xs
xsm
sm
md
lg

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาลีเริงระบำ ตอนที่ 3

ทองทากับอธินั่งลงแล้ว มาลียื่นเมนูกับอาหารจานหนึ่งวางให้

"เห็นเราในทีวี ดีใจด้วยนะ" อธิบอก
"ขอบใจจ้ะ แล้วพี่ทองทาล่ะไม่ดีใจหรือ"
ทองทายักไหล่ไม่ตอบ เพราะไม่ดีใจ
"มันน่ะใจดำ พอพี่เห็นเราในทีวี พี่ต้องถามมันตั้งนานว่าเรื่องของเราเป็นไง ต้องตื๊อมันแทบตายกว่ามันจะยอมพามา"
"พี่จะกินอะไร เต็มที่เลยนะ หนูมาลีเลี้ยงเอง ให้ฉันตอบแทนพวกพี่บ้าง อันนี้กินเล่น" มาลีพูดพลางชี้ไปที่จานอาหาร
"ฟังเรื่องของเราจากทองทา พ่อเราอยู่ไหนเหรอ"
เสียงดังมาจากมุมหนึ่ง โรสด่าปลาอยู่ ทุกคนในร้านได้ยินกันหมด
"อีหอยกระพง กูไม่น่าตั้งชื่อมึงชื่อนี้เลย มึงก็เลยไม่มีสมอง แค่นี้ก็จดมาผิด งานแค่นี้ทำไม่ได้ มึงจะไปทำอะไรกิน หา"
อธิเงียบเสียงลง
รู้แล้วคนไหน
ทองทากับหนูมาลีหัวเราะ อธิหยิบเนื้อจิ้มแล้วใส่ปาก
"เฮ้ย โคตรอร่อย แจ่วนี่น่ะสุดยอด เหมือนแม่พี่ทำเลย"
หนูมาลีชี้ไปที่การะเกดซึ่งบริการลูกค้าอยู่
"คนนั้นเจ้าของสูตร การะเกด ที่เข้ารอบด้วยกัน พี่โรสเขาเห็นว่า อร่อยเลยทำเป็นจานแนะนำ ลูกค้าทุกคนต้องสั่ง"
อธิมองการะเกด ยิ้ม ชอบทันที การะเกดไม่รู้เรื่อง
ชงโคเดินมานั่งด้วย สายตาสนใจอธิมาก
"แนะนำให้รู้จักบ้างสิ" ชงโคชี้ทองทา "พี่คนนี้รู้จักแล้ว พี่คนนี้ล่ะ"
"นี่ชงโค เข้ารอบด้วยกัน การะเกด มานี่เร็ว"
การะเกดเดินมา
"นี่พี่ทองทา พี่อธิ"
"พี่สองคนโคตรหล่อเลย อย่างกับดารา" ชงโคว่า
"พี่เป็นตำรวจ"
การะเกดกับชงโคร้อง "โห"
"ส่วนพี่ทองทาเป็นนักออกแบบท่าเต้น ร้องเพลงเล่นดนตรี เต้นรำ เก่งทุก
อย่าง" มาลีบอก
สองสาวยิ้มดีใจ ทึ่งๆ ในสองหนุ่ม

ที่โต๊ะอีกมุม แคที่นั่งเล่นมือถือ เธอมักจะมากินข้าวเย็นเป็นประจำ โรสเดินมานั่งด้วย ตามองโต๊ะของทองทา
"หมั่นไส้ หัวเราะกุ๊กกิ๊กๆ กับผู้ชาย"
"หล่อแบบสองคนนั้น เป็นฉันไม่กุ๊กกิ๊กหรอก ก๊าบก๊าบเลยแหล่ะ"
"มันยังเด็กกันอยู่เลย"
"ตอนแกประกอบร่างกับอีชะนีแม่หนูมาลีน่ะกี่ขวบ นมแตกพานหรือยังยะ"
บอยเก็บจานอยู่ข้างหลัง ได้ยินแล้วขำ โรสเอาผ้าฟาดบอย ดุเสียงดัง
"ขำอะไร"
"ตอนนั้นไม่แตกพาน ตอนนี้หัวนมดำแล้วพี่"
โรสดุอีก ดุบอยประจำ
"ขำตาย ไปเก็บเงินเลยโต๊ะนู้น"
บอยขำอีก เดินไปทำงานต่อ โรสมองพวกมาลีตาขวางตามประสาพ่อหวงลูก

ขณะที่การะเกดเก็บโต๊ะๆหนึ่ง เธอขยัน และไม่ค่อยสนใจผู้ชาย อธิเดินมาช่วยเก็บ
"ผมช่วยครับ ผมช่วย"
"อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวมือเลอะ"
"การะเกดเป็นคนที่ไหนครับ"
"หนองคายค่ะ"
"โอ๊ะ คนบ้านเดียวกัน มิน่าฝีมือเนื้อจิ้มแจ่ว เหมือนของแม่พี่เลย"
"จริงหรือจ๊ะ บ้านเรา มีเก่งๆสอบเป็นตำรวจด้วยหรือ"

ทั้งสองคุยกันต่อหนุงหนิง

ทองทานั่งคุยกับมาลี

"ถ้าพี่อธิไม่ขอมา พี่จะมาหาหนูมาลีไหม"
"ก็แล้วทำไมเราไม่โทร.หาพี่บ้างล่ะ"
"ก็คิดจะโทร.อยู่ ยิ่งวันนี้ยิ่งคิดใหญ่ พี่สอนหนูร้องเพลง เต้นรำได้ไหม"
ทองทาชักเอะใจ ถามตรงๆ
"เพิ่งคิดวันนี้ วันแรกใช่ไหม"
มาลีพยักหน้าใช่ๆ ทองทามีแววเศร้าที่เธอไม่สนใจตัวเขา มาลีต้องรีบแก้
"เอ้อ ไม่ใช่ๆ บางวันก็มีคิด"
"พี่คงช่วยไม่ได้"
"พี่คิดค่าสอนเท่าไหร่ หนูมาลีจะจ้างพี่เอง สองหมื่น สามหมื่น" ทองทายัง
เฉย "เอางี้ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดในชีวิตหนู" ทองทายังเฉย "ห้าสิบเลยเอ้า"
"ยังไงก็ไม่"
ชงโคจู่ๆเดินมา ทะลุกลางปล้อง
"ฉันว่าพี่เขาไม่เก่งจริงหรอก"
"ชงโค"
ชงโคป้องปาก แต่เสียงยังดังอยู่
"ฉันพูดจริง เธอน่ะไม่รู้หรอก คนกรุงเทพน่ะ เก่งจะตายเรื่องสร้างภาพคุยโม้คุยโต หาเจ๋งจริงๆยากจะตาย"
ทองทายิ้มๆ แล้วจู่ๆก็เดินไปที่กลางร้าน
"เอ้าพี่ไปไหนอ่ะ"

กลางเวที ตอนนี้มีนักร้องพร้อมคีย์บอร์ด ที่ต่อกับคาราโอเกะเท่านั้น และกำลังเตรียมตัวอยู่ ทองทาขึ้นไป กระซิบบอกนักร้องที่พยักหน้าเข้าใจ
"เธอรู้ไหมว่าในชีวิตฉันไม่เคยฝันอะไรยิ่งใหญ่ไม่มากมาย แค่อยากมีคนรักข้างๆกัน ฉันไม่เคยยอมแพ้ แม้มีสิ่งไหนมากมายเท่าไหร่ที่มากั้น ก็ยืนยันจะรักทั้งหัวใจ ฉันเชื่อมั่นในคำว่ารัก เพราะรู้ว่าใจเรานั้นมั่นคงกว่าใคร... อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่ เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน"
ทองทาร้องสด โดยไม่มีดนตรี เสียงของเขาสะกดคนฟัง โรสชะงักมือที่กำลังตักกับข้าว
บุญมา สมศรีถึงกับหยุดทำกับข้าวเดินออกมาจากครัวมามองว่าเสียงใคร
แคที่ถึงกับเพ้อ
"นังโรส ... ใครอ่ะ หล่อแมนแฮนซั่มน่าขยี้ขยำให้หนำใจ นี่ฉันไม่ได้ทะลุไปแดนกิมจิเจอซุปตาร์เกาหลีใช่ไหม"
"อืม ผิดคาดแฮะ" ชงโคบอก
จบท่อน ทองทาเดินลงมาดึงหนูมาลีขึ้นเวที
"อยากให้ฉันสอน โชว์ฝีมือเธอหน่อย"
มาลีขึ้นมาร้องเพลงเดียวกัน ทั้งสองร้องเป็นเพลงคู่ และเต้นรำพร้อมกัน สายตาทั้งคู่ที่มองกันสอดคล้องไปกับเพลงรัก ราวกับทั้งสองรักกันจริงๆ
คนในร้านเงียบกริบ เพราะเป็นการแสดงเพลงรักที่สวยงามมาก
"อย่างกับกิ่งทองใบหยก" สมศรีบอก
"เออว่ะ" บุญมาว่า
ทั้งสองเต้นท่าจบด้วยการกอดกัน ใกล้ชิดกัน สบตากัน ตามจังหวะอารมณ์เพลงและอารมณ์ภายในที่ซ่อนอยู่ลึกๆ จนคนตกตะลึงทั้งร้าน ก่อนจะปรบมือกราวใหญ่ทั้งร้าน
โรสเขวี้ยงขวดน้ำไปกลางเวทีเปรี้ยงพร้อมตะโกน
"เฮ้ย จะยืนชิดกันอีกนานไหม หา ! "

สองหนุ่มสาวแตกฮือไปกันคนละทิศทันที เขินๆ ทั้งคู่

ผ่านเวลา ... ทองทามาล้างมือ

"ฝีมือหนูเป็นไงมั่งพี่"
"ก็ดี"
"ตอบจริงๆสิ"
"อยากฟังจริงหรือ"
"อื้อ ตรงๆเลย"
"ไม่มีบอยเสียง ไม่มีทักษะ ไม่มีเทคนิค เธอไม่เคยเรียนร้องเพลง ไม่เคยเรียนเต้น เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการร้องเพลงและเต้นเลย"
มาลีตกใจมาก
"แต่ฉันเคยชนะประกวดร้องเพลงทุกปี ที่อำเภอ…"
"แต่นี่เวทีระดับประเทศ เธอจะชนะได้ยังไง พี่ไม่เห็นทาง"
มาลีแววตาเสียใจมาก
"คนเราถ้ามีความพยายาม มันต้องชนะสิ"
"เธอทำคาราโอเกะ มีคนร้องเพลงดีๆเยอะไหม"
"โห ไม่เคยนับหรอก แต่ก็มีทุกคืน นั่น ผู้ชายคนนั้นมาทุกอาทิตย์ ร้องเพลงสุดยอด"
กลางเวที มีลูกค้ามาร้องคาราโอเกะแล้ว
"อืม... มีใครไม่เคยฝันเป็นดารานักร้องบ้าง ใครๆก็ฝัน แล้วชีวิต จริงมันมีกี่คน หนึ่งเปอร์เซ็นต์ยังไม่ถึงเลย คนที่เหลือก็มาจบอยู่ที่คาราโอเกะนี่ไง"
มาลีเศร้ามาก
"ฉันนึกว่าพี่เป็นเทวดาที่จะมาช่วยฉันเสียอีก พี่สอนฉันได้ไม่ใช่หรือ"
"สอนได้ แต่พี่เรียนตั้งแต่กี่ขวบรู้ไหม เจ็ดขวบ ส่วนคนอื่นๆที่เข้ารอบ อย่างนายภูมิ ดูก็รู้ว่าเรียนตั้งแต่เด็ก แล้วคนไม่มีพื้นฐานอย่างเธอ มีเวลาเท่าไหร่ แค่สามเดือน"
"พี่จะว่าฉันฝันเฟื่องอีกคนแล้ว"
"เธอยังเด็ก เธอดูทีวีเห็นแต่ดารา เธอก็นึกว่าต้องเป็นดารา มันไม่จริงหรอกนะหนูมาลี ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ กลับไปเรียนหนังสือเถอะหนูมาลี ...เชื่อพี่"
ทองทาพูดเสร็จเดินไป มาลีน้ำตาคลอ โรสยืนอยู่ ได้ยินหมดแล้ว หน้าเครียดไปด้วย

