xs
xsm
sm
md
lg

รักออกอากาศ ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 รักออกอากาศ  ตอนที่ 9 

รุ่งเช้าวันต่อมาผู้คนทั่วประเทศ หลากวัย หลายอาชีพ ต้องตกตะลึง เมื่อหนังสือพิมพ์ตีข่าวการกลับมาของขุนทองอีกครั้งในรายการเรียลลิตี้ ไฮโซบ้านเฮา แฟนคลับทุกเพศทุกวัยดีใจกรี๊ดกร๊าด วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งในร้านกาแฟอ่านข่าวในมือถือ

“อ้ายขุนทองคัมแบ็ก! มีหวังดังระเบิดกว่าเดิม ฟันธง!” วัยรุ่นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกับเพื่อนๆ 
เพื่อนอีกคนอดกรี๊ดออกมาไม่ไหว เพราะปลื้มอ้ายขุนทองในรายการอย่างมาก
“อ๊ายยย!”
มีเพียงแมทธิวคนเดียวที่เลือดขึ้นหน้า และนั่งมองอยู่อย่างโมโห ไม่พอใจที่เจ้าคุณกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศ
“ไอ้คุณ!”
ไม่นานเอมี่ก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามานั่งข้างแมทธิว
“แมท! แมท รู้ข่าวรึยัง เจ้าคุณกลับไปบ้านนอก แล้วยังจะทำไฮโซบ้านเฮาต่อ...”
แมทธิวตวาดกลับทันที
“รู้แล้ว! รู้ตั้งนานแล้ว”
เอมี่สะดุ้งเฮือกก่อนจะใส่อารมณ์กลับบ้าง
“รู้แล้วยังจะมานั่งใจเย็นจิบกาแฟอยู่เนี่ยนะ ใจคอไม่คิดจะทำอะไรมั่งรึไง”
“คิดซิ...ทำไมจะไม่คิด โดยเฉพาะเรื่องของแกไอ้คุณ ฉันไม่เคยหยุดคิดเรื่องของแกแม้แต่วินาทีเดียวเลย ไอ้เพื่อนรัก”
แมทธิวยิ้มอย่างเยือกเย็นและครุ่นคิดแผนร้ายในใจ

คืนนั้น ก้องเกียรติยื่นซองสีน้ำตาลที่ใส่เงินมาแล้วเรียบร้อยให้เจ้าคุณรับไว้ กิ่งแก้วนั่งอยู่ข้างๆ
ส่วนกำโป๊งนั่งทำหน้าเบื่อโลก ไม่อยากสนใจเพราะหวั่นคนม่วนแต๊จับได้เรื่องวางแผนหลอกเรื่องเจ้าคุณ
“ฉันถามแกอีกครั้ง....แกแน่ใจแล้วเหรอไอ้คุณ”
ก้องเกียรติถามเพื่อนเพื่อความชัวร์อีกครั้ง
เจ้าคุณถอนใจ แต่กำโป๊งแทรกขึ้นมา
“ไม่ถามข้ามั่งเหรอวะไอ้ก้อง จู่ๆ ก็จะถ่ายรายการกันต่อ ถามความสมัครใจข้ามั่งรึยังวะ”
“ลงเรือลำเดียวกันแล้วนะคะลุง”
กิ่งแก้วพูดพลางยิ้มให้กำโป๊ง แต่โดนกำโป๊งค้อนใส่
“เออ! เรือล่มเมื่อไหร่ล่ะมีหวังจมน้ำตายกันทั้งลำ เฮ้อ! กรรมของไอ้โป๊ง”
“ว่าไง..ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติถามต่อ แต่เจ้าคุณไม่ตอบยัดซองเงินใส่มือกำโป๊งอย่างรวดเร็ว
“อ่ะ..ลุง”
กำโป๊งลืมตัวเผลอขอบคุณเจ้าคุณทันที
“ขอบใจ เฮ้ย! ไอ้บ้า จู่ๆ เอาเงินมายัดใส่มือข้าทำไม ข้าไม่รับสินบน ไม่กินเงินใต้โต๊ะ ข้าคนใจซื่อมือสะอาด ข้า...”
“ไม่ใช่...ฉันฝากเงินนี้ไปให้ลุงหมาย”
“ให้พ่อหมาย”
เจ้าคุณพยักหน้า
“...เอาไปฟื้นฟูไร่ชา”
กำโป๊งอึ้งไปในน้ำใจของเจ้าคุณ
“แต่ห้ามบอกเด็ดขาดว่าได้มาจากฉัน”
“อ้าว..ไอ้เวร! ไม่ให้บอกว่าได้มาจากเอ็งแล้วจะให้ข้าบอกว่าได้มาจากใคร”
“ไม่รู้...ก็แล้วแต่ลุง”
กำโป๊งลำบากใจไม่น้อย หน้าตากังวลมากกว่าเดิม
“แล้วแต่ข้า ไอ้บ้า! ชาติที่แล้วข้าไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้กับพวกเอ็งนักหนาวะเนี่ย”
ก้องเกียรติกับกิ่งแก้วมองหน้าเจ้าคุณด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจ ส่วนเจ้าคุณสบายใจในสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไปใบหน้าคลายความกังวลเช่นกัน

คืนนั้น ไส้อั่วแอบมาพบแคบหมู แล้วหลบพุ่มไม้ข้างทาง
“อร้าย! ไอ้อั่ว! ไอ้ว่อก เสียแรงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ไม่คิดเลยว่าเอ็งจะใจชั่วฉุดข้ามาปล้ำ”
แคบหมูเข้าใจผิด รีบด่าไส้อั่วทันที
“อีบ้า! กล้าพูด! พูดจาไม่ดูหน้าตาตัวเองเล๊ยนังแค๊บ แล้วไหนจะหุ่นอีก อย่างแกน่ะเหรอจะมีใครฉุดไปปล้ำ เชอะ! จับไปถลกหนังทำแคบหมูได้อย่างเดียวล่ะ...อีอ้วน!”
“หนอย! คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน คอยดูนะ...โตขึ้นข้าจะเป็นนางแบบให้เอ็งดู”
“ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะนังแค๊บ!”
ไส้อั่วแอบจิกตาแถมโฑสต์ท่านางแบบสาวกว่าแคบหมูเสียอีก
“โอเค. ไม่โดนปล้ำแน่แล้วอีแค๊บ เออ..ว่าแต่งั้นลากข้ามาทำไมวะเนี่ย”
“เออจริง! ลืมไปเลย คืองี้ หมอก้องกะพยาบาลกิ๋งมาหาอ้ายขุนทองอีกแล้ว”
“จริงเหรอไอ้อั่ว”
แคบหมูตกใจ
“จริงซิ! ตะกี๊ข้าเห็นกะตา พอเห็น ข้าก็รีบมาบอกเอ็งนี่แหละ..นังแค๊บ”
“ตายละ!! จะมาจับอ้ายขุนทองไปโรงพยาบาลอีกรึเปล่า รีบไปบอกเจ๊ใจ๋กันเหอะ”
สองคนกำลังจะวิ่งไปบอกสมใจ แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อพบว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง
“ปลัด!”
สองคนตกใจเมื่อเห็นปลัดจืดยืนเอาเรื่องอยู่ด้านหลัง

เวลาเดียวกัน ก้องเกียรติกับกิ่งแก้ว เตรียมทำท่าจะกลับ เจ้าคุณเดินมาส่ง
“ขอบใจมากนะ..ไอ้คุณ”
ก้องเกียรติเอ่ยอย่างจริงใจ แต่เจ้าคุณยังคงโกรธอยู่แต่จำต้องทำเพราะคนรัก
“ไม่ต้องเลยไอ้ก้อง ฉันไม่ได้ทำเพราะแก จบเรื่องนี้เมื่อไหร่แกกับฉันต้องเคลียร์กันแน่”
ก้องเกียรติน้อมรับชะตากรรมโทษฐานโกหกเพื่อนมาตลอด ส่วนกิ่งแก้วยืนอมยิ้มมองเจ้าคุณ
“ว่าแต่ฉันล่ะอยากรู้จังเลยเจ้าคุณว่าเรื่องนี้มันจะจบเมื่อไหร่ แล้วก็จบยังไง”
“แกก็อีกคนไอ้กิ๋ง อย่านึกว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะรอด”
เจ้าคุณแกล้งกลบเกลื่อน แต่กิ่งแก้วกลับทำหน้าเยาะเย้ยกลับ
“แกจะเคลียร์รึจะขอบใจฉันกันแน่..ไอ้คุณ”
“ไอ้กิ๋ง!”
เจ้าคุณผลักหัวกิ่งแก้วเบาๆ ส่วนก้องเกียรติยืนมองในความเปลี่ยนแปลงของเจ้าคุณ
“ไอ้คุณ....แกรู้ตัวมั้ยว่าแกเปลี่ยนไปมาก”
เจ้าคุณอึ้งในคำพูดของเพื่อน แต่แววตาไม่มั่นใจนักว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพราความรักแต่สมใจจะเข้าใจเขาหรือไม่

เวลาต่อมา ปลัดจืด แคบหมู และไส้อั่ว เร่งเดินไม่รอช้า จนแคบหมูหอบและแอบกังวลใจ
“เราไปบอกเจ๊ใจ๋ก่อนไม่ดีเหรอปลัด”
“ฉันเป็นปลัดนะแคบหมู ใครจะมาจะไปในม่วนแต๊ ฉันต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ใจ๋”
แคบหมูหน้าเสีย หลังโดนปลัดจืดดุ
“ไงล่ะ..นังแค๊บ มันจุกอกมั้ยล่ะ”
ไส้อั่วกันมาทับถมแคบหมู
ปลัดจืดยิ่งเร่งฝีเท้าอย่างใจร้อนเลย จึงชนเข้ากับหวานเจี๊ยบที่ขี่จักรยานสวนมา จึงล้มกลิ้งไปพร้อมๆกัน
“อร้าย!”
หวานเจี๊ยบกรี๊ดลั่น ปลัดจืดรีบลุกขึ้นก่อน
“โหย! ซุ่มซ่ามสุดๆ เลยยัยลิงเจี๊ยก”
“ไอ้หน้าจืด! ชนเขาล้มแล้วยังมีหน้ามาด่าเขาอีกโอ๊ย!”
หวานเจี๊ยบจะลุกขึ้นแต่ขาเริ่มเจ็บมากขึ้น ปลัดจืดชะงักพยายามมองว่าเจ็บจริงหรือไม่
“เจ็บจริงเหรอน่ะ”
“ไอ้ปลัดจ๋อย! เห็นฉันเป็นนางเอกละครรึไงยะ โดนแกชนล้มซะขนาดนี้ก็เจ็บซิโว้ย!เจ็บจริง!”
หวายเจี๊ยบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ปลัดจืดแอบถอนหายใจ
“ปลัดอะไรรังแกประชาชน ใจร้าย ใจดำ”
ปลัดจืดรู้สึกผิด เลยเดินเข้าไปยื่นมือให้อย่างจริงใจ
“อ่ะ! ลุกขึ้นเร็วๆ”
หวานเจี๊ยบไม่พอใจเอามือฟาดปลัดจืดอย่างดัง
“ไม่ต้อง! ไม่ต้องมายุ่ง”
หวานเจี๊ยบพยายามลุกขึ้น แต่ยังกะเผลก เธอพยายามมองหารองเท้าที่กระเด็นหายไปข้างหนึ่ง
“หาอะไรเจ๊หวาน”
แคบหมูถามขึ้น
“รองเท้าอ่ะซิ..หายไปไหนไม่รู้”
ไส้อั่วชูรองเท้าของหวานเจี๊ยบที่ขาดวิ่นทันที
“นี่ล่ะป่าว”
“เฮ๊ย! รองเท้าชั้น..โฮ!”
หวานเจี๊ยบเสียใจที่รองเท้าคู่โปรดขาด ปลัดจืดหน้าสียเพราะไม่ได้ตั้งใจ
“ เพราะแกคนเดียวไอ้หน้าจืด เพราะแกคนเดียว...ฮือๆ”
ปลัดจืดเสียใจ แต่กำลังกังวลเรื่องเจ้าคุณอยู่ แต่ก็ยังหันมาแสดงความรับผิดชอบ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แคบหมู ไส้อั่วพาเขาไปส่งบ้านที ฉันจะรีบไปบ้านลุงกำโป๊ง”
พูดจบปลัดจืดรีบเดินออกไปทันที
“ไอ้ว่อก! ไอ้จืด! ไอ้บ้า! ฮือๆ รองเท้าฉัน”


