สกู๊ปออนแอร์
"กอล์ฟ" ต้นเหตุ ทำ "ต่าย" ฟาร์มโคนมหก
พิสูจน์ความจริง...หญิงแท้หรือนางไม้!!
ถึงแม้จะเป็นตัวละครตัวใหม่ที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับละครเรื่อง “เสาร์ ๕” ตอน “ทับทิมสยาม” แต่บทบาทของ “ต่าย-ชัชฎาภรณ์ ธนันทา” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักแสดงหญิงคนอื่นๆ เลย เพราะเธอมารับบทเป็น “ม่านฟ้า” รัชทายาทของเมืองเชียงรุ้ง ที่ตามหาทับทิมสยามสีแดง ซึ่งเป็นสมบัติของตระกูลที่ถูกขโมยไป และตกมาอยู่ในมือของ ดร.วิทยา (ต้น-อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ซึ่งเธอสามารถติดตามเอาคืนมาได้ ในขณะที่หลบหนีอยู่ในป่ากับ บัวชุม (อูม-วิยะดา อุมารินทร์) พี่เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ พอเจอน้ำตกม่านฟ้าจึงขอพักเพื่อล้างเนื้อล้างตัวให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง
ในขณะที่ม่านฟ้าลงไปที่น้ำตกนั้น เคน (กอล์ฟ-กัญจน์ ภักดีวิจิตร) ผ่านมาเจอเลยเกิดความสงสัย ว่าม่านฟ้าเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือว่าเป็นผีสางนางไม้แปลงกายมากันแน่ เพราะเคนเคยเจอม่านฟ้ามาหลายครั้งแล้ว แต่ก็จะเห็นเธอแบบแวบไปแวบมาทุกที เคนจริงเข้าไปรวบตัวเธอเอาไว้ เธอจึงดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด บัวชุมได้ยินเสียงร้องของนายน้อยจึงรีบมาช่วย แต่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเคน จึงทำให้เคนได้รู้ความจริงว่าม่านฟ้าเป็นมนุษย์ผู้หญิงจริงๆ
การถ่ายทำฉากนี้ ผู้กำกับระดับบิ๊ก ฉลอง ภักดีวิจิตร ได้ยกกองไปปักหลักถ่ายทำที่ น้ำตกนางรอง จังหวัดนครนายก พอไปถึงที่โลเกชั่นบิ๊กหลองถึงกับอึ้งกับภาพที่เห็น เพราะว่าน้ำตกที่ไหลหลั่งลงมานั้น ไม่ใสสะอาดอย่างที่มาดูไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน เพราะว่าเกิดฝนตกขึ้นมาอย่างหนักเมื่อวันวาน ทำให้น้ำป่าเกิดไหลหลากจนน้ำที่ใสสะอาดกลายเป็นสีน้ำตาล ในเมื่อนักแสดงพร้อม ทีมงานพร้อม และนักแสดงคนอื่นๆก็เดินทางมาพร้อมกันจนหมดสิ้นแล้ว ทางผู้กำกับจึงตัดสินใจถ่ายทำโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องมีฉากอื่นๆถ่ายทำที่นี้ด้วย ถ้ายกเลิกก็จะเกิดการเสียหายหลายอย่าง
หลังจากถ่ายทำฉากอื่นไปแล้วจึงมาถึงการถ่ายทำฉากดังกล่าวระหว่างกอล์ฟ-กัญจน์ กับ ต่าย- ชัชฎาภรณ์ ก่อนที่ต่ายจะลงปถ่ายทำที่น้ำตก ทางทีมงานได้ลงไปเคลียร์ด้านล่างของพื้นน้ำ ว่ามีเศษหินหรือเศษแก้วหรือสิ่งใดๆที่จะเป็นอันตรายหรือเปล่า ส่วนกอล์ฟกับต่ายก็ถูกบิ๊กหลองเรียกมาซ้อมคิวถ่ายทำที่ริมน้ำตก ให้มีความเข้าใจกันก่อนว่าจะต้องทำอย่างไร หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมจึงลงมือถ่ายทำทันที โดยสาวต่ายเอาเสื้อผ้าไปวางไว้ที่โขดหินก่อน เสร็จแล้วก็เดินลงไปที่น้ำตก โดยเอามือตักน้ำขึ้นมาล้างเนื้อล้างตัว ในขณะที่กำลังเพลินกับสายน้ำที่เย็นชุ่มฉ่ำนั้น กอล์ฟก็ย่องมารวบตัวทันที ฉากนี้สาวต่ายคอยเอามือป้องกันหน้าอกของตัวเองเอาไว้ด้วย แต่พอดิ้นไปดิ้นมาก็เกิดภาพหลุดโดยไม่ตั้งใจ เพราะฟาร์มโคนมของสาวต่ายเกิดล้นทะลักออกมานอกเสื้ออย่างที่เห็นนี่แหละ
ถึงแม้นักแสดงทั้งสองคนจะแสดงตั้งใจแสดงกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างผ่านไปแค่เทกเดียว แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องเทกหลายครั้ง เพราะมุมภาพไม่ได้บ้าง จังหวะในการเล่นยังไม่ค่อยดีบ้าง สุดท้ายฉากในน้ำตกก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เป็นที่พอใจของผู้กำกับ จากนั้นมาถ่ายฉากที่สาวต่ายสะบัดหลุด แล้วรีบวิ่งขึ้นมาหาพี่เลี้ยงของตัวเอง หลังจากนั้นจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างกอล์ฟกับอูม ก่อนถ่ายทำก็จะมีการซ้อมคิวบู๊กันก่อน พอซ้อมจนเป็นที่เข้าใจแล้วจึงลงมือถ่ายทำทันที และก็ผ่านไปได้ใน 2-3 เทกเท่านั้นเอง
ติดตามชมฉากเด็ด ที่ฟาร์มโคนมของ ต่าย-ฃัฃฎาภรณ์ หกรดจอ และเล็ดรอดออกมาโดยไม่ตั้งใจ ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย.นี้ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี
.......................................................................................................
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 17
เวลานั้น ดร.วิทยา ฮวง เสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์ พากันเดินมาถึงหน้าบ้าน
“ไอ้สมุนไพรที่นังบัวมันเอาให้ม่านฟ้ากิน ก็เหมือนยาเสพติดนั่นแหละ กินแล้วก็ติด หากไม่ได้กินก็ลงแดง ทีนี้เราก็จะเค้นให้มันบอกเราได้ว่าทับทิมสยามสีแดงซ่อนไว้ที่ไหน” ดร.วิทยาบอกอย่างมั่นใจ
เสือสนธิ์ยิ้มชื่นชม
“ด็อกเตอร์ฉลาดจริงๆครับ ทิ่คิดวิธีนี้ได้”
“ความจริงฉันไม่ได้คิด แต่นังบัวมันเสนอ”
“นังนี่มันคล่องไปซะทุกเรื่องเลยนะ” เจ้าพ่ออินทร์ชมขำๆ
ทั้งหมดเดินคุยใกล้เข้ามา
ด้านใน...บัวชุมหาเสื่อหามุ้งผ้าห่มมาคลุมตัวเคน และต่ำซึ่งแอบซ่อนตัวที่มุมห้อง เสร็จแล้วบัวชุมรีบเข้าไปหาม่าน
“คุณหนู...แกล้งลงแดงค่ะ”
ม่านฟ้างงๆ
“ลงแดงเหรอ”
บัวชุมร้อนใจ
“เร็วค่ะ หิวยา ๆ”
ม่านฟ้าแกล้งดิ้นไปมา บัวชุมแกล้งจับมือจับไม้ไว้เพื่อไม่ให้ดิ้น
“หิวเหรอ นังสำออย หิวใช่มั๊ย”
“ให้ยาฉันนะ ขอยาๆ”
ดร.วิทยา ฮวง เสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์พากันเดินเข้ามา
“ไงนังบัว...ม่านฟ้าเป็นอะไร” ดร.วิทยาถามอย่างแปลกใจ
“มันเสี้ยนยาจ้ะนาย ดูซิจ้ะ ดิ้นใหญ่เลย”
ม่านฟ้าดิ้นๆพร้อมกับร้องขอยา
“ขอยานะ...ขอยาฉันกิน”
ดร.วิทยาหัวเราะอย่างพอใจ
“ฮ่ะๆ... ดีมาก”
“นาย...ขอยา...ฉันอยากได้ยา” ม่านฟ้าพูดเสียงแหบแห้ง
ดร.วิทยาจ้องหน้า
“ถ้าอยากได้ยา ก็บอกมาว่าทับทิมสยามอยู่ไหน”
ม่านฟ้าด้นพล่าน
“ไม่...ขอยา ไม่ไหวแล้วขอยา”
“อย่ามาสำออย...ถ้าอยากได้ยาก็ตอบคำถามของนายเร็ว” บัวชุมทำเป็นตะคอก
ม่านฟ้า แกล้งทำเป็นเสี้ยนยาสุดๆ พูดออกไปเสียงสั่น
“จ้ะๆ...ทับทิมสยามสีแดง...ฉันฝังไว้ในป่า...อยู่ในป่าจ้ะ...เอา...ยามา...ยา”
“ป่าแถวไหน” เสือสนธิ์ถามเสียงเข้ม
ม่านฟ้าดินทุรนทุลาย
“ขอยา...ขอยา”
“บอกมาก่อนว่าป่าแถวไหน” เสือสนธิ์ถามเสียงดัง
“ฉันไม่รู้แต่ฉันพาไปถูกจ้ะ ขอยานะ...ขอยา”
“เอายาให้มันเถอะ ประเดี๋ยวจะขาดใจตายซะก่อน” เจ้าพ่ออินทร์บอก
บัวชุมหยิบขวดยาสมุนไพรรินใส่แก้วแล้วส่งให้ม่านฟ้าดื่ม ดร.วิทยาหันไปหาเสือสนธิ์
“ถ้าเดินทางพรุ่งนี้พร้อมมั๊ย”
เสือสนธิ์ยิ้มรับ
“ไม่มีปัญหาครับ”
“ทางผมก็ไม่มีปัญหา” เจ้าพ่ออินทร์ยืนยัน
ดร.วิทยายิ้มพอใจ
