xs
xsm
sm
md
lg

เรือนกาหลง ตอนที่ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรือนกาหลง ตอนที่ 7

ช่วงไม่พอใจที่รู้ว่าโชติพามั่นและขาบไปหาไม้กับกาหลง

“โชติมันพาไอ้มั่นไอ้ขาบไปหานังกาหลง”
“จ้ะพ่อผู้ใหญ่” ลูกน้องช่วงบอก
“มันโง่ดักดาน ทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ไม้คิดเล่นงานไอ้มั่นไอ้ขาบ ยังมีหน้าพาพวกนั้นไปอีก”
ช่วงไม่พอใจโชติ ตัดสินใจลงเรือนไปทันที

ไม้ต่อว่าโชติ
“เอ็งมาก็ดี ข้าจะได้แจ้งใจว่าเพียงพวกมันสองคนทำร้ายกาหลง หรือมีนายมันให้ท่าสั่งการ”
“ข้าบอกเอ็งแล้วว่าข้าไม่เคยสั่งสอนให้ลูกน้องทำชั่ว”
“แล้วพวกมันตามไล่ข้าทำไมกัน” กาหลงเถียง
โชติบอกกาหลง
“ไอ้มั่นไอ้ขาบสารภาพผิดกับข้า พวกมันมัดมือมัดเท้าหวังขู่ให้เอ็งกลัวไม่กล้าบอกใคร แต่พลั้งทำตกน้ำ พวกมันจะลงไปงมช่วย กาเหว่ามันก็เอะอะโวยวายกลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกมันกลัวผิดคิดสั้นหนีไปอย่างที่รู้กัน...เอ็งให้อภัยพวกมันเถอะ”
ไม้ไม่เชื่อ
“เอ็งออกโรงปกป้องลูกน้อง ข้าจะจับมันส่งทางการ”
“ความชั่วมันมี...ความดีก็ใช่น้อย มันสองคนช่วยต่อสู้เสือหวาด ไล่ฟันลูกน้องขุดหวาดต้องล่าถอย หากไม่ได้พวกมันช่วยเสริมแรง เอ็งก็อาจพลั้งท่าเสียทีให้เสือหวาดได้เช่นกัน”
ไม้คิดตาม โชติเข้ามาหว่านล้อม
“เลิกแล้วต่อกันเถอะ...” โชติถามกาหลง “กาหลง...เอ็งยกโทษพวกมันได้รึไม่”
กาหลงมองหน้ามั่นและขาบ คิดตัดสินใจ
“การให้อภัย...เป็นทานอันยิ่งใหญ่”
มั่นและขาบยิ้มพอใจ กาหลงพูดต่อ
“แต่ควรให้ทานกับคนดี”
มั่นและขาบกังวลใจอีกครั้ง กาหลงมองหน้า
“หากมันกลับตัวกลับใจสำนึกผิดจริง จงสาบานเลิกทำชั่วต่อหน้าองค์พระ แม้นผิดคำสาบานเพียงครั้งเดียว ขอให้พวกมันตายโหงตายห่า”
มั่นและขาบมองหน้ากันตกใจกลัวที่ต้องไปสาบาน...
“ว่าไง...เอ็งสองคนจะกล้าสาบานหรือไม่” ไม้ถามเสียงเข้ม

มั่นและขาบคลานเข่าไปนั่งตรงหน้าพระประธาน ไม้เดินตรงเข้ามามองดุ...มั่นและขาบหันไปมองลูกพี่ โชติส่งสัญญาณให้ทำตาม มั่นและขาบพนมมือสาบาน
“ข้าไอ้มั่น”
“ข้าไอ้ขาบ”
มั่นและขาบพูดพร้อมกัน
“ข้าทั้งสองขอสาบานต่อหน้าองค์พระ...และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย หากลูกทำผิดบาป ลูกทำชั่ว ขอให้ลูก...”
มั่นและขาบหยุดพูดไม่กล้าสาบาน ไม้มองดุ มั่นและขาบจึงพูดออกไป มั่นและขาบเสียงดัง
“ขอให้ลูกตายโหงตายห่า”

สายลมพัดรุนแรงหน้าวัด...กาหลงยืนอยู่หน้าวัด รับรู้คำสาบานของมั่นและขาบก็ยิ้มพอใจ สายลมค่อยเบาแล้วสงบลง มั่นและขาบยืนอยู่หน้าโบสถ์บอกไม้ซึ่งยืนมอง
“หมดเรื่องแล้ว ข้ากลับล่ะ”
ไม้หยักหน้ารับ มั่นและขาบรีบออกไปทันที โชติเดินตรงมาหา ไม้แปลกใจ โชติพูดจาดีพนมมือ
“ข้าจะบวชเรียนดังที่ให้สัญญากับพุดจีบ สิ่งใดที่ข้าล่วงเกินทั้งทางกาย วาจาใจ...มุ่งมาดร้ายต่อเอ็ง ขอให้เลิกแล้วต่อกัน” ยกมือไหว้ไม้ "อโหสิกรรมให้ข้าด้วย”
ไม้มองโชติแล้วตัดสินใจ โชติมองลุ้นว่าไม้จะกล่าวอโหสิกรรมหรือไม่ ไม้มองโชติแล้วเดินหนีออกไป โชติผิดหวังที่ไม้ไม่รับคำขอขมาหน้าเศร้า

ไม้เดินมาหยุดที่ประตูโบสถ์ มองตรงไปยังพระประธาน ค่อยๆเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกลังเล สับสน กับความแค้นที่โชติเคยทำไว้ ไม้เดินถึงหน้าพระประธานนั่งลงคุกเข้าพนมมือหน้าคลายความโกรธแค้น
“ขอให้เรื่องเลวร้ายกลายเป็นสายลมที่พัดผ่านไป...หลังจากนี้ ขอให้ชีวิตลูก พบพานแต่ความสุข ความสมหวังด้วยเถิด”
ไม้ก้มลงกราบพระประธาน ช่วงยืนมองคิดร้ายอยู่ด้านหลัง

โชติเดินเข้ามาที่เรือน เจอช่วงยืนดักรออยู่
“ไอ้ลูกไม่รักดี เอ็งอ่อนข้อยอมก้มหัวไอ้ไม้”
“ฉันไม่ได้อ่อนข้อต่อมัน แต่ฉันทำให้มันตายใจ...ฉันหวังให้มันวางใจฉัน แล้วฉันก็จะหาโอกาสเอาคืนมันให้สาแก่ใจ”
ช่วงฟังยังแปลกใจในความคิดของโชติ

“ฉันจำคำพ่อสอนไว้มั่น...หลอกให้ศัตรูเป็นมิตรจนตายใจ เราย่อมมีชัยเหนือมัน”

ช่วงยิ้มพอใจ แต่สงสัยเรื่องขาบกับมั่น

“แล้วเอ็งคิดยังไงถึงพา ไอ้มั่นไอ้ขาบไปพบหน้ามัน”
“ฉันยอมให้ไอ้มั่นไอ้ขาบขอขมาให้โทษพ้นตัว พวกมันไม่ต้องหลบซ่อนกบดานเหมือนเคย ฉันจะใช้งานพวกมันได้คล่องตัว”
ช่วงยิ้มพอใจในความคิดของโชติ แล้วถามถึงเรื่องบวชพระ
“เอ็งคิดดีแล้วใช่ไหมที่ยอมเสียเวลาไปบวช”
“ฉันยอมทำทุกอย่างเพียงขอให้พุดจีบยอมรับในตัวฉัน...แต่ฉันไม่ทนห่มผ้าเหลืองให้เกินเดือน ฉันจะแสร้งเจ็บป่วย ขอลาสึก ถึงเวลานั้นพุดจีบคงอ่อนใจเห็นใจฉัน”
ช่วงยิ้มให้ลูกชาย พอใจมากขึ้น โชติยิ้มดีใจที่ช่วงยอมรับเขามากขึ้น ช่วงเสนอความคิด
“หากพุดจีบยังแข็งใจ...ไม่ต้องชักช้าเสียทีฉุดทำเมียซะ”
ช่วงหัวเราะชอบใจ โชติฟังความคิดของช่วงก็ยิ้มรับพอใจ แม่น้อยถือพานใส่ยาสูบฟังที่มุมหนึ่งไม่พอใจที่ช่วงสอนลูกในทางที่ผิด

แม่น้อยถือพานใส่ยาสูบมาส่งให้ช่วงที่นั่งรอ กระแทกพานลง
“บ๊ะ...เอ็งทำอะไร”
“พี่เลิกสอนลูกในทางผิดได้แล้ว”
ช่วงยิ้มเย้ย
“คนอย่างข้าไม่เคยทำสิ่งใดผิด...มันถูกมาเสมอ”
แม่น้อยต่อว่า
“ถูกใจพี่แต่มันผิดศีลธรรม”
“บ๊ะ...เอ็งนี่ขัดคอขัดใจข้า พระองค์ไหนเข้าสิงให้มาเทศนาข้า”
“ฉันขอร้องล่ะ...หยุดก่อกรรมทำเวรเถอะ ที่ผ่านมาพี่ทำ” แม่น้อยยั้งปากไว้ “พี่หยุดต่อยอดส่งบาปให้ลูก...พี่เองก็รู้ดี ใครทำกรรมใดไว้ย่อมรับกรรมนั้นตอบสนอง”
น้อยวิงวอน ช่วงหัวเราะเสียงดังลั่น เดินมองรอบๆเรือน
“ข้าทำชั่วตั้งแต่หนุ่มยันแก่ ทำบาปมามากโข แต่เงินทองไหลมาเทมากองตรงหน้า ส่วนไอ้พวกคิดดีทำดี มันกลายเป็นผีไปหมดแล้ว ข้าว่าเอ็งเลิกเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรมให้เสียเวลาสู้มาสอนสั่งให้ลูกๆเจริญรอยตามข้าจะได้ประโยชน์นัก”
“พี่ไม่กลัวตกนรกรึไง”
ช่วงยิ้มเย้ย
“นรกเป็นนิทานที่แต่งไว้หลอกคนโง่ คนหัวแหลมย่อมรู้ ดีว่าชีวิตนี้มีแต่สวรรค์ เหมือนที่ข้าเสวยสุขอยู่ทุกวันนี้”
ช่วงหัวเราะพอใจ หยิบยาขึ้นมาสูบ น้อยผิดหวังที่ช่วงยืนยันความคิดนี้ ไม่ยอมกลับใจ

กาหลงนั่งรอไม้อยู่ที่บันไดชะเง้อมองรอ ไม้เดินตรงเข้ามา เธอดีใจเดินตรงไปหาเขา
“พี่ไม้”
“ทำไมกาหลงไม่เข้าไปฟังมันสาบานในโบสถ์”
“ฉันถือว่ามันกับฉัน สิ้นเวรหมดกรรมกันแล้ว ฉันไม่อยากไปขวางไปยุ่งอีก”
ไม้รับฟังไม่ติดใจสงสัยแล้วเล่าเรื่องของโชติ
“ไอ้โชติมาไหว้ขออโหสิกรรมพี่”
กาหลงแปลกใจ
“แล้วพี่ว่ายังไง”
“สิ่งที่มันทำกับพี่กับกาหลง มันเลวร้ายเกินกว่าพี่จะให้อภัยมันได้”
ไม้ยังคงเก็บความแค้นไว้ กาหลงเข้าใจความรู้สึกแล้วถาม
“แล้วพี่ให้อภัยฉันได้มั้ย”
ไม้มองกาหลง
“กาหลงเป็นเมียพี่...ไม่ว่ากาหลงทำผิดพลาดหนักหนาแค่ไหน พี่ให้อภัยเมียได้เสมอ”
กาหลงฟังน้ำตาไหล โผเข้าสวมกอด
“พี่ไม้”
ไม้โอบกอด กาหลงกอดเขาไว้แน่น...
“พี่รักและดีกับฉัน แล้วจะให้ฉันทิ้งพี่ไปได้ยังไงกัน”
กาหลงกอดไม้น้ำตาไหลด้วยความรักอย่างมากมาย หยดน้ำที่หยดจากร่างกายของเธอหยดลงพื้น...ไม้เอามือโอบกอดกาหลงรู้สึกว่ามือเปียก เขายกมือขึ้นมาดู
“กาหลงไปทำอะไรมา เนื้อตัวถึงได้เปียกชุ่มน้ำ”
กาหลงก้มมองร่างกายเห็นเนื้อตัวเปียกน้ำ ไม้มองด้วยความแปลกใจ กาหลงรีบแก้ตัว

