สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 13
มิคาอิลต่อว่าเขมชาติอย่างไม่พอใจ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“คุณทำงานพลาดมากนะเขม สินค้าที่ว่าไม่ได้มาสักราย”
“ผมยอมรับผิด ผมทั้งสาบาน และสัญญาว่าจะส่งสินค้าที่ดีที่สุดให้คุณ ในเร็ววัน” เขมชาติบอกอย่างจริงจัง
“หมายถึงใคร อีริน่าหรือแปล่า”
“เราจะร่วมมือกันตกลงไหม คนที่จะทำให้อีริน่ามาติดกับเราก็คือพ่อของเธอ”
“ใช่นิโคลัยนี่แหละ แต่ครั้งก่อนที่โรงแรมนั่นทำสำเร็จแล้ว แต่ไอ้นักการทูตนั่นมันย้อนรอยเอา ยังโชคดีที่ไหวตัวทัน มันเอาพ่อมันไปไม่ได้”
“ขอยา ขอยาฉันด้วยมิคาอิล ฉันไม่ไหวแล้ว” นิโคลัยส่งเสียงเรียก
มิคาอิลยิ้มหยัน
“ได้สิ ฉันจะให้แก ฟังนะว่าคนของฉันไปจับเมียแกมาได้อีกแล้วตอนที่แกได้พบลูกสาว แกบอกมันด้วยว่าถ้ามันเรื่องมาก แม่ของมันจะโดนคนของฉันนับสิบรุมข่มขืน แต่ยาของฉันตอนนี้ ส่งไปเกือบหมดแล้ว เหลือให้แกใช้อีกครั้งเดียวเท่านั้น”
เขมชาติแทรกขึ้น
“ไม่มีปัญหา ขอกันกินยังมากกว่านี้ ผมยินดีบริการให้ฟรี แก้ตัวที่ผมพลาดไป ซอรี่นะมิคาอิล”
เขมชาติยื่นมือให้จับ มิคาอิลจับมือ เอื้อแอบมอง แอบถอนใจว่าเอาอีกแล้ว
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ตั้งกองสอบสวนทุกคน อารดาและพงษ์ธรแต่งตัวแล้วร่วมอยู่ด้วย
“ก็ตามที่ผมเรียนให้คุณแม่ทราบนี่แหละครับ ว่าทำไมผมกับจิต อีริน่าจึงแยกทางกัน ถามสามคนนี่ดูได้เลยครับ” พงษ์ธรพยายามแก้ตัว
“จริงหรืออีริน่า หนูดา ลูกจิต” คุณหญิงกวาดตามอง
“ค่ะ” สามคนรับคำ
อีริน่านึกสนุก
“ค่ะ ไอ สแวร์ อีริน่าหลงทางกับทุกคนค่ะ ในผับเกิดชกต่อยตบตีกันขึ้นจนชุลมุลวุ่นวาย ตัวใครตัวมันค่ะ”
อารดารีบเสริม
“อีริน่าพูดถูกค่ะ ดาพยายามตามหาเรียกหาทั้งอีริน่ากับน้องจิต แต่ก็หาไม่พบค่ะ”
จิตรดาราแค้นๆ
“จิตน่ะเจอคนใจหมามันลากออกมานอกผับ จับใส่รถหมายเอาจิตไปข่มขืนแต่ก็เจอคนมาช่วยเอาไว้ค่ะ”
“ต๊าย ใครกันจำหน้ามันได้ไหมลูกจิต” คุณหญิงตกใจ
“จำไม่ได้หรอกค่ะ แต่จิตก็กำลังพยายามนึกอยู่ค่ะ แต่ก็ช่างเถิดค่ะ นึกว่าให้ทานหมาฝูงนั้นไป เพราะจิตปลอดภัยแล้ว ว่าแต่มีบางคนอาจไปไม่รอดปลอดภัยเพราะเวรกรรมมันตามทันเอานะคะ”
อีริน่าแทรก
“แบบเดียวกับอีริน่าค่ะ อีริน่าออกมาเจอหมาขี้เรื้อนฝูงใหญ่หมายขย้ำแต่บังเอิญมันขี้เรื้อนมาก บาปหนาด้วยมันเลยแพ้ภัย ทำร้ายทำลายกันเองหลังจากที่อีริน่าหนีพ้นมาแล้วค่ะ”
อารดากับพงษ์ธรวางหน้าไม่สนิท จีรณัทย์พูดขึ้น
“ช่างเป็นโชคดีของอารดาที่มากับคุณพงษ์ ไม่งั้นอาจโดนแบบสองคนนี่”
อารดากับพงษ์ธรวางหน้าไม่ค่อยจะถูก อีริน่าแอบหัวเราะ จิตรดาราแอบมองไม่ไว้ใจ คุณหญิงแปลกใจ
“แล้วใครกันที่ช่วยเธออีริน่า”
“แว๊นค่ะ แว๊นสามคนที่มาแถวหน้าบ้าน” อีริน่าบอก
“ต๊าย” คุณหญิงหน้าตื่น
“อีริน่ารอดตายเพราะแว๊นสามคนนะคะ”
จีรณัทย์หันมาถามจิตรดารา
“แล้วใครช่วยน้องจิตไว้คะ”
“ไม่บอกค่ะ ขืนบอกเราจะโดนทำร้าย”
“เพราะกำแพงมีหูประตูมีซ่องค่ะ” อีริน่าเสริม
ทุกคนหันมามอง จีรณัทย์แก้ให้
“อีริน่าคงจะหมายความว่า ประตูมีช่องค่ะ”
“ค่ะ แถมเกลือเป็นหนอน ถามคุณดาดีกว่าค่ะว่าทำไม กลายเป็นโดนลอกคราบตัวล่อนจ้อน” อีริน่ายิ้ม
จิตรดารากระซิบพงษ์ธร
“คุณก็ด้วย ทำไมต้องไปล่อนจ้อนด้วยกัน จิตไม่สบายใจนะคะ”
พงษ์ธรกับอารดาสบตากัน แทบจะพูดไม่ออก อีริน่ากระซิบจีรณัทย์
“แหววเคยสอนอีริน่าว่าอย่ารุกไล่ให้ใครๆหลังพิงฝา หน้าติดประตู เขาจะไปไม่รอดค่ะ เปลี่ยนคำถามใหม่เถิดค่ะ”
“จ้ะ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกับคุณพงษ์ไม่ทราบคะ” จีรณัทย์ถามใหม่
“เอ้อ...” สองคนอึกอัก
เจตริน อิฐ กมลกันต์ปรึกษากันหาทางจับมิคาอิล และช่วยเหลือนิโคลัยอยู่ในห้องพัก
“ผมโทรหายูริที่รัสเซียให้สืบหาที่อยู่คุณพริมแม่ของอีริน่า เขาไปตามหาเธอที่บ้านมาดามแคทเธอรีน ปรากฏว่าเธอโดนมิคาอิลสั่งคนมาตามจับ เธอไปอีกแล้ว” เจตรินบอกอย่างกังวลใจ
กมลกันต์หนักใจ
“แย่จริงทำให้การตามหาคุณตา คุณยายของอีริน่ายุ่งยากต่อไปอีก”
“เราต้องเอาจิ๊กซอร์มาต่อกันว่ะเจต เช่นแม่ของอีริน่าเจอกับปาปาแล้วไปที่ไหนต่อ” อิฐแนะ
“เคจีบีรุ่นนั้นทำงานกันแถว ลาว ไทย เวียตนาม เท่าที่ทราบ อีริน่าบอกว่าแม่กับปาปาเคยไปอยู่ลาว นี่เองทำให้เราสืบไม่ได้ แม่ของอีริน่าชื่อไทยว่าอะไร เพราะแม้แต่นิโคลัยกับอีริน่ายังไม่เคยรู้ว่าจริงๆเธอชื่ออะไร” เจตรินอธิบาย
อิฐคิดๆ
“คาดว่าความจริงไม่น่าแต่งงานกันที่เมืองไทย แต่ประเภทไปกันเงียบๆไปลาว แต่ไปจากลาวนี่สิน่าจะมีหลักฐานมาประเมินได้”
กมลกันต์คิดตาม
“มันน่าจะเกี่ยวของกับความมั่นคงสมัยนั้น คุณพ่อของพี่เคยเกี่ยวข้องเพราะยุคนั้น สงครามเวียตนามพอดี”
เจตรินเห็นดีด้วย
“ดีครับ ช่วยกันค้นหาคนละไม้คนละมือ ผมมั่นใจว่าคุณพริมเป็นผู้ดีสังเกตจากการอบรม และกิริยาท่าทีคำพูดของเธอมีการศึกษา และได้รับการอบรมที่ดีมาแน่ๆ เราต้องสืบหาว่ามิคาอิลพักที่ไหน”
“ใครจะนั่งเทียนหาที่พักมันเจอ พัทยาออกจะกว้างใหญ่” อิฐถอนใจ
“นายเอื้อ” เจตรินโพล่งออกมา
อิฐ กับ กมลกันต์เห็นด้วย
“ใช่” เจตรินหนักใจ
“แต่เราไม่สามารถติดต่อนายเอื้อได้”
“จ่าเหวงพ่อนายเอื้อ” กมลกันต์นึกออก
“แล้วจะมั่นใจได้ยังไงว่านายเอื้อจะยอมร่วมมือกับเรา” เจตรินไม่มั่นใจ
“ไม่ลองไม่รู้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” อิฐพูดเรียบนิ่ง
สามคนพยักหน้ากัน
บ้านจ่าเหวงเป็นบ้านเล็กๆ จ่าเหวงฟังเรื่องราวของ เอื้อจากกมลกันต์หมดแล้ว เข้าใจหมดแล้ว
“ผมต้องของโทษ และเสียใจมากที่ ไอ้เอื้อมันแอบลาออกไปหางานเลวๆทำผมจะให้เบอร์คุณกมลไปกับมัน และให้เบอร์มันกับคุณกมล และผมจะพูดกับมันให้รู้สำนึกผิดชั่วดี ถ้ามันไม่สำนึก มันกับผมก็ไม่ใช่พ่อลูกกันอีกต่อไป”
จ่าเหวงน้ำตาซึม
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์มองพงษ์ธรกับอารดา
“เรื่องคนอื่นจบแล้ว ยังไงต่อเล่าเรื่องของ คุณพงษ์กับหนูดาสิ”
สองคนสบตากัน อารดาเริ่มเล่า
“คือเราสองคนรีบมาขึ้นรถ จะตระเวนตามหาน้องจิตกับอีริน่าค่ะ”
“พวกโจรมันมาจี้จับเราสองคนไปครับ จี้...เอ้อ...จี้ที่รถเราเลยครับ” พงษ์ธรเสริม
“มันเอาดากับพงษ์ไปขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งค่ะ ขังจนสว่างเลยค่ะ”
จิตรดาราสวนขึ้น
“มันปัญญาอ่อนหรือเปล่าคะ ดันจับพงษ์กับพี่ดาแก้ผ้าล่อนจ่อน”
“มันเป็นโจรเกย์หรือเปล่า จะข่มขืนคุณพงษ์” อีริน่าถามขำๆ
“มันเป็นเกย์วิตถารด้วย มันแก้ผ้าอารดา แล้วมันมาข่มขืนคุณพงษ์” คุณหญิงเสริม
สองคนหน้าตื่นปฏิเสธพร้อมกัน
“ไม่ใช่ค่ะ/ครับ”
จีรณัทย์คิดๆ
“หรือว่ามันปัญญาอ่อน แค่จับมาเปลือยเล่นแล้วเอาเสื้อผ้ามาซ่อน”
“มันเอามาซ่อนตั้งแต่กลางคืน มันรู้ได้ยังไงว่าบ้านเราอยู่ที่นี่” จิตรดาราแปลกใจ
“บอกแล้วไงคะว่าเกลือเป็นหนอน กำแพงมีหูประตูมีซ่อง” อีริน่าแทรกขึ้น
“โอ๊ยฟังแล้วเวียนหัว รอดปลอดมากันทุกคนก็ดีแล้ว นี่มาได้คืนเดียวยังป่วนขนาดนี้ แม่ว่ากลับกันดีกว่า” คุณหญิงส่ายหัว
อารดารีบห้าม
“อย่าเพิ่งสิคะอยู่ต่ออีกวันเถิดค่ะ” อารดากระซิบ “ยังจัดการนังอีริน่าไม่สำเร็จนะคะ”
“จิตก็ว่าอยู่ต่อเถิดค่ะ เรายังไม่ทันได้ไปกินซีฟู๊ดนอกบ้านกันเลยนะคะคุณแม่ขา” จิตรดารากระซิบ “เรายังไม่บรรลุเป้าหมายนะคะ”
จีรณัทย์หันไปถามอีริน่า
“อีริน่าว่ายังไงดี”
“มาด้วยกันไปกินซีฟู๊ดด้วยกันค่ะ เข้าเมืองตะหลิว หลิวตาตามค่ะ”
คุณหญิงส่ายหน้าเซ็ง
“นี่ลำบากมากนักก็ไม่ต้องพูดหรอกจ้ะอีริน่า เอาเป็นว่าเราตกลงกันตามนี้แยกย้ายกันไปพักตามสบาย แล้วค่อยมาเจอกันใหม่ตอนจะไปกินอาหาร”
“ขอบคุณค่ะ” ทุกคนรับคำ
คุณหญิงกุมขมับเซ็งๆ
มุมหนึ่งในบ้านพักชายทะเล...อีริน่าเดินมาหลบมุมอ่านข้อความของเจตริน
“ที่รักจ๋า ไอมิสยู มากนะจ้ะ ดูแลตัวเองดีๆ พรุ่งนี้พวกเราก็จะกลับบ้านกันแล้ว แล้วเจอกันที่บ้านะจ้ะ กำลังตามสืบเรื่องคุณตา คุณยาย และตัวตนที่แท้จริงของคุณพริมแม่ของอีริน่า เพียงแค่รู้ว่าชื่อจริงนามสกุลจริง เท่านั้น มันจบทันที เลิฟยู คิสคิส”
อารดามาถึงมากระชากบ่า อีริน่าเก็บมือถือแทบไม่ทัน
“แกขโมยอะไรในกระเป๋าฉันไปเอามาคืนนะ”
“อีริน่าไม่ได้เป็นคนเอามาแล้วจะไปขโมยได้ตอนไหนค่ะ คุณสอยลงมาเองแท้ๆ”
“เอ๊ะ แกอย่ามากะล่อน”
“มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก โกหกคุณหญิงเป็นตุเป็นตะว่าโดนจี้ปล้น ทั้งที่พวกคุณเองต่างหากที่จี้ปล้นคนอื่น ยังสงสัยอยู่ว่า คุณเขมพาคุณจิตหายไปไหน แต่เท่าที่ดูหน้าตายังบ่งบอกว่าเธอรอดปลอดภัย ผิดกับใครบางคนที่อาการไม่ค่อยจะดี”
อารดาปราดมาจะตบอีริน่า
“เพราะแก เพราะแก”
“นี่คืออาการสารภาพหรือคะ ว่าไม่รอดไม่ปลอดภัย”
“เอาเอกสารฉันคืนมานะ”
“เอกสารอะไรไม่ทราบ เอกสารแปลว่าอะไรฉันไม่รู้จัก”
“นังบ้า ฉันจะฆ่าแก” อารดาหยิบมีดมา “เอาเอกสารคืนมานะ”
อารดาถือมีดรุกไล่อีริน่าที่ถอยรอจังหวะ จีรณัทย์เข้ามา
“อารดาทำอะไรน่ะ”
“เอ้อ...ล้อกันเล่นค่ะ ใช่ไหมอีริน่า ชิ้วๆ” อารดาหยุด
“ค่ะ ล้อเล่นกันค่ะ” อีริน่ายิ้ม
อารดาทำอะไรไม่ได้ เดินสะบัดหน้าออกไปจากที่นั่น
พงษ์ธรมาพบกับจิตรดารา
“จิตยังไม่หายข้องใจเรื่องทำไมต้องไปล่อนจ้อนกับนังอารดา ทำไมนังอีริน่ามันรอดไปได้”
“ไม่เอาน่า ฟังพงษ์ว่าให้จบก่อน เรื่องอารดา พงษ์ไม่เกี่ยวด้วยเลยนะถึงแม้ว่า พงษ์จะล่อนจ้อนไปด้วย ไอ้เขมต่างหากมันจัดการอารดาแก้แค้นแทนจิตไปแล้ว”
จิตรดาราตื่นเต้นดีใจ
“ขอบคุณมากค่ะ จริงหรือคะที่รัก”
“จริงสิทูนหัว พงษ์น่ะแค่ตัวประกอบในเหตุการณ์เท่านั้นเอง เขมมันจัดการแล้วมันก็รีบแยกไปกับคนขับรถของมัน มีถ่ายคลิปไว้ด้วยนะ ว่าแต่จิตเถอะไปกับใครไปยังไงไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือที่รัก”
“จิตไม่รู้ตัวเลย มารู้ตัวอีกทีก็มีผู้หวังดี ที่คุ้นเคยพามาส่งบ้านแล้ว ฝากขอบคุณคุณเขมด้วยนะคะ”
จิตรดารารำพึงในใจ
“ไอ้เขม โชคดีนะที่ฉันรอดจากแกและโชคดีที่แกไปจัดการนังอารดาให้ฉันจนได้”
พงษ์ธรได้ทีทวงเงินทันที
“เขมมันขอเงินส่วนที่เหลือนะที่รัก”
“พงษ์เอา ATM จิตไปแล้ว กดให้เขาไปสิคะ”
“หมดแล้ว เงินหมดแล้วจ้ะ”
“อะไรนะ เงินเป็นล้านไม่กี่วันหมดแล้วหรือคะ” จิตรดาราหน้าตื่น
“ก็กดวันละสองแสน ห้าหกวันมันก็หมดสิ ค่าใช้จ่ายมาพัทยาตั้งเท่าไหร่”
“แต่จิตก็ไม่มีอีกแล้วนะคะ ต้องรอให้คุณแม่ใส่เงินเข้าไปให้ใหม่”
“ก็ไปหาที่ไหนหาทางยังไงก็ได้ ให้มันได้เงินมาสิที่รัก”
“พอทีสำหรับช่วงนี้ จิตไม่มีปัญญาแล้ว”
พงษ์ธรกระชากจิตรดารามา
“ต้องมี ต้องได้ ต้องมีปัญญา อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือสิ”
จิตรดาราร้องเจ็บ
“โอ๊ย! จะบ้าตาย นี่มันคุกคามกันเกินไปแล้วนะ จิตชักทนๆไมไหวแล้ว”
“หุบปากนะ” พงษ์ธรตวาด
“ไม่หุบ ไม่ใช่พ่ออย่ามาสั่ง เห็นว่ารักมากเลยข่มกันใหญ่ มันจะมากไปแล้ว”
