รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 11
ณัฐยังตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณัฐเอามือจับหน้าที่เพิ่งโดนพอลเสยมาอย่างงงๆในความหมัดหนักของพอล พอลมองลูกจันด้วยสายตาห่วงใย
พอลถามเสียงอ่อนโยน “เป็นไงบ้าง”
ลูกจันเริ่มตั้งสติได้ “ไม่เป็นไร..แกมาทันพอดี”
พอลเอามือเช็ดคราบน้ำตาให้ลูกจันอย่างทะนุถนอม ณัฐมองอาการ"แมนออกนอกหน้า"ของพอลอย่างไม่เข้าใจ พอลหันกลับมามองณัฐด้วยแววตาโกรธแค้น พอลเดินย่างสามขุมไปหาณัฐ ณัฐถอยกรูด พอลเงื้อหมัดจะต่อยณัฐให้หนักแต่ลูกจันยื่นมือมารั้งหมัดของพอลเอาไว้
พอลหันกลับไปมองลูกจันอย่างไม่เข้าใจ ณัฐถือโอกาสนั้นวิ่งหนีไป
พอลหงุดหงิด “ห้ามฉันทำไม”
ลูกจันพูโดด้วยสีหน้าห่วงใยพอล “ฉันไม่อยากให้แกเจ็บตัวนี่”
“มันต่างหากที่ต้องเจ็บตัว”
“ไม่เอา..ฉันไม่อยากเสี่ยง..ฉันกลัวแกพลาด..เวลาเห็นแกเจ็บแล้วฉันนอนไม่หลับ”
พอลมองลูกจันด้วยแววตาที่อ่อนลง
“งั้นโทรแจ้งตำรวจให้จัดการแล้วกัน” พอลบอก
พอลเดินไปหยิบโทรศัพท์ ลูกจันรีบเดินมาหยิบโทรศัพท์ออกจากมือพอล พอลหันมองลูกจันอย่างโมโหปนงอน
“ทำไม..รักมันมากจนต้องปกป้องขนาดนี้เลยเหรอ”
ลูกจันยิ้มมุมปาก
“เปล่า!!!...แต่ฉันเตรียมวิธี"จัดการ"เอาไว้แล้วตะหาก”
พอลมองหน้าลูกจันอย่างสงสัยใน"วิธีจัดการ"
ลูกจันเชิดหน้านางร้าย “จำไว้นะพีท..คนอย่างลูกจัน..เรื่องคาน ไม่แคร์ เรื่องแค้น ไม่ลืม”
พิธีกรหญิงในทีวีกำลังอ่านข่าวซุบซิบเซเลบ
"เพิ่งเป็นฮีโร่ช่วยคนแก่จากการโดนข่มขืนมาหมาดๆ..แต่ชีวิตจริงของคุณณัฐ บก.หนุ่มรูปหล่อกลับเจอเรื่องร้ายซะเอง...ล่าสุดวงในแอบกระซิบว่าแผนวิวาห์กับลูกสาวรัฐมนตรีล่มกลางคันซะแล้วเพราะว่าที่เจ้าสาวเพิ่งจับได้ว่าถูกนอกใจ..เนื่องจากฝ่ายชายแอบกุ๊กกิ๊กอยู่กับคุณลูกจัน บก.สาวสวยแห่งเซเลบ...แถมแหล่งข่าวเค้าว่า คู่นี้เคยคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอีกต่างหาก...อุ๊ยตาย..แบบนี้เค้าเรียกว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่เป็นหุ้นส่วนทางหัวใจใช่มั้ยคะเนี่ย???"
พิธีกรสาวยังคงวิเคราะห์ข่าวต่ออย่างเมามัน พีทมีท่าทางช็อคกับข่าวที่เพิ่งรู้ พีทกดรีโมทปิดทีวีแล้วนั่งเหม่อคิดถึงเรื่องราวระหว่างตัวเองกับณัฐ
เหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา
วันนั้น พีทกำลังนั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารหรู บ๋อยเดินเข้ามาพร้อมไวน์1แก้ว
“ผมไม่ได้สั่งนี่ครับ”
“คุณผู้ชายโต๊ะโน้นฝากมาให้ครับ” บ๋อยบอก
พีทหันไปมองตามทางที่บ๋อยบอก
พีทเห็นณัฐกำลังมองตรงมาที่เขาพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พีทยิ้มตอบอย่างรู้สึกดีกับณัฐมาก ณัฐชูแก้วเครื่องดื่มในมือ พีทชูตอบ
เวลาผ่านไป แก้ว2 ใบชนกันเพราะณัฐย้ายมานั่งโต๊ะเดียวกับพีทเรียบร้อยแล้ว ณัฐและพีทคุยกันอย่างถูกคอ พีทมีดวงตาเป็นประกายอย่างมีความสุขมาก
พีทกำลังนั่งทาแฮนด์ครีมพร้อมฮัมเพลงอย่างมีความสุข ลูกจันเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ
“มีความสุขจริงนะยะ” ลูกจันแซว
พีทยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเว่อร์
“ก็..ก็นานๆได้พักที..ก็ต้องมีความสุขสิ”
“ย่ะ...พ่อพระเอกคิวทอง”
ลูกจันหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน พีทเหลือบมองหน้าลูกจันอย่างครุ่นคิดแล้วตัดสินใจเอ่ยถามค่อยๆ
“เอ่อ..ลูกจัน..ได้ข่าวว่ายอดขายเล่มล่าสุด เซเลบขึ้นอันดับ1อีกแล้วเหรอ”
ลูกจันยิ้มภูมิใจ “ใช่”
“ขึ้นอันดับ1 ทุกเล่มแบบนี้..คงไม่มีใครจะกล้ามาเป็นคู่แข่งแกได้หรอกเนอะ”
ลูกจันหน้ากระตุกขึ้นมาทันที “มีสิ..ไลม์ไง”
พีทหน้าเสีย
“แหม...ยอดขายแกทิ้งห่างเค้าตั้งเยอะ..จะไปถือว่าเค้าเป็นคู่แข่งทำม้าย ยังไงก็คนในวงการเดียวกัน..น่าจะดีๆกันเอาไว้นะ”
ลูกจันทิ้งหนังสือในมือลงอย่างอารมณ์เสีย
“ไม่มีวันที่ฉันจะญาติดีกับไลม์”
“แต่บก.เค้าก็ดูนิสัยโอเคนะ” พีทบอก
ลูกจันหันขวับมาทางพีท
“อย่าบอกนะว่าแกเคยคุยกับ...” ลูกจันไม่อยากเอ่ยชื่อ “บก.ไลม์”
พีทหลบตาลูกจัน
“ปละ..เปล่า..เคยเห็นเวลาไปงานน่ะ”
“ก็ดีแล้ว...ไม่ต้องไปเสวนาด้วยเลยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะคนๆนั้น..เป็นคนที่ฉันเกลียดไง”
พีทมีสีหน้าไม่สบายใจ ลูกจันลุกเดินออกไปอย่างหงุดหงิด พีทค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ ..."คืนนี้เจอกันที่เดิมนะครับ....ณัฐ" พีทเครียดเพราะความรักเพื่อนกับความรักส่วนตัวกำลังตีกันอย่างรุนแรง
แสงเทียนบนโต๊ะสุดโรแมนติค ณัฐกับพีทนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงในมุมส่วนตัว พีทมีแววตาที่บ่งบอกชัดเจนว่ารักเค้าเข้าซะแล้ว
พีทมองณัฐที่นอนเปลือยอกหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ใบหน้าของณัฐหล่อเหลาราวเทพบุตรกรีก พีทมองด้วยแววตาทั้งรักทั้งหลง พีทลุกแล้วลงจากเตียง
เวลาผ่านไป ณัฐทำจมูกฟุดฟิดเพราะได้กลิ่นหอมของกาแฟ ณัฐลืมตาก็เห็นพีทกำลังเอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงเตียง ณัฐเอื้อมมือไปลูบมือพีทเบาๆ
“ขอบคุณครับ”
พีทยิ้มรับคำขอบคุณอย่างมีความสุขแล้วกุลีกุจอปรนนิบัติณัฐเต็มที่ ณัฐแอบยิ้มด้วยแววตาร้าย
พีทกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับลูกจัน
“แผนประกวดเซเลบแมนเหรอ?...ได้สิ..แกเมล์มาได้เลย..เดี๋ยวฉันจะช่วยคอมเมนต์ให้...” พีทฟัง “รู้น่าว่าเป็นโปรเจคต์ใหญ่ยักษ์..รับรองว่าจะเก็บเป็นความลับสุดยอดจ้ะ”
พีทวางโทรศัพท์ ณัฐเดินเข้ามา
“วันนี้อยากทานสปาเกตตี้ฝีมือคุณจัง” ณัฐว่า
พีทยิ้มหวาน “ได้สิครับ”
“แต่เส้นสปาเกตตี้หมดแล้วนะครับ”
“เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ครับ” พีทบอก
ณัฐเดินเข้ามาซบไหล่พีทอย่างอ้อนๆ
“ขอบคุณนะครับที่รัก”
พีทยิ้มอย่างชื่นใจ
พีทรีบลุกเดินจะออกไปซื้อเส้นสปาเกตตี้อย่างกระตือรือล้น
ณัฐเรียก “พีท”
พีทหันกลับมามอง
“ไม่ต้องรีบนะครับ” ณัฐบอก
พีททำหน้าสงสัย
“คือ...ผมกลัวคุณขับรถเร็วแล้วจะเกิดอุบัติเหตุน่ะ...เป็นห่วง”
พีทยิ้มกว้างอย่างชื่นใจ “ครับ”
พีทออกจากห้องไป ณัฐยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วณัฐก็เดินไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเปิด
ลูกจันโกรธมาก
“เลวมาก...มันชิงตัดหน้าจัดประกวดไลม์แมนก่อน..ฉันเลยต้องยกเลิกโปรเจคต์เซเลบแมน”
พีทอึ้ง “อ้าว!”
