xs
xsm
sm
md
lg

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 3

นิกกี้หนีออกมาพ้นบ้านแล้ว ถอนใจโล่งอก
“เกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็ไม่เสียเที่ยวเพราะได้เจอสาวน้อย แสนสวย โดนใจสุดๆ แถมยังอ่อนๆ น่าลิ้มลอง ใครกันหนอ”
นิกกี้ยิ้มย่องอยากจีบอิริน่า

ในห้องรับแขก สมาชิกในบ้านเจตรินทุกคนนั่งลง อิริน่ากับอเล็กซ์ ยังยืนเก้อๆ
“อิริน่า...อเล็กซ์ ไปกราบคุณแม่ผมก่อน...คุณหญิงศรินทิพย์ ไอยศูรย์ศรินทร์”
อิริน่ากับอเล็กซ์ขยับเข้าไปหา คุณหญิงศรินทิพย์เชิด รังเกียจ
“ไม่ต้อง”
ทั้งสองคนชะงัก อิริน่าหันมองเจตรินว่าจะเอายังไงดี เจตรินพยักหน้าน้อยเป็นเชิงให้ทำต่อ อิริน่าจึงคุกเข่าลง อเล็กซ์ทำตาม อิริน่าไหว้ จีรณัทย์มองชื่นชม จิตรดารามองเขม่นหมั่นไส้มาก
“กระแดะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ไม่มอง ผุดลุกไปนั่งอีกที่ ไม่รับไหว้
“สมน้ำหน้า สะจาย” จิตรดาราสะใจ
เจตรินหน้าขรึมเพราะแม่ แต่ก็ตัดสินใจแนะนำพี่สาวต่อ
“พี่จีรณัทย์ พี่สาวผม”
อิริน่ากับอเล็กซ์ ไหว้ จีรณัทย์รับไหว้ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“นั่นจิตรดารา น้องสาวผม”
อีริน่ากับอเล็กซ์ไหว้ จิตรดาราเชิดใส่เมินหน้า ไม่รับไหว้
“แหวะ ไม่ต้องมาไหว้ฉัน ไม่สน”
“งั้นเอาคืน”
อเล็กซ์ แอบซุบซิบ อิริน่าแอบถองเบาๆ แล้วพากันลุกกลับไปที่เจตริน กำลังจะนั่งบนเก้าอี้ คุณหญิงศรินทิพย์ชี้หน้า อิริน่ากับอเล็กซ์ ชะงักค้างท่าไหนท่านั้น
“แกสองคนอย่าสะเออะนั่งเก้าอี้ฉันให้เชื้อโรคติด ลงไปนั่งบนพื้น”
อเล็กซ์ซุบซิบกับอิริน่า
“ที่พื้นเชื้อโรคเยอะกว่าแน่ๆ ให้เชื้อโรคที่เก้าอี้ติดก้นเราดีกว่า”
อิริน่าขำแต่เก๊กหน้า แบบกัดฟันพูดปราม
“อย่าพูดมาก”
คุณหญิงศรินทิพย์เห็นสองคนยังเฉย
“ยังอีก”
“ผมขอครับคุณแม่...นั่งบนเก้าอี้นี่ละ” เจตรินขัดขึ้น
สองคนนั่งลง อิริน่านั่งเรียบร้อยอย่างคนที่ได้รับการอบรมมาดี คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ
“เจตฉีกหน้าแม่ แล้วเรื่องอะไรถึงต้องเจ้าหน้าเจ้าตา พามันมาบ้านเรา”
“อิริน่าเป็นภรรยาผมครับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตกใจสุดๆลุกพรวด จะเป็นลม จีรณัทย์ก็ตกใจ รีบเข้าประคองแม่ แต่ถูกปัด
“ไม่จริง”
“ขอโทษนะคะ เพราะว่ามันจริงค่ะ”
“นี่ฉันฝันไปใชมั้ย เจตทำอย่างนี้ได้ยังไง ไปคว้านังเด็กจรจัดข้างถนน มาเป็นเมียได้ยังไง”
“อิริน่าเดินข้างถนนบ่อยค่ะ แต่ไม่ได้อาศัยข้างถนน มีบ้านอยู่ค่ะ”
“พ่อแม่แกเป็นใคร”
“เป็นสามัญชนทั่วไปค่ะ แม่ทำขนมขายค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์มองเหยียด
“ต๊ายลูกแม่ค้า แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ชื่อเสียงตระกูลเราเหม็นหมด เจตโดนมันทำเสน่ห์ยาแฝดเข้าแล้วเนี่ย แม่ไม่ได้ไปตบแต่งให้ แม่ไม่รับมันเป็น...แม่ไม่ให้มันร่วมวงศ์สกุลของเราเด็ดขาด ตระกูลเราไม่ต้อนรับพวกหัวแดงเป็นสะใภ้”
อิริน่าใจคอหม่นหมอง แต่ก็พยายามมกล้ำกลืนสบตาเจตรินขอกำลังใจ เขาพยักหน้ากุมมือเธอไว้อย่างอบอุ่น

ในห้องขัง...มิคาอิซ้อมนิโคลัยด้วยความแค้น
“แกอย่านึกนะว่าแอบส่งนังอิริน่าไปเมืองไทยแล้วฉันจะตามหามันไม่ได้ หูตาของคนค้ายาเสพติดมันมีมากกว่าตาสับปะรดเสียอีก รับรองว่าฉันหาลูกสาวแกเจอแน่ๆ”
“ลูกเขยฉันต้องปกป้องอีริน่าใหพ้นจากเงื้อมือเลวๆของพวกแก”
นิโคลัยโต้ มิคาอิลตบซ้ำอีก
“ดี....ปากเสีย ให้อดยาไปหนึ่งอาทิตย์”
“ไม่นะ....ไม่ ขอร้องอย่าทำกับฉันอย่างนี้เด็ดขาด”
“ฉันจะทำ...แกคือทาสของฉัน”
มิคาอิลซ้อมนิโคลัยอีก

คุณหญิงศรินทิพย์ สรุปกับเจตรินด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“สรุปว่าเจตต้องเลิกรากับมัน ไล่มันออกจาไปจากบ้านเราซะ”
“คุณแม่ครับผมทำไม่ได้ ผมกับอิริน่าก็แต่งงานจดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมายครับ”
“ก็หย่าสิ แต่งได้ก็หย่าได้ เอาเงินให้มันสักก้อนแล้วไสหัวมันไป ลูกแม่ค้าคนจนๆ อย่างมันเห็นเงินเข้าขี้คร้านจะรีบหย่าให้แทบไม่ทัน แกจะเอาเท่าไหร่จะฟาดหัวให้”
“เงินฟาดหัวอิริน่าไม่ได้หรอกค่ะ”
อิรีน่าพูดสุภาพมาก เธอยังนั่งอย่างสำรวม แต่กดมือแน่นสะกดอารมณ์ จีรณัทย์มองอีริน่าอย่างเห็นใจ ส่วน จิตรดารามองอย่างดูถูก
“แกอย่ามาปากแข็งนะ ใช่แล้วแกใช่ไหมที่อารดาบอกว่าเป็นลูกโสเภณีที่ไปหากินที่รัสเซีย แล้วโดนแมงดาถีบหัวทิ้ง นี่ยิ่งแย่มากกว่าเด็กข้างถนน”
“คุณแม่กำลังดูถูกผมกับภรรยาของผมนะครับ”
อิริน่านั่งก้มหน้าเสงี่ยม แต่อมยิ้มอ่อนๆประทับใจที่เจตรินปกป้อง
“แล้วเจตล่ะ ที่เจตแอบแต่งงานกับนังเด็กนี่โดยไม่บอกแม่ เจตมิดูถูกแม่ยิ่งกว่าเหรอ เห็นแม่เป็นหัวหลักหัวตอ เสียแรงแม่รัก เสียแรงแม่หวัง นี่อนาคตการงานมิหมดสิ้น เพราะได้นังลูกโสเภณีข้างถนนไม่มีหัวนอนปลายเท้านี่เป็นเมีย”
“อนาคตผมอยู่ที่ผลงานครับ คุณแม่อย่าโทษอิริน่า”
“ดูดู๊ลูกฉัน หลงมันขนาดนี้ จะไม่ให้ฉันว่าโดนเสน่ห์ยาแฝดโดนมนต์ดำนังแม่มดนี่ได้ยังไง”
คุณหญิงศรินทิพย์โกรธจี๊ด มองอีริน่าอย่างแค้นมาก
“คุณแม่ครับ พอแล้ว”
“เจตกำลังทำตัวเหมือนอาจิรายุ ที่หลงรักนังสารเลวคนหนึ่ง จนโดนนังนั่นมันฆ่าตาย” คุณหญิงศรินทิพย์สะเทือนใจเจ็บปวดใจมากขึ้น “...คุณพ่อของเจตเสียใจจนตายตามไปอีกคน แล้วเจตยังไปหลงรักนังเด็กนี่ให้ซ้ำรอยเดิม แม่ไม่มีวันยอมหรอกนะเจต”
เจตรินอึ้งไปชั่วครู่ อิริน่าสนใจเรื่องที่พูดกัน รู้สึกมีอะไรลึกล้ำแฝงอยู่ จีรณัทย์เศร้าด้วยเรื่องความรักส่วนตัวซึ่งเป็นผลมาจากการที่อาจิรายุตาย ทำให้เธอถูกขัดขวางความรักกับคนรักไปด้วย
“เรื่องคุณอาจิรายุเป็นคนละส่วนกับเรื่องของผมครับ แล้วเรื่องของคุณอาก็ผ่านไปนานเป็นสิบๆปีแล้ว คุณแม่ควรอโหสิกรรม เลิกคิดแค้นบ้านโน้นเขา คุณแม่และใครๆอีกหลายคนจะได้มีความสุข”
เจตรินมองพี่สาวแวบหนึ่ง จีรณัทย์ก้มหน้าไม่มองใคร อีริน่ามอง จีรณัทย์ตามเจตริน รู้สึกว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา
“ไม่มีวัน แม่ไม่มีวันลืม แม่ไม่มีวันอโหสิกรรมให้พวกมันทั้งตระกูลเพราะฉะนั้น แม่ถือว่านังนี่เป็นพวกทำเสน่ห์เหมือนกัน แม่ขยะแขยงมัน”
คุณหญิงศรินทิพย์พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด เจตรินหนักใจมาก

แหวว แจ๋ว จิ๋ม แนบหูฟังที่ประตูอย่างมันในอารมณ์ สักครู่มีเสียงฝีเท้าฉับๆบอกอารมณ์เร่งร้อนของคนเดิน แต่สามสาวมัวแต่อินกันเลยไม่ได้ยิน
“คุณหญิงด่าอะไรต่ออีกป่าวเนี่ย ทำไมไม่ได้ยินอะ” จิ๋วพยายามเงี่ยหูฟังมาก
“เป็นลมไปแล้วมั้ง” แจ๋วออกความเห็น
“ยาลมล่ะอยู่กับใคร ฉุกเฉินเรียกได้ทันที” แหววถาม
จิ๋มกับแจ๋วชูของโดยหูยังแนบประตู จิ๋มชูยาดม แล้วเอามาสูดฟืด
“ยาดมอยู่กับฉัน อื้อม์...ชื่นจาย...”
แจ๋วชูขวดยาหอม ขวดแก้วใหญ่พอประมาณ
“ยาหอมอยู่กับฉัน”
มีมือปัดขวดยาหอมอย่างแรงไปโดนหัวแหววโป๊ก ขวดยากระเด็น
“โอ๊ย นังบ้า ฟาดมาได้ โดนหัวฉันเว้ย”
สามสาวโดนผลักกระเด็น
“เฮ้ย ใครวะ โอ๊ย”
อารดาคือคนผลัก หน้าตาร้อนใจ โกรธมากมาย สามสาวตกใจสุดๆรีบลุกหนีไป อารดากระชากประตูเปิด เข้าไป สามสาววิ่งกลับมาที่ประตู ท่าทางมันกันสุดๆ ห่างออกไปศรีโผล่มายืนดูอย่างสุดระอา
“ระเบิดภูเขา เผาหมู่บ้านกันมันส์ละเฟ้ยคราวนี้”

คุณหญิงศรินทิพย์ยื่นคำขาดกับเจตริน
“แม่ขอยื่นคำขาด เจตต้องเลือกระหว่างแม่กับมัน”
“คุณแม่ครับ...” เจตรินอ้อนวอน
“ไม่อย่างนั้นเจตกับแม่ก็ขาด...”
คุณหญิงศรินทิพย์จะพูดว่าขาดกัน ค้างเพราะเสียงกรี๊ดของอารดา
“อ๊าย...แก...แกนี่เองเหรอนังวายร้ายข้างถนน เจตแต่งงานกับแกเหรอ”
อารดาพุ่งเข้าไปจะตบ อิริน่าลุกยืนพรวดกำหมัด พร้อมๆกับที่อเล็กซ์ เข้ามาขวาง อิริน่าเงื้อหมัดนิ่งอยู่ อารดาหยุดกึกทันที กลัวๆ เคยเจอฤทธิ์มาแล้ว หน้าหวิดทิ่มหมัดอีริน่าซะเอง
“อ๊าย...คุณแม่ขา เจตขา มันชกดา”
“ยัง” อิริน่ากับ อเล็กซ์ ร้องออกมาพร้อมกัน
“อย่ามั่วครับ” อเล็กซ์กวนๆ
อารดาเพิ่งสังเกตว่าเป็นอเล็กซ์ หัวหน้าเด็กที่มอสโก
“หา แก...”
อเล็กซ์ ไขว้มือโค้งให้อย่างงาม
“ไม่ผิดตัวแน่ครับ ผม...อเล็กซ์ ระเบิดไข่เน่า”
คุณหญิงศรินทิพย์หันไปตวาด อิริน่ากับอเล็กซ์
“อย่ามาทำกิริยาทรามๆในบ้านฉันนะ”
“แต่ดาเริ่มก่อนนะครับคุณแม่” เจตรินแย้ง
“อ๊าย... เจตเข้าข้างมัน” อารดากรี๊ดสนั่น
“ผมพูดตามที่เป็นจริงครับดา”
เจตรินมองจิตรดารา อย่างรู้ว่าเป็นคนโทรตามมาแน่
“พี่เจตอยากทำงามไส้ทำไมล่ะ จิตก็ต้องโทรไปบอกคู่หมั้นของพี่สิเพื่อความถูกต้องยุติธรรม” จิตรดาราโต้
เจตรินมองน้องสาวไม่พอใจ อารดาทำเป็นร้องไห้ออดอ้อนคุณหญิงศรินทิพย์

สามสาวใช้ ยังแนบหูกับประตูฟังกันมัน ศรียืนเขม่นอยู่ด้านหลัง
“มันส์...หยดติ๋งๆเลย”
ศรีเอาด้ามจวักเคาะหัวคนละทีละคน สะดุ้งร้องเฮ้ยไปตามๆกัน
“เรื่องของท่านละเป็นงานของพวกสาระแน ตลอดเลยนะ พองานของตัวละเป็นงานของคนอื่นโม้ด จะให้ทำรายงานส่งคุณหญิงตัดเงินเดือนกันมั้ย ฮะ! ไปทำงาน”
สามสาววิ่งกันไป ศรีมองตามอย่างระอา แล้วมาแอบมอง แอบฟังต่อ

คุณหญิงศรินทิพย์จ้องหน้าเจตริน
“เจตก็รู้อยู่ว่าเจตทำผิด ก็ควรจะรับผิด ไม่ใช่เที่ยวหาเรื่องพาลใส่น้องใส่แม่ ใส่หนูดาคู่หมั้นของลูก ภรรยาที่ต้องอยู่กินกันไปจนตายในอีกไม่กี่วันของลูก”
“ถ้าผมต้องอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งในฐานะภรรยาไปจนชั่วชีวิต ผมต้องเลือกผู้หญิงคนนั้นเอง แต่อารดานี่ผมไม่ได้เลือก คุณแม่หมั้นเขาเอง”
อิริน่าแอบปลื้ม ลืมไปว่าจริงๆแต่งงานกับเจตเพราะอะไร อารดาอยากจะกรี๊ด หน้าตาส่อแล้ว แต่รู้สึกว่าเล่นแรงจะไม่ได้ผล สู้ทนข่มใจสุดๆ คุณหญิงศรินทิพย์โกรธ
“นี่แกกำลังด่าแม่นะเจต”
“ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้ด่า ผมพูดความจริง”
คุณหญิงศรินทิพย์หงุดหงิดสุดๆ อารดาไปกอดแขนเจตรินอ้อน บีบน้ำตา
“เจตขา แล้วเจตจะเอาดาไว้ไหนคะ ดาเป็นคู่หมั้นเจตนะคะ ดาทำผิดอะไร เจตถึงใจร้ายกับดาขนาดนี้ เจตถึงจะให้ดาอับอายขายหน้าคนทั้งเมืองคะ”
เจตรินอึ้งๆ อิริน่าเห็นท่าทางของเขาก็รู้แล้วว่าต้องช่วย อีริน่าไปจับแขนอีกข้างของเจตรินให้มากอดตัวเอง ตัวเธอเองก็กอดแขนเขา เคล้าเคลียเจตแบบลูกแมวแบบน่ารักๆ
“ที่รักขาภรรยาง่วงแล้วค่ะ นั่งทรมานบนเครื่องบินสิบกว่าชั่วโมงไปนอนกันนะคะ”
เจตรินถึงกับไปไม่เป็น ทุกคนอ้าปากค้าง ตะลึง จีรณัทย์แอบขำ
“ว้าย...ตายแล้ว คุณพระคุณเจ้าช่วย มันชวนผู้ชายไปนอน พูดออกมาได้ไม่อายผีสางเทวดา”
คุณหญิงศรินทิพย์โวยลั่น อีริน่าลากเจตรินไป
“ไปเถิดค่ะที่รักขา...”
ไปห่างแล้ว อิริน่าหันมาทิ้งตายิ้มยั่วอารดา
“อ๊าย”
อารดากรี๊ดสนั่น วิ่งตาม จีรณัทย์เข้ามาขวาง
“พี่ว่าดากลับบ้านก่อนเถอะนะ”
“พี่จีอย่ายุ่งกับดา หรือว่าพี่เลือกข้างนังนั่นคะ”
“ดาก็รู้ว่ายิ่งดาเป็นอย่างนี้ เจตจะยิ่งหนี”
“ยังไงดาก็ไม่ยอมค่ะ เจตเป็นของดา ดาต้องเอาของดาคืน แล้วนังนั่นมันจะรู้ว่ามันเล่นอยู่กับใคร”
อารดาแค้น เอาจริง จะทำจริง สะบัดหน้าหันออกไป จีรณัทย์ได้แต่ทอดถอนใจ

บ้านอารดาเป็นคฤหาสน์ใหญ่อลังการพอๆกับบ้านของเจตริน แต่ภายในแห้งแล้งทรุดโทรมขาดการดูแล เพราะพิทักษ์ พ่ออารดาไม่มีใจเนื่องจากถูกฟ้องล้มละลาย ทรัพย์สินกำลังจะโดนยึด แต่มีหลายอย่างที่ยักเยื้อถ่ายโอนจากชื่อพ่อเป็นชื่อลูกทัน รวมทั้งบ้านหลังนี้ แต่ความที่ไม่มีใจ บ้านก็เลยดูขาดความใส่ใจไปด้วย

