สื่อริษยา ตอนที่ 13
ทุกคนนั่งทานอาหารเช้าพร้อมหน้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ต หน้าตาสดชื่น โดยเฉพาะภานุกับแพรพรรณ หวานหยด ภานุแทบจะป้อนแพรพรรณ
“ย้ายโต๊ะเหอะครับพี่ลี โต๊ะนี้น้ำตาลเยอะ มดไต่ขาแล้วเนี้ย” เก้แซว
“สวีตกันตามสบายนะจ๊ะ”
ปัญชลีกับเก้ยกจานไปนั่งกินโต๊ะอื่น ไม่เป็นกอขอคอคู่รักหวานแหวว
“ป้อนผมมั่งสิคร้าบ” ภานุทอดน้ำเสียง อ้อนสุดๆ
“ชั้นไม่ใช่สาวหวาน” ภานุหน้ามุ่ย
แพรพรรณเอื้อมมือหยิบจี้ที่ภานุห้อยคออยู่ ซึ่งเป็นสร้อยคู่ที่ภานุซื้อให้แพรพรรณด้วย
“คุณพร้อมเปิดใจเมื่อไหร่ ค่อยสวมมาให้ผมดู”
“สร้อยที่นายซื้อให้ ชั้นเก็บไว้ที่บ้าน ถึงกรุงเทพฯแล้ว จะใส่ให้ดูนะ”
“หือ...ชื่นใจว่าป้อนเยอะเลย” ภานุยิ้มแก้มแตก
ภานุจับมือแพรพรรณมาจุ๊บหนึ่งที แพรพรรณอายม้วนเลยตบรางวัลฟาดไปเผียะภานุหัวเราะเวลานี้ไม่ว่าโดนอะไรก็มีความสุขล้น
ถัดจากนั้นปัญชลีกับน้องๆ ขนกระเป๋าขึ้นรถ แพรพรรณกลับรถภานุ ระหว่างนี้ ศรัณขับรถพาพ่อแม่มาหา หิ้วปลาแห้ง ของฝากมาหลายถุง
“นึกว่ามาไม่ทันซะแล้ว เอาของฝากมาให้ครับ แม่เขียนชื่อพี่ลีซ้ำ 2 ถุง อีกถุงของใครล่ะเนี่ย”
“ก็แม่บอกแล้วว่าให้ลูกเขียน”
ศรัณกับแม่ช่วยกันดูถุงไหนเป็นของฝากใคร ทุกคนเห็นแม่ลูกคุยกันแล้วก็ยิ้มออก แสดงว่าแม่หายโกรธศรัณแล้ว
“คุณแม่คุณลูกเข้าใจกันแล้วสินะคะ” ปัญชลีเอ่ยขึ้น
“เมื่อคืนเจ้าลูกชายทำเรื่องดราม่า น้ำตาท่วมบ้านเลยครับ” พ่อว่า
“วันไหนคุณพ่อคุณแม่ไปกรุงเทพฯ โทร.หาลีนะคะ จะพาไปเลี้ยงข้าว”
“ไม่ชอบเข้ากรุงเทพฯ ค่ะ คนเยอะ รถก็แยะ เอ้านี่ของฝากหนูแพร นี่ของคุณนุ แล้วนี่ของน้องเก้”
“ขอบคุณค่าคุณแม่” เก้ย่อตัวไหว้แม่แบบพวกนางงาม
“พี่เก้ครับ กลับกรุงเทพฯแล้ว จะคงอาการนี้ไว้มั้ยครับ” ภานุแซว
“ว้ายคุณนุ ถามได้ พี่ก็ต้องเก็บอาการซีคะ พี่เป็นเกย์ไฮ เอ็นด์ ไม่วี้ดว้ายกระตู้วู้ ซู่ซ่าเวลาออกนอกรัศมีทำการเท่านั้น”
“ลักปิดลักเปิดดีเนอะลูก ขับรถกลับกันดีๆ ล่ะ” พ่อแซวพร้อมกับบอกลา
“แพรลานะคะ ไปแล้วพี่ศรัณ”
ครอบครัวศรัณยืนส่งจนพวกปัญชลีขับรถออกไป ศรัณโอบแม่ แม่ยิ้มให้ พ่อสบายใจ
อีกฟากที่บ้านหิรัญกุล ภาสกรกับพ่อนั่งจิบกาแฟ มีวิไลลักษณ์เดินหน้าตึงเข้ามาเลย ภาสุรีเดินตามแม่ไม่ให้โวย
“ทำไมคุณไม่บอกชั้น ตานุไปสมุทรสงครามกับแพรพรรณ” โวยสามีก่อนดอกแรก
ภาสุรีหน้าเจื่อนจ๋อย “โทษทีค่ะคุณพ่อ ภาหลุดปากบอกคุณแม่เมื่อกี้”
“ผมก็บอกคุณแล้วนี่ นุไปต่างจังหวัด”
“แต่บอกไม่หมด ไปค้างอ้างแรมกันสองคน เกิดตานุ...” นางพญาไทยเคเคไม่อยากพูดต่อ
“ลีอยู่ด้วยครับ นุตามลีไปเที่ยว” ภาสกรบอก
วิไลลักษณ์หูผึ่ง ยิ่งโมโห ที่ปัญชลีมามีเอี่ยว
ปัญชลีและน้องๆ เดินเลือกซื้อของฝากในตลาดสมุทรสงคราม ภานุกับแพรพรรณตามติดกันเป็นเงา สวีตหวานชนิดไม่เกรงใจคนโสด
วิไลลักษณ์โทร.มาหาปัญชลีพอดี
“ลีอยู่สมุทรสงคราม กำลังเลือกของฝาก คุณแม่อยากได้อะไรคะ”
วิไลลักษณ์โทร.มาต่อว่าปัญชลี
“คดีเก่าเธอกับชั้นเพิ่งเคลียร์กันได้ ก่อคดีใหม่อีกแล้ว ริเป็นแม่สื่อให้ตานุกับแพรพรรณ”
“แพรเป็นเด็กดี น่ารัก คุณแม่ให้โอภาสแพรนะคะ”
ภานุ แพรพรรณ และเก้ ได้ยิน ต่างก็พากันตั้งใจฟังปัญชลีคุยโทรศัพท์
“ชั้นเลือกลูกสะใภ้เอง เธอไม่ต้องจุ้น ให้ตานุมาคุยกับชั้นสิ”
ปัญชลีส่งโทรศัพท์มือถือให้ภานุ
ภานุรวบรวมความกล้า บอกแม่ทางโทรศัพท์ “คุณแม่ครับ ผมกับแพร เราเป็นแฟนกันแล้ว”
“แม่ยังไม่อนุญาตให้คบ ดูกันไปก่อน ครอบครัวเค้าไม่หวังผลประโยชน์จากเรา”
“คุณแม่ก็เคยเจอแม่แพรแล้วนี่ครับ กลับมาบ้านคุณแม่ยังชม แม่แพรนิสัยดี”
“เห็นแต่ข้อดี ยังไม่เห็นข้อเสีย ตานุ แม้แต่ตัวเราเองน่ะ รู้จักครอบครัวแพรพรรณดีแล้วเหรอ”
“ผมไม่ใช่คนโง่นะครับคุณแม่ ดูออกว่าใครเป็นคนดีไม่ดี”
ภานุไม่อยากให้แพรพรรณได้ยินเค้าเถียงกับแม่ เดินไปคุยโทรศัพท์นอกร้าน
เก้พูดให้กำลังใจแพรพรรณ “ยืนหยัดเข้าไว้ ความรักชนะทุกอย่าง”
แพรพรรณมองภานุทะเลาะกับแม่ทางโทรศัพท์ ชายหนุ่มเคร่งเครียดมาก ต้องเถียงกันใหญ่โต