พงษ์ธรลุกพรวด
“เฮ้ย...อีนี่ อวดดีใช่ไหม”
พงษ์จับจิตรดาราเหวี่ยงโดยแรงล้มลงไปแล้วเอามือกุมหัว ตาลาย ทำท่าจะอาเจียน
“โอ๊ย! ทำร้ายกันอีกแล้ว โอ๊ย...เวียนหัวหน้ามืด อยากอาเจียน”
“เฮ้ย” พงษ์ธรตกใจ
“แหวะ...นี่นี่”
“อย่าบอกนะว่า...ท้อง” พงษ์ธรหน้าตื่น
“ใช่แล้วฉันท้อง เราต้องแต่งงานกันแล้วไปนอกด้วยกัน พงษ์ไปเรียนต่อ จิตไปเลี้ยงลูก”
“ไปเอาเด็กออก แล้วอย่าไปบอกใครว่าท้องเด็ดขาด” พงษ์ธรตวาด
“นังอารดาใช่ไหม นังอารดามันหลอกให้ฉันมารู้จักกับแก หลอกให้แกมาปอกลอกฉัน” จิตรดาราแค้น
“แน่นอน เพราะเธอมันปากบอนปากเสีย นิสัยไม่ดี สารพัดจะน่าเกลียด ยกเว้นหน้าตา หน้าสวยก็ช่วยไม่ได้ ฮะๆ”
จิตรดาราตะลึงงันไปหมด แล้วส่ายหน้า พงศ์ธรสะบัดมือมาที่หน้าจิตรดาราโดยแรง
ในที่พัก...กมลกันต์บอกเจตรินกับอิฐถึงความคืบหน้า
“ผมติดต่อจ่าเหวงเรียบร้อยแล้วครับ แกรับปากว่าจะจัดการนายเอื้อให้ หันมาทำความดีเลิกละความเลวที่เคยทำไว้ให้หมด”
“ดีครับ” อิฐพอใจ
เจตรินถอนใจหนักใจ
“ส่วนผมไม่ค่อยดี เพราะยูริบอกว่าคุณพริมโดนพวกมันจับตัวไปอีกแล้ว ผมก็แค่อยากจะถามคุณพริมว่าพ่อแม่เธอชื่ออะไรเพื่อที่จะให้อีริน่าได้พบตายาย หมดหวังอีกแล้ว อีริน่าคงเสียใจมาก”
“จะบอกอีริน่าไหม” อิฐถาม
“ยัง เอาไว้ให้โอกาสเหมาะ กลับกรุงเทพค่อยบอก”
“ทางคุณพ่อก็บอกมาว่า มีสายลับเคจีบี หลายคนในสมัยนั้น ท่านกำลังให้สืบดูว่าคนไหนที่แต่งงานกับผู้หญิงไทย” กมลกันต์บอก
สามคนพยักหน้าให้กัน
อารดากับพงษ์ธรคุยกัน อารดาหงุดหงิดที่เอกสารหาย ส่วนพงษ์ธรก็หงุดหงิดจิตรดาราท้องและเงินสดหมด
“ตอนนี้เราต้องหยุดเรื่องการจัดการทำลายนังอีริน่าไปก่อน ยอมรับว่ามันเก่งจริงๆ”
“ไม่ได้ฉันต้องการทำลายมันให้ได้ ให้เร็วที่สุด มันทำกับเราสองคนร้ายแรงมาก มันเปิดโอกาสให้กับแกทำลายฉันจนพินาศยับเยิน”
“มันเอาคืนมาไม่ได้แล้ว มันผ่านไปแล้ว มาคิดถึงเรื่องใหม่ๆ ที่สมควรทำกันดีกว่าผมกำลังจะบ้าตาย จิตรดาราท้อง”
“สมน้ำหน้า”
“ดาอย่ามาท้องอีกคนก็แล้วกัน”
“ถ้าฉันท้อง ฉันก็ต้องให้ลูกของฉันมีพ่อชื่อเจตริน ไม่ใช่ไอ้คนชิงหมาเกิดอย่างแก”
“มันก็ชิงกันมาเกิด เหมือนกันทั้งนั้นแหละ”
“แกว่าฉันชิงหมาเกิด ไอ้สารเลว”
อารดาตบหน้า พงษ์ธรกระชากมาเหวี่ยงไปกองแล้วตบซ้ำ
“อย่ามาอวดดีกับฉัน อย่าสำคัญตัวผิดคิดว่าเหนือกว่าฉัน ฉันมีคลิปของแกกับฉันและของแกกับไอ้เขม ช็อดเด็ดทั้งนั้น”
อารดาร้องไห้คร่ำครวญทุบตีพื้นห้องที่ล้มลงไปกอง
“แกไอ้แมงดา”
“ปีกทองฝังเพชรเม็ดใหญ่ๆซะด้วย เพราะฉะนั้นจงจำไว้ว่าต่อไปนี้ เธอกับจิตรดาราตกอยู่ในอำนาจของฉัน ซ้ายหันขวาหันได้ทั้งนั้น และไม่ใช่แค่นั้น ถ้าฉันต้องการอะไรเธอสองคนต้องทำให้ฉัน และวันนี้ฉันต้องการสองแสนบาท เอาไปแบ่งให้ไอ้เขม เธอต้องไปเอามา ฐานกรุณาฉันจะไม่ยึด ATM แต่ให้เธอไปจัดการกดเอง เพราะเธอกับฉันเคยเป็นเพื่อนกัน”
“นังอีริน่า...เพราะแก เพราะแกทำให้ฉันกลายเป็นอย่างนี้ ต้องเป็นแกแน่ๆที่ขโมยเอกสารสำคัญของฉันไป ฉันต้องทำลายแก่ให้ยับเยินให้ได้”
อารดากรีดร้องโหยหวน พงษ์ธรหัวเราะชอบใจ
มิคาอิลบอกเขมชาติให้ช่วยดูเรื่องช่วงเวลาในการจับตัวอีริน่า
“เขมคุณช่วยติดต่อเพื่อนของคุณได้ไหม ว่าเราทำยังไงเราจะจับตัวอีริน่าได้ ง่ายๆ”
“ไม่ง่ายเลย เพราะอีริน่าคนนี้มันมีฤทธิ์เดชมากกว่าผู้ชายอย่างเราๆด้วยซ้ำ”
“มันจะง่าย ถ้ามันได้เจอพ่อมัน และได้รู้ว่าแม่มันโดนจับตัวมาอีกแล้วเพียงแต่ว่าทำยังไงเพื่อล่อให้มันออกมานอกบ้าน ตามลำพังได้เท่านั้น จัดการได้ไหม”
“ไม่มีปัญหา”
“ดีมาก แกได้ยินไหมไอ้นิโคลัย เวลาได้พบลูกของแกใกล้มาถึงแล้ว”
“อย่าทำอะไรลูกฉันนะ” นิโคลัยเป็นห่วงลูกสาว
“สายไปแล้วนิโคลัย เขมคุณลงมือได้” มิคาอิลยิ้มเหี้ยม
“ครับ”
เขมชาติเดินออกไปกดมือถือหาพงษ์ธรทันที
เอื้อนิ่งคิด คำพูดของพ่อดังก้องในหัว
“ไอ้เอื้อ พ่อจะไม่ยืนคำขาดกับแก แต่พ่อขอบอกว่า ถ้าแกยังยึดแนวทางชั่วๆ ดำเนินชีวิตต่อไป แกไม่ใช่ลูกฉันอีกต่อไป จำไว้”
เอื้ออึ้งๆ
“ครับพ่อ”
ในบ้าน...กมลกันต์บอกเจตรินและอิฐ
“ข่าวดีของพวกเรา จ่าเหวงบอกว่า แนวโน้มนายเอื้อน่าจะเชื่อฟังเขา มีอะไรเกิดขึ้น นายเอื้อจะหาทางติดต่อเราทันที”
“เป็นข่าวที่น่ายินดีจริงๆครับพี่กมล” เจตรินพอใจ
“ขอให้พวกวายร้ายโดนทำลายหมดสิ้นที่พัทยานี่ด้วยเถิด” อิฐมีความหวัง
“ฉันหวังเช่นนั้น และจะพยายามให้หวังของเราเป็นจริง” เจตรินมุ่งมั่น
สามคนมีความหวัง
อารดากระซิบบอกคุณหญิงศรินทร์ทิพย์
“คุณแม่จัดการสั่งมันตามนี้นะคะ”
“แม่จะจัดการสั่งมันตามที่หนูดาแนะนำ”
จิตรดาราเดินมา
“คุณแม่ขา ระวังตัวกันไว้ให้ดีนะคะ เพราะว่าเวลานี้บ้านเรามีตัวกาลกินีที่มันย่างกายไปทางไหนหายนะบังเกิดทุกที”
“น้องจิตเคยเจอมาแล้วหรือคะไอตัวที่ว่านี่ เจอตอนไหนคะ เจอมานานแล้วหรือว่าเพิ่งเจอเมื่อคืน” อารดาสวน
“แล้วพี่ดาล่ะคะ ไปติดเชื้อหายนะมาบ้างหรือเปล่า ตั้งแต่เมื่อคืนมันกำลังระบาดหนักนะคะ” จิตรดาราย้อน
สองคนจ้องหน้ากันจะกินเลือดกินเนื้อกัน คุณหญิงตัดบท
“เอาละ ใครจะหายนะใครไม่หายนะมันรู้อยู่แก่ใจตัว แต่เวลานี้เรามีงานที่ต้องร่วมกันทำให้สำเร็จในเร็ววัน หยุดกัดจิกตีกันสักพัก รอให้งานสำเร็จ เชิญตามสบาย”
อีริน่าเดินมากับจีรณัทย์ อารดากระซิบ
“มันมาแล้วค่ะ”
“อีริน่า” คุณหญิงเรียก
“ค่ะ คุณหญิงมีอะไรจะรับใช้อีริน่าคะ”
“ว่าอะไรนะ”
“อีริน่าเขามาหมายถึงว่า คุณแม่มีอะไรจะให้เขารับใช้ค่ะ” จีรณัทย์แก้ให้
“โง่” อารดาด่าทันที
“ยังดีกว่าบางคนโง่แล้วอวดฉลาด พลาดวันไหนไม่มีเวทนา” จิตรดาราแดกดัน
“ฉันอยากให้เธอไปดูที่หน้าบ้านสิ ฉันเห็น...เห็นเอ้อ...” คุณหญิงหันมาบอกอีริน่า
“เห็นรถที่คุณแม่สั่งอาหารทะเลไว้ให้มาส่งน่ะ” อารดาเสริม
“ใช่...ใช่” คุณหญิงตามน้ำ
จีรณัทย์แปลกใจ
“คุณแม่เปลี่ยนใจไม่ไปกินนอกบ้านแล้วหรือคะ”
“คือแม่กลัวน่ะ กลัวติดเชื้อหายนะ”
“อะไรกันคะ เชื้อหายนะ” จีรณัทย์งงๆ
จิตรดาราปลายตามองอารดา
“มันมีอยู่ทุกทีค่ะ แม้แต่ในบ้านเรานี่มันก็แทรกซึมเข้ามา”
“เอาเถิดอีริน่าออกไปดูสิ ถ้าได้แล้วช่วยรับมาให้ด้วย” คุณหญิงตัดบท
“จีไปด้วยค่ะ จีจะได้ไปช่วยอีริน่าถือค่ะ”
“อย่าไปนะ” คุณหญิงรีบห้าม
“อ้าว ทำไมคะคุณแม่” จีรณัทย์อึ้งงง
“ไม่เป็นไรค่ะ อีริน่าไปคนเดียวได้ค่ะ อีริน่าขอตัวค่ะ”
อีริน่าเดินออกไป จิตรดาราเอามือปัดๆ
“แถวนี้มีแต่กลิ่นหายนะ คละคลุ้ง ไปดีกว่า”
จิตรดาราเฉียดกรายไปใกล้อารดา
“ระวังนะ หายนะมันก็บูมเมอแรง มันแว้งกลับมาหาคนปาหายนะใส่คนอื่นมานักต่อนักแล้ว โดนไปแล้วก็รีบหายากันอายมากินมาทาบ้างนะ”
“เอ๊ะ” อารดาโกรธ
จิตรดาราเดินหัวเราะจากไป
“คุณแม่ขา ตอนนี้จิตเปลี่ยนใจแล้วค่ะ ขอไม่เป็นแนวร่วมทำร้ายอีริน่าอีกต่อไป จิตรกลัวเวรกรรมันจะตามทัน แล้วเราตะตั้งตัวไม่ทันเอาง่ายๆค่ะ”
จิตรดาราน้ำตารื้นเดินออกไป คุณหญิงมัวแต่หันมามองสองคน จีรณัทย์เดินหายไปแล้ว คุณหญิงตกใจ
“ยัยจีไปไหนแล้ว ตามอีริน่าไปหรือเปล่า...จี...จี”
อารดารำพึงในใจ
“อีนี่ก็อีกคน ทำเป็นแม่พระผู้พิทักษ์ความดี ดัดจริต”
เอื้อขับรถมาแถวหน้าบ้านไอศูรย์ศรินทร์ โดยมีเขมชาติ มิคาอิล นิโคลัย และบูคาตอฟ ลูกน้องอีกคนของมิคาอิลอีกคนนั่งมาในรถ อีริน่าเดินออกมาส่ายตามองหารถตู้
“รถตู้ส่งซีฟู๊ดอยู่ที่ไหน”
พวกมิคาอิลมองมาเห็นอีริน่ากำลังชะโงกไปมาแถวหน้าบ้าน นิโคลัยพึมพำ
“อีริน่า”
“มันออกมาแล้ว เคลื่อนรถไปใกล้ๆให้มันเห็น ใช่ไหมเขม” มิคาอิลยิ้มกริ่ม
“ใช่ มันคิดว่าอาหารทะเลกำลังจะมาส่ง มันมารอรับ มันเด่น มันจงใจเกินไป...ไอ้เอื้อ”
“สุดยอด ”มิคาอิลพอใจ
อีริน่ากำลังโบกมือให้รถตู้ที่กำลังเคลื่อนมาหา
“ทางนี้ค่ะ”
จีรณัทย์เดินออกมาตามอีริน่า
“อีริน่า อีริน่า อยู่ที่ไหน”
รถตู้มาจอด ทำให้อีริน่าเดินยิ้มมีไม่ตรีไปหา ประตูรถตู้เปิดออกทันที
“ฉันมารับ...”
อีริน่าพูดค้างไว้เพียงนั้นเพราะเห็นใบหน้าของนิโคลัย
“อีริน่า”
“ปาปา”
อีริน่าทำท่าจะวิ่งไปหานิโคลัยจะขึ้นรถ นิโคลัยเองก็จะลงมา
“อย่าขึ้นมา พ่อจะลงไป”
มิคาอิลกับบูคาตอฟลงมาจากรถมาบังประตูไว้ อีริน่าชะงัก
“แกหนีฉันไม่พ้นแล้วอีริน่า จากที่ฉันรักแกปรารถนาแก แต่เวลานี้ฉันเอือมระอามาก”
“ให้ฉันลงไปหาลูกนะ” นิโคลัยโวยวาย
“อีริน่าจะขึ้นไปหาพ่อเอง” อีริน่าพูดขึ้น
มิคาอิลพอใจ
“ถูกต้องฉลาดมาก พูดจาแบบนี้สิ น่ารักมาก นิโคลัยฉันอนุญาตให้แกลงไปหาลูกสาว”
“ขอบใจ ขอบใจมาก”
นิโคลัยลงมา อีริน่ากับนิโคลัยผวามากอดกัน
“อีริน่าติดต่อแม่พริมไม่ได้ พ่อได้ข่าวแม่พริมไหม”
นิโคลัยชะงัก
“เอ้อ...”
มิคาอิลหัวเราะ
“เสียใจด้วนนะ แม่แกโดนลูกน้องฉันจับไว้ได้อีกแล้ว รอการข่มขืนหมู่ถ้าพวกแกสองคนไม่อยู่ในโอวาทฉัน”
“แม่พริม โธ่” อีริน่าตะลึง
นิโคลัยน้ำตาไหลพราก อีริน่าร้องไห้เสียใจ มิคาอิลตัดบท
“เอาละชื่นชมโสมนัสกันพอแล้ว ขึ้นรถทั้งสองคน ขอบใจมากนิโคลัย ที่ยินยอมมาเป็นเหยื่อล่อลูกสาวตัวเองให้ติดกับ เพราะแกเป็นทาสยาเสพย์ติด”
“พ่อขอโทษ พ่อ พ่อ” นิโคลัยเสียใจ
“อีริน่าไม่โกรธปาปา อย่าร้องไห้ มิคาอิลฉันจะขึ้นรถแกจะพาฉันไปไหนก็ได้ทั้งนั้น”
อีริน่าดึงแขนพ่อก้าวขึ้นรถไป จีรณัทย์มาถึงเห็นเหตุการณ์
“อีริน่าอย่าไป อีริน่าจะไปไหน อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น”
มิคาอิลหันปากกระบอกปืนไปใส่จีรณัทย์ทันที
“อย่าสาระแนแกไม่เกี่ยว”
อีริน่าตะโกนบอก
“อย่าห่วงอีริน่าเลยค่ะพี่จี อีริน่าเต็มใจไปเองค่ะ ลาก่อนพี่จีเข้าบ้านนะคะ”
“ไม่ ไม่นะ อีริน่า”
ประตูรถปิด รถเคลื่อนออกไป เอื้อ หย่อนเศษกระดาษแผ่นหนึ่งลงไปทางหน้าต่าง กระดาษปลิวมาแปะที่ตัวของจีรณัทย์ เธอปัดกระดาษทิ้ง กระดาษตกที่พื้น มีข้อความ จะส่งข่าวให้ทราบ บอกคุณกมลกันต์ด้วย จีรณัทย์เดินผ่านกระดาษแผ่นนั้น โดยไม่เห็น
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับอารดา กำลังส่องกล้องส่องทางไกลมองไปนอกบ้าน เห็นรถตู้กำลังวิ่งจากไป เห็นจีรณัทย์กำลังวิงตามรถ ตะโกนเรียก
“อีริน่า อีริน่า”
สองคนหันมายิ้ม
“หายนะหมดไปจากชีวิตคุณแม่แล้วค่ะ ยินดีด้วยค่ะ”
“ขอบใจมากหนูดา”
คุณหญิงทำท่าจ้ะเดินจากไป อารดาพูดขึ้น
“คุณแม่ขา จะจากไปโดยไม่มีการให้สิ่งตอบแทนกันบ้างหรือคะ”
“อีกแล้วหรือ” คุณหญิงชะงัก
“ค่ะ คุณแม่รีบจัดการแต่งงานให้ดากับพี่เจตเพื่อตอบแทนดาให้เร็วที่สุดนะคะ”
“เอ้อ” คุณหญิงอึกอัก
จิตรดาราเดินมาหัวเราะ
“คุณแม่ขา ไอ้ตำราเสร็จนาแล้วฆ่าโค เสร็จศึกฆ่าขุนพล เพราะมันจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ คุณแม่ไปจนวันตาย อย่าใจอ่อนนะคะ”
อารดาไม่พอใจ
“เอ๊ะ อย่ามายุแยงตะแคงรั่วกันนะ คุณแม่ก็แก่จนผมขาวแต่เอาสีดำมาย้อมไว้ทั้งหัวแล้ว อย่าผิดสัญญาที่ให้ไว้สิคะ”
คุณหญิงไม่พอใจ
“เธอพูดเองเออเอง ขู่พวกเราเองนะ แม่อยากจะ...”
