ลุ้นรักข้ามรั้ว ตอนที่ 24
แก้วกัลยากับเพื่อนที่ชื่อดารณี กำลังนั่งดูไอแพด หาที่ท่องเที่ยวกันอยู่
“ทำบุญ 9 วัดมั้ยเธอ กิจการร้านอาหารเธอจะได้เจริญรุ่งเรือง” แก้วกัลยาเสนอ
“เออๆ ทำบุญ 9 วัดก่อน เสร็จแล้วก็ไปเดินเที่ยวตลาดน้ำกัน”
“ได้ๆ เดี๋ยวฉันพาทัวร์เอง”
ขาดคำ หญิงใหญ่ หญิงเล็กและชายเล็ก ก็เดินลงมาจากบนบ้านพอดี
“หิวจังเลย มีอะไรกินบ้างน้า” หญิงใหญ่ทำเสียงอ้อนแม่
“แม่เตรียมไว้ให้แล้ว นี่ มาสวัสดีเพื่อนแม่ก่อน”
ทั้ง 3 คน รีบยกมือไหว้ดารณี
“เพื่อนแม่เปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่อเมริกา ร้านดังมากด้วยนะเนี่ย”
ดารณีมองหญิงใหญ่ แล้วหันมาถามแก้วกัลยา “นี่ใช่มั้ย ลูกสาวคนโตของเธอ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย”
“คนนี้แหละที่เราคุยกันไว้”
หญิงใหญ่ทำหน้างง “คุยอะไรเหรอคะแม่”
แก้วกัลยาอึกอัก “ก็คุยทั่วๆ ไปนั่นแหละ เอ้อ เดี๋ยวแม่จะพาเพื่อนแม่ไปเที่ยวนะ ยังไงก็ช่วยกันดูแลร้านล่ะ”
หญิงเล็กรีบถามทันที “อ้าว แล้วใครจะช่วยหนูทำกับข้าวล่ะคะ”
“ไม่ต้องห่วง แม่มีคนมาช่วย”
แก้วกัลยากับดารณีมองหน้ากัน แล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
จังหวะนั้น ฟางก็เดินเข้ามาพร้อมๆ กับฮันนี่ ชายเล็กหันไปเห็น ก็ถามขึ้นมาทันที
“อุ๊ย ใครอ่ะพี่ฮันนี่”
ฮันนี่ทำเขิน “บอยเฟรนด์พี่น่ะค่ะ”
หญิงเล็กตาโต “เชรดด หน้าอย่างพี่ฮันนี่ หาได้ดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
ฮันนี่งง “นี่ชมหรือด่าพี่คะเนี่ย”
หญิงเล็กยิ้มขำ “ชมจากใจเลยค่า”
แก้วกัลยามองค้อน “ไม่ต้องมาแอ๊บนังฮันนี่ นี่พ่อฟาง เป็นลูกชายเพื่อนแม่เอง พ่อฟาง นี่หญิงใหญ่ หญิงเล็ก แล้วก็ชายเล็กนะลูก”
ฟางยิ้มให้ “สวัสดีทุกคนนะครับ”
แก้วกัลยาอธิบายต่อ “พ่อฟางนี่เป็นเชฟอาหารไทยที่เก่งมากเลยนะ วันนี้หญิงใหญ่ไม่ไปไหนใช่มั้ยลูก”
หญิงใหญ่อ้าปากจะตอบ แต่ไม่ทันได้ตอบ แม่ก็พูดต่อทันที
“ดีมาก งั้นก็อยู่เป็นลูกมือพี่ฟางเค้าแล้วกันนะ จะได้เรียนรู้ใจ..เอ้ย เรียนรู้งานครัวกับพี่เค้า”
หญิงเล็กแอบกระซิบพี่สาว “งานจับคู่นี่เอง งิ งิ งิ”
ฟางรีบบอก “ไหนๆ ก็อยู่กันครบแล้ว ขอเซลฟี่สักรูปแล้วกันนะครับ”
พูดพลางรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเซลฟี่ แก้วกัลยารีบจัดหญิงใหญ่ให้อยู่ใกล้ฟาง ฝ่ายลูกสาวเริ่มเครียดที่จะถูกแม่จับคู่ให้
ทางด้านตี๋ใหญ่ก็กำลังดูรูปฟางจากโทรศัพท์หมวยเล็ก ที่ชายเล็กถ่ายส่งมาให้
“เป็นไงเฮีย ว่าที่ลูกเขยคนโตบ้านนั้น”
ตี๋เล็กรีบย้อนถาม “ว่าที่ลูกเขยเลยเหรอ”
ตี๋ใหญ่แอบเครียด “นั่นสิ เค้าโอเค. กันแล้วรึไง”
“ก็เห็นดูฤกษ์กันแล้วนะ”
ตี๋ใหญ่ตกใจ “หะ?”
“ล้อเล่น แหม ตกใจขนาดนี้ คิดอะไรกับเค้าป๊ะเนี่ย”
ตี๋ใหญ่อึกอัก “คิดอะไรล่ะ ก็เห็นว่าอยู่บริษัทเดียวกัน ถ้าแต่งงานแล้วต้องลาออกจากงาน จะได้หาคนใหม่รอ”
ตี๋เล็กอมยิ้ม “สาบาน?”
ตี๋ใหญ่พยักหน้า “ให้บ้านไฟไหม้เลย”
หมวยเล็กรีบบอก “นี่บ้านเสี่ยชาญเค้าเฮีย สงสารแกเถอะ เค้าอุตส่าห์ให้เช่าถูกๆ”
ทันใดนั้น จางก็เดินเข้ามา “เฮียครับเฮีย”
ตี๋เล็กรีบหันไปบอก “ เตี่ยออกไปซื้อของที่ตลาด มีอะไร”
“เมื่อกี๊ผมเห็นเชฟคนใหม่ของบ้านโน้นมาครับ อย่างหล่อเลย”
หมวยเล็กรีบยื่นโทรศัพท์ให้ดู “คนนี้ใช่มะ”
“ใช่ครับ คนนี้แหละ”
“เค้าชื่อฟาง เป็นลูกชายเพื่อนแม่แก้วกัลยา ถูกส่งมาให้ดูใจกับพี่หญิงใหญ่”
จางหน้าเจื่อน “โห รู้เร็วกว่าไม่เท่าไหร่ นี่รู้ลึกรู้จริงด้วยนะครับเนี่ย”
หมวยเล็กทำท่ายืด “วงในดีก็งี้แหละ”
ตี๋ใหญ่แอบเหน็บ “วงในคงจะดีมากสินะ ถึงกับเรียกแม่แก้วกัลยางี้”
ตี๋เล็กพูดต่อ “พี่หญิงใหญ่งี้”
“ตายล่ะ แช่ผ้าไว้ยังไม่ได้ซักเลย มัวแต่เม้าท์เนี่ย”
หมวยเล็กหน้าแดง รีบลุกหนีไปเลย
ตี๋ใหญ่เริ่มเครียดๆ ตี๋เล็กแอบสังเกตอาการของพี่ชาย
ฟางหย่อนปลาทูลงกระทะทอด จากนั้นก็ซอยพริก กระเทียม ต้นหอม อย่างคล่องแคล่ว หญิงใหญ่กับหญิงเล็กแอบซุ่มดูอยู่ โดยอีกฝ่ายไม่เห็น
“เท้ เท่เนอะ พี่หญิงใหญ่”
หญิงใหญ่ยิ้มรับ “ผู้ชายเวลาทำกับข้าวนี่ มีเสน่ห์เสมอ”
หญิงเล็กทำหน้าแปลกใจ “หน้าตาดี ทำกับข้าวเก่งแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะโสด”
ฟางหยิบโทรศัพท์ออกมาโซเชี่ยล ฮันนี่เข้ามาซุ่มมองฟางร่วมกับหญิงใหญ่และหญิงเล็ก
“แหนะ มายืนส่องผู้ชายกันอยู่นี่เอง”
หญิงเล็กรีบจุ๊ปาก “เบาๆ สิ พี่ฮันนี่”
