• เรือนจำขอขอบคุณ
เรียนบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ตามที่ท่านได้เมตตาอนุเคราะห์จัดส่งนิตยสาร “ธรรมลีลา” จำนวน 7 เล่ม อุปถัมภ์โดย คุณยุพา หลวงปราบ คุณภูษณีย์ รัตตกุล คุณอาภรณ์ กวินอนันต์ คุณสาคร ศิริรัฐ คุณภิญญา โรจนะประเสริฐกิจ คุณอัจฉรา พัฒนะพิมลจิตร์ และคณะ ให้เรือนจำจังหวัดชัยนาทนำเข้าห้องสมุด เพื่อให้ข้าราชการและผู้ต้องขังได้อ่านศึกษาหาความรู้นั้น
เรือนจำจังหวัดชัยนาท ได้รับหนังสือดังกล่าวและได้นำเข้าห้องสมุดเรือนจำฯ เพื่อให้ข้าราชการและผู้ต้องขังได้อ่านศึกษาหาความรู้ตามความประสงค์เรียบร้อยแล้ว จึงขอขอบคุณและอำนวยพรให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
ขอแสดงความนับถือ
นางกุสุมาลย์ นาคพรหม
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยนาท
เรียนบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ตามที่ท่านได้อนุเคราะห์จัดส่งนิตยสารธรรมลีลา ปีที่ 16 ฉบับที่182, 183 ประจำเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม 2559 จำนวน 8 เล่ม ให้แก่ห้องสมุดเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เจ้าพนักงานและผู้ต้องขังได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสสัมผัสกับโลกภายนอกผ่านทางหนังสือ และพัฒนาความคิดสำหรับผู้ขาดโอกาสในสังคม เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น
เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับนิตยสารดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านได้โปรดแจ้งให้ คุณปัญญาวุฒิ-อาจารย์กฤษณา มุขแจ้ง คุณรัชฎาภรณ์ รัฐธรรม คุณอรพินท์ อภิรักษ์กานต์ และคุณเบญจลักษณ์ ปิ่นรัตน์ ซึ่งเป็นผู้บริจาคทราบด้วย หวังว่าคงได้รับความอนุเคราะห์ด้วยดีเช่นเคย และขอขอบคุณท่านมา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ
นายชัยวัฒน์ รัตนวงศ์
หัวหน้าฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ
ปฏิบัติราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนากับทุกท่านที่ทางเรือนจำได้เอ่ยนามมานี้ และยังมีสมาชิกอีกมากมายหลายท่านที่ให้ความอนุเคราะห์โดยรับเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้กับทางเรือนจำและสถานพินิจทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันพัฒนาความคิดสำหรับผู้ขาดโอกาสในสังคม สำหรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันดังที่ทางเรือนจำได้แจ้งมา
เรียนท่านผู้อ่าน ในปีงบประมาณ 2558 กรมราชทัณฑ์ได้จัดทำโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังหลักสูตรสัคคสาสมาธิ ตามแนวทางพระธรรมมงคลญาณ(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร ร่วมกับสถาบันพลังจิตตานุภาพ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จำนวน 100 ชั่วโมง ระยะเวลา 1 เดือน
ทั้งนี้ได้เล็งเห็นว่า การพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังโดยใช้หลักธรรมของศาสนา เป็นประโยชน์ในการปรับสภาพจิตใจผู้ต้องขังได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการฝึกสมาธิถือเป็นกิจกรรมทางใจที่สามารถทำให้ทุกชีวิตมีคุณค่า คลายความตึงเครียด จิตใจแจ่มใสเบิกบาน ผู้ต้องขังได้พัฒนาระดับจิตใจและชีวิตให้ดีขึ้น เพราะจิตที่ได้รับการฝึกสมาธิภาวนาแล้วเป็นจิตที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตนในทางที่เหมาะสมต่อไป
โดยให้เรือนจำทั่วประเทศดำเนินโครงการนี้ ที่ผ่านมามีเรือนจำหลายแห่งได้จัดโครงการนี้ไปแล้ว สำหรับเรือนจำจังหวัดชัยนาทได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ.-16 มี.ค. และเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มี.ค.-3 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องขังเข้าอบรมแห่งละ 300 คน