“ฉันเพิ่งล้างขัดเรือนจ้ะ ไม่ทันได้ผลัดผ้า...ดูสิ พี่ไม้พลอยเปียกไปกับฉัน พี่ไปอาบน้ำผลัดผ้าเถอะ”
ไม้ยิ้มรับแล้วประคองกาหลงเดินไปยังเรือน พาขึ้นเรือนไป
ไม่ไม่เห็นว่ารอยเท้าของกาหลงเป็นรอยน้ำชัดเจนไปตลอดทางจนทั้งสองเดินลับเข้าไปในเรือน

เช้าวันใหม่...อบเชยปาข้าวของใส่เผื่อนและงาม สองบ่าวต่างสะดุ้งหลบแทบไม่ทัน

“ว้าย”
“ข้าไม่เชื่อคำพวกเอ็ง” อบเชยตวาด
เผื่อนและงามยืนยันพร้อมเพียง
“จริงแท้นะเจ้าคะ”
“สาบานให้ฟ้าผ่านังงามเลยเทียว” เผื่อนบุ้ยหน้าไปที่งาม
งามสะดุ้ง
“อุ๊บ๊ะ…”
“เมื่อคืน...เผื่อนกับนังงามมุดลอดดอดไปใต้ถุนเรือนกาหลง”
“ยุงไรกัดตอมหน้า ดูสิเจ้าคะ หน้างามหมดสวยเสียแล้วสิเล่า”
อบเชยและเผื่อนมองงาม แล้วเบ้หน้า เพราะหน้าตาก็แย่อยู่แล้ว
“เผื่อนกับงาม...เห็นมาเต็มสองลูกกะตา” เผื่อนยืนยัน
“ได้ยินเต็มสองรูหู เสียงพื้นเรือนดังเอี๊ยดอ๊าด...เอี๊ยดอ๊าด”
งามบรรยากาศด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม จนทำให้อบเชยคิดตาม โกรธจัดหยิบของปาใส่หน้างาม
“ข้าไม่อยากฟัง”
งามตกใจ
“ว้าย”
อบเชยไม่พอใจ
“ทำยังไงข้าถึงจะลบหน้านังกาหลงออกไปจากชีวิต พี่ไม้ได้เสียที”
อบเชยคิดหาวิธีกำจัดกาหลง เผื่อนคลานเข้ามาเสนอความคิด
“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเล่นด้วยกล”
งามคลานเข้ามาอีกด้าน
“ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ลงด้วยคาถา”
“เผื่อนรู้จักหมอผีแก่กล้าวิชามหาเสน่ห์เจ้าค่ะ”
อบเชยคิดตาม สนใจที่เผื่อนแนะนำ...

บรรยากาศภายในเรือนของหมอผี มีควันคละคลุ้ง กะโหลกผี เครื่องรางของขลังน่ากลัววางไว้ภายในเรือนดูน่ากลัว หลอนๆ หมอผีนั่งหลับตาบริกรรมเคี้ยวหมากอยู่ท่าทางน่ากลัว อบเชยคลานเข้ามาด้วยความรู้สึกกล้าๆกลัวๆ เผื่อนและงามตามเข้ามาด้านหลัง อบเชยมองหมอผีแล้วกลัว ก้มหน้ายกมือไหว้ หมอผีเคี้ยวหมากบริกรรมคาถาหยุดกึก ลืมตาโพลงมองมา อบเชยสะดุ้งตกใจกลัว
“อยากได้ผัวจนตัวสั่นสิเอ็ง”
อบเชยตกใจที่หมอผีรู้ว่าเธอมาเพื่อการใด
“เจ้าค่ะ”
หมอผีหัวเราะชอบใจเสียงดังลั่น อบเชยยิ้มพอใจรู้สึกว่าหมอผีมีวิชารู้ความต้องการของเธอ

แม่กลอยเดินออกมาจากห้อง แปลกใจหยุดมอง เมื่อเห็นกาหลงกำลังจัดวางอาหารให้
“แม่มากินข้าวเถอะจ้ะ ฉันทำงบปิ้ง ขนุนคั่วมาให้แม่มากินจ้ะ”
แม่กลอยยังไม่นั่ง ทำหน้าเย้ยๆงอนลูกสาว
“ชิ...ออกเรือนตามไปอยู่กินกับผัว เมินแม่อย่างข้า ใช่สิ ข้ามันไม่เทียบเท่าผัวเอ็งนี่ ไม่ต้องมาแสลงใจแล กลับปรนนิบัติพัดวีผัวเจ้าชู้เอ็งโน่น”
“แม่ฟังฉันก่อนจ้ะ...”
กาหลงจะอธิบาย แต่แม่กลอยสวนกลับ
“อ๋อ...รึมันหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปร่วมหอกับแม่พุดจีบโน่นแล้ว เอ็งถึงได้ซมซานมาซบข้า”
กาหลงยิ้มตอบ
“ฉันไม่ถึงคราวเคราะห์อย่างที่แม่คิดดอกจ้ะ ฉันกับพี่ไม้เข้าใจกันชัดแล้ว พุดจีบเองก็ไม่คิดทรยศต่อฉัน”
แม่กลอยสวนขึ้น
“มันหลอกให้เอ็งตายใจสิเออ เหมือนนังแม่มัน มารยาร้อยเล่มเกวียน ทางหนึ่งยั่วใจไอ้ไม้ อีกทางก็อยากร่วมหอกับพ่อโชติ ไม่ต่างอะไรกับนังวันทองสองใจ”
“น้าบุญอิ่มกับพุดจีบเขาไม่ได้แสร้งใส่เรานะจ๊ะแม่...ถ้าแม่เอาอคติออกจากใจ แม่ก็จะเห็นน้ำใจของสองแม่ลูก”
แม่กลอยสวนกลับ
“เอ็งเลิกยกยอปอปั้นพวกมันเสีย ข้าฟังแล้วอยากจะอาเจียน ข้าเกลียดมันแท้ พุดจีบก็ตัวดี แสร้งสงบเสงี่ยมแต่เผลอเป็นไม่ได้ ย่องหยิบชิ้นปลามัน ชิงร่วมหอพ่อโชติ”
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมแม่ถึงได้พาลโกรธเกลียดพุดจีบนัก”
ชบาเดินเข้ามาบอกกาหลง

“ฉันตอบแทนได้ แม่เขาจะจับฉันยกให้พี่โชติ พอรู้ว่าพี่พุดจีบตกลงปลงใจกับพี่โชติ ก็เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ”

แม่กลอยหันไปดุชบา
 
“นังชบา เอ็งอย่ามาริประกับข้า ยังไงข้าก็ต้องยกเอ็งให้พ่อโชติ”
“วันยันค่ำฉันก็ไม่ลงเล่นด้วยหรอก”
ชบากระทืบเท้าเดินลงหนีไปจากเรือน แม่กลอยโมโห
“เอ็งอย่ามากระทืบเท้าใส่ข้า กลับมานังชบา”
ชบาไม่ฟังเสียงเดินหนีออกไป กาหลงรู้ความจริงก็สงสารน้องสาวจะเดินตามไป
“ชบา”
แม่กลอยจ้องหน้า
“เอ็งอยู่นี่...ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเอ็ง”
กาหลงกลับมา แปลกใจว่าแม่กลอยมีเรื่องอะไร

อบเชยนั่งพนมมือรอหมอผีบริกรรมคาถาอย่างใจจดใจจ่อ หมอผีกำของบางอย่างไว้ในมือ บริกรรมคาถาแล้วเป่าเพี้ยง คลายมือออก อบเชยมองขวดน้ำมันพรายในมือหมอผีด้วยความสนใจ
“น้ำมันพรายมหาเสน่ห์”
อบเชยตื่นเต้นที่ได้เห็น เผื่อนและงามมองหน้ากัน ตื่นเต้นดีใจ
“เอ็งดีด เอ็งป้ายให้ชายคนรัก เมื่อนั่นแหละ มันจะขี้คร้านอยู่ไม่ติดเรือน เร่งมาหาเอ็งในทันที”
หมอผีหัวเราะชอบใจ อบเชยยื่นมือไปรับขวดน้ำมันพรายอย่างตื่นเต้นดีใจมีความหวังพิชิตใจไม้

กาหลงถามแม่ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่
“แม่จะให้ฉันช่วยเรื่องใดจ๊ะ”
“เอ็งไปกล่อมให้น้องสาวเอ็งยอมตามข้า”
“ฉันขอล่ะ แม่อย่าข่มเหงใจชบามันเลย”
แม่กลอยไม่พอใจ ทิ้งจานข้าวทันที
“เอ็งไม่ต้องสอนข้า เอ็งยังไม่สำเหนียกอีกรึไง ความดื้อรั้นของเอ็งทำให้ข้าต้องกลายเป็นคนเคราะห์ หลังขดหลังแข็งทำไร่ทำนา แลหนนี้ข้ายังมีนังชบาเหลืออีกคน ข้าไม่ยอมพลั้งท่าอีก”
กาหลงแปลกใจว่าแม่จะให้เธอช่วยทำอย่างไร
“ข้าต้องได้อยู่สุขเป็นแม่ยายเศรษฐี เอ็งจงเร่งไปขวางทางให้เพื่อนเอ็งแปรใจจากพ่อโชติ”
กาหลงคิดตามคำแม่ ก็พูดความในใจออกมา
“ฉันไม่หวังใจให้พุดจีบลงเอยเป็นคู่พี่โชติ”
แม่กลอยพอใจ
“บ๊ะก็ดี...เอ็งเร่งไปบอกให้พุดจีบมันถอดใจ แล้วก็ไปกล่อมให้น้องเอ็งยอมตามข้า”
“แต่ฉันก็ไม่ปลงใจให้ชบาร่วมหอกับมัน”
แม่กลอยไม่พอใจ
“นังกาหลงอย่าขวางข้า หากเอ็งขัดใจหนนี้ ข้าจะถือว่าเอ็งเห็นแก่ตัว ไม่ต้องมาเหยียบเรือนข้าอีก”
แม่กลอยประกาศแล้วลุกหนีออกไป กาหลงนั่งกลุ้มใจ ไม่เห็นด้วยที่จะให้ชบาแต่งกับโชติ