ฟางยืนก้มหน้ามองโทรศัพท์อยู่ ฮันนี่ทำหน้าตกใจ
“โอ้มายก๊อด ก้มหน้าโซเชี่ยลแบบนั้น ปลาจะไหม้มั้ยคะเนี่ย”
หญิงเล็กพยักหน้าหงึก “เออจริงด้วย”
จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปจะไปกลับปลาแต่ช้ากว่าฟาง ที่หยิบตะหลิวกลับปลาในทันใด ขณะที่สายตายังมองอยู่ที่จอโทรศัพท์
หญิงเล็กมองอย่างทึ่ง “โอ้ว ไม่ธรรมดา”
“อ้าว เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย” ฟางพูดไปขณะที่ก้มหน้าแชทไลน์ไป
“ก็เพิ่งเข้ามานี่แหละค่ะ”
ฮันนี่รีบเสนอหน้า “ถ้ามีธุระต้องแชทกับใคร ให้ฮันนี่หรือคุณหญิงเล็ก ช่วยก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมแยกประสาทได้ คุณแก้วครับ ไม่ทราบว่ามีไลน์รึเปล่า”
ฟางหันมาถามหญิงใหญ่ แต่หญิงเล็กชิงตอบก่อน
“ก็มีอยู่ 3-4 ลายที่หลังน่ะค่ะ”
หญิงใหญ่พูดต่อ “ค่ะ เมื่อคืนหนีไปเที่ยวทองหล่อมา โดนแม่ตีซะหลังลายเลย..เย้ย! คนละไลน์แล้ว”
พูดพลางส่งโทรศัพท์ให้ฟางไปสแกนบาร์โค้ด ส่วนหญิงเล็กกับฮันนี่แอบเหล่ปลาในกระทะ กลัวว่าจะไหม้
ฟางคว้าตะหลิวตักปลาทูขึ้นจากกระทะมาใส่จาน ขณะสายตายังมองที่โทรศัพท์หญิงใหญ่
หญิงเล็กกับฮันนี่พูดขึ้นมาพร้อมกัน “ขั้นเทพ”
ฟางกดโทรศัพท์มือถือหญิงใหญ่ แล้วเข้าหน้าเฟซบุ๊ก พิมพ์ชื่อตัวเอง ส่งคำขอเป็นเพื่อน และกดรับแอดที่โทรศัพท์ตัวเองเสร็จสรรพ
“ผมรับแอดเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กแล้วนะครับ”
หญิงใหญ่ตกใจ “หะ”
“เอ้อ ลืมขออนุญาตก่อนเลย พอดีมือสั่นไปนิด ยังไงก็ขออนุญาตนะครับ”
หญิงใหญ่แอบบ่น “ขนาดนี้ก็ไม่ต้องขอละมั้ง”
ฟางหันไปหยิบพริกกระเทียมลงครก มือหนึ่งตำ อีกมือหนึ่งเล่นมือถือ หญิงใหญ่ หญิงเล็กและฮันนี่มองแบบอึ้งๆ
หมวยเล็กเปิดดูการจัดอันดับเชฟกระทะหล่อที่หน้าไอแพด พร้อมกับทำหน้าปลื้มปริ่ม เฮงที่กำลังช่วยกันกับตี๋เล็กเก็บจานอยู่ที่โต๊ะ มองลูกสาวอย่างแปลกใจ
“ดูอะไรอยู่หมวยเล็ก นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”
“ดูอันดับเชฟกระทะหล่ออยู่น่ะเตี่ย แต่ละคนนี่หล่อน่ากินทั้งนั้นเลย”
เฮงตาโต ตกใจ “เฮ้ยๆๆ อะไรน่ากิน”
“เอ่อ อาหารน่ะเตี่ย”
“เออ พูดให้มันเคลียร์ๆ”
หมวยเล็กทำตาวิบวับ “หล่อไม่พอ ทำอาหารน่ากินสุดๆ อีกอ่ะ ใครได้เป็นแฟนคงฟินน่าดู”
ตี๋เล็กรีบบอก “นี่ รอดูปีต่อๆ ไปได้เลย เฮียต้องติดอันดับกับเค้าชัวร์”
“โอเค. จะปูเสื่อรอดูเลยเฮีย”
เฮงเอาบ้าง “นี่ถ้าสมัยก่อน มีจัดอันดับเชฟแบบนี้นะ เตี่ยติดอันดับกับเค้าแน่นอน”
ขณะนั้นจางก็เดินยกจานจากหน้าบ้านเข้ามาพอดี “อันดับเชฟปากห้อยเหรอครับ”
“ใช่ ห้อยเป็นเปลญวนแบบนี้ เอาที่หนึ่งไปเลย ถุย เชฟปากห้อยบ้านป้าแกสิ”
จางหน้าเจื่อน “อ้าว ก็ได้ยินแว่วๆ ว่ามีการจัดอันดับเชฟ แล้วเฮียก็บอกว่าติดอันดับแน่นอน ผมก็คิดว่าจัดอันดับเชฟปากห้อยกัน”
“พูดมาก เอาจานนี้ไปล้างเลย”
เฮงรีบเอาจานที่เก็บ ยกเทินให้จางยกเข้าไปในครัว
“ไม่น่าแวะคุยด้วยเลย”
ตี๋ใหญ่หันมาถามน้องสาวบ้าง “ชอบผู้ชายทำกับข้าวเหรอหมวยเล็ก”
“ก็ชอบนะเฮีย หมวยว่าผู้ชายทำกับข้าวดูมีเสน่ห์ดีอ่ะ”
ตี๋เล็กรีบเสริม “ใช่เฮีย เท่าที่อั๊วรู้มา ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คิดกันอย่างนี้นะ”
เฮงเห็นด้วย “ถูก ที่แม่ลื้อมาชอบเตี่ยเนี่ย ก็เพราะเสน่ห์ปลายจวักของเตี่ยนี่แหละเว้ย”
ตี๋ใหญ่เริ่มเครียดว่าหญิงใหญ่จะหวั่นไหวกับเสน่ห์ปลายจวักของฟาง
ทางด้านที่บ้านแก้วกัลยา ฮันนี่กับฟางช่วยกันยกอาหารมาวางบนโต๊ะ
“อาหารเสร็จแล้วค่า มากินกันเร้ว คัมม่อน”
ฮันนี่เคาะจานข้าวเรียก หญิงใหญ่ หญิงเล็กและชายเล็กวิ่งมาจากคนละทิศละทาง
“เอ้า คอยๆ ไหนขอมือหน่อยซิ”
หญิงใหญ่ หญิงเล็กและชายเล็กยกสองมือขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะช็อต
หญิงเล็กมองค้อน “แหม เล่นด้วยล่ะ เอาใหญ่”
ฮันนี่ยิ้มรับ “หนุกหนานค่า..Why so serious”
ชายเล็กมองที่อาหาร แล้วหันมาถาม “นี่ฝีมือพี่ฟางเหรอครับเนี่ย”
ฟางไม่ตอบ แต่ย้อนถามกลับ “น่ากินมั้ยล่ะ”
หญิงใหญ่รีบบอก “น่ากินมาก รออะไรอยู่ล่ะคะ”
3 พี่น้องทำท่าจะตักกิน แต่ฟางขัดขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวครับ”
3 พี่น้องชะงัก ฟางหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปอาหาร เล็งหามุมไปเรื่อย แต่ยังไม่ถูกใจ
“แสงไม่เคลียร์เลย”
หญิงใหญ่รีบเสนอ “ให้ช่างไฟมาจัดแสงหน่อยมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมมีส่วนตัวของผม”
