xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : 40 คำสอนชี้แนะหนทางแห่งความสุข จาก องค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องค์ทะไลลามะที่ 14 พระชันษา 80 ปี มีพระนามว่า เทนซิน เกียตโซ ทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นทะไลลามะองค์ที่ 14 เมื่อ ค.ศ. 1940 และทรงขึ้นครองราชย์เป็นประมุขแห่งทิเบต เมื่อ ค.ศ.1950 ปัจจุบัน ทรงเป็นผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบต และประมุขแห่งพุทธศาสนานิกายมหายานแบบทิเบตเกลุก (นิกายหมวกเหลือง)

ข้อมูลจาก tibetthailand.info บอกไว้ว่า พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต ทรงได้รับการยอมรับจากชาวโลกทั้งตะวันออกและตะวันตก เพราะได้เสด็จเยือนประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อแสดงปาฐกถา ทรงได้รับการถวายรางวัลและปริญญาบัตรสาขาต่างๆ โดยเฉพาะด้านสันติภาพจำนวนมาก รวมถึงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ค.ศ. 1989

องค์ทะไลลามะ ตรัสเสมอว่า “ข้าพเจ้าเป็นเพียงพระสงฆ์ธรรมดา ไม่มีอะไรมากกว่านี้และน้อยกว่านี้” ทรงปฏิบัติตนในฐานะสงฆ์ โดยเคยตรัสเล่าว่า “อาตมาก็เหมือนพระทุกรูป คืออยู่กับความจน ไม่มีสมบัติส่วนตัว ในห้องนอนมีแต่เตียง เวลาลุกขึ้น สิ่งแรกที่ได้เห็นคือพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าจากพระพุทธรูป เวลาตื่นขึ้นมานั้นหนาวเย็นนัก จึงต้องออกกำลังกายและรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว อาตมานุ่งจีวรสีแดงเข้มเช่นนี้ดุจพระองค์อื่นๆ ผ้าหยาบๆ มีปะชุน หากเป็นผ้าผืนเดียวก็จะเอาไปขายหรือแลกเปลี่ยนกับอะไรได้ การนุ่งห่มผ้าอย่างนี้เอาไปขายไม่ได้ เป็นการยืนหยัดปรัชญาของเรา ที่สอนให้ไม่ติดยึดในสิ่งของต่างๆ ทางโลก”

คำสอนขององค์ทะไลลามะนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจสูงสุด และช่วยชี้หนทางการใช้ชีวิตที่เป็นสุขอย่างแท้จริงให้กับชาวโลกมาแล้วมากมาย และนี่คือส่วนหนึ่งของคำสอนเหล่านั้น

1. ถ้าเราคิดว่า ตัวเองเล็กเกินไปที่จะสร้างความแตกต่างละก็ ลองไปนอนกับยุงดูเถิด

2. ความสุขไม่ใช่ของสำเร็จรูป หากเกิดจากการกระทำของตัวเอง

3. เป้าหมายหลักของเราในชีวิตนี้ คือการได้ช่วยเหลือผู้อื่น และหากเราไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ อย่างน้อยที่สุด ก็อย่าทำร้ายพวกเขา

4. เมื่อเรารู้สึกรักและเมตตาผู้อื่น มันไม่เพียงทำให้คนเหล่านั้น รับรู้ได้ถึงความรักและความห่วงใยที่เรามีให้พวกเขา แต่มันยังช่วยให้เราได้พัฒนาความสุขและความสงบภายในจิตใจของเราเองด้วย

5. คนทั่วไปมีหนทางแสวงหาความพอใจและความสุขที่เที่ยงแท้แตกต่างกันไป การที่พวกเขาไม่ได้เดินบนเส้นทางเดียวกับเรา ก็มิได้หมายความว่า พวกเขาเดินหลงทาง

6. เราไม่จำเป็นต้องมีเงินเพิ่มขึ้น เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียงยิ่งขึ้น เราไม่จำเป็นต้องมีรูปร่างที่ได้สัดส่วน หรือแม้แต่มีคู่ครองที่สมบูรณ์ แต่ขณะนี้เรามีใจหนึ่งดวง อันเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อการเข้าถึงความสุขสมบูรณ์ที่แท้จริง

7. ความสุขเที่ยงแท้ของมนุษย์ และความพึงพอใจของมนุษย์ ส่วนใหญ่เกิดจากจิตใจของเราเอง

8. เลือกมองโลกในแง่ดี ก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้น

9. จำไว้ว่า บางครั้งการไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ นับเป็นโชคดีอย่างหนึ่งเช่นกัน

10. เพียงแค่พัฒนาเรื่องความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้อื่น ก็สามารถนำความสงบสุขและความสุขเที่ยงแท้ที่เราแสวงหา มาให้เราได้

11. เราจำเป็นต้องเรียนรู้การอยากได้ในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ใช่อยากได้ในสิ่งที่เราต้องการ เพื่อให้มีความสุขที่เที่ยงแท้และถาวร

