พล นิกร กิมหงวน เดอะมิวสิคัล ตอนที่ 6 ตอน กลัวเมีย
ภายในห้องนั่งเล่น บ้านพัชราภรณ์ วันใหม่ ตอนเย็น นันทากับพลนั่งซบฟังเสียงเพลงไพเราะจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่ แล้วจู่ๆพลก็สะดุ้งเฮือก
"โอ๊ย ลืมไปเลย"
"อะไรหรือคะ"
พลดูนาฬิกา
"ลืมไปเลยว่าคืนนี้มีนัดประชุมกับสมาคมนายห้างอินเดีย 20 คน เขานัดจะให้ดูแคตตาล็อกสินค้าจากอินเดีย"
"โธ่ นันอุตส่าห์ให้แม่ครัวเตรียมของโปรดของพลไว้ให้"
"อยู่ไม่ได้จริงๆจ้ะ .. มันสำคัญมาก"
นันทาหน้าบึ้ง
"แต่เอ๊ะ หรือว่าจะโทร.ไปเลื่อนนัดเค้าดี พลอยากอยู่กับนันมากกว่า"
"เอ้อ อย่าเลยค่ะ งานของพลสำคัญเหมือนกัน ไปแล้วอย่ากลับดึกมากนะ"
"จ้ะ เดี๋ยวทานข้าวแล้วพลจะรีบขอตัวออกมาเลยนะ"
"ค่ะ"
พลไปหอมแก้มนันทา
"ยังไม่ทันไปเลยก็คิดถึงนันซะแล้ว"
"พลน่ะ รีบไปเถอะคะ เดี๋ยวเค้าจะรอกัน ไม่ดี"
ภายนอก หน้าแฮปปี้ฮอลล์ ตอนกลางคืน
"ไม่ได้มาตั้งหลายวัน กันรู้สึกยังกะได้ขึ้นสวรรค์แน่ะ" พลบอก
พลและนิกรเข้าประตูมา ส่งเสียงคุยเอ็ดตะโร ทั้งคู่อยู่ในสูทสากล
เสียงเพลงดังแว่วมา
"แกโกหกพี่นันว่าอะไร" นิกรถาม
"มีประชุมกับนายห้างอินเดียยี่สิบคน แกล่ะ"
"มีประชุมกับสมาคมเจ้าของบ้านเช่าสามสิบคน เรื่องสำคัญจะขึ้นค่าเช่าในปีหน้า"
ทั้งสองหัวเราะกัน
ภายในฮอลล์ วงดนตรีเล่นอยู่ มีแขกมาหลายโต๊ะ สองเกลอเข้ามา พล นิกรเดินเข้าไปที่โต๊ะประจำ
"ไม่ได้มาตั้งหลายวัน กันรู้สึกยังกะได้ขึ้นสวรรค์แน่ะ ไปที่โต๊ะประจำของเราดีกว่า"
พลมองไปเห็นกิมหงวนอยู่กับเรณู สายใจ ดวงเดือนพอดี
"เฮ้ย กรดูนั่น"
"อาเสี่ยกิมหงวนนี่ ชะชะ ผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลัง หมอนี่มันรวยจริงๆ" นิกรว่า
เรณูมองมาเห็นสองคนพอดี จึงลุกขึ้นเรียก
"คุณกำแหง คุณประชา"
ทุกคนหันมามอง ทุกคนเป็นแขกประจำ จึงรู้จักสองหนุ่มดีอยู่แล้ว
สาวๆกรี๊ดกราด
"คุณกำแหง คุณประชามา"
ชาย 1 บอก "วันนี้เล่นจำอวดอะไรอีกละคุณ"
ทุกคนหัวเราะเฮฮา
นายซุ่นใช้ผู้จัดการรีบวิ่งมาโค้งรับ
"พวกเราบ่นถึงคุณทุกๆคืนเชียวครับ คุณหายไปหลายวัน"
นิกรยิ้ม
"เราไปเที่ยวหัวเมืองเพิ่งกลับ"
"อ้อ คงไปตากอากาศมังครับ แต่ ..อ้า บางคนเค้าลือกันว่า คุณทั้งสองแต่งงานแล้ว"
"โธ่ ผมไม่ยอมหาบ่วงคล้องคอหรอก ยังไงก็ไม่มีเมียเด็ดขาด" พลบอก
"เชิญเลยครับ เชิญ"
ผู้จัดการและเรณูพาพล นิกรไปยังโต๊ะประจำ พอผ่านโต๊ะกิมหงวน เรณูก็ลุกขึ้นมาเกาะแขน
"ใจคอคุณน่ะ จะลืมแฮปปี้ฮอลล์เชียวหรือคะ"
"ใครบอกละ ชั้นน่ะคิดถึงเรณูและแฮปปี้ ฮอลล์เสมอ" พลว่า
"อย่าพูดหน่อยเลย คิดถึงแต่ปากน่ะซี"
"โธ่ ชั้นไม่ใช่อาเสี่ยนี่นา จะได้มาเที่ยวทุกคืน"
อาเสี่ยค้อนขวับ
"คุณน่ะถ่อมตัว ใครๆก็รู้ว่าคุณมั่งมี ฉีกแบงค์ทีละปึกก็ได้"
พลพูดยั่ว
"แหม ก็มีคนมาท้า ชั้นก็ต้องสู้ ทำเอาอาเสี่ยบางคนแพ้หนีชั้นกลับบ้านไปเลย"
เรณูสะดุ้ง พยายามบอกใบ้ว่าอาเสี่ยนั่งอยู่ตรงนี้
กิมหงวนลุกขึ้นทันที เอามือท้าวสะเอว
"คุณไม่ต้องมากระทบกระเทียบผม คราวที่แล้วคุณล้วงกระเป๋าผมไปนี่ ไอ้เก๋าเจ๊ง นี่แนะ คุณกำแหง ผมขอถามคุณอย่างลูกผู้ชาย คุณน่ะอาเสี่ยจริงหรือกำมะลอ"
พลบอก
"ในนามแห่งลูกหมา เอ๊ย ลูกผู้ชาย ผมก็ขอตอบตามความสัตย์จริงว่า เราสองคนนี้เป็นทายาทแห่งกองมรดกจำนวนมหาศาล"
" เอาอย่างนี้ ในเมื่อเราน่ะก็เป็นนักดื่มนักเที่ยวเหมือนกัน และยังร่ำรวยมหาศาลเหมือนกันด้วย ถ้าเช่นนั้น เราก็มาเป็นเพื่อนกันดีกว่า" กิมหงวนบอก
พลมองหน้านิกรอย่างตื่นๆ
"ยินดีมาก อาเสี่ย เราเป็นมิตร ดีกว่าเป็นศัตรูกัน" พลบอก
พลยื่นมือให้ นิกรด้วย อาเสี่ยจับมือสองคน
"นั่งเลยครับ เพื่อเป็นปฐมฤกษ์แห่งมิตรภาพของเรา ผมขอเลี้ยงคุณอย่างเต็มที่ เอ้า เรณู สายใจ ดวงเดือน ช่วยไปสั่งวิสกี้สองขวดและทุกอย่างที่มีในเมนูมาเลยนะ"
"ค่ะ อาเสี่ย"
สามคนออกไป พลและนิกรนั่ง
"ไหนๆเราจะเป็นเพื่อนกันแล้ว ผมจะบอกว่า ความจริงผมน่ะ ชื่อ พล พัชราภรณ์"
กิมหงวนบอก
