• วัดโบราณญี่ปุ่นที่ “สตีฟ จ็อบส์” ฝันมาบวช วางแผนดึงดูดนักท่องเที่ยว
ญี่ปุ่น : เว็บไซต์ Japantimes รายงานว่า วัดเออิเฮจิ ซึ่งเป็นวัดโบราณที่สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ในป่าลึกของจังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและบริษัทก่อสร้างโมริ วางแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยือน
ทั้งนี้ วัดเออิเฮจิจำต้องหาเงินมาใช้สนับสนุนพระสงฆ์ในการปฏิบัติธรรมแบบเซนที่เคร่งครัด แต่จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงน้อยกว่าห้าแสนคนต่อปี ทางวัดและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมั่นใจว่า รถไฟความเร็วสูงสายใหม่ที่จะเชื่อมต่อนครโตเกียวกับจังหวัดใกล้เคียง จะช่วยฟื้นฟูวัดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โดยทางวัดตั้งเป้าใช้เงิน 1.3 พันล้านเยน (ราว 400 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงแรมสูง 2 ชั้นในเมืองติดกัน ซึ่งรองรับผู้มาพักได้ 80 คน ขณะที่บริเวณโดยรอบจะพัฒนาเป็นเส้นทางเข้าสู่วัด คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จใน ค.ศ. 2020
“เมื่อนักท่องเที่ยวมีที่พักในตอนกลางคืน ก็จะอยู่นานขึ้นและใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย” โชอูจิ คาวาคามิ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าว และหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาวัดจะเพิ่มเป็น 2 เท่าใน ค.ศ. 2025
อนึ่ง วัดเออิเฮจิ เป็นวัดพุทธศาสนานิกายเซน ซึ่งครั้งหนึ่ง สตีฟ จ็อบส์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลคอมพิวเตอร์ เคยฝันที่จะมาบวชเป็นภิกษุที่นี่
• จีนเปิดวัดในถ้ำพุทธให้เข้าชมหลังบูรณะเสร็จ
จีน : สำนักข่าว Shanghaidaily รายงานว่า วัดกานจิง ซึ่งตั้งอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่งของหมู่ถ้ำผาหลงเหมิน อันเป็นมรดกโลก ใกล้เมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงดงามของรูปพระอรหันต์ขนาดเท่าคนจริง จำนวน 29 องค์ ที่แกะสลักบนผนังถ้ำ อย่างเป็นทางการแล้ว
ลู ไว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยถ้ำผาหลงเหมิน เผยว่า หมู่พระอรหันต์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในรูปแกะสลักพระอรหันต์ยุคราชวงค์ถัง (ค.ศ.618-907) ที่มีความประณีตมากที่สุด และได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ถ้ำดังกล่าวไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากอยู่ระหว่างการบูรณะ การวิจัย และการอนุรักษ์โบราณวัตถุภายในถ้ำ
พระอรหันต์ทั้ง 29 องค์ แสดงสีหน้าท่าทางแตกต่างกัน ดูมีชีวิตชีวา เหมือนจริง ต่างจากการแกะสลักพระอรหันต์รูปแบบจีนอย่างสิ้นเชิง โดยได้มีการทำความสะอาด ซ่อมแซม และติดตั้งผนังกระจก เพื่อป้องกันรูปแกะสลักดังกล่าว
นอกจากนี้ ภายในถ้ำยังได้ติดตั้งกล้องอินฟาเรด เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดความชื้นในอากาศ และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ควบคุมน้ำ อุณหภูมิและความชื้น ในกรณีที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ก็จะนำมาตรการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมมาใช้
อนึ่ง วัดถ้ำกานจิง สร้างเมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว ในสมัยพระนางบูเช็กเทียน (ค.ศ. 624-705) จักรพรรดินีแห่งราชวงค์โจว ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
• พม่าห้ามนักท่องเที่ยวปีนเจดีย์เมืองพุกาม
พม่า : สำนักข่าว AFP รายงานว่า รัฐบาลพม่าออกคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวปีนป่ายเจดีย์โบราณในเมืองพุกาม เพื่อขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของ “ทะเลเจดีย์” อันเป็นแหล่งโบราณคดีทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2016 เป็นต้นไป
