชอบหน้า
"ไม่ต้อง เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ"
พิไลเดินออกไป ถึงหน้าวัดมองรอบๆอย่างระแวงแล้วรีบวิ่งกลับบ้าน
 
สันติมองตาม ถอนใจ แต่สีหน้าสงบไม่โกรธ เดินตามหลวงตากลับกุฎิ

บรรยากาศในมหาวิทยาลัยตอนเช้า บริเวณโต๊ะใต้ต้นไม้ ทั้งสี่คนอยู่พร้อมหน้ากัน ยกเว้นจุฑา
 
ทุกคนกำลังร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้อัมรากันอย่างร่าเริง จุฑาเดินผ่านมามองอย่างไม่พอใจ เพลงจบพอดี อัมรายิ้มสดใส เพลงจบทุกคนปรบมือ
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณทุกๆคนเลย"
จุ๊บเข้ามาร่วมวง
"วันเกิดน้องอัมเหรอ"
"ค่ะ"
นุชนารถยื่นกล่องของขวัญให้
"นี่จ้ะของขวัญของฉันเปิดดูเลยนะ"
อัมรารับมา "ขอบใจนะนุช"
อัมแกะเปิดออกดูเป็นผ้าเช็ดหน้า "น่ารักจัง"
อาทรยื่นของขวัญให้บ้าง
"สุขสันต์วันเกิดนะครับน้องอัม"
"ขอบคุณค่ะ"
จุฑามองหมั่นไส้ นุชเชียร์
"แกะเลยอัม กล่องใหญ่จัง อะไรเอ่ย"
อัมราแกออกเป็นตุ๊กตาน่ารัก
"โห..ตุ๊กตาน่ารักจัง ขอบคุณค่ะพี่ออย"
อัมรากอดตุ๊กตา หอมด้วย อาทรยิ้มดีใจมาก จุฑามองสันติที่ไม่ได้ถือกล่องอะไรเลย
นอกจากสะพายกระเป๋าใบเดิม จุฑาสะใจรีบพูด
"ของพี่กับของพี่อาร์ตเอาไว้เราจะซื้อรวมกันให้น้องอัมแล้วกันนะจ้ะ รู้กระทันหันเลยเตรียมไม่ทัน ... นะอาร์ตเดี๋ยวเราซื้อให้น้องอัมด้วยกัน"
อัมราหน้าจ๋อยๆ สันติหันไปบอก
"อาร์ตเตรียมของให้น้องอัมแล้ว"
สันติเปิดกระเป๋า หยิบรูปที่ม้วนไว้ออกมา ยื่นส่งให้
"พี่ไม่มีอะไรที่มีค่าให้นอกจากของขวัญที่ทำจากใจครับ ขอให้น้องอัมมีความสุข สมหวังในทุกๆสิ่งที่ต้องการ"
อัมรารีบวางตุ๊กตาของอาทร รับม้วนรูปมาเปิดดู เป็นรูปวาดตัวเองที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว อัมราประทับใจมาก
"ที่แท้ความลับของพี่อาร์ตก็คือของขวัญวันเกิดให้อัมน่ะเอง"
สองคนมองตากันอย่างเข้าใจกัน อัมรายิ้มน้ำเสียงปลื้มสุดๆ
"ขอบคุณค่ะพี่อาร์ต อัมชอบมากชอบที่สุดเลยค่ะ"
" เหมือนตัวจริงมากเลย พี่อาร์ตวาดเก่งจังคะ" นุชนารถบอก
"เป็นของขวัญที่ถูกใจที่สุดเลยค่ะ"
อัมราสนใจรูปอย่างลืมตัว นุชก็ตื่นเต้นอยู่ใกล้ๆ สันติยิ้มไม่ทันสังเกต สีหน้าไม่พอใจ
ของจุฑา อาทรแววตาที่เปลี่ยนไป มองที่ตุ๊กตาซึ่งถูกทิ้งอยู่บนโต๊ะอย่างเศร้าๆ

อัมรานั่งรอเรียนอ่านหนังสืออยู่ในห้องท่ามกลางนักศึกษาคนอื่นๆ ครู่หนึ่ง... เธอหยุดอ่าน
หันไปหยิบม้วนรูปออกมาเปิดดูภาพตัวเองอีก อัมรายิ้มสีหน้ามีความสุข แต่แล้วต้องสะดุ้ง จุฑายื่นกล่องขนมมาตรงหน้า
"ของขวัญของพี่จ้ะ"
อัมรายิ้มเกรงใจ
"ขอบคุณค่ะพี่จุ๊บ ที่จริงไม่ต้องเสียเงินซื้อให้อัมก็ได้ค่ะ"
จุฑาลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆยิ้มแย้ม
"แหมไม่เป็นไรหรอกจ้ะทั้งพี่ ออยแล้วก็อาร์ตก็เห็นน้องอัมเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง วันเกิดทั้งทีไม่มีอะไรให้ได้ไง"
จุฑามองรูปในมืออัมรา คุยสนิทสนม
"ฝีมืออาร์ตเค้าดีจริงๆนะเนี่ย ปั้นก็เก่งวาดรูปก็เหมือน น้องอัมคงชอบรูปนี้มากสิคะ"
"ค่ะอัมชอบมากๆ"
"เหมือนพี่เลยค่ะ ตอนแรกที่อาร์ตเค้าวาดรูปให้พี่นะ โอ๊ยพี่งี้ตื่นเต้นยิ่งกว่าน้องอัมอีก"
อัมราอึ้ง
"เออ...พี่อาร์ตเคยวาดรูปให้พี่จุ๊บด้วยเหรอคะ"
"ค่ะ..แหมพูดแล้วจะว่าคุย พี่นะน่ะเป็นนางแบบคนแรกของอาร์ตเค้าเลยล่ะ"
อัมราหน้าซีด จุฑาคุยต่อเหมือนไม่รู้สึก
"คิดแล้วก็ยังขำไม่หายเลย พี่ไม่อยากเป็นเพราะไม่ชอบนั่งนิ่งๆ แต่อาร์ตเค้าก็อ้อนวอน ทำทุกอย่างที่พี่ขอเลยนะเพราะอยากให้พี่เป็นแบบให้ เค้าบอกว่าอยากวาดรูปพี่เป็นคนแรก แต่พอรูปเสร็จออกมาก็คุ้มจริงๆค่ะ"
อัมราจ๋อย จุฑาแอบมอง สีหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาสะใจ

ในห้องปั้นหุ่น สันติ อาทร ช่วยกันปั้นอยู่คนละด้าน สันติชะงักมองอาทรที่เหม่อๆไม่ค่อยมีสมาธิ
"ออย"
อาทรไม่ได้ยิน สันติเรียกดังขึ้น "ออย"
อาทรสะดุ้ง "ว่าไงนะ"
สันติหยุดปั้น
"นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเหมือนไม่มีสมาธิเลย"
อาทรลูบหน้าตัวเอง
"ไม่รู้สิ..มันไม่มีสมาธิจริงๆนั่นแหละ นายทำไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวฉันมา"
อาทรวางเครื่องมือปั้นจะออกไป สันติเรียกไว้
"เดี๋ยวออย..นายไม่เคยเป็นแบบนี้นะ เกิดอะไรขึ้น ทำท่าเหมือนคนอกหัก"
อาทรชะงักหน้าเสีย สันติตกใจ
"นี่นายอย่าบอกนะว่านายแอบไปชอบใคร"
อาทรอึ้ง สันติรีบรุก

"ใครน่ะออย บอกกันบ้างสิเผื่อฉันช่วยอะไรได้"

ห้องหุ่น ตอนที่ 5 (ต่อ)

อาทรจ้องสันติ ถามจริงจัง
 
"ถ้าบอก นายจะช่วยฉันจริงๆเหรอ"
"จริงสิเราเป็นเพื่อนกันนะ นายคอยช่วยฉันตั้งหลายอย่าง ถ้าช่วยได้ ฉันต้องช่วยนายแน่นอน"
อาทรนิ่งแล้วยิ้มออกมาได้ ท่าทางร่าเริงเหมือนเดิม
"เฮ้ย ดูถูกกันเกินไป คนอย่างนายออย ถ้าชอบใครไม่ต้องให้เพื่อนช่วยหรอก แค่สายตาฉัน ใจสาวก็ละลายแล้ว"
อาทรหัวเราะร่าเหมือนไม่มีอะไร สันติเลยหัวเราะตาม อาทรตบบ่าสันติ
"ไปหาอะไรกินก่อนนะ สงสัยคงหิวเลยไม่มีสมาธิ"
อาทรออกไป สันติมองตามส่ายหน้าขำๆ ก่อนหันไปลงมือปั้นต่ออย่างตั้งใจ

เวลาต่อมา อัมรากับนุชนารถเดินลงมาจากตึกคณะฯด้วยกัน อัมท่าทางครุ่นคิด นุชนารถชวนคุยไม่ทันสังเกต
"นี่รู้มั้ยอัม ฉันเคยอ่านเจอในหนังสือนะ เค้าบอกว่าถ้าผู้ชายวาดรูปให้ผู้หญิง แสดงว่าเค้าต้องสนใจเรามากๆเลย เนี่ยพี่อาร์ตต้องปิ๊งเธอแน่ๆ"
"ไม่ใช่หรอก"
"ใช่สิน่า มองไม่ผิดหรอก คนอย่างพี่อาร์ตไม่วาดรูปให้ใครง่ายๆถ้าพี่เค้าไม่สนใจ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยิ่งแสดงว่าพี่อาร์ตไม่ได้คิดอะไรกับอัมอย่างที่นุชพูด"
"ทำไม"
"ก็พี่อาร์ตวาดรูปให้พี่จุ๊บเหมือนกัน"
"จริงเหรอ"
"จริงสิ แถมพี่จุ๊บยังเป็นนางแบบคนแรกให้พี่อาร์ตด้วย"
"ใครบอกอัมล่ะ..พี่จุ๊บใช่มั้ย"
"รู้ได้ไง"
"โธ่เอ๊ย ก็ดูออกนี่ว่าพี่จุ๊บน่ะชอบพี่อาร์ต คงหมั่นไส้อัมสิ ถึงพยายามมาพูดโน่นนี่ให้เข้าใจผิด เห็นมั้ยแล้วมันก็ได้ผลจริงๆ"
อัมรานิ่ง นุชนารถไม่ยอม
"เอางี้ เราไปถามพี่อาร์ตด้วยกันเลยดีกว่า ว่าพี่จุ๊บเป็นนางแบบคนแรกของพี่อาร์ตจริงหรือเปล่า"
"ไม่เอาหรอก อยู่ๆไปถามแบบนี้ น่าเกลียดแย่"
นุชนารถดึงแขนอัมรา
"ไปเถอะน่า ไม่ถามทื่อๆออกไปหรอก ฉันมีวิธี ไปเร็ว"
อัมไม่อยากไป แต่นุชดึงอัมราไปจนได้