“ถ้างั้นก็ดี...พรุ่งนี้พวกเราพานังม่านฟ้าไปด้วยกัน”
ทันใดนั้นเสียงต่ำ จามมาจากกองผ้าห่มทุกคนชะงัก สงสัย บัวชุมแกล้งจามอีกครั้งเพื่อกลบเกลื่อน
“เมื่อกี้แกจามเหรอนังบัว” เจ้าพ่ออินทร์ถามอย่างสงสัย
บัวชุมยิ้มแหยๆ
“จ้ะนาย...ฉันตากแดดมากไปหน่อย”
ฮวงไม่ค่อยเชื่อจึงเดินไปยังกองผ้าห่มแล้วเขี่ยดูแต่ไม่เจอ
“เฮ้ยฮวง...กลับ” วิทยาเรียก
“ครับนาย
ทุกคนพากันเดินออกไปแต่แล้วเคนขยับตัว ทำให้กระป๋องที่เทินเอาไว้ข้างบนหล่นลงมา บัวชุมรีบหยิบกระป๋องขึ้นมาแล้วยิ้มให้ทุกคน
“โทษจ้ะ...พอดีกระป๋องหลุดมือจ้ะ”
วิทยา ฮวง เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์ พากันเดินออกไป บัวชุมรีบไปที่ประตูแล้วปิด เคนและต่ำออกจากที่ซ่อน
“ร้อนเกือบตาย” ต่ำบ่น
เคนจุ๊ปาก
“อย่าเพิ่งเสียดัง เดี๋ยวพวกมันได้ยิน”
“รีบออกไปเร็ว ก่อนที่พวกมันจะย้อนมา”
บัวชุมแง้มประตูดูแล้วเปิดให้ต่ำและเคนหนีออกไป ต่ำหันมาบ๊าย บายให้ม่านฟ้า บัวชุม รีบปิดประตู
เช้าวันใหม่ กองคาราวานเดินป่า เริ่มตั้งขบวนที่ทางเดินของหมู่บ้าน ลูกหาบมีจำนวนมากมายเนื่องจากต้องขนลังใส่อาวุธติดไปด้วย ฮวงกับนั้มเดินตรวจตราความเรียบร้อย ดร.วิทยา เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์พากันเดินออกจากบ้าน ดร.วิทยาหันไปถามฮวง
“ม่านฟ้าล่ะ”
“ผมให้นังบัวไปตามแล้วครับ”
ดร.วิทยาหันไปกำชับเสือสนธิ์
“เรื่องอาวุธ ขนไปให้เต็มที่นะ”
เสือสนธิ์ยิ้มรับ
“ไม่ต้องห่วงครับ งานนี้เต็มพิกัด”
เจ้าพ่ออินทร์เข้ามา
“พวกคนงานที่ไปกับเรา ผมก็คัดเฉพาะพวกหน่วยกล้าตาย มาผนึกกับคนของเสือสนธิ์ งานนี้ยิงไม่อั้นครับ”
ดร.วิทยายิ้มพอใจ
“ดีมาก...งานสำเร็จเมื่อไหร่ผมจะเสนอรัฐบาล จารึกชื่อพวกคุณเอาไว้ว่าเป็นวีรบุรุษกู้ชาติยุคใหม่เลยนะ เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์”
เสือสนธิ์และเจ้าพ่ออินทร์ยิ้มภูมิใจ ขณะเดียวกันนั้น บัวชุมพาม่านฟ้าเดินมา
“มาแล้วจ้ะ”
“เธอนำทางไปเลยม่านฟ้า จำทางได้ใช่มั๊ย” ดร.วิทยาออกคำสั่ง
ม่านฟ้าพยักหน้า
“จำได้”
“งั้นก็ไป”
ทุกคนพากันออกเดินทาง
กลุ่มเสาร์ห้า เคน ต่ำและสัปเหร่อแต้ม ส่องกล้องดูการเคลื่อนตัวของกองคาราวานดร.วิทยา อยู่ที่มุมหนึ่งของป่า
“ผมนัดกับม่านฟ้า และพี่บัวชุมเอาไว้แล้ว ให้นำทางพวกนั้นไปยังป่าทางเหนือ เพราะแถวนั้นผมรู้ทางหนีทีไล่ดี” เคนบอก
ยอดส่องกล้องทางไกลมองกองคาราวานแล้วพูดขึ้น
“ดูพวกลูกหาบพวกมันซิครับ ขนอะไรมากมายเต็มไปหมดเลย”
“เป็นอาวุธสงครามครับคุณยอด” ดอนบอก
“ว่าแล้วเชียว ลังมันคุ้นๆ” กริ่งเดาออก
“เรารีบเดินทางไปเถอะครับ ประเดี๋ยวจะไม่ทัน” เดี่ยวแนะ
เทอดห้ามไว้
“เดี๋ยวครับ ผมขอติดต่อหน่วยเหนือก่อน ถ้าฉุกเฉินเราจะได้มีกำลังเสริม”
เทอด หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาติดต่อหน่วยเหนือ
กองคาราวานของ ดร.วิทยา เดินทางมาไกลพอควร ดร.วิทยา ให้สัญญาณทุกคนหยุดพัก ทุกคนจึงหามุมพักผ่อนตามอัธยาศัย บัวชุมแอบส่งน้ำให้ม่านฟ้า แล้วกระซิบเบาๆ
“คุณหนูดื่มน้ำค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ พี่บัวชุม”
ฮวงหันมาสังเกตเห็น
“นั่นแกทำอะไรนังบัว”
“ก็นังนี่ซิจ้ะ มันหิวยาอีกแล้ว ก็เลยให้มันกินน้ำรองท้องไปก่อน”
ดร.วิทยาหันมาถามม่านฟ้า
“ต้องเดินไปไกลแค่ไหน”
“เอ้อ...ฉันก็จำไม่ค่อยได้”
“อย่ามาลูกเล่น...ตอบมา” ดร.วิทยาตวาด
“เอ้อ...คือฉันซ่อนเอาไว้...นานแล้ว”
ฮวงเข้ามาบีบคอ ม่านฟ้าดิ้นรนพยายามต่อสู้ บัวชุมห่วงใย
“จำได้หรือยังหรือว่าจะตายก่อน...ว่าไง”
ม่านฟ้าไอโขลก
“จำได้ๆ”
“บอกมา” ดร.วิทยาตะคอก
“น่าจะไปอีกสองวันก็น่าจะถึงจ้ะ”
“แล้วซ่อนไว้ตรงไหน”
ม่านฟ้าอึกอัก
“เอ้อ...คือ...”
“อยากโดนอีกใช่มั๊ย” ฮวงขู่
“ใต้ต้นไม้จ้ะ...ฉันทำเครื่องหมายเอาไว้”
ดร.วิทยาพอใจ หันไปออกคำสั่ง
“งั้นก็ไป...ออกเดินทางได้แล้ว”
ทุกคนเตรียมตัวออกเดินทาง ดร.วิทยาและฮวงละความสนใจจากม่านฟ้า บัวชุมรีบเข้ามาหาด้วยความสงสารกระซิบถามอย่างห่วงใย
“เป็นไงบ้างคะคุณหนู”
“ไม่เป็นไร...ไม่ต้องห่วง”
“หน้าซีดไปหมดเลย...เจ็บใช่มั๊ยคะ”
“พี่บัวชุมไม่ต้องห่วง ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร”
ขณะที่บัวชุม และม่านฟ้าคุยกัน ฮวงมองอย่างสงสัย
กองคาราวานกำลังพากันเดินผ่านลำธารไป ฮวงรีรอ แกล้งปล่อยให้ม่านฟ้าเดินนำหน้าไป แล้วสักครู่ฮวงก็เดินตามมา เมื่อถึงกลางลำธาร ฮวงก็แกล้งผลักม่านฟ้าให้ล้มลง ม่านฟ้าตกใจไหลตามน้ำไป เกาะหินเอาไว้
“ช่วยด้วย ๆ”
บัวชุมตกใจ กำลังจะก้าวไปช่วย แต่แล้วเมื่อมองเห็นสายตาของฮวง ซึ่งเฝ้ามองอยู่เธอจึงรีบชะงักแล้วเปลี่ยนทีท่าทันที
“นังสำออย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ สมน้ำหน้า”
ดร.วิทยาหันมามอง
“เฮ้ย...ใครไปช่วยมันที”
บัวชุมรีรอ สงวนท่าที ฮวงหันมามอง
“ไป...แกนั่นแหละ ไปช่วยมัน”
“น่าจะปล่อยให้มันตายซะได้ก็ดี”
บัวชุมแกล้งเดินกระแทกกระทั้น ไปดึงม่านฟ้าไว้แล้วฉุดให้เดินต่อไป ฮวงหันมายิ้มเยาะ เมื่อฮวงเผลอ บัวชุมก็รีบกระซิบบอกม่านฟ้า
“คุณหนูคะ ระวังตัวไว้นะคะ ไอ้คนที่ฮวงมันกำลังสงสัยพวกเรา”
“งั้นพี่บัวชุมอย่ามาเดินใกล้”
บัวชุม และม่านฟ้าเดินห่างออกจากกัน ฮวงหันมามองสังเกต
เมื่อฟ้าเริ่มมืด...ทุกคนพากันกางเต้นท์ที่พัก และกระจายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย เสือสนธิ์ เจ้าพ่ออินทร์และวิทยาพากันนั่งล้อมกองไฟที่เพิ่งก่อขึ้น ม่านฟ้า และบัวชุม เดินเลี่ยง ไปหามุมพักที่ห่างจากกลุ่ม ฮวงมองตามแล้วเดินตามไป
ดร.วิทยาเปิดกระเป่าบรรจุทับทิมสยามออก ทับทิมสยามสีม่วงและสีชมพูวางอยู่บนแท่นเรเดี่ยม
“อีกไม่นาน ทับทิมสยามสีแดงก็จะเป็นของฉัน”
“แล้วทับทิมสยามสีแดง แตกต่างจากทับทิมสยามสีม่วงและสีชมพูหรือเปล่าครับ” เจ้าพ่ออินทร์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“แตกต่างซิ ทับทิมสยามแต่ละก้อน จะมีพลังงานแตกต่างกันไป ทับทิมสยามมีม่วงสร้างภาพลวงตาในด้านร้าย ทับทิมสยามีชมพู สร้างภาพลวงตาในด้านดี”
“แล้วทับทิมสยามสีแดงละครับ” เสือสนธิ์ถามต่อ
“ถ้าให้ฉันเดา...ทับทิมสยามสีแดงจะเป็นกลาง ไม่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ด้านใด แต่จะทำให้จิตใจสงบ”
กลุ่มสนทนาพากันสนทนาต่อไปเบาๆ
ทางด้านม่านฟ้าเดินมาที่เต้นท์ๆหนึ่ง บัวชุมทำทีเป็นเดินมาคุม ฮวงเดินเข้ามาแล้วแอบกระซิบลูกน้องบางคนแถวนั้น จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้าย โดยฮวงเข้าไปหาม่านฟ้า บัวชุมหันไปเห็น
“นังบัว”
“จ๋า”
“แกไปอาบน้ำก่อน”
บัวชุมลังเล
“แต่แหม...ตอนนี้พวกผู้ชายอาบน้ำกันเยอะ หนูไม่อยาก...”