ภายในห้องของอารดา...สมรกับหวินกำลังช่วยกันจัดกระเป๋าเสื้อผ้า อารดากำลังเก็บของมีค่าแพ็กเอง เครื่องสำอางและเสื้อผ้าปล่อยให้คนใช้ทำ มีกระเป๋าเดินทางมากมาย เตรียมย้ายเข้าบ้านเจตริน
อารดาแว้ด เห็นสาวใช้ช้า
“เร็วๆเข้า บอกแล้วว่าด่วนที่สุด หูแตกกันรึไง อืดอาดเป็นเต่าแคระอยู่นั่นละ ทำอะไรไม่ทันใจเลยพวกแกนี่”
“ค่ะๆ...”
สองชาวใช้แอบมองหน้ากันแหวะ ไม่ได้เกลียด เป็นพวกชอบเอาใจเจ้านายอยู่แล้ว แต่เบื่อขาวีนเป็นบางครั้ง แอบนินทานายเป็นบางคราว พิทักษ์มามองที่ประตู หน้าเข้มๆ

พิทักษ์แสบไม่น้อยไปกว่าลูกสาว เจ้าเล่ห์ ถึงเอาตัวรอดจากการล้มละลายได้ ไม่ล้มจริง แต่เป็นแบบล้มบนฟูก ยังรวยอื้อ ทรัพย์สินเป็นชื่อลูก เงินฝากมีบัญชีลับในต่างประเทศที่รัฐยังตามไม่เจอ และอาจไม่มีโอกาสเจอ
“นี่แกจะย้ายบ้านถาวรเลยรึไง ยายดา”
“ใช่ค่ะ”
“แกจะปล่อยบ้านนี้เป็นบ้านร้างรึไง”
“อีกหน่อยคุณพ่อก็ไปอยู่ต่างประเทศ มันก็จะเป็นบ้านร้างเหมือนกันแหละค่ะ”
“ยายดา” พิทักษ์โกรธ

อิริน่ามานั่งเงียบๆ ขณะที่เจตรินปลอบโยน
“ผมขอโทษนะอิริน่า ที่ทำให้เธอต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา”
“แต่คุณจะอยู่ข้างอิริน่าใช่ไหมค่ะ จะปกป้องอิริน่าใช่ไหมคะ”
“แน่นอน ผมจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับแม่พริมของเธออย่างมั่นคง”
“ขอบคุณมากค่ะ วันใดที่ได้พบ คุณตายคุณยายของอิริน่า เราจะหย่ากัน คุณก็กลับไปหาคุณอารดาได้ทันทีนะคะ”
เจตรินถอนใจอึดอัด ไม่ชอบอารดาสักนิด

อารดากับพิทักษ์มาคุยกันอีกห้องหนึ่ง สองคนมีปากเสียงกัน
“แกเห็นคนอื่นดีกว่าพ่องั้นเหรอ บ้านหลังนี้ ทรัพย์สินเงินทองอีกมากมายพ่อก็โอนเป็นชื่อแกหมด”
“คุณพ่อโอนเป็นชื่อดาก็จริง แต่ดาเบิกเงินเองได้มั้ยล่ะคะ ขายที่ดินเองได้มั้ยล่ะคะ ในเมื่อบัญชีเงินฝาก พันธบัตร โฉนดที่ดิน อะไรต่อ อะไร คุณพ่อยังเก็บไว้เองทั้งนั้น เงินในธนาคารที่ต่างประเทศอีก”
“ฉันต้องเก็บไว้ก่อนสิ เด็กสมัยนี้มันกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ที่ไหนกัน ฉันให้แกหมด แกอาจเฉดหัวฉันออกจากบ้าน หรือไม่ก็ส่งฉันไปอยู่ไปตายที่บ้านพักคนชรา”
“งั้นก็เชิญคุณพ่อกอดสมบัติของคุณพ่อต่อไปเถอะค่ะ ดาจะไปอยู่กับเจต”
“เขาแต่งงานแล้วไม่ใช่รึ”
อารดาโมโหจี๊ด โมโหสถานการณ์ ไม่ได้โมโหพ่อ
“คุณพ่อย่าตอกย้ำสิคะ ช่วยดาคิดหาทางเอาเจตคืนมาไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“พ่อไม่อยากทำบาป พรากผัวพรากเมียเขา”
อารดามองพ่อ น้อยใจสุดๆ
“งั้นคุณพ่อก็อย่าขวางดาค่ะ ดาจะช่วยตัวเอง”
สองพ่อลูกต่างอึ้งด้วยปัญหาในใจตัว อารดาเดินออกไปจากห้อง พิทักษ์มองตามนิด แล้วตามออกไป

คุณหญิงศรินทิพย์กับจิตรดารา วางแผนเล่นงานอีริน่า
“เราต้องช่วยอารดา เราต้องเฉดหัวนังนั่นไปให้พ้นจากบ้านเราให้เร็วที่สุด ลูกจิต”
“ดีค่ะ จิตเห็นหน้ามันก็เกลียดทันที แต่ลูกชายสุดที่รักของคุณแม่ ทำท่าปกป้องมัน รักมันหลงมันมากกว่าอารดานะคะ เราอาจจะลำบาก”
“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล เราต้องจัดการมันให้ไปพ้นบ้านมันให้เร็วที่สุด”
สองแม่ลูกมองหน้ากัน เห็นดีเห็นงาม

อารดาเดินหน้าเศร้า พิทักษ์เดินตามหลังอ่อนลงนิด
“ดา...คิดดูดีๆนะลูก”
อารดาหยุดเดิน หันหาพ่อ
“ลูกคิดว่าบ้านนั้นเขาจะรักลูกจริงงั้นเหรอ เราจงรักภักดีคนอื่น หากเขายังเห็นประโยชน์จากเราเขาก็ว่าเราดี ลองลูกหมดประโยชน์กับเขาสิ ลูกจะรู้สึก เหมือนที่พ่อโดนมา ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่เราหรอกลูก”
อารดาสะเทือนใจ น้ำตาซึม
“ดาทราบค่ะว่าผลประโยชน์ต้องต่อกับผลประโยชน์อยู่แล้ว ดากำลังเนื้อหอมเป็นลูกมหาเศรษฐีหมื่นล้านอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆพ่อดาล้มละลาย มันเหมือนนางฟ้าถูกหักปีกแล้วถูกจับทุ่มลงมาจากสวรรค์เลยนะคะ ถ้าดาไม่มีหลักเกาะที่มีหน้ามีตา ผู้คนจะยิ่งดูถูก”
“แต่เราก็ยังมีทรัพย์สินอีกมากมาย แล้วแค่ห้าปีแค่นั้น พ่อก็พ้นภาวะล้มละลายแล้ว”
“แต่มันขายหน้าค่ะ คนล้มละลาย ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ยิ่งใครๆพูดกันว่าล้มบนฟูกยิ่งน่าอาย เพราะเท่ากับเราเป็นพวกขี้โกง”
“แล้วที่แกกำลังจะไปแย่งผัวคนอื่นเขานี่ล่ะ เรียกว่าอะไร” พิทักษ์โกรธ
“เจตเป็นของดามาก่อนค่ะ นังนั่นมันมาแย่งของดาไป ดาต้องปกป้องของรักของตัวเอง ดาต้องเอาของดาคืน”
“มันก็ไม่ต่างกันกับฉัน สมบัติฉันหาของฉันมา ฉันจะปล่อยให้ไอ้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาชุบมือเปิบยึดของฉันไปง่ายๆเหรอ”
“พูดกันไปก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ เราอย่าพูดกันเลยค่ะคุณพ่อ ต่างคนต่างไปก็แล้วกันค่ะ”
“ยายดา แกพูดกับพ่อแกยังงี้ได้ยังไง”
อารดาน้ำตาคลอ
“ที่ดาไม่อยากอยู่บ้าน ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากผวาว่าใครจะมาขู่มาทวงหนี้อีกเมื่อไหร่ ทั้งหนี้นอกระบบในระบบ ไม่อยากผวาว่าคุณพ่อจะโดนตำรวจจับใส่กุญแจมือเมื่อไหร่ ดาไม่ต้องการเห็นภาพนี้ ดาต้องเลือกทางรอดก่อนค่ะคุณพ่อ และเจตคือทางรอดของดา...ของ...เรา”
พิทักษ์เจ็บลึก อึ้งไปชั่วครู่
“ก่อนพ่อไปอยู่เมืองนอก พ่อจะให้โฉนดบ้านหลังนี้กับโฉนดที่ดินที่รังสิตอีกสามร้อยไร่ ส่วนเงินพ่อจะหาทางโอนมาให้จากเมืองนอก”
อารดาอารมณ์อ่อนลงบ้าง แต่ยังหมางเมิน
“ใครๆจะได้ไม่ดูถูกว่าลูกสิ้นไร้ไม้ตอก คงพอช่วยกู้หน้า ที่มีพ่อล้มละลาย”
“ขอบคุณค่ะ” อารดาไหว้
“แล้วกลับมาดูแลบ้านบ้างนะลูก”

อารดาเดินเช็ดน้ำตาไป ไปดูจัดของต่อ พิทักษ์มองตาม เสียใจและเจ็บปวดสุดๆที่ลูกหมางเมินใส่

อิริน่าถอนใจอย่างเศร้าๆ
“ฉันรู้สึกว่าเป็นส่วนเกินของที่นี่ค่ะ”
“เธอคือส่วนหนึ่งของผม อย่าไปสนใจว่าใครจะคิดยังไงกับเธอ ขอร้องอดทนเข้มแข็งนะ” เจตรินพยายามปลอบ
“อิริน่าต้องพยายามติดต่อกับแม่ให้ได้ เพื่อที่จะได้หาตายายพบ”
“เอ้อ...ขอโทษนะอีริน่า ถ้าหากว่ามีแต่ชื่อ เท่านั้นอาจจะไม่พอ เราต้องมีที่อยู่ด้วย เราจะพยายามติดต่อแม่ของอิริน่าให้เร็วที่สุด”
“ขอบคุณมากค่ะ”
จิตรดาราแอบมองไม่พอใจ
“พี่เจตท่าทางหลงใหลมันมากมายจริงๆด้วย ต้องเริ่มแผนการทำร้ายทำลายมันตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
จิตรดารามุ่งมั่นมาก

ภายในเรือนครัว ศรีกับเหล่าสาวใช้ เตรียมทำอาหาร พลางคุยเรื่องอีรีน่าไปด้วย
“มาวันแรกก็โดนปิดประตูรับน้องกันซะขนาดนั้น” จิ๋มรู้สึกเพลียแทนอีรีน่า
“ทำปากดีไปนังจิ๋ม หน้าต่างมีหู ประตูมีช่องนะยะ”
แหววปราม จิตรดาราเข้ามา แว๊ดใส่
“บ่นอะไร นังแหวว”
“เปล่าค่ะคุณจิต มดกัดแหววค่ะ นี่แน่ะๆ” แหววแกล้งบี้
จิตรดาราหมั่นไส้ หยิกแหวว
“โอ๊ย”
“หมั่นไส้ เจ้าเล่ห์แสนกลนัก นึกว่าฉันโง่ รู้ไม่ทันเหรอ”
ทุกคนก้มหน้างุด
“คุณแม่สั่งให้ทำอาหารเผื่อพี่เจตกับพี่ดาอีกสองที่เท่านั้น ไม่ให้ทำเผื่อตัว เสนียดตัวนั้น”
สามสาวก้มหน้าเงียบ ศรีแย้ง
“เอ้อ จะดีหรือคะให้ภรรยาคุณเจตกินของเหลือ”
“ใครว่า ไม่ให้เผื่อนี่หมายความว่าไม่ให้มันกิน ใครขืนให้มันกินฉันจะเล่นงานให้หนักเชียว”
ทุกคนยังเงียบ
“ได้ยินกันหรือเปล่า หา”
“ได้ยินค่ะ” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน
“ได้ยินแล้วก็ทำตามด้วย”
จิตรดารา มองเขม่นหมั่นไส้เรียงตัว แล้วเดินออกไป จิ๋มวิ่งไปแอบดูว่าเธอไปแล้วแน่ แล้วกลับมาที่วงทำงาน
“นึกว่าอยู่ยุคนางทาสหรือไง จิกได้ตีได้”
ศรีซัดเผี๊ยะ แต่แอบชอบ
“ทำงานๆ...แล้วสองคนนั่นจะกินอะไร”
“โฮ้ย ป้า คุณเจตเขาไม่ปล่อยเมียเขาอดหรอก ปล่อยก็บ้าแล้ว” จิ๋มออกความเห็น
“เจอแม่ผัว น้องผัว คู่หมั้นผัว แรงๆกันทั้งนั้น จะอยู่ได้สักกี่วันน้อ...”
ทั้งสี่คนพากันหนักใจ

เจตรินกับจีรณัทย์เดินคุยกันไปตามระเบียง เพื่อไปดูห้องนอนเดิมของเจตริน
“อาการโรคหัวใจของพี่จีดีขึ้นไหมครับ”
“ก็ทรงๆจ้ะ ไม่แย่ไปกว่าเดิม”
“ไม่แย่ลงก็ถือว่าดีแล้วครับ” เจตรินให้กำลังใจพี่สาว รู้เบื้องหลังรักเศร้าของพี่
“ทำไมเจตแต่งงานกะทันหัน ไม่บอกใครเลย”
“ครอบครัวอิริน่ามีเรื่องกับมาเฟียครับ”
“ว้าย”
“คุณแม่อิริน่าเป็นคนไทย ท่านเป็นห่วงลูกมาก เลยรีบส่งมาอยู่กับคุณตาคุณยายที่เมืองไทย แต่ติดที่อิริน่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ...”
“แต่เจตก็ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดแต่งงานกับเขาเองนี่”
เจตรินพูดให้เป็นเรื่องขำ
“ผมคิดว่าผมเป็นผู้ชายที่ไว้ใจได้ที่สุดว่าจะไม่ล่วงเกิน และล่อลวงลูกสาวเขามาขายครับ”
“นี่ก็เท่ากับแต่งงานกันในนาม”
“ครับ แต่นอกจากพี่จีแล้วผมไม่อยากให้ใครทราบ”
จีรณัทย์เข้าใจว่าน้องจะเลี่ยงอารดา
“พี่เข้าใจเจตจ้ะ พี่จะไม่พูดกับใคร แต่เจตก็น่าจะรีบส่งเขาไปหาคุณตาคุณยาย”
“อีริน่าทำจดหมายแม่หล่นหายครับ”
“อ้าว”
ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าห้องพอดี

จีรณัทย์กำลังจะเปิดประตู แต่ชะงักเพราะเสียงคุณหญิงศรินทิพย์
“แม่ไม่ให้ห้องนั้น ห้องนี้แม่จะให้เป็นห้องหอของเจตกับหนูอารดา สะใภ้ที่คู่ควรกับตระกูลไอยศูรย์ศรินทร์เท่านั้น”
“คุณแม่ครับ ผมแต่งงานแล้วนะครับ”
“แม่ไม่สนใจ แม่ไม่ให้นังนั่นอยู่ห้องนี้ แม่ยอมให้มันอยู่เรือนคนใช้ก็ถือว่าแม่ปรานีมันมากแล้ว”
“คุณแม่คะ...”
“แกไม่ต้องเสนอหน้าเข้าข้างมัน ยัยจี”
เจตรินอ่อนใจ แต่ก็เป็นแม่ ไม่อยากเถียงมาก...
“ถ้าอย่างนั้นผมไปอยู่เรือนคนใช้ด้วยครับ”
“เว่อไปมั้ยพี่เจต อย่าดราม่าให้มันมากนัก”
“เจตจะต่อต้านแม่ไปถึงไหน”
“คุณแม่ละครับ จะต่อต้านเมียผมไปถึงไหน”
“ถ้าเมียแกไม่ใช่นังนี่...”
“แต่ผมไม่รักอารดา”
“แกรักนังหัวแดง หรือแกจะเสียแม่ เลือกเอา”
สองแม่ลูกงัดข้อกัน

อิริน่าออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้ๆแถวนั้น ได้ยินเสียงคุณหญิงศรินทิพย์พูดทุกอย่าง ยืนน้ำตาซึม
“ขอบคุณมากค่ะคุณเจตรินที่ปกป้องอิริน่าตลอดเวลา อิริน่าจะไม่ให้คุณเดือดเนื้อร้อนใจนานเกินไปหรอกค่ะ ขอเวลาสักพักอิริน่าจะออกตามหาตายายของอิริน่าด้วยตัวเอง

น้ำตาอิริน่าไหล รีบป้ายน้ำตา

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 3 (ต่อ)

เจตรินนั่งปวดหัวอยู่กับคุณหญิงศรินทิพย์ จีรณัทย์ และจิตรดารา แหววเข้ามาคุกเข่ารายงาน
“คุณดามาค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์พอใจ
“พวกแกก็ไปช่วยเขาขนของขึ้นมาบนนี้สิ”
แหววลุกออกไป แอบทำหน้าเหม็นเบื่ออย่างแรง เจตรินแปลกใจ
“ดาขนของมา จะมาอยู่บ้านเราหรือครับ”
“ใช่”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะพาอิริน่าไปอยู่คอนโดของบริษัทเราก็แล้วกันครับ”
“แม่ไม่ให้ไป”
จิตรดาราอยากออกไปอยู่คอนโดบ้าง จะได้หนีเที่ยวสบายๆ
“แม่ให้พี่เจตไปสิคะ แล้วจิตไปอยู่ด้วย จะได้ช่วยคุมให้”
“แกน่ะคิดจะหนีเที่ยวมากกว่า ไม่ให้ไป” คุณหญิงศรินทิพย์รู้ทัน
“คุณแม่อ้ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์กระแทกกระทั้น
“งั้นเจตกับนังหัวแดงอยู่ห้องนี้ก็ได้ เฮ้อ มีลูกชายกับเขาคน หวังจะเป็นที่พึ่ง ก็ต้องง้อยังกับไม่ใช่ลูกตัวเองอีกไม่นานฉันคงต้องถึงกับกราบเท้าขอความเมตตากันละมั้งนี่”
เจตรินลำบากใจ แต่ตัดสินใจพูดเพื่อตัดปัญหา
“คุณแม่ครับ ดาจะมาพักที่บ้านนี้ก็ได้นะครับ แต่ไม่ใช่อยู่ตลอดไป”
คุณหญิงศรินทิพย์จะประชดอีก แต่เจตรินไม่เปิดทาง
“และต้องไม่หาเรื่องอีริน่า หากดาก่อเรื่องกับอีริน่า ผมจะพาอีริน่าไปอยู่ที่อื่นทันที”
“ย่ะ พ่อเจ้าประคู้ณ รู้แล้วว่าคุณน่ะเป็นเจ้าของบ้าน ฟังที่พูดนี่ก็ใหญ่โตคับฟ้าจนไม่เห็นหัวแม่แล้ว ให้แม่ไปรับใช้เป็นขี้ข้า รองมือรองเท้าเมียแกซะด้วยเลยมั้ยล่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ปึงๆไป เจตรินหนักใจมาก จีรณัทย์เห็นใจเจตริน ขณะที่จิตรดาราตามแม่พลางพูด
“พี่อะไร หลงเมียจนลืมแม่ ชิ”