ความกลัวกลับเข้าครอบงำจิตใจแพรพรรณ แม่ภานุขวางขนาดนี้ ความรักยากจะสมหวัง
ทั้งหมดซื้อของฝากเสร็จ ออกมาขึ้นรถ แพรพรรณเปลี่ยนไป ไม่ร่าเริงสดใส หน้าตาอมทุกข์
“แพรไปรถพี่ลีนะคะ” พลางหยิบกระเป๋าตัวเองในรถภานุออกมา
“อย่าทำอย่างนี้สิแพร เหมือนทิ้งผมไว้กลางทาง” ภานุใจแป้ว
แพรพรรณมองภานุด้วยแววตาเศร้า เรื่องของเราคงเป็นไปไม่ได้ แพรพรรณไปขึ้นรถปัญชลี ปิดประตูหนีภานุ เจอแบบนี้ ภานุเลยเซ็ง ผู้หญิงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เขาเองก็ชักไม่ไหว
“คิดว่าผู้ชายน้อยใจไม่เป็นรึไง รับรัก แล้วก็ทิ้ง”
“นุอย่าด่วนน้อยใจ ให้เวลาแพรตั้งรับคุณแม่บ้าง” ปัญชลีปลอบ
“แทนที่จะสู้ไปด้วยกัน ดันยอมแพ้แต่แรก แพรคงไม่รักผม มากเท่าที่ผมรักเค้า”
ภานุน้อยใจ ขึ้นรถ ขับล่วงหน้าไปก่อนเลย
ส่วนแพรพรรณนั่งร้องไห้อยู่ในรถ มองตามรถภานุที่ขับห่างออกไปด้วยความเสียใจ
ทางด้านตุ่นเดินนำสมพรมาตามทางเดินหน้าห้อง
“ขอบใจนะจ๊ะ ลงไปรับน้าข้างล่าง ดาวไม่ได้ให้การ์ดเข้าคอนโดน้าไว้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ตุ่นมองดูแคลนสมพร แต่งเนื้อแต่งตัวปอนๆ ดูบ้านนอก และจน
ตุ่นพาสมพรเข้าห้อง ดาวนอนปวดท้องอยู่บนโซฟา
“ดาวเป็นอะไรลูก”
“มีแม่มาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว เจ๊กลับนะดาว อืม... เจ๊ยืมเงิน 2 พันสิ เจ๊ตกงานก็เพราะดาว ไม่มีเงินใช้”
“หยิบในกระเป๋าเลยค่ะ ดาวให้”
ตุ่นขี้โกงแอบหยิบเงินเกินเอาไป 3 พัน
“เจ๊ไปน้า ดูแลตัวเองด้วย บาย”
ตุ่นหน้าระรื่นออกไป ได้เงินมาใช้ฟรีๆ 3 พัน
“เสียดท้องหรอลูก มียาธาตุหรือเปล่า ไม่มีแม่จะออกไปซื้อให้”
“แม่ ดาวท้องนอกมดลูก”
สมพรตะลึงตะไล “ดาวท้อง ทำไมไม่โทร.บอกแม่ แม่ไม่มาหาเอง ก็ไม่รู้ แล้ว...ท้องนอกมดลูกมัน
เป็นยังไง”
ดาวชักสีหน้า รำคาญแม่ เป็นแม่ที่ไม่มีความรู้ “หมอบอกว่า เด็กฝังตัวในท่อนำไข่ ที่แคบเท่าหลอดดูด พอตัวอ่อนใหญ่ขึ้น ท่อนำไข่ก็ปริ ดาวถึงปวดท้อง”
“โถลูก แล้วจะรักษายังไง”
ดาวเหนื่อยหน่าย ไม่อธิบายให้แม่ฟัง สมพรเห็นลูกปวดท้องมาก ห่วงเหลือแสน
วันถัดมาปัญชลีกับศินีนาฏช่วยกันเลื่อนโต๊ะ จัดห้องทำงานเก่าของดาวเป็นห้องประชุม ภาสุรีมาหาปัญชลี
“นึกว่าลีจะกลับมาใช้ห้องนี้ซะอีก”
“นั่งทำงานข้างนอก ใกล้ชิดลูกน้องกว่า” ปัญชลียิ้มให้ภาสุรี
“มีข่าวดีมาบอก เดือนก่อน เราส่งรายการไปประกวด TV AWARDS ที่สิงคโปร์รายการของลีเข้ารอบชิง พรุ่งนี้ลีต้องไปร่วมงานที่สิงคโปร์ พี่ภาสก็ไปด้วย”
ปัญชลียิ้มดีใจอยู่ หุบยิ้มทันที “ให้ภาสไปคนเดียวแล้วกัน”
“ไม่ได้ไปกันสองคน ชั้นไปด้วย แล้วก็ Producer อีก 2 รายการที่เข้ารอบชิง ไปกันทั้งหมด 5 คน จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย ไปไฟลท์ 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ งานเริ่มทุ่มนึง ชั้นให้เลขาหาชุดราตรีให้ลี อยู่ที่ห้อง ไปดูกัน”
ปัญชลีเบาใจ ที่รู้ว่าไปกันหลายคน ไม่ได้ไปกับภาสกรลำพัง “ภาน่ารักจัง หาชุดให้ใส่”
ปัญชลีกับภาสุรีเดินยิ้มแย้มคุยกันออกไป ศินีนาฏนึกถึงดาว ขอโทร.ไปแกล้งนังดีออกซะหน่อย
อ่านต่อหน้า 2
สื่อริษยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
ดาวนอนซมหมดสภาพอยู่ที่คอนโด ไม่รู้สึกถึงอาการปวดท้องเท่าไหร่เพราะกินยาแก้ปวดไปหลายเม็ด พอช่วยได้ สมพรเฝ้าดูแลลูกใกล้ๆ
“เริ่มรู้สึกปวดอีกแล้ว หยิบยาแก้ปวดให้ดาวทีแม่”
“เมื่อกี้ดาวเพิ่งไปกิน 4 เม็ดนะลูก ไปหาหมอเถอะ” สมพรห่วงลูกมาก กลัวลูกตาย
ศินีนาฏโทร.มาหาพอดี ดาวเห็นชื่อคนโทร.มาก็ไม่รับ ศินีนาฏโทร.มาอีก
ดาวรำคาญ กดรับโทรศัพท์อย่างฉุนเฉียว “ไม่ต้องโทร.มา”
“อุ๊ยตาย คนท้องหรือคนบ้าเนี่ย รับสายปุ๊บ ด่าปั๊บ อย่าเพิ่งวางนะดาว ชั้นโทร.มาบอกข่าวอันน่าสะพรึงกลัว ให้เธอเตรียมใจไว้ พรุ่งนี้ลีกับว่าที่สามีเธอ จะไปสิงคโปร์ด้วยกัน ไปงานแจกรางวัล TV AWARDS ปล่อยสามีไปไกลหูไกลตา ระวังกู่ไม่กลับน้า”
ดาวตาลุกวาวโรจน์หวงผัวสุดขีด ปวดท้องอยู่ก็จะต้องลุย ดาวทนฝืนอาการ ไปหยิบกุญแจรถจะไปลุยปัญชลีที่ช่อง