ไม้ถอดเสื้อกำลังตำข้าวอยู่หน้าเรือน อบเชยเดินตรงเข้ามาที่มุมหนึ่ง เผื่อนและงามตามเข้ามา
“พ่อเทพบุตรอยู่โน่นแล้ว เข้าไปดีดไปป้ายตัวสิเจ้าคะ” เผื่อนยุ
“หากกลัวไม่ทันการ เทสาดราดรดตัวไปเลยเจ้าค่ะ” งามแนะนำ
“หรือเอาใส่น้ำให้กินก็ได้นะเจ้าคะ” เผื่อนเสริม
อบเชยไม่มั่นใจ
“มันจะได้ผลหรือนังเผื่อน”
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงเจ้าคะ...เพียงดีดยังกระโดดมาหา หากได้กินลงท้อง คงเหาะล่องย่องเข้าหอเลยเจ้าค่ะ”
เผื่อนแนะนำระริกระรี้ งามทำท่าจั๊กกะจี้เมื่อคิดภาพตาม อบเชยยิ้มพอใจ
“รอให้ถึงคืนนี้เสียก่อน”
“ช้าไปไม่ทันการนะเจ้าคะ” งามแย้ง
“จะเร่งไปใย...ในเมื่อของดีอยู่กับตัว”

อบเชยมองขวดน้ำมันพรายยิ้มพอใจ แล้วหันไปมองไม้ มั่นใจว่าจะพิชิตใจเขาได้
 
อ่านต่อหน้า 2

เรือนกาหลง ตอนที่ 7 (ต่อ)

กาหลงเดินมาเห็นชบายืนไม่พอใจอยู่ที่มุมหนึ่ง เธอเดินเข้ามาหา

“ชบา...”
ชบาหันมาต่อว่าทันที
“ไม่ต้องยุ่งกับฉัน”
“เย็นใจก่อนสิ พี่รู้ว่าชบาทุกข์ใจ พี่อยากช่วยชบา”
“ไม่ต้องมาพูดดี พี่สุขใจได้ลงหอกับคนรักของพี่ ส่วนฉันล่ะ ฉันต้องคราวเคราะห์รับแทนพี่ หากพี่สมยอมออกเรือนกับพี่โชติครั้งโน้น แม่คงไม่ขืนใจฉันอย่างนี้”
กาหลงย้อนถาม
“ชบาเคืองใจที่พี่ไม่ร่วมหอกับโชติหรือเคืองโกรธที่ พี่รักพี่ไม้”
กาหลงถามตรงๆ ชบามองพี่สาวนิ่งอึ้งที่ถูกซักขึ้นมา
“พี่รู้ว่าฉันเสน่หาพี่ไม้”
“เอ็งเป็นน้องพี่มีหรือพี่จะไม่รู้ใจเอ็ง ฟังพี่นะชบา...หากพี่ไม้มีใจให้เอ็งสักนิด พี่จะถอดใจเสียนานแล้ว แต่พี่ไม้เห็นเอ็งเป็นน้องสาว และพี่ไม้ก็รักพี่”
ชบาน้ำตาไหล
“ฉันรู้ข้อนี้ดีว่าพี่ไม้ไม่มีใจให้ฉัน...ฉันถึงยอมอ้อนวอนแม่ ให้พี่ได้สมใจกับพี่ไม้”
กาหลงเข้ามาสวมกอดปลอบใจชบา
“ขอบใจเอ็งนัก”
“พี่ต้องช่วยฉันนะ” ชบาขอร้อง
กาหลงแปลกใจว่าชบาจะให้ช่วยอะไร
“พี่ต้องพูดให้พี่พุดจีบออกเรือนกับพี่โชติเสียให้ไว ฉันจะได้หมดทุกข์”
กาหลงนิ่งอึ้ง เพราะไม่อยากให้พุดจีบแต่งกับโชติ ชบาวิงวอน
“ว่าไงจ๊ะ...พี่สาวฉัน”
ชบาวิงวอน กาหลงทำได้เพียงรับปาก
“จ้ะ”
ชบาเข้าสวมพี่สาวอีกครั้ง กาหลงมองตรงไป...แม่กลอยยืนบนเรือนมองเธอด้วยสายตากดดันให้หว่านล้อมชบา กาหลงกังวลใจจะทำอย่างไร ระหว่างทำเพื่อแม่หรือช่วยน้อง

ไม้ฝัดข้าวหลังจากตำแล้ว กาหลงเดินเข้ามาแปลกใจที่ไม้มาฝัดข้าวเข้าไปแย่งกระด้งข้าว
“เอามาจ้ะ ให้ฉันทำเอง”
“พี่ทำได้ เรามีกันอยู่สองคน มีอะไรที่พี่ช่วยกาหลงได้ พี่เต็มใจ”
กาหลงยิ้มตอบ
“กาหลงหายไปไหน”
“ฉันแวะไปเยี่ยมแม่จ้ะ”
ไม้เห็นหน้ากาหลงเศร้าก็สงสัย
“แม่ต่อว่า...หรือคับใจเรื่องไรมา”
กาหลงแปลกใจ
“พี่รู้ใจฉัน”
“เราต่างมีใจดวงเดียว เมียทุกข์ มีหรือจะปิดผัวได้...ว่าไง เมียพี่หนักใจเรื่องไร”
“แม่จะยกชบาให้โชติ”
ไม้แปลกใจที่แม่กลอยจะยกชบาให้โชติ

อบเชยนั่งร้อยดอกไม้ยิ้มสุขใจ ด้านหลังมีเผื่อนกับงามและบ่าวช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่องานเลี้ยงคืนนี้ โชติเดินเข้ามาเห็นก็แปลกใจ เพราะอบเชยไม่ใช่หญิงจะมานั่งร้อยมาลัย
“น้องสาวข้าอิ่มอกอิ่มใจอะไรมา ถึงได้ยิ้มพิมพ์ใจ” โชติหยิบมาลัยในพานขึ้นมา “ร้อยดอกไม้ก็ใช่เคยทำเป็น”
“พี่ชายจะบวชรับใช้พระพุทธศาสนาทั้งที ฉันเป็นน้องสาวก็ขออนุโมทนาสาธุ” อบเชยยกมือไหว้เหนือหัว
โชติไม่เชื่อนัก
“เอ็งคิดทำการใด”
อบเชยเปลี่ยนเรื่อง
“อย่าสนใจฉันเลย ว่าแต่พี่เถอะ...พี่ไม้ไม่ยอมอโหสิกรรมให้พี่ โบราณเขาถือ ผิดบาดหมางใจแล้วไม่อโหสิ ก็เท่ากับแบกกรรมแบกทุกข์ติดตัว”
“เอ็งอย่าได้ห่วง ข้าใช่จะอ่อนโลก ต่อให้มันแค้นหนักสาปแช่งส่ง มันก็ต้องยอมอ่อนใจให้ข้า”

โชติยิ้มมั่นใจว่ามีหนทางให้ไม้อโหสิกรรมให้ อบเชยสงสัยอยากรู้ว่าพี่ชายจะทำอย่างไร

กาหลงหอบท่อนไม้จะฟันทำฟืน ไม้เข้ามาเอาขวานฟันฟืนให้
 
“แม่จะยกชบาให้โชติทั้งๆที่รู้ว่าโชติปลงใจพุดจีบแล้ว”
“ฉันเองก็ไม่เห็นงาม แต่ทัดทานแม่ไม่ได้”
ไม้ถอนใจ
“นี่ล่ะหนอ เงินมันทำให้คนตาบอดตามัว อยากสุขสำราญพาลทำร้ายความสุขลูก”
กาหลงเก็บเศษฟืนที่ไม้ฟัน
“พี่อย่าชังแม่เลยจ้ะ...ฉันรู้ใจแม่ดี ชีวิตคนจน บางทีมันลำบากจนต้องหาทางปรับทุกข์ปรับร้อนหวังพลิกชีวิตเงยหน้าอ้าปากได้ คงคิดการว่าถ้าแต่งงานกับเศรษฐี ชีวิตก็แปรไปได้ในพริบตา”
ไม้ฟังก็เข้าใจความคิดของกาหลง เดินเข้ามาหา
“เมื่อไหร่หนอ คนเราถึงจะพอใจในสิ่งที่เป็น ภูมิใจกับสิ่งที่มี ความสุขมิได้เกิดขึ้นจากเรือนหลังใหญ่ ทรัพย์สินเงินทองมากมายก่ายกอง ขอเพียงเรามีอยู่มีกิน ใช้ชีวิตกับคนที่เรารัก ชีวิตของเราก็ค้นพบความสุขแล้ว”
ไม้โอบกอดกาหลง มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธอ กาหลงโอบมือเขาไว้ด้วยความสุขใจ แต่ยังกังวลใจเรื่องของชบา
“ฉันเองก็มีส่วนในก่อบาปให้ชบา”
“แล้วกาหลงจะทำยังไง”
“ฉันคงต้องทำสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อเพื่อนรักและน้องฉัน”
กาหลงคิดตัดสินใจบางอย่าง ไม้สงสัยอยากรู้

ค่ำนั้น...บรรยากาศโดยรอบหน้าเรือนช่วง เป็นงานเลี้ยงฉลองโชติบวช สัปเหร่อขาวนั่งตีระนาดพร้อมกับนักดนตรีในวง จอกวิ่งมาหน้าเรือนแล้วร้องรำตามเสียงดนตรีเป็นที่ตลกขบขันของชาวบ้าน โขงวิ่งร้องไล่ตามจอก
“ไอ้จอก กลับวัด”
จอกสะบัดออกแล้วเข้าไปร้องรำต่อ เฟื้องเดินเข้ามาหาโขง
“โชติ มันบอกบุญเอ็งด้วยเร้อ”
โขงยังโกรธโชติ
“ถึงบอกฉันก็ไม่รับ ฉันไม่อยากเหยียบเรือนมันหรอก แต่ไอ้จอกสิ ยินเสียงระนาดก็แล่นมานี่ รั้งไม่อยู่เลย”
เฟื้องหันไปมองจอกที่กำลังร้องเพลงอีแซวเนื้อหาเกี่ยวกับการลาบวช เพื่อไปเบียด เฟื้องเห็นก็พลอยหัวเราะชอบใจ สนุกไปด้วยหันไปบอกโขง
“ปล่อยมันเหอะ...ให้มันได้ร้องรำทำเพลงบ้าง เผื่อจะหายบ้า เอ็งดูมันให้ดีแล้วกัน อย่าให้มันไปก่อกวนเสียงาน”
“จ้ะมัคทายก”
โขงเข้าไปร้องรำกับจอกดูแลจอก เฟื้องหันไปมองสัปเหร่อขาวที่นั่งตีระนาด

ไม้เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้าห้อง
“กาหลง”
ไม้แปลกใจที่ไม่เห็นกาหลง

กาหลงเดินขึ้นมาที่เรือนหาพุดจีบ
“พุดจีบ”
นวลถือถาดใส่ขนมเดินเข้ามาหา
“แม่กาหลงมาช้าไปเสีย คุณพุดจีบไปช่วยงานที่เรือนพ่อโชติประเดี๋ยวเดียว”
กาหลงผิดหวังที่ไม่ได้เจอพุดจีบ
“นี่ฉันกำลังจะยกขนมไปสมทบ ไปกับฉันเสียสิ”
นวลชวน กาหลงคิดตัดสินใจ
“ไม่ล่ะ...พี่นวลไปเถอะ”
“งั้นฉันไปล่ะ”
นวลถือถาดใส่ขนมเดินออกไป กาหลงมองตามอย่างคิดหนักว่าจะทำอย่างไรดี

ไม้เดินออกมาหน้าเรือนหยุดมองด้วยความแปลกใจ เผื่อนกับงามเข้ามาฉอเลาะ
“พี่ไม้จ๋า”
เผื่อนและงามเดินเข้ามาหา ไม้แปลกใจที่ทั้งสองมาหาที่เรือน

