ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 12
วีด้ายืนกอดอกรอฟังยศสรัล
“มีอะไรก็รีบๆพูดมา” วีด้าเอ่ย
“ผมสงสัยเรื่องร่วมทุน คุณต้องการอะไร”
“ทำไมคะ ก็ร่วมทุนทำธุรกิจ ไม่เห็นแปลก”
“ไม่แปลกเหรอ คุณพยายามเข้ามาพัวพันกับครอบครัวผม ทำให้พี่ใหญ่กับนายเล็กชอบคุณ ชวนนายเล็กมาทำงานด้วย ชวนพี่ใหญ่ร่วมธุรกิจ คุณว่ามันไม่แปลกเหรอ”
“คุณนี่เป็นคนขี้ระแวงจริงๆนะ ถ้าชั้นจะบอกว่าชั้นชอบคุณใหญ่ชั้นก็ต้องทำดีกับครอบครัวคุณ มันน่าแปลกตรงไหน”
“นี่คงเป็นวิธีการจับผู้ชายของคุณ”
“คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว”
ยศสรัลเดินเข้ามาจ้องหน้าวีด้า “คุณแน่ใจเหรอว่าคุณชอบพี่ใหญ่”
วีด้าจ้องกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ทำไมล่ะค่ะ หรือจะต้องให้ชั้นชอบคุณ” วีด้าหัวเราะเย้ย
ยศสรัลอึ้ง “คุณคือแพรใช่ไหม”
วีด้าตะลึงไปไม่คิดว่ายศสรัลจะเปลี่ยนเรื่องทันที เธอพยายามหลบสายตา
“แพรไหน ชั้นไม่รู้จัก” วีด้าพูด
ยศสรัลจับแววตาพิรุธได้ เดินเข้าไปจับตัววีด้าไว้
“คุณคือแพรจริงๆ เมื่อ6ปีก่อน คุณหายไปไหน คุณหนีผมไป แล้วจู่ๆคุณก็กลับมา กลับมาทำแบบนี้ ผมไม่เข้าใจ คุณกำลังทำอะไร คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม คุณต้องการอะไร” ยศสรัลพูด
วีด้าอึ้งมัวแต่มองสิ่งที่เกิดตรงหน้า สักพักวีด้าก็ตั้งสติได้ เธอสะบัดตัวให้หลุดจากมือของยศศรัล
“คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อแพรแล้วชั้นก็ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ถ้าคุณจะมาพร่ำเพ้อว่าชั้นเป็นผู้หญิงคนนั้น ชั้นขอตัว” วีด้าเดินออกมา
“ถึงคุณจะไม่ยอมรับ ผมก็จะสืบจนรู้ความจริงให้ได้” ยศสรัลพูด
วีด้ารีบเดินออกมา แววตาแสดงความกลัวว่ายศสรัลจะรู้ความจริง
เย็นวันต่อมา วีด้านั่งอยู่กับครอบครัวของคัชพลที่ห้องรับแขกหลังทานอาหารเย็นเสร็จ
“รับชาหรือกาแฟไหมจ้ะ หนูวีด้า” สินีถาม
“ไม่ดีกว่า ขอบคุณนะคะ” วีด้าเอ่ย
“พ่อฝากโสมนี่ไปให้คุณอาของหนูหน่อยนะ กินแล้วดีต่อสุขภาพ” บัญชาเอ่ยพร้อมกับยื่นโสมให้
“ขอบคุณมากค่ะ” วีด้ารับของมาถือ
“แล้วเมื่อไหร่ พ่อจะได้เจอกับคุณอาของหนูล่ะ จะได้รู้จักกันเอาไว้” บัญชาถาม
“นั่นสิจ๊ะ อีกอย่างจะได้คุยเรื่องงานหมั้น งานแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที” สินีเสริม
“ว่าไงครับวีด้า คุณอากำธรจะพอมีเวลาว่างไหม” คัชพลเอ่ย
วีด้าอ้ำอึ้ง แล้วตอบว่า “ช่วงนี้คุณอายุ่งๆเรื่องที่บริษัทน่ะค่ะ พรุ่งนี้ก็ต้องบินกลับไปที่สิงคโปร์คงต้องรอให้คุณอากลับมาอีกทีเที่ยวหน้า”
“ไม่เป็นไรๆ ยังไงก็ต้องได้เจอกันสักวันอยู่แล้ว” บัญชาบอก
กำธรนั่งอยู่ในห้องรับแขกในบ้าน เขากำลังรอวีด้ากลับมา สักพัก วีด้าเดินถือกล่องโสมเข้ามา
“วีด้า พรุ่งนี้อาจะกลับสิงคโปร์แล้วนะ” กำธรเอ่ย
“คุณอาน้อยใจวีด้าเหรอคะ” วีด้าถาม
“อาผิดหวังที่วีด้าเอาตัวไปเสี่ยง และผลที่จะได้ มันจะไม่ได้ทำให้วีด้ามีความสุข การแก้แค้นมันไม่เป็นผลดีกับใคร วีด้าอาจจะมีอันตรายอาเคยสูญเสียภรรยาและลูกจากอุบัติเหตุ อาไม่ต้องการจะสูญเสียวีด้าไปอีกคน” กำธรพูด
“วีด้าสัญญาค่ะ ว่าเมื่อไหร่ที่นายบัญชาได้ชดใช้ วีด้าจะหยุดค่ะคุณอา” วีด้าบอก
กำธรมองหลานด้วยความผิดหวัง แล้วเดินส่ายหัวออกไป วีด้ารู้สึกเสียใจ
เช้าวันต่อมา บัญชาหันขวับมาจ้องหน้ายศสรัลด้วยความไม่พอใจ
“แกคิดจะหักหน้าพ่อกับพี่เขาหรือไง ทำไมถึงพูดในที่ประชุมแบบนั้น” บัญชาว่า
“ผมขอโทษครับ แต่ผมไม่อยากให้บริษัทของเราพลาด” ยศสรัลเอ่ย
“มันจะพลาดได้ยังไง สรัล…นายคิดว่าคนอย่างคุณวีด้ากับคุณอาของเขาจะมาชวนเราขยำเงินขว้างเล่นงั้นเหรอ” คัชพลเอ่ย
“แต่….” ยศสรัลจะพูด แต่บัญชาตวาดขึ้นมา
“พอแล้ว!”