“ขอเอกสารนั่นมาแสดงให้ฉันกับคุณแม่ดูสิ” จิตรดาราแทรกขึ้น
“เอ้อ...” อารดาอึกอัก
จิตรดาราหยิบอะไรบางอย่างที่เป็นเศษๆหลงเหลือจากไฟไหม้มาชู แล้วทำเป็นอ่าน
“เอกสาสำคัญ อันนี้ใช่ไหมที่เธอตามหา จะเอามาขู่พวกฉัน”
“แก นังจิตรดารา แกขโมยมันเอาไปเผา แกตาย” อารดาโกรธ
จิตรดาราถอยมา
“เทพารักษ์ต่างหาก ท่านสอยลงมากองที่พื้น แล้วให้เจ้าที่เจ้าทางผีบ้านผีเรือนเสกไฟมาเผา เป็นเถ้าถ่าน เหลือไว้แค่เนี้ย”
คุณหญิงหัวเราะชอบใจ
“ความจริงฉันรักเธอมากอาดรา แต่เธอมันไม่อ่อนน้อมถ่อมตน จนฉันสุดทน”
“ไอ้ที่ไปด่าว่าอีริน่าว่าไพร่โสเภณีข้างถนน ถ้าฉันโดนเอาปืนมาจี้ให้เลือกพี่สะใภ้ ฉันไม่เลือกเธอแน่ แม่ตัวหายนะ”
อารดายืนทำอะไรไม่ถูกสั่นไปหมด กระโจนใส่ จิตรดาราสู้ตาย มีคุณหญิงมาช่วยอีกคน
“นังสารเลว บ้าผู้ชาย”
“นังผู้หญิงรกโลก”
“แม่คนทำตัวเป็นอึ่งอ่างพองลม ไงละ ระเบิดอกแตกตายแล้วใช่ไหม” คุณหญิงเย้ยหยัน
อารดาคลั่ง จิตรดารากับคุณหญิงหัวเราะเยาะ อารดาวิ่งใส่คนโน้นที่ คนนี้ที เหมือนคนบ้า
“นังแก่บ้า นังจิตรดาราสารเลว นังอีริน่าฉันจะฆ่าพวกแกให้ตายทั้งเป็นคอยดู”
“ผู้หญิงที่อยากได้ลูกชายเขาเป็นสามี กล้าพูดจาด่าว่าที่แม่ผัวอย่างนี้เลยหรือ ช่างน่าสมเพช”
จิตรดาราเย้ยหยัน
“บ้าไปแล้วใช่ไหม สะใจมากไหมที่ได้ทำร้ายคนอื่น ผิดของตัวเองทำซ่อนเร้น ผิดของคนอื่นนิดเดียวเอามาแผ่ประจาน หน้าด้านหน้าไม่อาย”
จีรณัทย์วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณแม่ขา อีริน่าโดนจับตัวไปแล้วค่ะ หาทางช่วยอีริน่าเถิดค่ะ”
“เอ้อ…” คุณหญิงอึกอัก
อารดาด่าทันที
“หน้าโง่ ดัดจริตเป็นแม่พระ ขอบอกนะว่าแม่ของเธอนั่นแหละ คุณหญิงคนนี้นี่แหละที่เป็นตัวตั้งตัวตี ให้ไอ้รถคันนั้นมันมาจับนังอีริน่าไป”
“คุณแม่” จีรณัทย์ตะลึง
คุณหญิงชี้หน้าอารดา
“แกต่างหาก ไม่ใช่ฉันอย่าไปเชื่อมัน”
“แกนั่นแหละ” อารดาเถียง
“ทั้งสองคนแหละค่ะพี่จี” จิตรดาราแทรก
จีรณัทย์ยืนนิ่งพูดไม่ออก แล้วหันหนีเดินจากไปก่อนจากไปมองแม่ด้วยสายตาผิดหวัง
“จีรู้มาตลอดว่าคุณแม่ ไม่ชอบอีริน่า รังแกกันเล็กๆน้อยๆก็ช่างเถิดคะแต่นี่ทำลายชีวิตกัน มันน่าเสียใจจริงๆ คุณแม่ทำได้ยังไงคะ คุณแม่ทราบไหมคะ ว่าใครเป็นคนเสี่ยงตายไปขโมยเอกสารที่มันอาจจะทำลายวงศ์ตระกูลเรามาใหจีเผาทำลาย”
“นี่...นี่...” คุณหญิงอึ้งๆ
จีรณัทย์มองหน้าแม่อย่างผิดหวัง
“ใช่ค่ะ อีริน่า ค่ะ”
จีรณัทย์เดินจากไป ทั้งจิตรดาราและคุณหญิงพูดไม่ออก อึ้งไปหมด
“อีริน่า”
อารดาโกรธอีริน่ามาก
“นังสารเลว”
จีรณัทย์หันกลับมาตบหน้าอารดาฉาด คุณหญิงตบอีกฉาด จิตรดาราตบซ้ำอีกที อารดายืนร้องไห้โฮๆ
รถของพวกเจตรินพุ่งมาแถวหน้าบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์อย่างเร็วทั้งสามคันรีบร้อนมาก จีรณัทย์วิ่งออกมานอกบ้านมาหาทั้งสามคน
“พี่ดีใจนะที่เจตรู้ความจริง และแอบตามเรามาด้วย”
“ผมมาเพื่อปกป้องอีริน่า เพราะผมรู้ว่าอันตรายมีรอบด้าน”
“มันไปทางไหนครับพี่จี” อิฐรีบถามอย่างร้อนใจ
“ทางนั้น แต่ทางนั้นมันก็ไปต่อได้ตั้งหลายทาง” จีรณัทย์ชี้ไป
กมลกันต์มองไปเห็นกระดาษที่ตกอยู่ที่พื้น
“นั่นกระดาษอะไรครับ จีทำตกหรือเปล่า”
“มันตกมาจากรถเมื่อกี้ ตอนที่พวกนั้นมันเอาตัวอีริน่าไปค่ะกมล สงสัยคนขับรถทำตกไว้ค่ะ”
“คนขับรถ” อิฐพึมพำ
เจตรินปราดมากหยิบกระดาษนั่นทันทีแล้วอ่าน
“จะส่งข่าวมา ฝากบอกคุณกมลด้วย”
สามคนพูดออกมาพร้อมกัน
“นายเอื้อ”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 13 (ต่อ)
คุณหญิงกับจิตรดาราวิ่งออกมา
“จี ลูกจีรอแม่ด้วย แม่จะไปช่วยตามหาอีริน่า”
“พี่จียังเล่าไม่หมด จิตอยากฟังทั้งหมด”
“คุณแม่” เจตรินชะงัก
“แย่แล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว” อิฐตกใจ
“รีบไปเลย” กมลกันต์ร้อนใจ
“จีไปด้วยค่ะ”
สามคนตกใจ
“เฮ้ย”
จีรณัทย์ไม่สนกระโดดเกาะท้ายมอเตอร์ไซค์ของกมลกันต์ไปทันที คุณหญิงกับจิตรดารา งง
“ยัยจี กระโดดเกาะรถไอ้พวกแว๊นไปไหน”
“สงสัยจะมีเงื่อนงำค่ะ อีริน่าก็บอกว่าพวกแว๊นพาหนีรอดมาได้”
“มันแว๊นอะไรของมัน”
เสียงแว๊นมาอีกคัน มาจอดตรงหน้าสองคน
“ไฮ ใครอยากเป็นสก๊อยประจำรถซิ่งคันนี้บ้าง” นิกกี้ส่งเสียงเรียก
“ว๊าย” คุณหญิงตกใจ
จิตรดาราเพ่งมองไปแล้วยิ้ม ดีใจกระโดดซ้อนท้ายทันที
“ฉันเอง นายแว๊น”
“นายแว๊น สก๊อย จะบ้าตาย” คุณหญิงกุมขมับ
“บ๊ายบายค่ะ จิตจะไปช่วยตามหาอีริน่า” จิตรดาราโบกมือ
คุณหญิงงงไปหมด
“อีริน่า ฉันขอโทษ ลูกเจต ยกโทษให้แม่ด้วย”
เอื้อขับรถเข้ามาจอดในบ้านทุกคนลงมาจากรถ นิโคลัยกับอีริน่าโอบกอดกันลงมา อีริน่าน้ำตาไหลเพราะห่วงแม่ มิคาอิลหันไปถามเขมชาติ
“ไม่มีใครตามมาแน่นะคุณเขม”
“ไม่มีแน่นอนมิคาอิล ไอ้เอื้อแกเอาผ้ามาคลุมรถๆไว้ เพื่อใครมันเกิดอยากค้นหา มาเจอรถมันอาจจะจำได้”
มิคาอิลยิ้มพอใจ
“รอบคอบดีมากเขม ให้นายเอื้อไปดูลาดเลาไว้แถวหน้าบ้าน เห็นอะไรไม่ชอบมาพากล รีบโทรรายงานมาข้างใน”
“ตกลง”
มิคาอิลไม่ค่อยไว้ใจถามเขมชาติ
“ไอ้คนนี้ไว้ใจได้ใช่ไหม”
เอื้อใจหาย เขมชาติยิ้ม
“รับรองครับ ไปได้แล้วเอื้อ”
เอื้อแอบถอนใจเดินออก มิคาอิล อีริน่า นิโคลัยเข้าไปในบ้าน
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์มานั่งซึมเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทำไมเราจึงหลงผิดไปได้ถึงเพียงนี้ อีริน่าทำผิดอะไรกับเราหรือก็ไม่ใช่แค่เราไม่อยากได้เขามาเป็นสะใภ้ เพราะเราไปจัดการเอาไว้ให้ลูกเจตโดยพละการ ถึงอีริน่าจะทำผิด แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินโทษคนอื่นได้ นี่เราทำอะไรลงไป”
อารดาเดินมายิ้มเย้ยหยัน
“นั่งหน้าตาหมองหม่นเสียอกเสียใจอะไรมากมายคะ ไม่ดีใจหรือคะ นังอีริน่าที่เคยบอกว่ามันคือเสี้ยนหนามตำชีวิตหมดสภาพพังพินาศแล้ว”
“อย่ามาเยาะเย้ยกัน เธอนั่นแหละควรจะขนของกลับไปบ้านของเธอได้แล้ว”
“ไม่ค่ะ”
“หน้าด้าน ฉันไม่ต้องการมีลูกสะใภ้เลวๆ เหลือขออย่างแก”
“เราสองคนไม่มีใครมาก ไม่มีใครน้อยกว่าใครค่ะ ถ้าพี่เจตเขารู้ความลับที่ได้ทำอะไรลงไปกับนังอีริน่าไว้บ้าง เขาจะยังยกสองมือกราบกรานโอบกอดแม่แบบนี้อยู่อีกหรือ วาจาที่จะเอื้อนด้วยจะเต็มปากเต็มคำไหมว่าคุณแม่ครับ ผมรักคุณแม่ผมเคารพคุณแม่”
คุณหญิงชะงัก
“หมายความว่ายังไง แกต้องการอะไร”
“ต้องการอยู่กับครอบครัวของคุณแม่ต่อไปเหมือนไม่มีเกิดขึ้น”
“ต๊าย…น่าขยะแขยง น่าชิงชังรังเกียจ”
“ก็ตามใจนะคะ เดี๋ยวจะโทรรายงานลูกชายสุดที่รักของคุณแม่ว่าอะไรเป็นอะไร”
“แกเริ่มต้นขู่ขั้นอีกแล้วนะ จำไว้ไอ้เรื่องแต่งงานน่ะหมดหวังไปแล้ว”
“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพคนตายง่ายๆสิคะ คุณแม่ไม่เคยได้ยินหรือคะว่าเขาต้องเอาศัตรูไว้ใกล้ตัวที่สุด เพราะมันน่ากลัวที่สุด ถ้าคุณแม่ปล่อยดาออกไปนอกบ้าน ดาทำอะไรเลวร้ายให้ครอบครัวคุณแม่ได้อีกเยอะแยะ”
คุณหญิงเอามือปิดสองหูไม่ฟังอารดาพูด
“สวดมนต์ภาวนาเข้าสิคะว่าขอให้ไอ้พวกที่จับนังอีริน่าไปช่วย เอานังอีริน่าไว้บนหิ้งบูชาอย่าเอามาปู้ยี้ปู้ยำทำลาย”
ในบ้านมิคาอิล...อีริน่าพยายามขอร้องมิคาอิลเรื่องพริม
“มิคาอิล บอกลูกน้องแกย่าทำร้ายแม่ฉันนะ”
“แกต้องกลับมอสโคว ไปกับฉัน”
“ฉันจะกลับมอสโควกับแก แต่ฉันไม่มีพาสปอร์ต”
“นั่นสิ เขมทำยังไงดี”
“มีสองแสน พาสปอร์ตของอีริน่าจะเรียบร้อย” เขมชาติยิ้ม
“เยี่ยมมาก”
เขมชาติหันไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองมาเปิด หยิบพาสปอร์ตเล่มหนึ่งออกมาชูให้ดู
“เดี๋ยวจัดให้ ไปในนามของแอนนาลูกครึ่งคนนี้ เดี๋ยวจะส่งไปเปลี่ยนรูปให้เป็นรูปของอีริน่า อีริน่าต้องถ่ายรูปกันหน่อยแล้วนะ”
อีริน่ามองเขมชาติ หน้าบึ้งแต่ก็ยอมให้ถ่ายรูป
เอื้อกำลังนั่งเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องที่เกิดขึ้น
“เราจะทำตัวยังไงดี รีบโทรไปส่งข่าวคุณกมลอย่างที่ทิ้งโน้ตไว้ แต่ถ้าหากนายจับได้จะเกิดอะไรขึ้น”
เสียงโทรศัพท์ดัง เอื้อรับ
“ครับนาย ผมจะเอาพาสปอร์ตไปใส่รูปของอีริน่าแทนให้ ผมจะเข้าไปรับ พาสปอร์ตครับ”
เอื้อวางสาย ถอนใจเสียงโทรศัพท์ดังอีก เอื้อรับ
“ครับพ่อ ผม ผม ไม่ลืมที่รับปากพ่อไว้ครับ ผม เอ้อ ผมทำไปแล้ว และผมกำลังจะทำขั้นต่อไปครับ”
เอื้อตัดสาย แล้วโทรไปหากมลกันต์
ทั้งหมดจอดรถ กมลกันต์รับสายจากเอื้อ ทุกคนมองด้วยใจจดใจจ่อ
“ขอบใจมากเอื้อ”
กมลกันต์ตัดสายจากเอื้อ หันมาบอกทุกคน
“รู้ที่อยู่ของพวกมันแล้ว”
เจตรินขัดขึ้น
“แต่เราจะผลีผลามไม่ได้ ต้องระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับอีริน่า และปาปาของเธอด้วย”
“รีบไปกันเถิด” อิฐร้อนใจ
ทั้งหมดออกเดินทางต่อไป
ในบ้านมิคาอิล...ทุกคนนั่งรอการทำพาสปอร์ตของอีริน่าและเตรียมเดินทางไปมอสโคว
“เขม จัดการเรื่องตั๋วเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” มิคาอิลถาม
“เรียบร้อย รอไอ้เอื้อไปจัดการเรื่องพาสปอร์ตของอีริน่าเท่านั้น”
เอื้อเดินเข้ามาพร้อมด้วยพาสปอร์ตของอีริน่า
“มาแล้วครับพาสปอร์ต”
เอื้อปรายตามองอีริน่าที่นั่งเกาะกุมมือนิโคลัยเอาไว้ตลอดเวลา มิคาอิลรับพาสปอร์ตของอีริน่ามาดูยิ้มพอใจ
“เราจะรอเวลาเดินทางไปสุวรรณภูมิ แกจะไปอยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูกและเพิ่มฉันในฐานะสามีของแกที่มอสโคว”
“ถุย” อีริน่าถ่มน้ำลาย
มิคาอิลโมโห
“อย่าวอนโดนทำร้ายร่างกายนะอีริน่า”
“เชิญมาทำร้ายฉันไอ้คนหน้าไม่อาย ไอ้คนไม่มีความเป็นคน”
นิโคลัยจู่ๆก็ทำท่าจะลงแดงขึ้นมา อีริน่าตกใจ
“ปาปา ปาปา ช่วยปาปาด้วย ปาปาอดทนไว้ ปาปาต้องทนให้ได้ แกไอ้มิคาอิลอิล แกทำลายพ่อฉัน”
“พ่อแกเองต่างหากที่ทำร้ายทำลายตัวเอง”
“เพราะมีเพื่อนเจ้าเล่ห์ ตลบแตลงอย่างแก แกหลอกลวงปาปา แกเลวไม่มีใครเปรียบ”
บูคาตอฟยกมือจะตบ
“นังนี่กล้าด่านาย”
มิคาอิลยกมือห้าม
“อย่าทำร้ายมัน ฟังนะอีริน่า กล้าด่าฉันหนึ่งครั้ง แม่แกโดนข่มขืนหนึ่งหน”
อีริน่าอ้าปากค้าง เขมชาติหัวเราะชอบใจ อีริน่าหันไปด่า
“แกไอ้แมงดาสารเลว”
นิโคลัยห้าม
“พอที ทุกคนพอได้แล้ว มิคาอิล ช่วยฉันด้วย”
นิโคลัยคลานมาหามิคาอิลกอดขาไว้ อีริน่ามองภาพปาปาน้ำตาไหล
“มิคาอิลช่วยฉันนะ ขอยา จะให้ทำอะไร ฉันทำให้ได้ทั้งนั้น”
“ขอลูกสาวแกสิ ถ้ามันยอมให้แก ฉันจะให้ ถ้ามันไม่ ฉันก็เสียใจด้วย”
นิโคลัยหันไปหาอีริน่า
“อีริน่าสงสารพ่อเถิด ขอยาจากมิคาอิลให้พ่อนะ”
