ข่าวละคร "เพลิงฉิมพลี"
"อั้ม-อธิชาติ" รับบท "หนานไตร"
ผู้ชายเลือดร้อน ความมุ่งมั่นสูง ใน "เพลิงฉิมพลี"
คาแร็กเตอร์ระหว่างณไตร กับ หนานไตร จะใกล้เคียงกันเพราะเป็นคนมีความมุ่งมั่นสูง มีความต้องการที่จะทำในวิถีทางของตัวเอง เลือดร้อน ต้องการเอาชนะทุกอย่างทุกเรื่อง หนานไตรจะพยายามทำตัวให้เหมือนผู้จัดการปางธรรมดาๆ ทั้งๆ ที่มีชีวิตจบเมืองนอก อยู่เมืองกรุงแล้วก็ต้องเข้ามาอยู่ในป่า เพื่อจะเป็นแกะขาวนิดนึง (หัวเราะ) เรียกว่าแกะขาวดีกว่า เพราะว่าที่เหลือเขาดำหมด เราก็เป็นแกะขาวที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มเขา ต้องพยายามเอาชนะใจคนงาน นั่นคือเป้าหมายหลักของหนานไตร แต่พอวันแรกเข้ามาถึงก็มาเจอนางเอก เนื้อนางซะก่อน คือหลงรักเนื้อนางตั้งแต่วันแรกครับ ก็กลายเป็นว่าต้องเอาชนะใจที่ทำงานทุกคน แล้วก็ต้องเอาชนะใจเนื้อนางด้วย มันเลยเกิดเหตุการณ์ต่างๆ จากความรัก ความผูกพัน สนิทใกล้ชิดกับนางเอก ยิ่งใกล้ชิดยิ่งรัก จนทำให้เกิดความผิดหวัง เพราะว่าตาของเนื้อนาง หมื่นหล้าที่เล่นโดย อาเอก-สรพงศ์ ก็จะกีดกัน เราก็ต้องพยายามชนะใจเนื้อนางทุกทาง โดยเฉพาะพอเราเห็นว่าแสงคำเป็นคนรักของเนื้อนาง ถึงขนาดจะแต่งงานกันด้วย สุดท้ายเราก็ใช้ความพยายาม ความมุทะลุดุดัน เอาชนะทุกอย่างได้ แอบแต่งงานกับเนื้อนางโดยบ้านเรา ครอบครัวเราที่มีแม่นายเป็นใหญ่ก็ไม่รู้ เพราะที่บ้านรับไม่ได้แน่นอน แอบแต่งงานกันก็เลยกลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักตามมาครับ
จริงๆ คาแร็กเตอร์ก็ไม่ได้เบานะครับ อารมณ์ดราม่าเยอะมาก ตรงที่หนานไตรหรือณไตร จะเป็นคนที่มีไฮ เอ็นเนอร์จี้เยอะ พลังเยอะ แค่รู้ว่าเนื้อนางเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ วันรุ่งขึ้นแอบหนีเข้าไปในบ้าน แอบเอาหนังสือออกมาให้เนื้อนาง เป็นคนที่มีพลังตลอดเวลา เลือดพลุ่งพล่าน ต้องการเอาชนะทุกๆ อย่างที่เรายังไม่ได้ เราคิดว่าถ้ามันมีโอกาส ก็จะทำให้ได้ (คาแร็กเตอร์เดียวกับ อั้ม-อธิชาติตัวจริงหรือเปล่า) ตัวผมเองน่ะหรอ (ยิ้ม) คือจริงๆ ผมเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูง มีความตรงกันแบบเป็นผู้ชายที่คล่องแคล่ว ว่องไว เลือดร้อนนิดหนึ่ง รักความถูกต้อง พลังเยอะ เอ็นเนอร์จี้เยอะ
ในส่วนที่ยากๆ ของเรื่องนี้ อย่างแรกคือการเดินทางเพราะเราถ่ายกัน 38 ประเทศ 75 จังหวัดทั่วกรุงเทพ (อำ) ก็เดินทางไกลเพราะว่าเราต้องการโลเกชั่นสวยๆ ด้วยความที่หนึ่ง มันเป็นเรื่องในป่า สองเป็นย้อนยุคพีเรียดด้วย เพราะฉะนั้นก็ไม่มีในเมืองอยู่แล้ว