ต่อจากนั้นปลัดจืดรีบวิ่งมาที่บ้านกำโป๊งด้วยสภาพหอบเหนื่อย
“ขุนทอง!”
ปลัดจืดเรียกเจ้าคุณเสียงดัง เจ้าคุณหันมองด้วยความสงสัย
“หมออยู่ไหน”
“หมออะไร”
ปลัดจืดมองอย่างจับผิด
“ก็หมอก้องไง เมื่อกี๊หมอก้องมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณเริ่มนึกได้
“อ๋อ..ใช่”
“หมอไปไหนแล้ว”
“กลับไปแล้ว”
“งั้นหมอมาทำไม”
“ถามทำไม”
“ฉันเป็นปลัดของม่วนแต๊ ใครจะมาจะไปฉันต้องรู้”
ปลัดจืดมองหน้าเจ้าคุณ
“หมอก็มาตรวจคนไข้ซิปลัด จะให้มาจับผู้ร้ายรึไง”
คราวนี้ปลัดจืดหมั่นไส้พุ่งเข้าปรี่ไปกระชากคอเสื้อเจ้าคุณทันที
“ฉันถามดีๆ ก็ตอบมาดีๆ”
แต่ไม่ทันมีเรื่องกำโป๊งเดินเข้ามาพอดิบพอดี
“เฮ่ยๆ..มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้”
“หลานลุงเริ่มก่อน
ปลัดจืดออกโรง เจ้าคุณก็หาได้กลัวไม่
“เริ่มอะไร”
สองคนจ้องหน้ากันไม่มีใครยอมใคร
“ไอ้ขุนทอง! ขอโทษพ่อปลัดเขาเดี๋ยวนี้!”
เจ้าคุณลืมตัว
“ขอโทษ ตั้งแต่เกิดมฉันไม่เคยขอโทษใคร”
ปลัดจืดฟังแล้วยิ่งสงสัย
“แฮ่มๆ”
กำโป๊งสงสัญญาณว่าเจ้าคุณอาจทำความลับแตกเสียเอง
เจ้าคุณรู้ตัว แต่ไม่ยอม จึงปัดมือปลัดแล้วเดินออกไป
“มันบ้าๆ บอๆ น่ะพ่อปลัด อย่าไปถือเลยนะ นึกซะว่าฉันขอ”
ปลัดจืดไม่ติดใจเอาความ แต่มองตามเจ้าคุณอย่างอดคลางแคลงใจไม่ได้

เช้าวันใหม่ ที่บ้านสมใจ กำโปีงยื่นซองเงินที่เจ้าคุณให้มากับสมหมาย จนอีกฝ่ายตั้งตัวไม่ถูก
“อะไรน่ะ...อ้ายโป๊ง”
กำโป๊งอึดอัดหน้าตาซ่อนพิรุธ
“ก็..เอ่อ..ดูเอาเองละกัน”
สมหมายมองหน้าลูกเมียที่นั่งอยู่ข้างๆแบบใจดีสู้เสือ
“แน้! วันนี้มาแปลกแฮะ”
สมหมายงงกับอาการของกำโป๊ง
“อย่างนี้เขาเรียก มี เซอร์ไพรส์”
ออกเสียงจริงจังจนน้ำลายของแคบหมูกระจายใส่หน้ากำโป๊ง
“แฉะเลยนังแค๊บ!”
“แฮ่!”
“แกะดูเถอะพ่อ อยากรู้แล้ว”
สมใจเร่งสมหมายไปในตัว ไม่ต่างจากคำปุย แคบหมูและไส้อั่วที่อยากรู้เช่นเดียวกัน
“แกะเลยๆ”
“เอ้า! แกะก็แกะ”
สมหมายแกะซองพอรู้ว่ามีเงินเป็นฟ่อนในนั้นก็ชะงักหันไปถามกำโป๊ง
“อะไรกันเนี่ย นี่มันอะไรกัน...อ้ายโป๊ง”
“เอ่อ..คือ...”
กำโป๊งเหลือบมองไปที่มุมหนึ่ง เจ้าคุณแอบส่งสัญญาณอย่าบอกที่มาของเงินเป็นอันขาด
“อะไรเหรอพ่อ”
สมใจถามอย่างสงสัย สมหมายจึงหยิบเงินเป็นฟ่อนออกมาให้ดู
“ก็นี่ไง!”
ทุกคนฮือฮาสงสัย
“ตายจริง! นึกยังไงเนี่ยอ้ายโป๊ง จู่ๆ เอาเงินมาอวดกันเป็นปึกอย่างงี้”
สมศรีกล่าวอย่างสงสัย กำโป๊งทำหน้าคล้ายจะเป็นลม
“ไม่ใช่...ไม่ได้เอามาอวด แต่ฉัน..ฉัน...”
กำโป๊งเหลือบมองเจ้าคุณที่กำลังลุ้นให้พูดเสียที
“ทำไมเหรอจ๊ะ ลุงกำโป๊งเอาเงินนี่มาทำไมเหรอจ้ะไ
สมใจถาม
“ก็..ก็เอามาให้พ่อเอ็งน่ะซิไอ้ใจ๋”
“ห๊า! เอามาให้ฉัน”
ทุกคนตกใจไม่ต่างไปจากสมหมาย กำโป๊งสะดุ้งตกใจไปด้วย
“เย้ย! เบาๆ ก็ได้ หัวใจจะวาย”
“อ้ายโป๊ง แล้วนี่มันเรื่องอะไร ทำไมจะต้องเอาเงินมาให้ฉันมากมายขนาดนี้”
“ใจเย็นๆ พ่อหมาย คือ...ฉันเห็นพ่อหมายกำลังลำบาก ก็เลยอยากช่วยพ่อหมายฟื้นฟูไร่ชา...”
“ไม่ได้นะอ้ายโป๊ง อ้ายก็รู้จักฉันดีว่าเป็นคนยังไง”
“ก็รู้น่ะเซ่”
“พ่อ..พ่อเขาเกรงใจลุงกำโป๊งน่ะจ้ะ ให้พวกเราลองพยายามกันก่อนดีกว่านะจ๊ะลุง”
สมใจพูดอย่างเห็นในน้ำใจกำโป๊ง แต่ยังไม่อยากให้พ่อรับเงินนั้นไว้ เจ้าคุณมองอย่างซึ้งใจ
“ใช่..ไอ้ใจ๋พูดถูก”
สมหมายรีบเสริมลูกสาว กำโป๊งเริ่มจนปัญญา เหลือบมองเจ้าคุณที่ลุ้นให้ตื๊อต่อให้สำเร็จ
“เฮ้อ!...คืองี้พ่อหมาย ไอ้เราก็ไม่ใช่คนอื่นไกล ที่สำคัญ ฉันก็เป็นคนม่วนแต๊คนนึงเหมือนกัน อยู่ดีมีสุขได้ก็เพราะไร่ชาม่วนใจ๋ของพ่อหมายด้วย ถึงยามลำบากจะให้ฉันนิ่งดูดายอยู่เฉยๆ...มันก็อายหมานะพ่อหมายนะ”
กำโป๊งรีบพูดยกแม่น้ำทั้งห้า พร้อมรีบยัดซองเงินกลับให้สมหมายอีกรอบ
“ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ มีหวังจะยิ่งฟื้นฟูยาก รีบๆ เอาไปเถอะ ไม่งั้นพวกเราจะลำบากกันทั้งหมู่บ้านล่ะทีนี้”

สมหมายอึ้งไป แอบมองหน้าสมศรีกับสมใจและก้อมมองซองเงินตรงหน้าอย่างครุ่นคิด
“ว่าแต่..อ้ายไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ”
“ก็..ก็..ไอ้..”
กำโป๊งเหลือบมองเจ้าคุณที่ทำตาโตใส่
“ก็..ไอ้..ไอ้ตัวฉันเองก็พอจะมีเก็บไว้บ้างตั้งแต่อพยพมาจากกรุงเทพฯ น่ะ”
เจ้าคุณโล่งอก
“ตาหมาย...ที่อ้ายโป๊งพูดก็ถูกนะ ขืนปล่อยไว้นาน ไร่ชาก็จะยิ่งฟื้นฟูยาก ชาวม่วนแต๊ก็จะยิ่งลำบาก”
สมหมายอึ้งแล้วยกมือไหว้ขอบคุณกำโป๊ง จนอีกฝ่ายรับไหว้แทบไม่ทัน
“ขอบใจอ้ายโป๊ง ฉันจะรีบฟื้นฟูไร่ม่วนใจ๋ แล้วฉันจะรีบชดใช้คืนให้เร็วที่สุด”
กำโป๊งโล่งอกที่ความไม่แตกเสียก่อน ทุกคนดีใจ โดยเฉพาะเจ้าคุณแววตาเปี่ยมสุขเมื่อรู้ว่ากำลังจะช่วยสมใจและชาวม่วนแต๊ได้

บ่ายวันเดียวกัน เจ้าคุณเดินอย่างสบายใจเมื่อรู้ว่ามีเงินช่วยแก้ปัญหาไร่ชาม่วนใจ๋ หัวใจของชาวม่วนแต๊และยังช่วยสมใจได้อีกทาง ไม่นานสมใจขี่จักรยานไล่หลังมาแล้วเรียกเจ้าคุณ
“ขุนทอง! อ้ายขุนทอง”
เจ้าคุณหยุดเดิน หันไปมองสมใจ
“เป็นอะไร ยิ้มแฉ่งเชียว”
“จริงเหรอ แหม..ก็คนมันมีความสุขอ่ะ”
“เหรอ ปลัดจืดมาจีบมุกไหนอีกล่ะ”
เจ้าคุณแกล้งหยอก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าสมใจดีใจเรื่องอะไร
“ บ้า! ฉันมีความสุขที่ไร่ม่วนใจ๋จะกลับมาสวยงามอีกครั้งแล้วตะหากล่ะยะ”
เจ้าคุณแอบอิ่มเอมใจแต่ไม่แสดงออก แกล้งทำไม่รู้เรื่อง
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ลุงกำโป๊งน่ะซิ อุตส่าห์เอาเงินมาช่วย ใจดีจริงๆ เลย”
สมใจพูดอย่างมีความสุข ทำให้เจ้าคุณฟังแล้วรู้สึกดีในใจ
“แต่พวกเราเกรงใจแกจะแย่ นายก็ต้องเตรียมตัวไว้นะ ต้องรีบมาช่วยฟื้นฟูไร่ชาโดยเร็วที่สุด จะได้รีบเอาเงินไปคืนลุงกำโป๊ง เพราะเงินของลุงกำโป๊งก็คือเงินของนาย”

“เฮ๊ย...ไม่ใช่นะ!”
เจ้าคุณตกใจ สมใจหัวเราะพอเห็นเจ้าคุณตกใจเสียหน้าซีดเผือด
“ทำไมต้องหน้าซีดเว่อร์ขนาดนั้นด้วย ที่ฉันพูดมันไม่จริงเหรอ ก็นายเป็นหลานลุงกำโป๊ง เงินของลุงกำโป๊งก็ต้องกลายเป็นเงินมรดกของนายในวันข้างหน้า ไม่ใช่เหรอ”
เจ้าคุณโล่งอก พยักหน้าตามน้ำไปตามระเบียบ
“แหม...ถ้ารู้ว่ารวยซะขนาดนี้ ตีซี้ไปตั้งนานแล้ว ฮ่าๆ”
เจ้าคุณสะอึกแต่แกล้งฝืนหัวเราะ
“เออ..ว่าแต่นี่นายจะไปไหนเนี่ย”
“ก็...ไม่รู้เหมือนกัน”
“บ้ารึเปล่า...จะไปไหนยังไม่รู้”
“ก็เดินไปเรื่อยๆ”
“งั้นไปด้วยกันมั้ย”
สมใจแอบชวน
“ไปไหน”
“ไปช่วยฉันเลี้ยงลูก”
“เลี้ยงลูก”
เจ้าคุณยังไม่เข้าใจ แต่สมใจยิ้มอย่างมีความสุข

ไม่นานนัก เจ้าคุณกับสมใจมาหยุดอยู่ที่เลี้ยงช้าง
“เนี่ยนะ..ลูกเธอ”
เจ้าคุณถามพลางยิ้ม
“ก็เออซิ! ทำไม ตลกตรงไหน”
“โธ่เอ๊ย...ลูกช้าง”
“ก็ลูกช้างซิยะ จะให้มีลูกคนได้ไง ยังหาพ่อไม่ได้เลย”
เจ้าคุณกับสมใจหันมามองหน้ากันโดยบังเอิญ พอรู้ตัวสมใจรีบเฉไฉคุยเรื่องอื่น
“อะไร ร้อนเหรอ ร้อนใช่มั้ย ไป..พาช้างไปอาบน้ำซิ ยืนเฉยทำเบื๊อกอะไร..หึ้ย!”
สมใจพูดแล้วเดินออกๆปทันทีด้วยความอายทิ้งให้เจ้าคุณมองตาม อมยิ้มกับช้างลูกรักของสมใจ

สมใจอาบน้ำให้ช้าง เจ้าคุณช่วยด้วยแม้ว่าตอนแรกจะดูไม่ถนัดเก้ๆ กังๆ แต่เพราะสมใจสอนให้ เจ้าคุณจึงเริ่มสนุกสนาน ครู่ต่อมาสมใจกับเจ้าคุณนั่งคุยกันริมน้ำ
“ชีวิตเจ้าช้างตัวนี้ มันน่าสงสาร”
เจ้าคุณหันมองสมใจแทนคำถาม
“พ่อมันโดนคนใจร้ายยิงเอางาไปขาย แค่นี้แท้ๆ มันเลยต้องกำพร้าพ่อ”
เจ้าคุณนึกถึงตัวเอง
“แต่มันฉลาดมากนะ สงสัยจะรู้ตัว กลัวไม่มีใครรัก มันขี้ประจบมาก พวกฝรั่งนักท่องเที่ยวจะรักมันมาก เวลามันพาพวกเขาเที่ยว”
“พาเที่ยว”
“อือ..ขี่ช้างไง รายได้หลักของเจ้าช้างตัวนี้มันเลยนะ ถึงจะกำพร้าแต่ก็ไม่ทำตัวเป็นช้างมีปัญหา”
เจ้าคุณหน้าจ๋อย นึกถึงตัวเองขึ้นมา
“เออ..อยากใช้บริการเจ้าช้างมั่งมั้ย?”
เจ้าคุณเลิกคิ้วมอง
“ไปขี่ช้างเที่ยวกัน”
เจ้าคุณดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ไม่นานนักเจ้าคุณกับสมใจขึ้นนั่งหลังช้างอย่างเพลิดเพลิน ทั้งสองมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

