xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 10

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 10

อีริน่ากับคนขับมอเตอร์ไซค์กำลังต่อสู้กัน รถของพงษ์ธรเทียบมาจอดใกล้ๆ พงษ์ธรก้าวลงมาท่าทางเหมือนเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คนขับรถทำตัวนอบน้อมแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“หยุดนะ” พงษ์ธรเสียงเข้ม
คนขับหยุด อีริน่างงแต่ก็นิ่งไป พงษ์ธรปราดมาถึงดึงผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาตบหน้าของคนขับไปมาสองทีซ้อน แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าหุ้มมือก่อนชกหน้ามอเตอร์ไซค์หงายล้มลงไป
“หน้าไม่อายทำร้ายผู้หญิงตัวเล็กๆ เลวมาก” พงษ์ธรหันไปหาอีริน่า “เป็นยังไงบ้างครับ คุณผู้หญิงเจ็บตรงไหนครับ”
“เขาเจ็บ...ฉันไม่เจ็บค่ะ”
พงษ์ธรเอาผ้าเช็ดหน้าส่งให้คนขับรถที่ค้อมตัวมา แล้วเอาผ้าวางที่หน้าอกคนขับมอเตอร์ไซค์ แล้วเหยียบที่
ยอดอกคนขับมอเตอร์ไซค์
“ขอโทษคุณผู้หญิงเดี๋ยวนี้...คนถ่อย”
คนขับมอเตอร์ไซค์ยกมือไหว้อีริน่า ทำท่าเกรงกลัวพงษ์ธรมาก
“ขอประทานโทษครับคุณผู้หญิง คือผมไม่ทราบเลยครับว่าคุณผู้หญิงคือผู้หญิงของท่าน”
อีริน่าเตะคนขับซ้ำ
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของใครทั้งนั้น อย่ามาเพ้อเจ้อ เอ้อ...ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาระงับเหตุการณ์ก่อนที่ฉันจะหักคอไอ้หมอนี่”
พงษ์ธรหันไปทำหน้าขำเอ็นดู
“ของเขาแรงจริงๆด้วย” พงษ์ธรหันกลับมาพูดกับอีริน่า “ขอประทานโทษครับ คุณผู้หญิงจะไปไหนหรือครับ”
“ไปหาคุณตาคุณยาย ค่ะ”
“รถถูกชนจนหม้อน้ำแตกไปแล้วคงไปต่อไม่ได้”
อีริน่าบอกแท็กซี่
“น่าสารจังเลยค่ะพี่แท็กซี่”
พงษ์ธรควักเงินออกมาห้าพันบาทส่งให้แท็กซี่
“วันนี้ไม่ต้องวิ่งรถแล้วน้อง เอารถไปทำหม้อน้ำแล้วพักให้สบาย”
“ขอบพระคุณมากครับท่าน คุณผู้หญิงครับผมจะไปเรียกรถคันใหม่ให้ นะครับ”
พงษ์ธรรีบขัด
“ผมว่าตรงนี้หารถยากมากครับคุณผู้หญิง ถ้าไม่รังเกียจหรือกลัวว่าผมจะเป็นคนไม่ดี ผมขออนุญาตไปส่งคุณผู้หญิงครับ”
อีริน่ามองพงษ์ธรหน้าซื่อมาก กิริยาดีมาก คนขับรถพูดขึ้น
“ท่านครับ ทางที่คุณผู้หญิงจะไปเป็นทางเดียวกับที่ท่านต้องไปดูโรงงานพอดีครับ”
“เชิญครับผม”
อีริน่าเงียบไป พงษ์ธรลุ้นมาก ในที่สุดอีริน่าก็พูดออกมา
“ขอบคุณมากค่ะ”
พงษ์ธรเปิดรถด้านหลังให้นั่ง อีริน่ารีรอ
“ผมให้เกียรติคุณผู้หญิง ไม่บังอาจไปนั่งข้างๆหรอกครับ ผมจะนั่งกับคนขับรถ”
อีริน่าจึงเบาใจก้าวขึ้นไป คนขับมอเตอร์ไซค์ถอยออกมาห่างๆ แล้วแอบยกมือถือถ่ายภาพที่พงษ์ธรทำท่าเหมือนแตะเอวอีริน่าตอนเธอขึ้นรถ

ภาพอีริน่าเหมือนโดนพงษ์ธรแตะเอวกำลังก้าวขึ้นรถ พงษ์ธรยิ้มย่อง อีริน่ายิ้มให้อ้าปากเหมือนจะพูดขอบคุณแต่ภาพของพงษ์ธรเอียงๆดูไม่ออก คุณหญิงศรินทิพย์พูดขึ้น
“ตายนังนี่ไวไฟใจง่าย มันให้นายพงษ์แตะเอวถึงเนื้อถึงตัว ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก”
อารดายิ้มพอใจในผลงาน
“ดาสั่งพงษ์เขาเองค่ะว่าทำให้เนียน ทำให้พี่เจตเห็นแล้วกระอักให้ได้”
“แล้วยังไง ใจแม่ร้อนยิ่งกว่าไฟจะจัดการมันวันนี้เลยไหมหนูดา”
“ไม่ได้ค่ะคุณแม่ นังนี่มันมีฝีมือ แถมพี่เจตก็กำลังหลงใหลมัน ค่อยๆกระหน่ำตอกย้ำหัวตะปูค่ะ”
“ไหนว่านายพงษ์คนนี้เขาดีเลิศ และเป็นคู่ควงคนใหม่ของยัยจิต เรามาทำซะแบบนี้ เขากับยัยจิตมิผิดใจกันหรือ”
“ฟังแล้วเงียบนะคะคุณแม่ขา คือพงษ์คนนี้เขาดีมากจริงๆคะ เขาเป็นเพื่อนกับดามาตั้งแต่เด็กๆ ดาสั่งเขาว่าแค่ทำให้พี่เจตและทุกคนเข้าใจผิดว่านังอีริน่าไปหลงรักไปคลั่งไคล้เขาเท่านั้นเองค่ะ เอ้อ...แต่เราอย่าให้น้องจิตทราบนะคะ เรื่องมันสำเร็จแล้วเราก็บอกให้เขาเลิก อีกอย่างเขาอยากทำให้คุณแม่สบายใจค่ะ”
“ฝากขอบใจเขาด้วย คงเป็นเพราะเขาอยากเอาใจแม่ เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดการแทนยัยจี”
อารดาชะงัก
“ค่ะ แต่คุณแม่เคยสัญญาว่าจะให้ดานะคะ”
“ตอนนี้ยัยจีกลับมาแล้วนี่น่า เสียใจด้วยทั้งสองคนเลยจ้ะ”
อารดาแอบหันไปพูดเบาๆ
“อีแก่เจ้าเล่ห์”
จิตรดาราปราดมาถึงจะมาคว้ามือถือที่มีภาพอีริน่ากับพงษ์ธร คุณหญิงกับอารดาตะครุบไว้แต่ไม่ทัน
“ต๊าย นังอีริน่ากำลังล่าเหยื่อ มันกำลังก้าวขึ้นรถใครที่ไหนแต่งตัวโก้เห็นเฉียงๆ แล้วดูคุ้นๆอยู่นะคะคุณแม่ คุ้นมาก”
“มีคนส่งมาให้หนูดาเขาจ้ะ น่าอนาถใจแท้ๆ มันช่างไม่ละอายแก่ใจสักนิด”
“ดีละค่ะ จิตจะส่งต่อให้พี่เจตดู”
แล้วจิตรดาราก็ไม่สนใจใคร รีบส่งไปให้เจตทันที คุณหญิงศรินทิพย์กระซิบอารดา
“เกือบไปแล้ว”
“ดากันไว้แล้วค่ะ วางแผนไว้ว่าจะไม่ให้ใครเห็นหน้าเขาค่ะ ดารอบคอบมากค่ะในเรื่องการวางแผนทำลายชีวิตคนอื่น”
คุณหญิงแอบทำหน้าสยอง แต่ฝืนยิ้ม

เจตรินอยู่ในห้องทำงานที่กระทรวงกำลังอ่านรายงานจิบกาแฟไปด้วย ได้ยินเสียงส่งข้อความ หยิบมือถือมาเปิด
“อีริน่า...อีกแล้วหรือนี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่อีริน่า”
เจตรินลบภาพนั้นทิ้งทันที ไม่อยากจะเห็นต่อไปหมดอารมณ์ทำงานต่อ นั่งกุมขมับใจคอหดหู่

รถของพงษ์ธรมาจอดหน้าบ้านคุณหญิงพรรณราย พงษ์ธรลงจากรถมาเปิดประตูให้อีริน่าทำท่าสงบเสงี่ยมมาก
“เชิญครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
อีริน่าไหว้ พงษ์ธรเอามือมาประกบมืออีริน่าแล้วทำนึกได้รีบหดมือถอยออกไปขณะเดียวกันกับที่
อีริน่าตกใจ
“อุ๊ย ขอประทานโทษครับ เผลอตัวเสียมารยาทมาก คือเห็นคุณแล้วคิดถึงน้องสาวที่เพิ่งเสียไปไม่นานนี่เอง แกอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ”
อีริน่าหายแคลงใจทันที
“โถ...เอ้อ...เสียใจด้วยนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ เอ้อ...ถ้าไม่รังเกียจ ผมอยากทราบชื่อคุณผู้หญิง”
“อีริน่าค่ะ”
“เพราะมาก เหมาะสมกับคุณมาก...เชิญครับ”
“ค่ะ...คุณ...เอ้อ...”
“ผม พลเดช ครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ คุณพลเดช ขอตัวนะคะ”
อีริน่าหันไปกดกริ่งเรียกคนในบ้านคุณหญิงให้เปิดประตู ห่างออกไปจากที่รถของพงษ์ธรจอดอยู่ นิกกี้นั่งท้ายมอเตอร์ไซค์ใส่แว่นดำ แต่งตัวซิ่งแบบพวกแว๊นกำลังถ่ายวีดีโอภาพของอีริน่ากับพงษ์ธร
“ไม่เสียแรงที่ทำตัวเป็นนักสืบสะกดรอยตามอีริน่าที่รักมา ใจหายใจคว่ำนึกว่าอีริน่าจะโดนมันล่อลวงเข้าบ้านเหมือนตอนที่เราทำกับเธอ ที่แท้มันแค่พามาส่งบ้าน บ้านใครกันหว่า แล้วไอ้ผู้ดีนั่นมันก็เหมือนเราเคยเจอ ดูคุ้นๆ”
นิกกี้ถ่ายต่อไป...รถของพงษ์ธรแล่นออกไป อีริน่าหายไปในบ้านนิมิตภูวนาถ นิกกี้มองๆ
“นิมิตภูวนาถ นามสกุลผู้ดีเก่าแน่ๆ”

นิกกี้เฝ้ารอต่อไป

ในบ้าน...คุณหญิงพรรณรายกอดอีริน่าอย่างรักใคร่มีความสุข นายพลกันต์ส่ายหน้าขำๆมอง

“หลานยายมาหายายจริงๆด้วย คงรู้ว่ายายคิดถึง”
“อีริน่าเองก็คิดถึงคุณยายมากเหมือนกันค่ะ คิดถึงจนต้องมาหาไงคะ”
“ยายเขาเป็นเอามากจริงๆ” นายพลกันต์แขวะภรรยา
“ทำไมนะ หนูไม่มาเป็นหลานของยายจริงๆ”
“คุณยายขา...อีริน่าเป็นลูกคนธรรมดา แม่พริมของอีริน่าก็เป็นลูกแม่ค้าทำขนมขายค่ะ อีริน่าไม่บังอาจมาเป็นหลานคุณยายจริงๆได้หรอกค่ะ”
“พูดอะไรอย่างนั้นอีริน่า หนูอย่าเอาชาติกำเนิดมาวัดความผูกพันของเราสิจ้ะ ต่อให้อีริน่าเป็นลูกขอทานข้างถนนยายก็จะรัก ยายอยากให้อีริน่ามาเป็นหลานของยายจริงๆ”
อีริน่าพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ถ้าเผื่ออีริน่าเป็นลูกโจร ลูกฆาตกรฆ่าคนตายเล่าคะ”
คุณหญิงหน้าซีด ตัวสั่น นายพลกันต์หน้าเจื่อนไปทันที อีริน่าตกใจว่าพูดอะไรผิดไปแล้วแน่ๆ คุณหญิงร้องไห้ นายพลกันต์เดินมาปลอบโยน อีริน่างงๆนึกถึงคำบอกเล่าของคุณหญิงศรินทิพย์ที่ว่าพี่สาวของกมลกันต์ ฆ่าน้าชายของเจตรินตาย สองคนนั้นมีลูกเป็นฆาตกร...อีริน่าหน้าซีดไปเช่นกัน รีบยกมือไหว้ขอโทษ
“อีริน่าขอโทษค่ะ อีริน่าพูดจาเหลวไหวมาก พูดไม่คิด อีริน่ากราบนะคะ”
คุณหญิงส่ายหน้า
“อีริน่าไม่ได้พูดอะไรผิดหรอกจ้ะ แต่ยายเอาแต่คิดถึงเรื่องสะเทือนใจที่ผ่านมา ทำให้ยายอยากจะร้องไห้”
“คุณยายเขาชอบนึกถึงแต่ความหลัง แล้วมานั่งเสียใจร้องไห้แบบนี้แหละ อีริน่า เขาคิดถึงลูกสาว”
“และยายยังมั่นใจว่าลูกสาวของยายมีลูก และหลานของยายคงอายุ ประมาณอีริน่านี่แหละ”
“และยายเขาก็ยังคิดเอาเองว่าลูกสาวเขาต้องมีลูกเป็นผู้หญิงด้วย” นายพลกันต์เสริม
“อีริน่าอยากเห็นหน้าลูกสาวคุณยายมากค่ะ”
“มีคนเอาไปซ่อนหมดแล้ว พวกเขาหาว่ายายเอาแต่นึกถึงความหลัง”
“แล้วก็เอาแต่นั่งร้องไห้” นายพลกันต์เล่าต่อทันที
คุณหญิงมองอีริน่า
“อีริน่ามีรูปแม่ของอีริน่าบ้างไหม ยายก็อยากเห็นหน้าแม่ของอีริน่า”
“พวกคนร้ายมาพังบ้านอีริน่า มันทำลายข้าวของจนอีริน่าหารูปไม่เจอค่ะ”
คุณหญิงถอนใจ
“ว่างๆยายจะพยายามค้นหารูปลูกสาวของยาย เอามาให้อีริน่าดูนะ”
“ค่ะ”
คุณหญิงมองอีริน่าแล้วกอดจูบรักใคร่ สมมุติเอาเองว่าเป็นหลานแท้ๆ อีริน่าเองก็กอดตอบด้วยความจริงใจอยากมียายอย่างนี้ นายพลกันต์มองสองคนแล้วยิ้มพอใจ

จิตรดารานัดพบกับพงษธร เธอต่อว่าเขาทำสะบัดสะบิ้งใส่
“ทำไมไม่ยอมรับสายของจิต โทรเป็นร้อยครั้งนะคะ”
“ผมลืมไอโฟนเอาไว้ที่บ้าน พอประชุมเสร็จกะจะต่อหาจิต ผมเลยรีบไปซื้อเครื่องใหม่มาเลย แล้วต่อหาจิตทันที คิดถึงใจจะขาด”
“ปากหวานก้นเปรี้ยว”
“โธ่ที่รัก ไปหาซื้อของเข้าเพนท์เฮาส์เรากันดีกว่า รสนิยมจิตดีมาก จิตไปเลือกนะคะคนดี”
พงษ์ธรโอบกอดหอม จิตรดาราใจละลายยิ้มระรื่น

เจตรินหน้าตากลัดกลุ้มเดินเข้ามาในบ้าน คุณหญิงศรินทิพย์รีบเดินมารับรู้ว่ากำลังเซ็ง
“ลูกเจต...งานยังไม่เลิก ทำไมกลับมาเร็วจัง”
“ผม...เอ้อ...ปวดหัวครับ”
“โถ...อีริน่าก็ไม่อยู่ซะด้วย”
อารดาปราดมาทันที
“แต่ดาอยู่ค่ะ”
คุณหญิงแอบทำหน้าเบื่อ
“ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวนใครหรอก ผมจะขึ้นไปนอนพักสักครู่”
“นี่ถ้าแม่รู้ว่าอีริน่าไปไหนแม่จะโทรตามให้กลับมาดูแลเจต”
“วัยรุ่นนี่คะ คงไปหาพบเจอเพื่อนใหม่ๆนะคะ” อารดาเสริม
“หวังว่าคงพบเจอแต่เพื่อนผู้หญิง ไม่ใช่พวกผู้ชายนะ” คุณหญิงพยายามเติมเชื้อไฟ
แล้วสองคนก็แอบสังเกตหน้าเจตรินที่ตึงมาก เจตรินถอนใจเฮือก แล้วผลุนผลันออกไปจากที่นั่น คุณหญิงกับอารดาสบตากันยิ้มอีก
“ดาจะตามเอายาไปให้พี่เจตค่ะ”
“แม่ดีกว่า หนูดาอย่าผลีผลาม”
“คุณแม่ขา เอกสารที่คุณแม่ของดาเก็บไว้มันอาจจะผลีผลามออกมาบ้างนะคะ ดาจะไปดูแลพี่เจตค่ะ”

อารดามองหน้า คุณหญิงได้แต่อึ้งๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก

คุณหญิงพรรณรายพยายามซักถามอีริน่าเรื่องแม่กับพ่อ

“แม่ของหนูไปพบกับพ่อของหนูได้ยังไง สมัยนั้นคนรัสเซียเขาไม่เข้ามาเมืองไทยกันหรอก นอกจากพวกนักการทูต”
“แม่ไม่เคยบอกอีริน่าค่ะ ทราบแต่ว่าพอปาปาพบแม่พริม ปาปาก็หลงรักแม่พริมมาก”
“แล้วแม่พริมของหนูก็คงรักปาปามากสินะ ยายเคยเห็นแต่ผู้หญิงไทยแต่งงานกับอเมริกัน”
“ใครๆก็แปลกใจค่ะ แม่รักปาปามาก ปาปาก็รักแม่มาก ถึงกับยอมลาออกจากงานเพื่อแม่พริมค่ะ”
“ปาปาของหนูเขาทำงานอะไรอีริน่า”
“เคจีบี ค่ะ”
นายพลกันต์กับคุณหญิงตกใจ
“สายลับ”
นายพลกันต์คิดสงสัยมากพึมพำ...ไม่ธรรมดาเลย...
“ค่ะ ปาปาไม่ธรรมดาจริงๆ ปาปาสอนวิชาป้องกันตัวและการต่อสู้สารพัดให้อีริน่าค่ะ”
“มิน่าอีริน่าถึงสามารถสู้กับผู้ชายได้ ถึงขนาดช่วยน้ากมลกันต์ได้”
นายพลกันต์มองอีริน่า พูดจริงจัง
“อีริน่า หนูติดต่อแม่พริมของหนูได้ไหม ตาอยากให้แม่พริมเขาถ่ายรูปตัวเองส่งเข้ามือถือหนูมา”
คุณหญิงขัดขึ้น
“คุณนี่แปลก ตอนแรกพยายามห้ามฉันว่าอย่าไปยุ่งเรื่องแม่ของอีริน่า พอมาตอนนี้คุณเกิดอยากจะเห็นหน้าเธอขึ้นมา”
อีริน่าจ๋อยๆไป
“อีริน่าทำเบอร์บ้านมาดามหายค่ะ อีริน่าเลยไม่สามารถติดต่อหาแม่พริมได้ อีริน่าช่างโชคร้ายมากทำซองจดหมายบอกชื่อและที่อยู่ของคุณตาคุณยายหายก่อนจะมาเมืองไทย เลยไม่ทราบว่าจะตามหาท่านสองคนยังไง”
“แม่พริมของหนูไม่เคยเอ่ยชื่อคุณตาคุณยายให้ฟังเลยหรือ”
“ไม่เคยค่ะ แม่พริมทำราวกับว่าแม่ไม่มีญาติที่เมืองไทย จนกระทั่งครอบครัวเราถูกคุกคาม แม่พริมจึงตัดสินใจส่งอีริน่ามาเมืองไทยค่ะ อีริน่าทราบเพียงแค่ว่า แม่พริมเป็นลูกสาวแม่ค้าขายขนม”
นายพลกันต์ฟังแล้วสงสัยมากพึมพำ
“ผู้หญิงคนนี้ปิดบังชาติกำเนิดแม้แต่กับลูกสาวของตัวเองทำไม”

เจตรินเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องอีริน่าไปขึ้นรถผู้ชาย เขาเอามือกุมหัวที่คิดจนแทบระเบิดว่าทำไมอีริน่าเป็นอย่างนั้น
“อีริน่าทำไม ทำไม ทำไมทำกับผมอย่างนี้”
มีเสียงเคาะประตูพร้อมเรียกของอารดา
“พี่เจตขา ดาเอายามาให้ค่ะ”
“พี่บอกแล้วว่าไม่กิน”
“ดาเป็นห่วงพี่เจตมากนะคะ”
“ขอบใจ...ไม่ต้องมาห่วงพี่”
เจตรินเอาหมอนมาปิดหูไว้

อารดายังคงออดอ้อนหน้าห้อง มีคุณหญิงศรินทิพย์มองด้านหลังทำหน้าแสยะ
“น่าสมเพช สมัยนี้มีแต่ผู้หญิงวิ่งไล่จับผู้ชาย น่าขายหน้าขายหน้าแทนวงศ์ตระกูลที่เสื่อมเสียซ้ำซ้อน”
อารดาหันมาเห็นคุณหญิงมองด้วยสายตาสมเพช หงุดหงิดมาก
“คุณแม่ตามมาเยาะเย้ยดาหรือคะ คุณแม่ส่งสายตาบอกดา ว่าดาหน้าไม่มียางอาย”
“แม่จะมาเรียกเจตเขาไปกินอาหารต่างหาก”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณแม่ช่วยเรียกเลยค่ะ บอกพี่เจตด้วยว่าเมื่อสักครู่ คุณพ่อของดาโทรมาเร่งเรื่องเอกสารนั่น ว่าคุณแม่จะเอายังไง”
คุณหญิงหน้าเปลี่ยนสี
“ขู่กันมากไปแล้วนะ”
“ไม่ขู่ค่ะ แต่เอาจริง เรียกพี่เจตออกมาสิคะ พี่เจตขา...ถ้ารักครอบครัวและวงศ์ตระกูลจริงช่วยออกมาคลี่คลายสถานการณ์เลวร้ายหน่อยสิคะ”
เจตรินเปิดประตูออกมา
“ขอบคุณที่รักตัวเองและครอบครัว เชิญไปฟังดาพูดตามคำสั่งของคุณพ่อสิคะ...คุณแม่ด้วยค่ะ”
เจตรินสบตาแม่ คุณหญิงพึมพำ
“อยากฆ่าอีนี่นัก”
“คุณแม่ว่าอะไรนะคะ”
คุณหญิงแสร้งยิ้ม
“หนูดาน่ารักจ้ะ”
“ก็รักให้มากๆกว่านี้สิคะ จัดงานแต่งงานให้ดากับพี่เจตให้เร็วที่สุดค่ะ”
คุณหญิงทำหน้าจะบ้าตาย

คุณหญิงพรรณรายพาอีริน่ามาค้นหาอัลบั้มรูปของพรรณวดี
“ลูกสาวของยายชื่อพรรณวดี หน้าตาสะสวยมาก นิสัยใจดีน่ารัก แต่ดื้อเงียบ”
คุณหญิงน้ำตาซึม นายพลกันต์เดินมาที่สองคน
“หาอะไรกันสองยายหลาน อ้าว...คุณหญิง น้ำตาซึมอีกแล้ว”
“คุณยายชวนอีริน่ามาค้นหาอัลบั้มที่มีรูปคุณพรรณวดีลูกสาว คุณตาคุณยายค่ะ”
“คุณเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนคะ ฉันอยากเอารูปพรรณวดีมาให้อีริน่าดู เผื่อว่าอีริน่าจะเคยพบเจอพรรณวดีที่มอสโควบ้าง”
“คุณยายเขาปักใจว่าลูกสาวของเรา น่าจะไปอยู่ที่มอสโควเหมือนแม่ของหนู”
“ฉันต้องการอัลบั้มรูปครอบครัวของเราค่ะ”
นายพลกันต์ถอนใจ

ในอดีต...นายพลกันต์ตัดสินใจเผารูปพรรณวดีทิ้ง เผาไปน้ำตาซึมไป
“พ่อเสียใจจริงๆที่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น พ่อไม่ได้โกรธลูกแม้แต่น้อยพรรณวดีแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้พ่อต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการลาออกจากราชการทันที แต่ที่พ่อเสียใจมากที่สุดคือ แม่ของลูกหัวใจสลายใจจะขาดให้ได้ พ่อจำใจต้องทำลายรูปทั้งหมดของหนู เพื่อไม่ให้แม่เห็นแล้วมานั่งมองร้องไห้ทุกวันๆ ภาวนาขอให้ได้พบลูกอีก หวังว่าลูกคงยังไม่ตายดังที่ใครๆเขาเล่าลือ”
นายพลกันต์ถอนใจอาลัยอาวรณ์

นายพลกันต์หน้าหมองบอกกับสองคน
“ผมเสียใจ ผมเผาทำลายรูปของลูกพรรณวดีไปหมดแล้ว”
คุณหญิงพรรณรายร้องไห้โฮ ปราดมาทุบตีใส่กันต์รัวสองมือ
“ใจร้าย คนใจดำ คุณทำลายอนุสรณ์ความรักความคิดถึงของฉันที่มีต่อลูกไปได้ลงคอ คุณคิดแบบทหาร ตัดรอนตัดใจอะไรได้ง่ายๆแต่ฉันทำไม่ได้”
อีริน่าตกใจรีบบอกสองคน
“คุณตาคุณยายขา อีริน่ามีข้อเสนอเรื่องคุณพรรณวดีค่ะ”
สองคนหยุด หันมามองอีริน่า
“อีริน่าจะเสนออะไร”
อีริน่าพูดเอาใจ
“อีริน่าอาจเคยเห็นคุณพรรณวดีค่ะ อีริน่าเคยเห็นผู้หญิงไทยหน้าตาสวยที่มอสโควครั้งหนึ่งค่ะ”
“จริงหรือ”
“ค่ะ อีริน่าจะพยายามสอบถามจากคนรู้จักที่มอสโควค่ะ คุณยูริค่ะ”
“ขอบใจมาก ขอบใจจริงๆอีริน่า” คุณหญิงดีใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ อีริน่าเต็มใจทำให้ค่ะ เอ้อ...คุณตาคุณยายก็ช่วยอีริน่าตามหาตายายของอีริน่าด้วยนะคะ”
ทั้งสองคนรับคำพร้อมกัน
“แน่นอนจ้ะ”
อีริน่ารำพึงในใจ
‘เราต้องโกหกเพื่อให้คุณยายสบายใจ เฮ้อ...โกหกแล้วก็ต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ ผู้หญิงไทยในมอสโควที่เราเคยเห็นก็มีแต่แม่พริมคนเดียวเท่านั้น แล้วแม่จะไปเป็นลูกของท่านสองคนได้ยังไง’

อีริน่ายิ้มแห้งๆให้สองคน

ในห้องนั่งเล่น...อารดาบอกความประสงค์ของพ่อให้สองคนทราบหมดแล้ว
“คุณแม่กับพี่เจตจะว่ายังไงคะ คุณพ่อขีดเส้นตายมาแล้วว่า ภายในหนึ่งเดือน”
คุณหญิงศรินทิพย์ต่อรอง
“แหมสักหนึ่งปีไม่ได้หรือ ก็เรายังกำจัด...เอ๊ย...”
เจตรินแทรกขึ้น
“ผมยังไม่ได้หย่ากับอีริน่านะครับ”
“อันนั้นดาไม่ทราบ มันเป็นเรื่องของพี่เจตกับมัน เอ้อ...กับอีริน่า รีบหาทางหย่าสิคะ”
เจตรินหน้าหมองลง...จีรณัทย์ที่แอบอยู่ได้ยินก็ตกใจมาก
“อารดาคือแม่มดชัดๆ โธ่…คุณแม่ เจต ต้องตกอยู่ในอำนาจเถื่อนของอารดารวมทั้งเรากับน้องจิตด้วย คนใจร้ายอย่างอารดาไม่ไว้หน้าตระกูลเราแน่ จะทำยังไงดี”
อารดายังคงข่มขู่ต่อ
“ฟังให้ดีนะคะ ถ้าไม่แต่งงานกับดา ก็ต้องช่วยคุณพ่อของดาไม่ให้มีความผิด”
จีรณัทย์หนักใจมากขึ้นไปอีก...เจตรินส่ายหน้า
“พี่ไม่สามารถทำผิดให้กลายเป็นถูกได้ พี่คงช่วยเรื่องของคุณพ่อดาไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นเหลือหนทางเดียวค่ะ ยอมให้คุณพ่อของดาเสียหายไป...แต่คุณแม่กับพี่เจตไม่ต้องเสียหายตามไปด้วย”
คุณหญิงจ้องหน้าอารดา
“แล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าหนูดากับคุณพ่อจะไม่ย้อนมาหักหลังเรา เอาเอกสารนั่นมาเปิดเผยภายหลัง”
“ถ้าดาใช้นามสกุล ไอศูรย์ศรินทร์ ดาคงไม่ทำลายนามสกุลตัวเองแน่ค่ะ”
เจตรินกับคุณหญิงศรินทิพย์นิ่งไป เจตรินรำพึงในใจ
‘นี่เราต้องหย่ากับอีริน่าจนได้จริงๆหรือนี่...ไม่นะ’
เจตรินหน้าหม่นหมองลงไปอีก
นายพลกันต์ คุณหญิงพรรณราย อีริน่า ออกมาหน้าบ้าน

“อีริน่าจะไปขอร้องคุณเจตให้ติดต่อกับคุณยูริเพื่อนชาวรัสเซียของเขาให้ตามหาผู้หญิงไทยคนนั้นค่ะ”
“ขอบใจมากอีริน่า เอ้อ...ตาว่าอีริน่ายอมให้ตาขับรถไปส่งเถิดนะ”
“ให้ยายนั่งรถไปกับคุณตาก็ได้ เราสองคนเป็นห่วงหนูมากนะ”
“แต่อีริน่าห่วงคุณตาคุณยายมากกว่าค่ะ อีริน่าป้องกันตัวเองได้เสมอค่ะ อีริน่าอยากทดลองไปไหนมาไหนเองได้ เพื่อที่จะสามารถออกไปสืบหาตายายได้ไงคะ”
สองคนมองอีริน่าแล้วพยักหน้าให้
“ตกลง”
แท็กซี่คันหนึ่งขึ้นป้ายว่างมาจอดตรงหน้าสามคนกดกระจกลง นายพลกันต์ส่งกระดาษซึ่งเขียนที่อยู่บ้านเจตรินให้ แท็กซี่อ่านแล้วพยักหน้ารับ

เจตรินมานั่งอมทุกข์อยู่ในมุมหนึ่งของบ้าน
“อีริน่า ฉันจะหย่ากับเธอไม่ได้ เพราะ...”
เจตรินหนักใจเพราะเขากับอีริน่ามีความสัมพันธ์กันแบบสามีภรรยาไปแล้ว...เจตรินถอนใจซ้ำๆ
“ถ้าฉันทำเช่นนั้น มันก็เท่ากับว่าฉันไม่ใช่ลูกผู้ชาย แล้วอีริน่าคงเจ็บปวดอับอายมาก”
จีรณัทย์เดินมาโอบบ่า
“พี่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอไม่อยากหย่ากับอีริน่า แม้ว่าจะต้องทำ เพื่อครอบครัวของเรา”
“พี่จีรู้”
“พี่แอบฟัง พี่เสียมารยาทแต่ก็คุ้มค่า เพราะว่าเวลานี้ จริยธรรมคุณธรรมความถูกต้องของบ้านเรากำลังบิดเบี้ยว”
“เราจะแก้ไขได้ยังไง ผมคิดจนหมดปัญญาแล้ว”
“พี่อาจคิดบ้าๆ แต่มันน่าจะมีทางรอด”
“รอดยังไงครับ”
“ขโมยเอกสารชั่วร้ายจากอารดามาทำลายซะ”
เจตรินตกใจ มองหน้าพี่สาว
“ไม่ได้หรอกครับ พี่จีคิดนอกกรอบแบบนี้ได้ยังไง”
“พี่คิดนอกกรอบ แต่พี่ไม่ได้ทำร้ายใครนี่น่า อารดาใจร้ายกับเรา เราต้องปกป้องตัวเอง”
“แล้วใครจะมีปัญญาไปขโมยเอกสารนั่นจากอารดาได้ครับ”
“อีริน่า”
เจตรินอึ้งนิ่งไป

รถแท็กซี่ที่อีริน่านั่งมาแล่นมาตามถนน รถมอเตอร์ไซค์ของนิกกี้แล่นตามมา อีริน่านั่งในใจนึกถึงเจตรินกับเหตุการณ์เมื่อคืน อีริน่าน้ำตาเริ่มจะคลอพึมพำ
“คุณเจตทำท่าเหมือนอยากถีบหัวส่งอีริน่าเพราะว่าสมใจได้สิ่งมีค่าจากอีริน่าไปแล้ว”
แท็กซี่มองอีริน่าจากกระจกหน้ารถยิ้มกริ่ม กดส่งข้อความ โอเค

จิตรดารากำลังมีความสุขกับพงษ์ธร ชื่นชมเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งซื้อมา
“จิตเลือกของได้สุดยอดมากจริงๆค่ะที่รัก”
“ขอบคุณมากค่ะ ที่ชื่นชมการเลือกของจิต ก็ของมันแพงนี่คะ”
“ผมไม่รักใครมากเท่าจิตอีกแล้วค่ะ”
มีเสียงส่งข้อความมา พงษ์ธรหยิบมาชำเลืองดูมีข้อความว่า โอเค จิตรดาราตาขวาง หึงหวง
“อีตัวคนไหนโทรมาตามหรือคะ”
“โอ๊ะ...อย่าเข้าใจผิดค่ะ”
พูดจบพงษ์ธรยัดใส่กระเป๋ากลับคืนทันที แอบยิ้ม
“แล้วทำไมไม่ให้จิตดูคะ”
“แม่ผมส่งข้อความมา จิตจะดูไปทำไมกันคะ แม่หกล้มในห้องน้ำ”
“ตายจริง” จิตรดาราตกใจ
“ผมขอตัวก่อน ต้องรีบพาแม่ไปหาหมอ”
“โธ่...เสียดายจังเลยค่ะ”
พงษ์ธรหอมแก้มจิตรดารา แล้วรีบผละออกมา

แท็กซี่เลี้ยวไปทางที่ไม่ใช่บ้านเจตริน นิกกี้ที่ตามมาหน้าตื่น
“เฮ้ยนั่นอีริน่าจะไปไหน ทำไมไม่ไปทางกลับบ้าน”
อีริน่ามองไปภายนอก
“พี่แท็กซี่คะ นี่มันไม่น่าใช่ทางกลับบ้าน”
“นี่แหละทางลัดไงน้อง เมื่อสักครู่ตายายของน้องบอกน้องเพิ่งมาเมืองไทย น้องไม่รู้ทางดีเท่าพี่หรอก”

อีริน่าจึงเงียบไป แต่ก็เริ่มมองถนนหนทาง

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 10 (ต่อ)

เจตรินส่ายหน้าให้จีรณัทย์

“ผมไม่ต้องการขอความช่วยเหลือจากอีริน่าครับพี่จี”
“เจตไม่ต้องขอ พี่จัดการเอง”
“แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ดี เหมือนเอาเปรียบเขา”
“สามีภรรยากันมันจะเรียกเอาเปรียบได้ยังไงกัน หรือว่า เธอกับอีริน่ามีปัญหากัน พี่มองออกนะ”
เจตรินเงียบไป
“ผมหาเหตุผลบางอย่างมาหักล้างไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ถึงไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นทั้งหมด แต่พี่ประมวลได้ว่า...คุณแม่ กับอารดา และน่าจะมีน้องจิตผสมโรง เช่นกรณีนายนิกกี้”
“ผมไม่ใช่คนหูเบา แต่หลักฐานมันโทนโท่ทั้งที่ผมไม่เชื่อ แต่ผมกระอักกระอ่วนใจกับภาพที่เห็น ไม่เข้าใจว่ามีภาพอย่างนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ถามอีริน่าบ้างหรือเปล่า เขาว่ายังไง แล้วเธอเชื่อใจเขาไหม ถ้าเชื่อใจมั่นใจในตัวเขามันก็จบ”
“วันนี้ก็...”
จีรณัทย์สวน
“มีมาอีกใช่ไหม ให้พี่ดูภาพสิ”
“ผมลบทิ้งหมดแล้ว ทั้งของวันก่อนและวันนี้ ผมเชื่อพี่จี ผมจะไม่ระแวงอีริน่าอีก ผมจะทำทุกอย่างให้ปกติ”
“ดีมาก”
คุณหญิงศรินทิพย์เดินยิ้มเข้ามา
“เอ...ทำไมอีริน่ายังไม่กลับมาอีก แม่รอท่านข้าวเย็นอยู่นะ”
เจตรินสบตาพี่สาว จีรณัทย์แอบพยักหน้าให้
“คุณแม่ทานก่อนตามสบายครับ ไม่ต้องรออีริน่าครับ”
จีรณัทย์เข้าไปจูงมือคุณหญิง
“จีไปทานกับคุณแม่เองค่ะ”
คุณหญิงงงแต่ก็ไปกับจีรณัทย์ เจตรินมองตาม
“เราจะเชื่อพี่จี เราจะไม่หวั่นไหว ขอบคุณมากครับพี่จี ที่คอยให้สติผมตอนนี้ผมกับอีริน่าไม่ใช่แค่สามีภรรยากันตามกฎหมาย แต่เป็นสามีภรรยากันด้วยความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เกินกว่าจะให้ใครมาทำลาย”
อารดาเดินมาโอบเจตริน
“ตัดสินใจว่ายังไงคะเรื่องรีบหย่ากับอีริน่า แล้วมาแต่งงานกับดา”
เจตรินเซ็งมาก พูดไม่ออก