หญิงเล็กตกใจ “หะ”
ฟางหยิบไฟ LED มือถือออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อน แล้วเปิดส่องอาหาร เล็งหามุมถ่ายรูป
“นี่จะเอาลงนิตยสารเหรอคะ” หญิงเล็กถามอย่างสงสัย
“อ๋อ อัพลงเฟซ ลงไอจีเฉยๆ ครับ”
ชายเล็กทำตาโต “บ๊ะเจ้า สุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆ”
“คนเราถ้าทำอะไร ต้องทำให้สุดครับ”
ฟางเล็งมุมถ่ายจนพอใจ ใครจะรอก็ไม่สน หญิงเล็กแอบบ่นกับพี่สาว
“น้องว่าน้องบ้าถ่ายรูปก่อนกินละนะ เจอนี่เข้าไป กลายเป็นเด็กน้อยเลย”
หญิงใหญ่มองฟางแบบเซ็งๆ ประมาณว่าถ้าให้คบด้วยคงสติแตก
ตี๋เล็กอยู่ที่ตลาดกำลังขนของเข้าท้ายรถ ก่อนจะหันมาเห็นหญิงเล็กกำลังหิ้วผัก หิ้วของมาพะรุงพะรัง ทั้งร้อนและเหนื่อย จนเหงื่อแตกซิกๆ
“อ้าว คุณนาย ไปเดินตกท่อที่ไหนมาครัช เปียกชุ่มไปทั้งตัวเชียะ”
หญิงเล็กทำหน้าหงุดหงิด “นี่ ร้อนๆ เหนื่อยๆ อย่ามาแซว เดี๋ยวแม่ด่าล้างโคตร”
“โอ้โห โหดจุง”
พอหญิงเล็กจะเดินต่อ ตี๋เล็กก็ขวางไว้ “กลับด้วยกันมั้ยล่ะ”
“โตแล้ว กลับเองได้”
“รู้ว่าโตแล้วกลับเองได้ แต่เห็นอากาศร้อนๆ แถมของก็เยอะอย่างกับจะไปเปิดโรงเจ”
หญิงเล็กด่ากลับ “โรงเจบ้านเตี่ยนายสิ”
“เออนั่นแหละ เห็นถือของเยอะๆ ก็เลยชวนนั่งรถไปด้วยกัน แอร์เย็นๆ เพลงเพราะๆ ไม่ดีไง”
หญิงเล็กอยากขึ้น แต่ทำวางฟอร์ม “ไม่อ่ะ แม่สอนไว้ ไม่ให้ขึ้นรถคนหน้าแปลก”
“แปลกหน้าป๊ะ ถ้าอย่างนี้หน้าแปลก ทั้งประเทศก็ไม่มีใครหล่อแล้วล่ะ”
หญิงเล็กเบ้ปาก “แล้วแต่”
ตี๋เล็กกวนกลับ “ก็แล้วแต่เหมือนกัน อยากจะซ้อนมอไซให้หัวฟูก็ตามใจ”
ว่าแล้วก็เดินไปเปิดประตูรถ แต่พอเข้ามานั่ง ก็เจอหญิงเล็กนั่งรออยู่แล้ว
“เฮ้ย”
หญิงเล็กทำหน้าตาย “สตาร์ทรถสิคะ ฉันรีบ”
พอตี๋เล็กสตาร์ทรถ หญิงเล็กก็กดเร่งแอร์เต็มพิกัด
“นี่ เร่งแอร์แรงขนาดนี้ จะเป่าให้เย็นไปถึงลำไส้ใหญ่เลยรึไง”
หญิงเล็กยักไหล่ “ก็มันร้อนนี่”
“ก็มันเปลืองน้ำมัน”
“ขับๆ ไป อย่าพูดมาก”
พูดจบ หญิงเล็กก็นั่งหลับตาพริ้ม ฟินจนแทบหายเหนื่อย
อีกด้านหนึ่ง ฟางกำลังเดินเซลฟี่กับลูกค้าตามโต๊ะต่างๆ หญิงใหญ่กับฮันนี่แอบซุ่มยืนดูอยู่ที่มุมหนึ่ง
“ไม่คิดมาก่อนเลยนะคะ ว่าผู้ชายจะมีมุมนี้กับเค้าเหมือนกัน”
หญิงใหญ่ทำหน้าเอือม “แบบนี้ก็เกินไปค่ะพี่ฮันนี่”
จู่ๆ ฟางก็เดินก้มหน้าแชทเข้ามาหาหญิงใหญ่ ก่อนจะสะดุดล้ม ดีที่เธอเข้าไปประคองไว้ได้ทัน ตี๋ใหญ่เดินเข้ามาเห็นหญิงใหญ่กำลังประคองกอดอยู่กับฟาง ก็ถึงกับยืนอึ้งไป
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับ”
ฮันนี่รีบสะกิดหญิงใหญ่ “คู่แข่งมาค่ะ”
ขาดคำ ตี๋ใหญ่ก็เดินเข้ามา พยายามทำหน้าเป็นปกติ หญิงใหญ่หันไปถาม
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“พอดีลูกค้าร้านผมเค้าอยากกินน้ำพริกกะปิน่ะครับ ผมก็เลยมาสั่งให้”
หญิงใหญ่ยังไม่ทันพูดอะไร ฟางก็ถามแทรกขึ้นมา “ที่เดียวใช่มั้ยครับ”
“ครับ”
“รอสักครู่นะครับ พี่ฮันนี่ครับ เข้าไปช่วยถ่ายรูปผมในครัวหน่อยสิครับ ผมจะเอาไว้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก
โปรโมตร้านให้แก้ว”
ฮันนี่ยิ้มรับ “ได้ค่ะ”
พอฟางกับฮันนี่เดินเข้าไปในบ้าน ตี๋ใหญ่ก็เลียบๆ เคียงๆ ถามถึงฟางทันที
“เชฟใหม่เป็นไงบ้างล่ะ”
“เป็นไงหมายถึง?”
“ก็นิสัยใจคอทั่วๆไป”
หญิงใหญ่พยักหน้ายิ้มๆ “ก็ดีนะ เป็นคนสุภาพ”
“สูบบุหรี่มั้ย”
หญิงใหญ่ส่ายหน้า “เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ”
ตี๋ใหญ่ถามต่อ “มีแฟนรึยัง เจ้าชู้รึเปล่า”
“โอ๊ย ลึกแบบนี้ ไม่ได้ถามนิสัยใจคอทั่วๆ ไปละมั้ง”
ตี๋ใหญ่อึกอัก “ก็ได้ข่าวว่าแม่คุณจัดมาให้ ถ้าเกิดดีแล้วคุณจะออกเหย้าออกเรือนไป ผมจะได้หาพนักงานใหม่ไว้”
หญิงใหญ่พยักหน้ารับทราบ ขณะที่ในใจก็คิดแผนเช็คความรู้สึกของอีกฝ่าย
“ก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่าดีแค่ไหนอะนะ เอาสั้นๆ ง่ายๆ ก็แล้วกัน มันดี๊ดีอ่ะ”
ตี๋ใหญ่หน้าเจื่อนๆ ก่อนจะยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อน แต่ในใจบอกว่าไม่ได้การแล้ว
ส่วนตี๋เล็กก็ขับรถจอดเข้าข้างทางที่ค่อนข้างเปลี่ยว พร้อมๆ กับที่หญิงเล็กสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา
“ถึงแล้วเหรอ” ครั้นลืมตามองออกไป ถึงรู้ว่ายังไม่ถึงบ้าน “เฮ้ย ที่นี่ที่ไหนเนี่ย”
“แถวบ้านเรานี่แหละ อีกนิดเดียวจะถึงล่ะ”
หญิงเล็กทำหน้างง “ทำไมฉันไม่คุ้นเลย”