สันติตกแต่งโครงดินเหนียวอย่างตั้งใจ จุฑาเข้ามามองหาอาทร
"อ้าว... ออยไปไหนละอาร์ต"
"ไปหาอะไรกิน บ่นว่าหิว สงสัยอยู่แล้วเชียวว่าไม่ค่อยมีสมาธิ"
สันติหยุดทำงานหัวเราะ จุ๊บงง
"ขำอะไรเหรอ"
"ก็อาร์ตนะสิดันไปสงสัยนึกว่า ออยอกหัก ก็เห็นเหม่อๆเศร้าๆ"
จุฑาคิดนิดหนึ่ง เดินเข้าไปใกล้สันติ
"ออยอกหักจริงๆ"
สันติชะงัก
"อะไรนะ"
จุฑามองซ้าย มองขวาก่อนเข้าไปกระซิบที่หูสันติ ฝ่าย นุชนารถดึงอัมรามาถึงหน้าห้องพอดี
สองคนชะงักมอง อัมราตะลึง นุชนารถอึ้งกับภาพตรงหน้า อัมรารีบผละไปอย่างรวดเร็ว นุชนารถรีบตามอัมรา
จุฑาผละออกจากสันติ สันติหน้าเผือด
"จุ๊บพูดจริงๆใช่มั้ย"
"ยิ่งกว่าจริงซะอีก ออยกำชับไม่ให้จุ๊บบอกอาร์ต เพราะเค้าคิดว่าอาร์ตชอบน้องอัม แต่จุ๊บว่าอาร์ตชอบอัมอย่างน้องสาวมากกว่าจริงมั้ยล่ะ"
สันติอึ้งไม่ตอบ จุฑามองน้อยใจแต่รีบพูดต่อ
"แต่ออยคงไม่เชื่อ ยิ่งเห็นอาร์ตวาดรูปให้น้องอัม เค้าคงคิดว่าอาร์ตชอบน้องอัมแน่ๆเลย หน้างี้ซีดเลยล่ะ เอ้อ..ว่าแต่อาร์ตไม่ได้ชอบน้องอัมอย่างคนรักใช่มั้ย"
สันติพยักหน้าช้าๆ จุฑายิ้มกว้าง
"งั้นก็เยี่ยมเลยจุ๊บว่าเรามาช่วยให้สองคนนี่เค้าสมหวังกันดีมั้ย เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก พ่อแม่ของสองบ้านก็อยากให้ดองกัน สมกันยังกับกิ่งทองใบหยกเลย ว่ามั้ย"
สันติพยักหน้าเหมือนคนไร้ความรู้สึก จุฑาแอบมองท่าทางสันติอย่างพอใจ รีบกำชับ
"แต่อาร์ตห้ามบอกออยเด็ดขาดนะว่าจุ๊บบอก"
สันติพยักหน้า สีหน้าสับสน จุฑาแอบมองอย่างพอใจ

ตอนกลางคืน สันติกวาดลานวัดช้าๆ ครุ่นคิด ถอนใจ เลิกกวาด เดินไปนั่งที่ศาลาวัดอย่างเศร้าๆ นึกถึงตอนที่อาทรจ้องสันติ ถามจริงจัง
"ถ้าฉันบอกนาย นายจะช่วยฉันจริงๆเหรอ"
"จริงสิเราเป็นเพื่อนกันนะ นายคอยช่วยฉันตั้งหลายอย่าง ถ้าฉันช่วยได้ฉันต้องช่วยนายแน่"
อาทรนิ่งแล้วยิ้มออกมากได้ ท่าทางร่าเริงเหมือนเดิม
สันติมองรอบๆวัด ถอนหายใจ เสียงจุฑาดังเข้ามาในความคิด
"งั้นก็เยี่ยมเลย จุ๊บว่าเรามาช่วยให้สองคนนี่เค้าสมหวังกันดีมั้ย เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก พ่อแม่ของสองบ้านก็อยากให้ดองกัน สมกันยังกับกิ่งทองใบหยกเลย ว่ามั้ย"
สันติสีหน้าเครียด ครู่หนึ่งสีหน้าท่าทางเหมือนคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
 
เขาลุกขึ้นถอนใจ ก่อนหันหลังเดินกลับไปที่กุฏิ

คืนเดียวกัน อัมราเห็นดวงจันทร์บนท้องฟ้าที่ระเบียงห้อง หน้าเศร้าๆ นึกถึงตอนที่จุฑาคุย
 
"ค่ะ..แหมพูดแล้วจะว่าคุย พี่นะนะเป็นนางแบบคนแรกของอาร์ตเค้าเลยล่ะ... คิดแล้วก็ยังขำไม่หายเลย พี่ไม่อยากเป็นเพราะไม่ชอบนั่งนิ่งๆ แต่อาร์ตเค้าก็อ้อนวอน ทำทุกอย่างที่พี่ขอเลยนะเพราะอยากให้พี่เป็นแบบให้ เค้าบอกว่าอยากวาดรูปพี่เป็นคนแรก แต่พอรูปเสร็จออกมาก็คุ้มจริงๆค่ะ"
ตอนที่นุชนารถดึงอัมรามาถึงพอดี สองคนชะงักมองจุฑากำลังกระซิบสันติติดที่ข้างหู อัมราตะลึง สะเทือนใจ น้ำตาไหลลงมาเงียบๆ อัมรารีบเช็ดน้ำตา ท่าทางเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง เหมือนตัดสินใจได้แล้ว

อารีย์ถือแก้วกาแฟลงมาในห้องหุ่น ชะงักเห็นเดชนั่งกุมหัวอยู่ที่เก้าอี้พักผ่อน ท่าทางเครียด
อารีย์มองสีหน้าสะเทือนใจ เข้าใจว่าเดชยังรักพิไล อารีย์ปรับท่าทางเป็นปกติ
"กาแฟค่ะ"
เดชเงยหน้ามอง อารีย์วางแก้วกาแฟลง เดชตัดสินใจเด็ดขาด
"พี่มีเรื่องอยากคุยกับเธอ"
อารีย์ฝืนทำปกติ
"อะไรคะ"
"เรื่องพิไล"
อารีย์หน้าซีดมองเดช เดชมองอารีย์ เริ่มลังเล อึกอัก
"คือ..พี่..พี่เจอพิไล..แล้ว..เอ้อE
อารีย์รีบตัดบท
"พี่เดชก็เลยช่วยเหลือเค้าใช่มั้ยคะ ฉันรู้แล้วล่ะคะ พี่ไม่ต้องบอกก็ได้ พิไลไม่ใช่คนอื่น พี่เดชช่วยตอนเค้าลำบากมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องบอกฉันหรอกค่ะ"
เดชอึ้ง อารีย์ฝืนยิ้ม
"ถ้าไม่มีอะไร ขอไปนอนก่อนนะคะ วันนี้ง่วงจัง"
อารีย์รีบออกไปไม่ให้เดชท้วง เดชได้แต่มองตามอึ้งๆ ที่หน้าห้องอารีย์ออกมายืนน้ำตาไหล
รู้สึกปวดหัวใจจนต้องกดไว้ หายใจหอบๆ พยายามฝืนความรู้สึก
ในห้องหุ่น หุ่นต่างมองเดชอย่างผิดหวัง เดชรู้สึกเหมือนมีคนมอง
เดชหันไป หุ่นทุกตัวปกติ เดชมองหุ่นทุกตัวพูดหนักแน่น เหมือนให้หุ่นเป็นพยาน
"ผมจะไม่ทำผิดกับอารีย์อีกเด็ดขาด ผมสาบาน ถ้าผมผิดคำพูดขอให้ผมมีอันเป็นไป"
บรรยากาศในห้องหุ่นดูเยือกเย็น น่าสะพรึงกลัว

เช้าวันใหม่ อัมรายืนใจลอบรดน้ำต้นไม้ใจ พรรณรายเดินเข้ามาชะเง้อมองไปหน้าบ้าน ก่อนเดินเข้ามาทักอัมราอย่างหงุดหงิด
"ทำไมพี่ออยยังไม่มาอีกล่ะ"
"คงรอพี่อาร์ตกับพี่จุ๊บมั้งคะ เห็นมาพร้อมกันทุกที"
เสียงรถมาจอดที่รั้วหน้าบ้าน สองคนหันไปมอง รถเพทายจอดรออยู่
"เบื่อนังปอดบวมนี่จริงๆ"
เพทายลงจากรถถือเสื้อผ้ามาหลายชุดตะโกนเรียก
"นี่เธอสองคนมาช่วยฉันถือเสื้อผ้าหน่อย"
พรรณรายสะบัดหน้าหนีไม่สน อัมรารีบส่งสายยางให้พรรณราย
"ฝากเดี๋ยวค่ะพี่พรรณ อัมจะไปช่วยคุณเพทายเอง"
อัมราวิ่งไปยกมือไหว้ พรรณรายรดน้ำต่อเซ็งๆไม่สน เพทายเดินเข้ามา
อัมราถือเสื้อผ้าเดินตามหลัง พูดไปด้วย
"ยังไม่มีใครมาเลยค่ะ แต่คุณพ่อรออยู่ในห้องหุ่นแล้ว"
เพทายรับรู้ จะเดินเข้าตัวบ้านผ่านพรรณรายที่ทำไม่สนใจ เพทายหมั่นไส้ เดินเข้าไปใกล้ พูดห้วนๆ
"ฉันเป็นแขกสำคัญของพ่อแม่เธอไม่คิดจะไหว้กันบ้างหรือไง หัดมีมารยาททางสังคมซะบ้าง"
พรรณรายหันขวับแค้น แต่แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม
"จริงด้วย คุณเพทายพูดถูก ฉันลืมไป สวัสดีค่ะ"
พรรณรายยกมือไหว้ทั้งสายยาง น้ำฉีดไปโดนเพทายเปียก เพทายตะลึงกรี๊ด
"ว้าย นังเด็กบ้า นี่แกแกล้งฉันใช่มั้ย"
พรรณรายทำตกใจ เต้นร้องกรี๊ดๆ จะเข้ามาทำร้ายพรรณราย อัมรารีบดึงเพทาย
"อัมขอโทษแทนพี่พรรณด้วยนะคะ พี่พรรณคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ ใช่มั้ยคะพี่พรรณ"
พรรณรายพยักหน้า
"ใช่จ้ะ อุ๊ยตายไม่ได้ตั้งใจเลย ขอโทษอีกทีนะคะ"
พรรณรายยกมือไหว้สายยางฉีดน้ำไปที่เพทายอีก แล้วโยนสายยางทิ้ง หัวเราะสะใจวิ่งเข้าบ้าน
ไปหน้าตาเฉย เพทายสุดแค้นตะโกนตาม
"นังเด็กเหลือขอ นังเด็กบ้า"
อัมราทำอะไรไม่ถูก
"เสื้อผ้าคุณเพทายเปียกหมดแล้ว ทำไงดีคะ"
"ฉันมีเสื้อผ้าสำรองอยู่ในรถหลายตัว" เพทายมองตามพรรณอย่างแค้นมากพึมพำ "ฝากไว้ก่อนเถอะแก"