“ปาปาต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ ปาปาต้องทำได้”
“ถ้าปาปาแกไม่ได้ยา ปาปาแกจะไปมอสโควไม่ได้มันจะลงแดงตายอยู่ตรงนี้ และแกก็จะไม่ได้พบแม่แกอีก ฉันจะสั่งฆ่ามันอีกคน”
“ตกลง เอายาให้ปาปา”
อีริน่าพูดไปสะอื้นให้ไปด้วย มิคาอิลยิ้มพอใจ
“เขมขอยาให้ไอ้เดรฉานเสียชาติเกิดนี่”
เขมชาติส่งหลอดยาให้ มิคาอิลส่งให้นิโคลัยที่รับมามือไม้สั่นนิโคลัยเริ่มยกเข็มฉีดยาฉีดลงมาที่ผิวหนังที่ลำแขน อีริน่าหันไปด่ามิคาอิล
“แกต่างหากที่เป็นเดียรฉานเสียชาติเกิด ไม่ใช่ปาปา ปาปาได้ยินไหมว่ามันดูถูกปาปาแค่ไหน”
นิโคลัยหน้าสลด
“ปาปาเสียใจ ปาปาขอโทษ ที่ต้องกลายเป็นคนไร้ค่าหนักแผ่นดิน ปาปาพยายามแล้ว แต่ปาปาพ่ายแพ้”
นิโคลัยพูดไปร้องไห้ไป อีริน่าก็ร้องไห้ไปด้วย ขณะที่พวกเขมชาติ มิคาอิล บูคาตอฟพากันหัวเราะเยาะชี้หน้านิโคลัย ทันใดนั้นนิโคลัยลุกพรวดเงื้อเข็มแล้วปักใส่กลางหลังบูคาตอฟที่หันหลังตรงหน้าพอดี
“เฮ้ย”
“ปาปา”
มิคาอิลตะลึง
“ไอ้นิโคลัย”
“ในเมื่อเลิกเป็นเดียรฉานไม่ได้ฉันยอมตาย”
มิคาอิลชักปืนออกมาแล้วยิงนิโคลัยทันที
“มึงตาย”
“ปาปา” อีริน่าตกใจ
นิโคลัยล้มลงทั้งบูคาตอฟก็ล้มลงด้วยเพราะแรงเข็มปัก แต่ชักปืนออกมา อีริน่ากระโดดเตะปืนในมือของบูคาตอฟ แล้วหยิบมายิงบูคาตอฟทันที
“โอ๊ย”
บูคาล้มลงตายคาที่
“แกฆ่าคนสนิทฉันนังอีริน่า”
มิคาอิลเล็งปืนมาที่อีริน่า เขมชาติรีบบอกเอื้อ
“เผ่นเถิดไอ้เอื้อ”
เอื้อรำพึงในใจ
“ทำไมพวกคุณกมลไม่มาสักทีนะ”
เขมชาติมองแล้วพยักหน้า
“เอาตัวรอดเป็นยอดดี เสียงปืนดังขนาดนี้ เดี๋ยวตำรวจมาแน่”
เขมชาติวิ่งหลบไป มิคาอิลตวาด
“เฮ้ยเขม นายจะหนีไปไหน กลับมานะ”
“ผมไม่หนีไปไหน ผมยังอยู่”
เอื้อไม่ไป ยังคงมองเหตุการณ์อยู่ มิคาอิลจ้อปืนไปที่อีริน่ากับนิโคลัยที่ยังไม่ตาย
“ทิ้งปืนนะอีริน่า ไม่ทิ้งฉันยิงพ่อแกตายแน่”
“ยังไงพ่อก็ต้องตาย ให้มันยิงพ่อให้ตาย แล้วลูกก็ฆ่ามันซะ มาแลกชีวิตกันไอ้มิคาอิล”
“อีริน่าวางปืน” มิคาอิลเล็งปืนใส่
“อีริน่า อย่าวาง” นิโคลัยร้องห้าม
“ปาปา อีริน่าจะพาปาปาไปหาหมอ”
อีริน่าประคองพ่อไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งถือปืน ร้องไห้ไปด้วย ตั้งสติ เอื้อ ยืนรอหวังจะช่วยอีริน่า
เจตริน อิฐ กมลกันต์ จอดรถแล้วลงมาจากรถ เจตรินชะงัก
“เสียงปืน พวกเราระวังตัว”
รถของเขมชาติสวนออกไป อิฐหันไปเห็น
“มีคนหนีออกไปแล้ว”
“ช่างมันเข้าไปช่วยอีริน่าก่อน” เจตรินร้อนใจ
ทุกคนรีบพากันเข้าไปแบบระมัดระวัง
มิคาอิลยังคงสั่งอีริน่าให้วางปืน และขู่
“อีริน่า ฉันสั่งให้วางปืน”
“ไม่วางนะอีริน่า” นิโคลัยห้าม
“ถ้าฉันวางแกก็จะฆ่าพ่อฉัน เรามาตายด้วยกันตายพร้อมกัน นายเอื้อเราเป็นคนไทยด้วยกัน ถ้าฉันตายให้พาปาปาฉันไปหาหมอ แล้วติดต่อคุณเจตบอกว่าฉันลาก่อน”
“แกกล้าดียังไงมาสั่งคนของพวกเรา” มิคาอิลตวาด
“แกตาย”
อีริน่าตัดสินใจยิงมิคาอิล
“แกตาย”
มิคาอิลยิงอีริน่า แต่นิโคลัยผวามาบังอีริน่าไว้ กระสุนฝังหลังนิโคลัย กระสุนอีริน่าฝังอกมิคาอิล
“ปาปา”
“แก”
มิคาอิลล้มลง อีริน่าผวาไปประคองนิโคลัย
“ปาปา ไม่นะ ไม่นะปาปา”
เอื้อเข้ามาช่วย อีริน่ายกปืน
“อย่าเข้ามานะ”
“ไม่ต้องกลัวผม จำไม่ได้หรอว่าผมส่งไม้ให้คุณฟาดหัวไอ้เขม ตอนนี้พวกคุณเจตกำลังมา ผมจะช่วยพาพ่อคุณไปหาหมอ”
สองคนช่วยกันประคองนิโคลัย ที่ไม่ไหวแล้ว
เจตรินต์ กมลกันต์ อิฐ จีรณัทย์พากันมาถึงหน้าห้อง แบบระวังตัวมาก
“หลบไปข้างๆก่อน อย่ายืนหน้าประตู อิฐ แกกับฉันช่วยกันถีบประตูแล้ว กระโดดหลบ พี่กมลดูแลพี่จีไว้ครับ” เจตรินบอก
“ตกลง” อิฐพยักหน้า
กมลกันต์ดึงจีรณัทย์
“จีครับ หลบมาทางนี้ก่อน”
“เจต อิฐ ระวังนะ” จีรณัทย์เป็นห่วง
จีรณัทย์กับกมลกันต์แอบมา เจตรินกับอิฐกระโดดมาถีบประตูเปิดออก
อีริน่ากับเอื้อกำลังพยายามพานิโคลัยจะออกมานอกห้อง เจตรินตะลึง
“อีริน่า นิโคลัย”
“ปาปาช่วยชีวิตอีริน่า เลยถูกมันยิงเอา พาปาปาไปหาหมอด้วยนะคะ”
เจตรินหันไปบอก
“อิฐ พี่กมล นายเอื้อ รีบพาคุณนิโคลัยไปหาหมอ”
จีรณัทย์เข้าไปหาอีริน่า
“พี่ดีใจ”
ทุกคนพากันมาช่วยนิโคลัย เจตรินผวามากอดอีริน่าไว้
“อีริน่า อีริน่า ผมดีใจที่คุณปลอดภัย”
เจตรินก็ตาค้างเห็นมิคาอิลกำลังยืนเล็งมากลางหลังอีริน่าที่หันหลังให้
“อีริน่า”
เจตรินผลักอีริน่าโดยแรง แล้วกระโดดหลบยิงออกไปทันที อีริน่าล้มไปด้านข้าง กระสุนเฉี่ยวข้ามหัวเจตรินไป กระสุนของเจตริน พุ่งใส่มิคาอิลที่หมดฤทธิ์ไปทันที
“คุณเจต”
อีริน่าลุกผวามากอดเจตริน
“อีริน่า มาดูพ่อก่อน” จีรณัทย์ เรียก
ทุกคนรุมล้อมนิโคลัย ที่กำลังจะสิ้นใจ
“อีริน่า อีริน่า”
“ปาปา ปาปา อีริน่าอยู่นี่ ค่ะ”
“อย่ากลับไป มอสโควเด็ดขาดนะลูก”
“อีริน่าจะไปหาแม่พริม”
“แม่พริมตายแล้ว”
อีริน่าตะลึง
“แม่พริม”
เจตรินตกใจ
“คุณพริม”
“ปาปาโกหก” อีริน่าไม่เชื่อ
นิโคลัยเสียงแผ่ว
“ปาปาไม่ได้โกหก แม่พริมฆ่าตัวตาย ปาปาแอบได้ยินมันพูดกัน แต่ปาปา ไม่กล้าบอกอีริน่าต่อหน้ามัน”
“แม่พริม โธ่ แม่พริม” อีริน่าเสียใจมาก
“ทุกอย่างที่ปาปาทำลงไปกับครอบครัว เป็นสิ่งชั่วช้าเลวทรามที่สุด แม้ขอโทษก็ไม่คู่ควร”
“ปาปาช่วยชิวิตอีริน่า แต่อีริน่าไม่สามารถช่วยชีวิตใครสักคน แม่พริม และปาปา”
นิโคลัยหันมาหาเจตริน
“คุณเจต ผมฝากอีริน่าด้วย”
“ครับ ผมรับปากจะรักอีริน่า รักตลอดไป จะดูแลเธอจนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจ”
“อีริน่า พ่อไม่มีอะไรจะให้ลูก นอกจากสิ่งนี้”
นิโคลัยส่งซองหนึ่งให้ อีริน่ารับมา
“ลาก่อน ลูกรัก”
นิโคลัยหมดลมหายใจ อีริน่าร้องลั่น
“ปาปา”
อีริน่าก้มลงไปโอบกอดนิโคลัยเอาไว้ น้ำตาไหลพราก เจตรินโอบกอดอีริน่าไว้หลวมๆ ทุกคนมองเสียใจไปด้วย
พงษ์ธรกับอารดามาพบกัน
“ดีมากอารดา เธอต้องหน้าด้านหน้าทนฝืนทนอยู่ในบ้านพวกนั้นต่อไป เพื่อผลประโยชน์ของตัวเธอเอง”
เสียงข้อความดังเข้ามาพงษ์ธรเอามาอ่าน ตกใจมาก
“เกิดอะไรขึ้น พงษ์”
“นังอีริน่ามันก่อเหตุอีกแล้ว มันยิงลูกน้องมิคาอิลกับมิคาอิลตาย ส่วนพ่อมันก็โดนยิงตายนี่ข่าวใหญ่นะออกทีวีด้วย”
“นังอีริน่า นี่แปลว่ามันรอดอีกแล้ว แล้วพวกเรา”
“ไอ้เขมมันบอกว่า มันจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ไม่ปรักปรำเราด้วย แต่มันต้องการ...”
อารดาไม่พอใจ
“เงิน...อย่าลืมนะว่าฉันกำความลับแกเหมือนกัน แกฆ่าคนตาย”
“จะหักหลังกันหรือ”
“ถ้าฉันไม่โดนหักหลังก่อน”
จิตรดาราเดินเข้ามา หยุดตรงหน้าพงษ์ธรกับอารดา นิกกี้เดินตามหลังมา
“เห็นคาหูคาตาว่าเมื่อคืนก่อนอิ่มเอมกันไม่พอใช่ไหม วันนี้เลยมาหาเศษหาเลยกันต่อ”
“อย่ามายุ่งกับฉัน นังเด็กใจแตก แกนั่นแหละเดียวคว้าคนโน้น กลับไปกินคนนี้” อารดาตวาด
“ผมไม่ใช่ขนม ไม่ใช่ของกิน ผมเป็นแมน เป็นสุภาพบุรุษ ไม่โฉ่งฉ่างจอมปลอม แมงดาสาไถ”
นิกกี้สวน พงษ์ธรโกรธ
“เฮ้ย บังอาจ”
จิตรดาราชี้หน้าพงษ์ธร
“คนที่บังอาจคือแก ไอ้แมงดา ทุกคนฟังทางนี้ ไอ้นี่คือแมงดา ส่วนนางคนนี้หาความชอบธรรมในการเป็นคนดีด้วยการใส่ร้ายให้คนอื่นดูเลว แล้วมันเป็นคนดีปัญญาอ่อนคิดได้ไง ว่าถ้าทำร้ายใครๆแล้วตัวเองจะดี”
“นังจิตดารา หยุดนะ” อารดาตวาดลั่น
อารดาผวามาจะตบ จิตรดารา ถอยไปนิกกี้ มาบังไว้
“ฟังข่าวร้ายดีกว่า เรามานี่จะมาบอกข่าวร้าย ให้ทราบว่า...”
พงษ์ธรสวน
“อย่ามาโกหกไปให้พ้น ก่อนที่ฉันจะชกหน้าแกให้คว่ำ ไอ้บ้า”
จิตรดาราสวน
“คนมองกันทั้งร้านนะไอ้แมงดา ฟังนะอารดาพ่อเธอฆ่าตัวตายที่โรงแรมใหญ่เมืองนอก อะไรที่เขาซ่อนเร้นไว้ เธอคงไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ”
นิกกี้กับจิตรดาราพูดพร้อมเพียง
“เสียใจด้วย”
สองคนเดินออกไป อารดายืนตะลึง แล้วกรีดร้อง
“คุณพ่อ โฮๆ”
พงษ์ธรยืนส่ายหน้า หนักใจ
“วันนี้มันวันพร้อมใจกันตายหรือยังไงวะนี่”
วันใหม่ บ้านคุณหญิงศรินทร์ที่กรุงเทพ...เจตรินโอบกอดอีริน่า ใส่ชุดดำ
“ผมเสียใจกับอีริน่าเหลือเกิน เรื่องพ่อแม่ของอีริน่า ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้อีริน่าเสียใจแม้แต่น้อยก็จะไม่ทำ”
“อีริน่าของคุณมากค่ะ ต่อไปนี้อีริน่าไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ อีริน่าเหลือตัวคนเดียวในโลกนี้”
“ผมรับปากปาปาของอีริน่าแล้ว จะดูแลอีริน่ารักอีริน่า ตลอดไป อีริน่ามีผม มีพี่จี มีคุณน้ากมล มีคุณตาคุณยายบ้านโน้น”
“อีริน่าคิดถึงปาปา คิดถึงแม่พริม ไม่มีแม้แต่โอกาส จะตอบพระคุณแม้กระทั่งตอนที่ท่านตายแล้ว”
“ตอนนี้ศพปาปาของอีริน่าอยู่ที่นี่ อีริน่ามีโอกาสดูแลปาปา ไปทำพิธี ฝังศพปาปากันเถิดอีริน่า”
“ค่ะ”
เจตรินประคองอีริน่า ที่ยังเศร้าโศกออกไปจากห้อง
จีรณัทย์รออยู่ในห้องนั่งเล่นจะไปฝังศพ อีริน่าเข้ามากับเจตริน
“ไปกันเถิดครับพี่จี”
“ไปจ้ะ อีริน่า”
จีรณัทย์โอบอีริน่า คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดาราใส่ชุดดำ มีนิกกี้ใช่สูท เดินมาหาสามคน
“อีริน่า เจต” คุณหญิงเอ่ยทัก
อีริน่า เจตริน จีรณัทย์ แปลกใจมาก
“ค่ะ คุณหญิง มีอะไรให้อีริน่ารับใช้คะ”
“คุณแม่กับน้องจิตจะไปงานศพพ่อของอาดาหรือครับ” เจตรินสงสัย
สองคนตอบพร้อมกัน
“เปล่า”
นิกกี้พูดขึ้น
“คือ คุณแม่กับจิตจะไปฝังศพปาปาของอิริน่าต่างหากครับ”
“อะไรนะ” จีรณัทย์อึ้ง
“ใช่จ้ะ แม่จะไปร่วมพิธีฝังศพปาปาของอีริน่า” คุณหญิงสลดลง
จิตรดาราจับมืออีริน่า
“อีริน่าเสียใจด้วยนะ”
“นิกกี้ก็เสียใจด้วยนะ”
อีริน่างงไม่น้อยแต่ก็ตั้งสติได้
“อีริน่าขอบพระคุณคุณหญิงมากค่ะ”
ในใจอีริน่าไม่มั่นใจว่าจะมาไม้ไหน เจตรินตัดบท
“เชิญครับ คุณแม่ ขอบใจมากน้องจิต นิกกี้”
จีรณัทย์แอบกระซิบเจตริน
“หมีจะมีเขา เต่าจะมีหนวดหรือเปล่า เหลือเชื่อมาก”
ทั้งหมดพากันออกไป
เปลวไฟลอยเหนือเมรุ อารดา หวิน สมร ยืนมองอยู่ แค่สามคน ไม่มีใครมาร่วมงาน
“คุณพ่อช่างทำกับดาได้ ทำให้ดาไม่มีหน้าจะไปสบตาผู้คน แทนที่จะตายดีๆมาฆ่าตัวตาย เงินทองที่ซ่อนอยู่ ดาก็เอาไม่ได้ จะทำร้ายกันไปถึงไหน”
อารดาน้ำตาไหลไม่ใช่เสียใจแต่แค้นใจ หวินมองรอบๆ
“แหมน่าจะมีใครมาเผ่าท่านสักห้าร้อยคนนะคะ คุณดา”
สมรถอนใจ
“ตอนที่ท่านยังมีอำนาจวาสนา เห็นเวียนกันมาไถเงินขอโน่นขอนี่ กันหัวบันไดไม่แห้ง”
“หุบปากได้ไหม กลับกันได้แล้ว” อารดาตวาด
“กลับ ไหนคะ บ้านไอศูรย์ศรินทร์ หรือว่าบ้านเราคะ” หวินงงๆ
“ไม่มีใครที่นั่นพูดกับหมอนและหวินสักคนเดียว” สมรเสริม
“ฉันจะกลับไปสำรวจของที่บ้าน ว่าจะเอาอะไรออกมาได้บ้าง แล้วฉันก็...”
