xs
xsm
sm
md
lg

ใส่ใจสุขภาพ : น่ากลัวมาก... 10 ผลร้ายเมื่อขาดวิตามินดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลายคนอาจไม่รู้ความจริงว่า วิตามินดีเป็นสารที่จำเป็นต่อการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย แต่คนที่รู้ก็มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญ ดังนั้น จึงพบว่ามีคนขาดสารนี้เป็นจำนวนมาก อย่างเช่นในสหรัฐฯ ผู้ใหญ่ขาดวิตามินดีมากถึงร้อยละ 42 ส่วนคนไทยที่แวดล้อมด้วยแสงแดด น่าจะได้วิตามินดีเกินพอ แต่ผลการสำรวจกลับไม่เป็นเช่นนั้น

เพราะจากการสำรวจสุขภาพประชากรไทย พ.ศ. 2551 โดยสมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย พบว่า ระดับวิตามินดีในเลือดของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31.8+8.5(SD)ng/mL ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้รับวิตามินดีเพียงพอ และคนในแต่ละภาคมีระดับวิตามินดีแตกต่างกัน คือ คนกรุงเทพฯ มีระดับวิตามินดีต่ำสุด คนในเขตเมืองมีระดับวิตามินดีต่ำกว่าคนอยู่นอกเมือง ทั้งนี้ เพราะภาวะสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตของคนในสังคมเมืองแตกต่างจากสังคมชนบท แนวโน้มของคนในเมืองจึงมีระดับวิตามินดีน้อยลงเรื่อยๆ จนเข้าสู่ภาวะเสี่ยงต่อการขาดวิตามินชนิดนี้มากขึ้น

วิตามินดีมีความสำคัญต่อร่างกายมาก จึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่จะมองข้ามไป แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะการขาดวิตามินดีทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ เสียสุขภาวะที่ดี บั่นทอนอายุขัย เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ และหากเจ็บป่วยอยู่แล้ว อาการก็จะรุนแรงขึ้น ลุกลามขยายไปมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และถ้ารักษาจนดีขึ้นหรือหายแล้ว อาการอาจจะทรุดหรือกลับมาเป็นซ้ำอีกได้

มาดูรายละเอียดกันว่า ความน่ากลัวของการขาดวิตามินดี ที่มีการศึกษาวิจัยกันมากมายนั้น มีอะไรบ้าง

1. มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น
คนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดน้อย มีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าคนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดสูง ถึง 2 เท่า จากการศึกษาของวารสารจิตเวชของอังกฤษ British Journal of Psychiatry ซึ่งทำการศึกษากลุ่มคน 31,000 คน ระบุว่าในสมองส่วนฮิปโปแคมปัสและส่วนอื่นที่ใกล้เคียง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ของเราอยู่นั้น มีตัวรับวิตามินดีอยู่จำนวนมาก ดังนั้น ถ้าเรามีระดับวิตามินดีต่ำ ก็อาจมีผลทำให้สมองส่วนนั้นไม่สามารถทำงานเป็นปกติ

2. อาจทำให้สู้กับโรคมะเร็งได้น้อยลง
การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารคลินิกต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism ของอเมริกา บอกว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีระดับวิตามินดีในเลือดสูง มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานกว่า และช่วงปลอดอาการก็ยาวนานกว่า

นักวิจัยพบว่า ตัวเลขระดับวิตามินดีในเลือดมากขึ้น อัตรารอดชีวิตจากโรคร้ายก็เพิ่มขึ้นตาม โดยเห็นผลชัดเจนที่สุดในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งเต้านม

นอกจากนี้ ในวารสารงานวิจัยเพื่อต่อต้านมะเร็ง Anticancer Research ยังรายงานว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีวิตามินดีในระดับที่เหมาะสม มีแนวโน้มจะรอดชีวิตได้มากกว่าผู้ป่วยที่มีวิตามินดีระดับต่ำถึง 2 เท่า

3. อาจทำให้โรคมะเร็งพัฒนาไปเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรง
วารสารการวิจัยทางคลินิกโรคมะเร็ง Clinical Cancer Research ของอเมริกา ชี้ว่า ในผู้ป่วยมะเร็งชายที่มีระดับวิตามินดีต่ำ มีความเสี่ยงที่โรคมะเร็งจะพัฒนาไปเป็นชนิดร้ายแรงมากขึ้นถึง 4-5 เท่า แม้จะยังไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แต่นักวิจัยก็ยืนยันว่า การคัดกรองและการรักษาภาวะขาดวิตามินดี จำเป็นต่อการดูแลโรคมะเร็ง

4. อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
วารสารประสาทวิทยา Neurology ของสถาบันประสาทวิทยาอเมริกา รายงานการศึกษาเปรียบเทียบในกลุ่มผู้ใหญ่ว่า คนที่ขาดวิตามินดีระดับปานกลาง มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 แต่คนที่ขาดวิตามินดีรุนแรง มีความเสี่ยงสูงขึ้นไปถึงร้อยละ 125 นอกจากนี้ การขาดวิตามินดียังสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นร้อยละ 122

