เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 6
ย่างอนเดินหน้าบึ้ง ภูมิวิ่งตามมา รามนรีเดินตามมาห่างๆ
“คุณย่า นี่คุณย่าโกรธผมเหรอ”
“ไม่ได้โกรธ แต่ไม่พอใจ แล้วก็ไม่เข้าใจ ว่าในหัวพวกแกคิดอะไรอยู่”
ภูมิหลบตาหน้าจ๋อย
“แทนที่จะดีใจ ที่ย่าจะจัดงานให้ เพื่อเป็นมงคลกับชีวิตและให้เกียรติผู้หญิงดีๆ อย่างเมียแก แต่พวกแกกลับโวยวายซะงั้น ฉันละงงมาก”
ภูมิรีบเข้าไปโอบไหล่ย่า
“ทำไมผมจะไม่ดีใจล่ะครับคุณย่า”
“นี่ถามจริง ตกลงแกเป็นผัวเมียกันจริงไหม หรือว่าเป็นแผนของแก ที่ไม่อยากแต่งงานแล้วรวมหัวกันมาหลอกย่า”
ภูมิกับรามนรีหันไปสบตากัน หน้าเหวอ
“โห ไม่จริงนะครับคุณย่า ผมกับเดือนเรารักกันจะตาย”
ภูมิรีบเข้าไปโอบกอดรามนรี หอมแก้ม รามนรีตกใจ มองเอาเรื่องภูมิ แต่พอหันไปเห็นย่ามองมา ก็ไม่กล้าขัดขืน ส่งยิ้มแหยให้ย่า ย่าอมยิ้มมอง
“รักกันมากอย่างนี้ก็ดีแล้ว และต้องรีบผลิตเหลนให้ย่าไวๆ ให้ย่าได้เห็นหน้าเขาก่อนตาย เพราะย่าลงทุนทำห้องข้างๆ เป็นห้องเบบี้บูม เหลนทวดไว้รอแล้ว”
ภูมิตกใจ
“หะ เบบี้บูม เหลนทวด”
รามนรีกระซิบข้างหู
“นี่ไง ที่ฉันบอกคุณว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับฉัน แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง”
ภูมิส่งสายตาวิงวอนรามนรี กระซิบ
“ผมเข้าใจละ แต่ตอนนี้ ตามน้ำไปก่อนนะคุณ”
รามนรีหน้าหงิกส่ายหน้า แต่ภูมิพยายามพยักหน้าวิงวอน ย่ามองสงสัย
“กระซิบกระซาบอะไรกัน หรือว่ามีปัญหาอะไรก็ว่ามา”
ทั้งสองจำใจหันมา ยิ้มแหยให้ย่า
“เปล่าครับ เปล่ามีปัญหา แต่เรากำลังปรึกษากัน ว่าจะผลิตเหลนล็อตแรกให้คุณย่ากี่คนดีต่างหากครับ”
ภูมิโอบกอดรามนรี บีบแขนให้เฉยไว้ รามนรีแค่นยิ้ม ก่อนหันไปมองภูมิเอาเรื่อง ย่าหัวเราะชอบใจ
“ดีๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี ย่ามีสมบัติเยอะ แจกเหลนครบทุกคนแน่นอน”
“คุณย่าคะ หนูรู้สึกปวดหัว ขอตัวกลับก่อนได้ไหมคะ”
“อ้าวเหรอ แล้วปวดมากไหม ย่าว่าไปกินข้าวกินปลาก่อนดีไหม จะได้กินยา”
“ขอบคุณค่ะ แต่ตอนนี้ หนูยังกินอะไรไม่ลง”
ย่ายิ้มร่า ดีใจคิดว่ารามนรีท้อง รีบถาม
“ว่าแต่นอกจากปวดหัว แล้วมีอาการอื่นอีกไหม”
“อาการอะไรเหรอคะ”
“ก็ประมาณคลื่นไส้อาเจียน เหม็นโน่นเหม็นนี่”
“เหม็นโน่นเหม็นนี่ ไม่มีค่ะ จะมีก็แต่เหม็นหน้า”
รามนรีปรายตามองภูมิ ย่าดีใจ
“อย่างนี้ต้องแพ้ท้องแน่ๆ ตอนย่าท้อง ย่าก็เหม็นหน้าคุณปู่ ไม่อยากเห็นหน้าเลย”
“แต่หนูไม่ได้ท้องค่ะคุณย่า เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ แล้วตื่นเช้า ก็เลยทำให้ปวดหัว ได้นอกพักสักครู่ ก็คงจะดีขึ้น งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”
ย่าเซ็ง ก่อนพยักหน้าให้รามนรีไปพัก แล้วย่าก็คว้ามือภูมิ เดินไปอีกทาง
รามนรีเดินเข้ามาในสวน หน้าเครียด
“หนีงานแต่ง สุดท้ายก็ได้มาเจอแต่งงาน โอ๊ย ทำไมฉันหนีมันไม่พ้นสักทีนะ”
รามนรีตั้งสติ กลอกตาไปมาใช้ความคิด
“ไม่ได้ เขาเป็นของพี่เดือน ยังไงก็ต้องแต่งกับพี่เดือนคนเดียว”
รามนรีเดินออกไป
ย่าพาภูมิมานั่งในห้องโถง ขบวนคนรับใช้ในบ้านถูกเรียกมานั่งกันพร้อมหน้า