การะเกดเอาจานทิปของลูกค้ามาใส่ในกล่อง มี่กับเกรซเพิ่งมาถึงเดินมาหา
"เขาขอคะแนนกรรมการ อีนี่มาขอทิปคนกินข้าว" มี่บอก
"คนอื่นเขามีแฟนคลับแล้ว เรายังให้คนขับรถเมล์ขับให้อยู่เลย จะทำยังไงกัน หา"
"อีมี่ อีเกรซ พักนี้อะไรนะหนาวะ ถ้ามึงอยากจริงๆ กูเนี่ยอีชงโค จัดให้ได้นะโว้ย" ชงโคว่า
การะเกดบอก
"อย่าทะเลาะกันนะ เพื่อนๆกันทั้งนั้น"
"นี่ ฉันออกเงินให้เธอสองคนไปสมัคร เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันนะ มีน้ำใจนักกีฬาหน่อย ไม่ใช่พอเธอไม่ได้แล้วมาอิจฉากันแบบนี้ มันไม่ถูก" มาลีบอก
"ฉันไม่ได้อิจฉาพวกแก วันสมัคร ฉันสองคนแค่ไปสนุกๆ" เกรซว่า
"งั้นก็คืนเงินมาเลย"
เกรซเปิดกระเป๋าหยิบเงินโยนให้สองพัน
"เอาไปเลย เงินแค่นี้พวกฉันทำงานชั่วโมงหนึ่งก็ได้แล้วโว้ย ไม่ต้องนั่งฝันจนเหงือกแห้งเหมือนพวกแก"
เกรซ มี่ ค้อนเดินไป หนูมาลี ชงโค การะเกดมองหน้ากันอย่างเศร้าๆ เพราะเขาก็พูดถูก

ครูกำลังสอนบุษบาบัณร้องเพลง เธอดูตั้งใจมาก วันนี้โยทะกากับบรมแวะมาดูการซ้อม
บุณฑริกบอก
"ยายเบลเอาจริงมากกว่าที่ฉันคิด "
ทีมกล้องถ่ายทำบุษบาบัณไป โยทะกาพยักหน้าว่าจริง
"จริงสิ เด็กเสิร์ฟของเราที่มากันสามคน ส่งคนไปถ่ายบ้างหรือเปล่า"
บรมบอก
"ส่งคนไปแอบดู มีแต่เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน น่าถ่ายตรงไหนล่ะ"

โยทะกาพยักหน้าเข้าใจ ทั้งหมดดูบุษบาบัณอย่างชื่นชมต่อไป

ภายในบ้านพัก โรสนั่งคิดบัญชีอยู่ที่โต๊ะทำงาน มาลีเดินมาหา

"หนูจะขอเบิกเงินล่วงหน้า จะเอาไปเรียนร้องเพลงค่ะ โรงเรียนพี่มิกซ์ แมกซ์เขาลดให้ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เหลือห้าหมื่น"
"ห้าหมื่น"
"จะยืมแสนห้าค่ะ. จะเอาชงโคกับการะเกดไปเรียนด้วย" มาลีบอก
"ฮู้ย ไปขูดเอาที่ต้นไทรหน้าร้านเถอะ คงมีเทวดา ตกลงมาพร้อมขวานเงินขวานทองให้แกไปขาย ฉันไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก"
บอยเดินเอาจานข้าวผัดกับน้ำมาให้โรส
มาลีน้ำเสียงกวน รังเกียจ ข่ม
"พี่บอย เงินเดือนพี่เท่าไหร่"
"นี่อย่ามาหาเรื่องกันนะ เขาไม่เกี่ยว"
"ไม่ใช่พี่บอย งั้นก็ผู้ชายก่อนหน้านี้ เดือนๆหนึ่งร้านนี้ ขายได้เป็นแสนๆ
พี่จะไม่มีเงินได้ยังไง พี่ไม่อยากให้ฉันก็บอกมาตรงๆเถอะ"
หนูมาลีหันหลังจะเดินไป
"เดี๋ยว หยุดยืนเฉยๆก่อน ยืนเฉยๆ ตรงนี้นะ แกจะด่าว่าฉันซ่อนแกไว้ที่บ้านหลังเขา แล้วออกมาเสวยสุขกับผู้ชายอยู่ที่กรุงเทพใช่ไหม"
มาลีนิ่ง โกรธ
"ในเมื่อฉันซ่อนแกไว้จากความสุขสงบไม่ได้ ...ที่จริงแกก็โตแล้ว ถึงเวลาที่แกจะเรียนรู้ได้แล้ว"
โรสเดินไปดึงลิ้นชักมาทั้งชั้นจากโต๊ะทำงานแล้วขึ้นไปยืนบนโต๊ะทำงาน ซึ่งจะอยู่เหนือหัวของหนูมาลีพอดี โรสเอาเอกสารทั้งลิ้นชักเทลงมาที่หัวหนูมาลี !
"พี่โรส อะไรเนี่ย"
"หนี้ของฉัน ! ในขณะที่ฉันทำงานหนัก ก่อสร้าง ทำไร่ ล้างจาน แกกำลังนั่งนอนดูทีวี ฝันเฟื่องเป็นดารา แกดูเอกสารพวกนี้ ดูซะให้เต็มตา รับรู้ให้เต็มสองหู ฉันติดหนี้ธนาคารเป็นล้าน"
"หนี้...พี่ติดหนี้หรือ"
มาลีรีบเอาเอกสารมาดู เป็นพวกเอกสารจ่ายเงินส่งงวดต่างๆ
"ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความจริงนะนังชะนีหน้าสวย !"
มาลี ยืนตะลึง บอยมองอย่างเสียใจ

มาลีนั่งร้องไห้ การะเกดกับชงโค นั่งปลอบใจอยู่
"ใจเย็นๆ ใครๆเดี๋ยวนี้เขาก็มีหนี้กัน การมีหนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก"
"ไม่มีเงินไปเรียนร้องเพลง ก็เท่ากับหมดหวัง ฮือ"
ชงโคดึงมือถือขึ้นมา
"จะโทรยืมเงินใครได้บ้างนะ" ชงโคกดๆๆจู่ๆหน้าจอดับ "เฮ้ยๆ เป็นอะไร มือถือเจ๊งแล้ว ฮือ ...มือถือใหม่ รถ บ้าน ไม่มีโอกาสแล้วใช่ไหม ฮือ"
มาลีนั่งร้องไห้ เสียใจ ไม่รู้จะทำยังไงต่อ

บ้านพักเด็กเสิร์ฟ การะเกดยืนเคาะประตูหน้าห้อง
"หนูมาลี หนูมาลี"
การะเกดเปิดประตูเข้าไป แล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตะโกนลั่น
"พี่โรส หนูมาลี หนีไปแล้ว พี่โรส"
โรสที่กำลังเดินมา ชะงัก การะเกดวิ่งเข้าไปหา
"เสื้อผ้าข้าวของกับกระเป๋าเดินทาง หายไปแล้ว ไม่มีเหลือในห้องเลย"
โรสตกใจ

แตง ต๋อย กำลังปลูกต้นไม้ ทองทายืนกางร่มดูอยู่เพราะกลัวผิวเสีย มาลีเดินเข้ามา หน้าเศร้าสุดๆ
"ใครมาคะคุณ"
ทองทาหันไป
"หนูมาลี"
ทั้งสองประจันหน้ากัน หนูมาลี เศร้ามากเหมือนเพิ่งร้องไห้มา

ทั้งหมดนั่งกลุ้มกันอยู่
"เมื่อคราวที่แล้วทะเลาะกันหนักกว่านี้ ยังไม่หนี คราวนี้จะหนีทำไม" โรสว่า
บอยวุ่นกับมือถือ
"โทร.ยังไงก็ไม่รับสาย"
เสียงข้อความมือถือดังขึ้น โรสกดดู
"มันส่งข้อความมา"
"ข้อความว่าอะไรคะ" การะเกดว่า
โรสอ่าน
"ไม่ต้องห่วงหนู หนูแค่ออกมาอยู่กับเพื่อน"

ทุกคนงงกันหมด

เวลต่อมา มาลีเดินไปช่วย แตงทำต้นไม้

"ไม่ต้องค่ะคุณ"
"งานพวกนี้หนูจะทำเอง หนูจะช่วยพี่ทองทาทำงานบ้าน งานสวน งานทุกอย่าง ไม่เอาเงินด้วย"
"นี่มันอะไรกันเนี่ย"
"หนูมาลีเคยอ่านประวัติครูเพลงลูกทุ่ง เขาให้เด็กมาทำงานเป็นคนใช้ เพื่อแลกกับความรู้ พี่ทองทาสอนหนูนะ หนูจะทำงานให้ทุกอย่างเลย"
"โอ... โนๆๆ"
ทองทายกมือโวยวายว่าไม่ๆ เสียงดัง

โรสยังคงคยกับคนทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง
"ไอ้ผู้ชายหน้าสวยนั่นแน่ รู้ที่อยู่มันไหม"
ชงโค การะเกดส่ายหน้า
"เออจริงสิ หนูมีเบอร์ของพี่ตำรวจที่มาด้วยกันน่ะ" ชงโคบอก
"เธอมีได้ไง" การะเกดถาม
"เอ๊าก็ขอเขาสิ ฉันชอบสะสมเบอร์โทร.หนุ่มหล่อ"
"กล้าชะมัด"
"ยุคนี้ ด้านได้อายอด ซื่อบื้ออย่างเธอ ไม่มีวันได้ของดีหรอก"
ชงโคหยิบมากด หน้าจอมืดดับกดไม่ขึ้น
"เอ้าลืม มือถือเจ๊ง"
โรสเซ็งไป

ทองทาเดินหนีมา มาลีเดินตาม
"นี่ไม่ได้ผลหรอกนะ กลับไปเถอะ ยังไงฉันก็ไม่สอน"
"หนูมาลีทำงานได้หลายอย่างนะ ฉันล้างจานให้นะ"
มาลีวิ่งไปล้างจาน
"นี่ ฉันชอบอยู่คนเดียว ฉันไม่อยากอยู่กับใครทั้งนั้น"
"หนูมาลี ไม่อยู่บนบ้านก็ได้ ลุงกับป้าสองคนนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ"
"ก็บอกแล้วไง ว่าเธอเรียนไปก็ไม่ชนะหรอก"
"ถ้าจะพูดเรื่อง ฉันมีเวลาไม่พอที่จะเรียนรู้ งั้นดูนี่"
มาลีหยิบช้อนตักน้ำในอ่างขึ้นมา แล้วเทลงให้ดูปริมาณน้ำที่ตักได้
"ช้อนตักน้ำได้แค่นี้ แล้วดูนี่ ฟองน้ำ"
มาลีโยนฟองน้ำลงไป แล้วหยิบขึ้นบีบ ได้ปริมาณน้ำมากกว่า
"มาลี เหมือนฟองน้ำนี่ ไม่ต้องมีใครจับตัก ไม่ต้องใช้เวลานาน ฉันสามารถเรียนรู้ได้เหมือนฟองน้ำนี่ จริงๆนะ มันไม่ได้สำคัญที่เวลา มันสำคัญที่ความหิว"
"ความหิว"
"หิวความรู้ หิวโอกาส หนูมาลีหิว หิวในสิ่งที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ทั้งจังหวัดน่าน ไม่มีโรงเรียนสอนเต้น ไม่มีโรงเรียนสอนร้องเพลง โอกาสมันไม่ได้มีทุกคนนะพี่"
"เธอกำลังทำให้พี่ลำบากใจนะ"
"เราน่ะ มีแขนขาเหมือนคนเมืองนะ สิ่งที่เราไม่มีคือโอกาสและสิ่งที่น่ากลัวกว่าขาดโอกาสคือ การกีดกัน การดูถูกจากคนเมือง"
"ไม่ใช่กีดกัน...ไม่ใช่เลย พี่มีเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่ไม่อยากยุ่งกับโครงการนี้"
"เหตุผลอะไร"
"บอกไม่ได้"
มาลีล้างจานเสร็จพอดี
"ล้างเสร็จแล้ว ฉันจะไปช่วยทำสวน เอาแปลงผักสักแปลงไหมพี่ ฉันจะทำสวนทุกวันจนกว่าพี่จะใจอ่อน"