อบเชยชะเง้อมองหาไม้ แม่น้อยมองอบเชยก็แปลกใจเข้ามาถามด้านหลัง
“ลูกชะเง้อรอท่าใคร”
“รอพี่ไม้จ้ะ”
แม่น้อยแปลกใจและไม่พอใจ
“รอเจ้าไม้ ลูกคิดทำอะไร”
“ลูกเป็นเจ้าบ้านเจ้างาน ก็อยากดูแลต้อนรับแขกเหรื่อให้ดีที่สุด”
แม่น้อยรู้ทันความคิดอบเชย ทักทันที
“ลูกหยุดคิดทำบาป อย่าหนักข้อเอาการเหมือนพ่อกับพี่ชาย”
“ฉันเบื่อฟังคำสอนเสียจริง ฉันโตพอจะรู้ว่าควรทำสิ่งใด”
“หากรู้ คงไม่ชะเง้อรอท่าผัวของคนอื่นอยู่อย่างนี้”
อบเชยยิ้ม
“คืนนี้อาจจะเป็นผัวลูก”
แม่น้อยเข้าไปตีอบเชย
“พูดได้ไม่อายปาก แม่ขอสั่งห้ามให้หยุดชิงรักหักสวาท...พรากผัวเขาจะตกนรกปีนต้นงิ้ว”
“ปีนต้นงิ้วคงไม่ยากเท่าปีนสอยมะม่วง ถ้าทำชั่วแล้วได้ผัว ฉันก็ยอม”
อบเชยพูดไม่ยี่หระต่อบาปกรรม เดินลอยหน้าลอยหน้าออกไป แม่น้อยไม่พอใจ
“อบเชย”

แม่น้อยระอากับความคิดของลูกสาว กังวลใจนัก

สัปเหร่อขาวตีระนาดจบเพลงแล้วส่งไม้ระนาดต่อให้ลูกน้อง ลูกน้องตีระนาดต่อ สัปเหร่อขาวลุกขึ้น เฟื้องเดินเข้ามาดักทาง

“ญาติก็ไม่ใช่ สนิทชิดเชื้อก็ไม่เชิง ลางทีมันคงจ้างให้เอ็งมาเล่นสิท่า ถึงยอมมา ไอ้พวกเห็นแก่เงิน”
“คนจะบวชทั้งที ต่อให้ชั่วช้ายังไงก็ต้องให้อภัยอโหสิ หวังใจผ้าเหลืองจะชุบคนให้เป็นคนดีได้ ข้าและพวกมาช่วยงานด้วยใจอนุโมทนาสาธุ” สัปเหร่อขาวยกมือไหว้เหนือหัว
“มาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน” เฟื้องถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“สิเออ...ข้าไม่เอาค่าแรงแม้สตางค์เดียว”
สัปเหร่อขาวพูดด้วยความภาคภูมิใจ จันเดินเข้ามา ยื่นถุงเงินให้สัปเหร่อขาว
“มันให้เงินมาแล้วพี่ ลองนับดูว่าครบตามที่ขอไหม”
สัปเหร่อขาวเสียหน้า เฟื้องหัวเราะเย้ย
“ฮะเฮ้ย นั่นประไร น้ำหน้าอย่างเอ็งรึจะคิดดีมีใจช่วย เทียวปลุกผีหากินกับผี คนพรรค์นี้มีแต่โลภ”
สัปเหร่อขาวย้อน
“เอ็งมันดีนักเทียว มายืนหัวหงอกพุงปลิ้นให้หนักตา เอ็งมันก็นุ่งขาวห่มขาวหากินกับผ้าเหลืองล่ะวะ”
“เอ็งหยุดดูแคลนข้า ข้าเป็นมัคทายกถือศีลกิน...” เฟื้องจะพูดกินผักก็ไม่กล้าพูด “หมู...ข้ามาช่วยสอนพ่อโชติเตรียมท่องบทสวดให้คล่อง กิจกุศลมงคลมันเป็นงานของข้า”
“งานนี้ก็กิจข้า อาจมีคนตายให้ข้าทำศพ”
จันตบปากสัปเหร่อขาวทันที
“โอ๊ย นังจัน”
“งานบุญยังปากพล่อย เขาจะบวชมันเป็นมงคล หลังสึกก็มีงานมงคลใหญ่”
สัปเหร่อขาวกับเฟื้องสงสัย
“มงคลอะไรวะ”
“งานเบียด”
จันมองไปที่มุมหนึ่งที่เรือน สัปเหร่อขาวและเฟื้องหันไปมองตามสายตาของจัน

แม่บุญอิ่มพาพุดจีบเข้าไปหาช่วง พุดจีบยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
“ไหว้พระเถอะลูก ฉันขอบใจแม่บุญอิ่ม หนูพุดจีบที่จัดหาของคาวหวานมาให้”
“ไม่ต้องขอบอกขอบใจดอก อีกหน่อยเราก็ดองเป็นเครือญาติ ลูกพุดจีบเองก็เต็มใจมาช่วยงานบุญพ่อโชติ”
พุดจีบยิ้มรับแล้วยิ้มให้โชติที่มองเธอด้วยความสุขใจ ช่วงหันไปบอกโชติ
“มัวยืนยิ้มอยู่นั่นล่ะ เอ็งพาน้องไปช่วยกันจ่ายแจกขนมเลี้ยงแขก”
“จ้ะพ่อ” โชติเข้าไปหาพุดจีบ “ไปช่วยพี่เถอะจ้ะ”
แม่บุญอิ่มเห็นดีเห็นงามพยักเพยิดให้พุดจีบไปกับโชติ พุดจีบยิ้มรับแล้วเดินออกไป ช่วงมองตาม
“เห็นท่าฉันต้องรีบหาฤกษ์ไว้รอเสียแล้วกระมัง”
ช่วงหัวเราะชอบใจ แม่บุญอิ่มยิ้มรับพอใจที่จะให้พุดจีบแต่งงานกับโชติ

กาหลงเดินเข้ามาในงานหยุดมองที่มุมหนึ่ง เธอคิดตัดสินใจจะตามหาพุดจีบจึงเดินเข้าไปในบริเวณเรือนช่วง อีกด้านหนึ่งแม่กลอยลากชบามา
“แม่ปล่อยฉัน ฉันจะกลับ” ชบาสะบัดมือออก
“เอาสิวะ เอ็งย่างออกไปไม่ต้องเรียกข้าว่าแม่”
ชบาอึดอัดจะไปก็ไม่ได้ หันมาต่อว่าแม่
“จะให้ฉันฆ่าตัวตายรึไง แม่ถึงจะเลิกบังคับฉัน”
“เอ็งเลิกโวยวายให้กระเทือนเสียที ข้าไม่ได้จับเอ็งมายกให้พ่อโชติ”
“แล้วแม่พาฉันมาทำไม”
“เอ็งยังไม่สำนึก กว่าเอ็งจะโตมายืนเถียงข้าฉอดๆได้ มีพ่อผู้ใหญ่ช่วงกับแม่น้อยนี่แหละ คอยเกื้อหนุนจุนเจือ ข้าพาเอ็งมาช่วยงานทดแทนแรนคุณเขา รึอยากเป็นคนเนรคุณก็ไสหัวกลับเรือนไป”
ชบาคิดถึงเรื่องนั้นก็สงบลง แม่กลอยเดินนำไป ชบาตะโกนตาม
“แม่รอฉันด้วย”

แม่กลอยหยุดรอ แอบยิ้มพอใจที่ชบายอมเข้าไปที่เรือน ชบาตามเข้ามา แม่กลอยเดินนำไปทีเรือนช่วง มุมหนึ่งเพชรยืนมอง เห็นชบาเดินเข้าไปที่เรือนโชติก็แปลกใจสงสัย

เผื่อนและงามลากมือไม้จะให้ตรงไปยังห้องของอบเชย
 
“มานี่จ้ะพี่ไม้จ๋า”
ไม้สะบัดมือออก
“น้าน้อยอยู่ไหน”
เผื่อนและงามอ้ำอึ้งไม่ตอบ
“เอ็งหลอกข้าอีกแล้วใช่ไหม พวกเอ็งคิดแผนร้าย”
งามยิ้มหวาน
“พี่ไม้อย่าคิดในทางไม่ดีไม่งามสิจ๊ะ หน้าฉันมันร้ายนักหรือไง”
ไม้สวนทันที
“ใช่”
งามสะดุ้ง รีบเอามือจับหน้าตาตัวเอง ไม้ไม่พอใจ
“ข้ายอมมาเหยียบเรือน เพราะเอ็งบอกว่าน้าน้อยมีเรื่องจะคุยกับข้า”
อบเชยเดินเข้ามา
“อย่าถือโทษโกรธพวกมันเลย มันทำตามคำขอฉันเองจ้ะ”
ไม้มองอบเชยไม่พอใจ หันไปต่อว่าเผื่อนกับงาม
“ข้าไม่น่าหลงกลพวกเอ็งเลย พวกเอ็งหลอกข้ามาหาคนใจหยาบ”
“พี่ไม้ให้อภัยคนหลงผิดกลับใจได้ไหมจ้ะ”
อบเชยมองด้วยสายตาเศร้าเสียใจ ออดอ้อน ไม้มองอบเชยไม่ไว้ใจนัก

โชติและพุดจีบช่วยแจกขนมให้แขกในงาน โชติหาโอกาสจับมือ พุดจีบเอามือออกห่าง แม่บุญอิ่มนั่งอยู่มุมหนึ่งกับช่วง มองทั้งสองด้วยความพอใจ แม่กลอยเดินเข้ามาพูดเย้ยพุดจีบประชดแม่บุญอิ่ม
“ตายละวา ฉันมาผิดงาน อนุโมทนาบุญมางานเลี้ยงส่งบวชเห็นท่าจะเป็นงานเบียดเสียแล้ว”
แม่บุญอิ่มไม่พอใจนักที่แม่กลอยพูดประชด แม่กลอยหันไปพูดกับชบา
“ชบา เอ็งเป็นสาวเป็นนางแล้ว จะทำการใดให้ระวังกิริยาให้งาม อย่าเทียววิ่งเร่แห่กระเชิงเข้าหาผู้ชายถึงเรือน เขาจะเห็นเป็นของไร้ค่า”
พุดจีบรู้สึกไม่ดีที่ถูกตำหนิ ส่วนแม่บุญอิ่มไม่พอใจที่แม่กลอยประชดลูกสาว แม่กลอยทำเป็นสอนชบาต่อ
“เอ็งไม่ต้องห่วงนะลูก แม่ไม่จับเอ็งใส่พานถวายให้ชายถึงหัวบันไดเรือนหรอก มันน่าบัดสี”
แม่กลอยพูดดีกับชบาเพื่อแดกดัน แม่บุญอิ่มสุดทนลุกขึ้นยืน แม่กลอยระวังตัวเล็กน้อย ดูท่าทีว่าแม่บุญอิ่มจะทำอย่างไร แม่บุญอิ่มบอกพุดจีบ
“พุดจีบ ลูกไปช่วยงานแม่ทางด้านโน้น”
แม่บุญอิ่มกับพุดจีบจะออกไป แม่กลอยพูดลอยดักทางไว้
“แม่เจ้าเว้ย...เอาการเอางาน เป็นตัวตั้งตัวตียังกะเป็นเจ้างาน”
แม่บุญอิ่มหันมาพูด
“พ่อช่วง เรื่องฤกษ์แต่งที่พ่ออาสาจัดหาให้พุดจีบกับพ่อโชติ พ่อช่วงไม่ต้องหาแล้ว”
ช่วงแปลกใจ คิดว่าแม่บุญอิ่มจะยกเลิกงานแต่ง แม่กลอยได้ฟังก็ยิ้มพอใจ
“ฉันจะเป็นธุระจัดหาเสียเอง”
แม่กลอยได้ยินอย่างนั้นก็ไม่พอใจ ช่วงและโชติยิ้มพอใจ
“ตามใจแม่บุญอิ่มเถอะจ้ะ”
แม่บุญอิ่มหันไปบอกโชติ
“พ่อโชติสึกมา ฉันอยากให้พ่อโชติร่วมหอกับพุดจีบ โดยไวไม่ต้องตกเป็นขี้ปากพวกอิจฉาตาร้อน”
แม่กลอยโกรธ
“เอ็งด่าข้างั้นรึ”
“กินปูนร้อนท้องก็รับไปเสีย”
พุดจีบเข้าไปมารั้งมือแม่เดินออกไป ไม่อยากให้ทั้งสองทะเลาะกัน แม่กลอยตะโกนไล่หลัง
“เอ็งด่าใคร กลับมาคุยให้รู้เรื่อง อย่าดีแต่ปากมาตบให้รู้ดีรู้ชั่ว”
ชบาอายมาก ปรามแม่
“แม่พอเถอะ”
“เอ็งไม่ได้ยินรึไง มันหลอกด่าข้า ข้าจะตบมัน”
แม่น้อยเห็นแม่กลอยโวยวายเสียงดังเข้ามาห้ามปราม
“แม่กลอยเอาแต่พอการเถอะ...ฉันขอ”
แม่กลอยเห็นแก่แม่น้อย และไม่อยากแสดงกิริยาไม่ดีต่อหน้าช่วงและโชติจึงยอมหยุด