ฮวงจ้องหน้าไม่พอใจ
“ฉันบอกให้ไปอาบน้ำ เดี๋ยวฉันจะเฝ้าม่านฟ้าให้”
“จ้ะๆ งั้นนังสำออย...แกไปอาบน้ำเป็นเพื่อนฉันเร็ว”
ม่านฟ้ารีบเดินไปหาบัวชุม แต่ฮวงขวางไว้
“ไปทีละคน” ฮวงไล่บัวชุม “แกไปก่อนนังบัว”
บัวชุมลังเล ฮวงกระชับปืนขู่ บัวชุมจึงจำต้องเดินออกไป
“จ้ะๆ”
ม่านฟ้า รีบถอยห่างจากฮวงซึ่งยืนมองนิ่ง
บัวชุมเดินห่างออกมา แต่รู้สึกเป็นห่วงม่านฟ้าจึงตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อจะไปแอบดูแต่แล้วลูกน้องคนหนึ่งที่ฮวงนัดแนะไว้ก็มาขวางไว้
“ถอยไป” บัวชุมตวาด
“ใจเย็น”
“ออกไปนะ...ไป”
ลูกน้องเข้ามารวบตัว บัวชุมดิ้นรน
“เรื่องของนาย เอ็งจะไปยุ่งทำไมนังบัว อยู่เฉยๆ”
ลูกน้องจับตัวบัวชุมไว้ ขณะเดียวกันฮวงเข้ารวบตัวม่านฟ้าเอาไว้ ม่านฟ้าดิ้นพยายามส่งเสียงร้อง แต่โดนอุดปากไว้
“ครี้งที่แล้วชั้นพลาดไปทีนึงแล้ว คราวนี้ไม่พลาดแน่นอน”
“ปล่อยนะ...ปล่อย”
“อย่าร้องไปเลย ไม่มีใครช่วยเธอแน่ อยากให้คนมามุงดูหรือไง ฮ่ะๆ ดีเหมือนกันชั้นชอบโชว์ซะด้วย ฮ่ะๆ”
“ไอ้บ้า”
ฮวงปลุกปล้ำ ม่านฟ้าดิ้นรน
เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ วิทยา กำลังสนทนากันหน้ากองไฟ นั้มนั่งฟังห่างๆ
“แสดงว่าถ้าเราได้ทับทิมสยามสีแดงมา ก็ไม่ต้องวางไว้บนแท่นเรเดี่ยมใช่มั๊ยครับ” เจ้าพ่ออินทร์ถาม
“น่าจะเป็นยังงั้น”
เสือสนธิ์มองแท่นเรเดี่ยม
“ไอ้แท่นเรเดี่ยมมันสำคัญยังไงครับ ถ้าเราไม่วางมันจะเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
พูดจบเสือสนธิ์ก็เอื้อมมือไปคว้าทับทิมสยามสีม่วงขึ้นมาจากแท่นเรเดี่ยม ดร.วิทยาตกใจ รีบเอื้อมมือไปคว้า แต่แล้วเกิดผิดพลาดทำให้ทับทิมสยามหล่นพื้นกลิ้งออกไป
ทันใดบรรยากาศรอบข้างก็เริ่มเปลี่ยนไป ลมพัดแรง แล้วจากนั้นฝนก็เริ่มเทลงมา ทุกคนพากันวิ่งหนีหลบฝนกันจ้าละหวั่น
บัวชุม สะบัดจากการจับกุมของลูกน้องแล้ววิ่งหนีมา คนอื่นๆ พากันวิ่งหนีฝน ทำให้ลูกน้องเลิกตาม บัวชุมรีบวิ่งไปหาม่านฟ้า ฮวงซึ่งกำลังปลุกปล้ำม่านฟ้า ชะงักเมื่อมีฝนตกลงมา คนอื่นๆ พากันวิ่งหนีเข้าเต้นท์ ฮวง จึงลากม่านฟ้าให้ไปที่เต้น แต่บัวชุมวิ่งเข้ามาขวาง
“หยุดนะ แกจะทำอะไรคุณหนูฉันไม่ได้”
ฮวงแปลกใจ
“คุณหนู...”
“พี่บัวชุม รีบหนีเร็ว” ม่านฟ้าตะโกนบอก
ฮวงยิ้มเยาะ
“ฉันนึกอยู่แล้วว่าแกสองคนต้องรู้จักกันมาก่อน”
ม่านฟ้าและบัวชุม ตกใจที่หลุดเผยความลับให้ฮวงรู้
ดร.วิทยารีบก้มลงไปเพื่อคว้าทับทิมสยามขึ้นมาแต่แล้วจู่ๆ ก็มีผึ้งบินมาต่อยที่มือ ทับทิมสยามสีม่วงหล่นลงพื้นอีกครั้ง
“โอ๊ย”
ทุกคนในกองคาราวาน ต่างตื่นกลัวเนื่องจากได้ยินเสียงผึ้งที่ส่งเสียงบินมาเป็นกองทัพ ใบหน้าของทุกคนเงยหน้าขึ้นมองสูง ระดับยอดไม้ ฝูงผึ้งดำทะมึนกำลังบินว่อน เตรียมโจมตี เจ้าพ่ออินทร์ตกใจ
“นี่มันอะไรกัน”
“หนีเร็ว” เสือสนธิ์ตะโกนลั่น
ขาดคำ กองทัพผึ้งก็บินลงมาโจมตี ทุกคนพากันวิ่งหนี ปัดป้อง บางคนคว้าท่อนไม้จากกองไฟมาโบกไล่ไปมา
ฮวงจะเข้ามาคว้าตัวม่านฟ้า แต่แล้วฝูงผึ้งก็บินมารุมต่อย บัวชุมเข้าไปดึงม่านฟ้าให้วิ่งหนีไปหลบในเต้นท์ ฮวงวิ่งหนีผึ้งไปที่หน้ากองไฟ ดร.วิทยาวิ่งหนีผึ้งเข้าไปหาฮวง
“ฮวง แกรีบไปเอาทับทิมสยามสีม่วงไปวางบนแท่นเรเดี่ยมเร็ว โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว”
ฮวงหาผ้ามาคลุมใบหน้าแล้วรีบก้มมองหาทับทิมสยามสีม่วง จากนั้นก็หยิบไปวางไว้ที่แท่นเรเดี่ยม ทันทีที่ฮวงวางทับทิมสยามสีม่วงบนแท่นเรเดี่ยม ฝูงผึ้งก็สลายตัว เลือนหายไป ดร.วิทยา รีบปิดกระเป๋าใส่ทับทิมสยามทันที ขณะที่คนอื่นๆ พากันตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ผึ้งมาจากไหนกัน” เสือสนธิ์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“มันเป็นภาพลวงตาจากทับทิมสยามสีม่วง” ดร.วิทยาอธิบาย
“แล้วทำไมมันต่อยเราได้จริงๆ” เจ้าพ่ออินทร์ถามอย่างสงสัย
“ปรากฏการณ์ภาพลวงตาเป็นจริงเสมอ ถ้าเราเชื่อ”
ฮวงยังตื่นกลัวไม่หาย
“พลังอำนาจของทับทิมสยาม น่ากลัวจริงๆ ครับ”
“รีบหายาให้พวกที่โดนผึ้งต่อยเร็ว อย่าปล่อยไว้นาน” ดร.วิทยาสั่ง
นั้ม หยิบกระเป๋ายาออกมาแจกจ่ายลูกน้องและคนอื่นๆ ฮวงรับยามาทา ทุกคนตกอยู่ในอาการเสียขวัญ
อ่านต่อหน้า 2
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 17 (ต่อ)
บัวชุมโผล่หน้าออกมาจากเต้นท์ เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ภายนอกเป็นปกติแล้ว จึงรีบหันมาบอกม่านฟ้า
“คุณหนู รีบหนีเถอะค่ะ เราอยู่ไม่ได้แล้ว”
“พี่บัวชุมวิ่งนำไปเลย...เร็ว”
บัวชุมและม่านฟ้า พากันวิ่งหนีหายเข้าป่าไป ลับหลังทั้งคู่เพียงเล็กน้อย ฮวง ดร.วิทยา เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์ นั้ม ก็ตามเข้ามา ฮวงเปิดเต้นท์เข้าไปดู
“มันหนีไปแล้วครับ”