โดยกระทรวงวัฒนธรรมพม่าเผยว่า คำสั่งดังกล่าวมีไว้ใช้คุ้มครองเหล่าโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเมืองพุกามเคารพนับถือ ขณะเดียวกันก็ช่วยยับยั้งอันตรายจากการปีนป่ายด้วย
“นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ปีนเจดีย์มักแสดงพฤติกรรมขัดต่อวัฒนธรรมอันดีงาม ไม่เคารพสถานที่ เช่น แต่งกายไม่เหมาะสม ขึ้นไปเต้นและนอนบนเจดีย์ จึงขอประกาศห้ามผู้ใดปีนขึ้นเจดีย์เด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2016”
อนึ่ง พุกามเป็นเมืองโบราณในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9-13 เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพุกาม ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพม่า ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดเคยมีเจดีย์มากถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือเพียง 2,217 องค์ จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ ปัจจุบัน รัฐบาลเร่งเสนอชื่อให้องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
• บ.ยักษ์ใหญ่อเมริกันเตรียมสร้างห้องทำสมาธิ
สหรัฐอเมริกา : เว็บไซต์ uk.businessinsider.com รายงานว่า นายมาร์ค เบนิออฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Salesforce ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครซานฟรานซิสโก เตรียมสร้างห้องทำสมาธิทุกๆชั้นของหนึ่งในอาคารสำนักงานหลังใหม่ของบริษัท ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อเดือนมีนาคม 2016
ทั้งนี้ เบนิออฟ เป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำสมาธิอย่างแท้จริง โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เขาทำสมาธิเกือบทุกวัน และเป็นหนึ่งในนักพูดที่มีชื่อเสียงมากสุดที่เน้นเรื่องความสงบภายในจิตใจ ส่งเสริมการทำสมาธิในที่ทำงาน
โดยแนวคิดดังกล่าวเกิดจากพระสงฆ์ 30 รูป ซึ่งมาพำนักที่บ้านของเบนิออฟเมื่อไม่นานมานี้ ได้เข้าเยี่ยมอาคารสำนักงานของ Salesforce และกล่าวว่า “ทุกที่ที่พวกอาตมาไป ทุกๆคนเอาแต่พูดคุยกันตลอดเวลา พวกเขาทำงานกันตลอด โยมต้องหยุดสิ่งนี้”
เหล่าพระสงฆ์ได้แนะนำให้จัดทำชั้นใดชั้นหนึ่งในอาคารเป็นมุมสงบ เพื่อพนักงานสามารถเข้าไปทำสมาธิได้ทุกเวลาที่ต้องการ แต่เบนิออฟกลับเสนอให้มีห้องทำสมาธิทุกชั้น เพื่อทุกคนจะเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเขาเชื่อว่า มันจะช่วยบ่มเพาะให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆขึ้นได้
• เสียว! ต้นไม้เหนือหลวงพ่อโตหักโค่น จีนเร่งกำจัดแมลงที่กัดกินต้นไม้
จีน : สำนักข่าว China News Service รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2016 เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งพยายามจัดการกับเหล่าแมลงปรสิตบนต้นพิสตาเซีย ที่ขึ้นอยู่ริมหน้าผาเหนือองค์หลวงพ่อโตเล่อซาน ใกล้เมืองเล่อซาน มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า ต้นไม้ดังกล่าวมีอายุ 287 ปี เมื่อไม่นานมานี้ได้ถูกแมลงกัดกินจนอาจเกิดอันตรายที่จะหักโค่นลงใส่หลวงพ่อโตเล่อซานได้
หลวงพ่อโตเล่อซานเป็นพระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ที่สูงในโลก มีความสูง 71 เมตร แกะสลักจากบริเวณหน้าผาภูเขาเล่อซานที่มีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ในสมัยราชวงค์ถังเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว
• งานวิจัยยืนยันทำสมาธิด้วยเสียงกลองช่วยสุขภาพดี
ฮ่องกง : เว็บไซต์ Buddhistdoor.net รายงานว่า กลอง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่อาจถือกำเนิดขึ้นก่อนเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาและวัฒนธรรมหลากหลายในประวัติศาสตร์มนุษยชาติมาโดยตลอด
ตั้งแต่ 2,500 ปีที่แล้วในสมัยพุทธกาลจวบจนถึงปัจจุบัน กลองได้กลายเป็นส่วนสำคัญของวิถีพุทธภายในวัดต่างๆ เช่น ใช้ตีบอกกำหนดเวลา หรือเคาะให้สัญญาณในการทำสมาธิระดับลึก