จอกร้องรำอย่างสนุกสนาน กาหลงเดินเข้ามาเข้าไปถามโขงที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง
“โขง...เอ็งเห็นพุดจีบไหม”
“คงช่วยงานอยู่ทางโน้นจ้ะ แล้วพี่ไม้มาด้วยหรือไม่”
โขงถามไม่ทันจบประโยค กาหลงเดินออกไป จอกหันกลับมาทางโขงมองเห็นด้านหลังกาหลงที่กำลังเดินออกไปก็ยืนมองนิ่งคุ้นเคยจะเดินตรงไปทางกาหลงโขงดึงตัวไว้
“เอ็งจะไปไหน อยู่ร้องรำทำเพลงกันก่อน”

จอกหันไปมองด้านหลังกาหลงที่เดินไป เขาหันกลับไปร้องรำทำเพลงสนุกสนานต่อ
 
อ่านต่อหน้า 3

เรือนกาหลง ตอนที่ 7 (ต่อ)

แม่กลอยยังหงุดหงิดเรื่องแม่บุญอิ่ม

“ฉันรู้ดีว่าแม่กลอยผิดใจกับแม่บุญอิ่ม ไหนๆมาช่วยงานบุญแล้ว ก็ขอให้เลิกแล้วต่อกันเถอะ” แม่น้อยขอร้อง
“ฉันเดาไม่ผิดเทียวว่าแม่บุญอิ่มมานี่...ฉันไม่อยากมาเจอให้เหม็นน้ำหน้าหรอก แต่นังชบาสิ บ่นอยากมาช่วยงานพ่อโชติ”
ชบาอึ้งตกใจที่แม่กลับสร้างเรื่องโกหก แม่กลอยเข้าไปจับตัวชบาดันเข้ามาด้านหน้า ชบาอึ้งที่แม่สร้างเรื่องประเคนเธอ
“แม่” ชบาแข็งขืนเล็กน้อย
แม่กลอยแอบหยิกชบา แล้วพาตัวมายืนด้านหน้า
“ชบามันรู้ใจว่าพ่อโชติตระเตรียมงาน คงเหนื่อยล้า เร่งให้ฉันนำพามาช่วยงานพ่อโชติ”
โชติและช่วงรู้ดีว่าแม่กลอยคิดอะไร แม่น้อยยิ้ม
“มาช่วยกันหลายแรงก็ดี ชบาเองฉันก็รักเหมือนลูก”
แม่กลอยยิ้มพอใจ คิดว่าแม่น้อยจะชอบชบา
“พ่อโชติก็รักและเอ็นดูชบาเหมือนน้อง”
แม่กลอยผิดหวังแต่เก็บอาการไว้
“แม่น้อยรักและเอ็นดูชบาฉันก็ชื่นใจ...ชบาเอ็งไปสิ” แม่กลอยดันตัวชบา
ชบาแปลกใจจะให้ไปไหน แม่กลอยหยิบถาดใส่หมากพลูยกใส่มือโชติแล้วบอกชบา
“ไปช่วยพี่โชติแจกหมากพลูให้พี่ป้า น้า อา”
ชบาอึกอัก แม่กลอยจึงดันตัวไปหาโชติ ช่วงมองอยู่รีบขัดหันไปบอกโชติ
“เอ็งไปดูแลพุดจีบ ตกลงปลงใจจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว ก็ต้องอยู่เคียงกัน”
แม่กลอยสะดุ้งไม่พอใจที่ช่วงขัดขวาง
“จ้ะพ่อ” โชติเดินออกไป
ช่วงพูดปิดทางไว้ แม่กลอยยิ่งเสียหน้า แม่น้อยรีบแก้ให้แม่กลอย
“ชบา ลูกมาช่วยน้าจัดหมากจัดพลูแล้วกัน”
“จ้ะ”
ชบาเข้าไปช่วยจัดหมากพลูกับแม่น้อย แม่กลอยผิดหวัง ช่วงเดินมามองหน้าแม่กลอย
“โบราณว่าไว้ไม่มีผิด คนจะขึ้นสวรรค์ มันจะมีมารผจญ”
ช่วงพูดเย้ยแม่กลอยแล้วเดินหัวเราะออกไป แม่กลอยมองตามเจ็บใจ ไม่ยอมแพ้

มุมหนึ่งของเรือนช่วง พุดจีบบอกแม่
“แม่จ๊ะ...เรากลับเรือนเถอะ ฉันไม่อยากให้แม่เคืองใจกับน้ากลอยอีก”
“ลูกคลายใจเถอะ แม่ไม่เก็บมาหนักใจ แม่ถือว่าความเป็นเพื่อนหมดกัน ตั้งแต่เหตุบนเรือนครานั้น”
พุดจีบกังวลใจที่แม่บุญอิ่ม ยังโกรธแม่กลอย
“ลูกไม่อยากให้แม่...”
แม่บุญอิ่มเปลี่ยนเรื่อง
“แม่จะเข้าไปดูความเรียบร้อยในครัว วานลูกไปช่วยจัดเตรียมต้นกัลปพฤกษ์ให้ที”
“จ้ะ”
แม่บุญอิ่มเดินออกไป พุดจีบตั้งใจจะเดินไปทำต้นกัลปพฤกษ์เจอกับกาหลงที่เดินเข้ามา พุดจีบยิ้มดีใจ
“กาหลง”
กาหลงก็ดีใจที่ได้เจอพุดจีบ

ไม้ยืนมอง อบเชยเดินตรงเข้ามาแล้วนั่งลง ไม้แปลกใจ
“เอ็งจะทำอะไร”
อบเชยก้มลงกราบ สีหน้าสำนึกผิดแล้วเงยหน้าขึ้น
“ฉันสำนึกแล้วที่ฉันกุเรื่องให้พี่ผิดใจกับกาหลง ฉันยอมรับว่าฉันรักพี่มาก อยากได้พี่มาเป็นผัว”
เผื่อนและงามมองหน้ากันอึ้งๆในความแรงของอบเชย
“แต่ฉันรู้ซึ้งแล้วว่า ยิ่งฉันดึงฉันรั้ง พี่ยิ่งถอยห่างและเกลียดชังฉัน และสิ่งที่ฉันทำมันผิดบาปต้องตกนรกหมกไหม้ ฉันละอายแก่ใจ”
อบเชยพูดแล้วสะอื้นร้องไห้
“พอเถอะ...เอ็งสำนึกข้าก็คลายใจ ต่อไปอย่าทำอีก ข้ากลับล่ะ”
ไม้จะเดินออกไป อบเชยรั้งไว้
“หากพี่ให้อภัยฉันจริง ขอให้พี่ยอมรับไมตรีจากฉัน”

ไม้หันกลับ แปลกใจว่าอบเชยจะทำอย่างไร

ชบาถือถาดหมากพลูให้ชาวบ้าน เจอหน้าเพชรที่กำลังมองหน้าเธอตะลึงในความสวย ชบาอึ้งที่เขาเพ่งมอง
 
“งามนัก...ราวนางฟ้านางสวรรค์มาจุติ”
ชบาต่อว่าเพชร
“มาได้ไง ญาติโกโหติกาก็ไม่ใช่”
“งานบุญกุศลใครจะห้ามได้ ฉันมาก็หวังได้เจอ...”
เพชรจะบอกว่าเจอหน้าชบาแต่เธอเดินเลี่ยงไป
“จะเร่งไปไหน”
ชบาไม่ตอบ จะเดินออกไป เพชรเข้ามาจับแขนไว้
“เอ็งคงอยากเป็นสะใภ้เศรษฐีสิเออ ถึงได้มาช่วยงานแต่งตัวประแป้งแฉล้มเทียว จัดหมากจีบพลูให้ดูงาม หวังให้เขาเห็นใจรับรัก”
ชบายิ่งโกรธ เอาหมากพลูยัดใส่ปากเพชร แล้วเดินหนีออกไป เพชรจะเรียกไว้ หมากพลูเต็มปาก
“ประเดี๋ยวสิ” เขาพ่นหมากพลูออก “ไปกินรังแตนที่ไหนมา”
เพชรแปลกใจที่ชบาอารมณ์เสีย

พุดจีบจัดเตรียมะนาวและมะเขือ เพื่อทำต้นกัลปพฤกษ์
“กาหลงมาฉันก็ดีใจ จะได้มาช่วยกันทำต้นกัลปพฤกษ์”
พุดจีบหยิบมะนาวในถาดแล้วเอามีดกรีด เอาเงินยัดเข้าไปในลูกมะนาว กาหลงมองต้นกัลปพฤกษ์
“ก่อนพี่โชติเข้าโบสถ์ไปบวชพระ พี่โชติจะได้โยนผลกัลปพฤกษ์เป็นทานให้ชาวบ้าน ต้นกัลปพฤกษ์นี้คอยเตือนใจให้เราละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง”
กาหลงคิดตามคำพูดของพุดจีบ
“ละทิ้งกิเลสทั้งปวง และที่สำคัญ...ไม่ให้เรายึดติดกับสิ่งใดปล่อยทิ้ง ปล่อยวาง”
กาหลงหวนคิดถึงเรื่องตัวเองตอนถูกจับถ่วงน้ำและตายอยู่ใต้น้ำ
“การบวชถือว่าเราได้ตายจาก แล้วไปเกิดใหม่ในเส้นทางธรรม”
กาหลงเผลอคิดเรื่องของตัวเอง ตอนอยู่ริมน้ำ รู้ตัวว่าตายแล้ว พุดจีบเห็นกาหลงนั่งเหม่อก็เรียก
“กาหลง”
กาหลงสะดุ้ง
“จ้ะ”
“กาหลงคิดอะไรอยู่”
“ฉันคิดว่าจะเริ่มต้นบอกพุดจีบยังไงดี”
พุดจีบแปลกใจว่ากาหลงมีเรื่องอะไร