อิริน่ากับอเล็กซ์ ยืนมอง คนขับรถของอารดา กับเหล่าสาวใช้ขนกระเป๋าอย่างขำๆ
“ขบวนพาเหรดกระเป๋า” อเล็กซ์ ทำเสียงแบบมาร์ชเดินพาเหรด
“อย่างนี้สมแล้วที่เรียกกระเป๋าเดินทาง กระเป๋ามันเดินทางจริงๆ”
สาวใช้ 3 คนของบ้านนี้และสาวใช้ 2 คนของอารดา กับนายเมฆคนขับรถประจำบ้านนี้ ช่วยกันเข็นและลากกระเป๋าตามกันเป็นหางแบบขบวนพาเหรดยาว หนึ่งคนต่อกระเป๋าสองใบ กระเป๋าครบโหลพอดี คนขับรถของอารดาเอากระเป๋าใบสุดท้ายให้นายเมฆแล้วไปขับรถตู้ออกไป อารดาเห็นอิริน่ากับอเล็กซ์ยืนมองอยู่ก็ตวาดแว๊ด
“แกสองคนน่ะยืนซื่อบื้ออยู่ทำไม มาช่วยกันขนกระเป๋า เดี๋ยวนี้”
อิริน่าจะไปด้วยความมีน้ำใจ สงสารคนใช้ แต่อเล็กซ์กันไว้
“อิริน่าไม่ต้อง เดี๋ยวเล็กจัดให้เอง”
อเล็กซ์เดินมาใกล้อารดา ถ่ายคลิปไปด้วย
“คุณอิริน่าเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน คุณต้องให้เกียรติเธอด้วย”
“อยากจะหัวเราะให้น้ำลายเปียกหน้าแกมากเลย เรื่องอะไรฉันจะต้องให้เกียรตินังภรรยาขี้ขโมย ขโมยสามีคนอื่นเขามา”
“แต่เขาก็เป็นภรรยาเจ้าของบ้านที่คุณกำลังจะมาอ่อยขโมยไป อย่าคิดว่าจะสำเร็จนะครับ คุณเจตรักอิริน่า ไม่ได้รักคุณ”
อารดาเป็นนางยักษ์มากขึ้น อยากจะบีบคออเล็กซ์
“อ๊าย ไอ้เด็กปากส้วม”
อารดาพุ่งหา อเล็กซ์วิ่งหนี หัวเราะกวนประสาทไปด้วย อารดาไปหาอิริน่า อเล็กซ์ ถ่ายคลิปไว้
“นี่แกเอาเด็กออกหน้าแทนเหรอนังหัวแดง แน่จริงมาตบกับฉันนี่อย่าใช้เด็ก ฉันไม่อยากฆ่ามัน”
อเล็กซ์ วิ่งมากันอิริน่า
“แต่ผมจะฆ่าคุณ แค่ผมโหลดคลิปคุณตอนเป็นนางยักษ์ลงยูทิวบ์ คุณก็คงหาสามีไมได้แล้วล่ะ ไม่มีใครเอาแน่”
“อ๊าย ได้เด็กชั่ว”
อารดาจะเข้าตบอเล็กซ์ อีริน่าออกมารับจับมือบิด
“โอ๊ย”
“เคยรู้ฝีมือฉันแล้วไม่ใช่เหรอ คุณนางยักษ์ ไม่เข็ดหรือไง ถ้าอยากจะอยู่อ่อยสามีฉันที่นี่อย่างสงบสุขละก็ อย่ายุ่งกับน้องฉัน และอย่าแหย่ต่อมโกรธของฉันด้วย เพราะฉันโกรธง่ายมาก”
อิริน่าเหวี่ยงอารดาถลาล้ม
“อ๊าย ฉันจะฟ้องคุณแม่”
อเล็กซ์จะท้าทาย แต่อิริน่ากระตุกห้ามไว้ อารดาเดินกระแทก รองเท้าส้นหักไปข้างหนึ่ง ล้มลงไปกอง
“อ๊าย”
ขบวนพาเหรดยังอยู่ก็แอบหัวเราะกัน สมรกับหวินเขม่นใส่สาวใช้สามคนของบ้านนี้ อย่างศรศิลป์ไม่กินกันตั้งแต่แรกเห็น อีริน่าหน้าขรึมลง
“ฉันว่าฉันยังไม่ไปบ้านคุณตาคุณยายดีกว่า อยู่ที่นี่สนุกดี”
“สนุกแล้วทำไมหน้าเครียดล่ะ”
“ก็สนุกอย่างเครียดๆไง ถ้าฉันไม่อยู่ สามีฉันต้องเดือดร้อนแน่ๆ ภรรยาที่ดีต้องอยู่ช่วยสามีกำจัดภัยร้าย”

อิริน่ากับอเล็กซ์ เดินมาหน้าตึกแล้วชะงัก สมรกับหวินยืนจังก้าขวางหน้าประตู หน้าตาเอาเรื่อง
“นี่ใช่มั้ยหวิน นังคนที่แย่งแฟนคุณหนูอารดานายเรา” สมรถาม
“ต้องใช่สิ ดูหนังหน้ามันก็รู้ หนังหนาหน้าด้านกว่าใครๆแถวนี้ทั้งหมด”
หวินมองอิรีน่าเหยียดๆ อีริน่านิ่งวางท่าเหนือกว่า อเล็กซ์ฮึดฮัด
“ฮึ้ย เล็กฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ดมกลิ่นได้ว่าไม่ดีแน่”
อเล็กซ์จะไป อีริน่าจับไว้เชิงห้าม
“แน่ะๆ แอ๊บผู้ดีแน่ะ ชะๆ” สมรจ้องเอาเรื่อง
กลุ่มสาวใช้บ้านเจตรินพากันไม่พอใจ แหววจะเข้าไปเอาเรื่อง
“สาระวอนอ้อนบาทาซะแล้วนังสองคนนี้”
“นังแหวว อย่า” แจ๋ว จิ๋ม เมฆจับไว้
“คุณหญิงสั่งว่าไงลืมแล้วเหรอ”
“ห้ามช่วย” แหววฮึดฮัดเจ็บใจ
“หัวจะขาดเอานะแก”
สมรกับหวินจ้องอย่างเอาเรื่อง
“เอาเลือดหัวมันออกมาล้างหน้ามันให้หายด้านกันเหอะ”
หวินแตะตัว สมรสะดุ้งเฮือกเพราะบ้าจี้ รีบอุดปากตัวเองไม่ให้อุทาน และรีบเก็บอาการ

“นังบ้า รู้ว่าบ้าจี้ยังจะมาโดนตัวอีก”

อิริน่ากับอเล็กซ์ ทั้งสองคนเห็นอาการว่าสมรบ้าจี้ หันสบตากันอย่างรู้กัน คิดอะไรได้ขำๆ
กลุ่มสาวใช้บ้านเจตริน เขม่นสมร หวินสุดๆ จะไปเล่นงาน
“ฮึ้ย กร่างยังกับเป็นบ้านตัวเอง ทนไม่ได้แล้วโว้ย”
“ยู้ด...คุณป้าป้าไม่ต้อง เดี๋ยวน้องเล็กจัดเอง” อเล็กซ์วิ่งไปห้าม
อเล็กซ์พรวดถึงตัวสมรโดยสมรไม่ทันตั้งตัว สมรออกอาการบ้าจี้ อเล็กซ์จี้เอวสมรหมับ จี้ๆไปหัวเราะไปเรื่อยอย่างขำมากและเมามัน สมรปัดมือไปโดนหวิน เลยเต้นยึกยักไปด้วย ทั้งคู่ส่ายต๊อกแด๊กเป็นจังหวะ
“อ๊าก สี่แยก สะพานลอย ถนน พระราม9 พระราม 8 พระราม7 พระราม 6 พระราม 5-4-3-2-1 โอ๊ยๆ”
สมรหัวเราะไปด้วย แต่เป็นแบบหัวเราะกลั้วเหยเกจะร้องไห้ แต่ไม่ร้องจริง พูดทวนวนไปมาตามที่อเล็กซ์ จี้อิริน่าขำมาก
“พวกเรา ไปจัดการอีกนังนึง” แหววสั่ง
“ไปๆ ถ้าบ้าจี้ด้วยละก็...มันส์แน่” แจ๋วนึกสนุก
หวินเองก็บ้าจี้ จะวิ่งหนี แต่ไม่รอด โดนดักหน้าดักหลัง สามสาวล้อม ย่างสามขุมเข้าหา
“ว้าย...ไม่เอานะ ไม่เล่นนะ” หวินร้องลั่น
“ใครว่าเล่น”
“เอาจริงเฟ้ย เอ้า โจ๊ะ พรึมๆ รุมๆ”
แหวว แจ๋ว จิ๋ม รุมจี้กันสนุกไปเลย เมฆยืนดูขำผสมระอา แล้วเดินแยกไป อีริน่าก็วิ่งห่างออกไปหน่อย ไปหัวเราะสุดๆ แบบหยุดไม่ได้

อเล็กซ์ แหวว แจ๋ว จิ๋ม ยืนแถวเรียงหน้ากระดาน ห่างจากสมรและหวิน ทั้งสี่คนทำท่าจี้ในอากาศใส่สมรและหวิน ออกท่าทางกันต่างๆแบบมันส์กันมาก สมรและหวินดิ้นด๊อกแด๊กงอไปงอมา ร้องคำประจำตัวไปด้วย แต่อ่อนระโหยโรยแรงมาก แทบจะขาดใจ
“มะกรูด มะนาว...ยอม...มะพร้าว...แล้ว...”
“สี่แยก...ยอม...สะพานลอย...ยอมจ้า..ยอมแล้ว... ถนน...พระราม9 พระราม 8 พระราม7...”
“พอแล้วค่ะ”
อิริน่าร้องห้าม
ทุกคนหยุดจี้ในอากาศ หวินกับสมรนอนแผ่หมดแรง หายใจแทบไม่ทัน

อารดาออดอ้อนคุณหญิงศรินทิพย์ ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ดาเอาคนของดามาอยู่รับใช้ด้วยนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์นึกไม่ถึง และไม่ค่อยชอบใจแต่พยายามเก็บไว้
“อุ๊ย ต้องถึงขนาดนั้นเชียวเหรอ คนรับใช้ที่บ้านนี้ก็แทบจะเดินชนกันตายอยู่แล้วนะหนูดา”
“ดาต้องเอามาคุ้มกันดาจากนังเด็กข้างถนนนั่นค่ะ จนกว่าดาจะเรียนจบศิลปะการต่อสู้”
“อะไรนะ” คุณหญิงศรินทิพย์ไม่แน่ใจว่าฟังถูก
“ดาจะไปเรียนวิชาต่อสู้ป้องกันตัวค่ะ เอาไว้มาสู้กับนังมารร้ายนั่น”
“โอย นี่บ้านฉันมิกลายเป็นสนามมวยหรือนี่” คุณหญิงศรินทิพย์อยากจะเป็นลม

สมรกับหวินลากกระเป๋าของอารดามุ่งไปที่บันได แหวว แจ๋ว จิ๋ม เดินคุมท่ากร่างมาก
“ให้ไว ให้ไว อย่าสำออย”
“อยากโดนจี้อีกหรือไง”
สมรกับหวินสะดุ้งเฮือกแค่ได้ยินคำว่าโดนจี้ ร้องออกมา
“สี่แยก สะพานลอย ถนน ไม่อยากจ้ะ”
“มะกรูด มะนาว ไม่เอาแล้วจ้า”
แหวว แจ๋ว จิ๋มหัวเราะกัน แล้วหยุดกึกทันใด เมื่อเห็นอะไรแวบๆที่ระเบียงฉันบน จิตรดาราเดินที่ระเบียง คล้ายมองมาที่สามสาว จริงๆแค่มองผ่านๆ ไม่ได้สนใจ แหวว แจ๋ว จิ๋มรีบวิ่งไปลากกระเป๋ามาคนละใบ หวินรู้ว่าสามสาวกลัวจิตรดารา พูดกับสมร
“มันก็ไอ้ขี้ข้ากลัวนายจนหัวหด”
“ซุบซิบอะไรกัน จะเอาอีกเหรอ” แหววหันมาแว๊ดใส่
สมรหน้าเย้ยๆ ทำอาการไปทางจิตรดารา
“กล้ามั้ยล่ะ”
แหววส่งสายตาเป็นสัญญาณกับแจ๋วจิ๋ม แล้วสามคนลากกระเป๋าแซงขึ้นหน้าหวิน สมร เดินขึ้นบันไดไปก่อน หวิน สมรตาม
จิตรดาราเข้าห้องปิดประตู สามสาวหันขวับมาทางสองสาวทันที หน้าตาแบบแกเสร็จฉันละ หวิน
กับสมรชะงักกึก รู้ว่าภัยมาถึงตัวแน่นอน จะหนีแหวว แจ๋ว จิ๋มนัดกันปล่อยกระเป๋าลื่นปรู๊ดลงมาใส่หวินกับสมร แจ๋วแกล้งดัดจริต
“อุ๊ยๆ ตายแล้ว”
จิ๋วกระเป๋าลื่นหลุดมือ ปล่อยกระเป๋าไหลไปตามขั้นบันได แหววร้องอุ๊ยๆ
“ของฉันก็หลุดมือเหมือนกัลป์”
หวินกับสมรล้ม กระเป๋าทับสุมตัว ร้องอุทานกันไป ขณะที่ศรีมาดูความเรียบร้อยของโต๊ะอาหาร ได้ยินเสียงโครมคราม เดินมาดูแบบสมน้ำหน้า...ศรีรู้ว่าสองสาวเป็นคนของอารดา เขม่นอยู่เหมือนกัน
แหวว แจ๋ว จิ๋ม วิ่งลงบันไดระริกระรี้ดัดจริตกันสุดฤทธิ์
“ว้ายๆ ช่วยด้วย ตกบันไดคร่า...ตกบันได”
“หนูก็ตกคร่า...”
“หนูก็ตกเหมือนกันคร่า...”
หวิน สมรเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“อ๊าย...อย่านะ...”
ทั้งสามสาววิ่งลงมาแล้วกระโดดนอนทับไปบนกระเป๋าที่อยู่บนตัวสองสาว หัวเราะกันคิกคัก สองสาวอุทานคำประจำตัวกันไป ศรีแอบหัวเราะสะใจแล้ววางหน้าเป็นผู้ใหญ่แสนดีต่อ

คุณหญิงศรินทิพย์นึกบางอย่างได้ สั่งเสียงเข้ม
“คนของหนูดา หนูดาต้องจ่ายเงินเดือนเองนะจ๊ะ”
อารดาแอบบ่นว่าเค็ม แล้วยิ้มหวาน
“ค่ะคุณแม่ คนของดา ดาจ่ายเองอยู่แล้วค่ะ แล้วที่ดาไปเรียนการต่อสู้นี่จะช่วยปกป้องดูแลคุณแม่ด้วยนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์รู้ทัน ยิ้มหวาน
“ก็ขอบใจละจ้ะ”

อารดาดาหน้าชื่นขึ้น

สามสาวใช้ ยังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนกระเป๋าที่อยู่บนตัวสมรกับหวิน ศรียืนมอง อีริน่าขำทั้งห้าสาว เข้าไปที่กลุ่ม
“เล่นอะไรกันคะ”
“เล่นผีอะไรล่ะ นังพวกนี้มันเอาจริง ช่วยฉันด้วยสิ” สมรร้องบอก
อิริน่าจะช่วยนั่นหละ แต่กัดซะหน่อย
“น่าช่วยมั้ยเนี่ย ตะกี้ที่ด่าฉันยังเต็มสองหูอยู่เลย”
หวินกับสมรสะดุ้งเด้งวี้ดตามท่าจี้ อีริน่าก้มลงจะช่วย เสียงอารดาแปร๋นสุดๆ ในมุมมองของอารดา
เหมือนอิริน่ากำลังจิกหัวคนของตัวเองอยู่
“รังแกคนของฉันเหรอนังวายร้าย”
อิริน่าไม่ทันตั้งตัว อารดาพรวดมากระชากอิริน่าตบเปรี้ยง แล้วผลักอิริน่าลงไปล้มกลิ้งไปกระแทกโต๊ะ เธอนางจุกเพราะเจ็บ สามสาวตกใจลุกขึ้นนั่งพรึบ แต่ยังนั่งอยู่บนกระเป๋า สมรกับหวินร้องโอดโอย
“คุณดาขา ช่วยพวกหนูด้วยค่ะ”
อิริน่าโกรธสุดๆ กระชากดามาชก อารดาล้มลงไปกอง
“อ๊าย คุณแม่ขา ช่วยดาด้วย”
สามสาวลุกไปจากกระเป๋าทันที ยืนมองอย่างตื่นเต้น แอบทำท่าเชียร์อิริน่า หวินและสมรลุกขึ้น
อย่างทุลักทุเล
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำร้ายฉัน อย่าจี้ต่อมโกรธฉัน”
อิริน่าไปกระชากดา จะชกดาอีก เสียงคุณหญิงศรินทิพย์ตวาดดังขึ้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
อิริน่าง้างหมัดค้าง เหวี่ยงดาลงไปกอง อารดามารยาผสมแกล้งล้มด้วย คุณหญิงศรินทิพย์ตบอิริน่าจนหน้าหัน
“อย่ามาทำกิริยาถ่อยทรามรดหัวฉัน นังเด็กฉันต่ำ อย่าถือว่าเป็นเมียเจตแล้วจะวางอำนาจต่อยตีใครก็ได้ นี่บ้านฉัน ฉันเป็นใหญ่ ออกไปเดี๋ยวนี้”
อิริน่าเดินออกไป โดยไม่พูดอะไร คุณหญิงศรินทิพย์แว้ดสามสาวใช้
“พวกแกไปทำคนของคุณดาเขาทำไม นังนั่นมันไม่ใช่นายแก ไปทำตามคำสั่งมันทำไม”
“คุณอิริน่าเปล่าสั่งค่ะ” แหววอ่อยๆ
“โกหก นึกว่าฉันจะเชื่อเหรอ เห็นหน้าพวกแกฉันก็รู้แล้วว่าแกเป็นพวกนังนั่นต่อต้านฉัน” อารดาแย้ง
“มันก็จริง” แจ๋วแอบพูดเบาๆ
สมรลอยหน้าลอยตาฟ้อง
“นังนี่...มันว่าคุณดาด้วยค่ะว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติหน้าชาติไหนน้ำหน้าอย่างคุณดาไม่มีวันมีน้ำยาช่วยพวกหนู ว่าคุณดาต่ำต้อยด้อยค่ากว่านังสะใภ้นายมัน พวกมันเกลียดคุณดา รักนังสะใภ้หัวแดงค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์หน้าขรึมจัด มองเห็นแวววุ่นวายมากมายในอนาคต อารดาโกรธปรี๊ด มองแหววแบบเอาเรื่อง แหววหลบตาวูบ
“กำเริบนักนะนังปากตำแย นังขี้ข้าตาไม่มีแวว ต่ำ ไร้การอบรม”
คุณหญิงศรินทิพย์สะดุ้ง เหมือนโดนว่าไปด้วย ไม่ค่อยพอใจที่อารดาด่าคนของตัว ไม่รู้จะด่าอารดายังไง จึงหันไปพยักเพยิดเล่นงานศรี
“แกเหมือนกันนังศรี เห็นแล้วไม่รู้จักห้าม แก่ซะเปล่า แก่กะโหลกกะลา มีแต่จะเอาไปก่อไฟต้มรำต้มหยวกหมูกิน”
“เอ้อ...” ศรีจะเถียง แต่ไม่ทัน
“ฉันจะตัดเงินเดือนให้หมดทั้งหัวหงอกหัวดำ คุณเจต คุณจี คุณจิตอยู่ไหน ไปเชิญมาทานข้าว แล้วไปหายามาให้คุณดาด้วย”
หมู่มวลรีบสลายตัว ศรินยังหน้ามึนๆกับอารดาแต่ก็ไปดูดาตามมารยาท