“คุณย่าเรียกเขามาทำไมเนี่ย”
“เฉยๆ เถอะน่า ถวิล พรุ่งนี้ไปซื้อถั่งเฉ้า และยาจีนบำรุงกำลัง มาให้หลานฉัน บุญปลูกกับเภา ต้องจัดให้เขากินทุกวัน”
“หะ ถั่งเฉ้า เอามาทำอะไรครับคุณย่า ไม่เอา ผมไม่กิน”
กลุ่มคนรับใช้มองภูมิ ก่อนหันไปสบตายิ้มให้กัน
“กินหน่อยน่า ก็ย่าอยากเห็นหน้าเหลนเร็วๆ ขอเปิดปุ๊บติดปั๊บเลยนะภูมิ”
“โห เรื่องเล็กๆ แค่นี้ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ผมมีน้ำยาไม่ต้องพึ่งยาบำรุง คุณย่ากำลังทำให้ผมต้องอับอายขายหน้านะครับเนี่ย”
“จะอายทำไม แล้วมันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับย่า ใครจะทำไม”
“โห เผด็จการจริงๆ เลย”
“ถ้าไม่เผด็จการจะเอาแกอยู่เหรอ ลื่นยิ่งกว่าปลาไหลขนาดนี้ เภา เดี๋ยวไปทำซุปร้อนๆ ให้คุณเดือนสักถ้วย เขาไม่สบาย”
“ค่ะคุณท่าน”
เภารู้ไต๋ หันไปพยักหน้าให้นิดไปด้วย บุญปลูกหน้าตื่น
“คุณเดือนแพ้ท้องรึเปล่าคะคุณท่าน”
นิดเอามือปิดปากหน้าเหวอ พึมพำเบาๆ
“เฮ้ย ทำไมไวไฟ ท้องไวจังวะ”
เภามองปรามเอาเรื่อง
“โห น้ำยาคุณภาพดีไม่เบา แล้วจะพึ่งถั่งเฉ้าอีกทำไมครับคุณภูมิ” ถวิลถาม
“ทีแรก ฉันก็คิดเหมือนพวกแก แต่ไม่ใช่ เขายังไม่ท้องย่ะ ยังต้องใช้ถั่งเฉ้าอยู่”
“งั้นเภาขอตัวไปทำซุปก่อนนะคะคุณท่าน ไปนังนิด”
นิดมองตาขวาง เพราะอยากจะเก็บข้อมูลไว้รายงานสราญ ก่อนจำใจเดินตามเภาไป
“นี่ ถ้าทำเสร็จแล้วเอามาให้คุณภูมิที่นี่ อย่าเอาไปเองล่ะ”
“ทำไมล่ะครับคุณย่า ทำไมผมต้องเอาไปให้เขาด้วย”
“เอาไปให้เขาแล้วเป็นอะไร มันอะไร จะตายรึไง ถือว่าเป็นผู้ชาย จะให้แต่เขาคอยเอาอกเอาใจ ทำให้แกคนเดียวรึไง นั่นเมียนะไม่ใช่คนใช้ อะไรช่วยกันได้ก็ต้องช่วย แกนี่มันเห็นแก่ตัว สบายจนเคยตัวจริงๆ”
“โห ถามนิดเดียว คุณย่าไปยาวเลย”
“ก็มันจริงไหมล่ะ ฉันเห็นแต่เขาทำให้แก เคยมองดูเขาบ้างไหม ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน”
“ครับๆ คุณย่า ผมเอาไปให้ก็ได้ครับ”
“เอาซุปใปให้ แล้วก็เอาอกเอาใจเขาบ้าง ผัวเมียกันต้องเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน”
“ครับคุณย่า”
ย่ามองภูมิ พอใจ
เสี่ยอุดรสั่งอาหารจากร้านดัง วางเรียงรายที่บ้านประกายฟ้า
“นี่ถ้าไม่ห่วง กลัวว่าหนูฟ้าจะเหนื่อย เพราะพรุ่งนี้ต้องออกไปทำธุระกัน ผมจะพาทุกคนไปกินอาหารร้านหรูๆ”
“แหม เสี่ยนี่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ เลยนะคะ”
“ถ้าคิดจะรัก ก็ต้องรู้ทุกเรื่องของคนที่เรารัก จริงไหมครับคุณพ่อ”
ประกันรีบพยักหน้าเอาใจ เพราะหวังได้รถคัมรี่
“จริงครับเสี่ย”
ประกายฟ้าแอบเลี่ยน เสี่ยอุดรมองประกายฟ้าตาเยิ้ม
“อาหารอร่อยไหมครับหนูฟ้า”
“อร่อยมากค่ะ”
“สุดยอดทุกอย่างเลย นี่ขนาดไม่ได้ไปกินที่ร้านแต่รสชาติเหมือนกันเลย” ประกันชม
“ร้านมีชื่อเสียง เขาจะรักษามาตรฐานขอรสชาติอาหาร”
“จริงค่ะจริง ไม่งั้นไม่อร่อยอย่างนี้หรอก น้องฟ้า ดูแลเสี่ยหน่อยสิคะลูก”
พวงศรีจิกตาใส่ ประกายฟ้ารีบตักอาหารใส่จานเอาใจเสี่ยอุดร สามพ่อแม่ลูกสบตา ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน ที่เห็นเสี่ยอุดรหลงใหลประกายฟ้า