ยศสรัลจำใจยืนนิ่ง
“จำไว้นะสรัล คนที่จะทำให้บริษัทเราพลาดน่ะคือแก ถ้าโรงแรมนี้สร้างเสร็จ บริษัทเราจะโตโดยไม่ต้องทำอะไร แล้วพี่ชายแกก็จะแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐีหมื่นล้าน ชั้นไม่ยอมให้แกเอาความคิดโง่ๆมาขวางหรอก” บัญชาพูดจบก็จ้องหน้ายศสรัลแล้วจู่ๆก็รู้สึกปวดจุกตรงลิ้นปี่กับชายโครงจนทรงตัวไม่ได้จะล้มลง จนคัชพลกับยศสรัลต้องรีบประคอง
“คุณพ่อเป็นอะไรครับ” คัชพลถาม
“ไม่เป็นอะไรหรอก” บัญชาว่า
“ไปหาหมอนะครับ เดี๋ยวผมจะเรียกรถให้” ยศสรัลเอ่ย
“ไม่ต้อง”บัญชาพูดแล้วลงนั่ง
“พี่ว่าคุณพ่อคงจะเครียดเพราะเถียงกับนายนี่แหละ” คัชพลว่า
ยศสรัลอึ้งรู้สึกผิดทันที
“เอาล่ะ มีอะไรก็ไปทำทั้งสองคนแหละ” บัญชาเอ่ย
“แต่คุณพ่อยัง...” ยศสรัลจะพูดต่อ แต่บัญชาสวนขึ้นมา
“ชั้นบอกให้ไปไงล่ะ”
คัชพลพยักหน้าให้ยศสรัลแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป
วีด้าและคณะกรรมการกำลังประชุมเรื่องโครงการโรงแรมหรูและช็อปปิ้งมอลล์ โดยมีสถาปนิกนำเสนองานอยู่ เมื่อนำเสนอจบทุกคนก็ปรบมือพอใจ
“นัดบริษัทผู้รับเหมาได้เลยนะคะ” วีด้าพูดกับเลขา
เลขารับคำแล้วเดินออกไป วีด้าหันกลับมาหาคัชพล
“แฟนผมนี่เก่งจริงๆนะครับ” คัชพลว่า
“รู้ได้ไงคะ วีด้าไม่เห็นคุณใหญ่จะสนใจฟังเลย” วีด้าว่า
“ไม่ใช่หรอกครับ นี่มันเป็นธุรกิจที่ผมเติบโตมาวีด้าก็รู้ ฟังหรือไม่ฟังผมก็มองทะลุปรุโปร่งหมดล่ะครับ” คัชพลบอก
“แล้วถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ไม่กลัววีด้าโกงเหรอคะ”
“ผมไม่เชื่อว่าคุณจะทำร้ายผมหรอก”
ทั้งสองมองตากันหวานซึ้ง
เช้าวันใหม่ บัญชา สินี คัชพล และวีด้า นั่งดูแหวนเพชรเม็ดใหญ่กันอยู่ที่ห้องรับแขกในบ้านบัญชา
“ตายแล้ว....สวย...สวยมากจริงๆ” สินีว่า
“ตอนนี้แหวนได้แล้ว ก็จะปรึกษาเรื่องงานหมั้นกับคุณพ่อคุณแม่ครับ” คัชพลเอ่ย
“ต้องถามหนูวีด้าดีกว่า ว่าคุณอาของหนูจะกลับมาเมื่อไหร่ พ่อจะได้นัดพบเพื่อพูดคุยเรื่องสู่ขอกันเลย” บัญชาพูด
“วีด้าก็แจ้งคุณอาแล้วค่ะ ท่านก็แล้วแต่ทางคุณพ่อคุณแม่”
“ดี...งั้นพ่อจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด เรียนคุณอาของหนูว่าพ่อจะกำหนดจัดงานเลยนะ”
“ส่วนเรื่องวันหมั้นน่ะ ไม่ต้องห่วงนะงานนี้แม่จะเป็นแม่งานเอง จะได้ถูกใจไม่มีอะไรตกหล่น” สินีว่า
“ขอบคุณค่ะ” วีด้าเอ่ย
คัชพลยิ้มอย่างมีความสุขโอบไหล่วีด้า โดยมียศสรัลยืนแอบฟังเศร้าๆ กำลังจะหันหลังเดินไปแต่ได้ยินเสียงทุกคนตกใจโวยวาย พอหันกลับมาก็เห็นบัญชากำลังเจ็บที่ชายโครงอีกแล้ว ยศสรัลรีบวิ่งเข้าไปรวมกลุ่ม
“คุณพ่อยังไม่ไปหาหมออีกเหรอครับ ช่วงนี้คุณพ่อเป็นแบบนี้บ่อยมากเลยนะครับ” ยศสรัลว่า
“อะไรกันเนี่ย คุณเคยเป็นแบบนี้แล้วเหรอคะ” สินีตกใจ
“ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวก็หายเอง สรัลเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ พ่อรำคาญ” บัญชาพูด
ยศสรัลจ๋อยที่พ่อไม่ยอมฟัง
“วีด้าว่าคุณพ่อน่าจะลองไปให้หมอตรวจดูหน่อยก็ดีนะคะ” วีด้าเอ่ย
บัญชานิ่งคิดตามสิ่งที่วีด้าพูด
“พ่อคงไม่ได้เป็นอะไรหรอก” บัญชาบอก
“คุณพ่อคะ ถึงไม่ได้เป็นอะไรแต่ตรวจไว้ก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอคะ” วีด้ากล่าว
“ผมกับสรัลของร้องไปแล้วแต่คุณพ่อดื้อ” คัชพลบอก
“คุณพ่อคะ การไปตรวจร่างกายไม่ทำเพื่อคุณพ่อคนเดียวนะคะ แต่คุณพ่อทำเพื่อคนอื่นด้วย นะคะ วีด้าขอร้อง” วีด้ายิ้มให้บัญชา
บัญชามองวีด้ายิ้มเอ็นดู “อ่ะ ก็ได้ ไว้พ่อจะหาเวลาว่างไปแล้วกัน”
สินี คัชพล ยศสรัลยิ้มพอใจ
“แหม..หนูวีด้านี่เก่งจริงๆ รู้ไหม คนทั้งบ้านพูดยังไงคุณพ่อก็ไม่ยอมไป แต่พอหนูพูดแป๊บเดียว คุณพ่อยอมไปได้” สินีชม
ทุกคนยิ้มพอใจที่บัญชารับปากวีด้า ยศสรัลมองวีด้าอย่างขอบคุณ คัชพลยิ้มชื่นชมภูมิใจ
วีด้าล้างมือที่อ่างหน้ากระจก มองดูให้กำลังใจตัวเองในกระจกก่อนเปิดประตูเดินออกมาเจอยศสรัลที่ยืนรออยู่นานแล้ว
ยศสรัลเดินเข้าหาวีด้า
“ขอบคุณคุณมากนะที่ช่วยพูดจนคุณพ่อยอมไปหาหมอ” ยศสรัลเอ่ย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณก็ไม่เห็นต้องมาแอบดักขอบคุณชั้นเลยนี่”
“ผมมาดักเพื่อบอกว่าถึงคุณจะทำดียังไง ผมก็ไม่ไว้ใจคุณง่ายๆ” ยศสรัลไว้เชิง
วีด้าจ้องหน้ายศสรัลฉุนๆ แล้วเดินออกไป ยศสรัลมองตามวีด้า เขายิ้มอย่างขอบคุณ