“ก็อย่าบอกนะคะ ว่า จะเอ้อ...” หวินหน้าตื่น
“ฉันจะกลับไปบ้านไอศูรย์ศรินทร์” อารดามุ่งมั่น
“แต่ เรา...” สมรแย้ง
อารดาเด็ดขาด
“ฉันไล่แกสองคนออก”
“ขอเงินเดือนค่ะ” หวินแบมือ
“ไม่ให้”
“เฮ้ย” สองคนอึ้ง
พงษ์ธรกับเขมชาติ เข้ามาเงียบๆ
“ดา”
อารดาหันไปมอง
“มาทำไมเอาป่านนี้”
“เราไม่ได้มาเผาศพ” พงษ์ธรบอก
เขมชาติมองหน้า
“แต่เราจะมาเอาเงิน ที่ตกลงกันไว้”
“ฉันไม่มีอะไรจะให้พวกแกอีกต่อไปแล้ว พอกันที”
หวินกับสมรเริ่มหวาดๆสองคนที่มีทีท่าน่ากลัว พงษ์ธรกับเขมชาติย่างสามขุมมาใกล้ พงษ์ธรหันไปตวาดหวินกับสมร
“อีขี้ข้าสองตัวนี่ ไปให้พ้น”
เขมชาติไล่เสียงเหี้ยม
“บอกให้ไป ให้พ้น”
สองคนยังห่วงเงินของตน
“เงินเดือนของเรา”
“อยากตายไหม” พงษ์ธรตะคอก
“ไม่ไม่ ไปแล้วค่ะ”
สองคนพากันลนลานหนีไป เขมชาติกับพงษ์ธรเขยิบมาชิดตัวอารดาที่ตื่นกลัว
“ไม่นะ”
“ไปกับเรา” พงษ์ธรเสียงเข้ม
เขมชาติจ้องหน้า
“ไปเอาเงินมาให้เรา”
“ไม่ๆ” อารดาส่ายหน้า
สองคนคว้าอารดา ช่วยกันหิ้วเอาตัวออกไปจากที่นั่น
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 13 (ต่อ)
ด้านนอกสุสานฝังศพ การฝังศพเสร็จสิ้นแล้ว เจตริน เดินโอบอีริน่าที่ยังมีน้ำตานองหน้าออกมาจากสุสาน
“ผมให้ยูริจัดการส่งศพแม่ของอีริน่า มาทำพิธีทางศาสนาที่กรุงเทพ พรุ่งนี้คงมาถึง”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“คุณน้ากมล คุณอิฐ จัดการทุกอย่างเรื่องวัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” จีรณัทย์บอก
อีริน่ายกมือไหว้
“ขอบคุณมากค่ะ พี่อิฐ แต่เราไม่มีรูปแม่พริมหน้าศพ”
คุณหญิงพรรณราย นายพลกันต์ กมลกันต์เดินมาหา
“ยายเสียใจด้วยมากๆ ยายจะไปร่วมงานศพแม่ของหนู” คุณหญิงกอดอีริน่าไว้
“ตาก็เสียใจมากเช่นกัน แต่ทั้งตาและยายก็ยังไม่เลิกความพยายามสืบหาตายายของหนูนะ” นายพลกันต์ให้กำลังใจ
“คุณพ่อได้เรื่องราวจากพรรคอดีตหน่วยความมั่นคง บอกว่าพ่อของอีริน่าพาแม่ของอีริน่าไปรัสเซียจากทางประเทศลาว” กมลกันต์เล่า
เจตรินคิดตาม
“แปลว่าออกจากไทยแล้วไปอยู่ลาวอย่างที่แม่พริมเคยบอกอีริน่า”
นายพลกันต์มองอีริน่า
“แต่ทุกคนไม่อาจสืบได้ว่า ชื่อจริงของแม่หนูชื่อว่าอะไร”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ จิตรดารา นิกกี้พากันเดินเฉียดมามองหมั่นไส้พวกคุณหญิงพรรณรายที่มาทำราวกับเป็นญาติผู้ใหญ่ของอีริน่า
“อีริน่า รีบกลับบ้านนะ อย่าหลงคารมแวะไปที่บ้านใครเขาเสียก่อน เรามีเรื่อง จะต้องพูดกันยาว” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์พูดเสียงเข้ม
จิตรดารายิ้มบางๆ
“รับรองว่าไม่ใช่เรื่องร้ายๆหรอกอีริน่า เพราะตัวหายนะทำท่าว่าจะหายไปจากบ้านเราแล้ว”
นายพลกันต์หันไปชวนคุณหญิงพรรณราย
“กลับกันเถอะคุณหญิง”
“ยายกลับก่อนนะ” คุณหญิงพรรณรายบอกอีรีน่าแล้ว หันไปยิ้มให้คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ “ศรินทร์ กลับก่อนนะ”
“ย่ะ เธอไม่ควรจะมาด้วยซ้ำ นี่มันเรื่องของตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ ไม่ใช่ นิมิตภูวนาถ” คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ค้อน
“คุณแม่ครับ นี่งานศพนะครับ” เจตรินปรามๆ
กมลกันต์ เข้ามาหาเจตรินกับอีริน่า
“อีริน่า เจต พี่กลับก่อนนะ”
กมลกันต์มองจีรณัทย์ คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ทำเสียงเย็นใส่
“ไม่ว่าใครจะมาทำเนียนยังไง ในหัวใจฉันก็ไม่มีวันลืมว่าน้องชายโดนฆาตกรเลือดเย็นยิงตาย สามีฉันตรอมใจตาย เพราะเสียใจเรื่องน้องชาย แต่ทำไมฆาตกรยังลอยนวล ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่รู้ไม่เห็นว่าฆาตกรอยู่ที่ไหน”
“คุณแม่ครับ” เจตรินปราม
นายพลกันต์ส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรเจต อ้อ...อีริน่า ถ้าอยากเห็นหน้าลูกสาวของตาละก็ ตาคิดว่า ตาน่าจะนึกออกแล้วว่าตาเก็บรูปใบสุดท้ายของเขาไว้ที่ไหน”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์สวน
“รูปฆาตกร”
ครอบครัวนายพลกันต์ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยอีก พากันกลับไป เจตริน จีรณัทย์ อีริน่าเซ็ง คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจิตรดารายังมองตามไม่พอใจ
อารดาโดนสองคนบังคับให้มาที่บ้าน พงษ์ธรกับเขมชาติเก็บของมีค่าใส่กระเป๋าเรียบร้อย อารดาพยายามขัดขวางก็โดนสองคนช่วยกันทุบตีจนหมดแรงนั่งมองร้องไห้ได้แต่ด่าทอ
“ไอ้แมงดาสารเลว พวกแกมันต่ำทรามสุดจะเอ่ยถึง หน้าด้านมาเก็บกวาดของในบ้านของพ่อฉันไปแบบไม่มียางอาย”
“ช่วยไมได้ พ่อแกมันดันสะสมของโบราณเอาไว้เต็มบ้านทำไมล่ะ” พงษ์ธรยิ้มหยัน
“ของพวกนี้ เอาไปขายได้เงินไม่น้อย ขอบใจมาก ที่ให้ทั้งตัวและสมบัติผลัดกันชมระหว่างฉันกับไอ้พงษ์ ระหว่างเธอกับเม เธอน่ารักกว่ามาก” เขมชาติยิ้มพอใจ
“ไอ้เดียรฉาน” อารดาด่า
พงษ์ธรหัวเราะขำๆ
“ฉันก็ว่าเธอเจ๋งกว่าจิตดารากับเชอรี่มากมายนัก เสียดายที่ไอ้มิคาอิลดันมาตายไปก่อน ไม่อย่างนั้นฉันกับไอ้เขมได้ส่งเธอไปฮันนีมูนหมู่ที่มอสโควแน่”
“ไปให้พ้น ไปให้พ้น ออกไป ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้” อารดาตวาด
สองคนเดินมาตบแก้มอารดาเบาๆคนละข้าง
“ลาก่อน คนสวย”
สองคนเดินออกไป อารดาร้องไห้โฮๆ
“เพราะแก นังอีริน่า เพราะแก”
อารดาคลั่งแค้นอยู่กลางบ้านตามลำพัง
ในบ้านไอศูรย์ศรินทร์...อีริน่านั่งตรงหน้าคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ มีเจตริน จีรณัทย์ จิตรดารา นิกกี้อยู่ด้วย“ฉันขอบใจเรื่องเอกสารเลวร้ายนั่นนะ อีริน่า” คุณหญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้น
“ค่ะ อีริน่ายินดีทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ” อีรินายิ้มออก
“ฉันก็ขอโทษที่ผ่านมาเคยแอบทำไม่ดีคิดไม่ดีกับเธอ” จิตรดาราบอกอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ มันผ่านไปแล้วค่ะ” อีริน่ายิ้ม
“อย่าให้มีอีกก็แล้วกันน้องจิต” เจตรินเตือน
นิกกี้แทรกขึ้น
“คุณหญิงแม่ครับ ผมพิสูจน์ให้เห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่าผมเป็นผู้ดีหลบในปิดทองหลังพระบ่อยๆ”
คุณหญิงยิ้มให้
“ขอบใจมากนิกกี้ ที่ช่วยให้ลูกจิตรอดพ้นจากคนเลว”
จีรณัทย์หันมาหานิกกี้
“พี่ดีใจที่นิกกี้กับน้องจิตกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง”
จิตรดาราเข้าไปกอดคุณหญิง แล้วหอมแก้ม
“จิตทำตัวเป็นเด็กนรกใส่คุณแม่และทุกคนมามากพอแล้ว ต่อไปนี้เด็กนรกไม่มีแล้วค่ะ จิตสัญญา”
“ผมขอถือโอกาสพาจิตดาราไปฉลองมิตรภาพของเราสองคนนะครับ คุณแม่”
นิกกี้รีบบอก คุณหญิงยิ้มแย้ม
“เชิญ”
สองคนออกไป เจตรินหันมาบอก
“ผมก็ขอตัวพาอีริน่า ไปพักผ่อนนะครับคุณแม่”
“ตามสบาย”
เจตรินพาอีริน่าออกไป จีรณัทย์จะลุกบ้าง
“จีก็จะไปบ้างนะคะ”
คุณหญิงเรียกเอาไว้
“เดี๋ยว”
“คะ”
“ใจคอจะทิ้งแม่เอาไว้ ให้นั่งเป็นนังแก่หงอยเหงาว้าเหว่ตามลำพังหรือยัยจี”
“คุณแม่”
คุณหญิงกางมือออกน้ำตาซึม จีรณัทย์เข้าไปกอดแม่ที่ร้องไห้สะอื้นออกมา
“แม่เหงา แม่ว้าเหว่มานานตั้งแต่ขาดคุณพ่อ ไม่มีวันไหน ที่แม่ไม่ได้นึกถึงคิดถึงคุณพ่อ แม่อยากบอกให้ทุกคนเข้าใจแม่ อยากบอกทุกคน แต่แม่อาย กลัวใครจะหาว่าแม่อ่อนแอ”
“คุณแม่เข้มแข็งมาก คุณแม่ไม่ใช่คนอ่อนแอ การคิดถึงคุณพ่อทุกวัน มันเป็นเรื่องของความรักอันมั่นคงที่คุณแม่มีต่อคุณพ่อค่ะ จีภูมิใจในตัวคุณแม่ จีมีความสุขที่เป็นลูกของคุณแม่ค่ะ คุณแม่เก่งที่สุดค่ะ”
“ลูกจี หนูก็เป็นเด็กดีที่สุดของแม่ ไม่ดื้อดึง ไม่อาละวาดใส่แม่ ทั้งที่แม่ผิดต่อลูกบ่อยครั้ง ต่อไปนี้ ไม่มีแล้วนะลูก”
สองแม่ลูกกอดกัน เข้าใจกัน...แหววแอบมองป้ายน้ำตาไปด้วย
“ตื้นตันใจจริงๆแม่ลูกกลับมาผูกกันซะที ต่อไปนี้คงไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆในบ้านนี้อีกต่อไป”
ทันใดนั้นมีมือมาสะกิดด้านหลัง แหววปัดทีแรกมาสองมือ ทีหลังมาสี่มือ แหววรู้ว่าเป็นคนแต่ด่ากระทบ
“เฮ้ย ทีแรกนึกว่ามือคน แต่ทำไมมีสี่มือ หมาที่ไหนมาสะกิดกันถึงในบ้านไปให้พ้น”
สมรกับหวินพูดขึ้นพร้อมกัน
“เราเอง”
แหววหันขวับ
“หมาพูดได้”
สมรกับหวินยกมือไหว้
“ฉันไหว้ จ้ะ”
แหววขยี้ตา ตัวเอง
“ไหว้ฉัน”
สองคนตอบพร้อมเพียง
“จ้ะ”
“คือเราสองคนมีเรื่องจะเจรจา เกี่ยวกับความปรองดองจ้ะ” หวินพูดเสียงอ่อย
“แกสองคนรู้จักคำนี้ด้วยหรือ” แหววมองหน้า
“ขอเวลาสักห้านาทีเพื่อชี้แจงจ้ะ” สมรขอร้อง
แหววมองหน้าสองคน แล้วพยักหน้า
อารดานั่งซึมอยู่ในบ้าน เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ แล้วฮึดใหม่
“เราต้องไม่ล้ม เพราะคนจ้องจะข้ามเรา เราต้องยืนอยู่ในโลกนี้ให้ได้ ด้วยการพึ่งพาตัวเองและแก้แค้นสัตว์เดียรฉานสองตัวนั่น และเอาชนะนังอิอีริน่าให้ได้”
อารดาป้ายน้ำตาลุกขึ้น มีเสียงรถจอดหน้าบ้าน เสียงกดกริ่งหน้าบ้าน
“ไอ้สองคนนั่นมันย้อนกลับมาอีกหรือนี่ ดีละ ฉันจะไม่ยอมให้แกมาทำร้ายฉันได้อีก”
อารดาฉวยปืนจากลิ้นชักโต๊ะมายัดใส่กระเป๋าถือค่อยๆชะโงกมองออกไปนอกบ้าน
พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ 2คน ยืนอยู่หน้าบ้าน กำลังเล็งมองป้ายทะเบียนรถของอารดา
“รถคันนี้อยู่ในบัญชีอายัดทรัพย์ด้วย”
“ยังไม่มีคนออกมาจากในบ้าน แสดงว่าไม่มีคนอยู่ เอาโซ่มาคล้องไว้เอาหมายมาปิดหน้าบ้าน”
“แล้วรถ จะทำยังไง”
“เรียกรถลากมาลากไป”
สองคนจัดการ ทำตามที่พูด
มุมหนึ่งหลังบ้านศรินทร์ทิพย์...ศรีกับแหววยืนยิ้มมองสมรกับหวินที่กำลังถือธูปพนมมือสาบาน
“ข้าพเจ้าขอสาบานว่า ถ้าได้ทำงานที่บ้านหลังนี้ต่อไป จะไม่ทำตัวเลวทรามต่ำช้าหาเรื่องใส่ร้ายใครต่อใครอีกต่อไป” หวินสาบานน้ำเสียงจริงจัง
สมรพูดต่อ
“ข้าพเจ้าขอก๊อบปี้คำสาบานของนางหวิน ด้วยเจ้าค่ะ”
“ดีมาก” ศรียิ้มพอใจ
แหววขัดขึ้น
“แต่พวกแกต้องรอก่อน มันต้องไปยังขั้นตอนขออนุมัติจากนายก่อน เข้าใจไหม”
“เข้าใจจ้ะ” สองคนตอบพร้อมกัน
“ถ้าอย่างนั้นหลบไปก่อน” แหววยิ้ม
“หลบที่ไหน” หวินงงๆ
“ในส้วมมั้ง” ศรีขำๆ
“ว๊าย” สองคนสะดุ้ง
แหววเสียงเขียว
“ในครัว ย่ะ”
สองคนพยักหน้า
ในห้องนอน...อีริน่ายังคงนั่งซึม คิดถึงวัยเด็ก นิโคลัยอุ้มอีริน่ามานั่งตักมากอดมาหอม มาป้อนข้าว ไปวิ่งเล่น
“ปาปารักอีริน่าที่สุด”
“อีริน่าก็รักปาปาที่สุด”
นิโคลัยเอาอีริน่าขี่คอ หัวเราะกันสองคน
“ได้เวลาไปรับแม่พริมกันแล้วอีริน่า”
สองพ่อลูกพากันออกไป
อีริน่าป้ายน้ำตาเจตรินมาปลอบ
“อีริน่ายังไม่ได้ทานข้าวเลยตั้งแต่กลับมา หิวมั้ย ผมจะให้แหววจัดมาให้อีริน่านะ”
อีริน่าส่ายหน้า
“อีริน่ากินไม่ลงค่ะ ภาพปาปากับแม่พริม มาวนเวียนในความคิดของอีริน่าตลอดเวลาค่ะ”
เจตรินคิดๆ
“จริงสิอีริน่า ซองที่ปาปาให้อีริน่าไว้อยู่ที่ไหน ทำไมไม่เอามาเปิดดู มันต้องสำคัญแน่ๆ”
“จริงสิคะ อีริน่าลืมสนิทเลย อีริน่าเอาไว้ที่ไหนนะ ใช่แล้วค่ะ ในกระเป๋ากางเกง”
“กางเกงอยู่ที่ไหน”
“ในตะกร้าซักผ้า”
เจตรินหน้าตื่น
“แย่แล้ว แหววมันมาหยิบไปแล้วแน่ๆ”
“เอาไปใส่เครื่องซักผ้าแล้วยัง” อีริน่าร้อนรน
เจตรินฉุดแขนอีริน่า พากันวิ่งออกไปทันที
อารดาเดินมาถึงหน้าบ้าน
“ไม่ไช่ไอ้สองคนนั่น ถ้าเป็นมันๆคงเข้ามาแล้ว”
อารดาจะเปิดประตู เปิดไม่ได้
“อะไรกันเนี่ย ใครมาทำอะไรหน้าบ้านฉัน ทำไมเปิดประตูไม่ได้”
พนักงาน 2 คนเดินมาปรากฏตัวให้เห็น
“คุณเป็นอะไรกับคนที่นี่ครับ”
“ถามบ้าๆ นึกว่าฉันเป็นหมาเฝ้าบ้านหรือไง มาทำอะไรกันไม่ทราบ”
“มาพิทักษ์ทรัพย์ตามหมายศาลครับ”
อารดาตะลึง
“ไม่นะ ฉันไม่ให้มายึดอะไรทั้งนั้น เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
พนักงานสองคนพยักหน้า อารดาจะบ้าตาย
แหวว กับศรีกำลังชี้นิ้ว ให้หวินกับสมรเลือกผ้าสีกับผ้าขาวในตะกร้า
“เลือกไปนะยะ แยกผ้าสีกับผ้าขาวออกจากกันย่ะ” แหววสั่ง
“เลือกผ้าลูกไม้ ออกจากผ้าฝ้าย ย่ะ” ศรีกำชับ
“ได้ทีขี่แพะไล่นะยะ” หวินค้อน
“คนกำลังเซมาเหยียบซ้ำ” สมรไม่พอใจ