เพทายสะบัดไปเอาเสื้อผ้าที่รถ อัมมองไม่สบายใจ

ในห้องหุ่น เดชกำลังปั้นหุ่นเพทายอย่างเพทายแต่งตัวค่อนข้างโป๊ แต่เดชไม่มีท่าทาง
 
สนใจ เพทายรู้สึกหงุดหงิด มองเดชอย่างแปลกใจ
"ผู้ชายบ้าอะไรผู้หญิงเซ็กซี่ขนาดเราอยู่ตรงหน้าแต่ทำท่าเหมือนไม่รู้สึกรู้สมอะไรเลย เอ๊ะหรือว่าเสน่ห์เราจะลดลง ไม่ได้แบบนี้ต้องทดสอบดูสักหน่อย"
"คุณเดชคะ"
เดชชะงักจากการปั้น "ครับ"
"ฉันรู้สึกชาๆขานะคะ สงสัยจะนั่งนาน ขอพักสักครู่ได้มั้ยคะ"
เดชลุกขึ้นเดินเข้าไปหา
"ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นค่อยๆลุกนะครับ ลองเดินไปมาเปลี่ยนอิริยาบท คุณอาจจะดีขึ้น"
"ค่ะ"
เพทายลุกพรวดแล้วแกล้งเซ โผเข้าใส่ เดชรับไว้ในอ้อมแขนอย่างตกใจ เพทายเงยหน้ายิ้มยั่ว หว่านเสน่ห์ใส่ เดชอึ้ง จะผละออก เพทายรีบโอบรอบคอไว้ สบตาลึกซึ้ง
"จะรีบไปไหน ไม่อยากเชื่อเลยว่าอกคุณเดชจะอบอุ่นขนาดนี้"
เดชผละออกอย่างรวดเร็ว
"ขอโทษครับ..คุณเพทายพักสักครู่ก็ได้ ผมขอตัวไปดูเด็กๆก่อน สายแล้วทำไมยังไม่มากันอีก"
"เดี๋ยวคะ..คุณเดช"
เดชไม่ฟังเดินเร็วๆขึ้นบันไดห้องหุ่นไป เพทายมองตามขำ
"เสน่ห์เรายังใช้ได้ ถึงกับรีบลนลานออกไป กลัวห้ามใจไม่ไหวละสิ"
หุ่นทุกตัวหันมองเพทายอย่างไม่พอใจ เพทายหันกลับจะเดินไปดูรูปปั้นตัวเอง ผ่านหน้าครูสมศรี หุ่นนางรำ หุ่นขยับแขนกระชากผมเพทายไว้ เพทายตกใจ
"โอ๊ย....อะไรกันเนี่ย"
เพทายค่อยๆเอี้ยวตัวกลับมาอย่างลำบากเห็นผมตัวเองพันอยู่ในมือหุ่นนางรำ
เพทายหงุดหงิด พยายามแกะผม
"เดินประสาอะไรเนี่ย แล้วไอ้มือหุ่นบ้านี่ก็ยื่นออกมาเกะกะทำไมนะ"
เพทายแกะผมจนหลุดออก เดินไปจะนั่งเก้าอี้ เก้าอี้เลื่อนถอยออกไป ล้มก้นกระแทกพื้น ฎ"โอ๊ย"
เพทายหันไปมอง
"ปั๊ดโธ่เอ๊ย นี่มันอะไรกัน"
เพทายค่อยๆลุกอย่างเจ็บมาก ลากเก้าอี้มานั่งอย่างระวัง นวดก้นตัวเองให้หายระบม หุ่นพากันมองเพทายอย่างน่ากลัว

อัมราจัดดอกไม้อยู่ที่โต๊ะสนามหน้าบ้าน อาทร สันติ จุฑาเข้ามา อาทรทักเสียงดัง"หวัดดีจ้าน้องอัม"
อัมรายิ้มให้อาทร แต่มองเมินสันติ สันติก็หลบตาอัม จุฑาคอยเฝ้าสังเกตทั้งคู่อยู่อย่างพอใจ"ทำไมวันนี้มาช้าคะ คุณเพทายมาตั้งนานแล้วคะ"
อาทรพยักหน้าไปทางเพื่อนทั้งสอง
"ก็สองคนนั่นไงมาช้า"
จุฑาบรีบอธิบาย
"เป็นความผิดพี่เองละคะ วันนี้พี่ตื่นสาย อาร์ตเลยต้องมารอตั้งนาน"
จุฑาหันไปจับแขนสันติทำสนิทสนม
"แต่อาร์ตน่ารักมากเลย ไม่บ่นซักคำ ไม่เหมือนนายออยบ่นตั้งแต่มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่นอีก ตาแก่"
อัมราอดเหลือบมองสันติไม่ได้ เห็นสันติยิ้มให้จุฑา อัมรารีบเปลี่ยนเรื่อง
"งั้นทานอาหารเช้าก่อนนะคะ คุณแม่เตรียมไว้ให้แล้ว"
"แหมดีเลยครับ ท้องพี่ร้องจ็อกๆดังมาตั้งแต่หน้าบ้านแล้วล่ะ"
อัมรายิ้มจะไปเตรียม สันติรีบพูด
"ของพี่ไม่ต้องนะครับ"
อัมราจำใจหันมามองเป็นเชิงถาม สันติบอกเรียบๆ
"พอดีพี่กับจุ๊บทานมาเรียบร้อยแล้วครับ"
จุฑาสะใจที่เห็นอัมราหน้าเสีย อัมราน้อยใจ เดชเดินออกมาพอดี ทั้งสามคนรีบไหว้เดช"เอ้ามากันแล้วเหรอ คุณเพทายมารอนานแล้วนะ ไปงั้นไปที่ห้องหุ่นกันเลย"
เดชหันกลับนำไป สันติ กับจุฑารีบตามไป อาทรยิ้มแห้งๆกระซิบอัมรา
"งั้นพี่ขอรวบยอดเป็นมื้อกลางวันเลยก็แล้วกันนะครับน้องอัม"

อัมราฝืนยิ้ม อาทรวิ่งไป อัมรามองตามสันติ เห็นจุฑาเกาะแขนคุยสนิทสนม สันติก้มลงฟังจุ๊บพูดอย่างสนใจ อัมราน้อยใจ

ทุกคนอยู่พร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร เพทายมองสเต็กอย่างพอใจ เป็นจานพิเศษคนเดียว อารีย์รีบเอาใจ
 
"พอทานได้นะคะ"
เพทายยิ้มหยิ่งๆกำลังจะตอบ พรรณรายทะลุขึ้นกลางวง
"กินฟรียังจะเรื่องมาก"
เพทายชะงัก
"อะไรนะ นี่เธอว่าฉันเรื่องมากเหรอ"
"ใช่ไม่ว่าเธอแล้วจะว่าใคร ก็ดูสิทุกคนเค้ากินอาหารเหมือนๆกันได้หมด มีแต่เธอที่ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ไอ้นี่ก็กินไม่เป็น หน้าตาก็ไม่ใช่ลูกครึ่งซักหน่อย ดัดจริตจะกินอาหารฝรั่ง เชอะฝรั่งขี้นกละสิ"
เพทายวางมีดกับส้อมปัง เตรียมกรี๊ด เดชรีบปราม
"พรรณ..หยุดก้าวร้าวคุณเพทายเดี๋ยวนี้"
"ก็พรรณพูดความจริงนี่คะคุณพ่อ"
"พ่อบอกให้หยุด แล้วขอโทษคุณเพทายด้วย"
เพทายยิ้มเยาะ
"ไม่ค่ะ พรรณพูดความจริง"
เดชโกรธ
"พรรณราย"
พรรณรายลุกพรวด
"ทำไมต้องเอาอกเอาใจยัยนี่ขนาดนี้ด้วย ดูเจ้าหล่อนทำตัวสิคะไม่มีความเกรงใจเจ้าของบ้านเลย เรียกร้องจะเอาโน่นนี่ พรรณไม่ชอบ พรรณไม่มีวันขอโทษนังปอดบวมนี่เด็ดขาด"
เดชโกรธสุดขีด ลุกขึ้นตบหน้าลูกสาว ทุกคนตะลึง พรรณรายอึ้งมองเดชอย่างน้อยใจ ก่อนหันไปมองเพทายอย่างเคียดแค้น ชี้หน้า
"คุณพ่อไม่เคยตบหน้าฉันเลยเพราะแก แก..."
พรรณรายวิ่งร้องไห้ออกไป อารีย์ตกใจจะตาม เดชดึงไว้ เสียงจริงจัง
"ไม่ต้อง"
เดชนั่งลง มองเพทาย
"ผมต้องขอโทษแทนพรรณรายด้วยครับ แกเอาแต่ใจแบบนี้มานานแล้ว ทุกคนลงมือทานข้าวกันเถอะ อย่าไปสนใจ"
เดชก้มหน้าก้มตาทานอาหาร เพทายสะใจลงมือกินไม่ใส่ใจ อารีย์ไม่สบายใจ แต่จำต้องรักษามารยาท อัมราอดมองสันติไม่ได้ สันติหันมาเห็นข่มใจเมินไป รีบแกล้งตักอาหารให้จุฑา อัมรามองอึ้งๆ จุฑายิ้มแย้ม อัมราเสียใจ รีบก้มหน้าทานข้าว จุฑามองสะใจ
อาทรมองท่าทางสันติกับจุฑาอย่างแปลกๆใจ