คัชพลมาดูที่ดินเปล่าทำเลสวยแห่งหนึ่งกับวีด้า ลูกน้องกางแบบแปลนโครงการก่อสร้างลงบนโต๊ะพร้อมอธิบายให้วีด้ากับคัชพลดูคัชพลมองดูโครงการอย่างสนใจและไม่ลืมที่จะมองชื่นชมวีด้า
ทั้งสองมาพักใต้ต้นไม้ วีด้าเดินเข้ามา คัชพลที่ยืนรออยู่แล้วยื่นน้ำให้ดื่ม
“ขอบคุณค่ะ..” วีด้าเอ่ยแล้วรับน้ำมาดื่มพร้อมกับปาดเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก คัชพลมองแล้วยิ้มก่อนจะหยิบทิชชู่มาซับเหงื่อให้วีด้ายิ้มแกล้งทำเป็นรู้สึกดี
“เราไปดูทางนู้นกันต่อดีกว่าค่ะ” วีด้าว่า
คัชพลมองตามอย่างมีความสุข
วิศวกรกำลังอธิบายรายละเอียดโครงการภายในห้องประชุม วีด้าที่นั่งในตำแหน่งประธานคัชพลและกรรมการคนอื่นๆ มีความพึงพอใจในความคืบหน้า
“ตอนนี้ปัญหาเดียวคือ เราต้องเร่งก่อสร้างให้เร็วที่สุดเพราะวีด้ากลัวว่าเราจะมีคู่แข่ง วีด้าได้ยินมาว่า มีรายอื่นสนใจที่ดินแปลงข้างเคียงกับเรา”
“ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะช้าไม่ได้” คัชพลว่า
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมเชื่อว่าภายในอาทิตย์หน้าเรื่องนี้ต้องเสร็จทันแน่นอนครับ”
ทุกคนพอใจกับผลการประชุม วีด้ายิ้มให้คัชพล คัชพลมีความมั่นใจในตัววีด้ามากขึ้น
วีด้ายืนมองดูวิวภายนอกอยู่ริมหน้าต่างห้องทำงาน คัชพลเดินเข้ามาเกาะเอววีด้าจากด้านหลัง
“คุณนี่เป็นผู้หญิงที่เก่งจริงๆเลยนะ งานใหญ่ขนาดนี้ยังไม่สะดุดเลยซักนิด” คัชพลชื่นชม
วีด้าแกะมือคัชพลออกจากการกอด แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“นักธุรกิจที่เก่งด้านบริหารอย่างคุณใหญ่ก็รู้ดีนี่คะ ว่ามันไม่ได้ยากซักเท่าไหร่ อย่าทำเป็นชมเอาใจวีด้าหน่อยเลยค่ะ” วีด้าเอ่ย
คัชพลยิ้มพอใจ “คุณคิดยังไงกับโครงการนี้”
“วีด้าคิดว่าเรากำลังไปได้สวย แต่ที่น่าห่วงคือนักลงทุนอื่นๆ ที่หันมาสนใจโครงการแบบเดียวกันกับเรา จะกลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว”
“อืม.. คุณอยากได้ที่ดินแปลงนั้นเพิ่มใช่มั้ย”
“ถ้าได้มันก็ดีไม่ใช่เหรอคะ วีด้าไม่อยากให้คนอื่นมาคว้าไป และกลายมาเป็นคู่แข่งเรา”
“งั้นผมจะไปจัดการให้”
วีด้าแอบยิ้มอย่างร้ายๆ
อ่านต่อหน้าที่ 2
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 12 (ต่อ)
ตกกลางคืน วีด้ากับเกรซนั่งคุยกันที่ห้องรับแขก
“ดูเหมือนมันจะยิ่งลึกเข้าไปใหญ่แล้วนะแก ร่วมโครงการใหญ่แล้วยังมีแผนลงทุนเพิ่มอีก” เกรซเอ่ย
วีด้ายอมรับโดยไม่รู้สึกเป็นร้อนอะไร
เกรซถอนใจ “ชั้นว่าแกมั่นใจเกินไป แกไม่กลัวพลาดบ้างรึไง”
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกเกรซ ฉันไม่เสียเปรียบพวกนั้นแน่นอน”
“เอาตัวเองเข้าแลกนี่นะไม่เสียเปรียบ” เกรซว่า
วีด้าพูดไม่ออก เกรซเห็นวีด้าเครียดก็ไม่อยากต่อว่าอีก
“แล้วนี่แกคิดจะทำยังไงต่อ” เกรซถาม
“ชั้นก็จะทำให้นายบัญชา เสียเงินสดออกมามากที่สุด”
วันต่อมา คัชพลนั่งดูเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“เฮ้ย…ทำไมมันเป็นแบบนี้” คัชพลว่า
“ที่ดินแปลงนั้น ดันมีคนไปให้ราคาชาวบ้านไว้สูงเลยครับคุณใหญ่” ลูกน้องกล่าว
“คงมีคนอื่นเล็งไว้เหมือนกัน บ้าจริง”
“ผมว่าราคาสูงขนาดนี้ ไม่น่าสนใจแล้วนะครับ”
“ไม่ได้ ห้ามเปิดโอกาสให้คู่แข่งเด็ดขาด ยังไงเราก็ต้องกว้านซื้อที่เก็บไว้ก่อน”
“แต่ว่า....” ลูกน้องพยายามจะทักท้วง
“ไปจัดการมาให้สำเร็จ ราคาเท่าไหร่ชั้นก็สู้” คัชพลพูดอย่างเด็ดขาด
ตกกลางคืน นายหน้าขายที่ดินโทรหาวีด้า วีด้ารับสาย
“คุณคัชพลมาเซนต์สัญญาซื้อที่ไปเรียบร้อยแล้วครับ มัดจำไว้ตั้ง 50 เปอร์เซ็นต์” นายหน้ากล่าว
“แล้วราคาล่ะ”
“ไม่ลดเลยครับ ตามที่คุณบอก เค้าซื้อจริงๆ เจ้าของที่ดินดีใจใหญ่เลยครับ”
“ขอบคุณมากที่โทรมาแจ้งค่ะ สวัสดีค่ะ” วีด้าพอใจมาก
วันต่อมา วีด้า คัชพล และคณะกรรมการกำลังประชุมกันเรื่องที่ดิน คัชพลมีสีหน้ามั่นใจ คอยคำตอบจากคณะกรรมการที่ปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดจนได้ข้อสรุป
“ทางคณะกรรมการทุกคน ได้ลงความเห็นกันแล้วว่ายังไม่สามารถอนุมัติซื้อที่ดินแปลงนี้ได้ ในตอนนี้ครับ” กรรมการพูดอย่างลำบากใจ
คัชพลอึ้ง หน้าเสีย วีด้าสังเกตอาการ
“ทำไมล่ะครับ” คัชพลถาม
“มีปัญหาตรงส่วนไหนเหรอคะ” วีด้าถามกรรมการ