ปัญชลีคุยกับศินีนาฏต่อเรื่องรายการที่เข้ารอบ สีหน้ายิ้มแย้ม
“เดือนก่อนคุณภามาบอกจะส่งรายการเข้าประกวด ชั้นไม่คาดหวัง สื่อในอาเซียนพัฒนาขึ้นมาก ต้อนรับ AEC ทุกประเทศผลิตรายการโทรทัศน์ดีๆ ออกมาเยอะ”
ดาวบุกมาที่ทำงานเก่า ทำตัวเหมือนคนปกติ หึงจนลืมอาการปวดท้อง พนักงานหันมองดาวเป็นตาเดียว เห็นตรงไปทางห้องปัญชลี มั่นใจว่างานนี้ต้องมีเรื่อง
ดาวพรวดเข้ามา “ห้ามพี่ลีไปสิงคโปร์กับคุณภาส”
“เธอไม่ต้องห่วง ชั้นไม่แย่งของๆ ใคร”
“ดาวไม่ไว้ใจ วัวเคยค้าม้าเคยขี่”
“อย่ามาหยาบคายกับชั้น”
ดาวหมั่นไส้ เลยยิ่งหยาบคายใส่อีก “เสียทองท่วมหัว ดาวไม่ยอมเสียผัวให้พี่ลี! นังพวกข้าเก่าเมียรัก มันวางใจไม่ได้ จ้องจะงาบผัวคืน”
เสียงภาสกรดังขึ้น “ดาว”
ดาวหันไป เห็นภาสกรมองมาตาเขียวปั้ดท่าทางโกรธจัด ก่อนจะส่งสายตาไปขอโทษปัญชลี แล้วจับแขนดาวพาออกไป
“นังดาวดีออก บิวท์ขึ้น แจ้นมาฉีกอกลี” ศินีนาฎสะใจ
ปัญชลีรู้ทันที “ศิโทร.บอกดาว อย่ากวนน้ำให้ขุ่นเลย ลีอยากอยู่สงบๆ”
ศินีนาฎลอยหน้า ไม่สนคำขอปัญชลี ซ้ำเติมนังดาวดีออกสนุกจะตาย
ภาสกรต่อว่าดาวยกใหญ่
“ก่อนทำอะไร ไตร่ตรองซะมั่ง คุณกำลังจะเป็นภรรยาผม อย่าทำให้ผมเสื่อมเสีย”
“ก็ดาวหึงนี่คะ รักมาก ก็หึงมาก เราไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้เลยนะคะคุณภาส ดาวจะได้วางใจ ว่าคุณจะไม่กลับไปหาพี่ลี”
“บอกผมมาสิดาว คุณเป็นอะไร อยู่ๆ คุณก็เร่งแต่งงาน หนีกลับไปอยู่คอนโด ไม่ใช่เพราะคุณแม่ผมหรอก มีสาเหตุอื่น”
“ดาวบอกแล้วไงคะ ฮอร์โมนดาวพลุ่งพล่าน ก็เหมือนคนท้องทั่วไป นี่เพิ่งบ่ายสองกว่า ไปเขตทัน”
ภาสกรไม่เชื่อ ว่าฮอร์โมนทำให้ดาวเปลี่ยนไป “ผมว่า ผมพาคุณไปฝากท้องดีกว่า ให้หมอตรวจ ฮอร์โมนคุณสูงผิดปกติหรือเปล่า เมื่อวันอาทิตย์เห็นคุณแพ้ท้อง เลยไม่ได้พาไป”
“จดทะเบียนสมรสก่อน แล้วค่อยไปหาหมอนะคะ”
“ต่อรองเพื่ออะไรน่ะดาว ไม่ห่วงลูกหรอ คุณท้อง 2 เดือนแล้ว ควรไปฝากครรภ์ เผื่อมีอะไรผิดปกติ หมอได้รักษาทัน”
“แล้วคุณภาสล่ะคะ ไม่ห่วงลูกเหรอ ดาวขอให้จดทะเบียนแต่งงาน คุณภาสก็เอาแต่ยื้อ เหมือนไม่สนว่าลูกของเราจะเป็นลูกนอกกฎหมาย”
พอดาวเอาลูกมาต่อรอง ภาสกรก็มีท่าทีอ่อนลงทันที ดาวเห็นท่าทีนั้น รีบรุกต่อ
“พอลูกโตขึ้น ถามว่า ทำไมพ่อแม่จดทะเบียนแต่งงานก่อนเค้าเกิดแค่ไม่กี่เดือน เพราะเค้า พ่อแม่ถึงจำใจแต่งงานกันหรือเปล่า”
“ลูกของผม ต้องไม่มีปมในใจ รออีก 2 วัน ผมกลับจากสิงคโปร์วันมะรืน จะพาคุณไปจดทะเบียนสมรส”
ดาวดีใจมากโผเข้ากอดภาสกร อีก 2 วันเท่านั้น หล่อนจะได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา
คืนนั้นดาวอาการกำเริบหนัก ปวดท้องมาก ปวดจนตัวงอ อาการตอนนี้ ท่อนำไข่เริ่มแตกแล้ว มีเลือดซึมออกมา ซึ่งถือว่าหนักมาก สมพรสงสาร ร้องไห้อยู่ข้างๆ ลูก
“รออีก 2 วันไม่ไหวหรอกดาว ไปให้หมอผ่าเอาลูกออกเถอะ”
“ทนอีกแค่ 2 วัน ดาวก็จะสบายไปตลอดชีวิต แม่ไปซื้อแก้ปวดให้ดาวที ซื้อมากระปุกนึงเลย”
“ยาแก้ปวดเอาไม่อยู่แล้วล่ะลูก ให้แม่พาไปโรงพยาบาลนะ” สมพรพยุงดาวขึ้น
ดาวแว้ดใส่ “ดาวไม่ไป แม่ไม่ช่วยก็กลับสมุทรสงครามไป”
“โธ่ลูก ทำไมถึงเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง”
เสียงข้อความไลน์ เข้าโทรศัพท์มือถือดาว
“คุณภาส” หล่อนคิดว่าภาสกรไลน์มา เปิดอ่าน กลายเป็นไลน์จากศินีนาฏที่ส่งข้อความมาปั่นหัว
“เห็นว่าคุณภาสกรจองห้องสวีตโรงแรมที่สิงคโปร์ ไว้รอฉลองกับลี ถ่านไฟเก่าคุ นังถังแก๊สท้องป่อง ต้องระเบิดตัวตายอยู่เมืองไทย” มี Sticker หัวเราะเยาะชอบใจปิดท้ายข้อความ
ดาวเชื่อคำยุแยงศินีนาฏ แค้นใจมาก
“คุณภาสจะทิ้งทวนกับพี่ลี” เลยโทร.หลอกถามภาสกร “พรุ่งนี้คุณภาสไปไฟลท์กี่โมงคะ”
ดาวหน้าซีด ด้วยตอนนี้เลือดออกในช่องท้อง จนทำให้ความดันเลือดต่ำ หน้าซีด ตัวเย็น ดาวทนปวดท้อง ส่งแม่ขึ้นแท๊กซี่ สมพรไม่อยากกลับสมุทรสงคราม ห่วงลูกมาก
“ขอแม่อยู่เถอะลูก แม่ห่วงดาว”
ดาวดุ “แม่อยู่ก็ไม่ช่วยอะไร” แล้วหันไปบอกแท็กซี่ “ไปสายใต้ใหม่”
พอแท็กซี่พาแม่ไปดาวก็ลากสังขาร เดินไปบอกรปภ.