“มันเป็นทางลัดน่ะ”
“ลัดบ้าอะไรของนาย”
ตี๋เล็กทำตากรุ้มกริ่ม “ลัดยูเวอร์รี่เมิฟ เลิฟยูเวอร์รี่มัช” พลางมองหน้าหญิงเล็ก แล้วไล่ลงมาหยุดที่หน้าอก ก่อนจะกลืนน้ำลายเอื๊อก
“เฮ้ย มองไรเนี่ย”
“เธอนี่ก็บึ้บบั้บดีเหมือนกันเนอะ”
หญิงเล็กด่ากลับ “ไอ้บ้า จะทำอะไรฉันเนี่ย”
ตี๋เล็กพูดเสียงเหน่อ “ฉันก็จะยัดเยียดความเป็นผัวให้กับเธอน่ะสิ”
ขาดคำก็โผเข้ามาลวนลาม หญิงเล็กบรรเลงเพลงตบใส่ไม่ยั้ง
ตี๋เล็กที่ขับรถมาตามทาง โดนหญิงเล็กที่นอนหลับตา ละเมอทุบมาไม่ยั้ง
“ไอ้บ้า อย่าทำอะไรฉันนะ”
ตี๋เล็กรีบทำเสียงดังใส่ “เฮ้ย เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย”
หญิงเล็กละเมอทุบตีไม่ยั้ง จนตี๋เล็กต้องหักรถเข้าข้างทางและเบรคเอี๊ยดเสียงดัง จนฝ่ายแรกสะดุ้งตื่นพลางมองดูเสื้อผ้าตัวเองด้วยอาการตื่นตกใจ
“เป็นอะไรของคุณเนี่ย อยู่ดีๆ ก็มาทุบผม”
หญิงเล็กมองไปรอบๆ “ฉันฝันไปเหรอเนี่ย”
“ถ้าไม่ฝันก็ผีเข้าล่ะครับ คลั่งซะขนาดนั้น ดีนะที่รถไม่ชนอะไรเข้า”
“ก็ฉันฝันร้ายนี่”
ตี๋เล็กทำหน้าเซ็ง “เฮียรู้โดนบ่นหูชาแน่”
“ฉันขอโทษ โอเค. มะ”
ตี๋เล็กส่ายหน้าเอือมๆ ก่อนจะขับรถต่อ หญิงเล็กนั่งหน้าจ๋อย
ส่วนหมวยเล็กกับชายเล็กก็นั่งติวหนังสือกันอยู่ที่หน้าบ้านเสี่ยชาญ
“อั๊วว่าไปนั่งติวกันในบ้านดีกว่ามั้ย เดี๋ยวเตี่ยหรือแม่ลื้อ เดินผ่านมาเห็นมันจะยุ่งเอานะ”
ชายเล็กรีบบอก “แม่ไปเที่ยวกับเพื่อนครับเสี่ย ทางสะดวก”
หมวยเล็กบอกต่อ “ส่วนเตี่ยก็ทำอาหารอยู่ที่ร้าน ไม่ออกมาหรอกเสี่ย”
“ถ้ามั่นใจกันอย่างนั้นก็แล้วแต่เลย มีเรื่องมาอั๊วขี้เกียจเคลียร์เท่านั้นแหละ”
“ไม่ได้ทำอะไรเสียหายซะหน่อย ไม่เห็นต้องกลัวเลย”
เสี่ยชาญพยักหน้ารับ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องฉับ “เอ้อ แป๊บๆ ก็จะเข้ามหาลัยกันแล้วนะ เลือกกันรึยัง ว่าจะเรียนคณะอะไร”
หมวยเล็กตอบกลับแบบกวนๆ “หมวยว่าจะเรียนคะน้าน้ำมันหอยน่ะเสี่ย”
“ต้องเป็นคะน้าฮ่องกงนะถึงจะอร่อย..จะบ้าเหรอ อั๊วอุตส่าห์จริงจัง พาไปฮาอยู่นั่นแหละ”
ชายเล็กพูดขึ้นมาบ้าง “หมวยเล็กเรียนอะไร ผมก็เรียนอันนั้นแหละเสี่ย”
หมวยเล็กอมยิ้มเขิน “จริงอ๊ะ”
ชายเล็กเท้าคาง มองหน้าหมวยเล็ก “จริงสิ”
หมวยเล็กเท้าคาง มองหน้าชายเล็กตอบ “ดี๊ดีอ่ะ”
ทั้งคู่เท้าคางมองหน้ากันเคลิ้มๆ เสี่ยชาญทำหน้าเซ็ง
“ดีบ้าอะไรล่ะ”
ทั้งคู่ทำท่าช็อต หน้าลื่นจากมือที่เท้าคางอยู่
“โห่เสี่ย เสียฟิลลิ่งหมดเลย”
หมวยเล็กบ่นอุบ ชายเล็กพยักหน้ารับ
“นั่นดิ วัยรุ่นเซ็ง”
เสี่ยชาญรีบพูดเตือนอย่างจริงจัง “ก็ลื้อ 2 คนเลือกเรียนตามกันแบบนี้ มันถูกซะที่ไหนล่ะ จะเรียนอะไรก็ต้องเรียนเพราะชอบสิ จบมาจะได้สนุกกับการทำงาน”
ชายเล็กยิ้มแป้น “แหม ผมกับหมวยเล็กคุยกันมาแล้วครับ เราชอบเหมือนกันน่ะเสี่ย”
“ใช่ เราก็พูดเอาฟิลลิ่งกันไปงั้นแหละค่า”
เสี่ยชาญมองหน้าทั้งคู่ แล้วถอนใจ “จะไปรู้เหรอ อั๊วก็แค่ไม่อยากให้ลื้อตัดสินใจเผียดพลาด จะได้ไม่เสียเวลากัน”
ชายเล็กกับหมวยเล็กมองหน้ากันกรุ้มกริ่ม จนเสี่ยชาญรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
ตี๋ใหญ่นั่งเครียดเรื่องหญิงใหญ่อยู่ หมวยเล็กที่กำลังช่วยตี๋เล็กเก็บโต๊ะอยู่ใกล้ๆ หันมาถาม
“เฮียเค้าเป็นไรอ่ะ นั่งซึมเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอเลย”
ตี๋เล็กกระซิบตอบ “เจอศัตรูหัวใจเข้าน่ะสิ”
“ศัตรูหัวใจ? เชฟกระทะหล่อนั่นอะนะ”
ตี๋เล็กพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่พี่ชาย “เฮีย”
ตี๋ใหญ่สะดุ้งโหยง “เฮ้ย”
หมวยเล็กเข้าไปช่วยปลอบ “โอ๋ๆๆ ขวัญเอ๊ย ขวัญเรียม”
ตี๋เล็กรีบแย้ง “ขวัญมา”
หมวยเล็กถามต่อทันที “เครียดแบบนี้นี่ สรุปว่าเฮียชอบพี่หญิงใหญ่จริงๆ ชิมิ”
ตี๋ใหญ่อึกอัก “เฮ้ย ชอบเชิบอะไร”
ตี๋เล็กยิ้มอย่างรู้ทัน “แหม ออกอาการซะขนาดนี้ ยังจะปากแข็งอีกนะเฮีย”
หมวยเล็กแอบเห็นห่วง “ เครียดสิ ก็คนนั้นเค้าหน้าตาดีแถมทำอาหารอร่อยอีกต่างหาก”
“ลื้อดูถูกเฮียเราเกินไปแล้วหมวยเล็ก เฮียเรานี่ทำอาหารขั้นเทพนะคร้าบ”
หมวยเล็กสนใจขึ้นมาทันที “ยังไงๆ”
“เฮียเราทำไข่ดาวกลายเป็นไข่เจียวได้นะเว้ย”
ตี๋ใหญ่พยักหน้ารับ “พอดีตอกไข่แรงไปหน่อย ไข่แดงเลยแตก เฮ้ย นี่ชมใช่มั้ยเนี่ย”
ตี๋เล็กรีบเสนอ “เอางี้ เดี๋ยวอั้วถ่ายทอดวิทยายุทธให้มั้ยเฮีย จะได้ไปสู้กับเค้าได้”
หมวยเล็กรีบตัดบท “โอ๊ย กว่าจะเป็น ลูกเค้าโตกันหมดแล้วมั้ง เฮียเป็นตัวของตัวเองนี่แหละดีที่สุด ถ้าพี่เค้าจะชอบเฮีย ก็ชอบที่เฮียเป็นเฮียนี่แหละ”