นักวิจัยเห็นว่าควรจะมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงถึงกันดังกล่าวได้ดีกว่านี้ ทั้งยังเตือนให้ตระหนักอีกว่า อายุที่มากขึ้นเป็นปัจจัยทำให้เกิดปัญหาด้านการรู้คิดอยู่แล้ว แต่ไม่เพียงเท่านั้น เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ผิวหนังก็ยิ่งสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดดได้น้อยลง ทำให้มีโอกาสขาดวิตามินดีมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ยิ่งขึ้นไปอีก

5. มีโอกาสเป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินมากขึ้น
ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินประมาณร้อยละ 30 ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินด้วย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ โดยไปกระตุ้นให้ข้ออักเสบ ปวด บวมแดง

วารสารการดูแลโรคข้ออักเสบและการวิจัย Arthritis Care & Research ของวิทยาลัยโรคข้ออักเสบของอเมริกา และสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพโรคข้อ รายงานการผลศึกษาว่า ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน เป็นผู้ขาดวิตามินดีถึงร้อยละ 62 และการวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นด้วยว่า การมีระดับวิตามินดีต่ำทำให้การอักเสบ อย่างเช่น โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน แย่ลงไปอีก อาจเป็นเพราะมีการเพิ่มระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาว

6. มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจอย่างรุนแรง
เมื่อปีที่แล้ว วิทยาลัยโรคหัวใจและหลอดเลือดของอเมริกา American College of Cardiology รายงานผลการศึกษาพบว่า คนที่ขาดวิตามินดีมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแดงโคโรนารีตีบเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีระดับวิตามินดีปกติ อีกทั้งยังมีอาการของโรครุนแรงที่ส่งผลต่อเส้นเลือดหลายเส้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 20

นักวิจัยกล่าวว่า วิตามินดีอาจช่วยปรับปรุงการทำงานของภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้ดีขึ้น และควบคุมการอักเสบทั่วร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้

7. อาจทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ
นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นฟินแลนด์ University of Eastern Finland พบว่าคนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นโรคปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานชี้ว่า การขาดวิตามินดีทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคติดต่อ เช่น โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น

8. เพิ่มความเสี่ยงโรคจิตเภท
คนที่ขาดวิตามินดีมีแนวโน้มจะเป็นโรคจิตเภท เป็นสองเท่าของคนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ดี รายงานชิ้นนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารคลินิกต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม Journal of Clinical Endocrinology & Metabolism ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทของวิตามินดีต่อสุขภาวะทางจิตเวชได้ดีขึ้น

9. เร่งให้โรคปลอกประสาทอักเสบเร็วและรุนแรงขึ้น
ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยพบว่า ระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบ พาร์กินสัน และอื่นๆ

วารสารเกี่ยวกับประสาทวิทยา JAMA Neurology ของสมาคมแพทย์อเมริกัน ได้ตีพิมพ์รายงานการศึกษาชิ้นใหม่ว่า หากเป็นโรคปลอกประสาทอักเสบ การมีระดับวิตามินดีต่ำจะเร่งให้การดำเนินโรครุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นักวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทอักเสบระยะแรก ที่มีระดับวิตามินดีในเลือดมากพอ มีอัตราการเกิดรอยโรคใหม่ที่สมอง ต่ำกว่าผู้ป่วยที่มีระดับวิตามินดีต่ำ ถึงร้อยละ 57 และมีอัตราการกลับเป็นซ้ำหลังจากการรักษาได้ผลดีแล้ว ร้อยละ 57 เช่นกัน

10. อาจตายก่อนเวลาอันควร
สุดท้าย คนที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ อาจตายเร็วก่อนคนที่มีระดับปกติ ตามรายงานการศึกษาวิเคราะห์จำนวน 32 ชิ้น ที่ตีพิมพ์ในวารสารสาธารณสุขของอเมริกา The American Journal of Public Health คนที่มีระดับวิตามินดีต่ำกว่า 30 มล. มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด มากกว่าคนที่มีระดับมากกว่า 30 มล.

แต่ใช่ว่ามีวิตามินดีมากกว่าแล้วจะดีกว่าเสมอไป เพราะนักวิจัยพบว่า คนที่มีระดับสูงกว่า 50 มล. ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับคนที่มีวิตามินดีปริมาณพอเหมาะ

“วิตามินดี” อยู่ที่นี่
แหล่งวิตามินดีในบ้านเราหาได้ไม่ยาก และบางแหล่งไม่ต้องเสียเงินซื้อเลย

1. แสงแดดจากดวงอาทิตย์ ร่างกายเราจะดูดซับรังสีจากแสงแดดไว้ที่ชั้นใต้ผิวหนัง แล้วสังเคราะห์เป็นวิตามินดีได้เอง
2. อาหาร เช่น ยีสต์ เห็ด สาหร่าย ไข่แดง นม เนย ตับสัตว์ ปลาที่มีไขมันมากบางชนิด เช่น ปลาทู แซลมอน ซาร์ดีน แมคเคอเรล เป็นต้น

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 192 ธันวาคม 2559 โดย วิรีย์พร)
กำลังโหลดความคิดเห็น