"ผู้จัดการห้างพัชราภรณ์"
"ถูกแล้ว"
"ผมได้ยินชื่อคุณบ่อยมาก คุณล่ะครับ"
"ผม ชื่อจริง นิกร การุณวงศ์ คุณพ่อผม พระยาวิจิตรบรรณาการ รวยชิบหายวายจักรเลยคุณ"
"พอกับคุณเตี่ยผมล่ะครับ รวยระยาเลย"
สามคนหัวเราะร่าเริง เรณู สายใจ และ ดวงเดือน ถือเหล้ามา
"มาแล้วค่ะ เสี่ย" เรณูบอก
ดวงเดือนสั่ง
"สายใจรินเหล้า"
"งั้นเรามาดื่มกันครับ เพื่อฉลองมิตรภาพของเรา"
เพลง "ดื่ม" (คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง สริ ยงยุทธ)
พล "ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข"
นิกร "สนุกสนุกให้ใจปลื้ม"
กิมหงวน "รักเรารักกันอย่าลืม"
พล "ค่อยค่อยดื่มด้วยความไมตรี"
นิกร "ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข"
กิมหงวน "สนุกสนุกให้เต็มที่"
พล "รักเรารักกันอย่างนี้"
นิกร "สามัคคีจงมีอยู่นาน"
สามคน " ดื่มอวยชัย ขอให้ทุกท่านสำราญ ยามเรานี้ไม่มีงาน สนุกสนาน ทุกทีไป ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข
สนุกสนุกร่วมกันไว้ รักเรารักตลอดไป พี่น้องไทยขอให้สวัสดี"
ภายในบ้านพัชราภรณ์ นันทากำลังหมุนโทรศัพท์
"น้องไพหรือจ๊ะ"
ภายในบ้านการุณวงศ์ กลางคืน ประไพกำลังรับโทรศัพท์
"ค่ะ พี่นัน"
"พอดีพลไม่อยู่ เดี๋ยวพี่ไปหาน้องไพกับนายกรที่บ้านนะ จะได้ไปเยี่ยมคุณพ่อด้วย" นันทาบอก
"กรก็ไม่อยู่ค่ะ"
"อ้อ ไปไหนจ๊ะ"
"มีประชุมกับสมาคมเจ้าของบ้านเช่าสามสิบคนค่ะ แล้วคุณพลไปไหนคะ"
"ไปประชุมกับนายห้างอินเดียยี่สิบคนจ้ะ"
ทั้งประไพและนันทาเริ่มฉุกคิด
ภายใน แฮปปี้ฮอลล์ จานกับข้าววางเต็มโต๊ะ เหล้าหมดไปหลายขวด สามหนุ่มเริ่มเมาท ดวงเดือน สายใจ เรณูเทเหล้าให้
เรณู ดวงเดือน สายใจ "ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข"
สามคนในอาการเมา "สนุกสนุกให้ใจปลื้ม"
เรณู ดวงเดือน สายใจ "รักเรารักกันอย่าลืม"
สามคนเมา " ค่อยค่อยดื่มด้วยความไมตรี"
เรณู ดวงเดือน สายใจ "ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข"
สามคน "สนุกสนุกให้เต็มที่"
เรณู ดวงเดือน สายใจ " รักเรารักกันอย่างนี้"
สามคน "สามัคคีจงมีอยู่นาน"
โลกเริ่มหมุนโคลงเคลง
ทุกคน "ดื่มอวยชัย ขอให้ทุกท่านสำราญ ยามเรานี้ไม่มีงาน สนุกสนาน ทุกทีไป ดื่มเราดื่มเพื่อความสุข
สนุกสนุกร่วมกันไว้ รักเรารักตลอดไป พี่น้องไทยขอให้สวัสดี"
กิมหงวนเสียงอ้อแอ้
"มิตรภาพของเราจะยั่งยืนตลอดไป ไชโย้"
พลหัวเราะแบบไร้ตรรกะ
"ฟัง ฟังผมพูด หมามันกินเหล้าไม่เป็น เพราะมันไม่ใช่คน เอิ๊ก ฉะนั้นเมื่อเราเป็นคน เราก็ต้องกินเหล้า วู้ปี้"
ชาย1 บอก
"คุณกำแหงครับ แสดงเสภารำให้ดูหน่อย"
พลหลับตาพูด
" เสภารำ ...ด้าย ...ด้าย จาซาแดงตอนไหน"
ชาย 1บอก
" ตอนขุนช้างเข้าห้องนางพิม"
ทุกคนตบมือ เฮ อยากดู
"ปายเอาแท่นมาตั้งบนเวที"
ผู้จัดการไปเอาแท่นมาตั้งบนเวที นักดนตรีเอาเก้าอี้มาให้อีกสามตัว สามสหายเดินไป
นิกรบอก
"อั๊วขอเป็นขุนช้างเอง เรณูเป็นนางพิม"
เรณูเดินเมามายไปนอนที่ตั่งบนเวที
สามคนถอดเสื้อแขวนไว้ที่เก้าอี้
"ผมขอเป็นขุนช้างไม่ได้เหรอ" กิมหงวนบอก
"ไม่ได้ เสี่ยรูปร่างสง่างาม ต้องเป็นขุนแฟน" พลบอก
กิมหงวนยิ้มภูมิใจ
"ก็ได้"
ประไพและนันทาเดินเข้ามาในแฮปปี้ ฮอลล์
"เค้าจะอยู่ที่นี่แน่หรือคะพี่นันW
นันทาแค่นหัวเราะ "เดี๋ยวก็รู้"
ประไพและนันทาเปิดประตูเข้ามา ทั้งสองกวาดสายตาไปทั่ว
"พี่นันคะ บนเวที"
คนดูมายืนมุงหน้าเวทีดูจำอวด เรณูนอนเมามายหมดสภาพอยู่บนตั่ง นิกรเป็นขุนช้าง พลนั่งบนเก้าอี้ เป็นคนพากย์ กิมหงวนนั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ
"ครานั้นจึงโฉมเจ้าขุนช้าง เยื้องย่างเข้าห้องนางพิมได้"
นิกรรำป้อ
"หวังประโลมโฉมตรูคู่หัวใจ หวังให้ได้เสียเป็นเมียรัก"
กิมหงวนบอก
"หยุด หยุดก่อน กราบเถอะคุณ ให้ผมเป็นขุนช้างเถอะ"
"เอ้า ตามใจ"
นันทาบอกประไพ
"ไปใกล้ๆกันเถอะน้องไพ จะได้ดูให้ถนัด"
"ค่ะ พี่นัน"
สองคนเดินไปยืนแฝงในหมู่คนดู