มาลีเดินไป ทองทาเซ็ง ดื้อจริงโว้ย กระเป๋าและมือถือทิ้งไว้บนบ้านไม่ได้เอาไปด้วย
 
อ่านต่อหน้า 2

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 3 (ต่อ)

โรสตบโต๊ะลุกขึ้น

"ฉันจะไปแจ้งความจับไอ้ผู้ชายพวกนั้น"
"ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง เขาไม่ให้แจ้ง" บุญมาบอก
"เอาชื่อหมวดอธิไปถามตำรวจดีไหมคะ เขาบอกเกดว่าเขาอยู่ส.น. แถวฝั่งธน"
"ไปสิ... ไปถามดู"
บอยพยักหน้าจะลุกไป
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"หนูมาลีโทรมาแล้ว... นังบ้า แกเป็นบ้าไปแล้วหรือ ฉันโทร.หาแก เป็นร้อยหน ทำไมไม่รับสายหา" โรสว่า
"ผมเอง ทองทา จำผมได้ไหมครับคุณพ่อ"
"ฉันไม่ใช่พ่อแก"

ทองทาโทร.หาโรสด้วยมือถือของมาลี เห็นกระเป๋าอยู่ข้างๆ ทองทามองซ้ายมองขวากลัวมาลี มาเห็น
ทองทาสะดุ้ง
"ครับพี่โรส เอ้อ หนูมาลีอยู่ที่นี่ฮะ ที่บ้านผม เขาทิ้งมือถือไว้ผมเลยแอบโทร.หา"
โรสอึ้งไป

ผ่านเวลามา หนูมาลีทำงานหนัก ใช้จอบฟันดินให้เป็นแปลงผัก ฟันเอาๆ ไม่กลัวงานหนัก
ทองทาพาโรสมาแอบดูที่มุมหนึ่งห่างออกไป โดยที่มาลีไม่เห็น
"มันจะทำบ้าอะไรของมัน"
"เฮ้อ ขุดขนาดนั้นคงกินผักได้ทั้งปี"

ภายในห้องโถง ทองทาเล่าเรื่องให้โรสฟังแล้ว ทั้งสองนั่งคุยกัน
"เขามาขอให้เธอสอนร้องเพลงหรือ"
"ครับ ผมไม่ให้อยู่บนบ้าน เขาก็เลยลงไปอยู่ที่สวน"
โรสเดินมามองหน้าต่าง เห็นลูกสาวมุ่งมั่นขุดดินไม่กลัวงานหนัก
"เห็นเขาแล้ว นึกถึงใครคนหนึ่ง"
"ใครครับ"
"ตัวฉันเอง ตอนอายุเท่าเขา ออกจากทหารใหม่ๆ"

ทองทางง

เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ที่อลิซคาบาเรต์ รูปนางโชว์ อลิซขนาดใหญ่ พร้อมป้ายสถานที่แห่งนี้วางอยู่ข้างหน้า บริเวณสวนด้านหน้า เรืองยศถอดเสื้อขุดดินอยู่ใต้ป้ายแห่งนั้น ตอนนั้นบุคลิกยังแมนอยู่

รถเบนซ์ ขับเข้ามาเบรกเอี๊ยด อลิซเดินลงมาหา
"เธอเป็นคนสวนคนใหม่หรือ"
"ครับ"
"ชื่ออะไร"
"เรืองยศครับ"
อลิซมองหัวจรดเท้าโดยเฉพาะกล้ามของเรืองยศ จนเขาอาย สายตาอลิซมีเมตตามากกว่าหื่นกาม
ทองทาฟังอย่างตั้งใจ
"อยู่คณะคาบาเรต์หรือฮะ...ฝึกการแสดงที่นั่นใช่ไหม วันนั้นผมเห็น บนเวที คุณสุดยอดมาก"
"เทียบกับเธอไม่ได้หรอก"
โรสชี้ไปที่รูปผลงานทองทาข้างหลัง
"ถ้าไม่ถือว่าเป็นการละลาบละล้วง ผมอยากรู้เรื่องของคุณ เล่าให้ฟังได้ไหมครับ"
"อยากรู้ไปทำไม" โรสถาม
"ก็เอ้อ ขอโทษนะฮะ ผมแค่อยากรู้ ผู้ชายทั้งแท่งเป็นกุหลาบอลังการแบบนั้นได้ไง"
โรสมองทองทาหัวจรดเท้า
"หา..."
"เธอเป็นพวกไหน รู้จักตัวเองหรือยัง"
ทองทาสีหน้ากำกวม โรสเลยเข้าใจผิด
"ก็พอรู้ฮะ"
"ออกจากทหาร ก็ไปอยู่ที่นี่ 10ปี ที่นี่ เป็นทั้งเงิน เป็นทั้งความรู้ เป็นทุกอย่างในชีวิตฉัน"

อลิซนั่งทานอาหารค่ำ อาหารหรูทีเดียวจัดไว้สองที่ เรืองยศเดินมาหา
"พี่อลิซ ให้คนตามผมมาหรือครับ"
"นั่งสิ กินข้าวด้วยกัน"
"ผมอิ่มแล้วครับ"
อลิซดุ
"ฉันบอกให้นั่ง กินเข้าไป"
เรืองยศยอมนั่ง เริ่มทาน อลิซรินไวน์ใส่บอยให้ เรืองยศเกรงใจเลยนั่งกินสเต็กไปตามคำสั่ง
"ป้าชมบอกว่า คนที่บ้านไม่สบายหรือ"
เรืองยศงง
"ครับ"
"ที่ว่าจะใช้เงินน่ะ"
"อ๋อ ลูกสาวผม จะจ่ายค่าเทอมน่ะครับ"
"ลูกสาว แล้วแม่เขาล่ะ"
"ไม่มีครับ พ่อแม่ผมเลี้ยงให้"
อลิซกรีดนิ้ว โยนบัตรเอทีเอ็มให้
"ไปกดเอา"
"ให้ผมกดเองหรือครับ"
"เธอมาอยู่กับฉันจะปีหนึ่งแล้ว เธอขยันซื่อสัตย์ ฉันชอบ ดื่มให้หมดล่ะ ของดีนะ" อลิซชี้บอยไวน์ แล้วมาแตะมือเรืองยศ ส่งสายตายั่วยวน

โรสเล่าต่อเนื่อง
"คืนนั้นฉันเมา ตื่นมาอีกที ที่ห้องพี่อลิซ"
ทองทาฟังอย่างสนใจมาก
"ตอนเมา สูตรสำเร็จเลยสิท่า ผมโคตรกลัวเลย ผมกลัวจริงๆนะ ตอนเรียนที่โรงเรียนบัลเล่ต์ มีรุ่นพี่พยายามมอมเหล้าผมด้วย ดีนะ... ไม่เชื่อเขา"
โรสยิ้มให้ทองทา ที่ทำหน้าเหมือนเพิ่งรอดตายมา
"แล้วคุณชอบเลยหรือฮะ"
โรสไม่ค่อยอยากพูด
"ขอโทษครับ"
"พี่อลิซ ให้เงินฉันสร้างบ้าน ให้รถ ให้ทุกอย่าง เขาเป็นทุกอย่างของชีวิตฉัน"
"โห ทั้งบ้านทั้งรถหรือฮะ"
"ถ้าไม่มีเขา ป่านนี้ ฉันคงเข็นรถขายผลไม้อยู่ริมถนน คนไม่มีความรู้ ไม่
มีทุน ไม่มีญาติก็ทำได้แค่นี้"
"แต่คุณก็มีลูกสาว คุณกับผู้หญิงน่ะครับ ไม่เคยอีกเลยหรือครับ"

ทองทาอยากรู้มาก สนใจจนโรสยอมเล่าต่อ

อลิซคาบาเรต์ กำลังจะปิดประตู ผู้คนทยอยเดินออก หลังจากชมหาความสำราญกับคาบาเรต์โชว์

เรืองยศตอนนั้น เป็นผู้จัดการคณะแล้ว เขาใส่สูท เดินมาดูที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว แถวนั้นเงียบไม่มีใครอยู่
เจ้าหน้าที่ผุ้หญิงที่เป็นคนขายตั๋ว เพิ่งนับเงินเสร็จ รวบรวมเงินใส่ซองให้
"ขอบใจ วันนี้คนไม่เต็ม ฝนจะตกอีกกี่วันก็ไม่รู้ กลับบ้านดีๆล่ะ"
เธอจับแขนเรืองยศไม่ให้ไป
"พี่เรือง วันนี้วันเกิดนิ้ง ไปฟังเพลงที่ห้องนิ้งไหม"
สายตาที่ยั่วยวนนั้น เรืองยศเข้าใจความหมายอย่างดี
"อย่าเลย มันไม่ดีหรอก"
"ทำไมต้องไปทนอีแก่นั่น ทนฝืนธรรมชาติของตนเอง เราหนีไปด้วยกันก็ได้"
เธอเข้ามากอดรัด หอมแก้ม เรืองยศอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ ดึงนิ้ง แกะมือออก
"พี่ขอโทษ"
เรืองยศเดินหนีไป เธอเศร้า ดึงมือไว้ ไม่ให้ไป ...
"ทำไมล่ะ กับผู้หญิง ...ไม่ได้แล้วหรือ"
"พี่มีพี่อลิซแล้ว"
"มันก็แค่บุญคุณ"
"ไม่ใช่บุญคุณ แต่มันทำให้พี่รู้จักตัวเอง รู้ว่าพี่เป็นใคร"
เธอตกใจ ผงะถอย เรืองยศมองอย่างขอโทษ