มุมลับตาคนในสวนบ้านภูมิ รามนรีแอบโทรศัพท์หาเดือนฉาย
“สวัสดีค่ะพี่เดือน วันนี้มีเรื่องด่วนที่อยากจะถาม พี่เดือนสะดวกที่จะคุยกับหนูเล็กไหม”
“สำหรับน้องสาว ไม่มีอะไรไม่สะดวกหรอกจ้ะ มีอะไรก็ว่ามาเลย”
“นี่คือคำถามนะคะ ถ้าพี่เดือนมีแฟนที่รักกันมาก แต่เขามีเรื่องจำเป็นที่ต้องไปเข้าพิธีแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ทั้งที่ไม่ได้รักกัน พี่จะรู้สึกยังไงคะ”
“อืม ตอบยากนะ เพราะเราไม่รู้ว่าขามีเหตุผลอะไร”
“เหตุผลเดียวที่เขาทำ เพื่อผู้หญิงที่เขารัก เขาต้องหาผู้หญิงอีกคน มาปลอมเป็นผู้หญิงของเขา เพื่อหลอกผู้ใหญ่ที่จะจับเขาแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เขาหาไว้ให้ค่ะ”
“หือ นี่มันเรื่องจริง หรือในละครน้ำเน่ากันแน่เนี่ย”
“เรื่องจริงค่ะพี่เดือน”
“อืม ไม่อยากจะเชื่อ ว่ายังมีเรื่องแบบนี้หลงเหลืออยู่อีก”
“ค่ะ มันเป็นเคสหนึ่ง ที่หนูเล็กศึกษาอยู่ ถ้าพี่เดือนเจอสถานการณ์อย่างนี้จะทำยังไงดีคะ”
“ถ้าเป็นพี่ ก็คงจะถามแฟนเรา รับฟังเหตุและผลให้แน่ใจ ว่าเขาไม่ได้หลอกเราเพื่อจะจับปลาสองมือ เพราะพี่จะไม่มีวันรักคนที่ไม่ได้รักพี่ ไม่ซื่อสัตย์กับพี่”
รามนรีอมยิ้มดีใจ ชื่นชม
“พี่เดือนนี่สุดยอดเลย เป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลมากๆ”
“มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีให้กัน ก่อนที่เราจะคิดและตัดสินใจอะไร ต้องใช้สิ่งนี้เสมอจ้ะ”
“ค่ะพี่เดือน หนูเล็กจะจำไว้ พี่เดือนมักมีอะไรดีๆ สอนหนูเล็กเสมอเลย”
“อย่าเรียกว่าสอนเลยนะ เอาแค่แนะนำดีกว่า”
“ค่ะ แนะนำก็แนะนำค่ะ แล้วตอนนี้พี่เดือนกับแฟน เป็นยังไงบ้าง ยังติดต่อกันอยู่ไหม”
“ก็ติดต่ออยู่ แต่ช่วงนี้เห็นเขาเงียบๆ ไป คงจะงานเยอะ แล้วพี่ก็ยุ่งเรื่องเรียน เลยไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกัน”
“ไม่เห็นยากเลย แค่พี่เดือนบินกลับมาหาเขา มาแต่งงานกับเขาก็จบแล้วค่ะ”
“หือ พูดง่ายจริงนะน้องสาว แล้วพูดเหมือนแฟนพี่เปี๊ยบเลย นี่ถ้าหนูเล็กเคยรู้จักกับเขา พี่ต้องคิดว่าหนูเล็กไปรับสินบนเขามาแน่ๆ”
“ดีที่หนูเล็กไม่เคยรู้จักเขา พี่เดือนก็เลยไม่คิดว่าไปรับสินบนมาแน่นอน”
รามนรีแสร้งหัวเราะร่า ก่อนหันไปเห็นภูมิกำลังเดินมา
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะพี่เดือน หนูเล็กต้องรีบไปสัมภาษณ์อีกเคสน่ะค่ะ”
“จ้ะจ้ะ”
รามนรีกดวางสาย รีบเดินเข้าบ้านไปวางฟอร์ม
นั่งหน้าหงิกที่โซฟา ภูมิถือถ้วยซุป เดินเข้ามา
“อ้าว ก็เห็นบ่นปวดหัวจะเป็นจะตาย ทำไมไม่ขึ้นไปนอน แล้วนี่ คุณย่าเห็นคุณไม่สบาย ก็เลยให้ผมเอาซุปร้อนๆ มาให้”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร แค่อึดอัดใจไม่อยากโกหกท่าน จนต้องหาเรื่องหนีออกมา”
“อ้าว เป็นงั้นไป ไอ้เราก็เป็นห่วงซะ”
รามนรีมองหน้าภูมิ สะดุดกับคำว่าเป็นห่วง
“นี่คุณ ฉันว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ จากเรื่องแต่งงาน แล้วนี่ยังจะมาเรื่องมีลูก มีเหลนให้คุณย่าอีก มันเยอะไปไหมเนี่ย”