อ่านต่อหน้า 2




 รักออกอากาศ  ตอนที่ 9 (ต่อ) 

เวลาเดียวกันที่บ้านเครือฟ้า ปลัดจืดกับหวานเจี๊ยบยังคงปะทะคารมกันอย่างไม่เลิกรา

“เว๊ย! ก็บอกว่าไม่รู้ๆ ไม่เห็นๆ ยังจะถามอยู่ได้เว๊ย!” หวานเจี๊ยบโวยวายใส่อย่างหงุดหงิด
“ถามดีๆ ก็ตอบดีๆ ไม่ได้เหรอ” ปลัดจืดโวยกลับ
“ถามดีที่ไหน น้าเครือเป็นพยาน ไอ้ปลัดจ๋อยมันขู่ ยังกะหมา ใช่มั้ยน้าเครือ”
ปลัดจืดกำลังจะหัดมาเจรจากับหวานเจี๊ยบ แต่เครือฟ้าตะโกนดุหลานสาวทันที
“นังหวานเจี๊ยบ! เป็นแม่หญิงยิงเรือพูดจาให้มันงามหน่อย”
หวานเจี๊ยบฮึดฮัดแบบเดิม
“อีกอย่าง...เราก็ต้องให้เกียรติพ่อปลัดเขาด้วย พูดจาว่าเค้าขู่ อย่างนี้มันใช้ไม่ได้”
“น้าเครือ น้าเครือก็เข้าข้างคนอื่นตลอด” คราวนี้หวานเจี๊ยบหันมาโวยน้าสาว
“คนอื่นที่ไหน พ่อปลัดจืดน่ะ น้าก็รัก เอ็นดูเหมือนหลานเขย” เครือฟ้าว่า
“เฮ๊ย!”
ทั้งปลัดจืดและหวานเจี๊ยบร้องขึ้นพร้อมๆ กัน เพราะตกใจกับคำพูดของเครือฟ้า เจ้าของคำพูดรีบแก้ต่าง
“เฮ๊ย! น้าก็รักเหมือนลูกเหมือนหลานน่ะ...แหะๆ... ว่าแต่ เอ็งไม่รู้จริงๆ เหรอหวานเจี๊ยบว่าไอ้ใจ๋มันหายไปไหน ปล่อยให้พ่อปลัดเขาตามหา”
“หึ้ย! จะตามหาอะไรนักหนา ตามหาทั้งวี่ทั้งวัน คนเขาไม่รักไม่ชอบแล้วยังจะหน้าด้านตื๊ออยู่ได้”
“นั่นสิ...นี่ถ้าเป็นนังหวานเจี๊ยบนะ น้ายกให้ฟรีๆ เลยแถมสมุนไพรให้อีก 3 ลัง”
เครือฟ้าเผลอลืมตัวพูดออกไปอีก ปลัดจืดสะดุ้ง แต่หวานเจี๊ยบโวยวาย
“น้าอ่ะ!”
“อุ๊ย! พูดเล่นน่ะจ้ะ...พูดให้ขำ..แหะๆ”
ปลัดจืดและหวานเจี๊ยบ มองหน้าแล้วค้อนใส่กันแบบจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันไปขายน้ำหวานแล้วนะน้าเครือ ขืนอยู่นานอดใจไม่ไหวเดี๋ยวจะได้เตะหมา!”
หวานเจี๊ยบพูดจบจะรีบเดินออก แต่สะดุดพื้นจนหน้าทิ่ม
“ว๊าย!”
เครือฟ้ารีบเข้าไปประคอง
“เจ็บมั้ยนังหวาน”
ปลัดจืดส่ายหน้าระอา
“เจ็บซิน้า ถามได้”
เครือฟ้าไปหยิบดูรองเท้าที่ทำให้หวานเจี๊ยบล้มสะดุด เห็นสภาพขาดวิ่นจนแทบใส่ไม่ได้
“โธ่ถัง! รองเท้าพังอย่างนี้ยังจะเอามาใส่ ทิ้งๆ ไปเหอะ จะรักจะหวงไปถึงไหน”
ปลัดจืดมองอย่างสงสัย คิดในใจว่าเป็นรองเท้าคู่เดียวกันกับที่ตัวเองทำของหวานเจี๊ยบขาดหรือไม่
“ฉันจะไปแล้ว”
หวานเจี๊ยบใส่รองเท้าคู่สุดรัก แล้วเดินขากะเผลกออกไปทั้งเจ็บทั้งอาย ปลัดจืดแอบถามเครือฟ้าเรื่องรองเท้าของหวานเจี๊ยบ
“หวานเจี๊ยบเขารักรองเท้าคู่นั้นมากเลยเหรอครับ”
“อือ...รองเท้าของแม่มัน มันใส่ของมันมาตั้งแต่แม่มันตาย วันก่อนไปทำอีท่าไหนไม่รู้ ขาดซะ! กลับมานอนร้องไห้อยู่ทั้งคืน”
ปลัดจืดได้ยินแล้วถึงกับหน้าสลดไปด้วยความรู้สึกผิด

ทางด้าน เจ้าคุณกับสมใจยังคงมีความสุขอยู่กับภารกิจเลี้ยงช้าง เจ้าคุณลงจากช้างมาก่อน แล้วยื่นมือไปรับสมใจอยากช่วย แต่สมใจจะขอลงเอง
“ไม่ต้อง”
สมใจกระโดดลงเอง แต่ดันพลาดท่าลื่นร่วงลงมาอยู่ในอ้อมกอดเจ้าคุณ ทั้งสองคนสบตากัน สมใจรู้สึกเขินจึงหันไปพาลที่ช้างเชือกโปรด
“ใช้ไม่ได้เลยนะแก”
“อวดเก่งแล้วยังจะโทษ ช้างมันอีก”
“ว่าไงนะ”
“ก็จริงมั้ยล่ะ อวดเก่งอย่างเนี้ย...ถึงได้หาพ่อให้ลูกไม่ได้ซะที”
เจ้าคุณแหย่สมใจ จนโดนตีไปหลายที
“อะไรนะ อีตาบ้า! อีตาบ้า”
เจ้าคุณหัวเราะ สองคนวิ่งไล่ตีกันพัลวัน อย่าง...มีความสุข

เย็นนั้น ที่บ้านสมใจ ปลัดจืดกำลังสนทนากับสมหมายเรื่องเงินของกำโป๊งที่นำมาช่วย
“ว่าไงนะครับ ลุงกำโป๊งเอาเงินมาช่วยลุงหมาย”
“ใช่...เฮ้อ..ฉันเองก็เกรงใจอ้ายโป๊งเหลือเกินนะปลัด แต่...มันก็ไม่มีทางอื่นแล้ว”
ปลัดจืดยิ่งรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรสมหมายไม่ได้
“...ผม..ขอโทษนะครับที่ช่วยลุงหมายไม่ได้”
“เฮ๊ยๆ ...อย่าพูดอย่างนั้นปลัด โธ่! ฉันเข้าใจ เงินทองมันไม่ได้หากันง่ายๆ”
สมหมายไม่ได้โกรธปลัดจืดแม้แต่น้อย
“นั่นซิครับ....เงินทองไม่ได้หากันง่ายๆ แล้วลุงกำโป๊งแกไปหามาจากที่ไหน” ปลัดจืดนึกสงสัย
“แกบอกว่าเป็นเงินที่แกเก็บหอมรอมริบมา”
“เหรอครับ เก็บได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
ปลัดจืดคาใจ ไม่เชื่อว่าเงินก้อนนั้นเป็นเงินของกำโป๊ง?

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าคุณเดินมาส่งสมใจจนใกล้ถึงหน้าบ้าน
“ฉันส่งแค่นี้นะ” เจ้าคุณบอกสมใจก่อนจะเดินกลับ
“อ้าว!ไม่เข้าไปกินน้ำก่อนเหรอ” สมใจกลบเกลื่อน แท้ที่จริงอยากให้เจ้าคุณเข้าไปในบ้านก่อน
“พาลูกสาวเขาไปเที่ยวซะทั้งวัน เดี๋ยวลุงหมายเตะเอา” เจ้าคุณบอก
“บ้า! ไปละ!”
สมใจเดินออกไป แต่เจ้าคุณมองตามแล้วเรียกไว้
“สมใจ”
สมใจชะงัก รีบหันมามอง
“เอ่อ...” เจ้าคุณติดต่างกระทันหัน
“มีอะไรเหรอ”
“คือ...เอ่อ...” เจ้าคุณพูดไม่ออก
“อ้าว!...ติดอ่างอีกและ”
สมใจอมยิ้ม เจ้าคุณอยากพูดใจแทบขาดแต่ไม่กล้าพอ
“จะพูดรึไม่พูด ไม่พูดฉันเข้าบ้านนะ”
สมใจกำลังจะเดินออกไป เจ้าคุณรวบรวมความกล้าเรียกไว้อีกครั้ง “เดี๋ยว!”
สมใจชะงัก ยิ้มตอยหลับแล้วมองหน้าเจ้าคุณ
“ฉัน...ฉัน...ขอบใจเธอมาก”
“ขอบใจ...เรื่องอะไร”
สมใจยังไม่เข้าใจ
“ทุกเรื่อง”
สมใจยังไม่เข้าใจ แต่เจ้าคุณสีหน้าจริงจังมากขึ้นทุกที
“..นาย...เป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่า...เข้าบ้านเถอะ..ดึกแล้ว”
สมใจจ้องตาเจ้าคุณ เหมือนค้นหาความจริง
“ไม่เป็นไรจริงๆ...ไปเถอะ”
เจ้าคุณยังไม่กล้าบอกความในใจกับสมใจ
“นายก็...เดินกลับบ้านดีๆ นะ”
เจ้าคุณยิ้มลาส่งสมใจกลับเข้าบ้าน ก่อนที่ตัวเองจะหันกลับมาเศร้าแววตาละห้อย
แต่ทันใดนั้นเจ้าคุณต้องชะงักเมื่อปลัดจืดยืนขวางอยู่ด้านหลัง เจ้าคุณมองปลัดจืดแล้วพยายามจะเลี่ยงเดินออกไป แต่ปลัดจืดไม่มีท่าทีจะยอมปล่อยเจ้าคุณไปง่ายๆ
“นายเป็นใครกันแน่”
“พูดเรื่องอะไร”
เจ้าคุณแกล้งกลบเกลื่อน ทำใจดีสู้เสือ
“จู่ๆ ลุงกำโป๊งจะเอาเงินจากที่ไหนมาช่วยลุงหมาย”
“ไปถามลุงกำโป๊งซิ..มาถามฉันทำไม”
“ต้องถามนายนั่นแหละ...ถูกคนแล้ว”
“พอเถอะปลัด เลิกหาเรื่องฉันได้แล้ว ไม่มีประโยชน์”
เจ้าคุณพูดจบจะเดินออกไป แต่ปลัดจืดยังคงสงสัยต่อ
“หมายความว่ายังไง”
“ทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้ว”
พูดจบเจ้าคุณเดินออกไป ปลัดจืดมองตามอย่างไม่เข้าใจว่าเจ้าคุณหมายถึงอะไรกันแน่

ค่ำคืนเดียวกันนั้น เอมี่กับแมทธิวลั้นลาอยู่ในผับ และกำลังคุยเรื่องเจ้าคุณกลับไปอยู่ม่วนแต๊อีกครั้ง
“ไม่มีทาง! มี่ไม่ยอมให้เรื่องนี้มันจบลงง่ายๆ แบบนี้เด็ดขาด แมท..ช่วยมี่ด้วยซิ จนป่านนี้คุณคะคุณขายังไม่เห็นกลับมาอย่างที่ยัยคุณหญิงแม่พูดไว้เลย”
แมทธิวเครียด เอมี่ทำทีเป็นสะอึกสะอื้น
“แมท..ทำไงดี ขืนปล่อยไว้นาน คุณคะคุณขาหลงกลิ่นสาปของอีนังบ้านนอกนั่นจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ยอมกลับมาแต่งงานกับมี่ แล้วมี่จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ให้ที่บ้านล่ะ..ฮือๆ”
แมทธิวคิดแผนร้าย แล้วยิ้มออกมา
“ไม่เห็นจะยากเลยนี่เอมี่ ในเมื่อไอ้คุณมันไม่มา เราก็บุกไปหามันซะเลยซิ”
“ว่าไงนะ”
แมทธิวยักคิ้ว เอมี่หน้าตาเอาเรื่อง และเห็นด้วยกับแมทธิว
“จริงซินะ..มี่จะต้องไปเปิดตัวให้ทุกคนรู้ โดยเฉพาะอีนังบ้านนอกไร่ชานั่นมันต้องรู้ว่ามี่นี่แหละ คือว่าที่เจ้าสาวตัวจริงของเจ้าคุณ!”
แมทธิวยิ้มร้ายออกมาอย่างสะใจ ส่วนเอมี่มีสีหน้าหมายมาด เตรียมลุยม่วนแต๊ทวงคืนเจ้าคุณจากสมใจ