อีริน่านั่งอยู่ในแท็กซี่ เห็นป้ายที่เขียนภาษาอังกฤษว่า PATTAYA ก็รู้ว่าแท็กซี่พามาผิดทางแน่
“นั่นป้ายบอกว่าพัทยา ถึงจะเพิ่งมากรุงเทพก็รู้ว่าพัทยาไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ จอดรถเดี๋ยวนี้”
“สายไปแล้วคนสวย ช่วยไม่ได้อยากสวยดีนัก”
“พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม”
“ไม่จอดก็แปลว่าพูดไม่รู้เรื่อง พูดรู้เรื่องแปลว่าต้องจอด”
นิกกี้ที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ตามมามองแล้วรู้ว่าไม่ปกติ
“เฮ้ย…มีปัญหา ชนหน้ารถมันเลย...ชน...ชน ชน”
รถของนิกกี้ พุ่งใส่รถแท็กซี่ทันที คนขับแท็กซี่ตกใจมากว่ามีอะไรมาพุ่งใส่
“เฮ้ย…อะไรกันน่ะ”
อีริน่ากดกระจกลงตะโกน
“ชนเลย ชนมันเลยพี่”
“เฮ้ย”
เสียงดังโครม แท็กซี่จอดกะทันหัน อีริน่าผลักหัวคนขับแท็กซี่โดยแรงจนหัวทิ่มหัวตำ
“เวรกรกรมติดจรวดใส่แกแล้วยังไงไอ้บ้า”
รถมอเตอร์ไซค์ของนิกกี้ชนแท็กซี่ด้านหน้า ทั้งนิกกี้และคนขับมอเตอร์ไซค์ต่างพากันมา กระชากคนขับแท็กซี่ลงมาจากรถ
“ซ้อมไม่เลี้ยง ไม่เดี้ยงไม่เลิกรา”
สองคนรุมเล่นงานคนขับแท็กซี่ อีริน่ารีบลงมาช่วยสองคนเล่นงาน
“ขอบคุณมากที่มาช่วย ตอนนี้ช่วยกันเล่นงานมันให้สนุก ก่อนไต่สวนว่าใครใช้มันมา”
สามคนรุมแท็กซี่
“ใครใช้แกมาทำอย่างนี้” นิกกี้ตะคอกถาม
อีริน่าชี้หน้า
“บอกมานะว่าใครส่งแกมา”

รถของพงษ์ธรแล่นมา เขาไม่พอใจ
“ทำไมเงียบไป ไม่ส่งสัญญาณตอบรับเรา บ้าจริง”
คนขับรถเห็นบางอย่างข้างหน้า
“นายครับ นั่นมีมอเตอร์ไซด์มาชนแท็กซี่เหมือนเมื่อเช้าเปี๊ยบ นายสั่งหรือครับ”
“เฮ้ย... ไม่ได้สั่ง มอเตอร์ไซด์นั่นมาจากไหนกัน รีบเข้าไปดูสิ เฮ้ย… ไอ้คนของเรากำลังโดนยำ”
“โดนยำมากๆเจ็บตัว มันอาจเปิดปากนะครับนาย”
“จอดรถแอบข้างทาง”
พงษ์ธรมองไปไม่สบายใจ

คนขับแท็กซี่สะบักสะบอมมาก อีริน่าโบกมือห้ามนิกกี้ที่ใส่หมวกกันน๊อคอยู่ เธอยังจำไม่ได้
“หยุดก่อน มันจะสลบแล้วเดี๋ยวตอบไม่ได้ว่าใครจ้างมันมา”
นิกกี้กับสมุนหยุด อีริน่ากระชากหัวคนขับแท็กซี่ที่เลือดอาบหน้า
“ใครสั่งให้แกมาจับตัวฉันใช่ไหม ไอ้คนชั่วช้า”
“ไม่มี”
นิกกี้ตวาด
“แกโกหก แกเป็นพวกเดียวกับไอ้แก๊งเมื่อเช้าแน่ๆ”
คราวนี้อีริน่ามองนิกกี้
“อ้าว...รู้ได้ยังไง แสดงว่าเป็นอีกพวกที่กำลังตามจับฉันใช่ไหม”
อีริน่าโดดเข้าใส่ นิกกี้ทันที
“ไม่ใช่ อย่าเข้าใจผิด”
คนขับแท็กซี่เห็นท่าว่าจะหนีรอด รีบตะกายออกไปทันที
“อย่าหนีนะ”
“อย่าเพิ่งเอาเรื่องผม จับมันไว้ก่อน”
อีริน่าหันไปคว้าคนขับแท็กซี่ มีนิกกี้ช่วย แล้วก็จับไว้ได้
“บอกมาว่าใครสั่งให้แกมาจับตัวฉัน”
“มันจ้างแกเท่าไหร่ ฉันให้แกสิบเท่าที่มันจ้าง บอกมาว่ามันคือใคร” นิกกี้คาดคั้น
คนขับแท็กซี่กลัว
“เขาคือ คุณพะ…”
ทันใดนั้นเสียงปืนระเบิดดังขึ้นสองนัด
“อีริน่าหลบ”
“พระเจ้า”
อีริน่าหลบเช่นเดียวกับนิกกี้ ร่างของคนขับแท็กซี่โดนยิงซ้ำอีกสองนัดเซไปเซมาล้มลงขาดใจตาย อีริน่ากับนิกกี้ตกตะลึง
“อะไรกันนี่”
เสียงรถของพงษ์ธรแม้ไม่ใกล้นัก แต่ก็ดังพอที่สองคนจะได้ยิน อีริน่าชี้ไป
“นั่น มันยิงมาจากรถนั่น”

สองคนมองตาม

รถของพงษ์ธรกำลังถอยเข้าซอยใกล้กันอย่างรวดเร็วเร่งเครื่องดังมาก พงษ์ธรอยู่ในรถถือปืนในมือหน้าเครียด
“ช่วยไม่ได้ แกอยากโง่เอง ถ้าฉันไม่ปิดปากมัน ฉันก็ต้องโดนเปิดโปง”
รถพงษ์ธรถอยหายไปในซอย...อีริน่ากับนิกกี้ไม่หายตื่นตะลึง
“ป่าเถื่อนมาก มันฆ่าปิดปากกันเปิดโปง”
“ตกใจมากไหมอีริน่า”
อีริน่านึกได้หันมาแว๊ดใส่นิกกี้
“นายเป็นใครทำไมรู้จักชื่อฉัน”
นิกกี้ดึงหมวกกันน๊อคออกจากหัว โค้งให้
“ผมเอง”
อีริน่าอึ้ง
“นิกกี้...นี่...นี่...”
“นิกกี้รู้ดีว่าอีริน่าตกอยู่ในอันตราย นิกกี้รักอีริน่าสุดหัวใจ นิกกี้จึงต้องคอยปกป้องอีริน่าตลอดเวลา ทุกวินาที”
อีริน่าถอนใจ หนักใจกับนิกกี้
“ที่นี่มีคนตาย นายอย่ามัวทำตลกไร้สาระ เราต้องทำอะไรสักอย่าง”
“โอเค”
นิกกี้ยกหูโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหล วัน ไนน์ วัน หนึ่งเก้าหนึ่ง”

เจตรินรับโทรศัพท์จากโรงพัก
“ฮัลโหล จากสถานีตำรวจจราจรเทวะ”
ทุกคนมองหน้ากันตื่นเต้น
“แท็กซี่ที่ภรรยาผมนั่งมา โดนฆ่าตาย”
ทุกคนยิ่งตะลึง จีรณัทย์อุทานออกมา
“ตายจริง”
“ที่จะตายน่าจะเป็นนังอีริน่า” คุณหญิงพึมพำเบาๆ
“น่าจะเป็นเรื่องชู้สาวแน่ค่ะ” อารดารีบใส่ไฟ
“ชู้สาวเกี่ยวข้องกับไอ้ผู้ชายในภาพเมื่อเช้าแน่ๆ” จิตรดาราเสริม
อารดากับคุณหญิงมองหน้ากัน พูดกันสองคนเบาๆ
“พงษ์”
จีรณัทย์หันไปปรามน้องสาว
“จิตเธอย่าเพ้อเจ้อ อย่าต่อเรื่องให้อีริน่าเสียหาย เจตรีบไปดูอีริน่าสิ”
คุณหญิงรีบบอก
“แม่จะไปด้วย แม่จะไปด่า เอ๊ย...จะไปดูอีริน่า สงสารออก”
“ดาก็จะไป”
“จิตก็จะไปค่ะ”
จีรณัทย์กับกับเจตรินมองหน้ากันอย่างเหนื่อยใจ

คุณหญิงพรรณรายกับนายพลกันต์ตกใจมาก เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับอีริน่า
“ตายแล้วหลานฉัน” คุณหญิงร้องไห้อย่างใจเสีย
“คนที่ตายน่ะมันแท็กซี่ รีบไปกันเถิดคุณหญิง”
“แล้วลูกกมลเล่าคะ”
“เขาโทรมาบอกแล้วว่าไปเจอกันที่โรงพักเลย”
สองคนกุลีกุจอรีบออกไปทันที

สถานีตำรวจ...อีริน่ากำลังโดนนักข่าวทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์รุมถ่ายรูป อีริน่างงทำอะไรไม่ถูกแถมยังโดนสัมภาษณ์ นิกกี้รีบมาประกบอีริน่ากะว่าจะได้ออกทีวีคู่กับเธอ
“เอ้อ...อีริน่าขอไม่ตอบใดๆทั้งสิ้นค่ะ อีริน่าไม่อยากพูดอะไรที่อาจไม่เหมาะสมค่ะ”
“แต่ผมพูดแทนเธอได้ครับ อีริน่าคนนี้เธอเก่งกาจมาก ถ้าไม่ใช่คนเก่งอย่าง อีริน่าละก็เอามันไม่อยู่หรอกครับ”
“น้องอีริน่ามีปัญหากับใครหรือเปล่าคะ เขาถึงส่งคนปลอมมาเป็นแท็กซี่ เพื่อจับตัวน้อง” นักข่าวถาม
อีริน่าอึกอัก
“เอ้อ...เอ้อ...”
นิกกี้ตอบแทน
“แน่นอนครับ มันจ้องจับมาตั้งแต่เช้าแล้วครับผมเห็นกับตา”
“คุณเห็นกับตาแสดงว่าน้องอีริน่าอยู่ในสายตาของคุณตลอดเวลา คุณเป็นอะไรกับน้องอีริน่าครับ”
“ผมเอ้อเป็น...”
นิกกี้ยังพูดไม่จบ อีริน่าแทรกทันที
“เป็นบ้าเป็นบอคอแตกค่ะ นิกกี้นายอย่ามาตอบคำถามแทนฉัน พี่คะอีริน่าไม่อยากตอบคำถาม ไม่อยากออกทีวี ไม่อยากเป็นข่าวค่ะ คุณตำรวจขา ช่วยอีริน่าด้วยค่ะ”
ตำรวจเดินมาหาอีริน่าโบกมือขอร้องนักข่าว
“ยังเด็กและสวยมากอย่างน้องอีริน่า น่าจะไปเป็นดารามากกว่านะคะ” นักข่าวอีกคนแนะ
“อีริน่ายังเด็ก อายุสิบแปดแต่มีสามีแล้ว เป็นดาราได้หรือคะ”
นักข่าวอึ้งตะลึง
“หา...”

มิคาอิลอยู่ในห้องพักที่พัทยากำลังดูข่าวทางทีวี ภาพอีริน่ากำลังแหวกออกจากวงนักข่าวมีตำรวจช่วยแหวกออกมา มิคาอิลตื่นเต้น
“อีริน่า”
“อีริน่าลูกพ่อ” นิโคลัยตะลึง
“ติดตามข่าวนี้ให้ละเอียดยิบเพื่อตามเอาตัวมันมาเป็นผู้หญิงของฉัน ด้วยการเอาพ่อมันไปล่อให้มันออกมาหาเรา”
“ไม่นะมิคาอิล อย่าทำกับลูกฉัน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่าถ้าจะทำอย่างนั้น”
“ฆ่าแกฉันก็โง่มากสิ อุตส่าห์หอบหิ้วแกมาถึงที่นี่ เสียเงินเสียทองไปมากมาย ก็ได้นะถ้าแกอยากตายฉันจัดให้ แต่หลังจากฉันได้ตัวอีริน่ามาแนบกายแล้ว”

นิโคลัยส่ายหน้า เจอมิคาอิลชกหลายที

เจตรินและครอบครัวกำลังจะเดินขึ้นโรงพัก นายพลกันต์ คุณหญิงพรรณราย กมลกันต์ พากันมาเช่นกัน สองฝ่ายเผชิญหน้ากัน คุณหญิงศรินทิพย์จ้องหน้าคุณหญิงพรรณรายเอาเรื่อง มีอารดากับจิตรดาราเป็นลูกคู่ นายพลกันต์กับกมลกันต์ยืนปะกบซ้ายขวาคุณหญิงพรรณราย

เจตรินกับจีรณัทย์รีบยกมือไหว้คุณหญิงพรรณรายกับนายพลกันต์ สองคนรับไหว้แล้วหันไปทักทายคุณหญิงศรินทิพย์
“สวัสดี ศรินทร์”
คุณหญิงศรินทิพย์เบ้หน้า
“ต๊าย...ที่นี่มีก๊าซพิษที่มีคนไม่พึงประสงค์พ่นออกมาจากใจเน่าๆ”
กมลกันต์รีบไหว้คุณหญิงศรินทิพย์
“สวัสดีครับ”
“ฉันไม่ต้องการรับไหว้ของครอบครัวเจ้าเล่ห์เพทุบาย ตั้งแต่สมัยลูกสาวฆ่าน้องชายฉันตาย แถมตอนนี้ยังมีหน้ามาแอบหลอกซื้อที่ดินจากลูกสาวอ่อนโลกของฉันอีก” คุณหญิงศรินทิพย์เชิดหน้า
เจตรินกับจีรณัทย์อึ้ง
“คุณแม่”
คุณหญิงพรรณรายพยายามพูดดีด้วย
“ฉันมาเพราะห่วงหนูอีริน่า เราอย่ามาทะเลาะกันด้วยเรื่องเก่าๆเลยศรินทร์”
“ลองให้ใครมายิงลูกยิงผัวเธอตายบ้างไหม จะได้เข้าใจหัวอกของคนที่ต้องสูญเสียว่ามันเจ็บช้ำแค่ไหน แปลกแท้ๆมีลูกเป็นฆาตกรแถมยังปล่อยให้ลอยนวล แล้วยังมาเชิดหน้าในสังคมกันอยู่ได้ทั้งตระกูล”
อารดาสอดทันที
“ถ้าเป็นดาไปหาที่มุดดินตายดีกว่า ใช้ครีมกันอายยี่ห้ออะไรไม่ทราบคะ”
เจตรินกับจีรณัทย์หน้าเสีย
“อารดา”
นายพลกันต์มองอารดายิ้มหยัน
“นั่นสิหนู อยากจะถามกลับหนูว่าใช้ครีมกันอายยี่ห้ออะไรอยู่พอดี ทำไมไม่รีบไปหาที่มุดดินกันบ้าง ทั้งที่ข่าวพ่อหนูหอบเงินหนีไปล้มบนฟูกอยู่ที่เมืองนอกแชร์กันให้ว่อนเนต หรือหนูจะหาว่าใครตัดต่อภาพ และเขียนข้อความใส่ร้าย”
คุณหญิงศรินทิพย์กับจิตรดาราแอบสบตากันยิ้มแต่อารดาเต้นเร่าๆ
“ต๊าย มัวแต่เอาเวลาไปเปิดเน็ตจับผิดชาวบ้าน แทนที่จะใช้เวลาช่วยตำรวจตามฆาตกรฆ่าน้องชาวบ้าน”
คุณหญิงศรินทิพย์เสริม
“ถามจริงช่วยบอกตรงๆได้ไหมว่าทำเนียนตบตาสังคม ที่แท้เอาแม่ลูกสาวฆาตกรนั่นแอบซ่อนไว้”
จิตรดารากับอารดาหันมาสบตากันยิ้มชอบใจอีก จีรณัทย์กับเจตรินลำบากใจมาก
“น้องดาคะ นี่เป็นเรื่องครอบครัวเราไม่เกี่ยวกับครอบครัวของน้องดาค่ะ มันเสียมารยาทนะคะ” จีรณัทย์ด่าเล็กๆ
เจตรินไม่พอใจมาก
“พวกเรามาวันนี้เพื่อจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีริน่า ถ้าใครคิดว่าจะมาทะเลาะกับใครก็ไม่ควรจะมา หรือน่าจะกลับไปก่อนก็คงจะดีที่สุด เชิญครับคุณลุงคุณป้าพี่กมล”
สามคนพูดพร้อมกัน
“ขอบใจมากเจต”
คุณหญิงศรินทิพย์เบ้หน้า
“หมั่นไส้ เอาใจออกห่างแม่แต่ไปเข้าใจศัตรู ติดเชื้อยัยจีมาแน่ๆ”
แล้วสองฝ่ายก็ต่างเดินคนละฝากบันได ไปยังชั้นบนโรงพัก