การสนทนายังต่อเนื่อง
"ตอนนี้คุณอลิซไปไหน คณะคาบาเรต์ ยังอยู่ไหมครับ"
"เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ พี่เขาตายที่โรงพยาบาล วันนั้น โลกมันมืดไปเลย พินัยกรรมพี่เขา ยกเงินให้ฉันก้อนหนึ่ง"
"ยกเงินให้เลยหรือ พี่อลิซรักพี่โรสมากเลยนะนี่"
โรสเปิดกระเป๋าเงินให้ดู เป็นรูปคู่ อลิซกอดกับโรส พกไว้ตลอดเวลา
โรสพยักหน้า
"ฉันก็รักเขา เขาเป็นพี่ เป็นคนรัก เป็นทุกอย่าง ฉันทำคาบาเรต์ต่อ ต้องขึ้นแสดงแทน ใช้ชื่อ "โรสกุหลาบราตรี" รู้จักกันทั้งพัทยา ฉันดังมากนะยุคนั้น"
"แบบนี้นี่เอง"
"เธอเต้นเพราะชอบ แต่เราเต้นเพื่อให้มีกิน ให้มีที่ยืนในสังคม"
"แล้วไงต่อครับ"
"ทำได้สองปี เศรษฐกิจทรุด นักท่องเที่ยวหาย ต้องปิดตัว ก็เลยหนีหนี้เข้ากรุงเทพมาทำร้านอาหาร"
"ดีขึ้นใช่ไหมฮะ"
"หนี้เยอะกว่าเก่าอีก"
ทองทายิ้มแห้ง
"ฉันกลับล่ะ"
"เอ้าคุณ ไม่ไปหาหนูมาลีหรือครับ"
"ฉันเจอหนูมาลีครั้งสุดท้ายตอนเขาเป็นเด็ก ฉันเลยลืมว่าตอนนี้เขาโตแล้ว"
"คุณยอมให้เขาประกวดแล้วหรือ ไม่ค้านแล้วหรือฮะ"
โรสคิดแล้วตัดสินใจ
"อยากดูลูกบ้าของมันสักตั้ง มันจะบ้าไปถึงไหน เอ้อ... อย่าบอกหนูมาลีนะ ว่าฉันมา"
"พี่โรส ผมสอนเขาไม่ได้ ไอ้โครงการนี้ มันเป็น..."
โรสตัดบท
"ที่เล่าเรื่องพี่อลิซให้ฟัง เพราะอยากขอร้อง"
"เรื่องอะไรครับ อย่าเมาต่อหน้าเกย์ล่ะสิ ผมต้องจำให้แม่นเลยล่ะ"
"เราทุกคนโตขึ้นเพราะได้ โอกาสจากใครคนหนึ่งเสมอ อย่าปฏิเสธที่จะให้โอกาส เพราะมันอาจจะเป็นแค่โอกาสครั้งเดียวในชีวิตเขา !"
"พี่โรส"
ทองทาอึ้งไป มองหน้าโรส !
"ฉันและครอบครัวฉัน มีวันนี้ได้เพราะพี่อลิซให้งานทำ ให้ความเมตตา เธอลองคิดดูอีกทีนะ"

โรสเดินไป ทองทายังอึ้งต่อ

กลางคืน ต๋อยกับแตง จัดอาหารมาวางให้ที่เฉลียงหน้าบ้าน มาลีในสภาพเหนื่อยนั่งกินน้ำอยู่

มาลีจับไปตามแขน
"โฮ้ย ปวดไปหมด"
"กินข้าวกินน้ำ แล้วกลับไปซะ" แตงว่า
"เด็กอะไรวะ นึกว่าตัวตุ่น ขุดอยู่นั่น" ต๋อยบอก
ทั้งสองเดินเข้าบ้าน
"ขอบคุณลุงกับป้ามาก คืนนี้ฉันขอ..."
ต๋อยกับแตง ปิดประตูหมับ เข้าบ้านกันไปทั้งสองคน ไม่ให้มาลีพูดต่อ หนูมาลีจ๋อย คืนนี้จะนอนไหนวะ !!

บ้านทองทาปิดประตูมิดแล้วเช่นกัน มาลีอาบน้ำสระผมแล้ว เดินถือกระเป๋ามาหาที่นอน ล้มตัวลงนอนตรงนี้ หลับตาลงจะค้างตรงนี้ให้ได้
ทองทาแอบมายืนมองที่หน้าต่าง คิดหนัก

คืนเดียวกัน บอยรออยู่ โรสเปิดประตูบ้านเข้ามา
"เป็นไงพี่ ได้ตัวกลับมาไหม"
โรสส่ายหน้า
"มันจะไม่เป็นไรหรือครับ นายทองทานั่น"
โรสคิดๆ
"สงสัยมันจะพันธุ์เดียวกับเราๆนี่ล่ะ ช่างมันเถอะ"

นอกชานบ้านทองทา เช้าวันใหม่ ทองทาในชุดกีฬาเดินมาเรียกมาลี
"ตื่นได้แล้ว ตื่นๆ"
"โหยพี่ เมื่อวานเหนื่อยมาก นอนตรงนี้ ยุงก็กัด ขอนอนต่ออีกหน่อยเถอะ"
"พี่จะไปวิ่ง ไปด้วยกันหน่อยสิ"
"เอางี้ เดี๋ยวหนูมาลีทำข้าวเช้าให้ พี่อยากกินอะไร พี่กลับมากินได้เลย ตอนนี้ ขอนอนต่ออีกสักชั่วโมง"
"ไม่ .... ตื่นได้แล้ว เป็นนักร้องน่ะ ร่างกายต้องพร้อม ต้องวิ่งทุกวัน ให้ปอดมันขยาย ให้เส้นเสียงแข็งแรง ให้กล้ามเนื้อ มีกำลัง"
"อ๋อค่ะพี่"
"โอเค ไม่วิ่งใช่ไหม ไม่วิ่งก็ไม่วิ่ง ไม่เรียนก็ไม่เรียน"
ทองทาออกวิ่งไป ผ่านไปสองวิ มาลีลุกพรวดขึ้น เพิ่งนึกได้
"พี่ยอมสอนหนูแล้วหรือ พี่ยอมสอนแล้ว ไชโย หนูมีครูแล้ว พี่ทองทาสอนหนูแล้ว คอยด้วยพี่ ขอเปลี่ยนเสื้อก่อน พี่ๆ"
มาลีรีบหยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋า เดินหายไป

ในสวนสาธารณะ ทั้งสองออกวิ่งไปเบาๆ คุยกันไป
"คนจะประสบความสำเร็จอยู่ที่ไหนหนูมาลี"
"เงิน เงินตัวเดียวเลย เงินต่อเงิน"
"เงิน เทคโนโลยี ความทุ่มเท"
"ใช่พี่ ... พูดถูก"
"เงิน เทคโนโลยี ความทุ่มเท ผิดหมด ! อยู่ที่ร่างกาย เพราะถ้าคุณป่วย คุณอายุสั้น มีสามอย่างที่ว่าก็ไม่มีความหมาย"
"เออ... จริงเนอะ"
"กฎข้อ 1 รักร่างกายตัวเอง ฝืนตื่นเช้า ฝืนออกกำลัง"
มาลีท่องตาม
"กฎข้อ 1 รักร่างกายตัวเอง ฝืนตื่นเช้า ฝืนออกกำลัง"
ทั้งสองวิ่งต่อไป

เวลาต่อมา มาลีวอร์มเสียงตามทองทา ตามวิธีการฝึกร้องเพลงทั่วไป
"เยี่ยม ทำแบบนี้ทุกวันนะ เนื้อเสียงหนูมาลี อยากจะขยายเส้นเสียง"
ทองทาพูดไปตามหลักความจริง
"จ้ะ ต่อไปนี้หนูมาลีจะทำทุกวัน ทำตามคำสั่งพี่ทองทาทุกอย่าง"
"เรามีเวลาไม่มาก เมื่อเทียบกับคนอื่น สัญญาแล้วนะ ว่าจะเป็นฟองน้ำ"
"ค่ะ ถามหน่อย พี่เรียนร้องเรียนเต้นเพราะอะไรคะ"
"แม่พี่เป็นบัลเล่ต์ กำลังจะไประดับโลก แต่พ่อขอให้เลิกมาแต่งงาน แม่ต้องทิ้งฝันไป เพราะมีพี่ .... พี่ก็เลยเรียนบัลเล่ต์ต่อให้แม่"
"พี่ไม่ได้ชอบหรือ"
"ชอบสิ ตอนเด็กเต้นรำกับแม่ แม่พูดว่า การเต้นรำคือการบอกรักต่อชีวิต
ที่ดีที่สุด บอกรักต่อร่างกายตนเอง บอกรักคนอื่น"
ทองทายังคงสนทนาต่อไป
"แม่ทิ้งชีวิตอันรุ่งโรจน์เพื่อผู้ชายคนนั้น แล้วผู้ชายคนนั้นก็ทรยศแม่ไปหาผู้หญิงคนอื่น ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้"
ทองทาเศร้า
"บางทีพี่ดูเศร้าๆ เพราะมีปัญหากับพ่อนี่เอง ดนตรีและการเต้น ช่วยพี่ได้ใช่ไหม เหมือนที่มันช่วยหนูให้หายเหงา ที่บ้านหลังเขา ตอนที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่"
"อืม เราสองคนมีปัญหากับพ่อเหมือนๆกัน ....ใช่ มันช่วยได้ ช่วยเราได้ทุกคน"

ทั้งสองยิ้มกัน

ในร้านโจ๊ก มาลีกินเก่งมาก หมดชามแรกอย่างรวดเร็ว

"ขออีกชามค่ะ"
ทองทาส่ายหน้า
"กินเก่งชะมัด จะเป็นนักร้อง ระวังเรื่องกินหน่อยเถอะ"
"จะเป็นนักร้องต้องมีความสุข การกินนี่แหล่ะความสุข ดูพี่สิ ยังไม่ถึงครึ่งชามเลย"
"พี่ว่า โจ๊กร้านนี้มัน"
มาลีโพล่ง "ข้าวไม่หอม"
ทั้งสองโพล่งพร้อมกัน "ไข่อร่อย"
"มา ... หนูมาลีจัดการต่อเอง"
ทั้งสองมองไป เห็นขอทานนั่งอยู่ริมทาง เด็กนักเรียนมาให้เงินใส่กล่อง
ทองทาบอก "น่าสงสารจริง" มาลีบอก "น่ารักดี"
"พี่หมายถึงขอทาน"
"หนูหมายถึงเด็กที่ให้เงินเมื่อกี๊"
"นอกจากเรื่องพ่อ เราสองคนนี่ไม่เหมือนกันเลย มองคนละมุมตลอด"
"พี่อยู่กับหนูมาลี พี่จะเห็นแต่ด้านความสุข อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ"
"หา…"
ทองทาหน้าแดง ด้วยความอาย
"ตกใจทำไม พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิงไม่ใช่หรือ"
ทองทานิ่งไป คิ้วขมวด มันคิดว่าเราเป็นเกย์ไม่เลิกแฮะ ทองทาเลยยิ้มแห้ง

ทั้งสองเดินขึ้นมาชมวิวเมืองหลวง
"สวยจัง ...เรามาที่นี่ทำไมคะ"
"ดนตรีและศิลปะทุกอย่างคือการสื่อสาร สิ่งสำคัญคือจิตนาการ ...หลับตาสิ"
มาลีทำตาม
"ยื่นมือออกไป สัมผัสอะไรได้จากบทเพลง สัมผัสอะไรได้จากสิ่งรอบข้าง"
ผ่านความสวยงามของธรรมชาติในเมือง
"ได้ยินไหม เสียงเบาๆ สายลมที่พัดมา ความรู้สึกเบาๆที่เข้ามา ขยายมัน
ออกมา พูดมันออกมา"
มาลีนิ่งไป ทองทาทำแบบเดียวกัน หลับตา ยื่นมืออก
ทั้งสองยื่นมือบนดาดฟ้า เคียงข้างกัน มืออยู่ใกล้กัน ทั้งสองเคลิ้ม พูดออกมาทั้งที่หลับตา
ทองทาบอก
"ความเศร้าอยู่รอบตัว เราเกิดมาเพื่อต่อสู้ เพื่อมีความฝัน แต่จะมีกี่คนที่ประสบความสำเร็จ"
"ความรักอยู่รอบตัว ความเมตตากรุณาอยู่ข้างๆฉัน รู้จักกันแค่ไม่กี่วันยอมสอนฉัน เหนื่อยไปกับฉัน จะสำเร็จหรือไม่ก็ช่าง วันนี้ฉันมีความสุข"
ทองทาตกใจ ลืมตามองว่า มาลีว่าพูดถึงใคร แต่มือยังค้างอยู่ มาลียังหลับตา ยังยื่นมือค้าง น้ำตาเธอไหลออกมา
"ขอบคุณนะพี่ ขอบคุณจริงๆ"

มาลียังอยู่ท่าเดิม น้ำตาไหลออกมาอย่างซาบซึ้ง ทองทายิ้ม มองมาลีเพลินไป
 
อ่านต่อหน้า 3

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 3 (ต่อ)