เช้าวันใหม่ ทุกคนรวมตัวกันที่ไร่ชาม่วนใจ๋
“ขอขอบใจทุกคนที่มาร่วมมือร่วมใจกันอีกครั้ง และต้องขอขอบใจมากเป็นพิเศษก็คือ...อ้ายกำโป๊ง”
สมหมายพูดกับชาวบ้าน ในขณะกำโป๊งสะดุ้งโหยง ปลัดจืดแอบสังเกตตลอดเวลา แต่เจ้าคุณเล่นละครตบตาได้อย่างแนบเนียน
“แม่ว่าแล้ว..แม่มองคนไม่ผิด อ้ายกำโป๊งเนี่ยเงาะซ่อนรูปจริงๆ เห็นอ้วนเตี้ยดำฟันเหยินอย่างนี้ แต่แอบมีเงินทองซ่อนไว้เยอะแยะ” ลำยองหันไปพูดกับลำใยลูกสาว
“ใช่จ้ะ..น่าได้มาเป็นพ่อเลี้ยงมากๆ” ลำใยหนับหนุน
“นั่นน่ะซิ!”
สองแม่ลูกชงกันไปมาอย่างมีความสุข ลำยองยิ่งรักกำโป๊งมากเข้าไปอีก สมใจรีบเรียกทุกคนลงมือกับไร่ชาทันที
“เอาล่ะจ้ะ..ถ้าพร้อมแล้ว พวกเราลงมือกันเลยดีกว่า ไร่ชาม่วนใจ๋จะได้กลับมาสวยงามอีกครั้ง”
“เย้!”
ทุกคนร้องอย่างดีใจ แล้วช่วยกันคนละไม้ละมือ สมใจยิ้มอย่างสดใสเป็นสุข ส่วนเจ้าคุณยิ้มไม่ค่อยออกแอบเศร้าข้างใน เพราะอาจใกล้ถึงเวลาต้องจากม่วนแต๊เข้าไปทุกที
ด้านหวานเจี๊ยบยังคงเคืองปลัดจืดเรื่องรองเท้า ในขณะที่คู่กรณียังจ๋อยอยู่ เสียใจไม่หายเพราะไม่ได้ตั้งใจ

เวลาเดียวกัน ที่อีกฟากหนึ่งของไร่ชา อาฟง อาเฟยกับสมุน แอบซุ่มยืนมองชาวม่วนแต๊ช่วยกันฟื้นฟูไร่ชาอย่างแข็งขัน อาฟงมีสีหน้าไม่พอใจ
“หนังเหนียวจริงๆ ไอ้พวกนี้"
อาฟงผิดหวังที่สมหมายหาเงินมาฟื้นฟูไร่ชาจนได้
“ลุยมันเลยมั้ยครับเสี่ย”
ลูกน้องอาฟงเสนอลูกพี่เอาหน้าอยากจัดการเต็มแก่ แต่อาเฟยหันไปไม่พอใจนัก
“พ่ออยากได้ไร่ชานี่จริงๆ เหรอ”
“ทำไม ลื้อถามงี้หมายความว่าไง” อาฟงถามลูกชายอย่างสงสัย
“เปล่า..ก็แค่ถามดู”
“นี่อย่าบอกนะ..ว่าลื้อ...”
อาฟงคล้ายจะรู้ทัน จนอาเฟยรีบแทรกตัดบท
“เปล่า!”
“ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้คิดจะโกหกอั๊วเหรอ อั๊วเป็นป๊าลื้อนะเว๊ย! ทำไมอั๊วจะดูไม่ออก อาเฟย..ในเมื่ออั๊วอยากได้ไร่ชา ส่วนลื้ออยากได้ลูกสาวเจ้าของไร่ชา ถ้างั้นเราก็เอามันมาทั้ง 2 อย่างซะเลยสิ ฮ่าๆ”
อาฟงกับสมุนหัวเราะชอบใจ ส่วนอาเฟยหน้าเสีย เมื่อรู้ว่าพ่อรู้ความในใจว่าแอบชอบสมใจอยู่ไม่น้อย

ทางด้านสมใจก้มหน้าก้มตาทำงาน จังหวะหหนึ่งเจ้าคุณรีบยื่นขันใส่น้ำให้อย่างเอ็นดู
“ขอบใจ” สมใจยิ้มให้ขณะรับขันน้ำ
สองคนมองหน้ากันอย่างเข้าใจกันมากขึ้น ในขณะที่ปลัดจืดยืนมอง แล้วเหลือบตาลงมองถุงน้ำแดงในมือตัวเอง ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ หันกลับมาเจอแคบหมูกับไส้อั่วยืนจ้องอยู่
“น้ำแข็งละลายหมดแล้วจ้ะปลัด” แคบหมูเอ่ยขึ้น
“จริงด้วย...ไม่รีบกินเดี๋ยวจืดหมดนะจ๊ะ” ไส้อั่วเสริม
“อ่ะ...เอาไปกินที”
ปลัดจืดยกถุงน้ำแดงให้แคบหมูกับไส้อั่วแล้วเดินห่างออกไป สองแสบแย่งกันดูดดับร้อนอย่างมีความสุข

ค่ำคืนนั้น สมหมายกลับถึงบ้านก็ทิ้งตัวลงนั่งด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า หลังทุ่มเทฟื้นฟูไร่ชาในวันนี้ แต่ก็แอบสุขใจ
“เฮ้อ! แก่แล้วเส้นสายมันตึงเอาเหมือนกันนะนี่” สมหมายบ่น
สมใจปรี่เข้ามาจะนวดให้พ่อทันที “มา! ฉันนวดให้”
“เออ..สบาย..ใช้ได้เหมือนกันนะเรา รู้จักบีบนวดเอาใจ นึกว่าเป็นแต่ไล่เตะไล่ต่อย”
“แหม..พ่อ”
“โอ๊ย!”
สมใจเขินจึงบีบแขนพ่อแรง ขึ้นจนสมหมายทั้งเจ็บทั้งขำ
“เออ...ว่าแต่เสร็จงานแล้วเราคงต้องจัดเลี้ยงตอบแทนชาวบ้านกันหน่อยนะพ่อปลัด”
สมศรีเอ่ยขึ้น
“ผมว่าอย่าเลยครับ เอ่อ..เก็บสตางค์ไว้ใช้ฟื้นฟูไร่ม่วนใจ๋ดีกว่า ที่สำคัญ ทุกคนเต็มใจช่วยอยู่แล้ว”
“แต่ว่า...”
“จริงด้วยแม่ ภาวะแบบนี้เราควรประหยัด ใช้จ่ายให้คุ้มค่า”
สมใจเห็นด้วยกับปลัดจืด
“ก็จริง...แต่ฉันเกรงใจชาวบ้าน”
“เอางี้ซิ..ยังไงก็เป็นประเพณีปฎิบัติของพวกเราว่าหลังจากเหนื่อยแล้วก็ต้องสนุกสนานกันหน่อย คราวนี้ถ้าเราไม่กินเลี้ยงสังสรรค์กัน แต่เราก็สนุกสนานกันได้นี่นา”
สมหมายออกหัวคิด ในขณะที่สมใจ สมศรี และปลัดจืดยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านได้สนุกจากการทำงานใหญ่ครั้งนี้

หลายวันถัดมา ที่ลานแข่งขันซิกโก๋งเก๋ง อันเป็นประเพณีสืบทอดมาหลายชั่วคนของชาวม่วนแต๊ สมหมายเดินออกมาตรงหน้าชาวบ้านทุกคน ที่แต่งตัวมาร่วมงานกันตามประเพณีม่วนแต๊
“ขอต้อนรับพ่อแม่พี่น้องสู่งานกีฬากระชับความสามัคคีชาวม่วนแต๊ ซิกโก๋งเก๋งถือกำเนิดขึ้นมานานแสนนาน สมัยก่อนถนนหนทางไม่สะดวกเป็นโคลนเป็นฝุ่น เมื่อเดินด้วยเท้าธรรมดา จะทำให้เกิดโรคเท้าขึ้น ชาวชนบทล้านนาถึงคิดหาวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เท้าเปื้อนโคลนฝุ่นและเชื้อโรค จึงคิดทำโก๋งเก๋งออกมาเพื่อใช้เดินอย่างปลอดภัย ต่อมาชาวบ้านนำมาเล่นกันเพื่อความสนุกสนาน แต่ถึงวันนี้ลูกหลานเราเล่นซิกโก๋งเก๋งกันน้อยลงทุกที วันนี้เราจึงขอนำมาฟื้นฟูเพื่ออนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านของเราให้อยู่ยืนยาวสืบไป บัดนี้ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องพบกับความสนุกกันได้แล้ว”
ทุกคนปรบมือ เป่าปากวี้ดวิ่วอย่างสนุกสนาน นักกีฬ่าที่ลงแข่งเดินออกมา ตามด้วยดำเกิง เจ้าคุณและปลัดจืด ที่เหล่มองหน้ากันมาแต่ไกล ทุกคนถือไม้ไผ่ของตัวเองออกมา และสวมชุดชาวเขาเตรียมพร้อมแข่งขัน เคนกับติ๊กเชียร์ลูกพี่สุดใจขาดดิ้น ถือป้าย “ดำเกิงสู้สู้” หรา
“นักกีฬาประจำที่”
สมหมายประกาศเสียงดังลั่น นักกีฬาเข้าประจำที่
แต่ทันใดนั้นสองแม่ลูกหัวใจกิมจิ ลำใยกับลำยองซึ่งแต่งตัวเต็มยศเดินออกมา ร้องขึ้นเสียงดัง
“เดี๋ยวก่อน!”
ทุกคนหันไปมองลำใยกับลำยองด้วยความตกใจ
“พวกเราสองแม่ลูก” ลำยองพูดก่อน
“มีโชว์พิเศษมาให้ชาวม่วนแต๊ทุกคน” ลำใยเสริม
ว่าแล้วลำยองกับลำใยก็โชว์เต้นในมาดเชียร์ลีดเดอร์ อย่างสนุกสนาน
“สู้มั้ยสู้”
ลำยองถามนำร่อง โดยมีลำใยลูกสาวคอยเป็นลูกคู่
“สู้ๆ”
“สู้มั้ยสู้”
“สู้ตาย”
“สู้มั้ยสู้”
ไว้ลาย”
“สู้ตาย”
“สู้ๆ”
ลำยองกับสำใยตบมือเป็นจังหวะ ร้องกันสองคนสลับไปมาอย่างสนุกสนาน แล้วจบด้วยการโพสท่าที่คิดว่าสวย แต่พอมองรอบตัวทุกคนเงียบกริบ ไม่มีใครสนใจ สองแม่ลูกหน้าม้าน สีหน้าค่อยๆ สลดลง
สมหมายจึงเดินไปเป่านกหวีดปรี๊ดที่ข้างหูสองแม่ลูกจนสะดุ้งโหยง
“เริ่มการแข่งขัน!”