“ที่ดินผืนนี้ราคามันสูงเกินไป ผมว่าเรายังไม่จำเป็นต้องซื้อเก็บ เพราะโครงการเริ่มต้นก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ มันเสี่ยงเกินไปครับ” กรรมการท่านหนึ่งกล่าว
“แต่ราคาที่ดินมันมีแต่สูงกับสูงขึ้นนะครับ ดีกว่าปล่อยให้คู่แข่งได้ไป แล้วมาทำธุรกิจมาแข่งกับเรา” คัชพลว่า
“ผมทราบครับ แต่ราคาขนาดนี้ ยังไงมันก็ไม่คุ้มลงทุน” กรรมการกล่าว
คัชพลมองหน้าวีด้าเครียดๆ วีด้ามองปลอบ ทำทีเป็นให้กำลังใจ
คัชพลมาคุยกับบัญชาที่บริษัท Prime Enterprise
“ไม่อนุมัติ!! เป็นไปได้ยังไงกันใหญ่!” บัญชาพูด
“คณะกรรมการบอกว่ามันแพงเกินไปครับ” คัชพลว่า
“แล้วไอ้ที่แกอุตส่าห์เอาเงินไปซื้อมาก่อน แล้วขายไม่ออก มันไม่เท่ากับสูญเปล่ารึไง” บัญชาหัวเสีย เมื่อคัชพลเห็นบัญชาหัวเสียก็ตอบอะไรไม่ถูก
“ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้” คัชพลเอ่ยเครียดๆ บัญชาคิดหาทางออก แต่ก็คิดไม่ออก
“เอาเถอะ ที่เสียแล้วก็ให้เสียไป ยังไงซะเดี๋ยวเราก็ได้คืน ใกล้จะถึงวันหมั้นของแกแล้วนี่” บัญชาว่า
เมื่อคัชพลได้ฟังก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
วีด้ามาที่บริษัท Prime Enterprise กำลังจะกดลิฟท์แต่มีมือหนึ่งมากดตัดหน้าก่อน
“คุณ” วีด้ามองหน้า
ยศสรัลมองวีด้าอยู่ เมื่อประตูลิฟท์เปิด ทุกคนในลิฟท์เดินก็ออกไป ยศสรัลเดินเข้าก่อน วีด้าลังเลก่อนจะเดินตามเข้าไป
“เดินเข้าออกบริษัทนี้ เป็นว่าเล่นเลยนะ” ยศสรัลพูดกวนๆ
“ก็จะมาเป็นพี่สะใภ้คุณอยู่แล้วนี่คะ” วีด้ากวนกลับ ยศสรัลหัวเสียนิดๆ
“จริงๆคุณก็รวยไม่ใช่เล่น ไม่รู้จะมาจับพี่ใหญ่ทำไม” ยศสรัลว่า
“หรือคุณไม่อยากให้ชั้นแต่งงาน”
“ใช่” ยศสรัลเอ่ย
ทั้งสองนิ่งมองหน้าอึ้งเล็กน้อย
“ผมไม่อยากให้แต่ง เพราะผมไม่ไว้ใจเจตนาร้ายของคุณ” ยศสรัลกลบเกลื่อน
วีด้าผิดหวังนิดๆ
“งั้นคุณก็รู้ไว้เลย ว่าชั้นไม่ได้ต้องการเงินของครอบครัวคุณเลยสักนิดและวันนี้ ชั้นมาที่นี่ เพราะชั้นคิดถึงคุณใหญ่” วีด้าเอ่ย
ทั้งสองจ้องหน้ากันนิ่ง พอประตูลิฟท์เปิด วีด้าก็เดินเข้าไปก่อน ยศสรัลมองตาม ไม่เข้าไปด้วย ประตูลิฟท์ปิดใส่ยศสรัล
ตกเย็น ขณะที่คัชพลยืนเครียดอยู่ริมหน้าต่างห้องทำงาน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น วีด้าเปิดประตูเข้ามา คัชพลหันมอง ยิ้มเล็กน้อย
“ยังเครียดเรื่องที่ประชุมเมื่อกลางวันอยู่เหรอคะ คุณใหญ่” วีด้าถาม
คัชพลหันมาหาวีด้า ถอนใจแล้วจับมือวีด้ามากุมไว้
“ผมกับคุณพ่อเป็นนักธุรกิจ ทำอะไรก็ต้องมีการลงทุน ยิ่งโครงการนี้แล้วผมก็คาดหวังไว้เยอะ” คัชพลว่า
วีด้าแอบยิ้มพอใจที่เห็นว่า Prime Enterprise เริ่มสั่นคลอน
“อย่าคิดมากไปเลยนะคะ ยังไงวีด้าก็จะช่วยพูดกับคณะกรรมการอีกที” วีด้าบอก
คัชพลยิ้มให้วีด้า “ขอบคุณคุณมากนะวีด้า”
คัชพลยิ้มอย่างสบายใจเดินตามไปใกล้ชิดวีด้า
“เสร็จงานแล้ว เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานข้างนอกกันดีกว่านะ” คัชพลว่า
“ค่ะ” วีด้ายิ้มหวานใส่คัชพล
ขณะเดียวกัน ยศสรัลนั่งตรวจดูเอกสารการลงทุนบริษัทใหม่ที่ร่วมทุนกับวีด้า และพยายามคิดตาม
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญครับ”
ที่ปรึกษาเปิดประตูเดินเข้ามาแล้วยื่นเอกสารให้ยศสรัล
“นี่ตัวเลขบัญชีที่ลงทุนไปแล้ว กับบริษัทที่เปิดใหม่ครับ”
ยศสรัลรับมาพิจารณาดูอย่างละเอียด
“ทำไมบริษัทเรา ต้องซื้อที่ดินเก็บไว้เอง” ยศสรัลถาม
คุณคัชพล เห็นว่าโปรเจคที่บริษัทใหม่ทำอยู่กำลังไปได้สวย และมีแนวโน้มว่าบริษัทที่ร่วมทุนจะขยายโปรเจคเพิ่ม ก็เลยซื้อไว้ก่อนกันไม่ให้โครงการอื่นมาแข่งกับเราครับ” ที่ปรึกษาตอบ
ยศสรับฟังข้อมูลจากที่ปรึกษาแล้วคิดตาม รู้สึกไม่ชอบมาพากล ยศสรัลยังคิดไม่ตก เขาเปิดเอกสารดูอีกทีอย่างละเอียด
คัชพลกับวีด้าเดินออกจากห้องทำงานมาด้วยกัน มีชายคนหนึ่งดูเหมือนไม่ใช่พนักงานของ บ. Prime Enterprise เดินเข้ามาหาคัชพล
“คุณใหญ่ครับ” ชายคนนั้นเรียก เมื่อเห็นวีด้าอยู่ด้วยก็ไม่แน่ใจที่จะคุยกับคัชพลต่อ
“ไม่เป็นไรหรอก มีอะไร” คัชพลเอ่ย
“นี่ครับ” ชายคนนั้นยื่นซองเอกสาร
คัชพลรับเอกสารมา ชายคนนั้นมองหน้าวีด้าอย่างระแวงอีกครั้งก่อนเดินออกไป
วีด้าสงสัยแอบมองซองเอกสารที่อยู่ในมือคัชพล
“เดี๋ยวผมว่าจะแวะคุยธุระกับคุณพ่อหน่อยน่ะ” คัชพลเอ่ย
“วีด้าขอไปสวัสดีท่านด้วยนะคะ”
คัชพลคิดนิดหนึ่งก่อนตอบ “ได้สิครับ..”