ความยากต่อมาคือยากในบทบาทการแสดง อารมณ์หนานไตรต้องมีความผิดหวังต่างๆ เกิดขึ้น ช่วงแรกเป็นผู้ชายใช้ใจอย่างเดียวกับเนื้อนาง คือเรารู้ว่าเรารักเขา เราถูกชะตา รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ก็ใช้จิตใจนำทางทุกอย่าง จนต่อๆ มาก็มีความผิดหวังเกิดขึ้น มันจะเป็นกราฟขึ้นไปอีก พอรู้ว่าเนื้อนางไม่ได้แต่งงานกับแสงคำ เราก็ทำทุกอย่างเพื่อจะขอเนื้อนางแต่งงาน ฉากนี้เป็นฉากยากครับ ฉากวันที่เนื้อนางจะออกจากป่า วันนั้นเราก็ใจจะหลุดออกจากขั้ว เนื้อนางเค้าต้องหนีออกไปพร้อมตา สาเหตุที่เขาต้องหนีออกไปลำบากก็เป็นเพราะเรา เพราะความพยายามของเรา หนานไตรวิ่งตามไปขอโทษ คุกเข่าขอเขาแต่งงานเพื่อให้เขาอยู่ในชีวิตของเรา มันเป็นความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งที่ในชีวิตขอให้มีเขาอยู่เคียงข้าง ฉากนั้นอารมณ์หนักมาก ต้องวิ่งลงเขามาพร้อมกับขอแต่งงานไปด้วย ตัวละครก็เจ็บแผล ไดอะล็อกก็ยาว คนเขียนบทเขาก็ไม่ได้นึกถึงเราเลย ฉากก็ยากๆ ทั้งนั้น (หัวเราะ) ก็สนุกดีครับ มันก็จะมีกราฟของความรักช่วงต่างๆ กราฟสุขสมหวัง ช่วงรักกันก็จะเป็นช่วงน้ำตาลหวานฉ่ำ แล้วก็จะเป็นช่วงดอกไม้เริ่มร่วง ดอกไม้เริ่มโรย พอแม่หนานไตรรู้ แม่ก็พยายามสร้างแผนกีดกัน มีตัวละครอีกตัวหนึ่งที่สร้างแผนอยู่เบื้องหลังด้วย ก็ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมคือเนื้อนางต้องออกจากบ้านเราไป เพราะคิดว่าเราหลอกเค้าแล้วไปแต่งงานกับแขไข โดยที่ตอนนั้นเนื้อนางก็เป็นเมียเราอยู่แล้ว มันเป็นเหมือนโศกนาฏกรรมทั้งเขาและเรา เนื้อนางเข้าใจว่าเราหลายใจ แต่เราก็เข้าใจว่าเมียเราหลายใจ ออกไปกับผู้ชายคือแสงคำทั้งๆ ที่เขาแต่งงานแล้วกับเรา มันเป็นความเข้มข้นของเรื่อง จากความรักกลายเป็นความเกลียด แค้นเพราะรัก จนเราตามเจอว่าเนื้อนางไปอยู่กับเจ้าแสนพรหมที่แสดงโดย พี่มิค-บรมวุฒิ เจ้าแสนพรหมก็นัวเนียเนื้อนางเป็นปลาหมึกทาโร่ (หัวเราะ) เจ้าแสนพรหมก็ใช้คำพูดจาว่า อยู่กับเนื้อนางยันสว่าง คือเป็นคำพูดขี้โม้ของเจ้า แต่เราฟังแล้วรู้สึกว่า เฮ้ย ! นี่เมียเรา พูดจาอย่างงี้ได้ยังไง เราก็เข้าใจว่าเนื้อนางเป็นเมียเจ้าแสนพรหมอีกคนจริงๆ คือเราหูเบา แล้วก็ใช้ความโกรธนำทาง มันเลยกลายเป็นเรื่อง จากตอนแรกที่รักเนื้อนาง ตอนหลังกลายเป็นอารมณ์เข้าหากันอย่างรุนแรง ด้วยความเคียดแค้นที่มันเกิดขึ้นเพราะความรักครับ แล้วมันก็พลิกกลับมาอีก พอเริ่มจะดีๆ กัน ก็มีคนวางแผนทำให้เราเข้าใจว่าเนื้อนางมีอะไรกับ ธรรพ์ น้องชายเราอีก ก็ยิ่งเป็นความเคียดแค้น แค้นเพราะรักจนมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ตัวละครรอบข้างทำให้เกิดสถานการณ์ต่างๆ