อ่านต่อหน้า 2
พล นิกร กิมหงวน เดอะมิวสิคัล ตอนที่ 6 ตอน กลัวเมีย (ต่อ)
พลยกแก้วเหล้าดื่มให้มันเมาเข้าไปอีก
"คราที่นั้นโฉมเจ้าขุนช้าง เยื้องย่างเข้าห้องนางพิมได้ แลเห็นพิมนิ่มนวลรัญจวนใจ หลับใหลปากอ้าลืมตาโพลง"
เรณูทำตาม กิมหงวนสะดุ้ง
"นอนหลับแล้ว ทำไมลืมตาโพลงได้ละคุณ"
"ไม่ต้องเถียง ต้องทำตามบท"
กิมหงวนร้องทวน
"หลับใหลปากอ้าลืมตาโพลง"
"สองถันหลั่นสล้างดังลูกฟัก"
เรณูผุดลุกขึ้นนั่งหน้างอ
"ไม่.. ของดิชั้น ไม่เหมือนลูกฟักนะ"
"เออน่า ใครๆก็รู้ นอนลงๆ"
"เข้าบทโลมนางเถอะ ผมชอบบทกอดๆจูบๆ" กิมหงวนบอก
"เดี๋ยวไม่ให้เล่นซะนี่ จะเล่นมั้ย" พลว่า
"เล่น"
"สองถันหลั่นสล้างดังลูกฟัก ฟาดคอต่อก็คงชักแทบตายโหง"
"ขึ้นเตียงเหอะ" กิมหงวนเร่งเร้า
"เดี๋ยว! แม่พิมนอนละเมอเออโก้งโค้ง ทำตูดโด่งร้องเพลง รักเมืองไทย"
เรณูในอาการเมาแทบครองสติไม่ไหว
"รักเมืองไทย ชูชาติไทย ทำนุบารุงให้รุ่งเรือง สมเป็นเมืองของไทย"
คนดูตบมือกราว
นันทากับประไพที่แทรกอยู่ในหมู่คนดู หน้าหงิก
"ขุนช้างฟังช่างปลาบปลื้มดูดดื่มจิต ค่อยๆย่องเข้าไปชิด พิสมัย"
กิมหงวนหัวเราะร่า
"จูบเลยนะคุณ"
"ยังไม่ถึงบท ต่อๆ เอามือจับเท้าพิมนิ่มกระไร แล้วหักใจโลมลูบจูบตีนนาง"
เรณูชูเท้ากระดิก กิมหงวนกระโดดตัวลอย
"ใครจะจูบลง ไม่เอาแล้วไม่เล่นดีหว่า"
กิมหงวนเลิกเล่น
"กร แกไปเล่นแทน" พลว่า
นิกรลุกขึ้นรำ
"ครานั้นขุนช้างย่างขึ้นเตียง แล้วนั่งเคียงพิมเจ้าเฝ้าหลับใหล"
ประไพตาถลน
กิมหงวนตะโกน
"ลำเอียงจริงเว้ย"
"เอื้อมมือกอดรัดถนัดใน โลมแล้วลูบเล่นละมุนมือ"
"หยุดๆ" กิมหงวนบอกแล้วไหว้ "ไหว้ละ คุณ ผมขอเล่นเป็นขุนช้างอีกครั้ง"
"เอาไงแน่ จะเล่นหรือไม่เล่น"
"เล่นครับ จับให้เสด็จเชียงนะครับ ผมจะเข้าพระเข้านางให้หวานจ๋อยเลย"
"ครานั้นขุนช้างย่างเข้าห้อง แลเห็นพิมนวลน้องนอนหลับใหล ปราดขึ้นเตียงเคียงข้างนางทันใด"
อาเสี่ยหัวเราะชอบใจกะลิ้มกะเหลี่ย พลถอนหายใจไม่กล้า ไขว่คว้าพิมไว้
กิมหงวนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
"ไม่เล่นแล้วเว้ย อะไรจะจูบตรงไหนก็ไม่กล้า ถ้าผมยอมเป็นขุนช้างอีกยอมเป็นลูกหมาห้าร้อยชาติ"
"ตามใจ ผมเล่นเองก็ได้ เอ้ากร ขับสิ"
พลลุกขึ้นตั้งท่ารำ นิกรประจำที่จะขับเสภา
"เอา กันจะขับให้อร่อยทีเดียวเว้ย" นิกรบอก
ทันใดนั้น นิกรมองไปเห็นนันทาและประไพในหมู่คนดูก็สะดุ้งเฮือก ความเมาหายไปกะทันหัน
พลเร่ง
"เร็วเว้ย กันพร้อมขึ้นเตียงแล้ว"
นิกรร่าย
"ครานั้นขุนช้าง ไอ้ชาติหมา มีตาแต่หามีแววไม่"
พลสะดุ้ง
"ความตายมาถึงเราเขลากระไร จงรีบไปจากที่นี่เถอะนะจ๊ะพวกเรา"
พลหยุดรำ เริ่มสังหรณ์ใจ จึงมองไปรอบๆห้อง ก็เห็นนันทาและประไพอยู่ในหมู่คน พลยืนตัวแข็ง หัวใจหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม
" จ..จบการแสดงแล้วครับ ขอเชิญทุกท่านกลับไปนั่งที่ได้"
คนดูพึมพำผิดหวัง
กิมหงวน ถือแก้วเหล้าส่งให้
" อ้าว ทำไมละ คุณพล ดื่มต่อสิ"
"ม.. ไม่แล้วครับ"
เรณูลุกขึ้นมาแบบเมาๆมากอดคอพลไว้
"คุณกำแหงคะ คุณชื่ออะไรกันแน่ บอกความจริงเรณูเถอะค่ะ อย่าลืมนะว่า คุณทั้งสองก็เคยเป็นผัวดิชั้น คุณประชาหรือคุณนิกรด้วย"
นันทาขบกรามแน่น
"ได้ยินมั้ยน้องไพ ผัวเรามันเหลวแหลกถึงเพียงนี้"
"พี่นันคะ อย่าเอะอะเลยค่ะ อายเค้า ไปพูดกันที่บ้านเถอะ"
เรณูจูบพลพอดี นันทาตะโกน
"หน้าด้านอะไรอย่างนี้ น้องไพตามพี่มา"
คนทั้งฮอลล์สะดุ้งเฮือก นันทาเดินไปที่เวที ประไพรีบตามไป นันทาหยิบถาดเหล้าที่วางอยู่หน้าเวที ขว้าง
เรณูรีบวิ่งหนีไป กิมหงวนวิ่งไปหลบใต้โต๊ะ
พลผืนยิ้ม
"อ้อ นันทาหรือนี่"
"เออ"
"ฮัลโหล ประไพ ไปไงมาไงเนี่ย" นิกรว่า
"หน้าด้านอะไรอย่างนี้ ช่างไม่อายเค้าบ้างเลย ออกยักษ์ออกลิงกันอย่างสนุก ทำราวกับเป็นบ้าน
ของตัวเอง เก๋นักเหรอ กินเหล้าเมามายอย่างนี้ ไหนบอกไปประชุมกับสมาคมเจ้าของบ้านเช่าสามสิบคน เรื่องสำคัญจะขึ้นค่าเช่าในปีหน้าไงละ ตอแหล!"