เจตรินเสียงดังมา
“ทำอะไรกันน่ะ หยุดนะ”
สี่คนชะงัก แหววกับศรีหันมองตามเสียง
“คุณเจต คุณอีริน่า”
เจตรินมองสมรกับหวินอย่างสงสัย
“หวิน หมอน มาทำอะไรที่นี่”
หวินหันมาบอก
“มาขอเป็นขี้ข้าค่ะ”
“แหววสมเพชพวกมันค่ะมันลงทุนสาบานว่าสำนึกผิดแล้ว แหววบอกว่าให้แหววบอกเจ้านายก่อน ว่าจะอนุมัติรับมันสองคนมั้ย”
เจตรินหันไปหาอีริน่า
“อีริน่าว่ายังไง”
“แล้วแต่คุณเจตเถอะค่ะ ตอนนี้อีริน่าต้องการหากางเกงตัวที่ใส่กลับจากพัทยา แหววจำได้มั้ย”
สี่คนรุมกันดึงเสื้อผ้าเพื่อหากางเกงตัวนั้น
อารดาอาละวาดใส่พนักงานสองคน
“เอาโซ่ออกไปจากหน้าบ้านฉันนะ เอารถลากนั่นออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ด้วย”
“เสียใจด้วยครับ เราทำตามหน้าที่”
พนักงานอีกคนเสริม
“และนี่คือกฎหมายครับ”
“อ๊าย” อารดากรี๊ด
พนักงานทั้งสองออกไป รถของอารดาโดนลากไป เธอยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน
เมื่อเข้ามาในห้องนอน เจตรินถือซองนั่นในมือ ยื่นให้อีริน่า
“เปิดดูสิอีริน่า”
อีริน่ารับมาเปิดเห็นรูปอยู่ในซอง อีริน่าหยิบมาดู
“รูปแม่พริม”
“เรามีรูปแม่พริมมาประกอบพิธีศพแล้วอีริน่า” เจตรินดีใจ
อีริน่าเอารูปพริมมากอดมาแนบอกแนมแก้มเอามาจูบ
“แม่พริมขา อีริน่ามีรูปแม่พริมเอาไว้ดูต่างหน้าแล้วค่ะ”
“คุณลุงกันต์คุณป้าพรรณราย ท่านอยากเห็นหน้าแม่พริมของอีริน่า เอาไปให้ท่านดูท่านจะได้รู้ว่า ใช่คนที่ท่านรู้จักมั้ย”
“ค่ะ คุณเจตไม่ว่าใช่มั้ยคะ ถ้าอีริน่าจะขอไปหาคุณตา คุณยายบ้าง”
“ไม่มีปัญหา ผมจะไปรับไปส่งอีริน่าเอง”
เจตรินดึงอีริน่ามาโอบกอดไว้
“ขอบคุณมากค่ะ”
นิกกี้พาจิตรดารามาพบเตี่ยที่ร้านขายของเก่า
“นิกกี้ยินดีมาก ที่จิตดาราอยากมาพบเตี่ยของนิกกี้”
“จิตเข้าใจแล้วว่าคนเราดีที่ใจ ไม่ใช่คำพูด คืนนั้นถ้าไม่ได้นิกกี้ จิตคงไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว นังอารดา มันร้ายกาจมาก”
“เอ๊ะ มีใครซื้อขายอะไรกันในร้าน เตี่ย เตี่ยครับ หลงจู๊”
พงษ์ธรกับเขมชาติ หันมาเจอเอานิกกี้ กับจิตรดาราก็ตะลึง
“จิตดารา นิกกี้”
เตี่ยออกมาหานิกกี้ หลงจู๊กำลังตรวจของ
“อาตี๋ พาใครมาหน้าตาน่ารัก”
“สวัสดีค่ะเตี่ย” จิตรดารายกมือไหว้
“นั่งๆนั่ง อาตี๋อาหมวย เจี๊ยะเต้รอเตี่ย เตี่ยกำลังตรวจของเก่าที่อาเฮียสองคนนี่เอา มาขาย”
พงษ์ธรเดินกรายมาหาจิตรดารากระซิบขู่
“อย่ามาทำเชิดหน้าใส่ฉัน เธอยังติดค้างฉันอยู่ อย่าหาว่าขู่ เดี๋ยวฉันจะประจานให้ไอ้แก่นี่สั่งลูกชายให้เลิกคบกับเธอ”
นิกกี้หันมาบอกเตี่ย
“เตี่ยครับ ร้านเราปิดตอนหนึ่งทุ่ม นี่มันเลยเวลาแล้ว ปิดเถอะ หมดเวลาซื้อขายของแล้ว หลงจู๊ เชิญแขกขนของออกไปหาที่ขายร้านอื่น ที่นี่ไม่รับซื้อของโจร”
เขมชาติไม่พอใจ
“เฮ้ย ไอ้ตี๋มากไปแล้ว เรามาก่อนร้านปิด นี่กำลังตกลงราคากันอยู่ เตี่ยแกก็ยอมซื้อของเราแล้ว”
จิตรดาราแทรกขึ้น
“เพราะเตี่ยท่านไม่รู้ว่าของนั่นมันของโจร”
“หยุดนะ นังจิตดารา แกก็แค่ของเก่าที่ไอ้ตี๋นิกกี้มันกำลังเอามาตบตาขายเตี่ยมัน” พงษ์ธรตวาด
“หลงจู๊ ขนของพวกนั้นออกไปวางนอกร้าน อั๊วจะปิดร้านเดี๋ยวนี้” นิกกี้ออกคำสั่ง
เขมชาติโกรธมาก
“ไอ้ตี๋มึงอย่ากำแหง มึงไม่รู้หรือว่านังจิตดาราคนนี้มัน...”
พงษ์ธรรีบแทรก
“ท้องกับกู ในท้องมันมีลูกกูอยู่ มันกำลังล่อลวงเอาลูกของกูไปหลอกว่าเป็นลูกมึง”
“ไอ้หยา” เตี่ยตกใจ
จิตรดาราเดินเฉียดไปที่กองของพวกพงษ์ธร แล้วแกล้งเตะให้ล้ม ของล้มมากองแตกหมด พงษ์ธรกับเขมชาติร้องลั่น
“เฮ้ย”
พงษ์ธรปราดมาจะตบจิตรดารา
“แกล้งกันใช่มั้ย นังตัวดี”
“อย่ามาข่มขู่กันนะ ไอ้แมงดาฆ่าคนตาย”
“ฮ่ะๆ ไอ้แมงดาฆ่าคนตาย” นิกกี้หัวเราะ
“หยุดนะ” พงษ์ธรตวาด
“หลงจู๊ เรียกตำรวจ” เตี่ยหันไปสั่ง
หลงจู๊ตะโกนเรียก
“ตำรวจ”
ตำรวจพรวดมาจากด้านหลังร้าน พงษ์ธรกับเขมชาติหน้าตื่น
“เฮ้ย”
เขมชาติกระซิบดึงแขนพงษ์ธร
“อยู่ไม่ไหวแล้ว ไอ้พงษ์ รีบไปก่อน”
สองคนรีบออกไป จิตรดาราหันมาถามนิกกี้
“ทำไมตำรวจออกมาจากหลังร้าน”
“ไอ้สองคนนั่นมันเป็นรปภ. มันชื่อไอ้ส้มตำ กับไอ้สำหรวด ฮ่าๆ”
เตี่ยกับจิตรดาราหัวเราะ หลงจู๊กับสองรปภ. ช่วยกันปิดร้าน
ค่ำนั้น อารดามายืนอ่อนระโหยอยู่หน้าบ้านศรินทร์ทิพย์ทำเป็นเมา กดกริ่งไม่หยุด ในที่สุดประตูเปิดออก เห็นคนที่มาเปิด คือหวินกับสมรต่างฝ่ายต่างตกใจ
“พวกแกออกกมารอฉันหรือ”
“เราสองคนมาทำงานที่นี่” หวินพูดห้วนๆ
“หลีกปาย” อารดาไล่
“จะมาหาใครไม่ทราบ” สมรขวาง
“อย่ามาทะลึ่ง”
อารดาผลักสองคน เซไป
“เฮ้ย เมาเป็นหมา”
สองคนตั้งท่าสู้ดา อารดาโกรธ
“แกกล้าด่าฉันหรือนังหวินนังหมอน”
“ฉันชื่อวินนี่” หวินเชิด
“ฉันชื่อมอลลี่”
“แกจะชื่อบ้าอะไร ก็ช่างหัวแก ฉันจะมาหาคู่หมั้นของฉัน”
สองคนพูดพร้อมกัน
“ไม่ได้”
อารดาจะเข้าสองคนกันไว้ ยึกยักกันไปมา เจตรินออกมาเห็น
“อะไรกันน่ะ”
“พี่เจตขา” อารดาเรียกทันที
อารดาร้องไห้โฮๆ สมรกับหวิน ชะงัก อารดาผวามากอดไว้ เจตรินพยายามแกะ
“ปล่อยผมก่อน”
“ฟังดาก่อนค่ะ”
อารดาไม่ยอมปล่อย ดูแล้วคล้ายๆ อารดากับเจตรินกอดกัน...อีริน่ามองออกมาจากในบ้าน
“อารดา คุณเจต ไหนว่าจะเอารูปของแม่พริมไปให้พี่อิฐขยายในงานศพ”
อีริน่าน้ำตาซึม
เจตรินขับรถออกจากบ้านไป อารดาดานั่งข้างๆ กำลังร้องไห้ เล่าสารพัดเรื่องให้เขาฟัง
“ดาหมดสิ้นทุกอย่างแล้วนะคะพ่อตาย บ้านโดนยึด คนใช้ตีจาก เงินไม่มีติดตัว โดนอายัดหมด แม้กระทั่งรถยนต์ที่ขับอยู่ทุกวันมันก็ลากออกไปต่อหน้าต่อตาดา ดาน่ะอยากกลับไปบ้านนะคะ แต่ดากลับโดนไล่ออกจากบ้าน แล้วคืนนี้ดาจะไปนอนที่ไหน”
“ดาไม่มีเพื่อนที่ไหนหรือ”
“เมไงคะ แต่เมหายไปแล้ว คนอื่นที่เหลือ มันก็เพื่อนกินทั้งนั้นค่ะ พี่เจตขา กรุณานะคะให้ดาซุกหัวนอนที่บ้านได้มั้ยคะ ห้องคนรับใช้ดาก็อยู่ได้ทั้งนั้น”
“เอ้อ ผมต้องปรึกษาคุณแม่ก่อน”
“แล้วคืนนี้จะให้ดาไปนอนข้างถนนเหรอคะ หรือต้องให้ดาเอ่ยปากขอร้องจนชะนีกลายเป็นค่างก่อนคะ ถึงจะเห็นใจดา”
“แต่ดาเมามากนะ”
“ไม่ได้มาว แค่เสียใจเลยเอาเงินที่เหลือไปกินเหล้าเท่านั้นเอง”
เจตรินหนักใจมาก
อีริน่ามาหาคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ กับจีรณัทย์
“ฉันเห็นใจนะ ว่าเธอรักคนบ้านนั้นมากมายกว่าคนบ้านนี้นัก เพราะพวกเขาเอาใจ ตามใจเธอสารพัดอยากได้เธอเป็นหลานแท้ๆ จะเป็นจะตาย” คุณหญิงประชดประชัน
“มีเหตุผลอื่นไหมที่อีริน่า อยากจะขอไปหาคุณตาคุณยายบ้านนั้นกะทันหันอย่างนี้”
“เอ้อ อีริน่า อยากจะไปดูรูปของลูกสาวคุณตาคุณยายค่ะ ว่าเป็นคนไทยที่อีริน่าเคยเห็นที่มอสโควบ้างไหม”
“น่าจะรอให้เจตกลับมาก่อน แล้วให้เขาไปส่ง”
คุณหญิงประชดอีก
“เอาเถอะ อยากไปมาก รักพวกเขามาก ฉันจะให้นายเมฆไปส่ง”
“อีริน่าไปเองก็ได้ค่ะ”
“เอ๊ะ เด็กคนนี้ ฉันมีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยของคนนามสกุลเดียวกับฉัน หรือว่ารังเกียจที่จะรับความหวังดีจากฉัน”
“เปล่าคะ แต่อีริน่าเกรงใจค่ะ”
“ให้นายเมฆไปส่งนะอีริน่า คุณแม่ท่านหวังดี นี่มันดึกแล้ว” จีรณัทย์บอกแกมบังคับ
อีริน่าไหว้
“ขอบพระคุณมากค่ะ”
สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 13 (ต่อ)
อิฐปรายตามองอารดาที่นั่งทำระทดระทวย แกล้งเมา ไม่เลิกร้องไห้กระซิก แบบไม่ไว้ใจ อิฐหันมาบอกเจตริน
“แกไม่เข็ดไม่หลาบ เอางูเห่ามาไว้ข้างกาย อันตรายที่สุด”
“แล้วแกจะให้ฉันเอาไปไว้ที่ไหน ในเมื่อเขาไม่มีที่ไป หรือแกจะรับดูแลไว้เอง”
“เฮ่ย บ้า ถ้าเป็นอีริน่าละก็เวลคัมเลยแหละ เอาละแกเอารูปแม่ของอีริน่ามาให้แล้วก็รีบกลับไปหาอีริน่าซะ หวังว่าอารดาคนนี้ คงไม่ไปทำให้บ้านแกป่วนเป็นสึนามึถล่มอีกครั้งนะ”
“ขอบใจมากเรื่องช่วยจัดงานศพให้แม่ของอีริน่า เจอกันพรุ่งนี้”
เจตรินลุก อารดาลุกตามทำตัวเป็นน่าสงสารไหว้อิฐ
“ดากลับนะคะพี่อิฐ”
อารดาทำระทดระทวยเดินตามเจตรินออกไป อิฐมองตามว่าน่าสยอง
คุณหญิงพรรณรายกอดอีริน่าที่น้ำตาปริ่มๆ ดีใจมาก
“อีริน่ามาขอนอนกับคุณยายค่ะ”
“ยายดีใจมากที่อีริน่ารักยาย ถึงขนาดมาหายายตอนดึกๆ ยายจะไล่คุณตาไปหาที่นอนห้องอื่นซะ”
นายพลกันต์หน้าเหวอ
“อ้าว คุณหญิง”
“อีริน่านอนคนเดียวได้ค่ะ”
นายพลกันต์รีบบอก
“ได้ แต่ไม่ดีหรอก ไปนอนกับยายเขาเถอะ เขาฝันอยากนอนกอดหลานสักคนมานานมากแล้ว ช่วยให้ฝันของยายเขาเป็นจริงสักครั้งเถอะ”
“เอ้อ อีริน่าอยากเห็นรูปคุณพรรณวดี ลูกสาวของคุณตาคุณยายค่ะ”
“พรุ่งนี้เถอะหลาน ตากำลังนึกอยู่ว่าเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน”
คุณหญิงสงสัย
“เอ๊ะ วันก่อนบอกว่าหาเจอแล้วนี่นาคุณกันต์”
“คนมันแก่ จำผิดๆถูกๆ พรุ่งนี้หาเจอแน่”
“อีริน่ามีข่าวดีจะบอกค่ะอีริน่ามีรูปแม่พริมไปตั้งที่งานศพแล้วค่ะ ปาปาแอบเก็บไว้แล้วให้อีริน่าก่อน...เอ้อ...” อีริน่าร้องไห้
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้ พรุ่งนี้ตากับยายจะได้เห็นหน้าแม่ของอีริน่าแล้ว ยายดีใจด้วยนะ ที่หนูมีรูปของแม่เอาไว้ดูต่างหน้า” คุณหญิงปลอบ
“ว่าแต่ว่า คืนนี้ จะมีคนไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เพราะเอาแต่คุยกันจนเช้าหรือเปล่าพาหลานไปนอนเถอะคุณหญิง”
คุณหญิงพยักหน้า จูงอีริน่าไปนอน
จีรณัทย์นั่งดูทีวี แหววมารายงานเรื่องเจตรินกับอารดา
“แหววแน่ใจนะ ว่าเห็นคุณเจตพาอารดาออกไปข้างนอกด้วยกัน”
“แหววไม่เห็นค่ะ แต่นังหวินกับนังหมอนมันมารายงานแหววอีกทีค่ะ แหววว่าน่ากลัวมากๆนะคะ”
“คุณอีริน่าเห็นหรือเปล่า” จีรณัทย์ไม่สบายใจ
“แหววไม่ทราบนะคะ แต่ถ้าเอามาโยงเป็นเรื่องเดียวกันก็มีเหตุผลนะคะ”
“หรือว่าอีริน่าเห็นอารดา เลยน้อยใจ”
“เป๊ะค่ะ ไม่อย่างนั้น ทำไมคุณอีริน่าถึงอยากจะไปบ้านโน้นขึ้นมากะทันหันคะ”
“ก็มีเหตุผล แล้วอารดากลับมาทำไมอีกนะ แล้วทำไมเจตถึงต้องเอาอารดานั่งรถไปด้วย”
“แบบนี้เป็นแหววหน่อยไม่ได้นะคะเจอผัวทำแบบนี้ จะตามออกมาราวีให้ไปไม่เป็นทั้งสองคนเลย”
“น้อยๆหน่อยแหวว นี่แหละคือสาเหตุที่ไม่มีใครเอาแหววเป็นเมีย”
แหววสะดุ้ง
“ว๊าย หลอกด่าแหววนะคะ เอ๊ะ เสียงรถ คุณเจตมาแล้วค่ะ”
จีรณัทย์นั่งไม่สบายใจ
“ขออย่าให้อารดากลับมากับเจตเลย”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ได้ยินเสียงรถเจตริน ลุกมาดู
“ต้องฟ้องตาเจตสักหน่อยว่าอีริน่าไม่เห็นว่าแม่สำคัญเท่ายัยพรรณรายบ้านโน้น รังเกียจแม่ หนีไปนอนบ้านโน้นหักหน้าแม่ ฮึ เอ๊ะ นั่น นั่น ตาเจต ประคองใครลงมาจากรถ”
คุณหญิงเขม้นมองไป
เจตรินหน้าตาหนักใจมาก มีอารดาเกาะแขนเอาไว้แน่น พยายามจะเหนี่ยวไว้ให้มากที่สุด
“อารดาครับ อย่าดึงผมแรงๆ เดี๋ยวเราจะหกล้มกันทั้งคู่”
อารดาแอบหันไปทำหน้าพอใจ รำพึงในใจ
“ดีสิ นังอีริน่ามันจะได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร”
“แหวว ป้าศรี มีใครอยู่บ้าง มาช่วยกันหน่อย”
เจตรินร้องเรียก อารดาเลยทำเหนี่ยวเจตรินจนล้มไปด้วยกันทั้งคู่
จีรณัทย์ได้ยินเสียงเจตรินตะโกนเรียกแหววกับศรี
“คุณเจตเรียกแหววกับป้าศรีทำไมกัน”
แหววหันมา หน้าตาไม่พอใจ
“ตัวอะไรมันกำลังเกาะคุณเจตอยู่น่ะสิค่ะ เธอเรียกแหววกับป้าศรีให้ไปช่วยแล้วค่ะ”
แหวววิ่งออกไป จีรณัทย์แปลกใจ
“ตัวอะไรของแหวว”
จีรณัทย์เดินไปมองบ้างตกใจเอามือทาบอก
“อารดามากับเจตจริงๆด้วย หายนะกลับมาเยือนบ้านอีกแล้วหรือนี่”
จีรณัทย์หนักใจมาก
อารดาพยายามดึงทึ้งเจตริน ไม่ให้ลุก เจตรินพยายามจะลุก
“อารดา ปล่อยผมก่อน”
“ดาพยายามจะลุก แค่เหนี่ยวพี่เจตเอาไว้ให้ตัวเองลุก ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
อารดาดึงเจตรินให้ล้มไปใส่ตัวเองอีก คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ก้าวเข้ามา ตวาดแว๊ดชี้หน้า
“ปล่อยลูกชายฉันเดี๋ยวนี้นะอารดา”
อารดาชี้หน้าตอบ
“ครายน่ะบังอาจมาพูดจาสามหาวกับอารดา คู่หมั้นลูกชาย คุณหญิงศรินทร์ทิพย์”
“นั่นคุณแม่นะอารดา พอได้แล้ว ลุกเถอะ” เจตรินไม่พอใจ
“ลุกไม่หวายค่ะ” อารดารำพึงในใจ…อีแก่มาแล้ว...