ตอนเย็น เพทายเดินลัลล้ามาที่รถ เพทายชะงัก สีหน้าตกใจสุดขีด รถเพทายถูกละเลงไปด้วยสีแดงสดๆเหมือนเลือด เพทายวิ่งมายืนมองรอบรถอย่างตะลึง เพทายมองไปที่กระจกหน้ารถถูกเขียนไว้ด้วยเลือดสดๆว่า
"แกตาย"

เพทายหันขวับมองเข้าไปในตัวบ้านเดช อย่างแค้นสุดขีด

ห้องหุ่น ตอนที่ 5 (ต่อ)

อัมราเดินออกมาหน้าตัวบ้านกับสันติ อาทร จุฑา
 
"หวังว่าคุณอาเดชจะไม่ลงโทษน้องพรรณรุนแรงนะครับ"
อัมราถอนใจ
"ปกติคุณพ่อก็ไม่เคยตบหน้าพี่พรรณเลยนะคะ แต่วันนี้ดูท่าทางคุณพ่อจะโกรธเอามากๆ"
"ก็น่าโกรธหรอกค่ะ ถึงคุณเพทายจะเรื่องมากไปหน่อย แต่เขาก็มาเป็นแบบให้เรา ทำแบบนี้ก็เกินไป พี่ว่าพี่สาวน้องอัมก็แรงไม่แพ้คุณเพทายหรอกนะ" จุฑาบอก
อัมราหน้าเสีย สันติรีบขัดขึ้น
"พวกเรารีบกลับกันดีกว่านี่ก็เย็นมากแล้ว"
จุฑาหันมาเกาะแขนสันติ
"นั่นสิเพราะอาร์ตต้องไปส่งจุ๊บอีก"
อาทรเห็นอัมราหน้าเผือด รีบพูด
"ฝันไปเหรอเปล่ายัยจุ๊บ"
จุฑาลอยหน้าใส่อาทร พูดมั่นใจ
"ไม่ฝันหรอกย่ะ ไม่เชื่อถามอาร์ตสิ"
"พูดมาเลยอาร์ต ยัยจุ๊บจะได้เลิกฝันกลางวันซะที"
สันติเหลือบมอง อัมรามองอยู่ก่อนแล้ว สันติพูดยิ้มๆ
"ฉันก็ต้องไปส่งจุ๊บนะสิ ไม่ส่งได้ยังไงเย็นมากแล้ว ฉันเป็นห่วง"
อัมราอึ้ง อาทรเหวอ จุฑายิ้มหน้าบาน เพทายเดินเร็วๆเข้ามาอย่างโกรธมาก ทั้งสี่คนมองงงๆ อาทรทัก
"อ้าวผมนึกว่า คุณเพทายกลับไปแล้วซะอีก"
เพทายไม่สนอาทร มองอัมราถามห้วนๆ
"พี่สาวเธออยู่ไหน"
"อยู่ในห้องรับแขกกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ คุณเพทายมีอะไรเหรอคะ"
เพทายไม่ฟัง เดินเร็วๆเข้าไปข้างใน ทั้งสี่คนมองหน้ากันงงๆ ก่อนจะรีบตามเข้าไป

ในห้องรับแขก พรรณรายยืนเชิด เดชมองไม่พอใจ อารีย์ยืนหน้าไม่ดีอยู่ใกล้ๆ
"นี่ลูกยังไม่สำนึกเลยใช่มั้ย พรรณราย"
"พรรณไม่ผิด คุณพ่อก็เห็นว่ายัยเพทายมันร้ายจะตาย"
เพทายเข้ามา สันติ อาทร อัมรา จุ๊บตามมาติดๆ
เพทายตรงเข้าหาพรรณราย
"นังเด็กบ้า"
ขาดคำ เพทายตบหน้าพรรณรายฉาดใหญ่ ทุกคนตะลึง แต่พอตั้งสติได้ พรรณรายไม่ยอม ตบเพทายกลับอย่างแรงเหมือนกัน เพทายล้มลง พรรณรายขึ้นคร่อม
"แกกล้าตบหน้าฉันเหรอนังปอดบวม ฉันไม่เอาแกไว้แน่"
พรรณรายตบเพทายซ้ายขวา เพทายปัดป้องสู้ยิบตา สองสาวตบตีกันชุลมุน สันติได้สติก่อนเพื่อนรีบเข้าไปดึงเพทาย อาทรรีบเข้าไปดึงตัวพรรณราย ทั้งสองแยกจากกัน แต่ยังดิ้นจะเข้าใส่กันอีก
เดชตะโกนเสียงดังลั่น
"หยุด"
สองสาวชะงัก อารีย์ถามเพทายอย่างโมโห
"นี่มันอะไรกันคะคุณเพทาย อยู่ๆคุณก็เข้ามาตบหน้าลูกสาวฉันแบบนี้"
เพทายจ้องหน้าพรรณรายอย่างเคียดแค้น
"ฉันตบแค่นี้มันยังน้อยไป มันร้ายกาจมาก ร้ายอย่างที่ฉันคิดไม่ถึงเลย"
"ฉันไปทำอะไรให้แก"
เดชรีบพูด
"ถ้าคุณโกรธเรื่องเมื่อกลางวัน ผมก็กำลังลงโทษแกอยู่"
"เรื่องตอนกลางวันมันยังไม่เท่าเรื่องตอนนี้"
ทุกคนทำหน้างง
"ออกไปดูหน้าบ้านคุณสิ จะได้รู้ว่าลูกสาวคุณมันบ้า มันโรคจิตแค่ไหน"
ทุกคนงงกับคำพูดของเพทาย

นอกรั้วบ้าน รถเพทายโดนละเลงเละด้วยเลือดสัตว์ หน้ากระจกเขียนด้วยเลือดว่า แกตาย ทุกคนมองตะลึง เพทายสุดแค้น
"เห็นหรือยังว่านังเด็กนี่มันร้ายกาจแค่ไหน โรคจิตชัดๆ"
เดชหันขวับ มองพรรณอย่างผิดหวัง
"พรรณรายลูกทำแบบนี้ได้ยังไง"
พรรณรายตะลึง
"พรรณไม่ได้ทำนะคะคุณพ่อ นังนี่มันใส่ร้ายพรรณ"
"ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร แกโกรธฉัน แต่ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้าทำขนาดนี้"
พรรณรายพุ่งเข้าใส่เพทายอย่างแค้นสุดขีด
"แกใส่ร้ายฉัน นังบ้า"
สองคนใส่กันอีก เดชกระชาลูกสาวออกมาตวาดอย่างโมโหสุดๆ
"พอได้แล้วพรรณราย ลูกทำเกินไปแล้ว"
เพทายโกรธมาก
"ฉันเห็นจะมาเป็นแบบให้คุณไม่ได้อีกแล้ว เพราะเผลอๆยัยเด็กโรคจิตนี่อาจจะฆ่าฉันก็ได้"
ทุกคนตกใจ พรรณรายจะพุ่งเข้าใส่เพทายอีก แต่เดชดึงตัวไว้ พรรณรายกรี๊ด
"นังบ้า แกนะสิโรคจิต แกฉันจะฆ่าแก"
"เลิกบ้าได้แล้วพรรณราย มากับพ่อเดี๋ยวนี้"
พรรณรายดิ้นโวยวาย

"ไม่ค่ะ..ไม่พรรณจะฆ่ามัน มันใส่ร้ายพรรณ"

เดชออกแรงลากพรรณรายเข้าบ้านไป
 
ทุกคนมองตามไปอย่างอึ้งๆ เพทายมองตามเดชลากพรรณรายไปอย่างสะใจมาก

เดชลากพรรณรายเข้ามาในห้องหุ่น ก่อนจะปล่อยที่เก้าอี้พักผ่อน เดชหอบ พูดเสียงแข็งเอาจริงมาก
"สงบสติอารมณ์อยู่ในนี้ ห้ามออกไปจากห้องหุ่นจนกว่าพ่อจะอนุญาต ถ้าไม่เชื่อกันอย่าหาว่าพ่อใจร้ายนะพรรณราย"
พรรณรายทำท่าจะไม่ยอม แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงของเดชก็อึ้ง เดชเดินกลับขึ้นบันได ออกจากห้องหุ่นไป พรรณรายร้องกรี๊ดๆอย่างเจ็บใจอยู่คนเดียว หุ่นทั้งหมดเหลือบตามามองพรรณรายอย่างไม่พอใจ แต่พรรณรายไม่เห็น

อาทรรีบถามเพทายอย่างไม่สบายใจ
"คุณเพทายคงไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริงๆใช่มั้ยครับ"
"นั่นสิคะ พวกเรามากันเกือบครึ่งทางแล้ว ถ้าต้องเริ่มใหม่ ต้องปั้นไม่ทันแน่ๆ" จุฑาว่า
เพทายมองเชิดๆ
"ฉันคิดว่าฉันช่วยพวกเธอมามากแล้ว"
เดชเข้ามา
"ผมขอโทษคุณแทนยัยพรรณด้วย ผมจะไม่ยอมให้เค้าทำอะไรแบบนี้อีกเด็ดขาด เรื่องรถผมจะชดใช้ให้ทุกอย่าง ขอให้คุณเพทายให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้งได้มั้ยครับ"
เพทายนิ่ง แต่ท่าทางไม่อ่อนลงเลย
"อย่าดีกว่าค่ะฉันไม่อยากเสี่ยง"
เพทายจะเดินไป สันติรีบเรียก
"เดี๋ยวครับคุณเพทาย"
เพทายชะงัก สันติพูดอย่างสุภาพ
"ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณเพทายดี คุณเพทายคงยังไม่สบายใจและไม่พร้อมที่จะมาเป็นแบบให้พวกเราตอนนี้ แต่ผมก็อยากขอความกรุณาให้คุณเพทายช่วยกลับไปคิดอีกสักครั้ง ถ้าหากคุณทบทวนแล้วไม่อยากมาเป็นแบบอีกจริงๆ พวกเราก็จะยอมรับการตัดสินใจของคุณเพทายครับ"
เพทายมองสันติอย่างพอใจ
"ก็ได้ ฉันจะลองกลับไปคิดดู"
เดชรีบเอาใจ
"คุณเพทายทิ้งรถไว้ที่นี่เถอะครับ ผมจะจัดการทำความสะอาดให้ เดี๋ยวผมจะขับรถไปส่งเอง"
เพทายรีบเสนอ
"คุณเดชอยู่จัดการดัดนิสัยลูกสาวคุณดีกว่ามั้งคะ" เพทายมองสันติ "เธอน่ะขับรถไปส่งฉันหน่อยได้มั้ยล่ะ"
สันติมองเดช เดชพยักหน้าให้
"ครับ"
เดชส่งกุญแจรถให้สันติ จุฑาไม่พอใจทำท่าจะค้าน อาทรกระตุกแขนไว้ เธอกระซิบอาทรอย่างไม่พอใจ
"แล้วฉันจะกลับกับใครล่ะ"
อาทรกระซิบตอบ
"ก็กลับคนเดียวสิ ให้อาร์ตไปส่งคุณเพทายนะดีแล้วจะได้กล่อมเธอ หรืออยากจะต้องเริ่มหาแบบกันใหม่"
จุฑาเลยจำต้องนิ่ง เพทายเดินนำไปที่รถเดช สันติตามไป จุ๊บมองไม่พอใจ