“ในเมื่อคุณก็รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกๆ คุณจะไปซีเรียสทำไม”
“แต่เรากำลังเล่นกับความรักและความหวังของคนดีๆ อย่างคุณย่าท่านอยู่นะ”
“ก็คำตอบเดิม ที่ผมเคยตอบ ว่าผมจะทำอะไรได้ เพราะท่านคิดไปเอง”
“แต่ ฉันเริ่มรู้สึกผิด รู้สึกละอายใจ ไม่อยากหลอกท่าน”
“งั้นเราก็ไม่ต้องหลอก แล้วมาเป็นผัวเมียกันจริงๆ เลยเอาไหมล่ะ”
“จะบ้าเหรอ พูดออกมาได้ไงไอ้บ้าเอ๊ย”
“คุณนั่นแหละบ้า พูดซ้ำๆ ย้ำคิดย้ำทำอยู่นั่น ผมก็เครียดเป็นเหมือนกันนะ”
“ก็ใครจะไปรู้ ว่าเรื่องมันจะมาถึงขั้นนี้”
“เราคุยเรื่องนี้กันมาเยอะแล้ว คุณก็น่าจะเข้าใจและเห็นใจผมบ้าง ผมก็ไม่ได้อยากทำ”
รามนรีถอนใจให้อารมณ์เย็นลง
“แล้วเรื่องคุณเดือนฉายกับคุณไปถึงไหนแล้ว รีบให้เธอกลับมาเร็วๆ หน่อยสิ”
“ผมทั้งเร่งทั้งรีบ แต่ก็ไม่มีผลอะไร เขาไม่เล่นด้วยสักเรื่อง”
“ก็พยายามให้มากกว่าเดิมสิ”
“ตั้งแต่ผมเกิดมายังไม่เคยทำเพื่อใครมากมายขนาดนี้ บางทีผมก็เหนื่อยมาก”
“ฉันขอโทษ ที่ใช้อารมณ์กับคุณ ฉันว่า คุณรีบไปโทรหาคุณเดือนฉาย ให้สม่ำเสมอ บางทีเธออาจจะยอมใจอ่อนลงก็ได้”
ภูมิสบตารามนรี พยักหน้าให้
“ฉันขอไปอาบน้ำที่ห้องคุณหน่อยนะ เพราะของที่ห้องฉัน ถูกขนหนีคุณย่า เอาไปไว้ที่ห้องคุณจนหมดแล้ว”
“ได้ เชิญคุณตามสบายเลย”
“แล้วห้ามคุณขึ้นไป จนกว่าฉันจะทำธุระเสร็จ เข้าใจ”
ภูมิพยักหน้าให้
ประกายฟ้าเดินหน้าหงิกเข้ามาหาพวงศรีซึ่งกำลังชงน้ำชาอยู่
“เป็นอะไรไปอีกล่ะลูก หน้าหงิกเชียว”
“หนูเบื่อมาก ค่ะแม่”
“นาทีนี้เรากำลังแย่ แกจะเบื่อไม่ได้ แล้วเราก็ตกลงกันแล้ว”
“แต่หนูชอบคุณภูมิมากกว่านี่คะ”
“อย่างี่เง่าน่า นั่นมันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ วันนี้เราต้องดีกับเสี่ยอุดร เข้าใจไหม”
ประกายฟ้าเซ็ง พวงศรีรินน้ำชาใส่ถ้วย
“ถือไปให้เสี่ยเดี๋ยวนี้ ไป”
ประกายฟ้าจำใจ ถือถ้วยชา
“ตามแม่มา เดี๋ยวนี้”
พวงศรีเดินเชิดหน้านำไป
เจ้าสาวเฉพาะกิจ ตอนที่ 6 (ต่อ)
ภูมิคุยกับเดือนฉายทางเฟซไทม์ เขาทำหน้าอ้อนๆ
“เดือนครับ เมื่อไหร่คุณจะกลับมาสักที รู้ไหมผมคิดถึงคุณใจจะขาดอยู่แล้ว”
“อายุยืนจริงๆ เมื่อกี้เพิ่งพูดถึงอยู่เลย”
“พูดถึงผมกับใคร ต้องไอ้ไทแน่ๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ มีคนเขาโทรมาสัมภาษณ์เรื่องงานวิจัยพฤติกรรมผู้ชาย”
“งั้นคงได้ที นินทาผมใหญ่เลยล่ะสิ อย่ามองผมแค่เปลือกนอก ต้องมองมาที่ใจผมนี่”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะพฤติกรรมผู้ชายของภูมิ มันเหมาะกับงานวิจัยของน้องสาวเดือนเอามากๆ”
“ผมไม่ยักกะรู้ว่าเดือนมีน้องสาว”
“ภูมิเข้าใจถูกแล้ว เดือนเป็นลูกคนเดียว แต่หนูเล็กเขาเป็นรุ่นน้อง ครอบครัวเราสนิทกัน เรารักกันเหมือนพี่น้อง”
“อ๋อ เข้าใจละ แต่ผมไม่สนใจเรื่องหนูเล็กน้องสาว สนใจเรื่องพี่สาวคนนี้มากกว่า”
ภูมิอ้าปากจะพูดต่อ แต่เดือนฉายรู้ทัน
“ภูมิคะ เดือนยังยืนยันคำเดิม ว่ากลับไปหาภูมิตอนนี้ไม่ได้ค่ะ”
“ใจร้าย”
“ถ้าคิดว่าเดือนใจร้าย งั้นก็เลิกคบกันไปเลยดีไหม ภูมิจะได้ไปหาผู้หญิงคนใหม่ที่ใจดีกว่า”