อารดามารยาเจ็บมาก น้ำตาหยดเผาะๆ หวินกับสมรขนกระเป๋าไปกองรวมกันไว้มุมหนึ่ง
“เจ็บมากมั้ย”
พอคุณหญิงศรินทิพย์สนใจ อารดามารยาทันที
“อูย... คางดาเบี้ยวแล้วมั้งคะ ตอนดามามันก็แกล้งดาจนขาแพลงทีนึงแล้ว ตอนนี้ชกดาอีก มันกะเล่นงานดาถึงตายเลยนะคะ”
แจ๋วได้ยินแล้วส่ายหัว
“แหม...คุณอิริน่าน่าจะต่อยให้กรามค้าง จะได้พูดไม่ได้ สบายหูพวกเเราไปสักพัก”
ศรีเข้ามาใช้สองมือดึงหูจิ๋ว กับแจ๋วสองคนไป
“ยังอีก จะให้โดนตัดเงินเดือนหมดทั้งเดือนก่อนใช่มั้ย ถึงจะสลดกันฮะ” ศรีเลียนเสียงอารดาประชด “นังขี้ข้าไร้การอบรม”

อิริน่านั่งซึม เป่าผ้าเช็ดหน้าที่ปั้นเป็นก้อนกลมๆแน่นๆ เป่าแรงจนแก้มป่องเพื่อให้ผ้าร้อน
แล้วค่อยๆประคบหน้าข้างที่โดนคุณหญิงศรินทิพย์ตบ เจตรินแปลกใจ
“เป็นอะไรน่ะอิรีน่า ตายจริงแก้มเธอ”
เจตรินพยายามจะมาดู อิริน่าเอามือมาปิด ส่ายหน้า
“เอ้อ อิริน่าหกล้มค่ะไปกระแทกเอากับกิ่งไม้ มันเลยขูดเอาค่ะ”
เจตรินไม่อยากจะเชื่อ
“จริงหรือ ไม่อยากจะเชื่อ”
“จริงค่ะ”
เจตดึงผ้ามาจากมืออิริน่า แล้วช่วยปะคบแก้มให้ อิริน่าปลื้มแล้วห่อเหี่ยวอีก นึกในใจ...
‘ทำไมเขาคิดว่าเขาทำร้ายเราได้ง่ายๆล่ะ เขาเกลียดเขาโกรธเรา”
เจตรินมองอย่างเห็นใจ
“ท่าทางเธอเหงามาก คิดถึงแม่พริมหรือ”
“ค่ะ...เอ้อ ขอบคุณมากนะคะ ที่คุณเจตรินดีกับอิริน่า”
“ไม่ดีกับภรรยาแล้วจะดีกับน้องหมาที่ไหน”

สองคนหัวเราะให้กัน

ภายในห้องอาหาร...แหวว แจ๋ว จิ๋ม ยืนเม้ากันอยู่อยู่มุมหนึ่งรอบริการ คุณหญิงศรินทิพย์ อารดา จิตรดารา เข้ามานั่งตามที่ประจำของตัว สามสาวใช้สำรวมกิริยาแยกกันไปช่วยกันดึงเก้าอี้ให้บรรดานายๆ

คุณหญิงศรินทิพย์นั่งหัวโต๊ะ อารดายังเดินกะเผลกนิดๆ ข้อเท้าข้างที่แพลงพันผ้ายืดไว้ สามสาวใช้
“หนูดานั่งนี่นะจ๊ะ เดี๋ยว เจตเขามานั่งนี่ จะได้นั่งด้วยกัน”
“ค่ะคุณแม่” อารดาปลื้ม
“พี่เจตกับพี่จีช้าจัง หิวแล้วอะ” จิตรดาราหงุดหงิด
เจตรินกับจีรณัทย์เข้ามาพอดี
“มาแล้วจ้ะ ยายขี้บ่น” เจตรินขยี้ผมจิตรดาราอย่างรัก เอ็นดู
“อี๊...พี่เจตอ้ะ ผมจิตยุ่งหมด” จิตรดาราน่ารักกับพี่
คุณหญิงศรินทิพย์จ้องเจตรินอยู่แล้ว แบบรู้ว่าเดี๋ยวต้องมีเรื่อง เจตรินไม่เห็นอิรินากับอเล็กซ์
“อิริน่ากับอเล็กซ์ล่ะครับ”
เจตรินมองจานที่จัดไว้ ไม่มีเผื่อสองคนนั้น มองแม่แบบขอคำอธิบาย เจตรินหน้าเริ่มเอาเรื่องแต่เสียงยังสุภาพ
“คุณแม่ครับ”
“แม่ไม่ให้สองคนนั้นร่วมโต๊ะอาหารด้วยเด็ดขาด”
“อิริน่าเป็นสะใภ้บ้านนี้นะครับ”
“แม่บอกเจตแล้วว่าแม่ไม่รับ”
“ถ้าอิริน่าไม่ได้ทานด้วย ผมก็ไม่ทาน พี่จีครับผมขอยืมรถ ผมจะพาอิริน่าไปทานข้างนอก”
จีรณัทย์ยังไม่ทันพูด คุณหญิงศรินทิพย์ผุดลุกยืน โกรธ
“แม่ไม่ให้เจตไปนะ เจตก็รู้ว่าครอบครัวเราต้องกินข้าวกันพร้อมหน้า”
“ครอบครัวเรามีภรรยาผมเพิ่มมาอีกคน หากเขาไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารด้วย มันก็คงถึงเวลาที่เราต่างคนต่างทานกันแล้วละมังครับคุณแม่”
เจตรินไป คุณหญิงศรินทิพย์โกรธมาก จีรณัทย์หันไปบอกว่ากุญแจวางอยู่ตรงไหน คุณหญิงศรินทิพย์หันมามองดุใส่ จีรณัทย์หลบตา แต่แอบยิ้ม จิตรดารามองอย่างหมั่นไส้กระซิบเบาๆ
“ให้ท้ายนังน้องสะใภ้เหลือเกินนะคะพี่จี ทีกับจิต น้องแท้ๆเนี่ย พี่จีจับผิดโขกสับตลอด”
จีรณัทย์ไม่อยากต่อปากด้วย อารดาไปกอดแขนเจตรินรั้งไว้ อ้อน
“เจตขา ดามาอยู่ด้วย เจตน่าจะอยู่ทานข้าวต้อนรับดานะคะ...นะคะเจต”
เจตรินแกะมือ แต่อารดายังกอดเหนียว
“ผมห่วงภรรยาผมครับดา เขายังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่กลางวัน ป่านนี้หิวแย่แล้ว”
เจตรินแกะมืออารดาอย่างแรงแล้วสะบัดออกแบบแทบจะกลายเป็นผลัก อารดาเซไปนิด โกรธ เจตรินไปที่ที่เก็บกุญแจรถ อารดาจะตามไป แต่คุณหญิงศรินทิพย์ขัด
“มาทานข้าวเถอะหนูดา ปล่อยเขาไปก่อน ให้มันรู้ไปว่าจะหลงเมียจนกล้าทิ้งแม่ทิ้งพี่น้องตัวเอง”
อารดามากระแทกตัวนั่ง จีรณัทย์แอบยิ้มอ่อนๆ สาวใช้เริ่มบริการ

อิริน่านั่งอยู่พื้นสนามหญ้ายุงกัด ตบ ปัดกันเปาะแปะ ท้องร้องโครกสนั่น เธอขำแกมสมเพชตัวเอง
“สามัคคีใจดำกันแท้ๆไม่ยอมให้เรากินข้าว เสียงอะไรน้า ยังกับเสียงโรงงานผลิตจรวดเลย” เธอกุมท้องแบบจะห้ามเสียงร้อง แต่ห้ามไม่อยู่ “แหะๆ ท้องไม่รักดี ฉีกหน้าเจ้าของซะแล้ว โอย เมื่อไหร่จะได้กินอาหารเนี่ย หิวจะตายอยู่แล้ว”
เสียงท้องอิริน่าร้องดัง อิริน่าตะครุบท้อง แต่ไม่อาจหยุดเสียงได้ อิริน่าตะครุบท้องตัวเอง
“เฮ้ย”
เจตรินเดินมามองหาอิริน่ากับอเล็กซ์ พลางร้องเรียก
“อิริน่า”
“ขา”
อิริน่ารีบไปหา เจตรินยิ้มสดใสให้ ไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าขุ่นใจมา
“ใครจะไปทัวร์กรุงเทพราตรียกมือขึ้น”
อิริน่าชูแขนกันสองแขนเลย เต้นไปมาอย่างดีใจมาก
“ไปค่ะ”
เจตรินขับรถขึ้นทางด่วน อีริน่าเกาะหน้าต่างชี้ชวนเขาดูอย่างตื่นตาตื่นใจ อิริน่าทำให้เขามีความสุขมากโดยไม่รู้ตัว
ถนนเยาวราช....สองคนเดินดูชีวิตถนนสายนี้ ดูโน่นนี่ ตื่นตาตื่นใจ มีชีวิตชีวา เจตรินโอบไหล่อิริน่าหลวมๆ เหมือนเพื่อนกอดคอกัน
“นี่เหรอคะไชน่าทาวน์ ฉันชอบจังเลยค่ะ”
“คนไทยเรียกเยาวราช”
“เราจะได้กินอาหารค่ำที่นี่ใช่มั้ยครับคุณเจตริน อิริน่าหิว ท้องร้องดังมาก”
“ไปกินเลย ผมก็หิวจนไส้บิดกลับข้างซ้ายเป็นขวา ขวาเป็นซ้ายแล้ว” เจตรินบอกทันที

เจตรินกับอิรีน่า นั่งทานอาหารทะเลเผาริมถนนเยาวราชอย่างเอร็ดอร่อย เปลือกกองพูน อิริน่ากินน้ำจิ้มเผ็ดเข้าไป กระโดดโหยงจากเก้าอี้ แลบลิ้นออกมาเอาน้ำล้าง เจตรินชี้ให้ใช้จิ้มน้ำจิ้ม
หลังจากทานอาหารทะเล เจตรินยื่นนมสดชนิดจืดให้อีริน่า ของตัวเองมีด้วยกล่องหนึ่ง ยังเผ็ดกันสุดๆ
“รสเผ็ดบรรเทาได้ด้วยนมสด รีบดื่มเลย รับรองเดี๋ยวหาย”
อิริน่าไม่รอฟัง ได้นมปุ๊บดื่มปั๊บเลย ดื่มแล้วเทนิดหน่อยใส่นิ้วป้ายลิ้นซ้ำอีก
“จริงอ้ะ หายเผ็ดได้ไงคะ”
“จำชื่อตัวทำให้หายเผ็ดไม่ได้แล้ว แต่ลองดูสิ”
อิริน่าดื่มนม เจตรินดื่มด้วย
“จริงด้วยค่ะเร็วขนาดนี้หายเผ็ดไปเยอะเลยอะ ลิ้นสบายขึ้นแยะ คุณเจตรินเก่งจริงๆครับ
“ผมก็ฟังคนอื่นบอกต่อๆกันมาน่ะ”

คุณหญิงศรินทิพย์ อารดา จิตรดารา สามคนเดินมาตามระเบียง มุ่งมาห้องจิตรดารา สมรกับหวินเดินตามหลัง
“คืนนี้หนูดานอนกับยายจิตสักคืนก็แล้วกัน ห้องที่จะให้หนูอยู่พรุ่งนี้แม่จะให้คนทำความสะอาดแล้วจัดให้ใหม่”
“ค่ะคุณแม่ ดาขอให้คนของดาสองคนนอนห้องน้องจิตด้วยนะคะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ลอบทำหน้าแวบหนึ่ง แบบเธอช่างเยอะ
“ให้ปูที่นอนนอนที่พื้นปลายเตียงอะค่ะ ดาไม่อยากปล่อยคนของดาไปนอนกับ...พวกนั้นค่ะ กลัวโดนรังแกอีก แล้วก่อนนอนดาต้อง ให้สองคนนี้นวดเท้าให้ด้วยค่ะ ไม่งั้นดานอนไม่หลับ”
คุณหญิงศรินทิพย์ถอนใจเฮือก หันมาถามลูกสาว
“จิตว่าไงล่ะ”
“คืนเดียวได้อยู่แล้วค่ะ ดีเหมือนกันจิตจะได้ให้คนของพี่ดานวดเท้าให้จิตด้วย จะได้รู้ว่ามันสบายทำให้หลับง่ายจริงเปล่า ต่อไปจิตจะได้ให้นังสามคนของเรานวดให้ทุกคืน”
“ทำไมเจตยังไม่กลับอีก” อารดาบ่นอย่างเซ็งๆ
คุณหญิงศรินทิพย์อารมณ์เสียขึ้นมาอีก

“อย่าไปสนใจเขาเลย สนใจมากจะยิ่งได้ใจ”

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 3 (ต่อ)

เจตรินพาอีรีน่ามาที่สนามหลวง เพื่อให้ชมพระบรมมหาราชวัง และวัดพระแก้ว อีริน่าประทับใจจนน้ำตาซึม ยกมือไหว้
“สวยมากค่ะ ทั้งพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว แล้วก็รอบๆทั้งหมด ขอบคุณมากนะคะที่พาฉันมาที่นี่”

เรือนคนรับใช้...แหวว แจ๋ว และ จิ๋ม อาบน้ำแต่งชุดนอนแล้ว ช่วยกันหิ้วฟูก หมอนหนุน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน สำหรับสองคน เดินบ่นกันมา
“นังคนใช้ไฮโซ ต้องนอนบนตึก”
“เอาหมามุ่ยโรยที่นอนปลอกหมอนซะเลยดีมั้ย จะได้นอนคันฝันดีเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้ายาวไปอีกสามวันเลย อยากคันกันนัก”
“แรงไปอะแก เดี๋ยวเกิดบ้าจี้เพราะคัน หอนกันขาดใจตายไป บาปชักเลยนะ” จิ๋มแย้ง
“เออ มันก็จริง” แจ๋วเห็นด้วย
“ไว้จัดหนักอย่างอื่น ยังมีมุกให้เล่นอีกเย้อ” แหววบอกอย่างมุ่งมั่น

สมรกับหวินซุบซิบคุยกันระริกระรี้อยู่ที่ระเบียงฉันบน สามสาวเดินมาถึง หยุดเดินทันทีเมื่อเห็นทั้งคู่
แจ๋วหยิบอะไรแถวนั้นปาขึ้นไปโดน สมร หวินร้องตามแบบบ้าจี้ของตัว สามสาวทิ้งเครื่องนอนโครม ไว้ที่เชิงบันได
“เชิญลงมาขนไปเองนะยะนังคุณนายบ้าจี้”
ทำท่าจะจี้ในอากาศ สมรหวินกระโดดโหยง
“ฉันจะฟ้องคุณหญิง”
“มันอยากลองของกันอะ เล่นซะเลยมั้ย” จิ๋วหน้าตึง
“ช่างมันเหอะ ให้เห่าไปก่อน” ว่าแล้วแจ๋วก็หันไปทางสมร กับหวิน “พวกฉันคุมครัวนะยะ อยากรู้เหมือนกันว่าหล่อนสองคนมีงบซื้อข้าวกินเองละป่าว ฮ่าๆ”
“แล้วห้องน้ำห้องส้วมส่วนตัวน่ะ พกมาด้วยละป่าว...ฮ่าๆ” แหววขู่บ้าง
สมรกับหวินซีดไปเลย สามสาวไฮไฟ้ฟ์กันแบบเป็นวงพร้อมกันทั้งสามคน แล้วพากันเดินกลับไป หวินหงุดหงิด
“นังปากผีเจาะ แกไม่น่าไปยั่วประสาทมันเลย”
“ก็มันลืมตัวอ้ะ”
“เรื่องเงินน่ะคุณดาเหนียวจนเคี้ยวไม่ออก แกก็รู้ ทำไงล่ะทีนี้”
สองคนวิตกกันไป

จิตรดาราออกมาจากตึก ลัดเลาะไปตามที่แสงสลัวและที่มีต้นไม้พุ่มไม้บังตา เธอเดินมาถึงประตูหลังบ้าน กำลังจะไข เสียงอารดากระเอม จิตรดาราหันขวับ อารดาปรากฏตัวยิ้มออกมาจากที่มืด หน้าตาแบบรู้ทันว่าจิตรดาราหนีเที่ยว อารดาแต่งชุดจะไปเที่ยวผับ จิตรดาราแอบเหม็นหน้า แต่ก็รู้ทันเหมือนกันว่าอารดาจะลอบออกไปเที่ยว
“พี่มาคอยจนยุงกัดขาลายหมดแล้ว โตป่านนี้แล้วยังต้องแอบหนีเที่ยวอีกเหรอ”
จิตรดาราเขม่นหมั่นไส้ แต่พูดดีไว้ ไม่รู้อารดาจะตลบหลังหรือเปล่า
“แล้วพี่ดาล่ะคะ อายุปูนนี้แล้ว ยังต้องหลบมุมมืดเตรียมหนีเที่ยวด้วยเหรอคะ”
อารดาลอบเขม่นจิตรดาราแล้วยิ้มหวาน
“พี่มารอออกไปพร้อมกับจิตจ้ะ พี่ไม่มีกุญแจบ้าน ไม่อยากยุ่งกับพวกสาวใช้ที่ถือกุญแจ เดี๋ยวจะไปฟ้องคุณแม่ให้ไม่สบายใจ”
“เหตุผลเขียนสคริปต์มาดีมากเลยนะคะ”
อารดายิ้มหวานแต่ตาจิก
“เรื่องของเรา ถ้าจิตไม่พูดพี่ก็ไม่พูด พี่มาอยู่ที่นี่ พี่ก็ต้องทำตัวให้คุณแม่ไว้ใจ สบายใจ แบบเดียวกับที่จิตทำอยู่นี่ละ แต่จิตก็รู้ว่าการออกไปพักผ่อนหย่อนใจตอนกลางคืนบ้างไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าเราไม่ทำตัวเสียหาย ใช่มั้ยจ้ะ”
“นั่นสิคะ จิตก็คิดอย่างเดียวกับพี่ดา ไม่ทำตัวเสียหายไปมากกว่าที่เคยเสียหายมาแล้ว และก็กำลังจะทำให้เสียหายในอีกไม่นานนี้”
อารดารู้สึกว่าจิตรดาราจะรู้อะไรที่ประมาทไม่ได้ อารดากำลังจะไปพบกับพงษ์ธร แต่แค่เพื่อนนัดเที่ยวกัน ไม่ใช่เรื่องชู้สาว
“จิตพูดอะไรน่ะ”
“พี่ดานัดกับใครไว้ล่ะคะ”