“โง่จริงๆ ทำไม่ไม่ทิ้งใครเฝ้าพวกมัน” ดร.วิทยาด่าอย่างโมโห
“ถึงยังไงมันสองคนก็ต้องหาทางหนีกันอยู่แล้วครับ...นังบัวกับม่านฟ้า พวกมันรู้จักกันมาก่อน“ ฮวงบอกแค้นๆ
“ยังไงก็ช่าง...รีบเกะรอยเอาตัวมันกลับมาให้ได้” ดร.วิทยาหันมาหาเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ “คุณสองคนอยู่เฝ้าที่นี่ เดี๋ยวผมกับนั้มและฮวง จะออกไปตามล่าสองคนนั่นเอง”
นั้มรีบสำรวจตามพื้น แล้วนำทุกคนตามรอยไป เจ้าพ่ออินทร์ เสือสนธิ์และลูกน้องที่เหลือ ดูแลแค้มป์ที่พัก
กลุ่มเสาร์ห้า ซึ่งพักผ่อนกันอยู่ใต้ต้นไม้ โดยมีเคน ต่ำ และสัปเหร่อแต้ม อยู่บนห้างใกล้ๆกัน ดอนใช้ตาทิพย์มองเห็นม่านฟ้า และบัวชุมกำลังวิ่งหนีอยู่ในป่า เดี่ยวเองก็ได้ยินเสียงผิดปกติเช่นกัน
“ผมได้ยินเสียง”
“ครับ...เป็นเสียงของม่านฟ้า กับบัวชุม สองคนนั้นกำลังหนี”
เทอด ยอด กริ่ง พากันเข้ามาหา
“งานเข้าอีกแล้ว” ยอดเปรยขึ้น
“อยู่ตรงไหนครับคุณดอน” เทอดถาม
“ไปทางเหนือ”
“ตามไปช่วยกันดีกว่า” กริ่งบอก
เดี่ยวหันไปทางห้างไม้ ซึ่งสัปเหร่อแต้ม ต่ำและเคนกำลังมองมา
“มีอะไรกันครับ” สัปเหร่อแต้มตะโกนถามลงมา
“เราจะไปช่วยม่านฟ้า ลุงแต้ม เคน พี่ต่ำรอที่นี่นะ” เดี่ยวตอบกลับไป
“ต่ำไปด้วย ต่ำเป็นห่วงม่านฟ้า”
ต่ำจะลงไป สัปเหร่อแต้มห้ามไว้
“เป็นภาระเขาเปล่าๆ รออยู่ที่นี่แหละ”
ต่ำงอน
“กีดกันเห็นๆ”
เสาร์ห้าพากันหยิบอาวุธแล้วรีบออกไป
“ใจเย็นซิพี่ต่ำ บางทีม่านฟ้าอาจหนีมาทางนี้ก็ได้” เคนปลอบ
“จริงดิ...งั้นต่ำต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ซินะ”
ต่ำหันไปคว้าอาวุธมาเตรียมช่วยม่านฟ้า สัปเหร่อแต้มหมั่นไส้
ม่านฟ้าและบัวชุมพากันวิ่งหนีลัดเลาะไปเรื่อยๆ สักครู่ทั้งคู่ก็เริ่มเหนื่อยอ่อน จึงชะลอฝีเท้า
“พักก่อนนะคะคุณหนู บัวชุมเหนื่อย”
“อย่าเพิ่งเหนื่อยซิ แข็งใจอีกหน่อย”
“เหนื่อยจริงๆ ค่ะ พักแป็บเดียว”
ม่านฟ้าและบัวชุม พากันหยุดพักที่มุมหนึ่ง ทันใดนั้นนกพากันบินพรึบพรับราวกับว่ามีอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามา ม่านฟ้าหันไปมองรอบๆ รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยรีบกระซิบบัวชุม
“พี่บัวชุม...เร็วเถอะ”
“ค่ะ คุณหนู พวกมันกำลังมา”
ม่านฟ้าและบัวชุม รีบลุกขึ้น แล้วรีบย่องหลบไป แต่แล้วม่านฟ้าลื่นล้ม ทำให้ขาแพลง
“อุ๊บ...”
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“เจ็บขา”
บัวชุมก้มลงดูที่เท้าม่านฟ้า
“เดินไหวหรือเปล่าคะ”
“ไหว...แต่เจ็บมาก”
ขณะเดียวกัน นั้มแกะรอยเท้านำหน้าคนอื่นๆ เข้ามา
“มันมาทางนี้ครับนาย รอยเท้ายังอุ่นอยู่เลย”
ม่านฟ้า และบัวชุมตกใจ ม่านฟ้าพยายามจะลุกขึ้นเดินแต่ทำไม่ได้
“ซ่อนในพุ่มไม้เร็วค่ะ” บัวชุมกระซิบ
บัวชุมพยุงม่านฟ้าเข้าไปซ่อนในพุ่มไม้ ขณะเดียวกัน ดร.วิทยา ฮวงและลูกน้องพากันเดินเข้ามาสมทบกับนั้ม
“พวกมันวิ่งไปทางไหน”
“ทางนี้”
ดร.วิทยา และพวก รีบตามรอยเท้าไป บัวชุมที่ซุ่มดูอยู่เห็นว่าถ้าปล่อยให้ตามรอยเท้ามาได้ จะมาเจอม่านฟ้าในที่สุด เธอจึงตัดสินใจ วิ่งไปอีกทางเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
“หนีเร็ว...พวกมันมาแล้วค่ะ”
บัวชุมแกล้งตะโกน เพื่อเบี่ยงเบนให้ทุกคนหันมาสนใจเธอ ทำให้นั้มและคนอื่นๆ ชะงักหันไปทางบัวชุม แล้วรีบตามไป
“เร็วมันอยู่นั่น ตามเร็ว” ดร.วิทยาตะโกนสั่ง
ทุกคนพากันตามบัวชุมไป ม่านฟ้า ค่อยๆ คลานออกมาจากพุ่มไม้ แม้เท้าของเธอจะเจ็บมาก แต่เธอก็หยิบหน้าไม้มาเตรียมพร้อมเพื่อตามไปช่วยบัวชุม ยอดเข้ามาด้านหลังแล้วอุดปากม่านฟ้าไว้ ม่านฟ้าพยายามดิ้นรนแต่เมื่อมองเห็นว่าเป็นเสาร์ห้าเธอจึงเลิกดิ้น ยอดปล่อยมือออกจากปาก
“อย่าส่งเสียงนะ”
“ฉันจะไปช่วยพี่บัวชุม”
ม่านฟ้าขยับจะไป กริ่งห้ามไว้
“ใจเย็นๆ ถ้าไปตอนนี้เธอเสร็จแน่”
“ใช่...ถ้าถูกจับคราวนี้ เธอเสียเปรียบ มันจะไม่วางใจเธอและบัวชุมอีก” เดี่ยวแนะ
“แต่ฉันต้องไปช่วยพี่บัวชุม พี่บัวชุมเสี่ยงชีวิตเพื่อฉัน”
“เราต้องช่วยบัวชุมแน่ แต่รอจังหวะให้เหมาะ” เทอดบอก
“รีบพาม่านฟ้าหลบไปก่อนเถอะ ถ้ามันย้อนกลับมาจะอันตราย” ดอนบอกอย่างร้อนใจ
“ขอโทษนะ”
เดี่ยวอุ้มม่านฟ้าขึ้นมา แล้วทุกคนรีบพากันออกไป
บัวชุมวิ่งหนีมาที่มุมหนึ่ง ขณะที่นั้มและคนอื่นๆ ตามมา แต่แล้วจู่ๆ ฮวง โผล่ออกมาดักไว้ข้างหน้า บัวชุมพยายามหาทางหนีไปอีกทางแต่ก็พลาดโดนฮวงจับได้ เธอดิ้นไปมาไม่ยอมง่ายๆ
“นังตัวดี คราวนี้แกไม่รอดแน่”
“ปล่อยนะ...ปล่อย”
นั้มกับ ดร.วิทยา และลูกน้องตามมาถึง
“แกเป็นใคร”
“จะเป็นใครก็ไม่ใช่เรื่องของพวกแก ปล่อยฉัน”
“แกเกี่ยวข้องอะไรกับม่านฟ้า บอกเดี๋ยวนี้”
ดร.วิทยาเข้าไปบีบคอ บัวชุมดิ้นหายใจไม่ออก
“ปล่อย...โอ๊ย ๆ”
“บอกมาเดี๋ยวนี้ บอก”
“โอ๊ย...เจ็บ บอกแล้ว...บอก...”