ขาดคำเฮงก็เดินเข้ามา “อะไรๆ ใครชอบใคร ใครมีความรัก”
ตี๋เล็กกับหมวยเล็กรีบเอามือปิดหน้าตัวเอง และพร้อมใจกันชี้ไปที่ตี๋ใหญ่
“โอ้โห ชี้อย่างกับเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืน”
เฮงรีบถามอย่างอยากรู้ “ลื้อมีความรักเหรอตี๋ใหญ่ ใครๆ บอกเตี่ยมา”
“ไม่มีหรอกเตี่ย ตอนนี้อั๊วโฟกัสแต่เรื่องงาน”
“แหม ตอบเป็นดาราเลยนะ”
“พอดีหน้าได้น่ะเตี่ย”
ตี๋ใหญ่ยิ้มกลบเกลื่อน ก่อนจะแอบมองตี๋เล็กกับหมวยเล็กแบบเคืองๆ ที่เกือบพาซวย
ฟางเดินหาพาวเวอร์แบงค์โทรศัพท์อย่างหงุดหงิด เพราะอยากโซเชี่ยลใจจะขาด ฮันนี่เดินเข้ามาเห็นพอดี
“หาอะไรอยู่เหรอคะ”
“ที่ชาร์ตโทรศัพท์ผมน่ะครับ ไม่รู้เอาไปวางไว้ที่ไหนเนี่ย”
ฮันนี่รีบเสนอ “ถ้าจะโทร. หาใคร เอาของฮันนี่ไปก่อนก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้จะโทร. หาใครหรอก”
3 พี่น้องเดินเรียงกันเข้ามา ก่อนที่หญิงเล็กจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา
“จัดที่นอนให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ถ้าง่วงก็ให้ชายเล็กพาไปได้เลย”
อ่านต่อหน้าที่ 2
ลุ้นรักข้ามรั้ว ตอนที่ 24 (ต่อ)
ฟางรับคำหน้าเครียด “ครับ”
หญิงใหญ่มองอย่างสงสัย “หาอะไรอยู่เหรอคะ”
ฮันนี่รีบตอบแทรกขึ้นมา “สายชาร์ตโทรศัพท์น่ะค่ะ มีใครเห็นบ้างมั้ยคะ”
หญิงใหญ่ส่ายหน้า “ไม่เห็นเลยค่ะ”
หญิงเล็กแอบกระซิบชายเล็ก “ท่าทางอย่างกับจะลงแดง”
ชายเล็กดึงโทรศัพท์ออกมา แล้วส่งพาวเวอร์แบงค์ให้ฟาง
“เอาพาวเวอร์แบงค์ของผมไปใช้ก่อนมั้ยครับ”
ฟางยิ้มดีใจ “ แจ่มเลย ขอบคุณมากครับ”
จากนั้นก็รีบเสียบโทรศัพท์ชาร์ต พร้อมกับที่หญิงใหญ่เอ่ยขึ้นมา
“แม่เราไม่โทร.มาเลย แม่พี่ฟางติดต่อมาบ้างรึเปล่าคะ”
ฟางก้มหน้าแชทไปด้วย ตอบไปด้วย “เห็นบอกจะกลับพรุ่งนี้น่ะครับ”
ฮันนี่ถามต่อ “แล้วถึงกลางวันหรือกลางคืน บอกรึเปล่าคะ”
ฟางก้มหน้าก้มตาแชทอย่างเมามัน “บอกว่าน่าจะถึงเย็นๆ ค่ำๆ น่ะครับ”
หญิงใหญ่ทำหน้าเจื่อนๆ อารมณ์แบบว่าถ้าให้เป็นแฟนคงทนไม่ไหว
หญิงใหญ่กับหญิงเล็กเดินออกมาคุยกันที่หน้าบ้าน
“แม่พาใครมาให้พี่รู้จักเนี่ย เฮ้อ”
“พี่ก็ไม่คุยกับเค้าเยอะๆ ล่ะ จะได้รู้จักกันมากกว่านี้”
หญิงใหญ่ทำหน้าเอือม “โอ๊ย คุยด้วยกัน แต่หน้านี่แทบจะไม่ได้มองกันเลย ถ้าเป็นแฟนคงมองหน้าจอมากกว่าหน้าแฟนอ่ะ”
หญิงเล็กพยักหน้าเห็นด้วย “เออจริง”
“เฟซบุ๊กก็แท็กพี่มาทุก 3 เวลาหลังอาหาร จนคนทั้งประเทศรู้หมดละ ว่าพี่ทำอะไรอยู่ที่ไหน”
“ก็ดีนะ เผื่อได้เป็นเน็ตไอดอลไง”
ขณะนั้นตี๋ใหญ่กับตี๋เล็ก ก็ช่วยกันหิ้วถุงขยะออกมาวางที่หน้าบ้านพอดี
“ไหนๆ ใครเป็นเน็ตไอดอลอยู่เหรอ อ่อ นึกว่าใครคุณแก้วใบบัวบกนี่เอง”
ตี๋เล็กทำหน้ากวน หญิงเล็กค้อนขวับ
“ฉันชื่อแก้วบุษบา”
“โทษๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำงานส่งอาจารย์ด้วยกัน ลืมชื่อเลยเนี่ย”
ตี๋ใหญ่พยายามทำหน้าสปกติ “เป็นไงบ้างครับ วันนี้ขายดีมั้ย”
หญิงใหญ่แกล้งยั่ว “ดีม้าก ได้เชฟเก่งแถมหน้าตาดีขนาดนั้น ขายไม่ดีก็ไม่รู้จะว่ายังไงละค่ะ”
“อืมม์ แจกการ์ดเมื่อไหร่ ก็บอกละกันนะ”
หญิงใหญ่แกล้งยิ้มรับ “ก็คงไม่นานนี้แหละค่ะ ใช่มั้ยหญิงเล็ก”
หญิงเล็กตกใจ “หะๆ”
“ก็ที่แม่คุยกับป้าดาไว้ไง เรื่องพี่กับพี่ฟางน่ะ”
หญิงใหญ่แอบกระพริบตาส่งซิกให้น้องสาว
“อ๋อๆ เดี๋ยวแม่กับป้าดากลับจากไปเที่ยวก็คงรู้เรื่องแหละ ซุ่มไปกัน 2 คนแบบนี้ สงสัยไปหาฤกษ์ชัวร์”
หญิงใหญ่ทำตาวาว “อุ๊ย ตื่นเต้ววอ่ะ เข้าไปเปิดเน็ต ดูแบบชุดแต่งงานเลยดีกว่า”
2 สาวพากันเดินเข้าบ้านไป ตี๋ใหญ่ทั้งอึ้ง ทั้งเครียด ตี๋เล็กมองอาการออก
“เป็นไรเฮีย”
“ก็เป็นพี่ลื้อน่ะสิ จะเป็นอะไรล่ะ”
ตี๋เล็กยิ้มขำ “นั้นแน่ะ ทำเป็นตลกกลบเกลื่อน ชอบเค้าก็เปิดเผยไปเลยเฮีย กล้าๆ หน่อย”
พูดจบ ตี๋เล็กก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้ตี๋ใหญ่ครุ่นคิดหนักว่าจะทำยังไงต่อไปดี
เสี่ยชาญนั่งเปิดดูหนังสือที่หมวยเล็กกับชายเล็กวางไว้ ครู่หนึ่งทั้งคู่ก็ถือถุงขนมกับน้ำเดินเข้ามา
“ซื้อเสบียงมาเยอะแยะเลยน้า”
หมวยเล็กยิ้มรับ “ต้องเยอะสิเสี่ย ก็เจ้าของบ้านไม่มีอะไรให้กินเลยนี่”
ชายเล็กพูดต่อ “ใช่ เป็นถึงอาเสี่ย ขนมไม่มีติดบ้านได้ไง ลำบากต้องเดินไปซื้อเลย เห็นมั้ยเนี่ย”
“ขอทวดค้าบ ต่อไปอั๊วจะซื้อติดบ้านไว้ให้นะค้าบ ลวกเพี่ย”