“เรียกแท็กซี่ให้อีกคัน”
ถึงอาการหนักแค่ไหน ดาวก็ต้องขัดขวาง ไม่ให้ภาสกรได้อยู่กับปัญชลี
ขณะที่เก้ยกกระเป๋าเดินทางปัญชลีขึ้นรถ จะไปส่งที่สนามบิน ดาวมาถึงให้แท็กซี่รอ ตัวเองลงรถเดินระทวย ฝืนปวดท้อง มาหาปัญชลี
“สภาพเธอแย่มาก”
ดาวไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงเข้าแย่งกระเป๋าถือปัญชลี หยิบพาสปอร์ตออกมา ฉีกพาสปอร์ตขาดเป็นสองส่วน
เก้โกรธจัด “ชั้นไม่เคยอยากด่าเธอแรงๆ แต่วันนี้ขอหน่อยเถอะ นังดาวดีออก”
“พี่ลีห้ามยุ่งกับผัวดาว” ดาวพูดไป หน้าเหยเก อาการแย่มาก
“ไปหาหมอมั้ยดาว ดูเธออาการไม่ค่อยดี”
“ไม่ต้องมาทำเป็นห่วง พี่ลีแช่งดาวให้แท้งลูก คุณภาสได้ไม่แต่งกับดาว”
ดาวเดินระทวยกลับขึ้นแท็กซี่ กลับไป
“อีบ้า ชนะแล้วจะเอาอะไรอีก อีจิตเสื่อม”
ปัญชลีเป็นห่วงดาว มากกว่าโกรธ เลยโทร.หาภาสกร
ทุกคนอยู่หน้าตึก ภาสกรกับภาสุรีกำลังจะไปสนามบิน มีภานุขับรถไปส่งพี่ๆ คนใช้ขนกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นรถภานุ ปัญชลีโทร.มาหาภาสกรพอดี
“ถึงสนามบินแล้วเหรอลี”
ปัญชลีอยู่หน้าบ้าน คุยสายกับภาสกร “ลีไปไม่ได้แล้วค่ะ ดาวฉีกพาสปอร์ตลีขาด”
ภาสกรโมโหมาก “นี่ดาวยังไม่หยุด”
“ภาสไม่ควรให้ดาวออกมาคนเดียว ดาวปวดท้อง เดินแทบไม่ไหว”
“ดาวไม่ได้อยู่บ้านผม ผมเพิ่งรู้จากลี ดาวปวดท้อง ขอบใจนะลีที่โทร.บอก ผมจะโทร.หาดาว” ภาสกรวางสาย รีบกดโทรหาดาว แต่เป็นบริการเข้าฝากข้อความ เพราะดาวปิดถือ
ภาสุรีถามทันที “ดาวไปหาเรื่องลีเหรอคะ”
“ลีโทร.มาบอกว่าดาวไม่สบาย ปวดท้อง” ภาสกรนึกออก หันไปถามคนใช้ “ตอนคุณดาวอยู่บ้าน เห็นคุณดาวปวดท้องบ้างมั้ย”
“มีวันนึง คุณดาวปวดท้องมาก เพื่อนชื่อตุ่นพาไปโรงพยาบาลค่ะ” คนใช้จ๋อย
วิไลลักษณ์ตวาดแว้ด “ทำไมไม่บอกพวกชั้น”
“คุณดาวห้ามไม่ให้บอกค่ะ”
“วันนั้นภาก็เจอดาวที่โรงพยาบาลค่ะ โทร.ไปเช็คโรงพยาบาลตอนหลัง ดาวไปตรวจแผนกสูติฯ ดาวต้องเป็นอะไรซักอย่างค่ะพี่ภาส” ภาสุรีร้อนใจ
“เอายังไงครับพี่ภาส จะยกเลิกไปสิงคโปร์มั้ย” ภานุถาม
“คนจัดงานส่งการ์ดมาเชิญภาสโดยตรง ไม่ควรเบี้ยว เป็นการไม่ให้เกียรติเค้า พ่อกับแม่จะไปดูดาวที่คอนโดเอง” โอภาสบอก
“ผมจะเปลี่ยนตั๋ว กลับไฟลท์คืนนี้เลย ยังไงคุณพ่อคุณแม่เจอดาวแล้วโทร.หาผมนะครับ ผมร้อนใจ”
ภาสกรขึ้นรถไปทั้งที่ใจกังวลมาก และยังโทร.หาดาว เจอเข้าฝากข้อความ ภานุขับรถออกไปโอภาสโทร.หาดาว “ดาวปิดเครื่อง”
“งั้นเราก็อย่าเพิ่งไป ดาวอาจไม่อยู่คอนโด หวังว่าหลานชั้นจะไม่เป็นไร”
วิไลลักษณ์กับโอภาสเป็นกังวล ห่วงหลานในท้องดาว
อ่านต่อหน้า 3
สื่อริษยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
ตอนสาย ศรัณพาแม่มาจ่ายตลาด ลูกชายหิ้วตะกร้ากับข้าวตามแม่ต้อยๆ สองแม่ลูกซื้อกับข้าวครบแล้ว ออกมาหน้าตลาดจะกลับ ศรัณนึกได้
“แม่ เราลืมซื้อกระเทียม”
“มัวแต่เลือกไข่ เลยลืม”
สมพรเดินซึมผ่านมา เพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ
“น้าสมพร จะไปไหนครับ”
“เพิ่งลงรถที่ท่า ไปหาดาวที่กรุงเทพฯมา ดาวไม่สบายมาก”
“เป็นอะไรครับ” ศรัณชะงัก ห่วงดาว ยังตัดไม่ขาด
แม่ค่อนขอดลูกชาย “ดูท่า แม่ต้องไปซื้อกระเทียมคนเดียวแล้ว”
“ดาวมีคุณภาสกรดูแล น้าไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไปซื้อกระเทียมกันครับแม่”
แม่ยิ้มแฉ่ง ศรัณพาแม่กลับเข้าตลาดไป
สมพรมองตามศรัณจูงแม่เดินไปด้วยความรู้สึกเสียดาย
ศรัณเคลียร์เอกสารในออฟฟิศ แม่นั่งอ่านหนังสือรอลูก ฝ่ายบัญชีเข้ามาหา
“ใบเสร็จร้านที่กรุงเทพฯ ที่เราเอาปลาไปส่งอยู่ไหนคะคุณศรัณ”
“ว่าจะเอากลับมา ลืมทุกที อยู่ที่คอนโดในกรุงเทพฯ น่ะ รีบใช้มั้ย”
“ต้องทำภาษีส่งสรรพากรพรุ่งนี้ค่ะ”
“งั้นผมไปเอาวันนี้เลย พรุ่งนี้ได้ทำทัน แม่ครับ นั่งรถเล่น ไปกรุงเทพฯกัน”
“แม่ดาวเค้าเปลี่ยนกุญแจห้องแล้วนี่ลูก เข้าห้องไม่ได้”
“จริงสิ ผมจะโทร.ไปขอกุญแจดาว” เขากดโทร.หาดาว แต่เปลี่ยนใจ “ไลน์บอกแล้วกัน ให้ดาวเอากุญแจมาฝากรปภ.ข้างล่าง ตกลงแม่จะไปด้วยมั้ยครับ”
“แม่ไม่ชอบเข้ากรุงเทพฯ ศรัณไปคนเดียว แม่ไว้ใจลูก”
ศรัณยิ้มให้แม่ แล้วพิมพ์ไลน์ไปหาดาวให้เอากุญแจห้องฝากไว้ให้
ศรัณมาถึงคอนโดก็ปรี่เข้ามาถามรปภ.