“ว่ามา”
บัวชุมไอ
“ฉันเป็นคนรับใช้...คุณหนูม่านฟ้าเป็นนายของฉัน”
ดร.วิทยายิ้มหยัน
“นายแกคงจ่ายดีซินะ ถึงได้ยอมมาเสี่ยงชีวิตแบบนี้”
“ยิงทิ้งมันเลยมั๊ยครับนาย”
ฮวงชักปืน ดร.วิทยาห้ามไว้
“อย่า...ถึงไม่มีม่านฟ้า แต่มันก็ต้องรู้แน่ๆ ว่าทับทิมสยามสีแดงอยู่ที่ไหน”
“บอกมาว่าทับทิมสยามสีแดงอยู่ที่ไหน”
ฮวงถือปืนเข้ามาหาบัวชุม
ม่านฟ้าและพวกเสาร์ห้าซุ่มแอบดูเหตุการณ์อยู่มุมหนึ่ง ม่านฟ้าทนเห็นบัวชุมตายไม่ได้ จึงลุกขึ้นจะเข้าไปช่วย
“ฉันปล่อยให้พี่บัวชุมตายไมได้”
กริ่งรีบเข้าไปจับตัวห้ามไว้
“อย่าไปครับ
ม่านฟ้าสะบัด
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
“มันไม่ฆ่าบัวชุมแน่ม่านฟ้า จนกว่ามันจะได้ทับทิมสยามสีแดง” เทอดบอก
“ใจเย็นนะครับม่านฟ้า อย่าวู่วาม” ยอดปลอบ
ทุกคนพากันเฝ้ามองไปยังกลุ่มของ ดร.วิทยาที่กำลังข่มขู่บัวชุม
บัวชุมหวาดกลัวเมื่อฮวง จ่อปืนมาหา
“อย่า...อย่ายิงฉันเลย”
“บอกมาว่าทับทิมสยามอยู่ที่ไหน” ดร.วิทยาตวาด
“ได้ยินแล้วใช่มั๊ย...บอกมา” ฮวงตะคอก
“ไม่...ฉันจะไม่มีวันบอกแกเด็ดขาด”
“นังนี่ปากแข็ง”
ดร.วิทยาเหลืออด เดินเข้าไปตบฉาด
“ไอ้คนชั่ว...ไอ้บ้า” บัวชุมเหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อน ยิ่งตบก็ยิ่งด่า “ไอ้พวกบ้า รังแกผู้หญิง”
ดร.วิทยาโมโห เข้ามาบีบคอ ทำให้บัวชุมดิ้นรนไปมา
“โอ๊ย...ปล่อยนะ ถ้าแกฆ่าฉัน แกก็จะไม่ได้ทับทิมสยาม”
ดร.วิทยาชะงัก ปล่อยมือ
“งั้นก็บอกมาว่าแกซ่อนเอาไว้ตรงไหน”
“ให้ฉันคิดก่อน”
ฮวงหงุดหงิด
“ลูกเล่นเหรอ...เดี๋ยวปัด”
“อย่าฮวง ปล่อยมัน” ดร.วิทยาหันไปจ้องหน้าบัวชุม “ก็ได้นังบัว ข้าจะให้เวลาเอ็ง...พามันกลับไปที่แค้มป์ เราจะไปตั้งหลักที่นั่น”
ดร.วิทยาเดินนำทุกคนกลับไป ฮวงกระชากบัวชุมให้ตามไป
ม่านฟ้า และเสาร์ห้าเฝ้ามอง ดร.วิทยา ฮวง นั้มและพวก กลับที่พัก
“เกมส์ของมันคือทับทิมสยาม เราต้องชิงความเป็นผู้นำ” ดอนบอก
เดี่ยวหันไปหาม่านฟ้า
“ม่านฟ้า...เธอต้องพาพวกเราไปขุดเอาทับทิมสยามสีแดง ก่อนที่พวกมันจะไปถึง”
ม่านฟ้าไม่มีใจจะไปไหน เป็นห่วงบัวชุมมาก
“แล้วพี่บัวชุมล่ะ”
“เชื่อใจเถอะ เราไม่ทิ้งบัวชุมแน่นอน” กริ่งปลอบ
“ค่ะ...ฉันจะพาพวกคุณไปหาทับทิมสยามสีแดง”
ม่านฟ้าตัดสินใจ แม้ว่าเธอจะห่วงบัวชุมใจจะขาด
กลุ่มดร.วิทยา พากันกลับมาที่แค้มป์ บัวชุมถูกลากตัวมาที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง เสือสนธิ์ กับเจ้าพ่ออินทร์เข้ามาสังเกตการณ์
“ได้มาคนเดียวหรือครับ ด็อกเตอร์” เสือสนธิ์ถามอย่างแปลกใจ
“นังม่านฟ้าหนีไปได้”
“งั้นต้องเค้นสอบนังบัวนะครับ ผมว่ามันต้องรู้ที่ซ่อนทับทิมสยามแน่นอน” เจ้าพ่ออินทร์แนะ
ดร.วิทยหันไปหาฮวง
“จับนังตัวดีมัดไว้ที่ต้นไม้ แล้วจัดเวรยามคอยเฝ้าไว้ ให้มันอดข้าวอดน้ำจนกว่ามันจะยอมบอก”
“ได้ครับ ด็อกเตอร์”
“โอ๊ย...ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“ถ้าไม่บอกว่าทับทิมสยามอยู่ที่ไหน ก็หุบปากไปนังบ้า”
ดร.วิทยาเข้าไปมองบัวชุมใกล้ๆด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม
“ฉันจะให้เวลาแกจนถึงพรุ่งนี้ ถ้าไม่บอกแกตาย”
ฮวงจับบัวชุมมัดโยงไว้กับต้นไม้
สัปเหร่อแต้ม ม่านฟ้า เคน และต่ำ ประชุมร่วมกันกับเสาร์ห้า
“เราต้องแบ่งกำลังกันทำงาน พวกผมจะไปกับม่านฟ้าเพื่อขุดหาทับทิมสยาม สีแดง” เทอดบอก
“ส่วนที่นี่ ลุงแต้ม เคน และพี่ต่ำ คอยติดตามพวกด็อกเตอร์วิทยา อย่าให้คลาดสายตานะครับ” เดี่ยวกำชับ
“ไม่มีปัญหา...ทางนี้พวกลุงรับมือได้” สัปเหร่อแต้มรับคำ
“แล้วถ้ามีจังหวะชิงตัวบัวชุมออกมาได้ ก็ตัดสินใจได้เลยไม่ต้องรอพวกเรา” ดอนบอก
เคนรู้ว่าม่านฟ้าเป็นห่วงบัวชุม เขาจึงพูดในสิ่งที่ม่านฟ้าอยากให้ทำเพื่อให้ความมั่นใจกับเธอ
“เราจะคอยจับตาไม่ให้มันทำอะไรพี่บัวชุมเด็ดขาด”
ม่านฟ้ามองเคนอย่างคลายใจไปได้บ้าง
“ขอบคุณมากค่ะคุณเคน”
“เรื่องนี้ม่านฟ้าไม่ต้องห่วงนะ พี่ต่ำจะช่วยอีกแรง” ต่ำปลอบ
“ฝากพี่บัวชุมด้วยนะคะ พี่ต่ำ”
“เรารีบเดินทาง ก่อนที่มันจะไหวตัวกันเถอะครับ” ยอดตัดบท
สัปเหร่อแต้มแปลกใจ
“นี่ไม่คิดจะพักเลยเหรอ”
กริ่งยิ้มๆ
“ไม่ต้องห่วงครับลุงแต้ม เวลาพักยังมีอีกเยอะ”
ขณะที่พวกเสาร์ห้าเตรียมตัวเดินทาง สัปเหร่อแต้ม ครุ่นคิดบางอย่างก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ก่อนไป ลุงอยากจะขอเตือนบางอย่าง”
ทุกคนหันมา
“พวกคุณคงเคยได้ยินที่โบราณว่าไว้ เวลาเดินป่าต้องไม่พูดในเรื่องที่ไม่ดีใช่มั๊ย”
ดอนแปลกใจ
“ลุงแต้มกำลังจะบอกอะไรพวกเราครับ”
“ความชั่วร้าย มันรอเราอยู่ อย่าเปิดประตูให้มันออกมา”
เดี่ยวงงๆ
“ผมไม่เข้าใจ ลุงหมายถึงอะไร”
“ลุงพูดมากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ พวกคุณไปเถอะ แล้วจำคำเตือนของลุงไว้ให้ดี”
เทอดยิ้มรับ
“พวกเราจะจำไว้ครับ”
ม่านฟ้า และกลุ่มเสาร์ห้าพากันออกเดินทางไป ขณะที่สัปเหร่อแต้ม ต่ำ และเคนมองตาม สายตาสัปเหร่อแต้มมองอย่างห่วงใยกังวล ในความปลอดภัยของเสาร์ห้า
เช้าวันใหม่ ทีมเสาร์ห้า และม่านฟ้าเดินทางลัดเลาะไปตามเส้นทางในป่า สักครู่ทุกคนก็พากันหยุดพัก ยอดปีนขึ้นต้นไม้พร้อมกล้องส่องทางไกล
“ทิศตะวันตกใช่มั๊ยม่านฟ้า”
“ค่ะ...ริมหน้าผา”
ยอดส่องกล้องทางไกล หาทิศทาง
“งั้นก็อีกไม่ไกล ผมเห็นหน้าผาแล้ว”
“อีกกี่กิโลแม้วครับคุณยอด” กริ่งถามขำๆ
“เดินไปเรื่อยๆ เย็นนี้ก็ถึง”
ยอดส่องกล้องทางไกลสักครู่ ก็หันกล้องไปเห็นบางอย่าง นั่นคือร่างของกระแตซึ่งอยู่กลางป่า ห่างออกไป กระแตถูกมัดเอาไว้ บุษกร ชลดา ยูกิ เจนนี่ก็ถูกมัดเอาไว้ใกล้ๆ กัน ยอดตกใจ
“เฮ้ย...”