วีด้ายิ้มหวานให้คัชพล ทั้งสองเดินไปด้วยกัน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” วีด้ากล่าวทักทายบัญชา
บัญชายิ้ม “อืม..สวัสดี จะหมั้นกันอยู่อีกไม่กี่วันนี้แล้ว ตื่นเต้นไหมหนูวีด้า”
“ตื่นเต้นมากค่ะ”
บัญชากับคัชพลยิ้มปลื้มพอใจ
คัชพลโชว์ซองเอกสาร “เอกสารมาแล้วนะครับ”
บัญชานิ่งครู่หนึ่ง มองวีด้า ก่อนหันไปพูดกับเธอว่า “เดี๋ยวหนูวีด้าออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”
วีด้ายิ่งสงสัยว่าในซองเอกสารน่าจะมีความลับ “ค่ะ..” วีด้าเดินออกไป
บัญชามองตามจนแน่ใจแล้วยื่นมือไปรับซองเอกสารจากคัชพล
อ่านต่อหน้าที่ 3
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 12 (ต่อ)
วีด้าเดินออกมาจากห้องบัญชา เธอแกล้งปิดประตูไม่สนิทมองซ้ายขวา เมื่อเห็นว่าปลอดภัยวีด้าก็แอบมองเข้าไปในช่องประตู เธอเห็นบัญชากำลังเปิดดูเอกสารและยิ้มพอใจ แล้วยื่นให้คัชพลดูด้วย
บัญชารับเอกสารที่คัชพลดูเสร็จ แล้วทำลายด้วยเครื่องย่อยเอกสารก่อนทิ้งลงถุงขยะวีด้ามองถังขยะไม่วางตา
วีด้าเห็นทั้งสองคนกำลังจะเดินออกมาเธอแกล้งทำทีเป็นยืนคอย เมื่อบัญชากับคัชพลเดินออกมา วีด้าก็ยิ้มให้ทั้งคู่
“เออ วันนี้ทั้งสองคนจะไปทานข้าวที่บ้านมั้ยลูก” บัญชาถาม
“คงไม่ครับคุณพ่อ ผมว่าจะพาวีด้าไปหาที่ที่บรรยากาศดีๆดินเนอร์กันซักหน่อยน่ะครับ” คัชพลว่า
“อืม.. งั้นก็ตามสบายนะ”
ทั้งสามพากันเดินไป
บัญชา วีด้า คัชพลเดินมาถึงหน้าลิฟท์ วีด้าคิดหาวิธีกลับไปที่ห้องทำงานบัญชา
“คุณใหญ่คะ วีด้าขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยววีด้าตามลงไปค่ะ” วีด้าเอ่ย
“งั้นเดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนนะ” คัชพลพูด
“เอ่อ.. ไม่เป็นไรค่ะ วีด้าไปคนเดียวได้ เดี๋ยววีด้ามานะคะ”
วีด้าตัดบทแล้วรีบเดินออกไป ลิฟท์มาพอดี บัญชาเดินเข้าไปในลิฟท์ คัชพลยังรออยู่ข้างนอก
“ห่วงแฟนรึไง” บัญชาว่า
“ผมไปดูหน่อยดีกว่า” คัชพลตอบยิ้มๆ แล้วเดินออกไป
วีด้ารีบวิ่งกลับ จนมาถึงหน้าห้องทำงานบัญชา เธอมองอย่างระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก็รีบเข้าไปในห้อง แล้วมองหาถังขยะ เมื่อมองไปในถังขยะ เธอเห็นแต่เศษป่นกระดาษ วีด้าเก็บเศษกระดาษใส่กระเป๋า คัชพลกำลังเดินมาหา เกือบจะชนกับวีด้าที่วิ่งมาวีด้าตกใจ
คัชพลงงสีหน้าวีด้า “ผมเป็นห่วงเลยตามมาดูคุณ” เขาเอ่ย
“เสร็จแล้วค่ะ ไปกันเถอะค่ะ” วีด้าพูด
คัชพลแปลกใจ เขายิ้มๆ ในอาการของวีด้าแต่ไม่คิดอะไร
คัชพลกับวีด้าเดินมาด้วยกันจนถึงหน้าลิฟท์แล้วเจอกับยศสรัลที่ยืนอยู่แล้ว
“อ้าว สรัล” คัชพลทัก
“พี่ใหญ่” ยศสรัลแอบมองวีด้า วีด้าเก็บอาการพอลิฟท์เปิด วีด้ากับคัชพลเดินเข้าลิฟท์ คัชพลกุมมือวีด้า ยศสรัลมอง คัชพลแอบสังเกต ยศสรัลเดินตามเข้าไปยืนในลิฟท์
บรรยากาศในลิฟท์เป็นไปอย่างอึดอัด คัชพลจึงชวนวีด้าคุย เอาใจวีด้า
“ผมว่าจะหาวันว่าง ขับเรือพาคุณไปเที่ยวเกาะต่างๆ คุณว่าดีมั้ย” คัชพลเอ่ย
ยศสรัลแอบชำเรืองมองวีด้า วีด้าสังเกตยศสรัลแล้วคุยเอาใจคัชพล
“ดีสิคะ วีด้าจะรอนะคะ”
คัชพลพอใจ วีด้ายิ้มมุมปากประชดใส่ยศสรัล
วีด้ากลับมาถึงคอนโดก็เอาเศษกระดาษใส่ถุงซิบล็อค ใส่ลิ้นชักโต๊ะ ก่อนออกไปยืนกอดอกถอนใจมองไปนอกระเบียง เกรซมองวีด้าอย่างเห็นใจแล้วเดินเข้าไปหา
“วีด้า แกไม่สบายใจอยู่ใช่มั้ย” เกรซถาม
วีด้าถอนหายใจอีกครั้ง ยอมรับสิ่งที่เกรซถามแล้วมองไกลออกไปข้างนอก
“ชั้นต้องหมั้นจริงๆแล้วสินะ”
“วีด้า ชีวิตของแก มันเป็นชีวิตจริงนะ แกจะต้องกลายไปเป็นภรรยาของศัตรูแก แกจะทนได้เหรอ”
“ชั้นไม่ปล่อยให้เป็นถึงขนาดนั้นหรอก”
“แกจะทำได้ยังไง”
วีด้าคิดหนัก “ชั้นรู้ว่าชั้นมาไกลเกิน และชั้นก็จะต้องหาทางออกเอง แต่คงใช้วิธีขอถอนหมั้นไม่ได้”
วีด้ายังมองไม่เห็นทางออก เกรซส่ายหน้า รู้ไม่สบายใจไปกับเพื่อน
วันใหม่ ดนัยนั่งเงียบๆอยู่คนเดียวในร้านกาแห สักพักก็มีเสียงเอ่ยว่า
“ขอนั่งด้วยคนนะคะ”