ทุกคนส่งเสียงเชียร์นักกีฬาที่ลานแข่งขันโก๋งเก๋ง ที่ผู้เข้าแข่งขัน แข่งกันเดินบนไม้ไผ่
“ขุนทอง ขุนทอง ขุนทอง..” หวานเจี๊ยบส่งเสียงเชียร์เสียงสนั่น
“ขุนทองขุนทอง” คำปุย แคบหมู และไส้อั่วก็เช่นเดียวกัน
สมใจมองเจ้าคุณแอบลุ้นอยู่คนเดียว ปลัดจืดหันไปเห็นรู้สึกใจเสียนิดๆ จึงเร่งแซงเจ้าคุณ แต่เจ้าคุณไม่ยอม รีบแซงกลับปลัดจืด ส่วนกำโป๊งยืนเยิ้มอยู่กับเครือฟ้าพูดคุยกันอย่างสนิทสนมกลมเกลียว
“เห็นแล้วนึกถึงสมัยหนุ่มๆ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว” กำโป๊งว่า
เครือฟ้าส่งตาหวานให้กำโป๊ง
“แม่นกะเจ้า! อ้ายกำโป๊ง แชมป์ซิกโก๋งเก๋ง 3 สมัย เท่ขนาดๆ”
สองคนหันมายิ้มให้กันด้วยความอาย
การแข่งขันเป็นไปอย่างตื่นเต้น ขณะนั้นดำเกิงเร่งแซงหน้าปลัดจืดกับเจ้าคุณ สองคนหันไปมองดำเกิงแล้วก็รีบเร่งเดินอย่างเร็ว จนดำเกิงตามไม่ทัน จึงเหล่ไปข้างทางเห็นสมุนเคนกับติ๊กแอบอยู่ ดำเกิงขยิบตาส่งซิก เคนกับติ๊กหายออกไป
เจ้าคุณเดินมาตามทาง ทันใดนั้นมีท่อนไม้ไผ่ท่อนยาวๆ ยื่นมาขวางตรงหน้ากะให้เจ้าคุณสะดุด แต่เจ้าคุณกลับกระโดดข้ามไปได้ เคนกับติ๊กโผล่หน้าขึ้นมาจากหลังพุ่มไม้ หันไปมองเจ้าคุณอย่างฉงน
“มันข้ามไปได้ไงวะ”
ลูกน้องดำเกิงยังทึ่งในความเก่งกาจสามารถของเจ้าคุณ
เจ้าคุณเร่งฝีเท้าออกเดินตามมาด้วยปลัดจืด และดำเกิง ดำเกิงโมโหที่เห็นปลัดจืดกับเจ้าคุณแซงหน้า
“บ้าเอ๊ย!”
ปลัดจืดเดินไม่ค่อยถนัด เห็นดำเกิงตามมาทัน ดำเกิงขี้โกงยกไม้ไผ่เขี่ยไม้ไผ่ของปลัดจืด ทำให้ปลัดจืดเสียหลักล้มลงไปบนพื้น ดำเกิงหันมายิ้มพร้อมยักคิ้วแล้วรีบเดินไป ปลัดจืดจะลุกแต่ลุกไม่ขึ้น เพราะเจ็บขา มองไปเห็นเลือดไหล
เจ้าคุณได้ยินเสียงจึงหันไป เห็นเหตุการณ์เริ่มไม่พอใจ ดำเกิงยิ้มร้ายอย่างสะใจแล้วรีบเดินลอยหน้าไป
“ขี้โกงนี่หว่า”
“ในการแข่งขันไม่มีคำว่า เพื่อน เว้ย...ไอ้ขุนทอง!”
ดำเกิงรีบเดินไป เจ้าคุณหันไปมองเห็นปลัดจืดเจ็บก็ทนไม่ได้ จึงเข้าไปช่วยยื่นมือส่งให้ ปลัดจืดชะงัก เงยหน้าเห็นเจ้าคุณ ปลัดจืดลังเล ก่อนจะยื่นมือให้ เจ้าคุณรีบดึงปลัดจืดขึ้นมา
“ไป...ลุยต่อ”
“ปล่อยฉันไว้นี่แหละ รีบไปเหอะ ไม่งั้นแพ้แน่”
“ฉันไม่ได้ลงแข่งเพราะอยากชนะ”
เจ้าคุณพูดหน้านิ่ง ปลัดจืดกัดฟันจะเดินต่อ เจ้าคุณพยุงปลัดจืดให้เดินไปด้วยกัน ปลัดจืดอึ้งกับความมีน้ำใจของเจ้าคุณ

เวลาผ่านไป...ดำเกิงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ทุกคนอึ้งตะลึงไม่อยากเชื่อสายตา เคนกับติ๊กแหกปากดีใจกันอยู่แค่สองคน นักกีฬาอีกสามคน ตามเข้าเส้นชัยมา
“ทำไมอ้ายขุนทองยังไม่กลับมา” หวานเจี๊ยบถามขึ้น
“ปลัดจืดด้วย” คำปุยเอ่ยทัก
สมใจชักกังวลใจ ทันใดนั้นก็หันไปเห็นเจ้าคุณประคองปลัดจืดมาไกลๆ แคบหมูกับไส้อั่วเห็นรีบตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“ปลัดจืด!” / “อ้ายขุนทอง!”
ทุกคนหันมองตาม เห็นเป็นเจ้าคุณประคองปลัดจืดที่เลือดอาบขากลับมา ทุกคนตกใจมาก คำปุย หวานเจี๊ยบ แคบหมู ไส้อั่ว ลำยอง และลำใย กรูเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง
“ตาหมาย...” สมศรีเรียกสามีให้ดูปลัดจืด
“อืมม์..เห็นแล้ว”
สมศรีเหลือบมองผัวแล้วอมยิ้ม เมื่อเห็นสมหมายมองเจ้าคุณอย่างทึ่งในความมีน้ำใจ
ส่วนสมใจได้แต่ยืนมองเจ้าคุณอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และซึ้งในน้ำใจเป็นที่สุด

ไม่นานหลังจากนั้น ปลัดจืดทำแผลอยู่ที่อนามัย ทุกคนยืนรอด้วยความเป็นห่วง
“เป็นไงปลัด” สมใจรีบถามอาการ
“สบายมาก” ปลัดจืดยิ้ม
“โธ่! พี่ใจ๋ สมัยนี้คนดีตายง่าย คนชั่วตายยาก ก็รู้อยู่”
หวานเจี๊ยบนั่นเองประชดใส่ปลัดจืด จนอีกฝ่ายหันไปมองหวานเจี๊ยบที่ทำลอยหน้าลอยตา
“ไม่เป็นอะไรกันก็ดีแล้ว” สมหมายเอ่ยขึ้น
ปลัดจืดยื่นมือไปจับเพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าคุณ “ขอบใจ”
ทุกคนมองปลัดจืดกับเจ้าคุณจับมือกัน สองหนุ่มยิ้มให้กัน

สมใจยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีและมีความสุข ที่เห็นสองคนเริ่มเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น

อ่านต่อหน้า 3 พรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.






 รักออกอากาศ  ตอนที่ 9 (ต่อ) 

บ่ายวันนั้น กำโป๊งตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นแมทธิวบุกมาหาถึงที่บ้าน

“สวัสดีครับ..ลุงกำโป๊ง!”
แมทธิวยกมือสวัสดีกำโป๊ง
“ใครอ่ะ..ลุง”
กำโป๊งยังไม่ทันพูดอะไร เอมี่ก็วิ่งกรี๊ดมาเกาะแขนแมทธิว
“อี๊! แมท เนี่ยเหรอที่คุณคะคุณขาต้องมาอยู่ นี่มันบ้านหรือว่าเล้าหมูกันแน่เนี่ย”
กำโป๊งกับไส้อั่วแอบไม่พอใจ
“อ้าว! แล้วนี่ใคร..หน้าตาน่าเกลี๊ยดน่าเกลียด”
กำโป๊งกับไส้อั่วยิ่งเคือง
“สวยตายนี่ อีว่อก!”
เอมี่กรี๊ดหลังโดนไส้อั่วด่า
“เด็กอะไรหน้าตาน่าเกลียดแล้วยังพูดจาหยาบคายนะ..แก บอกมานะ..ตาแก่ คุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน”
“ขาใครไม่ทราบจ๊ะอีว่อก เอ๊ย! อีหนู”
กำโป๊งเอาคืน
“ว๊าย! นี่ก็ตาแก่ หน้าตาน่าเกลียดแล้วยังหูตึง ฉันถามว่าคุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้!”
แมทธิวหัวเราะ
“เจ้าคุณน่ะลุง เราหมายถึงเจ้าคุณ”
“ เจ้าคุณ”
กำโป๊งสะดุ้ง ตกใจเพราะกลัวไส้อั่วจับได้
“ใช่! ไอ้ขุนทองหลานรักของลุงไง”
“อะไรอ่ะลุง ไอ้พวกนี้มันเป็นใคร”
ไส้อั่วยิ่งสงสัย
“ฉันจะเป็นใคร จำหน้าฉันไว้เลยนะ..ฉันนี่แหละเมียในอนาคตของอ้ายขุนทองของแก”
“ห๊า! ไม่จริ้ง!”

กำโป๊งรีบลากไส้อั่วออกมาห่างๆ แล้วกระซิบใส่หู
“ไอ้อั่ว! อย่าไปฟังมัน ไอ้พวกนี้มันบ้า มันต้องเป็นเพื่อนไอ้ขุนทองจาก โรงพยาบาลบ้าแน่ๆ”
“ว่าแล้วเชียว”
ไส้อั่วเริ่มเชื่อ
“นี่ถ้าปล่อยให้พวกมันได้เจอกัน มีหวังไอ้ขุนทองต้องกลับไปบ้าอย่างเก่าแน่”
“ห๊า!”
“เอ็งต้องช่วยไอ้ขุนทองมันนะไอ้อั่ว”
“ช่วยยังไงล่ะลุง”
ไส้อั่วถามอย่างไม่เข้าใจ กำโป๊งกระซิบอีกครั้ง ไส้อั่วตาวาว พยักหน้ารับ
“ตกลงยังไงยะ คุณคะคุณขาของฉันอยู่ไหน”
เอมี่เร่งถามเอาเรื่อง
“อ๋อ..ตอนนี้มันไม่อยู่ที่นี่หรอกอีหนู”
“ถ้างั้นมันอยู่ที่ไหน รีบพาฉันไปหามันเดี๋ยวนี้”
แมทธิวเร่งหาตัวเจ้าคุณ
“ได้ซิ..ข้าจะให้ไอ้อั่วมันพาไปเดี๋ยวนี้เลย”
กำโป๊งมีแผนในใจ ไส้อั่วอมยิ้มทำตามแผน

ต่อจากนั้นไส้อั่วพา แมทธิวกับเอมี่ไปที่เลี้ยงช้าวงในป่า
“อร้าย! อะไรนะ ต้องขี่ช้างไป”
เอมี่เริ่มโวยวาย ไส้อั่วเริ่มกรี๊ดเลียนแบบบ้าง
“อร้าย! ใช่แล้ว”
“ไม่นะแมท ไม่เด็ดขาด มี่กลัว มี่ไม่ขี่”
“นี่..แกอย่ามาล้อเล่นกับฉันนะไอ้เด็กบ้า”
แมทธิวเริ่มขู่
“งั้นก็ตามใจ อ้ายขุนทองเข้าไปในป่าลึกนู่น ไม่รู้จะกลับวันไหน ถ้าไม่ขี่ช้างเข้าไปหาก็กลับไปนอนรอที่บ้านลุงกำโป๊งซักคืนสองคืนละกัน ไป!”
ไส้อั่วแกล้งทำท่าจะเดินกลับ
“เฮ๊ย เดี๋ยวดิ!”
แมทธิวรีบเรียกไว้ ในขณะที่เอมี่จะไม่ยอมนอนค้างที่บ้านกำโป๊ง
“ไม่นะแมท! มี่ไม่มีทางนอนค้างที่เล้าหมูนั่นเด็ดขาดนะ”
“งั้นจะเอาไงเจ๊ ไม่เข้าไปหาในป่า แล้วก็ไม่นอนค้าง แล้วเจ๊จะเจออ้ายขุนทองได้ไง”
“ใครเจ๊แก ทะลึ่ง”
“ตามใจ! กลับดีกว่า”
“เดี๋ยว! เอมี่....ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ไปลากตัวไอ้คุณมันออกมาดีกว่า”
“แมท!”
แมทธิวสบตาอย่างร้าย จนเอมี่ต้องยอมไป ไส้อั่วแอบยิ้มกับแผนที่ร่วมวางกันไว้กับกำโป๊ง

ไม่นานต่อจากนั้น เอมี่กับแมทธิวขึ้นหลังช้างอย่างทุลักทุเล โดยมีไส้อั่วยืนดูอยู่
“อ้าว! แล้วแกล่ะ”
เอมี่ถาม
“ถ้าฉันนั่งไปด้วยเดี๋ยวอ้ายขุนทองก็ไม่มีที่นั่งกลับมาน่ะซิ พวกเจ๊ไปกันแค่นั้นแหละ”
“อ้าว! เฮ๊ย!”
“ไม่ต้องห่วง อ้ายควาญช้าง เขารู้ว่าอ้ายขุนทองอยู่ที่ไหน ใช่มั้ยอ้าย”
“อือ...”
ควาญช้างตอบสั้นๆ แล้วรีบทำตามแผนไส้อั่วทันที
“แน่นะ..ไอ้เด็กบ้า!...ถ้าฉันไม่เจอคุณคะคุณขาล่ะ ฉันเอาแกตายแน่”
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่ ไปเลย”
ช้างออกเดิน เอมี่ไม่ทันตั้งตัวหน้าหงาย
“ว๊าย!”
“ไอ้ฉันน่ะ ไม่ตายหรอก กลัวเจ๊จะตายซะก่อนน่ะเซ่..ก๊ากๆ”
เอมี่เริ่มกลัว ในขณะที่ไส้อั่วกำลังสนุก

ต่อจากนั้นเอมี่กับแมทธิวนั่งอยู่บนหลังช้างกลางแม่น้ำ เอมี่ร้องโวยวายบนหลังช้างไม่ยอมหยุด
“เอมี่! เดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก”
แมทธิวเริ่มรำคาญ
“แมท! มี่กลัว”
“กลัวแล้วไง จะกลับเหรอ ก็โดดลงไปซิ”
แมทธิวพูดโดยไม่แยแส
“บ้าเหรอ! พูดออกมาได้ ใครจะโดดลงไป”
“เบาๆ หน่อย เจ้าตัวนี้มันขี้ตกใจ”
ควาญช้างรีบเตือน
“อร้าย! อะไรยะ ตัวยังกะตึกทำมาขวัญอ่อน เชอะ! นี่แน่ะๆ หมั่นไส้”
เอมี่รีบเอากระเป๋าตีหลังช้าง ด้วยความหมั่นไส้ จนควาญช้างรีบตะโกนห้าม
“เฮ๊ย! อย่า!”
ทันใดนั้นช้างชูงวงร้องเสียงดัง เอมี่กับแมทธิว หงายเงิบ ร่วงลงน้ำแล้วร้องลั่น
“เฮ้อ! ก็บอกแล้ว ว่ามันขี้ตกใจ”
เอมี่กับแมทธิวตกอยู่ในน้ำสภาพเลอะเทอะดูไม่จืด