“ไม่เอาครับ ไม่เอา ผู้หญิงคนไหนก็ไม่ใจดีและน่ารักเท่าเดือน ถึงแม้ว่าเดือนจะแอบใจร้ายอยู่บ้าง แต่ผมก็รัก เคยได้ยินไหม ถึงร้ายก็ร้าก”
“กะล่อนไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ลับหลังเดือน ภูมิก็คงกะล่อนกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้เหมือนกันสิท่า”
“โธ่เดือน เลิกแขวะผมสักที บอกแล้วไงครับว่าผมถอดเขี้ยวเล็บหมดเกลี้ยงแล้ว ไม่เหลือแม้แต่ตอ ถ้าไม่เชื่อ สาบาน ให้ฟ้าผ่าตายเลยเอ้า”
“อย่าสาบานเลยค่ะ เดี๋ยวทำไม่ได้ ภูมิจะโดนฟ้าผ่าตาย ก่อนวัยอันควร”
ภูมิมองค้อน
“พูดกับคนเจ้าชู้มันพูดยาก ถึงตอนนี้คุณจะถอดเขี้ยว แต่ลายเสือก็ยังอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”
“แล้วผมจะต้องทำยังไง คุณถึงจะเชื่อใจผม”
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ ภูมิแค่เป็นตัวของตัวเอง เดี๋ยวเวลาจะพิสูจน์ให้เห็นเองล่ะค่ะ ว่าภูมิจริงใจกับเดือนแค่ไหน”
“ก็ได้ครับ งั้นระหว่างนี้ผมจะพิสูจน์ความจริงใจ ด้วยการเตรียมงานแต่งไว้รอคุณ หวังว่าเดือนจะไม่ลืมสัญญาระหว่างเรานะครับ”
“ถ้าภูมิไม่ลืม เดือนก็จะไม่ลืมแน่นอนค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะภูมิ”
ภูมิกับเดือนฉายโบกมือ ยิ้มให้กัน ก่อนปิดสัญญาณ ภูมิสบายใจขึ้น
ประกันกับเสี่ยอุดรนั่งคุยกัน พวงศรีกับประกายฟ้าเดินเข้ามา
“ดื่มน้ำชาร้อนๆ ก่อนค่ะเสี่ย นี่น้องฟ้าเขาชงมาให้กับมือเลยนะคะเนี่ย”
ประกายฟ้าวางถ้วยชาไว้ตรงหน้าเสี่ย เสี่ยอุดรหันมามองประกายฟ้าอย่างสุดรัก
“น่ารักมาก เมื่อกี้ผมเพิ่งเซ็นสั่งจ่ายเช็คเงินสดให้คุณพ่อไปหนึ่งล้าน”
พวงศรีหันขวับไปมองประกัน หน้าเหี้ยม ประกันเซ็ง ตั้งใจจะเก็บเอาไว้ใช้คนเดียว
“โอ้ว เหรอคะ”
“เอาไว้เป็นค่าเงินเดือนแม่บ้านที่บริษัทเขาจะส่งตัวมาให้ในวันพรุ่งนี้ และผมขออนุญาตเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านนี้ให้หนูฟ้า”
“อูย ด้วยความยินดีที่สุดเลยค่ะเสี่ยขา เสี่ยนี่น่ารักจริงๆ เลย มิน่าล่ะ ยัยฟ้าถึงร้าก รัก เสี่ยเหลือเกิน”
เสี่ยอุดรยิ้มปลื้ม พวงศรีหันไปส่งสัญญาณให้ประกัน
“เดี๋ยวเชิญเสี่ยนั่งคุยกับน้องฟ้าไปพลางก่อนนะคะ ฉันกับคุณประกัน ขอตัวไปทำธุระสักครู่”
“ขอตัวนะครับเสี่ย”
“เชิญเลยครับ”
ประกายฟ้าเซ็ง หันไปมองพ่อกับแม่ส่งสัญญาณให้เอาใจเสี่ย
พวงศรีกับประกันเดินออกไป เสี่ยอุดรยิ้มเจ้าเล่ห์ พวงศรีออกมาด้านนอกบ้าน หยิกหูประกัน ลากเข้ามา
“ได้โปรดปล่อยหูฉัน ก่อนที่มันจะหลุดได้ไหมแม่พวงศรี”
พวงศรีเหวี่ยงประกันไป แล้วปล่อยมือ
“โอ๊ย เรื่องแค่นี้ ทำกันขนาดนี้เลย”
“แน่นอน ถ้าคราวหน้าคุณยังทำอย่างนี้ ฉันก็จะทำกับคุณให้มากกว่านี้”
“ทำไมคุณโมโหร้ายอย่างนี้นะ”
“คุณก็น่าจะรู้ ว่าศรีจะทนไม่ได้ ถ้าถูกเม้มเงิน”
“อะไร เม้มอะไร ผมก็ตั้งใจจะบอก แต่ยังไม่มีเวลาบอก ก็เท่านั้นเอง”
“เหรอ แต่ฉันว่า ฉันรู้สันดานคุณดีนะ เอาเช็คนั่นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้๐
ประกันจำใจยื่นเช็คให้พวงศรี ตาละห้อย
“ขอส่วนแบ่งที่เป็นธรรมกับฉันด้วยล่ะ”
พวงศรีค้อนใส่ ก่อนหยิบเช็คไปดู ยิ้มปลื้ม
รามนรีเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ หน้าเหวอเมื่อเห็นภูมิยืนอยู่
“เข้ามาได้ไง ก็บอกแล้วไงว่าห้ามมา”
“อ้าว ก็เห็นคุณขึ้นมาตั้งนาน แล้วก็เงียบไป ผมก็นึกว่าอาบน้ำเสร็จแล้ว”
“จะบ้าเหรอ ก็เห็นอยู่ว่าฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”
ภูมิแกล้งทำหน้าหื่น ย่างสามขุมเข้าหา รามนรีตกใจ
“นี่นายจะทำอะไรฉัน จำไม่ได้แล้วหรือไง ว่าเราสัญญา เจรจากันว่ายังไง”
“จำได้ แต่ถ้าผมอยากจะเปลี่ยนใจจะไม่ทำตาม มีอะไรเปล่า”
รามนรีถอยหนีแล้ววิ่งไปคว้าไม้เบสบอลที่หัวเตียงมาง้างขู่
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันฟาดคุณหัวแตกจริงๆ ด้วย คนอะไรไม่รักษาคำพูด ทำดีได้ไม่เท่าไหร่ ก็ดีแตกซะแล้ว”
ภูมิเห็นรามนรีหน้าตาขึงขังจริงจังมาก ก็หลุดขำออกมา
“เฮ้ย ผมแค่แกล้งอำคุณเล่นๆ แต่ดูท่า คุณคงจะคิดว่าผมพิศวาสคุณมากเลยล่ะสิ เฮ้อ ช่างไม่ดูสารรูปตัวเองบ้างเลย”
“โห เล่นกันแรงขนาดนี้เลยเหรอ เออ อยากจะพูดอะไรก็พูดไปละกัน เพราะฉันมันไม่เคยสวยเซ็กซี่ ไม่เคยดูดีในสายตาคุณอยู่แล้วนี่”
ภูมิทำยักไหล่ไม่สน รามนรียกมือท่วมหัว
“สาธุ ขอให้คุณได้แฟนขี้เหร่ยิ่งกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า”
“โอ้โห ปากเหรอเนี่ย แต่ไม่เป็นไร้ ผมไม่ถือสาคุณหรอก เพราะเราต้องเป็นสามีภรรยากันอีกนาน เราต้องรักกันเข้าไว้นะจ๊ะยายของตา”
รามนรีมองขยะแขยง พยายามกำไม้เบสบอลในมือ ข่มอารมณ์
“นายทำบ้าอะไร ออกไปให้ไกลๆ ฉันเดี๋ยวนี้เลยไป”
“ดุเหมือนหมาอย่างนี้ใครจะอยากอยู่ใกล้ สาธุ ขอให้หาสามีไม่ได้ทีเถอะ”
รามนรีมองภูมิหน้าเหี้ยม หายใจแรง ยกไม้ขู่
“จะออกไปไหม จะไปได้รึยัง”
ภูมิทำหน้าทะเล้น แกล้งส่งจูบให้รามนรี แล้วเดินยักไหล่ขำๆ ออกไป
“ไอ้บ้าเอ๊ย”
รามนรีโมโหเผลอทิ้งไม้เบสบอลใส่ขาตัวเอง
“โอ๊ย”
รามนรีกุมเท้า เจ็บ
เสี่ยอุดรมองประกายฟ้าส่งสายตาเจ้าชู้
“หนูฟ้ารู้ได้ยังไงจ๊ะ ว่าเสี่ยชอบดื่มชา”
“ถึงแม้เพิ่งจะรู้จักกัน แต่ฟ้าก็ดูออก ว่าเสี่ยชอบอะไร”
เสี่ยอุดรขยับเข้าไปใกล้ โอบไหล่ไว้
“งั้นก็ต้องรู้ว่าเสี่ยรักหนูฟ้ามากแค่ไหน”
ประกายฟ้าขยะแขยง แสร้งพยักหน้าเอียงอาย
“ก็น่ารักอย่างนี้ จะไม่ให้เสี่ยทั้งรักทั้งหลงได้ยังไง เพื่อตอบแทนความดี เสี่ยมีรางวัล ให้ด้วยนะ”
“รางวัลอะไรเหรอคะ”
เสี่ยอุดรยิ้มปลื้ม หยิบกล่องออกมาแล้วเปิด
เป็นสร้อยเพชรพร้อมจี้เพชรสวยมาก ประกันกับพวงศรี หลบแอบมองตาโต ก่อนหันไปสบตากันยิ้มดีใจ ประกายฟ้าตาโต
“ว้าว สวยมากเลยค่ะเสี่ยขา”
“สร้อยเพชร พร้อมใบเซอร์ มา เสี่ยสวมให้นะ”
ประกายฟ้ากราบที่อก
“ขอบคุณมากๆ เลยนะคะเสี่ย”
เสี่ยอุดรสวมสร้อยให้ประกายฟ้า มองตาเยิ้ม ก้มหน้าจะหอม แต่ประกายฟ้าเบี่ยงตัวหลบ ทำเป็นเล่นตัว
“ไม่เอาค่ะเสี่ย เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่มาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี ฟ้ายังเด็กอยู่นะคะ”
เสี่ยอุดรห้ามใจ
“ไม่เป็นไร เสี่ยเข้าใจ ว่าหนูฟ้ายังอาย ยังไม่ชิน เอาไว้คราวหน้าก็ได้”
“ขอบคุณค่ะ ที่เข้าใจฟ้า”
“ต้องขอโทษที วันนี้เสี่ยนัดเพื่อนไว้ ต้องขอตัวกลับก่อน แล้วพรุ่งนี้เสี่ยจะมารับนะ”