อารดานิ่งไป

บริษัทเช่ารถ...พงษ์ธรชี้รถเบนซ์คันสวย
“ผมเช่าคันนี้ มันดูดีมันดูหรูมาก”
“โอเคครับ” ผู้จัดการตอบรับทันที
พงษ์ธรก้าวขึ้นไปนั่งบนรถเบนคันงาม ก่อนขับไปพบอารดาที่นัดกันไว้

อารดาไม่อยากมีปัญหากับจิตรดารา จึงอ่อนลง
“ไม่ใช่อย่างที่จิตคิดหรอก แต่เอาเป็นว่าเรื่องของใครก็เรื่องของใครนะ เราต่างคนต่างไม่ยุ่งกัน ดีมั้ย”
“ดีค่ะ พี่ดาเอากุญแจนี่ไป มีทั้งประตูหน้าประตูหลัง”
“แล้วจิตล่ะ จะเข้าบ้านยังไง”
จิตรดาราเน้นแบบให้รู้ว่านี่บ้านฉัน
“พี่ดาลืมไปหรือเปล่า นี่บ้านของจิตค่ะ จิตเข้าได้ก็แล้วกัน”
จิตรดาราเดินหนีไป อารดาหน้าเปลี่ยนเป็นร้าย
“ยัยจิตรดารา นึกว่าแน่กว่าฉันงั้นเหรอ ทำซ่ามาข่มฉัน รอวันที่ฉันเอาคืนเธอเถอะ แล้วจะรู้ว่าคำว่าเจ็บจำไปจนถึงในนรกน่ะเป็นยังไง”

เจตรินกับอิริน่า พากันไปขับรถเล่นตามถนน สวยงามมีไฟประดับประดาบนถนน
“ไฟสวยจังเลยนะค่ะ” อิริน่าชื่นชอบมาก
“เขาเตรียมไฟติดไว้สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษา”
“ดีจังเลยค่ะแม่พริมบอกเสมอว่าคนไทยรักในหลวงมากค่ะ”
“คนไทยรักและเทิดทูนในหลวงพระราชินี และองค์รัชทายาทกันทั้งนั้น”
“อิริน่าก็ขอรักและเทิดทูนด้วยคนนะคะ”
“ด้วยความยินดีและปลาบปลื้มครับ”
“เฮ่อ...” อิริน่าเริ่มหาว
“ง่วงก็นอนเถิด ถึงบ้านแล้วจะปลุก”
เจตรินจอดรถ ปรับเอนเบาะให้เอนตัว อิริน่ามองอย่างขอบคุณทางดวงตา เจตรินมองตอบยิ้มในใจหวั่นไหว

เมทินีกับลลิตาเพื่อนของอารดานั่งรอกระวนกระวายและเบื่อๆอยู่ในรถหรูของเมทินี อยู่ใกล้ๆบ้านเจตริน ครู่หนึ่งอารดาเดินมาถึง
“โฮ่ย” เมทินีถอนใจอย่างแสนเบื่อ
“มาแล้วๆ” ลลิตาที่หันมาเห็นร้องบอก
อารดาเปิดรถกระแทกตัวนั่ง ปิดประตูโครม
“ฮึ้ย ประตูพังมั้ย เรื่องไรระบายอารมณ์ใส่รถฉัน” เมทินีโวย
“แกมาสาย ฉันเห็นยัยจิตไปกับนายตี๋แฟนมันตั้งหลายนาทีแล้ว” ลลิตาบ่น
“เอ้าๆ รุมกัดกันเข้า ฉันเดินมานะเว้ย ข้อเท้าเคล็ดไปหมดแล้วเนี่ย เกิดมาเคยเดินข้างถนนเป็นสาวใช้ไปจ่ายตลาดซะที่ไหน”
“อยากตบตาแม่ผัว...” เมทินีแซว
“นังเม”
“พูดผิดพูดใหม่เดี๋ยวนี้” ลลิตาขำๆ
“อยากให้แม่ผัวเห็นว่าเป็นกุลสตรี ดีประเสริฐเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ในสามโลก”
เมทินีกับลลิตาหัวเราะ อารดาพลอยขำไปด้วย
“เออสิ แล้วช่วยขับรถไปด้วยเม้าไปด้วยก็ได้ย่ะ เสียเวลาสำราญของดิฉันนะคะคุณเมทินี”
“ย่ะ คุณอารดา” เมทินีออกรถ
“เดี๋ยวสายไม่ครบชั่วโมงนะ ฉันไม่เคยเห็นแกตรงเวลาสักที” ลลิตาบ่น
“ถ้าไม่อยากเก็บปากไว้ดริ๊งก์ ก็มาให้ฉันตบซะ นัง ละ-ลิ-ตา”
ทั้งเมทินีและลลิตาเป็นเพื่อนสนิทของอารดา แต่มีกัดอารดาลับหลัง ทั้งสองคนสวย รวย ไฮโซ ลลิตาสวยธรรมดาทั่วๆไป แต่เมทินีดูเซ็กซี่เย้ายวน และออกแนวสาวเที่ยวชัด เตะตาผู้ชายทันทีที่เห็น

กลุ่มอารดาเดินมาจากอาคารจอดรถมาที่โรงแรมหรู อารดาเห็นจิตรดารา นิกกี้กับเพื่อนชายหญิง 3-4 คนอยู่ห่างออกไป จิตรดารากับเพื่อนหญิงทักกันจี๊ดจ๊าด แล้วพากันไปทางผับ ไม่เห็นกลุ่มอารดา
“ผับมีตั้งล้านเจ็ด มาป๊ะกันได้ เหลือเชื่อจริงๆ” อารดาบ่น
“อ้าว นี่หล่อนไม่รู้เหรอ ตอนนี้ผับที่นี่กำลังฮ็อตฮิตเป็นทอล์กอ๊อฟเดอะทาวน์ ขนาดค่าดริ๊งก์แพงสุดขอบจักรวาล ไฮโซโลโซยังมาเที่ยวกัน ทุกคืนโรงแรมแทบถล่ม”
“แล้วแกพาฉันมาทำไม รู้อยู่ว่าฉันไม่ชอบแบบนี้”
“พามากันตกรุ่นจ้ะป้า ก็อีตาพงษ์ธรนัดที่นี่ด้วยพอดีนี่”
อารดาหยิกปากลลิตาเบาๆ
“นี่แน่ะป้า ขอให้ชาติหน้าปากแกเท่ารูเข็ม อยู่ไหนเนี่ย”
“โน่น เก๊กหล่ออยู่โน่น”
เมทินีพยักเพยิดไปด้านหนึ่ง พงษ์ธรยกมือเป็นสัญญาณว่าอยู่ตรงนั้น

สามสาวเดินถึงพงษ์ธรยืนอยู่กับเขมชาติ ที่มองสามสาวด้วยตาประเมินราคาอย่างคนค้าผู้หญิง และอยากได้ เขามาสะดุดที่เมทินี ตาเขมชาติบอกแววเจ้าชู้และพึงใจอย่างเปิดเผย พงษ์ธรอมยิ้มมองอย่างรู้ทัน
อารดาอาการสะดุดใจนิดหน่อยที่พงษ์ธรมีคนอื่นอยู่ด้วย และเชิดวางมาดไฮโซโดยอัตโนมัติ ข่ม
เขมชาติในที มองว่าเขมชาติหล่อยังไงก็ภูธร อารดานั้นไม่คิดกับพงษ์ธรด้านชู้สาว แต่พงษ์ธรจ้องจับอารดาตลอดเพื่อให้เป็นกระเป๋าเงินให้ตัวเอง แต่เธอไม่เฉลียวใจ เพราะเขาทำตัวเป็นเพื่อนมาตลอด
เมทินีรู้ว่าเขมชาติสนใจ ทิ้งตาให้แบบหว่านเสน่ห์ แต่ก็แค่นั้น เป็นบันไดขั้นแรกของหญิงปราดเปรียว วางท่าไฮโซไว้ตัว ลลิตาเฉยๆ ชินแล้วกับการที่หนุ่มสนใจเพื่อนสองคน พงษ์ธรแนะนำ
“นี่เขมชาติเพื่อนสนิทของผม อยู่พัทยา พอดีมีธุระด่วนต้องคุยกัน เลยนัดมาเจอที่นี่ด้วยเลย”
อารดาเชิดๆวางมาด
“นัดซ้อน ไม่ชอบนะ”
“ขอโทษครับดา เขมมีธุระด่วนจริงๆ”
เขมชาติแจกนามบัตรสามสาว สามสาวรับ อารดารับตามมารยาทอย่างไม่สนใจ
“แลกนามบัตรกันนะครับ”
“พวกเราไม่นิยมนามบัตรค่ะ” อารดาบอกทันที
เขมชาติยังยิ้ม ไม่เสียฟอร์ม เจอผู้หญิงเชิดใส่มาเยอะจนชิน
“ไปพัทยาเมื่อไหร่ ผมยินดีบริการครับ ฟรีตลอด”
ลลิตาซุบซิบกับเมทินี
“ตามันออกเขี้ยวมันงอกซะขนาดนั้น นึกว่ารู้ไม่ทันหรือไงว่าอยากกินพวกเรา”
เมทินีแอบหยิกลลิตาในอาการนิ่งๆ
“ก็เก็บไว้ใช้สิแก”
เขมชาติส่งนามบัตรให้เมทินีพร้อมส่งตาเยิ้มหมาหยอกไก่ เมทินียิ้มยวนใจแบบไก่หยอกหมากลับไป
“ขอบคุณค่ะ เออ...ดา ฉันกับลิตาไปห้องน้ำก่อนนะ แล้วจะไปรอแกในผับเลย”
“อือม์” อารดาพยักหน้ารับ
เขมชาติอยากตามเมทินี
“งั้นฉันไปก่อน นายคุยธุระกับคุณอารดาแล้วตามไปที่โต๊ะเดิมในผับละกัน”
“ได้”
มีสัญญาณภาพเข้ามือถือของเขมชาติ หน้าจอปรากฏเป็นภาพอิริน่า อารดาเห็นภาพนั้นด้วย เขมชาติให้เอื้อส่งมาให้เพื่อให้พงษ์ธรดู อารดาจ้องเขม็ง
“เอ๊ะ”
เขมชาติเห็นทางเชื่อมสะพานกับอารดา คิดแต่งเรื่องแก้ตัวไปด้วย เผื่ออิริน่าเป็นญาติหรือเป็นเพื่อนอารดา
“คุณอารดารู้จักหรือครับ”
เขมชาติเดาจากสีหน้าอารดาได้ว่าน่าจะเป็นคู่ปรับกัน
“ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับคุณคะ”
“ก็...”
เขมชาติทอดเสียงระยะอย่างมีฉันเชิง และเผื่อพงษ์ธรจะช่วย พงษ์ธรพูดเชิงส่งซิกให้อารดา
“เรื่องผู้ชายๆน่ะดา อย่าสนใจเลย”
พงษ์ธรรู้จากอารดามาบ้างแล้วเรื่องมีผู้หญิงจับเจตรินแต่งงานด้วย และอารดาจะมาขอให้พงษ์ธรช่วยจัดการ อารดาตาวับสมใจขึ้นมาวาบหนึ่งแบบรู้ความลับสำคัญของอิริน่า ทีท่าดีขึ้นกับเขมชาติ
“หากคุณอารดาอยากได้รายละเอียดไว้ผมโทรบอกก็ได้ครับ”
อารดารู้ทัน
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันก็จะไม่ให้เบอร์คุณอยู่ดี ฉันไม่ใช่สก๊อยนะคุณ”
“อูย...แรงนะครับ” เขมชาติชอบใจ
“พงษ์ธรคุยธุระกับคุณเขมชาติต่อก่อนเถอะ ธุระของดายังไม่รีบ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ผมคุยอีกไม่นาน เดี๋ยวตามไปครับ”
“เชิญที่โต๊ะผมได้นะครับ” เขมชาติยิ้มให้
“ขอบคุณ แต่ไม่เป็นไรค่ะ จองโต๊ะไว้เองแล้ว”
อารดาเดินจากมาอย่างสะใจสุดๆ
“นังอิริน่า ฉันจะแฉแกให้จมในนรกขุมสุดท้ายเลย”

พงษ์ธรดูรูปอิริน่าหน้าจอมือถือของเขมชาติ
“สวยเซ็กซี่ดีนี่ แต่นายก็หาผู้หญิงสวยขนาดนี้หรือสวยกว่านี้ได้สบายๆ ทำไมต้องเจาะจงให้ฉันตามหาคนนี้”
“ถ้าผู้หญิงคนนี้พัวพันกับมิคาอิล มันย่อมมีอะไรแน่นอน และยิ่งมีอะไรมากขึ้นเมื่อคุณอารดาเข้ามาเกี่ยวด้วย”
พงษ์ธรนิ่งไป รู้จักเขมชาติดีว่าฉลาดไม่ใช่ย่อย เขามองหยั่งใจพงษ์ธรนิดหนึ่ง
“ฉันฟันธงว่า คุณอารดาจะมาคุยกับแกเรื่องผู้หญิงคนนี้”
“ไอ้แสนรู้ แล้วแกอยากได้ผู้หญิงคนนี้ไปทำไม”
“เอาว่าเป็นประโยชน์กับฉันก็แล้วกัน นอกเหนือจากได้เฉือนคมไอ้มิคาอิล”
“แต่ของฟรีไม่มีในโลกนะเขม แค่นัดคุยกันวันนี้ก็กินเวลาฉันไม่น้อยแล้ว นายต้องซื้อเวลาฉันวันนี้ด้วยนะเว้ย”
“เออ รู้นานแล้วว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง เลวๆอยู่ยังซื้อความดีใส่ตัวได้เลย อย่างแกนี่ไง เก่งนะเว้ย หาเปลือกทองฝังเพชรมาหุ้มตัวได้ตลอด”
พงษ์ธรไม่ถือสา
“เขาเลี้ยงหมากันในบ้าน แกดันเลี้ยงไว้ในปาก ปากอย่างนี้เดี๋ยวที่เรียกล่วงหน้าสามสิบเปอร์เซ็นต์จะเป็นห้าสิบนะเว้ย”
“เอ้า รีบเอาไปเลยไอ้หน้าเลือด”
เขมชาติเอาซองใส่เงินหนาเตอะให้ พงษ์ธรเปิดดูคร่าวๆ กะด้วยสายตาได้ว่าเท่าไหร่ เงินแยกเป็นมัดๆ หลักแสน

“ไป อย่าปล่อยให้สาวสวยคอยนาน” เขมชาติสั่ง

ภายในผับ...คนมาเที่ยวแน่นผับล้วนคนมีเงิน จิตรดารา นิกกี้และเพื่อนเต้นสุดเหวี่ยงอยู่ในฟลอร์ แต่ยังไม่เห็นกลุ่มอารดา ขณะที่ อารดาดูมีความสุขมากจนเพื่อนสังเกตเห็น
“ตอนแรกทำท่าไม่อยากเข้าผับนี้ แต่ตอนนี้ดูแกจะสุขเกินหน้าพวกฉันนะยัยดา”
“เออ ฉันเปลี่ยนใจ มีอะไรเปล่า”
“เจอน้ำอมฤตเข้าหน่อยเดียว วาจากลับหน้ามือเป็นฝ่าเท้าเลยนะ หรือว่าติดใจอะไรนายเขมชาตินั่น ไอ้เมมันจองนะ” ลลิตาแซว
“เฮ่ยๆ อย่ามั่วนังลิตา ฉันแค่แหย่ลองเชิง เห็นมันทำท่าจะกินรวบเราทั้งสามคนอะ ท่าทางกระเป๋าจะหนักมาก หว่านเสน่ห์ไว้ไม่เสียหลาย”
“แกจะได้ไปช่วยเขาหิ้วกระเป๋าละสิ”
“มาแล้วๆ เอาไง” ลลิตาหันไปเห็น
“ออกไปเต้นดิ”
สามสาวออกไปเต้น เขมชาติกับพงษ์ไปสมทบเต้นหมู่ สักครู่อารดาเต้นไปพบกับกลุ่มจิตรดารา
“อ้าว จิต”
จิตรดาราเบื่อหน่าย เจออีกแล้ว
“เฮ้อ อะไรจะบังเอิญขนาดนี้”
จิตรดารายิ้มแกนๆ เต้นห่างออกไปมากๆ พลางบอกนิกกี้
“ไปต่อที่อื่นเหอะนิกกี้”
“ทำไมล่ะ ที่นี่เปิดเพลงดีออก”
“เบื่อเจอคนที่น่าเบื่ออะ จะไปไม่ไป ไม่ไปจิตไปเองนะ”
“ไปจ้า...ไป...”
นิกกี้รีบตามไป อารดามองตามอย่างหมั่นไส้มาก
“ยัยเด็กนิสัยเสีย”
พงษ์ธรเต้นมาคู่กับอารดา เมทินีถูกคอกับเขมชาติ ต่างคนต่างหว่านเสน่ห์ใส่กัน หวานกัน สักครู่เขมชาติรู้สึกว่ามือถือสั่น เอาออกจากกระเป๋ามาดู มิคาอิลโทรมา
“ขอตัวไปพูดโทรศัพท์เดี๋ยวนะครับ”
“เชิญค่ะ”
เขมชาติอยากไป ลลิตาเต้นมาหาเมทินี
“หวานกันซะมดตายยกรังเลยนะแก”
“แอบดูฉันเหรอแก”
“ต้องแอบอะไร แทบจะเล่นหนังสดกันกลางฟลอร์ซะขนาดนั้น”
เมทินีซัดลลิตาขำๆ เต้นกันต่อ