“มีคนฝากกุญแจห้องไว้มั้ยครับ”
“ไม่มีครับ”
ศรัณเซ็งปนเครียด “ดาวก็อ่านไลน์แล้ว ทำไมไม่เอากุญแจมาฝาก”
“ผู้หญิงที่อยู่กับคุณ อยู่บนห้องครับ เมื่อเช้าให้ผมเรียกแท็กซี่ ปวดท้องมาก” รปภ.รายงาน
ศรัณนึกห่วงดาว “ขอผมเข้าไป”
รปภ.เอาการ์ดเปิดประตูคอนโด ให้ศรัณเข้า
ศรัณมาถึงหน้าห้องก็เคาะประตูเรียกระรัว ดาวเดินตัวงอก่องอขิงมาเปิดประตูให้ หน้าซีดขาวราวกับกระดาษ
“หน้าดาวซีดมาก” ศรัณตกใจแตะตัวดูอาการ “ตัวก็เย็นเฉียบ”
ดาวเสียงแหบพร่า ปวดท้องจนแทบไม่มีแรงพูด “หาใบเสร็จไว้ให้แล้วค่ะ อยู่บนโต๊ะ”
ศรัณไม่สนใจใบเสร็จ ห่วงดาว ท่าทีไม่สบายหนักมาก
“คุณภาสกรอยู่ไหน ไม่มาดูแลดาว”
“ไปสิงคโปร์ค่ะ”
“พี่พาไปหาหมอ”
“ดาวไม่ไป”
ดาวหนีศรัณเข้าห้องนอน
ดาวหนีเข้าห้องนอนจะล็อคประตูแต่ไม่ทัน ศรัณตามเข้ามา
“อย่ายุ่งกับดาว พรุ่งนี้ดาวก็ได้แต่งงานแล้ว” ดาวอ่อนแรงจนทรงตัวไม่ไหว ร่างทรุดลง
“นี่น้องดาวเป็นอะไร”
“ลูก” ดาวร้องไห้ออกมา
“ลูกในท้องเป็นอะไร”
ความดันต่ำมาก อาการหนักเกินร่างกายรับไหว ดาวสลบเหมือดท่ามกลางความตกใจของศรัณ
“ดาว อย่าเป็นอะไรไปนะ พี่จะพาไปโรงพยาบาล”
ศรัณรีบอุ้มดาวที่หมดสติออกไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวางร่างหมดสติของดาวลงบนเตียงห้องฉุกเฉิน ใบหน้าดาวซีดราวกับกระดาษ หมอ พยาบาล มารุมล้อมเตียง พยาบาลรีบวัดชีพจรกับความดัน
“คนไข้เป็นอะไรมาครับ”
สีหน้าศรัณตื่นตระหนก “ไม่รู้ครับ”
ศรัณนึกถึงสมพร กดโทร.หา พอติดก็รีบร้อนถาม “ที่น้าบอกว่าดาวไม่สบาย ดาวเป็นอะไรครับ ผมพาดาวมาโรงพยาบาล ดาวสลบ”
สมพรอยู่บ้านที่สมุทรสงคราม คุยสายกับศรัณ ด้วยสีหน้าตกอกตกใจมาก
“ดาวสลบ โธ่ลูก แม่บอกแล้วอย่ารอ ให้รีบไปหาหมอ”
สมพรร้องไห้โฮ ศรัณได้แต่ปลอบ “ตั้งสติไว้ครับน้า ดาวเป็นโรคอะไร หมอจะได้รีบรักษาถูก”
“ดาวท้องนอกมดลูก ดาวอยู่โรงพยาบาลไหน น้าจะรีบไป”
พอรู้ชื่อโรงพยาบาล สมพรก็วางสาย รีบลงจากบ้านทันที
ส่วนที่ห้องฉุกเฉิน ศรัณบอกหมอแล้วว่าดาวท้องนอกมดลูก
“คนไข้ท้องนอกมดลูก ความดันต่ำจนสลบ แสดงว่าเลือดออกในช่องท้อง ต้องผ่าตัดด่วน คนไข้กรุ๊ปเลือดอะไร มีโรคประจำตัวมั้ยครับ”
ศรัณบอกข้อมูลไป “ดาวกรุ๊ปเลือด O ไม่มีโรคประจำตัวครับ”
หมอสั่งพยาบาล “โทร.บอกห้องผ่าตัดให้เตรียมรับเคสด่วน ขอยากระตุ้นความดัน”
พยาบาลส่งยากระตุ้นความดันให้หมอฉีดให้ดาว
ศรัณใจคอไม่ดี ดาวนอนนิ่ง หน้าซีด ศรัณกลัวดาวตาย
ฝ่ายภาสกรลากกระเป๋ามาตามทางเดินหน้าห้องพักดาว เขาเพิ่งกลับจากสิงคโปร์ ลงเครื่องก็ตรงดิ่งมาหาดาวเลย ชายหนุ่มแทบจะวิ่งมาด้วยความร้อนใจ เป็นห่วงทั้งดาวและลูกในท้อง พอมาถึงหน้าห้อง ต้องชะงัก เพราะปรากฏว่าประตูห้องเปิดอ้ากว้างทิ้งไว้ ภาสกรรู้สึกไม่ดีเลย รีบเข้าไปดูในห้อง
ภาสกรเดินหา ร้องเรียก “ดาวๆๆ” ทั่วห้อง ดูทุกซอกทุกมุม แต่ไม่เจอ ภาสกรกลับไปสำรวจบานประตูอีกครั้ง ว่ามีร่องรอยงัดแงะมั้ย
“ไม่มีรอยงัด ดาวเปิดทิ้งไว้”
ศรัณโทร.เข้ามาพอดี ภาสกรรับสาย “คุณศรัณมีธุระอะไรครับ ผมกำลังยุ่ง”
ศรัณคุยสายกับภาสกรเขาโทร.จากห้องฟักฟื้นดาว
“ผมโทร.หาคุณภาสกรตั้งหลายหน คุณปิดเครื่อง”
ดาวนอนให้เลือด อาการง่วงงุน สะลึมสะลือเพราะยานอนหลับ
“ผมอยู่บนเครื่องบินครับ เพิ่งกลับจากสิงคโปร์ มีอะไรครับ”
“เรื่องดาวน่ะครับ ตอนนี้ดาวอยู่...”