นิกรอึ้งไม่นึกว่าประไพจะกลายเป็นนักพูดขนาดนี้ จึงยิ้มทะม่องๆ
"ว่าไง จะกลับบ้านหรือจะนอนนี่"
ผู้ชมฮือฮา ดูละครเรืองใหม่
พลทำเจี๋ยมเจี้ยม แต่แข็งใจรักษาเหลี่ยม ยกมือเท้าสะเอว
"นั่นมันความพอใจของชั้นนี่นันทา"
คนดูต่างตื่นเต้น กลัวพลจะเตะเมียตาย
"อ๋อ กล้าพูดถึงอย่างนี้เชียวหรือ จะลองดีใช่มั้ย"
พลลอยหน้าลอยตา
"ดีก็อยู่ในท้องแถวๆตับไงนันทา"
นันทาชกพลโครมเข้าที่หน้าท้อง
เวลาเดียวกันประไพเหวี่ยงตุ้บที่นิกร
"อ้าว ยังไงกันหา นันทา เดี๋ยวชั้นโมโหบ้างก็จะเจ็บตัวเท่านั้น"
นันทาโกรธตัวสั่น แย้บด้วยหมัดซ้ายแล้วตามด้วยหมัดขวา พลถูกชก เซไปติดโต๊ะ พลคว้าแจกันไปถือไว้
"เอาไงเอากัน เมียไม่ใช่แม่นี่หว่า" พลว่า
นันทาแผดเสียงลั่น
"ก็ให้มันรู้ดีรู้ชั่วกันวันนี้ ผัวไม่อยู่ในอำนาจเมีย ใช้ได้เหรอ"
นันทาเดินตรงเข้าไป
"อ๊ะๆ อย่านะ"
นันทาชี้หน้า
"ทำไม จะตีหัวนันเหรอ"
พลเสียงอ่อย
"ใครบอกอ่ะ"
"แล้วถือไว้ทำไม"
"จะตีหัวตัวเองน่ะซี"
นันทากระชากแจกันมา เงื้อขึ้น
"ฮึ ประเดี๋ยวแม่ กลับบ้านเดี๋ยวนี้"
พลจะร้องไห้
"กลับก็กลับซีจ๊ะ"
พลเหลือบมองเห็นกิมหงวนที่ขดตัวงออยู่ใต้โต๊ะ พลไปหยิบเสื้อนอกตัวเอง ใส่แบบหงอยๆ
ประไพพูดกับนิกร
"ถ้าคุณอยากเที่ยวอยากดื่มก็เลิกกับดิชั้น"
"ไพจ๋า ก็แต่เที่ยวสนุกๆ"
"สนุกบ้าบออะไร อย่าร่ำไร กลับบ้านเดี๋ยวนี้"
นันทาบอก
"น้องไพตบหน้ามันเลย"
" ชะช้า ลองสิ เมียตบหน้าผัวก็เอาซี่โครงออกมาแกล้มเหล้าเท่านั้น"
ประไพตบฉาด ผู้ชมโห่ร้องเสียงสนั่น กิมหงวนหัวเราะแบบไม่มีเสียงจากใต้โต๊ะ
"เอาซี่ เอาซี่โครงออกสิ"
นิกรตัวสั่นเทิ้ม กัดฟันหรอดๆ ตะโกน
" อีกทีน่า แม่ทูนหัว แน่จริงตบอีกที"
ประไพตบฉาดแล้วหัวเราะ
"แล้วไงละ"
นิกรคำราม
"กล้าตบอีกทีสิ ไม่ตบไม่ใช่คน"
ประไพตบฉาดที่สาม แล้วถาม
"จะเตะหรือยัง"
นิกรยกเท้าเตะเก้าอี้ดังโครม กิมหงวนหัวสั่นสะดุ้งเพราะใกล้มาก
"ฮึ่ม นี่เห็นว่าท้องหรอกนะ ไม่งั้นโดน"
"ท้องบ้าอะไร เพิ่งแต่งงานไม่กี่วัน"
พลจับแขนนิกร
"อย่าทำขึงขังไปเลยวะ มันก็หมาเห่าใบตองแห้งเหมือนกัน ไปกลับบ้านเถอะ"
"ก็ได้"
นิกรหยิบเสื้อจากเก้าอี้ สี่คนเดินจะออกไปจากฮอลล์ไปหยุดจ่ายเงินที่หน้าประตู
กิมหงวนโผล่มาจากใต้โต๊ะ มองตามพลและนิกร
"อาพลเอ๊ย อานิกรเอ๊ย กลับมาก่อน วู้ปี้" กิมหงวนรำ พลางขับเสภา "คราที่นั้นสองเกลอ เออกลัวเมีย หน้า
ละเหี่ยถูกจูงหูเหมือนหมูหมา สมัยใหม่เมียเป็นใหญ่ใช่ภัสดา เป็นเมียข้า ข้าจะเตะให้โครงรวน"
ผู้ชมตบมือเกรียว
ทันใดนั้นมีเสียงแผดขึ้นมา จากในฮอลล์
"จะเตะใคร ไอ้หงวน จะเตะใคร"
ทั้งฮอลล์เงียบกริบ กิมหงวนตัวแข็ง นวลลออนุ่งผ้าซิ่นสีหมากสุก ใส่เสื้อแพรสวยงาม เดินองอาจเข้ามาที่อาเสี่ย
อาเสี่ยหน้าซีดเอามือคลำหัวใจตัวเอง แม้พลและนิกรจะโดนลากออกไป แต่ไม่วายหันมา
"ฮ่ะๆๆ โชคดีเว้ย ไชโย้"
สองคนโดนลากไป
นวลลออถาม
"จะเตะใคร หา ไอ้หงวน"
“ปละ...เปล่าจ้ะ ให้ตายโหงตายห่าสิจ๊ะ นั่งก่อนนะจ๊ะ นวลลออ"
กิมหงวนกุลีกุจอเลื่อนเก้าอี้ให้ นวลลออรินเหล้าใส่แก้ว ยกขึ้นดื่มแบบเพียวๆ
“อย่าตอแหล เมื่อกี้ขับเสภาว่าไง ขับใหม่สิ”
“เอ้อ อย่าเลยจ้ะ นวล”
นวลลออคว้าขวดวิสกี้
“ ถ้าแกขัดคำสั่งชั้น ชั้นฟาดกบาลแยก เคยเห็นฤทธิ์ชั้นแล้วไม่ใช่รึ”
คนในฮอลล์รู้สึกกลัวนวลลออมาก
“จ้ะ นวลให้ขับ เฮียก็ขับ”
“ลุกขึ้น รำด้วย อย่าร่ำไร ไม่งั้นแม่ชกตาหูปิด”
“ครานั้นสองเกลอออกลัวเมีย หน้าละเหี่ยถูกจูงหูเหมือนหมูหมา สมัยใหม่เมียเป็นใหญ่ ใช่ภัสดา
ง่า.. ง่าตัวชั้นนั้นกลัวเธอ”
คนในฮอลล์หัวเราะลั่น นวลลออลุกขึ้น
“ไป กลับบ้าน พรุ่งนี้ชั้นจะใช้ให้ซักกระโปรงซะให้เข็ดเลย อะไร เตี่ยก็ไม่สบาย หนีลูกหนีเมียมา
เที่ยวทำหนุ่ม อุ๊ย ประเดี๋ยวแม่เตะสลบเหมือดเลย”
นวลลออลุกขึ้นตั้งท่าเงื้อเท้าแบบนักมวย คนดูตะลึง
“อย่านวลอย่า”