อธินั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่ที่บ้านทองทา รอจนทั้งคู่เดินเข้ามา

"เอ้า หนูมาลี มาได้ไง"
"เมื่อคืนค้างที่นี่ค่ะ"
"ค้าง"
"ตั้งสองครั้งแล้วพี่"
"เฮ้ย... เธอสองคน"
"เฮ้ยเปล่า แกก็รู้จักฉัน ฉันเป็นคนแบบนั้นที่ไหน"ทองทาบอก
"เออเนอะ มันไม่น่ารู้วิธีด้วยซ้ำ"
"ก็ถึงว่า ... ว่าแต่พี่เถอะ หนูเห็นชุดตำรวจพี่อยู่ในห้องด้วย พี่ก็มานอนบ่อยล่ะสิ"
"อื้อ ....ใช่ นอนที่แฟลตบางทีก็เบื่อๆ"
มาลีมองทองทา
"ไอ้อย่างนี้ค่อยถนัดใช่ไหม ข้าวเช้าพี่หรือ เดี๋ยวหนูเอาไปใส่จานให้นะ"
มาลี มองบนโต๊ะมีของเช้าที่อธิซื้อมาด้วย
"ถนัด ถนัดอะไร เขาหมายความว่าไงวะ"
ทองทาถอนใจเฮ้อ ว่าเราเป็นเกย์อีกแล้ว
" เดี๋ยวจัดข้าวเช้าให้พี่อธิแล้ว ขอเวลาสองชั่วโมงกลับร้านนะพี่ทองทา เดี๋ยวจะมาใหม่พร้อมอาหารเที่ยง"
ทองทาพยักหน้า มาลีรับถุงอาหารเช้าไปจัดการให้อธิ

มาลีเดินมายืนหน้าบ้าน แล้วก็เริ่มร้องเพลง จงใจร้องเสียงดังปลุกคนในบ้าน
โรสกับบอยเพิ่งตื่น เปิดประตูออกมา
"หนวกหูโว้ย มายืนแหกปากทำอะไร จะหาเรื่องกันใช่ไหม"
"ฝึกร้องเพลง กฎข้อสองของครูฉัน เขาให้ฉันร้องเพลงทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมง"
การะเกดและชงโคเดินมาพอดี รีบเข้ามาถาม
"พี่ทองทาเขายอมสอนแล้วหรือ"
โรสตั้งใจฟัง หนูมาลีค้อนโรส
"ใช่ ไม่คิดเงินสักบาท คนไม่รู้จักกันเขายังคอยสนับสนุนกัน คนใกล้ชิดกันนี่ล่ะ หวังพึ่งไม่ได้"
"ก็เอาสิ แกฝึกร้องเพลง ฉันจะนั่งแช่งแก ให้ตกรอบ ตกรอบ ! ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าระหว่างเทวดาของแก กับซาตานอย่างฉัน ใครมันจะชนะ"
โรสเดินเข้าบ้านไป บอยยิ้มให้
"ดีใจด้วย สู้ๆนะ"
มาลีค้อนบอย หน้าบึ้งใส่ ไม่ชอบบอยอย่างมาก บอยยิ้มต่อ เดินเข้าบ้านไป
"การะเกด ชงโค มานี่เร็ว ฉันมีแผน"
ทั้งหมดจับกลุ่มคุยกัน

โรสกับบอยเข้ามาคุยกันในบ้าน
"เขาไม่รู้หรือ เรื่องพี่ไปหาทองทา"
"พี่สั่งเขาไม่ให้บอก ถ้ามันรู้ว่าทองทาอยู่ข้างฉัน เดี๋ยวมันก็หนีไปอีก"
"ใจจริงๆก็เชียร์เขาอยู่ใช่ไหมล่ะ พ่อที่ไหนก็อยากให้ลูกสำเร็จทั้งนั้น"
"หน้าที่ชื่นชมเป็นเรื่องของคนอื่น หน้าที่ด่า สงวนสิทธิ์ไว้ให้คนเป็นพ่อแม่"
"จริง .... เราพูดดีกับคนอื่น แต่มาทะเลาะกันเองในบ้าน อยู่กับคนอื่นมันโกหก แต่ที่ด่ากันเนี่ย ของจริงทั้งนั้น นี่ล่ะครอบครัว"

โรสนั่งยิ้มแย้มดีใจไปกับหนูมาลีด้วย

วันเดียวกัน มาลีวางถุงอาหารที่เอามาจากที่ร้าน

"โห น่ากินทั้งนั้นเลย" อธิบอก
ทองทากับอธิอดใจไม่ไหวหยิบของกินในถุงใส่ปาก
"อร่อยๆ" ทองทาบอก
การะเกดและชงโค ถือพานไหว้ครู มีพวกธูป เทียนแพ ดอกเข็มเดินมาหาทองทา
"อะไรเนี่ย"
"พานไหว้ครูไง"
ทองทาพรวดอาหารคายทิ้งทันที รู้แล้วว่า สองสาวจะทำอะไร
"ไม่เอาๆ"
"พี่ทองทา ช่วยสอนการะเกดกับชงโคด้วยนะคะ นะนะ"
ชงโคชี้กระเป๋าเสื้อผ้าของตนกับการะเกด
"เราสองคนยินดีมารับใช้ที่กลางใจพี่เลยค่ะ"
"โอว โน โน... ไม่มีทาง"
ทองทาลุกขึ้นโวยวาย

บอยเดินออกมาจากในบ้านพักมารายงาน
"ของส่วนตัวหายไปจริงๆครับ"
"เมื่อวาน หนูมาลีเก็บกระเป๋าไปคนเดียว วันนี้เขามาชวนการะเกดกับชงโคเก็บกระเป๋าไปอีกสอง" ปลาบอก
"เฮ้ย"
"วันก่อน ไม่มีเด็กเสิร์ฟ ปิดร้านวันเดียว วันนี้ถ้าลาออกพร้อมกันสามคน ปิดร้านสามวันจะพอไหม เจริญล่ะ" สมศรีว่า
โรสเกร็งมือ แล้วกรี๊ดยาว จนคนอื่นต้องปิดหู
"แอร๊ย..."
บุญมากระซิบเมีย
"คราวที่แล้ว ถีบพัดลม ยังแมนอยู่ ไหงวันนี้ สาวมาเชียว" บุญมาบอก
สมศรีบอก
"เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทูอินวันไง"

อธิ การะเกด และชงโค นั่งมอง ตะลึงกับบางอย่างที่พื้น
"ไม่ ไม่ปล่อยๆ"
มาลีเกาะขาทองทาที่กำลังจะหนีไป ทองทาโวยวายต่อ ไม่ยอมสอน
"เธอจะบ้าหรือ สอนคนเดียว ก็เหนื่อยตายแล้ว นี่สอนคนไม่มีพื้นฐานตั้งสามคน ฉันไม่เอาด้วยหรอก"
"ไม่ๆ ฟองน้ำสามอัน มันจะดูดน้ำเอง พี่ไม่เหนื่อยหรอก เชื่อหนูมาลีนะ"
ทองทาลากขาหนี เดินไปข้างหน้าแบบกระดื๊บๆ มาลีเกาะแจ ตัวถูกลากไปด้วย
"ปล่อยๆ โธ่โว้ย"
"นะ พี่นะ .... เดี๋ยวการะเกดกับชงโค จะขยายแปลงปลูกผักให้อีกสองอัน"
"ไม่เอา... แค่แปลงเดียวของเธอ สวนฉันก็พังหมดแล้ว"
"เอาบุญนะพี่นะ บุญสามเท่า ขึ้นสวรรค์สามล้านปี"
"โอ๊ยปล่อยๆ"
"ถ้าไม่สอน ฉันจะเกาะพี่อยู่อย่างนี้แหล่ะ เกาะเป็นปลิงไปตลอดชีวิตเลย"
ทองทาลากขาไป มาลีก็เกาะเป็นปลิงไปด้วย
"ปล่อยๆ ไม่เอาโว้ย ยกเลิกหมด ปล่อยๆ"
อธิขำออกมา

"สนุกละโว้ย"

ทองทาลากขามาจนถึงวงกบห้องน้ำ จะเข้าห้องน้ำ มาลีเกาะอยู่ไม่ให้ไป ตรงหน้าห้องน้ำนั่นเอง อธิ การะเกดและชงโค ยืนถือพานอยู่ข้างๆ อ้อนวอนต่อ

"เฮ้ยอย่ามา อย่าตามมา เด็กบ้า ปล่อยๆ"
"จะหนัก หรือจะเบา ฉันก็ไม่ถือ ถ้าพี่ไม่สอน ฉันจะตามไปทุกที่"
มาลีขยับเข้าไปในห้องน้ำด้วย
"ก็สอนๆมันไปเถอะ เด็กมันน่าสงสาร เรื่องมากจริง" อธิบอก
"ไอ้อธิ ไม่ต้องมายุ่ง"
"ถ้าไม่สอน ก็ไม่ปล่อย สอนเถอะนะๆๆ"
"ไอ้เด็กบ้า ฮือ"
ทองทาทำหน้าทุกข์ทรมาน ทั้งปวดหนัก ปวดเบา
อธิรีบดึงการะเกดและชงโคไปใกล้ขึ้น
"ปวดมากแล้ว ทนไม่ไหวแล้วใช่ไหม งั้นรับนี่ รับเร็ว ๆๆ"
"ฮือ..."
"ช่วยเราด้วยนะพี่นะ"
"พี่ขา ชีวิตเราสามคนขึ้นกับพี่คนเดียวเลยนะคะ สงสารเราด้วยเถอะ"
ทองทามองพานครูนั้น อย่างลังเล
"รับเถอะน่าเพื่อน เดี๋ยวฉี่เหลืองนะ รับเถอะ"
ทองทาจำใจ เอามือแตะที่พานการะเกดถือ
ทุกคนร้องเย้ มาลี ปล่อยขา ทองทาพรวดเข้าห้องน้ำ ปิดประตูปัง
"เรามีครูแล้ว เฮ้ๆๆ" การะเกดร้องเสียงดัง

การะเกดร้องเพลงป๊อบหนึ่งท่อน ชงโคร้องเพลงเดียวกัน อีกหนึ่งท่อน
ทองทาเริ่มคอมเมนต์
"เธอสองคนต้องใช้บทเรียนอื่น เส้นเสียงไม่เหมือนกัน"
ทองทาสอนทั้งสามคน อธินั่งกินไป สนุกไปด้วย
"กฎข้อ 3... มีวินัย พวกเธอต้องมาถึงบ้านนี้เจ็ดโมงเช้า เพื่อออกกำลัง และวอร์มเสียงทุกวัน จากนั้น เราจะเรียนร้องเพลงต่ออีกวันละสามชั่วโมง ถ้าน้อยไปกว่านี้ เตรียมปิดประตูแพ้ได้"
"โห... กว่าจะเสร็จงานที่ร้าน ก็ตีหนึ่งตีสองแล้ว" ชงโคบอก
"เอาน่า สู้ๆ มาสู้ด้วยกันนะ มา..." อธิบอก
ทั้งหมดจับมือกัน ล้อมวงกันเอามือวางตรงกลางเหมือนพวกนักกีฬา
"สู้ !"