ทั้งเรื่องทั้งตัวละครก็มีหลากหลายอารมณ์ มันเป็นเรื่องของความต้องการ ตัณหาและความปรารถนา มนุษย์เราใช้ตัณหาและความปรารถนานำทางทุกอย่าง ทุกปรารถนาที่เกิดขึ้น เราไม่ฟังใคร จนกลายเป็นความเคียดแค้นที่ต่อกันขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมีความรัก ก็ต้องเป็นความรักที่พอดี ต้องรู้จักฟัง รู้จักเชื่อใจคนที่เรารัก และเรื่องราวทุกอย่าง ถ้าเราปล่อยวางได้ ก็คงไม่เกิดเรื่องราวเคียดแค้นกันข้ามมาถึงรุ่นลูกขนาดนี้ครับ
ได้ร่วมงานกับนักแสดงทีมนี้สนุกนะครับ ละครเรามีสาระครับ แต่นักแสดงพออยู่ด้วยกันไม่ค่อยมีสาระครับ (หัวเราะ) โดยเฉพาะนักแสดงบางคน ลูกของตลกซักคนนึงเนี่ย ผมจำชื่อไม่ค่อยได้ (อำหน้าตาย) ชื่อเฟิร์น-พัสกร ใช่มั๊ยครับ หลังๆ เริ่มพาอาเอก-สรพงษ์ เข้าป่าครับ เข้าฉากกันอยู่ ก็เล่นจนพาให้อาเอกทำท่าฮาๆ จากตอนแรกอาเอกนิ่งๆ ต่อๆ มาให้ทำท่าอะไรแกก็ทำ จนหลังๆ พออาเอกเดินเข้าฉากมา ก็ถามหาแต่เฟิร์น เฟิร์นไปไหน ชอบแหย่เฟิร์น (อั้มได้ฉายาว่าพระเอกจอมแกล้งประจำกอง) ใครครับ ใครโหวตครับ (หัวเราะ) ผมก็แกล้งจริงๆ เฉลี่ยแกล้งกันไปนะครับ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าแกล้งใครสนุกสุด (ทำท่านึก) แกล้งเฟิร์นครับ (อำ) จริงๆ เฟิร์นเป็นคนบอบบางมาก! บอบบางมากจริงๆ ผมรู้สึกว่าโอเคแรงแบบนี้ คนอื่นเขาก็รู้สึกว่านิดหน่อย แต่เฟิร์นจะเจ็บมาก เจ็บมาก คือเขาจะเป็นคนที่ผู้ชายต้องทะนุถนอม ไม่ชอบความรุนแรงใส่ ชอบแบบซุกไซร้ จูบซอกคอ เค้าคงคิดว่าเค้าสวยไง (หัวเราะ) คือจริงๆ กับเฟิร์นช่วงแรกๆ ก็จะไม่ค่อยลงรอยกับเฟิร์นเท่าไหร่ ไม่ค่อยชอบ เพราะว่าเฟิร์นเล่นเยอะ เข้าฉากแต่ละทีเล่นเยอะ ต้องบอกก่อน เอ่อ...เฟิร์นคือฉากนี้ พี่ขอนะ เฟิร์นเล่นพอประมาณ ขอแค่ 25% พอ ฉากนี้เป็นของพี่ ฉากนี้เป็นของคนนี้ เฟิร์นต้องรู้จักนะ รู้จักให้เกียรตินักแสดงด้วยกันด้วย (หัวเราะชอบใจมาก) แต่ตอนหลังกลายเป็นทอมเอาไปกินครับ (ทอม คอมเมเดี้ยน / ธีรพล หอมจม เล่นเป็น กำปุ้ง) ไปดูเทปนี่ ทอมเป็นม้ามืดมาก เฮ้ย ! ทอมเอาไปกินครับ ชอบเล่นแบบว่าแหนบๆ เหน็บๆ (หัวเราะ)
ฝากละครเรื่องเพลิงฉิมพลีด้วยครับ เป็นละครที่ตั้งแต่เห็นบทแล้ว บทสนุกมาก บทเข้มข้นมาก มีความรักหลายแบบ ตั้งแต่สมหวังจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม เรียกว่ามีทั้งรักจิกหมอน รักแบบตบจูบ แล้วก็ภาพสวยมาก เหมือนเราได้ไปนั่งอยู่ในฉากจริงๆ บางฉากในละครสวยกว่าโลเกชั่นจริงที่เราไปถ่ายกันซะอีก ถือเป็นกำไรของคนดู เพราะอาตู่ก็หาโลเกชั่นที่สวยงามจริงๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเรื่อง แต่ละที่เราเดินทางไปกัน 5- 6 ชั่วโมง ไกลสุด ต่ำสุดคือ 3 ชั่วโมง เรียกว่าใกล้สุด ฝากติดตามชมด้วยครับ ขอบคุณครับ