พรรณรายเดินไปเดินมาทำท่าจะขึ้นไปข้างบน แต่ก็ชะงักรู้สึกเกรงที่เดชเอาจริง เธอหงุดหงิดเดินกลับไปกลับมา แล้วสายตาเหลือบไปเห็นรูปปั้นหุ่นเพทายที่เดชปั้นไว้ เธอวิ่งไปยืนมอง แค้น"นังเพทาย"
พรรณรายตรงเข้าไปผลักรูปปั้นหุ่นเพทาย แต่รูปปั้นกลับไม่ล้ม เจ้าคุณนรบดินทร์ใช้มือยันรูปปั้นเพทายไว้ พูดดุๆ
"เธอนี่เกเรไม่เลิกนะพรรณราย"
พรรณรายออกแรงผลักอีก แต่สู้แรงเจ้าคุณที่ยันไว้ไม่ได้ พรรณรายงงๆมองซ้ายขวา
เธอหันไปเห็นเก้าอี้ พก็หมายจะคว้าขึ้นมาจะทุ่มลงไปบนหุ่นเพทาย ทับเข้ามาด้านหลังพรรณ
จับเก้าอี้ยึดไว้ พรรณรายตกใจหันไปมอง ชะงัก
"เอ๊ะ"
พรรณรายเริ่มหวาดๆมองรอบๆ มองหุ่นแต่ละตัวทุกตัวเป็นปกติ พรรณรายฮึดหันไปมองหุ่นเพทาย
"ให้มันรู้ไปว่าฉันจะทำลายแกไม่ได้"
พรรณรายเดินตรงไปที่โต๊ะวางหุ่น โต๊ะกลับเลื่อนถอยออกไป พรรณขยี้ตา
"เป็นไปไม่ได้"
พรรณรายขยับเข้าไปอีก เด็กพีทเลื่อนโต๊ะออกไปอีก พรเธอตะลึง สีหน้าหวาดขึ้นมาทันที ก่อนหันมองหุ่นทุกตัว หุ่นทั้งหลายต่างจ้องถมึงมา พรรณรายตกใจตาเหลือก กรีดร้องตกใจสุดขีด
"ว้าย"

พรรณรายวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างไม่คิดชีวิต

เดช อารีย์ อัมรากลับเข้ามาในห้องรับแขก สามคนนั่งลง
เดชถอนใจเหนื่อยๆ เสียงพรรณรายร้องกรีดๆดังเข้ามา อารีย์กับอัมราตกใจ
"ลูกร้องตกใจอะไร"
เดชเฉยๆ
"เรียกร้องความสนใจอีกนะสิ"
ขาดคำ พรรณรายวิ่งหน้าตื่นกระโดดเข้ามานั่งติดกับแม่ กอดอารีย์แน่น อย่างหวาดกลัว
"คุณแม่ช่วยพรรณด้วย"
"อะไรลูกเป็นอะไรไป ยัยพรรณ"
อัมราเข้ามาจับตัวพี่สาวด้วยความตกใจ
"พี่พรรณตัวสั่นเชียวค่ะ เกิดอะไรขึ้นคะพี่พรรณ"
พรรณรายยังไม่ทันตอบ เดชถามนิ่งๆ
"พ่อสั่งไม่ให้ออกมาจากห้องหุ่นไม่ใช่เหรอ"
"ก็ในห้องหุ่นมีผีนี่คะ พรรณโดนผีหลอก หุ่นพวกนั้นต้องเป็นผีแน่ๆเลยค่ะ"
อารีย์ตกใจ หันไปมองเดช เดชส่ายหน้าอ่อนใจ
"เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะสักที"
"คุณพ่อ พรรณไม่ได้โกหก พรรณโดนผีหลอกจริงๆค่ะ"
"สร้างเรื่องเพื่อจะไม่ยอมอยู่ในห้องหุ่น ไม่เป็นไร งั้นพ่อจะลงโทษด้วยการให้เราไปล้างรถคุณเพทายให้สะอาด ไป"
เดชลุกขึ้นมาดึงแขนลูกสาวให้ลุกตาม อารีย์ห้าม
"พี่เดชคะ.."
"อย่าเข้าข้างพรรณรายอีกเลย ถ้าเธอไม่อยากให้ลูกนิสัยเสียไปมากกว่านี้ ให้พี่จัดการเอง"
เดชดึงตัวพรรณรายที่โวยวายออกไป
"พรรณไม่ได้โกหกนะคะ ในห้องหุ่นมีผีจริงๆ คุณพ่อเชื่อพรรณบ้างสิคะ"
อารีย์มองตามไม่สบายใจ อัมราถามอย่างไม่แน่ใจ
"คุณแม่เชื่อที่พี่พรรณพูดหรือเปล่าคะ"
อารีย์ส่ายหน้าอ่อนใจ
"สงสัยแม่คงเลี้ยงยัยพรรณมาผิด ถึงได้เป็นอย่างนี้ ...เฮ้อ"
อัมราถอนใจโล่งอก บีบมืออารีย์อย่างปลอบใจ

เพทายเปิดประตูคอนโดเดินเข้าไปแล้วชะงัก หันมาเห็นสันติยืนอยู่ที่ประตู
"เข้ามาก่อนสิจ้ะ"
"ผมขอตัวกลับเลยดีกว่าครับ เพราะต้องเอารถไปคืนคุณอาเดชด้วย"
สันติทำท่าจะไป เพทายรีบเข้ามาดึงแขนสันติอย่างแรงให้เข้าห้อง รีบปิดประตู
เพทายกอดสันติไว้มองยั่วยวน
"เธอนี่หยิ่งเป็นบ้าเลยนะ แต่รู้มั้ย ผู้ชายแบบนี้ล่ะที่ฉันชอบ"
สันติตะลึง เพทายรุกสันติหนักขึ้น ดันตัวไปติดฝาผนัง มือลูบไล้ปลุกอารมณ์
"เธอก็ชอบฉันใช่มั้ย ไม่งั้น...เธอจะมาขอฉันเป็นแบบทำไม ฉันว่าเรามาทำความรู้จักกันให้แนบแน่นกว่านี้ดีกว่า"
เพทายโน้มตัวสันติเข้ามา สันติได้สติดันเพทายออกอย่างสุภาพ
"คุณเพทายคุณเข้าใจผิดแล้วละครับ"
เพทายชะงัก
"ผมชื่นชมคุณในฐานะนักแสดงเท่านั้นไม่ได้คิดเป็นแบบอื่น ผมขอตัวก่อน"
สันติรีบออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เพทายมองตามยิ้มหมายมาด

สันติยืนรอลิฟต์ ลิฟต์ลงมาจอด ลูกน้องเมียเสี่ยออกมาเถียงกัน
ลูกน้อง 1 บอก
"กูบอกมึงแล้วว่าชั้นนี่ ดันกดขึ้นไปชั้นบนทำไมวะ"
ลูกน้อง 2 บอก "ก็เจ๊บอกเองว่านังเพทายมันอยู่ชั้นเจ็ด"
สองคนพากันเดินไปทางห้องเพทาย สันติมองตามเห็นด้ามปืนที่กระเป๋าหลังลูกน้องโผล่ออกมา สันติชะงัก ลูกน้อง 1 หันมามอง สันติทำไม่สนใจ เดินเข้าลิฟต์ปิดลิฟต์ปกติ ลูกน้องหันหลับไปไม่สนใจ เดินต่อไป

สันติมองลิฟต์ที่ลงไปจนถึงชั้นล่าง ประตูเปิด สันติยืนนิ่ง

ครู่ต่อมา เพทายเซล้มไปกระแทกเก้าอี้รับแขก เลือดกบปาก
 
"พวกแกมาทำร้ายฉันทำไม คอยดูนะฉันจะแจ้งตำรวจ"
ลูกน้องเสี่ยกระชากปืนออกมา
ลูกน้อง 1 บอก"ถ้าแกอยากตายแบบหาศพไม่เจอก็แจ้งเลย"
ลูกน้อง 2 บอก"แต่ถ้าแกอยากเป็นดาราต่อไป ก็ต้องเลิกยุ่งกับเสี่ยกวงอย่างเด็ดขาดเข้าใจมั้ย"
เพทายนิ่ง ลูกน้อง 1 เข้ามากระชากผมจ่อปืน
"ทำไมไม่ตอบ"
"โอ๊ย..นังเมียเสี่ยส่งพวกแกมาใช่มั้ย"
ลูกน้อง 2 บอก"ไม่ต้องถาม..ตอบ"
"โอ๊ยรู้แล้ว ปล่อยฉันได้แล้ว"
ลูกน้องสองคนมองขาขาวๆของเพทายแล้วมองหน้ากัน
ลูกน้อง 1บอก "นังนี่มันขาวน่าเจี๊ยะจริงๆวะ"
สันติเปิดประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบ มองหาอาวุธที่หยิบไม้ ค่อยๆย่องเข้าด้านหลังลูกน้องที่กำลังเถียงกัน
ลูกน้อง 2 บอก "เฮ้ยอย่าทำนอกเหนือคำสั่ง เจ๊แค่ให้ละเลงรถกับซ้อมมันแค่นั้น"
ลูกน้อง 1 บอก"แต่ถ้าเราได้มันเป็นเมีย เสี่ยก็ต้องไม่สนมันอีก ข้าว่าเจ๊อาจตบรางวัลให้เราเพิ่มก็ได้นะโว้ย"
"ไอ้บ้า..ไอ้เลว..ไอ้ชั่ว..อย่ามาทำบ้าๆกับฉันนะ"
ลูกน้อง 1บอก "ปากดีแบบนี้ขอพี่เป็นผัวสักครั้งเถอะน่า"
ลูกน้อง 1ก้มเข้าหา เพทายกรี๊ด สันติได้จังหวะฟาดลูกน้อง 2 ล้มลง ลูกน้อง 1หันมาตกใจ เจอสันติฟาดให้อีก สันติใช้ชั้นเชิงมวยที่เหนือกว่าเล่นงานสองคน จนปืนกระเด็นหลุด เพทายคว้าไว้ได้ยกเล็งทำท่าจะยิงด้วยความโกรธ
"ไอ้สารเลว"
สันติร้องห้าม วิ่งเข้าไปจับมือเพทายไว้
"อย่ายิงครับ"
ลูกน้องสองคนรีบวิ่งออกจากห้อง สันติแย่งปืนไว้ได้ เพทายโมโห
"ห้ามฉันทำไม ฉันจะยิงมันให้ดิ้นเหมือนหมาข้างถนนเลย"
"คุณฆ่าเขาคุณก็ต้องติดคุก"
เพทายอึ้ง ซวนเซไปนั่งกุมหน้าที่โดนทำร้าย สันติรีบถาม
"ไปหาหมอมั้ยครับ"
"ไม่..ฉันไม่อยากเป็นข่าว แผลแค่นี้ฉันทำเองได้ ว่าแต่เธอทำไมถึงกลับมาช่วยฉัน"
"ผมสวนกับสองคนนั่นในลิฟต์ ดูท่าทางแปลกๆ แล้วพวกเขาพูดถึงคุณ ผมสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายเลยย้อนกลับมา"
เพทายมองสันติอย่างซึ้งใจ
"ขอบใจนะ..ขอบใจเธอมาก ฉันเป็นหนี้บุญคุณเธอ ถ้าไม่ได้เธอฉันคงแย่แน่ๆ"
"ผมคิดว่าคุณควรจะแจ้งความไว้พวกมันอาจมาทำร้ายคุณอีก"
"ไม่ต้อง คนที่มันทำฉันฉันจะเอาคืนมันอย่างสาสม"
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อน"
สันติทำท่าจะไป เพทายเรียกไว้
"สันติ"
สันติหันกลับมา
"ฉันจะเป็นแบบปั้นหุ่นให้พวกเธอต่อ แต่ขอเวลารักษาแผลที่หน้าสักสองสามวันนะ"
สันติมองเพทายอย่างดีใจ
"ขอบคุณมากครับ"
สันติก้มหัวให้อีกครั้งก่อนออกไป เพทายแตะแผลที่หน้า สีหน้าแววตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น