ไม่เพียงจัดโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังหลักสูตรสัคคสาสมาธิ แต่นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังกล่าวในการเปิดโครงการสัคคสาสมาธิ ที่เรือนจำจังหวัดชัยนาท ว่า เมื่อทุกคนผ่านหลักสูตรนี้แล้ว ทางกรมราชทัณฑ์ก็ยังมีโครงการต่อเนื่องคือโครงการมัคทายก ที่มีสำนักงานพระพุทธศาสนารับรอง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ต้องขัง เมื่อพ้นจากเรือนจำไปแล้ว สามารถเป็นผู้นำทางศาสนพิธีได้ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วย
โครงการดีๆอย่างนี้ “ธรรมลีลา” ก็ต้องขออนุโมทนาด้วยเช่นกัน
• จะใช้ชื่อคุณแม่เหมือนเดิมดีมั้ย
เรียนกองบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ดิฉันเป็นสมาชิกธรรมลีลามา 5 ปี แล้วค่ะ จากการแนะนำของเพื่อนสนิท ครั้งแรกที่ได้อ่านก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากทั้งกายและใจ และนำไปปรับใช้กับชีวิตได้
เมื่อมีโอกาสไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์สิริกิติ์ ดิฉันจึงไปสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์เพื่อมอบธรรมทานให้กับหน่วยงานที่ต้องการ 3 แห่ง โดยการใช้ชื่อคุณแม่เป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ปัจจุบันคุณแม่ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชรา และอายุสมาชิกใกล้จะหมดแล้ว ดิฉันมีความตั้งใจจะต่ออายุสมาชิก และทำเพิ่มอีก 2 แห่ง จึงอยากจะเรียนปรึกษาทางกอง บก. ว่าเมื่อคุณแม่ดิฉันเสียชีวิตแล้วจะใช้ชื่อคุณแม่เหมือนเดิมดีหรือไม่คะ (เพราะมีบางคนบอกว่า ไม่ควรใช้ชื่อคนตาย) หรือจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อดิฉันเองเป็นผู้อุปถัมภ์ (ใจจริงอยากใช้ชื่อแม่ค่ะ)
ท้ายนี้ ขอให้ธรรมลีลานำเสนอเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ เพื่อเป็นสื่อในการเเผยแผ่ความรู้ให้กว้างออกไป และขอให้ทีมงานกอง บก.ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง ผลิตสื่อดีๆต่อไปนะคะ
สุภาพรรณ
กรุงเทพฯ
เรียนคุณสุภาพรรณ ต้องขอขอบพระคุณสำหรับการรับไว้อ่านเองและเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้กับหน่วยงาน 3 แห่ง
และต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณแม่คุณด้วย เชื่อว่าด้วยบุญกุศลที่ท่านทำมา คงส่งผลให้ท่านไปสู่สุคติอย่างแน่นอน
การจะต่ออายุสมาชิกและอุปถัมภ์เพิ่ม หากคุณประสงค์จะใช้ชื่อคุณแม่ต่อไป ย่อมเป็นเรื่องดี เพราะ “ดี” เบื้องต้นที่เห็นได้ชัดคือ ดีกับจิตใจของคุณ ตามที่คุณบอกมาว่าใจจริงอยากใช้ชื่อแม่ ดังนั้น การใช้ชื่อแม่ย่อมทำให้คุณสบายใจดี และ “ดี” ต่อมาคือ คุณได้ทำบุญให้คุณแม่อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนแน่นอน แต่เสมือนหนึ่งแม่เป็นผู้ทำบุญเอง
และการที่มีชื่อคุณแม่ติดอยู่บนหน้าซองในฐานะผู้อุปถัมภ์นั้น ทำให้ผู้รับรู้สึกขอบคุณ และระลึกถึงคุณของผู้ให้ นี่ก็ย่อมทำให้เกิดบุญกุศลแก่คุณแม่ของคุณด้วยอีกทางหนึ่ง เช่นนี้จะไม่เป็นการดีหรอกหรือ
เดือนเมษายนนี้เป็นเดือนแห่งการรำลึกบรรพบุรุษ สำหรับชาวจีน คือวันที่ 5 เม.ย.เป็นวันเช็งเม้ง (บางปีตรงกับวันที่ 4 เม.ย.) ที่ต้องไปสุสาน เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ชาวไทยใช้ช่วงสงกรานต์ คือ 13-15 เม.ย. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาปีใหม่ไทย ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อแสดงความกตัญญู
อยากบอกว่า การรำลึกถึงผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เช่น ปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่ ไม่ใช่มีแค่วันเดียว แต่การนึกถึงความดีที่ท่านได้กระทำไว้แก่เรา รวมทั้งทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ ย่อมทำให้ลูกหลานผู้ปฏิบัติ ประสบแต่ความสุขความเจริญ อย่างน้อยก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำสิ่งดีๆนั่นเอง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)
เรียนบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ตามที่ท่านได้เมตตาอนุเคราะห์จัดส่งนิตยสาร “ธรรมลีลา” จำนวน 7 เล่ม อุปถัมภ์โดย คุณยุพา หลวงปราบ คุณภูษณีย์ รัตตกุล คุณอาภรณ์ กวินอนันต์ คุณสาคร ศิริรัฐ คุณภิญญา โรจนะประเสริฐกิจ คุณอัจฉรา พัฒนะพิมลจิตร์ และคณะ ให้เรือนจำจังหวัดชัยนาทนำเข้าห้องสมุด เพื่อให้ข้าราชการและผู้ต้องขังได้อ่านศึกษาหาความรู้นั้น
เรือนจำจังหวัดชัยนาท ได้รับหนังสือดังกล่าวและได้นำเข้าห้องสมุดเรือนจำฯ เพื่อให้ข้าราชการและผู้ต้องขังได้อ่านศึกษาหาความรู้ตามความประสงค์เรียบร้อยแล้ว จึงขอขอบคุณและอำนวยพรให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
ขอแสดงความนับถือ
นางกุสุมาลย์ นาคพรหม
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยนาท
เรียนบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ตามที่ท่านได้อนุเคราะห์จัดส่งนิตยสารธรรมลีลา ปีที่ 16 ฉบับที่182, 183 ประจำเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม 2559 จำนวน 8 เล่ม ให้แก่ห้องสมุดเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เจ้าพนักงานและผู้ต้องขังได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสสัมผัสกับโลกภายนอกผ่านทางหนังสือ และพัฒนาความคิดสำหรับผู้ขาดโอกาสในสังคม เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น
เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับนิตยสารดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านได้โปรดแจ้งให้ คุณปัญญาวุฒิ-อาจารย์กฤษณา มุขแจ้ง คุณรัชฎาภรณ์ รัฐธรรม คุณอรพินท์ อภิรักษ์กานต์ และคุณเบญจลักษณ์ ปิ่นรัตน์ ซึ่งเป็นผู้บริจาคทราบด้วย หวังว่าคงได้รับความอนุเคราะห์ด้วยดีเช่นเคย และขอขอบคุณท่านมา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ
นายชัยวัฒน์ รัตนวงศ์
หัวหน้าฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจ
ปฏิบัติราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์
ขอขอบพระคุณและอนุโมทนากับทุกท่านที่ทางเรือนจำได้เอ่ยนามมานี้ และยังมีสมาชิกอีกมากมายหลายท่านที่ให้ความอนุเคราะห์โดยรับเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้กับทางเรือนจำและสถานพินิจทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันพัฒนาความคิดสำหรับผู้ขาดโอกาสในสังคม สำหรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันดังที่ทางเรือนจำได้แจ้งมา
เรียนท่านผู้อ่าน ในปีงบประมาณ 2558 กรมราชทัณฑ์ได้จัดทำโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังหลักสูตรสัคคสาสมาธิ ตามแนวทางพระธรรมมงคลญาณ(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร ร่วมกับสถาบันพลังจิตตานุภาพ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จำนวน 100 ชั่วโมง ระยะเวลา 1 เดือน
ทั้งนี้ได้เล็งเห็นว่า การพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังโดยใช้หลักธรรมของศาสนา เป็นประโยชน์ในการปรับสภาพจิตใจผู้ต้องขังได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการฝึกสมาธิถือเป็นกิจกรรมทางใจที่สามารถทำให้ทุกชีวิตมีคุณค่า คลายความตึงเครียด จิตใจแจ่มใสเบิกบาน ผู้ต้องขังได้พัฒนาระดับจิตใจและชีวิตให้ดีขึ้น เพราะจิตที่ได้รับการฝึกสมาธิภาวนาแล้วเป็นจิตที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตนในทางที่เหมาะสมต่อไป
โดยให้เรือนจำทั่วประเทศดำเนินโครงการนี้ ที่ผ่านมามีเรือนจำหลายแห่งได้จัดโครงการนี้ไปแล้ว สำหรับเรือนจำจังหวัดชัยนาทได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ.-16 มี.ค. และเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มี.ค.-3 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องขังเข้าอบรมแห่งละ 300 คน
