การดื่มน้ำดูเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของคนเรา แต่เรื่องธรรมดานี้กลับไม่ธรรมดา เพราะการดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันนั้น เป็นการทำร้ายร่างกายตัวเองอย่างที่เราคาดไม่ถึง!!
มาดูกันว่า ยามที่ร่างกายขาดน้ำ มันจะส่งสัญญาณเตือนอย่างไร...
1. ปากแห้ง
อาการแรกที่เด่นชัดของการดื่มน้ำไม่พอคือ ปากแห้ง น้ำลายเหนียว คนทั่วไปจึงมักดื่มเครื่องดื่มเพื่อบรรเทาอาการ แต่หากดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล มันจะช่วยดับกระหายได้เพียงชั่วคราว แต่จะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น
ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่า ซึ่งจะช่วยหล่อลื่นเยื่อบุภายในปากและลำคอ ทำให้มีน้ำลายเพียงพอ ปากคอชุ่มชื้น ไม่แห้งผาก
2. ผิวแห้ง
ผิวหนังเป็นอวัยวะใหญ่สุดของร่างกาย ที่จำต้องดูแลให้มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา เมื่อผิวแห้ง ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกเริ่มที่เตือนว่าร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น
เพราะเมื่อขาดน้ำ เหงื่อก็จะไม่ออก ร่างกายจึงไม่สามารถกำจัดฝุ่นละอองและน้ำมันส่วนเกินที่สะสมออกไปได้
3. กระหายน้ำรุนแรง
เมื่อร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง จะแสดงอาการที่มากกว่าปากแห้ง คอแห้ง โดยจะมีอาการสับสน กระสับกระส่าย ตาลึกโหล ไม่มีเหงื่อ ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มมาก หรือไม่มีปัสสาวะเลย ชีพจรเต้นเร็ว หายใจถี่และเร็วขึ้น มีไข้ บางรายอาจจะมีไข้ต่ำๆ หรือไข้สูง ความดันโลหิตลดต่ำลง
4. ตาแห้ง
นอกจากปากคอจะแห้งแล้ว การดื่มน้ำไม่เพียงพอยังส่งผลต่อดวงตา ทำให้ตาแห้ง และแดงก่ำ เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในตาแตก เมื่อร่างกายขาดน้ำ ต่อมน้ำตาจะแห้ง และจะเป็นอันตรายต่อดวงตามากยิ่งขึ้นในกรณีที่ต้องใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ
5. เจ็บปวดข้อกระดูก
กระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกในร่างกายเราประกอบด้วยน้ำ 80% จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องป้องกันมิให้กระดูกเสียดสีกันในทุกๆก้าวย่าง การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ข้อต่อต่างๆของร่างกาย สามารถดูดซับแรงกระแทกฉับพลันได้ เช่น การวิ่ง กระโดด หรือหกล้ม
6. มวลกล้ามเนื้อลดลง
กล้ามเนื้อของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักเช่นกัน เมื่อร่างกายขาดน้ำ จึงทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงไปด้วย ดังนั้น การดื่มน้ำทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย ไม่เพียงทำให้ร่างกายชุ่มชื้นและสบายตัว แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการอักเสบและปวดเมื่อย อันเนื่องมาจากการออกกำลังกายและการยกน้ำหนัก
7. ป่วยนานขึ้น
การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกสู่ภายนอกได้อย่างต่อเนื่อง อวัยวะต่างๆจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรกลที่คอยกรองของเสีย แต่ถ้าขาดเชื้อเพลิง ซึ่งก็คือน้ำ มันจะทำงานได้ไม่เต็มที่ สุดท้าย อวัยวะที่ขาดน้ำก็จะดึงน้ำจากส่วนอื่นๆของร่างกายมาชดเชย เช่น เลือด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหม่อีกมากมายตามมา
8. เหนื่อยล้าและเซื่องซึม
ดังที่กล่าวมาแล้วว่า เมื่อร่างกายขาดน้ำ มันจะดึงน้ำจากเลือดมาใช้แทน เมื่อเลือดมีน้ำไม่เพียงพอ ทำให้การส่งออกซิเจนไปตามส่วนต่างๆของร่างกายลดน้อยลง ก่อให้เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอนและเหนื่อยล้าฉับพลัน