“ค่ะเสี่ย แล้วฟ้าจะรอนะคะ”
เสี่ยอุดรมองยิ้มปลื้ม
ศจี ระพี และเจือจันทร์ ช่วยกันคิดรายชื่อแขกที่จะมาร่วมงานหมั้น
“คุณหญิงย่ารัตนบดินทร์ เราต้องไปกราบเรียนเชิญท่านด้วยตัวเองนะลูก”
“ค่ะแม่”
“ท่านเป็นใครเหรอครับ”
“คุณย่า เป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณย่าศจี ที่เสียไปแล้วน่ะจ้ะ”
“อ๋อครับ”
“คุณย่าใจดีมากเลยนะคะพี ท่านเป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวของศจี ที่ยังเหลืออยู่”
“ครับ”
“แขกงานหมั้นก็คงมีไม่มาก เชิญแต่ญาติสนิทก็น่าจะพอนะลูก”
“ค่ะแม่ นอกนั้นเอาไว้เชิญงานแต่งทีเดียวเลย จะดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เป็นการรบกวนเขา”
“แล้วทางระพีล่ะ แขกเยอะไหม”
“ไม่ครับ ก็มีแต่คุณพ่อ แล้วก็ญาติๆ แค่ไม่กี่คน”
ระพีหน้าเศร้านึกถึงน้องสาว
“คงคิดถึงหนูเล็กอีกแล้ว ใช่ไหมคะพี”
ระพีถอนใจ ยิ้มให้ศจี
“จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงล่ะลูก ก็น้องสาวเขาทั้งคนนี่จ๊ะ”
“ขอบคุณมากนะครับคุณแม่ ที่เข้าใจผม”
“แล้ววันนี้ พีเอารูปหนูเล็กมาด้วยรึเปล่าคะ”
“เอามาครับ”
“งั้นเรารีบลิสต์รายชื่อให้เสร็จ แล้วไปลงเว็บประกาศตามหาคนหายกันดีกว่า เผื่อหนูเล็กเห็นเขาจะได้เปลี่ยนใจ รีบกลับมา”
“ดีครับ”
“ดีจ้ะดี เผื่อจะได้ตัวหนูเล็กมาร่วมงานนี้ พี่ชายอย่างระพี จะได้ดีใจ”
ทุกคนรีบช่วยกัน
เสี่ยอุดรเดินโอบเอวประกายฟ้าออกไปที่รถ ส่งจูบให้ประกายฟ้า พวงศรีกับประกันแอบดูอยู่
“อุตะ ดูแววตาและท่าทางเขาสิ เหมือนใจจะขาดตอนจะจากกัน”
“อย่างนี้เขาเรียกหลงจนหัวปักหัวปำ ไม่งั้นจะฟาดหัวเธอกับฉัน ตั้งล้านหนึ่งเหรอ”
“พูดจาอะไร ไร้สกุล ออกไปทางสถุลเอามากๆ”
“จ้า คุณนายพวงศรี ผู้ดีอังกฤษ”
พวงศรียิ้มพอใจ ก่อนหันไปสบตา ยิ้มให้ประกัน รถเสี่ยอุดรขับออกไป ประกายฟ้าเบ้ปากใส่
เจือจันทร์นั่งมองระพีกับศจี ซึ่งนั่งหน้าจอโน้ตบุ้ค มีรูปภาพของรามนรี พร้อมข้อความใต้ภาพ "รามนรี วิชพัชร์ กรุณาติดต่อกลับทางบ้านด่วน หรือใครพบเห็นบุคคลในภาพ ขอความกรุณาติดต่อกลับ คุณระพี 085- 5959955”
“เอาประมาณนี้ก็พอนะครับ”
“ก็ดีค่ะ”
“จะว่าไป ความไฮเทค มันก็มีทั้งคุณอนันต์ และโทษมหันต์ เหมือนกันนะ”
“ครับคุณแม่ มันก็อยู่ที่คนใช้ ว่าจะเลือกใช้แบบไหน ถูกต้องหรือไม่”
“แต่ เดี๋ยวนี้ศจีว่าคนยังสับสน ยังใช้ผิดประเภท ผิดวัตถุประสงค์กันอยู่เยอะเลยนะคะ”
“แต่เท่าที่แม่ดูข่าว เขาโพสต์ตามหาคนหาย มันได้ผลนะ ได้เจอตัวกันเยอะเลยนี่นา”
“ใช่ ค่ะแม่”
“งั้นผมโพสต์เลยนะ”
“ค่ะ เจ้าประคุณ ขอให้พบหนูเล็กสักที พีจะได้สบายใจกับเขาสักที”
ระพีกดโพสต์ข้อความออกไป พูดเบาๆ
“อย่าเป็นอะไร แล้วกลับมาหาพี่ มาหาพ่อ นะหนูเล็ก”
ระพีมองที่จอ เศร้า
พวงศรีกับประกันรีบวิ่งมาหาประกายฟ้า หลังจากเสี่ยอุดรกลับไปแล้ว
“ถอดสร้อยมาให้แม่ดูซิ”
“ถอดทำไมคะ”
“แม่อยากดูใกล้ๆ”
ประกายฟ้าถอดสร้อยส่งให้พวงศรี
“โห สงสัยจะหลายกะรัต หลายแสนเลยนะเนี่ย”
“นี่ขนาดเพิ่งเริ่ม ยังได้ตั้งหลายล้าน จะหาอย่างนี้ได้ที่ไหน หนูต้องเอาใจเขาให้มากๆ เขาจะได้ให้เรามากๆ เข้าใจไหม พ่อกับแม่ จะได้ไม่เครียด”