ดาวลืมตาเต็มตา ส่ายหน้าขอร้องศรัณ อย่าบอกภาสกร
“ดาวอยู่ไหนครับ” ภาสกรซัก
ดาวเจ็บแผลผ่าตัดพูดไม่ไหว แต่ส่งสายตาวิงวอนขอร้องศรัณ อย่าบอก สมพรช่วยลูกสาว มองศรัณด้วยสายตาเศร้าๆ ขอศรัณอีกแรง
ภาสกรแปลกใจที่ศรัณเงียบไปนาน “ยังอยู่หรือเปล่าครับคุณศรัณ ดาวหายไปไหน”
ศรัณแพ้สายตาสมพร “อืม...ผมก็ไม่รู้ครับ นี่ผมโทร.มา จะถามคุณภาสกร ดาวอยู่ไหน ผมไปเอาเอกสารที่คอนโด ไม่เจอดาว”
“ผมก็คิดว่าคุณรู้ แค่นี้นะครับ”
ภาสกรวางสายแล้วรีบโทร.หาดาวอีก แต่เป็นฝากข้อความเหมือนเดิม เขาเป็นกังวลมาก
ที่ห้องพักฟื้น ดาวหลับตาโล่งใจ ที่ศรัณไม่บอกภาสกรว่าหล่อนอยู่โรงพยาบาล
“ทำไมดาวไม่ให้พี่บอกคุณภาสกร”
ดาวจะพูดแต่เจ็บแผลผ่าตัด หน้าเหยเก พูดไม่ไหว
สมพรเลยพูดแทนลูกสาว “ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ว่าดาวท้องนอกมดลูก”
ศรัณชะงัก อึดอัดแต่ต้องพูด “ดาวไม่ต้องปิดเค้าแล้ว ดาว ทำใจนะจ๊ะ หมอจำเป็นต้องผ่าตัดเอาเด็กออก เพื่อรักษาชีวิตดาว ดาวไม่มีลูกแล้ว”
พอรู้ว่าไม่มีลูกอยู่ในท้อง หัวอกคนเป็นแม่ก็ชอกช้ำ ดาวร้องไห้โฮออกมา
“ดาวต้องบอกพ่อของลูก เค้ามีสิทธิ์จะรู้”
ดาวร้องไห้สะอื้นจนเจ็บแผลผ่าตัด
“อย่าเพิ่งคาดคั้นน้องตอนนี้เลยนะพ่อศรัณ ดาวเพิ่งผ่าตัด เพิ่งเสียลูก ให้ดาวทำใจก่อน”
“ครับน้า ผมกลับสมุทรสงครามนะครับ น้าสมพรมีอะไรให้ผมช่วยก็บอก ไม่ต้องเกรงใจ แข็งแรงเร็วๆ นะจ๊ะดาว”
ศรัณมองคนรักเก่าด้วยสายตาเป็นห่วง แต่ไม่โหยหาอาลัยอาวรณ์เหมือนเคย ปลงได้แล้ว ไม่มีทางกลับมารักกันเหมือนเดิม ศรัณกลับไป
ดาวร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจมากที่เสียลูกเครื่องมือต่อรองชั้นยอดไป สมพรพลอยร้องไห้ไปกับลูกด้วย
อ่านต่อหน้า 4
สื่อริษยา ตอนที่ 13 (ต่อ)
ภาสกรถึงบ้านแล้ว เจอพ่อแม่ และน้องชาย รออยู่ในห้องโถง
“พี่ภาสน่าโทร.บอกให้ผมไปรับที่สนามบิน แล้วนี่พี่ไปหาดาวหรือยังครับ”
“ดาวไม่อยู่ห้อง เปิดประตูห้องทิ้งไว้ เหมือนรีบร้อนออกไป”
“ลีบอกว่าเห็นดาวปวดท้องมาก แม่ว่า...ดาวต้องไปโรงพยาบาล โอยตายแล้ว หลานชั้นในท้องดาวจะเป็นยังไงบ้าง” วิไลลักษณ์ใจเสีย
“โทร.เช็คตามโรงพยาบาล ดาวเข้ารักษาตัวหรือเปล่า” โอภาสบอก
“ผมจะเซิร์ช หาเบอร์โทร.โรงพยาบาลในกรุงเทพฯครับ” ภานุว่า
ภานุรีบเซิร์ชหาเบอร์โรงพยาบาลในมือถือ จากนั้นก็บอกเบอร์ให้ครอบครัวช่วยกันโทร.