“อะไรครับคุณยอด” กริ่งถามอย่างสงสัย
“คุณดอนครับ คุณช่วยมองหน่อย ที่ผมเห็นมันของจริงหรือภาพลวงตากันแน่”
ดอนใช้ตาทิพย์มองไป เห็น กระแต บุษกร ชลดา ยูกิ เจนนี่ ถูกมัดเอาไว้ โดยมีกลุ่มของดร.ฟอร์ด สตีเฟ่น นาตาชา ราฮีม และลูกน้องจำนวนหนึ่งอยู่ไม่ห่างนัก
“ผมเห็นพวกผู้หญิง อยู่กับดร.ฟอร์ด สตีเฟ่น นาตาชา และ พวกของมัน”
“แล้วซัมดองล่ะ”เดี่ยวถามอย่างสงสัย
“ผมมองไม่เห็น”
ยอดลงจากต้นไม้มาสมทบ กับเพื่อนๆ
“งั้นเราไปช่วยเดี๋ยวนี้เลย” เทอดบอก
“ตามผมมา”
ยอด นำทางทุกคนไปยังทิศทางที่เขาเห็น
ยอดนำทางทุกคนมาอยู่ที่มุมหนึ่งซึ่งเห็น กลุ่มดร.ฟอร์ดและพวกผู้หญิงอยู่ห่างออกไป เสาร์ห้าหันมาปรึกษาวางแผนกัน
“ถ้าเรายิงตอนนี้ กระสุนอาจโดนพวกผู้หญิงได้” ยอดบอก
“ต้องมีใครส่งสัญญาณให้พวกผู้หญิงรู้ พวกเธอจะได้หลบเวลาเราโจมตี” เดี่ยวเสนอแนะ
“งั้นผมเอง ผมจะเข้าไปช่วยแก้มัดให้พวกผู้หญิงเอง” เทอดอาสา
“พวกเรากระจายตัว ใช้แผนยิงหลอกให้พวกมันหลงทิศ เปิดทางให้คุณเทอดเข้าไปทำงานได้สะดวกๆ” เดี่ยวบอกแผนการ
กริ่งมองหน้าดอน แล้วรู้สึกได้ว่าดอนกำลังกังวลบางอย่าง
“คุณดอน...มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ผิดปกติ”
กริ่งแปลกใจ
“อะไรครับ”
“ผมไม่รู้ครับ แต่บางทีผมอาจจะคิดมากไป”
“งั้นก็ตามแผนเดิมนะครับ” เดี่ยวหันไปหาม่านฟ้า “ม่านฟ้า ตามผมมาครับ”
ม่านฟ้าตามเดี่ยวไปยังมุมหนึ่ง ขณะที่คนอื่นๆ พากันกระจายตัว เทอดหายตัวไป
กระแต ชลดา ยูกิ เจนนี่ บุษกร ซึ่งถูกมัดเอาไว้รวมกัน นั่งอยู่ที่มุมหนึ่งขณะที่กลุ่มของดร.ฟอร์ด และคนอื่นๆ ยืนคุมห่างออกไป เทอดซึ่งหายตัวอยู่ เดินใกล้เข้ามา แล้วเข้ามาหาชลดา
“ชลดา...ผมเอง”
ชลดาได้ยินเสียงก็ตกใจ กังวลใจไม่อยากให้เทอด เข้ามาหาเนื่องจากนี่คือแผนการของซัมดอง เช่นเดียวกับพวกสาวๆที่เมื่อรู้ว่าเทอดและพวกเสาร์ห้ามา ต่างพากันไม่สบายใจ
“คุณเทอด” ชลดากระซิบ
“ผมจะช่วยแก้มัด”
“ออกไป...อย่าเข้ามา” ชลดากระซิบอย่างกังวล
“มีอะไรครับ” เสียงเทอดถามอย่างแปลกใจ
บุษกรร้อนใจรีบกระซิบบอก
“บอกทุกคนว่าที่นี่มีอันตราย...ออกไป”
ดร.ฟอร์ดหันมามองเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“นั่นเธอพูดกับใคร”
บุษกรชะงักแล้วรีบปฏิเสธ
“เปล่า”
ดร.ฟอร์ด เล็งปืนไปมายังอากาศที่ว่างเปล่าราวกับรู้ว่าเทอด อยู่แถวนั้น
“เทอด...แกอยู่นี่ใช่มั๊ย”
สตีเฟ่นและคนอื่น ๆพากันมองไปรอบๆ สตีเฟ่นเห็นพุ่มไม้ไหว อยู่ที่มุมหนึ่งจึงระดมยิงทันที
“ยิงเลย” สตีเฟ่ยตะโกนสั่ง
ทุกคนพากันระดมยิงไปยังพุ่มไม้
ร่างของเทอดปรากฏขึ้นหลังพุ่มไม้ เขาเหนื่อยอ่อน ไม่สามารถหายตัวได้อีกจึงหมอบหลบกระสุนที่ระดมยิงเข้ามา เพื่อนๆ กลุ่มเสาร์ห้าเฝ้ามองอยู่รู้สึกห่วงใย เดี่ยวหันไปหาเพื่อนๆ
“คุณเทอดกำลังหมดพลัง...คุณดอน อยู่กับม่านฟ้านะส่วนที่คุณกริ่ง คุณยอด ไปสนุกกับผม”
เดี่ยว ยอด กริ่ง พากันวิ่งออกไป ดอนและม่านฟ้าช่วยยิงเปิดทางให้ กริ่งวิ่งอย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปยังพุ่มไม้ ซึ่งเทอดนอนอยู่ เดี่ยว และยอด ตามเข้ามา
“หลับสบายมั๊ยเพื่อน” กริ่งแหย่
เทอดยิ้มๆ
“ก็โอเคครับ”
“มา...เดี๋ยวผมยิงคุ้มกันให้”
ยอด เดี่ยว กริ่งยิงคุ้มกัน เทอด ลุกขึ้น เตรียมจะวิ่งกลับ กลุ่มของดร.ฟอร์ดขว้างระเบิดเข้ามา ขณะที่เทอดวิ่งหลบระเบิด ดอน และม่านฟ้า รีบเข้ามารับตัวเทอดไว้
“ขอโทษนะครับเพื่อนๆ ผมทนไม่ไหวแล้ว”
เดี่ยวพุ่งตัวออกจากที่กำบัง แล้วบุกเดี่ยวพร้อมปืนครบชุดเดินหน้ายิงไปยังกลุ่มดร.ฟอร์ดแบบบ้าดีเดือดจนเพื่อนๆเสาร์ห้ารู้สึกเป็นห่วง
“คุณเดี่ยวบ้าเลือดอีกแล้ว” ยอดร้องขึ้นอย่างตกใจ
กริ่งหันไปบอกยอด
“ขอบ้าด้วยคนนะครับ”
“เอ้า...จะปล่อยผมไว้ได้ไง”
ยอดและกริ่งพุ่งตัวออกไป เพื่อช่วยเดี่ยว ทั้งสามคนเข้าจู่โจมแบบบ้าระห่ำเข้าไปยังกลุ่มดร.ฟอร์ด โดยมีการยิงตอบโต้กันอย่างเมามัน สตีเฟ่น และราฮีมบัญชาการลูกน้องให้ยิงสกัด แต่เมื่อเห็นว่าเดี่ยว ยอด และกริ่ง กำลังบุกใกล้เข้ามา ดร.ฟอร์ดจึงหันไปสั่งสตีเฟ่นให้ลงมือขั้นเด็ดขาด
“สตีเฟ่น แกอย่ามัวเสียเวลา ระเบิดให้มันเป็นจุลไปเลย”
“ได้ครับพ่อ”
“ซัมดองยังไม่อยากให้พวกเค้าตายนะคะ” นาตาชาห้ามไว้
“แต่พวกมันกำลังบุกเข้ามาแล้วนะครับคุณนาตาชา” ราฮีมแย้งอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ดร.ฟอร์ดยิ้มเหี้ยม
“ใช่...ไม่ต้องปราณี ถ้ามันอยากตายก็จัดให้มันเลย”
สตีเฟ่นหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องหยิบปืนเอ็ม 79 ออกมาแล้วบรรจุระเบิดยิงออกไป
อ่านต่อหน้า 3 วันพรุ่งนี้
อาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เสาร์๕ ตอนทับทิมสยาม ตอนที่ 17 (ต่อ)
ระเบิดลูกนั้นถูกยิงมาตกใกล้ๆ กับ เดี่ยว ยอด และกริ่ง ทั้งสามคนพากันกระโดดหลบได้ทันอย่างหวุดหวิด เดี่ยวหงุดหงิด หันมาหากริ่ง และยอด ซึ่งอยู่ห่างออกไป
“เล่นของหนักแบบนี้ไม่แฟร์เลย”
กริ่งยิ้มอย่างมีแผน
“อยากได้ของหนักใช่มั๊ยคุณเดี่ยว...เดี๋ยวจัดให้”
“คุณกริ่งจะทำอะไรครับ” ยอดถามอย่างสงสัย
“ม่ายยย...บอก”
ระเบิดอีกลูกถูกยิงออกมา กริ่งวิ่งออกไปแล้วกระโดดไปคว้าระเบิดกลางอากาศ ที่ถูกยิงออกมา สามลูก จากนั้นก็กลิ้งตัวมาใกล้ๆ ยอดและเดี่ยว
“ได้มาแล้วคร้าบบบ อยากได้ไม่ใช่เหรอ”
กริ่งส่งระเบิดให้ยอด 1 ลูก ยอดสะดุ้ง
“เฮ้ย...นี่ล้อเล่นหรือเปล่า”
“คุณเดี่ยวแบ่งไปลูกนึง”
กริ่งโยนระเบิดไปให้เดี่ยว
“คุณนี่มันบ้ากว่าผมอีกคุณกริ่ง”
“พร้อมนะ”
“เดี๋ยวๆ ขอเช็ดมือก่อน พลาดไปเดี๋ยวเข้าตัว”
ยอดเอามือเช็ดกางเกง
“งั้นผมขอก่อน” เดี่ยวขว้างระเบิดออกไป ด้วยลีลาพลิ้วเหมือนนักทุ่มน้ำหนัก “ดาบนั้นคืนสนอง”
กริ่งขว้างระเบิดตาม ติดๆลีลาไม่แพ้กัน
“ลูกที่สองจัดหนักๆ”
ยอด เห็นลีลาเพื่อนๆ ในการขว้างระเบิด เลยขว้างตามบ้าง
“ลีลาไม่ต้อง ล็อกห้องแล้วจัดเต็ม”
ระเบิดตูมที่กลุ่มของดร.ฟอร์ด ทุกคนกระโดดหนีกันกระเจิง ลูกน้องบางคนตาย บางคนบาดเจ็บ นาตาชารีบเข้าไปหา ดร.ฟอร์ดอย่างเป็นห่วง
“พ่อ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันปลอดภัยดี”
สตีเฟ่นหันไปตะโกนสั่งลูกน้อง
“คนตายปล่อยมัน ยิงสกัดไว้อย่าให้มันเข้ามาได้”
สตีเฟ่น และราฮีม สั่งการให้ยิงสกัด เกรงเสาร์ห้าจะบุกเข้ามา ขณะเดียวกันนั้น ซัมดองปรากฏตัวขึ้นมาใกล้ๆ ดร.ฟอร์ด
“ซัมดอง...จะให้ผมทำยังไงต่อ”