“แล้วแกรู้มั้ย...รายละเอียดการประกวดของไลม์..เหมือนกับที่เซเลบเตรียมไว้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์...ฉันว่าต้องมีเกลือเป็นหนอนแน่ๆ”
พีทหน้าเครียด
ณัฐทำหน้าไม่พอใจ
“แล้วไง??...คุณเลยคิดว่าผมขโมยข้อมูลเซเลบไปจากคุณเหรอ?”
พีททำหน้าลำบากใจ
“เปล่า...ผมไม่ได้คิดแบบนั้น...แค่สงสัยว่าทำไมรายละเอียดงานประกวดของคุณมันถึงเหมือนกับของลูกจันขนาดนั้น”
ณัฐเก๊กหน้าโกรธ
“ทำไม?..เพื่อนคุณเก่งอยู่คนเดียวรึไง?...ผมไม่มีสิทธิจะคิดได้แบบเพื่อนคุณเลยรึไง?”
พีทหน้าเสีย ณัฐได้โอกาสก็ยิ่งทำเป็นฮึดฮัด
“ถ้าคุณกลัวว่าผมมาคบกับคุณเพราะจะขโมยข้อมูลหนังสือของเพื่อนคุณ...เราเลิกคบกันก็ได้”
ณัฐลุกขึ้นเดินไปที่ประตูด้วยความโมโหมาก พีทรีบถลาตามณัฐมากอดณัฐจากข้างหลังไว้แน่น แล้วละล่ำละลักพูดกับณัฐอย่างคนที่กลัวการสูญเสีย
“ผมขอโทษ...ผมจะไม่ทำให้คุณไม่สบายใจอีกแล้ว...อย่าทิ้งผมไปนะ”
ณัฐยิ้มมุมปาก
เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต พีทก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งเข้าใจ
“ที่แท้คุณก็ตั้งใจจะหลอกใช้ผมอยู่แล้ว”
พีทหันมองไปทางรูปลูกจันที่แอบเอามาจากบ้าน
“ขอโทษนะลูกจัน”
พีทหน้าเศร้าเพราะรู้สึกผิดต่อเพื่อนรัก
ลูกจันกำลังค่อยๆดึงไม้ออกจากไม้ที่ต่อเรียงกันขึ้นเป็นเกมส์
ลูกจันยิ้มเพราะดึงแล้วไม่พัง “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันไม่หวั่นไหวกับเค้าแล้ว”
พอลยิ้มกว้าง
“แสดงว่า...แกไม่ได้รักเค้าแล้ว”
พอลค่อยๆดึงไม้ออกอย่างสบายใจ
ลูกจันตอบหนักแน่น “ใช่”
ลูกจันยิ้มก่อนดึงไม้ชิ้นใหม่ออก พอลทำหน้าแฮปปี้เว่อร์
ลูกจันมองพอลอย่างขอโทษ “ขอโทษนะพีทที่ฉันปิดบังแก..ต่อไปฉันจะบอกความจริงแกหมดทุกอย่างนะ”
พอลยิ้มแล้วพยักหน้ารับคำลูกจันก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปดึงไม้ชิ้นใหม่
“แล้วแกก็ต้องบอกความจริงฉันทุกอย่างด้วยนะ”
พอลมือกระตุกจนหอคอยไม้พังลงทั้งแถบ ลูกจันทำหน้างงที่พอลมือหนักกะทันหัน
“อ้าว...พังหมดเลย”
ลูกจันรีบก้มเรียงใหม่ พอลมองลูกจันอย่างรู้สึกผิดที่ต้องปิดบังความจริงกับลูกจันต่อไป
ณัฐกำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในคืนปล้ำลูกจันแล้วพอลโผล่เข้ามาช่วยแล้วเขาก็แค้น
ณัฐรำพึง “รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว”
ณัฐเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะแล้วหยิบรูปถ่ายมา1ใบ รูปในมือณัฐคือภาพพีทที่นอนหลับกอดณัฐอยู่ในสภาพเปล่าเปลือย ณัฐยิ้มเหี้ยม
ภาพจากทีวีเป็นภาพนิ่งพีทนอนเปลือยอยู่ข้างๆผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกทำโมเสคปิดหน้าไว้ พิธีกรรายการซุบซิบเซเลบกำลังเมาท์เมามัน
“อุ๊ย...จะเป็นลมค่ะ...ทางเราได้สูญเสียทรัพยากรชายที่มีคุณภาพไปอีกคนนึงแล้ว...ทั้งหล่อ ทั้งมีพรสวรรค์ ทั้งนิสัยดี...แต่ไม่มีใจให้ชะนีอย่างเรา...ตอนนี้นักข่าวก็กำลังพยายามติดต่อคุณพีทอยู่นะคะคุณผู้ชมว่าตกลงผู้ชายในรูปเป็นใคร..แต่ก็ยังติดต่อคุณพีทไม่ได้...ที่แน่ๆรูปนี้เป็นรูปจริงไม่ใช่รูปในละคร..เพราะฉะนั้นก็ยืนยันว่าข่าวที่เคยซุบๆซิบๆเรื่องคุณพีทไม่แมน...ก็ฟันธงตามนั้นเลยค่ะ”
พอลกำลังนั่งดูทีวีอย่างไม่สบายใจเพราะเป็นห่วงความรู้สึกพีท ลูกจันเดินคุยโทรศัพท์เข้ามา
“ค่ะ...เข้าใจค่ะ...แล้วจะบอกพีทให้นะคะ”
ลูกจันหน้าเครียด เธอวางหูแล้วเดินมาหาพอล
“ละครกับหนังที่แกรับไว้เค้าขอระงับการถ่ายทำไว้ก่อน..เพราะต้องไปคุยกับทางช่องและทางสปอนเซอร์ก่อนว่าจะทำยังไงกับ...เอ่อ...” ลูกจันไม่สบายใจที่จะพูด “..เอ่อ..รูปที่หลุดออกมา”
พอลพยักหน้ารับรู้
“ส่วนพวกสินค้าที่ติดต่อแกเป็นพรีเซนเตอร์ก็ขอเลื่อนเซ็นสัญญาไปจนกว่าแกจะแก้ปัญหาได้”
ลูกจันเอื้อมมือไปจับมือพอลไว้อย่างให้กำลังใจ
“ไม่ต้องห่วงนะพีท...แล้วมันก็จะผ่านไป”
พอลและลูกจันสบตากันพร้อมยิ้มให้กันและกันอย่างคนที่รักและเข้าใจกัน
อ่านต่อหน้าที่ 2
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 11 (ต่อ)
พีทที่เอาเฝือกออกแล้วกำลังนั่งดูรายการซุบซิบเซเลบอยู่เหมือนกัน พีทเสียใจจนกลายเป็นแค้น
พีทรำพึง “มันจะมากไปแล้ว”
ต๋อย แซนดี้ และอุ่นเรือนกำลังนั่งคุยเรื่องพีทอย่างไม่สบายใจ มินตราเดินเข้ามาพร้อมไอแพด
“นี่ทุกคน...ได้เข้าพันทิปรึยัง...ตอนนี้นักสืบพันทิปกำลังขุดประวัติพีทกันใหญ่..แซ่บมากก....อ่านดิๆ” มินตรายื่นไอแพดให้ทุกคน
“ประวัติพี่พีทจะเป็นยังไงพวกเราไม่สนใจหรอกค่ะ” จุ้มจิ้มว่า
มินตราหันไปมองจุ้มจิ้มอย่างไม่พอใจ อาร์ตเดินเข้ามาแล้วพูด
“ใช่..พี่พีทจะเพศอะไรก็ไม่สำคัญด้วย..อยู่ที่ว่าเค้าเป็นคนดีรึเปล่าตะหาก”
ต๋อยพูดกับมินตรา “ซึ่งพวกเราทุกคนมั่นใจว่า..คุณพีทเป็นคนดีค่ะ”