ดนัยมองเจ้าของเสียง เห็นว่าเป็นเกรซที่ยืนยิ้มให้อยู่
“ครับ..” ดนัยยิ้มเศร้า
เกรซนั่งลง เธอสังเกตเห็นว่าดนัยดูไม่สดชื่นตั้งแต่แรกแล้ว
“คิดเรื่องวีด้าอยู่ใช่มั้ยคะ” เกรซถาม
“ผมเห็นข่าวเรื่องหมั้นของวีด้าในหนังสือพิมพ์แล้วล่ะ” ดนัยฝืนยิ้ม
เกรซเห็นใจแต่ก็ไม่รู้จะปลอบยังไง
“เกรซก็ไม่เข้าใจสิ่งที่วีด้าทำหรอกนะคะ แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนของวีด้ามานาน เกรซรู้ว่าวีด้า มักจะมีเหตุผลเสมอในการทำอะไร”
เกรซพยายามปลอบ แต่ดูเหมือนไม่เป็นผลอะไร เกรซสงสารดนัย เธอเปลี่ยนเรื่องคุย
“คุณดนัยสั่งกาแฟอะไรเหรอคะ”
“คาปูชิโน่ครับ”
“จริงแล้วชื่อคาปูชิโน่นี่ คุณดนัยรู้มั้ยคะว่าผู้หญิงเป็นคนตั้งชื่อนี้” เกรซว่า
ดนัยสงสัย เกรซพยายามคุยสนุก
“ก็ คาปูชิโน่ มันเพี้ยนมาจากค่ะ..ปูชิโน่ ถ้าเป็นผู้ชายตั้งชื่อมันก็ต้องเป็น ครับ..ปูชิโน่”
เกรซพยายามให้ดนัยขำในมุขฝืดของตัวเอง ดนัยขำแค่นิดเดียว เกรซจ๋อย มองหน้าดนัยอย่างกลุ้มใจตาม
“ขอบคุณนะครับ เกรซ แต่ผมยังโอเค คุณไม่ต้องเป็นห่วง” ดนัยเอ่ย
เกรซยิ้มแหยที่ดนัยจับได้ว่าเกรซพยายามช่วย
ธัญกรนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน ท่าทางไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ รัชนาเดินหอบแฟ้มเอกสารมาวางให้ธัญกร เธอสังเกตเห็นว่าธัญกรใจลอยๆ แปลกๆ
รัชนายื่นหน้าเข้าหา “นี่!”
ธัญกรสะดุ้งนิดหนึ่ง พอเห็นเป็นรัชนาก็หงุดหงิด
“อะไรของเธอ อย่ามากวนน่า” ธัญกรว่า
รัชนาฉุน “อ้าว! ชั้นอุตส่าห์หอบงานของนายมาให้ ไม่ขอบคุณกันซักคำ ยังมาหงุดหงิดใส่อีก”
ธัญกรอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากจะคุยด้วย หันไปทางอื่น
“อ๋อรู้ละ ที่หงุดหงิดนี่เพราะใกล้วันหมั้นคุณวีด้าใช่มั้ย” รัชนาขำธัญกร ธัญกรยิ่งโมโห
“มันน่าขำนักรึไง! แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงชอบมายุ่งกับชั้นนักถ้าไม่ลำบากมาก ก็เลิกจุ้นจ้านกับชั้นซักที!” ธัญกรรำคาญลุกหนีไป
รัชนาเหวอที่ถูกธัญกรตะคอก
ธัญกรเดินหัวเสียผ่านมาทางห้องทำงานวีด้า เห็นวีด้านั่งหน้าเครียดๆกุมขมับอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาพยายามจะไม่สนใจแล้วเดินผ่าน แต่ก็อดห่วงไม่ได้ เลยตัดสินใจเดินกลับไปใหม่ แล้วเข้าไปทักวีด้า
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” รัญกรเอ่ย
วีด้าเงยหน้ามองฝืนยิ้ม “คุณเล็ก... ไม่เจอกันหลายวัน คุณล่ะเป็นยังไงบ้าง”
ธัญกรจ้องนิ่งที่วีด้า ทั้งสองนั่งเครียด วีด้าไม่พูดอะไรจนธัญกรเริ่มหงุดหงิด ตัดสินใจถาม
“คุณเป็นอะไร วีด้า”
วีด้านิ่งครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจตอบ
“ไม่รู้ว่าชั้นตัดสินใจถูกหรือผิด เรื่องที่จะหมั้นกับพี่ใหญ่ของคุณ”
ธัญกรแปลกใจ
“แต่มันก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้” วีด้าว่า
“คุณไม่อยากหมั้นเหรอ คุณไม่ได้รักพี่ใหญ่งั้นเหรอ” ธัญกรสงสัย
วีด้าไม่ตอบ
“แล้วคุณไปตกลงหมั้นกับเค้าทำไม” ธัญกรถามต่อ
“นี่ชั้นคุยอะไรกับคุณเนี่ย ช่างมันเถอะ เราเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า” วีด้าขำตัวเอง
ธัญกรไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง รุกถามต่อ
“เมื่อกี๊ที่ผมเห็นคุณนั่งเครียดอยู่คนเดียว มันคือเรื่องนี้ใช่มั้ย ทำไมคุณถึงไม่อยากหมั้นล่ะ คุณไม่ได้รักพี่ใหญ่เหรอ” ธัญกรถามอย่างมีความหวัง
วีด้าเริ่มอึดอัดมากขึ้น
“บอกผมหน่อยได้มั้ย ผมอยากรู้ บอกผมหน่อย” ธัญกรยังจี้ถามต่อ
“ชั้นมีเหตุผลของชั้น และมันเป็นเหตุผลที่คุณไม่ควรรู้” วีด้าหงุดหงิด
ธัญกรอึ้ง จับมือวีด้า
“คุณวีด้า”
วีด้าถอนหายใจ ดึงมือออก “พอเถอะ.. ชั้นจะไม่คุยเรื่องนี้แล้ว”
วีด้าหันหน้าหนี เธอรู้สึกเครียด ธัญกรมองหน้าวีด้างงๆ
ตกกลางคืน ธัญกรเดินเซ็งคิดมากผ่านห้องรับแขก มียศสรัลนั่งอยู่
“ทำไมวันนี้กลับเร็วจังเล็ก” ยศสรัลเอ่ย
ธัญกรหยุดลงนั่ง หน้าตายังข้องใจอยู่ยศสรัลสังเกตอาการของน้องชาย ธัญกรจะเดินไปต่อ