“ไม่มีคนไข้ชื่อดารินกานต์ กิตติวงศ์หรอครับ ขอบคุณครับ” ภาสกรโทร.ไปเช็คอีกที่
ภาสกร ภานุ วิไลลักษณ์ และโอภาส โทร.ไปเช็คทุกโรงพยาบาลที่หาเบอร์ได้ แต่ไม่เจอดาว ทุกคนเครียด เป็นห่วงดาว และลูกในท้อง โดยเฉพาะภาสกรเครียดหนัก
ตุ่นมาเยี่ยมดาวในวันถัดมา เดินมองป้ายชื่อหน้าห้อง จนเห็นชื่อ “นางสาว ดาว กิตติวงศ์”
“นามสกุลใช่ แต่ชื่อไม่ใช่”
ตุ่นลองเคาะประตู เปิดเข้ามาดูเจอดาวนอนซม เจ็บแผลผ่าตัด
“ทำไมป้ายหน้าห้องใช้ชื่อเล่นล่ะ เจ๊เป็นงง”
“เมื่อวานพี่ศรัณรีบบอกข้อมูลพยาบาล ไปบอกชื่อเล่นดาวค่ะ ดาวขี้เกียจไปเปลี่ยน”
“พอดาวโทร.บอก เจ๊ก็รีบแจ้นมาเลย ดาว จะเอายังไงต่อลูก ไม่มีเด็กไปต่อรองกับเค้าแล้ว”
“ทางนู้นเปลี่ยนใจไม่แต่ง ก็ปล่อยเค้าไปเถอะลูก” สมพรเอ่ยขึ้น
ดาวหงุดหงิด ชักสีหน้าใส่แม่ “แม่ไปซื้อครีมทาตัวให้ทีค่ะ แอร์เย็น ดาวผิวแห้ง”
สมพรหน้าจ๋อย รู้ว่าดาวหาเหตุไล่แม่ไป สมพรไม่ว่าลูก ออกไปซื้อของตามลูกสั่ง
“ดาวจะปิดเรื่องลูกไว้ก่อน คุณภาสรู้ ต้องไม่จดทะเบียนแต่งงานกับดาว”
“รู้ทีหลัง คุณภาสกรต้องโกรธลูกมากนะ”
“ถึงตอนนั้นค่อยหาทางเอาตัวรอดค่ะ เจ๊ตุ่นเปิดมือถือดาวไลน์บอกคุณภาสให้ที ดาวลุกไม่ไหว เจ็บแผลผ่าตัด”
เวลาเดียวกัน ภาสกรกลับมาค้นห้องดาวอีกครั้ง เพื่อหาเงื่อนงำว่าดาวไปไหน สักครู่เสียงไลน์ เข้ามือถือภาสกรชายหนุ่มเปิดดู เป็นข้อความจากดาว
“ดาว” ภาสกรดีใจมาก ที่ดาวติดต่อมา
ดาวส่งข้อความมาว่า “ดาวเครียด มาพักสมองต่างจังหวัดกับเจ๊ตุ่นค่ะ”
ภาสกรไม่ไลน์ตอบโทร.หาเลย ร้อนใจมาก ต้องคุยให้รู้เรื่อง
มีเสียงโทรศัพท์เข้า ตุ่นถือโทรศัพท์ในมือ ถึงกับสะดุ้ง
“คุณภาสกรโทร.มา รับไม่รับคะลูก”
“อย่ารับไลน์บอก ขอดาวอยู่เงียบๆ อีกสี่ห้าวัน ดาวจะกลับกรุงเทพฯ”
ตุ่นสวมบทบ่าวพิมพ์ข้อความตามที่ดาวพูด
ภาสกรอ่านไลน์ของดาว ชายหนุ่มพิมพ์ไลน์ถามกลับไป “คุณอยู่ไหน ผมจะไปหา”
“ตื๊อจริง คุณภาสกรจะมาหาลูก” ตุ่นบ่น
“ปิดมือถือหนีเลยค่ะเจ๊ตุ่น”
ตุ่นปิดมือถือดาวไปเลย “ดาวลูก ทำไมถึงต้องสี่ห้าวัน มีเดดไลน์ อะไรเหรอ”
“หมอให้ดาวนอนโรงพยาบาลสี่ห้าวันค่ะ เจ๊ปิดมือถือของเจ๊ด้วย คุณภาสต้องโทร.หาเจ๊”
“รอบคอบมากค่าลูกกก” ตุ่นปิดมือถือเครื่องตัวเอง
เป็นอย่างที่ดาวคิด ภาสกรติดต่อดาวไม่ได้ ก็โทร.หาตุ่น
“ตุ่นก็ปิดเครื่อง ไปไหนกันทำไมไม่บอก”
ภาสกรเครียดจัด เป็นห่วงลูกเมียมาก
ภานุไปรับภาสุรีกลับจากสนามบิน พ่อ แม่ ออกมาต้อนรับลูกสาวคนกลาง
“ไปร่วมงานมาเป็นยังไงบ้างลูก”
“อุตส่าห์บินไปร่วมงาน TV AWARDS ถึงสิงคโปร์ ไม่ได้รางวัลติดมือกลับมาซักรางวัลค่ะคุณแม่”
“ปีหน้าเอาใหม่ ต้องคว้ามาได้ซักรางวัล”
“ภาก็หวังอย่างนั้นค่ะ พี่ภาสล่ะคะ เจอดาวหรือยัง”
“โทร.มาบอกแม่เมื่อกี้ แม่ดาวเค้าไลน์มา เค้าไปต่างจังหวัดกับตุ่น อีก 5 วันถึงจะกลับ” วิไลลักษณ์ว่า
“ผมนึกว่าดาวจะกลับวันนี้ซะอีก พี่ภาสบอกผมเมื่อคืน พี่ภาสนัดดาว จะไปจดทะเบียนสมรสกับดาวที่เขตวันนี้ครับ”
“ดาวเบี้ยวนัด ไม่ไปจดทะเบียนสมรสกับพี่ภาส” ภาสุรีแปลกใจมาก
“ยัยภาลูก แม่ไม่ประหลาดใจอะไรกับแม่ดาวอีกแล้วล่ะ แม่นั่นน่ะ เอาแต่ใจตัวเอง นึกอยากทำอะไรก็ทำ กรรมของหลานชั้น มีแม่เห็นแก่ตัว”
พ่อแม่ และน้อง ไม่ติดใจสงสัยพฤติกรรมดาว แต่ภาสุรี คาใจมาก
ที่ช่องไทยเคเค ปัญชลี ศินีนาฎ เก้ เดินคุยกันออกมาหน้าฝ่ายรายการ จะไปกินข้าว เจอภาสุรีที่เพิ่งมาถึงที่ทำงาน
“ลี เสียใจด้วยนะ รายการลีพลาดรางวัล รายการข่าวของมาเลเซียได้ไป”
ปัญชลียิ้ม “ลีก็ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว รู้หรือยัง ดาวปวดท้องเป็นอะไร”
“ไม่มีใครรู้ ดาวหายตัวไป”
ปัญชลีฉงน “หายไป”
“ไลน์มาบอก ขอไปพักสมองต่างจังหวัดกับตุ่น แต่ชั้นไม่เชื่อ ดาวนัดจดทะเบียนสมรสกับพี่ภาสวันนี้ เด็กนั่นไม่มีทางเบี้ยวนัด อยากแต่งงงานกับพี่ภาสใจจะขาดชั้นขึ้นไปเคลียร์งานก่อนนะ”
ภาสุรีเดินหน้าเครียด ขึ้นบันไดไปชั้น 3 ศินีนาฎบ่นบ้าตามประสา
“คุณภาจะซีเครียดไปทำไม๊ แม่นั่นไปซะ ได้หมดปัญหา”
“ดาวอุ้มท้องหลานคุณภาอยู่ คงห่วงหลานน่ะครับ” เก้ว่า
ระหว่างเก้กับศินีนาฏคุยกัน ปัญชลีครุ่นคิด ดาวหายไปไหน มีพนักงานฝ่ายรายการเดินออกมา
“พี่ขอยืมมือถือหน่อยสิ” ปัญชลีเอามือถือพนักงานมากดโทร.หาตุ่น “ตุ่นปิดเครื่อง”