“รู้มั้ยชั้นอดใจดูเฮียมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เออ แน่ะ หน้าด้านไม่มียางอายเลย ถุย เดี๋ยวเปิดหนีไปอยู่ที่อื่นให้ตาบวมอีกหรอก”
“นวลจ๋าอย่าทิ้งเฮียนะ”
“คืนนี้นอนใต้เตียง”
“จ้ะ ตามใจนวลเถอะ ใต้เตียงบนเตียง นอนได้ทั้งนั้น ขอให้เธอเวทนาชั้นเหมือนอย่างที่แล้วมาแล้วกันนะจ๊ะ”
นวลลออลากกิมหงวนไป
คนในฮอลล์ฮา ตบมือกระทืบเท้าชอบใจ
สองวันต่อมา พลนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานที่ห้างพัชราภรณ์ ส่วนนิกรนอนอยู่บนเก้าอี้รับแขก ทั้งสองอยู่ในชุดสากล
“ได้ข่าวว่า แกนอนโซฟามาสองคืนแล้วเหรอ”
พลหัวเราะ
“เออวะ แกล่ะ”
“นอนห้องรับแขก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ประไพจะเป็นไปได้ถึงเพียงนั้น”
“เป็นธรรมดาเว้ย ผู้หญิงน่ะ เป็นคนรักก็เป็นเทพธิดา พอเป็นเมียเมื่อไรกลายร่างเป็นยักษาทันที” พลบอก
เสียงเคาะประตู กิมหงวนเข้ามา นิกรลุกขึ้นยืน พลรีบลุกขึ้นจากโต๊ะ ต่างจับมือกัน
กิมหงวนมานั่งที่เก้าอี้รับแขก
“ผมกำลังนึกห่วงคุณเชียว เป็นไงบ้างครับ” พลบอก
อาเสี่ยยิ้มแค่นๆ
“นี่ไงครับ พยานแห่งความรักที่นวลลออแม่เมียรักให้ไว้”
อาเสี่ยถอดแว่นตาออก พล นิกรสะดุ้ง เมื่อเห็นนัยน์ตาข้างซ้ายเป็นวงกลมเขียวปั้ด
“นี่มันรอยหมัดนี่คุณ” พลบอก
“ก็หมัดน่ะซีครับ”
“ตายห่า นี่เมียคุณเป็นนักมวยด้วยหรือนี่”
“ครับ นวลลออเป็นนักเรียนพละหญิงคนแรก สอบได้ปริญญาเอกด้วย”
ห้องยิมในอดีต นวลลออกาลังซ้อมมวย
“คุณเอ๋ย หล่อนชกมวยฝรั่งได้ขนาดสมาน ดิลกวิลาศหรือสมพงศ์ เวชสิทธิ์ เลยเชียวW
“ฮะ” พลอุทาน
“ไม่ใช่แค่มวย ยูโด ฟันดาบ กระบี่กระบอง ได้ทั้งนั้น แหละครับ สมัยก่อนเคยเตะหนุ่มๆที่ส่งจดหมายมาให้สลบคาแข้งไปตั้งหลายคน”
พล นิกรถึงกับตะลึง
“แล้วทำไม คุณไปเต๊าะหล่อนมาเป็นเมียล่ะ” นิกรถาม
“ก็หล่อนเกิดมารักผมน่ะซี พอผมขอความรักเท่านั้นหล่อนก็ยอมโดยดีเลย เฮ้อ มีเมียผิดคิดจนเมียตาย ผมน่ะ อยากจะเลหลังแม่นวลลออเหลือเกิน ดูหูผมสิ”
กิมหงวนเอียงหูให้ดู
“ถูกเมียชกจนลีบไปหมด”
ที่บ้านไทยเทียม นวลลออชกหูอาเสี่ยติดๆกันหลายครั้ง
นิกรลืมตาโพลง กลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“โอ้ หล่อนช่างน่ากลัวจริงๆ”
"พูดถึงเมียแล้วละเหี่ยใจ คุณเอ๊ย" กิมหงวนถอนใจ "นี่ ที่ผมมาหาคุณวันนี้จะมาบอกว่า ผมมีโครงการ
อย่างหนึ่งที่จะทำให้เรามีเหล้ากิน มีผู้หญิงโป๊ๆมาบำรุงบำเรอ โดยที่เมียของเราไม่รู้เรื่องเลย"
พลลืมตาโพลง
"นี่คุณพูดเล่นหรือพูดจริง"
"พูดจริง"
"ให้ตายเถอะ อาเสี่ย ผมชอบคุณมากให้ตายห่าสิ คุณช่างมีนิสัยเหมือนเราสองคนอย่างประหลาด"
"อั๊วก็รักพวกลื้อสองคน ต่อไปไม่ต้องพูดผมคุณแล้ว พูดอย่างกันเองเลย ลื้อจะด่าแม่อั๊วก็ได้ เราจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป"
ทั้งสามคนโผเข้ากอดกัน อาเสี่ยจูบพลหนึ่งฟอด นิกรหนึ่งฟอด
นิกรบอก
"กันรักพลยังไง กันก็จะรักแกอย่างนั้น"
กิมหงวนยิ้มแป้น
"เช่นกัน กันจะรักแกสองคนให้ยิ่งกว่าเมียทีเดียว"
"ว่าแต่ว่า โครงการของแกที่จะหนีเมียเที่ยวน่ะ มันเป็นยังไง" พลถาม
"เราต้องจัดสร้างฮาเร็มของเราเอง" กิมหงวนบอก
"จัดสร้างฮาเร็มของเราเอง"
"ถูกแล้วเว้ย"
อ่านต่อหน้า 3
พล นิกร กิมหงวน เดอะมิวสิคัล ตอนที่ 6 ตอน กลัวเมีย (ต่อ)
อาทิตย์ต่อมา กิมหงวน พล นิกร กำลังยืนอยู่ทางเข้าหน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด
พลถาม
"นี่หรือวะ ฮาเร็มของเรา"
"ใช่แล้วเว้ย แกเข้าไปดูข้างในสิ"
ทั้งสามเดินเข้าบ้านไป
ภายในบ้านตกแต่งไว้อย่างเรียบร้อย มีโซฟาตั้งแบบหรูหรา ติดม่านสวยงาม มีบริเวณที่สำหรับแสดงโชว์ ยังมีช่างติดผ้าม่านหรือทาสีต่างๆอยู่
"เป็นไง"
"ดีมาก มีฮาเร็มของเราเองแบบนี้ ต่อไปก็ไม่ต้องไปแฮปปี้ฮอลล์อีกแล้ว" นิกรบอก
"ต่อให้ไม่มีฮาเร็มกันก็ไม่กล้าไปแล้ว ขายขี้หน้าเค้า"
"เหล้าโซดาเตรียมพร้อมไว้ห้องกินข้าวด้านโน้น อาหารกันก็ไปตกลงกับเจ๊กขายอาหารฝรั่งปาก