เขมชาติพูดมือถืออยู่ในมุมเงียบๆ
“งานไม่สำเร็จหรอกมิคาอิล ลูกน้องฉันเห็นเป็นผู้หญิงเลยประมาทไปหน่อย ขอโทษด้วย ฉันสั่งมันแก้มือแล้ว”
มิคาอิล ไม่ค่อยเชื่อว่าเขมชาติจะทำเต็มฝีมือ รู้ว่าเขมชาติจ้องหักเหลี่ยมเฉือนคมอยู่ แต่ยังจับไม่ได้
“แล้วตามเจอมั้ยว่าอยู่ที่ไหน”
“เดี๋ยวก็เจอ อยู่กับผู้ชายนามสกุลดังขนาดนั้น หาไม่ยากหรอก” เขมชาติบอกอย่างมั่นใจ
“ฉันรบกวนนายมากไปหรือเปล่าเขมชาติ”
“ไม่หรอก เรื่องแค่นี้ฉันช่วยได้”
“ฉันกำลังจะไปเมืองไทย นายไม่ต้องกังวลเรื่องผู้หญิงคนนั้นแล้ว ฉันจะไปจัดการเอง”
“นายโกรธฉัน”
มิคาอิลหัวเราะในคอ
“สาขาฉันโดน ปปส.บุก สูญไปเป็นร้อยล้าน ฉันยังไม่โกรธเลย จะมาโกรธอะไรกับแค่ผู้หญิงคนเดียว”
เขมชาติร้อนตัว หัวเราะกลบไว้ เพราะเขาเป็นเป็นคนให้เบาะแส ปปส.
“ฟังเหมือนนายกำลังว่าฉันแจ้ง ปปส.บุกสาขาของนายนะ”
“อ้าวเหรอ ฉันพูดออกไปแบบนั้นเหรอ ฉันหมายถึงมันคงมีหนอนบ่อนไส้ เพราะหนอนตัวนั้นมันอยากกินรวบไว้ตัวเดียว”
เขมชาติสะกดความโกรธ
“นายพูดใส่ฉันแบบนี้อีกนิดฉันจะโกรธแล้วนะมิคาอิล”
“โอ ขอโทษทีที่ทำให้นายโกรธ เอาเป็นว่าฉันไปหานายเที่ยวนี้เราคุยเรื่องสินค้าล็อตใหญ่กันนะ”
“อย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย”
“แล้วเจอกัน”
เขมชาติกดตัดสัญญาณ หน้าเหี้ยมเข้ม
“ไอ้มิคาอิล อย่าหวังมากินรวบในถิ่นฉัน”
ทางด้านมิคาอิล หน้าเหี้ยมเช่นกัน
“ไอ้เขมชาติ ฉันลากคอแกมาเชือดไม่ได้ก็ไม่ใช่ฉัน”
มิคาอิลมองรูปอิริน่าที่อยู่บนโต๊ะแล้วกระชากมาขยำอย่างเจ็บใจ
“คิดว่าจะหนีพ้นฉันหรือ เธอทำความพินาศให้ฉันมากมาย เธอต้องชดใช้...อิริน่า”

รถของเจตรินแล่นมาตามถนนมีไฟประดับสองข้างทางสวยงาม มีน้ำพุ
“ตรงนี้ก็สวยมากนะ ตรงไปจะหน้าเป็นพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ห้า ท่านทรงเป็นพระสหาย...อ้าวหลับไปแล้ว คงจะเหนื่อยจริงๆด้วย”
เจตรินเห็นอิริน่าหลับสนิทเขาจึงตัดสินใจจอดรถใกล้น้ำพุ
“เด็กเอ๊ย...”
เจตรินเฝ้ามองหน้าอิริน่า อดใจไม่ได้ เผลอเอามือไปลูบไล้แก้มใบหน้า ไปมาอย่างเพลิดเพลิน
“อิริน่า ฉันไม่มีวันทอดทิ้งเธอ ฉันจะปกป้องเธอแม้ว่าต่อไปในอนาคต เธอจะพบคุณตายคุณยายของเธอแล้วก็ตาม”
อิริน่าขยับตัวพึมพำ
“แม่พริมจ๋า”
เจตรินก้มลงไปมองหน้าใกล้ๆเพื่อฟังอิริน่าพึมพำ
“โถ คงคิดถึงแม่มากสินะ”
อิริน่าที่หลับอยู่สวยมาก เจตรินก้มลงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน

จีรณัทย์มายืนทอดถอนใจ น้ำตาซึม
“กมลกัลย์ที่รัก ทำไมเราถึงได้แค่รักกัน ทำไมเราถึงร่วมชีวิตกันไม่ได้ คุณแม่ของฉันช่างไร้เหตุผลที่กีดกันหวงห้ามความรักของเรา”
จีรณัทย์จีป้ายน้ำตามองเหม่อไปข้างหน้าอย่างเศร้าๆ

เจตรินขับรถเข้ามาจอดหน้าโรงรถ เห็นว่าอิริน่าหลับสนิทมาก หน้าตามีความสุข เขาจะปลุก แล้วชะงัก อิริน่าพลิกตัวนิดหน่อยแบบจะให้ตัวเองสบายขึ้น เหมือนนอนสบายอยู่บนเตียง เขารู้สึกเอ็นดู ไม่อยากปลุก ไม่อยากทำลายความสุข จึงตัดสินใจโน้มตัวไปจะกดปรับเอนเบาะ อิริน่าพลิกหน้ามา หน้าสองคนจ่อใกล้กันมาก เขากลั้นใจ หักใจจากความเย้ายวนของสาวสวย แต่ก็นิ่งอยู่สักครู่ราวต้องมนต์ แล้วตัดใจ ปรับเบาะต่อ ให้ค่อยๆเอนลงอย่างระวังที่สุดที่จะไม่ให้อิริน่าตื่น เบาะเอนราบลง อิริน่านอนขดตัวน่ารัก
เจตรินมองอิริน่า ความรู้สึกดีๆก่อตัวในใจ และมองอิริน่านิ่งอยู่อย่างนั้น สายตาอ่อนโยนมากเจือหวานหน่อยๆ

หลังจากสนุกสนานกันเต็มที่ สาวๆดูน่ารักมีชีวิตชีวาขึ้น เพราะดื่มเหล้ากันมาบ้าง แต่ไม่ถึงเมา
“เมไปส่งลิตานะ ผมไปส่งดาเอง” พงษ์ธรบอก
“จ้า...”
“รอแป๊บนะค้า...” ลลิตาโปรยยิ้มหวาน
“ครับผม”
เขมชาติมองตามสามสาวอย่างประเมินราคาสินค้า
“ผู้หญิงสามคนนี่ไม่เลวเลยนะ”
“เฮ้ยๆ เว้นบ้าง นั่นผู้หญิงดีทั้งนั้นนะเว้ย”
เขมชาติเชื่อมั่นในเงินมาก
“แต่ถ้าเงินถึงก็ได้ทั้งนั้นแหละว้า”
“ไอ้เขม” พงษ์ธรปราม
“ฉันไม่เอาเพื่อนนายไปลงตู้หรืออยู่โรงแรมราคาถูกหรอกน่า เป็นไฮโซ ก็ขายอย่างไฮโซ เอามั้ยล่ะ เม็มเบอร์คลับของฉันไง ไฮโซพอมั้ย คนเที่ยวระดับบิ๊กๆทั้งนั้น หรือจะให้ฉันต่อหอคอยงาช้างให้ก็ได้นะ”
พงษ์ธรระอาเพื่อน
“เฮ้อ แกนี่มัน...ฉันขออารดาไว้คนละกัน เขาเป็นเพื่อนฉันมาตั้งแต่เด็ก คนอื่นแล้วแต่เสน่ห์เงินของแกจะมัดเขาได้หรือเปล่า”
เขมชาติหัวเราะชอบใจ
“ไม่ถึงเดือนหรอก หรือให้เดือนนึง...สองเดือน เอ้า”
“อย่าคิดว่าเงินจะชนะเสมอไปนะเว้ย สักวันแกอาจตายด้วยมารยาหญิง ไอ้เขม”
เขมชาติหัวเราะ มั่นใจตัวเองมาก
“ขอให้มีวันนั้นจริงๆเถอะ”

จีรณัทย์ยืนมองรถเจตรินจากบนตึกอย่างแปลกใจ
“ทำไมเจตไม่พาอิริน่าขึ้นมานอนข้างบน หรือว่าประชดคุณแม่...คุณแม่ก็ทำเกินไปแท้ๆ แทนที่จะได้เจตกลับคืนมา มันน่าจะกลายเป็นการผลักไสเจตให้ห่างออกไป”
จีรณัทย์ทอดถอนใจ ขณะที่ในรถ เจตรินมองอิริน่าหลงใหลโดยไม่ทันรู้ตัวเอง
“ในเมื่อคุณแม่ไม่ยอมให้เราใช้ห้องของเรา เพราะกันไว้เป็นห้องหอของอารดากับเรา ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร นอนในรถก็ไม่เลว”
แล้วเจตรินก็เอนเบาะล้มตัวลงนอนที่เบาะด้านหน้าข้างๆอิริน่า เธอป่ายมือสะเปสะปะมาดึงมือเจตรินไปโอบตัวเองไว้
“แม่จ๋าอิริน่าอยากให้แม่กอด”
เจตรินยิ้ม พยักหน้า
“ตกลง อิรีน่า”

อารดากับพงษ์ธรยืนคุยกันริมที่จอดรถ ในอาคารจอดรถของโรงแรม...
“พงษ์ธรแน่ใจใช่มั้ยว่านังอิริน่าเป็นผู้หญิงขายตัว” อารดาถามถึงอิริน่าอย่างสนใจ
“ฟังจากเขมชาติแล้วค่อนข้างแน่ใจ ดีไม่ดีอาจมีเรื่องยาเสพติดด้วย แล้วคงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมิคาอิลถึงขนาดจะบินมาตามด้วยตัวเอง”
อารดาสาสมใจที่สุดที่จะกำจัดอิริน่าได้ง่ายอย่างคาดไม่ถึง
“ฮึ่ เจตนะเจตสมน้ำหน้า โดนย้อมแมวอย่างน่าอับอายขายหน้าที่สุด ยัยคุณหญิงแม่ผู้ดีแปดสาแหรกเก้าไม้คานนั่นอีกคน คงอกแตกตายแน่ถ้ารู้ว่าลูกชายคว้าโสเภณีมาจดทะเบียนสมรสด้วย ขอบใจมากนะพงษ์ธร”
“แล้วดาจะให้ผมช่วยอะไร”
“ตอนแรกก็จะให้จัดการนังอิริน่านี่ละ แต่ตอนนี้มันตายด้วยตัวมันเองแล้ว”
“ภารกิจยกเลิก”
“ภารกิจนี้ยกเลิก แต่มีภารกิจใหม่ เพิ่งนึกได้ ผู้หญิงอีกเหมือนกันจ้ะ”
“พร้อมครับผม”
“รายนี้จะยิ่งถูกใจพงษ์ธร”
“ยิ่งอยากรู้เลย”
“ยัยจิตรดารา ลูกสาวคนเล็กของคุณหญิงศรินทิพย์”
พงษ์ธรสะดุ้งไปเหมือนกัน
“ฮึ้ย ว่าที่แม่สามีดานะ”
“นั่นละ ช่วยสั่งสอนให้หายซ่าทีเถอะ ซ่าไม่ดูใครเด็กใครผู้ใหญ่ แต่ถ้าพงษ์ธรเกิดชอบยัยนี่จริงๆ แล้วทำให้เขาหลงได้ เธอก็สบายไปตลอดชาติ บ้านนี้สมบัติกินไปเจ็ดชาติก็ไม่หมด”
“น่าสนใจมาก”
“ค่าจ้างไม่ต้อง”
“ขึ้นอยู่กับจะได้จากลูกสาวคุณหญิงแค่ไหน”
“เป็นอันตกลง”

“ครับผม” พงษ์ธรยิ้มอย่างพอใจ

เช้าตรู่...บนรถ เจตรินกับอิริน่านอนกอดอกหันหน้าเข้าหากัน สักครู่เจตรินค่อยๆรู้สึกตัวตื่น รู้สึกว่ามีแสงสว่างยามเช้า ค่อยๆลืมตา บ่นขำๆ
 
“หลับไปได้ไงนี่ ทั้งคืนเลย”
เจตรินเห็นอะไรบางอย่าง สะดุ้งเฮือก ลุกพรวด
“ฮึ้ย”
สาวใช้ทั้งสาม ศรี และเมฆแนบหน้ากับกระจกมองเข้ามาในรถอย่างชื่นชมเอ็นดู ทั้งที่กระจกหน้ากระจกข้างทั้งสองข้างบรรดาคนใช้มุงต่างผงะออก เมื่อเจตรินลุกขึ้นออกมานอกรถปิดประตูรถอย่างแผ่วเบา ยังไม่ให้ปิดสนิท ไม่อยากให้เสียงดังปลุกอิริน่า เขามองทั้ง 5 คน อารมณ์ดี ไม่ได้ตำหนิอะไร
“มาแอบดูกันนานแล้วเหรอ”
“แป๊บเดียวเองค่ะ สงสัยว่าทำไมรถจอดนอกโรงรถ ก็เลยเห็น..แฮ่ะๆ..ค่ะ” ศรีเล่า
เจตรินไปด้านที่อิริน่านอนอยู่ เปิดประตูรถปลุก
“อิริน่า...อิริน่าครับ...”
อิริน่ารู้สึกตัว งัวเงียตื่น เห็นคนมากมาย รีบลุก
“อุย...เช้าแล้ว” อิริน่ารู้สึกว่าตัวเองนอนในรถก็ขำ
“เป็นพวกไร้บ้าน นอนในรถด้วย”
เจตรินชอบที่อิริน่ามีอารมณ์ขัน
“ตัวเหม็นด้วย ไปอาบน้ำครับ”
อิริน่าทำหน้าจะเอาเรื่องน่ารักๆใส่เจตริน
“เดี๋ยวเหอะ มาว่าตัวเหม็น แอบดมเหรอ”
เหล่าสาวใช้ชอบใจนายรักกัน

เจตรินกับอิริน่าอาบน้ำแต่งตัวใหม่แล้ว อิริน่าแต่งชุดที่เคยเห็นแต่งประจำที่รัสเซีย เจตรินแต่งชุดไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ดูหล่อดูดีมาก เหลือแต่ยังไม่ได้ผูกเน็กไท และยังไม่ได้สวมเสื้อนอก สวมเสื้อเชิ้ตขาว สะอาดตา อิริน่าเดินมาทางตู้เสื้อผ้า
“วานเลือกเน็กไทให้หน่อยสิ อยู่ในตู้นั้น”
อิริน่าเปิดตู้เสื้อผ้า เน็กไทมากมายแขวนอย่างเป็นระเบียบ เธอมองชุดของเจตรินแล้วเลือกเน็กไทสีขรึมสวยที่เข้าชุดกันได้
“ผูกให้ไหมคะ”
“เอาสิ” เจตรินดีใจ รู้สึกดีมากๆ
“เอาเงื่อนอะไรดีคะ”
เจตรินทึ่งที่อิริน่ารู้จักเงื่อนเน็กไทด้วย
“รู้จักด้วย”
อิริน่าเริ่มวางมาด
“นี่ใคร นี่เด็กฝรั่งครึ่งนึงนะคะ เน็กไทนี่มาจากฝรั่งนะ”
“ขี้คุยอีก เน็กไทเส้นนี้ยาว เอาเงื่อนวินด์เซอร์ก็แล้วกัน”
อิริน่าเริ่มผูกเน็กไท เจตรินรู้สึกดีมากๆ หน้าสองคนอยู่ใกล้กันมาก
“ขอถามอะไรนิดได้ไหมคะ”
“ได้”
“คุณอาจิรายุนี่ใครคะ”
เจตรินนิ่งไปนิด หน้าขรึมลง อิริน่าสังเกตเห็น
“หากทำให้คุณไม่สบายใจ ไม่ต้องบอกก็ได้นะคะ ฉันขอโทษค่ะ”
“บอกได้ ผมไม่มีอะไรปิดบังคุณหรอก แต่เรื่องมันยาว ไว้จะเล่าให้ฟังนะ”
“ค่ะ เสร็จแล้วค่ะ”
เจตรินหันไปดูกระจก ทึ่ง
“เก่งนี่ ผูกได้เรียบร้อยมากเลย ขอบใจนะ”
“ผูกให้ทุกวันเลยได้นะคะ”
“จะผูกได้กี่วันเชียว เดี๋ยวก็ไปอยู่กับคุณตาคุณยายแล้ว”
“ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ”
เจตรินใจหายไปแว้บนึง
“ว่า...ว่าจะ...อยู่กับคุณที่นี่ค่ะ”
เจตรินแอบดีใจมาก แทบเก็บอาการไม่อยู่ แต่ก็เก็บได้
“จะไม่ถามนะว่าทำไม แต่ขอบคุณที่จะอยู่กับ....สามี”
อิริน่าเขินจัด
“อึ๋ย ไม่ได้อยู่อย่างสามีภรรยานะคะ จะอยู่เป็นก้างขวางคอคนเล่น”
“คุณไม่ใช่ก้างสำหรับผมแน่”
“ก็เป็นก้างติดคอคนอื่นให้ไงคะ”
“ผมชอบก้างชิ้นนี้มากเลย”
อิริน่าเขิน รู้สึกเหมือนเจตรินบอกรัก
“แล้วก็....จะอยู่เพื่อชนะใจคุณแม่ของคุณด้วยค่ะ”
เจตรินมองอย่างขอบคุณและประทับใจ อิริน่ามองสบตาอย่างจริงใจ สองคนมองกัน รู้สึกดีต่อกัน
“แม่ฉันสอนให้เชื่อว่า ความดีและความอดทนจะช่วยให้เราผ่านพ้นอุปสรรคค่ะ”
“แม้จะยากมากจนแทบทนไม่ไหวงั้นหรือ”
“ค่ะ”
เจตรินรู้สึกดีมากๆ จับมืออิริน่ามากุมไว้
“ผมเอาใจช่วยนะ ผมดีใจที่อิริน่าไม่มองคุณแม่ในแง่ร้าย คุณแม่ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ แต่ท่านเป็นคนเด็ดขาด ถือเกียรติถือศักดิ์ศรีถือเรื่องวงศ์ตระกูลมาก”
“ฉันทำเพื่อตอบแทนน้ำใจของคุณนะคะ ที่ยอมตกในอันตรายพาฉันหนีมาเมืองไทย เทียบกับมิคาอิลแล้ว คุณแม่คุณไม่อันตรายเลย”
“ขอบคุณจริงๆครับ อิริน่า”
อิริน่าลังเลนิดๆ
“เอ่อ...แล้วคุณ...ไม่รู้สึกยังไงใช่ไหมคะ ที่หมดอิสรภาพของหนุ่มโสด มีภรรยาเป็นเด็กเร่ขายของข้างถนน ไม่มีสกุลรุนชาติอย่างฉัน”
เจตรินพูดให้ดูเหมือนเล่น แต่จริงๆแล้วตั้งใจ
“ไม่รู้สึกยังไง แต่รู้สึกดี”
เจตรินมองอิริน่า แววตาออกจะซึ้งไม่รู้ตัว อิริน่าเขินๆ สองคนมองตากัน เริ่มมีใจต่อกัน
“เมื่อไหร่คุณเจอคนของคุณ บอกนะคะ ฉันจะหย่าให้ค่ะ”
เจตรินใจหาย หมองไปหน่อย แล้วยิ้มแย้มกลบเกลื่อน
“คุณก็เหมือนกันนะ”
“ค่ะ” อิริน่ารู้สึกใจแว้บๆแปลกๆ