ศินีนาฏกับเก้มองสงสัย ว่าปัญชลีทำอะไร ปัญชลีใช้มือถือพนักงานไลน์หาตุ่น เขียนว่า
“มีงานอีเว้นท์ให้ทำ ค่าจ้างหมื่นนึง โทร.กลับด่วน ”
“ตุ่นเป็นพวกดาว ไม่บอกหรอกครับ ดาวหลบหน้าไปไหน” เก้ท้วง
“พี่ถึงเอาเงินล่อไง ตุ่นเป็นคนหน้าเงิน” ปัญชลีบอกพนักงาน “ตุ่นติดต่อมา บอกพี่ด้วย”
“ครับพี่ลี” พนักงานเดินไป
ศินีนาฏยิ้มย่อง “เข้าใจตกเหยื่อนะลี มื้อนี้ชั้นเลี้ยง ฉลองให้ล่วงหน้า เธอต้องเจอนังดาวแน่นอน”
ทั้งสามคนเดินออกตึกไป
ภาสกรมาอยู่รอดาวที่คอนโด 3 วันแล้ว ได้ยินเสียงคนเดินหน้าห้องรีบเปิดประตูดู แต่ต้องผิดหวัง ไม่ใช่ดาว เป็นคนพักห้องข้างๆ กัน
ส่วนในห้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ดาวอาการดีขึ้น ไม่ต้องให้เลือดแล้ว แต่ยังเจ็บแผลผ่าตัด สมพรกับตุ่นต้องช่วยประคองดาวไปเข้าห้องน้ำ
ตกกลางคืนอีกวัน ภาสกรนอนไม่หลับ ห่วงดาว และลูกมาก พยายามโทร.หาดาว แต่ติดต่อไม่ได้เหมือนเคย
ส่วนห้องพักฟื้นดาวผ่าตัดมา 3 วันแล้ว แผลผ่าตัดเจ็บน้อยลง ดาวลุกจากเตียง เดินเหินเองได้แล้ว แต่ยังกระย่องกระแย่งอยู่
วันนี้ศรัณถือกระเช้าเยี่ยมเข้ามาในห้อง ดาวนั่งกินข้าวบนเตียง มีสมพรคอยดูแลลูก ตุ่นนอนหลับอยู่บนโซฟา
“หน้าตาดาวสดใสขึ้นนะจ๊ะ พี่ซื้อของมาเยี่ยม คุณภาสกรล่ะ”
“ดาวยังไม่ได้บอกเค้าค่ะ”
“จะปิดเค้าไปถึงไหน”
“เค้ารู้ว่าดาวผ่าตัดเอาลูกออกแล้ว ต้องไม่แต่งงานกับดาว”
ศรัณปะติดปะต่อเรื่องราว “อ้อ เหตุผลคืออย่างนี้นี่เอง ดาวกำลังหลอกเค้าให้แต่งงานด้วย ดาวทำไม่ถูก”
ดาวแผลหาย เริ่มมีแรงด่า “ว่าคนอื่น พี่เป็นคนดีตายเหอะ พี่จับดาวมาขึ้นเขียงผ่าตัด หวังว่าพอไม่มีลูก ดาวก็ไม่ได้แต่งงาน ต้องกลับไปหาพี่”
“พี่ปลงได้แล้ว ดาวไม่ได้รักพี่ พี่ไม่ต้องการดาวคืน”
“ดาวไม่เชื่อ”
เสียงดาวดัง จนทำตุ่นตื่น
“เดือนหน้าพี่จะบวช อาจบวชซักพรรษา” ศรัณหันมาบอกกับสมพร “น้าไปงานบวชผมนะครับ”
“อนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะพ่อศรัณ”
ดาวจ้องตาศรัณ ไม่เห็นแววตาที่เคยรักใคร่หลงใหลอย่างเก่าแล้ว จึงรู้ว่าเขาไม่ได้โกหก ศรัณตัดใจจากดาวได้แล้วจริงๆ
“ดาวไม่บอก งั้นพี่บอกคุณภาสกรเอง” ศรัณจะโทร.หาภาสกร
“อย่านะพี่ศรัณ” ดาวแย่งโทรศัพท์มือถือศรัณไว้ “เจ๊ตุ่นมาช่วยเร็ว”
ตุ่นรีบลุกไปช่วยดาวแย่งมือถือศรัณ สุดท้ายแย่งมาได้ ศรัณขึงตาดุ ไล่ต้อนตุ่น ให้เอามือถือคืนมา อีตุ่นกลัว เลยยอมส่งมือถือคืนศรัณ
“เรื่องผัวเมียเค้า ให้เค้าคุยกันเองเถอะพ่อศรัณ” สมพรขอร้องในที
“ก็ดาวไม่ยอมพูดนี่ครับ”
“เราเป็นคนนอก ผัวเมียตีกัน เราไม่ควรยุ่ง ขนาดน้าเป็นแม่ ยังไม่ยุ่งเรื่องในครอบครัวลูก”
ศรัณนิ่งไปคล้อยตามสมพร
“รับปากน้านะพ่อศรัณ อย่าบอกคุณภาสกร ให้ดาวไปบอกเอง ถ้าผัวเมียเค้าจะทะเลาะกัน ก็ไม่ได้มาจากพ่อศรัณเป็นต้นเหตุ”
“ครับน้า ผมจะไม่พูด ก็ไม่อยากยุ่งเรื่องในครอบครัวคนอื่นเหมือนกัน”
ศรัณไหว้ลาสมพร แล้วมองดาวด้วยสายตาตำหนิ ไม่ชอบสิ่งที่อดีตคนรักทำ
“ขอให้ไม่ยุ่งจริงเถอะ” ดาวค้อนควัก
ศรัณออกมาหน้าห้องโทร.หาปัญชลี
“พี่ลีว่างมั้ยครับ ผมมากรุงเทพฯ”
ภานุเดินเอาเสื้อผ้ามาให้ภาสกรที่คอนโดดาว แต่เข้าไม่ได้ เลยถอยไป กดโทรศัพท์หาพี่ชายให้ลงมารับ
ชาย 1 ที่พักอาศัยในนี้ใช้การ์ดเปิดประตูเข้าคอนโด ภานุเงยหน้าจากโทรศัพท์มาเห็น จะรีบตามเข้าคอนโดไม่ทัน ประตูปิดก่อน
“โธ่เอ๊ย”
ภาสกรลงมาข้างล่างพอดี
“กำลังโทร.ให้พี่ภาสลงมารับอยู่เลยครับ ไม่มีการ์ดเข้าไม่ได้ คุณแม่ให้ผมเอาเสื้อผ้ามาให้พี่”
“ขอบใจ วันหลังมา บอกรปภ.ว่าเป็นน้องพี่ พี่ก็ไม่มีการ์ด รปภ.คุ้นหน้าเลยให้เข้า”
“ต้องคุ้นหน้า ถึงไม่มีการ์ดก็ให้เข้า” ภานุนึกได้ “พี่ภาสเล่าให้ผมฟัง ตอนพี่มาถึงประตูห้องดาวเปิดทิ้งไว้ แล้วก่อนหน้านี้ พี่ลีเห็นดาวปวดท้องมาก พวกเราสงสัยว่าดาวรีบไปโรงพยาบาล”
“นุกำลังคิดอะไร”
“ผมคิดว่า ดาวต้องโทร.บอกใครซักคนให้มาพาไปโรงพยาบาล คนๆ นั้นต้องมาหาดาวบ่อย จนรปภ.คุ้นหน้า อนุญาตให้เข้าไป”
“คุณศรัณ พี่จะโทร.ถามเค้า เค้ามาพาดาวไปไหนหรือเปล่า”
“ผมสนิทกับพี่ศรัณ ผมโทร.เองครับ” ภานุโทร.หาศรัณ “นุนะครับพี่ศรัณ พี่สบายดีมั้ยครับ อ้าว ตอนนี้พี่อยู่กรุงเทพฯ”
สองพี่น้องมองหน้ากัน ภานุมั่นใจมากว่า ศรัณต้องรู้เรื่องการหายตัวไปของดาวแน่
อ่านต่อตอนที่ 13