มินตราจ๋อยที่ไม่มีใครร่วมเมาท์ด้วย
“เอ้า..แยกย้ายกันไปทำงานดีกว่าพวกเรา...ยอดขายตกมา2เล่มแล้วเนี่ย”
พูดจบต๋อยก็สะบัดหางตาเชือดนิ่มๆไปทางมินตราเพื่อให้เข้าใจว่ายอดตกเพราะหล่อนนะยะ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงาน มินตรากัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกคันปากแต่หาคนเมาท์ด้วยไม่ได้ ปีโป้เดินผ่านมา
มินตราดีใจ “ปีโป้ๆ...นี่ดูรูปดิ” มินตรายื่นไอแพดให้ปีโป้ “อี๋...โชคดีนะที่ฉันไม่หลวมตัวไปคบด้วย..ไม่งั้นอายคนตาย...จู่ๆแฟนกลายเป็นเก้ง”
ปีโป้ทำหน้าเย็นชาและไม่ยอมดูไอแพดในมือมินตรา
“เท่าที่เห็น..คุณพีทเค้าไม่เอา"คุณมิน"เองนะคะ” ปีโป้ว่า
มินตราช็อคกับคำพูดตรงไปตรงมาของปีโป้
ปีโป้พูดต่อ “ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ..พอดีมาทำงานค่ะ..ไม่ได้มาเมาท์เรื่องชาวบ้าน”
ปีโป้เดินเชิดออกไปจากห้อง มินตรายืนอ้างว้างเดียวดายเพราะไร้คนเมาท์ด้วย
ณัฐที่กำลังเดินอยู่สะดุ้ง และเหงื่อแตก บอดี้การ์ด 2 คนกำลังยืนประกบณัฐ
“ท่านรัฐมนตรีอาคมอยากเชิญคุณไปคุยด้วยซักครู่...หวังว่าคุณคงให้เกียรติท่านนะครับ”
ณัฐถูกปืนจ่ออยู่ที่เอว ณัฐกลืนน้ำลายเอื๊อก
ณัฐนั่งตัวเกร็งอยู่หน้ารัฐมนตรีอาคม ข้างหลังของเขาถูกประกบด้วยบอดี้การ์ด 2 คน รัฐมนตรีอาคมมองณัฐยิ้มๆ แต่แววตาเหี้ยม
“ที่จริงผมก็เคยเตือนยายอรแล้วว่าให้ดูดีๆ...แต่คุณมันหล่อนี่นะ..ดูกี่ทียายอรก็เลยไม่เห็นตัวจริงคุณซักที”
ณัฐหน้าซีด
“ที่ผมเชิญคุณมาวันนี้..เพราะอยากจะขอบใจที่คุณช่วยเผยตัวจริงให้ลูกผมเห็น...ยายอรจะได้ตาสว่าง”
ณัฐยิ้มแหยๆ ที่ถูกเรียกมาด่า “ครับท่าน”
“อีกเรื่อง...ผมเช็คบัญชียายอรแล้ว...เงินหายไปเกือบ20ล้าน”
ณัฐทำหน้ามีพิรุธ
“เห็นยายอรบอกว่า..เป็นเงินที่คุณยืมไปลงทุน...แต่ตอนนี้ผมคิดว่ายายอรคงไม่อยากลงทุนกับคุณแล้วล่ะ..ถ้ายังไงอาทิตย์หน้า ช่วยเอาเงินทั้งหมดไปคืนยายอรด้วยนะ”
ณัฐตกใจมาก
“อาทิตย์หน้า?...ผมจะหาที่ไหนทัน”
รัฐมนตรีอาคมพูดแทรก “อ้อ...ผมเจอคุณพ่อคุณแม่คุณที่คาสิโนบ่อยมากเลย...ติดหนี้อยู่เยอะนะ...น่าเป็นห่วง...ถ้าวันหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้นมา..ตำรวจคงเหนื่อยเชียว..เพราะเจ้าหนี้เยอะขนาดนั้น..ไม่รู้ว่าใครจะชิงลงมือก่อน”
รัฐมนตรีอาคมยืนขึ้นพร้อมเดินมาเอามือบีบไหล่ณัฐอย่างข่มขู่
“ผมไม่ชอบคนผิดเวลานะ”
รัฐมนตรีอาคมและบอดี้การ์ดเดินจากไป ณัฐเครียดมาก
ณัฐกำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ผมบอกให้ไปก็เชื่อผมเถอะครับ...เอาไว้ผมแก้ปัญหาได้เมื่อไหร่ค่อยกลับมา...ซื้อตั๋วบินไปคืนนี้เลยนะครับ...เดี๋ยวครับ” ณัฐเสียงเครือ น้ำตาคลอ “ผมรักพ่อกับแม่นะครับ”
ณัฐวางสายหน้าเศร้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ณัฐหันมองที่จอโทรศัพท์แล้วก็ขมวดคิ้ว
พีทกำลังคุยโทรศัพท์กับณัฐด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว
“ผมต้องการเงิน30ล้านคืน” พีทบอก
ณัฐเครียด
“คุณมีหลักฐานอะไรว่าผมเอาเงินคุณไป” ณัฐย้อน
พีทมีสีหน้าเจ็บปวดแต่พยายามข่มใจไว้
“หลักฐานการโอนเงินไง...แต่ถ้าคุณคิดว่ามันยังดูไม่น่าเชื่อถือ..ผมก็จะแถลงข่าว"เรื่องของเรา"ซะเลย”
ณัฐตกใจ
“อย่าทำอะไรโง่ๆนะพีท...ทำแบบนั้นเราจะหมดอนาคตกันทั้งคู่นะ”
พีทยิ้มเหยียดๆให้กับความเห็นแก่ตัวของณัฐ
“อนาคตของผมมันหมดไปตั้งแต่ที่คุณเอารูปมาปล่อยแล้ว...แต่ตอนนี้ใครๆเค้าก็คงอยากรู้กันใหญ่แล้วล่ะ..ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆผมน่ะ..เป็นใคร?”
ณัฐกระวนกระวายแล้วพยายามหว่านล้อมพีท
“อย่านะพีท..อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่” ณัฐทำเสียงออดอ้อน “ไหนคุณบอกว่ารักผมไง..คุณจะทำร้ายผมได้ลงคอเหรอพีท”
พีทยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ็บปวด
“ไม่มีใครยอมถูกทำร้ายอยู่ข้างเดียวตลอดไปหรอก..ขอบคุณนะที่ทำให้ผมหายโง่...พรุ่งนี้คุณเตรียมตัวตอบคำถามนักข่าวกับตำรวจเอาไว้ได้เลย...ลาก่อนคุณณัฐ”
พีทวางโทรศัพท์น้ำตาไหล แม้จะเจ็บแค้นแค่ไหนแต่ความรักก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดใจได้ง่ายๆ
ณัฐกำโทรศัพท์แน่นด้วยแววตาสับสนปนหวาดกลัว
พอลกำลังจิ้มไอแพด เขาพยายามขยายรูปผู้ชายที่เป็นหน้าโมเสคซึ่งนอนอยู่กับพีท
พอลรำพึง “คุ้นๆนะ”
โจรคนหนึ่งกำลังเล็งปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงไปที่พอล โจรกำลังจะลั่นไกแต่ก็มีมีมือปริศนามาปัดปากกระบอกปืนไปทางอื่น
กระสุนแหวกอากาศมาโดนหมอนดัง “ปุ!!”
พอลหันไปมองหมอนที่วางข้างๆ ก็เห็นหมอนเป็นรอยกระสุน พอลหันไปข้างหลังก็เห็นโจรกำลังยืนงงที่พีทโผล่มาข้างหลัง โจรหันไปมองข้างหน้าก็เห็นพอล พอมองข้างหลังก็เห็นพีท
โจรขยี้ตา “เฮ้ย...ไรวะ?”