อธิท่าทางอิ่มมากนั่งลงพร้อมดื่มน้ำเปล่าล้างปาก ชงโค การะเกดล้างจานเสร็จแล้ว กำลังจัดวางอยู่ มาลีกวาดพื้นเสร็จแล้วเช่นกัน
"อร่อยจริงโว้ย มีลูกศิษย์สวย ๆทำกับข้าวเก่งตั้งสามคน มีทั้งอาหารตา ทั้งอาหารปาก ช่วงนี้ฉันมาค้างกับแกนะ"
สามสาวมานั่งล้อมวงทองทา
"พวกเราจะช่วยทำงานบ้านด้วยค่ะ หนูมาลีทำสวน การะเกดจะทำความสะอาดบนบ้านนี้" การะเกดบอก
"ฉันจะทำห้องนอนพี่ทองทา แถมทำให้พี่อธิที่แฟลตตำรวจด้วย หล่อๆ อย่างพี่สองคน ฉันยินดีให้บริการ" ชงโคบอกมองหนุ่มทั้งสองด้วยแววตาเจ้าชู้
"กฎข้อที่4 กฎเหล็ก ห้ามเรื่องชู้สาว" ทองทาบอก
อธิมองหน้าการะเกด ส่ายหน้าดิกๆ
"เฮ้ย ... ไม่มีใครคิด"
"แต่หนูคิด !" ชงโคบอก
ทองทาตีเอาไม้บรรทัด มาตีหัวชงโค
"อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น เพราะฉันจะไม่มองพวกเธอ เธอ" ทองทาชี้ไล่
ไปทีละคน... "และ" เขาชะงักเมื่อมองหน้ามาลี แต่ก็ชี้จนได้ " เธอ !แบบนั้นด้วย"
ชงโคพึมพำ มองทองทาว่าชัวร์
"เฮ้อ สตรีข้ามเพศแน่นอน !"
"ที่สำคัญ เธอสามคน ก็ห้ามมีแฟน ในช่วงเวลาที่เรียนกับฉัน" ทองทาบอก
"เฮ้ย ไม่ได้" อธิโวยก่อนคนอื่น
อธิมองหน้าการะเกด
"เอ้อ ฉันหมายถึงมันผิดธรรมชาติ"
"รู้ไหม กฎข้อนี้สำคัญมาก วัยแบบพวกเธอ เสียคนไปครึ่งหนึ่งเพราะเรื่องมีแฟน เรื่องพวกนี้ เสียเวลา เสียสมาธิ ยิ่งถ้าท้อง จบเลย... ฉันเรียนที่โน่นสิบกว่าปี ฉันไม่เคยละเมิดกฎ ฉันถึงสอบได้เกียรตินิยม"
"ไม่เคยมีแฟนแบบนี้....พี่ก็เวอร์จิ้นเด่ะ" ชงโคบอก
ทองทาอึ้งไป
"โห หน้าแดงด้วยว่ะ"
ทองทาเตะหน้าแข้งอธิเปรี้ยง!
"คนที่ประสบความสำเร็จ เขาไม่เสียเวลากับเรื่องพวกนี้หรอก ไม่ถึงเวลาก็ไม่เร่ง เจอแล้วก็รักษา ถ้าไม่ใช่ก็บอกเขาไป อย่าไปคบซ้อน เพราะชีวิตมันจะวุ่นวายไม่จบ"
"พี่ทองทาเป็นคนรักเดียวใจเดียว น่ายกย่องจริงๆ" มาลีบอก
ทองทาสบตานิ่งกับมาลี หนึ่งวินาที
"หนูมาลีสบายมาก ตกลงค่ะ"
"การะเกดก็ทำได้ค่ะ"
ชงโคหน้าเศร้า จำใจมาก
"ได้ค่ะ...เฮ้อ"
บอยกับโรสแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง พูดกันเบาๆ คนในบ้านไม่ได้ยิน
"ผู้ชายแบบนี้ .... ร้อยคนมีคนเดียวเลยนะพี่"
"มันไม่ทำ หรือ มันไม่มีอารมณ์กับชะนี อันนี้ยังสงสัย"
ทองทายังอบรมต่อเนื่อง
"แล้วไอ้กระเป๋าเสื้อผ้า พวกนั้น เอากลับไปเลย พวกเธอต้องกลับไปเป็นเด็กเสิร์ฟ หน้าที่คือหน้าที่ พวกที่ทำตามฝัน โดยไม่รู้จักหน้าที่ พวกนี้ฉันก็ไม่เคยเห็นมันจะรอดสักราย ตกลงตามนี้"
สามสาวพยักหน้าโอเค
โรสพยักหน้า พอใจมาก
"เออ แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย" โรสว่า
"โชคดีจริงๆ เจอคนดี ๆ"
"ไป ... กลับ"
"เอ๊า กลับเลยหรือ"

โรสเดินนำบอยกลับ ไม่มีใครรู้ว่าโรสมาแอบดู

แต่ละคนฝึกร้องเพลง "ความฝัน"

บ้านทองทา สามสาว วอร์มเสียงหน้ากระจก ทองทา ถือไม้บรรทัดดูแล
สวนสาธารณะ บุษบาบัณวิ่งออกกำลัง มีครู วิ่งไปด้วย วิ่งไป วอร์มเสียงไป
สระว่ายน้ำ ภูมิว่ายน้ำแข็งขัน เพื่อเพิ่มกำลังเสียง
ภายในห้องซ้อม น้อยหน่าซ้อมร้องเพลง
ห้องซ้อม บุษบาบัณหัดเต้นกับครูสอนเต้น

ประตูบ้านโรสไม่ได้ปิด โรสนั่งคิดบัญชีหน้าเครียด มาลีเดินมาแอบมอง ห่วงพ่อเรื่องเป็นหนี้
บอยเอากาแฟมาให้
"ช่วยไหมพี่"
"ไม่เป็นไร"
"ก็ผมอยากช่วย งั้นช่วยป่วน"
บอยเข้ามาหอมแก้มโรส
โรสยิ้มน้อยๆ
"นี่บ้าจริง เดี๋ยวคนเห็น"
สองคนหันมายิ้มกัน กอดกัน โรสสดใสขึ้น มาลีโกรธมาก เดินหนีไปทันที

มาลีเดินมาล้างตาตัวเอง แคที่ กับเทพเพิ่งมาถึงร้านพอดี
"ทำอะไรน่ะ"
มาลี ไม่ทันสนใจว่าใครถาม โวยต่อ
"ล้างตา พวกผิดธรรมชาติ น่ารังเกียจ"
มาลีเงยหน้าขึ้น แคที่มองดุมา มาลีจ๋อย เขายืนอยู่ทั้งสองคน
"เอ้อ..."
"พวกเราเป็นคนนะยะ ไม่ใช่กิ้งกือ"
มาลียิ้มจ๋อยขอโทษ

"ตอนแรก ว่าจะไปหาพ่อ ตอนนี้ชักอยากคุยกับลูก ไปสานเสวนากันหน่อยดีไหมหล่อน"

บุญมา สมศรี ทำงานนั่นนี่อยู่ที่แถวเคาน์เตอร์ ทั้งหมดยืนคุยกัน เพราะร้านเพิ่งเปิดคนยังไม่มา

"ทำไมต้องเกลียดเกย์"
"เปล่าค่ะ เมื่อก่อนเฉยๆ แต่พอเป็นเอ้อ"
"พ่อ แค่นี้ก็พูดไม่ได้ อายคนอื่นว่างั้น"
"ก็ ... ก็ ไม่รู้สิคะ"
"มันเกลียดบอยด้วย ไม่รู้มันจงเกลียดจงชังอะไรเขา มันคงอิจฉา" สมศรีบอก
"ก็มันจริงไหมล่ะ เพราะพ่อเป็นแบบนี้ พ่อมีแฟน พ่อถึงไม่ไปเยี่ยมหนูเลย"
"เยอะนะ... นังเด็กนี่"
"แล้วในสายตาพี่ ป้า ลุง ว่าพี่บอยเขาหลอกพี่โรสไหมล่ะ หนูยังสงสัย ที่พี่โรสติดหนี้เยอะแยะน่ะเพราะใคร"
"แกไปเอามาจากไหนว่าบอย มันหลอกเอาเงินพี่โรส"
"ก็พี่วีทีบอก"
"ใครวะ ... วีที"
"วิทวัสไง ไม่รู้จักวิทวัส สุนทรวิเนตร์หรือ รายการเขาดีจะตาย ไม่ได้ดูกันหรือคะ"

ในรายการตีสิบที่มาลี เคยดู คุณวิทวัส กำลังสัมภาษณ์ชายคนหนึ่งที่ใส่หมวกปิดหน้าเพราะไม่ต้องการเปิดเผยใบหน้าตนเอง
"ที่เขาว่ารักแท้ ไม่มีในหมู่เกย์นี่ จริงไหมครับ"
"จริงค่ะ เกย์เนี่ยนะคะ ร้อยทั้งร้อย ถูกเกย์ด้วยกันหลอก หลอกกันจนหมดเนื้อหมดตัวเลย เพราะอะไรรู้ไหมคะ ชะนีที่ว่าหาผู้ชายยาก มาคิดถึงเกย์บ้างสิคะ"
"ยิ่งหาคู่ยากกว่า"
"ถูกค่ะ ...นิสัยเข้ากันได้ไหม อันนี้ปรกติของคู่ที่อยู่ด้วยกันถูกไหมคะ แต่เกย์เนี่ย กว่าจะรักกันได้ กว่าจะยอมเปิดใจ เปิดเผย รสนิยมตรงกันไหม เป็นรุกเป็นรับ ชอบแบบเฉาะหรือไม่เฉาะ รายละเอียดมันเยอะมากเลยนะคะ"
"จะบอกว่า พอมีน้อยก็เลยยิ่งแสวงหาความรักมาก"
"ถูกค่ะ ....ยิ่งหิวความรักก็ยิ่งเชื่อง่าย ทุ่มสุดตัวเลยสิคะคราวนี้ จะแย่งมาจากคนอื่นได้ต้องทุ่มสุดตัวค่ะ มีเท่าไหร่ก็ทุ่มให้หมด"

เทพเดินมาหา รับคำสั่งแคที่
"ไม่จริง ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะหน่อย" แคที่หันไปหาเทพ "เอาไปพันหนึ่ง ซื้อกาแฟสด ร้านข้างๆนี่ ไม่ต้องทอนจ้ะที่รัก"
หนูมาลี มองมา เห็นมะ .... แคที่รีบเก๊กเสียงเข้มบอกเทพ
" เอ้อ ทอนมาด้วย "
เทพเดินไป
"นี่ถามจริง...ดูทีวีวันละกี่ชั่วโมง" บุญมาบอก
"ตั้งแต่เปิดสถานี ยันปิดสถานี ก็บ้านอยู่หลังเขา ปู่อัลไซเมอร์ ย่าหูตึง จะให้คุยกับจิ้งจกหรือไงล่ะ แต่เพราะดูทีวี หนูมาลี สอบได้ที่หนึ่งนะ เรียนเก่งมาก ข่าวทุกข่าว รายการสอนหนังสือทุกอันดูหมด"
"อืม" แคที่เกาหัว "เอาเป็นว่า เพราะพี่วีทีบอก ก็เลยเชื่อว่า บอยมาหลอกโรส"
"ถะ...ถูกๆๆต้อง ท่าอันนี้ของพี่ตาปัญญา"
"เชื่อแกหมดว่างั้น"บุญมาว่า
สมศรีถาม
"แล้วถ้าพวกฉันบอกว่าบอยเป็นคนดีล่ะ แกจะเชื่อทีวีหรือเชื่อคนจริงๆ"
"ก็ลองเล่าเรื่องพี่บอยมาก่อนสิ พี่บอยหรือใครล่ะ ที่ทำให้พี่โรสเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนน่ะ พี่โรสแมนทั้งแท่ง หนูมาลี จำได้ มันต้องเป็นเพราะไปเจอใครสักคนแน่"
"ไม่ใช่บอยหรอก อ่ะนี่"
แคที่เดินไปหยิบกรอบรูปแถวนั้นมา เป็นรูปถ่ายหมู่หน้าอลิซคาบาเรต์
"นี่พี่อลิซเจ้าของคณะคาบาเรต์ นี่ฉัน เต้นที่นี่เป็น ...แดนเซอร์หนุ่มหล่อ"
บุญมาบอก
"นี่ลุงเอง ทำเป็นเล่น ลุงเป็นนักดนตรีนะ นี่สมศรีเขาทำครัว"
สมศรีบอก
"พ่อแกตอนแรกทำสวน ตอนหลังเป็นผัวเจ้าของคณะ"
หนูมาลีชี้ไปที่อลิซ
"นั่นไง นี่ใช่ไหมต้นเหตุ"