“หลอกล่อให้พวกเสาร์ห้า ตามพวกเอ็งไป”
“ได้ครับ”
ซัมดองเลือนหายไป ดร.ฟอร์ดหันไปสั่งคนอื่นๆ
“พวกเราถอย”
ราฮีมเข้าไปจับพวกผู้หญิง เพื่อใช้เป็นโล่กำบังแล้ว จากนั้นทุกคนก็พากันถอยหายเข้าป่าไป
+ + + + + + + + + + + +
ดอน เทอด ม่านฟ้า เข้ามาสมทบกับเดี่ยว กริ่ง ยอด
“หนุกกันใหญ่เชียว” ดอนแหย่
“อันนี้แค่ชุดเล็กคุณดอน” กริ่งโอ่
“รีบตามพวกมันเร็ว”
เทอดขยับจะตาม ดอนรีบห้ามไว้
“อย่าเพิ่งไป”
“มีอะไรคุณดอน” ยอดถามอย่างสงสัย
“ผมเห็นซัมดอง”
กริ่งยิ้มพอใจ
“ดี...จะได้จัดการซะทีเดียวเลย”
“แต่ระวังแผนลวงของพวกมันนะครับ” เดี่ยวเตือนเพื่อนๆ
ม่านฟ้า หน้าเครียดเป็นห่วงห้าสาว
“พวกผู้หญิงอยู่กับพวกมัน ยังไงก็ต้องตามไปช่วยนะคะ”
ยอดมองหน้าเพื่อนๆ
“เสี่ยงเป็นเสี่ยงใช่มั๊ย”
ทุกคนพยักหน้าแล้วจากนั้นก็พากันตามไป
กลุ่ม ดร.ฟอร์ด พากันถอยร่นไปพลางหันมายิงสกัด ขณะที่กลุ่มเสาร์ห้าพากันติดตามมาเรื่อยๆ
“เรากำลังจะไปไหนกันคะพ่อ” นาตาชาถามอย่างไม่เข้าใจ
ดร.ฟอร์ดส่ายหน้า
“ไม่รู้...พ่อทำตามที่ซัมดองสั่ง”
“ซัมดองต้องการอะไร” สตีเฟ่นถามอย่างสงสัย
“ซัมดองต้องการให้พวกเสาร์ห้าไปที่หุบเขามรณะ”
ดร.ฟอร์ดยิงตอบโต้ แล้วรีบนำทุกคนถอยไป กลุ่มเสาร์ห้าและม่านฟ้า ตามกลุ่มดร.ฟอร์ด ไปติดๆ เดี่ยวหันมาหาทุกคนเมื่อได้ยินสิ่งที่ดร.ฟอร์ดคุยกับนาตาชา และสตีเฟ่น
“ผมได้ยินมันพูดกัน”
“พวกมันว่าไง” เทอดถามอย่างสงสัย
“มันกำลังหลอกล่อให้พวกเราไปยังหุบเขามรณะ” เดี่ยวบอก
ม่านฟ้าแปลกใจ
“แต่นี่มันทิศเดียวกับที่ฉันฝังทับทิมสยามเอาไว้เลยนี่”
“ครับใช่...เรากำลังวิ่งไปยังหน้าผาทางทิศตะวันตก” ยอดบอก
“หุบเขามรณะคงอยู่แถวนั้น” กริ่งออกความเห็น
ดอนใช้ตาทิพย์เพ่งมอง แต่ไม่เห็นอะไร
“แต่ผมมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากป่า ไม่เห็นมีหุบเขามรณะอะไรเลยแถวนั้น”
“งั้นก็ตามมันไปเรื่อยๆ”
เดี่ยวนำทุกคนไล่ตามไป
กลุ่มดร.ฟอร์ด พากันหนีมา ซัมดองปรากฏตัวขึ้น
“เอ็งทำได้ดีมาก ดร.ฟอร์ด”
“ผมยอมทำทุกอย่างที่ซัมดองสั่ง เพื่อแลกกับทับทิมสยาม”
“ทับทิมสยามต้องกลับมาเป็นของเอ็งแน่นอน ขึ้น15 ค่ำเดือน 5 จงไปที่เจดีย์ใหญ่ วันนั้นเอ็งจะสมปรารถนา”
“ครับซัมดอง”
“พวกมันมาแล้ว”
ทุกคนพากันรวมตัวกัน โดยมายืนด้านหลังของซัมดอง ราฮีมผลักให้ ห้าสาวออกมายืนข้างซัมดอง กลุ่มเสาร์ห้าพากันวิ่งตามมา ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน
“ปล่อยพวกผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะซัมดอง” เทอดสั่งเสียงเข้ม
ซัมดองยิ้มท้าทาย
“มาซิ...ถ้าอยากได้ก็เข้ามา”
ลมพัดแรง บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป ทันใดนั้น ซัมดองและกลุ่มดร.ฟอร์ด กระแต บุษกร ชลดา ยูกิ เจนนี่ ค่อยๆ เลือนไปช้าๆ ราวกับว่ากำลังหายเข้าไปอีกมิติหนึ่ง อากาศที่อยู่ด้านหน้าของพวกผู้หญิงมีสภาพคล้ายอุโมงค์ รอให้เสาร์ห้าเข้าไป
กลุ่มเสาร์ห้า และม่านฟ้าพากันยืนมองตะลึงขณะที่ภาพของคนอื่นๆ ในอุโมงค์เริ่มเลือนหายไปทีละน้อยๆ
“อย่ายิงนะ เดี๋ยวถูกพวกเรา” เดี่ยวห้าม
ยอดร้อนใจ
“เร็วครับ...พวกมันกำลังจะหายไปแล้ว”
“เดี๋ยวผมไปเอง”
กริ่งรีบวิ่งตรงเข้าไปยังอุโมงค์ ซึ่งกลุ่มผู้หญิงยืนอยู่ แล้วฉุดมือของยูกิเอาไว้ เสาร์ห้าคนอื่นๆ พากันเข้ามาช่วย กันดึงให้พวกผู้หญิงหลุดออกมา แต่ไม่ว่าจะออกแรงมากแค่ไหน ยูกิและคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ จนกระทั่งกลุ่มเสาร์ห้า หลุดมือ ล้มลงมากองที่พื้น ซัมดองหัวเราะเยาะ
“มาซิ...ก้าวข้ามอุโมงค์เข้ามา มาเอาตัวผู้หญิงของเอ็งไปฮ่ะๆ”
“ได้ซิ...ไม่กลัวอยู่แล้ว”
ยอดลุกขึ้น แล้วจะวิ่งตาม แต่ขณะที่ก้าวขาเข้าไป ข้างหนึ่ง ดอนก็รีบเข้ามาฉุดยอดไว้
“อย่าคุณยอด...อย่าเข้าไป”
ดอนรั้งยอดเอาไว้จนทั้งคู่ล้มลง ขณะที่ประตูอุโมงค์ปิดตัวลง แล้วจากนั้นซัมดองและพวกผู้หญิง พร้อมด้วยกลุ่มดร.ฟอร์ดก็เลือนหายไป เทอด หน้าตื่นตกใจ
“มันหายไปแล้ว”
“คุณดอมห้ามผมทำไม” ยอดบ่นอย่างหงุดหงิด
“อันตรายครับ...ข้างในอุโมงค์นั่น มีบางอย่างที่อันตรายมาก” ดอนบอก
เดี่ยวครุ่นคิด
“มันกำลังหลอกล่อให้พวกเราเข้าไปในอุโมงค์นั่น”
“อีกไม่นานพวกมันต้องกลับมาแน่” กริ่งบอกอย่างมั่น
เสาร์ห้าและม่านฟ้า พากันลุกขึ้น เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
เช้ามืดวันใหม่ บริเวณแค้มป์ บรรดา ลูกน้องเสือสนธิ์และคนงาน ต่างก็หลับไหล เวรยามก็ง่วงนอนสัปหงก เคนค่อยๆ ย่องเข้ามาหาบัวชุมซึ่งถูกมัดไว้ที่ต้นไม้แล้วแก้มัด บัวชุมลืมตาขึ้นมามองงงๆ
“เคน”
เคนจุ๊ปาก
“อย่าดัง”
ลูกน้องคนหนึ่ง ตื่นขึ้นมา เคนรีบเข้าไปหา เตะปลายคางสลบไป เคนรีบแก้มัดแล้วพาบัวชุมหนีเข้าป่าไป ขณะที่คนอื่นๆยังหลับไม่รู้เรื่อง
เคนพาบัวชุม หนีเข้ามาในป่า ซึ่งสัปเหร่อแต้มและต่ำรออยู่
“พวกมันยังหลับอยู่”
“รีบหนีเร็ว”
บัวชุมเป็นห่วงม่านฟ้ามาก
“แล้วคุณหนูของฉันล่ะ”
“ไปขุดทับทิมสยามกับพวกเสาร์ห้า”
“งั้นเราต้องไปที่นั่น”
สัปเหร่อแต้มเข้ามาหาบัวชุม
“เธอจำทางได้ใช่มั๊ยบัวชุม รีบนำทางไป ข้ารู้สึกว่าพวกเสาร์ห้ากำลังอยู่ในอันตราย”
“ได้...ตามมา”
บัวชุมเดินนำสัปเหร่อแต้มไป เคนกับต่ำ พากันสงสัยในสิ่งที่สัปเหร่อแต้มพูด
ฮวง เดินออกมาจากเต้นท์ หันไปมองจุดที่บัวชุมถูกมัด แต่เห็นลูกน้องนอนสลบอยู่ ก็รู้ว่าเกิดเรื่องร้าย ฮวงชักปืนออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อให้สัญญาณทุกคน เสียงปืนทำให้ทุกคนตื่น แล้วออกมารวมตัวกัน
“มีอะไรฮวง” ดร.วิทยาถามอย่างสงสัย
“นังบัวมันหนีไปแล้วครับด็อกเตอร์”
ดร.วิทยาหงุดหงิด
“ใครเป็นคนเฝ้ามัน”
ฮวงกระชากตัวลูกน้องซึ่งเป็นคนเฝ้าขึ้นมา
“ไอ้นี่”
ดร.วิทยา ชักปืนออกมา แล้วยิงเปรี้ยงใส่ลูกน้องล้มลงขาดใจตาย ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
“พวกเอ็งจำไว้...ทำงานกับข้า จะพลาดอีกไม่ได้ ทุกคน ออกตามเร็ว”
ดร.วิทยาและลูกน้องพากันออกแกะรอย ฮวงหันมาทางเจ้าพ่ออินทร์และเสือสนธิ์
“เจ้าพ่ออินทร์กับเสือสนธิ์ ดูเรื่องเก็บของแล้วออกตามไปนะครับ ผมกับด็อกเตอร์จะล่วงหน้าไปก่อน”
“ไม่ต้องห่วง...รีบไปเถอะ” เสือสนธิ์บอก
ฮวงรีบตามดร.วิทยาและพวกไป เสือสนธิ์ กับเจ้าพ่ออินทร์หันมามองหน้ากัน
“ผมชักไม่แน่ใจแล้วซิ”
เจ้าพ่ออินทร์ถอนใจ
“นั่นซิครับ นึกไม่ถึงว่าด็อกเตอร์จะใจร้อนแบบนี้”
“ดูๆกันไป ก่อน...ตอนนี้อะไรยังไม่แน่ชัด อย่าเพิ่งตัดสินใจ”
“ครับ”
เจ้าพ่ออินทร์หันไปสั่งให้ลูกน้องที่เหลือเก็บเต้นท์ที่พัก เตรียมขนย้าย
สัปเหร่อแต้ม บัวชุม เคน และต่ำ กำลังพากันเดินมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกอย่างเร่งรีบ เคน ต่ำและบัวชุม รู้สึกสงสัยในเรื่องที่สัปเหร่อแต้มปิดบังไว้
“ลุงแต้มบอกหน่อย ทำไมพวกเสาร์ห้าถึงอยู่ในอันตราย” ต่ำถามอย่างสงสัย
“ใช่ครับ...ที่นั่นมีอันตรายอะไร” เคนซัก
“ข้าพูดไม่ได้...พูดไม่ได้จริง ๆ” สัปเหร่อแต้มตอบเสียงเครียด
“นี่มันอะไรกัน มีอะไรก็บอกมาซิลุงแต้ม เกิดอะไรขึ้นพวกเราจะได้ช่วยกันได้ทัน” บัวชุมแนะ
สัปเหร่อแต้ม รีบเร่งฝีเท้าเดินหนี ขณะที่คนอื่นๆ พากันงง สักครู่ก็รีบตามไป บัวชุมหงุดหงิดรีบเข้าไปขวางทางสัปเหร่อแต้มเอาไว้ ขณะที่เคน และต่ำ ยืนดักอีกทาง
สัปเหร่อแต้มถอนใจอย่างหนักใจ
“อย่าบังคับข้า...ข้าพูดไม่ได้”
บัวชุมหงุดหงิด
“ทำไมต้องปิดบังกันด้วย ฉันไม่เข้าใจ”
เคนอึดอัดอยากรู้มาก
“นั่นซิ...ที่นั่นมีอะไรหรือครับลุงแต้ม”
สัปเหร่อแต้มกวาดสายตามองสามคน
“พวกเอ็งกำลังหาเรื่องใส่ตัว”
“ลุงนั่นแหละ มีแผนอะไรกันแน่ ฉันชักสงสัยแล้วนะหรือลุงหวังจะเอาทับทิมสยามอีกคน” บัวชุมโวย
สัปเหร่อแต้มฉุนกึก
“อย่ามาดูถูกข้า”
“งั้นก็บอกมาซิว่า ที่นั่นมีอะไร” บัวชุมคะยั้ยคะยอ
สัปเหร่อแต้มองไปรอบๆ ป่า ด้วยความสะพรึงกลัว
“หากข้าพูดออกไป...พวกมันจะหลุดออกมา”
ทุกคนงงๆ กับคำพูดของสัปเหร่อแต้ม
“อะไรหลุดมา...หลุดมาจากไหน” ต่ำถามอย่างไม่เข้าใจ
“อำนาจชั่วร้ายที่อยู่ในหุบเขามรณะ ข้าเคยเข้าไปที่นั่น และรอดออกมาได้ ตัวข้าจึงเป็นเหมือนประตู หาก เมื่อใดที่ข้าพูดถึงมัน ประตูอุโมงค์ก็จะเปิด พวกมันก็จะออกมา”
ทันใดนั้น ลมพัดแรงขึ้น ใบไม้ปลิวกระจายไปทั่วทุกคนมองไปรอบๆ อย่างหวาดแระแวง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ” ต่ำถามอย่างตกใจ
สัปเหร่อแต้มหน้าตื่น
“นั่นไง...ข้าบอกแล้ว มันมาแล้ว”
บัวชุมชักหวาดๆ
“อะไรมา”
สัปเหร่อแต้มตื่นกลัวพูดเสียงสั่น
“ไม่...ข้าไม่พูด...ไม่พูดแล้ว”
ลมพัดหมุน ใบไม้ปลิวกระจาย ไปทั่วทั้งป่าเสียงกรี๊ดร้องโหยหวนดังขึ้น
“หนีเร็ว...มันมากันแล้ว”
สัปเหร่อแต้มพาทุกคนวิ่งแต่แล้ว พุ่มไม้ ใบไม้ เริ่มสั่นไหวไปทั่วทั้งป่า งูยักษ์ตัวหนึ่งค่อยๆเลื้อยโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วหลบลงไป เงาดำทะมึนของงูยักษ์เลื้อยไปมา ทุกคนหยุดชะงัก ไม่กล้าวิ่งอีกต่อไปเนื่องจากทุกที่ๆวิ่งไป ก็จะปรากฏงูยักษ์โผล่ออกมา แล้วหลบเข้าเงาดำ เหมือนกับรอจังหวะให้เหยื่อวิ่งเข้าไปหา
“นี่มันอะไรกัน...งูบ้านี้มาจากไหน” บัวชุมโวยวายอย่างหวาดกลัว
“มันมาแล้ว” สัปเหร่อแต้มเสียงสั่น
“งูปีศาจใช่มั๊ย” เคนโพล่งออกมา
สัปเหร่อแต้มรีบห้าม
“อย่าพูดถึงมัน”
ขาดคำ งูก็พุ่งเข้ามาฉก เคนกระโดดหลบ ทุกคนพากันแตกกระเจิง หนีคนละทิศละทาง แต่ไม่ว่า จะพยายามหนีไปทางไหน ก็ดูเหมือนจะเจองูโผล่ออกมาคอยเล่นงานตลอด ทำให้ทุกคนต้องกลับมารวมกลุ่มกันคล้ายดังตกอยู่ในวงล้อม
เสียงงูเลื้อยดังไปมา ขณะที่ลมพัดใบไม้ร่วงกราวบรรยากาศทะมึน ทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย งูค่อยๆ โผล่ออกมาจากเงามืดเพียงบางส่วน เคนหยิบแคนปืนกลออกมา แล้วระดมยิงใส่งู แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น งูเลี้อยหายหลบไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรทำอะไรมันได้หรอกเคน” สัปเหร่อแต้มบอก
บัวชุมหวาดกลัวตัวสั่นเทา
“คราวนี้แย่แน่ๆ เลย”
ต่ำ ตื่นกลัวตาเหลือกลาน
“อย่ากินต่ำนะ...ต่ำไม่อร่อย”
ทันใดนั้นงูก็ยกตัวโผล่จากพุ่มไม้ ได้ยินเสียงงูร้องหวีดๆคล้ายมีเวทมนต์ทุกคนหวาดกลัวพยายามจะวิ่งหนีแต่กลับขยับตัวไม่ได้
“ทำไมขยับไม่ได้” ต่ำตกใจ
“มันเป็นงูปีศาจ มันกำลังสะกดพวกเรา” สัปเหร่อแต้มบอก
งูแล่บลิ้นส่งเสียงขู่ฟู่ๆ พร้อมจะฉก ขณะเดียวกันนั้นเอง พระธุดงค์องค์หนึ่งได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
“กลับไป...กลับไปยังที่ของเจ้า”
งู หันมาสบตากับพระธุดงค์ จากนั้นก็กรีดร้อง แล้วค่อยๆ เลือนหายเข้าอุโมงค์เวลาไป ทุกคนหันไปมองพระธุดงค์ด้วยความอัศจรรย์ใจ
ทุกคนพากันก้มลงกราบพระธุดงค์อย่างเลื่อมใส
“ถ้าไม่ได้หลวงพ่อ พวกเราคงแย่” สัปเหร่อแต้มพูดอย่างโล่งใจ
“หลวงพ่อมาจากไหนเจ้าคะ” บัวชุมถามอย่างแปลกใจ
“อาตมาก็อยู่ในป่านี่แหละ”
“งูเมื่อกี้...”
เคนยังถามไม่จบ สัปเหร่อแต้มรีบห้าม
“เคน...อย่า...”
“โยมอย่าเอ่ยถึงมันอีก ปีศาจพวกนี้มันถูกขังเอาไว้ในหุบเขามรณะ หากพูดถึงมัน พันธนาการก็จะหลุดออก” พระธุดงค์อธิบาย
บัวชุมพยักหน้าเข้าใจ
“เหมือนที่โบราณพูดว่าเข้าป่าแล้วห้ามพูดถึงเรื่องไม่ดี ใช่มั๊ยเจ้าคะ”
“เจริญพร” พระธุดงค์หันมาทางเคน “ดวงตาสวรรค์อยู่กับเจ้าแล้ว”
เคนแปลกใจ
“หลวงพ่อรู้จักดวงตาสวรรค์ด้วยหรือครับ”
“รู้จักซิ...เพราะอาตมาเป็นคนไปเอามาจากทิเบต แต่ฟ้าลิขิตเอาไว้แล้ว ดวงตาสวรรค์ต้องเปลี่ยนมือ ตกทอดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมาถึงมือเจ้า” พระธุดงค์มองหน้าเคน “รักษาไว้กับตัวนะ วันนึงมันจะเป็นช่วยเจ้าได้”
“แต่ผมไม่รู้ว่าจะเปิดยังไง”
“เมื่อถึงเวลา เจ้าจะรู้เอง”
หลวงพ่อหยิบมีดเล่มหนึ่ง ออกมาจากย่าม
“มีดอะไรครับ”
“มีดอินทรีย์”
พระธุดงค์ปามีดออกไป มีดลอยคว้าง ไปจนสุดทางแล้วหมุนกลับมาหา พระธุดงค์รับมีดมาถือไว้ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่พากันอัศจรรย์ใจ
“มีดนกอินทรีย์...บินได้ด้วย” ต่ำพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
พระธุดงค์ส่งมีดให้เคน
“เก็บเติดตัวเอาไว้” พระธุดงค์หันมาทางสัปเหร่อแต้ม “รีบไปเถอะไปช่วยเพื่อนๆ ของพวกเจ้า”
“พวกเสาร์ห้าหรือครับ” สัปเหร่อแต้มถามอย่างแปลกใจ
“ไปห้ามพวกเขานะ อย่าให้พวกเขาไปหุบเขามรณะเด็ดขาด”
“ครับหลวงพ่อ”
ทุกคนพากันก้มกราบ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่าพระธุดงค์หายไปแล้ว ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ สัปเหร่อแต้มมองไปรอบๆ
“อาราธนาหลวงพ่อคุ้มครองพวกเราด้วยนะครับ”
สัปเหร่อแต้มและคนอื่นๆ พากันเดินทางต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไป วันพรุ่งนี้
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554