ประกันกับพวงศรีมองหน้าประกายฟ้า ที่ดูไม่มีความสุข
“แล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะลูก”
“ฟ้าเบื่ออีตาเสี่ยแก่ ขี้หลี นี่เต็มทีแล้วค่ะ”
“อะไรกัน นี่มันเพิ่งเริ่ม อย่าเพิ่งเบื่อสิลูก”
“ใช่ ชอบทำหน้าหงิกหน้างอทุกทีเลย”
“ก็หนูไม่ชอบเขาตั้งแต่แรกเจอแล้วนี่คะแม่”
“เพื่อเงินของเขา เราก็ต้องฝืนใจหน่อย อย่าลืม ถึงเราจะวางเขาเป็นตัวสำรอง แต่เขาก็รวยไม่แพ้ตระกูลรัตนบดินทร์ ถ้าชวดทางโน้น เราก็ยังมีทางนี้”
“ใช่ ตอนนี้ลูกต้องทำให้เขารักเขาหลง ต้องสูบเงินจากไอ้เสี่ยอุดรให้ได้เยอะที่สุด ก่อนที่จะสลัดมันทิ้ง จะได้คุ้มค่ากับเวลาที่เราเสียไป”
“ก็ไม่เห็นต้องซีเรียสอะไร ถ้าแกอยากหลุดจากเสี่ยอุดร แกก็ต้องจับคุณภูมิให้ได้ก็จบ ไปกันเถอะ”
“จะไปไหนกันเหรอคะ”
“คนอย่างแม่แกจะมีอะไร้ พอมีเงินก็เปรี้ยวปาก อยากจะไปช็อบปิ้งน่ะสิ”
“ไปลูกไป แม่จะพาไปดูกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ด้วยกัน”
“ไม่ล่ะค่ะ วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาก อยากจะพัก ไม่อยากไปไหน”
“งั้นก็ตามใจ พ่อกับแม่ไปนะ”
ทั้งสองเดินออกไปทันที ประกายฟ้ายืนมองพ่อกับแม่ เซ็งๆ แอบเศร้า
รามนรีใส่ชุดนอน นั่งหวีผมหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง มีผ้าห่มกับหมอนที่วางกองไว้ เตรียมขนไปนอนที่อื่น ภูมิเคาะประตู ร้องเรียก
“นี่ คุณยาย เร็วหน่อยได้ไหม คุณตารออยู่”
รามนรีลุกเดินไปเปิดประตู
“อย่าทะลึ่ง แล้วจะมารอฉันทำไม จะไปไหนก็ไปสิ”
“อ้าว พูดงี้ได้ไง ลืมไปรึเปล่า ว่านี่มันห้องผม”
“เออ จริงแฮะ”
“แล้วผมก็มีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“งั้นคุณไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวฉันตามลงไป”
“จะให้ลงไปให้เมื่อยตุ้มทำไม คุยกันในห้องนี้ก็ได้นี่นา”
“ไม่ได้ ฉันไม่ไว้ใจคุณ”
“อะไรของคุณเนี่ย ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า”
“นี่ ตกลงจะคุยไหม ถ้าไม่โอเคตามที่ฉันบอก ก็ไม่คุย”
“โอเคๆ ห้องรับแขกก็ห้องรับแขก คนอะไรวะ เรื่องเยอะจริงๆ”
ภูมิยืนมองประตู เซ็งๆ ก่อนเดินออกไป
คืนนั้นย่าคุยอยู่กับบุญปลูก
“คุณสราญ จะกลับมาเมื่อไหร่คะคุณท่าน”
“เห็นโทรมาคุยทีไรก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย เดี๋ยวก็บอกว่าจะกลับแล้วก็ไม่กลับ ฉันก็เลยไม่ใส่ใจกับเขาแล้ว ปวดหัว”
“แล้วถ้าเขากลับมา คุณท่านว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“เธอก็คงจะได้ดูงิ้วโรงใหญ่น่ะสิ”
“แล้วมันจะน่ากลัวไหมคะ”
“สำหรับฉัน ไม่ แต่คนอื่นไม่รู้”
“ปลูกเป็นห่วงคุณเดือน”
“แต่ฉันมั่นใจ ว่าแม่เดือนฉาย ไม่ใช่หมูสำหรับแม่สราญ”
“แต่คุณสราญ ก็ไม่เคยเป็นที่สองรองใครเรื่องความเขี้ยวนะคะคุณท่าน”
“เคยได้ยินไหม ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
“ค่ะ และปลูกยังเคยได้ยินอีกว่า เหนือกระดาษ ก็ยังมีซาลาเปา”
“ใช่ และเรา ก็ต้องคอยช่วยเหลือแม่เดือนเขา”
บุญปลูกพยักหน้า สบตาย่า
จบตอนที่ 6