12. จิตที่ได้รับการฝึกฝน นำไปสู่ความสุข และจิตที่ไม่ได้รับการฝึกฝน นำไปสู่ความทุกข์

13. ความสุขวัดได้จากสภาวะของจิตของบุคคล มากกว่าจากเหตุภายนอก

14. ความหมายของชีวิตคืออะไร? คือ มีความสุขและมีประโยชน์

15. เมื่อเราไม่พอใจ เราอยากได้เพิ่มขึ้น.. เพิ่มขึ้น.. เพิ่มขึ้น.. อยู่เสมอ ความอยากของเราไม่มีวันเติมเต็ม แต่หากเราฝึกเป็นคนมักน้อย เราอาจบอกตัวเองว่า โอ..ใช่ ฉันมีทุกอย่างที่ฉันต้องการแล้วจริงๆ

16. มีเมตตาทุกครั้งหากเป็นไปได้ เพราะเมตตานั้นเกิดขึ้นได้เสมอ

17. บ่อเกิดสูงสุดแห่งความสุข ไม่ใช่เงินและอำนาจ แต่คือการมีจิตใจดีงาม

18. มีวันเพียง 2 วันใน 1 ปี ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ วันแรกคือ วานนี้ และอีกวันคือ พรุ่งนี้ ดังนั้น วันนี้ จึงเป็นวันสำคัญที่เรายังมีลมหายใจ ที่จะแสดงความรัก ความศรัทธา และกระทำสิ่งต่างๆ

19. ทุกๆวัน จงคิดขณะตื่นนอนว่า วันนี้ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้ตื่นขึ้น และรู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตของฉันมีค่ายิ่ง ฉันจะไม่ปล่อยให้มันสูญเปล่า

20. ยิ่งเราใส่ใจต่อความสุขของผู้อื่นมากเท่าใด ยิ่งทำให้เรารู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น

21. บ่อเกิดสูงสุดของชีวิตที่เป็นสุข คือ การที่เราใส่ใจคุณค่าภายในจิตใจของตัวเราเอง

22. เพื่อให้เกิดพฤติกรรมด้านบวก เราต้องพัฒนามุมมองแง่บวกให้เกิดขึ้น

23. เมื่อใดก็ตามที่มีคนซึ่งมีความเห็นอกเห็นใจปรากฏขึ้น บรรยากาศแห่งความสุขจะเกิดขึ้นเสมอ

24. เมื่อเราคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความผิดพลาดของคนอื่น เราจะรู้สึกทุกข์หนัก แต่เมื่อเราตระหนักว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากตัวเราเองเท่านั้น เราจะเรียนรู้ได้ทั้งความสงบสุขและความปลาบปลื้ม

25. หากเราขาดความพยายาม ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะให้สิ่งดีๆเกิดขึ้น

26. เมื่อเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆได้อีกต่อไป เรากำลังถูกท้าทายให้หันมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง

27. หากเรามีความห่วงใยให้แก่ผู้อื่น เช่นนี้แล้วแม้แต่ความล้มเหลวก็มิอาจรบกวนจิตใจเราได้

28 สิ่งที่นำสรรพขีวิตทั้งหมดให้มารวมกัน คือ ความปรารถนาในความสุขนั่นเอง

29. เราต้องเริ่มต้นเป็นผู้ให้เสียก่อน โดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทนอย่างเด็ดขาด

30 เราต้องมีความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อบ่มเพาะคุณลักษณะด้านดีภายในตัวเรา

31. ยิ่งเราฝึกฝนความรู้สึกมีเมตตามากเท่าใด เราจะยิ่งมีความสุขและความสงบมากขึ้นเท่านั้น

32. จงยิ้ม หากเราต้องการรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อื่น

33. ความสุขเกิดจากการฝึกจิตให้สงบนิ่ง

34. อย่าปล่อยให้ความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่

35. เพียงเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อสรรพสิ่ง และเหตุการณ์ต่างๆ ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็สามารถกลายมาเป็นเพื่อนหรือบ่อเกิดแห่งความสุขได้

36. ไม่ต้องดีกว่าคนอื่นๆ แต่ดีกว่าเราคนเดิม

37. จงอ้าแขนรับความเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าในตัวเองหลุดลอยไป

38. เมื่อตกอยู่ในคราวเคราะห์ร้าย จึงจะรู้ถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการทำความดี ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น

39. ด้วยตระหนักรู้ถึงศักยภาพของตนเอง และมั่นใจในความสามารถที่ตัวเองมี เราสามารถสร้างโลกให้ดีกว่าเดิ
ได้

40. ความสุขของคนคนหนึ่งหรือประเทศชาติหนึ่ง คือความสุขของมวลมนุษยชาติ


(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 181 มกราคม 2559 โดย มนตรา)
กำลังโหลดความคิดเห็น