พีทใช้ช่วงจังหวะโจรงงถีบโจรถลาไปข้างหน้า โจรกระเด็นมาอยู่หน้าพอล พอลหักข้อมือโจรยึดปืนเอาไว้ได้ พอลกำลังจะสาวหมัดใส่โจร แต่พีทเดินมาโดยทำท่าเจ็บขาข้างที่ถีบโจร
“โอ๊ย”
พอลหันไปมองพีทด้วยความเป็นห่วง
“พีท”
โจรถือโอกาสนั้นถีบพอลจนล้มลงแล้ววิ่งหนีไป พอลรีบลุกจะวิ่งไปหาโจรแต่ไม่ทันซะแล้ว พอลเห็นโจรขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป พอลหันไปมองพีทก็เห็นพีทนั่งจับขาตัวเองด้วยท่าทางเจ็บปวด
พอลมองพีทอย่างไม่สบายใจ
“ไหวมั้ยพีท”
พีทเงยหน้ายิ้มกับพอลแล้วใช้มือนวดบริเวณขาตัวเอง
“ไม่เป็นไร...แค่ตะคริวกินน่ะ...เข้าเฝือกมานาน..เพิ่งได้ออกกำลังครั้งแรก”
“ขอบใจมากนะพีท..ถ้าไม่ได้นายเราคงแย่” พอลบอก
“สบายมาก...” พีทคิด “ว่าแต่มันเป็นใครอ่ะ”
“ก็คงเป็นโจรทั่วไปมั้ง...คงกะจะมาขโมยของน่ะ”
พอลมองพีทด้วยสายตาห่วงใย
พอลถามด้วยเสียงอ่อนโยน “แล้ว...นายเป็นไงบ้าง”
พีทน้ำตารื้นเพราะตื้นตันในความรักของฝาแฝด
“เราโอเค...เลยอยากมาให้นายเห็นด้วยตาตัวเอง..ว่าเราโอเคแล้วจริงๆ”
พอลกวาดตามองพีทพร้อมสบตาเมื่อเห็นแววตาเข้มแข็งของพีท พอลก็ยิ้มสบายใจ
“เราดีใจที่นายโอเค” พอลบอก
“พรุ่งนี้เราจะแถลงข่าวเรื่องจริงทั้งหมดของเรา..และเราก็จะแจ้งความเรื่องเงินด้วย”
พอลมีท่าทางดีใจ เสียงลูกจันดังขึ้น “พีท”
พอลและพีทมองหน้ากันพร้อมคิดในใจว่าซวยแล้ว
ลูกจันเดินสะลึมสะลือลงบันไดมา
“ทำไมยังไม่ขึ้นไปนอน” ลูกจันถาม
“กำลังจะขึ้นไป” พอลพูดเสียงอ่อนโยน “แล้วลงมาทำไมเนี่ย”
“หิวน้ำ”
“เดี๋ยวนะ”
พอลวิ่งไปรินน้ำมาส่งให้ลูกจัน ลูกจันรับแก้วน้ำมาดื่มแล้ววางแก้วไว้
“ขอบใจนะ”
พอลยิ้มรับคำขอบคุณตาเป็นประกาย
“ขึ้นไปนอนกันดีกว่า” ลูกจันชวน
ลูกจันลากพอลให้ขึ้นบันไดไปพร้อมกัน พอลไม่มีทางเลือกจึงต้องเดินไปพร้อมลูกจันแต่ยังชะเง้อมองมาทางมุมหนึ่งของห้องที่พีทยืนแอบอยู่ พีทเห็นภาพความสนิทสนมระหว่างพอลกับลูกจันแล้วอดคิดไม่ได้
พีทรำพึง “พอล..ลูกจัน...ห๊า..หรือว่า..”
พีททำหน้าไม่อยากจะเชื่อเลย
ณัฐคุยโทรศัพท์อยู่กับโจรอย่างอารมณ์เสีย
“ไม่สำเร็จ??..ทำไม...” ณัฐฟัง “ห๊า..มีพีทสองคน???...ไอ้บ้าเอ๊ย...มึงเล่นยาก่อนไปทำงานจนตาฝาดใช่มั้ย?....มึงกลับไปใหม่เลยนะ...แล้วคืนนี้ต้องฆ่าไอ้พีทให้ได้..ไม่งั้นไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าอีก”
ณัฐวางหูจากโจรด้วยแววตาเหี้ยมโหดสุดๆ
โจรคนแรกเดินถือปืนลงบันไดบ้านพีทมาอย่างหงุดหงิด
โจรคนแรกตะโกน “ว่าไง...เจอมันมั้ย”
โจรคนที่สองและโจรคนที่สามเดินออกมาจากคนละมุมของบ้าน
“ไม่เจอเลยพี่”
โจรคนที่หนึ่งรำพึง “มันหายไปไหนวะ?”
ลูกจันที่นั่งอยู่บนรถมีสีหน้าตื่นเต้นเหมือนกำลังเล่นละครผจญภัย
“แล้วเราจะไปไหนกันดีพีท”
พอลมองค้อนๆ..หมั่นไส้ความ"ร่าเริงเกิน"ของลูกจัน
“นี่เรากำลังหนีผู้ร้ายอยู่นะ..ยังจะมาทำหน้าระรื่นอีก..ไม่กลัวรึไง”
ลูกจันมองพอลอย่างเชื่อมั่นแล้วยิ้มกว้างให้พอล
“ไม่!!...มีแกฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น”
พอลมองลูกจันอย่างซึ้งใจในความไว้วางใจที่ลูกจันมีให้ตนเอง
“แล้วหอบอะไรมาซะเยอะเชียว..บอกแล้วไงว่าค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้าก็ได้” พอลว่า
กระเป๋าใบใหญ่วางอยู่เบาะหลัง
ลูกจันยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอาน่า...แล้วแกจะรู้..ว่ามันมีประโยชน์แค่ไหน!”
พอลส่ายหัวเบาๆ เพราะเพลียกับความแผนเยอะของลูกจัน
“งั้นคืนนี้ไปหาที่พักกันก่อน..ขับรถตอนดึกมันอันตราย” พอลบอก
“แกจะไปพักที่ไหน”
“ก็คงต้องเป็นโรงแรมแหละ..เพราะถ้าไปพักกับคนรู้จัก..ผู้ร้ายมันอาจจะตามเจอ”
ลูกจันทำท่าครุ่นคิดประหนึ่งเป็นสิงห์สาวนักสืบ
“แต่ถ้าพักโรงแรม..ก็ต้องใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนเข้าพัก...ผู้ร้ายมันก็ตามเจอได้เหมือนกัน” ลูกจันคิดๆ “งั้นจะพักที่ไหนดีน้า..ที่ไม่ต้องแสดงตัว....อือ” ลูกจันคิดออก “รู้แล้ว”
ลูกจันทำหน้ามั่นใจมาก พอลไม่รู้ว่าคือที่ไหน
พอลเลี้ยวรถเข้าในม่านรูด ม่านถูกรูดปิด พอลกลอกตามองไปรอบตัวอย่างนอยด์ๆ เขานั่งตัวลีบอยู่บนเตียง ส่วนลูกจันกำลังเดินสำรวจไปรอบห้องอย่างร่าเริง
“ต๊าย...เริ่ด...กระจกเยอะดี...แต่งหน้าง่าย!”
พอลมองลูกจันอึ้งๆ ลูกจันเดินไปเจอขาหยั่ง
“เอ๊ะ...นี่อะไรอ่ะ”
ลูกจันเอามือลูบๆคลำๆ เอียงซ้ายเอียงขวาพิจารณาขาหยั่ง พอลทำหน้าลำบากใจว่าจะบอกว่าไงดี
“อ๋อ....สงสัยเตียงสระผม...ดีเนอะแกเนอะ..มีเตียงสระผมให้ถึงในห้องเลย..เริ่ดกว่าโรงแรมห้าดาวซะอีก”
ลูกจันดูปลื้มปริ่มบริการของม่านรูดมาก พอลพยักหน้ารับพร้อมยิ้มแหยๆ ลูกจันย้ายร่างมานั่งบนเตียงข้างพอล เตียงน้ำเด้งดึ๋งๆ ลูกจันปลื้มอีกแล้ว
“อุ๊ยตายแล้ว...เตียงเด้งดึ๋งดีจังแก...ท่าทางนอนสบายนะ”
พอลได้แต่ทำตาปริบๆ ลูกจันหยิบรีโมททีวีขึ้นมา
“ดูทีวีดีกว่า”
พอลอ้าปากจะห้ามลูกจัน
“อย่........”
ไม่ทันแล้วเพราะลูกจันกดรีโมทซะก่อน
ลูกจันดูทีวีแล้วก็ช็อคมาก เสียงจากทีวีเป็นหนังโป๊ญี่ปุ่น “ไฮกุๆ...อิไตๆๆ”
ลูกจันรีบปิดรีโมททันทีที่สติกลับมา
ลูกจันหันมาพูดกับพอลหน้าแหยๆ “เอ่อ...ไม่ดูดีกว่าเนอะ..มะไม่ชอบหนังญี่ปุ่นอ่ะ”
อ่านต่อหน้าที่ 3
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 11 (ต่อ)
พอลกำลังแอบโทรหาพีทในมุมหนึ่งของม่านรูด
“นายต้องซ่อนตัวไว้ก่อนนะ..อย่าเพิ่งออกมาแถลงข่าว...เรากำลังสงสัยว่าไอ้โจรเมื่อคืนมันไม่ใช่แค่โจรธรรมดา...มันเล่นหนักถึงขั้นจะเก็บนายเชียวนะพีท”
พีทแค้นมาก “แล้วทำไมนายไม่บอกเราตั้งแต่เมื่อคืน”
“เราเป็นห่วงนาย...เพิ่งหายดี..ถ้าต้องหนีคงไม่สะดวก..เราจะเป็นตัวล่อมันเอง...ส่วนนายซ่อนอยู่ที่เดิมกับป้าภา..อย่าเพิ่งติดต่อใครทั้งนั้น...อ้อ..เดี๋ยวเราจะจอดรถทิ้งไว้...นายให้คนมารับรถไปด้วย...ปลอดภัยเมื่อไหร่เราค่อยติดต่อนายมาอีกที”
พีทมีหน้าตาไม่สบายใจ
“ดูแลตัวเองกับลูกจันดีๆนะพอล”
“อือ...ไม่ต้องห่วง...เออ..แล้วนายจะบอกเราได้รึยังว่าไอ้คนที่มันเอาเงินนายไปแล้วก็ทำร้ายนายน่ะมันเป็นใคร”
พีทอ้าปากจะบอกความจริงกับพอล “ก็.....”
ทันใดนั้นก็มีเสียงของตกแตกดังเพล้ง พีทหันไปมองตามเสียงแล้วก็ตกใจมาก
“ป้าภา!!”
พีททิ้งโทรศัพท์วิ่งไปตามเสียง
พอลตกใจที่พีทเงียบไปเฉยๆ
“เกิดอะไรขึ้นพีท...พีท..ฮัลโหลๆ”
เสียงลูกจันดังขึ้น “พี๊ท...อยู่ไหนอ่ะ...พีท”
พอลตะโกนตอบลูกจัน “อยู่นี่”
พอลจำใจต้องวางหูไปอย่างไม่สบายใจ พอลเดินกลับเข้าไปในห้อง
ณัฐกำลังคุยโทรศัพท์กับโจรอย่างของขึ้นสุดๆ
“ไอ้โง่...งานง่ายๆแค่นี้พวกมึงยังทำพลาดแล้วจะทำงานใหญ่ได้ยังไง...” ณัฐพยายามสงบสติอารมณ์ “มึงไปสืบมาให้ได้นะว่ามันหนีไปที่ไหน...เดี๋ยวกูจะจัดการมันเอง”
ณัฐวางหูโทรศัพท์ด้วยสีหน้าทั้งเครียดและทั้งแค้น
ภายในม่านรูด กระเป๋าที่ลูกจันหยิบมาจากบ้านถูกเปิดออกมีอุปกรณ์การแต่งหน้าและเสื้อผ้าแปลกๆกระจายอยู่ ลูกจันกำลังทำอะไรบางอย่างง่วนอยู่กับพอล
“เสร็จแล้ว” ลูกจันบอก
พอลหันไปดูตัวเองในกระจกแล้วสะดุ้งโหยง เขาเห็นเงาตัวเองในกระจกทั้งผมยาวและหนวดเฟิ้มเหมือนตัวจริงก่อนปลอมเป็นพีทเป๊ะ
“ดูดีนะ...แมนเชียะ”
พอลยิ้มอายๆ ปลื้มเล็กๆ เขาช้อนตามองลูกจันพร้อมชะงักก่อนจะถามลูกจันด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“ว่าแต่...ของแกน่ะ..แน่ใจนะว่า..ไม่เยอะไป?”
ลูกจันหันมามองกระจก ลูกจันทาหน้าสีดำราวกับนิโกร ผมเกล้าหลวมๆแบบชาวบ้าน
“ไม่เย๊อะ..กำลังดีนะฉันว่า”
พอลมองเหล่ๆ
พอลพูดประชด “อือ...ระวังจะน้อยไปนะ”
ลูกจันดูเครียดขึ้นมาทันที “น้อยไปเหรอ?” ลูกจันคิดหนัก “รู้แระ”
ลูกจันวิ่งเข้าห้องน้ำไป พอลส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาแล้วหันมาเช็คหนวดและผมของตัวเองต่อ
“พร้อมแล้ว” ลูกจันบอก
พอลหันหน้าไปมองแล้วก็อึ้งมาก เขาเห็นลูกจันเพิ่งไปยัดท้องปลอมมาซะใหญ่ราวกับคนใกล้คลอด
ลูกจันถามพอลด้วยสีหน้ามั่นใจ “จบมั้ย?”
พอลตอบลูกจันด้วยสีหน้าระอามาก “จบเถ๊อะ!”
มินตรานั่งหน้าเครียดอยู่กลางที่ประชุม
“ทำไมยอดขายมันตกลงขนาดนี้?”
ทุกคนนั่งมองหน้ากันไปมา
“ฉันถาม...ทำไมไม่ตอบ”
มินตราหันมองอุ่นเรือน อุ่นเรือนหลบตา มินตราหันมองแซนดี้
แซนดี้พูด “คือ...ไม่รู้จะตอบยังไงนี่คะ”
มินตรามองจุ้มจิ้ม จุ้มจิ้มมองตอบมินตราอย่างไม่เกรงกลัว
“คำตอบเดียวกับแซนดี้ค่ะ”
มินตราทำหน้าไม่พอใจก่อนมองไปที่อาร์ต อาร์ตทำหน้ากวนใส่
“คำตอบเดียวกับจุ้มครับ”
จุ้มจิ้มหันมามองอาร์ตด้วยสายตาเย็นชา อาร์ตจ๋อย มินตรามองไปที่ต๋อยแล้วพูด
“แล้วระดับรองบก.ล่ะ...พอจะมีคำตอบมั้ย?”
ต๋อยพูดหน้านิ่งๆ..เชือดนิ่มๆ “คือ..มันก็ตอบยากนะคะ...แต่ถ้าจะให้เอาตรงๆก็คือ..หนังสือที่เราทำออกมามันคงไม่น่าซื้อน่ะคะ”
มินตราโกรธ
“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมมันน่าซื้อ?”
“อันนี้คุณมินคงต้องถามตัวเองแล้วมั้งคะ..ว่าทำไมคิดคอนเส็ปต์ดึงความสนใจลูกค้าไม่ได้เท่าบก.คนเก่า” ปีโป้ว่า
มินตราเจ็บใจถึงขีดสุดจึงตะโกน “ออกไป๊”
ทุกคนทรุดตัวนั่งบนโซฟาด้วยหน้าตาเพลียๆ
“คิดถึงลูกจันนะ” ปีโป้ว่า
ทุกคนหันมองหน้าปีโป้อย่างคาดไม่ถึง ปีโป้มองทุกคนด้วยแววตาที่บอกว่าผิดไปแล้ว
“ฉันพูดจริงๆนะ...อยากให้ลูกจันกลับมาอ่ะ”
ปีโป้น้ำตาคลอเพราะสำนึกผิด
ทุกคนหน้าเศร้าเพราะคิดถึงลูกจันเหมือนกัน
“แล้วนี่มีใครติดต่อคุณลูกจันได้รึยัง” ต๋อยถาม
ทุกคนส่ายหน้า ยกเว้นอุ่นเรือนที่หลบตาทุกคน
“จุ้มโทรไปทุกวันเลยค่ะ...แต่เหมือนพี่ลูกจันจะปิดมือถือเอาไว้ตลอดเลย” จุ้มจิ้มบอก
“ลองโทรเข้าเครื่องพี่พีทก็ปิดค่ะ..คงหนีนักข่าวอยู่” แซนดี้ว่า
ต๋อยหันไปมองอุ่นเรือนแล้วพูด
“แอนนี่ล่ะ..คุณลูกจันติดต่อมาบ้างมั้ย...คุณลูกจันเค้ารักและก็เป็นห่วงแอนนี่มากนี่...น่าจะโทรมาถามข่าวคราวบ้างสิ”
อุ่นเรือนมีแววตาละอายต่อความผิดของตัวเองจนน้ำตาคลอ
“เอ่อ...มะไม่ได้โทรมาเลยค่ะ”
ทุกคนเป็นห่วงลูกจัน
ทันใดนั้น พระประจำตัวของอาร์ตที่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อก็ดิ้นกุกกัก อาร์ตเอามือไปจับพระไว้ด้วยความสังหรณ์ใจว่าลูกจันกำลังต้องการความช่วยเหลือ
อาร์ตรำพึง “พี่ลูกจัน!”
พฤติกรรมทั้งหมดของอาร์ตไม่มีใครสังเกตเห็นเลยนอกจากจุ้มจิ้มคนเดียว
ลูกจันกับพอลเก็บเสื้อเสร็จเรียบร้อยเตรียมออกไปนอกห้อง โทรศัพท์มือถือของลูกจันที่ปิดเครื่องไว้ก็บังเอิญหล่นลงมา โทรศัพท์กระแทกขอบเตียงทำให้เครื่องเปิดเอง
โทรศัพท์ดังพอดี “กริ๊ง”
ลูกจันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วหันมาบอกพอล “อาร์ต!”
อาร์ตกำลังคุยโทรศัพท์กับลูกจัน
“ไม่ต้องห่วงครับพี่ลูกจัน..ผมจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแน่...แต่ตอนนี้พี่หลบไปอยู่ที่ๆผมแนะนำก่อนดีกว่า..เดี๋ยวผมจะส่งเบอร์คนที่จะดูแลพี่ให้นะครับ...” อาร์ตฟัง “ครับ..ติดต่อเค้าเสร็จพี่กับพี่พีทก็ปิดมือถือไปเลยนะพี่กันพวกมันตามเจอ..แล้วผมจะหาจังหวะเหมาะๆไปพบพี่เอง”
อาร์ตวางสายลูกจันหน้าเครียด และเขาต้องเครียดกว่าเดิม เมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าจุ้มจิ้มกำลังยืนฟังอยู่ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
อาร์ตสะดุ้ง “จุ้ม”
พอลยืนคุยโทรศัพท์กับพีทข้างถนน
“แค่เป็นลมใช่มั้ย?...ค่อยสบายใจหน่อย..เรานึกว่าป้าภาจะเป็นอะไรมากซะอีก...” พอลฟัง “อือ...ไม่ต้องห่วง..เราจะหนีไปต่างจังหวัดก่อน..ระหว่างนี้เราจะให้เพื่อนที่เป็นตำรวจสืบหาตัวคนร้ายไปด้วย” พอลฟัง “นายก็ดูแลตัวเองดีๆ..อย่าไปใจอ่อนกับไอ้คนที่มันเคยทำร้ายนายอีกนะ” พอลฟัง “ใครนะ...ห๊า ..อ้าว...แบตหมดซะงั้น..ยังคุยกันไม่ทันรู้เรื่องเลย”
พอลทำหน้าเซ็งๆ ที่พลาดการรู้ชื่อคนรักเก่าพีทมาตลอด
ลูกจันเดินมาหาพอลพร้อมน้ำดื่ม
ลูกจันยื่นน้ำให้พอลส่วนอีกขวดถือไว้เอง “ยังไม่มีใครจอดรับแกอีกเหรอ”
พอลพยักหน้า ลูกจันทำหน้าเบื่อหน่าย
“เฮ้อ...แกนี่มันดีแต่แอ็คติ้งในละครจริงจริ๊งง...มามะ..เดี๋ยวตัวแม่จะสอนให้นะลูก”
ลูกจันจัดเสื้อผ้าหน้าผม รถกระบะคันหนึ่งขับผ่านมา ลูกจันรีบวิ่งถลาไปดักหน้า รถจอดเอี๊ยด ลูกจันรีบควักน้ำที่ถือมาหยดใส่ตา คนขับลงจากรถอย่างอารมณ์เสีย
คนขับว่า “อยากตายรึไง”
ลูกจันมองหน้าคนขับรถด้วยน้ำตานองหน้า
ลูกจันยกมือไหว้ “ขอโทษจ้ะพี่จ๋า...แม่ฉันป่วยหนัก...ฉันอยากกลับไปดูแลแม่แต่หารถไม่ได้เลย...จะขอติดรถพี่ไปหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
คนขับรถมีสีหน้าสงสารแต่พอมองไปเห็นพอลยืนหนวดเฟิ้มก็ชักระแวง ลูกจันมองตามคนขับแล้วรีบแอ็คติ้งต่อ
“นี่ผัวฉันเองจ้ะพี่..มันสติไม่ค่อยดีหรอกจ้ะ”
พอลสะดุ้งแล้วมองหน้าลูกจัน ลูกจันส่งซิกให้พอลทำท่าตามที่ตัวเองพูด พอลรีบทำหน้าเอ๋อ คนขับรถมองหุ่นกำยำของพอลอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
“ขาก็เป๋นะจ๊ะ..ไม่ได้ปกติเหมือนคนอื่นเค้าหรอก”
พอลหันขวับมองลูกจัน ลูกจันขยิบหูขยิบตาให้ทำตาม พอลจำใจต้องเดินเป๋ๆโชว์คนขับรถ คนขับรถมองพอลและลูกจันอย่างเวทนา
“โถ..ทั้งท้อง..ทั้งผัวพิการ..แม่ก็ยังจะตายอีก”
ลูกจันสะดุ้ง
“เอ่อ..ยังไม่ตายจ้ะ..แค่ป่วยเฉยๆ” ลูกจันบอก
“เออๆ...มาๆ..ขึ้นรถมา..เดี๋ยวจะลงตรงไหนก็บอกแล้วกันนะ”
คนขับรถเดินนำไปขึ้นรถ ลูกจันหันไปยักคิ้วให้พอลอย่างผู้มีชัย พอลส่ายหัวด้วยความหมั่นไส้แต่รักนะ
รถกระบะวิ่งมาบนถนน ลูกจันกับพอลนั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะ ลมพัดแรงจนผมตกลงมาปรกหน้าลูกจัน
พอลเอื้อมมือไปปัดผมให้ลูกจันอย่างอ่อนโยน ลูกจันเงยหน้ายิ้มกับพอล พอลยิ้มตอบ ลูกจันค่อยๆเอนพิงไหล่พอลแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า สายตาพอลที่ก้มมองลูกจันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกจันด้วยชีวิตและหัวใจ
ท่าเรือเล็กๆ มีชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้ามารอรับปลาจากท่า พอลเดินขาเป๋ หน้าเอ๋อเข้ามา
เสียงลูกจันเรียก “พีท”
พอลหันกลับไปตามเสียง ลูกจันยืนเท้าสะเอวมองพอลด้วยสายตาเบื่อหน่าย
“คนขับรถเค้าไปแล้ว..แกหายเป๋ หายเอ๋อได้แล้ว”
พอลเขิน “อินไปหน่อย..แหะๆ”
ลูกจันมองสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยความสนใจ แม่ค้าพ่อค้าและชาวบ้านพูดคุยกันด้วยภาษากลางสำเนียงทองแดง
ลูกจันกระซิบพอล “สำเนียงเค้าน่ารักเนอะ”
พอลพยักหน้ารับแล้วใช้ดวงตาสอดส่ายหาคนที่อาร์ตบอกว่าจะมารับ
“แล้วคนที่จะมารับเราเค้าจะรู้ได้ไงอ่ะว่าเป็นเรา” พอลมองลูกจัน “เล่นปลอมตัวซะเนียนขนาดนี้”
“อาร์ตบอกว่าแถวนี้เป็นชุมชนเล็กๆรู้จักกันหมด..ถ้าเห็นใครแปลกหน้า..คนที่มารับเค้าก็รู้เองแหละว่าเป็นคนที่อาร์ตให้มารับ”
“ระวังตัวหน่อยแล้วกัน...อย่าทำอะไรให้ผิดสังเกต..เผื่อมีคนตามเรามา”
ทันใดนั้นก็มีมือหนึ่งเอื้อมมาจับแขนลูกจัน
ลูกจันตกใจมาก “ว้ายย”
แม่ค้าคนหนึ่งกำลังจับแขนลูกจันไว้
แม่ค้าพูดทองแดง “ซื้อปลามั้ยหนู สดๆเลย...คนท้องกินปลามากๆ..ลูกจะได้ออกมาฉลาด”
ลูกจันหลบหน้าหลบตาแม่ค้าเพราะกลัวแม่ค้าผิดสังเกต แล้วแม่ค้าก็ผิดสังเกตจริงๆ
“เอ๊ะ....หนูมาจากไหนนิ..ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
ลูกจันกับพอลสบตากันแล้วก็อึกอัก
เสียงหวินพูดทองแดง “ญาติฉันเองแหละ...มาจากเกาะทางโน้น”
ลูกจันกับพอลหันไปตามเสียงเห็นหวินยืนอยู่ในชุดชาวบ้านพร้อมส่งยิ้มมาให้ลูกจันและพอล
“อ้าว...แล้วจะมาอยู่ที่นี่เลยเหรอ” แม่ค้าถาม
หวินรีบตอบแทน
“มารอคลอดน่ะ...เกาะเรามันอยู่ใกล้โรงหมอมากกว่า”
แม่ค้าช่างพูดช่างคุยจึงยังไม่หยุดซัก “แล้วชื่อไรกันมั่งล่ะนิ”
หวินตกใจเพราะคิดไม่ทันเนื่องจากอึ้งอยู่ ลูกจันอ้ำอึ้งแต่ก็เอาตัวรอดได้เหมือนทุกครั้ง
ลูกจันดัดเสียงทองแดง “ฉันชื่อ..ลูก..เอ่อ...ชื่อจันจ้ะ”
แม่ค้าถามต่อ “แล้วผัวชื่อไรล่ะ”
ลูกจันคิดยากเพราะชื่อฝรั่งขนาดนี้จะดัดแปลงให้บ้านๆยังไง “เอ่อ...ชื่ออออ..เอ่อ..”
พอลดัดเสียงทองแดงตาม “ชื่อพรจ้ะ”
ลูกจันหันขวับไปมองพอลพลางคิดในใจว่าคิดได้ไงเนี่ย
อ่านต่อหน้าที่ 4
รักนี้เจ้จัดให้ ตอนที่ 11 (ต่อ)
หวินเดินนำลูกจันและพอลเลียบทะเลมาจนถึงกระท่อมเล็กๆหลังหนึ่ง
“ที่นี่แหละครับ” หวินบอก
พอลกับลูกจันมองดูกระท่อมหลังเล็กตรงหน้า
“เล็กหน่อยนะครับ..ผมไม่อยากให้ชาวบ้านแถวนี้สงสัยว่าพวกคุณเป็นใคร..ทำไมได้มาอยู่บ้านหลังใหญ่” หวินบอก
พอลพูดสำเนียงธรรมดา “ไม่เป็นไรครับพี่..แบบนี้แหละครับกลมกลืนกับชาวบ้านดี”
ลูกจันพูดกับหวินโดยยังสำเนียงทองแดงอยู่ “ขอบคุณมากนะคะพี่”
พอลเหลือบมองลูกจันว่าจะเนียนไปไหน
“ถ้าขาดเหลืออะไรบอกผมนะครับ..ผมจะจัดการให้..นายหัวสั่งมาว่าให้ดูแลพวกคุณให้ดีที่สุด” หวินบอก
พอลกับลูกจันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“นายหัว?” พอลงง
เสียงอ้อยสำเนียงทองแดงดังขึ้น “ใครมาอ่ะน้าหวิน?”
ทุกคนหันไปตามเสียงเห็น อ้อย สาวชาวบ้านเดินตรงเข้ามา อ้อยหยุดมองลูกจันและพอลอย่างแปลกใจ
“ใครอ่ะน้า”
หวินตอบสันๆ “ญาติ”
อ้อยมองพอลหัวจรดเท้าด้วยสายตาพอใจ
“แหม...น้ามีญาติหล่อขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
ลูกจันกระตุกเพราะรู้สึกหึงปรี๊ดขึ้นมาเลย
ลูกจันแกล้งไอ “แค่กๆๆ”
อ้อยหันมองลูกจันแล้วหันไปถามหวิน “แล้วนี่..?”
ลูกจันรีบเข้าไปควงแขนพอลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของทันที
ลูกจันชี้ตัวเอง “เมีย...” แล้วก็ชี้พอล “ผัว...” ลูกจันเอามือตบท้อง “อันนี้ลูก”
อ้อยเห็นท่าลูกจันแล้วก็ถึงกับถอดใจยิ้มแหยๆ
“แหม...ครบเลยนะ”
ลูกจันทำหน้าประมาณว่าผัวข้าใครอย่าแตะ พอลมองลูกจันขำๆ แต่ก็แอบรู้สึกดีกับคำว่าเมียและผัว
อุ่นเรือนยืนลับๆล่อๆอยู่ที่หน้าห้องวิมาดา อุ่นเรือนกำลังตัดสินใจว่าจะสารภาพความจริงกับวิมาดา อุ่นเรือนตัดสินใจแน่วแน่จึงจะผลักประตูห้องวิมาดา ต๋อยเดินออกมาจากห้อง
ต๋อยแปลกใจ “อ้าว...แอนนี่..มาหาบอสเหรอ”
อุ่นเรือนอึกอักแล้วความมั่นใจก็หดหายไปกว่า90เปอร์เซ็นต์
“เอ่อ...ค่ะ”
“บอสไม่อยู่หรอก..เพิ่งบินไปฝรั่งเศสเมื่อเช้านี้เอง...อีกเกือบ3อาทิตย์แน่ะกว่าจะกลับ...แอนนี่มีอะไรด่วนรึเปล่า” ต๋อยถาม
อุ่นเรือนเศร้าเพราะต้องอัดอั้นไปอีก3อาทิตย์ “เปล่าค่ะ”
อุ่นเรือนเดินเศร้าๆออกไป ต๋อยมองตามหลังอุ่นเรือนด้วยความแปลกใจว่าแค่ไม่ได้เจอบอสต้องเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอ
จุ้มจิ้มเดินเหลียวซ้ายแลขวาเข้ามา
แซนดี้เรียก “จุ้ม”
จุ้มจิ้มสะดุ้งแล้วหันไปมองตามเสียง แซนดี้นั่งอยู่กับอาร์ต
“เป็นอะไรรึเปล่า..ทำไมทำท่าแปลกๆ” แซนดี้ถาม
จุ้มจิ้มพูดเสียงกลัวๆ “เรารู้สึกเหมือนมีคนสะกดรอยตามเรามาน่ะ”
อาร์ตมองจุ้มจิ้มด้วยความเป็นห่วง
“เฮ้ย..เหมือนกันเลยจุ้ม..เราก็กำลังเล่าให้อาร์ตฟังนี่แหละว่าเรารู้สึกเหมือนมีคนตามมาสองสามวันแล้ว..เมื่อเช้าแอนนี่ก็บอกว่ามีคนแปลกหน้าไปเดินวนเวียนแถวหน้าบ้านแอนนี่เหมือนกัน..น่ากลัวอ่ะ”
อาร์ตและจุ้มจิ้มสบตากันด้วยความกังวลใจ
อาร์ตกำลังคุยกับจุ้มจิ้มอย่างเคร่งเครียด
“พวกมันคงกะจะตามรอยพี่ลูกจันกับพี่พีทจากคนใกล้ตัว...ตอนนี้เราคงต้องนิ่งให้มากที่สุด...อย่าให้พวกมันสงสัย”
จุ้มจิ้มมีท่าทางไม่สบายใจ
“เราเป็นห่วงพี่ลูกจันกับพี่พีท...จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
อาร์ตมองจุ้มจิ้มด้วยสายตาตัดพ้อ
“แล้วไม่เป็นห่วงอาร์ตบ้างเหรอ?...ไม่อยากรู้เหรอว่าอาร์ตเป็นยังไงบ้าง?”
จุ้มจิ้มมองหน้าอาร์ตนิ่งโดยซ่อนความเจ็บเอาไว้ในใจก่อนจะตอบอย่างเย็นชา “ไม่!”
จุ้มจิ้มลุกเดินจากไป อาร์ตเศร้า
ณัฐกำลังคุยโทรศัพท์กับโจร
“ตามพวกมันต่อไป...ต้องมีใครซักคนที่ช่วยพาพวกมันไปซ่อน..ทำยังไงก็ได้ให้หาพวกมันเจอให้เร็วที่สุด”
ณัฐวางหูโทรศัพท์แล้วยกมือขึ้นกดขมับคลายอาการปวดไมเกรน บนโต๊ะทำงานณัฐมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ กระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า"เหลือเวลาอีก5วัน...จำไว้ว่า..นายไม่ชอบคนผิดเวลา!!"
ลูกจันล้างหน้าจนขาวสะอาด
ลูกจันเอามือตบหน้าเบาๆให้เลือดหมุนเวียน “เฮ้อ....ฟิน!!”
พอลนั่งหน้าบูดมองลูกจัน
“ทำไมแกล้างหน้าได้..ถอดท้องออกได้..แต่ห้ามฉันถอดวิกถอดหนวดล่ะ”
ลูกจันหันมามองพอลด้วยสายตาเอือมระอา
“เอ๊...ก็ฉันบอกแกไปแล้วไงว่าแค่เอาครีมดำทาหน้ากับพันท้องน่ะมันง่ายกว่ามานั่งติดกาวแปะหนวดแปะวิกให้แก...อดทนหน่อยสิ..เดี๋ยวเกิดมีคนโผล่มากะทันหันตอนแกถอดหนวดถอดวิก..ความลับก็แตกกันพอดี”
พอลค้อนลูกจันที่เธอมีเหตุผลตลอด
“เอ้า..นอนได้ยังฉันง่วงแระ”
พอลพยักหน้า “ไปนอนสิ..ฉันจัดที่นอนไว้ให้แล้ว”
ลูกจันหันไปมองทางที่นอนก็เห็นเสื่อปูเอาไว้พร้อมฟูกบางๆมีหมอนวางอยู่1ใบ ลูกจันงง
“อ้าว....แล้วแกนอนที่ไหนอ่ะ”
พอลชี้มือไปที่มุมหนึ่งของห้อง
ลูกจันถาม “ทำไมไม่นอนด้วยกันอ่ะ”
พอลหลบตาแล้วรีบแก้ตัว
“คือ...หมู่นี้ฉันปวดหลังน่ะ...หมอบอกให้นอนบนพื้นกระดานดีกว่า”
ลูกจันพยักหน้างงๆ “อ้าวเหรอ...งั้นก็ตามใจ...ฝันดีนะพร”
ลูกจันเดินมาจุ๊บแก้มพอลเบาๆ ก่อนเดินไปล้มตัวนอนบนฟูกอย่างแสนสบาย พอลเดินไปที่มุมห้องแล้วมองพื้นกระดานแสนแข็งก่อนจะถอนหายใจยาว
“เฮ้ออ”
ตกกลางคืน พอลนอนหลับตาแต่พลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่ายเพราะความแข็งของพื้นกระดาน พอลทนปวดหลังไม่ไหวจึงตัดสินใจลืมตาตื่น พอลเห็นหน้าขาววอกพร้อมผมยาวสยายน่าสยองลอยอยู่ชิดกับหน้าพอล
พอลแทบกรี๊ด “เฮ้ยย”
พอลผลักลูกจันหน้าหงาย
ลูกจันร้อง “กรี๊ดดด”
พอลชะงักเมื่อได้ยินเสียงร้อง “ลูกจัน?”
ลูกจันลุกขึ้นนั่งหน้าบูด
“ก็ฉันน่ะสิ..คิดว่าผีรึไงล่ะ”
พอลหน้าแหยเพราะคิดว่าเป็นผีจริงๆ
“ทำไมไม่นอน..ลุกมานั่งจ้องฉันทำไม” พอลถาม
ลูกจันพูดเสียงอ่อย “ฉันนอนไม่หลับอ่ะ...ตุ๊กแกมันร้องทั้งคืนเลย..ฉันกลัวนี่”
พอลทำท่าเงี่ยหูฟังตุ๊กแกร้อง “ตั๊บแก...ตั๊บแก..ตั๊บบแก”
พอลมองหน้าลูกจัน ลูกจันมองมาที่พอลด้วยสายตาวิงวอน
ตุ๊กแกยังโก่งคอร้องไม่หยุด
“ตั๊บแก...ตั๊บแก..ตั๊บแกๆๆ”
พอลกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ลูกจันนอนซุกหน้าอยู่กับอกของเขา ลูกจันกลัวตุ๊กแกจนหลับไป พอลแอบมองหน้าลูกจันตอนหลับด้วยสายตาที่ปิดไม่มิดว่ารักเธอเข้าซะแล้ว
เสียงตุ๊กแกหยุดชะงักลง พอลขมวดคิ้วเคืองตุ๊กแก พอลมองซ้ายมองขวาก็เห็นหินเล็กๆอยู่ก้อนหนึ่ง พอลเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบหินแล้วปาไปทางตุ๊กแก ตุ๊กแกสะดุ้งที่โดนหินปาจึงรีบโก่งคอร้องต่อทันที
“ตั๊บบแก....ตั๊บบแก”
พอลยิ้มกริ่มเพราะแฮปปี้กับเสียงตุ๊กแกร้องที่แลกกับการได้ตระกองกอดลูกจันทั้งคืน พอลก้มมองลูกจันด้วยสายตารักมาก
เช้าตรู่วันใหม่ ลูกจันเห็นพอลกำลังหลับสนิท เธอนอนมองพอลในลุคหนวดเฟิ้มผมยาวอย่างเคลิ้มๆ
ลูกจันรำพึง “เท่อ่ะ”
เสียงตุ๊กแกร้องแซว “ตั๊บบแก”
ลูกจันสะดุ้งเพราะรู้สึกตัวว่าเคลิ้มไปจึงสะบัดหน้าไล่อารมณ์เคลิ้มด้วยสีหน้าเอียงอาย ลูกจันลุกเดินออกไปจากกระท่อม พอลยังคงหลับสบายไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
ลูกจันเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์นอกกระท่อม เธอหันไปเห็นตุ่มน้ำ ลูกจันเดินไปที่ตุ่มเตรียมจะล้างหน้า
เสียงอ้อยตะโกนเรียกในระยะไม่ห่างมาก “จัน!!”
ลูกจันสะดุ้งเพราะนึกได้ว่ายังไม่ได้ทาหน้าดำ สมองลูกจันหมุนติ้วเพื่อคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
อ้อยเดินมาถึงหน้ากระท่อม “จัน”
ลูกจันหันกลับมาในสภาพพันหน้าเป็นนินจา อ้อยมองลูกจันงงๆ ว่าจะพันหน้าอะไรขนาดนี้
ลูกจันพูด “คือ..จะออกไปข้างนอกอ่ะ...กลัวดำ”
อ้อยยิ้มแหยๆ
“ไม่น่าจะต้องกลัวแล้วนะ”
อ้อยวางชามในมือไว้บนแคร่
“วันนี้ที่บ้านทำน้ำชุบ เลยแบ่งมาให้...เดี๋ยวก็เก็บผักเหนาะ(ผักจิ้ม)เอาแถวนี้นะ”
ลูกจันพยักหน้ายิ้มๆ “ขอบใจจ้ะ”
อ้อยชะเง้อมองไปในบ้าน
“แล้วพี่พรล่ะ” อ้อยถาม
ลูกจันหุบยิ้มทันทีเพราะหึงขึ้นมาอีก
ลูกจันตอบห้วนๆ “ยังไม่ตื่น”
อ้อยสัมผัสได้ถึงความหึงของลูกจัน
อ้อยยิ้มแหยๆ “เออๆ...งั้นฉันไปก่อนนะ”
อ้อยจะหันหลังกลับแต่สายตาไปสะดุดที่ท้องลูกจันซะก่อน
“เอ๊ะ...ทำไมวันนี้ท้องจันเล็กกว่าเมื่อวานอ่ะ”
ท้องลูกจันดูเล็กลงกว่าเมื่อวานมาก ลูกจันอึกอักจึงแถไป
“เอ่อ...คือ...เอ่อ..มะเมื่อเช้าท้องเสียน่ะ”
อ้อยทำหน้างง “ห๊า...เกี่ยวเหรอ?”
ลูกจันพยักหน้ายืนยันว่าเกี่ยวจริงจริ๊งง อ้อยพยักหน้ารับว่าเกี่ยวก็เกี่ยววะ อ้อยเดินจากไป ลูกจันถอนหายใจโล่งอก ลูกจันขยับเดิน ขันน้ำที่ลูกจันยัดไว้เป็นท้องชั่วคราวหล่นลงพื้น
“แกร๊ง”
ลูกจันทำหน้าแหย “อุ่ย!”
พอลกำลังเดินเลือกเก็บผักผลไม้ไปกินกับน้ำพริกอยู่ในป่า ลูกจันเดินหักกิ่งนั้นดมใบนี้อย่างซุกซน พอลเหลือบมองลูกจันอย่างเป็นห่วง
“อย่าเที่ยวกินอะไรมั่วๆนะจัน...ในป่ามีผักผลไม้พิษอยู่หลายชนิด..มันอันตราย”
ลูกจันค้อนพอลด้วยความหมั่นไส้
“ฉันรู้น่าพร..พูดมากจริง..ชิส์”
ลูกจันหันไปเห็นลิงตัวหนึ่งซึ่งถือผลไม้ชนิดหนึ่งอยู่ในมือ ลูกจันยิ้มมุมปากอย่างคนฉลาด เธอเดินไปเด็ดผลไม้ตามลิง
“ฉันเคยดูสารคดี..เค้าบอกว่าถ้าสัตว์กินอะไรแสดงว่าอันนั้นไม่มีพิษ..ให้กินตามได้เลย”
พอลหันมามองลูกจัน เขาเห็นลูกจันกำลังจะเอาผลไม้เข้าปาก พอลอ้าปากจะห้ามลูกจัน
“อย่........”
ไม่ทันแล้วเพราะลูกจันเคี้ยวผลไม้อย่างเอร็ดอร่อยไปแล้ว ลูกจันเคี้ยวไปยักคิ้วให้พอลไปอย่างมั่นใจ พอลช็อคจนพูดไม่ออก
“อึ้งดิ...ฉันฉลาดป่ะล่ะ???...นี่..ฉันกินตามลิงจ้า”
ลูกจันหันไปมองลิงก็เห็นลิงดมๆผลไม้ในมือแล้วขว้างทิ้ง ลูกจันเคี้ยวผลไม้ค้างเพราะลิงไม่กินหมายความว่ายังไง!!
อ่านต่อตอนที่ 12