ไม้เดินตรงเข้ามา...เผื่อนและงามยกสำรับอาหารวางไว้ อบเชยถือขันน้ำไว้ในมือ
“ฉันปรุงด้วยรสมือของฉันเอง หากพี่ให้อภัยฉัน ก็กินให้หมดนะจ๊ะ”
“พี่ไม่กิน”
อบเชยแสร้งจะร้องไห้
“พี่ยังโกรธเคืองฉัน”
“พี่อิ่มแปร้แล้ว เชื่อใจเถอะ...พี่ไม่ติดข้องหมองใจเอ็ง”
ไม้จะเดินออกไป อบเชยถือขันน้ำเข้ามายื่นให้
“งั้นดื่มน้ำลอยมะลิของฉัน ให้เย็นใจแล้วค่อยกลับเรือนนะจ้ะ”
อบเชยส่งขันน้ำให้ ไม้รับขันน้ำมา เผื่อนและงามยิ้มพอใจที่ไม้จะดื่มน้ำซึ่งใส่น้ำมันพราย อบเชยยืนมองด้วยความพอใจ ลุ้นให้เขายกดื่ม

กาหลงมอง พุดจีบสงสัยอยากรู้
“กาหลงกับฉันก็รักกันหาใช่คนอื่น มีอะไรบอกมาเถอะ”
“ฉันจะแจ้งเรื่องของพี่โชติ...ฉันอยากให้พุดจีบ...”
ชบาเดินตรงเข้ามา กาหลงแปลกใจ
“ชบา...”
“พูดต่อสิพี่กาหลง ฉันอยากรู้ว่าพี่จะพูดอะไร”
กาหลงไม่อยากคุยต่อหน้าชบาบอกพุดจีบ
“เอาไว้คราหน้าเราค่อยคุยกัน ฉันขอตัวกลับเรือน”
กาหลงจะลุกออกไป ชบาเข้ามารั้งมือไว้
“พูดเสียตรงนี้ ต่อหน้าฉัน ฉันอยากรู้ว่าพี่รักหรือเกลียดฉัน”
ชบารุกไล่ กาหลงอึดอัดใจ พุดจีบแปลกใจ
“กาหลง...เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชบาด้วยรึ”
ชบาชิงตอบแทน
“มันเป็นเรื่องของฉันกับพี่โดยตรง”
“พูดมาเสียเถอะ...มันคงเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญหนักที่ฉันต้องรู้เสียตอนนี้”

พุดจีบรุกไล่ กาหลงอึดอัดใจ

ไม้ถือขันน้ำไว้ในมือ อบเชยคะยั้นคะยอ

“ดื่มสิจ๊ะ”
ไม้ถือขันน้ำไว้แล้วยกขึ้น จะดื่ม อบเชยยิ้มพอใจ แต่แล้วจอกเข้ามาแย่งขันน้ำ
“กิน กิน กิน”
ไม้ตกใจ
“ไอ้จอก”
“เอ็งกินไม่ได้”
อบเชยเข้าไปแย่งขันน้ำผลักจอกอย่างแรง โขงเข้ามาต่อว่า
“เอ็งมันใจแคบใจดำ คนสติไม่ดีก็ยังงก”
โขงแย่งขันน้ำจากอบเชยไปจะป้อนให้ จอกอ้าปากรอ งามเข้าไปแย่งขันน้ำคืนมาได้
“เอามานี่”
“อะไรกัน น้ำขันเดียวหวงนักหวงหนา” ไม้ชักสงสัย
“ก็มันใส่...”
งามจะเผลอพูด เผื่อนปิดปากงามไว้ทันที
“ใส่อะไร” ไม้คาดคั้น
อบเชยรีบแก้
“ฉันโรยดอกมะลิตั้งใจให้พี่ไม้คนเดียว” อบเชยหันไปบอกจอก “เอ็งรอประเดี๋ยว นังเผื่อนนังงาม ไปเอาน้ำมาให้จอกมันกินซะ”
เผื่อนกับงามยืนอึ้ง
“พวกเอ็งเร่งสิ”
“จ้ะ”
เผื่อนและงามรีบวิ่งไปทันที อบเชยถือขันน้ำแล้วเดินตรงไปยื่นให้ไม้
“พี่ไม้ดื่มเสียก่อนจ้ะ”

กาหลงมองชบาและพุดจีบ พูดไม่ออกที่ทั้งสองอยู่กันตรงนี้
“พี่กาหลงพูดมาสิ ต่อหน้าฉันกับพี่พุดจีบ พี่จะว่ายังไง” ชบาเร่งเร้า
พุดจีบมอง กาหลงตัดสินใจพูดออกไป
“พุดจีบ...”
ชบารอฟังลุ้นให้กาหลงบอกให้พุดจีบแต่งงานกับโชติ
“แปรใจจากพี่โชติเถอะ”
พุดจีบแปลกใจในคำพูดของกาหลง ชบาโกรธที่กาหลงพูดอย่างนั้นเท่ากับกาหลงต้องการให้เธอแต่งงานกับโชติ
“พี่กาหลง...พี่ไม่รักฉัน”
กาหลงหน้าเสีย
“ชบาฟังพี่ก่อน...พี่ไม่มีเจตนา”
“ฉันไม่ฟัง...พี่ไม่ใช่พี่สาวฉันอีกต่อไป”
พุดจีบสงสัย
“กาหลงนี่มันเรื่องอะไรกัน”
“พุดจีบ...สัญญากับฉันสิ ว่าจะยกเลิกแต่งงานกับมัน”
“ฉันไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น จนกว่ากาหลงจะบอกฉัน มันเรื่องอะไรกันถึงให้ฉันถอยจากพี่โชติ”
“จะมีอะไรอีกล่ะ พี่กาหลงอยากให้ฉันเป็นเมียพี่โชติ” ชบาโพล่งออกมา
พุดจีบหันไปมองกาหลงด้วยความแปลกใจ กาหลงหน้าตื่น
“ชบาเข้าใจพี่ผิด”
ชบาผิดหวังในตัวพี่สาว
“พี่เกลียดฉัน พี่ต้องการแก้แค้นที่ฉันเคยยุให้แม่จับพี่แต่งกับพี่โชติ พอพี่รู้ว่าแม่จะยกฉันให้พี่โชติ พี่ก็สาแก่ใจที่ฉันต้องอยู่กินกับคนพรรค์นั้น พี่ไม่เคยรักฉัน ฉันเกลียดพี่”
ชบาตะโกนด่า กาหลงอดใจไม่ไหว ตบหน้าชบา
“เอ็งเลิกพล่ามได้แล้ว พี่ทำไปเพราะหวังดีกับเอ็ง”
ชบาเสียใจและโกรธกาหลง
“เราไม่ใช่พี่น้องกันอีกต่อไป”
ชบาวิ่งหนีออกไป กาหลงเสียใจที่ชบาเข้าใจผิด เธอร้องไห้เสียใจ
“กาหลงมีเรื่องไรปิดบังฉัน”
“ฉันไม่เคยคิดให้ชบาร่วมหอกับพี่โชติ ฉันไม่หมายให้พุดจีบหรือใครทั้งนั้นตกเป็นเมียมัน”
พุดจีบสงสัย
“กาหลงบอกฉันสิ พี่โชติทำอะไรไม่ดี”

พุดจีบคาดคั้น กาหลงคิดตัดสินใจ

โชติมองหาพุดจีบเข้าไปถามสิง
 
“ไอ้สิง เอ็งเห็นพุดจีบไหม”
“ฉันผ่านมาทางโน้น เห็นพุดจีบนั่งคุยอยู่กับกาหลง”
โชติแปลกใจที่กาหลงมา
“กาหลง”
โชติไม่ไว้ใจกลัวกาหลงบอกความลับพุดจีบจะเดินไปแต่แล้วแม่กลอยเข้ามาบอกโชติ
“พ่อโชติรับลูกสาวฉันไว้ดูแลเถอะ”
โชติยิ้มหัวเราะ
“น้ายังมีสติดีอยู่หรือ หัวคุ้งท้ายคุ้งเขารู้ออกแซ่ว่าฉันจะร่วมหอกับพุดจีบ”
“น้ารู้ว่าพุดจีบคู่ควรด้วยฐานะ แต่ชบามันก็หาน้อยหน้า มันเป็นลูกกตัญญูรู้คุณคน มันจะดูแลพ่อโชติทั้งชีวิต”
“ฉันอยากได้เมีย ไม่ได้อยากได้บ่าว”
แม่กลอยผิดหวัง โชติจะเดินออกไป แม่กลอยรั้งไว้
“น้ายินดีให้ชบาเป็นสอง รองจากแม่พุดจีบ”
เพชรยืนที่มุมหนึ่ง ได้ยินเรื่องแม่กลอยยกชบาให้เป็นเมียน้อยโชติก็อึ้งไป โชติหันมายิ้มตอบ
“ฉันสึกออกมาแล้วค่อยว่ากัน”
แม่กลอยยิ้มพอใจมีความหวังขึ้นมา มั่นและขาบเข้ามา มั่นกระซิบบอกโชติ
“ไอ้ไม้มันมาที่เรือน”
“พวกเอ็งไปเตรียมของ”
มั่นและขาบพยักหน้ายิ้มออกไป โชติบอกแม่กลอย
“ฉันขอตัวก่อนจ้ะ...แม่ยาย”
โชติ เดินออกไปกับสิง แม่กลอยยิ้มพอใจที่โชติตกลงใจจะรับชบาเป็นเมียน้อย
“แม้นเป็นสองก็ใช่เบี้ยรองบ่อน”
แม่กลอยยิ้มพอใจ เดินไปที่ในงาน ร่วมล้อมวงกับพวกชาวบ้านอย่างมีความสุข เพชรได้ยินก็รู้สึกเสียใจ ชาวบ้านถือไหเหล้าเดินผ่านมาเพชรคว้าไหเหล้า
“ไหนี้ขอข้า”
ชาวบ้านจำต้องยกให้ เพชรยกเหล้าขึ้นดื่มหมดไหด้วยความเจ็บปวดใจเมื่อรู้ว่าแม่กลอยยกชบาให้โชติ

ไม้จะยกขันน้ำขึ้นจะดื่ม สัปเหร่อขาวเข้ามาแย่งขันน้ำ
“อย่าเพิ่ง ให้พ่อกินก่อน คอจะแห้งตายอยู่แล้วเจ้าภาพไม่สนใจ”
สัปเหร่อขาวยกขันน้ำจะดื่ม อบเชยรีบห้าม
“อย่า”
สัปเหร่อขาวยกดื่มจะหมดขัน เฟื้องเข้ามาโวยแย่งขันน้ำ
“เอ็งมันเห็นแก่ตัว เหลือให้ข้ากินบ้างสิวะ” เฟื่องแย่งขันน้ำมา
อบเชยหน้าตื่น
“อย่านะ”
เฟื้องไม่ฟังเสียงซดหมดขัน เผื่อนและงามถือขันน้ำจะเอามาให้จอกกินเห็นภาพเฟื้องยกน้ำในขันกินก็ตกใจทิ้งขันน้ำตกพื้น
“ตายล่ะเหวย”
อบเชยหน้าเสียใจเสีย ไม้หันมาบอกอบเชย
“พ่อกินก็ถือว่าฉันกิน เรื่องบาดหมางจบกัน ฉันกลับล่ะ”
ไม้บอกอบเชยแล้วเดินออกไป โขงและจอกเดินตามไปสวนทางกับจันที่เข้ามาเห็นสัปเหร่อขาวอยู่ที่นี่ก็โวยวาย
“ทิ้งวงมาอู้อยู่นี่เอง ไป...ลงไปเล่นดนตรีให้สมค่าจ้างเขา”
สัปเหร่อขาวไม่ไปยืนมองอบเชย
“เอ้า...ไอ้นี่...แข็งทื่อเป็นสากกะเบือ...ไป”
จันดึงตัวแต่สัปเหร่อขาวปัดมือออก
“เอ้า...ไอ้แก่แข็งขืนข้ารึ”
จันจะหันไปเห็นเฟื้องยืนมองอบเชยตาเยิ้มเข้าใจผิดว่าจะจีบเผื่อนกับงาม
“พวกเอ็งเป็นอะไรจ้องตาเป็นมัน จะกินนังเผื่อน นังงามมันรึไง”
สัปเหร่อขาวและเฟื้องส่ายหัวเหมือนกัน จันแปลกใจ มองตามสายตาทั้งสองที่มองตรงไปที่อบเชย
“นังเผื่อนนังงาม ช่วยข้าด้วย” อบเชยตื่นกลัวพูดเสียงสั่น
สัปเหร่อขาวและเฟื้องเดินตรงเข้ามาหาอบเชย
“น้องอบเชย”
อบเชยตกใจวิ่งหนีออกไป เผื่อนและงามกันท่าไว้
“พวกเอ็งออกไป”