อารดาผวาไปจะกอดเจตรินอีก คุณหญิงปราดไปกระชากอารดาให้ลุก
“นี่ไงลุกได้แล้ว”
อารดาเอามือจิ้มหน้าผากคุณหญิงจนหงาย
“สาระแน”
“ว๊าย” เหล่าวสาวใช้ตกใจมาก
จีรณัทย์ปาดไปหาอารดา
“อารดา เธอเมามากนะ สี่คนนั่นช่วยกันมาจับตัวไว้สิ”
สี่คนใช้พากันมาจับตัวไว้ อารดาดิ้นเตะคนโน้นถีบคนนี้อาศัยแกล้งเมาทำบ้า คุณหญิงจิ้มหน้ากลับ
“เมาเหมือนหมา เจตไปคว้าแม่ตัวกาลีหายนะนี่มาได้ยังไง”
“เอาไว้ผมจะอธิบายให้คุณแม่ฟัง เอ้อ อีริน่าอยู่ไหนครับ”
“ไปบ้านพวกฆาตกรแล้ว นั่นก็ไม่เห็นหัวคนแก่นึกอยากจะไปก็มาขอไปเอาดื้อๆ” คุณหญิงประชดประชัน
“พี่ว่าอีริน่าอาจจะเห็นอารดาออกไปกับเจตก็ได้นะ” จีรณัทย์แทรกขึ้น
“บ้าจริง” เจตรินขัดใจ
“แล้วนั่นจะทำยังไง”
จีรณัทย์มองน้องชายแล้วชี้ไปที่อารดา
“จับมันโยนออกไปนอกบ้านซะ” คุณหญิงโวย
“คนนะคะคุณแม่ ไม่ใช่เศษขยะ จะไปโยนทิ้งได้ยังไง” จีรณัทย์แย้ง
เจตรินถอนใจ
“เขาเมามาก ให้ใครพาไปนอนห้องที่เขาเคยอยู่ก่อนเถอะครับ พรุ่งนี้หายเมา ผมจะพูดกับเขาเอง”
“แต่แม่ต้องพูดกับเจตคืนนี้ และเดี๋ยวนี้”
“ครับ”
จีรณัทย์เดินไปสั่งสี่คนใช้ให้ลากเอาตัวอารดาที่ทำบ้าเมา ไปจากที่นั่น
เขมชาติ คุยกับพงษ์ธรอย่างหงุดหงิดมาก
“บ้าเอ๊ย อุตส่าห์ ไปขนของจากบ้านนังอารดามาจนหมด ดันไม่รู้เรื่องไปขายที่ร้านไอ้นิกกี้ นังจิตดาราตัวแสบ ฉันจะจับตัวมันให้ได้” พงษ์ธรบอกแค้นๆ
“รีดเงินมันไม่ได้ ก็จับตัวมันไปขายให้ได้ ทั้งนังจิตดารา นังอารดา ฉันจะส่งคนไปแอบติดตามมัน”
“ไอ้เอื้อน่ะหรือ”
“มันหายตัวไปตั้งแต่วันที่ไอ้นิโคลัยตายแล้ว สงสัยจะกลัว”
“ให้มันจริงเถอะว่ากลัว ไม่ใช่กลายเป็นพยานปากเอกมาปรักปรำแก”
“อย่ามาพูดบ้าๆ”
“เขม ตอนนี้ฉันแย่มาก แกให้ฉันยืมสักห้าแสนได้ไหม”
“พูดบ้าๆ ห้าพันน่ะพอให้ทานแกไปผลาญได้ แต่ห้าแสน แกจะมีปัญญาหาที่ไหนมาคืน ยามนี้ฉันเองก็ต้องดูทางหนีทีไล่อยู่ แกเองก็ต้องระวังตัวไว้ แกมีชนักติดหลังอยู่นะ”
พงษ์ธรไม่พอใจ เขมหงุดหงิด สองคนเริ่มแตกคอ พงษ์ธรลุกเดินออกไป
เจตรินอธิบายให้คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจีรณัทย์ว่าทำไมจึงยอมให้อารดามาพักที่บ้าน
“ผมไม่ได้เต็มใจให้อารดามาพักที่นี่ แต่เธอไม่มีที่อยู่ ไม่มีแม้แต่รถและเงินด้วยครับ”
คุณหญิงเบ้หน้า
“ช่วยไม่ได้ แม่รู้ว่าเรื่องล้มละลายของครอบครัวนั้นมันต้องจบลงจนได้แล้วจะให้อยู่กี่วัน แม่ไม่อยากให้มาบาดตาบาดใจแม่นานเกินไปนัก”
จีรณัทย์ไม่สบายใจ
“แล้วถ้าเราไม่ให้อยู่ด้วย อารดาจะมีที่ขยับขยายไปไหนบ้างไหมเจต”
“ผมเองก็ยังคิดไม่ออก แต่จะพยายามให้เธอไปอยู่ที่อื่นให้เร็วที่สุดครับ”
คุณหญิงไม่พอใจ
“มีแต่เรื่องปวดหัว เรื่องอีริน่านั่นแม่รู้สึกเสียหน้านะที่อีริน่าเห็นครอบครัวนั้นสำคัญกว่าแม่”
“พรุ่งนี้ผมจะไปรับอีริน่ากลับมาเองครับ”
คุณหญิงปรายตามองจีรณัทย์
“อยากจะไปรับกับเขาด้วยละสิ ยัยจี นี่จะปล่อยให้แม่รับมือกับอารดาตามลำพังใช่ไหม”
จิตรดาราเดินเข้ามา
“จิตเองค่ะ แหมพอก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน นายเมฆรายงานทันทีว่าตัวหายนะมาเยือนบ้านอีกแล้ว มันอยู่ไหนคะ จิตจะไปจัดการมันเอง”
จีรณัทย์ขัดขึ้น
“เขาไม่มีที่ไป ทุกอย่างโดนยึดไปหมดแล้ว”
เจตรินหันมาหาน้อง
“เพื่อมนุษยธรรม ให้เขาอยู่ก่อนเถอะน้องจิต”
“แต่พรุ่งนี้มันต้องไป” จิตรดาราไม่พอใจมาก
“พวกเราต้องคิดให้รอบคอบด้วย คือไม่ว่าจะยังไง อารดาเป็นคู่หมั้นของเจตก่อนที่จะแต่งงานกับอีริน่า ตอนนี้เขาเดือดร้อนมาก ถ้าเราซ้ำเติมเขา ก็เท่ากับว่าครอบครัวเราไม่มีความเตตาปราณีต่ออารดา” จีรณัทย์บอก
คุณหญิงเบ้หน้า
“เมตตาปราณีต่องูเห่า แม่ผิดเอง ที่เอางูเห่ามาเลี้ยงดู แล้งจู่ๆจะไปฆ่ามันให้ชาวบ้านเห็นมันก็ทารุณเกินไป”
“อย่าให้เกินเจ็ดวันก็แล้วกันค่ะ เอาเงินฟาดหัวมันไปก้อนนึง ให้มันไปหาที่อยู่ไปหัดทำมาหากินเลี้ยงตัวเองบ้าง จิตไม่เชื่อหรอกค่ะว่ามันจะไม่เหลือเงินเลย นอกจากมันโดนใครปอกลอกไปหมดแล้ว”
เจตรินพยักหน้า
“ตกลง เจ็ดวัน พรุ่งนี้พี่จะพูดกับอารดา”
ทุกคนตกลงตามนั้น
อารดาอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง เลิกทำเป็นเมา กำลังหาทางจัดการเจตรินให้ได้
“เราต้องยื้ออยู่ที่นี่ให้นานที่สุด มีหนทางเดียวที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เราต้องจัดการพี่เจตให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน”
อารดาพยายามคิด มีความหวังขึ้นมาบ้าง
อีริน่านั่งซึมนอนไม่หลับ ภาพอารดากับเจตรินเหมือนโอบกอดกันหน้าบ้านยังติดตาตรึงใจ อีริน่าแอบปาดน้ำตา แล้วภาพเจตรินกับเธอในคืนที่มีอะไรกันก็แว่บเข้ามา อีริน่าเผลอสะอื้นออกมา
“ที่แท้คุณเจตหลอกลวงเราตลอดมา”
คุณหญิงพรรณรายที่แอบสังเกตอีริน่าอยู่แล้ว รีบเดินมาโอบกอดไว้แนบอก
“อีริน่าหนีมาใช่มั้ย มาเพราะเสียใจอะไรบางอย่าง บอกยายได้ไหม”
“ไม่มีค่ะ อีริน่าอยากมาหาคุณยายเองค่ะ”
“นั่นก็ใช่ว่าอีริน่าอยากมาหายาย แต่มันมีมากกว่านั้น อีริน่าปิดยายไม่มิดหรอก เจตเขาทำให้อีริน่าเสียใจน้อยใจใช่ไหมหลาน”
“เอ้อ เปล่าค่ะ”
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่ยายขอแนะนำว่า สามีของเรา อย่าให้ใครมาฉกฉวยเอาไปง่ายๆ เราเป็นภรรยา ต้องอยู่กับสามีไม่ใช่ปล่อยให้คนอื่นมาชุบมือเปิบ เรื่องแบบนี้ทิฐิไม่ได้ เชื่อยายนะหลาน พรุ่งนี้ถ้าเขามารับก็กลับไปกับเขาซะ”
“พรุ่งนี้อีริน่าต้องไปรับศพแม่พริม ไปจัดงานศพค่ะ”
“ยายจะไปงานศพแม่พริมของหนู มีอะไรให้ยายช่วย บอกมานะหลาน”
อีริน่าไหว้
“ขอบคุณมากค่ะ คุณยาย”
“ไปนอนได้แล้ว”
พรรณรายจูงอีริน่าไปนอน
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์และลูกๆ ยืนหน้าห้องของอารดา จิตรดาราเป็นคนเคาะห้องเรียก
“ออกมาได้แล้วพี่อารดา สายแล้ว มาอาศัยบ้านใครเขาซุกหัวนอนก็อย่านอนตื่นสายแบบนี้”
จีรณัทย์ปรามน้อง
“เบาๆหน่อยน้องจิต”
คุณหญิงมองหน้าลูกสาว
“ยัยจี เรามันแม่พระมากไปแล้ว แต่แม่ไม่ไหวจะทน ระวังถ้ามันก่อเหตุอีก แม่จะถือว่าจีคือคนพาหายนะเข้าบ้าน”
“อารดา เราต้องพูดกันให้รู้เรื่อง ช่วยออกมาด้วย” เจตรินเรียกอีกคน
ทุกคนมองหน้ากัน จีรณัทย์กังวล
“หรือว่าอารดาจะฆ่าตัวตาย”
“หา” ทุกคนหน้าตื่น
คุณหญิงไม่พอใจโวยวาย
“จะมาตายในบ้านฉันไม่ได้นะ เรียกใครมาพังประตูเร็วๆเข้า”
ทุกคนเริ่มตกใจ
อารดานั่งยิ้มร้ายๆเอายาหม่องมาทาตาให้น้ำตาไหล กำลังเอาสายโทรศัพท์มารัดคอไว้หลวมๆ รอจังหวะจะโชว์ให้พวกเจตรินเห็น น้ำตาดาเริ่มไหล
“ให้มันรู้ไปว่าใครจะเหนือกว่าใคร” อารดาสะใจ
ศรี หวิน สมร แหววกำลังพังประตู พวกเจตรินกำลังรอจะเข้าไปดู ในที่สุดประตูเปิดออกทุกคนตกใจมาก
“อารดา ฆ่าตัวตาย”
อารดากำลังดึงเชือกสายโทรศัพท์มารัดคอ ทำตาเหลือกอ้าปากน้ำลายหยด น้ำตาเต็มสองตา ไม่มองมาทางใครทั้งนั้น เจตรินรีบห้าม
“ไม่นะอารดา”
“อย่ามาตายที่บ้านฉัน” คุณหญิงตวาด
“รีบเอามันไปตายที่อื่น” จิตรดาราสั่งเสียงเข้ม
“รีบทำอะไรสักอย่างสิ เจต” จีรณัทย์ร้อนใจ
เจตรินปราดไปที่อารดา แย่งสายโทรศัพท์ ให้คลาย อารดาแสร้งพยายามดึง คุณหญิงหันมาสั่งสาวใช้
“ใครก็ได้ไปช่วยคุณเจตดึงสายนั่นออกจากคอมันทีสิ”
สาวใช้สี่คน ปราดไปช่วย จิตรดาราเดินไปตบหน้าอารดาโดยแรงกลับไปกลับมา
“บ้า อยากฆ่าตัวตายทำไมไม่ไปฆ่าที่อื่นมาฆ่าในบ้านฉันทำไม”
อารดาถุยน้ำลายใส่หน้าจิตรดารา สี่คนใช้ดึงมืออารดาออกมาได้แล้ว อารดาทำเหมือนจะตาย
“ลาก่อนค่ะ พี่เจต”
“ไม่นะดา อย่าตายนะ”
แหววกระซิบจีรณัทย์
“งานแหกตา งานจัดฉากเขียนบทให้ตัวตาย ทำลายสถิติโลกค่ะ”
“ทุกคนถอยไปก่อน อารดาชีพจรต่ำมากต้องช่วยเพิ่มออกซิเจน” เจตรินหันมาไล่
ทุกคนถอยออกมา มีแต่จิตรดาราที่มองไม่พอใจ
คุณหญิงพรรณราย นายพลกันต์ และกมลกันต์พาอีริน่ามาหน้าบ้าน อีริน่ารำพึงในใจ
“สายป่านนี้ได้เวลาไปรับศพแม่พริม คุณเจตยังไม่มารับเรา เขาคงมัวแต่เอาใจอารดา”
นายพลกันต์มองอีริน่าเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรนะอีริน่า ตาจะให้นายเอื้อพาไปรับศพแม่หนูให้นายเอื้อขับรถ น้ากมลจะไปกับหนู”
“ขอบพระคุณมากค่ะ” อีริน่าไหว้
คุณหญิงหันมาบอก
“พบกันที่งานศพแม่หนูจ้ะ”
“คุณตาอย่าลืมหารูปลูกสาวคุณตาไปให้อีริน่าดูด้วยนะคะ”
“ไม่ลืมแน่ ตากับยายก็จะได้เห็นหน้าแม่ของหนูจากรูปที่งานด้วย”
เอื้อเปิดประตู กมลกันต์กับอีริน่าก้าวไปในรถ นายพลกันต์โอบคุณหญิงมองรถแล่นออกไป
“เจตนี่ก็แปลก ไม่รู้ว่าเป็นสามีภรรยากันแบบไหน ดูเหินห่างกันบอกไม่ถูกที่อีริน่ามานี่ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับแม่อารดานั่นแน่ๆ” คุณหญิงกังวลใจ
“ฟังเรื่องนี้ดีกว่า เมื่อคืนผมฝันว่า ลูกพรรณวดีกำลังกลับมาบ้านแล้ว”
“จริงหรือคะ”คุณหญิงหน้าตื่น
นายพลกันต์ยิ้มให้ คุณหญิงดีใจ
เจตรินก้มลงไปเอาปากพ่นลมไปในปากของอารดา ทุกคนยืนมอง เห็นอารดาขยับตัว จีรณัทย์โล่งใจ
“อารดาหายใจได้แล้วค่ะ”
จิตรดาราเบ้หน้า
“ต้องเอาลมหายใจของพี่เจตไปแบ่งให้มัน จะบ้าตาย”
“รอดตายแล้วก็มาพูดกันให้เข้าใจ” คุณหญิงเสียงแข็ง
เจตรินหันมาหาจีรณัทย์
“ผมต้องรีบไปรับอิรีนาไปแอร์พอร์ท ฝากพี่จีช่วยดูแลด้วย”
แหววยื่นหน้ามาหงุดหงิดมองอารดาไม่พอใจ อารดายังทำระทดระทวยต่อ
“คุณอีริน่าเพิ่งโทรมาบอกให้บอกคุณเจตว่า ไม่ต้องมารับ เธอไปรับคุณแม่กับคุณกมลกันต์แล้วค่ะ”
อารดาแอบยิ้ม เจตรินเซ็ง
“บ้าจริง”
อารดาครางออกมา
“ใครก็ได้ช่วยให้ฉันตายด้วยเถอะ”
“ก็อยากจะช่วยนะถ้าไม่กลัวว่าจะติดคุก” จิตรดาราสวน
คุณหญิงตัดบท
“พาอารดาไปตกลงกัน พวกแกสี่คนไม่เกี่ยว ไปให้พ้น”
สี่คนใช้ถอยออกไป จีรณัทย์กับเจตรินมาประคองอารดาให้ลุก ด้วยความอึดอัด
อารดานั่งร้องไห้กระซิกๆทำก้มลงกราบเท้าคุณหญิงศรินทร์ทิพย์
“ดาผิดไปแล้วค่ะคุณแม่ ที่เอาเอกสารนั่นมาข่มขู่คุกคามครอบครัวคุณแม่ แต่เพราะคุณพ่อบังคับให้ดาต้องทำอย่างนั้น คุณพ่อถูกตำรวจสากลจับกุมและส่งตัวกลับเมืองไทยมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน คุณพ่อหาทางออกไม่ได้ถึงต้องตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีผิด เราสองคนพ่อลูกรับกรรมกันไปแล้ว”
