“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” นี้เป็นความจริง อันไม่ตาย คือ ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง แม้จะมีคนในสมัยหนึ่ง เกิดระแวงว่า
ทำไมคนทำชั่ว กลับร่ำรวยเร็ว คนทำดี กลับยากจนลง หรือเป็นอยู่ด้วยความยากลำบากก็ตาม
ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” อยู่ตามเดิม ไม่โยกคลอน
ทำดีได้ดีแน่ เพราะมันดีอยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง และมันดีเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อทำ แต่ที่มันจะได้เงินหรืออื่นๆด้วยหรือไม่ นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่ง
แม้ทำชั่ว ก็เป็นอย่างเดียวกัน มันชั่วอยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง ไปทำเข้า มันก็ชั่วมาเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อทำ จะได้เงินด้วยหรือไม่ นั่นอีกส่วนหนึ่ง
ฉะนั้น “ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว” โดยไม่มีทางหลีกไปทางไหนพ้น
ทำดีได้ดี และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น “เงินดี” ทำชั่วได้ชั่ว และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น “เงินชั่ว”
เงินดี ทำเจ้าของให้เป็นเจ้าของที่ดี เย็นอกเย็นใจ เงินชั่ว ทำเจ้าของให้เป็นปีศาจ ผู้สูบเลือดมนุษย์
ฉะนั้น แม้จะได้เงินมามาก ด้วยการทำชั่ว ก็มีแต่จะยิ่งทำเจ้าของให้เป็น “ปีศาจ” มากยิ่งขึ้น ตามส่วนนั่นเอง
ฉะนั้น ความจริง คงหนีความจริงไปไม่พ้น ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” อยู่จนตลอดกัลปาวสาน เป็นอย่างน้อย
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาส อินทปัญโญ)
วัดธารน้ำไหล จ.สุราษฎร์ธานี
อย่าทำตามใจชอบ คนทำอะไรตามใจชอบ คนนั้นผิดพลาดหมด ถูกไม่มี คนที่ทำอะไรตามใจชอบ ไม่คิดถึงเหตุถึงผล ก็เท่ากับปล่อยร่างกายตนให้ไหลไปเหมือนเรือไหลล่อง ตนเองไม่ถือหางเสือ เรือก็จะวิ่งตรงตามที่เราหมายได้หรือ
พระเทพสิทธาจารย์(จันทร์ เขมิโย)
วัดศรีเทพประดิษฐาราม จ.นครพนม
การภาวนานั้นเพื่อเป็นเครื่องรักษาจิตใจของเรา ให้อยู่ในคุณธรรมอันเป็นทางนำมาให้เกิดความสุข เพราะความสุขเป็นที่ต้องการของเราทั้งหลาย แม้จะทำงาน ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเท่าไร ความมุ่งหวังก็ต้องการความสุขนั่นเอง
ความสุขทุกอย่างต้องมีการเสียสละ มีการลงทุน มีการต่อสู้ในควรที่ต่อสู้ บางอย่างก็ต้องอดทนถึงจะได้มาซึ่งความสุข ไม่มีความสุขใดๆ อันเป็นฐานมั่นคงของชีวิต จะได้มาโดยไม่กระทำและไม่พยายาม
พระโพธิธรรมาจารย์เถร (สุวัจน์ สุวโจ)
วัดป่าเขาน้อย จ.บุรีรัมย์
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
ทำไมคนทำชั่ว กลับร่ำรวยเร็ว คนทำดี กลับยากจนลง หรือเป็นอยู่ด้วยความยากลำบากก็ตาม
ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” อยู่ตามเดิม ไม่โยกคลอน
ทำดีได้ดีแน่ เพราะมันดีอยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง และมันดีเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อทำ แต่ที่มันจะได้เงินหรืออื่นๆด้วยหรือไม่ นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่ง
แม้ทำชั่ว ก็เป็นอย่างเดียวกัน มันชั่วอยู่ที่ตัวการกระทำนั่นเอง ไปทำเข้า มันก็ชั่วมาเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อทำ จะได้เงินด้วยหรือไม่ นั่นอีกส่วนหนึ่ง
ฉะนั้น “ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว” โดยไม่มีทางหลีกไปทางไหนพ้น
ทำดีได้ดี และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น “เงินดี” ทำชั่วได้ชั่ว และถ้าได้เงินมาด้วย มันก็เป็น “เงินชั่ว”
เงินดี ทำเจ้าของให้เป็นเจ้าของที่ดี เย็นอกเย็นใจ เงินชั่ว ทำเจ้าของให้เป็นปีศาจ ผู้สูบเลือดมนุษย์
ฉะนั้น แม้จะได้เงินมามาก ด้วยการทำชั่ว ก็มีแต่จะยิ่งทำเจ้าของให้เป็น “ปีศาจ” มากยิ่งขึ้น ตามส่วนนั่นเอง
ฉะนั้น ความจริง คงหนีความจริงไปไม่พ้น ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” อยู่จนตลอดกัลปาวสาน เป็นอย่างน้อย
พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาส อินทปัญโญ)
วัดธารน้ำไหล จ.สุราษฎร์ธานี
อย่าทำตามใจชอบ คนทำอะไรตามใจชอบ คนนั้นผิดพลาดหมด ถูกไม่มี คนที่ทำอะไรตามใจชอบ ไม่คิดถึงเหตุถึงผล ก็เท่ากับปล่อยร่างกายตนให้ไหลไปเหมือนเรือไหลล่อง ตนเองไม่ถือหางเสือ เรือก็จะวิ่งตรงตามที่เราหมายได้หรือ
พระเทพสิทธาจารย์(จันทร์ เขมิโย)
วัดศรีเทพประดิษฐาราม จ.นครพนม
การภาวนานั้นเพื่อเป็นเครื่องรักษาจิตใจของเรา ให้อยู่ในคุณธรรมอันเป็นทางนำมาให้เกิดความสุข เพราะความสุขเป็นที่ต้องการของเราทั้งหลาย แม้จะทำงาน ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเท่าไร ความมุ่งหวังก็ต้องการความสุขนั่นเอง
ความสุขทุกอย่างต้องมีการเสียสละ มีการลงทุน มีการต่อสู้ในควรที่ต่อสู้ บางอย่างก็ต้องอดทนถึงจะได้มาซึ่งความสุข ไม่มีความสุขใดๆ อันเป็นฐานมั่นคงของชีวิต จะได้มาโดยไม่กระทำและไม่พยายาม
พระโพธิธรรมาจารย์เถร (สุวัจน์ สุวโจ)
วัดป่าเขาน้อย จ.บุรีรัมย์
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)