“เวิร์คพ้อยท์” บวงสรวง “โหมโรง เดอะมิวสิคัล”
ประเดิมโรง “เคแบงค์สยามพิฆเนศ”
จากภาพยนตร์ที่สร้างกระแสรักชาติ ส่งเสริมดนตรีไทยให้กลับมาอยู่ในความสนใจของคนไทยอีกครั้ง ครั้งนี้กลับมาใหม่ในรูปแบบละครเวที โดย “ปัญญา นิรันดร์กุล, ประภาส ชลศรานนท์, สังข์ ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม (ผู้กำกับ), ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ (ผู้กำกับร่วม), ครูเอ้ อัษฎาวุธ สาคริก (ทายาทหลวงประดิษฐไพเราะ ผู้ดูแลเรื่องดนตรีไทยทั้งหมด)
และทีมนักแสดง “อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ, แนน สาธิดา พรหมพิริยะ, สุประวัติ ปัทมสูต, โย่ง อาร์มแชร์, ป๋อม บอยไทย, ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, เอ๋ เชิญยิ้ม, ปอ AF7, นาย The Comedian, ดวงใจ หทัยกาญจน์, ตั้ว ประดิษฐ ประสาททอง, น้องไนน์ ด.ช.รฐนันท์ จิระกาญจนากิจ,น้องออสก้า ด.ช.ชยณัฐ แจ่มใส”
“ปัญญา นิรันดร์กุล”
“วันนี้เป็นการเริ่มต้นบอกทุกคนทั่วแผ่นดินว่า จะมีโรงละครกำเนิดขึ้นอีกหนึ่งโรงที่สยามสแควร์วัน ชั้น 7 มี 1000 ที่นั่ง เตรียมไว้เป็นอย่างดีสำหรับการแสดงละคร และสิ่งต่างๆ เริ่มต้นจาก “โหมโรง” ก็เป็นโหมโรงจริงๆ ได้ศิลปินแห่งชาติ พ่ออี๊ด, มีสังข์เป็นผู้กำกับ ก็เชื้อเชิญนะ
ที่เลือกเรื่องนี้ ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่า “โหมโรง” เป็นการเริ่มต้น เราอยากได้ศิลปวัฒนธรรมไทยๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก จะได้วัฒนธรรมไทย กลิ่นอายของความเป็นไทย ตัวตนของความเป็นไทย มาเริ่มต้นสำหรับโรงละครแห่งนี้ ถือว่าเป็นการปลูกฝัง ส่งเสริมเรื่องราวของวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก
“โหมโรง เดอะมิวสิคัล” เป็นการรวมศาสตร์หลายๆ อย่าง ศิลปะของความเป็นไทยที่บรรพบุรุษ สิ่งต่างๆ ที่ครูรุ่นเก่าได้มอบให้กับลูกหลานที่จะสืบต่อไป เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่ามากๆ ที่จะดำเนินต่อไป ก็เชื้อเชิญนะครับ ตอนนี้ก็จองบัตรได้แล้ว
เรามีโอกาสสร้างเวทีให้กับศิลปะวัฒนธรรมไทยแล้ว เหลือแต่พวกเราที่จะมาร่วมกัน สรรสร้างสืบต่อกันไป ทำหน้าที่ร่วมกัน เราเป็นฝ่ายจัดสร้างบนเวที ท่านเป็นฝ่ายสนับสนุน สิ่งที่เป็นไทยก็จะได้จรรโลงต่อๆ ไป เพราะว่าความเป็นไทยนั้นยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน ในโลกนี้เลย”
“สุประวัติ ปัทมสูต” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
“สมัยก่อนเวลาดนตรีไทยจะเล่น เขาไม่ถามว่าเล่นได้หรือยัง เขาจะ “โหมโรง” เลย นั่นแปลว่าเริ่มแสดง คนที่เจอกันชอบถามว่า “โหมโรงเดอะมิวสิคัล” เหมือนภาพยนตร์ไหม ที่ไม่เหมือนแน่ๆ คือความสด เป็นมิวสิคัล ที่ไม่ใช่แค่มาร้องเพลง มีความเป็นสากล มีรายละเอียดของดนตรีไทยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งสองอย่างมาประกบกัน เป็นความสนุก
ผมว่าโรงละครเมืองไทยตอนนี้ยังไม่พอ ทั้งแฟนประจำและไม่ประจำ เรื่อง “โหมโรง” ที่เปิดที่สยามนี้จะให้ความเต็มทั้งในด้านของละคร เอกลักษณ์ของไทย มีการศึกษามนุษย์สมัยสงคราม หรือมนุษย์ที่ทำดนตรีสมัยสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาของเด็กที่เข้ามาดูแล้วเกิดความรัก ความชอบที่จะเล่นดนตรีไทย”
“สังข์ ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม” ผู้กำกับ
“ความพิเศษของ “โหมโรง เดอะมิวสิคัล” ถ้าใครเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่องโหมโรง ก็ขอเชิญชวนมาชมกันนะครับ อรรถรสทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วน แถมยังเพิ่มเติมความสนุกแบบสดๆ เพราะในหนังเราจะไม่เห็นการตีระนาดที่สด