สัปเหร่อขาวและเฟื้องจะดันตัวเผื่อนและงาม วิ่งตามอบเชยไป จันยืนอึ้งงง
 
อ่านต่อหน้า 4

เรือนกาหลง ตอนที่ 7 (ต่อ)

อบเชยรีบเปิดประตูหนีเข้าไปในห้อง สัปเหร่อขาวและเฟื้องผลักเผื่อนและงาม วิ่งเข้าไปเคาะประตู

“น้องอบเชย” สัปเหร่อขาวเรียก
เฟื้องเคาะแล้วเรียกเสียงหวาน
“อบเชยจ๋า”
จันวิ่งเข้ามาดู แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอ้เฒ่าตัณหากลับ พวกเอ็งเป็นอะไร” จันเริ่มคิดได้ “ยังกะโดนเสน่ห์ยาแฝด”
งามหลุดปากบอก
“ก็ใช่นะสิ”
เผื่อนหันไปมองดุ จันแปลกใจ หันไปมองสัปเหร่อขาวและเฟื้องที่ทุบประตูห้อง
“น้องอบเชยของพี่”
อบเชยอยู่ในห้อง กลัวมาก
“นังเผื่อนนังงามทำอะไรสักอย่างสิ ลากไอ้แก่บ้าออกไป”
เผื่อนหันไปถามจัน
“ป้าจันทำไงถึงจะแก้มนต์ได้”
“ข้าไม่ใช่หมอผี”
“ป้าเป็นเมียสัปเหร่อนี่” งามแย้ง
“ข้ามันนางเอกยี่เก”
เผื่อนหน้าเครียด
“อย่ามัวเถียงกัน เร่งหาทางช่วยนายฉัน”
จันคิดวิธีที่จะช่วยทำให้ขาวและเฟื้องหายจากคลั่งอบเชย
“ข้ารู้ล่ะ”
เผื่อนและงามแปลกใจว่าจันจะทำอย่างไร

ชบาจะเดินหนีออกไปจากงาน เพชรเข้ามาขวางพร้อมไหเหล้าในมือท่าทางเมาๆ
“ว่าที่เจ้าสาวจะเร่งไปไหน”
“เอ็งหลบไป”
“หญิงไม่รักศักดิ์ศรี...เอ็งอยากเป็นเมียสองเมียสามรองเขารึไง”
ชบาแปลกใจ
“เอ็งพูดอะไร”
“ทำเป็นไขสือไม่รู้ความ ข้าได้ยินแม่เอ็งยกเอ็งประเคนให้เขา แม้นเป็นสองรองหนึ่งก็ยอม”
ชบารู้ความจริงก็ยิ่งเสียใจ ตบหน้าเพชร
“เอ็งตบหน้าข้าทำไม”
“ตบที่เอ็งมาเย้ยข้า เอ็งมันก็น่าสมเพช...กินเหล้าเมามายเพราะเสียใจที่พี่พุดจีบจะแต่งกับพี่โชติ แล้วก็มาพาลถากถางข้า”
ชบาหยิบไหเหล้ามารดรดตัวเพชรแล้วเดินหนีออกไป เพชรสะบัดน้ำเหล้าออกจากหัวแล้วหันไปคุยกับชบาโดยที่หันไปผิดด้านเพราะเมาเหล้า
“ฟังนะชบา...ที่ข้าเป็นอย่างนี้ เพราะเอ็ง เอ็งคงขันข้า ข้ารักเอ็งตั้งแต่แรกพบ ข้าเสียใจที่รู้ว่าเอ็งต้องไปเป็นเมียเขาต่างหาก เอ็งเข้าใจหัวอกข้าไหม”
เพชรพูดเพ้อเจ้อ ตะโกนบอกแล้วเพ่งมองไม่เจอชบาหันไปอีกด้านก็ไม่เจอ
“ไปแล้ว...ปล่อยให้ข้าพร้ำอยู่คนเดียว...ชบา...ชบา”
เพชรมองๆพยายามสลัดความเมาเดินตามหาชบา

กาหลงเดินตรงมาหาพุดจีบจับมือเพื่อนรัก
“พุดจีบ...เชื่อใจฉันเถอ พี่โชติไม่ใช่คนดี”
พุดจีบสงสัยอยากรู้
“พุดจีบจำวันที่เจอฉันที่ริมบึงได้หรือไม่”
พุดจีบคิดตามที่เพื่อนถาม ตอนนั้นเธอออกตามหากาหลงแล้วเจอบริเวณบึงบัว
“ฉันจำได้ กาหลงร้องไห้คร่ำครวญที่ริมบึงบัว กาหลงบอกฉันว่าพลาดท่าตกน้ำ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นใช่ไหม”
กาหลงพยักหน้า
“แล้วเกิดเหตุใด”
“ก่อนที่ฉันจะเจอพุดจีบ พี่โชติ...”
กาหลงจะเล่าเรื่องราวแต่ชะงัก เมื่อเห็นไม้เดินตรงเข้ามา
“กาหลง”
กาหลงและพุดจีบหันไป ผิดหวังที่ไม้เข้ามาขัดเสียก่อน
“กาหลงมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันมาช่วยงานจ้ะ”
“กลับเถอะ...พี่ไม่อยากอยู่เจอหน้าไอ้โชติให้เคืองใจ พี่อยากกลับเรือน”
พุดจีบมองหน้ากาหลง ยังอยากฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น กาหลงหันไปบอก
“ฉันกลับก่อน”

ไม้ยิ้มให้พุดจีบแล้วเข้าไปจูงมือกาหลงเดินออกไป พุดจีบยังคาใจอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

สัปเหร่อขาวและเฟื้อง เคาะประตูห้องอบเชย
 
“น้องอบเชยจ๋า” สัปเหร่อขาวเรียกเสียงอ่อนเสียงหวาน
เฟื้องผลักออก
“เอ็งออกไป น้องอบเชยของข้าเว้ย”
“แก่พุงปลิ้นแล้วไม่เจียม”
“พูดไม่คิด...ไอ้หน้าเหี่ยว”
“ใครหน้าเหี่ยว...อย่างข้าเขาเรียกว่าหน้าหด เอ็งคิดแย่งน้องอบเชย เอ็งตาย”
สัปเหร่อขาวหันกลับมาเล่นงานเฟื้องทั้งสองยื้อยุดจะต่อยกัน จันเดินเข้ามาหน้าตาจริงจัง เผื่อนและงามเดินเข้ามาประกบข้างจัน เผื่อนกระซิบ
“ป้ามั่นใจนะว่าจะได้ผล”
“ของดีมีฤทธิ์เดชนัก มันต้องหายคลั่ง”
จันทำปากมุบมิบบริกรรมคาถา...สัปเหร่อขาวและเฟื้องกำลังยื้อยุดจะชกต่อยกัน จันถือไม้หน้าสามเข้ามาฟาดที่ด้านหลังป๊าบ สัปเหร่อขาวสะดุ้งหันไปมอง
“นังจัน”
ขาดคำสัปเหร่อขาวก็ล้มคะมำลงไป เฟื้องยิ้มดีใจจะผลักประตูห้องอบเชย
“สมน้ำหน้าไอ้เหี่ยว น้องอบเชยเป็นของพี่คนเดียว”
เฟื้องพูดไม่ทันจบ งามใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าหลัง เฟื้องสะดุ้งหันมามองงาม
“นังงาม”
งามมองลุ้นให้เฟื้องล้มลง
“ล้มลงสิ”
เฟื้องพุ่งเข้ามาบีบคองาม
“เอ็งตาย”
เผื่อนใช้ไม้หน้าสามฟาดใส่ เฟื้องหันไปมอง เผื่อนตกใจ จันเข้าฟาดใส่เฟื้องอีกที เฟื้องหันไปมองจันไม่หมดฤทธิ์ งาม เผื่อนและจันเงื้อไม้จะฟาดพร้อมกัน เฟื้องทำตาถลนล้มลงทันที สามคนโล่งใจที่รอดมาได้

ไม้พากาหลงจะเดินออกไปแล้วต้องหยุด เมื่อโชติยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมถือพานขอขมาอยู่ในมือ ไม้และกาหลงแปลกใจจะหลีกไปอีกทาง โชตินั่งลงกับพื้น
“ข้าขอขมาเอ็ง”
ไม้และกาหลงหยุดมอง ชาวบ้านต่างเดินเข้ามาห้อมล้อมดู กาหลงมองไม้อยากรู้ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร
“ไม้...กาหลง ใจข้ามันไม่เป็นสุข ข้าคงอยู่ครองในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ไม่ได้ หากพวกเอ็งยังขุ่นข้องเคืองใจข้า” โชติมองกาหลง “ข้าสำนึกผิดที่เคยคิดร้ายต่อเอ็ง...อภัยให้ข้าด้วยเถอะ”
โชติยกมือขึ้นขอขมา กาหลงคิดตัดสินใจ แม่กลอยยืนมองแล้วตะโกนบอกกาหลง
“นังกาหลง...นึกถึงบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของเขาเสียบ้าง อโหสิกรรมให้พ่อโชติ”
แม่กลอยกดดันกาหลงต้องการเอาใจโชติ...กาหลงตัดสินใจ
“ฉันถือว่าพี่เคยมีบุญคุณต่อแม่ฉัน...ฉันไม่ถือสาเอาความเรื่องร้ายที่มีต่อกัน มันผ่านไปแล้ว ฉันเองก็มีชีวิตใหม่ อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ฉันขออโหสิกรรม”
โชติยิ้มพอใจ
“ข้าขอบใจเอ็งมาก”
แม่กลอยยิ้มพอใจที่กาหลงยอมทำตามสั่ง แม่น้อยและชาวบ้านก็ยิ้มดีใจที่กาหลงยอมอโหสิกรรม พุดจีบยืนยิ้มพอใจ โชติหันไปถามไม้
“ไม้...อโหสิกรรมให้ข้าด้วย”
โชติยื่นพานให้ ไม้ลังเลใจ ไม่พร้อมให้อภัย พุดจีบยืนมองที่มุมหนึ่งอยากรู้ว่าไม้จะตัดสินใจอย่างไร แม่น้อยเดินตรงไปบอกไม้
“ลูกชายน้าจะเข้าบวชในวันพรุ่งแล้ว อย่าให้มีเรื่องติดขัดติดใจเลย โชติจะได้เข้าสู่พระธรรมอย่างสงบใจ...ให้อภัยลูกน้าเถอะ”
แม่น้อยเข้ามาขอร้อง ไม้ตัดสินใจรับพานขอขมานั้น โชติยิ้มพอใจรอฟังคำให้อโหสิกรรม แต่ไม้ไม่พูดคำว่า “อโหสิกรรม” ทุกคนแปลกใจที่ไม้ไม่ยอมพูดอโหสิกรรม...ช่วงบ่นกับแม่น้อยไม่พอใจไม้
“ไอ้ไม้ ลูกข้าทำถึงเพียงนี้เอ็งยังใจจืดใจดำ ไม่พูดอโหสิกรรม มันจะหนักข้อไปเสีย”
“อย่างน้อยก็รับพานขอขมา ถือว่าเลิกแล้วต่อกันจ้ะ”
แม่น้อยไม่อยากให้ช่วงเคืองใจโกรธไม้...ไม้ยืนมองพานขอขมาของโชติ รู้สึกจำใจที่ต้องให้อภัย แม้ในใจยังเคืองโกรธโชติ กาหลงเข้าใจความรู้สึกไม้ดีเข้าไปจับมือให้กำลังใจ