พรรณรายยืนล้างรถอย่างหวาดๆ ในบรรยากาศหลอนๆ แล้วชะงักเห็นเงาอัมราที่ทอดมาจากทางด้านหลัง พรรณรายกรี๊ด
"ว้าย"
อัมรารีบเข้ามาจับตัว
"พี่พรรณเป็นอะไรคะ"
พรรณรายหันมามอง
"ยัยอัม"
"ก็อัมนะสิคะ"
"บ้าจริงฉันนึกว่าผี เธอออกมาทำไม"
"คุณแม่ให้มาตามพี่พรรณไปทานข้าวก่อนค่ะ"
"แต่คุณพ่อทำโทษพี่อยู่นี่"
"ตอนนี้คุณพ่อลงไปในห้องหุ่นค่ะ รีบๆเข้าเถอะค่ะเร้ว"
"จริงเหรอ ดี..พี่หิวจะตายอยู่แล้ว"

อัมราฉุดมือพี่สาวพากันวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

ห้องหุ่น ตอนที่ 5 (ต่อ)

พรรณรายรีบทานข้าวอย่างเร็วเพราะหิวมาก อารีย์กับอัมรานั่งมองอยู่ใกล้ๆ
 
"ช้าๆก็ได้ลูก เดี๋ยวติดคอ เอ้าทานน้ำก่อน"
อารีย์หยิบแก้วน้ำยื่นให้ พรรณรายรับมาดื่มทำท่าเหมือนจะติดคอ
"ทำอะไรกัน"
ทั้งสามตกใจ เดชเข้ามามองพูดเสียงดุ
"เพราะเธอคอยให้ท้ายแบบนี้ ยัยพรรณถึงนิสัยเสียขึ้นทุกวัน"
อารีย์อึ้ง พรรณรายลุกขึ้น
"ไม่เกี่ยวกับคุณแม่นะคะ แล้วพรรณก็ไม่ได้นิสัยเสียด้วย เรื่องวันนี้ทั้งหมดพรรณไม่ได้ทำ แต่คุณพ่อไม่เชื่อพรรณ คุณพ่อไม่เคยเชื่อพรรณเลย ทำเหมือนพรรณไม่ใช่ลูกคุณพ่อ"
"ยัยพรรณ..อย่าพูดกับคุณพ่อแบบนี้สิ"
"ก็จริงนี่ค่ะ"
"ถ้าเราไม่ได้ทำแล้วใครทำ"
" เมียเสี่ยกวงครับคุณอา"
เดชชะงัก ทุกคนหันมามองสันติที่เดินเข้ามา เดชถามงงๆ
"ใครคือเสี่ยกวง"
"เสี่ยกวงมาติดพันคุณเพทายอยู่ เมียเสี่ยไม่พอใจเลยส่งลูกน้องมาข่มขู่คุณเพทาย ด้วยการเอาเลือดสัตว์มาละเลงรถให้กลัวและก็ซ้อมคุณเพทายด้วยครับ"
"แล้วนายรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง"
"ลูกน้องเมียเสี่ยตามไปเล่นงานถึงคอนโด ผมช่วยคุณเพทายไว้เลยรู้เรื่องครับ"
พรรณรายได้ทีจ้องเดช
"เห็นหรือยังคะคุณพ่อ คุณพ่อเชื่อแต่คนอื่นมองลูกตัวเองเลว เป็นโรคจิต คุณพ่อลำเอียงคุณพ่อไม่เคยรักพรรณเลย"
พรรณรายวิ่งออกไปจากห้อง เดชอึ้ง อารีย์รีบบอก
"ฉันจะไปดูลูกเองค่ะ"
อารีย์ตามออกไป เดชอึ้งๆมองสันติบอกเหนื่อยๆ
"อาขอตัวก่อนนะ อัมออกไปส่งพี่อาร์ตด้วย"
"ค่ะคุณพ่อ"
อัมรามองเดชที่เดินคอตกออกไป หันมามองเห็นสันติมองอยู่ก่อนแล้ว สองคนทำท่าเก้อๆกัน

สันติกับอัมราเดินมาด้วยกันเงียบๆ สันติหยุดเดินหันมาบอก
"ไม่ต้องเดินไปส่งพี่หรอกครับ พี่ไปเองได้"
อัมราน้อยใจ
"ถ้าอัมเดินมาส่งแล้วพี่อาร์ตรำคาญ งั้นอัมเข้าบ้านก็ได้ค่ะ"
อัมราหันกลับ สันติเผลอเรียกไว้
"เดี๋ยวครับน้องอัม"
อัมราชะงัก สีหน้าดีขึ้น
"พี่ไม่ได้รำคาญ แต่ไม่อยากให้ต้องลำบาก"
อัมราหันกลับมายังพูดงอนๆ
"อัมเป็นเจ้าของบ้านก็ต้องออกมาส่งอยู่แล้ว อีกอย่างคุณพ่อก็สั่งด้วย"
"งั้นก็ได้ครับ"
สองคนเดินต่อมาเงียบๆถึงประตูรั้ว
"ขอบคุณครับ พี่ไปล่ะ"
อัมราลังเลแล้วตัดสินใจถาม
"พี่อาร์ตคะ"
สันติชะงัก หันมามองเป็นเชิงถาม อัมรารีบพูดต่อก่อนที่ตัวเองจะเปลี่ยนใจ
"พี่อาร์ตเอ้อ..วาดรูป...คืออัมหมายถึงพี่อาร์ตเคยวาดรูปให้เพื่อนๆบ้างมั้ยคะ"
สันติแปลกใจ
"ทำไมเหรอครับ"
"อ๋อคืออัมว่ารูปที่พี่อาร์ตวาดให้อัม มันเหมือนมาก พี่อาร์ตคงวาดบ่อยๆใช่มั้ยคะถึงได้วาดได้ดีแบบนี้"
สันติยังนิ่งไม่เข้าใจ อัมราเลียบเคียงถาม
"พี่อาร์ตคงวาดให้เพื่อนๆที่สนิททุกคนเลยมั้งคะ เอ้ออย่างเช่น พี่ออย พี่จุ๊บนะคะ"
สันติพอจะเข้าใจความหมาย รีบพยักหน้าตอบยิ้มๆ
"อ๋อพี่ไม่ค่อยได้วาดให้ใครหรอกครับ รูปวาดต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก พี่ไม่ค่อยมีเวลา"
อัมรายิ้มออก แต่แล้วต้องหุบยิ้มเมื่อสันติพูดต่อ "จะมีก็แต่จุ๊บ พี่เคยวาดให้จุ๊บครับ"
อัมราหน้าเสียทันที เสียงสั่น
"อ๋อ..ค่ะ เอ้ออัมส่งแค่นี้นะคะ"
อัมรารีบหันกลับ สันติทำท่าจะเรียกไว้ แต่กลับนิ่งมองตามอย่างข่มใจ อัมราเดินกลับมาน้ำตาคลอ
 
สันติยังยืนอยู่ที่เดิม เงยมองสภาพบ้านใหญ่โตของอัมรา ถอนใจใหญ่ก่อนหันกลับเดินไป

วันใหม่ ในมหาวิทยาลัย สันติ อาทร จุ๊บเดินมาด้วยกัน อาทรชะงักเห็นอัมรากับนุชนารถเดินมาจากอีกด้าน
 
"นั่นน้องอัมกับน้องนุชนี่"
สันติชะงักหันไปมอง
"เราไปชวนน้องๆไปกินข้าวด้วยกันดีกว่านะ"
สันติรีบพูด
"นายไปเถอะ เรากับจุ๊บจะไปห้องสมุดก่อน"
อาทรงง
"อ้าวก็เมื่อกี้คุยกันว่า จะไปกินข้าวก่อนไง ยัยจุ๊บก็บ่นหิวมาตลอดทางเลย"
"ฉันก็พูดไปงั้นแหละ ตอนนี้โรงอาหารแน่นจะตาย ไปห้องสมุดก่อนก็ดีน่ะ ไปกันเถอะอาร์ต"
สันติพยักหน้า จุ๊บลากแขนสันติไปอย่างสนิทสนม อาทรยืนอึ้งจนอัมรากับนุชนารถเดินมาถึง
"เอ๊ะ พี่อาร์ตกับพี่จุ๊บไปไหนกันคะ นุชนึกว่าจะไปทานข้าวด้วยกันซะอีก"
"พี่ก็ยังงงๆอยู่เลย เมื่อกี้ก็บอกจะมากินข้าวก่อน อยู่ๆก็เปลี่ยนใจซะงั้น"
อัมราเผลอพูดอย่างน้อยใจ
"สงสัยไม่อยากเจอหน้าอัมมั้งคะ"
"เฮ้ยเป็นไปไม่ได้หรอกครับ น้องอัม"
อัมฝืนหัวเราะ
"อัมพูดเล่นนะคะ"
"ช่างเถอะพวกเราไปกินกันสามคนก็ได้นะ" นุชนารถบอก
"เอ้อ... อัมขอตัวก่อนนะคะคือ อัมจะไปพบอาจารย์ถามเรื่องรายงานหน่อยค่ะ"
"อ้าวกินก่อนแล้วเดี๋ยวไปด้วยกันก็ได้นี่"
"เธอไปกินกับพี่ออยเถอะ พอดีฉันยังไม่หิวนะ เดี๋ยวเจอกันนะ"
อัมรารีบเดินไป ไม่ให้ใครท้วงอีก นุชนารถงงๆ อาทรมองตามอย่างสงสัย

อาทรนั่งครุ่นคิดจนไม่เป็นอันกินข้าว นุชนารถมองแปลกใจ
"ไหนพี่ออยว่าหิวไงคะ นุชเห็นพี่เอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่เห็นทานข้าวเลย"
"พี่กำลังสงสัยนะสิ"
นุชนารถชะงักบ้าง
"สงสัยอะไรคะ"
"ก็ดูท่าทางทั้งนายอาร์ต ทั้งน้องอัมแปลกๆ เหมือนไม่อยากเจอหน้ากัน"
นุชนารถหัวเราะ
"โอ๊ยไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ เรื่องจริงเลยล่ะ"
อาทรตกใจ
"อะไรนะ นี่ตกลงสองคนเค้ามีปัญหากันจริงเหรอๆ ไหนนุชเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ เรื่องมันมาจากอะไร"
"จากรูปที่พี่อาร์ตวาดให้ยัยอัมวันเกิดไงคะ"
"ทำไม รูปมันจะเกิดปัญหาได้ยังไง"
"รูปน่ะมันไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่คนสิคะที่ทำให้เกิดปัญหา"
"คนเหรอ..ใครกัน"

จุฑาเดินถือน้ำมาสองแก้ว ท่าทางร่าเริง อาทรเข้ามาขวางหน้าตาเอาเรื่อง จุฑาชะงัก
"มาแล้วเหรอนายออย เสียใจด้วยนะพอดีฉันซื้อน้ำมาแค่สองแก้ว ของฉันแก้วหนึ่ง ของอาร์ตแก้วหนึ่ง ของนายไม่มี"
เธอจะเดินต่อ แต่อาทรไม่หลบ ถามเสียงแข็ง
"สนุกมากนักเหรอที่ทำให้คนอื่นเค้าเข้าใจผิดกัน"
จุฑางง
"นายพูดเรื่องอะไร"
"เธอไปพูดเพ้อเจ้ออะไรกับน้องอัมเรื่องรูป โอโหเพิ่งรู้นะว่าเธอนี่แต่งเรื่องเก่งมาก นายอาร์ตเนี่ยเหรอที่ลงทุนอ้อนวอนให้เธอเป็นแบบ ฉันจำได้ว่าคนที่อ้อนวอนให้อาร์ตวาดรูปให้น่ะ ป็นเธอมากกว่ามั้ง"
จุฑาเข้าใจแล้ว ฉุน
"มันไม่เกี่ยวกับนาย"
จุฑาจะเดินหนี แต่อาทรกระชากแขนไว้
"เกี่ยวสิก็เธอโกหก เธอทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดกัน"
"เข้าใจผิดตรงไหน ฉันช่วยไม่ให้น้องอัมของนายเขาคิดเพ้อฝันไปข้างเดียวต่างหาก"
"เพ้อฝันอะไร"
"อ้าวก็ฝันว่าอาร์ตชอบเค้านะสิ"
"ใช่นายอาร์ตชอบน้องอัม"
จุฑาเสียงแข็ง
"ไม่จริง"
"จริง"
"ไม่จริง"
อาทร จุฑาชะงักหันมามอง สันติยืนอยู่ใกล้ๆเดินเข้ามา
"นายว่าอะไรนะ"
"อย่าไปต่อว่าจุ๊บเลย ฉันผิดเอง ที่ทำอะไรไม่คิดให้ดี ความจริงฉันไม่ควรไปสนิทสนมหรือวาดรูปให้น้องอัม มันไม่เหมาะเพราะอาจทำให้น้องเค้าเข้าใจผิด"
"เข้าใจผิดยังไง ก็นายชอบน้องอัม"
"ใช่ฉันชอบน้องอัมแต่ก็ชอบแบบน้องสาวแค่นั้น"
"อะไรนะ"
จุฑายิ้มเยาะ สันติพูดชัดเจน
"เอาละฉันว่าเราจบเรื่องนี้กันเถอะ ถึงเวลาเรียนแล้ว"
สันติหันไปรับแก้วน้ำจากจุฑาแล้วเดินไป ฝ่ายจุฑาเดินผ่านอาทร เบ้ปากใส่อย่างสะใจ
ก่อนเดินตามสันติไป
อาทรมองตาม อึ้ง อัมรายืนอยู่ด้านหลังอาทรได้ยินทั้งหมด ถึงกับหน้าซีดน้ำตาคลอ

อารีย์เดินเข้ามาในห้องหุ่น หยุดมองเดชที่ยืนมองรูปปั้นเพทายอย่างเหม่อๆ
 
อารีย์เศร้าจะออกไป เดชหันมามาเห็นรีบเรียกไว้
"อารีย์"
อารีย์ชะงักหันกลับมามองน้อยใจ
"ฉันเห็นพี่เดชเหมือนคิดอะไรอยู่ก็เลยไม่อยากกวนใจ"
เดชเดินเข้ามาหาอารีย์ ตัดสินใจเด็ดขาด
"พี่มีเรื่องอยากคุยกับเธอ"
อารีย์สีหน้าพร้อมจะรับความจริง แข็งใจถาม
"เรื่องพิไลใช่มั้ยคะ"
"เธอรู้"
"ฉันอยู่กับพี่มายี่สิบกว่าปี ทำไมฉันจะดูพี่ไม่ออก พี่เครียดพี่กลุ้มใจ ฉันรู้ค่ะ ฉันแค่รอเวลาที่พี่พร้อมจะเล่าให้ฉันฟังเอง"
เดชอึ้ง จับตัวอารีย์ไว้ จะพูดแต่พูดไม่ออก อารีย์ฝืนยิ้ม
"พูดมาเถอะค่ะ ฉันรับได้ทุกเรื่อง"
เดชนิ่ง อารีย์เริ่มให้
"พี่เจอพิไลใช่มั้ยคะ"
เดชพยักหน้า อารีย์น้ำตาคลอแต่ฝืน พูดต่อ "หลายครั้ง" เดชพยักหน้าอีก"พี่ยังไม่ลืมพิไลใช่มั้ยคะ"
"พี่ลืมเค้าไปแล้ว แต่พอมาเจอกันทำไมพี่ถึงใจอ่อนกับเค้าก็ไม่รู้"
"ถ่านไฟเก่าไงคะ โบราณว่าไว้ไม่ผิด พี่เดชกับพิไล"
อารีย์พูดต่อไม่ออก มองเดชอย่างคาดคั้น เดชพยักหน้า อารีย์ซีดน้ำตาร่วงพรู
"พี่ขอโทษ อารีย์พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น"
"แต่มันก็เกิดไปแล้ว"
อารีย์จะเดินหนี เดชกอดไว้
"ยกโทษให้พี่นะ พี่สาบานพี่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก พี่รักเธอ แต่กับพิไลมันคือความสงสาร"
อารีย์ข่มใจถามเรียบๆ
"แล้วพี่เดชจะทำยังไงต่อไป"
"พี่จะไม่พบเค้าอีก พี่สัญญาพี่จะไม่ไปพบเค้าอีก พี่พูดกับพิไลไปแล้ว"
"แล้วพิไลเค้ายอมเหรอคะ"
เดชอึ้ง ชิ้นลงมา ทั้งคู่ผละออกจากกัน อารีย์รีบหันหลังเช็ดน้ำตา
"คุณผู้ชายคะโทรศัพท์ค่ะ"
"ใคร"
"ชื่อพิไลค่ะ"
อารีย์หันขวับมามอง เดชอึ้งๆ
"บอกให้เรียนคุณผู้ชายว่าให้มารับให้ได้เธอมีเรื่องด่วนมากๆค่ะ"
เดชพยักหน้า ชิ้นออกไป เดชมองอารีย์ อารีย์พยักหน้า
"ไปรับเถอะค่ะ ถ้าพี่เดชแน่ใจว่าจะตัดพิไลได้ขาดจริงๆก็พูดกับเขาให้รู้เรื่อง หลบหน้าแบบนี้มันไม่เกิดประโยชน์อะไร"
เดชนิ่งครู่หนึ่งตัดสินใจออกไป อารีย์ร้องไห้ มองหุ่นแต่ละตัว
"ช่วยบอกฉันทีได้มั้ยคะว่าฉันควรทำยังไงดี"
อารีย์เสียใจมาก ที่หุ่นสีหน้าแววตาอ่อนโยนสงสารอารีย์จับใจ

พิไลคุยโทรศัพท์อยู่ในตู้ริมถนน
"พี่เดชอย่าทำกับฉันแบบนี้สิจ้ะ ฉันรักพี่เดช พี่ออกมาหาฉันหน่อยนะ"
เดชคุยโทรศัพท์ในบ้าน
"ทุกอย่างมันจบแล้วพิไล เธออย่าโทรมาอีกเลย พี่ขอร้อง"
พิไลทำเสียงเศร้า
"ชีวิตฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ถ้าฉันไม่มีพี่เดช ฉันก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป"
เดชตกใจ
"อย่าทำบ้าๆนะพิไล"
"ขอให้พี่เดชมีความสุขกับอารีย์นะจ้ะฉัน.. ฉันลาก่อน" พิไลพูดพลางร้องไห้อย่างสมบทบาท
พิไลวางโทรศัพท์สีหน้าหมายมาด
"อยากรู้เหมือนกันว่า คนใจอ่อนอย่างพี่เดชจะทำเมินเฉยได้มั้ย"
เดชตกใจมากกว่าเดิมเรียกเสียงดัง
"พิไลเดี๋ยว..พิไล...พิไล"
เดชมองโทรศัพท์ก่อนวางลงอย่างร้อนใจ ลังเลครู่เดียว คว้ากุญแจรถวิ่งออกไป อารีย์ยืนแอบอยู่มุมหนึ่ง กดหัวใจ ซวนเซ ค่อยๆทรุดลงหมดสติกับพื้น