ทั้งคู่ตบไหล่เสี่ยชาญ แล้วพูดพร้อมกัน “ดีมาก”
เสี่ยชาญทำหน้าเซ็ง “แหม ไม่ตบหัวเลยล่ะ”
“อ้าว ได้เหรอเสี่ย”
ทั้งคู่ทำท่าขยับจะตบหัว เสี่ยชาญร้องลั่น
“เฮ้ย อั๊วล้อเลี่ยน”
จังหวะนั้น อัครเดชแต่งตัวหล่อ เดินถือช่อดอกฟอร์เก็ทมีน็อตผ่านมาพอดี
“สวัสดีคร้าบ แจกความสดใสยามเช้าครับโผม”
ชายเล็กแกล้งแซว “โอ้โห นี่มันบอยแบนด์เกาหลีรึเปล่าเนี่ย หล่อสาส”
หมวยเล็กรีบบอกต่อ “ถ้าเป็นที่บ้านหมวย เรียกหล่อเฮียๆ”
เสี่ยชาญแทรกขึ้นมาทันที “เฮ้ย เอาไก่สดสักตัวมั้ย เดี๋ยวไปเอามาให้”
“โยนลงน้ำเลยครับ เดี๋ยวผมลงไปกิน..แฮ่! คนนะไม่ใช่ตัวเงินตัวทอง”
ชายเล็กมองอัครเดชแล้วถามยิ้มๆ “ นี่แต่งตัวหล่อหอบช่อดอกไม้ จะไปขอความรักใครครับเนี่ย”
“ก็ไปขอความรักพี่สาวเราไง พี่ไปก่อนนะ พอดีดูฤกษ์ธงชัยเอาไว้ เดี๋ยวเลยฤกษ์”
พูดพลางรีบเดินออกไป เสี่ยชาญมองตาม
“มันดูฤกษ์มาเลย สงสัยจะเอาจริง”
หมวยเล็กหันมาถามชายเล็ก “พี่เธอจะชอบพี่คนนั้นเหรอ”
“คิดว่าพี่เราจะชอบมั้ยล่ะ”
หมวยเล็กส่ายหน้าหงึก “ม่ายอ่ะ”
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะกันอยู่ 2 คน เสี่ยชาญบ่นอุบ
“อยู่บ้านตัวเอง แต่เหมือนเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้”
ตี๋ใหญ่นั่งคิดเรื่องหญิงใหญ่หน้าตาเคร่งเครียด ตี๋เล็กที่จัดโต๊ะอยู่ใกล้ๆ หันไปเห็นจางเดินเข้ามา เบ้าตาเขียวช้ำ ก็รีบถาม
“อ้าว นอนดึกเหรอ ตาคล้ำมาเชียะ”
“คนบ้าที่ไหนนอนดึกแล้วตาคล้ำข้างเดียวล่ะครับ”
ตี๋เล็กหัวเราะขำ “ก็แกล้งแซวไปงั้นแหละ ไปโดนใครเค้าต่อยมาล่ะ”
“ผัวแม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดน่ะครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“ผมก็ยืนเลือกเสื้ออยู่ดีๆ แม่ค้าเดินเข้ามาบอกผม ว่าลองไซร้ได้นะคะ ผมก็ลองเลยน่ะสิ”
ตี๋เล็กถามต่อ “ลองไซส์เสื้อ?”
จางส่ายหน้า “ไซร้ซอกคอ”
“แฮ่ ล้อแม็กใช่มั้ย”
จางหยักหน้ารับ “ล้อเล่นครับ พอดีเดินกลับบ้านเมื่อวานนี้ แล้วคนเตะตะกร้อมาเข้าเบ้าตาพอดีเด๊ะ”
ตี๋เล็กกับจางหัวเราะเฮฮา ก่อนจะหันไปมองตี๋ใหญ่ที่นั่งเงียบอยู่คนเดียว
“นี่ถ่ายมิวสิกวิดีโอกันอยู่รึเปล่าครับ”
ตี๋เล็กส่ายหน้า “เปล่า” จากนั้นก็เข้าไปกระซิบข้างหูจาง เล่าสั้นๆ ประมาณว่าตี๋ใหญ่แอบชอบหญิงใหญ่ แต่ไม่กล้าไปบอก จางตาโตตื่นเต้นกับเรื่องนี้
“คุณแพะ”
“คุณพระ พอแล้ว ขี้เกียจแก้” พูดพลางหันมาทางพี่ชาย “คิดอะไรก็บอกเค้าไปตรงๆ เถอะเฮีย นั่งเครียดอยู่แบบนี้ เค้าจะรู้มั้ย”
ตี๋ใหญ่หน้าเครียด “จะไปบอกยังไง มันไม่มีสถานการณ์ช่วยสนับสนุนให้บอกเลยนะ”
“ผมเข้าใจอารมณ์คุณตี๋ใหญ่นะครับ มันต้องอารมณ์แบบนั่งรถไปด้วยกัน”
ตี๋ใหญ่นึกภาพตาม พร้อมกับมโนไปกับจางด้วย
“รถเสียกลางทาง วิ่งเข้าไปหลบฝนในกระท่อม เสียงฟ้าร้องทำให้กอดซบกัน ตาประสานตา ใจประสาน ใจ แล้วก็พูดเบาๆ ออกมาว่า..”
ตี๋ใหญ่พูดต่อ “ผมรักคุณนะ”
จางรีบเสริม “แล้วกล้องก็แพนไปที่โคมไฟบนหัวเตียง”
ตี๋เล็กทำหน้าเอือม “ติงต๊อง”
ตี๋ใหญ่กับจางหน้าเจื่อนเสียอารมณ์
“โห่ กำลังจะจิกหมอนเลยคุณตี๋เล็ก”
“เดินดุ่ยๆ เข้าไปบอกชอบเลยเฮีย เค้าจะได้รู้ว่าเราน่ะคนจริง แล้ววันนี่แม่เค้าไม่อยู่ด้วย ทางสะดวก”
ตี๋ใหญ่คิดหนักว่าจะเอายังไงต่อดี
ที่หน้าจอมือถือหญิงใหญ่ เป็นภาพเซลฟี่ของเธอกับฟางในเฟซบุ๊ก ที่ฝ่ายหลังแท็กมา “Good morning” รู้สึกสดใสกับ Keawkannika
หญิงใหญ่นั่งมองด้วยอารมณ์เซ็งๆ ประมาณว่าจะโพสต์ จะแท็กมาทำไมนักหนา
“จะแท็กเอาโล่รึไงเนี่ย เฮ้อ”
ฟางเดินออกมาเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า เซลฟี่กับลูกค้ารูปหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาหาหญิงใหญ่
“เปิดดูเฟซบุ๊กรึยังครับ”
หญิงใหญ่แกล้งทำหน้างง “ยังเลยค่ะ มีเรื่องอะไรสำคัญรึเปล่าคะ”
“อ๋อ ผมแท็กรูปที่เซลฟี่ด้วยกันมาให้น่ะครับ”
หญิงใหญ่ทำดีใจ เพื่อรักษามารยาท “เหรอคะ ดีจัง เดี๋ยวแก้วเข้าไปดูนะคะ”
“กดไลค์ด้วยนะ ผมแท็กไปตั้งหลายรูป ไม่เห็นกดไลค์เลย”
หญิงใหญ่รีบแก้ตัว “ อ๋อ พอดีช่วงนี้แก้วไม่ค่อยได้เข้าเฟซบุ๊กน่ะค่ะ”
จังหวะนั้น ตี๋ใหญ่ก็เดินเข้ามาอย่างเด็ดเดี่ยว รวบรวมความกล้ามาเต็มพิกัด ฟางเห็นก็เข้าไปทักทาย
“สวัสดีครับ น้ำพริกกะปิเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง ลูกค้าชอบมั้ยครับ”
ตี๋ใหญ่รีบบอก “ชอบครับ” พร้อมกับหันมองหญิงใหญ่ “แล้วผมก็ชอบ..”