เมื่อร่างกายอ่อนล้า เราจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเซื่องซึมในช่วงบ่ายๆ ซึ่งการดื่มกาแฟ ไม่อาจช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้ในระยะยาว
9. หิวตลอดเวลา
ขณะร่างกายขาดน้ำ มันจะส่งสัญญาณว่าต้องการอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดวันตลอดคืน จนต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อหาของกิน ซึ่งส่งผลให้อวัยวะภายในทำงานมากขึ้น ขณะที่การดื่มน้ำจะช่วยทำความสะอาดอวัยวะ และเติมพลังงานที่จำเป็นต่อระบบต่างๆในร่างกาย
10. อาหารไม่ย่อย
เยื่อบุภายในปากและลำคอจำเป็นต้องชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระบบย่อยอาหารทั้งหมดก็เช่นกัน ที่ต้องได้รับน้ำอย่างเพียงพอ มิฉะนั้น ปริมาณและความแข็งแกร่งของเยื่อบุในกระเพาะอาหารจะลดลง ทำให้กรดในกระเพาะกัดจนเกิดแผล นำไปสู่ภาวะกรดไหลย้อน และอาหารไม่ย่อยในที่สุด
11. ท้องผูก
เนื่องจากน้ำเป็นตัวหล่อลื่นระบบย่อยอาหาร เมื่อดื่มน้ำไม่พอ ลำไส้ใหญ่จะดึงน้ำจากลำไส้เล็กมาใช้ เมื่อขาดน้ำหล่อลื่นในลำไส้ใหญ่ ก็จะเกิดอาการท้องผูกตามมา
12. ปัสสาวะน้อยลง
ปกติแล้วปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อนหรือใส แต่เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าไม่ได้เข้าห้องน้ำวันละ 4-7 ครั้ง นั่นแสดงว่า เราอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอ และปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม ซึ่งแสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ
และในกรณีเลวร้ายที่สุด การขาดน้ำอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งควรไปพบแพทย์โดยด่วน
13. แก่ก่อนวัย
โดยธรรมชาติ ปริมาณน้ำที่ร่างกายเรากักเก็บไว้นั้น จะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่ออายุมากขึ้น เราควรดื่มน้ำมากขึ้นตามไปด้วย และแม้ว่าอาการแก่ก่อนวัยจะมองเห็นได้ชัดจากภายนอก แต่การเสื่อมของอวัยวะภายใน เราจะรู้สึกได้เมื่อเวลาผ่านไป
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 182 กุมภาพันธ์ 2559 โดย เบญญา)
มาดูกันว่า ยามที่ร่างกายขาดน้ำ มันจะส่งสัญญาณเตือนอย่างไร...
1. ปากแห้ง
อาการแรกที่เด่นชัดของการดื่มน้ำไม่พอคือ ปากแห้ง น้ำลายเหนียว คนทั่วไปจึงมักดื่มเครื่องดื่มเพื่อบรรเทาอาการ แต่หากดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล มันจะช่วยดับกระหายได้เพียงชั่วคราว แต่จะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น
ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่า ซึ่งจะช่วยหล่อลื่นเยื่อบุภายในปากและลำคอ ทำให้มีน้ำลายเพียงพอ ปากคอชุ่มชื้น ไม่แห้งผาก
2. ผิวแห้ง
ผิวหนังเป็นอวัยวะใหญ่สุดของร่างกาย ที่จำต้องดูแลให้มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา เมื่อผิวแห้ง ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณแรกเริ่มที่เตือนว่าร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น
เพราะเมื่อขาดน้ำ เหงื่อก็จะไม่ออก ร่างกายจึงไม่สามารถกำจัดฝุ่นละอองและน้ำมันส่วนเกินที่สะสมออกไปได้
3. กระหายน้ำรุนแรง
เมื่อร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง จะแสดงอาการที่มากกว่าปากแห้ง คอแห้ง โดยจะมีอาการสับสน กระสับกระส่าย ตาลึกโหล ไม่มีเหงื่อ ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มมาก หรือไม่มีปัสสาวะเลย ชีพจรเต้นเร็ว หายใจถี่และเร็วขึ้น มีไข้ บางรายอาจจะมีไข้ต่ำๆ หรือไข้สูง ความดันโลหิตลดต่ำลง
4. ตาแห้ง
นอกจากปากคอจะแห้งแล้ว การดื่มน้ำไม่เพียงพอยังส่งผลต่อดวงตา ทำให้ตาแห้ง และแดงก่ำ เนื่องจากเส้นเลือดฝอยในตาแตก เมื่อร่างกายขาดน้ำ ต่อมน้ำตาจะแห้ง และจะเป็นอันตรายต่อดวงตามากยิ่งขึ้นในกรณีที่ต้องใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ
5. เจ็บปวดข้อกระดูก
กระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกในร่างกายเราประกอบด้วยน้ำ 80% จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องป้องกันมิให้กระดูกเสียดสีกันในทุกๆก้าวย่าง การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ข้อต่อต่างๆของร่างกาย สามารถดูดซับแรงกระแทกฉับพลันได้ เช่น การวิ่ง กระโดด หรือหกล้ม
6. มวลกล้ามเนื้อลดลง
กล้ามเนื้อของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักเช่นกัน เมื่อร่างกายขาดน้ำ จึงทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงไปด้วย ดังนั้น การดื่มน้ำทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย ไม่เพียงทำให้ร่างกายชุ่มชื้นและสบายตัว แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการอักเสบและปวดเมื่อย อันเนื่องมาจากการออกกำลังกายและการยกน้ำหนัก
7. ป่วยนานขึ้น
การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกสู่ภายนอกได้อย่างต่อเนื่อง อวัยวะต่างๆจะทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรกลที่คอยกรองของเสีย แต่ถ้าขาดเชื้อเพลิง ซึ่งก็คือน้ำ มันจะทำงานได้ไม่เต็มที่ สุดท้าย อวัยวะที่ขาดน้ำก็จะดึงน้ำจากส่วนอื่นๆของร่างกายมาชดเชย เช่น เลือด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหม่อีกมากมายตามมา
8. เหนื่อยล้าและเซื่องซึม
ดังที่กล่าวมาแล้วว่า เมื่อร่างกายขาดน้ำ มันจะดึงน้ำจากเลือดมาใช้แทน เมื่อเลือดมีน้ำไม่เพียงพอ ทำให้การส่งออกซิเจนไปตามส่วนต่างๆของร่างกายลดน้อยลง ก่อให้เกิดอาการง่วงเหงาหาวนอนและเหนื่อยล้าฉับพลัน
เมื่อร่างกายอ่อนล้า เราจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเซื่องซึมในช่วงบ่ายๆ ซึ่งการดื่มกาแฟ ไม่อาจช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้ในระยะยาว
9. หิวตลอดเวลา
ขณะร่างกายขาดน้ำ มันจะส่งสัญญาณว่าต้องการอาหาร ซึ่งจะเกิดขึ้นตลอดวันตลอดคืน จนต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อหาของกิน ซึ่งส่งผลให้อวัยวะภายในทำงานมากขึ้น ขณะที่การดื่มน้ำจะช่วยทำความสะอาดอวัยวะ และเติมพลังงานที่จำเป็นต่อระบบต่างๆในร่างกาย
10. อาหารไม่ย่อย
เยื่อบุภายในปากและลำคอจำเป็นต้องชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระบบย่อยอาหารทั้งหมดก็เช่นกัน ที่ต้องได้รับน้ำอย่างเพียงพอ มิฉะนั้น ปริมาณและความแข็งแกร่งของเยื่อบุในกระเพาะอาหารจะลดลง ทำให้กรดในกระเพาะกัดจนเกิดแผล นำไปสู่ภาวะกรดไหลย้อน และอาหารไม่ย่อยในที่สุด
11. ท้องผูก
เนื่องจากน้ำเป็นตัวหล่อลื่นระบบย่อยอาหาร เมื่อดื่มน้ำไม่พอ ลำไส้ใหญ่จะดึงน้ำจากลำไส้เล็กมาใช้ เมื่อขาดน้ำหล่อลื่นในลำไส้ใหญ่ ก็จะเกิดอาการท้องผูกตามมา
12. ปัสสาวะน้อยลง
ปกติแล้วปัสสาวะควรมีสีเหลืองอ่อนหรือใส แต่เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าไม่ได้เข้าห้องน้ำวันละ 4-7 ครั้ง นั่นแสดงว่า เราอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอ และปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม ซึ่งแสดงว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ
และในกรณีเลวร้ายที่สุด การขาดน้ำอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งควรไปพบแพทย์โดยด่วน
13. แก่ก่อนวัย
โดยธรรมชาติ ปริมาณน้ำที่ร่างกายเรากักเก็บไว้นั้น จะลดลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่ออายุมากขึ้น เราควรดื่มน้ำมากขึ้นตามไปด้วย และแม้ว่าอาการแก่ก่อนวัยจะมองเห็นได้ชัดจากภายนอก แต่การเสื่อมของอวัยวะภายใน เราจะรู้สึกได้เมื่อเวลาผ่านไป
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 182 กุมภาพันธ์ 2559 โดย เบญญา)