"โฮ้ย อีหนอนโทรทัศน์ ของพวกนี้ มีใครทำใครได้เล่า มันเป็นมาตั้งแต่ดีเอ็นเอ โมเลกุล อะตอม นาโน ฮิปโปโปเตมัส แล้วย่ะ"
 
อ่านต่อหน้า 4

มาลีเริงระบำ ตอนที่ 3 (ต่อ)

ที่โต๊ะ ทุกคนย้ายมานั่งกันคุยเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว มีกาแฟสดกันคนละบอย เวลาผ่านไป แคที่เล่าเรื่องมาพักหนึ่งแล้ว

"พี่อลิซเขาออกค่าเทอมให้หนูมาลีบ่อยๆหรือ"
ทุกคนโพล่งพร้อมกัน "เออ"
"ที่มีร้านใหญ่โตเนี่ยเพราะพี่อลิซเขาทิ้งมรดกไว้ให้"
"เออ"
"แล้วหนี้ล่ะ ไม่ได้ถูกใครหลอกหรือ"
สมศรีบอก
"หนี้สินของพ่อแก มันก็เริ่มมาจากทำคาบาเร่ต์เจ๊ง ช่วงที่อยู่พัทยาน่ะ"
"ช่วงนั้นเศรษฐกิจมันทรุดนะ" บุญมาบอก
"ถ้าจะคิดเข้าข้างตัวเอง ก็โทษคนอื่นอย่างนั้นล่ะ โทษคนอื่น โทษเศรษฐกิจ เราไม่ผิด เราเก่ง มันก็สบายใจดี" แคที่ว่า
"แล้วจริงๆล่ะคะ"
"เพราะไม่มีความรู้ ! ไม่มีการศึกษา พ่อเธอ เขาถึงอยากให้เธอเรียนสูงๆ"
"มันยังไงล่ะคะ"
"ถ้าเรามีความรู้ เราจะอ่านข่าว เราจะหลบหลีก เราจะทำบัญชีเป็น เราจะรู้ว่า กำไร ขาดทุนคืออะไร เราจะไม่ดื้อ ไม่ฝืน ไม่เที่ยวเอาเงินไปลงทุนผิดๆ"
มาลีอึ้ง
"อึ้งๆ ไปเลย"
"โอเคๆ เข้าใจแล้ว แต่ที่ยังสงสัยคือ พี่บอย เขารู้จักกันได้ยังไงตอนไหน"
"ตอนพี่อลิซตายใหม่ๆ พ่อแกก็รับช่วงเป็นเจ้าของคาบาเรต์คนต่อมา ฉันน่ะเกาะพ่อแกแจเลย"
"กลัวตกงาน"
แคที่ส่ายหน้า
"อยากได้มันเป็นผัว"
มาลีหน้าบึ้งทันที
"ฉันน่ะลูกสาวเสี่ยโรงสีย่ะ หนีออกจากบ้านไปเป็นนางโชว์เพราะใจรัก ทั้งงาม ทั้งล่ำอย่างพ่อแก น่ากินจะตาย ฉันก็นึกไปไง เห็นพี่อลิซแบบนั้น เรืองยศก็ต้องชอบสาวๆ สวยๆ อย่างฉันเหมือนกันนั่นล่ะ"
"สุดท้ายก็กินได้แค่ช่างทำฉากชื่อไอ้แอ๊ด เพราะโรสดันไปได้กับครูสอนฟิตเนสของตัวเอง"
"พี่บอยเป็นครูสอนฟิตเนสพี่โรสงั้นหรือ"
ทุกคนพยักหน้า ว่าใช่
"คู่เนี้ย มันเป็นเงาของกันและกัน กินข้าว เที่ยว อาบน้ำมันยังอาบด้วยกันเลย"
"ฉันกับไอ้แก่นี่ ไม่ทันหม้อข้าวดำ ก็ท้าหย่าแล้ว แต่ไอ้สองคนเนี้ย 6-7ปีแล้ว มันไม่เคยทะเลาะกันด้วยซ้ำ" สมศรีบอก
"นังโรสมันปากจัดจะตาย ขี้เหวี่ยงขี้วีน ไอ้บอยก็ยิ้มไม่เคยเถียงซ้ากคำ คอยเอาใจใส่ดูแล ไม่ห่าง คิดๆไป ฉันน่าจะโปะยาสลบ ยัดเยียดความเป็นเมียให้น้องบอย ซะตั้งแต่ตอนนั้น พลาดแล้ว พลาดเลยดูเส่ะ"
"เขาเป็นเนื้อคู่ หนังคู่ กระดูกคู่ คนเขารักกัน ไปขัดขวางเขา ไปอิจฉาเขามันบาป อันนี้ ฉันด่าทั้งหัวหงอก หัวดำนั่นแหล่ะ"
แคที่ค้อน สมศรีเป็นคนรักความถูกต้องและจงรักภักดีโรสกับบอยมาก นับวันจะยิ่งหมั่นไส้มาลีที่ชอบป่วน ในขณะที่บุญมายังใจเย็นกว่า
แคที่ยักไหล่ไม่แคร์ มาลีเซ็ง

"จ้า ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง"

ร้านเซอร์ไพร์สคาราโอเกะเปิดทำการ มีแขกแล้ว นักดนตรีร้องบนเวทีตามปรกติ โรสคุยโทร.กับเจ้าหนี้ชื่อนิดหน่อย ชักเริ่มกลายเป็นทะเลาะ เพราะโรสเองก็ขี้โมโห ขี้โวยวาย

"ยังไงเดือนนี้ผมขอผัดผ่อนไปก่อนนะพี่นะ ผมไม่มีจริงๆ โฮ้ย นี่พี่จะด่าทำไมเนี่ย แสบคอเปล่าๆ ผมมีผมก็จ่ายแล้ว เออ ก็ด่าไม่ได้ไง ด่าไปผมก็ไม่มี แล้วจะด่าทำไมเล่า"
ฟังเสียงปลายสายสักพัก อารมณ์เริ่มเสีย โวยดังขึ้น
"เอ๊ะ ก็บอกแล้วว่าถ้ามีจะให้ทันที เงินนะไม่ใช่ต้นไม้ เก็บไว้ดอกมันก็ไปงอกที่กระเป๋าเจ๊ เรื่องอะไรจะเก็บไว้ล่ะ เข้าใจกันมั่งสิ...เออ ไม่คุยก็ไม่ต้องคุย ทำอย่างกับฉันอยากคุยกับเจ๊ นักนี่"
โรสแค้น กดหูทิ้ง
"โฮ้ย อีกะทกรก กูไม่รวยบ้างก็แล้วไป"
มาลีได้ยินทั้งหมดกลุ้มแทน ซูซี่เดินมา
"ขยายห้อง อีกสักห้องได้ไหม ฉันมีเด็กสาวๆสวยๆมาช่วยเรียกแขก อยากจะพามาทำงาน"
"ขยายห้องอะไร"
"ห้อง 9 ของฉัน นังเกรซ นังมี่ มันทำเงินให้พี่แต่ละคืนตั้งเท่าไหร่ รับแขกทำนองนี้อีกนิด ยกห้องแปดให้ฉันเพิ่มอีกห้อง ฉันจะหาเด็กสวยๆอีกคนสองคนมาไว้ที่ห้องนั้น ดีไหมพี่"
"ดูปาก... ไม่ ! ไม่โว้ย "
ซูซี่เซ็งสะบัดหนี ไม่ได้อย่างใจเลย
มาลีคิดเล็กน้อยเดินมาบอกโรส ชงโคกับการะเกดอยู่แถวนั้นพอดี
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ หนูสามคนจะทำกับข้าวไปขายที่ตลาด"
ชงโคถาม
"สามคนนี่ใคร"
"หนูมาลี การะเกด ชงโค"
"เฮ้ย" ชงโคโวยเสียงดัง
การะเกดรีบเข้ามาร่วมวง เพราะกตัญญูต่อโรสเสมอมา
"ขายของเพิ่ม ก็เพิ่มกำไรใช่ไหม"
มาลีพยักหน้า
"ทั้งทำครัว ทั้งไปขายที่ตลาด เราต้องเรียนร้องเพลงด้วยนะ"
"เกด เอาด้วยค่ะ ปีที่แล้วแม่ถูกตำรวจจับ พี่โรสให้เงินไปประกันตัว บุญคุณนี้ เกดยังไม่ได้ชดใช้เลย"
"ฮือ ... ร่างแหลกแน่ อีชงโค"
"ตกลงเอาตามนี้ พรุ่งนี้ พี่ช่วยซื้อของสดมาเพิ่มด้วยนะคะ"
"ได้ซี้ ดีแล้วที่คิดเองได้ ให้มันรู้จักคุณข้าวแดงแกงร้อนกันบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่ฝันเฟื่องจะเป็นดารา หัดทำเอง จะได้เก่งๆ วันไหน ตกจากบันไดดาว จะได้มีอาชีพทำกิน"
โรสไม่วายเหน็บจนมาลี เซ็ง พูดดีๆ ให้กำลังใจก็ไม่ได้ โรสเห็นมาลีหน้างอ ก็ยิ่งยิ้มยั่ว

เช้าวันใหม่ สามสาวทำอาหารในครัว เป็นอาหารกล่องที่จะไปขายที่ตลาด
"เร่งมือหน่อยสายแล้วๆ"

ทองทารอในบ้าน ในชุดวิ่ง
"สายป่านนี้แล้วทำไมยังไม่มา"
อธิออกมาจากในห้อง หมู่นี้มาค้างบ่อย
"ไปกันยังอ่ะ ไปวิ่งด้วยคนดิ"
"แกเอาเสื้อฉันมาใส่หรือ กางเกงด้วย ไอ้นี่...ถอดออกเดี๋ยวนี้"
"เฮ้ย อย่างกหน่อยเลยน่า"
"บอกกี่หนแล้วว่าไม่ชอบ ถอดออกมานะ ถอดออกมาเลย"
"เฮ้ยอย่า อย่า"
ทั้งสองปล้ำกันไป ดึงกางเกงกันลงไปที่โซฟา
"ถอดออกเลยถอดเดี๋ยวนี้"
"ไม่ถอดโว้ย ไอ้งก แค่นี้ยืมใส่ไม่ได้หรือ"
"ถอดๆๆ"
ชงโค มาลีวิ่งมาถึง เห็นทองทาคร่อมอยู่บนร่างอธิ พยายามดึงกางเกงออกอยู่ รีบปิดตา
"มาแล้วค่ะ ว้าย ขอโทษค่ะ"
ชงโคพึมพำ
"อดแล้วเรา เขากินกันเอง"
อธิผลักทองทาร่วงลงไป ดึงกางเกงที่เหลือครึ่งเดียว ขึ้นมาให้เรียบร้อย
"เฮ้ย ออกไปเลย ... ไม่ใช่ๆนะ น้องๆ อย่าเข้าใจผิด"
"โฮ้ย คนกันเองน่ะพี่ พี่อธิกับพี่ทองทา อืม ที่จริงก็เหมาะสมดีนะ"

อธิเซ็งที่มาลีไม่เชื่อ ทองทายิ้มแห้งให้

ทั้งหมดเดินออกมาจากบ้านจะไปวิ่ง คุยกันมา

"มาเรียนแค่วันละสองคนหรือ"
"จ้ะ อย่างวันนี้ การะเกดเขาจะไปขายของที่ตลาด วันพรุ่งนี้หนูมาลีไป วันต่อมาชงโคไป"
ชงโคเดินมาหยุดฟังเขาคุยกัน เอนๆเซ จนอธิสะกิด
"ชงโคๆ เฮ้ย ยืนหลับหรือ"
"แหะๆ นอนตีหนึ่ง ตื่นตีสี่ แหะ ขอโทษจ้ะ"
"จะไหวไหมเนี่ย" ทองทาว่า
มาลีดึงชงโคให้ตื่น
"ไหวสิ นะๆ ชงโคไป ลุย"
ทั้งหมดออกวิ่งไป