แกรี่ ดิกกิ้นส์ นักบำบัดด้วยเสียงชาวแคนาดา กล่าวว่า “เสียงกลอง ช่วยบำบัดให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด กระตุ้นให้หายเหนื่อย และบรรเทาจิตใจให้สงบ”
งานวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับมนุษย์ได้พิสูจน์แล้วว่า เสียงกลองก่อให้เกิดประโยชน์สำคัญมากมายในการบำบัดรักษาโรค ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องความจำเสื่อม ลดอาการตึงเครียด และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค ไปจนถึงการรักษาโรคซึมเศร้า และยังเป็นตัวหนุนการรักษาโรคมะเร็งอีกด้วย
นอกจากนี้ เสียงกลองยังส่งผลดีต่างๆ ดังนี้
1. ช่วยลดความดันโลหิตและความวิตกกังวล อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ “Journal of Cardiovascular Medicine”
2. ทำให้กระบวนการรับรู้ดีขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในสมอง อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Journal of Huntington’s Disease”
3. อดทนต่อความเจ็บปวดได้ดีขึ้น อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2012 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Evolutionary Psychology”
4. ช่วยลดระดับความเครียดและฮอร์โมนคอร์ติซอล อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ.2001 ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ “Plos One”
5. เมื่อนำมาใช้ร่วมกับคำสอนของลัทธิแชมัน (คือกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่ามีความสามารถในทางวิญญาณ ได้แก่ คนทรง พ่อมด แม่มด เป็นต้น) จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และการเกิดประสบการณ์คล้ายความฝันที่อยู่เหนือธรรมชาติ อ้างอิงจากงานวิจัยค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Plos One”
6. ทำให้พฤติกรรมด้านอารมณ์ที่เกี่ยวกับสังคมในเด็กด้อยโอกาสดีขึ้น อ้างอิงจากงานวิจัยค.ศ. 2001 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย เภตรา)
ญี่ปุ่น : เว็บไซต์ Japantimes รายงานว่า วัดเออิเฮจิ ซึ่งเป็นวัดโบราณที่สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ในป่าลึกของจังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและบริษัทก่อสร้างโมริ วางแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเยือน
ทั้งนี้ วัดเออิเฮจิจำต้องหาเงินมาใช้สนับสนุนพระสงฆ์ในการปฏิบัติธรรมแบบเซนที่เคร่งครัด แต่จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงน้อยกว่าห้าแสนคนต่อปี ทางวัดและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมั่นใจว่า รถไฟความเร็วสูงสายใหม่ที่จะเชื่อมต่อนครโตเกียวกับจังหวัดใกล้เคียง จะช่วยฟื้นฟูวัดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โดยทางวัดตั้งเป้าใช้เงิน 1.3 พันล้านเยน (ราว 400 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงแรมสูง 2 ชั้นในเมืองติดกัน ซึ่งรองรับผู้มาพักได้ 80 คน ขณะที่บริเวณโดยรอบจะพัฒนาเป็นเส้นทางเข้าสู่วัด คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จใน ค.ศ. 2020
“เมื่อนักท่องเที่ยวมีที่พักในตอนกลางคืน ก็จะอยู่นานขึ้นและใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย” โชอูจิ คาวาคามิ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าว และหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาวัดจะเพิ่มเป็น 2 เท่าใน ค.ศ. 2025
อนึ่ง วัดเออิเฮจิ เป็นวัดพุทธศาสนานิกายเซน ซึ่งครั้งหนึ่ง สตีฟ จ็อบส์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลคอมพิวเตอร์ เคยฝันที่จะมาบวชเป็นภิกษุที่นี่
• จีนเปิดวัดในถ้ำพุทธให้เข้าชมหลังบูรณะเสร็จ
จีน : สำนักข่าว Shanghaidaily รายงานว่า วัดกานจิง ซึ่งตั้งอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่งของหมู่ถ้ำผาหลงเหมิน อันเป็นมรดกโลก ใกล้เมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงดงามของรูปพระอรหันต์ขนาดเท่าคนจริง จำนวน 29 องค์ ที่แกะสลักบนผนังถ้ำ อย่างเป็นทางการแล้ว