หญิงใหญ่แทรกขึ้นมาก่อน “น้ำพริกน่ะเหรอ แอบชิมของลูกค้าล่ะสิ”
“เปล่า ผมชอบคุณ”
หญิงใหญ่ตาโต ตกใจ “หะ ว่าไงนะ”
อัครเดชเดินเข้ามาหน้าตายิ้มแย้ม มีกำลังใจเต็มเปี่ยม ตี๋ใหญ่พูดเสียงดัง
“ผมชอบคุณครับ”
อัครเดชยืนนิ่ง เหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ หญิงใหญ่ยืนงง ส่วนฟางก็ถึงกับอึ้งไป
“อะไรของคุณเนี่ย มาอำอะไรฉันรึเปล่า”
ตี๋ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมพูดจริง ผมชอบคุณ”
อัครเดชยืนทำหน้าเบะ ทำท่าจะร้องไห้แต่กลั้นไว้
หญิงใหญ่ยังงงอยู่ “อารมณ์ไหนของคุณเนี่ย”
“ผมมั่นใจในความรู้สึกตัวเองแล้ว ว่าผมชอบคุณ ส่วนคุณจะชอบผมรึเปล่า ก็อยู่ที่คุณแล้วนะ ผมมีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละ”
ตี๋ใหญ่ยิ้มให้แล้วเดินออกจากบ้าน เจออัครเดชถือช่อดอกไม้อยู่
“อ้าว ดอกไม้สวยนะ”
อัครเดชหน้าเจื่อน “เอ่อ พอดีจะไปทำบุญที่วัดน่ะครับ หลวงพ่อชอบดอกฟอร์เก็ทมีน็อท”
ตี๋ใหญ่ยิ้มให้ แล้วเดินออกจากบ้านไป อัครเดชพยายามสะกดอารมณ์เสียใจ ขณะที่หญิงใหญ่ยังยืนอึ้งๆ อยู่
ส่วนฟางหยิบโทรศัพท์ออกมากดอัพสเตตัส
“จีบอยู่ดีๆ สระอีก็หายไป จบ” รู้สึกSad :
อัครเดชนั่งฟูมฟาย น้ำตาพุ่งเป็นสายน้ำ ตี๋ใหญ่รีบบอก
“เฮ้ย ปวดฉี่ไปเข้าห้องน้ำมั้ย มาฉี่เรี่ยราดแบบนี้อายเค้านะ”
“ผมน้ำตาแตกครับ ไม่ได้ฉี่แตก”
ตี๋เล็กรีบพูดปลอบ “ทำใจดีๆ ครับพี่ ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวซะหน่อย แถมกระเทยเดี๋ยวนี้ก็สวยกว่าผู้หญิงตั้งหลายคน พี่ยังมีตัวเลือกอีกเยอะ”
“หรา”
เฮงเดินยกอาหารออกมาเสิร์ฟที่โต๊ะลูกค้า หันมาทำหน้าดุ
“เฮ้ย ร้องให้มันเบาๆ หน่อย ลูกค้าอั๊วแตกตื่นหมดแล้ว”
อัครเดชยิ่งสะอึกสะอื้นหนัก “ก็ผมเสียใจอ่ะ”
เฮงทำหน้าเซ็ง “มาร้านอั๊วกี่ทีก็มีแต่เรื่อง วันนี้จะซวยอะไรอีกวะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้ผมกระโดดขาคู่ออกจากบ้านมา”
ตี๋ใหญ่รีบช่วยพูด “ไม่ซวยหรอกเตี่ย ที่ผ่านมาบังเอิญมากกว่า”
อัครเดชสะกดกลั้นอาการร้องไห้ พยายามทำใจยอมรับความพ่ายแพ้
“โอเค. ครับ ในเมื่อคุณแก้วไม่ชอบผม แล้วท่านรองก็ชอบคุณแก้ว ผมจะหลีกทางให้ท่านรองก็แล้วกัน”
เฮงหันขวับมองหน้าลูกชายคนโต ตี๋ใหญ่หน้าซีด
“ซวยล่ะ”
อัครเดชพล่ามต่อ “น้องสาวท่านรองก็คงไม่แคล้ว ได้รักกับลูกชายบ้านโน้นเหมือนกัน บ้านท่านรองกับบ้านคุณแก้วนี่ ช่างเกิดมาเคียงคู่กันซะจริงๆ”
จางที่ยืนอยู่ด้วย รีบสอดขึ้นมา “ เหมือนจะไม่ได้ซวยคนเดียวแล้วล่ะครับคุณตี๋ใหญ่”
เฮงทำหน้าขึงขัง “เฮ้ย ลูกสาวอั๊วกับลูกชายบ้านโน้นไม่แคล้วได้รักกัน คือไร ขยายความซิ”
“ก็เมื่อกี๊ผมเห็นลูกสาวเฮียกับลูกชายบ้านโน้นอยู่ด้วยกันน่ะครับ”
เฮงตาโต “ที่ไหน”
อัครเดชเสียงอ่อย “ที่บ้านเสี่ยชาญค้าบ”
เฮงรีบเดินออกจากบ้านไปทันที ตี๋เล็กหันมาทางพี่ชาย
“ไหนว่าไม่ซวยไงเฮีย นี่ซวย 2 เด้งเลยนะเนี่ย”
จางรีบแนะ “ให้แนะนำนะครับ ครั้งหน้าคุณอย่ามาร้านนี้อีกเลย มาทีไรมีแต่เรื่องจริงๆ”
อัครเดชปล่อยโฮ “ ใครๆ ก็ไม่รักเดช..ฮือ”
เฮงเดินมาบ้านเสี่ยชาญท่าทางเอาเรื่อง พลางคิดมโนว่าหมวยเล็กกับชายเล็ก กำลังป้อนขนมป้อนน้ำกันกระหนุงกระหนิง
คิดพลางรีบเดินเร่งจังหวะมากขึ้น แล้วก็คิดต่อว่า หมวยเล็กกำลังซบไหล่อ้อนชายเล็ก
“เหนื่อยจุง ปวดหัวดั๊วะ”
“งั้นไม่ต้องอ่านละ ไปเที่ยวกันดีกว่า”
หมวยเล็กทำตาวิบวับ “เที่ยวไหนดีอ่า”
“ไปเสม็ดกันมั้ย”
“ไปๆ เราชอบทะเล เดี๋ยวเราไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านก่อนนะ”
แล้วหมวยเล็กก็เดินออกจากบ้านเสี่ยชาญไป
“ไปเสม็ดเสร็จทุกราย” ชายเล็กหัวเราะร้าย
เฮงยิ่งคิดก็ยิ่งหลอน “ทนไม่ไหวแล้วโว้ย”
ว่าแล้วก็สับขาวิ่งออกไปอย่างไว จนมาถึงบ้านเสี่ยชาญ กะจะโวยเต็มที่ แต่แล้วก็ต้องอึ้ง ยืนนิ่งไป เมื่อเห็นหมวยเล็กกับชายเล็กกำลังติวหนังสือกันอย่างเคร่งเครียด
เสี่ยชาญเดินออกมาจากบ้าน เห็นเฮงยืนมองทั้งคู่ติวหนังสือ ก็เดินเข้าไปคุยเงียบๆ
“จะมาตามอาหมวยกลับบ้านเหรอ”
“นี่มาอ่านหนังสือกันอย่างเดียวเหรอ” เฮงไม่ตอบ แต่กลับย้อนถาม
“ก็อ่านหนังสือกันอย่างเดียวน่ะสิ ลื้อจะให้อีนั่งเล่นหมากรุกกันด้วยรึไง”
เฮงไม่ขำด้วย “ไม่ตลก”
เสี่ยชาญรีบบอก “อาหมวยเล็กกับชายเล็ก อีไม่ได้ทำตัวเสียหายอะไร ลื้อไม่ต้องห่วงหรอก ปล่อยให้อีช่วยกันติวหนังสือไปนี่แหละ อย่าไปกวนอีเลย”
เฮงยืนดูนิ่งๆ โดยไม่เดินเข้าไปขัดจังหวะ และมีท่าทีใจอ่อนมากขึ้น
ทางด้านหญิงใหญ่ ก็นั่งลงที่โซฟาด้วยอารมณ์โล่งอก
“เฮ้อ ตะบายตัว ตะบายไต”
หญิงเล็กนั่งทำบัญชีร้านอยู่ ส่วนชายเล็กนั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ
“นานๆ จะมีใครหลงเข้ามาซักที ไม่เสียดายซักนิดเลยเหรอพี่หญิงใหญ่”
หญิงเล็กรีบสวนน้องชาย “โอ๊ย เสียดายอะไร้ เค้ามีคนมาสารภาพรักแล้วล่ะค่ะ คุณน้องขา”
ชายเล็กตาโต “เฮ้ย จริงดิ ใครอ่า”