พิไลเดินในซอยมืดอย่างกระหยิ่ม มองถุงยาในมือ
"ถ้าพี่เดชมาเห็นเรากินยาตาย รับรองร้อยทั้งร้อยต้องใจอ่อนแน่ๆ"
พิไลขำจะเดินต่อ อยู่ๆหมาหอนโหยหวน พิไลสะดุ้งมองรอบๆ รู้สึกได้ถึงบรรยากาศวังเวง
พิไลรีบจ้ำเดินเร็วๆ ครูสมศรี หุ่นนางรำปรากฏร่างขึ้น เอื้อมมือยาวตามมาด้านหลัง จะถึงผมพิไลอยู่แล้ว แต่เกิดรัศมีสว่างวาบจากคอพิไล จนสมศรีต้องชักมือกลับ พิไลมองซ้ายขวาหวาดๆ รีบเดินเร็วเหมือนวิ่งไป สมศรีมองตามอย่างขัดใจก่อนหายวับไป

พิไลเข้าบ้านอย่างโล่งอก ดึงสร้อยพระออกมาดู
"สงสัยต้องใส่ติดตัวไว้ตลอด รู้สึกหวาดๆยังไงก็ไม่รู้"
"พิไล..พิไล"
พิไลตกใจ
"ว้ายพี่เดชทำไมมาเร็วจัง"
พิไลรีบกรอกยาใส่ปาก แล้วทำหกหล่นเกลื่อนเต็มพื้นห้อง เสียงเดชทุบประตู พิไลล้มนอนกับพื้น ทำท่าเหมือนจะตาย
"พิไลเปิดประตูสิพิไล...พิไล"
เดชกระแทกประตูเข้ามา ตะลึง พิไลแกล้งทำน้ำลายฟูมปาก ยกมือไขว่คว้า
"พี่เดช..ลา..ก่อน"
พิไลฟุบ เดชตกใจมากตะโกนสุดเสียง

"พิไล"

ทางเดินในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ต่างเข็นเตียงคนไข้มาสองทาง
 
ทางหนึ่งคือเตียงของอารีย์ เจ้าหน้าที่ครอบเครื่องช่วยหายใจ มีพรรณรายกับอัมราตามมาด้วยอย่างตกใจ อีกทางหนึ่งคือเตียงของพิไล มีเดชตามมาหน้าตาตื่น ทั้งสองเตียงมาเจอกันหน้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เข็นเตียงเข้าไป พยาบาลปิดประตูห้อง
พรรณราย อัมรา เดชหันมาเจอกัน ทุกคนต่างแปลกใจ
"คุณพ่อ"
"พรรณ อัม ทำไมมาอยู่ที่นี่" เดชฉุกใจคิดได้ "หรือเตียงเมื่อกี้..."
อัมราค่ะคุณแม่หมดสติ พี่พรรณเลยโทรตามรถพยาบาลค่ะ
เดชหน้าซีดเผือด
"แล้วทำไมคุณพ่อมาอยู่ที่นี่คะ เตียงเมื่อกี้ใครกันคะ"
เดชอึกอัก
"เอ้อคือเพื่อน..เพื่อนพ่อนะเค้าไม่สบาย พอดีพ่อไปเจอเลยพามาโรงพยาบาล"
พรรณรายกับอัมราเข้ามาหาเดช
"คุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยคะ"
เดชกอดลูกทั้งสองคน
"แม่ต้องไม่เป็นอะไรลูก"
เดชพยายามมองเข้าไปในห้องฉุกเฉินพึมพำ
"อารีย์เธออย่าเป็นอะไรไปนะ"
สามพ่อลูกสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

วันใหม่ สันติเดินตามอาทรมาถึงหลังตึกคณะฯเงียบๆ สันติแปลกใจ
"นายพาฉันมานี่ทำไม"
อาทรหันกลับมาจริงจัง
"ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย"
"ถ้าเป็นเรื่องน้องอัม ฉันไม่มีอะไรจะพูด"
สันติหันกลับ อาทรโวย
"นายเป็นบ้าอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ รู้มั้ย ตอนนี้น้องอัมต้องการกำลังใจอย่างมาก คุณอาอารีย์เข้าโรงพยาบาลเมื่อคืน"
สันติตกใจ
"คุณอาเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"ปลอดภัยแล้ว"
สันติลืมตัวถามถึงอัมรา
"น้องอัมคงตกใจมาก ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
"เห็นมั้ยนายเองก็ห่วงน้องอัม ฉันรู้ว่านายไม่ได้แค่ห่วงนายรู้สึกดีๆกับน้องอัม แล้วทำไมต้องทำร้ายจิตใจน้องเค้าแบบนี้"
สันติอึ้ง อาทรเข้ามาตบบ่า
"เราเป็นเพื่อนกันมานานอย่ามาโกหกฉันเลยนายอาร์ต"
สันติมองหน้าอาทร
"ใช่ฉันยอมรับว่าฉันชอบน้องอัม แล้วนายล่ะนายจะยอมรับมั้ยว่า นายก็ชอบน้องอัม"
อาทรอึ้งบ้าง แล้วพยักหน้า
"ใช่ฉันชอบน้องอัม แต่ที่ฉันไม่แสดงออกก็เพราะฉันรู้ว่าน้องอัมชอบนาย"
"แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรฉันเป็นใคร ก็แค่เด็กวัดจนๆคนหนึ่ง ฉันไม่คู่ควรกับน้องอัมเลยสักนิด"
"นายคิดอย่างนี้เหรอถึงตีตัวออกห่างน้องอัม"
"ใช่..คนที่เหมาะกับน้องอัมควรจะเป็นนายมากกว่า"
อาทรโมโห ชกสันติเต็มๆ สันติเซไปนั่งกับพื้นมองอาทรงงๆ อาทรชี้หน้า
"ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาฉันไม่เคยทำร้ายนาย แต่หมัดเนี่ยเพื่อเตือนสตินายให้รู้ว่า น้องอัมไม่ใช่สิ่งของ ที่นายจะมายกให้คนโน่นคนนี้ได้ตามความคิดบ้าๆของตัวเอง ถ้านายรักน้องอัมจริงนายก็ควรจะถีบตัวเองขึ้นมาให้คู่ควรกับน้องอัมสิ ไม่ใช่ถอยตั้งแต่ยังไม่เริ่มแบบนี้"
สันติมองอาทรอย่างไม่อยากเชื่อ
"คนที่เสียใจไม่ใช่นายคนเดียวแต่น้องอัมก็เสียใจไม่แพ้นาย นายคิดว่านายทำถูกแล้วเหรอ"
อาทรเดินผละไปอย่างโกรธๆ สันตินั่งนิ่งครุ่นคิดตามที่อาทรพูด

ในมหาวิทยาลัยตอนเย็น ฝนตกลงมาอย่างหนัก สันติยืนครุ่นคิดอยู่ใต้ตึกมองฝนที่กำลังตกหนัก เสียงอาทรเข้ามาในความคิด
" ถ้านายรักน้องอัมจริงนายก็ควรจะถีบตัวเองขึ้นมาให้คู่ควรกับน้องอัมสิ ไม่ใช่ถอยตั้งแต่ยังไม่เริ่มแบบนี้ คนที่เสียใจไม่ใช่นายคนเดียว แต่น้องอัมก็เสียใจไม่แพ้นาย นายคิดว่านายทำถูกแล้วเหรอ"
สันติยืนคิดแล้วชะงักรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ สันติหันไป อัมรายืนอยู่มุมหนึ่งมองสันติอยู่ พอเห็นสันติหันมา อัมรารีบเดินฝ่าสายฝนออกไปทันที
สันติตะโกนเรียก
"น้องอัมเดี๋ยวครับน้องอัม"
อัมราไม่ฟังวิ่งเร็วขึ้น แล้วลื่นล้มลงไปนั่งกับพื้น สันติตกใจ
"น้องอัม"
สันติรีบวิ่งเข้าไปประคอง อัมราปัดมือ
"เป็นไงบ้างครับค่อยๆนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องอัมลุกได้"
อัมราฝืนลุกขึ้นเองแล้วกลับเซไปซบสันติเพราะเจ็บแปล็บที่ข้อเท้า สันติประคองพูดดุๆ
"ยังจะทำเก่งอีก ข้อเท้าแพลงแล้วล่ะมั้ง"
อัมรามองสันติอย่างน้อยใจ สันติเห็นแววตาเสียใจของอัมรา สันติกำลังจะพูดขอโทษ จุฑากางร่มเข้าเมาพูดเสียงดัง
"อะไรกันน่ะอาร์ต"
สันติรีบหันมาบอก
"น้องอัมหกล้ม"
จุฑามองหมั่นไส้
"แหมทำเป็นเด็กๆไปได้นะคะ น้องอัม มาให้พี่ช่วยประคองดีกว่า"
เสียงแตรรถดัง ทั้งสามมองไป พรรณรายนั่งอยู่ที่คนขับ สีหน้าไม่พอใจ กดแตรเร่งดังๆ
อีกหลายครั้ง แล้วหมุนกระจกลงตะโกนอีก
"เร็วๆสิ"
อัมรารีบบอก
"ไม่เป็นไรค่ะ เดินได้ พี่พรรณมารับไปโรงพยาบาลแล้ว อัมขอตัวก่อนนะคะ"
อัมราฝืนความเจ็บ เดินเขยกๆไปขึ้นรถ รถออกไป สันติยืนมองอย่างเป็นห่วง
จุฑาแปลกใจ
"ใครเป็นอะไร"
"คุณอาอารีย์ไม่สบาย"
"น้องอัมเนี่ยมีอะไรต้องรายงานอาร์ตตลอดเลยนะ"
"เปล่า ออยบอกอาร์ตต่างหาก"
จุฑาหน้าดีขึ้นรีบเปลี่ยนเรื่อง ร่าเริง
"ไปกินไอติมกันนะอาร์ต"
"จุ๊บไปเถอะ อาร์ตไม่อยากกิน ขอตัวก่อนนะ"

สันติสีหน้ากังวลเดินไปอีกทาง จุฑามองตามไม่พอใจ
 
จบตอนที่ 5


กำลังโหลดความคิดเห็น