ตรอกไว้แล้ว มันจะส่งลูกน้องมารับใช้เราจนกระทั่งปิดฮาเร็ม ตรงนี้เป็นที่ตั้งของวงยาสแบนด์
ส่วนตรงนี้เป็นที่สำหรับ ระบำโป๊"
กิมหงวนยิ้มเจ้าเล่ห์ สองคนลืมตาโพลง
"แกไปว่าจ้างคณะระบำที่ไหนมา" นิกรถาม
คณะระบำโป๊มหาวินาศของนายจีนหัวหงอก ที่ตรอกโรงหนังวัฒนสมบัติไงละ วันเสาร์นี้ละเว้ย เราจะได้สนุกสนานกันเต็มที่เลย"
กิมหงวนหัวเราะเจ้าเล่ห์ สามคนหน้าตาสดชื่นรื่นเริงมาก
เช้าวันสาร์ บ้านพัชราภรณ์ ภายในห้องนอน พลยืนผูกเน็คไทยืนยิ้มอยู่หน้ากระจก นันทาเดินเข้ามา
"เพิ่งสองโมงเช้าเอง จะรีบร้อนไปไหนละคะ วันนี้วันเสาร์แท้ๆ" นันทาว่า
"วันนี้จะต้องไปคุมขนของจากเรือไปเข้าโกดัง นันจ๊ะ ขอเงินพลซักยี่สิบสิ"
นันทาค้อน
"จะเอาไปทำไมยี่สิบสามสิบ หมู่นี้ใช้เงินเปลืองใหญ่แล้วนะ"
"คุณอาบอก พลน่ะ เอาเงินจากห้างไปใช้ตั้งร้อยบาทแล้วนะ"
"เปล่านะ พลไม่ได้เอาไป"
"ยังจะตอแหลอีก ไม่เอาไปจะขาดบัญชีได้ยังไง ใช้เงินเปลื๊องเปลือง ไม่นึกเสียดายบ้างเลย ไม่ให้หรอก"
"น่า นะ ขอยี่สิบ"
"ไม่มี"
พลใช้วิธีหน้าด้านเข้าไปหา แล้วกอดนันทา
"นะ นะ"
"ก็ได้ค่ะ"
"เมียอย่างนี้ไม่บูชาก็บ้าแล้ว"
นันทาเดินไปเปิดเซฟ
"อย่ามาประจบเอาเงินเลย"
นันทาหยิบส่งให้สิบบาท
"แค่นี้พอแล้ว"
พลมองไปที่เซฟเห็นเงินเป็นปึก
"ตามใจจ้ะ สิบก็สิบ"
นันทากำลังจะส่งเงินให้และจะปิดเซฟ แต่พลรีบคว้าแขนไว้
"อะไรคะ"
"วันนี้ นันของพลสวยเหลือเกิน ขอให้พลชื่นใจหน่อยเถอะนะ"
พลรวบตัวนันมามาจูบ นันทาหลับตาพริ้มกำมือแน่น เธอหันหลังให้เซฟ พลเล็งเงินในนั้น แล้วค่อยๆดันตัวนันทาไปทางเซพ
"ชื่นใจอะไรอย่างนี้"
พลค่อยๆใช้มือซ้ายประคองเมียไว้ มือขวาคว้าเงินในตู้ปึกหนึ่งใส่ไปในกระเป๋าเสื้อนอก
"นันจ๋า พลรักนันคนเดียว"
"นันก็รักพลค่ะ"
พลคว้าเงินออกมาอีกปึก ชำเลืองดูเห็นเป็นแบงค์ร้อยก็สะดุ้ง ใส่ไว้ในเซฟตามเดิม
"พอเถอะค่ะ แก้มช้ำหมดแล้ว ไม่อยากเชียว"
"พลไปนะจ๊ะ ไหนละเงินสิบบาท"
นันทาส่งธนบัตรให้ เห็นธนบัตรยับยู่ยี่ก็เอามือปิดหน้าด้วยความอาย
"ไม่เอา นี่แบ๊งค์เก๊นี่"
"ไป ไปทำงานได้แล้ว ยุ่งนัก เกลียดน้ำหน้า"
นันทาหันไปปิดเซฟ พลยิ้มกับตัวเองแล้วรีบออกจากห้องไป
ภายใน ห้องซ้อมคณะระบำโป๊มหาวินาศ ตอนกลางวัน ในห้องซ้อมมีโซฟาตัวหนึ่ง มีโต๊ะวางเครื่องเสียง และมีโต๊ะวางโทรศัพท์อยู่ด้วย
จีนหัวหงอกเจ้าของคณะกำลังดูการซ้อมของสาวๆในชุดระบำแขกปิดหน้า นายจีนใส่กางเกงจีน เสื้อจีน
เสียงกริ่งโทรศัพท์ จีนหัวหงอก คณะระบำโป๊มหาวินาศ
"คับ อ้อ อาเสี่ย"
จีนหัวหงอกโบกมือให้สาวๆ พลางปิดแผ่นเสียงเพราะจะพูดโทรศัพท์ สาวๆรีบออกไป
"เรียบร้อยครับ นี่เมื่อกี้ยังซ้อมกันอยู่เลย รับรองสาวๆแต่ละคนกระยาหงันทั้งนั้น เสี่ยจะได้รับ
ความสำราญอย่างเต็มที่เลยครับ" แล้วหัวเราะชอบใจ
ฝ่ายนันทากำลังยืนดูให้สาวใช้ขัดเครื่องเงินอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นสอง ประไพเดินมาจากบันไดบ้าน ผ่านมาทางห้องโถง นันทาเรียกอย่างดีใจ
"น้องไพ"
นันทาเดินไปหาประไพ
"คุณอาไม่อยู่หรือคะ พี่นัน"
"ไม่อยู่จ้ะ ท่านไปข้างนอกกัน"
"ไพจะมาเอาแบบเสื้อที่พี่นันจะให้ไพค่ะ"
"งั้นไปข้างบนห้องพี่กัน"
สองคนเดินไปทางห้องนอน
นันทา เปิดประตูห้องนอน
"พี่นันมีแบบเสื้อเยอะเลยหรือคะ" ประไพว่า
" มากมายก่ายกองเชียวละ เพื่อนๆมาเอาไปตั้งเยอะ แต่แบบเสื้อ คศ.นี้ยังครบทั้งของปารีส
และฮอลลีวู้ดเดี๋ยวพี่เอากุญแจไปเปิดตู้ให้"
นันทาเดินไปที่เครื่องแป้งเพื่อจะเปิดลิ้นชัก หยิบกุญแจไปเปิดตู้หนังสือ
ประไพมองรูปกิมหงวน
"นี่รูปใครคะ"
"อ้อ รูปเพื่อนใหม่ของพลกับนิกร ชื่อ คุณกิมหงวน ไทยเทียม"
"นี่มันคนที่กินหล้าอยู่กับนิกรกับคุณพลนี่คะ"
"ถูกแล้วละ"
นันทาเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบกุญแจ แต่แล้วก็ชะงัก เมือเห็นซองจดหมายที่เปิดแล้ว จ่าหน้าว่า พลสหายรัก