เขมชาติกับพงษ์ธร นัดพบกันในที่แห่งหนึ่งกำลังดูข่าวในทีวี ภาพในจอพิธีกรกำลังรายงานข่าว
“จากคำให้การของนางอีริน่า ไอศูรย์ศรินทร์ อายุสิบแปดปีที่โดนคนร้ายติดตามจับตัวถึงสองครั้งในวันนี้ แต่มีพลเมืองดีมาช่วยไว้ทั้งสองครั้งและประกอบกับนางอีริน่ามีความสามารถพิเศษในการป้องกันตัวจึงรอดพ้นจากการถูกจับ และกลายเป็นผู้จับกุมคนร้ายได้เสียเอง แต่คนร้ายก็ถูกฆ่าปิดปากก่อนที่จะเปิดปากบอกชื่อผู้บงการ ขณะนี้ตำรวจกำลังสืบหาตัวผู้บงการรายนี้ต่อไป”
เขมชาติมองหน้าพงษ์ธร
“แกฆ่าคนตายออกนอกหน้าเกินไป ระวังจะโดนจับได้”
“ก็ถ้าฉันไม่ปิดปากมัน พวกเราก็โดนมันเปิดปากซัดทอดหมด ทั้งแกทั้งมิคาอิล พังกันทั่วหน้า ไม่ใช่แค่เรื่องอีริน่า ยังมีเรื่องค้ามนุษย์ ค้ายาเสพย์ติด”
“ทำไมวะ เด็กผู้หญิงอายุแค่สิบแปดเท่านั้นทำไมมันจับยากจับเย็นนักหนา”
“ก็เพราะแบบนี้แหละยิ่งท้าทายมาก ฉันถึงอยากได้นัก”
“แกระวังหน่อยก็แล้วกัน ถ้ามิคาอิลรู้ว่าเราสองคนกำลังสมคบกัน ตัดแข้งตัดขามัน มันเอาตาย”
เสียงมือถือของเขมชาติดังขึ้น เขามองแล้วพึมพำ
“มิคาอิลมันเห็นข่าวแล้ว”
พงษ์ธรพยักหน้า

คุณหญิงพรรณรายกับนายพลกันต์ห่วงใยอีริน่ามากมาย ประคบประหงมปลอบโยนโอบกอด
“ไม่เป็นไรแล้วนะอีริน่า ต่อไปนี้หนูจะไปไหนมาไหน ยายจะให้คุณตาไปรับไปส่ง”
คุณหญิงศรินทิพย์แทรก
“มากไป เว่อร์ เยอะ ฟุ้งซ่าน น้อยๆหน่อยได้ไหม อีริน่าเขาเป็นสะใภ้บ้านฉัน ใช้นามสกุลฉัน คงไม่หวังพึ่งตระกูลฆาตกรมารับส่งหรอกย่ะเสื่อมเสียหมด”
เจตรินกับจีรณัทย์ตกใจ
“คุณแม่”
นายพลกันต์ไม่พอใจ
“คำก็ฆาตกร สองคำก็ฆาตกร ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้หรือตัดสินว่าใครเป็นฆาตกร ฆาตกรมีหลายรูปแบบ ผมว่าฆาตกรที่ทำร้ายจิตใจคนอื่นนั่นแหละตัวร้าย ผมยอมให้คุณด่าว่าพวกเรามานานเกือบยี่สิบปีมาแล้ว พอทีเถิดครับคุณหญิง เป็นถึงคุณหญิงเที่ยวด่าว่าคนอื่นมันก็เสื่อมเสียนะครับ”
“ต๊าย...ปากกรรไกรผ่าตัดโรงพยาบาล ขอด่านายพลให้เจ็บแสบสักวันเถิด ลูกสาวแกฆ่าน้องฉัน ฆ่าผัวฉันด้วย ยังมีหน้ามาเถียงกลับ เป็นผัวฉันหน่อยไม่ได้จะตบปากให้ฉีกถึงใบหู”
“ขอประทานโทษครับคุณหญิง ในสมองของผมไม่มีวันจะคิดเอาผู้หญิงแก่ง่ายตายยากปากไม่มีหูรูดมาทำภรรยา”
“อ๊ายๆ ฉันขอตบปากนายพลตกกระป๋อง”
คุณหญิงศรินทิพย์ปรี่เข้าใส่นายพลกันต์ จีรณัทย์กับเจตรินดึงไว้
“คุณแม่”
อารดาพึมพำเบาๆ
“สะใจ”
อีริน่าเข้าห้าม
“อย่าทะเลาะกันเพราะอีริน่าเลยค่ะ”
จิตรดาราสวนทันที
“นี่แกเพิ่งมาแท้ๆอย่ามาสะเออะ คนบ้านนี้ทำฉันกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็กๆ สมควรโดนแม่ฉันด่าทุกครั้งที่พบหน้า”
จีรณัทย์มองปรามน้องสาว
“น้องจิต...เรื่องของคุณพ่อมันคนละเรื่องกัน เรื่องน้าชายก็ยังไม่มีการพิสูจน์ อย่างที่คุณลุงบอกนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ
“ต๊าย...นี่แกไปหลงคารมศัตรู แล้วย้อนมาเล่นงานน้องเล่นงานแม่ แกมันอกตัญญูต่อพ่อแม่และวงศ์ตระกูล ไม่น่าอภัยให้แกเลยอยากไสหัวแกไปจริงๆ”
“ยินดีต้อนรับมาเป็นลูกสะใภ้ลุง ถ้าโดนไสหัวออกมา” นายพลกันต์แทรกขึ้น
เจตรินเหนื่อยใจ
“พอทีเถิดครับคุณแม่ ผมขอประทานโทษครับคุณลุงคุณป้า”
จิตรดารารีบแย้ง
“นี่อีริน่าเธอมันตัวก่อเหตุ พูดอะไรออกมาสักคำสิยะสารภาพออกมา ว่าเหตุมันเกิดเพราะเธอมีผู้ชายหลายคนมาหึงหวงกันจนฆ่ากันตาย เธอต้องรู้แน่ๆว่าใครฆ่า”
นิกกี้เข้ามา
“ผมนี่แหละครับ คิดว่าผมรู้ เพราะผมติดตามปกป้องอีริน่ามาตั้งแต่เธอออกจากบ้านมา”
ทุกคนหันมามองนิกกี้ คุณหญิงศรินทิพย์มองเหยียด
“มิน่าอีริน่าถึงไม่ยอมให้ใครไปส่ง ที่แท้นัดกันกับนิกกี้นี่เอง”
เจตรินตัดบท
“ผมว่าตอนนี้สมควรแก่เวลาที่ผมต้องพาอีริน่ากลับบ้านได้แล้วครับ ขอบคุณมากครับคุณลุง คุณป้า พี่กมล...ไปได้แล้วอีริน่า”

เจตรินทำหมางเมินใส่อีริน่ามาตั้งแต่แรกหันมาดึงแขนอีริน่าแล้วจูงกึ่งดึงออกไปจากที่นั่น จีรณัทย์รีบเดินตามไป คุณหญิงศรินทิพย์หันมาถลึงตาใส่คุณหญิงพรรณราย นายพลกันต์ และกมลกันต์แล้วสะบัดหน้าเดินออกไป มีจิตรดารากับอารดาเดินตาม

เจตรินดึงกึ่งจูงอีริน่าออกมาหน้าโรงพักกระซิบพูดเสียงเย็นชา
“รู้ไหมว่าไปทำเรื่องใหญ่โตอะไรมา”
อีริน่ากระซิบตอบ
“อีริน่าไม่ได้ทำ แต่คนอื่นต่างหากที่ทำ อีริน่าโดนมันทำนะ”
จีรณัทย์เข้ามาเตือน
“ใจเย็นเจต กลับไปพูดจากันที่บ้าน”
นิกกี้เดินแทรกกลางดันเจตรินออกจากอีริน่า
“อีริน่าบัญชามาเลยว่าพรุ่งนี้อีริน่าต้องการจะไปไหน นิกกี้คนนี้จะคอยเป็นบอร์ดี้การ์ดฟาดฟันอริให้อีริน่าเอง”
อารดาเข้ามาเย้ย
“ไม่ต้องอายหรอกอีริน่า เขารู้กันทั่ว ข่าวก็ออกไปแล้วว่าเธอมีสามีและมีเพื่อนชายคนสนิทคอยติดตามปกป้อง”
จิตรดาราเบ้หน้า
“งามหน้าตระกูล ไอศูรย์ศรินทร์ แท้ๆ”
คุณหญิงศรินทิพย์ทำเป็นปราม
“อย่าไปต่อว่าต่อขานอีริน่าสิหนูดา ลูกจิต นั่นพี่สะใภ้ลูกนะ อีริน่าไม่เป็นไรนะ ฉันไม่ถือสา ฉันเข้าใจเธอ”
จีรณัทย์มองหน้านิกกี้
“นิกกี้ขอร้องกลับไปซะ ขอบใจที่ห่วงใยอีริน่า แต่อีริน่ากำลังจะสำลักความหวังดีของนิกกี้แล้ว พอที”
“อีริน่าว่ายังไง นิกกี้ฟังอีริน่าคนเดียว” นิกกี้มองหน้าอีริน่า
“พี่จีพูดถูก อีริน่ากำลังจะอาเจียนออกมาเป็นความหวังดีแล้ว ขอบใจที่ช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่ช่วยจะดีกว่า”
จิตรดาราแทรกทันที
“ปากไม่ตรงกับใจ เชอะ...ปากว่าตาขยิบ ปากอย่างใจอย่าง”
“แล้วปากสว่างแปลว่าอะไรคะ” อีริน่าทำหน้าซื่อมาก
“ต๊าย...นังอีริน่า” จิตรดาราโกรธ
“อีริน่าแท็กซี่มาพอดี เราสองคนไปกันก่อน”
เจตรินโบก แท็กซี่จอดแล้วดึงอีริน่าเข้าไปในแท็กซี่ทันที อารดาหันมายิ้มกับจิตรดารา
“นี่แหละโทษของปากสว่าง”
จิตรดาราสวน
“โทษของปากพล่อยคือผู้ชายเมินหนี มีคู่หมั้นก็ไม่ยอมแต่งงานด้วยเชอะ...ม่ายขันหมาก”
อารดากับจิตรดาราหันมาจ้องหน้ากัน รถที่บ้านไอศูรย์ศรินทร์มาจอดรับคุณหญิงศรินทิพย์กับจีรณัทย์
“คุณแม่คะเชิญขึ้นรถ ถ้าเขาไม่ไปเราไปกันสองคนก่อนคะ” จีรณัทย์พูดกับอารดากับจิตรดารา “เชิญมีปากเสียงเถียงไม่ตกฟากกันหน้าโรงพักหรือจะตบตีกันก็แล้วแต่ ถ้าลืมเอาเงินมาจะให้ยืมก่อน”
อารดากับจิตรดาราชะงัก
“ต๊าย...พี่จีด่ากันนี่น่า”
คุณหญิงศรินทิพย์แปลกใจ
“นั่นสิยัยจี จู่ๆทำไมลูกลุกขึ้นมาด่าคนเป็นด้วย”
“อยู่บ้านเดียวกับคนด่าเป็น จีก็ต้องหัดด่าให้เป็นด้วยค่ะ” จีรณัทย์บอกเชิดๆ

เจตรินดึงอีริน่าเข้ามาในบ้าน สีหน้าเฉยมาก ไม่พอใจ อีริน่าสะบัดออก
“ไม่ต้องมาลากทึ้งกัน ยังกับว่าอีริน่าเป็นน้องหมา เดินเองเป็น”
“เดินเองเป็น รู้แล้วว่าเดินเองเก่ง แต่ทำไมชอบเดินผิดทาง”
“ก็ไปถามแท็กซี่ที่มันรับอีริน่ามาสิคะ ว่าทำไมมันพาอีริน่าไปผิดทาง”
“แล้วทำไมต้องเที่ยวออกไปไหนต่อไหน อยากไปทำไมไม่บอก จะได้ให้คนรถไปส่ง แล้วทำไมต้องนัดนายนิกกี้ให้ตามไปปกป้องคุ้มครองหยามหน้ากันด้วย”
“แล้วทำไมคุณเจตถึงได้ยอมให้มดปลวกมาแทะกินความสุขุม หนักแน่นของตัวเองไปจนหมด คนอะไรยิ่งมีอายุยิ่งหมดเหตุผล”
อีริน่าวิ่งหนีขึ้นบันไดไปหน้าตาเฉย เจตรินมองตาม แล้วฮึดเถียงสู้
“เด็กอะไรเถียงผู้ใหญ่ ไม่เกรงใจ อายุเราห่างกันเป็นสิบปีนะอีริน่า”
“เราเป็นสามีภรรยากัน เท่าเทียมกัน อีริน่าไม่ใช่คนไทยโบราณ อีริน่าไม่ยอมรับความเป็นช้างเท้าหลัง”
เจตรินปราดไปคว้าตัวอีริน่ามาโดยแรงแล้วเสียหลักตกบันไดลงมา
“อีริน่า”
“ว๊าย”
เจตรินกอดอีริน่าไว้กลิ้งลงมาด้วยตามขั้นบันได

คุณหญิงศรินทิพย์กับทุกคน เดินมาจะเข้าบ้าน ได้ยินเสียงเจตรินกับอีริน่าดังออกมา
“ต๊าย...เสียงอะไรกันน่ะ” คุณหญิงศรินทิพย์ถามอย่างสงสัย
“สงสัยพี่เจตหมดความอดทนซ้อมนังอีริน่าค่ะคุณแม่” จิตรดาราออกความเห็น
อารดาเบ้หน้า
“มันก็น่านิค่ะ คบผู้ชายต่อหน้าต่อตาผัว เป็นบางคนเขายิงตายทั้งชู้ทั้งตัวมันไปแล้ว”
“คนที่ร้องเพลงฉันอยากได้ผัวเขาคงจะสมใจกันงั้นหรือคะ” จิตรดาราถาม
คุณหญิงหงุดหงิด
“ทำไมนะไม่ไสหัวมันออกไปสักที แค่นี้ปัญหาก็จบ”
จีรณัทย์มองไปที่เจตรินกับอีริน่า
“คงไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจหรอกค่ะ ดูเอาเองกันเถิดค่ะ”
ทั้งหมดพาตามมาดูอย่างที่จีรณัทย์บอก แล้วทุกคนนิ่งอึ้ง แต่จีรณัทย์ยิ้ม

เจตรินกับอีริน่าไม่รู้ว่ามีใครมองอยู่ ต่อว่าต่อขานงอนกันต่อ
“ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย หรือว่าสามีกอดภรรยามันผิด”
อีริน่าทั้งโกรธทั้งอาย
“มันผิดตั้งแต่คืน...เอ้อ...ที่...”
“มันผิดตรงไหนถ้าสามีภรรยาจะ...เอ้อ...”
“หยุดนะ แล้วปล่อยอีริน่า”
“ถ้าไม่ปล่อย จูบมันตรงหน้าบันไดนี่แหละ”
“อย่านะ”
เจตรินไม่ฟังดึงอีริน่ามากอดไว้แน่น ทำท่าจะจูบ...ทุกคนยืนมองตาค้าง ยกเว้นจีรณัทย์ที่ยิ้ม
“แม่จะบ้าตาย บัดสีไม่มียางอาย ตีนบันไดบ้านแท้ๆก็ยังจะมากอดจูบกัน”
“แต่ดาไม่บ้าค่ะ ดากำลังจะคลั่ง”
“จิตก็ทนดูไม่ได้แล้วค่ะ”
ขาดคำจิตรดารากับอารดาก็แข่งกันเข้าไปหาเจตรินกับอีริน่า คุณหญิงยืนคำราม
“กุ๊ย ข้างถนน จริงๆ”
จีรณัทย์แอบถอนใจ ขณะที่คุณหญิงศรินทิพย์ปราดตามไป

เจตรินหอมแก้มอีริน่า อารดากับจิตรดาราปราดมากระชากอีริน่าออกจากตัวเจตรินแล้วตบหน้าอีริน่าคนละข้าง
“น่ารังเกียจ น่าขยะแขยง” อารดาด่าไปด้วย
“หน้าไม่อาย เคยทำแบบนี้ตามข้างถนนมาละสิ”
“แม่จะเป็นลมแล้วเจต ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”
จีรณัทย์แทรกขึ้น
“เรื่องธรรมดาปกติค่ะ สามีภรรยาหยอกเอินกัน แต่ถ้าเป็นคนอื่นสิคะมันน่าอายกว่า”
อีริน่าลุกขึ้นมาแล้ว หันมาตบหน้าเจตรินโดยแรง
“ช่วยบอกทุกคนให้เข้าใจด้วยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกเขาสมองไม่ได้บรรจุด้วยอุจจาระ คงมองออกว่าอะไรเป็นอะไร อีริน่าขอตัวค่ะ”
อารดากับจิตรดารามองหน้ากัน
“มันด่าเราว่าสมองบรรจุด้วยอุจจาระ”
อารดาโกรธ
“กลับมานะนังอีริน่า”
"มันตั้งใจด่าคุณแม่ค่ะ” จิตรดาราใส่ไฟ
อีริน่ายืนบนบันไดหันกลับมา
“คุณหญิงท่านมันสมองบรรจุไว้ด้วยความเมตตา ท่านเข้าใจอีริน่า อีริน่ากราบขอบพระคุณมากค่ะคุณหญิง”
อีริน่าหันกลับเดินหนีเข้าห้องทันที
“ดาทนให้มันมาเหยียดหยามไม่ไหวแล้วค่ะ พี่เจตต้องตัดสินใจให้ไวไวนะคะ ภายในหนึ่งเดือน หรือจะให้ดาไปฟ้องคุณพ่อให้ร่นเวลามา เหลือแค่หนึ่งอาทิตย์”
“อยากมีผัวตัวสั่น” จิตรดาราพึมพำ
อารดาหันขวับมา
“มีผัวไปกี่คนแล้วทำไมยังไม่อิ่ม”
คุณหญิงศรินทิพย์กล้ำกลืนพูดกับเจตรินแสร้งพูดดี
“เจตแม่ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เพียงแค่ตกใจเท่านั้นเอง...หนูดา อย่าขู่พวกเรานักเลย”
“สุนัขจนตรอกมันไม่กลัวคำขู่หรอกนะอารดา” จีรณัทย์ไม่พอใจ
เจตรินรีบตามอีริน่าหายไปอีกคน จีรณัทย์เดินตามไปอีกคนอารดากับจิตรดาราจะตาม คุณหญิงห้ามเสียงเข้ม
“อย่าตามไปนะ”
อารดากับจิตรดารา ไม่มีใครขยับตาม

อีริน่าวิ่งมาเข้าห้องล็อคประตู เจตรินตามมาดึงประตู แต่อีริน่าล็อคไปแล้ว
“อีริน่าเปิดประตู”
อีริน่าอยู่ในห้องยืนมองประตูหน้างอ ยักไหล่แบมือ
“ปีนเข้ามาทางหน้าต่างเองสิ ฮ่าๆ”
อีริน่ายืนหัวเราะ ชอบใจ แล้วหันกลับบ่นคนเดียว
“จะนอนหลับคนเดียวให้สบาย”

อีริน่าเดินไปทางห้องน้ำ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 10 (ต่อ)

เจตรินอยู่หน้าห้องเงื้อจะทุบแรงๆ
“เด็กอะไรไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพสามี ดี...ไม่เปิดใช่ไหมจะพังประตูไปจัดการเธอ”
เจตรินถอยมาทำท่าจะพุ่งชน มือของแหววยื่นกุญแจห้องสั่นแกว่งไปมาตรงหน้า เจตรินหันไปมอง แหววยิ้มให้
“ไขเข้าไปดีกว่าไหมคะ ออมแรงไว้ดีกว่าค่ะ”
“แหววรู้ได้ยังไง”
“แหววรู้อะไรอะไรทุกอย่างเสมอ แต่จะเสนอหน้าตอนไหน แหววก็รู้อีกค่ะ เชิญค่ะ...คุณอีริน่าน่ะเธอยังเด็ก แม้จะฉลาด แต่ก็ไม่ทันคนอาบน้ำร้อนมาก่อนหรอกค่ะ”
“แหววหมายถึงใคร”
“แหววแค่เปรียบเทียบค่ะ เอ้อ...คุณเจตขาเมื่อเช้านี้แหววไปส่งคุณอีริน่าขึ้นรถแท็กซี่ด้วยตัวเองนะคะ”
“ไม่อยากรู้”
“ค่ะ แหววทราบว่าคุณเจตไม่อยากรู้ว่าเธอนั่งแท็กซี่ไปไหน”
“ไม่ได้ถาม สักหน่อย”
“งั้นแหววบอกกับลมฟ้าอากาศแถวนี้ก็ได้ค่ะ เธอนั่งแท็กซี่ไปบ้านโน้นค่ะ”
“บ้านโน้น...” เจตรินชะงัก
“ท่านนายพลกับคุณหญิงพรรณรายค่ะ ไม่ได้มีคุณนิกกี้มารับนะคะ โปรดเข้าใจด้วยค่ะ”
พูดจบแหววก็ปราดหายไปทันที เจตรินถือกุญแจค้างในมือ เขานึกถึงภาพในมือถือเป็นภาพอีริน่ากำลังก้าวขึ้นรถคันหรู มีชายไม่เห็นหน้าท่าทางดีกำลังเปิดประตูให้ เจตรินบ่นเบาๆ
“แล้วภาพนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง”
จีรณัทย์เดินเข้ามาบอก
“หน้าที่ของเธอต้องไปถามกันเอาเอง บอกแล้วไงว่าถ้าไม่รักไม่ต้องการอีริน่า เจตก็ปล่อยเธอไป แต่ถ้าไม่อยากปล่อยเธอไป ถามไถ่กันดีๆแล้วชีวิตเธอกับอีริน่าจะสงบสุข”
“แต่อารดากำลังคุกคามผมและครอบครัวเรา”
“อีริน่าช่วยได้ พี่จัดการเอง”
จีรณัทย์ดึงกุญแจมาจากเจตริน แล้วไขเข้าไปให้ ผายมือให้น้องชายเข้าไป
“ความรักของพี่คงสมหวังยาก แต่ความรักของเจตสมหวังแล้ว อย่าทำลายสิ”
จีรณัทย์ดันเจตรินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูให้เบามากๆ จีรณัทย์มองตามยิ้ม

อีริน่านั่งเอนตัวในอ่างอาบน้ำมีฟองสบู่ฟูเต็ม เธอสบายใจร้องเพลงเบาๆ
“สบายใจจริงๆ แม้ว่าเวลาของความสบายใจจะน้อยนิดก็ยังดีกว่าไม่มีซะเลย”
อีริน่าร้องเพลงแล้วหาวนอนไปด้วย เพราะเหน็ดเหนื่อยมาก...เจตรินยืนเงียบๆกลางห้อง กวาดตามองหาอีริน่ารอบห้องไม่เห็น เขายืนคิดว่าเธออยู่ไหน เจตรินเดินไปชะโงกตรงโน้นตรงนี้ก็ไม่มี
“ไปหลบอยู่ที่ไหน หรือว่าปีนหน้าต่างหนีออกไปแล้ว ยิ่งสามารถผาดโผนโจนทะยานเก่งนัก”
เจตรินชะโงกมองไปมาไม่เห็นอีริน่าบ่นกับตัวเอง
“อาบน้ำดีกว่า”
เจตรินเดินตรงไปทางห้องน้ำ

อีริน่าเผลอหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำ นอนอ้าปากหวอหลับสนิทหน้าแลบมานิดเดียวเพราะฟองสบู่ติดอยู่แถวหน้าถ้าไม่สังเกตมองจะไม่เห็น...เจตรินอยู่ในห้องเสื้อผ้าเปลี่ยนเสื้อผ้านุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วบ่นเบาๆ
“อาบน้ำเสร็จจะออกไปตามหาอีริน่า หรือว่าแอบนัดใครให้พาไปไหนอีก”
เจตรินผิวปากเดินออกจากห้องแต่งตัวไป

คุณหญิงศรินทิพย์นั่งเคียดแค้นอีริน่าอยู่ในห้องนั่งเล่น เพราะต้องแกล้งทำดีใส่อีริน่าตบตาเจตริน
“แม่กำลังจะกระอักออกมาเป็นเลือด”
“แล้วทำไมคุณแม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่ถือสาหาความอีนังโสเภณีข้างถนนนั่นด้วย ทำไมกันคะ” จิตรดาราถามอย่างไม่พอใจ
อารดาหงุดหงิดมาก
“มันดวงแข็งมาก เราจัดการมันสารพัดอย่าง ตั้งแต่มันมาอยู่ที่นี่เป็นเดือนแล้ว เราทำอะไรมันไม่ได้เลย”
คุณหญิงยิ่งคิดยิ่งแค้น
“แถมยิ่งนานวัน ตาเจตก็ยิ่งหน้ามืดตาพร่า ลืมหูลืมตาไม่ขึ้นอยากให้มันตายไปเลย เรื่องจะได้จบ หนูดามีใครที่จะฆ่ามันได้ไหม”
จิตรดาราเห็นด้วย
“คุณแม่พูดถูกค่ะ มันสมควรตาย เพราะมันจดทะเบียนกับพี่เจต สมบัติของพี่เจตก็เหมือนสมบัติของมัน พวกเราได้อะไรเชอะ ถ้าพี่เจตไม่หยิบยืนให้ก็อด มีแค่บางส่วนจากหุ้น”
“ไม่พอให้น้องจิตถลุงหรอกจริงไหมคะ” อารดาแดกดัน
จิตรดาราฉุนกึก
“รำคาญ...อยู่บ้านเจอแต่คนกัด ไปหาอะไรทำสนุกๆนอกบ้านดีกว่า”
จิตรดารากดมือถือหาพงษ์ธร
“ไม่ว่างอีกแล้ว”
อารดากำลังรับสาย พูดเบามากหันมามองจิตรดารากับคุณหญิงอย่างระแวง แล้วเดินหนีห่างไป
“เธอทำงานพลาด นังอีริน่าลอยนวลลอยชายไปมาตามสบายที่นี่ต่อไป...อะไรนะ อยากพบฉันด่วน...ไม่ว่าง”
พงษ์ธรออกคำสั่งและขู่
“ต้องว่าง ต้องเอาเงินค้าจ้างมาจ่ายให้ผมตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าไม่ทำ ผมมีคลิปเสียงที่คุณสั่งการให้ผมไปจัดการอีริน่า”
พงษ์ธรกดวางสาย เขมชาติยกนิ้วให้
“สุดยอดแมงดา”
“ชักรำคาญอีนี่ว่ะเขม แกอยากได้เอาไปขายทีวะ”
เขมชาติยกนิ้วให้อีกรอบ

เจตรินนุ่งผ้าเช็ดตัวยืนแปรงฟัน ล้างหน้าสบายอารมณ์ คิดหาทางแกล้งอีริน่าให้สาสมเสร็จแล้วก็หันมาที่อ่างล้างหน้ามองเห็นน้ำเต็มอ่างมีฟองสบู่ฟูน่าอาบ แต่ไม่เห็นอีริน่าเพราะตัวอีริน่าเลื่อนต่ำลงไปแถมมีฟองสบู่ปิดอยู่
“ใครมาเตรียมน้ำให้เราอาบ...อีริน่าหรือนี่...นิสัยดีขนาดนี้เลยหรือ”
เจตรินเอามือผ่านฟองสบู่ลงไปสัมผัสน้ำในอ่าง
“น้ำยังอุ่นๆอยู่ แสดงว่าอีริน่าเพิ่งทำไว้ให้เราจริงๆ คงจะประจบเอาใจกลัวเราโกรธ...น่ารักดีจริงๆ”
มือเจตรินปลดผ้าเช็ดตัวหล่นไปกองที่เท้า เจตรินก้าวเข้าไปในอ่างทีละข้าง อีริน่ากำลังหลับสบายแล้วสะดุ้งตกใจมาก ลืมตาโต
“อะไรมาตะครุบเท้าเรา”
เจตรินอยู่อีกฟากของอ่างลืมตาโตยกเอาเท้าของอีริน่าลอยสูง เหนือฟองสบู่เท้าเกือบจะทิ่มหน้าเขา
“เท้าของใคร”
อีริน่า กรีดร้อง
“อ๊าย...”
เจตรินโวยวาย
“เฮ้ย”
เจตรินกับอีริน่า ลุกยืนประจันหน้ากันกลางอ่างอาบน้ำ
“คุณเจต”
“อีริน่า”
อีริน่าระดมทุบหน้าอกของเขา เจตรินปัดป้องไปมา

คุณหญิงศรินทิพย์ อารดา จิตรดาราแห่มาหน้าห้องเจตริน
“แม่จะอกแตกตายครั้งที่ห้าร้อยในรอบวัน นี่มันอะไรกัน ส่งเสียงกรีดร้องราวกับเปรต”
“พี่เจตก็ไม่น้อยหน้านะคะ ส่งเสียงโวยวายดังพอกับมัน” อารดาหงุดหงิด
“ประเจิดประเจ้อกันเกินไปแล้ว” จิตรดาราไม่พอใจ
“จะทำยังไงกับมันดี แม่ไม่ไหวแล้วนะ” คุณหญิงเครียด
“เข้าไปดูเลยค่ะ” จิตรดาราแนะ
“ค่ะ แล้วจะเข้ายังไงคะ ถีบประตูดีไหมคะ” อารดาเห็นด้วย
จีรณัทย์เข้ามา
“ทำไมต้องหยาบคายขนาดนั้น มันที่รโหฐานของสามีภรรยา”
แหววมายื่นกุญแจแล้วไขห้องให้
“แบบนี้สุภาพชนเขาทำกันค่ะ เชิญค่ะ”
คุณหญิง จิตรดารา อารดา พากันเข้าไป แหววหันมามองจีรณัทย์ที่ส่ายหน้าเซ็ง
“ฉันจะไปนอน ปวดหัวมาทั้งวันแล้ว”

จีรณัทย์เดินจากไป

อีริน่ากับเจตรินกำลังยืนเถียงกันหน้าดำหน้าแดง ชี้หน้าจิ้มหน้ากันลืมไปว่ากำลังเปลือยทั้งคู่
“อีริน่าอาบอยู่ก่อนนะ”
“ใครจะไปรู้ ใครใช้ให้มานอนหลับคาอ่างน้ำ”
อีริน่าจิ้มหน้าอกเจตริน
“ก็คนมันเหนื่อยนี่นา เผลอหลับไปมันผิดด้วยหรือ”
อีริน่าผลักอกเจตริน
“มันไม่ผิดแต่มันอันตราย ไม่รู้หรือว่าถ้าจมน้ำลงไปก็ตายคาอ่าง”
เจตรินจะผลักอกอีริน่าแล้วยั้ง
“อย่ามาล่วงเกินกันนะ”
เจตรินยกมือ
“เอาละ จบ...พอ”
“คุณออกไปสิ”
“ก็หลับตาสิ”
“ต่างคนต่างหลับตาสิ”
สองคนต่างหลับตา

คุณหญิงศรินทิพย์ อารดา จิตรดารา พากันเดินเข้ามาได้ยินเสียงเถียงกันในห้องน้ำ คุณหญิงพยักหน้าเข้าใจ
“ที่แท้มันทะเลาะกับลูกเจต”
“ดาจะเข้าไปช่วยพี่เจตด่ามันค่ะ”
“จิตก็จะไปช่วยพี่เจตเล่นงานมันคะ ทำยังกับเป็นเจ้าของบ้าน ส่งเสียงกรี๊ดซะจนเข้าใจผิดกันไปหมด”
“แต่แม่จะไปยืนดูเฉยๆ แม่ต้องทำตัวเป็นกลาง”
สามคนเดินลุยเข้าไปในห้องน้ำแล้วต้องตกตะลึงพรึงเพริด รีบเอามือปิดปากปิดตา
“อ๊าย”
เจตรินกับอีริน่าตกใจที่กำลังสะบัดแง่งอนใส่กัน รีบโผเข้ากอดกันเอาไว้
“ว๊ายๆ”
เจตรินหันไปถามอย่างตกใจ
“เข้ามาทำไมกันน่ะ”
“ผ้า...ผ้าเช็ดตัว” อีริน่ารนราน
เจตรินก้มลงไปหยิบผ้ามาปิดตัวเองและอีริน่าใช้ผ้าผืนเดียวกันมองไปที่สามคน คุณหญิง อารดา จิตรดารา โกรธมาก เจ็บใจมาก
“นี่บ้านผู้ดีนะลูกเจต ทำไมลูกพยายามทำให้บ้านเรากลายเป็นซ่องโสเภณี” คุณหญิงด่าทันที
“ก็พี่เจตเขาคบโสเภณีนี่คะคุณแม่ ก็เลยติดนิสัย” อารดาเสริม
“เห็นแล้วสะอิดสะเอียด พี่เจตช่างทำไปได้” จิตรดาราเบ้หน้าเหยียด
เจตรินมองทั้งสาม
“นี่มันห้องส่วนตัวของเราสองคน ควรหรือที่ใครจะแห่กันบุกรุกเข้ามาแล้วมาต่อว่าต่อขานการกระทำของเราในฐานะสามีภรรยา เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะครับคุณแม่”
“แม่ไม่ได้อยากจะเข้ามาหรอก แค่จะเข้ามาห้ามสองคนนี่ ว่าอย่าจุ้นจ้านกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น หนูดา ลูกจิตไปได้แล้ว”
“ขอบคุณมากครับ”
สามคนหันกลับออกไปด้วยสีหน้าอยากจะฆ่าอีริน่า อีริน่ากระชากผ้ามาห่มตัวเองคนเดียว แล้วผลักเจตรินลงไปในอ่าง
“อีริน่าอาบเสร็จแล้ว เชิญอาบต่อไปตามสบาย แต่ขอบอกเมื่อสักครู่ตกใจเสียงประสานกันกรี๊ดของสามคนนั้นจนฉี่ราด”
อีริน่าก้าวออกมาจากอ่างมีผ้าพันตัวยิ้มๆ
“เฮ้ยอีริน่า หยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ผมด้วย”
อีริน่าส่ายหน้าเดินไปไม่สนใจ

เขมชาติกับพงษ์ธร มารออารดาอยู่ที่นัดพบ
“แกแน่ใจนะว่ายัยดาคนนี้จะมาแน่”
“มาสิ ดาติดค้างฉันหลายอย่าง ทั้งเรื่องให้ปอกลอกจิตรดารา และมาตอนนี่เรื่องทำลายอีริน่า งานแรกน่ะไม่คิดเงิน เพราะฉันมีแต่ได้กับได้ แต่งานหลังนี่สิฉันเสี่ยงตายมาก ดาต้องทดแทนให้ฉัน”
“แกว่ายัยนี่จะง่ายๆจนจะยอมให้ฉันขยี้ขยำเล่นเหมือนยัยเมหรือเปล่า เพราะเท่าที่ฟังแกบอกมา นี่มันนางมารร้ายหมายเลขหนึ่งแท้ๆ”
“แต่แกมันซุปเปอร์แมงดานะโว๊ย เฮ้ยมาแล้ว ปั้นปึ่งมาเลยว่ะ พิษริษยามันกำลังกำเริบแน่ๆ HI…ดา”
อารดาชะงักเมื่อเห็นเขมชาติ
“ไม่รู้ว่าจะมีนายเขมมาด้วย ฉันกลับละ”
อารดาหันกลับ กลัวเขมชาติจะรู้เรื่อง
“เดี๋ยวก่อนสิดาอย่าวู่วาม เอาค่าจ้างมาให้ผมหรือเปล่า เพื่อที่จะใช้หายหน้าไปจากสังคมนิยมไฮโซสักพัก”
“แล้วงานของฉัน นายจะมาทิ้งกลางคันไม่ได้นะ”
“ไม่ได้จะทิ้ง แต่ฉันฆ่าคนตายนะดา จะมาลอยหน้าลอยตาไหวหรือ”
“ผมก็เลยอาสามารับช่วงต่อให้พงษ์เขา เพราะเขาไม่สบายใจที่ทำให้คุณดาผิดหวัง” เขมชาติยิ้ม
อารดามองหน้าเขมชาติแล้วถาม
“ไหนคุณเขมพายัยเมไปมอสโคว ทำไมกลับมาแล้ว เร็วไปไหมคะ”
เขมชาติชะงัก
“อ้อ...คือคุณเมเขาไม่สบายป่วยกะทันหันครับ เลยยกเลิกทันที แต่ก็จะไปกันใหม่ เชิญคุณดาไปด้วยกันหลายๆคนสนุกดีออกนะครับ”
“ดาไปมาแล้วค่ะ ไม่สนุก ไม่ชอบ”
เขมชาติมองหน้าพงษ์ธร
“ขอตัวไปรับสายคุณจิตรดารา สักครู่ครับ”
พงษ์ธรเดินออกไป เขมชาติมองอารดาแอบหมั่นไส้
“เรามาเริ่มคุยกันเรื่องของอีริน่ากันเลยนะครับ”
“ค่ะ”
เขมชาติเริ่มพูด อารดารับฟัง

พงษ์ธรแอบมาพบจิตรดารา เธอสั่งเขาเช่นเดียวกับที่อารดาสั่งให้เล่นงานอีริน่า
“จิตอยากให้พงษ์จัดการผู้หญิงสองคน”
“ที่รักอยากสั่งอะไรบงการมาเลยค่ะ”
“ทำลายนังงูเห่าอารดา ทำร้ายนังอีริน่าให้ถึงตาย”
“โอเคครับ แต่มันน่าจะยากมากนะครับสำหรับอีริน่า แต่สำหรับอารดาไม่น่ามีปัญหา ผมจัดการให้ที่รักแล้ว แต่ต้องมีค่าจ้างให้เขา”
“เท่าไหร่คะ”
“หนึ่งล้านบาท”
“แต่จิตเพิ่งรูดการ์ดจองคอนโดไปสองล้าน และจะถูกตัดบัญชีในบัตรเครดิตอีกเดือนละล้านไปสิบเดือนนะคะ เงินสดของจิตก็ร่อยหรอ จิตสำรองจ่ายให้คุณไปหลายล้านแล้ว”
“ก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องพวกนี้ ลืมมันไปเถิดนะคะที่รัก”
พงษ์ธรมองแหวนเพชรในนิ้วของจิตรดาราตาเป็นมัน แหวนเพชรเม็ดใหญ่พอสมควร จิตรดารายกแหวนมามองแล้วมองหน้าพงษ์ธร
“ค่ะ” จิตรดาราถอดแหวนส่งให้ “ค่าจ้างให้จัดการนังวัชพืชอารดา มันรกบ้านแถมจะเบ่งบานงอกงามล้นบ้านมากขึ้นทุกวัน ส่วนนังอีริน่าให้มันหายไปจากโลกได้ไหมคะ”
พงษ์ธรอึ้งพูดไม่ออก

เจตรินกับอีริน่ายืนจ้องหน้ากันอยู่คนละฟากด้านข้างของเตียง
“ขึ้นเตียงสิ”
“พูดจาน่าเกลียด มาสั่งให้ผู้หญิงขึ้นเตียง”
“ก็เห็นไม่คล่องภาษาไทยก็เลยใช้คำพูดง่ายๆ หมายความว่าไปนอน”
“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณเจตขึ้นเตียงสิ”
“ตกลง...ขึ้นเตียงด้วยกัน”
“ไม่...อีริน่าจะนอนข้างเตียง”
พูดจบอีริน่ากระชากหมอนหนีบไว้ข้างตัว
“โอเค...ผมก็จะนอนข้างเตียง”
พูดจบเจตรินกระชากหมอนหนีบไว้ข้างตัว สองคนจ้องหน้ากัน พูดพร้อมกัน
“ตามใจ”
แล้วทั้งสองต่างก็โยนหมอนลงพื้นเอาสองมือดึงผ้าห่มผืนเดียวกันด้วยสองมือกลายเป็นชักคะเย่อผ้าห่มกันไปมา
“อีริน่าจะเอาผ้าห่ม”
“ผมก็จะเอาผ้าห่ม”

เจตรินออกแรงมากๆ อีริน่าก็ล้มมาบนเตียง เธอลงจากเตียงกระชากผ้าห่มแรงๆ จนเจตรินผวาล้มมาบนเตียง สองคนต่างลงจากเตียงมาชักคะเย่อกันต่อ ดึงกันไปดึงกันมาอย่างเอาจริงเอาจัง

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์แค้นใจไม่หาย ที่ได้เห็นความใกล้ชิดระหว่างเจตรินกับอีริน่า
“ยิ่งกีดกันมันยิ่งใกล้ชิด อีกหน่อยมันต้องมีลูก พอมันมีลูก เราต้องเผลอใจไปรักลูกของมัน โอ๊ย...มันต้องมีอำนาจเหนือเรา เพราะเราดันไปเห็นแก่หลาน ไม่ได้เราต้องเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง เราต้องเอาลูกมันไว้ ไสหัวแม่มันไป”
คุณหญิงกลัดกลุ้มนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงตึงตังดังมาจากห้องของเจตริน
“โอ๊ย” คุณหญิงเอามือปิดหู “ลูกเจตกลายสภาพจากลูกชายผู้สงบเสงี่ยมเป็นกุ๊ยไปแล้ว ทำอะไรกันตึงตังโครมคราม ไม่รู้จักอับอาย”
คุณหญิงคุ้มคลั่ง แล้วพยายามคิดว่าจะทำยังไงดีที่เอาชนะอีริน่า

เขมชาติแอบยิ้มหมายมั่นปั้นมือ อารดาพะวงว่าทำไมพงษ์ธรหายไปนานมาก
“ตั้งแต่พบเจอผู้หญิงไฮโซมา ผมว่าคุณดานี่แหละครับสง่างามที่สุด”
“ขอบคุณมากค่ะ เอ้อ...ทำไมพงษ์หายไปนานจังแค่ไปคุยโทรศัพท์กับน้องจิต”
“สองคนนั่นเขาติดกันมาก ผมว่าป่านนี้คุณน้องจิตเธอคงไม่ได้แค่โทรมาหาหรอกครับ มาทั้งตัวทั้งไอโฟน”
“พงษ์เลยทิ้งดาหรือคะ”
“ไม่ได้ทิ้งหรอกครับ เขาทิ้งผมไว้ให้รับใช้คุณดาต่างหาก”
“เราสองคนพูดเข้าใจกันดีแล้วเรื่องที่คุณเขมรับงานต่อจากพงษ์ ฉันจะกลับ”
“ดื่มยังไม่หมดเลยครับ”
เขมชาติส่งแก้วที่อารดาดื่มเหลือมาให้ด้วยท่าทางสุภาพอ่อนโยนแต่แอบยิ้มร้าย

อีริน่ากับเจตรินยังคงดึงผ้าห่มกันไม่เลิก เจตรินมีแรงมากกว่าแต่แกล้ง ดึงกลับไปกลับมาแกล้งแพ้บ้าง
“เหนื่อยหรือยัง”
“ไม่มีวันเหนื่อย จนกว่าจะชนะ ไม่ต้องออมแรงสิคะ”
“ได้เลย” อีริน่ายิ้มเจ้าเล่ห์
เจตรินกระชากโดยแรง อีริน่าปล่อยมือจากผ้าห่มทันที เขาเสียหลักหงายลงไปที่พื้นอีกข้าง
“โอ๊ย”
อีริน่าเท้าเอวมองขำมาก
“ไงล่ะ ไหนว่าเก่ง ชนะแล้วร้องโอ๊ยทำไมไม่ทราบ”
“โอ๊ยหัวผม หัวผม ตาพร่า ตาลาย ผมมองไม่เห็น เป็นเพราะหัวกระแทกแรงไปกระทบก้านสมอง”
“คุณเจต” อีริน่าตกใจ
“ทำไมผมมองอะไรไม่เห็นแล้ว” เจตรินร้องครางไม่เลิก
“คุณเจต”
อีริน่าผวากระโดดข้ามเตียงไปหาทันที เจตรินนอนยิ้มปากตะโกนอยู่ จนอีริน่ากระโดดมาทับกลางตัว
“อีริน่า”
เจตรินแกล้งต่อ
“อะไรน่ะอะไรหล่นมาทับกันน่ะ”
“คุณเจต โธ่คุณเจต นี่อีริน่าเอง ไม่นะคะ ไม่นะคะ”
อีริน่าพลิกตัวไปอยู่ข้างๆเขา ก้มหน้าลงไปมอง
“อีริน่าหรือนึกว่า ลูกหมาอ้วนที่ไหนตกมาใส่”
เจตรินแกล้งทำสะเปะสะปะคลำหน้าตาของเธอ อีริน่ายิ่งใจเสีย ก้มลงไปอีก
“มองอีริน่าสิคะ หน้าของอีริน่าอยู่ตรงหน้าคุณเจต มองสิคะเห็นอีริน่าไหมคะ”

จิตรดารากับพงษ์ธร อยู่ที่เดียวกับอารดาแต่คนละมุม...พงษ์ธรโอบกอด จิตรดาราอิงแอบเขามีความสุข พงษ์ชี้ให้ดูอารดากำลังโดนเขมชาติหลอกล่อ
“ดูนั่นสิที่รัก ไอ้เขมกำลังหลอกล่ออารดา คุ้มค่ากับแหวนเพชรที่จะจ่ายค่าตัวให้มันจะตายไป ได้กำจัดขยะพิษที่รกบ้าน”
“คืนนี้สำเร็จเลยหรือเปล่าคะที่รัก”
“ก็ต้องดูไปก่อน เพราะมันแค่วันแรก อาจต้องใช้เวลานะคะที่รัก ปล่อยสองคนนั่นไปเถิด มาพูดเรื่องของเราดีกว่า ตำแหน่งผู้จัดการที่ว่างอยู่คุณแม่ว่ายังไงคะ”
จิตรดาราพูดไม่ออก

อีริน่ายังคงพยายามจะช่วย แต่เจตรินยังสนุกในการแกล้งต่อไป
“โธ่คุณเจต อีริน่าจะไปเรียกพี่จีมาช่วยคุณเจตนะคะ”
“อย่าเพิ่งไป”
เจตรินดึงมืออีริน่าที่กำลังจะผละไป
“ทำไมคะ คุณเจตต้องการหมอ คุณเจตต้องไปหาหมอนะคะ”
“ถึงไปหาหมอตาผมก็อาจบอดไปตลอดชีวิต หมดสิทธิ์เห็นอีริน่าอีกต่อไป”
“ถ้าคุณเจตต้องตาบอดตลอดชีวิต อีริน่าจะอุทิศตาข้างหนึ่งให้คุณกลับมามองเห็นอีริน่าได้อีกครั้งค่ะ”
เจตรินซาบซึ้งกับคำพูดของเธอ ดีใจที่อีริน่าช่างมีน้ำใจ
“อีริน่า...ทำไมพูดอย่างนั้น อีริน่าสุดสวยและงดงามมากรู้ตัวไหม ทำไมอีริน่าจะต้องยอมตาบอดเล่าทำไม”
“เอ้อ...อีริน่าห่วงคุณเจต อีริน่าไม่ต้องการให้คุณตาบอดนี่คะ”
“มันต้องมีเหตุผลอื่นสิ ว่าทำไมถึงห่วง ถึงไม่ต้องการให้ผมตาบอด”
“คิดเอาเองสิคะว่าทำไม”
“คิดเองเออเอง ถ้ามันไม่จริงเล่าครับ ผมต้องการได้ยินจากปากอีริน่าว่าเพราะอะไร”
“เพราะ...เอ้อ...อีริน่า...”
อีริน่าพูดไม่ออกรำพึงในใจ…รักคุณค่ะ...
“อย่าพูดในใจสิอีริน่า พูดออกมาให้ผมได้ยิน โอย...ปวดหัว ปวดตาไปหมดแล้วโอย”
อีริน่าตกใจ
“อีริน่ารักคุณเจตค่ะ”
เจตรินดีใจที่สุด
“ผมก็...”
เจตรินชะงักรำพึงในใจ…รักอีริน่า...
ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงสมรเคาะประตู เจตรินยังไม่ทันได้บอกรักอีริน่า
“คุณเจตขา คุณหญิงหกล้มหน้าฟาดพื้นหมดสติไปแล้วค่ะ”
เจตรินกับอีริน่าตกใจมาก
“คุณหญิง”
เจตรินลุกพรวด
“คุณแม่”
“คุณเจต”
อีริน่าตกใจ คิดออกว่าโดนเขาหลอกไปเต็มๆ
“เราโดนหลอกให้บอกรักคุณเจต”
อีริน่าลุกบ้าง วิ่งตามออกไป
“ต้องเรียกรถพยาบาล”
อีริน่าจะไปเรียกรถพยาบาล

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์นอนคว่ำหน้าอยู่ในห้อง มีหวินนั่งใกล้ๆกำลังเอาน้ำแดงเทใส่ที่ปาก และจมูก
“อีบ้า...อย่าเทมาก ฉันสำลักหายใจไม่ออก”
“แหมแค้นนี้ต้องอดทนค่ะคุณหญิง ขืนใส่น้อยไปมันไม่สมเหตุสมผลค่ะ คุณเจตฉลาดเป็นกรด นังคุณอีริน่าก็สาระแนจับผิดเก่งออกจะตายไปค่ะ ครางด้วยค่ะ ครางปานจะขาดใจตายในบัดดลค่ะ”
เจตรินวิ่งนำหน้าสมรเข้ามา มีจีรณัทย์ตามเข้ามาติดๆ
“คุณแม่”
“คุณแม่ขา”
“คุณหญิงตายแล้ว”
“ไม่ใช่แต่ก็ใกล้แล้ว”
เจตรินรีบเข้าไปช้อนตัวคุณหญิงขึ้นมา น้ำแดงไหลย้อนเข้าปากเข้าจมูก คุณหญิงสำลักไอแค็กๆ
“คุณแม่สำลักเลือดแล้ว คุณแม่ขา” จีรณัทย์ร้องไห้โฮๆ
“ไม่นะครับคุณแม่ ไม่นะครับ ไปบอกคนรถเอารถมารอเดี๋ยวนี้” เจตรินตกใจ
อีริน่าเดินตามเข้ามา
“อีริน่าเรียกรถพยาบาลมาให้แล้วค่ะ”
“ว๊าย” คุณหญิงตกใจเผลอตัวรำพึงในใจ...อีนังสาระแน...
เสียงรถหวอดังแว่วมา และใกล้มาเรื่อยๆ เจตรินช้อนตัวคุณหญิง จีรณัทย์ช่วยจับทางด้านเท้า หวินยื่นหน้ามากระซิบคุณหญิงที่ทำปากขมุบขมิบด่าอีริน่า
“เลยตามเลยค่ะ เนียนไว้ก่อนค่ะคุณหญิง”
เจตรินอุ้มแม่ออกไป อีริน่ามองเป็นห่วง คุณหญิงพึมพำ
“อยากจะตบให้หน้าหัน”

อารดาหงุดหงิดมาก แล้วนึกขึ้นมาได้กดโทรศัพท์หาเมทินี
“ฉันจะโทรหาเมว่าเป็นยังไงบ้าง”
เขมชาติวางหน้าไม่ถูก
“เอ้อ...ผมว่า...”

อารดาไม่สนใจ กดโทรศัพท์หาเมทินีทันที

เมทินีอยู่ในบ้าน มือถือดังขึ้นเป็นเบอร์ของอารดา
“ดาโทรมา”
เมทินีคิดแล้วตัดสินใจรับ
“ฮัลโหลดา”
“ทายสิว่าฉันอยู่กับใคร”
เมทินีพูดเนือยๆ
“ลลิตาหรือ”
“ผิดฉันอยู่กับแฟนแก คุณเขม”
เมทินีตกใจมากแผลดเสียงเขียวใส่
“แกต้องหลีกให้ห่างผู้ชายคนนี้ให้ไกลที่สุดนะ”
อารดาแปลกใจเข้าใจผิดคิดว่าเมทินีหึงหวง
“แกอย่ามาบ้า เข้าใจฉันผิดคิดว่าจะฟันแฟนแก แกก็รู้ว่าเป้าหมายฉันอยู่ที่พี่เจตคนเดียวเท่านั้น”
“แกเข้าใจผิด ฉัน ฉันเพียงแค่อยากให้แกระวังตัว”
“อีเพื่อนบ้าทำไมฉันต้องระวังตัวกับแฟนแก ถามจริงแกกำลังมีปัญหาเพราะหึงหวงคุณเขมเกินไปแน่ๆ บอกอีกครั้ง ฉันไม่แย่งแฟนแกแน่”
“ดีแล้ว แต่แกก็ควรอยู่ให้ห่างๆเขา กลับบ้านไปเถิดนะดา กลับไปซะ”
“หึงไม่เข้าท่า”
อารดาไม่พอใจมาก เมทินีตัดสาย อารดาหน้าหงิกมองหน้าเขมชาติ
“เอ้อ...คือเมอาจพูดอะไรผิดหูคุณดาใช่ไหมครับ”
“มันพูดเหมือนหึงหวงคุณเขมค่ะ ฉันจะไปหาเมที่บ้าน”
“เอ้อ...ครับ คือผมอยากจะไปหาเมที่บ้านไปง้องอน แต่เธอไม่รับสายผม ถ้าคุณดาจะกรุณาเห็นแก่ความรักของผมที่มีต่อเพื่อนของคุณ ช่วยผมสักนิด”
“ช่วยอะไรคะ”

ในห้องครัวบ้านเจตรินไฟปิดมีแสงสลัวๆ...หวินกำลังย่องมามองซ้ายมองขวา เอาขวดน้ำแดงที่ผสมให้เป็นเลือดมาทิ้งถังขยะ ทันใดนั้นไฟเปิดสว่างจ้าขึ้นมา หวินตกใจมากทำขวดน้ำแดงที่ยังมีน้ำแดงตกค้างตกแตกกระจาย
“ว๊าย…ตาเถร”
อีริน่าเป็นคนเปิดไฟมองที่น้ำแดงแตกกระจาย
“ฉันเอง ไม่ใช่ตาเถร”
“โง่” หวินพึมพำ
“นั่นขวดน้ำแดง ยังมีน้ำแดงอยู่ ทำไมเอาไปทิ้ง ทำไมไม่เอาเก็บไว้กิน”
“อยากกินมากใช่ไหม ยกให้แต่มันตกพื้นไปแล้ว ถ้าลิ้นคุณหนาก็เชิญก้มลงไปเลย เชิญกินตามสบายจะได้ไม่ต้องเก็บให้เสียเวลา กินให้หมดให้สะอาดละกัน”
หวินทำท่าจะเดินวางท่าจะออกไปอีริน่าขวางไว้
“นั่นมันน้ำแดงผสม ผสมไปทำไม”
“เป็นแม่หรือว่าเป็นนาย ฉันไม่ใช่ลูกไม่ใช่บ่าวอย่ามาสอบสวน”
“เป็นภรรยาเจ้าของบ้านที่เธออาศัยอยู่ มีสิทธิ์จะรู้เห็นว่าคนที่มาอาศัยชายคาบ้านอยู่ทำอะไรปกติดีหรือว่ามีพิรุธ”
หวินหน้าเสียนิดหนึ่งแล้วพาล
“เรื่องของฉัน ฉันไม่ได้ขึ้นตรงเป็นคนของเธอ อย่ามาวุ่นวาย...หลีก”
“ไม่หลีกจนกว่าเธอจะบอกว่าทำไม ต้องเอาน้ำแดงผสมที่กินไม่หมดไปแอบทิ้ง”
“จะเอาเรื่องให้ได้ใช้ไหม วันนี้อีหวินขอสู้ตาย”
หวินเงื้อมือจะผลักอีริน่า แต่มีไม้กวาดมอมแมมยื่นมาที่หน้าของหวิน แหววเป็นคนยื่นนั่นเอง
“ด้วยอิทธิฤทธิ์ของไม้กวาดวิเศษ พอบอกได้ว่าหมาขี้เรื้อนปลอกคอแหว่งตัวนี้เอาน้ำแดงนี่ไปทำอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลค่ะคุณอีริน่า”
“นังแหวว แกอย่ามาใส่ร้าย” หวินแว๊ดใส่
แหววแบมือที่กำผ้าเช็ดเลือดสีแดงจากในห้องคุณหญิงศรินทร์ทิพย์ออกมา แล้วเดินเทียบกับน้ำแดงที่หกลงพื้น
“สีเดียวกันเปี๊ยบ”
แหววก้มลงไปดม
“กลิ่นเดียวกันเลย เลือดกับน้ำแดง”
อีริน่า มองหวินที่วางหน้าไม่ถูก
“ทำไมเลือดคุณหญิงกลิ่นเดียวกับน้ำแดงของเธอหวิน”
อีริน่าเดินมาใกล้หวิน แหววเดินมาจากด้านหลัง ชูผ้ากับนิ้วที่แตะน้ำแดงให้ดู

คุณหญิงศรินทร์ทิพย์นอนสงบนิ่งที่โรงพยาบาล ใจคอไม่ดี มีเจตรินกับจีรณัทย์อยู่ข้างๆ จีรณัทย์ยังร้องไห้เงียบๆ หมอเดินยิ้มเข้ามา
“ผมมาแจ้งอาการป่วยของคุณหญิงครับ”
คุณหญิงพึมพำ…อย่านะหมอ...
เจตรินกับจีรณัทย์รุมเข้าไปหาหมอ
“คุณแม่ปลอดภัยหรือยังครับ”
“คุณแม่เป็นอะไรคะ”
“ท่านสำลักน้ำแดงครับ”
“สำลักน้ำแดง” สองคนตะลึง
“คงเป็นเพราะอายุมากแล้ว การดื่มอย่างรีบร้อนเกินไป และดื่มแรงเกินไปน้ำเลยเข้าไปในหลอดลมจนสำลัก และท่วมเข้าไปในปอดครับ ทำให้ท่านหายใจไม่สะดวก ไม่มีอะไรและไม่น่าเป็นห่วงแล้วครับ พักคืนเดียว พรุ่งนี้เช้ากลับบ้านได้ครับ”
สองคนพี่น้องโผเข้ากอดกันโล่งใจ

อีริน่ากับแหววจ้องหวินรอเอาคำตอบ
“ว่ายังไงหวิน” อีริน่าคาดคั้น
“พูดความจริงมานังหวิน” แหววเสียงเข้ม
ศรีเดินมาดีใจตบอกลูบอก
“โล่งอก...คุณหญิงท่านปลอดภัยแล้ว ท่านสำลักน้ำแดงน่ะ”
อีริน่ากับแหววชะงักกึกพูดพร้อมกัน
“สำลักน้ำแดง”
“แล้วทำไมหมอนมาตะโกนบอกว่าคุณหญิงล้มหัวฟาด” อีริน่าถามอย่างสงสัย
“ก้อ ก็นังหมอนพูดไม่ใช่ฉันพูด” หวินเฉไฉไป
“แกกับนังหมอน ร่วมมือกันจับคุณหญิงกรอกน้ำแดง” ศรีชี้หน้าหวิน
แหววก็ชี้หน้าด้วย
“แกจะฆาตกรรมอำพรางคุณหญิงด้วยน้ำแดง แจ้งความเลยค่ะคุณอีริน่า”
หวินกับสมรโบกมือห้าม
“อย่านะ”
“บอกความจริงก็ได้ คุณหญิงเรียกเราสองคนไปปรึกษาว่า...”
อีริน่าเข้าใจทันที โบกมือห้าม
“พอแล้ว”
“ฟังให้จบสิยะจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นต้นคิด” หวินแย้ง
อีริน่าจ้องหน้า
“เธอสองคนอย่ากินบนเรือนถ่ายบนหลังคา อย่ามาใส่ร้ายคุณหญิงนะจำไว้ อย่าได้เอาเรื่องนี้ไปพูดที่ไหน รีบไปได้แล้ว”
หวินกับสมรมองหน้ากันแล้วพยักหน้าพากันออกไป แหววไม่เข้าใจ
“คุณอีริน่าขา ทำไม”
“ทำไมหรือ เพราะว่าสองคนนั่นปากมาก ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีน้ำใจนักกีฬาพอหมดท่าก็จะประจาน แล้วต่อเติมเสริมแต่งให้เสียหายมากขึ้นเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นคนถูกต้อง”
แหววพยักหน้าเห็นด้วย
“คุณอีริน่า รู้กระจ่างจริงๆ”
“ไม่โกรธคุณหญิงหรือคะ ท่านเกลียดคุณอีริน่ามาก” ศรีถามอย่างแปลกใจ
“อีริน่ากำลังพยายามทำให้ท่านแค่เลิกเกลียดอีริน่าก็พอแล้ว”

อีริน่าสีหน้ามั่นคงเด็ดเดียว

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 10 (ต่อ)

ในลานจอดรถสถานที่นัดพบ เขมชาติกับอารดาเดินมาด้วยกัน

“ขอบคุณมากครับที่ช่วยเหลือ ยอมให้ผมตามไปง้องอนเมถึงบ้าน”
“เพราะเมเป็นเพื่อนรักฉัน ฉันอยากให้เขาสบายใจ ฉันรู้ว่าเมรักคุณมากถ้าคุณไม่ดีกับเมวันไหนก็เท่ากับไม่ดีกับฉัน วันนั้นฉันก็จะถือว่าคุณคือศัตรูของฉัน”
“พูดน่ากลัวจังเลยครับคุณดา”
สองคนเดินต่อไป เขมชาติพึมพำ
“ผยองไปเถิด แม่คนหัวสูง”

เอื้ออยู่แถวรถของอารดากำลังทำอะไรบางอย่างบ่นไปด้วย
“ได้เงินเยอะกว่าแต่เสี่ยงมากกว่า ความดีงามที่เคยมีถูกทำลายไปหมดสิ้นทำไมวะ เพราะเงินตัวเดียว”
เอื้อถอดล้อรถของอารดาไปสองล้อ แล้วถอยออกไป อารดากับเขมชาติเดินมาถึงรถ เขมชาติปรายตามองเห็นเอื้อที่แอบอยู่ ยกนิ้วว่าโอเคให้
“ขับตามกันไปนะครับ”
“ค่ะ”
อารดาเดินไปที่รถ แล้วสะกิดใจ
“เอ๊ะ”
“ครับผม”
“รถฉัน”
อารดาก้มลงไปมอง
“มีคนขโมยถอดล้อรถฉันไปสองล้อ นี่มันบ้าอะไรกัน”
เขมชาติแสร้งทำเป็นโกรธ
“เลวมากครับ ผมจะเรียกคนรถของผมมาจัดการให้นะครับ”
“รบกวนจริง อยากรู้นักว่าหมาลอบกัดสันดานชั่วตัวไหนมันทำ”
เขมชาติสะดุ้ง โทรตามเอื้อทันที อารดายืนโกรธมาก

พงษ์ธรกับจิตรดาราแอบมองเหตุการณ์
“นังขยะสารพัดพิษดาจนมุมคุณเขมแล้ว ขอบคุณมากค่ะพงษ์”
“อะไรที่จิตอยากให้ผมทำ อยากให้ผมเป็น ไม่มีปัญหา ผมจัดให้จิตได้ทั้งนั้น”
เสียงข้อความส่งมาอีก พงษ์ธรแอบมองข้อความ
“ไปมุดหัวอยู่ใต้กระโปรงอีตัวคนไหนไม่ทราบ รีบมาเดี๋ยวนี้นะ”
พงษ์ธรตกใจ ยัดไอโฟนใส่กระเป๋าทันที
“ตกใจอะไรกันคะ”
“เอ้อ...คุณแม่อาการกำเริบครับ ท่านกำลังชัก”
“แย่จริง เราสองคนเลยไม่ได้ไปสวีทกับเฟอร์นิเจอร์ใหม่”
“เรามีเวลาสวีทกันทั้งชีวิตครับจิต แต่แม่ผมนี่สิ ผมมีเวลาทำดีกับท่านได้อีกไม่นานขอโทษด้วยครับ ผมไม่อยากเป็นคนอกตัญญู”
พงษ์ธรทิ้งจิตรดาราไว้ตรงนั้นหน้าตาเฉยแล้วจากไปทันที
“ยัยคุณแม่เจ้าขา แก่แล้วป่วยมาก จะอยู่ให้ทรมานทั้งตัวเองและคนอื่นไปทำไม ทำไมไม่รีบตายๆไปซะ คนเขาจะได้รักกันมีความสุขกันต่อไป”
จิตรดาราบ่นอย่างหงุดหงิด

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เจตรินเข้ามาในห้อง ส่ายตามองหาอีริน่าเห็นนอนหลับอยู่บนเตียง เขายิ้ม เดินไปหาก้มลงไปมองพูดเบาๆ
“ขอบใจมากที่บอกรักผม”
เจตรินไม่ทันตั้งตัวอีริน่าพรวดเข้าชกหน้าโดยแรง ตามด้วยหมัดซ้ายขวา
“อีริน่าขอถอนคำพูดทั้งหมดที่เคยพูดไว้กับคุณก่อนหน้านี้ ไปให้พ้นคนหลอกลวง คนโกหก คน…”
เจตรินกุมเบ้าตาไว้
“โอยตาจะบอดแล้ว”
“ขอให้ตาบอดไปจริงๆ เถิด”
อีริน่าเอาผ้าห่มมาพันตัวแล้วนอนหันหลังให้

เขมชาติสั่งเอื้อ
“นายเอื้อ จัดการเรื่องรถของคุณอารดาให้เรียบร้อย แล้วขับเอาไปส่งให้ที่บ้าน”
อารดาส่งสถานที่ให้ เอื้อรับมาตกใจมาก
“บ้านไอศูรย์ศรินทร์”
“ทำไมต้องตกใจด้วย” อารดาแปลกใจ
อิฐเดินเข้ามาทักอารดา
“คุณดา”
“พี่อิฐ”
“รถเป็นอะไรหรือครับ”
“มีคนมาขโมยถอดล้อรถของดาค่ะ บ้ามาก มันเลวจริงๆ”
อิฐมองไปเห็นเอื้อที่ยืนอยู่ เขาคิดนิดหนึ่ง
“เอ๊ะ เมื่อคืนก่อนผมว่าผมเห็นคุณนะ พี่กมลทักคุณ เรียกคุณว่าเอื้อใช่ไหม”
เอื้ออึกอักสบตาเขมชาติที่เริ่มไม่พอใจอิฐ
“เขาเป็นคนขับรถของผมเอง”
“หรือครับ เมื่อคืนผมกับเพื่อนมีปัญหากับคนร้ายนิดหน่อย จู่ๆนายเอื้อก็โผล่มา ใช่แล้ว นายเอื้อบอกว่านัดเพื่อนไว้”
“เขาเลิกงานแล้ว เขาจะไปไหนก็เรื่องของเขา เชิญครับคุณดา”
อิฐหันมาหาอารดา
“คุณดาจะกลับบ้านหรือครับ ผมไปส่งให้ได้นะครับ”
เขมชาติไม่พอใจ
“คุณดาจะไปกับผม ไปบ้านเพื่อนคุณดา”
“แต่ถ้าพี่อิฐรับอาสาจะไปส่ง ดาขอไปกับพี่อิฐค่ะ ขอบคุณมากค่ะ คุณเขมขับรถตามรถพี่อิฐมาก็ได้ค่ะ”
อารดาเดินไปหาอิฐ เขมชาติมองตามไม่พอใจ หันมาตวาดเอื้อ
“เซ่อซ่าไปให้พวกมันเห็นจนมันสงสัย จ้างแกมาเสียเงินเปล่าไหมเนี่ย”
อิฐหันมา
“เชิญครับคุณเขม”

เขมชาติเดินออกไป ทิ้งเอื้อไว้ เอื้อมองตามอย่างไม่สบายใจ

อีริน่านอนเอาผ้ามาพันตัวหันหลังให้เจตริน โผล่หน้ามานิดหนึ่ง เธอรำพึงในใจ
“คนบ้าอะไร มาหลอกให้บอกรัก แล้วไม่ยอมบอกรักตอบเรา ทำให้เราเสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงที่ไปบอกรักผู้ชายก่อน”
เจตรินนอนหันหลัง เขารำพึงในใจเช่นกัน
“เด็กอะไรไม่ยอมหันมาพูดจา เราอุตส่าห์จะบอกรักก็ไม่ยอมฟัง”
อีริน่ารำพึงต่อ
“เพราะว่าคุณเจตไม่ได้รักเรา”
เจตรินก็รำพึง
“ถ้าฉันไม่รักเธอ ฉันไม่ลงทุนแต่งงานกับเธอเพียงแค่จะช่วยเธอให้พ้นจากพวกมาเฟียหรอก”
อีริน่ารำพึงอีก
“เขาแต่งงานกับเรา เพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับคุณอารดา”
เจตรินรำพึงต่อ
“ไอ้เรื่องแต่งงานกับอารดามันเรื่องเล็ก ถ้าเราไม่ยอมแต่ง ใครจะมาบังคับได้ ฉันอายที่จะบอกเธอว่าฉันแต่งงานกับเธอเพราะต้องการแต่งงานกับเธอจริงๆ เพราะความจริงฉันก็ฉวยโอกาสตอนที่เธอกำลังเดือดร้อน มันจะดูว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ตัว”
อีริน่าเริ่มหาว แล้วผล็อยหลับไป เจตรินค่อยๆชะโงกหน้ามามอง เห็นอีริน่าหลับ เอามือวนๆตรงหน้าของเธอแล้วยิ้ม เจตรินพึมพำ
“คนอะไรน่ารัก หลับก็ยังน่ารัก”
เจตรินล้มตัวไปนอนค่อยๆเอามือมาโอบอีริน่าเบามาก แล้วหลับตาอย่างสบายใจ

เมื่ออารดาเข้ามาในบ้าน เมทินีต่อว่าทันที
“แกมาทำไมตอนดึกขนาดนี้”
เขมชาติปรากฏตัวเดินตามหลังอารดามา เมทินีตะลึงยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก อารดาหัวเราะ
“ทีนี้เข้าใจหรือยัง ว่าฉันมาทำไมตอนดึกดื่นขนาดนี้ เพราะว่าฉันอยากให้แกกับคุณเขมเลิกงอนกัน”
เขมชาติยิ้มร้ายๆ เดินไปโอบเมทินี เธอขยับตัวออก แต่เหมือนเขารัดตัวเอาไว้
“ขอบคุณคุณดามา ไม่รบกวนแล้วครับ เมจ๋า”
เขมชาติสบตาเมทินีสีหน้าดุร้าย เมทินีผวามากอดอารดาไว้
“ดา...แกอย่ากลับบ้านนะ แกนอนกับฉันนะ”
“แกอย่าบ้าไปหน่อยเลย งอนอะไรกันนักหนา ฉันมากับพี่อิฐเพื่อนพี่เจตเขารออยู่ ฉันต้องรีบกลับ”
“ฉันขอร้อง ได้โปรด”
เขมชาติมาแตะเมทินีเชิงขู่ ถลึงตาจ้องใส่คำรามเบาๆ
“หยุดดัดจริต”
เมทินีสะอึกนิ่งไป อารดาแกะแขนเมทินีออกจากตัว แล้วหันมากอด
“แกมีแฟนที่รักแกขนาดนี้ควรจะดีใจ ดูพี่เจตสิไม่สนใจใยดีฉันขนาดหมั้นกันแล้ว ไปก่อนนะโชคดี”
อารดาเดินออกไป เขมชาติกระชากเมทินีเข้าไปในบ้าน แล้วปิดประตูทันที

เมทินี ผวาวิ่งหนีทันที เขมชาติกระชากมาเหวี่ยงลงไปกองที่พื้นโดยแรง
“จะหนีไปไหน”
เมทินีอ้าปากจะร้อง เขมชาติวิ่งไปหาปิดปากไว้
“อย่าแหกปากร้อง จะเรียกอารดามาช่วยหรือ อย่าทีเดียวนะ อยู่ในความสงบ ถ้าไม่อยากโดนตบตีแล้วเอาคลิปไปเผยแผ่ประจาน ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียว ไอ้มิคาอิลก็มีด้วยอีกคน”
เมทินีน้ำตาไหลพราก เงียบกริบ

อิฐขับรถมาส่งหน้าบ้าน...อารดาดีใจที่พบอิฐเพราะไม่ชอบเขมชาติเอามากๆ แต่จำใจเพราะอยากพึ่งเรื่องอีริน่า
“น่าดีใจแทนคุณเมนะครับที่มีเพื่อนแสนดีอย่างคุณอารดา”
“ค่ะ เราสนิทกันมานาน ดีกันบ้าง โกรธกันบ้าง แต่ก็รักกันหวังดีต่อกันค่ะ คุณเขมรักเขามาก เอาใจมาก จู่ๆก็มางอนใส่กัน ดาก็เลยต้องช่วยเหลือค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่อิฐที่รบกวนตอนดึกๆ”
อารดาไหว้ อิฐเปิดประตูเดินลงไปส่ง เอื้อขับรถดามาจอดหน้าบ้านต่อท้ายรถ
“เวรกรรมทำไมมันต้องมาเจอไอ้คุณคนนี้อีกนะ มันมองหน้าเราแบบสงสัยตลอดเวลา”
เอื้อรีบลงมาจากรถแล้วเดินไปหาอารดา ส่งกุญแจรถให้
“ขอบใจมากนายเอื้อ”
อารดาส่งเงินให้พันบาท อิฐหันมาถามเอื้อ
“พี่กมลบอกว่านายเอื้อเคยเป็นคนขับรถบ้านเขา ทำไมออกซะเล่า”
เอื้ออึกอัก
“เอ้อ...คือ...คือผมจำเป็นต้องออกไปดูแลพ่อครับ พ่อผมป่วยมากครับ”
“มาขับรถจนดึกดื่นอย่างนี้ มีเวลาไปดูแลพ่อตอนไหนหรือ”
“เออ...แค่วันนี้หรอกครับ ปกติผมกลับเร็ว”
“วันก่อนก็กลับดึกนี่น่า เอาเถิดมันไม่เกี่ยวกับฉัน ไปเถิดนะ”
อิฐส่งเงินให้อีกพันบาท เอื้อรับเงินแล้วรีบไปโดยเร็ว อิฐมองตามไม่หายสงสัย

เมทินีส่ายหน้า เมื่อฟังสิ่งที่เขมชาติบอก
“ไม่ ฉันไม่ทำร้ายเพื่อนเด็ดขาด”
“ทำร้ายที่ไหนกัน อารดาคนนี้ไม่ใช่เพื่อนที่หวังดีกับเมนะ ตราบใดที่เขายังดูเหนือเม เขาจะดีกับเม เพราะมีเมเป็นเสมือนบริวารทำให้เขาดูเด่น แต่ถ้าวันใดที่เขารู้สึกว่าเขาต่ำต้อยกว่าเม วันนั้นแหละเขาจะเริ่มไม่พอใจเม และหันมาเล่นงานเม”
“เมเสียโง่ เสียหายกลายเป็นผู้หญิงหมดคุณค่าไปแล้ว อย่าทำให้ดาเป็นอย่าง เมไปอีกคนเลยค่ะ”
“หรือเมต้องการจะกบดานซ่อนหน้าผู้คนอยู่แต่ในบ้าน ทำไมไม่ทำตัวปกติเราเป็นคู่รักที่แสนดีต่อกันต่อไป นี่พูดกันดีๆ ถ้าไม่เข้าใจก็คงต้องใช้วิธีที่ทำให้เมอยากเป็นทาสผม”
เขมชาติควักหลอดยาออกมา เมทินีถอยกรูดส่ายหน้า

เช้าวันใหม่...อีริน่าหลับสนิทจนสาย เจตรินแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยมายืนมองอีริน่าข้างเตียงยิ้มเอ็นดู เสียงมือถือดังทำให้อีริน่าตกใจตื่น
“คุณเจต”
อีริน่ารีบลุกหนีไปทันที ยังโกรธเขาไม่หาย เจตรินรับโทรศัพท์ไปด้วยเดินตามอีริน่าไปด้วย
“ไอ้อิฐว่าไงวะ...ผู้ชายที่เราเจอคืนที่ฉันโดนจับตัว ที่พี่กมลบอกว่าเคยเป็นคนขับรถบ้านเขา ตอนนี้ไปเป็นคนขับรถของนายเขม...เฮ้ย”
อีริน่าเดินไปที่ห้องแต่งตัว จะไปห้องน้ำ เจตรินเดินตาม อีริน่าเปิดประตูตู้เสื้อผ้า เจตรินหยุดมอง อีริน่าผลักเขาล้มลงไปในตู้ แล้วปิดประตู
“อย่าตามมา คนจะอาบน้ำมาเดินตามทำไม”
“โอ๊ย”
อีริน่ายิ้มแค้นๆ ผสมเกเรที่ได้แกล้งเขาตอบแทนบ้าง
อิฐถามเจตรินงงๆ

“ฉันพูดโทรศัพท์กับแกไม่ได้ชก แกจะร้องโอ๊ยทำไม...ไหนว่ายังไงนะแกเคยเจอนายเขมคนนี้ที่แอร์พอร์ทวันที่แกพบอีริน่า...แกก็ไม่ไว้ใจนายเขม...ถ้าอย่างนั้นแกควรเตือนอารดาอย่าไปใกล้ชิดกับเขา”

ขณะนั่งด้วยกันที่โต๊ะอาหาร อารดายิ้มหวานประมาณว่าดีใจที่เจตรินซักถามพูดจาด้วย
“เมื่อคืนดาไปเยี่ยมคุณเมหรือครับ”
“พี่อิฐฟ้องหรือคะ”
“ไม่ได้ฟ้อง แต่เขาเป็นห่วงเห็นดึกแล้ว รถดาก็ถูกถอดล้อ”
“พี่เจตไม่พอใจใช่ไหมคะ ที่ทราบว่าดาจะไปกับคุณเขมตามลำพัง”
เจตรินไม่ตอบคำถามนี้
“อิฐไปส่งให้ก็ดีแล้วนี่นา คุณเมเป็นยังไงบ้าง”
“พี่เจตพูดราวกับว่าเมไม่สบาย”
“ผมถามตามมารยาท เพราะคิดว่าดาไปเยี่ยมเธอดึกดื่นมากขนาดนั้น เธอต้องไม่สบาย”
“สบายดีค่ะ แต่สีหน้าเศร้าๆ เมมันแสนงอน มันงอนคุณเขมพอเห็นคุณเขมผวาเลยค่ะ”
เจตรินชะงักสงสัย
“ผวาเลยหรือ แปลก ตกลงเธองอนหรือว่ากลัวกันแน่”
“งอนแน่นอนค่ะ คุณเขมเขารักเมจะตาย ไม่อย่างนั้นจะพาไปเที่ยวรัสเซียหรือคะ”
“แล้วทำไมไม่ไป”
“พี่เจตถามราวกับอยากรู้เรื่องราวของเม ชอบเมหรือคะ”
“ผมมีอีริน่าแล้ว ไม่คิดชอบใครอีก และไม่เคยชอบใครมาก่อนที่จะแต่งงานกับอีริน่า”
อารดากระแทกช้อนส้อมจนกระเด็นลงไปกองที่พื้น แหววผวามาเก็บแล้วยื่นช้อนชุดใหม่ให้
“ไม่กินแล้ว กินไม่ลง”
แหววสบตาดายิ้มรู้ทัน

อีริน่ายืนเอามือกุมอกยิ้มพึมพำ ทวนคำพูดของเจตรินที่ได้ยินที่หน้าประตูห้อง
“ผมมีอีริน่าแล้ว ไม่คิดชอบใครอีก และไม่เคยชอบใครมาก่อนที่จะแต่งงานกับอีริน่า พูดจริงหรือนี่ ไม่จริงหรอก เขาพูดเพื่อปกป้องตัวเองให้พ้นจากอารดาต่างหาก” แต่อีริน่าก็ยังยิ้ม
อารดาเดินปึงปังออกมานอกห้องมาเจออีริน่ายืนยิ้มหน้าห้อง อารดาหมดความอดทนทันที ผลักอกโดยแรง
“ยิ้มอะไร หลีกไปให้พ้น”
อีริน่าผลักตอบเช่นกัน ผลักแรงกว่า อารดาล้มลง
“ประตูกว้างขนาดนี้ทำไมต้องมาเดินที่คนยืนอยู่ ทำไมไม่หลีกไปเอง”
อารดากระชากหัวอีริน่า
“แกอวดดีไม่จบไม่สิ้น”
อีริน่ากระชากกลับ
“คุณก็ดูถูกฉันไม่จบไม่สิ้น”
“นังลูกโสเภณี”
“เอาคำพูดของคุณคืนไปให้มันเข้าตัวคุณเอง ว่าคุณก็เป็นนังลูก...” อีริน่ายิ้มยั่ว
“แกด่าว่าแม่ฉันว่าเป็นโสเภณี”
“แล้วคุณไม่ได้ด่าแม่ฉันหรือ ด่าบ่อยมาก จนฉันไม่ยอมให้ด่าอีกต่อไปแล้ว”
“ฉันผลักแกนิดเดียว แต่แกผลักฉันแรงมากจนล้ม”
อารดาถีบอีริน่าเซไป อีริน่าถีบกลับ อารดาหงายหลังกลับไป
“ว๊าย โอ๊ย พี่เจตขา ช่วยดาด้วยค่ะ อีลูก เอ้อ อีริน่ามันจะฆ่าดาค่ะ”
อารดายิ้ม มองหน้าอีริน่า

เจตรินถอนใจ อึดอัด จะวางมีดกับส้อม แหววเข้ามาหา
“ปล่อยวางเถิดค่ะ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ผู้หญิงรักผู้ชายคนเดียวกันอยู่ในบ้านเดียวกัน มันต้องปล่อยวาง ขืนไปเข้าข้างใดข้างหนึ่ง มันไม่จบค่ะ ถ้าพวกเธอรู้ฝีมือกันว่าใครเก่งกว่าใคร อีกฝ่ายก็ต้องถอยค่ะ”
“ใครถาม หรือแหวว”
“ขอโทษค่ะ แหววสะเออะไปหน่อยค่ะ”
“ฉันจะลุกไปทำงาน ไม่ได้จะลุกไปห้ามใคร”
“อ้อ เชิญค่ะ”
เจตรินลุกแล้วชะงัก
“แหวว” เจตรินลดเสียง “เมื่อสักครู่ที่ฉันพูดอะไรออกไป แหววคิดว่าคุณอีริน่าเธอได้ยินไหม”
“ไม่ทราบสิคะ เอ้อ แหววมีอะไรจะรายงานเรื่องน้ำแดง หวินมันเอาไปให้คุณหญิงท่านดื่มคะ”
เจตรินแปลกใจ
“หวินหรือ ทำไมถึงเอาไปให้คุณแม่ดื่ม”
“มันใส่ร้ายคุณหญิงค่ะว่า สั่งมันเอาไปให้ค่ะ มันกลัวความผิด มันแอบเอาขวดน้ำแดงไปทิ้ง คุณอีริน่าเธอเห็นเข้าพอดี เลยทั้งความแตกขวดแตกค่ะ”
เจตรินพึมพำ
“คุณแม่ต้องการอะไรกันแน่”

อีริน่ากับอารดา จ้องหน้ากันเอาเชิง แล้วอารดาก็นึกแผนใหม่ขึ้นมาได้ ตบหน้าตัวเองซ้ายขวาอย่างแรง อีริน่าตกใจ
“นั่นบ้าไปแล้วหรือ”
ขณะที่อีริน่ากำลังตกใจแปลกใจ อารดาข่วนสองแก้มของตัวเองเลือดซิบแล้วลงไปนอน แล้วกระชากเท้าข้างหนึ่งของอีริน่ามาวางบนยอดอกของตัวเอง
“บ้าแล้ว อย่านะ”

หน้าประตูห้องนั้น จิตรดาราเดินเซเมามายกลับมาบ่น
“ทำไมยัยพวกแก่ๆนี่มันชอบเจ็บชอบป่วย ทำให้เราไม่ได้มีความสุขกับพงษ์สุดที่รัก เฮ้ยอะไรกันน่ะ”
จิตรดารามองไป เห็นภาพที่อารดาทำบ้าใส่ร้ายอีริน่า
“โอ้โห พี่อารดาจอมมารยาสาไถ ช่างหัวมัน ยังไงนังอีริน่าก็เป็นศัตรูของเรายืนมึนไปไม่เป็นไปเลย”
จิตรดารายืนหัวเราะ

อารดาเล่นบทบาทต่อ อีริน่ายังไม่หายตกใจ
“โอ๊ย กลัวแล้ว พอแล้วอย่าทำฉันเลย ยอมแพ้แล้ว โอ๊ยเจ็บนะ ยอมแล้วยังมาตบ มาข่วน มาเหยียบยอดอกกัน”
เจตรินกับแหวววิ่งตามกันออกมา เจตรินมองภาพนั้นแล้วชะงักกึก อารดารีบยกมือพนมไหว้อีริน่าทันที
“ขอร้องนะอีริน่า”
“พอแล้วอีริน่า”
“คุณอีริน่า” แหววหันไปยิ้ม “สุดยอด”
เจตรินมาดึงอีริน่า อารดาทำซมซานค่อยๆลุกเซซังมากกอดขาเขาไว้ร้องไห้เงยหน้าเพื่อให้หน้าประจักษ์แก่สายตาเขาว่าโดนหนักแค่ไหน
“ดาอุตส่าห์ร้องขอชีวิตแล้วนะคะ”
“หน้าของดา...โธ่”
อารดาประคองตัวลุกมากอดเจตรินไว้แล้วแอบส่งสายตาเย้ยหยันอีริน่าแบบฉันชนะแกแล้ว อีริน่าอึ้ง
“นี่มันอะไรกัน”
เจตรินหันมาตำหนิ
“อีริน่าทำเกินไปน่ะสิ อีริน่าเก่งกว่าอารดาใครๆก็รู้ เขายอมแพ้แล้วทำไม อีริน่ายังไม่ยอมหยุด”
อีริน่าส่ายหน้า
“อีริน่าไม่ได้...”
อิฃีริน่าพูดยังไม่จบ อารดาแทรกทันที
“เธอจะพูดยังไงก็ได้เพราะไม่มีใครเห็นตอนที่เธอตบตีข่วนหน้ากระทืบยอดอกฉัน”
แหววพูดขึ้น
“นั่นซิคะ หรือว่าไม่มีใครเห็น ทั้งที่บางทีอาจเป็นไปได้ว่าคุณอีริน่าเธอไม่ได้ทำ แต่...”
อารดาตวาดแหวว
“แหววจะหาว่าดาทำตัวเอง ใครจะโง่ทำขนาดนี้ได้คะ”
เจตรินมองอีริน่าตำหนิอย่างแรง
“อย่ามามองอีริน่าด้วยสายตาตำหนิติเตียนแบบนั้น”
“แล้วอีริน่าจะแก้ตัวว่ายังไง”
“ไม่แก้ตัวค่ะ แล้วแต่คุณหรือใครจะมโน จะคิดเอาเองยังไงก็แล้วแต่”
“สะใจ” อารดาพึมพำเบาๆ
อีริน่าวิ่งออกไปทันที แหววตกใจ
“คุณอีริน่า”
เจตรินได้แต่มองตาม เข้าใจ มั่นใจว่าอีริน่าทำอารดาแน่ๆ อารดาฉวยโอกาสโถมใส่เขาร้องไห้โฮๆ

อีริน่าวิ่งไปเจอจิตรดาราที่หน้าประตู จิตรดาราหัวเราะเยาะ
“ไงละ ฝีมือการต่อสู้เก่งนักเก่งหนา แต่ฝีมือมารยาสาไถร้ายไม่ได้เศษเสี้ยวเขา เสียใจด้วยนะยะอีริน่าคนเก่ง”
“ช่วยกันรุมเหยียบย้ำซ้ำเติมฉันกันเข้าไป ฉันเคยได้ยินคุณพูดกันว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า มาดูกันสิว่าใครที่จะหัวเราะที่หลังสุด”
อีริน่าวิ่งออกไป จิตรดารามองตาม
“อีนังนี่มันไม่เคยกลัวใคร ดีละ ฉันจะช่วยกระทืบแกซ้ำ”

จิตรดาราเดินเข้าไปในห้องนั้นทันที

อารดายังออดอ้อนร้องไห้โวยวายใส่เจตริน
“หน้าดา โอ๊ย หน้าดา”
“นั่นสิคะ เสียโฉมแน่ๆค่ะ” แหววเสริม
“ว๊าย...พาดาไปศัลยกรรมใบหน้านะคะ ดาเสียโฉมแน่ๆค่ะ”
จิตรดาราเดินเข้ามาพูดลอยๆ
“โรคสำออยกำเริบ”
แหววหันไปถาม
“คุณจิตมานานหรือยังคะ คุณจิตมาทันเห็นใครทำร้ายคุณอารดาใช่ไหมคะ”
“ใช่ย่ะ เห็นเต็มๆ เห็นตอนตบหน้าซ้ายขวา เห็นตอนจิกข่วนหน้า ตอนยกขามาเหยียบยอดอก”
“บอกมาสิน้องจิต ว่าเกิดอะไรขึ้น” เจตรินคาดคั้น
อารดารีบแทรก
“น้องจิตเห็นใช่ไหมว่านังอีริน่ามันจะฆ่าพี่”
“มุสาเวรมณี สิกขาปะทังสมาธิยามิ” แหววถอนใจ
จิตรดารายิ้มหยัน
“อีริน่าทำร้ายพี่ดาค่ะ”
อารดาเผลอตัวดีใจ
“ฮะๆเห็นไหมคะ ดามีพยานแล้ว”
จิตรดาราหัวเราะ
“ฮะฮะฮะ เรียกรถพยาบาลดีไหมคะพี่ดา พี่เจต”
เจตรินยืนอึ้ง ก่อนจะหันไปสั่งแหวว
“แหวว ไปเรียก หวินกับหมอน”
อารดาผิดหวังมาก
“พี่เจต”
“ขอตัว พี่มีประชุมกับท่านทูต”
เจตรินเดินออกไป แหววตาม จิตรดารามองหน้าอารดาแล้วชี้หน้าหัวเราะ
“หน้าพี่ดาลายยังกับโดนแมวข่วน คุ้มค่านะคะที่อุตสาห์ ฮะฮะฮะ จิตนี่ไม่กล้าทำขนาดนั้นหรอกค่ะ ตบหน้าตัวเอง จิกข่วนตัวเองกับโดนคนอื่นจิกตบนี่ อันไหนมันเจ็บมากกว่ากันคะ ฮะๆ มุสาวาทา”
อารดาโกรธ
“มากไปแล้วนะน้องจิต”
“ใครกันไม่ทราบที่มากล้นไปด้วยมารยาสาไถใส่ไปร้อยเล่มเกวียนไม่มีวันหมด ไม่สำนึกบุญคุณกันหรือคะ จิตช่วยพี่โกหกตบตาพี่เจต ก็เพราะว่าเรามีศัตรูร่วมกันค่ะ อย่าให้เรากลายเป็นศัตรูกันเองดีกว่า ไอ้ที่คอยขู่จิตว่ารู้ความลับน่ะ เวลาไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่แล้วนะคะ บ๊ายบาย”
จิตรดาราเดินจากไป ทิ้งให้อารดาคลั่งแค้น

อีริน่าออกมาส่ายตาหาแท็กซี่จะไปบ้านกมลกันต์ สมุนของเขมชาติแอบเฝ้ามองอยู่ต่อโทรศัพท์หาเขมชาติทันที
“ฮัลโหล นาย”
เอื้อจอดรถซุ่มอยู่ โดยมีเขมชาตินั่งคุยโทรศัพท์กับลูกน้องอยู่ในรถ
“ผู้หญิงออกมาแล้ว แกไม่ต้องตาม ฉันอยู่ปากทางนี่จะตามเอง แกไปได้ เฮ้ย...เอื้อ เดี๋ยวแอบตามผู้หญิงไปนะ อยากรู้ว่ามันไปไหน”
“ครับ นาย”

อีริน่ามายืนรอแท็กซี่และเดินน้ำตาไหลไปเรื่อยๆ เสียงแตรรถดังข้างตัว เจตรินนั่นเอง เขากดกระจกลง แล้วจอดรถ
“ขึ้นรถอีริน่า”
“อย่ามาออกคำสั่ง”
“แม่พริมของเธอมอบหมายให้ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ”
“คุณผิดสัญญากับแม่พริม คุณไม่ได้ดูแลฉันอย่างที่บอกกับแม่พริมและตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กในปกครองของคุณ ฉันคือภรรยาแท้จริง ฉันไม่ให้ใครมาปกครองหรอก”
เจตรินอ่อนใจกับการโต้เถียงของอีริน่า
“จะไปไหน”
“ไม่ใช่ผู้ปกครอง ไม่จำเป็นต้องรายงาน จะไปไหนก็รีบไป ทางใครทางมัน”
“จะไปหาใคร”
“หาใครก็ได้ที่เขาไม่มากดขี่ หลอกลวง ตรงไปตรงมา”
ขณะเดียวกันนั้น มอเตอร์ไซค์รับจ้างคันหนึ่งกดแตรและขับมาจอดใกล้ๆ อีริน่าโบกมือ
“จอดด้วย”
มอเตอร์ไซค์จอด อีริน่าโดดไปคร่อมข้างท้ายยกมือโบกไล่เจตริน
“พุ่งไปให้พ้นรถคันนั้นเลยพี่”

เจตรินมองตาม ทำอะไรไม่ได้ขัดใจมาก


จบตอนที่10
กำลังโหลดความคิดเห็น