ลู ไว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยถ้ำผาหลงเหมิน เผยว่า หมู่พระอรหันต์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในรูปแกะสลักพระอรหันต์ยุคราชวงค์ถัง (ค.ศ.618-907) ที่มีความประณีตมากที่สุด และได้รับการอนุรักษ์อย่างดีที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ ถ้ำดังกล่าวไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากอยู่ระหว่างการบูรณะ การวิจัย และการอนุรักษ์โบราณวัตถุภายในถ้ำ
พระอรหันต์ทั้ง 29 องค์ แสดงสีหน้าท่าทางแตกต่างกัน ดูมีชีวิตชีวา เหมือนจริง ต่างจากการแกะสลักพระอรหันต์รูปแบบจีนอย่างสิ้นเชิง โดยได้มีการทำความสะอาด ซ่อมแซม และติดตั้งผนังกระจก เพื่อป้องกันรูปแกะสลักดังกล่าว
นอกจากนี้ ภายในถ้ำยังได้ติดตั้งกล้องอินฟาเรด เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดความชื้นในอากาศ และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ควบคุมน้ำ อุณหภูมิและความชื้น ในกรณีที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ก็จะนำมาตรการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมมาใช้
อนึ่ง วัดถ้ำกานจิง สร้างเมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว ในสมัยพระนางบูเช็กเทียน (ค.ศ. 624-705) จักรพรรดินีแห่งราชวงค์โจว ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
• พม่าห้ามนักท่องเที่ยวปีนเจดีย์เมืองพุกาม
พม่า : สำนักข่าว AFP รายงานว่า รัฐบาลพม่าออกคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวปีนป่ายเจดีย์โบราณในเมืองพุกาม เพื่อขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของ “ทะเลเจดีย์” อันเป็นแหล่งโบราณคดีทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2016 เป็นต้นไป
โดยกระทรวงวัฒนธรรมพม่าเผยว่า คำสั่งดังกล่าวมีไว้ใช้คุ้มครองเหล่าโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวเมืองพุกามเคารพนับถือ ขณะเดียวกันก็ช่วยยับยั้งอันตรายจากการปีนป่ายด้วย
“นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ปีนเจดีย์มักแสดงพฤติกรรมขัดต่อวัฒนธรรมอันดีงาม ไม่เคารพสถานที่ เช่น แต่งกายไม่เหมาะสม ขึ้นไปเต้นและนอนบนเจดีย์ จึงขอประกาศห้ามผู้ใดปีนขึ้นเจดีย์เด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2016”
อนึ่ง พุกามเป็นเมืองโบราณในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9-13 เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพุกาม ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพม่า ช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดเคยมีเจดีย์มากถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือเพียง 2,217 องค์ จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ ปัจจุบัน รัฐบาลเร่งเสนอชื่อให้องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
• บ.ยักษ์ใหญ่อเมริกันเตรียมสร้างห้องทำสมาธิ
สหรัฐอเมริกา : เว็บไซต์ uk.businessinsider.com รายงานว่า นายมาร์ค เบนิออฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Salesforce ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครซานฟรานซิสโก เตรียมสร้างห้องทำสมาธิทุกๆชั้นของหนึ่งในอาคารสำนักงานหลังใหม่ของบริษัท ที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อเดือนมีนาคม 2016
ทั้งนี้ เบนิออฟ เป็นผู้ที่ชื่นชอบการทำสมาธิอย่างแท้จริง โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เขาทำสมาธิเกือบทุกวัน และเป็นหนึ่งในนักพูดที่มีชื่อเสียงมากสุดที่เน้นเรื่องความสงบภายในจิตใจ ส่งเสริมการทำสมาธิในที่ทำงาน