ไม่เพียงจัดโครงการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังหลักสูตรสัคคสาสมาธิ แต่นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยังกล่าวในการเปิดโครงการสัคคสาสมาธิ ที่เรือนจำจังหวัดชัยนาท ว่า เมื่อทุกคนผ่านหลักสูตรนี้แล้ว ทางกรมราชทัณฑ์ก็ยังมีโครงการต่อเนื่องคือโครงการมัคทายก ที่มีสำนักงานพระพุทธศาสนารับรอง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้ต้องขัง เมื่อพ้นจากเรือนจำไปแล้ว สามารถเป็นผู้นำทางศาสนพิธีได้ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วย
โครงการดีๆอย่างนี้ “ธรรมลีลา” ก็ต้องขออนุโมทนาด้วยเช่นกัน
• จะใช้ชื่อคุณแม่เหมือนเดิมดีมั้ย
เรียนกองบรรณาธิการนิตยสารธรรมลีลา
ดิฉันเป็นสมาชิกธรรมลีลามา 5 ปี แล้วค่ะ จากการแนะนำของเพื่อนสนิท ครั้งแรกที่ได้อ่านก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากทั้งกายและใจ และนำไปปรับใช้กับชีวิตได้
เมื่อมีโอกาสไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ศูนย์สิริกิติ์ ดิฉันจึงไปสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์เพื่อมอบธรรมทานให้กับหน่วยงานที่ต้องการ 3 แห่ง โดยการใช้ชื่อคุณแม่เป็นผู้อุปถัมภ์ แต่ปัจจุบันคุณแม่ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชรา และอายุสมาชิกใกล้จะหมดแล้ว ดิฉันมีความตั้งใจจะต่ออายุสมาชิก และทำเพิ่มอีก 2 แห่ง จึงอยากจะเรียนปรึกษาทางกอง บก. ว่าเมื่อคุณแม่ดิฉันเสียชีวิตแล้วจะใช้ชื่อคุณแม่เหมือนเดิมดีหรือไม่คะ (เพราะมีบางคนบอกว่า ไม่ควรใช้ชื่อคนตาย) หรือจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อดิฉันเองเป็นผู้อุปถัมภ์ (ใจจริงอยากใช้ชื่อแม่ค่ะ)
ท้ายนี้ ขอให้ธรรมลีลานำเสนอเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ เพื่อเป็นสื่อในการเเผยแผ่ความรู้ให้กว้างออกไป และขอให้ทีมงานกอง บก.ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง ผลิตสื่อดีๆต่อไปนะคะ
สุภาพรรณ
กรุงเทพฯ
เรียนคุณสุภาพรรณ ต้องขอขอบพระคุณสำหรับการรับไว้อ่านเองและเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้กับหน่วยงาน 3 แห่ง
และต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณแม่คุณด้วย เชื่อว่าด้วยบุญกุศลที่ท่านทำมา คงส่งผลให้ท่านไปสู่สุคติอย่างแน่นอน
การจะต่ออายุสมาชิกและอุปถัมภ์เพิ่ม หากคุณประสงค์จะใช้ชื่อคุณแม่ต่อไป ย่อมเป็นเรื่องดี เพราะ “ดี” เบื้องต้นที่เห็นได้ชัดคือ ดีกับจิตใจของคุณ ตามที่คุณบอกมาว่าใจจริงอยากใช้ชื่อแม่ ดังนั้น การใช้ชื่อแม่ย่อมทำให้คุณสบายใจดี และ “ดี” ต่อมาคือ คุณได้ทำบุญให้คุณแม่อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนแน่นอน แต่เสมือนหนึ่งแม่เป็นผู้ทำบุญเอง
และการที่มีชื่อคุณแม่ติดอยู่บนหน้าซองในฐานะผู้อุปถัมภ์นั้น ทำให้ผู้รับรู้สึกขอบคุณ และระลึกถึงคุณของผู้ให้ นี่ก็ย่อมทำให้เกิดบุญกุศลแก่คุณแม่ของคุณด้วยอีกทางหนึ่ง เช่นนี้จะไม่เป็นการดีหรอกหรือ
เดือนเมษายนนี้เป็นเดือนแห่งการรำลึกบรรพบุรุษ สำหรับชาวจีน คือวันที่ 5 เม.ย.เป็นวันเช็งเม้ง (บางปีตรงกับวันที่ 4 เม.ย.) ที่ต้องไปสุสาน เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ชาวไทยใช้ช่วงสงกรานต์ คือ 13-15 เม.ย. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาปีใหม่ไทย ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อแสดงความกตัญญู
อยากบอกว่า การรำลึกถึงผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้ว เช่น ปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่ ไม่ใช่มีแค่วันเดียว แต่การนึกถึงความดีที่ท่านได้กระทำไว้แก่เรา รวมทั้งทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ ย่อมทำให้ลูกหลานผู้ปฏิบัติ ประสบแต่ความสุขความเจริญ อย่างน้อยก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำสิ่งดีๆนั่นเอง
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 184 เมษายน 2559 โดย กองบรรณาธิการ)