ใขณะที่ไส้อั่วกลับไปที่บ้านนั่งขำตัวงออยู่กับกำโป๊ง
“พอปีนขึ้นฝั่งมาได้ มันก็เผ่นแน่บกลับไปเลยลุง”
ไส้อั่วรายงานแผนการ
“ดีมาก ไอ้อั่ว สมกับเป็นหลานข้าจริงๆ ว่าแต่เรื่องของไอ้สองคนนั่น เอ็งห้ามไปบอกใครเด็ดขาดนะ”
อั่วแอบสงสัยทำไมถึงพูดไม่ได้
“ทำไมล่ะลุง”
“เอ๊ะ! ไอ้นี่! สั่งว่าห้ามบอกก็ห้ามบอกซิวะ ไม่ต้องถาม เข้าใจมั้ย”
ไส้อั่วได้แต่มอง
“เข้าใจจ๊ะ ไม่บอกใครเด็ดขาด!”
กำโป๊งแอบถอนใจหวั่นว่าเรื่องเจ้าคุณอาจจะไม่เป็นความลับแน่ในวันข้างหน้า

ต่อจากนั้น ไส้อั่วพาหาแคบหมูที่มุมหนึ่งของบ้านสมใจ
“ว่าไงนะไอ้อั่ว เพื่อนอ้ายขุนทองมาตามหาอ้ายขุนทอง”
แคบหมูถามอย่างตกใจ
“เออ! เพื่อนเป็นบ้าด้วย”
“เพื่อนเป็นบ้า”
“เออ! ว่าแต่เอ็งห้ามไปบอกใครนะเว๊ยนังแค๊บ เดี๋ยวลุงกำโป๊งเอาข้าตาย”
แคบหมูเริ่มสงสัย
“มันยังไงวะเนี่ย ข้าว่ามันมีกลิ่นนะ”
ไส้อั่วรีบดมรักแร้ตัวเอง
“ก็นิดนึง”
“ไอ้ง่าว! ข้าหมายถึงเรื่องอ้ายขุนทอง”
“อ้าว! มีกลิ่นไงวะ”
แคบหมูครุ่นคิดเรื่องเจ้าคุณอย่างสงสัย

ไม่นานต่อจากนั้น เจ้าคุณกลับไปที่บ้าน กำโป๊งจึงรีบรายงานว่าแมทธิวและเอมี่มาหาเจ้าคุณถึงที่บ้าน
“แมทธิวกับเอมี่มาที่นี่”
เจ้าคุณตกใจ ในขณะที่กำโป๊งเริ่มเต็มไปด้วยอารมณ์เซ็ง
“ข้าว่าความบรรลัยมันใกล้จะมาเยือนบ้านข้าเข้าไปทุกทีแล้ว ทางที่ดีเอ็งรีบกลับกรุงเทพฯไปเหอะ ไปซะตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยก็ได้ หายสาบสูญไปดื้อๆ งี้ล่ะ ไม่ต้องอะไรเยอะ”
“ไม่ได้หรอกลุง”
“ได้ซี่ ทำไมจะไม่ได้ ไอ้ที่เอ็งตั้งใจจะเอาเงินมาช่วยนังใจ๋มัน เอ็งก็ช่วยไปแล้วนี่นา”
“แต่ฉันยังไม่ได้บอกลาสมใจเลยซักคำ”
กำโป๊งแอบกังวลกลัวความลับแตกในไม่ช้า ในขณะที่เจ้าคุณยังเศร้าเมื่อยังไม่ได้บอกลาสมใจ

เวลาต่อมา ที่บ้านสมใจกำลังคุยเรื่องกาแข่งขันกีฬาที่เพิ่งผ่านพ้นมา
“แข่งกีฬาอย่างนี้ก็สนุกดีนะจ๊ะแม่”
สมใจยิ้มอย่างมีความสุข
“นั่นซิ..พ่อเรานี่ก็เข้าใจคิดนะไอ้ใจ๋”
สมศรีชมสมหมายอย่างจริงใจ ในขณะที่สมหมายนั่งภูมิใจเช่นกัน
“แน่นอนอยู่แล้ว คนอย่างพ่อหมายธรรมดาซะที่ไหน ไอคิวเป็นเลิศ”
“นั่นไง...ชมนิดชมหน่อยเป็นไม่ได้”
สมศรีหัวเราะ สมหมายเข้ามากอดเมียอย่างมีความสุข
“โถ..ก็นานๆ เมียจะชมซักกะทีนี่นา”
สมใจมองพ่อแม่อย่างมีความสุข
“หึ้ย! ตาหมาย อายลูกมัน”
“อายทำไม ก็คนเขารักกัน เนาะๆ”
สมหมายยิ่งกอดสมศรีแน่นเข้าไปอีก สมใจอมยิ้ม ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้
“ใช่จ๊ะ ฉันชอบออก เห็นพ่อแม่รักกันแบบนี้ เอ่อ เดี๋ยวฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ ตัวเหม็นน่าดู”
สมใจเดินขึ้นบ้านไป
“ข้าว่าไอ้ใจ๋มันแปลกๆ นะตาหมาย”
สมศรีแอบเปรยกับสามี
“แปลกยังไง”
“มันดูเศร้าๆ”
“เศร้ายังไง คิดมาก”
“ไม่ล่ะ..มันดูเศร้าๆ..เหงาๆ”
สมหมายอึ้ง มองหน้าเมียแล้วหันมองลูกสาวที่กำลังเดินไปอย่างครุ่นคิด

สมหมาย เดินตามสมใจที่กำลังเดินด้วยความเซ็ง ไปหยิบขัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว เตรียมจะไปอาบน้ำที่คลอง
“ใจ๋”
สมหมายเรียกลูกสาว
“จ๊ะพ่อ”
สมหมายเดินเข้ามาหาลูกสาวแล้วมองหน้า
“เหนื่อยมากมั้ยลูก”
“อะไรนะพ่อ”
“พ่อถามว่าเอ็งเหนื่อยมากมั้ย ต้องช่วยพ่อทำไร่ชามาแต่ไหนแต่ไร”
“โธ่พ่อ..จู่ๆ นึกยังไง..มาถาม ไม่เหนื่อยหรอก”
สมใจยิ้มให้พ่อ ที่มองมาด้วยสายตาอ่อนโยน
“ถ้างั้นเหงามั่งมั้ย”
“ว่าไงนะ”
สมหมายลูบหัวลูกสาว
“เอ็งเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ ไม่มีพี่มีน้อง...”
“พ่อ...”
สมหมายกอดสมใจอย่างรักสุดดวงใจ
“พ่อน่ะทั้งรักทั้งหวงเอ็งมากนะใจ๋ แต่ถ้าวันนึงพ่อกับแม่เป็นอะไรไป...”
สมใจรีบผละกออกเมื่อได้ยินพ่อพูดแบบนั้น
“พ่อ! อย่าพูดอย่างนี้ซิ!”
“ปลัดจืดเขาเป็นคนดี”
สมหมายเข้าเรื่อง
“..นั่นไง...ว่าแล้ว...”
“...ไอ้ขุนทองก็ด้วย”
สมใจช็อก
“พ่อ!”
“ใครก็ตามที่จะทำให้ลูกสาวพ่อมีความสุข พ่อไม่เคยรังเกียจ”
สมใจน้ำตารื้น แทบไม่อยากจะเชื่อหู
“แต่ถ้าใครมันบังอาจทำให้ลูกสาวพ่อมีความทุกข์ มันตาย!”
สมใจหัวเราะทั้งน้ำตา แล้วเข้าไปกอดพ่อ
“พ่อ!”
“แต่คนเราจะดีจริงหรือไม่ มันต้องดูกันนานๆ เพราะถึงแม้วันนี้จะดี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพรุ่งนี้มันจะดีเหมือนวันนี้ จำไว้นะลูก”
“จ๊ะพ่อ..ฉันจะจำคำพ่อไว้”
“ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมเด็ดขาดว่า เอ็งเป็นลูกผู้หญิง แล้วก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อด้วย”
สองคนพ่อลูกกอดกันแน่น สมศรีแอบมองอยู่ยิ้มอย่างภูมิใจ สมใจดูมีความสุขขึ้นมาทันตา

วันเดียวกัน สมใจปั่นจักรยานอย่างเร็วมาตามทางอย่างมีความสุข มุ่งตรงไปหาเจ้าคุณที่บ้านกำโป๊ง
“ขุนทอง! อ้ายขุนทอง!”
สมใจตะโกนเรียกขุนทองเสียงดังลั่น
“อร้าย! แสบหูนะเจ๊ใจ๋ ทำไมต้องตะโกนซะดังแก้วหูแทบแตก”
“ขุนทองล่ะไส้อั่ว ขุนทองไปไหน”
“อ้ายขุนทอง... ไปแล้ว”
ไส้อั่วแกล้งทำเสียงเศร้า จนสมใจแอบใจหาย
“ไปแล้ว ไปไหน อ้ายขุนทองไปไหน ไส้อั่วอ้ายขุนทองไปไหน”
“ไปอาบน้ำ ก๊ากๆ”
“นี่แน่ะ! ไอ้อั่วบ้า!”
สมใจผลักไส้อั่วหน้าหงายแล้วรีบปั่นจักรยานออกไปทันที
“อูย...ยังไงวะเนี่ย.. เป็นไรเยอะยะเจ๊ เอ๊ะ...มีกลิ่นนะเนี่ย”
ไส้อั่วทำจมูกฟุดฟิด แล้วแอบสงสัยว่าสมใจมาตามหาเจ้าคุณเพราะอะไรกันแน่

เย็นนั้น สมใจปั่นจักรยานมาที่คลองอาบน้ำแล้วมองไปที่เจ้าคุณที่นั่งถอดเสื้ออยู่ที่ทางเดินริมคลอง สมใจแอบยิ้มแล้วค่อยๆ จอดจักรยานย่องไปหาด้านหลัง แล้วผลักเจ้าคุณอย่างแรง
“เฮ๊ย!”
เจ้าคุณตกใจร่วงลงน้ำ สมใจยืนขำกลิ้ง
“ฮ่าๆ”
เจ้าคุณส่ายหน้าพอรู้ว่าเป็นสมใจ
“อ่ะ! ขำ...ขำ...ขำมากมั้ย”
“มาก! ฮ่าๆ”
เจ้าคุณมองสมใจที่หัวเราะด้วยความเป็นธรรมชาติ
สมใจรู้สึกตัวว่าโดนเจ้าคุณจ้อง เลยชะงักหัวเราะค้างเติ่ง
“ฮ่าๆ...เฮ๊ย! มองอะไร”

สมใจเขิน ส่วนเจ้าคุณยังมองแล้วยิ้ม แต่ไม่ยอมตอบ
“แน้! นี่แน่ะ!”
สมใจเขินมากเข้าจึงหยิบสบู่ขว้างใส่เจ้าคุณ เจ้าคุณหลบทัน สมใจจึงคว้าขันขว้างตามไปติดๆ
“นี่แน่ะ!”
คราวนี้โดนหัวเจ้าคุณอย่างจัง เจ้าคุณกุมหัวแกล้งเจ็บแล้วจมหายไปในน้ำ
“ขุนทอง! ขุนทอง!” สมใจเริ่มใจคอไม่ดี
น้ำนิ่งไม่มีรอบกระเพื่อม
สมใจยิ่งตกใจมากขึ้น ร้องเรียกขุนทองดังลั่น
“ขุนทอง! ขุนทอง!”