จีรณัทย์กำลังจะไปทำงาน เจตริน อิริน่าลงบันไดมา อิริน่าถือเสื้อนอกให้ อเล็กซ์ที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้ว ถือกระเป๋าเอกสารให้ด้วย
“พี่จีครับ วันนี้พี่จีติดประชุมหรือมีงานสำคัญอะไรที่บริษัทมั้ยครับ”
“ไม่จ้ะ”
“วันนี้ผมต้องไปรายงานตัวที่กระทรวง ฝากพี่จีพาอิริน่ากับเล็กไปซื้อเสื้อผ้าหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้สิ”
“ฝากดูงานที่บริษัทด้วยครับว่ามีอะไรจะให้อิริน่าทำได้บ้าง”
“จ้ะ”
อิริน่ากับอเล็กซ์ แอบเย้ดีใจกัน จีรณัทย์ล้อเล่นกับน้อง
“ใช้ใหญ่เลย”
“ขอบคุณครับที่ให้ใช้” เจตรินหยิบซองใส่เงินจากกระเป๋าเอกสาร “เงินซื้อของครับ แสนนึงมั้ง ถ้าผมไม่แอบหยิบไปใช้บ้าง”
“ฟังดูเยอะจังค่ะ เป็นเงินรัสเซียเท่าไหร่คะนี่” อิริน่าสงสัย
“ช่างมันเถอะ...เพื่อภรรยา น้อยกว่านี้ได้ไง”
อิริน่าเขิน อเล็กซ์มองแซวๆ อิริน่าจะบ๊อกหัว จีรณัทย์ขำรู้สึกว่าน้องชอบผู้หญิงคนนี้แน่
“พี่ให้เขาตั้งอาหารเช้าเผื่อนะ...ทั้งสองคน“ จีรณัทย์หมายถึงอิริน่าและอเล็กซ์
“ไม่เป็นไรครับ ไม่อยากขัดใจคุณแม่ ผมจะไปทานที่กระทรวง”
“งั้นพี่จะพาอิริน่าไปทานข้างนอก”
“ขอบคุณครับพี่จี”
เจตรินทำท่าขอเสื้อนอกจากอิริน่า
“เดี๋ยวไปส่งที่รถค่ะ”
จีรณัทย์หันมาสั่ง
“เจตให้นายเมฆเอารถคันใหญ่ไปส่งนะ แล้วงานเลิกพี่จะส่งรถบริการแขกวีไอพีของบริษัทไปให้เจตใช้พลางๆ ก่อนเจตซื้อใหม่”
“ไม่ซื้อหรอกครับ รถบริษัทมีเยอะแยะ ผมขอแบ่งมาใช้สักคันคุณแม่คงไม่ว่า ประหยัดดีด้วย”
“จ้ะ”
เจตรินไป อิริน่าตามไปส่ง จีรณัทย์มองตาม อดคิดถึงปัญหาที่จะตามมาอีกไม่ได้

คุณหญิงศรินทิพย์ จิตรดารานั่งอยู่ แหววคุกเข่าอยู่ใกล้ๆ
“ลุงเมฆไปส่งคุณเจตที่กระทรวงค่ะ โทรมาบอกว่าอีกเดี๋ยวจะมาถึงแล้วค่ะ”
“พี่เจตไปทำงาน เก๊าะไม่มีก้างขวางเราจัดการกับนังเมียข้างถนนสิคะคุณแม่... ลุยเลยมั้ยคะ จิตคันมือมาก”
คุณหญิงศรินทิพย์มองปรามจิตรดารา แล้วพูดกับแหวว
“สายป่านนี้แล้วแม่เจ้าประคุณยังไม่ตื่นอีกหรือไง”
“เอ่อ” แหววไม่ค่อยอยากบอก
“จะมาเอ่อมาอ่าอะไรอยู่ล่ะ”
“ตื่นแล้วค่ะ”
“แล้วยังมุดอยู่ในห้อง นึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหรือไง ไปตามลงมา”
“เอ่อ...”
“โอ๊ย มัวแต่เอ่ออยู่นั่นละแก น้ำเลิกท่วมกรุงเทพไปตั้งนานแล้ว แกยังจะเอ่ออยู่อีก”
“คุณอิริน่าออกไปข้างนอกกับคุณจีค่ะ”
คุณหญิงศรินทิพย์ตาวับไม่พอใจ
“ไปไหน”
“ไม่ทราบค่ะ” แหววโกหก
“ดูซิ มาถึงแค่วันเดียวออกไปซ่าแล้ว พี่จีกับเจตให้ท้ายนังนั่นขนาดนี้ มันคงกระโดดขี่คอคุณแม่เข้าสักวัน”
คุณหญิงศรินทิพย์หน้าบึ้ง เสียงเครื่องรถสปอร์ตแว่วๆมา
“สงสัยนิกกี้มารับจิตแล้วค่ะ เอ๊ะ ทำไมวันนี้ไมกดแตรกวนประสาทชาวบ้าน ไปดูซิแหวว
“ค่ะ”

แหววรีบไป โล่งใจ

สะใภ้หัวแดง ตอนที่ 3 (ต่อ)

นิกกี้ยืนหลบพูดกับแหววอยู่ที่ประตูเล็ก รถจอดหลบอยู่ห่างไปหน่อย

“คุณน้องคนสวยอยู่มั้ย”
แหววรู้ว่านิกกี้หมายถึงอิริน่า แต่แกล้งไก๋
“อ้าว คุณจิตคนสวยก็รอคุณนิกกี้มารับอยู่นี่คะ”
“ฮี้ย คุณน้อง...เมียคุณเจตน่ะ”
“อ๋อ...คุณน้องคนนั้นนั่นเอง บาปนะคะคิดจะเจ๊าะแจ๊ะกับเมียคนอื่นเนี่ย”
“แล้วอยู่มั้ยล่ะ”
“เอ๊...จะอยู่มั้ยน้า...”
นิกกี้รู้ เอากระเป๋าเงินมาหยิบแบงก์ห้าร้อยให้แหววใบหนึ่ง
“ไม่อยู่ค่ะ”
“ไปไหน”
“เอ๊...ไปไหนน้า...”
นิกกี้ยัดแบงก์ห้าร้อยใส่มือแหววอีกใบ
“ไปซื้อของกับคุณจีค่ะ”
“ซื้อที่ไหน”
แหววจะเอ๊ นิกกี้ยัดแบงก์ห้าร้อยให้อีกใบ
“คุณจีคงไม่อุดหนุนศูนย์การค้าอื่นหรอกค่ะ”
“แปลว่าไปศูนย์การค้าของคุณหญิงแม่”
“เอ๊” แหววทำท่าคิดอีก
“นังแหวว” เสียงจิตรดาราแผดสนั่น
แหววเพลิน แล้วนึกได้
“เอ๊... ว้าย...”
“อย่าบอกว่าฉันมานะ” นิกกี้รีบวิ่งหนี
“โกหกนั้นตายตกนรกนะคะ”
นิกกี้รีบเอาเงินเสียบที่ประตูหรือที่ไหนที่เสียบได้ แล้ววิ่งไปสตาร์ตรถซิ่งหนีไป นิกกี้พูดปกติ แต่แหววไม่ได้ยิน
“เอาไปติดสินบนยมบาล ให้ตกขุมลึกที่สุดไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยนะยายแหววหน้าเงิน”
จิตรดาราเดินมาถึงพอดี รถนิกกี้ลับไปเฉียดฉิวมาก
“ไหนล่ะนิกกี้ ได้ยินเสียงรถอยู่เดี๋ยวนี้เนี่ย”
“เอ่อ...เอ่อ...”
“นังบ้า” จิตรดาราโมโหมาก

อารดาลงบันได หน้าตาสดชื่น ยิ้มหมายมาด สมรกับหวินเห็นแล้วมองหน้ากันอย่างฉงน
“ตื่นก็เช้า แล้วอารมณ์ยังดีอีกต่างหาก อย่างนี้มันต้องมีอะไร”
“ฉันว่ารีบไปทำห้องเถอะ เดี๋ยวมันจะมีอะไรขึ้นมาจริงๆ”
สมรกับหวินผลุบไป อารดายิ้มร้าย
“นังอิริน่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของแกที่บ้านไอยศูรย์ศรินนี่”

จิตรดารากรี๊ดสนั่น คุณหญิงศรินทิพย์หน้าทนเสียงกรี๊ดไม่ไหว อารดาเองก็แย่ สมรกับหวินอุดหู
“แกจะกรี๊ดให้ได้ยินไปนอกโลกหรือไง หูฉันจะแตกอยู่แล้วยายจิต”
“นังแหววบอกว่านิกกี้ตามนังอิริน่าไปค่ะ คุณแม่เห็นมั้ยคะ มาแค่วันเดียว ลายมันออกไปทั้งตัว มันหว่านเสน่ห์ไม่เลือก มันกำลังจะแย่งนิกกี้ไปจากจิต”
อารดาหน้าตายิ้มแย้มเข้ามา
“คุณแม่คะ...ดามีข่าวเด็ดมาบอกค่ะ นัง...”
คุณหญิงศรินทิพย์รู้ว่าอารดาจะพูดเรื่องอิริน่า กำลังปวดหัวปวดหูเสียงกรี๊ดของจิตรดารา ลมเสีย ไม่อยากฟัง และจะต้องออกไปตามนัดด้วย
“อย่าเพิ่งเลยหนูดา แม่จะไปทำงาน วันนี้นัดแขกสำคัญไว้ด้วย”
คุณหญิงศรินทิพย์ไป อารดามองตามอย่างผิดหวัง จิตรดารารู้สึกได้ว่าอารดามีเรื่องสำคัญแน่
“นังอิริน่ามันทำไมคะพี่ดา”
อารดาชั่งใจแล้วตัดสินใจไม่บอกจิตรดารา ไม่อยากให้จิตรดาราเอาไปพูดก่อนตัวเอง จะเอาความสำคัญว่าตัวเองรู้เป็นคนแรก
“เอาไว้รู้พร้อมๆกันทั้งบ้านแล้วกันจ้ะจิต สนุกกว่ากันเยอะ... อ้อ แล้วเรื่องนิกกี้น่ะจิตต้องระวังไว้ให้ดีนะ เสน่ห์เด็กแอ๊บอย่างจิตกับเสน่ห์นังอิริน่าน่ะ มันห่างฉันกันมาก”
อารดายิ้มสะใจ แล้วเดินหนีไป
“อ๊าย นังพี่ดา แล้วที่มันฉกพี่เจตไปจากพี่ดาล่ะคะ เท่ากับเสน่ห์พี่ดาพิการซ้ำซ้อนสิคะ”
“ยัยจิต” อารดาหันขวับ ยัวะ เสียหน้า
จิตรดารายิ้มเยาะ
“ไงล่ะ นึกว่าจะกัดคนอื่นได้ฝ่ายเดียวรึไง”
อารดาพยายามใจเย็น กะเล่นงานจิตรดาราเจ็บแสบอยู่แล้ว ตอนนี้แสร้งเอาเป็นพวกไว้ก่อน
“ที่จริงเราสองคนควรมาร่วมมือกันนะจ๊ะจิต”
“แต่พี่ดากัดจิตตลอดแบบนี้ใครจะดีด้วยไหว”
“พี่ขอโทษก็แล้วกัน ก็จิตเป็นเด็ก แล้วเล่นพี่แรงๆ พี่ก็ทนไม่ไหวเล่นกลับบ้างสิ...ว่าไงล่ะ พี่ขอโทษแล้วนะ”
“จิตขอโทษพี่ดาก็ได้ค่ะ เอาเป็นว่าเราสงบศึกกัน”
“ตกลง เพื่อทำศึกกับนังอิริน่า”
“ตกลงค่ะ”
สองคนยิ้มเป็นมิตรให้กัน แปะมือไฮไฟ้ฟ์กัน อารดาไป หน้าหุบยิ้มเป็นเขม่นทันที
“นังเด็กสมองฝ่อ เชื่อคนง่ายซะไม่มี”
จิตรดาราหันไปอีกทาง หน้าหุบยิ้มเป็นแหวะทันที
“ยัยปลาร้าข้ามศตวรรษ นึกว่ารู้ไม่ทันเหรอ”

ศูนย์การค้าของตระกูลไอยศูรย์ศริน เป็นศูนย์การค้าที่โอ่อ่า อลังการ...ลิฟต์ผู้บริหารเปิดออก คุณหญิงศรินทิพย์ยิ้มแย้มออกมากับคุณหญิงแสนร่ำรวยสองคน พนักงานประจำลิฟต์แต่งเครื่องแบบโก้ บริการอย่างนอบน้อม ทำความเคารพเมื่อคุณหญิงศรินทิพย์และแขกออกจากลิฟต์
“เชิญค่ะคุณหญิง” คุณหญิงศรินทิพย์เดินยิ้มแย้มเดินไปคุยไปกับคุณหญิงทั้งสอง “วันนี้ขอดิฉันได้รับเกียรติเลี้ยงอาหารกลางวันคุณหญิงทั้งสองนะคะ ดิฉันกับลูกสาวหุ้นกันทำร้านอาหารไทย รับรองอร่อยระดับแถวหน้าเลยค่ะ”
“พูดแล้วหิวเลยนะเธอ” คุณหญิงหันไปยิ้มแย้มกันเพื่อน
“คุณหญิงศรินทิพย์นี่มือทองจริงๆนะคะ สร้างบ้านสร้างคอนโดขาย ก็จองกันพรึบเดียวหมด นี่ถ้าดิฉันสองคนไม่ใช้เส้นคุณหญิงศรินทิพย์ คงไม่ได้คอนโดห้องดีๆให้ลูกแน่”

“ทำศูนย์การค้าก็ดูซิเจริญเชียว ยังมีร้านอาหารอร่อยอีก สมกับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นจริงๆ”

คุณหญิงศรินทิพย์ถ่อมตัวแบบปลื้มๆ
“ยกย่องมากไปแล้วค่ะ”
อีกด้านจีรณัทย์ อิริน่า อเล็กซ์ เดินคุยยิ้มแย้มมาด้วยกัน อเล็กซ์ ยังตื่นตากับศูนย์การค้ามาก
“เอาของไปเก็บแล้วค่อยยังชั่ว” อิริน่าหันมาบอกอเล็กซ์
“ไม่งั้นเล็กคงต้องคาบแล้ว คุณจีซื้อเยอะจังครับ”
จีรณัทย์ขำ
“ก็ซื้อให้เล็กกับอิริน่าทั้งนั้นละ ซื้อน้อยไปเดี๋ยวเจตต่อว่าพี่ เดี๋ยวไปทานข้าวกันก่อนนะ แล้วค่อยไปที่สำนักงาน ดูงานให้อิริน่า”
“ค่ะ”
“อาหารไทยนะ เป็นร้านของครอบครัวไอศูรย์ศรินเอง”
“โอ้โห คุณจีรวยจังครับ เป็นเจ้าของทุกอย่างในนี้เลย”
จีรณัทย์กับอิริน่าหัวเราะกัน...คนละด้านกับกลุ่มอิริน่า นิกกี้เดินดูตามร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม พลางบ่น
“ไปซื้อแถวไหนกันเนี่ย”

จีรณัทย์พาอิริน่ากับอเล็กซ์ มาที่ร้านอาหาร ภายในศูนย์การค้า พนักงานไหว้ต้อนรับขณะที่โต๊ะด้านใน กมลกันต์นั่งอยู่กับนายพลกันต์ และคุณหญิงพรรณราย
“ของโปรดของคุณแม่ครับ” กมลกันต์ตักหมี่กรอบให้แม่
“ของโปรดของพรรณวดีเหมือนกัน”
คุณหญิงพรรณรายบอกเศร้าๆ เมื่อนึกถึงพรรณวดีลูกสาวคนโต ซึ่งก็คือพริม...นายพลกันต์ล้อๆ เพื่อให้บรรยากาศดี
“เอาแล้ว เอาแล้ว เข้าบทโศกแล้ว ไม่เอาน่าคุณ”
“ก็ฉันคิดถึงลูกนี่คะ หายเข้าป่าไปกี่สิบปีแล้ว ไม่เคยรู้ข่าวเลยว่าเป็นตายร้ายดียังไง”
กมลกันต์มองไปหน้าร้าน เห็นจีรณัทย์ ดีใจมาก
“ขออนุญาตสักครู่นะครับคุณพ่อคุณแม่” กมลกันต์ลุกไปจากโต๊ะ
จีรณัทย์หันมาเห็นกมลกันต์พอดีเหมือนกัน ดีใจมาก รีบมาหา อิริน่ากับอเล็กซ์ ตามไปแล้วยกมือไหว้ อิริน่าลอบสังเกตสองคน ดูออกเลยว่าเป็นคนรักกัน
“ไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ก่อนค่ะ”
กมลกันต์แตะแขนพาจีรณัทย์ไป อิริน่ากับอเล็กซ์ ตาม
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”
จีรณัทย์ไหว้นายพลกันต์กับคุณหญิงพรรณราย ที่ทั้งคู่รักและเอ็นดูจีรณัทย์มาก
“สวัสดีลูก”
อิริน่ายื่นหน้าจากด้านหลังจีรณัทย์ออกไปมอง หน้าตาอิริน่าเป็นมิตรและดูใสแป๋วแหวว คุณหญิงพรรณรายมองอิริน่าอย่างถูกชะตามาก
“นั่นใครจ้ะ สวยน่าเอ็นดูจริงๆ”
“นี่อิริน่าค่ะ ภรรยาของเจต...นี่ท่านนายพลกันต์และคุณหญิงพรรณราย คุณพ่อคุณแม่ของคุณกมลกันต์จ้ะอิริน่า”
อิริน่าไหว้ทั้งสองคน คุณหญิงพรรณรายถูกชะตาอิริน่ามากจริงๆ
“มาใกล้ๆซิลูก”
อิริน่ามานั่งคุกเข่าที่พื้น พรรณรายจับคางพิศดูหน้าตา แตะผมลูบผมอย่างนิ่มนวลราวเป็นลูกหลานตัวเอง
“สวย...สวยมาก ยิ่งดูยิ่งสวย ลูกเต้าเหล่าใครนี่”
“เอ่อ...”
จีรณัทย์ชะลอไว้ ไม่รู้ อิริน่าจึงตอบแทน
“อิริน่าเป็นลูกคุณแม่พริมกับคุณพ่อนิโคลัยค่ะ เกิดที่มอสโก”
พรรณรายสะดุดใจวาบ ตื่นเต้นด้วย
“แม่เป็นคนไทยรึนี่ เกิดที่รัสเซียด้วย”
ด้านหน้าคุณหญิงศรินทิพย์ยิ้มแย้มเข้ามาในร้านกับคุณหญิงสองคน ผู้จัดการ กัปตันและพนักงานแถวนั้น 2-3 คนรีบไปรับท่านประธานอย่างนอบน้อมสุดๆ ผู้จัดการกำลังนำไปที่ห้องวีไอพี คุณหญิงศรินทิพย์หันมาเห็นกลุ่มจีรณัทย์กับครอบครัวกมลกันต์ หน้าหุบยิ้มทันที ทั้งโกรธทั้งแค้น พึมพำ
“ ยัยจี ยัยลูกนอกคอก”
คุณหญิงศรินทิพย์หันไปยิ้มกับคุณหญิงสองคน
“เชิญในห้องก่อนนะคะ ดิฉันขอตัวไปห้องน้ำสักครู่” คุณหญิงศรินทิพย์สั่งผู้จัดการ “ดูแลท่านอย่างดีที่สุดนะ ทยอยเสิร์ฟอาหารที่สั่งไว้ได้เลย”
“ค่ะ ท่านประธาน”
คุณหญิงศรินทิพย์เหลือบมองว่าคุณหญิงเข้าห้องไปแล้ว เดินฉับๆด้วยอารมณ์โกรธไปที่กลุ่มจีรณัทย์ ทางด้านคุณหญิงพรรณรายถามอิริน่า
“หนูเคยได้ยินผู้หญิงไทยชื่อพรรณวดีที่รัสเซียบ้างไหมจ้ะ”
“คุณ...” นายพลปรามอย่างอารมณ์ดี ชินแล้วที่ภรรยาเที่ยวถามใครๆอย่างนี้
“ฉันอยากรู้นี่คะ เจ้าหน้าที่เคยสันนิษฐานว่าลูกเราอาจหนีเข้ารัสเซีย”
“อิริน่าไม่เคยได้ยินชื่อพรรณวดี ที่โน่นเลยค่ะ อาจมีแต่อาจไม่อยู่ที่มอสโกมั้งคะ เพราะถ้าอยู่อิริน่าต้องรู้จักแน่นอนค่ะ”
เสียงคุณหญิงศรินทิพย์ดังแทรกขึ้นมาอย่างโกรธๆ
“จีรณัทย์”
ทุกคนหันขวับ จีรณัทย์หน้าซีดเผือด
“คุณแม่”
กมลกันต์หน้าเสีย รีบไหว้ คุณหญิงศรินทิพย์ไม่มอง ไม่รับไหว้ คุณหญิงพรรณรายดีใจมาก
“ศริน ดีใจมากเลยที่เจอเธอ”
นายพลกันต์เฉยๆ รักษากิริยาอาการไม่ให้เสียมารยาท
“ขอโทษนะ ผมไปห้องน้ำเดี๋ยว”
นายพลกันต์ลุกเดินไปเลย คุณหญิงศรินทิพย์มองจีรณัทย์ไม่พอใจ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกสาวฉันมันจะไม่รักดี ไม่รัก เกียรติของวงศ์ตระกูล มันฉีกหน้าแม่ มันดื้อด้านคบหากับศัตรูที่ฆ่าอาของมัน นี่แกติดต่อกับครอบครัวฆาตกรนี่มาตลอดเลยใช่มั้ย ฮะ”
จีรณัทย์น้ำตาคลอ อิริน่ามองอย่างเห็นใจ รู้สึกว่าเรื่องใหญ่โตมาก
“เราเพิ่งเจอกันวันนี้เองจ้ะศริน เจอกันโดยบังเอิญด้วย”
คุณหญิงศรินทิพย์มองอย่างอย่างเกลียดชัง
“ ฉันพูดกับลูกฉัน ไม่ได้พูดกับ...คนอื่น...แกจะออกไปจากที่นี่เอง..เดี๋ยวนี้ หรือจะให้ฉันลากแกออกไป”
จีรณัทย์น้ำตาร่วง รีบเดินไป อิริน่ากับอเล็กซ์ รีบตาม
“ศริน ฉันขอโทษ...”
คุณหญิงพรรณรายพูดได้แค่นั้น คุณหญิงศรินทิพย์สวน
“ไม่ต้องมาพูดกับฉัน แล้วไม่ต้องมากินข้าวที่ร้านฉันอีก ฉันไม่ต้อนรับ ถ้ายังขืนมาอีก ฉันจะติดรูปถ่ายประกาศห้ามเข้าไว้ที่หน้าร้าน”
คุณหญิงศรินทิพย์เดินฉับๆไป คุณหญิงพรรณรายมองตาม เสียใจ กมลกันต์โอบปลอบแม่
“ชาตินี้เขาคงไม่มีวันอภัยให้เรา กมลเลิกหวังเรื่องจีเถอะนะลูก”
กมลใจเสียเหมือนกัน แต่พยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเอง
“รักกันไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ครับคุณแม่ จีกับผมทำใจเรื่องนี้นานแล้วครับ”