แต่บนเวที ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นจริงๆ ตีจริงๆ ระนาดประชันกันจริงๆ อย่างพระเอกน้องอาร์ม ฉากยากๆ ที่ตีกันในหนังกับขุนอินพี่ป๋อง บนเวทีนี่เราอัดกันจริงๆ เราซ้อมแล้วรู้สึกว่า “โอ้โห มันบันเทิง มันต้องมาดู” ขนาดทำเอง ยังรู้สึกขนลุกเลย คนดูก็ต้องขนลุก ขนพอง
คุณป๋อมเป็นทายาทของตระกูลโตสง่าและดุริยประณีต ฝีมือถือว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดิน น้องอาร์มเป็นเด็กอะไรไม่รู้เดินสยาม แต่ต้องมาประชันกับมือหนึ่งในแผ่นดิน พวกเราได้ดูแล้วนะครับ น้องอาร์มทำได้สูสี ต้องมาเอาใจช่วยน้องอาร์ม
ฉากแสงสีเสียงเต็มที่นะครับ แล้วยังมีเพลงใหม่ๆ ที่ไม่มีในหนัง แต่งขึ้นโดยนักแต่งเพลงหลายๆ ท่าน ทั้งพี่จิกประภาส แต่งเพลงเนื้อหาหลักของละครเรื่องนี้ “เสียงนั้นเสียงหนึ่ง” น้องแนนนางเอกเป็นคนร้อง น้องแนนเป็นนักร้องที่เสียงหวานมากๆ อยากให้ชมบนเวที เพราะว่าในหนัง นางเอกจะออกนิดเดียว แต่ของเรา มีร้องเพลง มีอะไรต่ออะไรเยอะแยะไปหมดเลย
แล้วมีเพลงใหม่เยอะแยะ รวมถึงฉากที่ไม่มีในหนัง แต่มีอยู่ในบทประพันธ์เดิมของพี่ “อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์” เราก็เอามาใช้ด้วยครับ ต้องบอกว่าละครเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเราไม่เจอน้องอาร์ม เพราะว่าต้องค้นหาพระเอกที่เล่นละครได้ ร้องเพลงได้ แล้วก็เล่นระนาด ไม่เฉพาะแค่เล่นได้นะครับ ต้องเล่นเก่งด้วย แล้วน้องอาร์มก็ฟ้าประทานมาให้ ก็เลยได้ทำเรื่องนี้”
“ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ” ผู้กำกับร่วม และ ดูแลเรื่องการแสดง
“แค่เราร่วมกำกับด้วย นั่งดูตอนซ้อม เรากรีดร้อง เรากรี๊ด คือเราทนไม่ได้จริงๆ ที่ได้เห็นการเล่นสด ที่มัน ดุเด็ด เผ็ดมัน แล้วเรานั่งอยู่ ยังคุยกับพี่สังข์เลยว่า เราอาจจะต้องขึ้นให้คนดูว่า กรี๊ดได้นะคะ ทำให้เหมือนดูคอนเสิร์ททุกประเภทเลยนะคะ เพราะว่า มันเร้าใจจริงๆ ค่ะ ไม่สามารถนั่งดูแล้วสุนทรีย์แค่นี้ได้จริงๆ กับละครเรื่องนี้ช่วงประชัน มันคือการกรีดร้องของคนดูจริงๆ ค่ะ”
“อาร์ม กรกันต์ สิทธิโกเศศ”
“ตอนที่ดวลกับพี่ป๋อม บอยไทย (ชัยยุทธ โตสง่า ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรี) ตอนนั้นที่ตี ตื่นเต้นเหมือนกัน มาเจอพี่ป๋อม ก็เข้าคาแรคเตอร์เลย พี่ป๋อมบอกว่า “อาร์ม พี่ไม่ออมมือให้นะ” กดดันไหม ผมว่าเป็นความท้าทาย
เป็นละครเรื่องแรกที่ต้องเล่นดนตรีสดๆ เหมือนรวมคอนเสิร์ทแล้วก็ละครเวทีอยู่ด้วยกัน ต้องทำการบ้านหนักครับ ต้องซ้อมทั้งส่วนการแสดง ครูเงาะก็จัดเต็ม ระนาด อาร์มก็ไล่มือทุกวัน ชั่วโมงสองชั่วโมง ตอนนี้มีระนาดอยู่ข้างเตียงครับ”
“แนน สาธิดา พรหมพิริยะ”
ตอนที่ร้องเพลง ฟังเอง ยังขนลุกเองเลยค่ะ ตอนแรกจะไปอยู่ต่างประเทศแล้ว คิดว่าไม่รับงานร้องเพลงอีกแล้ว แต่พอได้เล่นเป็นแม่โชติเรื่องนี้ ก่อนเดินทาง 4 วันก็ ตัดสินใจทำตามความฝันตัวเองอีกครั้งค่ะ”
“โย่ง อาร์มแชร์”
“อยากจะบอกว่าดนตรีทำให้เราพบกับสิ่งที่เป็นทิพย์ อย่างในหนังเรื่องโหมโรงได้บอกไว้ แล้วก็ ละครเวทีโหมโรงมิวสิคัล จะทำให้คุณพบกับสิ่งที่ยิ่งกว่าเป็นทิพย์ สิ่งนั้นคืออะไรต้องมาดูกัน”
“ดวงใจ หทัยกาญจน์”
“ขอเรียนเชิญนะคะ มาร่วมกันรักษาสมบัติของชาติที่ครูบาอาจารย์คุณพ่อคุณแม่มอบไว้ให้พวกเรา มาถึงช่วงพวกเราก็ขอแค่เพียงช่วยกันบอกต่อ รักษา เพื่อที่เราจะได้ส่งต่อให้ลูกหลานของเรา ให้ทราบว่าเมืองไทยของเรา คุณปัญญาและคุณจิก พยายามที่จะส่งต่อให้ลูกหลานได้ทราบว่าเรายังมีสิ่งที่ทรงคุณค่า มัดใจคนดูให้เรารักและสามัคคีได้ตลอดไปค่ะ”
สนใจชมละคร “โหมโรง เดอะมิวสิคัล” เปิดให้จองบัตรแล้ววันนี้ ที่ไทยติกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา