xs
xsm
sm
md
lg

เรือนริษยา ตอนที่ 5

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรือนริษยา ตอนที่ 5

นันทนัชจับมือทิพย์นั่งลงคุยกันที่โต๊ะมุมสวนที่อยู่ไม่ห่างจากห้องครัวนัก
“คนนี้ไง...ที่ฉันเคยเล่าให้แกฟัง”
เธฮหันไปบอกแฟนต้าที่เดินตามมากับธีร์
“ห่ะ เนี่ยะนะน้าทิพย์ของแก”
เธอพยักหน้า
“อืม...หลังจากที่แม่ฉันตาย ฉันโตมาได้ก็เพราะน้าทิพย์นี่หล่ะ เหมือนแม่ฉันอีกคนนึง”
“โธ่คุณหนู….น้าไม่อาจเอื้อมขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ได้มีโอกาสเลี้ยงคุณหนูมา จนโตเป็นสาวนี่ก็เป็นบุญของน้ามากแล้ว”
ทิพย์กอดนันทนัชน้ำตาไหล ธีร์แปลกใจ ใช้ศอกกระทุ้งถามแฟนต้า
“ก่อนที่จะรับเข้ามาทำงาน ไม่รู้จริงๆเหรอว่า น้าเค้ารู้จักกับนันมาก่อน”
“ไม่รู้จริงๆ”
แฟนต้าจับหัว มึนตึ๊บ !
“อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ I don’t believe it!”
ธีร์เปรยอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ภายในห้องน้ำชาย กฤตพนธ์ล้างมือเสร็จ ดึงกระดาษมาซับมือหันจะเดินออก แต่ไหล่ชนเข้ากับอกเชนที่ทำเป็นเดินมาอย่างจัง จนเชนผงะ
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนปล่าวครับ”
เชนคว้าคอเสื้อเขาทันที
“เจ็บ! แต่กูไม่ยอมเจ็บฟรีเว้ย”
เชนพูดพลางใช้มืออีกข้างเงื้อหมัดต่อย แต่เขาไวพอกันยกฝ่ามือขึ้นรับหมัดกำเอาไว้
“แค่ไหล่ชนกันและคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก จนถึงกับจะต้องซัดหน้าผม อีกอย่าง ผมก็ขอโทษแล้ว ช่วยเอามือคุณ... ออกจากคอเสื้อผมด้วยครับ อย่ามีเรื่องกันเลยจะดีกว่าครับ”
“แต่กูอยากมี”
สิ้นเสียงเชน สมหมายโผล่มาทางข้างหลัง ใช้ท่อนแขนล็อกคอของเขา แล้วกระชากดึงกฤตพนธ์ออกมาจากเชน
เขาหายใจไม่ออก 2มือพยายามดึงท่อนแขนสมหมาย แต่ไม่ออก ขณะที่สมหมายใช้มืออีกข้าง กำหมัดอัดรัวเข้าที่ชายโครง เขาตัดสินใจยก 2 มือตบบ้องหูของสมหมาย จนร้องลั่น
"อ๊าก"
ก่อนที่กฤตพนธ์จะออกแรงใช้หลังดันสมหมายจนหลังไปชนผนังเต็มแรง เจ็บ แขนที่ล็อกหลุด เขาคว้าแขนสมหมายบิดหมุนพาตัวเองออกมา แล้วถีบไปที่ท้องมัน 2 ครั้ง กำหมัดต่อยมันไปอีกครั้ง แล้วทุ่มมันผ่านไหล่ลงกับพื้น ไปนอนเจ็บ เชนโกรธที่เห็นลูกน้องคู่ใจถูกเล่นงาน ถลาต่อยเข้ามาจากด้านหลัง
"มึง!"
กฤตพนธ์เหลียวมองเห็นเชนเข้ามาทางด้านหลังจากกระจกที่เคาน์เตอร์อ่าง เขาหันก้มหลบหมัด แล้วสวนหมัดต่อยต่ำไปที่ท้อง เชนโก่งหลังผงะหลบอย่างมีฝีมือ ยกขาเตะสูงใส่ ในจังหวะที่กฤตพนธ์ยกขาเตะสูงเช่นกัน ขาทั้งคู่เตะโดนกันจนผงะมายืนกำหมัดจ้องหน้ากัน

โต๊ะมุมสวนในร้านอาหาร นันทนัชถามอย่างแปลกใจ
"น้าทิพย์มาทำงานที่ร้านต้านานแล้วเหรอคะ"
"สัก 2 ปีที่แล้วค่ะ"
"คุณแม่ฉัน ถูกอกถูกใจอาหารไทยตำรับสมุนไพรแท้ๆของน้าเค้ามาก ชวนให้ไปช่วยทำร้านที่อเมริกา น้าเค้าก็ไม่ยอมไป" ต้าบอก
"น้าจะไปทำไมค่ะ อยู่ที่นี่ ก็สบายดีอยู่แล้ว"
"แล้วคุณน้าไม่รู้เลยเหรอครับ ว่านันกับต้าเค้าเป็นเพื่อนเรียนที่อังกฤษ" ธีร์ถาม
"ไม่ทราบค่ะ"
"จริงอย่างที่พี่ธีร์ว่า อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ ช่างเถอะ นันไม่สนใจเรื่องนี้หรอก ที่นันอยากรู้ ก็คือ จริงรึปล่าวคะที่ น้าฤทัยบอกว่าพ่อเป็นคนไล่น้าออกจากบ้าน"
ทิพย์อึ้งมองนันทนัชสีหน้าเครียด

ในห้องน้ำเชนกำลังสาวหมัดต่อยซ้ายขวากฤตพนธ์อย่างรวดเร็ว...เขายกแขนทั้ง 2 ข้างเป็นการ์ดกันไว้ได้ซ้ายขวา แต่ถูกเชนเตะเข้าชายโครง กฤตพนธ์เลยต่อยเข้าหน้าเชนไปหมัดนึง เชนต่อยสวนคืน แต่กฤตพนธ์จับหมัดเชนล็อกไว้พลางถาม
"พวกแกจงใจมาเล่นงานชั้นใช่ไม๊"
"แล้วมึงไปทำอะไรไว้ ถึงคิดว่ากูมาเล่นงานมึง ย๊าก!"
เชนกำหมัดอีกข้างต่อยใส่หน้ากฤตพนธ์ เขาสวนสันหมัดเข้าที่คอหอย เชนผงะจับคอหอย แต่สมหมายกระถีบเข้าหลังกฤตพนธ์ จนเขาถลาไปชนกับผนัง มันยกขาถีบซ้ำ เขาหลบ มันถีบพลาดขาไปกระทืบผนัง กฤตพนธ์เตะตัดขามันล้มลงหัวกระแทกขอบอ่างมึน เชนขบเขี้ยวอย่างโกรธจัด
"เหนียวนักเหรอมึง!"
เชนคว้าไม้เช็ดกระจกด้ามยาว ที่วางแอบอยู่ในถังใต้อ่างล้างมือ มาฟาดที่หลังกฤตพนธ์เต็มๆ
"อ๊าก!"
กฤตพนธ์กัดฟันกรอดอย่างเจ็บ เชนฟาดซ้ำซ้ายขวา เขาก้มหลบอย่างคล่องแคล่ว ก่อนอัดหมัดต่อยเป็น 2 แรง จิ้มจากปลายนิ้วสู่หมัดเข้าที่กลางหน้าอกเชน เชนชะงักจุก แต่มือยังเหวี่ยงฟาดอีก กฤตพนธ์ปรี่ไปคว้าไม้เช็ดกระจกยื้อยุดค้ำคอกัน ผลัดกันเป็นฝ่ายได้เปรียบเสียเปรียบ
กฤตพนธ์ผลิกมาได้เปรียบกดด้ามไม้ค้ำคอเชนพลางถาม
"ทำความรู้จักกันหนักถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่บอกให้ชื่นใจหน่อยเหรอว่าแกเป็นใคร"
เชนพลิกขึ้นมาได้เปรียบ ใช้ด้ามไม้กดค้ำคอกฤตพนธ์
"นี่มึงยังไม่รู้อีกเหรอว่ากูเป็นใคร หึๆๆ"
เชนพูดบอกเป็นนัย หัวเราะเหี้ยม พลางออกแรงกดด้ามที่เช็ดกระจกลงบนคอกฤตพนธ์สุดแรง

"อ๊าก"

กฤตพนธ์ใช้ 2 มือออกแรงดันด้ามที่เช็ดกระจกต้านกำลังเต็มที่
กนกกรเดินมาตามที่หน้าห้องน้ำชาย
"มาเข้าห้องน้ำอะไรเนี่ยะ หายมาเป็นชาติเลยหรือว่า...แอบแว๊บไปหานังโรคจิต"
มีลูกค้าชาย 2 คนเดินมาเข้าห้องน้ำพอดี แต่พอผลักประตูห้องน้ำเข้าไปต้องตกใจ เมื่อเห็นกฤตพนธ์กับเชนกำลังฟัดกดคอกันอยู่

กนกกรถือโอกาสรีบโผล่หน้าเข้ามาดูในห้องน้ำ ภาพดังกล่าวก็ร้องตกใจ
"อ๊าย"
จังหวะนั้นกฤตพนธ์ออกแรงงัดได้ ถีบเชนผงะออกไป เธอรีบถลาเข้าไปดูเขา
"คุณกฤต พวกแกเป็นใคร มาทำร้ายคุณกฤตทำไม"
เชนโยนไม้เช็ดกระจกทิ้ง แล้วยื่นมือไปกระชากแขนสมหมายที่คิ้วแตกเลือดไหลให้ลุกขึ้น เดินออกไปจากห้องน้ำ
เขายืนจุก กนกกรเข้าไปจับหน้าจับตา
"เจ็บตรงไหนบ้างคะ ไหน...ให้กิ๊บดูหน่อยซี๊ ว้ายตายแล้ว ปากแตกด้วยอ่ะ กิ๊บเช็ดให้นะคะ"
กนกกรยื่นนิ้วไปเช็ดเลือดให้ แต่ท่าทางมองตายั่วยวนเหลือเกิน ทำเอากฤตพนธ์สะดุ้ง
"ไม่เป็นไรครับ"
เขาเบือนหน้าหนี พลางใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปาก กนกกรขัดใจ...เซ็งเลย

เขาเดินกลับมาที่โต๊ะ กนกกรตามเซ้าซี้ ส่วนโต๊ะที่เชนเคยนั่ง เชนกับสมหมายหายไปแล้ว พนักงานกำลังเก็บโต๊ะอย่างงงๆ เพราะอาหารบนโต๊ะยังไม่ได้กินเลย แต่มีเงินค่าอาหารวางอยู่ในถาด
"อะไรแค่เดินชนก็ถึงกับลงไม้ลงมือเลยเหรอ อี้ย์!ไอ้ป่าเถื่อน พวกมันไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นกับใครอยู่" กนกกรว่า
เขายกแก้วน้ำขึ้นจิบแก้กระหาย เหนื่อยที่ฟัดกับพวกมันมา
"ถ้ามันรู้ ว่าคุณเป็นทหารอยู่หน่วยพิเศษ มันคงกลัวหัวหดไปแล้ว"
กฤตพนธ์ยิ้มขำๆกับสิ่งที่กิ๊บพูด พลางก้มดูรอยแตกที่สันมือนิ้วหนึ่ง แล้วตาก็มองไปยังที่นั่งตรงหน้ายังว่างเปล่า นันทนัชยังไม่กลับมา
"เอ๊ะ!คุณนันไปดูตัวพ่อครัวถึงไหน ทำไมยังไม่กลับมาอีก"
"อ่า..."
กนกกรยิ้มค้าง มองเขาที่เอาแต่มองชะเง้อหานันทนัชไม่สนใจที่เธอพูดเลย ทำเอาหงุดหงิด

ทิพย์หน้าเครียดกับเรื่องในอดีตที่นันทนัชอยากจะรู้
"เอ่อ...เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในอดีต น้าไม่อยากจะไปพูดถึงมันอีก"
"ไม่ได้ค่ะ ที่นันกลับมา ก็เพื่อมาหาความจริงว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตอนที่นันไม่อยู่ น้าต้องพูด"
เธอมองหน้าทิพย์ขอร้องแกมบังคับ ทิพย์ทำเป็นถอนใจ ยอมจำนน ก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมรับ
"ค่ะ น้าถูกคุณลิตรไล่ออกจากบ้าน"
นันทนัชแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ขณะที่ธีร์กับแฟนต้าแอบมองหน้ากัน ประมาณทำไมเรื่องมันถึงได้วุ่นวายอย่างงี้หนอ
"ทำไมพ่อทำกับน้าอย่างงั้น น้าเป็นคนที่พ่อไว้ใจมากที่สุดเลย"
เธอโพล่งออกมาอย่างเจ็บปวด เพราะในชีวิตเธอมีแค่พ่อกับทิพย์เท่านั้น ทิพย์จับ 2 มือของนันทนัชไว้
"น้าถูกใส่ร้ายค่ะ"

กลางวัน ในอดีต ที่เรือนหลังเล็ก ไอ้ไม้ดึงลิ้นชักตู้ในห้องทิพย์พบและหยิบห่อผ้าห่อหนึ่งออกมา
ภายในห่อนั้นเป็นเครื่องเพชร ต่างหู กำไล
"เจอแล้วครับคุณผู้หญิง"
"ไหนดูซิ"
ฤทัยพากนกร รณฤทธิ์มาคุมการค้นห้องเดินเข้าไปดู ขณะที่ทิพย์ยืนตกใจ
"ห่อผ้าอะไรน่ะ ไม่ใช่ของฉันนะ"
"ก็แน่น่ะซียะ ไม่ใช่ของแก"
ฤทัยหันมาพร้อมกับชูเครื่องเพชรขึ้นโชว์หรา เหล่าสาวใช้ที่ออดูกันอยู่นอกห้อง ต่างพากันตกใจ ชิดที่ยืนอยู่นอกห้องอยู่ด้วยก็ตกใจ
"นี่มันของของฉัน ที่แกขโมยมาไง"
"ว้าย ! ฉันปล่าวนะ ฉันไม่ได้ขโมย ฉันไม่รู้มันมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง"
"กิ๊บ...ไปตามพ่อลิตรมาเดี๋ยวนี้เลย"
"ค่ะคุณแม่"
กนกกรหันเดินจะออกจากห้องไปตาม แต่ลิตรมาพอดี ยืนอยู่ที่หน้าห้อง
"เอะอะโวยวายอะไรกัน"
เหล่าสาวใช้ที่ยืนออปิดทางกันอยู่หน้าห้อง รีบแตกฮือเปิดทางทันที ชิดมองทิพย์อย่างเป็นห่วง
"เราจับคนที่ขโมยเครื่องเพชรคุณแม่ได้แล้วค่ะ" กนกกรว่า
"นังทิพย์ครับพ่อ" รณฤทธิ์บอก
"อะไรนะ"
ลิตรแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ทิพย์เอาแต่ส่ายหน้าร้องไห้
"ทิพย์ไม่ได้ทำค่ะคุณผู้ชาย ทิพย์ไม่รู้เรื่อง"
"ถ้าเธอไม่ได้ขโมย แล้วของของฉันมันจะมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าเธอได้ยังไงกันห่ะ!"
"ฉันไม่รู้ๆ อย่ามาโยนความผิดให้ฉันนะ คุณผู้ชายขา ทิพย์ถูกใส่ร้ายค่ะ"
"ใส่ร้ายเหรอ หึ แกนี่มันเลวจริง ๆ ขนาดจับได้คาหนังคาเขายังปากแข็งอีกแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องหยิบฉวยของในบ้านเท่านั้นที่แกแอบทำ มีเรื่องบัดสีอย่างอื่นอีก" ฤทัยบอก
"ฉันทำอะไร อย่ามาพูดพล่อยๆนะ"

"ฤทัยเรื่องบัดสีอะไร บอกฉันมาซิ"

เรือนริษยา ตอนที่ 5 (ต่อ)

ฤทัยมองหน้ารณฤทธิ์ รณฤทธิ์ไปเปิดตู้ หยิบเสื้อผ้าผู้ชายและหนังสือโป๊หลายเล่มจากลิ้นชักตู้ออกมาโยนลงที่เตียง

"นี่ไงครับ งานอดิเรกยามว่างของแม่บ้านเก่าแก่ของพ่อ"
"พออ่านได้ที่ ก็มีไอ้ชิดเป็นคู่ซ้อมมั่วกันทุกคืน"
ฤทัยชี้ไปที่นายชิดที่ยืนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่หน้าห้อง นายชิดผงะตกใจหน้าซีด
"ผะๆๆ ผมปล่าว"
ลิตรหายใจแรงมีท่าทีเดือดดาล หยิบกางเกงตัวหนึ่งขึ้นมา
"ถ้าไม่ใช่แก ไหนบอกฉันซิ ว่านี่ใช่กางเกงของแกรึปล่าว"
ชิดมองไปที่กางเกงที่ลิตรเดินถือเข้ามาหา
"ฉันถามว่านี่กางเกงแกรึปล่าวไอ้ชิด ตอบมา"
ด้วยความที่เป็นคนซื่อๆตรงๆ โกหกไม่เป็น นายชิดได้แต่ขาอ่อนทรุดลงนั่งอย่างกลัว
"ไอ้ชั่วเอ้ย สารเลว"
ลิตรเงื้อขาถีบนายชิดลงไปนอนมึน ทิพย์ต้องกับร้องออกมาด้วยความตกใจ
"ชิด! ฮือๆๆ"
"แก 2 คน รีบออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้ ไป"

ทิพย์ร้องไห้อย่างขมขื่น
"น้าต้องออกจากเรือนรัตนะอย่างอับอายขายหน้าที่สุด คุณผู้ชายไม่ยอมฟังน้า ไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสน้าได้พูด"
นันทนัชโผกอดทิพย์อย่างสงสาร
"นันจะกู้ศักดิ์ศรีของน้าคืนมาให้ได้ นันสัญญา"
"เลิกเล่นละครน้ำเน่าได้แล้วนังทิพย์! กับข้าวนั่นฝีมือแกเองน่ะเหรอจะอ้วก"
ทุกคนหันมองไป เห็นกนกกรเดินมากับกฤตพนธ์ ทำเอาเขามองกนกกรอย่างงงๆไปเลย...
"อะไรอีกเนี่ยะ"
"ฮึ อย่างแกมันไม่มีศักดิ์ศรีอะไรหรอก เป็นแค่ขี้ข้าแล้วเผยอจะชูคอ ถูกเฉดหัวออกมาได้ก็สมควรแล้ว"
นันทนัชลุกขึ้น
"พวกเธอนั่นแหละไม่มีศักดิ์ศรี! ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินของคนอื่น"
"อ๊าย! นี่แกด่าชั้นทั้งตระกูลเลยเหรอ มันจะมากไปแล้ว"
"เดี๋ยว คุณกิ๊บ"
กฤตพนธ์จะคว้าตัว แต่ไม่ทัน กนกกรเดินเงื้อมือเข้ามาหานันทนัชแล้ว
"อย่า"
กนกกรเงื้อมือตบเต็มแรง เผี๊ยะ! ในจังหวะที่ทิพย์ก้าวมาเอาตัวขวางเธอไว้ กนกกรเลยตบถูกหน้าทิพย์จนคว่ำ
"ว้าย!"
เธอตบสวนเข้าหน้ากนกกรทันที ก่อนวิ่งเข้าไปดูทิพย์
"น้าไม่เป็นไรค่ะ" ทิพย์ตอบทั้งๆที่หน้าดูมึนมาก
"อีนัน"
กนกกรปรี่เข้ามาจะตบนันทนัชอีกครั้ง แต่ธีร์เดินเข้ามาใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวปกป้องเธอไว้
"หยุดนะครับ! ถ้าคุณแตะต้องนันของธีร์แม้แต่นิดเดียว ธีร์จะไม่เกรงใจ"
กฤตพนธ์อึ้งมองธีร์ที่โอบเอวนันทนัช แฟนต้าตกใจถึงกับแอบทำหน้าหลุดขำ
"โอ้ว! ฟังแล้วความดันต่ำ นันของธีร์"
"ฉันไม่สนหรอกว่าจะนันของธีร์ นันของผีอะไร มาด่าพวกฉัน เสียๆหายๆแบบนี้ฉันไม่ยอม
"กนกกรว่า
"แล้วทีพวกเธอทำลายครอบครัวฉัน คิดว่าฉันจะยอมเหรอห่ะ"
"ยัยบ้า! พวกฉันทำลายครอบครัวเธอเมื่อไหร่ ประสาท คิดเป็นตุเป็นตะไปเองทุกอย่าง ไปหาหมอโรคจิตได้แล้วไป๊!"
"คุณกิ๊บครับ คุณกิ๊บอย่าโวยวายครับ ผมว่าเราออกไปทานข้าวกันต่อดีกว่านะครับ อายลูกค้าอื่นเค้านะครับ"
กฤตพนธ์จูงมือกนกกรเดินออกไป แต่ไม่วายหันมาชี้นิ้วด่า
"เธอมันบ้ารู้ไม๊ เธอมันบ้า"
"ต๊าย!เที่ยวมาด่าคนอื่นว่าบ้า ตัวเองกรี๊ดกร๊าดอาละวาดลั่นร้านอยู่คนเดียว ไม่บ้าเรียกว่าอะไรยะ จริงไม๊คะพี่ธีร์ของนัน"
แฟนต้าหันมาแขวะธีร์ แล้วต้องอึ้ง เมื่อเห็นธีร์ยังยืนโอบเอวนันทนัชอยู่ นันทนัชเองก็ยิ้มเก้อๆ
"เอ่อ...ขอบคุณมากค่ะพี่ธีร์ที่ช่วยนัน"
ธีร์เอามือออกจากมือเธออย่างแสนเสียดาย
"ขอบคุณทำไม พี่ก็บอกเสมอ ว่าพร้อมปกป้องนัน"
ธีร์มองนันทนัชซึ้ง แต่เธอมัวหันไปสนใจทิพย์
"น้าทิพย์คะ เป็นยังไงบ้างคะ เจ็บมากไม๊"
แฟนต้าแอบหมั่นไส้
"แหม...มืองี้เกาะแน่นเป็นปลาหมึกเชียวนะ"

เชนกับสมหมายกลับมายังเซฟเฮ้าส์ เชนหัวเสียมาก ถึงกับถอดเสื้อสูทลำลองตัวนอกเขวี้ยงทิ้ง
"เวรเอ้ย"
เสียงมือถือเชนดังขึ้น เชนกดรับ
"ฮัลโหล! เจอมันมาแล้ว สั่งสอนมันมาแล้วด้วย หึ เป็นไงน่ะเหรอ"
เชนมองไปที่หน้าสมหมาย ที่คิ้วแตกกำลังเช็ดเลือดทำแผลอยู่
"ลูกน้องผมก็หน้าตาแหกน่ะซิ อย่ามาพูดอย่างนั้น!!พวกผมไม่ใช่กระจอก ไม่มีฝีมือ แต่ผมเจอคนมีฝีมือต่างหาก ผมบอกไว้เลยนะ งานนี้ไม่ง่าย ถ้าจะจ้างผมให้ตามเล่นมันต่อ คุณต้องจ่ายหนัก!"

รณฤทธิ์กำลังยืนพูดมือถืออยู่ที่ริมระเบียงพอดี

"เออ...รู้แล้วน่า รอนิดรอหน่อยมันจะตายหรือไง ฉันจ่ายแน่ จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ อึ้ย์!"

รณฤทธิ์วางโทรศัพท์อย่างหัวเสีย
"โธ่เอ้ย! ไม่รู้จักคุณชายรณฤทธิ์ซะแล้ว เป็นล้านฉันก็มีจ่ายเว้ย"
รณฤทธิ์เดินกลับเข้ามาในห้องรับแขก เจอฤทัยที่อารมณ์เสียค้างจากเรื่องนันทนัชที่โรงสีไม่หายกำลังนั่งชะเง้อมองหาไม้ บ่นๆเสียงเบา
"ไม้ไปไหนเนี่ยะ ฉันกลับมาเหนื่อยๆ ไม่รู้จักมาเอาใจ"
"แม่คร๊าบ"
รณฤทธิ์ถลาเข้ามายกแก้วน้ำเย็นตรงหน้าอย่างเอาใจ
"กลับมาเหนื่อยๆ กินน้ำเย็นๆหน่อยซีครับแม่ จะได้หายหงุดหงิด"
ฤทัยเหล่มองลูกชาย อย่างรู้ทัน
"ไม่ต้องมาอ้อน แกจะเอาอะไรอีก"
"โธ่ ทำไมแม่พูดกับหนูอย่างงั้นล่ะครับ หนูนวดให้นะครับ"
รณฤทธิ์นวดแขนนวดไหล่ให้ฤทัย
"ตรงนั้นแหละ ฉันกำลังเมื่อยอยู่พอดี"
"เมื่อยเหรอครับ"
รณฤทธิ์หยุดนวดซะงั้น
"อ้าว! หยุดทำไมล่ะ กำลังถูกจุดเลย นวดไปซี๊"
รณฤทธิ์ยื่นมือมาทันที
"ขอ 3 แสนนะครับแม่ แล้วผมจะนวดให้ตรงจุดที่แม่เมื่อยเลยครับ"
"ไอ้ลูกเลว!"
รณฤทธิ์สวมกอดไหล่ฤทัยทางด้านหลัง อ้อน
"นะครับแม่ หนูจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ เดี๋ยวแม่ก็ได้มรดกของพ่อลิตรเป็นพันล้านแล้ว แม่จะมาเสียดายอะไรกับอีแค่ความสุขเล็กๆน้อยๆของลูกแค่สองสามแสน"
"กว่าจะได้พันล้าน ฉันจะหมดตัวเพราะแกก่อนน่ะซิ"
"โธ่ แม่ครับ แม่ไม่สงสารหนูเหรอ หนูร้องไห้แล้วนะเนี่ยะ"
"เออๆๆ แกไม่ต้องมาบีบน้ำตา ฉันล่ะเบื่อกับแกจริงๆ"
ฤทัยหันไปเปิดกระเป๋าเซ็นเช็ค รณฤทธิ์มอง ดีใจ มือก็นวดไหล่ฤทัย
"พอ...ไม่ต้องนวดแล้ว! เอาไป"
รณฤทธิ์รับเช็คไป หอมแก้มฤทัย
"ขอบคุณครับแม่ หนูไปล่ะ"
"เดี๋ยว...แกจะไปไหนน่ะ"
รณฤทธิ์ไม่ตอบ ได้แต่เดินโบกเช็ค ฤทัยวางปากกาอย่างหงุดหงิด
"แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่ หายหัวไปกันหมด เฮ่ย! ไม้อยู่ไหนเนี่ยะ"
ฤทัยลุกเดินไป

ภายในห้องไม้...บนเตียงเห็นผ้าห่มขยับเคลื่อนไหวไปมา
"ไม้!"
ไม้ตวัดผ้าห่มโผล่หน้าออกมาอย่างหัวเสีย
"ใครเรียกวะ!"
"ไม้! ไปไหนนะ อยู่ในห้องรึปล่าว"
"คุณผู้หญิง"
เดือนปัดผ้าห่มออก
"ห่ะ คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอ"
"มัวแต่ถามอยู่นั่นแหละ รีบแต่งตัว ออกไปจากห้องเร็ว"
"จะให้ไปทางไหน"
"ก็หน้าต่างนั่นไง"
"หา! จะให้ฉันโดดหน้าต่างเนี่ยะนะ"
"หรือว่าจะให้ถูกจับได้ล่ะ เร็วซี"
ไม้กับเดือนรีบแต่งตัวใส่เสื้อผ้า จัดเตียง ยังไม่ทันเสร็จดี ฤทัยก็มาเคาะอยู่หน้าประตู
"ไม้! ไม้อยู่รึปล่าว"
ฤทัยยืนตบประตูเรียก
"ไม้! ฉันถามว่าอยู่ในห้องรึปล่าว"
ภายในห้อง ไม้บอกเดือน
"เร็วซี รีบออกไป"
ไม้เปิดหน้าต่าง รีบดันเดือนให้ขึ้นไปบนขอบหน้าต่าง เดือนตาเหลือกไม่กล้าโดด
"ไม้! ได้ยินฉันไม๊"
"ครับ ได้ยินแล้วครับ"
"ได้ยินแล้วมัวทำอะไรอยู่ ไม่รีบเปิดประตูล่ะ"
จังหวะนั้นเองที่ไม้ผลักเดือนออกไป เดือนหล่นพลั่กลงไป
"อ๊าย!"
ไม้ตกใจ รีบปิดหน้าต่างลงกลอนทันที
"เสียงอะไรอ่ะไม้ ไม้"
ไม้เปิดประตูออกมา…ทำเป็นเช็ดตัว
"ขอโทษครับพี่ ที่ทำให้รอ พอดีผมกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำน่ะครับ"
"อาบน้ำเหรอ เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียง เหมือนอะไรหล่น"
"เสียงอะไรเหรอครับ ในห้องก็ไม่มีใคร นอกจากผมที่รอพี่อยู่คนเดียว"
ไม้ยิ้มดึงมือฤทัยเข้าห้อง แต่ฤทัยดันหน้าอกไม้ไว้
"ไม่ใช่ตอนนี้! ฉันไม่มีอารมณ์ เราต้องช่วยกันคิดหาแผนใหม่จัดการกับนังนั่นแล้วล่ะ"

เดือนเดินกะเผลก จับก้นที่เคล็ดเพราะถูกผลักร่วงตกจากหน้าต่างเข้ามาในครัว
"อ้าวนังเดือน...เป็นอะไรน่ะ" ศรีถาม
"ฉันก็เป็นคนสวยน่ะซิ ถามได้ อู๊ย"
"แล้วก้นแกไปโดนอะไรมาถึงได้เจ็บ"
"เอ๊ะอีนี่! อย่าถามมากได้ไม๊ คนยิ่งเจ็บใจอยู่"
"ไม่ถามก็ได้วะ"
ศรีเดินออกไปจากครัว เดือนนั่งคิดอย่างเจ็บใจ
เสียงเดือนบ่นกับตัวเอง
"ทำเป็นคุณนายตีนแดงตะแคงตีนเดิน อีโธ่เอ้ย สุดท้ายก็ต้องมาใช้ของร่วมกับนังเดือน ทู่เรศ!"

เดือนหันไปเปิดฝาชี จกข้าวเหนียวน้ำพริกบนโต๊ะกิน เคี้ยวพลางหัวเราะสมเพชฤทัย

หน้าร้านอาหารของแฟนต้า กฤตพนธ์ยืนกอดอกพิงรถรออยู่ ขณะที่กนกกรนั่งคอยหน้าบูดอยู่ในรถ แฟนต้ากับธีร์กำลังเดินออกคุยกันออกมาส่งนันทนัช
"ต้า...ฉันฝากแกดูแลน้าทิพย์ด้วยนะ"
"จ้า ถึงแกไม่ฝาก ฉันก็ดูแลน้าเค้าดีอยู่แล้ว"
"เฮ่อ...รู้ว่าน้าทิพย์มาอยู่กับแกอย่างงี้แล้ว ฉันค่อยสบายใจหน่อย งั้นฉันกลับก่อนล่ะ ไปนะคะพี่ธีร์"
"เดี๋ยวนัน! พี่อยากไปส่งนัน"
"อย่าลำบากเลยค่ะ ไหนๆ คุณกฤตเค้าก็ต้องไปส่งยัยกิ๊บอยู่แล้ว"
"แต่พี่ไม่ไว้ใจนายคนนั้น"
ธีร์พูดพลางเหล่ไปที่กฤตพนธ์
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ สองคนนั่นคงไม่กล้าทำอะไรนันหรอก นันมีตำรวจตามดูแลอยู่"
"พี่ธีร์เค้าห่วงเรื่องนั้นที่ไหนกัน เค้าหวงแก ไม่อยากให้นายกฤตใกล้ชิดต่างหากล่ะ"
"ก็แล้วทำไมพี่จะหวงไม่ได้ ตั้งแต่กลับมา จนเกิดเรื่อง ก็มีนายคนนี้วนเวียนอยู่ใกล้ๆนันตลอดเวลา บอกตรงๆ พี่ไม่ไว้ใจเค้า"
"เข้าใจค่า แต่เค้าก็เป็นคนช่วยชีวิตนันเอาไว้นะคะ แล้วเค้าก็ไม่ใช่โจรที่ไหน มีเค้าอยู่ด้วย ก็พอสบายใจได้บ้าง"
"แปลว่านายแบบอย่างพี่ดูแลนันไม่ได้งั้นซิ"
"โหะ พี่ธีร์ พาลนะเนี่ย ถ้าอยากจะปกป้องนันได้ นายแบบก็รีบรักษาตัวให้หายเร็วๆดิ ดูซิเนี่ย แขนก็ยังใส่เฝือกอยู่"
จู่ๆ กนกกรก็กดแตรดังแหวกอากาศขึ้นอย่างไม่สนใคร ทำเอาทั้งสามสะดุ้งตกใจ
"ว้าย!"
กฤตพนธ์สะดุ้งถึงกับยกมือป้องหูไปด้วย
"เฮ้ย!"
กดแตรไม่พอ ดันโผล่หน้าจากกระจกออกมาโวยวายอีกต่างหาก
"จะร่ำลากันอีกนานไม๊ห่ะ ฉันรอนานแล้วนะ ถ้าอาลัยอาวรณ์กันมาก ก็ให้พี่ธีร์ของเธอไปส่งก็แล้วกัน เราไปกันเถอะค่าคุณกฤตขา กิ๊บเหนื่อยแล้ว อยากกลับบ้าน"
กฤตพนธ์เลยหันมามองนันทนัช
"คุณนันทนัชครับ...จะกลับหรือยังครับ"
เธอหันไปมองหน้าเขา อะไรบางอย่างทำให้เธอรู้สึกว่า เขาอยากให้เธอกลับกับเขา
"งั้นนันกลับก่อนนะคะพี่ธีร์"

ทิพย์โผล่หน้าจากมุมด้านใน แอบมองออกไปที่หน้าร้าน เห็นนันทนัชกำลังโบกมือร่ำลาธีร์กับแฟนต้าไปขึ้นรถ
"คงไม่มีใคร ที่จะสู้รบปรบมือกับพวกแกได้สมศักดิ์ศรีเท่ากับคุณหนูของชั้นหรอก นังฤทัย!"
ทิพย์ยิ้มมั่นใจ
นันทนัชขึ้นรถไป กฤตพนธ์มองสบตากับธีร์ ก่อนจะขึ้นรถขับออกไป โดยมีรถตำรวจตามหลังไป
กฤตพนธ์ทำหน้าที่ขับรถพา 2 สาวไปส่งที่เรือนรัตนะ กนกกรนั่งคู่ไปกับเขา กำลังเปิดตลับแป้งเติมหน้า แต่เขากลับแอบเหลือบมองนันทนัชที่นั่งมองเหม่อ แววตาเศร้า ออกนอกหน้าต่างรถอยู่ทางเบาะหลัง
กนกกรปิดตลับแป้งหันมาจะคุย แต่เห็นสายตาเขาแอบมองนันทนัช ก็หึงขึ้นมาทันที อยากจะเอาคืนนันทนัชให้เจ็บแสบ เลยแกล้งทำเป็นพูดดีขึ้น
"ท่าทางเธอคงจะรักนังทิพย์มากสินะ ฮึ น่าสงสารจัง"
เขาแปลกใจ ขณะที่นันทนัชหันมามองกนกกรอย่างรู้ทัน
"เธอกำลังจะพูดอะไร"
"พูดความจริง"
"ความจริงอะไร อ๋อ ... จะสารภาพความจริงว่า พ่อฉันถูกพวกเธอฆ่ายังไงใช่มั้ย"
กนกกรฉุน
"ความจริงที่นังทิพย์มันแอบเป็นเมียลับ ๆ ของพ่อเธอต่างหาก"
"คุณกิ๊บ"
นันทนัชราวกับถูกชกเข้ากลางอก จุก จนอ้าปากค้าง พูดแทบไม่ออก
"ไม่จริง...เธอโกหก"
"มันต่างหากที่โกหกเธอ มันแอบเป็นเมียคนใช้ของพ่อเธอมานานแล้ว แต่คงไม่ถึงใจ มันเลยแอบไปเล่นชู้กับคนขับรถอีก"
"หยุดใส่ร้ายน้าทิพย์ซะที ฉันไม่เชื่อหรอก"
"จะให้ฉันหยุดทำไม เดี๋ยวซี ยังไม่ทันเล่าตอนที่มันท้องกับไอ้ชิดเลย"
กฤตพนธ์ฟังอยู่ แต่เธอหันหน้าหนี
"ฉันบอกให้หยุด"
"ฟังให้ถึงตอนที่มันมาโกหกว่าท้องกับพ่อเธอก่อนซี มันโกหกหน้าด้านๆ พอพ่อเธอจับได้ว่ามั่วกับคนขับรถจนท้องโตขึ้นมา ก็เลยไล่มันออกจากบ้าน นี่แหละความจริงล่ะ ฮ่ะๆๆ"
"จอดรถ! ฉันบอกให้จอด"
นันทนัชพยายามเปิดประตูรถจะโดดลง
"เอ้ยอย่าคุณ...อย่าลงไป"

กฤตพนธ์เบรกรถเอี๊ยดลั่นถนน ชิดริมฟุตบาท ทำเอาตำรวจที่ขับตามมาเบรกตามแทบไม่ทัน
พอรถจอดนันทนัชก็วิ่งลงจากรถทันที เขาเปิดประตูตามลงมา
"คุณนันจะไปไหน...คุณนัน"
กฤตพนธ์วิ่งตามไป กนกกรรีบลงจากรถมาตะโกน
"จะตามไปทำไมคะคุณกฤต กลับมา คุณกฤต"
กฤตพนธ์ตะโกนกลับมาเสียงเครียด กลุ้มใจกับ 2 สาว
"คุณรออยู่ที่รถนะ"
ตำรวจทั้ง 2 ลงจากรถวิ่งตามไปด้วย กนกกรยืนกรี๊ด
"อ๊าย...อีบ้า อีประสาท ทำเป็นรับความจริงไม่ได้ วิ่งไปให้รถชนตายไปเลยไป"
กนกกรยืนหงุดหงิด
เวลาต่อเนื่องมา นันทนัชวิ่งปิดหูมายังสะพานข้ามแม่น้ำ ช็อกกับสิ่งที่ได้ยินจนรับไม่ได้ วิ่งเตลิดราวกับจะหนีมันไปให้ไกล
"มันต่างหากที่โกหกเธอ นังทิพย์มันแอบเป็นเมียคนใช้ของพ่อเธอมานานแล้ว แต่คงไม่ถึงใจ มันเลยแอบไปเล่นชู้กับคนขับรถอีก"
ด้านหลัง กฤตพนธ์วิ่งตะโกนเรียกไล่ตามมา กับตำรวจด้านหลังอีก 2 นาย แต่ดูเหมือนนันทนัชจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากสิ่งที่ได้ยินจากกนกกรที่ดังก้องอยู่ในหู
"มันโกหกหน้าด้านๆ พอพ่อเธอจับได้ว่ามั่วกับคนขับรถจนท้องโตขึ้นมา ก็เลยไล่มันออกจากบ้าน นี่แหละความจริงล่ะ ฮ่ะๆๆ"

"ความจริงที่นังทิพย์มันแอบเป็นนางบำเรอ ของพ่อเธอต่างหาก นางบำเรอ มันโกหกเธอ นางบำเรอของพ่อเธอ มันโกหกหน้าด้านๆ นางบำเรอของพ่อเธอ"

เรือนริษยา ตอนที่ 5 (ต่อ)

กฤตพนธ์ที่วิ่งตามมา หยุดวิ่ง พลางยกมือห้าม 2 ตำรวจที่วิ่งตามหลังมา

"เดี๋ยวผมคุยเองครับ คุณรออยู่ตรงนี้นะครับ"
ตำรวจทั้ง 2พยักหน้า...หยุดยืนหอบ ปล่อยให้เขาเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ เขาทำเป็นเดินมายืนมองแม่น้ำข้างๆเธอ
"อยากจะกลับเมื่อไหร่ บอกผมนะ"
เธอหันขวับมาใส่ทันที
"ไปให้พ้น"
เขายิ้มกวน
"คิดแล้วว่าคุณต้องพูดประโยคนี้"
"คุณมันก็พวกเดียวกับนังฤทัย"
"ข้อหาเก่า"
"ฉันเกลียดพวกคุณ"
"หึ นี่ข้อหาใหม่เหรอ แต่ขอโทษนะ ผมว่าคุณพูดผิด ผมไม่มีพวก แต่ถ้าแค่อยากจะใช้ผมเป็นที่ระบาย ก็เชิญเลย ผมตกกระไดพลอยโจนช่วยคุณมาแล้วนี่ ผมก็ต้องช่วยต่อไป"
ได้ผล...กฤตพนธ์หยุดนันทนัชได้ เธอน้ำตาร่วงอย่างอัดอั้น
"ฉันไม่เคยต้องการให้คุณมาช่วย ต่อให้ฉันเหลือตัวคนเดียวในโลกนี้ ฉันก็ไม่ต้องการให้ใครมาช่วย"
นันทนัชหันเดินหนีไป
"นี่คุณจะไปไหนอีก กลับไปขึ้นรถเถอะ คุณนัน"
นันทนัชไม่ฟัง เดินหนีไป
"อย่าดื้อได้ไม๊คุณนัน คุณโตแล้วนะ พูดให้มันรู้เรื่องหน่อย คุณนัน!"
เขาเดินตามมาคว้าแขนดึงไว้ แต่เธอสะบัดแขน
"ปล่อยฉันนะ โอ๊ะ!"
จังหวะที่หันมาสะบัด ทำให้เธอขาพลิกเซจนตัวเซมาชนกับเขา ทั้งคู่ต่างยืนอึ้ง ชะงัก
เธอดึงตัวเองออกช้าๆ ตายังฉ่ำด้วยน้ำตา มองหน้าเขา กฤตพนธ์อึ้งมอง ตาโตๆ ขนตางอนๆ ที่ฉ่ำด้วยน้ำตานั้นช่างสวยจับใจเขาเหลือเกิน
เธอถอยห่างไม่จากกฤตพนธ์อย่างเก้อ
"ไม่ต้องตามมานะ ฉันดูแลตัวเองได้"
นันทนัชก็เดินไป ร้องไห้เสียใจกับเรื่องทิพย์ต่อ กฤตพนธ์ยืนถอนใจ
"โธ่เอ้ย...ยังจะปากเก่ง"
กฤตพนธ์ เดินตามไปอีก

เธอเดินปาดน้ำตาหนีมา กฤตพนธ์เดินตามหลังมา
"นี่คุณ...จะเดินไปไหนน่ะ"
"ฉันอยากอยู่คนเดียว ทิ้งฉันไว้ที่นี่ล่ะ คุณไปซะเถอะ"
"จะให้ผมทิ้งคุณไว้ได้ยังไง เดี๋ยวก็โดนเก็บอีกหรอก กลับบ้านกับผมเถอะ"
เขาเข้ามาคว้าแขน แต่เธอสะบัดมือหันมา
"ปล่อยฉันนะ! ปล่อย...นี่"
นันทนัชไม่ได้ดิ้นอย่างเดียว แต่ยังเอามือไม้ตีกฤตพนธ์ ดิ้นสุดฤทธิ์จนเขาต้องจับมือเป็นพัลวันพลางพูดสั่งสอน
"ผมเข้าใจว่าคุณผ่านเรื่องร้ายๆมาเยอะ...แต่นี่มันยังไม่จบหรอกนะคุณ คุณยังต้องเจออะไรอีกเยอะ แค่เค้าพูดเป่าหูคุณนิดเดียว คุณก็ร้องไห้ฟูมฟายให้เค้าเห็นแล้ว ผมว่าคุณยอมแพ้ซะดีกว่า จะได้ไม่เจ็บตัวมากไปกว่านี้"
เธอหยุดกึก ร้องไห้ต่อหน้าเขา
"ฉันไม่เชื่อว่าน้าทิพย์กับพ่อจะมีอะไรกัน ฉันไม่เชื่อ ฮือๆๆ"
กฤตพนธ์สงสารจับใจ ดึงนันทนัชมากอดปลอบ
"หยุดร้องไห้เถอะคุณนัน คุณต้องเตรียมใจให้พร้อม ยอมรับให้ได้ทุกเรื่องซีครับ คุณกำลังตามหาความจริงเรื่องการตายของพ่อคุณไม่ใช่เหรอ ยิ่งคุณล้วงลึกเข้าไปเท่าไหร่ คุณอาจจะเจอเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเรื่อยๆ คุณต้องเข้มแข็งไว้เพื่อรับมือกับมัน... เอ่อ...เลิกร้องไห้เถอะครับ หน้าตาเลอะไปหมดแล้ว"
กฤตพนธ์ล้วงกระเป๋าตัวเองพัลวัน
"เอ่อ...โทษที ผมเป็นผู้ชายไม่พกผ้าเช็ดหน้า"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
นันทนัชเปิดล้วงในกระเป๋าสะพายเล็กที่ติดตัวมา ล้วงๆสักครู่
"เอ่อ...ฉันก็เป็นผู้หญิงไม่พกผ้าเช็ดหน้าเหมือนกัน"
เขาหลุดยิ้มขำ ทำเอาเธอก็หลุดยิ้มขำทั้งน้ำตาด้วย...ใช้มือไม้ตัวเองเช็ดน้ำตา
กฤตพนธ์ยืนมอง ยามนี้นันทนัชดูอ่อนแอก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่น่าเห็นใจ เธอเขินหันข้างหลบ ขณะที่เขามองเพลินๆ อยู่นั้น เสียงมือถือดังขึ้น เมื่อเขาเห็นเป็นชื่อและเบอร์ของกนกกร ก็เดินออกมาห่างๆ พลางคิด "ถ้าให้กลับขึ้นรถไปด้วยกัน เดี๋ยวได้ปะทะคารมมีเรื่องกันอีกแน่"
เขาคิดหาทางแก้ ก่อนรับสาย

"ฮัลโหล ครับคุณกิ๊บ"

เรือนริษยา ตอนที่ 5 (ต่อ)

กนกกรยืนพูดสายรออยู่นอกรถ

"ไปตามแม่นั่นถึงไหนคะคุณกฤต กิ๊บยืนรอจนขาแข็งแล้วนะคะ"
"เอาอย่างงี้นะครับ คุณขับรถผมกลับบ้านไปก่อน"
"อ้าว แล้วคุณล่ะ"
"เดี๋ยวผมพาคุณนันกลับกับรถตำรวจเองครับ"
"ทำไมคะ เค้าไม่ยอมกลับไปกับกิ๊บหรือไง"
"ไม่ใช่อย่างงั้นครับ"
"ไม่ใช่อย่างงั้นแล้วยังไงคะ หรือว่าเค้ากระโดดน้ำฆ่าตัวตายไปแล้ว คุณยังงมศพไม่เจอ ฮ่ะๆๆ"
กฤตพนธ์อ่อนใจ
"นี่ไง! ก็เพราะยังงี้ไงครับ ผมถึงให้คุณกลับไปก่อน ขืนพานั่งรถไปด้วยกัน มีหวังตายหมู่"
"แหมๆคุณกฤตอ่ะ พูดซะน่ากลัว โอเคค่ะ โอเค เดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะคะ"
กนกกรวางสาย
"หึ ทำเป็นสำออย เรียกร้องความสนใจ ฉันรู้แล้ว จุดอ่อนของแกคือนังทิพย์นี่เอง ฮิๆๆ"
กนกกรสวมแว่นกันแดดกลับขึ้นรถ...ขับออกไป

เวลาพลบค่ำ นันทนัชยืนมองแม่น้ำอยู่เคียงข้างกฤตพนธ์... เธอดูมีสติเป็นคนเดิมแล้ว
"สติกลับเข้าร่างดีแล้วนะครับ เราจะได้กลับกันซะที"
เธอหันมามองค้อนๆ
"ฉันไม่ได้บ้านะ"
เขาขำ แล้วเดินนำไปก่อน แล้วเธอก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นเสื้อขาวด้านหลังของกฤตพนธ์มีรอยเลือดซึมออกมาเป็นทางยาว
"เอ๊ะ! เดี๋ยวคุณ"
เขาชะงักหันมามอง
"อะไรครับ"
"หลังคุณน่ะค่ะ"
กฤตพนธ์ยื่นมือจะไปเตะแต่ไม่ถึง
"เดี๋ยวฉันดูให้ค่ะ"
นันทนัชรีบเดินเข้าไป ค่อยๆเปิดเสื้อกฤตพนธ์ขึ้นอย่างเก้อๆ เห็นเป็นรอยช้ำ แตกเลือดเป็นทางยาวตั้งแต่ไหล่ลงมาคืบนึง
"อุ๊ย!"
กฤตพนธ์คิดออกทันที
"อ๋อ...มีคนทำร้ายผมในห้องน้ำ"
"อย่าบอกนะ ว่าในร้านอาหารเพื่อนฉัน"
"ที่นั่นล่ะครับ มันคงจะตามพวกเรามา"
เขาพูดพลางดึงเสื้อลงตามเดิม
"พวกมันเป็นใคร"
"ผมก็ไม่รู้ 1ในพวกมันเหมือนกับเอ่อ...คนที่ทำร้ายคุณที่บึงน้ำ"
"ห่ะ! แล้วมันมาทำร้ายคุณทำไมค่ะ"
"มันคงไม่อยากให้ผมยุ่งเรื่องของคุณมั้ง"
นันทนัชอึ้งไปเลย
"เอ่อ...ขอโทษนะคะ ถ้าฉันทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย ฉันต้องแจ้งตำรวจ"
"อย่าครับ ไม่ต้องแจ้ง"
"มันทำร้ายคุณขนาดนี้ ไม่แจ้งได้ยังไงคะ ต้องแจ้งค่ะ"
เขาคว้ามือเธอไว้
"คุณนัน! เชื่อผมซี ปล่อยให้มันย่ามใจไปก่อน ถ้ามันเห็นผมอยู่กับคุณอีก มันก็ต้องมาหาผมอีกแน่ๆ ผมต้องรู้ให้ได้ ว่ามันเป็นพวกไหน ต้องการอะไรจากคุณ"
"มันต้องการกำจัดฉันไปให้พ้นจากมรดกพ่อฉันน่ะซิ มันเลยจะเก็บฉัน"
"อาจจะใช่หรือไม่ใช่อย่างที่คุณพูดก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คุณต้องระวังตัวให้ดี อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว"
เธอมองเขาอย่างซึ้งใจ
"ขอบคุณค่ะ ฉันจะระวังตัว"
นันทนัชล้วงยาหลอดนึงออกมาจากกระเป๋า
"นี่ค่ะ ยาทาแก้ฟกช้ำจากโรงพยาบาล ฉันหายแล้ว คุณเอาไปใช้เถอะ"
เธอยัดยาใส่มือให้เขา
"เอ่อ...ขอบคุณครับ"

กนกกรกลับมาก็รายงานฤทัยเรื่องทิพย์ รีบชวนไม้เข้าห้องปิดประตูคุยกัน
"กิ๊บไปเจอนังทิพย์มาค่ะแม่ มันไปเป็นแม่ครัวอยู่ที่ร้านอาหารเพื่อนสนิทนังนันค่ะแม่"
"หึ ๆๆ อีพวกกะลาก้นครัว มันก็เป็นกะลาอยู่วันยังค่ำ"
"โธ่แม่...ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่มันเป็นกะลานะแม่ มันอยู่ที่ว่า นังนันอาจจะเป็นคนแอบเอานังทิพย์ไปซุกไว้ที่ร้านเพื่อนมันแล้วทำเป็นเล่นละคร ว่าไม่เจอกันมานานแล้ว"
"เอ่อ..."
"ถ้างั้นคนที่ส่งข่าวไปบอกคุณนันให้รีบมาอายัติศพคุณลิตรก็ต้องเป็น..."

"นังทิพย์นี่แหละ! หึ"

นันทนัชเดินกลับเข้ามาในบ้านกับกฤตพนธ์ ก็เจอฤทัย กนกกร ไม้ที่เดินออกมาจากห้องทำงานพอดี
"คุณกฤต"
"ต๊าย...ลำบากคุณกฤตแย่เลย ต้องเป็นภาระพามาส่ง"
ฤทัยเหล่กัดนันทนัช แต่เธอก็แก้คืน ทำเป็นหันไปยิ้มหวานให้เขา
"น้าฤทัยก็พูดเกินไปค่ะ คุณกฤตเค้าลำบากที่ไหน เวลาอยู่กับนัน คุณกฤตสนุกจะตายไป จริงไม๊คะ"
เขาอึ้ง ยิ้มขำๆ
"เอ่อ...ครับ"
กนกกรอึ้งปรี๊ด
"สนุกเหรอคะคุณกฤต กิ๊บเห็นคุณวิ่งไล่ตามแม่นี่จนหอบแฮ่กๆ"
"ก็สนุกตรงที่วิ่งไล่ตามฉันนี่แหละ"
"นี่เธอ..."
เธอหัวเราะเบา ๆ เดินขึ้นบันไดไป ไม่สน เขาแอบถูกใจความแสบของเธอ
"คุณกฤต"
เขาสะดุ้งนิดๆ
"ครับ! เอ่อ...ผมต้องกลับแล้ว มีนัดที่หน่วย ขอกุญแจรถด้วยครับ"
"จะไม่ดื่มชากาแฟนั่งคุยกันก่อนเหรอคะ"
"มีนัดจริงๆครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ"
"ก็ได้ค่ะ นี่ค่ะกุญแจ" กนกรพูดพลางยื่นกุญแจให้
"งั้นผมกลับก่อนนะครับ"
"หวัดดีค่า ไปยัยกิ๊บ...เดินไปส่งคุณกฤตเค้าหน่อย" ฤทัยบอก
"ค่ะแม่"
กนกกรเดินตามกฤตพนธ์ออกไป ฤทัยหันมายืนกอดอก กับไม้ มองแค้นขึ้นไปชั้นบน

นันทนัชเดินเข้าห้องมาก็ล็อกประตูลงกลอนแน่นหนา แล้วนึกขึ้นได้

ใอดีตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นันทนัชเดินผ่านห้องนอนลิตร เห็นประตูปิดไม่สนิท เลยเปิดจะเข้าห้อง
แต่ต้องชะงักแอบดูอยู่อย่างนั้น เมื่อมองเห็นลิตรนั่งอยู่ที่เตียง ในมือถือปืนกระบอกหนึ่ง ซึ่งเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่รำเพยเคยยิงตัวตายเมื่อ 15 ปีก่อน ลิตรก้มลงมองปืนในมือและลูบปืนด้วยสีหน้าโศกเศร้า เขากำลังคิดถึงรำเพยที่จากไป แล้วลิตรก็อดกลั้นน้ำตาเก็บปืนใส่กระเป๋าหนังเก็บปืนก่อนเดินหิ้วกระเป๋าไปเก็บไว้ที่ชั้นบนสุดของตู้ในมุมไกล

นันทนัชดีใจ มองไปที่ตู้ยังมุมไกลนั้น คว้าเก้าอี้ไปเหยียบ…เปิดชั้นบนของตู้ แล้วก็เห็นกระเป๋าใบนั้นซ่อนตัวอยู่ลึกข้างใน เธอเขย่งเท้ายื่นมือไปดึงกระเป๋าออกมาถือไว้
เธอรีบลงจากเก้าอี้ถือกระเป๋าไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง เปิดกระเป๋าออกช้าๆ แล้วค่อยๆหยิบปืนออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับอาวุธสังหาร
นันทนัชนั่งคิด นึกไปถึงกฤตพนธ์

ภายในโรงยิมแห่งหนึ่ง กฤตพนธ์กำลังแต่งตัวใส่ชุดเทควันโด้คาดสายน้ำตาลอยู่ที่หน้าตู้ล็อคเกอร์ของตัวเอง ระหว่างกำลังเก็บเสื้อผ้าข้าวของใส่ตู้… เสียงของร่วงตกลงที่พื้น
เขาก้มลงไปมอง ยาทาแก้ช้ำเคล็ดขัดยอกของนันทนัชที่ให้มา
"นี่ค่ะ ยาทาแก้ช้ำจากโรงพยาบาล ฉันหายแล้ว คุณเอาไปใช้เถอะ"
เขาก้มลงเก็บขึ้นมา....มองหลอดยา นึกไปถึงภาพประทับใจนั้น...

เขาเดินตามมาคว้าแขนดึงไว้ แต่เธอหันมาสะบัดแขน
"ปล่อยฉันนะ โอ๊ะ!"
เธอขาพลิกเซจนตัวเซมาชนกับเขา ทั้งคู่ต่างยืนอึ้ง ชะงัก เธอดึงตัวเองออกช้าๆ ตาที่ยังฉ่ำด้วยน้ำตา มองหน้าเขา เขาอึ้งมอง ตาโตๆขนตางอนๆที่ฉ่ำด้วยน้ำตานั้นช่างสวยจับใจเขาเหลือเกิน

กฤตพนธ์มองหลอดยาแล้ววูบวาบที่หัวใจ อมยิ้มเล็กน้อย นันทนัชเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาอ่อนไหวขนาดนี้ พึมพำกับตัวเอง
"ไอ้บ้ากฤตเอ้ย สงสัยแกจะเจอยัยนั่นทำเสน่ห์ใส่ซะแล้ว"

นันทนัชนั่งหน้าแดง คิดถึงภาพนั้นเหมือนกัน

กฤตพนธ์ ดึงนันทนัชมากอดปลอบ
"หยุดร้องไห้เถอะคุณนัน คุณต้องเตรียมใจให้พร้อม ยอมรับให้ได้ทุกเรื่องซีครับ คุณกำลังตามหาความจริงเรื่องการตายของพ่อคุณไม่ใช่เหรอ ยิ่งคุณล้วงลึกเข้าไปเท่าไหร่ คุณอาจจะเจอเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเรื่อยๆ คุณต้องเข้มแข็งไว้เพื่อรับมือกับมัน"

เธอรู้สึกอุ่นใจกับคำปลอบนั้น แต่ก็ยังลังเล พึมพำ
"เราควรจะไว้ใจเค้าได้หรือยัง"
เธอเดินถือปืนไว้ในมือ เดินไปเดินมาอย่างลังเล

กฤตพนธ์กำลังตั้งท่าซ้อมเทควันโด้กับคู่ซ้อม
"อ๊าก"
เขาบุกเข้าจู่โจมคู่ฝึกซ้อมที่มีฝีมือไม่แพ้กัน วิ่งเข้าเตะนำ ซ้ายขวา ต่อย แล้วเหวี่ยงตัวกระโดดเตะสูงเหมือนจรเข้ฟาดหาง…. เมื่อจบการฝึกซ้อม ทั้งคู่ต่างโค้งคำนับให้กัน

บ้านไม้กลางสวนดูลึกลับวังเวง ทิพย์กลับมากำลังเดินตรงมาที่บ้านชิดที่มานั่งรออยู่ เขาลุกขึ้นอย่างโล่งใจ
"ทำไมวันนี้กลับดึก"
"ที่ร้านลูกค้าเยอะ"
"ทิพย์คงจะเหนื่อย"
ชิดมองอย่างเห็นใจ
"เรื่องนั้นช่างเถอะ มีเรื่องสำคัญกว่านั้น"
"มีเรื่องอะไรเหรอ"
ทิพย์รีบดึงชิดเข้าบ้านอย่างร้อนใจ

ชิดสีหน้าตื่นเต้น
"คุณนันหาทิพย์เจอจนได้!"
"แต่จะให้คุณหนูรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหลุดเข้าหูนังฤทัยล่ะก็ ภัยมาถึงตัวเราแน่"
"แต่คุณกิ๊บก็เห็นทิพย์ที่ร้านไม่ใช่เหรอ"
ทิพย์พยักหน้ารับ
"ฉันน่าจะระวังตัวมากกว่านี้"
"ป่านนี้คุณนายคงรู้แล้ว พวกมันไม่ปล่อยเธอไว้แน่ทิพย์ เชื่อฉันซิ มันต้องไปที่ร้าน มันต้องไปหาเธอแน่"
"ก็ให้มันมา"

ทิพย์พร้อมเผชิญหน้า
 
จบตอนที่ 5 


“เฮียโต” ห้างดนตรีย่งเส็งได้รับพระราชทานเพลิงศพ ครอบครัวปลื้มปิติ
“เฮียโต” ห้างดนตรีย่งเส็งได้รับพระราชทานเพลิงศพ ครอบครัวปลื้มปิติ
หลังจากตกเป็นข่าวครึกโครมถึงกรณีการเสียชีวิตของนายชัชวาล อัศวโสภณ หรือ เฮียโต เจ้าของห้างดนตรีย่งเส็งว่าเครียดที่ถูกนายทุนไล่ที่ทำกินมานานกว่า 100 ปี จนกระทั่งเขาหายตัวไปและพบว่าเป็นศพลอยติดท่าเรือศิริราชในวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้หลายกระแสวิพากวิจารณ์ว่าเป็นการฆ่าตัวตายนั้น ล่าสุดนายภาสพงศ์ อัศวโสภณ ลูกชายของนายชัชวาลได้ระบุว่าทางครอบครัวอัศวโสภณรู้สึกปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ได้ทรงพระราชทานพวงมาลาและพระราชทานเพลิงศพให้แก่นายชัชวาล
กำลังโหลดความคิดเห็น