เห็นเจ้าคุณยังไม่โผล่ขึ้นมา สมใจจึงตัดสินใจกระโดดลงไปหาเจ้าคุณในน้ำทันที สมใจพุ่งลงมาหาเจ้าคุณ แต่ ยังหาไม่เจอ
แต่พอจังหวะที่หันกลับมาอีกครั้ง หน้าแทบชนกับเจ้าคุณที่ยิ้มอยู่ใกล้ๆ สมใจผลักหน้าเจ้าคุณหงายเงิบ แล้วจะพุ่งขึ้นเหนือน้ำ เจ้าคุณคว้าข้อมือสมใจไว้ สมใจสะบัดหลุด จะพุ่งหนี แต่ช้ากว่าเจ้าคุณ ที่กระโดดรวบตัวสมใจไว้ได้ แล้วดึงรั้งเข้ามาใกล้

สมใจแกล้งชี้มือชี้ไม้เหมือนจะบอกว่าตัวเองจะหมดอากาศหายใจ แต่เจ้าคุณไม่ฟัง คว้าสมใจมาบรรจงจูบอย่างดูดดื่ม

อ่านต่อหน้า 4 เวลา 17.00 น





 รักออกอากาศ  ตอนที่ 9 (ต่อ) 

เจ้าคุณยังคงเอาปากประกบปากสมใจแนบแน่นอยู่อย่างนั้น สมใจตกใจตาเหลือก ก่อนจะนึกได้พยายามเอามือผลักออก แต่โดนเจ้าคุณรวบมือสมใจไว้แล้วยังจูบต่อไปอีก สมใจเริ่มนิ่งหลับตาพริ้ม
 
ไม่นานนักเจ้าคุณจึงค่อยๆ ผละออก จ้องมองหน้าสมใจอย่างรักสุดดวงใจ สมใจลืมตาขึ้นมองเจ้าคุณพอดี  สองหนุ่มสาวสบตากัน แต่พอสมใจจะได้สติ รีบผลักร่างเจ้าคุณแล้วทะลึ่งพรวดขึ้นเหนือน้ำทันที จากนั้นเจ้าคุณจึงโผล่ตามขึ้นมา
“ใจ๋...เป็นไงบ้าง”
เจ้าคุณถามดว้ยความห่วงใย สมใจจ้องหน้าก่อนจะตบเจ้าคุณจนหน้าหันด้วยความโกรธ
“ยังจะมีหน้ามาถาม!”
เจ้าคุณมองด้วยความสงสัย “ใจ๋...”
“ฉันเกลียดคนฉวยโอกาสที่สุด!”
“ฉวยโอกาส ฉันฉวยโอกาสตอนไหน...ใจ๋”
“ก็ตอน...ตอน..ตอนเมื่อกี๊..ในน้ำไง”
เจ้าคุณเต็มไปด้วยความงง
“ในน้ำ เข้าใจผิดแล้วใจ๋ ฉันตั้งใจจะช่วยเธอนะ”
“ช่วยฉัน ช่วยจูบฉันเนี่ยนะ”
“จูบ”
“ก็เออซิ”
“ใจ๋..ฉันเห็นเธอทำท่าเหมือนจะขาดอากาศก็เลยช่วย..เอ่อ..ช่วย..แบ่งออกซิเจนให้”
“แบ่งออกซิเจน”
เจ้าคุณมองจ้องตาอย่างจริงใจแทนคำตอบ สมใจเห็นสายตาแล้วเริ่มเสียงอ่อนลง
“จริงเหรอ”
เจ้าคุณพยักหน้า สมใจเฉไฉไปมองทางอื่น เจ้าคุณจ้องสมใจอย่างรักเหลือเกินก่อนจะค่อยๆ เอามือปัดผมที่ปรกหน้าใจ๋ เจ้าคุณมองสมใจก่อนตัดสินใจจะบอกลา
“ใจ๋...”
“หื้ม”
“ถ้าเรา...”
เจ้าคุณพูไม่ออกแล้วนิ่งไป
“ถ้าเรา..ทำไม”
“ถ้าเรา..จะไม่ได้เจอกันอีก...”
สมใจรีบสวน
“ทำไมล่ะ ทำไมเราจะไม่ได้เจอกันอีก”
เจ้าคุณเห็นสมใจตกใจเลยพูดไม่ออก
“คือ...ถ้าสมมตินะ..สมมติว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก...”
สมใจจ้องตาเจ้าคุณนิ่ง
“....เธอจะ..คิดถึงฉันบ้างมั้ย”
สมใจฟังแล้วหลบตา
“จะสมมติทำไม..ยังไงเราก็ต้องเจอกันทุกวัน อยู่บ้านใกล้กันแค่นี้ ทำไม นายจะหนีฉันไปไหน อ๋อ..คิดจะอู้ไม่ไปช่วยงานที่ไร่เรอะ เดี๋ยวจะโดน”
สมใจเฉไฉไปเรื่องอื่น จนเจ้าคุณอึ้งไป
“เปล่า...ไม่ใช่อย่างนั้น”
“แล้วอย่างไหน”
สมใจคาดคั้น
“ถ้าฉัน...เอ่อ...สมมติถ้าฉัน..หนีไปจริงๆ...เธอจะโกรธฉันมั้ย”
“แน่นอน! นายตายแน่!”
เจ้าคุณยิ่งทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าสู้หน้า ตัดสินใจรวบตัวสมใจมากอดแน่น สมใจอึ้งไป ก่อนแหงนมองหน้าเจ้าคุณอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรของนายเนี่ย”
เจ้าคุณจ้องตา ยังไม่คลายอ้อมกอด
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...อย่าโกรธฉันนะ..ใจ๋”
สมใจมองอย่างไม่เข้าใจ เจ้าคุณยังพูดต่อ
“....คิดถึงฉันบ้าง...”
สองคนมองตากัน เจ้าคุณค่อยๆ ก้มหน้าไปใกล้ใจ๋เกือบจะจูบ ทันใดนั้นหวานเจี๊ยบมาเห็นเข้าถึงกับตกใจ
“ว๊าย!”
เจ้าคุณกับสมใจสะดุ้งหันขวับเห็นหวานเจี๊ยบยืนอึ้งตะลึงปากคอสั่น
“พี่ใจ๋..อ้ายขุนทอง...สองคน..ทำอะไรกันน่ะ”
หวานเจี๊ยบเสียงสั่น สมใจกับเจ้าคุณตกใจพูดไม่ออก สมใจรีบผลักเจ้าคุณออก แล้วตะโกนเรียกหวานเจี๊ยบ
“เดี๋ยว...หวานเจี๊ยบ...”
“พี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...นี่พี่ใจ๋....ไม่จริ้ง!”
หวานเจี๊ยบวิ่งออกไปทันที สมใจตะโกนเรียกไว้แต่ไม่ยอมฟัง
“หวานเจี๊ยบ..ฟังก่อน...หวานเจี๊ยบ! แย่แล้ว”
สมใจมองหน้าเจ้าคุณด้วยความเครียด โดยไม่รู้ว่าสองแม่ลูกลำยองกับลำใยแอบดูอยู่ที่พุ่มไม้แล้วเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ไม่นานต่อจากนั้น สมใจตามมาทันหวานเจี๊ยบที่นั่งร้องไห้ เพราะสะดุดล้ม หวานเจี๊ยบนั่งกุมขาไว้ สมใจวิ่งตามมาเจอ ในสภาพตัวเปียกเพราะเพิ่งขึ้นมาจากน้ำกับเจ้าคุณ
“หวานเจี๊ยบ เป็นไงมั่ง”
สมใจถามหวานเจี๊ยบอย่างเป็นห่วง
“พี่ใจ๋...หวานเจี๊ยบไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...”
หวานเจี๊ยบสะอื้น
“ไม่นะ..หวานเจี๊ยบ...ฟังก่อนนะ..มันไม่ใช่อย่างที่หวานเจี๊ยบคิดนะ”
“จริงเหรอ พี่ใจ๋อย่าโกหกหวานเจี๊ยบนะ พี่ใจ๋ไม่ชอบคนโกหก หวานเจี๊ยบก็ไม่ชอบคนโกหกเหมือนกัน”
สมใจอึ้งไป เจ้าคุณตามมายืนมองห่างๆ ไม่ให้สองสาวเห็น
“เมื่อกี๊...ขุนทองเค้า..เขาแค่ช่วย...ไม่ให้ฉันจมน้ำ”
“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องทำท่าเหมือนจูบกันด้วย ฮือๆ”
สมใจตกใจรีบตอบ
“ไม่นะ! ไม่ได้จูบ”
หวานเจี๊ยบรีบปาดน้ำตา
“ก็ได้..หวานเจี๊ยบเชื่อพี่ใจ๋..แต่พี่ใจ๋แน่ใจนะ ว่าพี่ใจ๋กับอ้ายขุนทอง...”
“หวานเจี๊ยบ รีบกลับบ้านไปล้างแผลเถอะเดี๋ยวจะอักเสบเป็นหนองนะ”
“ก็ได้...หวานเจี๊ยบเชื่อพี่ใจ๋”
สมใจถอนหายใจ ในขณะที่เจ้าคุณแอบได้ยินสุดเศร้ากับสิ่งที่ได้ยิน

เย็นนั้น สมใจกับเจ้าคุณเดินคุยกันมาถึงหน้าบ้าน ด้วยสภาพเนื้อตัวเปียกทั้งคู่
“ฉันขอโทษที่ทำให้หวานเจี๊ยบเข้าใจผิด”
สมใจอึ้งไปเพราะความจริงแล้วหวานเจี๊ยบไม่ได้เข้าใจผิดแต่อย่างใด
“....ช่างมันเถอะ”
“เธอ..ไม่โกรธฉันใช่มั้ย”
“ไม่โกรธหรอก เรื่องแค่นี้ โชคดีนะที่เป็นหวานเจี๊ยบ นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นละก็ได้รู้กันทั้งหมู่บ้านแน่”
สมใจพูดจบก็ชะงักกึก อึ้ง เจ้าคุณมองตามสายตาสมใจ เห็นทุกคนในบ้านกำลังจ้องมาที่ทั้งคู่ตาเขม็ง
“แย่แล้ว!”
“ไอ้ใจ๋!”
สมหมายเรียกสมใจเสียงดังขึ้นมา สมใจหน้าเสีย
“อ้ายขุนทอง”
ปลัดจืดพุ่งเข้าชกหน้าเจ้าคุณคว่ำไปกองกับพื้น ทุกคนส่งเสียงวี๊ดว๊ายลั่น
“ขุนทอง!”
สมใจจะวิ่งไปหาขุนทอง แต่สมหมายเรียกไว้ก่อน
“ไอ้ใจ๋!”
สมใจชะงัก สมหมายจ้องเขม็ง

“นี่มันอะไรกัน ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”
สมใจหันไปที่ปลัดจืด
“ ถามไอ้ขุนทองดีกว่ามั้ยว่าทำไมถึงกล้าทำขนาดนั้น”
“กล้าทำ ขุนทองกล้าทำอะไร”
สมใจยังไม่เข้าใจ จนลำใยแทรกขึ้นมา
“อร้าย! ยังจะกล้าถาม กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ทำอะไรไม่อายผีสางเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา”
ลำยองรีบเสริมลูกสาวทันที
“ใช่! ไม่เคยคิดเลยว่าลูกสาวพ่อหมายกะแม่ศรีจะกล้าทำให้พ่อแม่อับอายขายขี้หน้าได้ถึงขนาดนี้”
สมใจตวาดเสียงใส่สองแม่ลูกทันที
“พูดอะไรน่ะ ปากตำแยทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะ”
“ไอ้ใจ๋! หยุดได้แล้ว”
สมหมายเสียงดังขึ้น จนสมใจชะงัก แล้วสมหมายเดินไปมองหน้าเจ้าคุณ
“ไอ้ขุนทอง! แม่ลำยองกับลำไยมาเล่าให้ข้าฟังว่าเอ็งทำมิดีมิร้ายไอ้ใจ๋ที่บึงอาบน้ำ จริงรึเปล่าวะ”
เจ้าคุณกับสมใจหันขวับมองลำยองกับลำใย สองแม่ลูกรีบหลบสายตา สมใจโกรธโพล่งขึ้น
“อ๋อ...ที่แท้ก็ 2 แม่ลูกนี่เอง”
สมใจปรี่จะเข้าลุยสองแม่ลูก คำปุยกับแคบหมูรีบดึงตัวสมใจไว้
“จริงรึเปล่า ตอบมา!”
ปลัดจืดถามใส่หน้าเจ้าคุณ
“เปล่า”
“โกหก!”
ปลัดจืดไม่เชื่อ
“หยุดนะปลัด! อย่าทำอะไรขุนทองนะ”
สมใจเอาตัวขวางปลัดจืดไว้ จนอีกฝ่ายชะงัก ทุกคนมองอึ้งเช่นกัน
“ถ้าทุกคนจะเรียกการช่วยเหลือคนขาดอากาศในน้ำว่าทำมิดีมิร้ายล่ะก็ เชิญปลัดต่อยขุนทองให้ตายไปเลย เชิญ!”
ทุกคนอึ้ง สมหมายยังไม่เข้าใจที่สมใจพูด
“ช่วยเหลือคนขาดอากาศในน้ำ”
“ใช่! ขุนทองช่วยฉัน ไม่งั้นฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
ลำใยแทรกขึ้นอีกครั้ง
“ช่วยยังไง ช่วยกันอีท่าไหน ถึงต้องกอดรัดฟัดกันนัวเนียด้วยห๊า!”
“กอดรัดฟัดกันนัว”
ทุกคนฮือฮา
“ใจ๋...ยังไงอ่ะลูก”
สมศรีถามลูกสาวด้วยความห่วงใย
“ขุนทองต้องดึงฉันขึ้นจากน้ำ ถ้าไม่ให้เอามือรัดฉันขึ้นมาแล้วจะให้เอาตีนรัดรึไงไม่ทราบนังลำไย”
ลำใยสะดุ้งเฮือก
“นั่นซิ! ไว้ให้เป็นศพแกลอยอืดขึ้นมาก่อนเถอะ แล้วค่อยใช้ตีนเขี่ย..ฮ่าๆ”
คำปุยกับแคบหมู และชาวบ้านบางคนพากันหัวเราะ แต่สองแม่ลูกเริ่มไม่พอใจ
“นี่พ่อหมาย! แต่ม่วนแต๊ของเราน่ะมีธรรมเนียมชายใดแตะเนื้อต้องตัวแม่หญิงเยี่ยงนี้ แม่หญิงก็จะต้องเสียผีมีมลทิน เป็นที่ดูหมิ่นดูแคลนของชาวบ้าน เป็นกาลกิณีของผีสางเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา จริงมั้ยพวกเรา”
ลำยองทักท้วง ชาบ้านเริ่มสงเสียงฮือฮา สมใจกับเจ้าคุณมองหน้ากัน
“โบราณ! นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้วน้าลำยอง”
“ จริงด้วย! พูดยังกะลูกน้ารักนวลสงวนตัวนักนี่”
คำปุยย้อนลำยอง
“แน้ๆ เด็กพวกนี้ทำผิดแล้วยังจะมาย้อน พ่อหมายกับแม่ศรีจะว่ายังไง”
สมหมายกับสมศรี มองหน้ากัน สมหมายจ้องหน้าเจ้าคุณอย่างห้โอกาส ไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะสมหมายมองออกว่าสมใจและเจ้าคุณแอบมีใจให้กันอยู่บ้าง
“ขุนทอง...ม่วนแต๊ของเรามีขนมประเพณี...ตอบมาตรงๆ...เอ็งคิดยังไงกับลูกสาวข้า”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจตกใจสมหมายเร่งเอาคำตอบ
“ว่าไง”
เจ้าคุณอึ้ง สมใจแอบลุ้น ส่วนปลัดจืดปวดใจเป็นที่สุด เจ้าคุณเริ่มติดอ่าง
“ชะ..ชะ..ฉัน..ฉันตั้งใจจะช่วยสมใจจริงๆ...ไม่ได้คิดอะไรเลย”
สมใจได้ฟังแล้วอึ้งไป เสียใจอย่างบอกไม่ถูก ปลักจืด สมหมาย คำปุย และแคบหมูทุกคนงงไปตามๆกัน
ส่วนลำยองกับลำไยเริ่มไม่พอใจ ชาวบ้านเริ่มแตกฮือ
“ว่าไงนะ”
สมหมายถามย้ำ
เจ้าคุณนิ่งไป เหลือบมองสมใจที่เริ่มเบือนหน้าหนี กลั้นน้ำตา แล้วยิ้มกลบเกลื่อน
“ได้ยินรึยัง ฉันกับขุนทองไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่เคยคิดอะไรแม้แต่นิดเดียว!”
สมใจพูดจบก็วิ่งขึ้นบ้านไปทันที เจ้าคุณใจหายวูบ
“เห็นมั้ย เพราะน้าลำยองกับนังลำใยแท้ๆ เอาอะไรมาพูด พูดจาอะไรไม่รู้จักคิด!”
คำปุยกับแคบหมูวิ่งตามสมใจออกไป สมหมายกับสมศรี มองตามลูกอย่างเป็นห่วง ปลัดจืดมองเจ้าคุณอย่างไม่เชื่อ แต่เจ้าคุณแอบใจหายและเศร้าเมื่อรู้ว่าลึกๆอาจทำให้สมใจเสียใจ