“เล็ก มีอะไรรึเปล่า” ยศสรัลจ้องน้องชายนิ่ง
ธัญกรเดินลงมานั่งด้วย เขายังคิดกังวลอยู่
“วันนี้ผมคุยกับคุณวีด้ามา ผมรู้สึกว่าเธอแปลกๆ เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ”
ยสสรัลสนใจอยากฟังต่อ
“แล้วไง” เขาถาม
“เค้าบอกว่า ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า ที่หมั้นกับพี่ใหญ่” ธัญกรเอ่ย
“ทำไมเค้าถึงพูดแบบนั้นกับนาย” ยศสรัลถาม เขารู้สึกสงสัยวีด้า
“ผมก็ไม่รู้.. แต่ผมรู้สึกเหมือนเค้าไม่ได้รักพี่ใหญ่ แต่ก็ไม่เข้าใจ ถ้างั้นเค้าจะหมั้นกับพี่ใหญ่ไปทำไม”ธัญกรพูดท่าทางเหมือนคนกำลังสับสน ยศสรัลมองตาม เขารู้สึกเป็นห่วงน้องชายและโกรธวีด้าที่คิดจะปั่นหัวน้องชายของเขาอีก
อ่านต่อหน้าที่ 4
ไฟรักเพลิงแค้น ตอนที่ 12 (ต่อ)
วันต่อมา วีด้านั่งเช็กแฟ้มเอกสารต่างๆอยู่ที่โต๊ะทำงาน มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น วีด้าอนุญาตให้เข้ามา เลขาเปิดเดินเข้ามาในห้อง
“คุณยศสรัล มาขอพบค่ะ” เลขารายงาน
วีด้างง คิดว่ายศสรัลจะมาจับผิดอะไรอีก
“ช่วยไปบอกเค้าด้วยนะคะ ว่าไม่อยากพบ” วีด้าพูด
“ไม่ทันแล้วล่ะ”
วีด้ากับเลขาหันไปมอง ก็เห็นรยศสรัลเข้ามายืนอยู่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ยศสรัลเอ่ย
เลขามองหน้าวีด้า วีด้าแสดงอาการว่าไม่เป็นไร เลขาจึงเดินออกไป ยศสรัลเดินเข้าใกล้วีด้า เธอรู้สึกหวั่นๆ แต่ก็ทำทีไม่สนใจ
“คุณกำลังเล่นอะไร”ยศสรัลถาม วีด้าไม่เข้าใจว่ายศสรัลหมายถึงอะไร
“คุณไประบายกับนายเล็กว่าไม่อยากหมั้นกับพี่ใหญ่ เพราะอะไร.. เพราะไม่ได้รักพี่ใหญ่หรือคุณแค่ต้องการปั่นหัวน้องชายผม” ยศสรัลพูดต่อ
“ทำไมชั้นจะต้องไปปั่นหัวเขา” วีด้าว่า
“คุณก็รู้ ว่าเล็กมันชอบคุณ คุณไปพูดกับเค้าแบบนั้น มันจะคิดยังไง” ยศสรัลโมโห
วีด้าเริ่มรู้สึกว่าไม่ทันคิด
“ตอบไม่ได้ใช่ไหม ถ้าตอบไม่ได้ผมจะบอกให้ ว่านายเล็กอาจจะคิดว่าคุณชอบมันก็ได้” ยศสรัลว่า
“ชั้นไม่สนว่าเค้าจะคิดยังไง! เพราะชั้น ไม่เคยคิดจะหลอกล่อให้น้องชายคุณมาชอบชั้น!” วีด้าตวาดกลับ
ยศสรัลสวนทันที “งั้นก็แสดงว่าคุณหลอกล่อ ให้พี่ใหญ่มาชอบคุณ”
วีด้าเงียบ พูดไม่ออก ยศสรัลเดินเข้าไปบีบไหล่วีด้าเค้นความจริง
“บอกผมมา คุณทำแบบนี้ทำไม คุณต้องการอะไร”
“ปล่อยชั้น” วีด้าพูด
ยศสรัลโมโห และบีบไหล่วีด้าแน่นขึ้น “ไม่”
วีด้ารู้สึกเจ็บ พยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผล วีด้าสะบัดสุดแรงอีกทีจนหลุด แล้วตบหน้ายศสรัลทันทียศสรัลนิ่ง มองวีด้าอย่างผิดหวัง ทั้งสองจ้องหน้ากัน
“ออกไป!” วีด้าไล่
ยศสรัลพยายามควบคุมสติ “ผมขอร้องคุณนะวีด้า อย่าทำให้น้องผมเสียใจ”
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันสักครู่แล้วยศสรัลก็เดินออกไป วีด้าทรุดตัวลง รู้สึกเสียใจ
ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการตกแต่งสถานที่หมั้น สินีกำลังกำกับคนงานที่ติดผ้าม่านอยู่อย่างอารมณ์ดี
“นี่ๆดูตรงนั้นด้วย ตรงมุมน่ะจัดให้สวยหน่อย ชายผ้าอย่าให้มันทับกันอย่างนั้นสิ”
สินีหันไปดูอีกทาง เห็นคนใช้สาวกำลังวางเจกัน
“ว้าย..เธอ นี่ หันทางนี้ออกสิจ๊ะ ฝั่งนี้เป็นด้านหน้า สังเกตตรงนี้นะ”
ยศสรัลเดินผ่านมามองๆหาสินี เห็นแม่อารมณ์ดีอยู่ก็เดินเข้าไปหา
“อ้าว ตารัล” สินีเอ่ย
“ทำไมต้องจัดงานหมั้นที่นี่ด้วยล่ะครับคุณแม่” ยศสรัลถาม
“จัดที่นี่ก็ดีแล้ว แม่ก็อยากเป็นแม่งานอยู่แล้ว จัดบ้านเรา แม่ก็จัดการได้เต็มที่ จะได้ไม่มีอะไรตกหล่น” สินีว่า
ยศสรัลข้องใจ
“ส่วนเรื่องเราน่ะ รีบไปง้อหนูมณทิตาซะ เค้ายังไม่หายโกรธเลย หนีไปเที่ยวเมืองนอกเพิ่งกลับมา แม่โทรไปเชิญ เขาบอกคงไม่มาทั้งครอบครัว” สีนีพูด
“คุณแม่ครับ ผมกับมณไม่มีทางไปด้วยกันได้ ผมอยากให้คุณพ่อกับคุณแม่เข้าใจ” ยศสรัลเอ่ย
“สรัลก็ต้องเข้าใจด้วย ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะมองหน้ากันไม่ติด ถ้าสรัลคิดถึงแต่ตัวเอง” สินีว่า