ประไพถาม
"จดหมายใครคะ"
"ของพลจ้ะ คงลืมไว้ ไหนดูสิ ใครเขียนมา
นันทาหยิบจดหมายออกมาอ่าน และเริ่มขมวดคิ้ว ของขึ้น หัวใจเต้นตุ้บๆด้วยความแค้น
"ฮะๆ สำคัญนัก แหม ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเกิดการสำมะเลเทเมาถึงเพียงนี้"
"อะไรคะ พี่นัน"
"ดูสิ น้องไพ ผัวของเราช่างชั่วเหลวแหลกที่สุด นี่เป็นจดหมายที่นายกิมหงวนบ้านั่นเขียนมา อ่าน
สิ"
นันทาส่งให้ประไพอ่าน ประไพหน้าเริ่มตึงด้วยความโกรธ
"ฮึ"
นันทาเดินกระสับกระส่ายไปมา
"บ้าที่สุด นี่เราจะปล่อยให้ผัวของเราเปิดฮาเร็มหรือ"
"ไม่ต้องวิตกพี่นัน น้องมีวิธีที่จะทำลายฮาเร็มนี้ซะให้สิ้นซาก"
"ทำยังไง ไหนบอกพี่สิ"
"นายจีนหัวหงอกเจ้าของคณะระบำโป๊มหาวินาศน่ะ น้องรู้จักดีค่ะ แกไปบ้านเราบ่อยๆ" ประไพบอก
"หา! เจ้าคุณอาก็ชอบดูระบาโป๊เหรอ"
ประไพสะดุ้ง
"เปล่าค่ะ แกเป็นลูกหนี้คุณพ่อตั้งหลายพัน"
"แล้วเราจะทำยังไง"
"ก่อนอื่นเราต้องไปหาผู้ร่วมมือค่ะ เอาให้เจ็บแสบเชียว"
"ใครกันจ๊ะ"
ภายในห้องซ้อมคณะระบำโป๊มหาวินาศ เวลาต่อมา จีนหัวหงอก หน้าซีดเผือดต่อหน้าสามสาว
"ผมไม่กล้าหรอกครับ อาเสี่ยเตะผมตายแน่"
นันทา นวลลออ ประไพหน้าถมึงทึง
"จะโดนอาเสี่ยเตะหรือโดนชั้นหักแขนหักขาให้พิการตลอดชีวิต เลือกเอา" นวลลออ
จีนสะดุ้ง
"หรือจะให้ไพโทร.ไปบอกคุณพ่อจะได้ฟ้องเอาเงินคืนซะเลย"
"ไอ้หยา อย่านะครับคุณไพ อย่าบอกท่านเจ้าคุณนะ"
"ตกลงยอมแล้วใช่มั้ย"
"ยอมแล้วครับ"
สามนางพยักหน้าให้กัน
"งั้นก็ทาตามที่พวกเราบอกนะ เถ้าแก่ เรามีเวลาไม่มาก" นวลลออบอก
"คับ คับ"
ภายในบ้านเช่า เวลากลางคืน วงยาสแบนด์บรรเลงอยู่ สามเกลอนั่งอยู่ที่โซฟา มีเหล้าและกับแกล้มวางอยู่ตรงหน้า ท่าทางแต่ละคนเริ่มมึนๆกันแล้ว จีนหัวหงอกเข้ามา ในชุดสากลเรียบร้อย
"มากันแล้วครับ ช้าไปหน่อย แต่ไม่ต้องกลัวครับ เราจะแสดงระบำโป๊อย่างเต็มที่เลย"
จีนหัวหงอกหัวเราะอย่างกร่อยๆ สามเกลอลุกขึ้น
กิมหงวนถาม
"ไหนละ พี่จีน นางระบำน่ะ"
จีนตบมือ
"เอ้า สาวๆเข้ามาเร็ว"
สาวๆหกคน เข้ามา ในชุดระบำแขกปิดหน้า ในจำนวนนี้สามคนคือ นันทา นวลลออ และประไพ นันทาชุดฟ้า
ประไพชุดม่วง นวลลออชุดเหลือง นางระบำจริงใส่ขุดขาวทองทั้งสามคน
" เข้าไปในห้องก่อนซีจ๊ะ เดี๋ยวถึงจะแสดง" จีนบอก
พลหัวเราะ
"ขนาดปิดหน้ายังสวยขนาดนี้ เปิดแล้วจะสวยขนาดไหน"
นันทามองลอดผ้าโปร่งออกมาเห็นแล้วกลั้นโทสะไม่ได้จึงเอื้อมมือไปหยิกแขนพลอย่างแรง แล้วเดินชดช้อยเข้าห้องไป
พลหัวเราะ
"ฝากไว้เถอะ เดี๋ยวจะจูบให้แก้มขาดทีเดียว"
"ฮึ"
ประไพเดินผ่านนิกรใช้ศอกกระทุ้งดังอี้ก นิกรสะดุ้ง
"แหม สาวๆคณะนี้เค้าหยอกกันแรง" นิกรบอก
นวลลออกำหมัดแน่นชกไปที่ท้องอาเสี่ยดังตุบ
"โอย แหม มือหนักจัง แม่น้องสาว คืนนี้หล่อนคงไม่รอดชั้นหรอก เดี๋ยวจะเจี๊ยะให้หมดเลย"
สามเกลอหัวเราะกระหยิ่มยิ้มย่อง
อ่านต่อหน้า 4
พล นิกร กิมหงวน เดอะมิวสิคัล ตอนที่ 6 ตอน กลัวเมีย (ต่อ)
ภายในห้องพักนักระบำข้างๆ กลางคืน ในห้องมีโต๊ะวางเครื่องดื่มไว้ นันทารินเหล้าใส่แก้ว สามสาวยกแก้วเหล้าชนกัน
นันทาบอก
"เพื่อเป็นที่ระลึกในการปราบผัวของเราค่ะ"
เวลาต่อมา
"และต่อไปนี้ขอเชิญชมการแสดงระบำหน้าท้องจากคณะระบำโป๊มหาวินาศครับ"
นายจีนและครธเปิดการแสดง วงยาสแบนด์เริ่มบรรเลง
สามสาวนักระบำจริงเข้ามา เต้นอยู่นิดนึงแล้วเปิดทางให้สามนางเต้นส่ายสะโพกเข้ามา นักระบำจริงไปนั่งทำท่าร่ายรำประกอบอยู่กับวง
สามเกลอร้อง
"วู้ปี้ๆ"
นิกรถาม
"แหม แม่คนนั้นชุดฟ้าสวยจังเลย ชื่ออะไรนะพี่จีน"
"เอ้อ ชื่อนันทาครับ"
"วะ ชื่อเหมือนพี่สาวชั้นเลย สวยมั้ย"
"สวยครับ ถ้าเห็นคุณเป็นต้องตกใจทีเดียว"
"คืนนี้ แม่นันนี่จะต้องเป็นของอั้ว"
จีนหลับตาปี๋
"ไม่ดีมั้งครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นแม่ชุดม่วง"
"คนนั้นน่ะยังไงก็ไม่พ้นมือคุณหรอกครับ"
"หรือจะเอาชุดเหลืองดี"