คุณหญิงพรรณรายมองลูกอย่างเห็นใจ กมลกันต์ยิ้มปลอบแม่

จีรณัทย์และอิริน่ายืนอยู่ที่ระเบียงลานจอดรถ จีรณัทย์เพิ่งซาจากการร้องไห้ยังซับน้ำตาอยู่ จีรณัทย์กลืนการร้องไห้ หันไปฝืนยิ้มให้อิริน่า ขณะที่อเล็กซ์คุนเล่นอยู่กับรปภ.ห่างออกไป

“ขอโทษนะที่ไม่ได้จัดการเรื่องงานให้อิริน่าวันนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ สองครอบครัวมีอะไรกันหรือคะ ดูคุณหญิงโกรธแรงมาก จะเกลียดด้วยซ้ำมั้งคะ เรื่องคุณอาจิรายุหรือเปล่าคะ เป็นความลับหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นความลับหรอก แต่เรื่องยาวมาก ไว้พี่ค่อยเล่าให้ฟังนะจ๊ะ”
อิริน่าเกรงใจ
“ถ้าพี่จีไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ อิริน่าเข้าใจค่ะ”
“อิริน่าเป็นคนในครอบครัวพี่คนหนึ่ง พี่เล่าให้ฟังได้จ้ะ แต่ตอนนี้อิริน่าทราบไว้ก่อนแค่ว่า เหตุที่คุณแม่โกรธเกลียดตัดขาดครอบครัวของกมลกันต์ เพราะพี่พรรณวดีพี่สาวของกมลกันต์ ยิงอาจิรายุ น้องชายของคุณพ่อพี่ตาย คุณพ่อพี่หัวใจวายเสียชีวิตไปด้วยเมื่อทราบเรื่อง คุณแม่ถึงได้ตัดขาดคุณป้าหญิงพรรณราย เพื่อนรักมากๆ ที่โตมาด้วยกันแบบแทบจะเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน”
อิริน่าทั้งใจหายและเห็นใจจีรณัทย์ ทั้งเรื่องพ่อ อา และเรื่องชะตากรรมของจีรณัทย์กับกมลกันต์
“อิริน่าเสียใจด้วยนะคะ”
“ขอบใจจ้ะ อาจิรายุกับพี่พรรณรายรักกันมาก ครอบครัวตกลงกันแล้วว่าจะให้แต่งงานกันเมื่อพี่พรรณรายเรียนจบ...พี่ไม่เชื่อว่าพี่พรรณรายจะตั้งใจฆ่าอาจิรายุเพราะความหัวรุนแรงฝักใฝ่ลัทธิการเมืองสีแดงในยุคนั้น แต่พี่พรรณรายก็หายสาบสูญไป ความจริงเรื่องการตายของอาจิรายุก็ยังดำมืดมาจนเดี๋ยวนี้...”
“พี่จีครับ”
เสียงเจตรินอ่อนโยนเจือเอ็นดู แบบรู้ปัญหายาวนานของพี่สาว จีรณัทย์กับอิริน่าหันมอง เจตรินอมยิ้มให้ทั้งคู่ เข้ามาโอบไหล่จีรณัทย์ มองหน้าเธอที่ยังมีร่องรอยเศร้า อิริน่ามองอย่างชอบอาการนั้น
“คุณหญิงศรินทิพย์ท่านโกรธลูกสาวแล้วโทรไปเล้งลูกชายอะครับ ผมเลยต้องบึ่งวินมอเตอร์ไซค์มา นึกว่าต้องมาเป็นกรรมการห้ามมวยซะแล้ว” เจตรินบอกขำๆ
“เจตนี่...ว่าคุณแม่”
“ใครว่า ผมว่าพี่จีต่างหาก”
พี่น้องหัวเราะกัน อิริน่ามองอย่างมีความสุขไปด้วย เจตรินโอบจีรณัทย์เดิน
“ไปครับ กลับบ้านกัน ผมขับรถให้”
เจตรินพยักพเยิดกับอิริน่ากับอเล็กซ์ อยู่ด้วย อเล็กซ์ หันไปบอกรปภ.
“ไปนะครับพี่”
เจตรินเปิด ปิดประตูให้จีรณัทย์
“คุณแม่บอกว่าวันนี้จะทานข้าวเย็นนอกบ้าน เห็นหน้าใครบางคนแล้วทานไม่ลง”
จีรณัทย์ซัดเผียะ
“เห็นหน้าเจตนั่นละ”

สถานสอนศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว...อารดาฝึกศิลปะการต่อสู้เชิงรุกอย่างตั้งใจจริง เธอเก่งที่สุดในรุ่นที่เรียนด้วยกัน เพราะใจฮึดจะเอาชนะอิริน่า
“พักสิบห้านาทีครับ” ครูฝึกบอก
ทุกคนแตกกลุ่ม ครูไปที่อารดา หน้าตาชื่นชมกึ่งหลีหน่อยๆ
“เก่งมากครับคุณอารดา เพิ่งเริ่มฝึกไม่เท่าไหร่ แต่คุณทำได้ดีมาก อนาคตครูฝึกแพ้เลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
อารดาเชิดๆ ทะนง รู้ว่าครูหลี
“ขอบคุณค่ะ”
กลุ่มสาวไฮโซมองหมั่นไส้อารดา เดินไปเม้าอารดาไป
“หูย...ทำเป็นเชิดหยิ่ง บ้านล้มละลาย ตกกระป๋องแล้วยังมีหน้ามาเชิด”
“เม้าตกเทร็นด์นะยะ ไม่รู้หรือไง เขากำลังปีนขึ้นจากกระป๋อง ตอนนี้ไล่จับคุณเจตรินลูกชายคุณหญิงศรินทิพย์อยู่อ้ะ”
“จับได้ละเสียดายสุดหล่อสุดรวยตายเลย มาตายที่ยายไฮโซเซคนนี้” อีกคนเสริม
ทันใดทั้งสามสาวก็ตกใจมาก เพราะโดนอารดาจับทุ่มลงไปนอนกอง
“พวกปากติดท่อมลพิษ ต่อไปฉันจะทุ่มให้จมูกทรุดโบท็อกซ์ทะลักต้องไปจิ้มใหม่ หมั่นไส้นักพวกชอบเม้าทับถมคนลับหลัง บ้านฉันล้มละลาย ฉันจับผู้ชาย แล้วมันหนักหัวใคร พูดยังกับตัวเองดีตาย ไม่เคยคิดจับผู้ชายเลยงั้นแหละ จับไม่ได้ละซี้...ไปเกิดใหม่แล้วให้พระเจ้าโมหน้าใหม่ให้ด้วยอาจพอมีหวังนะยะ”
อารดามอง ตาดุ แล้วไป สามสาวยักแย่ยักยันลุก
“นังบ้า...”
“ยัง ยังไม่เข็ด อยากโดนอีกใช่มั้ย หุบปากไปเลย” อีกคนห้ามทันที

ภายในห้องนั่งเล่น เจตรินกับจีรณัทย์นั่งอยู่ด้วยกัน
“พี่จีโดนคุณแม่ว่าวันนี้ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ยครับ”
“เป็นจ้ะ แต่หายแล้ว”
“ผมเข้าใจพี่จีกับพี่กมลกันต์นะครับ แต่อยากให้...”
จีรณัทย์ขัด ความรู้สึกตาเศร้าลง
“เจตอย่าห้ามพี่เลยจ้ะ ชาตินี้พี่กับกมลกันต์คงไม่มีทางได้อยู่ด้วยกัน เจตอย่าขอให้พี่ตัดใจจากกมลกันต์เลยนะ ความรักของคนเราเกิดแล้วดับไม่ได้ พี่เหลือสายใยบางๆ เส้นนี้เส้นเดียวเท่านั้นเองเจต ที่จะหล่อเลี้ยงใจพี่”

เจตรินสงสารพี่ โอบไหล่ให้มาอิงศีรษะซบ จีรณัทย์เศร้า แต่ไม่ร้องไห้

อิริน่าหางานทำไม่ให้ว่าง เธอนำผ้ามาเช็ดถาดที่เปียกน้ำอยู่ จิตรดาราเข้ามาตบเคาน์เตอร์โครม อิริน่าสะดุ้ง
“คุณจิตรดารา”
“ไม่ต้องสะเออะ ชื่อฉันไม่ได้มีไว้ให้แกเรียก” จิตรดารามองรีน่าเช็ดถาด “หือม์...ทำเป็นขยัน ไอ้พวกเชลียร์”
“เชลียร์แปลว่าอะไรเหรอคะ”
“โง่แล้วยังอยากนอนเตียง”
“คอเอียงแล้วยังอยากใส่สร้อย”
จิตรดาราไม่คิดว่าจะรู้ แต่ก็รักษาฟอร์ม ไม่แสดงความแปลกใจ
“น้ำหน้าอย่างแก มีหน้ารู้กับเขาด้วย”
อิริน่าย้อน
“โง่แล้วยังอยากนอนเตียง...”
“ย้อนฉันเหรอ อีลูกโสเภณีนรก”
จิตรดาราจะอัดอิริน่า อิริน่ายกถาดป้องกัน โดดหนี แต่จิตรดารานึกว่าจะยกตี เธอโดดถอย แบบกลัวว่า อิรีน่าจะบ้าดีเดือด
“คุณอย่าเสียเวลาหาเรื่องอิริน่าเลยค่ะ เอาเวลาไปซื้อครีมบำรุงผิวดีกว่า คุณน่ะชักจะเหี่ยวแล้วนะค่ะ ยิ่งตีหน้ายักษ์ทุกวันยิ่งเหี่ยวทุกวัน เดี๋ยวแฟนทิ้งหรอกค่ะ”
“อ๊าย...อีโสเภณีเด็กปากตำแย”
จิตรดาราพุ่งเข้าใส่ อิริน่าเอาจริงโดดใส่ จิตรดาราเบรกแทบหัวทิ่ม
“อย่ามาด่าแม่ฉัน”
“แม่แกเป็นโสเภณีจริงๆทำไมไม่ยอมรับ”
“จะด่าแกจะทำไม ก็แค่อีลูกโสเภณีเด็กข้างถนนมาเกาะบ้านฉันกิน”
“หยุดนะจิต”
เสียงดุๆของเจตรินดังขึ้น จิตรดาราชะงักไปหน่อย
“แหม ถึงกับลงทุนโดดงานมาเฝ้านับเมียเก็บตกข้างถนนหรือไงคะพี่เจต”
“หยาบคาย พูดไม่น่ารักเลยนะ”
“ค่ะ พูดเป็นตั้งแต่มีไอ้พวกติ่งเนื้อร้ายมาขวางเราสองพี่น้อง พี่เจตนั่นละค่ะไม่น่ารักกับจิต เห็นคนอื่นดีกว่าน้อง”
เจตรินไม่อยากต่อปาก อยากให้น้องสบายใจ เดินไปโอบรีน่า
“ไปกันเถิดอิรีน่า”
“ต๊าย เห็นนังข้างถนนดีกว่าน้องจนได้”
จิตรดาราสะบัดกระทืบเท้าออกไป จีรณัทย์ที่ยืนฟังอยู่นานแล้ว เดินเข้ามา
“ตัวเองต่างหากที่โดนตามใจจนใครเอาไม่อยู่แล้ว”
“ผมถึงห่วงไงครับ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้” เจตรินหนักใจมาก

ในห้องนอน อิริน่ากำลังลองกระโปรงที่ซื้อมาใหม่ โดยสวมทับอยู่บนกางเกง และกำลังรูดซิปกางเกง เสียงเคาะประตูเบาๆแล้วเจตรินเปิดเข้ามา ตกใจกันทั้งคู่
“อุ๊ย”
เจตรินรีบหันหน้าเข้าประตู
“ขอโทษครับ”
อิริน่ารีบหันหลังให้เจตริน ไล่ๆกัน รูดซิปกางเกง ซิปดันติดอีก
“ไม่เป็นไรค่ะ ฮึย ขึ้นสิขึ้น เร็วๆสิ”
“เรียบร้อยหรือยังครับ”
อิริน่ายังหันหลังให้เจตริน รูดซิปแรงปรื๊ด ซิปขึ้น แต่อิริน่าเซแซดๆจะล้ม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
เจตรินกำลังพุ่งจะไปรับอิริน่า ประตูห้องเปิดพรวด อารดาเข้ามา ประตูกระแทกเจตรินถลา
“เจตขา...อุ๊ย”
อารดาจะเข้าประคองเจตริน อิริน่าพรวดเข้ามาอย่างมีชั้นเชิง รับเจตรินไว้ได้ทัน มือหนึ่งยันอารดาถอยไป
“อ๊าย...แก...”
อารดาพุ่งเข้าหาด้วยท่าทางของคนเป็นวิชาการต่อสู้ อิริน่ารับมือ กันเจตรินไว้ไม่ให้อารดาโดนตัว เจตรินขำๆ แต่ก็ยอมอยู่ในเกม พัลวันอยู่ฝั่งอิริน่า อิริน่าจับเจตรินพลิ้วหนี อารดาพยายามยื้อแย่งเจตริน แต่ไม่สำเร็จ อิริน่ายังฝีมือเหนือกว่า แม้จะใช้ท่าพื้นๆประมือกับอารดา
“ฝีมือดีนี่ นี่ถ้าฝึกอีกหน่อยก็เก่งเลิศเลยนะ”
“ไม่ต้องมาชม ฉันจะล้มแกให้ได้”
“แตะตัวสามีฉันให้ได้ก่อนเท้อ...” อิริน่าเย้ย
อารดาโกรธ ลุยฉับๆ ยังไม่สามารถโดนตัวเจตรินได้
“เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบคุณ ฉันจะใช้ท่าพื้นฐานที่สุดเล่นกับคุณนะ”
อารดาโกรธ ลุยใหญ่
“ไม่ต้องมาออมมือให้ฉัน”
อารดาจะคว้าเจตริน อิริน่าหมุนเจตรินไป อารดาคว้าไม่ได้
“อ๊ะๆ เขาอยู่ตรงหน้าเห็นๆ แค่จะแตะยังทำไม่ได้ แล้วคิดจะแย่งเขาไปจากฉัน ชาติไหนจะแย่งได้เนี่ย”
“อ๊าย นังปากขยะ”
เจตรินพูดกับอิริน่า
“พูดงั้นได้ไง”
อิริน่าสู้ไปพูดไปกับเจตรินไป
“ปกป้องสิทธิของภรรยาค่ะ”
เจตรินชอบใจ
“ขอบคุณนะที่รับผมเป็นสามี”
อิริน่ามองค้อน เลยโดนอารดาอัดโครม แต่อารดายังฉกเจตรินไปไม่ได้ อิริน่ากันเจตรินได้ ทำหน้าล้ออารดา
“แบร่...”
“นังบ้า”
อิริน่าโยกเจตรินหนีมืออารดา
“โอย ผมไม่ใช่ตุ๊กตานะคุณ โยกไปโยกมาเนี่ย เวียนหัวหมดแล้ว”
“เรื่องของคุณ”
“อ้าว”
สู้กันไปอารดาปรี๊ด อิริน่าชิวๆ ในที่สุดอิริน่าหมั่นไส้ซัดอารดากระเด็น เจตรินพลิ้วตัวไปรับอารดาไว้ได้
อิริน่าหันขวับมอง เจตรินสบตาอิริน่าดุ ปล่อยมือ อารดาหล่นลงพื้นโครม
“อ๊าย....เจตอ้ะ...”

ท่าทางที่อารดาหล่นชวนขำมาก อิริน่าหันไปแอบหัวเราะขำมากแต่ไม่มีเสียง เจตรินก็ขำมาก แต่รักษามารยาท กลั้นขำสุดฤทธิ์ แต่ไม่อาจปิดตาที่เป็นประกาย
 
จบตอนที่ 3 


กำลังโหลดความคิดเห็น