ยศสรัลถอนใจเครียดๆ
ที่บ้านมณฑิตา มณฑิตานั่งอยู่กับพ่อแม่ ทั้งสามมีสีหน้าเครียดๆโดยมียศสรัลนั่งอยู่ตรงข้าม
“ที่จริงการไม่เข้าใจกันมันก็เป็นเรื่องของเด็กๆ พ่อกับแม่ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่ครั้งนี้พ่อต้องขอเข้าข้างลูกพ่อเหมือนกัน” พ่อของมณฑิตาเอ่ย
“นั่นสิ สรัลก็เป็นคู่หมั้นมณ การไปสนใจคนอื่นมากกว่าคู่หมั้นตัวเองมันสมควรแล้วเหรอ” แม่ของมณฑิตาพูด
“ผมขอโทษครับ” ยศสรัลกล่าว
มณฑิตาเบือนหน้าหนีเพราะรู้ว่ายศสรัลขอโทษไปตามมารยาท
พ่อกับแม่มณฑิตาเองก็มองหน้ากันแล้วส่ายหน้าระอาใจ
“สรัล...ขอโทษมณแล้วปรับความเข้าใจกันซะ เพราะสรัลก็รู้นี่ ถ้ามณกับสรัลไม่ได้แต่งงานกัน หนูมณของเราจะเสื่อมเสียขนาดไหนและผู้ใหญ่ก็คงมองหน้ากันไม่ได้อีกต่อไป”
ยศสรัลมองหน้ามณฑิตาด้วยความอึดอัด
มณฑิตาเดินมาที่สนามหน้าบ้าน มียศสรัลเดินตามมา ทั้งสองยืนนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง
“ที่สรัลมาที่นี่ ก็เพราะกลัวมณจะไม่ไปงานหมั้นพี่พี่ใหญ่ใช่ไหมคะ” มณฑิตาถาม
“ใช่ครับ” ยศสรัลพูดตรงๆ
มณฑิตาหันขวับมาจ้องหน้า “ไม่คิดจะรักษาน้ำใจมณบ้างเหรอ”
“ผมขอโทษ”
“ถ้าคุณหัดมองหาข้อดีใจในตัวมณบ้าง คุณจะรักมณได้ เพราะอย่างน้อย สิ่งหนึ่งที่คุณวีด้าให้คุณไม่ได้เหมือนมณ ก็คือความรัก” มณฑิตาพูด
ยศสรัลรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อมณฑิตาจี้ใจดำ มณฑิตาจ้องหน้ายศสรัลเหมือนจะบีบบังคับให้เขาเจ็บปวดกับความจริงที่ต้องเจอ
พ่อกับแม่มณฑิตา ยืนมองยศสรัลกับมณฑิตาคุยกันด้วยความกังวลใจ
“นี่เราคิดผิดหรือคิดถูกนะ ที่คิดจะจับคู่ให้เด็กสองคนนี้” แม่ของมณฑิตาเอ่ย
“สำหรับผม นี่คือสิ่งที่ถูกที่สุดที่ผมจะทำได้เพื่อลูก” พ่อของมณฑิตาว่า
“แต่ดูๆแล้ว ถ้าแต่งงานไปจะมีความสุขกันเหรอคะ บอกตรงๆฉันเป็นห่วงลูกค่ะ”
“ยิ่งห่วงเรายิ่งต้องให้แต่งกับสรัล ผมทนไม่ได้ที่จะให้มณไปแต่งงานกับคนที่มันด้อยกว่าเรา ที่สำคัญยัยมณรักสรัลมาก คุณก็เห็น เชื่อเถอะเราให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกเราแล้ว”
“แล้วถ้าวันหนึ่งสรัลเป็นฝ่ายปฎิเสธลูกเราล่ะคะ”
“วันนั้นก็จะเป็นวันที่ Prime Enterprise จะไม่มีตระกูลเราเป็นหุ้นส่วน ให้มันรู้ไปสิ ว่าพวกเขาจะยอมซื้อหุ้นเป็นพันล้านจากเรา”
ที่สนามหน้าบ้าน มณฑิตายังยืนจ้องหน้ายศสรัล
“มณรู้ว่าคุณเจ็บกับสิ่งที่มณพูด แต่มณก็เจ็บไม่แพ้กันกับสิ่งที่สรัลทำกับมณ พรุ่งนี้มณและครอบครัวจะไม่ไปงานหมั้นของพี่ใหญ่ มณจำเป็นต้องเสียมารยาทค่ะ” มณฑิตาพูด
“ผมเข้าใจ”
ยศสรัลพยักหน้ารับแล้วจะเดินออกไป แต่มณฑิตาจับมือยศสรัล
“ลืมผู้หญิงคนนั้นซะ นะคะสรัล”
“ผมกับคุณวีด้าไม่ได้มีอะไรกัน”
“พิสูจน์ให้มณเห็นสิคะ”
ยศสรัลเงยมองหน้ามณฑิตา
“แต่งงานกับมณให้เร็วที่สุด” มณฑิตาบอก
เช้าวันใหม่ วีด้าอยู่ในชุดหมั้น กำลังนั่งอยู่หน้ากระจกเงาให้ช่างทำผมตกแต่งทรงผม
วีด้าสวยมาก แต่แววตากลับดูเศร้า ไม่มีความสุขเกรซเดินเข้ามาดูวีด้าไม่รู้เหมือนกันว่าจะดีใจหรือเสียใจกับเพื่อน
“แกสวยมากเลย วีด้า” เกรซเอ่ย
วีด้ายิ้มมองหน้าเกรซขอบคุณ
“แล้วแกล่ะ เตรียมพร้อมรึยัง” วีด้าถาม
“ไม่ต้องห่วง ของชั้นน่ะ แป๊บเดียวเอง” เกรซยิ้มให้ และยืนมองเพื่อนแบบปลงๆ
ที่ห้องแต่งตัวคัชพล คนรับใช้ยื่นสูทให้คัชพล คัชพลรับมาใส่อย่างมีความสุขสินีเปิดประตูเข้ามาดู คัชพลหันไปยิ้มให้กับสินี
“ลูกชายแม่ หล่อที่สุด” สินีว่า
“ขอบคุณครับ คุณแม่”
สินียิ้มมีความสุข
ที่คอนโดวีด้า เกรซเอาวิกมาใส่ หันหน้ามาหาวีด้า
“หวังว่าพี่สรัล จะจำชั้นไม่ได้นะ” เกรซว่า
เกรซหยิบแว่นตามาสวมอีกอัน เกรซพอใจ เดินไปหาวีด้า
“ชั้นโอเครึยัง” เกรซถาม
“โอเคแล้ว” วีด้าว่า
เกรซมองวีด้าแล้วถอนหายใจ แต่ก็พยายามยิ้มเป็นกำลังใจให้เพื่อน
“ถึงตอนนี้แกคงถอยไม่ได้แล้วจริงๆ ขอให้แกโชคดีนะวีด้า”
วีด้ารู้สึกปลง
“ชั้นพร้อมแล้วเกรซ ไปกันเถอะ”
วีด้าพูดด้วยแววตามุ่งมั่น
อ่านต่อตอนที่ 13