"เอ้อ คนนั้นไม่แนะนำครับ"
พลบอกกับกิมหงวน
"เฮ่ย กันชักติดใจแม่คนชุดเหลืองซะแล้ว"
"นั่นสิ กันก็ชอบแม่ชุดม่วง" กิมหงวนบอก
ทั้งสามกระโดดขึ้นไปเต้นคู่ นิกรคู่นันทา กิมหงวนคู่ประไพ และ พลคู่นวลลออ
เพลง "รักจากใจ" (คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน)
สามนาง "แจ่มจันทร์คืนวันเพ็ญ"
สามเกลอ "เด่นงาม เด่นงาม"
สามนาง "สุขดวงใจในยามพบความรักชื่นรื่นรมย์"
สามเกลอ "แต่ดวงจันทร์งามตา"
สามนาง "น่าชม น่าชม"
สามเกลอ "ไม่ชวนเชิญอารมณ์เหมือนชมพักตร์นางเด่นกว่า"
นิกรพยายามจะจูบ นันทาผลักไป
สามนาง "ปากหวานไม่นานคงขมต้องตรมอุรา"
สามเกลอ "ขวัญตาขวัญเอย สัญญารักภักดีแน่ไม่แปรเปลี่ยนใจ"
สามนาง "รักจริงดังคำ"
สามเกลอ "หวานฉ่ำดูดดื่ม"
สามนาง "อย่าลืม อย่าจางร้างไกล"
สามเกลอ "สุดรัก สุดห่วงอาลัย รักจากหัวใจ สุดหวง"
พลเข้าไปจะกอดนวลลออ
"ขอกอดทีจ้ะ"
นวลลออชกหูกลับ
"โอ๊ย ทำไมดุอย่างนี้"
"ล้อเล่นค่ะ"
สามนาง "ปากว่ารักแต่ใจ"
สามเกลอ "ไม่ลวง ไม่ลวง"
สามนาง "หน่อยจะพาเจ็บทรวง รักลวงเพียงแนบแอบอิง"
กิมหงวนยื่นหน้ามา ประไพเอานิ้วทิ่มตากิมหงวน
สามเกลอ "ปากชายตรงกับใจ"
สามนาง "ไม่จริง ไม่จริง"
สามสาวศอกเข้าให้
สามเกลอสะดุ้ง
"เชื่อเถอะแม่ยอดหญิง รักจริงดังใจปากเอ่ย"
สามนาง "ถ้อยคำตั้งหมื่นคำนี่มิมีจริงเลย"
สามนางหยิก
สามเกลอสะดุ้ง "ขวัญเอยสาบาน หวังเชยแม้ใจไม่แน่ให้พี่แก่ตาย"
สามนางทุบพลั่ก
สามนาง "ล้อกันทำไม"
สามเกลอวิ่งไล่
สามเกลอ "รักใคร่ หยอกหน่อย"
สามนาง "พี่คอยแต่ทำให้อาย"
สามนางตบฉาด
สามเกลอ "จะรักจนชีพสลาย"
พร้อมกัน "รักไม่รู้คลาย มั่นคง"
กิมหงวนเข้าไปหานวลลออ
"ขอกอดหน่อยสิจ๊ะ มามะมามะมา"
นวลลออจับทุ่มท่ายูโด
"โอ๊ย"
"เฮ่ย ทำไมรุนแรงกันอย่างนี้" พลถาม
สามสาวกระชากผ้าปิดหน้าออก
นิกรเหวอ
"พี่นัน"
"ตายห่า นัน นันจริงๆด้วย" พลว่า
นันเค้นหัวเราะ
"ก็นันน่ะซี"
นิกรเสียงสั่น
"น้องไพ"
กิมหงวนคลานลุกขึ้นเงยหน้ามองไปเห็นนวลลออที่ยกมือเท้าสะเอวตาถลน กิมหงวนร้องสุดเสียงแล้วคลานหนี
"นวล"
กลียุคเกิดขึ้นแล้ว นวลลออล็อกคอกิมหงวนไว้ ชก เตะ ถีบ กระทืบ ลงศอก หยิก ข่วน กัด พวกยาสแบนด์รีบทำเพลงเชิดสิงโตประกอบ
"ไอ้สุลต่านแต้จิ๋ว ทีหลังจะอุตริอีกมั้ย หา"
"โอย พอเถอะจ้ะ พอที ทีหลังชั้นไม่ทาแล้ว"
ประไพทุบนิกรอั้กๆๆๆๆ แล้วลากกลับบ้านไป
"กลับเดี๋ยวนี้ มันน่าตบให้นัยน์ตาหลุดซะจริงๆ"
"กลัวแล้วจ้ะ"
พลวิ่งหนีนันทาไปรอบๆ
"จะหนีไปไหน จะหนีไปไหน หา"
นันทาหยิบลูกแอปเปิลขว้าง
"โอย"
พลกุมหัวแล้ววิ่งหนีไป นันทาวิ่งตามตะโกนลั่น
" ตำรวจ จับผัวชั้นที ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย"
นวลลออกระชากผมอาเสี่ยที่นอนกองอยู่ขึ้นมา
"ไป ไปบ้านเดี๋ยวนี้"
นวลลออลากกิมหงวนไป พวกนักดนตรีและนางรำโห่ฮา
วันใหม่ ภายในบ้านไทยเทียม เสียงเคาะประตูห้องนอน นวลลออเดินมาเปิดประตู
"เอ้อ คุณนวลคะ มีคนมาพบอาเสี่ยค่ะ"
พลและนิกรยืนอยู่ด้วย ทั้งสองมีสภาพเหมือนคนไข้ที่หนีจากโรงพยาบาล ขอบตาซ้ายพลเขียวเท่าไข่เป็ด แขนขวามีผ้าพันและคล้องคอไว้ ส่วนนิกรปากแตกเจ่อ หน้าตาราวกับถูกแมวห้าตัวรุมข่วน มือซ้ายมีผ้าพันแผลรอบ
นวลลออเอามือทาบอกเมื่อเห็นสภาพของสองเกลอ
พล นิกรกระพุ่มมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
นวลลออรับไหว้
"มาเยี่ยม เฮียหรือคะ เชิญค่ะ"
นวลลออเปิดประตูกว้าง สองคนมองเข้าไปแล้วลืมตาโพลงเมื่อเห็นอาเสี่ย
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ดิชั้นสั่งสอนพอให้หลาบจำเท่านั้น"
กิมหงวนนอนแผ่อยู่บนเตียง ทั้งตัวพันแผลไว้ราวกับมัมมี่ เหลือแต่ลูกนัยน์ตา เสี่ยพยายามส่งเสียงอ้อแอ้แต่พูดไม่ถนัด พลและนิกรมองเพื่อนน้ำตาคลอ
"โธ่ ไอ้เสี่ย"
พลและนิกรเอามือปาดน้ำตาตัวเอง นิกรถึงกับทนไม่ไหวสะอื้นออกมา
อ่านต่อตอนต่อไป ทุกวัน อังคารและพุธ