แก้วกัลยาเดินเข้ามาพร้อมกับฮันนี่ได้ยินพอดี
“อะไรๆ ได้ยินแว่วๆ ใครสารภาพรักใคร”
หญิงใหญ่อึกอัก “เอิ่บ ไม่มีใครสารภาพรักใครหรอกค่ะ”
ว่าแล้วก็แอบมองหญิงเล็กกับชายเล็กแบบเคืองๆ ฮันนี่พูดต่อ
“นึกแล้วยังเสียดายนะคะ ถ้าคุณหญิงใหญ่โอเค. กับคุณ ฟาง บอสก็คงเบาแรงไปเยอะ”
หญิงใหญ่ส่ายหน้ายิก “ไม่ไหวอ่ะ สังคมก้มหน้าขนาดนั้น อยู่คนเดียวแหละ เหมาะที่สุด”
“ไม่ต้องห่วง คนนี้ไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่หาให้ใหม่”
“หะ”
แก้วกัลยายิ้มรับ “ ดีใจล่ะสิ”
หญิงใหญ่หน้าเจื่อน “สุดๆ”
ฮันนี่แอบขำ “เหรอคะ ทำไมหน้าดูไม่โอเค. ล่ะคะ”
หญิงใหญ่รีบแก้ตัว “เป็นกุลสตรีน่ะ ดีใจมากเดี๋ยวไม่งาม”
แก้วกัลยาแทรกขึ้นมาอีก “แม่รู้นะ ที่ไอ้ตี๋ใหญ่มาทำสนิทสนมเอาใจแม่เนี่ย มันต้องการอะไร ฉะนั้น แม่นี่แหละ จะสกัดมันเอง”
หญิงเล็กรีบกระซิบพี่สาว “งานเข้า”
“ไม่ต้องกระซิบกระซาบกัน เราทั้ง 3 คนนี่แหละระวังตัวไว้ แม่ปล่อยมานานล่ะ ต้องสแกนกันหน่อยละมั้ง”
ฮันนี่สอดทันที “ สแกนกรรมเหรอคะบอส”
“สแกนแฟนนี่แหละ แอบคบกับใครอยู่ ต้องรู้กันหน่อยแล้วล่ะ”
หญิงใหญ่ หญิงเล็กและชายเล็กมองหน้ากันเองอย่างเจื่อนๆ
ทางด้านตี๋ใหญ่ ตี๋เล็กและหมวยเล็ก ก็เกิดจามพร้อมกัน ขณะที่ทั้งหมดนั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ เฮงมองอย่างแปลกใจ
“เอ้าๆ ไปติดหวัดใครเค้ามาล่ะเนี่ย”
ตี๋เล็กรีบบอก “จามพร้อมกันแบบนี้ อั๊วว่าไม่ใช่หวัดแล้วล่ะม้าง”
ตี๋ใหญ่พยักหน้าเห็นด้วย “เหมือนใครกำลังพูดถึงยังไงไม่รู้”
หมวยเล็กพูดต่อ “ลักษณะจะไม่ใช่เรื่องดีซะด้วย”
“ก็ไปทำความผิดอะไรไว้รึเปล่าล่ะ”
เฮงย้อนถาม หมวยเล็กร้อนตัว
“เปล่านะเตี่ย วันนี้หมวยไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยนะ หมวยติวหนังสือกับเพื่อนหนักม้าก”
“ร้อนตัวป๊ะเนี่ย”
หมวยเล็กรีบเถียง “อะไรเตี่ย หมวยร้อนตัวตรงไหน”
ตี๋ใหญ่กับตี๋เล็กพูดขึ้นมาพร้อมกัน “ทุกตรง”
“อุ้ย”
เฮงรีบตัดบท “เอาล่ะๆ เตี่ยอยากจะเล่าอะไรให้ฟังเรื่องนึง ซึ่งเรื่องนี้เตี่ยไม่เคยเล่าให้พวกลื้อฟังมาก่อน”
3 พี่น้องร้องอ๋อพร้อมกัน
“ใช่ เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละ บ้าเหรอ ยังไม่ได้เล่า”
ตี๋ใหญ่รีบบอกเตี่ย “อ่ะๆ ไม่ตลกละ เล่าเลยๆ”
“พวกลื้อรู้มั้ย เตี่ยเนี่ยเกือบไม่ได้แต่งงานอยู่กินกับแม่ลื้อนะจะบอกให้”
ตี๋เล็กทำหน้าสงสัย “ทำไมล่ะเตี่ย”
“ก็ตากับยายลื้อไม่ชอบขี้หน้าเตี่ยน่ะสิ กว่าเตี่ยจะนัดเจอแม่ลื้อได้แต่ละที เลือดตาแทบกระเด็น”
หมวยเล็กทำหน้าซึ้ง “โห แล้วเตี่ยทำยังไงถึงได้ลงเอยกับแม่ได้ล่ะเนี่ย”
“ความอดทนไง อดทนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง โดยที่ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสีย ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ตั้งใจเรียน ตั้งใจ
ทำงาน จนวันนึงตากับยายลื้อก็ใจอ่อนให้เตี่ย”
ตี๋ใหญ่มองเตี่ยอย่างชื่นชม “สุดยอดอ่ะเตี่ย”
“เตี่ยอยากให้พวกลื้ออดทนเหมือนเตี่ยนะ ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน แล้วก็อย่าชิงสุกก่อนห่าม ทำเพื่อเตี่ยได้ ใช่มั้ย”
เฮงพูดพลางมองไปที่หมวยเล็กเป็นพิเศษ ฝ่ายถูกมองยิ้มรับ
“เตี่ยรีเควส หมวยก็จัดให้ค่ะเตี่ย”
เฮงยิ้ม รู้สึกสบายใจขึ้น
หญิงใหญ่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวในห้องนอน เมื่อนึกถึงตอนที่ตี๋ใหญ่บอกความในใจ พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา แต่คนอยู่ในภวังค์ไม่ได้ยิน
หญิงเล็กเปิดประตูเดินเข้ามา เห็นพี่สาวนั่งยิ้มอยู่คนเดียว ก็เลยย่องเข้ามาตะโกนให้ตกใจ
“แฮ่”
หญิงใหญ่ตกใจร้องสุดเสียง “หญิงเล็ก”
“นั่งยิ้มอยู่คนเดียว ถามจริง แอบดมกาวป๊ะเนี่ย”
หญิงใหญ่มองค้อนน้องสาว “ไม่ตลกค่ะ เกิดพี่หัวใจวายไปจะว่าไงเนี่ย”
จู่ๆ มือถือหญิงใหญ่ ก็มีเสียงเตือนว่ามีข้อความไลน์
“อุ๊ย ใครไลน์มาอ่ะ สงสัยพี่ฟางสุดหล่อแน่เลย”
หญิงใหญ่รีบเปิดดูไลน์ “ผู้ช่วย”
หญิงเล็กรีบอ่านไลน์ “เปิดม่านหน่อย อยากเห็นหน้า อั๊ยย๊ะ”
หญิงใหญ่เดินไปเปิดม่าน เห็นตี๋ใหญ่ยืนโบกมือให้ หญิงเล็กอมยิ้ม
“แหม ดูท่าคงจะส่องกันทุกคืนเลยนะเนี่ย”
“อย่าพูดมาก เดี๋ยวไล่กลับห้องเลย”
ขณะที่ตี๋ใหญ่ยืนโบกมือให้หญิงใหญ่อยู่ ตี๋เล็กก็เปิดประตูผัวะเข้ามา
“แหม ยืนส่องสาวเพลินเลยนะเฮีย” พอเห็นหญิงเล็ก ก็ทำตาโต “อ้าวแพ็คคู่เลยนะนี่”
ว่าแล้วก็ยกมือโบกให้หญิงเล็ก ที่ทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที
“คืนนี้นอนฝันร้ายอีกล่ะ”
หญิงใหญ่มองน้องสาวยิ้มๆ “ทำไม อยากนอนฝันร้าย เพื่อให้คนนั้นเค้าตามไปช่วยในฝันรึไงคะ”
“แหวะ แค่เห็นหน้า ก็สะดุ้งตื่นละ”
หญิงเล็กลุกไปปิดม่านเพราะไม่อยากเห็นหน้าตี๋เล็ก หญิงใหญ่ก็ลุกตามเปิด 2 พี่น้องแย่งกันเปิดปิดม่านกันวุ่นวาย
อ่านต่อตอนที่ 25