โดยแนวคิดดังกล่าวเกิดจากพระสงฆ์ 30 รูป ซึ่งมาพำนักที่บ้านของเบนิออฟเมื่อไม่นานมานี้ ได้เข้าเยี่ยมอาคารสำนักงานของ Salesforce และกล่าวว่า “ทุกที่ที่พวกอาตมาไป ทุกๆคนเอาแต่พูดคุยกันตลอดเวลา พวกเขาทำงานกันตลอด โยมต้องหยุดสิ่งนี้”
เหล่าพระสงฆ์ได้แนะนำให้จัดทำชั้นใดชั้นหนึ่งในอาคารเป็นมุมสงบ เพื่อพนักงานสามารถเข้าไปทำสมาธิได้ทุกเวลาที่ต้องการ แต่เบนิออฟกลับเสนอให้มีห้องทำสมาธิทุกชั้น เพื่อทุกคนจะเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเขาเชื่อว่า มันจะช่วยบ่มเพาะให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆขึ้นได้
• เสียว! ต้นไม้เหนือหลวงพ่อโตหักโค่น จีนเร่งกำจัดแมลงที่กัดกินต้นไม้
จีน : สำนักข่าว China News Service รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2016 เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งพยายามจัดการกับเหล่าแมลงปรสิตบนต้นพิสตาเซีย ที่ขึ้นอยู่ริมหน้าผาเหนือองค์หลวงพ่อโตเล่อซาน ใกล้เมืองเล่อซาน มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า ต้นไม้ดังกล่าวมีอายุ 287 ปี เมื่อไม่นานมานี้ได้ถูกแมลงกัดกินจนอาจเกิดอันตรายที่จะหักโค่นลงใส่หลวงพ่อโตเล่อซานได้
หลวงพ่อโตเล่อซานเป็นพระพุทธรูปหินองค์ใหญ่ที่สูงในโลก มีความสูง 71 เมตร แกะสลักจากบริเวณหน้าผาภูเขาเล่อซานที่มีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ในสมัยราชวงค์ถังเมื่อกว่า 1,000 ปีที่แล้ว
• งานวิจัยยืนยันทำสมาธิด้วยเสียงกลองช่วยสุขภาพดี
ฮ่องกง : เว็บไซต์ Buddhistdoor.net รายงานว่า กลอง ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่อาจถือกำเนิดขึ้นก่อนเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาและวัฒนธรรมหลากหลายในประวัติศาสตร์มนุษยชาติมาโดยตลอด
ตั้งแต่ 2,500 ปีที่แล้วในสมัยพุทธกาลจวบจนถึงปัจจุบัน กลองได้กลายเป็นส่วนสำคัญของวิถีพุทธภายในวัดต่างๆ เช่น ใช้ตีบอกกำหนดเวลา หรือเคาะให้สัญญาณในการทำสมาธิระดับลึก
แกรี่ ดิกกิ้นส์ นักบำบัดด้วยเสียงชาวแคนาดา กล่าวว่า “เสียงกลอง ช่วยบำบัดให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด กระตุ้นให้หายเหนื่อย และบรรเทาจิตใจให้สงบ”
งานวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับมนุษย์ได้พิสูจน์แล้วว่า เสียงกลองก่อให้เกิดประโยชน์สำคัญมากมายในการบำบัดรักษาโรค ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องความจำเสื่อม ลดอาการตึงเครียด และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรค ไปจนถึงการรักษาโรคซึมเศร้า และยังเป็นตัวหนุนการรักษาโรคมะเร็งอีกด้วย
นอกจากนี้ เสียงกลองยังส่งผลดีต่างๆ ดังนี้
1. ช่วยลดความดันโลหิตและความวิตกกังวล อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ “Journal of Cardiovascular Medicine”
2. ทำให้กระบวนการรับรู้ดีขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในสมอง อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Journal of Huntington’s Disease”
3. อดทนต่อความเจ็บปวดได้ดีขึ้น อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ. 2012 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Evolutionary Psychology”
4. ช่วยลดระดับความเครียดและฮอร์โมนคอร์ติซอล อ้างอิงจากงานวิจัย ค.ศ.2001 ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ “Plos One”
5. เมื่อนำมาใช้ร่วมกับคำสอนของลัทธิแชมัน (คือกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่ามีความสามารถในทางวิญญาณ ได้แก่ คนทรง พ่อมด แม่มด เป็นต้น) จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และการเกิดประสบการณ์คล้ายความฝันที่อยู่เหนือธรรมชาติ อ้างอิงจากงานวิจัยค.ศ. 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Plos One”
6. ทำให้พฤติกรรมด้านอารมณ์ที่เกี่ยวกับสังคมในเด็กด้อยโอกาสดีขึ้น อ้างอิงจากงานวิจัยค.ศ. 2001 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย เภตรา)