บริเวณตลาด การะเกดมีโต๊ะตั้ง มีข้าวกล่องวางขาย ท่าทางสดใส บอกกับตัวเองให้ตื่นๆ ตบหน้าตนเองด้วย
"ไหวสิ ต้องไหว ต้องไหว"
คนซื้อชี้ถาม
"อันนี้อะไรจ๊ะหนู"
"ข้าวกระเพรา เพร๊า เผ่า เฮ้าๆๆ"
การะเกดฝึกร้องเพลง ทำเสียงขึ้นลง ที่ท้ายคำพูด
"แล้วอันนี้ล่ะ"
"ข้าวไข่เจียว เจี๊ยว เจี่ยว ๆๆ แหะๆ หนูวอร์มเสียง หัดร้องเพลงน่ะ"
คนซื้องงๆ

ห้องซ้อมในบ้านทองทา มาลีกดมือถือให้เพลงดังออกมา
"นี่คือเพลงที่เราเลือกจะประกวด เราจะขึ้นเวที ร้องแบบประสานเสียงค่ะ"
"ประสานเสียง ต้องแม่นตัวโน้ต พวกเธอพร้อมหรือ"
"ยังไงมันก็มีโอกาสครั้งเดียวอยู่แล้วนี่ ไม่ชนะก็แพ้ จะออมมือไว้ทำไม จริง
ไหม" อธิว่า
"ใช่จ้ะ เล่นท่ายากไปเลย แพ้ก็แพ้ แต่ถ้าทำได้ขึ้นมา เขาจะแปลกใจมากว่า ทีมสาวเสิร์ฟบ้านๆ ร้องเพลงขนาดนี้ได้ยังไง คะแนนโหวตจะมาเพียบเลย พี่ว่างั้นไหม"
"เออ เอาก็เอา มา เริ่มกันเลย ไหน ชงโคร้องซิ"
ชงโคร้องเพลงเมื่อครู่ ทองทาปรับแก้ให้

บุษบาบัณซ้อมเต้นกับครูอย่างหอบเหนื่อย เหงื่อท่วม นั่งพัก หนทางการเป็นศิลปินมีแต่ความเหนื่อยเช่นกัน นีน่า ยาหยีเดินมานั่งด้วย มองซ้ายขวาก่อนพูด เป็นจังหวะที่ครูไม่อยู่พอดี
"พรุ่งนี้ไปฮ่องกง ตั๋วยังไม่ได้คืนนะ" นีน่าบอก
ยาหยีบอก
"เราหนีไปแค่สองวันนะๆ อยากไป อยากไป"
"หนีหรือ"
"เป็นตั้งลูกสาวเจ้าของสถานี ยังไงก็ชนะ ทำไมต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ล่ะ"
บุษบาบัณคิดหนัก ครูเดินเข้ามาเรียกไปซ้อมเต้นต่อ
"เอ้าพักพอแล้ว มาซ้อมต่อ"
"หนูเหนื่อย ขอพักต่ออีกเดี๋ยว"
"พักนานๆแบบนี้ จะไปสู้คนอื่นเขาได้ไง"
บุษบาบัณโกรธ สีหน้าเอาแต่ใจมองครู
"หรือจะไม่ซ้อม ครูจะได้กลับ"

บุษบาบัณยอมลุกขึ้นซ้อมต่อทั้งที่เหนื่อย นีน่า ยาหยีเซ็ง ที่เพื่อนดูมุ่งมั่นเกินเหตุ

เวลาผ่าน ทองทาปลูกต้นไม้ อธิเดินมาหาพร้อมไอแพด

"อ่ะนี่ จัดมาให้แล้ว รวมคลิป ผู้เข้าแข่งขัน รายการเขาไปถ่ายความคืบหน้าของคนที่เข้ารอบมาให้ดูเป็นระยะว่า แต่ละคนฝึกซ้อมถึงไหนกันบ้าง"
"อ้าว แล้วทำไมไม่มาถ่ายสามสาวของเราบ้าง"
"เหตุผลง่ายมาก เขาไม่คิดว่าเราจะเข้ารอบไง แหม สาวเสิร์ฟอ่ะนะ"
อธิกดไป เจอคลิปซ้อมร้องเพลงของบุษบาบัณ
"คนนี้น้องสาวคนละแม่ ฉันรู้แล้วว่าเขามีความสามารถแค่ไหน"
ทองทาชี้ที่คลิปที่บุษบาบัณซ้อมร้องเพลงอยู่ อธิปาดไป เปลี่ยนคลิป
"งั้นคนต่อไป คนนี้ชื่อนายภูมิ"
ในคลิป ภูมิร้องเพลงโอเปร่า
"ชอบร้องพ่นไฟ โชว์ภูมิ โชว์พาว"
อธิบอกแล้วกดเปลี่ยนคลิปต่อไป เป็นน้อยหน่าร้องเพลงอยู่
"คนนี้ชื่อน้อยหน่า มีดีที่สวย ร้องเพลงได้ทุกแนว แฟนคลับคนอีสานเพียบ"
ทองทานั่งมองประเมินต่อไป

อีกคน ... ทิมมี่ทั้งร้องทั้งเต้นอยู่หน้ากระจก
"ส่วนคนนี้ทิมมี่" อธิบอก
"ร้องดี เต้นดี หน้าตาดีครบเครื่อง"
"แต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น เฮ้อ"
ทองทาเกาหัว กลุ้ม

วันใหม่ที่บ้านบุษบาบัณ คนใช้เคาะประตูห้อง ปลุก
"คุณเบลขา หกโมงเช้าแล้วนะค้า ครูโทร.มาตามไปเรียนร้องเพลงแล้วค่ะ"
เธอโวยวาย หงุดหงิด
"เบื่อๆๆ เบื่อจริงโว้ย"
โทรศัพท์ดังขึ้น เธอเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสาย
"มีอะไร ....ฉันจะนอน ฉันจะนอน ไม่ได้ยินกันหรือไง หา"
เธอโวยใส่โทรศัพท์ ได้ยินเสียงปลายสายดังมา
"เรากำลังจะออกจากบ้านไปสนามบิน ถ้าเธอมาสนามบินตอนนี้ เราก็จะบินไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกงตามนัด ทันเวลาพอดี"
บุษบาบัณมีสีหน้าคิดหนัก

เบลแต่งตัวแล้ว เดินมาขึ้นรถ คนขับรถรออยู่แล้ว
"ไปสตูดิโอใช่ไหมครับคุณหนู"
เธอตัดใจ
"ไป ... เอ้อ ค่ะ สตูดิโอก็สตูดิโอ"
คนขับรถขับออกไป บุษบาบัณเซ็งๆ ไม่รู้จะอดทนกับการซ้อมหนักไปได้นานแค่ไหน

ที่ตลาด มาลียืนคุยกับคนซื้อ
"ให้ไปส่งที่ออฟฟิศ ตอนประชุมหรือคะ ดีเลยสิจ๊ะ หนูจะได้ไม่ต้องมายืนขายที่ตลาดแบบนี้ สามสิบกล่องใช่ไหมคะ พี่เอาอะไร สั่งไว้เลยจ้ะ"
มาลียื่นกระดาษปากกาให้ คนซื้อ 2 รับไปจด
มาลีออกกำลังกายไป คนซื้อหยุดมอง มันทำอะไรของมัน
"หนูออกกำลังกายอยู่ค่ะ พี่เขียนไป ไม่ต้องสนใจหนู"

มาลีออกกำลังกายพร้อมวอร์มเสียงพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์

วันใหม่ที่ตึกกลางเมืองแห่งหนึ่ง มาลีหิ้วถุงข้าว 30 กล่องมาวางข้างๆกำลังถามทางจากยาม

"นั่นน่ะ ทางเข้าอยู่ตรงนั้น ชั้น15 เดินเข้าไปเจอลิฟต์เลย"
"แล้วบันไดล่ะจ๊ะ"
"หา"
"หนูจะขึ้นบันได หนูจะออกกำลังค่ะ"
"งั้นก็ต้องเดินไปเข้าประตูด้านหลัง"
"โอเค ขอบคุณค่ะ"
หนูมาลีร้องเพลงไป หิ้วไป เดินไป ยามงง

มาลีเดินนับเงินออกมา เดินผ่านร้านอาหารใต้โถงตึก เจอบอยนั่งกินข้าวกับผู้หญิงสวยคนหนึ่ง มาลีแอบมุมหนึ่งมองไป พร้อมเสียงความคิดที่ดังขึ้น
"พี่บอยมากับใคร"
น้ำจับมือบอยขึ้นมาลูบ หน้าตาสนิทสนมยิ้มแย้ม
"พี่บอยแอบคบผู้หญิง"
บอยเอาซองออกมาเปิดให้ดู เป็นเงินสดปึกหนึ่ง บอยใส่คืนไป พูดบางอย่างแล้วส่งให้
"เงินอะไร นึกแล้วเชียว ผู้ชายคนนี้หลอกพี่โรส เอาเงินไปให้ชะนี"
มาลี คิดเอง มโนเองอยู่คนเดียว

ทองทานั่งคุยกับชงโคเรื่องโน้ตต่างๆที่มุมหนึ่งในบ้าน การะเกดทำความสะอาดบ้านอยู่ ทำงานไป ร้องเพลงเพลงลูกทุ่งไปด้วย ทองทาเงยหน้าขึ้นมา ตะลึงกับความไพเราะจนต้องมาฟังใกล้ๆ ชงโค อ่านโน้ตต่อไป
อธิเดินมามองด้วย หลงใหลการะเกด
"สวยเนอะ"
"เออ สวยมาก"
อธิสะดุ้ง ป้องปากบอกเบาๆ ได้ยินสองคน
"เฮ้ย คนนี้ฉันจอง แกห้ามยุ่ง"
"ไม่ใช่หน้า เสียงต่างหาก" ทองทาเดินไปหา "ร้องเพลงลูกทุ่งเพราะขนาดนี้ทำไมไม่บอก"
"ก็พี่ทองทาไม่ได้ถามนี่จ๊ะ"
"แล้วทำไมไม่ประกวดด้วยเพลงลูกทุ่ง"
การะเกดชี้ไปที่ชงโค
"เขาสองคนไม่ถนัด"
"หนูถนัดเต้น แบบนี้อ่ะค่ะ"
ชงโคเต้นและร้องเพลงลูกทุ่งเซ็กซี่ออกมาท่อนหนึ่ง ทำได้ดีทีเดียว
"คนหนึ่งถนัดลูกทุ่ง คนหนึ่งถนัดแดนซ์เซ็กซี่ มิน่าร้องเพลงประสานเสียง ห่วยแตก"
"อ้าว แล้วแบบนี้จะชนะหรือวะ" อธิว่า
ทองทาถอนใจ นั่นสิ จะชนะไหมวะ

มาลีเอาเงินมายื่นให้โรสที่บ้านพัก
"วันนี้ขายหมดเร็วนี่"
"พี่บอยไปไหนหรือ"
"ออกไปตลาด"
"แล้วก็ไปธนาคาร"
"แค่นั้นหรือ เขาบอกพี่แค่นั้นหรือ"
"หนูมาลี แกจะเอายังไงกับฉัน"
"วันนี้หนูเห็นพี่บอยจับมือกับผู้หญิง ที่สำคัญ พี่บอยเอาเงินให้ผู้หญิงคนนั้น !"

โรสอึ้ง
 
อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น