ต่อจากนั้น สมใจนั่งริ้งไห้บนเตียง นึกย้อนรอยบจูบของเจ้าคุณ และสิ่งที่เจ้าคุณสารภาพ
“สมมติว่าเราไม่ได้เจอกันอีก เธอจะ..คิดถึงชั้นบ้างมั้ย คิดถึงฉันบ้าง..”
ทันใดนั้นเสียงคำปุยกับแคบหมู เคาะประตูรัวไม่ยั้ง
“ใจ๋! เปิดประตูหน่อย”
“เจ๊! เปิดประตู!”
“ฉันไม่เป็นไร ง่วงนอน”
ที่หน้าประตู คำปุยกับแคบหมูหน้าตาไม่เชื่อว่าสมใจจะง่วงนอนตามที่พูด ภายในห้องสมใจล้มตัวลงนอนสะอื้น นึกถึงความหลังของเจ้าคุณกับเธอ
“นายไม่เคยคิดอะไรกับฉัน ฉันมันคิดไปเอง ฉันมันผิดเอง”
สมใจนอนสะอื้นร้องไห้เสียใจที่คิดว่าหลงรักเจ้าคุณข้างเดียว

เย็นวันเดียวกันที่ คฤหาสน์บ้านเจ้าคุณ รจนาวรรณกรี๊ดลั่นใส่หน้าจอทีวีในรายการไฮโซบ้านเฮา
“เห็นมั้ย หนูมี่ เจ้าคุณลูกแม่น่ะไม่มีทางลดตัวไปเกลือกกลั้วกับนังบ้านนอกนั่นเด็ดขาด”
“อร้าย! จริงด้วยค่ะคุณหญิงแม่ขา”
สองคนกอดกันแน่น ไมเคิลแอบสงสารเจ้าคุณ
“อีกไม่นาน เจ้าคุณก็จะต้องกลับมาหาแม่ กลับมาหาหนูมี่ เชื่อแม่!”
รจนาวรรณมั่นใจ
“แน่นอนที่สุดค่ะ..คุณหญิงแม่ขา อย่างนี้เราต้องฉลองกันหน่อยนะคะ มะขิ่น!”
มะขิ่นวิ่งออกมาพร้อมน้ำส้มสองแก้ว
“เจ้าขา...มะขิ่นมาแล้วค่า”
รจนาวรรณกับเอมี่ชูแก้วน้ำส้มฉลองล่วงหน้า หลังเห็นเจ้าคุณปฏิเสธรักสมใจผ่านทีวี
“สำหรับการกลับมาของคุณคะคุณขาค่ะ”
“เชียรส์จ๊ะ!”
สองคนจิบน้ำส้ม เอมี่ชะงักกึก คล้ายจะอาเจียนเพราะเหม็นกลิ่นน้ำส้ม
“เป็นอะไรจ๊ะหนูมี่”
“มะขิ่น! แกเอาน้ำอะไรมาให้ฉัน”
“น้ำอะไรคะ นางเอกอย่างคุณเอมี่ก็ต้องน้ำส้มซิคะ”
“นั่นซิ! น้ำส้มคั้นสดๆ เลยนะจ้ะหนูมี่”
รจนาวรรณยิ่งยื่นน้ำส้มเข้าใกล้เอมี่มากขึ้น จนเอมี่แทบอาเจียน
“ว๊าย! อ้วก!”
“ว๊าย!”
รจนาวรรณตกใจที่เห็นเอมี่อาเจียน
“ตายแล้ว! หนูมี่เป็นอะไร นังมะขิ่น แกใส่อะไรลงไปในน้ำส้มหนูมี่ เอาส้มเน่ามาคั้นรึเปล่าตายแล้ว..หนูมี่ของแม่”
เอมี่วิ่งออกไปอาเจียนโดยมีรจนาวรรณจับตามองด้วยความเป็นห่วง ส่วนมะขิ่นยังก้มมองดูน้ำส้มที่เพิ่งคั้นมาสดๆอย่างสังเกต แล้วกระดกแก้วดื่มพิสูจน์
“อะไรวะ ส้มเน่าที่ไหน อร่อยจะตาย พี่ไมค์ลองซิ”
“บ้า! ไม่เอา เฮ้อ! ป่านนี้คุณหนูจะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้”
ไมเคิลแอบห่วงเจ้าคุณเพราะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเต้านายตัวเองรักสมใจเต็มหัวใจแต่ต้องปฏิเสธเพราะอีกไม่นานต้องกลับมาแต่งงานกับเอมี่ตามคำสั่งของรจนาวรรณ


คืนนั้นที่บ้านกำโป๊ง เจ้าคุณนั่งถอนหายใจหลายครั้ง จนกำโป๊งเข้ามาทัก
“ทำไมเอ็งถึงตอบพ่อหมายไปอย่างนั้นวะ...ไอ้ขุนทอง ทำไมไม่บอกไปซะเลยว่าเอ็งคิดยังไงกับไอ้ใจ๋ เอ็งโกหกทำไม”
“ฉันจำเป็นต้องโกหก เพื่อใจ๋”
กำโป๊งยังไม่เข้าใจ
“ถ้าฉันพูดความจริงก็จะยิ่งทำร้ายจิตใจใจ๋ มันคงโหดร้ายมากนะลุง ถ้าฉันบอกรักเขาแล้วอีกไม่นานฉันก็ต้องทิ้งเขาไป”
กำโป๊งอึ้งในความคิดเจ้าคุณ
“แถมฉันยังทำลายอนาคตใจ๋ ทำลายศักดิ์ศรีแม่หญิงม่วนแต๊ของใจ๋ที่ต้องมาแปดเปื้อนเพราะฉันอีก ถ้าฉันยอมรับ...ถ้าฉันพูดความจริง แล้วก็เดินจากไป ใจ๋จะอยู่ที่นี่ต่อไปได้ยังไง ฉันคงเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุด”
“ไอ้ขุนทอง ตั้งแต่เห็นกันมา ข้าก็เพิ่งจะรู้จักเอ็งจริงๆ ก็วันนี้ล่ะวะ”
กำโป๊งตบไหล่ให้กำลังใจเจ้าคุณ
“ใจ๋...ยกโทษให้ฉันด้วยนะ”
เจ้าคุณหน้านิ่งอยู่ในอารมณ์เศร้า

กิ่งแก้วกับก้องเกียรติที่หน้าจอมอนิเตอร์ จ้องภาพในจอมองเจ้าคุณ กิ่งแก้วน้ำตารื้น
“ฉันด้วย....ยกโทษให้ฉันด้วย...เจ้าคุณ”
ก้องเกียรติยื่นมือไปบีบมือกิ่งแก้ว แล้วคนกอดปลอบใจกัน

คืนนั้นที่บ้านสมใจ ทุกคนนั่งกินข้าวไม่ลงมีเพียงแคบหมูที่ก้มกินข้าวหน้าตาเฉย
“แหะๆ...อิ่มกันแล้วเหรอจ๊ะ”
แคบหมูถามแก้เขิน
“ไม่มีใครเขากินลงกันหรอกเว๊ย มีแกแหละกินได้อยู่คนเดียว”
คำปุยแขวะ
“อย่าไปว่ามันเลยคำปุย ยกไปกินต่อหลังบ้านก็ได้นังแค๊บ”
สมศรีรีบบอก แคบหมูรีบเก็บจานรีบไปกินต่อหลังบ้าน
“จ้ะป้าศรี”
“เดี๋ยวครับ!”
ทุกคนมองมาที่ปลัดจืด
“ใจ๋ยังไม่ได้กินเลย”
พูดจบก็ตักข้าว ตักกับข้าวราดหัวจาน
“ทำอะไรน่ะปลัด”
“ผมขออนุญาตเอาไปให้ใจ๋ได้มั้ยครับ”
ปลัดจืดอยากเอาข้าวไปให้สมใจด้วยความเป็นห่วง สมหมายกับสมศรีพยักหน้าเชิงอนุญาต คำปุยกับ แคบหมู ช่วยกันเก็บกับข้าวออกไป
“ตาหมาย...”
สมศรีเรียกสามี
“สงสารไอ้ใจ๋มัน คนดีๆ อย่างปลัดก็ดันไม่ชอบ ดันไปชอบคนบ้าๆ บอๆ อย่างไอ้ขุนทอง เฮ้อ! นี่มันเวรกรรมอะไรก็ไม่รู้”
สมหมายสงสารลูกสาวสุดหัวใจ สมศรีพูดไม่ออก ได้แต่ลูบหลังปลอบใจสมหมาย

เวลาต่อมา ปลัดจืดเดินถือจานข้าวมาหน้าห้องนอนสมใจ เคาะประตูเรียก
“ใจ๋..เปิดประตูหน่อย...”
ไม่มีเสียงตอบรับ
“ใจ๋..ฉันเอาข้าวมาให้”
ยังคงไม่มีเสียงตอบรับ ปลัดจืดเคาะประตูเสียงถี่ขึ้น
“ใจ๋..เปิดประตู ใจ๋!”
ปลัดจืดใจหาย รีบเอาตัวกระแทกประตู แต่ไม่ได้ผล ตัดสินใจยกเท้าขึ้นจะถีบประตูเต็มแรง แต่ประตูเปิดออกพอดี ปลัดจืดหน้าทิ่มพร้อมจานข้าว
“เฮ๊ย!”
สมใจตกใจ ปลัดจืดหน้าหงาย
“ปลัด!”

สมใจรีบเอาน้ำแข็งประคบจมูกช้ำ ให้ปลัดจืด
“โอ๊ย!”
ปลัดจืดร้องโอดโอย
“โทษๆ...เลือดหยุดแล้ว”
“ฉันไม่เป็นไร”
“ช้ำไปหมดอย่างนี้ยังจะว่าไม่เป็นไรอีก”
“คงจะช้ำไม่เท่าใจ๋หรอก”
สมใจชะงัก อึ้งไป
“ถ้าฆ่าคนตายแล้วไม่ผิดกฎหมาย ฉันคงฆ่าไอ้ขุนทอง ตายคามือไปแล้ว”
สมใจจะเดินออก ปลัดจืดคว้ามือสมใจไว้
“ใจ๋...”
สมใจนิ่งฟัง
“ยังไม่ต้องรัก ไม่ต้องชอบหรอก แค่ลองคบฉันดูบ้างได้มั้ย ฉันสัญญาว่าจะไม่มีวันทำให้ใจ๋เสียใจเหมือนไอ้ขุนทองเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ขอบใจนะปลัด แต่ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดแล้วก็ไม่เคยคิดอะไร แล้วทำไมฉันจะต้องเสียใจเพราะอ้ายขุนทองด้วย”

สมใจพูดจบก็รีบเดินหนีไป ทิ้งให้ปลัดจืดนั่งอยู่ด้วยความเซ็งต่อไป

อ่านต่อ ตอนที่ 10 พรุ่งนี้ เวลา 9.00 น.




กำลังโหลดความคิดเห็น