ทุกคนฟังแล้วเงียบไปยกเว้นจิตรดารา
“ก็สาสมกันแล้วนะ กรรมใดใครก่อ คนก่อรวมถึงลูกหลานเหลนมันก็ต้องรับกรรมกันไป”
คุณหญิงตัดบท
“ในฐานะที่เธอเป็นลูกของเพื่อนทรยศของฉัน ฉันกับลูกๆ ปรึกษากันแล้วว่าเธอจะต้องไปลงข่าวประกาศขอถอนหมั้นกับลูกชายฉัน ส่วนของหมั้นที่เธอฝากฉันไว้ในธนาคารฉันจะเอามายกให้เธอ”
“คุณแม่จะแถมเงินให้ไปตั้งตัวอีกล้านบาท” จีรณัทย์เสริม
เจตรินมองอารดา
“คุณแม่ให้เวลาดาไปเริ่มหาที่อยู่ใหม่ ภายในเจ็ดวัน”
อารดาตีหน้าเศร้า
“เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ ที่เมตตาดาขนาดนี้ ดาสัญญาว่าในเจ็ดวันที่อยู่ที่นี่ ดาจะเจียมเนื้อเจียมตัว รับใช้คุณแม่ กินอาหารในครัวที่เหลือมาจากที่พวกคุณแม่กินค่ะ”
จิตรดาราสวน
“ทำให้ได้อย่างที่พูดนะยะ ไอ้ที่แอบคิดแผนร้ายในใจน่ะ ขอให้มันย้อนกลับไปที่เธอเอง”
“ค่ะ น้องจิต”
อารดารำพึงในใจ
“แกนั่นแหละที่ฉันวางแผนจะทำร้ายเป็นรายแรก นังเด็กนรก”
อารดาน้ำตาไหลสองมือพนม
สาวใช้สี่คน มาแอบฟัง หวินเบ้หน้า
“สตรอเบอรี่ แปลว่าโกหก เมื่อตอนเย็นวานยังโกรธคุณพ่อที่ไม่เหลืออะไรไว้ให้อยู่แท้ๆ”
“เห็นไส้เห็นกึ๋นกันหมดแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพูดจริง” สมรเสริม
“หายนะกำลังมาเยือนที่นี่อีกแล้ว พึงระวัง” ศรีถอนใจ
“ทำไมน้า พวกท่านถึงใจอ่อนให้นางหลอกอยู่ได้” แหววไม่เข้าใจ
“เพราะมารยาททางสังคมที่ผู้ดีพึงมีน่ะสิ เป็นผู้ดีน่ะมันลำบากจริงๆ เฮ้อ...” หวินถอนใจ
แหววหนักใจแทนเจ้านาย
“ใครไม่มาลองเป็นผู้ดีบ้างไม่รู้หรอกว่ามันน่าเวียนหัวแค่ไหน”
ทั้งสี่ถอนใจ วิตก
ในห้องพัก...อารดาเอาเทปธรรมะมาเปิดคล้ายว่ากำลังฟัง แต่ระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุข
“สมบัติผู้ดีช่วยไว้แท้ ๆ พวกมันกลัวสังคมประณามว่าซ้ำเติมคนล้ม เหยียบย่ำทำร้ายคนกำลังมีความทุกข์ ขอบคุณมากค่ะคุณพ่อที่ยอมตายเพื่อลูก แกนังจิตดาราแกโดนแน่”
อารดายิ้มมีแผนจัดการจิตรดารารายแรก
พงษ์ธรรับสายจากอารดา แปลกใจ
“อารดา นี่ นี่เธอโกรธฉันเหรอ”
“โกรธสิ แต่ฉันอภัยให้เธอหมดแล้ว รวมทั้งนายเขมสารเลวนั่นด้วยเธออย่าโง่มาขูดรีดฉันดีกว่า หมดปัญญามากนักอยากได้เงินเธอก็เรียกนังจิตดารา ไปขู่เข็ญสิ ในตัวมันยังมีอะไรที่เป็นเงินเป็นทองได้มากมายนัก”
“ขอบใจมากที่ชี้แนะ แม้ว่าจะไม่ใช่มาจากความต้องการให้ฉันมีเงินแต่มาจากความอำมหิตในตัวเธอก็ตาม ขอบใจ”
พงษ์ธรยิ้มพอใจ
อารดายิ้มร้ายๆ ดึงปืนออกมา จ่อไปที่มือถือ
“พิ้ว ไอ้สารเลว แกต้องถึงวันชดใช้กรรมในไม่ช้า ฉันไม่เอาแกเก็บไว้บูชาก่อนนอนหรอกมีแต่จะถีบแกลงนรก”
อารดายิ้มดุดัน เก็บปืน
จิตรดาราอยู่ในห้องคุยโทรศัพท์กับพงษ์ธร
“ต้องการอะไรจากฉันอีกไม่ทราบ ไอ้แมงดา”
“ขอโทษ ผมต้องการขอโทษที่ทำกับจิตไปวันก่อน”
“เมื่อวานก็ประจานฉันต่อหน้าเตี่ยของนิกกี้ นึกหรือว่าเขาจะรังเกียจฉัน เขาไม่สนใจหรอกเพราะเขาคือเพื่อนแท้ของฉัน ไม่ใช่ไอ้แมงดาสารเลวอย่างแก”
“ผมต้องการไถ่โทษ ขอพบกันเป็นครั้งสุดท้ายนะ จิตไม่อยากแก้แค้นนังอารดาเหรอที่มันหลอกจิตมาให้ผมปอกลอก”
“ตอนนี้มันก็มาลอยหน้าขออาศัยอยู่ที่บ้าน ฉันอยากจะถีบหัวมันออกไปจากบ้านวันละสามเวลา”
“ถีบมาให้ผมสิ จิตดารา ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันหมดตัวแล้ว”
“มันมีของหมั้นกับเงินที่คุณแม่ให้ทานมันอีกล้านบาท”
“เยี่ยม”
“แต่ฉันไม่มีแล้ว มีแต่จะโดนคุณแม่ด่า ถ้าใบเรียกเก็บบัตรเครดิตมาถึง”
“ใครว่าผมจะเอาเงินจากจิต ผมแค่ขอพบครั้งสุดท้ายเท่านั้น”
จิตรดาราเริ่มคิดลังเล
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น อ่านใบเรียกเก็บบัตรเครดิตของจิตรดาราที่ส่งมาตกใจมาก
“ต๊าย…นี่รูดการ์ดค่าอะไรกันเป็นล้านบาท”
อารดาทำสงบเสงี่ยม ถือน้ำส้มมาวางตรงหน้า อารดานั่งที่พื้น
“น้ำส้มคั้นค่ะ คุณหญิง ดาทำเองนะคะ”
“หมดอารมณ์จะกินแล้ว นี่มันค่าอะไรกันทีละล้าน”
อารดาทำยื่นหน้าไปอ่านแล้วลอบยิ้ม
“อ๋อ บริษัทที่ทำคอนโดขายมังคะคุณหญิง แล้วนั่นก็ร้านนาฬิการาคาแพงค่ะ นั่นค่ากระเป๋าใบละแปดแสนค่ะ”
“ฉันจะเป็นลม” คุณหญิงลมแทบจับ
อารดาพึมพำ…สมน้ำหน้า...
จิตรดาราเดินออกมาทำท่าจะผ่านไป เห็นอารดานั่งกับคุณหญิงก็หมั่นไส้ จึงออกคำสั่ง
“ไปหยิบรองเท้ามาให้ฉันอารดา”
“ค่ะ” อารดาทำนอบน้อม เดินไป ศรินทร์ทิพย์เรียก
“จะไปไหนจิตดารา”
“ไปตามประสาค่ะ คุณแม่”
“มานี่เลยมาดูว่าทำอะไรลงไปบ้าง”
คุณหญิงทิ่มใบเรียกเก็บใส่หน้า จิตรดาราอึกอัก
“เอ้อ...เอ้อ...”
“ไม่มีเอ้อไม่มีอ้าอีกแล้ว แม่จะตัดยกเลิกบัตรเสริมของจิต แม่จะจ่ายเงินให้ใช้แค่เดือนละห้าหมื่น ถ้าอยากได้มากกว่านั้นต้องหัดทำงาน”
“คุณแม่”
“ฉันเลี้ยงลูกผิดมานานแล้ว ยังไม่สายเกินไปที่จะปรับปรุงทั้งตัวฉันและตัวเธอ”
จิตรดาราหงอย อารดาถือรองเท้ามายื่นให้จิตรดารา
“รองเท้าค่ะ”
จิตรดาราไม่พอใจเอารองเท้าโขกหัว
“ก็วางลงไปสิ นางโง่”
อารดาแอบเก็บความแค้นรำพึงในใจ
“มึงนั่นแหละโง่”
จิตรดารารีบฉวยรองเท้าแล้วออกไป อารดามองตามแค้นๆ คุณหญิงยังหงุดหงิดกับบัตรเครดิต
สแตนด์ภาพในกรอบตั้งอยู่มุมหนึ่งในศาลาแต่ยังไม่มีรูปพริม รูปยังไม่มาอยู่กับอิฐ อีริน่าน้ำตานองกำลังจัดดอกไม้รอบรูป เจตรินกับจีรณัทย์เข้ามาหา
“อีริน่า ผมขอโทษ ที่เมื่อเช้าไปรับอีริน่าไม่ทัน”
“คุณไม่ผิดหรอกค่ะที่ไปรับอีริน่าไม่ทัน อีริน่าไม่สำคัญมากพอที่ใครต้องมาขอโทษค่ะ”
“โธ่ อีริน่า ผม ผมจำเป็น”
จีรณัทย์รีบแทรก
“ใช่จ้ะ พี่อธิบายให้อีริน่าเข้าใจได้นะ”
“ขอบคุณมากค่ะ แต่ตอนนี้อีริน่าไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น อีริน่าใจจะขาดเพราะเสียใจเรื่องแม่พริมไม่อยากมาเก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆมาเสียใจอีกค่ะ”
กมลกันต์กระซิบเจตริน
“จริง อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่น มาช่วยกันจัดงานให้แม่ของอีริน่า ให้ดีที่สุดดีกว่า”
“ครับพี่กมล ไอ้อิฐยังไม่เอารูปมาอีกเหรอ ช้าจริง”
จีรณัทย์หันมาบอกเจตริน
“เจตอยู่ที่นี่กับอีริน่านะ พี่จะกลับไปรับคุณแม่”
กมลกันต์บอกกับอีริน่า
“น้าก็จะกลับไปรับ คุณพ่อ คุณแม่ก่อนนะอีริน่า”
“ค่ะ” อีริน่าพยักหน้า
ทุกคนออกไป อีริน่ากำลังพยายามจัดดอกไม้ น้ำตาไหลไปด้วย
“ผมช่วยนะ อีริน่า”
“ตามใจค่ะ”
เจตรินช่วยอีริน่าจัดดอกไม้ แอบจับมือเธอง้อกันทางอ้อมไปด้วย แต่อีริน่าดึงมือออก
เขมชาติกับพงษ์ธรนัดเจอกัน พงษ์ธรวางแผนการ
“เรามาจัดสรรกันคนละงาน แล้วแยกย้ายกันไปตัวใครตัวมัน ไม่มีอะไรติดค้างในใจต่อกัน โอเค้”
“โอเค ฉันจัดการนังอารดา แกจัดการนังจิตดารา”
สองคนพยักหน้า จับมือกัน
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์กับจีรณัทย์ใส่ชุดดำ เตรียมไปงานศพแม่อีริน่า
“แม่อยากไปงานศพแม่ของอีริน่า เพื่อประสานรอยร้าวให้มันเนียนขึ้น แม่คงต้องยอมรับว่าอีริน่าเป็นสะใภ้ตัวจริงของแม่”
“จีขอบคุณแทนอีริน่าด้วยค่ะ”
“แต่แม่ยังตะขิดตะขวงใจในชาติกำเนิดและกำพืดของอีริน่า”
“คุณแม่ขา อีริน่าได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กำพืดหรือชาติกำเนิดไม่สำคัญเท่ากับจิตใจที่ใสสะอาดนะคะ”
“แล้วแม่จะตอบสังคมคุณหญิงคุณนายไฮโซของแม่ได้ยังไงว่าสะใภ้ของแม่มาจากไหน”
“มาจากท้องพ่อท้องแม่เขาไงคะ”
“เอ๊ะ ยัยจีนี่เดี๋ยวนี้ย้อนแม่นะ”
“แหม ประชาธิปไตยบ้านเราเบ่งบานนี่คะ”
“เอาเถอะบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น” คุณหญิงทำท่านึกฝันไปด้วย “แม่จะบอกทุกคนว่าอีริน่าเป็นลูกของท่านลอรด์หรือพรินซ์อะไรสักคนที่พบรักสาวไทยลูกผู้ดีที่ไปเรียนบัลเลย์ที่รัสเซียแล้วได้เข้าร่วมคณะบัลเล่ย์บอลชอย ช่วยแม่ตั้งชื่อพรินซ์หน่อยสิยัยจี”
จีรณัทย์อึ้งๆ
“เอ้อ มันแยะไปหรือเปล่าคะคุณแม่ แค่พ่อเขาเป็นเคจีบีนี่มันก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรีมากพอแล้วนะคะ”
“เรื่องแค่นี้ ปล่อยแม่มีความสุขเล็กๆน้อยบ้างสิ ทำไมอีริน่าต้องเป็นลูกแม่ค้าด้วย ทำไมไม่เป็นลูกคุณหนูอะไรสักคน แค่นี้แม่ก็พ้นจากอคติที่มันเกาะติดหัวใจแม่แล้ว อยากจะเห็นหน้าแม่ของอีริน่านัก”
“เดี๋ยวก็ได้เห็นค่ะ ไปกันเถอะค่ะ”
สองคนพากันเดินออกไป
เจตรินบอกอีริน่าเรื่องอารดาแล้ว อีริน่าพยายามทำใจ
“ผมอยากให้อีริน่าเข้าใจ แต่คงต้องใช้เวลาบ้างผมรู้ เพราะอารดาทำร้ายอีริน่ามามาก”
“ค่ะ อีริน่าพยายามจะเข้าใจค่ะ แต่อีริน่าขอไม่กลับไปที่บ้านคุณเจต จนกว่าอารดาจะออกไปแล้วนะคะ”
“โธ่ อีริน่า”
“เข้าใจอีริน่าด้วยนะคะ”
เจตรินสบตาอีริน่าแล้วรับปาก
มุมหนึ่งในบ้านคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ อารดาโทรหาพงษ์ธร
“พงษ์ ฉันต้องการยาแบบที่นายชอบใช้กับผู้หญิงที่นายส่งไปเป็นเหยื่อ เอามาสักซองสองซองได้มั้ย”
“ตกลง ห้าหมื่นบาท”
“ไอ้หน้าเลือด”
“จะเอามั้ยล่ะ”
“รีบให้ใครเอามาด่วนเลย ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ไม่อย่างนั้นมันจะผิดสังเกต”
“โอเคที่รัก”
พงษ์จูบมือถือแล้วยิ้ม อารดา ตัดสายแล้วด่าใส่มือถือ
“ไอ้สารเลว”
รถสองครอบครัวมาจอดคู่กันที่ลานจอดของวัดโดยไม่ได้นัดหมาย สองบ้านเผชิญหน้ากัน คุณหญิงศรินทร์ทิพย์บ่นอุบ
“บ้าหรือเปล่า ที่จอดรถมีเป็นร้อย ทำไมต้องมาจอดตรงนี้”
นายพลกันต์สวนขึ้น
“นั่นสิ ทำไมจอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือเลยว่ารถผู้ยิ่งใหญ่กำลังมาจอดห้ามเข้าใกล้”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ฉุนกึก
“นี่...อย่ามาประชดกันนะ คุณกันต์”
“แล้วคุณหญิงประชดใครครับ”
คุณหญิงพรรณรายตัดบท
“เอาเป็นว่าขอโทษนะพวกเราไม่ได้ตั้งใจมาจอดตรงนี้”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะคุณป้า คุณแม่ขาเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” จีรณัทย์ขัดขึ้น
กมลกันต์รีบชวนพ่อแม่
“คุณพ่อคุณแม่ครับ เข้าไปข้างในกันได้แล้วครับ”
คุณหญิงศรินทร์ทิพย์ชี้ไป
“ฉันจะไปเดินฝั่งโน้น”
นายพลกันต์ชี้ไปอีกทาง
“งั้นเราก็จะไปเดินฝั่งนั้น”
จีรณัทย์กับกมลกันต์สบตากันขำๆ
จบตอนที่13