อบเชยอยู่ในห้อง กลัวสัปเหร่อขาวและเฟื้อง
“นังเผื่อนนังงามช่วยข้าด้วย”
เผื่อนตะโกนบอกหน้าประตู
“เปิดประตูสิเจ้าคะ พวกมันไปแล้วเจ้าค่ะ”
อบเชยดีใจ รีบเปิดประตูเผยให้เห็นเผื่อนและงาม อบเชยออกมาคอยมองหาสัปเหร่ขาวและเฟื้องเพราะกลัว
“ป้าจันให้คนหามสองเฒ่ากลับวัดแล้วเจ้าค่ะ” งามบอก
อบเชยโล่งใจ

“แล้วพี่ไม้ของฉันล่ะ”
 

ไม้หันไปบอกกาหลง...
“กลับเรือนเถอะ”
กาหลงยิ้มรับแล้วเดินออกไปกับไม้...โขงจูงมือจอกเดินเข้ามาที่มุมหนึ่งเห็นไม้ก็ตะโกนเรียก
“พี่ไม้ ฉันกลับไปด้วยคน”
โขงเดินตรงเข้ามา แล้วจูงมือจอกเข้ามา กาหลงหันกลับไปมองตามเสียงเจอหน้าจอก...จอกมองหน้ากาหลงจากที่เคยยิ้มแย้มร่าเริงก็นิ่งอึ้งทั้งกาหลงและจอกมองหน้ากัน สายตาจอกเห็นหน้าตากาหลงเปลี่ยนเป็นซีดก็ตะโกนลั่น
“ผี”
ทุกคนตกใจ ไม้เดินตรงไปหาจอก
“จอก เอ็งมองดีๆ กาหลง...กาหลงเมียข้า”
“ผี ผี ผี”
จอกชี้หน้ากาหลง ทุกคนต่างเพ่งมองไปที่กาหลง เธอกลายเป็นอยู่กลางวงที่ถูกห้อมล้อม เธอตัวสั่นกลัวทุกคนรู้ความจริง ไม้จับตัวจอก
“เอ็งตั้งสติให้ดี ใครกันผี”
จอกหันกลับมามอง แล้วมองไปที่กาหลง ชี้หน้า
“ผี”
เพชรเดินเข้ามาที่มุมหนึ่ง แปลกใจมองไปที่กาหลงสังเกตสีหน้ากาหลงตกใจกลัว แม่กลอยไม่พอใจที่จอกชี้หน้ากาหลงว่าเป็นผี
“หุบปากนะไอ้บ้า มาด่าว่าลูกข้าเป็นผี ประเดี๋ยวแม่เพ่นกบาลให้”
จอกชี้แม่กลอย
“ผี”
แม่กลอยไม่พอใจ
“เอ๊ะไอ้นี่”
โชติด่าจอก
“เอ็งหยุดได้แล้ว งานมงคลของข้า”
จอกชี้โชติ
“ผีห่า”
ช่วงไม่พอใจ
“ไอ้จอกเอ็งหยุดพูด ไม่งั้นข้าเล่นงานเอ็งแน่”
จอกชี้ช่วง
“ผีตายโหง”
ช่วงโกรธ
“ไอ้ปากหมา”
ไม้รีบบอกจอก
“จอก...กลับไปได้แล้ว”
จอกหันไปชี้บอกทุกคนที่ยืนบริเวณนั้น
“ผี ผี ผี ผี”
ชาวบ้านเริ่มไม่พอใจ ไม้ไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นหันไปบอกกาหลง
“กาหลงกลับก่อน พี่จะช่วยไอ้โขงพาจอกกลับวัด”
“จ้ะ...ฉันจะแวะไปหาชบาด้วย”
ไม้พยักหน้ารับ แล้วเข้าไปช่วยโขงจับตัวจอกเพื่อพากลับวัด กาหลงมองตามด้วยความสงสารจอกแล้วมองหาชบาไม่เห็นอยู่ที่เรือนช่วงก็เดินออกไป เพชรมองตามกาหลงสงสัยในตัวกาหลง...ช่วงบอกชาวบ้าน
“ไอ้บ้ามันไปแล้ว พวกเอ็งกินให้อิ่มหนำ พรุ่งนี้เช้าไปช่วยกันแห่นาคเข้าโบสถ์”
ชาวบ้านยิ้มพอใจ กินอาหารและดื่มเหล้า วงดนตรีไทยบรรเลงเพลงต่อ พุดจีบมองกาหลงที่เดินออกไปเริ่มสงสัยในตัวเพื่อน

อบเชยส่งถุงเงินให้มั่นและขาบ
“เร่งไปจัดการให้ข้า”

มั่นและขาบยิ้มพอใจ รีบเดินออกไป อบเชยยิ้มพอใจมีแผนการบางอย่าง

กาหลงจะเดินไปเรือนแม่กลอย ปรับความเข้าใจกับชบา ใครคนหนึ่งเดินตาม กาหลงเดินไป รู้ตัวว่ามีคนตามมาเธอแปลกใจหันขวับตะโกนเรียก
“สักประเดี๋ยว นั่นใครตามมา”
ลมพัดบริเวณนั้นวูบใหญ่ เพชรเดินออกจากที่ซ่อน
“ฉันเองจ้ะ...พี่กาหลง”
“เอ็งเป็นใคร”
กาหลงมองเพชรด้วยความแปลกใจ

ชบาเดินบ่นไม่พอใจที่แม่ประเคนให้โชติ
“แม่นะแม่ ขืนบังคับให้ฉันเทิ้มใจอีกมื้อเดียว ฉันจะหนีไปสุดฟ้าเขียวเทียว หรือไม่ก็กลั้นใจตายให้สิ้นเรื่อง”
ชบาเดินบ่นโวยวายกลับไป สิงที่ซุ่มอยู่ออกจากที่ซ่อน มองชบาด้วยความสนใจ

ไม้ช่วยประคองจอกมาที่วัด จอกอยู่ในสภาพนิ่งลง
“ไอ้จอก...ไอ้จอก”
จอกนิ่งสงบเหมือนหลับ โขงหันมาบอก
“ผ็อยหลับไปแล้ว พี่กลับเรือนเถอะ”
“เอ็งเอามันไหวเร้อ” ไม้เป็นห่วง
“ไหว...เห็นท่าจะสิ้นฤทธิ์”
จอกยืนหลับ ไม้ส่งตัวให้โขงประคองต่อ
“เอ็งคอยดูให้มันรับสบายไปก่อนนะ ป่านนี้กาหลงเก้อคอยข้านักหนาแล้ว”
โขงพยักหน้ารับ ไม้เดินกลับไป จอกลืมตาโพลงมองตรงไปยังไม้ที่เดินออกไป
“ผี”
โขงไม่พอใจ ตบหัวจอก
“ยังเล่นไม่เลิกนะเอ็ง...ไป...ไปนอน”
โขงประคองจอกเดินไป ครุ่นคิดและพูดกับตัวเอง
“ผี...ผี...”

กาหลงยิ้มให้ หลังจากพูดคุยรู้ว่าเพชรเป็นใคร
“เอ็งนั่นเองที่ยื่นมือช่วยกาเหว่าน้องฉัน พี่ไม้ก็เคยเกริ่นให้ข้าฟังที่เอ็งไปขวางไอ้ขุนหวาด ฉันขอบน้ำใจเอ็งนะ”
เพชรยิ้มรับ
“ฉันได้ยินชื่อพี่มาหลายหน เพิ่งปะตัวก็มื้อนี้ ฉันดีใจแทนกาเหว่าที่พี่รอดตาย ลางนึกไปว่าพี่กาหลงกลายเป็นผีเฝ้าบึงบัวเสียแล้ว”
กาหลงรู้สึกสะเทือนใจ เพชรรู้สึกผิดที่เผลอปากพูดไป
“เชื่อข้าเถอะ...คนดีผีคุ้ม” กาหลงเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่เอ็งจะไปหาชบามันรึ”
เพชรแปลกใจ
“พี่รู้ได้ยังไงกัน”
“ทางนี้เป็นทางไปเรือนแม่ฉัน”
เพชรเขินเล็กน้อย
“ฉันเห็นชบาหายไปจากงาน จะแวะไปดูให้หมดห่วง”
“เอ็งไปกับข้าสิ”
“จ้ะ”
กาหลงยิ้มตอบแล้วเดินนำไป เพชรเดินตามไป แล้วเขาก็ตกใจเมื่อเห็นกาหลงเดินไปเท้าไม่ เพชรสะดุ้งรีบเอามือขยี้ตามองซ้ำ กาหลงหันกลับมา
“ไม่ตามพี่มาล่ะ”
“จ้ะ”
กาหลงเดินไป เพชรมองตาม เห็นเท้ากาหลงเป็นปกติก็คิดว่าตัวเองเมา
“เมาสิเออ”
เพชรตบหัวตัวเองให้สร่างเมาแล้วเดินตามไป

ไม้ถือพานขอขมาของโชติจะเดินกลับเรือน แต่แล้วขาบโพกผ้าปิดหน้า พุ่งเข้ามาทำร้าย ไม้ไม่ทันตั้งตัวเสียเปรียบ ไม้ตั้งหลักได้ เข้าต่อยต่อสู้กับขาบจะกระชากผ้าออกแต่แล้ว มั่นโพกผ้าปิดหน้าเอาไม้ฟาดด้านหลัง ไม้สลบลง พานขอขมาตกพื้น ไม้หน้าคว่ำอยู่กับพื้น อบเชยเดินเข้ามายิ้มพอใจ
“พวกเอ็งพาพี่ไม้ไป”
มั่นและขาบเข้าไปลากตัวขึ้นมาลากออกไป อบเชยมองตามด้วยความพอใจ

กาหลงกำลังจะเดินไปเรือนแม่กลอย แต่จิตรู้ว่าไม้โดนทำร้ายเธอหยุดกึก เพชรแปลกใจ กาหลงหันมาบอก
“ขอโทษเสียเถิด ข้าต้องกลับเรือน เอ็งช่วยไปดูชบาด้วย”
เพชรงงๆ
“จ้ะ”
กาหลงพูดจบก็รีบเดินออกไป เพชรแปลกใจ เดินตามไปเพื่อจะเรียก
“พี่มีอะไรให้ฉันช่วย”

เพชรวิ่งตามไป แต่กลับไม่เห็นกาหลงแล้วเขาอึ้งวูบ แปลกใจว่ากาหลงหายไปได้เร็วมากแต่ไม่ติดใจ คิดว่าคงไปทางที่มีพุ่มไม้ต้นไม้บังตา

จบตอนที่ 7

อ่านต่อตอนที่ 8 พรุ่งนี้ เวลา 09.30น.
กำลังโหลดความคิดเห็น